close buttonclose buttonclose button
ลูกคุณหนู

ลูกคุณหนู

เรื่องเสียว · 73056

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
on: January 20, 2016, 10:47:06 pm



แนะนำ
เรื่องนี้เขียนมาจากความอยากเขียนแม้จะมีความรู้ด้านญี่ปุ่นแบบงูๆ ปลาๆ มากๆ อ้างอิงจากที่เคยอ่านผ่านตามาบ้างผสมจินตนาการล้วนๆ ใครที่มีความรู้ในเรื่องญี่ปุ่นก็เข้ามาติติงได้ตามสะดวก

-----------------------------------------

รักแรกของผมเป็นการแอบรัก เรื่องราวที่ผ่านมาเกือบสิบปีได้แล้ว แต่เมื่อหวนระลึกนึกถึงขึ้นมาเมื่อไรก็รู้สึกเศร้าเสียทุกครั้งในชะตากรรมที่เกิดขึ้นของหญิงสาวที่เคยแอบรัก

ผมชื่อ เคอิโงะ เมื่อสิบปีก่อนคือเด็กนักเรียนขึ้น ม.ปลาย ในโตเกียวธรรมดาๆ พ่อผมสำมะเลเทเมาและเลิกรากับแม่ไปตั้งแต่ผมยังเด็ก ทางบ้านยากจนมาก ต้องช่วยทำงานพิเศษอยู่เสมอ แต่ผมกลับโชคดีที่ได้เรียนโรงเรียนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงทั้งด้านการเรียน และกิจกรรมต่างๆ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเพราะผลการเรียนของผมเอง แต่ค่าเทอมที่แพงซึ่งแน่นอนว่าแม่และผมไม่มีปัญญาจ่ายเลย ได้รับการอุปถัมภ์จากหน้าที่ของแม่ที่ทำงานแม่บ้านประจำโรงเรียน

เรียนไปไม่นานทุกคนก็รู้เทือกเถาเหล่ากอของผมหมด เพื่อนที่พร้อมจะกลั่นแกล้งจึงดาหน้าเข้ามาอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นกลุ่มตัวตลกประจำห้องที่ต้องทำให้ขายหน้า และโดนข่มเหงเป็นเครื่องซ้อมมือพวกขาใหญ่มีเงินในห้อง ดีแค่ว่าไม่ต้องโดนไถเงิน เพราะรู้อยู่แล้วว่าผมหาให้ไม่ได้

สิ่งเดียวที่เหมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจก็คือ ฮิคาริ สาวสวยเพื่อร่วมชั้นที่เป็นดาวประจำโรงเรียน สถานะของผมนั้นทำได้แค่แอบมอง และรู้ว่าเธอไม่เคยเหลียวแลผมเลยสักนิด ลำพังแค่ว่าโชคดีได้นั่งโต๊ะใกล้ๆ เธอ และไม่เคยพูดจาดูถูกอะไรผมเลย บ่อยครั้งยังทักทายอย่างเป็นกันเองในฐานะเพื่อนข้างโต๊ะ ก็นับเป็นวาสนาของไอ้เคอิโงะคนนี้แล้ว

ฮิคาริ เป็นลูกครึ่ง พ่อเป็นญี่ปุ่น แม่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน พ่อของเธอทำงานเป็นถึงระดับหนึ่งในผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ FTV ของที่นี่ นอกจากผิวพรรณจะขาวนวลได้รับการบำรุงมาอย่างดี ใบหน้าเรียวที่ได้รูป ฟันขาวสวยเป็นระเบียบ รูปร่างได้สัดส่วนแม้จะปกปิดอย่างมิดชิดของชุดนักเรียนของโรงเรียน เรียกได้ว่าหน้าตาคมคายกว่าเด็กสาวญี่ปุ่นวัยเดียวกันที่คนหน้าตาดีหน่อยจะออกไปในทางน่ารักเป็นเด็กๆ เสียมากกว่า

จะว่าไปหน้าตาระดับฮิคาริ คงไปเป็นดาราได้สบาย เพื่อนผู้หญิงในห้องคนหนึ่งถึงกับเคยเปิดยูทูปจากโทรศัพท์มือถือละครไทยเรื่องหนึ่ง ดาราสาวในเรื่องซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นดาราชื่อดังของที่นั่น พวกเธอถึงกับอุทานว่าหน้าตาละม้ายฮิคาริเลยทีเดียว บางคนก็เคยถามฮิคาริว่าทำไมถึงไม่ลองไปแคสติ้งเป็นดารานักแสดงบ้างล่ะ ? ไม่คิดจะเข้าวงการบันเทิงอะไรบ้างหรือ ?

เธอให้คำตอบอย่างเรียบๆ ว่า “พ่อเราไม่อยากให้เราเข้าวงการบันเทิงน่ะ พ่อบอกว่ามันมีด้านมืดที่ไม่ได้สวยงามเหมือนฉากหน้าอย่างที่เราเห็น”

คาโตะเพื่อนสนิทไม่กี่คนของผมในห้องซึ่งพ่อมันทำงานเป็นฝ่ายคุมคิวรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ FTV ยังเคยบอกเล่ากิตติศัพท์ของพ่อฮิคาริเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวให้ฟังว่า วันหนึ่งขณะที่ฮิคาริกำลังมานั่งรอพ่อที่สถานีเพื่อไปทานข้าวมื้อค่ำ มีผู้จัดการบริษัทแมวมองเล็กๆ คนหนึ่งท่าทางหื่นๆ มากอร่อก้อติกลูกสาวของเธอ ทาบทามชวนไปถ่ายแบบแฟชั่น

ฮิคาริแม้จะเป็นคนสุภาพ แต่ก็มีความทรนงเพราะความเป็นลูกคุณหนูที่ถูกอบรมเลี้ยงดูให้ระวังคนที่ต่างสถานะจะมาตีสนิท และเธอก็ไม่ไว้ใจคนเหล่านี้เลย จึงได้แต่บอกปัดอย่างไม่ไยดี

ทันทีที่พ่อฮิคาริมาเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวถึงกลับโกรธจัด ตวาดใส่ไล่ออกจากสถานีอย่างไม่ไว้หน้าใคร ให้ รปภ.เชิญผู้จัดการและลูกน้องเหล่านั้นออกไป พร้อมตะโกนไล่หลังด้วยอารมณ์โกรธจัดว่า

“อย่าหวังว่าจะได้มาง้อของาน หรือทำรายการอะไรที่นี่อีก สถานีเราไม่ต้อนรับบริษัทกระจอกๆ แบบพวกคุณ”
“หึ นึกว่าตัวเองเป็นใคร ไม่เจียม ไม่รู้จักฐานะตนเองจริงๆ” พร้อมกำชับฮิคาริ “ห่างจากคนพวกนี้ไว้นะลูก”
เล่นเอาผู้จัดการร่างท้วมคนนั้นก้มหน้างุดๆ หน้าแดงด้วยความโกรธ อับอายจากไปอย่างรวดเร็ว

แต่พอมานึกตอนนี้แล้วจะว่าไปพ่อของเธอก็พลาดมหันต์ทีเดียวที่ไม่หาโอกาสให้คนสวยอย่างฮิคาริเข้าวงการบันเทิงไปเสีย ความที่ทำแต่งานจนไม่มีเวลาดูแลครอบครัว แม่ของเธอเองก็ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเลี้ยงดูฮิคาริอย่างตามใจทุกอย่าง เธออยากได้อะไรก็ต้องได้หมด แค่โชคดีที่อยู่ในสังคมที่ดีอย่างคลับเฮาส์ของคนมีเงิน ได้ศึกษาอบรมบ่มนิสัยอย่างถึงพร้อม ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมนั่นเอง เป็นเกราะคุ้มกันเธอกลายๆ

ช่วงปีสุดท้ายของ ม.ปลายนั้นเอง เกิดเหตุการณ์พลิกผันกับชีวิตผมอย่างมาก เมื่อวันหนึ่งแม่ล้มป่วย เมื่อไปโรงพยาบาลก็ตรวจพบว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่สามแล้ว ช่วงที่เข้ารับการรักษา ผมตัดสินใจลาเรียน ทำงานตั้งแต่เช้าจดค่ำ ตั้งแต่ล้างจานในร้านอาหาร จัดของในร้านสะดวกซื้อ ตอนเย็นก็มาเฝ้าไข้แม่ และตอนค่ำก็ไปดูแลร้านเกมเซ็นเตอร์ และปาจิงโกะ

สุดท้าย...แม่ผมก็จากไป เช่นเดียวกับชีวิต ม.ปลายที่ผมต้องออกตามไปด้วย ต้องรีบหาเงินมาใช้หนี้ค่ารักษาพยาบาลที่สูงเกินกว่ากำลังและสติปัญญาของผม

ตอนนั้นบางครั้งผมก็นึกถึงใบหน้าของฮิคาริ หญิงสาวในอุดมคติเป็นแสงสว่างให้ผมยังพอมีฝันที่แสนเพ้อเจ้อบ้างเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ตัวเอง ทั้งที่จากที่เคยรู้จักจะเป็นเพียงเสียงที่พูดเพียงว่า
“อรุณสวัสดิ์เคอิโงะคุง มาเร็วกว่าเพื่อนเลยนะวันนี้”
“เคอิโงะคุง รายงานกลุ่มส่วนนี้เธอเอาไปทำนะ”
“อ้าว วันนี้หน้าไปโดนอะไรมาอีกล่ะ หกล้มเหรอ”
เป็นความสุขช่วงสั้นๆ แต่ก็ยังดี

อย่างไรก็ตามระหว่างที่ผมกำลังวิ่งหาเงินมาชดใช้หนี้นั้นเอง และจำต้องมองหาเงินกู้นอกระบบจากแกงค์ยากูซ่า ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นหรอก แต่คือหัวหน้าผมที่เป็นเจ้าของร้านเกมเซ็นเตอร์ และปาจิงโกะย่านชิบูย่านั่นเอง ...ตอนนั้นผมคิดอะไรมากไม่ได้ คิดแต่ว่าจะต้องเป็นทาสแรงงานมันหลายปีก็ต้องทำ เพราะไหนจะต้องหาเงินจ่ายค่าพยาบาล ค่าทำศพ และค่างานศพเล็กๆ อีกสารพัด

พอทราบเรื่องเท่านั้น หัวหน้าผม คุณทาเคชิกลับบอกว่า “เฮ้ย ! ไอ้หนู สำหรับเอ็ง ข้าเห็นว่าหน่วยก้านเอ็งดี เงินน่ะไม่ได้มากมายอะไรถือว่าให้ยืม ข้าจะจดบัญชีส่วนตัวไว้ แล้วก็ค่อยๆ ทยอยจ่ายเป็นเดือนซะ แต่ข้ามีเงื่อนไขว่าเอ็งต้องทำงานใหม่เพิ่มอีกงานนะ เขากำลังหาคนอยู่”

ผมที่ตอนนั้นร้อนเงิน และไม่ได้เรียน หมดอนาคตไปมากแล้ว รีบตอบรับทันที โดยไม่ได้รับรู้เลยว่าการตัดสินใจครั้งนั้นจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

เช่นเดียวกับเรื่องราวของฮิคาริ ที่ราวกับชะตากรรมล้อเล่นให้ผมกับเธอเสมือนเส้นขนานที่บังเอิญเกิดหักเหกันเพียงชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดผ่านและจากกันไปอย่างไม่มีหวนกลับ

“อ๊ะๆๆๆ เสียวจังค่ะ ซี๊ด อูววววว” สาววัยรุ่นในชุดนักเรียน ม.ปลายที่ถูกถลกขึ้นจนเกือบหลุด กระโปรงถูกกองที่ข้อเท้าด้านหนึ่ง เธอส่งเสียงร้องเป็นระยะหลังจากปฏิบัติกามกิจอย่างต่อเนื่องในห้องพักเก่าๆ มืดทึมแห่งหนึ่ง

“อ๊ายยยยๆๆๆ จะถึงแล้ว อ๊ะๆๆๆๆ อ๊า” ไม่ใช่แค่ร้องอย่างเดียว แต่ยังเด้งก้นรับชายที่ร่วมเสพสม ขณะที่อีกฝ่ายก็ส่งเสียงเหนื่อยหอบ เป็นสัญญาณบางอย่าง

“อ๊ากกกก ออกแล้ว ออกแล้ว อ๊าซซซซ” ชายคนดังกล่าวรีบลุกออกจากการตระกองกอดรัดก่อนหน้า จับควยประชิดใบหน้าหญิงสาวราดรดน้ำกามจนเลอะไปทั่ว หญิงสาวหลับตาปี๋กึ่งหวาดกลัวกึ่งเสียวไส้ ก่อนฝ่ายชายจะจับศีรษะให้ช่วยดูดทำความสะอาด

หญิงสาวใบหน้าเลอะน้ำกามทั่วแก้ม จมูก มองไปที่อีกฝ่ายใบหน้าเหยเกจากควยที่คับปาก แต่สายตาเปี่ยมความหฤหรรษ์ ก่อนจะถอนมันออกมา และก้มนอนหลับตาบนฟูกในห้องอย่างเหนื่อยอ่อน

ภาพค่อยๆ เคลื่อนออกมามองเห็นเธอนอนระทดระทวยอยู่ตรงนั้น

---

“คัท ! โอเค วันนี้พอแค่นี้ เสร็จไปอีกชิ้น ขอบคุณทุกคนมากครับ”

4 เดือนมาแล้วที่ผมทำงานใหม่ที่รุ่นพี่ทาเคชิเป็นคนหาให้ในตำแหน่งพนักงานทั่วไปประจำกองถ่ายของหนังโป๊ ที่ย่อกันว่า AV(Adult Video) ปี 2006 ที่ผมได้ไปทำอยู่นั้นเป็นปีที่วงการหนังโป๊ที่นี่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เกิดรูปแบบหนังที่หลากหลาย รวมถึงช่องทางจำหน่าย หนังที่เพิ่งถ่ายไปสักครู่เป็นงานที่ถ่ายทำในสไตล์ POV หรือมุมมองบุคคลที่ 1 เห็นแต่เพียงนักแสดงหญิง ไม่เห็นนักแสดงชาย ของค่ายเล็กๆ ไม่มีชื่อที่เน้นเอานักแสดงหน้าใหม่ที่ยังไม่ได้มีการขัดสีฉวีวรรณอะไรมากนักมาขาย

งานของผมเริ่มแต่เช้าจดเย็น ทำทั้งยกน้ำร้อนน้ำชาในห้องแต่งหน้า ซื้อข้าวกล่อง ยกรีเฟล็คในการถ่ายทำ บ้างก็ไปตีสเลท ถ้าช้าหน่อยก็เลิกค่ำ ตกดึกก็ไปคุมร้านเกมเซ็นเตอร์กับปาจิงโกะ ต่อ รายได้ดีกว่างานร้านสะดวกซื้อพอสมควร เพราะเอาเข้าจริงอาชีพสายนี้คนปกติทั่วไปจะไม่ค่อยมาทำ แม้จะเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมายในญี่ปุ่น เพราะสุดท้ายก็มักจะเกี่ยวข้องกับคนที่ถูกมองว่าเป็นมิจฉาชีพอย่างยากูซ่า และธุรกิจมืดอื่นๆ ที่ผิดอยู่ดี

ทำได้สักพักรุ่นพี่ยังให้โอกาสผมไปฝึกขับรถกับ ชินโง เพื่อนของแกที่มีตำแหน่งผู้จัดการบริษัทโปรดักชั่นแห่งนั้น เพื่อจะได้ขับรถไปส่งของ ไปรับ-ส่งคนต่างๆ ในการถ่ายทำ จนเดือนก่อนนี้นี่เองผมก็ได้โอกาสทำงานขับรถเพิ่ม ได้เงินค่าจ้างมากขึ้นอีก...แล้วผมก็มาได้แฟนครั้งแรกจากการขับรถนี่เอง จะเรียกว่าแฟนก็ไม่ถูก เธอก็เป็นนักแสดงเอวีที่เริ่มไต่เต้าจากนักแสดงสมัครเล่น ขับรถไปแล้วคุยกันถูกคอตามประสาคนวัยไล่เลี่ยกัน เหงาทั้งคู่ สุดท้ายก็จบที่ห้องพักผมเมื่อเดือนนึงผ่านไป

จากเดิมที่ผมไม่ประสีประสาอะไรกับเรื่องพวกนี้เลย ครั้งแรกถึงกับนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ แต่นานวันเข้าก็เริ่มเก่งเรื่องบนเตียงจนทำให้เธอคนนี้ร้องระงมครวญครางได้เหมือนกัน เนื่องจากฝ่ายผู้หญิงไม่ได้เหนียมอายเรื่องพวกนี้ ทั้งบอกทั้งแนะเชิญชวนจุดกระสันต์ต่างๆ อย่างเปิดเผย

ชีวิตเธอที่เข้ามาวงการนี้ก็เป็นเด็ก ม.ต้นจากต่างจังหวัดที่จบมาแล้วก็เข้ามาหางานในโตเกียว แต่สุดท้ายเพราะความอยากมีเงิน มีข้าวของดีๆ ใช้ก็เลยหันเหมาเลือกเส้นทางนี้ พร้อมกับทำงานรับจ้างอื่นๆ ไปด้วย ไม่ต่างกับพื้นเพของนักแสดงเอวีอีกหลายๆ คนที่รุ่นพี่ทาเคชิเล่าให้ฟัง

มาย้อนรำลึกถึงตอนนี้ก็นับว่าน่าเศร้า เพราะผ่านมาไม่กี่ปีดีดัก พอเลิกกันผมก็ลืมชื่อเธอซะแล้ว เพราะคบกันแบบวูบวาบมีเซ็กส์กันอย่างเดียว ผ่านไปแค่สองเดือน เธอก็ทนสภาพจนๆ ของผมไม่ได้ ตอนนั้นผมก็โวยวายพอสมควรเพราะเหมือนโดนดูถูกกลาย ๆ พอเวลาอยู่ในบริษัทถ้ามีโอกาสพบหน้ากันก็ทำเหมือนไม่รู้จักกัน

ระหว่างอารมณ์ที่เหมือนโดนทิ้งนั้นเอง ผมก็บังเอิญได้เจอคาโตะ เพื่อนสนิทสมัย ม.ปลายอีกครั้งตอนขับรถไปส่งคนที่ทำงาน มันเป็นคนเดียวที่พอจะรู้บ้างว่าทำไมผมถึงออกจากโรงเรียน แต่ก็ขาดการติดต่อไปเพราะผมยุ่งอยู่ และคิดว่าชีวิตในธุรกิจแบบนี้คงไม่มีใครอยากคบ

“ไงวะ ไม่ได้เจอมึงตั้งนานแล้วน่าจะ 7-8 เดือนได้แล้วนะ ทำอะไรอยู่วะ”
“ก็ทำก๊อกๆ แก๊กๆ ว่ะ ใช้แรงงานส่วนใหญ่ แล้วมึงล่ะ” ผมคุยโดยพยายามปิดอาชีพที่ชี้ชัดของตน
“ก็เรียนวิทยุโทรทัศน์ อยู่วาเซดะน่ะ อย่างที่เคยคุยไว้ไงว่ากูคงมาทางอาชีพพ่อ เพิ่งเริ่มเรียนได้เดือนเดียวล่ะต้องปรับพอสมควร”
“โหย เจ๋งเลยๆ ได้ดีแล้วอย่าลืมเคอิโงะคนนี้นะคร้าบ” ผมเล่นมุขจนความเกร็งบางอย่างช่วงต้นๆ ระหว่างคุยกันในร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่งดีขึ้นมา

จากนั้นผมก็เสคุยเรื่องเพื่อนคนอื่นว่าหลังจากจบแล้วไปเรียนต่อ หรือทำอะไรที่ไหนบ้าง บ้างก็เป็นคนที่พอสนิท บ้างก็อยากรู้ชะตาชีวิตของคนที่ผมเกลียดขี้หน้า ส่วนใหญ่ชีวิตก็ดีกว่าผมทั้งนั้น ก่อนจะถามคำถามสำคัญ
“แล้ว...มึงพอจะรู้เรื่องฮิคาริบ้างหรือเปล่าวะว่าเขาเป็นไงบ้าง” ไอ้คาโตะสังเกตอากัปกริยาเขินๆ ของผมได้อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะมันคงเด่นชัดมาก
“นั่นๆๆๆๆ แน้ ไอ้ห่า กูรู้เลยว่าอยากถามถึงฮิคาริก่อนอยู่แล้ว ร่ำไรอยู่ได้นะมึง”
“เออๆๆๆ ไม่ต้องมาแซวมาก ก็กูชอบของกูนี่หว่า”
“เนอะ มีผู้ชายคนไหนในชั้นปีเราบ้างนะที่ไม่หลงฮิคาริจัง” พอจบประโยคนี้คาโตะมีทีท่าเงียบๆ ไป
“ตกลงฮิคาริเขาไปเรียนที่ไหนวะ” ผมรีบถามซ้ำ
“กูไม่รู้ว่ะ ตั้งแต่มีข่าวที่ว่าก็ไม่มีใครรู้เรื่องเธอเลย”
“ข่าวอะไรวะ”
“อ้าว มึงไม่รู้เรื่องเหรอ ข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งเลยนะ”
“ฮ้า เกิดอะไรขึ้น ถึงขั้นออกหนังสือพิมพ์เลยเหรอ คือ...มัวแต่ทำงานว่ะกูไม่ได้ตามข่าวอะไรเลย” ผมไม่อยากจะบอกว่าแม้แต่ทีวีห้องผมตอนนี้ยังไม่มีด้วยซ้ำ

คาโตะทำท่าจริงจังแทนคำตอบ
“นี่พูดซีเรียสนะ คือคุณฮิโระ พ่อฮิคาริเขาโดนจับได้ว่าล็อบบี้เรตติ้งทีวีจากบริษัทตรวจสอบเรตติ้งสถานี หลายบริษัท เป็นข่าวครึกโครมทีเดียว เพราะที่ผ่านมาพ่อบอกว่ะว่าสถานี N ช่วงหลังๆ ตีตื้นขึ้นมาจนบางทีก็ได้รับความนิยมมากกว่า”
“นี่...มันเกิดช่วงไหนเนี่ย”
“ก็ช่วงใกล้จบแล้วล่ะ เขาตีข่าวทุกวันเลย แล้วตอนหลังสถานีเขาจะเอาผิดพ่อฮิคาริ ฟ้องร้องกันค่อนข้างใหญ่โตหลายร้อยล้านเยนเลย”
“หลายร้อยล้านเยน !” ผมฟังแล้วตกใจมาก ขนาดผมเป็นหนี้หลายล้านเยนไม่มีดอกเบี้ย ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะใช้หนี้หมดตอนไหน
“ตอนนั้น...ก็มีพวกที่อิจฉาความเด่นของฮิคาริอยู่แล้ว ก็ได้ทีด่าเธอเสียๆ หายๆ ใหญ่ บางวันก็มีคนไปเขียนที่กระดานหน้าชั้นประจานเธอว่า 'ฮิคาริ นังลูกคนโกง' ขนาดกูก็โดนแกล้งเป็นประจำ เห็นแบบนี้เข้ายังอดสงสารไม่ได้เลย”
“แล้วฮิคาริทำไง”
“จะทำไง...ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เพื่อนที่เคยสนิทเป็นลูกคนรวยๆ ด้วยกันนี่ก็หนีหมด แทบจะโดนอัปเปหิจากห้อง สภาพน่ะเหรอ จะให้เทียบก็คงเหมือนหงส์ปีกหักล่ะมั้ง ยังดีนะที่มันใกล้ช่วงเรียนจบแล้ว เราก็ไม่รู้สภาพจิตใจเขาหรอกนะ ก็เห็นนั่งซึมๆ ไป แต่สุดท้ายก็เห็นมีชื่อเรียนจบ แต่วันปัจฉิมนิเทศเขาก็ไม่มาแล้วว่ะ”
“นายรู้ถึงแค่นี้เหรอ”
“คือ...ก็รู้มาจากพ่อ คุณฮิโระพอโดนไล่ออก แล้วเห็นว่าทางสถานีก็ให้ทนายเร่งคดีนี้เพื่อให้แกชดใช้ให้ได้ พอกดดันมากๆ เข้า เขาลือกันว่าแกหนีปัญหาขนของหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว”
“งั้นก็แสดงว่า...ฮิคาริก็หนีไปเหมือนกัน”
“อันนี้กูก็ตอบไม่ได้ว่ะ แต่เห็นสถานีก็ตามเรื่องอยู่นะ” บทสนทนาระหว่างเพื่อนเก่าจบลงด้วยความเงียบงัน

หลังจากส่งคาโตะและกลับเข้าที่พัก ผมเดินเรื่อยเปื่อยออกมายามค่ำคืนไปร้านหนังสือร้านใหญ่ละแวกนั้นเพราะนอนไม่หลับหลังจากฟังเรื่องที่เกิดขึ้น

“ฮิคาริจะเป็นอะไรไหมนะ” ผมพยายามจะสลัดความคิดเพ้อเจ้อบ้าๆ บอๆ แบบเด็กวัยรุ่นรักเขาข้างเดียวออกไป แต่ก็สลัดไม่หลุด พลางมองหาหนังสือมาอ่าน

สายตาผมมาสะดุดที่นิตยสารวัยรุ่นเล่มหนึ่ง หน้าปกเป็นสาวสวยคนหนึ่งยิ้มสดใสถ่ายภาพขนาดกลาง ใส่ชุดว่ายน้ำทูพีชออกแนวน่ารัก มีคำโปรยบนปกว่า “ยูกิ ฮิเมะ สาวสวยผู้น่าค้นหา ภาพแฟชั่น จุใจ 40 หน้า”

แม้จะใช่ชื่อดังกล่าว แต่ไม่ผิดแน่นอนว่าผู้หญิงบนปกคือฮิคาริ...
ผมหยิบและซื้อกลับมาอย่างไม่ลังเล ภายในเล่มไม่มีรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับตัวเธอมากมาย บอกแค่นามแฝงดังกล่าว สัดส่วน วันเกิด งานอดิเรกและรสนิยมด้านต่างๆ พร้อมคำอธิบายอีกนิดหน่อย

ภาพชุดดังกล่าวช่วงแรกเป็นชุดเดินชายหาด ใส่หมวกฟาง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทูพีชที่ค่อนข้างรัดกุมเหมือนเด็กๆ ลวดลายน่ารักมากกว่าจะเซ็กซี่เร่งเร้าอารมณ์ เปลี่ยนใส่ชุดต่างๆ ถ่ายตามชายหาดตามช่วงเวลาต่างๆ  แต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วงชีวิต ม.ปลาย ผมและเพื่อนๆ ได้แต่แอบจินตนาการถึง

มีคำถามปะดังปะเดมากมายหลังจากเห็นภาพชุดนี้ แต่ถึงก่อนหน้าผมจะอดห่วงเธอเหลือเกิน ความใคร่ก็ทำให้ผมลืมตัว คืนนั้นเองผมก็ทำเรื่องที่น่าละอายจัดการช่วยตัวเองจากภาพชุดดังกล่าวจนเผลอหลับไปในที่สุด
"อ้าว เคอิโงะคุง วันนี้เอาอะไรมากินเหรอ"
"เอ่อ ก็ไม่มีอะไรน่ะ ข้าวกับไก่คาราเกะน่ะ แม่ทำให้ เหลือตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ก็เลยเอามากินต่อ"
"อร่อยมั้ย"
"ก็พอกินให้มันอิ่มๆ น่ะ ทนกลิ่นหืนน้ำมันทอดซ้ำหน่อย อย่าเรียกว่าอร่อยเลย ฮิคาริล่ะ"
"อ๋อ เมื่อกี้เราฝากซื้อขนมปังเมล่อนไปแล้วล่ะ"
"แหม่ ระดับฮิคาริยังกินขนมปังพวกนี้เป็นมื้อกลางวันด้วยเหรอ"
"โหย ระดับนั้นระดับนี้อะไรล่ะ แม่เราเขาไม่เคยทำข้าวกลางวันให้เลยด้วยซ้ำ"
"อ้าว เหรอ"
"อื้อ แล้วอยู่บ้านเราก็เบื่อน่ะ ชอบพาไปกินแต่พวกภัตตาคารหรูๆ อาหารอิตาลี ฝรั่งเศส หรือบางทีก็สั่งชุดซูชิมาทาน มาโรงเรียนเราก็กินขนมปังนี่แหละง่ายดี อร่อยด้วย" คำบอกเล่าของเธอนี่เองที่ทำให้ผมรู้ทันทีว่าระดับของเรามันต่างกันแค่ไหน

-------------------------

ผมเหม่อมองชายหาดสวยแทบไม่มีผู้คน นึกไปถึงฮิคาริเมื่อตอนพูดคุยกันสมัย ม.ปลาย อีกครั้งเพราะเห็นเธอปรากฎในนิตยสารพร้อมชุดว่ายน้ำเดินแถวทะเลสวยคล้ายกันนี้ที่ไม่เคยนึกฝันว่าจะได้เห็น

จากตอนนั้นก็ผ่านมาได้ 6 เดือนแล้ว และผมก็ได้กลายเป็นแฟนพันธ์แท้ของฮิคาริหลังจากนั้น พอตามบล็อกของเธอที่อัพเดทข่าวคราว และงานต่างๆ ของเธอในชื่อทางวงการว่า "ยูกิ ฮิเมะ" ผมก็ติดตามมาโดยตลอด เพราะเธอมีงานถ่ายแบบทุกเดือนตั้งแต่ชุดแฟชั่นตามฤดูกาล ชุดคอสเพลย์ ชุดสไตล์แฟนซีตามคอนเซปต์ ที่สำคัญยังออกโฟโต้บุ๊ค หรือสมุดรวมภาพมาแล้ว 3 เล่ม บางครั้งก็ได้ไปออกรายการเกมโชว์ หรือรายการวาไรตี้แค่ช่วงสั้นๆ เป็นคลิปสัมภาษณ์นิดหน่อย ยังไม่ได้เป็นคนเด่นมากนัก ผมที่เฝ้าดูก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมสวยๆ อย่างเธอถึงได้โอกาสแค่นี้ ทั้งที่ถ้าไปเช็คอันดับขายดี โฟโต้บุ๊คของเธอติดอันดับต้นๆ ในกลุ่มประเภทนี้เลย แม้ชุดที่ถ่ายจะไม่ได้หวือหวาอะไรเช่นเดียวกับแฟชั่นชุดว่ายน้ำครั้งแรกนัก แต่ก็สังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนที่โค้งเว้า กลมกลึง ได้รูปร่างตามมาตรฐานนางแบบมากขึ้นๆ

ส่วนผมเอง ก็ได้งานเพิ่มขึ้นมาอีกจากการไปเป็นผู้ช่วยแมวมอง กับงานเตรียมอุปกรณ์ถ่ายทำ แม้จริงๆ ก็ยังเน้นใช้แรงงานแต่ช่วยให้มีรายได้พอจะชดใช้หนี้มากอีกนิด เช่นเดียวกับบริษัทผลิตโปรดักชั่นหนังเอวีสมัครเล่นของคุณทาเคชิ ที่ได้รับโอกาสจากค่ายใหญ่มากขึ้น ถ้าเทียบกับงานหนังเหล่านี้ได้อดีตก็มีความเป็นอุตสาหกรรมกว่าเดิมมาก เพราะผลิตป้อนตลาดไม่ขาด หลายชิ้นก็เป็นซีรี่ส์ที่เล่าฉาก หรือเรื่องซ้ำๆ กันเปลี่ยนเพียงนักแสดงที่หมุนเวียนกันเข้ามารับหน้าที่สนองอารมณ์ทางเพศคนดู

งานนี้ผมก็ได้มาปักหลักที่เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดไอจิ ร่วมสัปดาห์เพื่อถ่ายทำซีรี่ส์ On The Beach ประมาณว่าจองคิวนักแสดงหนังเอวีมา 4 คนเลย ถ่ายทำกันเป็นคนๆ ไปในเกาะที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวแวะมานัก เราก็อาศัยรีสอร์ทที่ห่างไกลผู้คน และชายหาดที่ไม่เป็นที่นิยมนัก แอบถ่ายทำกันแบบกองโจรซะส่วนใหญ่เพื่อประหยัดงบ

"ซี๊ดดด อูย อ๊ะๆๆๆๆ ถึงแล้ว อ๊ะ ถึงแล้วๆๆๆ อ๊าาาาาาซซซซซ" เออิ ทาเคอุจิ นักแสดงสังกัดค่าย Moodyz กำลังแสดงฉากช่วยตัวเองด้วยนิ้วมืออันของเธอกลางชายหาด ถ่างขาอร้าอร่าม บิกินี่ส่วนบนถูกถกขึ้นอย่างลวกๆ เผยหน้าอกหน้าใจอันมหึมา ท่าทางของเธอหฤหรรษ์กับพื้นที่เปิดโล่งเย้ยฟ้าท้าคลื่นอย่างไม่เกรงกลัวสายตาใคร จบฉากนี้ก็เหลือฉากสองรุมหนึ่งหรือ 3P ต่อก็เป็นอันเสร็จทุกคิวของทริปนี้ และจะทยอยวางแผงตามลำดับแต่ละเดือนๆ

ตอนที่เข้ามาทำงานช่วงแรก ผมเกร็งมากแม้จะผ่านมาได้เกือบปีแล้วก็ยังตื่นเต้นเวลาเห็นฉากเหล่านี้ ผิดกับรุ่นพี่หลายคนที่บอกว่าให้ระวังกามตายด้านเอาง่ายๆ เพราะจะเห็นจนเบื่อ แต่ความที่ยังหนุ่มๆ เห็นอะไรเข้าหูเข้าตาหน่อยเป็นอันทำงานไม่ได้ ต้องพยายามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แทนด้วยซ้ำ...พูดแบบค่อนข้างอาย บางครั้งหลบฉากต่างๆ ไม่ได้ แม้จะรู้ว่าบ่อยครั้งมันก็คือการแสดงซะเยอะ แต่ก็อดจินตนาการไปปะปนกับฮิคาริ สาวในดวงใจของผมเข้าจนได้

มาคิดๆ ถึงเหตุการณ์ในอดีตดูแล้ว เธอจะมีชีวิตอยู่ยังไง ทนความลำบากแบบผมได้หรือ ?

หลังกลับจากจังหวัดไอจิได้ไม่นานนัก ทางคุณทาเคชิก็เรียกทีมงานมาบอกข่าวดี วันนี้บริษัทอาจได้รับงานถ่ายแบบ Gravure Idol เซ็นสัญญาร่วม 1 ปีเต็มเลยทีเดียว

"เอ ติดต่อบริษัทไหนได้หรือครับ บริษัทอย่างเราเนี่ยนะจะได้งานแบบนั้น" ทีมงานบางคนถามอย่างตรงไปตรงมา
"เฮ้ย น้อยๆ หน่อย เราเองก็เคยถ่ายงานพวกนี้มาก่อนบ้างแล้ว" แม้จะนับถือรุ่นพี่แต่ก็ถึงกับเบ้ปาก เพราะไอ้งานที่รุ่นพี่ทาเคชิว่ามันคืองานประเภท Full Nude ร่ำๆ จะกลายเป็นหนังเอวีอยู่แล้ว

ผมฟังแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากว่าน่าจะได้งานได้เงินเพิ่ม จนช่วงเย็นนั้นเองขณะที่ถูกเรียกให้ไปเสิร์ฟน้ำที่ห้องรับแขก ค้อมตัวสวัสดีปะหลกๆ ตามการแนะนำพี่ทาเคชิ
"นี่รุ่นพี่ฉันเอง คุณคุโระ" ผมมองชายวัยกลางคนร่างท้วมใส่สูทดูจริงจังแม้ขณะยิ้ม จนทำให้รอยยิ้มดูน่ากลัวพิกล เป็นมาดคนละแบบกับพี่ทาเคชิที่อายุสามสิบที่ยังพอมีมาดนักเลงอยู่บ้างแบบผ่านๆ ข้างมีหญิงสาวใส่แว่นดำนั่งเงียบๆ ก่อนจะผละรีบเดินไปทำงานต่อด้านหลัง
"เคอิโงะคุง !" เสียงใสๆ นั้นผมจำได้ไม่ลืม แม้จะไม่ได้ยินนานแล้ว
"เคอิโงะคุง ใช่มั้ย" เสียงนั้นทำท่าดีใจระคนตื่นเต้น ขณะที่ผมนั้นใจกองลงไปกับพื้น ค่อยๆ หันไปเพื่อความแน่ใจอย่างช้าๆ
"เราเอง จำกันได้มั้ย" ฮิคาริ...เธอคือฮิคาริที่ผมเฝ้าฝันมานาน มิหนำซ้ำยังยิ้มทักทายผมเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดีๆ
"จะ...จำได้" ทำไมผมจะจำไม่ได้ แต่สภาพของผมที่ตอนนั้นผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ยาวปรกหน้า โกรกผมสีทองสีกระดำกระด่างตามคำชวนของรุ่นพี่ในกองต่างหากที่แทบจะไม่กล้ามองเธอเลย

ฮิคาริถอดแว่นออก เธอดูดีกว่าแต่ก่อนเสียอีก ด้วยการแต่งหน้าทำผมจนดูเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กมัธยมปลายอีกต่อไป
"อ้าว เพื่อนเหรอหนูฮิคาริจัง" คุณคุโระเอ่ยน้ำเสียงออกมาเป็นครั้งแรก หน้าตาเหมือนจะดุ แต่น้ำเสียงเปี่ยมเมตตา
"ค่ะ บังเอิญมากๆ หนูขอไปคุยกับเพื่อนหน่อยได้ไหมคะ"
"อืมม์.. ได้อยู่แล้ว แต่ว่าต้องหลังจากคุยงานเสร็จแล้วนะ"
"ค่ะ ขอบคุณคุณคุโระมากๆ ค่ะ" ฮิคาริก้มหัวค้อมรับด้วยสีหน้าบ่งบอกว่ามิใช่ทำไปตามมารยาท ก่อนจะมองมาทางผมซึ่งยิ้มแห้งๆ โบกมือทำสายตาสดใส
"เดี๋ยวเจอกันนะ"

การสนทนาผ่านไปร่วมสองชั่วโมง เวลาล่วงเลยมาจนหนึ่งทุ่มเศษ ตอนนั้นเองที่รุ่นพี่เรียกผมจากในห้องแต่งตัว
"เฮ้ย เพื่อนมึงน่ะเขาจะกลับแล้ว"

ตอนที่ผมรีบวิ่งออกไปนั้น ฮิคาริรออยู่หน้ารถที่มาจอดหน้าสำนักงานแล้ว
"โทษทีนะ ไม่นึกว่าจะคุยงานดึกขนาดนี้ นี่เราต้องกลับแล้ว คุณคุโระให้คนมารับเราไปส่งก่อน"
"มะ...ไม่เป็นไร"
"นี่ เคอิโงะ เธอทำงานที่นี่เหรอ ทำหน้าที่อะไรน่ะ"
"เอ่อ...จะบอกว่าไงดีนะ เรียกว่าเบ๊นั่นแหละนะ" ผมเน้นคำว่าเบ้กระซิบหัวเราะขื่นๆ หน้าตาตลกๆ ฮิคาริเลยหัวเราะคิกๆๆ
"เฮ่อ นี่เราไม่ได้หัวเราะอย่างนี้มานานแล้วนะเนี่ย" ผมเองก็เผลอหัวเราะและยิ้มดีใจไปกับเธอ ก่อนจะระลึกได้ว่าเวลาที่จะคุยมีไม่มากนัก
"ฮิคาริจัง เป็นไงบ้าง" เธอเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเงียบทันที แต่ก็ยิ้มตอบ
"เราก็สบายดีแหละ"
"จริงเหรอ เราพอรู้เรื่องเธอมาบ้างนะจากข่าว"
"ก็ตามนั้นแหละ แต่..แต่เราก็สบายดีนะ เคอิโงะเองก็ท่าจะลำบากเหมือนกันนี่" ผมแอบตกใจเล็กน้อย
"เธอรู้เรื่องเราด้วยเหรอ"
"เราได้ยินจากคุณครูน่ะ ช่วงที่พ่อเราเป็นข่าวนั่นแหละ ครูเขาก็เล่าเรื่องเธอให้ฟังนะ"
"แต่เท่าที่เรารู้มา บ้านเธอ...เป็นหนี้..." ผมยังไม่ทันพูดจบ ฮิคาริก็ชิงตอบ
"ไม่เป็นไรหรอก เราก็ลำบากจริงๆ แต่ตอนนี้ตั้งแต่คุณคุโระมาเสนอช่วย เราก็พอมองเห็นทางออกบ้างแล้ว จริงๆ ตอนแรกเราก็ไม่ไว้ใจเขาหรอกนะ กลัวเลยล่ะ เขามาเสนอให้ทำงานวงการบันเทิง เราก็จำต้องทำเพื่อหาเงิน แต่เขาดีกับเรามาก เขาเป็นที่พึ่งเราได้ตอนที่เราไม่มีใครเลย"
"อ้าว แล้วพ่อแม่เธอล่ะ"
"พ่อหนีไปต่างประเทศ เราติดต่อไม่ได้เลย ท่านเครียดมาก ส่วนแม่...แม่กับพ่อเราจริงๆ ระหองระแหงกันมานานแล้ว ทนข่าวที่ออกได้ไม่นานท่านก็หนีไปกับผู้ชายที่แอบคบกัน เราเองก็เพิ่งรู้" ตอนนั้นเองที่ฮิคาริเริ่มมีน้ำเสียงไม่ดีนัก
"ขะ ขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจเซ้าซี้เลย"
"ไม่เป็นไร นี่..."เธอกล่าวพลางยื่นกระดาษจดเบอร์โทร. "อย่าลืมโทร.มาคุยกันบ้างนะ" ผมรับมาอย่างหน้าแดง ไม่นึกไม่ฝันว่าเธอจะเป็นคนให้เบอร์โทร.กับคนอย่างผม

รถเก๋งที่มารับขับจากไปท่ามกลางความมืด ขณะที่ผมเองก็ยังไม่ได้กลับบ้าน คุณทาเคชิชวนผมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมากินเหล้าเพื่อคุยกับคุณคุโระต่อพร้อมพี่ๆ ทีมงาน

คุณคุโระนั้นพอเหล้าเข้าปากก็จัดว่าคุยเก่งขึ้นกว่าเดิมมากทีเดียว เรียกได้ว่ารุ่นพี่เป็นฝ่ายฟังเสียมาก ขณะที่ทีมงานบางคนก็เริ่มจับเจ่านั่งโต๊ะข้างๆ คุยเฮฮากันเอง มีเพียงผมที่คออ่อนนั่งสะลีมสะลือจากฤทธิ์เบียร์ที่รุ่นพี่ประเคนให้หลายกระป๋อง กับทีมงานหลักบางคนที่ฟังแกคุยเขื่องเรื่องต่างๆ อยู่

ผมเองไม่ได้ตั้งใจฟังมาก บางเรื่องจับไม่ได้ศัพท์ด้วยซ้ำ แต่อยู่ดีๆ ก็เหมือนได้ยินเรื่องๆ หนึ่งค่อนข้างชัดขึ้นมา และตั้งใจฟังในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นนั้น
"แล้วรุ่นพี่คุโระไปได้แม่หนูยูกิคนนี้มาได้ยังไง"
"อ๋อ ฮิกกี้น่ะเหรอ ก็ไปทาบทามตอนเขาลำบากน่ะ พ่อแม่เขาติดหนี้บานเลย เขาต้องหาทางชดใช้ มาออกหน้าแทน"
"โห ขนาดนั้นเลย...แล้วอย่างนี้เขาไม่สำนึกบุญคุณรุ่นพี่แย่เลยเหรอ"
"แหงสิ กูเอาอกเอาใจสารพัดขนาดนั้น งานก็หาให้ตั้งเยอะ เขาเองก็ตั้งใจทำงานดี"
"พี่กะจะปั้นให้เป็นดาราดังเลยงั้นสิ"
"ฮ่าๆๆๆๆ เปล่าหรอกว่ะ"
"อ้าว ไหงงั้นล่ะ แม่หนูนี่หน้าตาสะสวยทีเดียวนะ ผมว่าสวยกว่าดาราบางคนอีก"
"เออ ก็เพราะอย่างนั้นล่ะ"
"ยังไงครับเนี่ย ผมงงไปหมดแล้ว"
"หึ กูลืมบอกอะไรมึงไปอย่าง สมัยก่อนนะกูไปทาบทามของกูดีๆ พ่อมันสมัยใหญ่โตแม่งไล่กูยังกับหมูกับหมา ยัยนี่สมัยก่อนก็เชิดเหลือเกิน พอกูได้ข่าวที่เกิดขึ้น กูก็สบโอกาสว่ะ รีบไปตะครุบเหยื่อ ไม่นึกว่าปลาจะกินเบ็ดมาถึงขั้นนี้ ทีนี้ล่ะมึงถึงตากูมั่ง"
"รุ่นพี่จะทำอะไรต่อเหรอ"
"ก็ค่อยๆ ฉุดมันลงต่ำน่ะสิ วงการบันเทิงมันมีเส้นทางที่คนมองว่าสดใสรุ่งโรจน์ แต่จริงๆ มันก็มีด้านมืด กูถึงได้มาติดต่อให้งานกับบริษัทมึงไง"
"โห รุ่นพี่พูดอย่างนี้ผมเสียหายแย่เลย" พี่ทาเคชิหัวเราะแหะๆ
"กูก็ไม่ได้อยากเทียบอย่างนั้นหรอกนะ แต่เทียบกับสิ่งที่กูพูดให้ยัยหนูนั่นเคลิ้มนะ ที่นี่จะกลายเป็นนรกบนดินแน่ ฮ่าๆๆๆๆๆ" รุ่นพี่เองก็ได้แต่หัวเราะเออออไป

ผมฟังบทสนทนาดังกล่าวด้วยความรู้สึกตระหนก แต่ร่างกายมันกลับไม่ตื่นตามความรู้สึกดังกล่าว ก่อนสติจะค่อยๆ หมดไป  



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
ผ่านไปไม่กี่วันผมก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาฮิคาริ จึงได้รู้ว่าปัจจุบันหนี้ฟ้องร้องดังกล่าวไม่ได้เดือดร้อนเธอนักเพราะตามกฎหมายลูกไม่ต้องชดใช้หนี้แทนพ่อ อีกทั้งพ่อเธอหนีไปโดยไม่บอกกล่าว ทำให้เรื่องราวยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเงินต้องชดใช้จากผู้ได้รับมรดกแค่ไหน อย่างไรก็ตามปัญหาเกิดจากสถานีเองก็ส่งคนมากดดันทุกวัน รวมถึงแม่ของเธอที่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายซื้อสินค้า และบริการต่างๆ แบบผ่อนจ่ายอย่างมือเติบ ภายหลังเมื่อไม่มีพ่อมาคอยจ่ายเงินให้ เจ้าหนี้จากแหล่งต่างๆ ก็มาทวงข่มขู่ถึงบ้าน ช่วงนั้นเธอบอกว่าน่ากลัวมาก สุดท้ายแม่ก็ทนไม่ได้หอบข้าวของบางส่วนหนีไปกับชู้รัก ส่วนตัวเธอที่เหลือเพียงลำพังเพื่อขอให้สถานีหยุดส่งคนมากดดันจึงได้ไปขอร้องกับทางสถานีด้วยตนเอง

ครั้งนั้นเองที่ได้เจอกับคุโระ จากคำบอกเล่าของฮิคาริ ผมพอจะสรุปได้ว่าเขาคือคนเดียวกับที่คาโตะเคยเล่าว่าพ่อฮิคาริไล่ตะเพิดไปอย่างไม่ไยดี
"สมัยก่อนเขาเคยมาทาบทามเราเหมือนกันบอกว่าจะปลุกปั้นเป็นดารา ภายนอกเราว่าเขาดูน่ากลัว เราก็ยอมรับนะว่าไม่อยากจะยุ่งด้วย"
"แต่ตอนไปสถานี เขาได้ยินเราพูดกับทางเจ้าหน้าที่ของที่นั่นเกี่ยวกับหนี้ของแม่เรา เขาก็สัญญาว่าจะช่วยหางานให้เพราะมันก็เยอะทีเดียว"
"หนี้ที่ว่าเท่าไหร่กันเหรอ ?" เธอนิ่งไปพักก่อนตอบ
"...เกือบสิบล้านเยน"
"ฮ้า !" ผมถึงกับสนเท่ห์กับจำนวนที่แม้จะลดความเสี่ยงไปมากก็ยังเป็นจำนวนที่เยอะเกินกว่าเด็ก ม.ปลายธรรมดาๆ จะชดใช้ได้อยู่ดี ซึ่งสาเหตุมาจากหนี้ของพ่อและแม่รวมกันจากหลายช่องทาง ทั้งบัตรเครดิต หนี้นอกระบบ พอไม่ได้จ่ายหลายเดือนดอกเบี้ยก็ยิ่งพอกพูนตามไปด้วย

หลังจากเริ่มเข้าวงการบันเทิง ฮิคาริบอกว่าก็จะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างเพื่อช่วยเทรน แคสต์งานและเข้าสถานเสริมความงาม ออกกำลังกาย ซึ่งเธอจะโดนหักค่าตอบแทนได้เพียง 50-60% ซึ่งเธอก็รับได้เพราะคุณคุโระก็ให้จริง แม้เธอจะไม่ได้มีผลงานที่เข้าตาสถานีต่างๆ จริงๆ แต่งานที่ป้อนให้ทุกวันตลอดหกเดือน ก็ทำให้เธอมีรายได้พอจะชดใช้หนี้ได้กว่าล้านเยน

ผมฟังเธอที่ค่อนข้างเคารพคุณคุโระ เอ่ยชื่ออยู่ไม่ขาด จากการที่ไม่มีใคร เพื่อนหนีหาย ต้องมาทำงาน และคอยรับคำแนะนำต่างๆ จากชายคนนี้ทุกวัน ทำให้ผมลังเลที่จะบอกเรื่องเมื่อคืนซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าผมฝันไปเองหรือเปล่า แต่ก็ลองเลียบๆ เคียงๆ ถาม
"แล้วฮิคาริไม่คิดจะหาค่ายอื่นบ้างเหรอ"
"ทำไมล่ะ ?"
"ก็...เราเชื่อว่าฮิคาริน่าจะดังได้มากกว่านี้น่ะ"
"หือ ? เพราะอะไร"
"เอ่อ คือจะว่าไงดี เอาเป็นว่าถ้าได้บริษัทที่เก่งจริง และชำนาญกว่านี้จะช่วยได้เยอะนะ บริษัทของคุณคุโระเนี่ยเท่าที่เราเคยเช็คๆ มา ไม่เคยรับงานหรือปั้นใครได้ไกลเลย"
"ไม่ได้หรอก เขามีบุญคุณกับเรา จะให้หนีไปที่อื่นง่ายๆ เลยเหรอ ฟังดูไม่ค่อยดีนะ อีกอย่างคุณคุโระเคยพูดว่างานจะป้อนไปทางสถานี F ไม่ได้ ชื่อของพ่อเราทำให้เรากลายเป็นแบล็คลิสต์ไปในตัว"

หนึ่งเดือนผ่านไป ผมก็คุยกับเธอเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้ทุกวัน เนื่องจากทำงานหนักทั้งคู่ ฮิคาริยังมีงานในระดับเดิม และแวะคุยงานหรือมาถ่ายแบบกับทีมงานของคุณทาเคชิอยู่ประมาณสัปดาห์ละครั้ง นับเป็นความสุขอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกและช่วงเวลาเดียวก็ว่าได้ที่ได้สนิทใกล้ชิดกับฮิคาริขนาดนี้ แม้จะในฐานะเพื่อนสนิทคนหนึ่ง

แต่แล้วข่าวร้ายก็บังเกิด

...ปลายปี 2007 นั้นเองที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าฮิโระ อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง คุณพ่อของฮิคาริ ตัดสินใจฆ่าตัวตายจบชีวิตตัวเองที่ต่างประเทศ หลังจากทนรับความเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ไหวอีกต่อไป

เหตุการณ์หลังจากนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมาก แม้ผมจะพยายามพูดปลอบใจเธอเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถสะกดความโศกเศร้าของฮิคาริได้ รวมถึงหนี้สินที่มรดกกำหนดให้ต้องยึดบ้าน และทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เป็นพ่อเพื่อขายหักลบที่ถูกฟ้องร้อง ตอนนั้นเองที่คุณคุโระเข้ามาช่วยจัดการเรื่องต่างๆ หาแมนชั่นค่อนข้างดีให้เธออยู่ และเป็นธุระจัดการนำศพมาจัดพิธีเล็กๆ ให้

ฮิคาริไม่ได้มาที่สำนักงานอีกร่วมสองสัปดาห์หลังจากจัดการธุระต่างๆ คุณทาเคชิบอกว่าของดรับงาน ผมเองก็ไม่สามารถเป็นเพื่อนคู่คิดอะไรได้ จึงขาดการติดต่อไปเฉยๆ

แล้วเช้าวันหนึ่งคุณทาเคชิก็บอกว่าฮิคาริจะกลับมาทำงานแล้ว ผมตั้งหน้าตั้งตารอจนถึงช่วงกลางวันนั้น เธอก็มาพร้อมกับคุณคุโระ ส่งผลให้ความคาดหวังของตนเองพังทลายไปสิ้น

คุณคุโระเดินมาพร้อมกับฮิคาริในสภาพที่ยิ้มแย้มทั้งคู่ ปราศจากความโศกเศร้าจากเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนนั้น แต่เป็นรอยยิ้มที่ฝ่ายหญิงมีความเขินอาย มิหนำซ้ำไอ้คุโระนั้นยังถือโอกาสจับมือถือแขนแสดงเป็นเจ้าของอยู่บ่อยครั้ง !

ฮิคาริไม่ได้มองหน้าผมด้วยซ้ำ คุณทาเคชิออกมาต้อนรับ ก่อนที่ไอ้หมอนี่จะบอกให้ฮิคาริไปฟังคอนเซปต์งานที่จะต้องทำ และลองชุดเพื่อถ่ายแบบ ขณะที่ตัวมันเองนั่งคุยเรื่อยเปื่อยกับรุ่นพี่ ตอนนั้นผมตัดสินใจขอเข้าห้องน้ำแถวนั้นแอบฟังที่มันอวดโอ้

"ไงครับรุ่นพี่ ตกลงไปกล่อมแม่หนูนั่นยังไงครับถึงกลับมาทำงานได้"
"หึหึ ไม่ใช่แค่กล่อมเรื่องงานเว้ย กูได้ฟันแล้วต่างหาก...เปิดซิงด้วยว่ะ ฮ่าๆๆๆ"
"อะ อ้อ มิน่าดูกระหนุงกระหนิงผิดสังเกต" ก่อนรุ่นพี่จะทำเสียงกระซิบ "แล้ว...ได้กันยังไงล่ะครับ" แต่ไอ้คุโระนี่คุยเบ่งเสียงดังอย่างไม่สนว่าฝ่ายหญิงจะอับอายเลย
"แหม ก็กูดีกับยัยหนูนี่ซะขนาดนั้น จัดการให้ทุกอย่างเขาก็ไว้ใจกูเป็นธรรมดา กูไปแวะไปเยี่ยมทุกวัน สุดท้ายกูเลยชวนให้ลองไปกินเบียร์แก้กลุ้มว่ะ ตอนแรกก็ปฏิเสธนะ ของมึนเมานี่คงไม่เคยแตะเลย เหอะๆ กูก็พูดเอาอกเอาใจว่าจะช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีวงศ์ตระกูลอะไรไปโอ้โลม ปะติโลมสารพัดจนมันใจอ่อน   ก็พาไปดื่มจนมันเริ่มมึนๆ นิดหน่อยขอกลับนั่นแหละ" คุณทาเคชิเห็นท่าว่ารุ่นพี่ของแกจะเล่าวีรกรรมนี้โดยละเอียด จึงเงียบพูดครับรับคำท่าเดียว
"พอกูพาไปส่งถึงห้องนะเว้ย ก็จัดการกอดเลยคราวนี้ก็เล้าโลมสารพัด ยัยหนูมันก็ขัดขืนแหละ แต่พอพูดว่ารักมากแค่ไหน สวยอย่างนั้นสวยอย่างนี้ มันก็อ่อนคงเพราะความนับถือกูมาก มันก็เลยยอม ตอนที่กูประคองหน้ามาจูบปากนะ หลับตาแบบกล้ำกลืนนิดๆ บริสุทธิ์ไร้เดียงสามาก ทีนี้พอกูจูบเล้าโลมเท่านั้น จบเลย ยอมกูหมด กูบอกให้อ้าปากนิดมันก็อ้าให้กูจูบปากแลกลิ้น ขอมันถอดเสื้อมันก็ยอม"
"แล้วกูก็ใช้ลิ้นเลียให้ ตอนแรกแม่งร้อง อย่าค่ะ อย่าค่ะ แต่กูไม่สน แม่งเอ๊ย ตัวว่าขาวแล้ว หีกลีบชมพูสวยเลยนะมึง ทำนานอยู่แต่สุดท้ายก็เสร็จคาปากกู นอนอ่อนระทวยเด้งก้นรับปากเลยเว้ย"  ไอ้คุโระยังพูดหยาบโลนต่อไป
"ตอนได้เย็ดนะเว้ย ยัยหนูนี่ไม่ประสีประสาหรอกนอนแข็งทื่ออย่างเดียว แต่มันได้อารมณ์จริงๆ ว่ะ ปกติเด็กที่กูปลุกปั้นนะแม่งก็เข้าหากูยอมเอาตัวเข้าแลกทั้งนั้น แต่ยัยหนูฮิคารินี่มันทรนงในศักดิ์ศรีจริงๆ ทำงานอย่างเดียวไม่มีบ่น พอโอกาสนี้ได้ทีเหรอ กูก็ โชะ! เยื่อพรหมจรรย์ขาด ฮ่าฮ่า เลือดแม่งเปรอะเตียงเลย พอเจ็บครั้งแรก ครั้งต่อไปก็ตามมาคราวนี้ยอมกูทุกอย่าง จะให้พลิกท่าไหน ตะแคงยังไง จะจับตรงนั้นตรงนี้ ก็สบายกูเลย มิหนำซ้ำท่าทางจะติดใจควยกูด้วยสิ ฮ่าฮ่า"
"นี่ปิดห้องสองวันเลยนะเว้ย แต่ทำกันแบบเบาๆ กลัวน้องเขาจะสึกหรอเร็ว เดี๋ยวเถอะมึง คราวนี้กูจะสอนให้คุณหนูนี่ร่านเป็นกะหรี่ไปเลย" ถึงตอนนั้นผมที่ทนฟังคำพูดดูถูกดูแคลนฮิคาริก็สุดจะทานไหว หวดหมัดชกประตูห้องน้ำตะโกนเสียงดัง
"โว้ยยยย !"
"เฮ้ย ทำอะไรวะ"
"โทษครับ ลื่นในห้องน้ำครับ โทษครับๆๆ "
"เบาหน่อยสิ เรามีแขกนะ"
อดสูใจเหลือเกิน ในสภาพไม่มีทางสู้ นี่ผมจะไม่มีทางช่วยฮิคารินอกจากระบายอารมณ์แบบนี้น่ะหรือ
ขึ้นปี 2008 หลังจากวันที่ฮิคาริกลับมาทำงานใหม่ ผ่านไป 1 เดือน ผมก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกับเธออีกเลย โทรศัพท์ไปก็คุยกันได้ไม่กี่คำ และวางหูไป ดูเหมือนคุณคุโระได้มีสถานะที่สำคัญสำหรับเธอไปเสียแล้ว

บริษัทผลิตโปรดักชั่นของคุณทาเคชินับแต่เริ่มรับงานกับคุณคุโระ ก็พัฒนาไปไกล จากเดิมที่เป็นแค่ผลิตหนังเอวีสมัครเล่น จนถึงรับทำงานของค่ายใหญ่ๆ บ้างถ่ายแบบกองโจร ก็รับทีมงานเข้ามาหลายทีมสำหรับงานหลายรูปแบบขึ้นมาก โดยเฉพาะงานถ่ายภาพ-วิดีโอที่ต้องการงานภาพที่สวยงาม จัดแสงนุ่มนวล หรือสร้างบรรยากาศต่างๆ ก็มีพร้อมมากขึ้น และช่วงนี้นี่เองผมก็ได้มีโอกาสรู้จักกับทีมงานจากค่ายหนังเอวีอื่นๆ บางคนก็อยู่ในวัยไล่เลี่ยกันกับผมอย่างไฮบาระ ผู้ช่วยกองถ่ายจากค่าย Soft on Demand ที่อายุงานเองก็ไม่ต่างจากผมนัก แต่รู้จักวงในมากกว่าเพราะเป็นน้องชายของผู้จัดการค่ายย่อยค่ายหนึ่งของบริษัทนี้ พอได้พูดคุยกันไฮบาระก็เลยชักชวนให้ผมมาทำงานพิเศษล่วงเวลาที่นี่อีกทางหนึ่ง เป็นสาเหตุอีกประการที่ทำให้ติดต่อกับฮิคาริน้อยลง

อย่างไรก็ตามวันไหนที่ฮิคาริมากับคุโระ บางครั้งมันก็แสดงความเป็นเจ้าของอย่างน่ารังเกียจโอบไหล่ หรือโอบกอดด้วยรูปร่างอ้วนๆ ของมันอย่างไม่ให้เกียรติเธอเลย ก็สร้างความอึดอัดปนอิจฉาให้ผม จนอดรอนทนไม่ไหวต้องไปถามรุ่นพี่ทาเคชิ
"รุ่นพี่ครับ คุณคุโระนี่เขาเป็นคนใหญ่โตขนาดไหนเหรอครับ"
"ก็ใหญ่พอตัวนะ หึหึ อย่างน้อยก็ใหญ่กว่าข้าหรือเอ็งแน่ๆ ล่ะ ไม่ใช่แค่ทำธุรกิจบันเทิงนะ ได้ข่าวว่าเขาร่วมหุ้นในธุรกิจบันเทิง และอื่นๆ อีกหลายตัวเลยทีเดียว"
"เราไม่รับงานเขาได้มั้ยครับ ผมไม่ค่อยถูกชะตาเลยให้ตายเถอะ"
"เฮ้ย บ้าหรือเปล่า ไม่อยากได้เงินหรือไง เอ็งก็ติดหนี้อยู่ไม่ใช่เรอะ ได้งานเขาเราก็ได้เงินเพิ่มขึ้นตั้งเยอะ"
"แต่ผมเห็นสิ่งที่เขาทำกับฮิคาริแล้ว ไม่สบายใจเลย"
"อ้อ นี่ชอบแม่หนูฮิคาริเขาเหรอ เอ็งนะ"
"เปล่า ก็เขาเป็นเพื่อนผมนี่ ผมก็ห่วงเป็นธรรมดา"
"เฮ้ย !" คุณทาเคชิทำเสียงดังจนผมตกใจ "เป็นลูกผู้ชายก็ยอมรับมาดีๆ "
"ครับ ! ขอโทษครับ" ผมหลับตาค้อมหัวขออภัยรุ่นพี
"แล้วคุณคุโระนี่ เท่าที่พี่รู้จักมาเป็นคนยังไง"
"รุ่นพี่คุโระเขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรนักหรอก ก็พอรู้จากพรรคพวกนะว่าแกก็ทำธุรกิจมืดมาแล้วสารพัด แต่เรื่องอื่นข้าก็ไม่รู้หรอกว่ะ ไม่ได้ถาม"
"ก็นั่นสิครับ แล้วอย่างนี้ฮิคาริจะเป็นไงล่ะ"
"ข้าก็ตอบไม่ได้หรอกนะไอ้หนู แต่ชีวิตจริงมันก็โหดร้ายแบบนี้ล่ะ อย่างกับข้าเนี่ยดีนักหนาล่ะนะ แต่ข้าจะบอกอะไรไว้นะ ถ้าอยากจะอยู่รอดในโลกสีเทาๆ นี้ก็ต้องรู้จักมันให้ดีพอ ไม่อย่างนั้นสู้ไปก็มีแต่แพ้"
"แล้วจะรู้จักมันดีพอตอนไหนล่ะครับ"
"ข้าก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้หรอกว่ะ ไอ้หนู"

คำสอนดังกล่าวของรุ่นพี่ผ่านไปเพียงไม่กี่วันผมก็ไม่สามารถทำตามที่บอกได้แล้ว เมื่อคืนหนึ่งขณะกินเลี้ยงในร้านเหล้า คุโระยังโอ้อวดเรื่องฮิคารุกับคนในวงนั้นอย่างออกรส แม้ผมที่กำลังกรึ่มอยู่บ้าง ก็ฟังด้วยความเจ็บใจ
"นี่มึงนี่ กูถ่ายคลิปหนูฮิกกี้ไว้ด้วยว่ะ ฮ่าๆๆๆ มึงอยากดูมั้ย" ส่วนใหญ่ผุดลุกขึ้นมาดูโทรศัพท์มือถือกันหมดห้อมล้อมคุโระกับทาเคชิที่นั่งอยู่ มีเพียงผมคนเดียวที่นั่งนิ่งได้ยินแต่เสียง
"อย่าค่ะ อย่าถ่าย คุณอาคะ หนูอาย อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ" เสียงฮิคาริวอนขออย่างน่าสงสารมาก เดาจากเสียงมันคงเริ่มหยิบมาถ่ายตอนประกอบกามกิจกันอยู่แน่ๆ
"น่า อาแค่ถ่ายเก็บไว้ดูคนเดียว ไม่ได้เอาไปให้ใครที่ไหนดูหรอก ยอดรักของอา นะจ๊ะ" ไอ้คุโระโกหกอย่างหน้าไม่อาย
"อ๊ะ อ๊ะ" เสียงฮิคาริร้องต่อไปจากมือถือ คนที่มุงคนนึงอุทาน จุ๊ปาก "โอ้โห นมสวยได้รูปจริงๆ ครับ กระเพื่อมเลย อิจฉาคุณคุโระจริงๆ "
"ภาพไม่ชัด แต่ฟีลได้เลยครับ หุหุ" เสียงกระซิบจากบางคนทำเอามาคนในวงฮากันไม่น้อย
"อ๊าซซซซ ออกแล้ว" เสียงคุโระจากในคลิปดังขึ้นมา
"อื้อหือ เล่นรดหน้าน้องเขาหลับตาปี๋เลย ไม่แตกในล่ะครับ"
"คนสวยของอา พูดอะไรที่กล้องหน่อยสิจ๊ะ" เสียงของคุโระจากมือถือดังไม่นานปะปนกับเสียงเหนื่อยหอบของฮิคาริ
"อ๊ะๆๆๆๆ อ๊าาาา อาาาา" จากนั้นก็มีเสียงคนในวงสมทบ
"โวว ทำอะไรล่ะครับนั่น"
"ถามได้ ก็ใช้นิ้วจัดการให้น้องเขาถึงสิวะ"
"ดูน้องเขายังอายๆ นะครับ"
"ก็แหงสิวะ ออกจะซื่อใสไร้เดียงสา" คุณทาเคชิเลยได้ทีถาม
"อ้าว ไหนก่อนนี้บอกว่าจะเปลี่ยนน้องเขาให้ร่านไปเลยไงครับ"
"ก็...แบบนี้ก็ได้อารมณ์ดี อีกอย่างฝึกแล้ว น้องเขาก็ไม่เป็นว่ะ ลองให้โม้คเอาเข้าไปหน่อยก็จะทำท่าอ้อกแล้ว" ไอ้คุโระเว้นคำไปก่อนจะกระซิบขึ้น "สงสัยอาจต้องให้คนอื่นฝึกแทนว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ"

ตอนนั้นเองที่ผมระเบิดอารมณ์ทุบโต๊ะดังลั่น พร้อมยืนขึ้น
"เฮ้ย !" คุณทาเคชิรีบลุกลนลานขออภัยคุณคุโระเป็นการใหญ่
"โทษครับๆ ไอ้นี่มันเมาไม่ได้สติแล้วครับ" ลูกน้องคุณทาเคชิรีบเดินมากระชากเสื้อผมตาม แต่คุณคุโระจ้องหน้าผมที่ยืนตาขวางอย่างไม่สบอารมณ์
"เออๆ แต่ยังไงช่วยเอาไปเมาที่อื่น สั่งสอนมันหน่อยก็ดีนะ ทำกูเสียอารมณ์หมด"
"ครับๆ เฮ้ย ! ลากมันไปข้างนอก !"
ไม่นานผมก็โดนอัดเข้าที่ท้องจนจุก และถูกพาลงไปนอนหน้าบาร์ก่อนจะถูกเหยียบซ้ำอีกหลายตีนพอเป็นพิธี แต่ก็พอให้ผมเจ็บจนหมดสภาพจะโต้ตอบ
"ขอโทษว่ะ เคอิโงะ แต่กูขัดคำสั่งไม่ได้" เพื่อนร่วมงานเอ่ยหลังกระทืบเสร็จ สักพักคุณทาเคชิออกมาหน้าบาร์พูดสั้นๆ เพื่ออำลา
"กลับไปนอนก่อนนะ นี่ล่ะโลกสีเทาๆ ที่ข้าบอกล่ะ เข้าใจนะ"
ก่อนผมจะค่อยๆ เดินโผเผลุกมองแสงสลัวของย่านกลางคืนในชิบูย่า ท่ามกลางคนที่ยังเดินขวักไขว่ไม่น้อย ผมเดินหารถกลับอย่างเดียวดาย

ดูเหมือนเรื่องเฮงซวยจะยังไม่จบ ไม่นานนักฮิคาริก็ตกลงถ่ายแบบเซ็กซี่เป็นครั้งแรกเพื่อออกโฟโต้บุ๊ค พอทราบข่าวเท่านั้นผมก็รีบตรงไปคุยด้วยทันที
"ฮิคาริ คิดดีแล้วเหรอที่ถ่ายแบบนี้"
"ทำไมเหรอ"
"คือ...เราก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรหรอกนะ แต่มันออกจะ..เปลี่ยนภาพลักษณ์เร็วไปหน่อยหรือเปล่า"
"ก็คุณคุโระว่าไม่แปลกนะ ไอดอล ดารา นักร้องเขาก็ถ่ายกัน"
"ก็นั่นเขามีงานแสดง มันก็มีโอกาสไง แต่อย่าลืมสิ ฮิคาริงานทีวียังน้อยอยู่เลย ถ้าเปลี่ยนภาพลักษณ์เร็วเกินงานมันจะเปลี่ยนมาแนวนี้หมดนะ เธอไม่อายบ้างเหรอที่ต้องถ่ายแบบแนวนี้" ฮิคาริก้มหน้า
"ก็ต้องอายอยู่แล้วล่ะ แต่คุณอาเขาบอกว่าเงินมันก็ดีกว่า แล้วเอาเข้าจริงงานเราช่วงหลังก็น้อยลง วงการนี้ก็แข่งกันสูง ถ้าทำแล้วมันได้งานมากขึ้นก็ดี"
"แต่..."
"เคอิโงะคุง เราไม่ใช่เด็ก ม.ปลายแล้วนะ ตอนนี้พวกเราทำงานแล้ว คุณคุโระเขาสอนให้เราต้องรู้จักหน้าที่ ไม่ว่างานจะเป็นแบบไหนเราก็ต้องทำมันเต็มที่ ต้องผ่านมันไปให้ได้"
"ฮิคาริจัง เดี๋ยวนี้เอะอะอะไรๆ ก็คุณคุโระหมดเลยนะ หึ"
"หมายความว่าไง" เธอเริ่มมองผมตาขวาง
"หรือไม่จริงล่ะ อย่าเชื่อหมอนี่ให้มากนักเลย"
"ห้ามว่าคุณคุโระนะ !" ฮิคาริขึ้นเสียง แล้วก็เดินหันหลังไป สถานการณ์ความสัมพันธ์ของผมกับเธอเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมเสียแล้ว ก็อย่างว่าผมมันเป็นแค่เพื่อน เธอย่อมเชื่อน้อยกว่าอย่างเทียบไม่ได้

ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น โฟโต้บุ๊คชุดดังกล่าวก็วางจำหน่ายรับช่วงหน้าร้อน ฮิคาริในชุดว่ายน้ำสีแดงตัดกับผิวของเธอโชว์ร่องอกขนาดกำลังได้รูปของวัยสาว กับทูพีชส่วนล่างที่เว้าให้เห็นซอกขาหนีบนวลขาวนั้น บางภาพยังแสดงให้เห็นอาการเอียงอายอยู่บ้าง แต่ภาพส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนภาพลักษณ์เก่าของเธอจากปีที่แล้วจากความน่ารักที่น่าค้นหา กลายเป็นแรงดึงดูดทางเพศที่เร้าให้น่าค้นไปอีกแบบ บางภาพที่เธอนอนหลับตาพริ้ม ปากเผยอกลางทรายของชายหาดแดดจ้าทำเอาผมกลืนน้ำลายอย่างกระหายน้ำแล้ว อีกภาพที่เธอเปลือยแผ่นหลังคล้ายนอนอาบแดดเอามือปิดหน้าอกที่กลมกลึงเผยเนื้อหนั่นบางส่วนผ่านซอกคอนั้นก็ทำเอาผมร้อนรุ่มใจสั่นระรัวยิ่งกว่า 
"อืมม์ ๆๆ อูย เสียวจริงๆ คร้าบ โอย" ณ ห้องพักของเรียวกังแห่งหนึ่ง  เสียงร้องครางปะปนกันของชายหนุ่ม 3 นายที่กำลังยืนรุมล้อมหญิงสาวหน้าใสเกล้ามวยผม แต่งชุดยูคาตะตามธรรมเนียมอันดีของผู้มาพักสถานที่แห่งนี้ ผิดแต่ว่าชุดดังกล่าวหลุดลุ่ยหมิ่นเหม่จะหลุดออกหมด สายคาดเอวถูกแก้ ชายผ้าของชุดถูกร่นทั้งสองข้าง ด้านในเนื้อตัวของหญิงสาวไม่ได้ถูกปกปิดใดๆ มิหนำซ้ำยังมีคนนำไวเบรเตอร์ไปปักคาไว้ที่พื้นสร้างความเสียวกระสันต์ให้เธอเพิ่มอีกทบทวี ใช้มือรูดจ้าวโลกของชายสองคนอย่างเพลิดเพลิน ปากก็ทำหน้าที่อมรูดเข้าออกให้ชายอีกคนตรงหน้านั้น

"อื๊มม อื๊มม เอี๋ยววว อังงงง อื๊มมๆๆ " ท่ามกลางท่อนเนื้อที่ประเคนให้เธอจนคับปาก หญิงสาวยังพูดเร้าอารมณ์ฝ่ายชายด้วยคำที่อู้อี้ในลำคอ หากอีกฝ่ายก็เข้าใจว่าเธอกำลังบอกว่าเสียวจัง
ไม่นานนักชายคนหนึ่งก็ส่งสัญญาณให้เพื่อนถอยห่าง ปล่อยให้ฝ่ายหญิงโม้คให้จนถึงจุดสุดยอด
"อาซ อา...ออกแล้วๆๆๆ อา" น้ำอสุจิรดหน้าหญิงสาวที่อ้าปากแลบลิ้นรอรับ มิหน้ำซ้ำยังดูดเลียท่อนควยลำเขื่องนั้นจนรอบซ้ำ ชายอีกสองคนไม่รอช้าทยอยกันไปให้เธอสร้างความสุขเช่นเดียวกันให้

--------------------------

เดือนหนึ่งผ่านไปแล้วหลังจากฮิคาริออกโฟโต้บุ๊คแนวเซ็กซี่ ผมก็ขาดการติดต่อกับเธอไป และใช้เวลาในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับที่ต้องทำงานสารพัด หนึ่งในนั้นคือติดต่อหาโลเคชั่นต่างๆ สำหรับถ่ายทำ ตั้งแต่บ่อน้ำแร่, โรงแรมม่านรูด, หอพัก, บ้านและออฟฟิศให้เช่า, สแน็คบาร์, ร้านเช่าดีวีดี, เรียวกัง ฯลฯ ไปจนถึงรถบัสให้เช่า ทั้งหมดกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างสีสันให้เกิดซีรี่ส์หนังเอวีแนวต่างๆ เท่าที่ตลาดยังต้องการ

แม้จะไม่ได้ติดต่อ แต่ผมก็ติดตามชีวิตของเธอผ่านบล็อกที่อัพเดทงานต่างๆ นานๆ ครั้งเมื่อว่าง แล้วก็เพิ่งสังเกตพบความจริงดังที่เธอว่า

งานต่างๆ เริ่มลดน้อยลงไปจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้น ? ถึงแม้ผมจะพอรู้มาว่าบริษัทนี้ลดคลาสงานแสดงของเธอไปแล้วก็เถอะ ผมชักสงสัยว่าไอ้คุโระมันตั้งใจหางานให้เธอบ้างไหม ? ไม่ได้อยากจะอคติ แต่ด้วยความสวยน่ารักระดับฮิคาริ แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจะงานหดหายถึงขนาดนี้  ก็อดไม่ได้จนต้องติดต่อให้คาโตะ และไฮบาระลองหาข่าวจากคนในวงการโทรทัศน์ รวมถึงวงการหนังเอวีให้ถึงที่มาที่ไปบางอย่างของหมอนี่

ภายหลังจากถ่ายโฟโต้บุ๊คดังกล่าวงานที่เข้ามาแม้จะเหมือนมากขึ้น หลังจากเคยหดหายไป แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นงานแนวโชว์เซ็กซี่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพริตตี้ตามสถานที่ต่างๆ ที่ให้ใส่ชุดวับๆ แวมๆ  งานแฟชั่นแนวเซ็กซี่ที่ชุดคอสเพลย์ก็เป็นชุดสั้นๆ โชว์ขา หรือร่องอก ไปจนถึงแฟชั่นชุดว่ายน้ำ-ชุดชั้นใน

ย้อนไปเมื่อสมัยเรียน ฮิคาริไม่มีทางจะแต่งตัวแบบนี้เลย แม้จะในการทัศนศึกษาไปทะเล เธอก็เลือกจะเล่นเฉพาะบริเวณชายหาด สวมเสื้อยืดสีทึบ กางเกงขาสั้นมิดชิด ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็มาจากการเกลี้ยกล่อมของไอ้คุโระนั่นเอง

ผมได้เห็นกับตาก็เมื่อตอนกลางปีที่ฮิคาริเตรียมจะออกโฟโต้บุ๊คเซ็กซี่เล่มที่ 2  และต้องรับหน้าที่งานนี้เช่นกัน คุโระเดินมาพร้อมกับเธอที่ยังมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยหลังจากฟังบรีฟคอนเซ็ปต์ของงานครั้งนี้
"อะไรกัน ไม่เอาน่า ถ่ายมาตั้งหลายครั้งฮิคาริจังของอายังจะเครียดอะไรอีกล่ะ หืมม์ ?" ไอ้คุโระมันทำน้ำเสียงออดอ้อนที่ไม่ได้เข้ากับหน้ามันเลยสักนิด
"แต่...ว่า ครั้งนี้มันค่อนข้างจะมากกว่างานก่อนๆ นะคะ มันดูลามกไม่มีรสนิยมเลยค่ะ"
"โถ เอาน่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ฮิกกี้ของอาทำได้อยู่แล้ว เขาก็ถ่ายขายพวกผู้ชายนั่นแหละ ผู้ชายส่วนใหญ่เขาก็ชอบแบบนี้ ถือซะว่าสงเคราะห์พวกเขาหน่อยก็แล้วกัน"
"อ้อ แล้วคิดดูสิ มีงาน เราก็มีรายได้มาช่วยลดภาระเรื่องหนี้ แล้วฮิคาริจังก็จะเป็นอิสระไง"
"ค่ะ หนูจะพยายาม" แม้จะพูดอย่างนั้น แต่เหงื่อที่ซึมออกมาบริเวณวงหน้า และลำคอ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ลดความกังวลเลยแม้แต่น้อย
"อ้อ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนา อาก็ชอบนะ ภาพแนวนี้ ดูแล้วกระชุ่มกระชวยดีจริงๆ" หึ แล้วทำไมมึงไม่ถ่ายเก็บไว้ดูเองล่ะวะ ผมแอบคิดในใจตอนทำเป็นเดินผ่านจัดการงานไม่ได้
"ถ้ายังเครียดอยู่ก็ลองเขียนคำว่า 'คน' ที่มือแล้วกลืนดูสิ อาจช่วยนะ สู้ๆ นะแค่สองวันก็เสร็จงานแล้วนะ แล้วอาจะพาไปซื้อกระเป๋าปราด้าอย่างที่เคยไปเดินไง"
"ขอบคุณค่ะ" ฮิคาริรับคำ ยิ้มสู้

จะว่าไปแล้วตั้งแต่คบหากันแบบเปิดเผย คุโระก็ประเคนข้าวของเครื่องใช้ เครื่องสำอางค์ราคาแพงให้อย่างเห็นได้ชัด ฮิคาริเองปกติก็เป็นคนใส่เสื้อผ้ามีแบรนด์มียี่ห้ออยู่แล้วตามฐานะในอดีต ยิ่งคุณคุโระเอาอกเอาใจ ผมก็เริ่มสังเกตว่าจากเดิมเธอเองไม่ได้ยึดติดอะไรมากมายนัก มีก็ได้ไม่มีก็ได้ สินค้าแฟชั่นเหล่านี้ก็กลายเป็นสิ่งที่ขาดมือเธอไม่ได้ไปเสียแล้ว พอถามพี่ช่างแต่งหน้าก็ยิ่งชัดว่าคุณคุโระมักจะมีของฝากติดไม้ติดมือมาให้เสมอ หรือพากินพาเที่ยว ไปช้อปปิ้งหลังจากงานเสร็จ

"แชะ แชะ แชะ"
"เยี่ยมมากครับ เยี่ยมครับ โพสดีมากครับ" เสียงชัตเตอร์ของกล้องรัวลั่นถ่าย ฮิคาริ นางแบบสาวสวยตรงหน้าที่สวมใส่บิกินี่ตัวจิ๋วปิดอย่างหมิ่นๆ ท่อนบนที่สายรัดเป็นสายผ้าบางๆ มีผ้าทรงสามเหลี่ยมปิดบริเวณหน้าอก แต่ก็เผยรูปทรงปทุมถันได้รูปของเธออย่างเด่นชัด เช่นเดียวกับท่อนล่างที่ด้านหลังแทบจะกลายเป็นจีสตริง เผยแก้มก้นขาวสล้างไร้ริ้วรอยของอดีตลูกคุณหนูที่ผมรู้จัก กำลังโพสท่าตามคำขอของคุณคิเซกิ ช่างภาพ ซึ่งว่ากันจริงๆ แกมาจากสายช่างภาพ Full Nude ในบริษัทนั่นเอง แม้จะถ่ายในสตูดิโอ แต่คุณคิเซกิก็สรรหาวิธีการทำให้ภาพถ่ายยั่วยุอารมณ์หนุ่มกลัดมันได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่การให้ฮิคาริกินไอติมแท่งสีแดง ดื่มนม ไปจนนอนโก้งโค้งบนเตียง บางครั้งก็หลอกล่อโดยถ่ายด้านหน้า แต่ให้ผู้ช่วยเก็บภาพด้านหลังเผยให้เห็นบั้นท้าย และก้นกลมกลึงอย่างเต็มตา
"แยกขาอีกนิดครับ น่านแหละครับ นี่น้องครับ ต้องทำหน้าให้ยิ้มไว้ครับ อย่าทำสีหน้าเครียด มั่นใจไว้ครับ เผยอปาก เยี่ยมครับ" แม้จะเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ทางถนัดของเธอนัก แต่ฮิคาริก็ยอมทำตามแต่โดยดี

หลังงานถ่ายแบบวันนั้นผมได้สบโอกาสถามเรื่องต่างๆ กับเธอ
"ฮิคาริ ตอนนี้เรื่องหนี้เป็นไงบ้าง"
"ก็ยังใช้เรื่อยๆ แหละ"
"ตอนนี้เหลือเท่าไหร่แล้วล่ะ"
"ก็ราวๆ 7 ล้าน เกือบ 8 แปดล้านน่ะ" จริงๆ ก็นับว่าเป็นการหาเงินมาจ่ายได้ไม่เลวเลย เพราะมากกว่าที่ผมต้องชดใช้ด้วยซ้ำ ยิ่งคิดถึงดอกเบี้ยที่สูงกว่าด้วยแล้ว
"เหรอ ทำไมฮิคาริไม่ขอให้คุณคุโระช่วยใช้หนี้ให้ล่ะ"
"จะบ้าเหรอ เงินตั้งขนาดนั้น แค่นี้คุณคุโระก็ช่วยเรามาตั้งมากแล้ว"
"แต่...แต่ว่า เขาไม่น่าจะปล่อยเธอมาทำงานเหนื่อยแบบนี้"
"นี่...เคอิโงะ เราก็มีศักดิ์ศรีนะ จะคิดว่าเราแบมือขอเงินเขาฝ่ายเดียวเหรอ"
"ไม่ใช่อย่างนั้น จะว่าไงดี"
"เรารู้ว่าเคคุงเป็นห่วงเรา ขอบคุณนะ แต่เราทำใจได้มานานแล้วว่าต้องพึ่งตนเอง จะมาทำตัวพึ่งพ่อแม่แบบเดิมคงไม่ได้หรอก" เห็นเธอมีท่าทีเข้มแข็งขนาดนี้ก็ไม่รู้จะเถียงต่อยังไงดี

อย่างไรก็ตามหลังจากวางแผงโฟโต้บุ๊คไปแล้ว แม้จะขึ้นอันดับขายดีเช่นเคย แต่ช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี ทางบริษัทก็แจ้งว่าหางานให้ฮิคาริไม่ได้เลย งานก็หน้าก็ร่อยหรอลงเรื่อยๆ

ตอนนั้นเองที่ผมได้ยินข้อเสนอและการเกลี้ยกล่อมให้เล่นหนังเอวี จากปากของคุณคุโระ ขณะนั่งคุยงานกับคุณทาเคชิ
"ฮิคาริจัง ตอนนี้งานไม่มีเลยนะ วันนี้ก็เลยจะมาคุยกับคุณทาเคชิว่าสนใจจะไปเล่นหนังสำหรับผู้ใหญ่ไหม ที่เรียกว่าหนังเอวีน่ะ" ฮิคาริที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็ตกใจกับการชักชวนดังกล่าวทันที
"อะไรคะคุณอา ไม่ไหวหรอกค่ะ รับงานแบบนี้มันมากเกิน"
"แต่...แหม ก็อากลัวหนี้มันจะขึ้นตามดอกเบี้ยนี่สิ เดือนนี้ใช้ครบจำนวนหรือเปล่าล่ะ"
"เอ่อ...ก็ไม่ค่ะ" ฮิคาริตอบเสียงอ่อย "แต่ว่าหนูยินดีเลือกทำงานอย่างอื่นดีกว่าค่ะ ถ่ายแบบอย่างที่เป็นอยู่ไม่โอเคตรงไหนเหรอคะ"
"เฮ้อ มันก็พูดลำบากน่ะนะ ตารางงานปีหน้าเลขาของบริษัทบอกว่าไม่เหลือเลย และก็ได้เงินน้อยด้วย เราจะพึ่งรายได้จากการออกโฟโต้บุ๊คที่ออกปีละไม่กี่เล่มน่ะมันไม่พอหรอก"
"แต่ดาราเอวีนี่จะมีงานป้อนทุกเดือน เงินรายได้ก็ดีตกการถ่ายทำทีเรื่องละหลายแสนเยนเลย ถ้านับเฉพาะรายได้นี่เป็นงานที่มีคนอยากเข้ามาทำงานเยอะแยะไป" คุโระพูดไม่หยุด จนอีกฝ่ายอึกอักหาเหตุผลมาชนะคะคานไม่ทัน
"หรืออยากจะให้อาช่วยใช้ให้ก่อน" คุโระทำเสียงลำบากใจ
"อ๊ะ ไม่ค่ะๆ มันมากเกิน หนูรับไว้ไม่ได้หรอก"
"แล้วอีกอย่าง..." จากนั้นคุโระก็กระซิบกระซาบกับเธออยู่นานสองนาน ก่อนจะกลับมานั่งท่าเดิม
"แล้วไม่ต้องกลัวหรอกนะฮิกกิ้ หนังเอวีเนี่ยไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ หรอก เขาถึงมีโมเสกปิดกันอุจาดส่วนที่ไม่ควรจะเห็นแล้ว แถมใช้มุมกล้องช่วยหลอกให้คนดูเชื่ออีกต่างหาก ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับการแสดงว่าจะแสดงแนบเนียนยังไงไงล่ะ"

ผมคิดในใจทันที "ไอ้เหี้ย โกหกหน้าด้านๆ" สมัยก่อนช่วงยุคเริ่มต้นของวงการหนังเอวีนั้นต้องยอมรับว่าโมเสกนั้นทำออกมาหนาจริง นักแสดงหลายคนก็ไม่ได้สอดใส่อวัยวะเพศกันจริง แต่ในยุคที่แข่งกันขนาดนี้ วิธีการดังกล่าวมีให้เห็นน้อยมาก และมักถูกวิจารณ์จากเหล่าโอตาคุทันทีในบอร์ด 2Ch ถ้านักแสดงคนไหนริทำก็โดนคนพวกนี้ด่าจนคะแนนความนิยมตกก็มีมาแล้ว

นั่งฟังคุโระเกลี้ยกล่อมอยู่ได้ไม่นาน ผมก็ถูกเรียกให้ไปทำงาน ในวันนั้นเองที่ผมส่งเมลจากโทรศัพท์ไปบอกกับฮิคาริว่า "เราได้ยินเรื่องที่เขาชวนให้เธอเล่นหนังเอวีแล้ว ห้ามรับข้อเสนอ เด็ดขาดนะ"
ครู่หนึ่ง ฮิคาริตอบกลับมาว่า "ขอบคุณมากเคคุง แน่นอน เราไม่มีทางรับหรอก วันนี้ปฏิเสธไปแล้ว"
"เราเชื่อในตัวเธอนะ" ผมแอบยิ้มดีใจ

ปลายปีนี่เองที่ผมก็ออกไปทำงานทั้งในและนอกสถานที่อยู่เกือบ 3 เดือน เนื่องจากหวังว่าทำงานมาทั้งปีจะมีเวลาเที่ยวเตร่ช่วงปีใหม่กับเขาบ้าง เลยโหมเสียจนดึกดื่น หามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้ติดตามข่าวคราวอะไรอีก

เดือนธันวาคมที่ใครต่างพากันเที่ยวในบรรยากาศเฉลิมฉลองสิ้นปีและปีใหม่ ไม่เว้นแม้แต่ญี่ปุ่น ผมก็ทราบข่าวร้ายจากคุณทาเคชิ

ฮิคาริตัดสินใจเล่นหนังเอวี

ผมช็อคพูดไม่ออก รีบโทรศัพท์เพื่อขอให้เธอออกมาพบทันที
"เกิดอะไรขึ้น ไหนสัญญากับเราแล้วไงว่าจะไม่ทำแบบนี้" ผมขึ้นเสียงด้วยอารมณ์โกรธ แต่ฮิคาริยังก้มหน้าเงียบ
"เป็นบ้าไปแล้วหรือไง เธอรู้ไหม ว่าถ้าเลือกเส้นทางนี้แล้วมันถอนตัวลำบากนะ"
"ตอบหน่อยสิ ไม่ได้ยินที่เราถามเหรอ" ตอนนั้นเองที่เธอพูดทั้งน้ำตานองหน้า ทำเอาผมใจเสียไปในทันที
"แล้วเรามีทางเลือกเหรอ" ฮิคาริยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด
"ตอนนี้หนี้ของเรามันกลับขึ้นมา 8 ล้านเยนแล้ว"
"แต่นั่นไม่สำคัญหรอก นี่คุณคุโระยังต้องคอยมาจ่ายเงินค่าเช่า ค่ากินค่าอยู่ต่างๆให้อีก"
"รู้ไหม...เขาดีกับเราขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่มาหาเราหลายเดือนมากแล้ว" ฮิคาริพูดต่อด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ
"พูดไปเธอก็คงไม่เข้าใจ คุณอาเขาเคยบอกกับเราว่าเราดูเด็กเกินไป เขารักเราแต่กับเรื่อง...อย่างว่า...เขาไม่ชอบแบบนี้ เขาบอกว่าถ้าลองให้เราทำอะไรที่กล้าได้กล้าเสียบ้าง เก่งเรื่องพวกนี้บ้าง...เขาอาจรู้สึกดีกว่านี้"
คำตอบของฮิคาริทำให้ผมเจ็บปวดที่สุด นี่เธอหลงไอ้อ้วนนี่จนโงหัวไม่ขึ้นไปแล้ว
"นี่เธอเชื่ออะไรแบบนี้ด้วยเหรอ ฮิคาริจัง"
"เรายินดีเชื่อ ถ้าทำให้คุณอาเห็นเรามีความหมายบ้าง"
"เฮ้ย ! แต่...เธอรู้ไหมว่าหนังเอวี เอ่อ...มันต้องมีอะไรกันจริงๆ "
"รู้...ตอนหลังคุณทาเคชิบอกเราแล้ว"
"แล้วเธอยังจะ..."
"พอเถอะ...ทำไมเธอต้องมาเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเราด้วย"
ฮิคาริหันหลังกลับโดยไม่คิดจะให้ผมทักท้วงซ้ำ ก่อนจะกล่าวทิ้งท้าย
"ขอบคุณนะเคคุง แต่เราอาจไม่ใช่ฮิคาริคนที่เธอเคยรู้จักเมื่อ ม.ปลายแล้วแหละ สภาพเราตอนนี้ เราก็มีปัญญาแค่นี้ เราก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว"

คำตอบของเธอทำให้ผมสะอึก เพราะสภาพการณ์แทบไม่ต่างจากตนเอง จบแค่ชั้น ม.ปลาย ติดหนี้เป็นหลักล้าน ไม่มีเส้นสาย ไม่มีครอบครัว ได้แต่เดินเส้นทางที่มืดมนแบบนี้ต่างจากชีวิตเด็กวัยรุ่นคนอื่นไปเสียแล้ว



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
ช่วงเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นที่ ฮิคาริไต่เต้าในวงการบันเทิง ผมที่เคยนึกฝันไปเองว่าเธอจะกลายเป็นดาราโด่งดังไม่เคยคาดคิดว่าเส้นทางของเธอจะกลายมาเป็นแบบนี้ เมื่อเธอตกลงปลงใจตามการเกลี้ยกล่อมของคุโระให้เซ็นสัญญาแสดงหนังเอวีกับค่าย Max-A เป็นเวลา 6 เดือน โดยมีบริษัทของคุณทาเคชิรับหน้าที่ดำเนินการร่วมถ่ายทำบางเรื่อง ในชื่อเดียวกับช่วงถ่ายแบบคือ ยูกิ ฮิเมะ ผ่านการดูแลของบริษัท คุโระ จำกัด ที่จัดการหางานให้

เท่าที่ทราบจากคุณทาเคชิมาสัญญาดังกล่าวจะเป็นการถ่ายทำหนังอย่างน้อย 6 เรื่อง รวมถึงกิจกรรมต่างๆ เช่น แจกลายเซ็น, เดินสายโชว์ตัว, โฟโต้บุ๊คพิเศษ จะให้รายได้แบบทยอยจ่ายรวม 2.5 ล้านเยน ซึ่งเป็นราคามาตรฐานที่เทียบกันไม่ได้เลยกับนางเอกเอวีมีชื่อที่ค่ายนี้เคยปลุกปั้นอย่าง ไอโนะ คิชิ, มิฮิโระ หรือ ริโอะ นี่บริษัทของคุโระมันมีปัญญาทำให้ได้เท่านี้เองหรือ ? แต่ถึงตอนนี้คงไม่มีทางเปลี่ยนแปลงยับยั้งอะไรได้แล้ว ผมทำใจว่าอย่างน้อยก็คงพอช่วยไถ่ถอนปลดหนี้ของเธอได้ และอย่างน้อยก็เป็นค่ายที่เนื้อหาเน้นความสดใสมากกว่า โมเสกที่ปิดก็หนากว่าอีกหลายค่าย ผมพยายามคิดเล็กคิดน้อยในข้อดีให้มากที่สุด

เพียง 1 สัปดาห์หลังการเซ็นสัญญาทุกอย่างก็ดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว มีทีมงานมาอธิบายงานต่างๆ กับทางฮิคาริและผู้จัดการเพื่อเรื่องเปิดตัว หรือ AV Debut บทของเธอจะถูกเปิดในฐานะหญิงสาวสวยบุคลิกคุณหนูลูกผู้ดี มีความลึกลับแฝงอยู่ภายในดังเช่นชื่อของเธอ ยูกิ ฮิเมะ(ท่านหญิงหิมะ) เน้นการถ่ายแฟชั่นสวยงาม แนะนำตัว ก่อนจะมีกิจกรรมทางเพศที่ไม่หวือหวานักเพียง 1-2 สอนครั้งในเรื่อง จะว่าไปแล้วก็นับเป็นประเภทของหนังเอวีที่นักแสดงหญิงทำงานง่ายสุดถ้าเทียบกับแนวเรื่องอื่นๆ แต่ก็ยากที่สุดเพราะนับเป็นครั้งแรกในการทำงานแบบนี้

สำหรับฮิคาริย่อมมากขึ้นไปอีก เพราะเธอเองไม่ได้ประสีประสาเรื่องทางเพศมากมายนัก วันแรกของการถ่ายทำในห้องแต่งตัวผมสังเกตอาการเธอแล้วเหมือนหนาวสั่นตลอดเวลา หน้าซีดเผือด ดูลุกลี้ลุกลน สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

"เครียดหรือจ๊ะ คนดีของอา"
"ค่ะ"
"ท่องบทที่เขาให้ไม่ได้หรือ ?"
"ไม่ใช่ตรงนั้นค่ะ เพราะบทมันแค่คร่าวๆ ผู้กำกับเขาจะให้แนะนำถามตอบแบบด้นสดปนไปด้วย ก็มีซักซ้อมแล้ว"
"แล้วกลัวอะไรล่ะ หืม ? วันนี้ยังไม่มีงานยากหรอก" คำว่าไม่มีอะไรยากของคุโระเพราะวันนี้จะเป็นการถ่ายแฟชั่น และแนะนำตัวที่ยังไม่ต้องมีฉากเซ็กส์ แต่อันที่จริงหมอนี่ทำเป็นมองข้ามเรื่องที่ว่าฮิคาริจะต้องถ่ายแบบเปลือยเป็นครั้งแรก
"ไม่ต้องกลัว วันนี้เขาต้องการความเป็นธรรมชาติของเราให้เห็นว่ามันเป็นประสบการณ์ครั้งแรก ผู้กำกับคนนี้อาคุยกับเขาแล้ว เขาถ่ายงานแนวนี้มาเยอะ เขามีเทคนิคที่ทำให้งานมันง่ายแน่ๆ ไม่ต้องกลัว"

หึ มันจะง่ายอย่างนั้นล่ะหรือ ? ผมคิดในใจ

"พอสั่งแอ๊คชั่น กล้องจะเดินแล้ว ทีนี้ผมจะคอยทำหน้าที่ถามนะครับ เราก็ตอบไปตามในบท อาจมีคำถามเพิ่มนิดหน่อยก็ตอบไปเรื่อยๆ ครับ อ้อ พยายามพูดให้ดูเรียบร้อยไว้นะครับ" คุณไคโช ผู้กำกับอธิบายฮิคาริ โดยส่วนที่เป็นเสียงถามจะถูกตัดออกจากดีวีดีเหลือเพียงขึ้นคำถามเป็นตัวอักษร กับคำตอบของนักแสดง
"ค่ะ"
"เอาพร้อมนะ กล้องเดิน แอ๊คชั่น"
แรกเริ่มที่ผมไปมุงในกองของ Max-A ก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างผ่านไปด้วย ฮิคาริ แนะนำชื่อนามแฝงของเธอ ยูกิ ฮิเมะ ผมตรงยาวสลวย มาในชุดผ้าชีฟองเสื้อแขนยาวไม่ติดกระดุม กระโปรงสีฟ้าลายดอกทั้งชุด ด้านในมีเสื้อเชิ้ตทับดูมิดชิด เรียบร้อยสวยงามตามคอนเซปต์งาน จากนั้นบอกอายุ รสนิยม งานอดิเรก เรื่องราวความเป็นมาก่อนจะมาแสดง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าหลายอย่างก็เป็นประวัติปลอม
"คัต"
"เราเกร็งเกินไปนะครับ เหงื่อไหลอย่างนี้ไม่ได้ ขออีกเทค ต้องหัดยิ้มเข้าไว้ด้วยครับ"
"อ๊ะ ค่ะ" จากนั้นช่างแต่งหน้าก็เข้ามาซับเหงื่อ และเติมแป้ง และระหว่างที่รอนั้นก็มีหนุ่มใหญ่คนหนึ่งมาคุยด้วย ดูฮิคาริผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
"หวัดดีครับ พี่ชื่อคาวายะ พรุ่งนี้เดี๋ยวก็ได้เจอกัน"
"อ๊ะ ค่ะ" แรกเริ่มเธอดูตื่นกลัว
"ใจเย็นๆ ครับ ไม่มีอะไร งานแรกก็อย่างนี้ พวกพี่ไม่ใช่ยักษ์ใช่มารที่ไหน เราคนทำงานเหมือนๆ กัน" ฮิคาริพยักหน้ารับ
"รู้ไหม เมื่อกี้น้องหน้าบูดมากนะ ตาก็คว้างขวาง พี่งี้นึกว่าซาดาโกะแน่ะ ฮ่าๆๆๆ" คาวายะทำท่าเหมือนคนเมื่อเห็นหน้าผีซาดาโกะในหนังเรื่องเดอะ ริง อันโด่งดัง ทำเอาฮิคาริที่เมื่อกี้เครียดอยู่ยังอดยิ้มไม่ได้

หลังจากนั้นผู้กำกับก็ขออีกหลายเทค บางเทคที่ได้พัก คุณคาวายะก็เข้ามาพูดคุย ท่าจะเป็นคนคุยเก่ง และฮิคาริคงเห็นว่าเป็นผู้ช่วยผู้กำกับเธอจึงรับฟังเป็นอย่างดี บ่อยครั้งก็หัวเราะกับมุขที่หยอกบ้าง
"แหม่ รุ่นพี่ไคโชนี่ก็กะจะเอารางวัลออสการ์หรือไงนะ"

แท้จริงจัดเป็นทริคของผู้กำกับที่ต้องการทำให้ผู้แสดงเริ่มไม่ประหม่ากับกล้องที่อยู่ตรงหน้า และถ่ายออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่งานถ่ายแบบ หรือวิดีโอเนื้อหาทั่วไป
หลังจากช่วงง่ายๆ ผ่านไป ก็เริ่มเข้าสู่คำถามที่หมิ่นเหม่ขึ้น
"ทำไมถึงมาทำงานนี้ครับ ?"
"ก็เวลามีอะไรกับแฟน เขาบอกว่าเราไม่เก่งเรื่องพวกนี้ค่ะ เลยคิดว่า" ฮิคาริก้มหน้าตอบทำท่าอาย สีหน้าที่เริ่มหุบยิ้มแล้ว
"คิดว่าอะไรครับ"
"อยากหาประสบการณ์ให้มากขึ้นค่ะ" ถึงเหมือนจะเข้าเค้าคำตอบที่เธอเคยบอกผม แต่ยังไงผมก็คิดว่ามันเป็นคำตอบที่ออกจะโกหกเกินไปหน่อย
"เคยมีเซ็กส์มากี่คนแล้ว ?"
"คนเดียวค่ะ"
"เวลามีอะไรกันแล้วเสียวมากมั้ย"
"..." ฮิคาริเริ่มทำท่าอึกอัก
"ตอบมาเถอะครับ เวลาโดนแฟนเย็ดเสียวมากมั้ย" ผู้กำกับเริ่มด้นสดคำถามโดยใช้คำหยาบมากขึ้น
"ค่ะ" เธอรับพยักหน้า เริ่มไม่ค่อยกล้าพูด
"พูดให้ชัดๆ กว่านี้หน่อยครับ เดี๋ยวมันไม่เข้าไมค์ ตามบทเลยครับ โดนแฟนเย็ดเสียวมากมั้ย ?" คุณไคโชเริ่มขู่ ทำให้ฮิคาริต้องรีบมองที่กล้อง แต่ตาหันไปมองที่อื่น
"สะ...เสียวค่ะ"
"เวลามีอะไรกับแฟนไม่ค่อยมีพูดคำหยาบแบบนี้เหรอครับ"
"ไม่เคยค่ะ"
"ครับ เวลาเล่นหนังพวกนี้ต้องฝึกพูดให้ชิน ทำได้ไหม"
"ดะ ...ได้ค่ะ"
จากนั้นคุณไคโชก็ให้เธอพูดคำว่า เย็ด เงี่ยน ควย หี ทีละคำ เล่นเอาฮิคาริค่อยๆ หน้าแดงขึ้น
"ดีมากครับ ทีนี้อยากให้ลองถอดเสื้อผ้าได้ไหม" แม้จะเป็นที่รู้กันในบท แต่พอผู้กำกับด้นสดมาได้สักพัก ทำเอาเธอตกใจเล็กน้อยเหมือนกัน ก่อนจะเงียบไปพักใหญ่ แต่ผู้กำกับไม่ได้สั่งคัตปล่อยให้กล้องแช่ต่อไป
"ว่าไงครับ รบกวนถอดเสื้อผ้าได้ไหม"
"ค่ะ" ตอนนี้แม้จะหันหน้าเข้าหากล้อง แต่ใบหน้าของฮิคาริก็พยายามเลี่ยงไปทางอื่น เธอค่อยๆ ถอดเสื้อแขนยาวออก เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตเปิดไหล่ เธอจับที่กระดุมเสื้อสายตามองไปที่ผู้กำกับอย่างลังเล คุณไคโชได้แต่โบ้ยมือ พยักหน้า เป็นสัญญาณว่าให้ทำต่อเลย ฮิคาริจึงค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตถอดลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีขาวบาง ถึงตอนนี้เธอแทบไม่กล้ามองกล้องเลยเอามือพยายามเสยผมแก้เก้อไป ใช้มือสองข้างกอดเอว กอดอกนิ่งพักใหญ่
"ถอดเสื้อกล้าม กับกระโปรงต่อเลยครับ รบกวนมองมาที่กล้องให้มากกว่านี้ด้วย" ผู้กำกับสั่ง
เธอจึงค่อยๆ มองมาที่กล้องอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ จับเสื้อกล้ามเลิกให้พ้นจากศีรษะ เผยให้เห็นหน้าอกได้รูปในชุดชั้นในสีขาวที่แนบชิดเป็นร่องสวยงามขึ้นลงตามการยกแขนและการหายใจเข้าออกที่ถี่ขึ้นจากความรู้สึกตื่นเต้น ก่อนจะปลดตะขอกระโปรงอย่างช้าๆ มองกล้องราวกับวอนขอความเห็นใจว่าได้โปรดบอกให้หยุดเสียที
แต่ก็ไม่มีคำตอบดังกล่าวออกมา บัดนี้ฮิคาริเหลือเพียงชุดชั้นในสีขาวสองชิ้น กับรองเท้าส้นสูงสวมใส่ประดับร่างกายเท่านั้น
"ยืนตรงสักครู่ครับ มองมาที่กล้องด้วย ดีครับ" ฮิคาริยืนกอดเอวในสภาพดังกล่าวก่อนจะยืดแขนตรงมองมาที่กล้องตามคำสั่ง แต่เห็นได้ชัดว่าปฏิกิริยาการบอกของผู้กำกับต่างไปจากการถ่ายภาพแฟชั่นทั่วไป และแม้แต่การถ่ายชุดว่ายน้ำวาบหวามที่เคยทำ
"ถอดที่เหลือด้วยครับ ปลดบราก่อน ตามด้วยกางเกงในครับ เหลือแค่รองเท้าพอ"
ถึงตอนนี้ฮิคาริเริ่มสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกของเธอในการเปลือยกายต่อหน้ากล้อง ทีมงานบางคนเป็นผู้หญิง แต่ส่วนใหญ่ทีมงานของกองถ่ายเอวี ช่างกล้อง ช่างไฟ คนถือไมค์บูม ถือรีเฟล็ค และผู้ช่วยคนอื่นล้วนเป็นผู้ชาย เห็นได้ชัดเธอพยายามไม่มองใครในที่ตรงนั้น
"อีกแป๊ปเดียวครับ งานใกล้เสร็จแล้ว เร็วหน่อยครับ" ตอนนั้นผู้กำกับใบหน้าเคร่งเครียดกระซิบส่งเสียงเบาๆ ทำสัญญาณมือไม้บอกนักแสดงตรงหน้า
ฮิคารินิ่งไปพักใหญ่ แล้วเธอก็หลับตา น้ำตาเธอไหลออกมาจริงๆ และเสียงสะอื้นนั่นไม่ใช่การแสดงแน่ๆ
"คัตไหมครับ" ผู้ช่วยคนนึงเหมือนจะไปถามแบบนั้น แต่คุณไคโชทำมือไม้ปฏิเสธบอก "ดีแล้ว อย่างนี้ดีแล้ว"
ฮิคาริแหงนมองไปข้างบนเล็กน้อย หลับตาน้ำตาไหลประแก้มทั้งสองข้าง
"เร็วด้วยครับ !" ผู้กำกับตวาดแรงครั้งแรกแต่ดูมีอำนาจ เล่นเอาอีกฝ่ายสะดุ้ง และสั่นอีกที เขาสั่งให้กล้องซูมไปจับสีหน้าที่กำลังกลัวและเปื้อนน้ำตาของเธอ เพื่อไม่ให้กล้องนิ่งนานเกิน
ถึงตอนนี้น้ำตายังไหลอยู่บ้าง แต่เธอมีท่าทียอมจำนนค่อยๆ หยุดสั่น มือจับไปที่หัวไหล่เพื่อจะปลอดสายบรา
แต่คุณไคโชยังไม่พอใจ โบกไม้โบกมือให้ตาของฮิคาริจ้องมองยังที่กล้อง
บราถูกถอดออกช้าๆ ก่อนจะปลดตะขอ ปทุมถันรูปสวย หัวนมชมพูปรากฎเพียงชั่วครู่ ฮิคาริก็รีบเอามือข้างหนึ่งปิดป้อง ตอนนั้นเธอมองมาที่กล้องอย่างลังเล ซึ่งผู้กำกับก็ให้ทำต่อไป
ฮิคาริค่อยๆ ใช้มือข้างเดียวที่เหลือดึงกางเกงชั้นใน แต่สุดท้ายก็ทำได้ไม่สะดวกตอนก้มเพื่อดึงมันหลุดจากข้อเท้าออกไป  หน้าอกของเธอจึงถูกเผยมาเต็มตา
เมื่อเปลือยกายหมดจดเหลือเพียงรองเท้าคู่เดียวนั้น เธอรีบใช้มือปิดของสงวนทั้งบนและล่างไว้ตามสัญชาตญาณ และก้มหน้าไม่กล้ามองกล้อง
"รบกวนเอามือออกครับ หน้ามองกล้องด้วย" ดูเหมือนการตวาดหนักๆ เพียงครั้งเดียวก็พอให้เธอรับสภาพตามคำสั่งนั้น ค่อยๆ เอามือออก เผยให้เห็นนมคู่สวย และอวัยวะเบื้องล่างที่มีขนจมอยปกคลุมอยู่รำไร มีน้ำตาที่แห้งประระเรื่อตามแก้ม
"รู้สึกยังไงบ้างครับ กับการถอดเสื้อผ้าเปลือยต่อหน้ากล้อง" ผู้กำกับกลับมายังบทอีกครั้ง เธอก้มหน้าหลบกล้อง
"แปลกๆ ค่ะ รู้สึกอายมาก" ถึงตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่ามีในบทหรือเปล่า ผู้กำกับสั่งเพิ่ม
"รบกวนเดินไปรอบโต๊ะชุดนั้นด้วยครับ" เขาชื่อไปที่โต๊ะสีขาว ที่มีเก้าอี้สองตัวประดับในห้อง ถึงตอนนี้ฮิคาริทำตามคำสั่งสายตาภาวนาให้มันจบเสียที
"ยืนขึ้นไปบนโต๊ะเลยครับ" ดูจากสีหน้าเธอ น่าจะไม่มีในบทแน่นอน ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ได้แค่เพียงแอบดูจากด้านนอกหวังใจให้ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ฮิคาริขึ้นไปบนโต๊ะตัวดังกล่าวเผยให้เห็นสัดส่วนอะร้าอร่ามเต็มตาขึ้น กล้องเองก็เคลื่อนเข้าไป ถ่ายมุมต่ำจับเรือนร่างเธอด้านล่างอย่างใกล้ชิด เธอมองมันอย่างตกใจและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
"อย่าหุบขาครับ ถ่างออกกว้างๆ ครับ" การสะอื้นทำให้สติคงรั้งไม่อยากทำตามคำสั่งอีกครั้ง แต่สุดท้ายเมื่อผู้กำกับทำตาขวางดุอีกรอบ เธอก็ค่อยถ่างขาตามทั้งน้ำตาที่ไหลย้อยลงมาที่ลำคอ
"อ้าออกอีก ย่อตัวลงต่ำหน่อย" คุณไคโชสั่งให้ย่อเข่ากลายเป็นท่าที่ดูน่าหวาดเสียวอย่างยิ่ง
"เอ้า ฉากสุดท้ายแล้ว" เขาบอกเป็นสัญญาณ
"ใช้มือจับตรงหว่างขาครับ แหวกถ่างออก แล้วพูดว่า ยูกิ ฮิเมะ ค่ะ จากนี้ไปขอความกรุณาด้วยค่ะ" ดูเหมือนจะมีแต่ต้องทำให้มันจบๆ ไปเท่านั้น ท่าดังกล่าวทำให้ฮิคาริเกร็งได้ไม่นานต้องทำตามต่อไป
"ยูกิ ฮิเมะ ค่ะ จากนี้ไปขอความกรุณาด้วยค่ะ" อดีตลูกคุณหนูกล่าวทั้งน้ำตา และเสียงสะอื้น พูดประโยคที่นักแสดงเอวีพูดเพื่อแนะนำให้กับคนดูได้รู้จักเธอในฐานะอาชีพใหม่นับแต่นี้
"คัต ดีมากครับ" ทีมงานรีบนำผ้าและชุดคลุมมาปิดบังตัวอีกครั้ง แต่ความเครียดทำให้เธอยังร้องไห้ต่อไปครู่ใหญ่ทีเดียวหลังจากจบการถ่ายทำ
นั่งพักไปสักครู่ ขณะที่ผมกำลังเตรียมออกไปทำงานต่อ ก็ได้ยินเสียงผู้กำกับไคโชพูดขึ้นมา เล่นเอาผมสะดุ้งแทนฮิคาริเลย
"เวลายังมี ฉากเมื่อกี้ขออีกเทคนะ"
"เฮ้ย จะโหดไปหรือเปล่าหา ไคโชซัง" เสียงคุณคาวายะโวยแทน
"อยากได้งานดี ก็ต้องอย่างนี้แหละ"

ผมเดินทางไปติดต่อประสานงานหาโลเคชั่นกับทางบริษัท จึงกลับมาที่กองถ่ายนั้นช่วงใกล้ค่ำแล้ว ช่วงระหว่างนักพักถามคนในกองเห็นว่าเพิ่งถ่ายคลิปและภาพแฟชั่นเสร็จ ภาพที่ออกมาจะถ่ายในชุดเซ็กซี่ หรืออาจมีเปลือย แต่จะเน้นการจัดแสงเงาสวยงาม ได้ยินมาว่าดูเก้ๆ กังๆ ฮิคาริดูเครียด แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีกว่าเดิมหลังจากต้องถูกสั่งให้ถอดทีละชิ้นแบบภาพเคลื่อนไหวหลายเทคเสียขนาดนั้น

ฮิคาริกำลังนั่งคุยกับคุณคาวายะ ผมก็เพิ่งทราบจากคนในกองนี่เองว่าเขาคือนักแสดงชายที่จะมาเล่นงานเดบิวต์ในครั้งนี้ แน่นอนว่าชื่อนี้ก็เป็นชื่อปลอม

"มิน่า" ผมคิดในใจว่าทำไมเขาถึงพยายามคุยดีด้วยกับฮิคารินัก เห็นว่าพอจะทำความรู้จัก และซักซ้อมบทต่างๆ กันมาบ้างแล้ว แต่เพราะนี่คือหนังที่ใช้ทุนต่ำ ไม่ได้มีเวลาเวิร์คช็อพร่วมสัปดาห์ร่วมเดือนแบบหนังทั่วไป แต่ต้องถึงเนื้อถึงตัวกันมากยิ่งกว่า คุณคาวายะจึงพยายามสร้างความคุ้นเคยเพื่อให้อีกฝ่ายไม่ต้องเกร็งในวันพรุ่งนี้ และรอฝึกกับครูสอน

"พรุ่งนี้เราไม่ต้องมีอะไรกันจริงๆ ใช่มั้ยคะ" ฮิคาริถามอย่างเป็นกังวล อีกฝ่ายตอบด้วยชื่อในวงการ
"คืองี้นะยูกิจัง จะเรียกว่ามีอะไรกันจริงๆ มั้ยก็ไม่ใช่หรอก แต่พี่ก็ต้องสอดใส่เข้าไปนะ" คำตอบที่ดูสบายๆ ของเขายิ่งทำให้หญิงสาวเครียดขึ้นไปอีก แต่ก็ได้แต่รับคำ
"อา...ค่ะ"
"ทำตามที่พี่บอกนั่นแหละครับ งานแรกเนี่ยง่ายที่สุดแล้ว งานต่อๆ ไปยากกว่านี้อีก"
"ทำไมพี่ถึงมาทำงานแบบนี้คะ" ถึงจะถามสั้นๆ แต่สายตาของอีกฝ่ายทำให้รู้ว่ามีลักษณะเชิงตำหนิ
"โธ่ ยูกิจัง จนป่านนี้คิดลังเลแบบนี้ไม่ได้นะ เห็นว่าพี่รักสนุกเหรอครับ พี่มองมันเป็นงาน งานทำรายได้ให้เรา เราก็ทำ นี่พี่ทำงานนี้มาเกือบสิบปีแล้วนะครับ พี่ไม่ได้มองเรื่องพวกนี้สนุกแล้ว เราเองก็ต้องมองมันเป็นงานนะครับ มีทีมงานที่เขาต้องเหนื่อยเพื่อทำงานเบื้องหลังไม่รู้กี่คน ถ้างานมันไม่สำเร็จ หรือทำได้ช้ากว่ากำหนด"
"ค่ะ"
"เอาล่ะค่ะ ขอโทษที่มาช้า พร้อมจะซ้อมกันหรือยังคะ" เสียงครูฝึกผู้หญิงเรียกเข้ามาในห้องพักของบริษัท
"อ๊ะ ค่ะ พะ...พร้อมค่ะ"  เธอรับคำอย่างตกใจเล็กน้อย เพื่อเดินไปยังห้องฝึกซึ่งมีหุ่นปลอมที่ตรงหว่างขาของมันมีแท่งควยยางเหมือนจริงตระหง่านอยู่

ผมเองยังเกร็งแทน แต่ถึงตอนนี้จะไปห้ามก็ไม่มีทางเสียแล้ว จะเอาใจช่วยหรือก็ไม่ได้อยากให้เธอทำอะไรแบบนี้เลยแม้แต่น้อย ได้แต่เดินไปเคลียร์งานที่ค้างต่อ

....

ช่วงสายของวันรุ่งขึ้นก่อนถ่ายทำ คุโระเดินทางมาส่งพร้อมเกลี้ยกล่อมพยายามให้อีกฝ่ายรู้สึกดีกับงานที่ทำเสียให้ได้
"ไม่ต้องห่วงนะฮิคาริจัง คาวายะเนี่ย อาคุยมาแล้วเขามืออาชีพมากไม่ทำอะไรเกินเลยกว่าบทแน่นอน" ผมด่ามันในใจ "พ่อง" ไม่เกินกว่าบท แต่ในบทมันก็สอดใส่กันจริงๆ เนี่ยนะ
"อ้อ แล้วเดี๋ยววันนี้ปิดกล้องแล้ว อาจะพาไปซื้อของที่หนูอยากได้นะ แล้วก็..." ฮิคาริดูเหมือนจะกลับมายิ้มตอบรับให้ดูลดอาการเกร็งลงไปบ้าง ทำเอาผมส่ายหน้าด้วยอาการเซ็งเหลือประมาณ

ฉากแรกของวันคือฉากการใช้ปากครั้งแรกของเธอในชื่อ ยูกิ ฮิเมะ คุณคาวายะที่ถอดชุดออกหมดแล้วเหลือเพียงกางเกงในบ๊อกเซอร์ยืนอยู่นอกเฟรมกล้อง ยืนถามฮิคาริที่ใส่เสื้อกระโปรงเข้าชุดลายจุดสีฟ้าอ่อน ราวกับคุณหนูที่หลุดมาจากในการ์ตูนมังงะอย่างไรอย่างนั้น

"เคยใช้ปากมาบ้างหรือยัง"
"เคยลองทำบ้างแล้วค่ะ แต่ทำไม่ได้" ผมฟังแล้วชักสงสัยว่านี่มันเขียนบทตามที่คุโระบอกหรือเปล่านะ
"ทำไมครับ"
"รู้สึกไม่ดีค่ะ อึดอัด"
"ยูกิจัง ต้องลองฝึกนะครับ การโม๊กควยนี่ ผู้ชายจะชอบ เราต้องพยายามมาฝึกกันนะ"
"ค่ะ จะพยายามค่ะ" ถึงจะพูดแบบนั้น แต่สายตาเธอไม่กล้ามองกล้องเลยด้วยซ้ำ
"พูดหน่อยสิครับว่าวันนี้จะพยายามฝึกโม๊กควย" ถึงตอนนี้เล่นเอาอีกฝ่ายหน้าแดงก่ำยิ่งขึ้น พูดด้วยเสียงแผ่วเบา
"จะพยายามฝึกโม๊ก...ควยค่ะ"
จากนั้นคาวายะก็เลื่อนแท่งยางอันเขื่องสีเนื้อให้จ่อตรงหน้าฮิคาริ เล่นเอาอีกฝ่ายตกใจเล็กน้อย
"ลองใช้ปากอมควยปลอมดูก่อนครับ" เห็นได้ชัดว่าเพื่อนร่วมห้องของผมคนนี้ตั้งใจทำตามคำสั่ง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยความรู้สึกอดสูใจ ทำเพื่อให้ทุกอย่างจบไวๆ  สายตาของเธอจ้องมองควยปลอมตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด ปากรูดเข้าออกแต่เพียงบริเวณปลายหยักของมันเท่านั้น
"ลึกเข้าไปอีกครับ ใช้ลิ้นช่วยด้วย" คาวายะใช้มือจับปลายของมันดันลึก กล้องซูมชัดที่ใบหน้าอันเหยเกของฮิคาริ
"แค่กๆๆๆ อ่อก" เธอคายออกมาอย่างสุดทนเมื่อควยยางกระทบเข้าไปจนสุดลำคอ น้ำลายเปียกเยิ้มแท่งอันเขื่องนั้น
"ลองอีกทีครับ อีกทีนึง" ตอนนั้นเองที่คาวายะส่งสัญญาณบางอย่างนอกเฟรมกล้องกับฮิคาริ เธอพยักหน้าพูด
"ค่ะ" การใช้ปากอีกครั้งหนึ่งกับควยปลอมดูราบรื่นขึ้น เมื่อเธอดูดมันให้แน่นขึ้น และใช้ลิ้นช่วยกวาดน้ำลายไม่ให้การทิ่มเข้าออกในปากแรงเกินไปนัก
"ดีมากครับ ทีนี้มาลองของจริงกัน" คาวายะกล่าวพร้อมดึงควยปลอมแท่งนั้น เขาเดินไปในเฟรมภาพ โดยที่ไม่ได้เห็นใบหน้ากล้องถ่ายซูมไปที่หว่างขาของเขาที่ยื่นมายังฮิคาริ
"ถอดให้หน่อยสิครับ" แต่เธอกลับนิ่งนานเอาการ จนอีกฝ่ายต้องพูดซ้ำ
"ถอดให้หน่อยครับ" หญิงสาวรีบปลดกางเกงตัวดังกล่าว ควยลำเขื่องผงาดตรงหน้า
"ใช้มือถอกควยหน่อยครับ" ฮิคาริค่อยๆ ยื่นมือแต่กลั้นใจอยู่นานกว่าจะจับ คาวายะที่ทำสัญญาณมือนอกเฟรมภาพบอกเหมือนให้เธอมองหน้าเขา เหมือนเป็นเทคนิคให้เธอไม่ต้องกลัวและเกร็งมาก
"ช้าๆ ครับ ช้าๆ อูย เสียวดีจริงๆ"  อีกฝ่ายกล่าวบอกบท ขณะที่หญิงสาวมองไปข้างบน กล้องที่ถ่ายมุมต่ำจับใบหน้า และมือที่กำลังถอกควยนั้น
"แรงขึ้นอีกครับ แรงขึ้นๆ อูย มือนุ่มดีจริงๆ ดีครับ ดี"
"ทีนี้ใช้ปากโม๊กให้หน่อยครับ" ฮิคารินิ่งอีกครั้ง สั่นด้วยความรู้สึกเกร็งกว่าเดิมจนคาวายะต้องก้มตัวลงมากระซิบบางอย่าง ตอนนั้นเองที่เธอกลั้นใจหลับตา วางมือทั้งสองชิดแน่นกับพื้น อีกฝ่ายค่อยๆ เลื่อนท่อนแข็งเกร็งนั้นชิดที่ปาก
"อ้าปากสิครับ" หญิงสาวค่อยๆ อ้าปากตามที่สั่ง พอเข้าไปได้แค่ปลายหยัก ฝ่ายชายก็ก้มลงไปลูบผมเหมือนซุกไซ้อย่างอ่อนโยน แต่ทีมงานบอกว่าเป็นการบอกให้ทำตามคล้ายกับตอนควยปลอมจะได้ไม่รู้สึกขยะแขยงมากนัก

ฮิคาริลืมตามองไปด้านบนปะทะสายตาของคุณคาวายะ เช่นเดียวกับมุมที่กล้องจับจ้องใบหน้าของเธอบนมอนิเตอร์กำลังถูกอีกฝ่ายกระทุ้งเข้าปากที่ดูดรับแก้มตอบ บางครั้งที่ดูเหมือนจะสุดคอหอยหรืออึดอัด ก็ถึงกับหลับตาปี๋

ฝ่ายชายที่ร้อง อ๊ะ อ๊ะ อยู่ดึงควยออกจากปาก
"ถอกควยต่อเลยครับ" ฝ่ายหญิงพยายามมองขึ้นไปด้านบนใช้มือทำตาม สายตาของเธอราวกับวอนขอให้ช่วงเวลานี้ใกล้จบเสียที
"ใช้ปาก โม๊กช่วยด้วยครับ อูย เสียวดีจริง" ดูเหมือนจะรู้ตำแหน่งดีขึ้นแล้ว ฮิคาริไม่ได้ก้มลงมองแต่อย่างใด ค่อยๆ เคลื่อนปากตามคำสั่ง
"ใช้ลิ้นวนรอบเลยครับ อูย ดีครับ" คาวายะพูดเหมือนได้อารมณ์จะถึงมิถึงแหล่ แต่เอาเข้าจริง ก็เปลี่ยนให้ฝ่ายหญิงใช้ปากอย่างเดียว สลับกับใช้มืออีกหลายครั้ง เล่นเอาปากของเธอไหลเยิ้มไปด้วยน้ำลาย ผมไม่อยากเชื่อว่าฮิคาริทนเข้าไปได้อย่างไร

"อาห์...จวนแล้วครับ จวนแล้ว" ฝ่ายชายพูดขณะที่อีกฝ่ายใช้มือให้รูดเข้าออกแรงกระชั้นขึ้นตามการเด้งสะโพกเข้าหาบริเวณใบหน้า
"อาซซซซ ออกแล้ว อ๊ะ ออกแล้ว" ลำควยสีคล้ำนั้นกระเด้งขึ้นไปจากมือของหญิงสาว โดนริมฝีปากนิดหน่อย ก่อนจะขยับตัว ใช้มือตนเองกำรูดบริเวณด้านข้างจนเปรอะใบหน้าอันงดงามของฮิคาริ

ใบหน้างดงามนั้นหลับตาตามสัญชาตญาณ  ให้อีกฝ่ายปล่อยน้ำกามจนพอใจ เหนื่อยหอบ ก่อนที่อีกฝ่ายจะบอกให้เธอลองจับน้ำขาวขุ่นที่เปรอะใบหน้านั้นมาดู และทำสัญญาณให้เธอยิ้มมาที่กล้องที่เริ่มถ่ายในมุมปกติ
"เป็นไงบ้างครับ"
"ยังแปลกๆ ค่ะ แต่รู้สึกดีที่ทำได้แล้ว" แม้จะยิ้มให้กล้อง แต่เอาเข้าจริงเชื่อว่าถ้าสังเกตดีๆ ก็รู้แล้วว่าหญิงสาวที่ปรากฎตรงหน้าฝืนยิ้ม นี่แค่ฉากแรกยังยากขนาดนี้ แล้วฉากอื่นๆ ล่ะ ? ผมคิดในใจ

"คัต ดีครับ ฉากหน้าให้ได้อย่างนี้นะครับ"

...................

ระหว่างพักเพื่อถึงฉากต่อไป ผมเองที่อยู่ห้องแต่งหน้าทำเป็นก้มหยิบของ จึงได้ยินบทสนทนาฉากต่อไป
"ขอโทษด้วยนะครับ อย่างที่บอกไปนะครับว่าเป็นงาน"
"ค่ะ หนูเข้าใจ แต่ฉากหน้า..."
"ทำตามที่บอกครับ พยายามปล่อยตัวตามสบาย ถ้ากลัวกล้องก็หลับตา อ้อ แล้วก็นี่" คุณคาวายะว่าพลางหยิบเบียร์มา 4 กระป๋อง
"เอ๋"
"ดื่มเป็นไหมครับ"
"พอได้ค่ะ แต่ดื่มไม่เก่ง"
"ดื่มกันหน่อยครับ จะได้หายเครียด"
"แต่ว่า"
"น่าครับ ถือว่าดื่มเป็นเพื่อนกัน เหลือเวลาตั้งชั่วโมง" จากนั้นคุณคาวายะก็ชวนฮิคาริคุย จากเดิมที่ยังลังเล การสนทนาที่ออกรสก็ทำให้อีกฝ่ายกินเบียร์หมดไป 1 กระป๋อง เธอหน้าแดงระเรื่อ พอช่วงเรียกเตรียมความพร้อมนั่นเอง คุณคาวายะที่ยังดื่มไปเกือบหมดกระป๋องที่สองแล้วก็ชวนดื่มอีกครั้งสุดท้าย
"ดื่มเป็นเพื่อนกันหน่อยนะครับ คัมไป ดีครับ เยี่ยม" ฮิคาริที่ถูกกึ่งบังคับให้ดื่มเบียร์ที่เขาเปิดให้ จึงยกดื่มตามไปอีกอึกใหญ่ ก่อนเดินเข้าฉาก

................................

บนห้องนอนเตียงสีขาวหนานุ่มไร้รอยคราบสกปรก ไฟสว่างสร้างบรรยากาศโปร่งโล่ง แต่นุ่มนวลในที ฮิคารินั่งบนเตียงมีรอยยิ้มเล็กน้อย ท่าทางเธอดูผ่อนคลายกว่าเดิม อาจเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ไม่นานนักนักแสดงฝ่ายชายในชุดสีดำรัดรูปก็ก้าวเข้ามาพร้อมไวเบรเตอร์ขนาดกลางๆ นั่งข้างๆ
"รู้จักนี่ไหมครับ" หญิงสาวส่ายหน้าหลบตาจากกล้อง
"เขาเรียกไวเบรเตอร์ เป็นควยปลอมที่สั่นได้"
"ไวเบรเตอร์ ?"
"ไม่เคยใช้เหรอครับ"
"ไม่เคยค่ะ"
"มันทำให้มีความสุขได้นะลองไหม" คาวายะไม่พูดเปล่าแต่กดปุ่มเสียงวี้ๆ ดัง เขาเดินไปรอบๆ ตัวฮิคาริจนหยุดอยู่ด้านหลัง อีกฝ่ายมีสีหน้าลังเลเมื่อเขาเอาไวเบรเตอร์มาจี้ที่ใบหู ทำเอาอีกฝ่ายหลบ และแอบยิ้มหัวเราะเพราะอาการจั๊กจี้
"เป็นไงครับ"
"ปะ... แปลกๆ ค่ะ"
"ลองดูจุดอื่นๆ นะครับ" ก่อนเขาจะย้ายไปตามซอกคอ ซอกแขนอย่างแช่มช้า เธอนั่งนิ่งปล่อยเขาให้ใช้ไวเบรเตอร์นั้นไต่ไปตามร่างกาย จนมาสะดุ้งมาเมื่อเขาจิ้มไปที่บริเวณหน้าอก
ฮิคาริพยายามหลบ แต่อีกฝ่ายกดไหล่และขยับให้ตัวเข้าหาแท่งสั่นนั้น
"เป็นไงบ้างครับ"
"มะ...มันคือ" ยังไม่ทันจะตอบคำถามจบ อีกฝ่ายก็เร่งปุ่มความแรงของแท่งดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
"อ๊ะ ยะ...อย่าค่ะ อย่า" หญิงสาวเริ่มทำท่าหวาดกลัว ผมไม่แน่ใจว่านี่อยู่นอกบทหรือเปล่า คาวายะเหมือนกระซิบอะไรสักอย่าง ฮิคาริที่น้ำตาคลอหน่วยเล็กน้อยจึงฝืนหลับตาอย่างเสียไม่ได้ มือจิกผ้าปูที่นอนแน่น
ตอนนั้นเองที่อีกฝ่ายค่อยๆ ปลดกระดุมชุดลายจุดนั้นทีละเม็ดๆๆ จนเผยบราเซียร์ด้านใน เขาค่อยๆ ลากเลื้อยไวเบรเตอร์ถูไถตามหน้าอก และร่องอกนั้นอย่างช้าๆ ยิ่งทำให้อีกฝ่ายกำผ้าปูแน่นยิ่งขึ้น

ราวกับได้ใจ คาวายะไม่พูดเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ได้ต่อต้านอะไรมากมาย  เขาค่อยๆ ใช้ไวเบรเตอร์ดันบราเซียร์เลื่อนลงจนเผยหน้าอกงามคู่นั้น หัวนมชูชันตามแรงกระตุ้นอย่างสุดจะกลั้น ก่อนใช้มันถูไถไปบริเวณหัวนม

"อ๊ะ ยะ อย่าค่ะ อย่า ได้โปรด" หญิงสาวส่งเสียงสะอื้นวอนขอ แต่อีกฝ่ายกดไหล่ คล้ายซุกไซ้ซอกหู(แต่ทีมงานบอกผมว่าเป็นการกระซิบบอกบท) ก่อนจะยอมเงียบ คาวายะค่อยปลดกระดุมเสื้อจนหมด เผยหน้าท้องเนียน และค่อยๆ ลากไวเบรเตอร์ไปตามผิวอันนวลเนียนนั้นต่อจนอยู่บริเวณสะดือ

เขาย้ายตัวเองไปอยู่ด้านหลังตอนไหนก็ไม่ทราบ ผมเองก็จ้องมองอยู่ที่มอนิเตอร์ ไม่นานก็ซุกไซ้อีกครั้ง(ทีมงานบอกว่าเป็นการพูดขออนุญาต) แล้วนิ้วมือก็ค่อยลูบไล้หัวนมนั้นช้าๆ ส่วนมือข้างที่ถือแท่งสั่นก็เลื่อนไปบริเวณกระโปรงอย่างช้าๆ

"อย่าค่ะ อย่า" ตอนนั้นเองที่คาวายะใช้จังหวะที่ฝืนตามน้ำตามคำสั่งนั้นเอนอีกฝ่ายลงทาบทับที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงใช้ขาช่วยบังคับให้หญิงสาวที่กล้องจับนั้น จากที่ชิดขาให้ถ่างห่างออกไป ตอนนั้นฮิคาริหลับตานั้น เป็นโอกาสให้เขาถลกกระโปรงขึ้น เผยให้เห็นชั้นในสีครีมกลมกลืนกับผิวเรียบนั้น และลากไวเบรเตอร์มาจ่อเร่งความเร็วให้แรงขึ้น

"อ๊ะ ได้โปรด อย่าค่ะ" คุณคาวายะแช่แท่งสั่นในท่าดังกล่าวนิ่งนาน และกระซิบข้างหู จนอีกฝ่ายหยุดร้อง และสั่น แต่มืออีกข้างก็ตะโบมไปที่หน้าอกทั้งสอง ซึ่งบราเซียร์ถูกเลิกไปแล้วนั้นไม่หยุด บ้างก็ลูบไล้หัวนมอย่างชำนาญ

"เป็นไงบ้างครับ"
"ดะ ดีค่ะ" ผมไม่แน่ใจว่านี่คือบทที่เขาสั่งให้บอกหรือเปล่า สีหน้าของฮิคาริดูตื่นกลัวด้วยซ้ำ
ไม่ถามเปล่า ไม่นานนัก หลังกล้องจับไปที่กางเกงในนั้นที่เริ่มฉ่ำเยิ้ม ฝ่ายชายก็ค่อยๆ ยัดไวเบรเตอร์เข้าไปยังด้านในช้าๆ

"อื๊ออออออออออ" ฝ่ายหญิงไม่อาจร้องห้ามได้ เพราะความรู้สึกที่ดูเหมือนจะหนักหนากว่าเดิม เธอหอบหายใจถี่ เหนื่อยหอบกับการกระทำที่เกิดขึ้น ฝ่ายชายไม่ถามตอบใดๆ ต่อไป หลังจากจ่อแน่นจนอีกฝ่ายเกร็งยกสะโพกขึ้นตาม เขาก็ได้จังหวะเหมาะยกขาขึ้น เกี่ยวกระหวัดกางเกงในให้ค่อยๆ เลื่อนหลุดจากปลายเท้า

"อย่าค่ะ อย่า ฮือออ" ฮิคาริร้องดังลั่น  แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ เขาต้องการให้ฉากดังกล่าวสำเร็จบรรลุเป้าหมาย ใช้มือจ่อไวเบรเตอร์ไปที่ร่องหลืบที่เผยต่อหน้ากล้องนั้น

"อ๊าาาาาาาา ยะ อย่าค่ะ อย่า" ผมไม่แน่ใจว่าด้วยฝีมืออันชำนิชำนาญหรืออย่างไร ไม่นานนักฮิคาริที่ท่อนล่างเปลือยอ้าขาถ่างอล่างฉ่าง เสื้อด้านบนหลุดลุ่ยเผยให้เห็นปทุมถันคู่สวย กำลังถูกลูบไล้หัวนม และไวเบรเตอร์แท่งนั้นถูไถจนสั่นสะท้าน เด้งสะโพกขึ้นลงเป็นจังหวะแรงกระชั้นขึ้น
"อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ" คาวายะไม่รอให้เสียโอกาส ใช้มืออีกข้างช่วย เอานิ้วถูไถบดบี้เม็ดแตดอย่างช่ำชอง จนฮิคาริหญิงสาวในฝันของผมถึงจุดสุดยอดต่อหน้ากล้อง
"อ๊ะๆๆๆๆ อ๊าาาาาาา"
เธอหอบหายใจหนัก มีหยาดน้ำตาไหลเรื่อ หากขายังถ่างต่อหน้ากล้อง

ตอนนั้นผมคิดว่าฉากดังกล่าวน่าจะจบแล้วไม่ว่าเธอจะสุขสมจริงหรือไม่ มันน่าจะจบแล้วแต่ก็เปล่า
คาวายะมานั่งข้างๆ มองขาที่ถ่างนั้น วางไวเบรเตอร์ลงไป แล้วค่อยๆ ยื่นนิ้วกลางปักเข้าไปในขณะที่หญิงสาวกำลังนอนตาปรือ เล่นเอาฮิคาริสะดุ้งไม่ทันตั้งตัว
"ยะ อย่าาาาาค่ะ อย่า" นิ้วนั้นสอดเข้าออกอย่างชำนาญการ  ไม่นานนักหญิงสาวก็ถึงจุดสุดยอดต่อหน้ากล้องต่อเนื่องอีกครั้ง
ตอนนั้นเองที่เขาค่อยๆ ประคองเธอให้ลุกมาเล็กน้อย มือจับขาทั้งสองให้ยังถ่างออก ก่อนจะใช้สองนิ้วแหวกกลีบออกต่อหน้ากล้อง ฮิคาริพยายามเอามือปิด เสียงสะอื้น
"อย่า....ฮือ" แต่ไม่เป็นผล คาวายะปัดมือออก แหวกกลีบสีชมพูให้ปรากฎชัด แม้ในภายหลังมันจะมีโมเสกมาปิดบังอย่างไร แต่การแสดงครั้งนี้ก็สร้างความอับอายแก่หญิงสาวอยู่ดี

"คัต"
ทันทีที่ผู้กำกับไคโชสั่งคัต คนในกองก็รีบนำผ้าคลุมมาปกปิดร่างเกือบเปลือยของฮิคาริที่รีบหุบขา หายใจเหนื่อยหอบ ส่งเสียงสะอึกสะอื้นอยู่ หากภาพติดตาในฉากเมื่อครู่ก็ยังวนเวียนในมโนสำนึกของผมไปอีกครู่ใหญ่

นี่มันอะไรกันผมแทบไม่อยากเชื่อ ? คาวายะทำให้ฮิคาริถึงจุดสุดยอดเข้าจริงๆ หรือนี่ ไม่ใช่แค่เสียงร้อง น้ำเสียงที่เปล่งออกมา หากกลีบชมพูที่ถูกจับบานให้อ้าออก ขมิบถี่เข้าออกต่อเนื่องอีกพักใหญ่ รอบๆ โคนขานั้นเปรอะไปด้วยน้ำหล่อลื่นสีขุ่นฉ่ำเยิ้มอย่างที่บ่งชัดกว่าสิ่งใด

"เมื่อกี้ผ่านแล้วใช่ไหมวะ" คาวายะถามไคโชแบบกระซิบกระซาบ ขณะที่ทางกองค่อยๆ พาฮิคาริเข้าห้องแต่งตัว
"ก็เฉียดฉิวว่ะ ฉากหน้าห้ามเป็นอย่างนี้อีกนะ"
"เป็นยังไงวะ"
"เอ๊า ไอ้นี่ เราทำหนังเปิดตัว จะให้คนมาดูใครร้องห่มร้องไห้แบบนี้มากเข้าๆ มันได้ที่ไหน เสียคอนเซปต์หมด"
"แต่นี่ก็เห็นร้องทุกฉากเลย ได้อยู่เหรอ"
"ปกติก็ไม่ผ่านหรอก แต่เห็นน้องเขาสวยมาก เป็นธรรมชาติดี แล้วก็ดูไร้เดียงสาน่าสงสารอยู่...." ไคโชนิ่งไปสักพัก "แต่ฉากหน้าคิดว่าคงปล่อยไม่ได้ ฝากด้วยนะ"
"เออ งานหนักกูล่ะทีนี้"

ผ่านไปได้สักพัก ผมถูกคุณทาเคชิเรียกตามไปคุยงานที่จะทำ ตอนนั้นเป็นช่วงเที่ยงแล้ว การถ่ายทำจะเริ่มอีกทีช่วงบ่าย ผมไม่เห็นฮิคาริแต่ก็เห็นด้วยกับที่สองคนนั้นพูด ฉากต่อไปผมนึกไม่ออกเลยว่าสภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้าจะทำให้สำเร็จต่อไปได้อย่างไร...

แล้วก็เป็นไปตามคาด ผมคุยงานเสร็จบ่ายสองเข้าไปแล้ว แต่ฟังจากกองของค่าย Max-A ก็เห็นว่ายังไม่ได้เริ่มถ่ายเลย ฮิคาริเครียดมาก และทำท่าจะไม่ยอมเข้ากล้องอีกท่าเดียว

ผมเดินไปที่ห้องแต่งหน้า ฮิคาริในชุดคลุมอาบน้ำ ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา และท่าทางกลัวทุกอย่างรอบข้างกำลังนั่งก้มหน้า มีคุณคาวายะอยู่ข้างๆ พยายามเกลี้ยกล่อมแต่เหมือนจะไม่เป็นผล นั่งนิ่งกันทั้งคู่ ด้านนอกคุณไคโช กับทีมงานที่เตรียมฉากถ่ายทำเสร็จแล้วในห้องด้านนอกนั่งแกร่วอยู่แถวนั้น บางคนเดินวนไปวนมา ท่าทีของผู้กำกับบ่งบอกว่าจะอารมณ์เสียออกไปใส่นางเอกสาวก็ไม่มีประโยชน์ ต้องใช้การเกลี้ยกล่อมอย่างเดียวเท่านั้น

ไม่นานนักคุโระก็มาจากข้างนอก หลังจากมีคนโทรศัพท์ไปตาม มันเดินเข้ามาพร้อมถุงของบางอย่างนั่งขนาบข้างฮิคาริร่วมกับคาวายะ
"เป็นอะไรไปอีกล่ะจ๊ะ คนดีของอา"
"นะ หนูไม่เล่นแล้วค่ะ"
"ไม่ได้หรอก เรามาเป็นนักแสดงแล้วต้องทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ งานนี้ไม่ได้ทำกันแค่คนสองคนนะฮิกกี้จัง"
"ตะ แต่ว่า หนูทำไม่ได้จริงๆ หนูเล่นไม่ได้ ฮือ คุณอาขอร้องล่ะค่ะ" ฮิคาริกล่าวพลางสะอึกสะอื้น ก้มหัวขอโทษสุดตัว
"ใจเย็นๆ นะ ใจเย็นๆ " คุโระพูดพลางทำมือและสายตาเป็นสัญญาณให้คนในห้องออกไปข้างนอกให้หมด ตอนนั้นนอกจากผม คาวายะ และช่างแต่งหน้า-ฝ่ายเสื้อผ้า อีก 2 คน ก็เลยเดินออกมา ปิดประตูแง้มเพื่อยืนมุงข้างนอก

คุโระนั่งคุยกับฮิคาริแบบกระซิบกระซาบค่อนข้างนาน ผมจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง
"รู้ไหม ฮิคาริจัง ถ้าเราไม่เล่นจะเท่ากับผิดสัญญา เราต้องชดใช้เป็นเงินก้อนโตทีเดียวนะ"
"ตะ...แต่หนูไม่อยากทำอีกแล้ว พอคิดว่าหนูต้องมาทำอะไรแบบนี้อีก 6 เดือน มัน...มัน"
"เชื่ออานะ ผ่านวันนี้ไปแล้วจะดีขึ้นเอง"
"รู้ไหมอามีความสุขแค่ไหน ที่ฮิคาริจังทำเพื่ออาขนาดนี้"

...

ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกพักใหญ่จนเหมือนท่าทีเครียดของฝ่ายหญิงผ่อนคลายไปพอควร
"ฮิคาริ อาซื้อเหล้าสาเกมา มากินเป็นเพื่อนอาหน่อยได้ไหม" คุโระหยิบขวดเหล้าราคาถูกที่ผมดูก็รู้ว่าเพิ่งซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อชัดๆ ออกมา เหอะ นี่มันกะจะมอมเหล้าอีกแล้วหรือนี่
ฮิคาริมีท่าทีไม่อยากดื่ม ตอนที่คุโระค่อยๆ รินเหล้าใส่แก้วพลาสติคยื่นให้ เธอแหงนหน้ามองเพดาน ผมแอบเห็นว่ามีหยาดน้ำตาไหลซึมออกมาช้าๆ  ก่อนเธอจะหลับตาเหมือนชั่งใจ
"น่า ทุกเรื่อง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป" คุโระพูดช้าๆ พลางโอบไหล่กระชับเข้าหาตนเอง
"ค่ะ" เธอรับคำ และในที่สุดก็ยอมรับแก้วเหล้านั้น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จวนเจียนจะสี่โมงเย็นแล้ว คนที่เริ่มมุงก็ทยอยกันออกไปสูบบุหรี่เหลือเพียงผมกับช่างแต่งหน้า-ฝ่ายเสื้อผ้าที่ยังแอบดูอยู่ นับจากที่เริ่มคุยเจรจาของคุโระ จนเริ่มกินเหล้าก็ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ชายวัยกลางคนค่อยๆ ชวนคุยเปลี่ยนเรื่องบ้าง และเข้าเรื่องสำคัญคือพาเธอเข้าฉาก พาดื่มเหล้าอย่างช้าๆ  ฮิคาริดูมึนพอสมควรแล้ว แต่ก็ทำให้มีท่าทีนิ่ง ซึม ดูสงบลงไปมาก แล้วจู่ๆ การสนทนาที่คุยกันเบาๆ นั้นก็เริ่มได้ยินขึ้นมา
"ตกลงว่า โอเคแล้วนะ" คุโระโพล่งขึ้นมาพลางลูบไหล่อีกฝ่าย
"ค่ะ คิดว่า..."
"ไหวไหมล่ะ"
"ค่ะ"
"งั้นก็ไปกันเถอะ" คุโระลุกขึ้นนำ อีกฝ่ายค่อยๆ ลุกตามแต่ก็ดูเหมือนดูฤทธิ์แอลกฮอล์จะทำให้โซเซจนต้องรีบประคองนำมาบอกฝ่ายเสื้อผ้าให้จัดชุดแต่งตัวให้ ด้วยสภาพอาการมึนเมาดังกล่าว ฮิคาริแต่งตัว และใช้เวลาแต่งหน้าต่ออยู่นานทีเดียว

ตอนที่ช่างทำหน้าที่แล้ว คุโระก็ส่งสายตาอีกรอบให้ออกไปก่อน ค่อยๆ ประคองฮิคาริเข้าไปยังห้องลองเสื้อ คุณเคอิโกะช่างแต่งหน้ารีบเดินกลับเข้าไปใหม่แอบฟังเสียงจากประตูรีบวิ่งมากระซิบกระซาบ
"โอ้โห แกเอ๊ย ท่าทางกะจะจุดเครื่องให้ติดล่ะทีนี้" ฟังแค่นี้ผมก็เจ็บใจแกมอิจฉาให้คุโระเหลือเกิน
สิบนาทีต่อมานั่นเอง คุโระก็ประคองฮิคาริที่ใบหน้าแดงก่ำจรดใบหู หายใจเหนื่อยหอบเข้ามานั่งยังเตียงในห้องที่เตรียมไว้ถ่ายทำ

ผู้กำกับสั่งเดินกล้องจับท่าทีที่ยังดูตื่นกลัว เขินอายปกติของหญิงสาวสวยตรงหน้า ที่บัดนี้เปลี่ยนชุดมาเป็นเสื้อผ้าที่เลียนแบบชุดนักเรียนมัธยมเอกชน เพื่อจะให้เข้ากับภาพลักษณ์ของเธอ ก่อนที่คาวายะจะก้าวเข้ามานั่งที่เตียงนั้น

ไม่รอช้าฝ่ายชายกระซิบที่ข้างหู ฝ่ายหญิงพยักหน้ารับคำหลับตานิ่ง เห็นได้ชัดว่าฤทธิ์เหล้าทำให้ฮิคาริลดอาการต่อต้านลงไปจากเดิมมาก คาวายะไม่รอช้ารีบเริ่มซุกไซ้จากซอกหู ลำคอ ใช้มือลูบไล้ตามท่อนขา และท่อนขาอ่อน

แม้ฮิคาริจะหลับตานิ่งอย่างพยายามไม่สนใจ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทีปฏิเสธ คุณคาวายะก็เริ่มใช้มือสอดลูบไล้ด้านหลัง และถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น ปากเริ่มซุกไซ้ยังใบหน้าและแก้มนวลใสนั้น

เหมือนทำสัญญาณกันบางอย่าง ฮิคาริค่อยๆ ลืมตาขึ้น ตอนนั้นเองที่เขาก็บดริมฝีปากงามคู่นั้นรุกเร้ารุนแรง สลับกับซุกไซ้จุดๆ อื่นในใบหน้า

สาวงามรีบหลับตาเหมือนกลั้นใจ อีกฝ่ายกระซิบอะไรบางอย่าง เธอจึงยอมอ้าปากเขาไม่รอช้าบดและสอดใส่ลิ้นสนองทันที มือก็ลูบไล้เรือนร่างทุกส่วนสัดอย่างไม่รีบร้อน

ฮิคาริไม่มีท่าทีตื่นกลัวอีกแล้ว อาจเพราะถูกคุโระเล้าโลมจนเกิดอารมณ์ก่อนหน้า ไม่นานใบหน้าก็แดงก่ำ หายใจถี่แรง จากการถูกบดปากเนิ่นนาน

"อือ อืมม์... อืมม์..." เสียงหญิงสาวกับหนุ่มใหญ่ครางในลำคอ ก่อนถอนการจูบนัวเนียนั้น ต้องยอมรับว่าคุณคาวายะช่ำชองเหลือเกินทำเอาฮิคาริเผยอลิ้นเผลอไผลตาม

นักแสดงผู้ชำนาญบดปากต่อ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้ออีกฝ่ายช้าๆ  และรีบจู่โจมที่บริเวณหน้าอกต่อ...

การซุกไซ้เล้าโลมอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ฮิคาริที่ไม่ได้มีท่าทีสนองตอบมากนัก หรือจริตจก้านร้องครางเหมือนนักแสดงหญิงคนอื่น แต่บรรยากาศเงียบๆ มีเสียงสนองอารมณ์เพียงนิดหน่อย ก็สร้างสภาพที่ทีมงานต่างจดจ้องฉากนี้กันไม่วางตา มีเพียงตากล้องสองกล้องที่เตรียมปรับเปลี่ยนมุมตามคำสั่งที่วางไว้

ไม่นานฮิคาริก็ถูกทาบทับ ทั้งตัวเหลือเพียงชุดชั้นในสีขาวปกปิด คุณคาวายะก็มีเพียงกางเกงในสีดำรัดรูปที่ท่อนเอ็นตุงขึ้นมาจนนูนเด่น

หญิงสาวโฉมสคราญคนหนึ่ง ผิวดูกลมกลืนไปกับผ้าปูที่นอนสีขาวนั้น หลังจากถูกซุกไซ้หน้าอกขึ้นไปหาซอกคอ ฝ่ายชายที่สบโอกาสก็จูบปากอีกครั้ง ค่อยๆ ใช้มือดึงบราเซียร์ด้านหน้าลงมาเผยให้กล้องเห็นหน้าอกคู่สวยพักหนึ่ง แล้วไม่นานเลย เขาก็เริ่มใช้ลิ้นวนเลียอย่างเมามัน

"อ๊ะ อาาาาา" ฮิคาริที่ตอนนี้นอกจากจะไม่ได้ร้องห้ามแล้ว เริ่มหลับตาพริ้มร้องครางเบาๆ สนองการกระทำดังกล่าว อีกฝ่ายก็ใช้นิ้วบดบี้ร่องเนินนูนจากภายในนอกไม่หยุด และไม่ลืมจะใช้มือค่อยๆ แหวกขาออกเผยความขาวที่ซอกโคนขานั้นให้กล้องจับ

เมื่อรับรู้ถึงอาการตอบสนองจากผ้าปกปิดที่เริ่มเปียกชื้นนั้น ฝ่ายชายที่ช่ำชองก็ไม่รู้ช้า พริบตาก็ถอดกางเกงในออก ใช้ปากโลมเลียหน้าท้องไล่เลื้อยมายังสะดือ จนถึงของสงวน แม้ฝ่ายหญิงจะเริ่มมีท่าทีอายมากขึ้นแล้วจนบิดขา และเอามือมากัน แต่ก็คงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำเอากำลังปัดป้องลดน้อยลงเกินกว่าจะฝืน เมื่อฝ่ายชายดึงมือออกช้าๆ ใช้ตัวและท่อนขาขนาบข้างในไม่ช้าก็จับขาคู่งามนั้นกางออก และบดบี้ลิ้นตวัดเข้าออกทันที

"อ๊ะ อึ๊ อ๊ะ อย่าค่ะ อย่า" แต่คุณคาวายะไม่ได้สนใจอะไรอีก และไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนต่อไปแล้ว ลิ้นยังทำหน้าที่บ้างก็พร้อมกับนิ้วที่ล้วงเข้าออกร่องรูสวาทตรงหน้า อีกมือตะโบมไปตามท่อนขา สะโพก

"อ๊ะๆๆ ยะ อย่าาาา" เสียงร้องของฮิคาริแม้จะร้องห้าม แต่ก็เต็มไปด้วยอารมณ์รัญจวนจากการกระทำนั้น คาวายะไม่รอช้าใช้สองมือขึ้นไปลูบไล้หัวนม บีบเคล้นเต้าคู่สวยช้าๆ  ลิ้นก็ฉกไม่หยุด บางครั้งก็ไล่เรื่อยไปหาร่องก้น จนสาวงามถึงกับยกสะโพกเด้งขึ้นตามการเล้าโลมนั้น

"อ๊ะๆๆๆๆ " สะโพกของฮิคาริเด้งรับลิ้นนั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ แรงขึ้นๆ
"อ๊าาาา อ๊ะๆๆๆๆ อาาาาา " ในที่สุดท่ามกลางความมึนเมา อารมณ์ของเธอก็ถูกปลุกจากการรุกเร้า และถึงจุดสุดยอดในที่สุด
ขณะที่หญิงสาวกำลังเหนื่อยหอบแหกขาเพรียว หลับตานิ่งเอามือปิดใบหน้า คาวายะก็ทำหน้าที่ของตนต่อประคองอีกฝ่ายขึ้นมากกกอด หอมแก้ม ขณะเดียวกันก็ให้มองเห็นสภาพของกลีบแคมที่เปียกชุ่มผ่านความเสียวด้วยลิ้นมาหมาดๆ นั้นกับตาจะๆ ก่อนเขาจะใช้มือคลึงเคล้นยังร่องหลืบนั้นต่อเนื่อง
"ยะ...อย่า อ๊ะ อย่าคว้านค่ะ อย่าาาา" คาวายะไม่ได้ทำเปล่า แยงซ้ายแยงขวาวนช้าก่อนจะดึงขึ้นมาให้เห็นที่นิ้วเขามีน้ำขุ่นติดมือขึ้นมาให้เห็น
"ดูสิครับ เยิ้มเลย" ไม่ต้องพูดคำถามอื่นใด เหมือนเป็นสัญลักษณ์ที่แทนทุกคำตอบให้หญิงสาวไม่กล้าเอ่ยห้ามต่อ ฝ่ายชายจึงเร่งเร้าใช้นิ้วบดบี้เบื้องล่างต่อ
"อ๊ะๆๆๆๆ อ๊าาาาาาา อาาาาห์" ไม่นานหลังจากนั้น นิ้วของคุณคาวายะก็ทำเอาฮิคาริเด้งรับ หลับตาพริ้มถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง มีน้ำกระเซ็นเล็กน้อยจากนิ้วที่กระตุกเข้าออกไม่หยุดนั้นด้วย
หญิงสาวสวยในสภาพเปลือยกายใช้มือยันกายรับนิ้ว หอบหายใจได้ไม่นาน คาวายะก็ยืนขึ้นบนเตียงประชิดใบหน้าอีกฝ่าย
"ผมทำให้แล้ว ทำให้บ้างนะ" เธอหันมองอย่างลังเล ก่อนเขาจะลงคุกเข่าลงไปจับมือของหญิงสาวให้ช่วยลูบไล้ท่อนแข็งใต้ร่มผ้านั้น และปลดมันออกมาให้คว้าจับถอกเข้าออก
ฮิคาริที่ผ่านฉากดังกล่าวมาแล้ว ยังทำต่ออย่างช้าๆ เอียงอาย ต้องพูดสอน
"ถอกควยแรงๆ ครับ กำพอหลวมๆ ดีครับ นั่นล่ะครับ อูย" ก่อนจะระดมจูบอีกฝ่าย บดบี้ริมฝีปากเพื่อไม่ให้กลัวและเกร็ง
"อือ อื๊มม์มมม" ทำได้ไม่นานคาวายะพอเห็นอีกฝ่ายเริ่มครางสนองก็ยืนขึ้น
"ดูดควยให้หน่อยสิคนสวย" แม้ฮิคาริจะยังดูเกร็ง แต่ก็ยินดีปลดกางเกงในนั้นออกจากขาช้าๆ อีกฝ่ายก็เร่งเร้าจ่อแท่งชูชันนั้นเข้าที่ใบหน้าประชิดขึ้น
"อ้าปากเลยครับ" หญิงสาวอ่อนประสบการณ์ก้มหน้าหลบตาไม่มอง อ้าปากตามคำสั่ง อีกฝ่ายก็สอดให้เธออมทันที เด้งสะโพกเข้าออก สอนสั่งต่อไป
"อูย ใช้ลิ้นกวาดให้ทั่วเลยครับ อูยดีครับ ดูดแรงๆ ครับ ดูดแรงๆ อูย" ตอนนั้นคุณไคโชตัดสินใจให้กล้องซูมแทนการจะถ่ายมุมสูงแบบเดิม เพื่อไม่ให้ขัดจังหวะ
"อูย ดูดควยอย่างนั้นครับ อูย เสียวจริงๆ" ผมไม่รู้ว่าคุณคาวายะเสียวจริงหรือเป็นแค่การแสดง แต่คำพูดแสดงอารมณ์นั้นก็ทำให้ฮิคาริที่ก้มหน้าปากอมควยต้องหันมองหน้าดูอาการดังกล่าว
อัดลำควยได้ไม่นานคาวายะก็ถอนออกจากปาก ยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็รีบใช้ปากบดบี้จูบอีกฝ่ายอย่างหนักหน่วง เล่นเอาฮิคาริดูงงไปเหมือนกัน

เขากระซิบข้างหูอีกครั้ง หญิงสาวพยักหน้า ค่อยๆ ยอมเอนไปตามแรงมือที่กดไหล่จนนอนราบกับเตียง ฝ่ายชายแหวกขาขาวคู่นั้นถ่างออก มองตาแทนคำพูด หญิงสาวหลับตายอมรับการกระทำที่จะเกิดขึ้น และเป็นช่วงที่ใช้โอกาสสวมถุงยางไม่ให้เห็นผ่านกล้อง
ที่มอนิเตอร์กล้องถ่ายข้างในมุมสูง ให้เห็นคาวายะค่อยๆ จับท่อนเอ็นสอดใส่ร่องหีของฮิคาริ เธอหลับตาปี๋ร้องบอก
"ค่อยๆ ค่ะ มันเจ็บ" ไม่น่าแปลกเทียบกับมาตรฐานผู้ชายญี่ปุ่นทั่วไป ท่อนเอ็นของคุณคาวายะก็จัดว่าใหญ่ทีเดียว
นักแสดงหญิงยังนอนนิ่งยินยอมกับการกระทำนั้นอย่างไม่ไหวติง แต่ฝ่ายชายยังคงรุกเร้าต่อไป เด้งสะโพกช้าๆ ลูบไล้ตามเนื้อตัวอีกฝ่ายทั่วเรือนร่าง ก่อนจะกกกอด และบดจูบที่ริมฝีปาก กระแทกกระทั้นรูสวาทแรงขึ้นถี่ยิบ

"อึ๊ อื๊อ ว้ายยยย" ฮิคาริร้องครางได้ไม่นาน อีกฝ่ายก็จับเปลี่ยนยกขาเพรียวคู่นั้นขึ้นพาดไหล่ จนสะโพกกลมกลึงเผยที่กล้องอีกตัวที่จับซูมให้เห็นควยลำใหญ่แทงเข้าออกร่องรูของเธอ มิหนำซ้ำเขายังจับศีรษะเธอยกขึ้นให้มองเห็นการกระทำของตนเองดังกล่าว พลางพูดอย่างเสียวซ่าน
"อูย ดูสิครับ ควยผลุบเข้าผลุบออก หีเยิ้มเลย ตอดควยผมจริงๆ โอย" แม้ใบหน้าที่มองจะเหยเก ไม่ได้มีความสุขสักนิด แต่คำพูดและการกระทำที่แสนลามกนี้ก็เหมือนจะทำให้ฮิคาริยอมศิโรราบตามไปอย่างช่วยไม่ได้ กล้องจับที่การกระทำดังกล่าว เห็นเป็นใบหน้าของเธอที่มองดูท่อนเอ็นกระแทกเข้าออกร่องรูของเธออย่างช้าๆ ชัดเจน กัดฟันแน่นท่าทางอึดอัด

จากนั้นคุณคาวายะก็จับฮิคาริเล่นท่าไปตามใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ขัดขืนอีกต่อไป ตั้งแต่ตะแคงข้างยกขา โก้งโค้ง คร่อมจากด้านหลัง  ก่อนจะยกเธอขึ้นทับ และพูดจากด้านหลังว่า
"ขึ้นให้หน่อยสิครับ" น่าจะเป็นฉากที่ผ่านการพูดคุยกันมาบ้างแล้ว ฝ่ายหญิงจึงพยายามกระแทกตนเองทาบทับท่อนเอ็นของอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียง แต่ก็เป็นไปอย่างเก้ๆ กังๆ
จังหวะดังกล่าวทำให้คุณคาวายะตัดสินใจล็อกแขนฮิคาริจนล้มตามไปบนเตียง ท่อนขาบังคับให้สองขาขาวนั้นแหวกออก เผยร่องรูที่ถูกควยสอดใส่จะๆ เต็มกล้อง และทำหน้าที่กระแทกสะโพกราวกับลูกสูบต่อเนื่องถี่ยิบ
"อ๊ะ อ๊ะ อย่าค่ะ อย่าาาาาา" จังหวะการกระแทกกระทั้นที่ต่อเนื่องยาวนาน ทำเอาฮิคาริที่พยายามฝืนอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ถึงกับหน้าแดงก่ำ และในที่สุดก็ห้ามไว้ไม่ได้
"อ๊ะๆๆๆๆๆ อ๊าาาาาาาา" เธอถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง ขาสั่นเกร็ง อาการที่เด่นชัดคือสะโพกที่ยังเผลอร่อนรับควยนั้นตามอย่างช้าๆ สุดจะทานทน และคราบขาวๆ ที่ติดตามถุงยางของคาวายะ
"เป็นยังไงบ้างครับ"
"สะ...เสียวจังค่ะ" ทำไปได้อีกสักพัก คาวายะก็เปลี่ยนท่าจัดการคร่อมทับ อัดสะโพกต่อเนื่องถี่ยิบ และในที่สุดก็ถึงฉากสำคัญ
"อาซซซซ แตกแล้ว อาซซออกแล้ว" เขารีบดึงถุงยางออก และเดินเข้าไปบริเวณเบื้องหน้าหญิงสาว ใช้มือชักว่าว น้ำอสุจิกระเด็นติดเต็มหน้าอก และเปรอะบริเวณลำคอ

หลังเสร็จกิจ นักแสดงชายยังคงทำหน้าต่อ เอามือเช็ดน้ำกามที่เปรอะนั้นให้อีกฝ่ายดู และกระซิบให้มองไปที่กล้อง
ภาพหญิงสาวสวยเพื่อน ม.ปลายของผม กำลังเปลือยกายขาวอล่างฉ่าง ผมเผ้ายุ่งเล็กน้อย เอามือปิดร่างกายเท่าที่จะพึงกระทำได้ มองกล้องเหนื่อยหอบ สายตาดูอ่อนล้านั้นกลับทำให้เกิดอารมณ์อย่างน่าประหลาด กล้องแช่ภาพนี้นิ่งนานก่อนจะซูมออก

"คัต ผ่าน !" คุณไคโชสั่ง ทีมงานรีบเข้าไปจัดแจงกับนักแสดงเช่นเคย

ผ่านไปครู่หนึ่ง ขณะกำลังพัก คุณไคโชก็เดินมาพูดคุยกับฮิคาริที่ยังสีหน้าไม่ดีนัก
"เดี๋ยวคงต้องขอถ่ายฉากปิดท้ายนะ ไม่มีอะไรมาก เราต้องพูดหน้ากล้องว่ารู้สึกยังไง ก็พูดไปตามบทที่ให้ไว้"
"ค่ะ" หญิงสาวก้มหน้ารับ   แม้คุณคาวายะที่อยู่แถวนั้นจะแย้งว่า
"เฮ้ย ถ่ายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่เหรอ"
"เอาน่า ขออีกเทคนึง แล้วรีบออกมานะครับ"

ฮิคาริลุกไปอย่างสีหน้าบูดบึ้ง ทันทีที่เปิดประตูก็พบทีมงานพร้อมหน้ากันหมด โดยมีคุณไคโชถือช่อดอกไม้เล็กๆ มาให้
"เซอร์ไพรส์ !!!" ทุกคนพูดพร้อมกัน
"ขอบคุณสำหรับการถ่ายทำวันนี้ด้วยครับ" ทีมงานทุกคนโค้งคำนับแต่พองาม ทำเอาฮิคาริน้ำตาคลออีกครั้ง
"อะไรกันเนี่ย ร้องไห้บ่อยจัง ขี้แยจริง" คุณคาวายะแซว พร้อมกับที่คุณไคโชมอบดอกไม้ให้กับมือ ฮิคาริก้มหัวรับขออภัยกับสิ่งที่เธอทำไว้ก่อนหน้า
"ขอโทษจริงๆ ค่ะที่ทำให้ทุกคนเสียเวลา เหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น จากนี้ไปฉันจะทำงานให้ดีกว่านี้ค่ะ"

-------------------------------

งานเลี้ยงเล็กๆ วันนั้น ทีมงานพาไปเลี้ยงที่บาร์แห่งหนึ่ง ฮิคารินั่งกับคุโระได้ครู่ใหญ่ก็ขอตัวลากลับ
ช่วงดึกนั้นเองที่ทีมงานพูดคุยกันเรื่องงานมากขึ้น ผมเองก็แอบนั่งฟังแถวนั้น
"ว่าไงวะ เด็กใหม่ของเรา" ไคโชถามคาวายะ
"ก็...ถ้าไม่นับว่าหน้าตาสวยมากนะ งานหน้าได้มีปัญหาแน่"
"เออ เห็นด้วย เหนื่อยทีมงานแน่นอน"
"คงต้องหาวิธีช่วยละ สัญญาจากที่คุยก็เห็นว่าตั้งหกเดือน มันจะไม่รอดเอา"
ผมฟังแล้วก็นึกเห็นตามนั้น นี่ขนาดงานแรก แล้วงานหน้าล่ะฮิคาริจะปรับตัวอย่างไร ?



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
2 เดือนผ่านไปแล้วหลังการถ่ายทำเดบิวต์ของฮิคาริ ผมติดตามข่าวคราวครั้งล่าสุดในวันเปิดตัวหนังเรื่องแรกของเธอที่จัดขึ้นในห้องจัดงานของโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ย่านกลางเมือง ข่าวที่ประชาสัมพันธ์ตามเว๊บและนิตยสารก็ทำให้มีบรรดาโอตาคุมาร่วมไม่น้อยต่อแถวรับลายเซ็น บางคนก็หน้าตานิ่งๆ ไม่พูดไม่จา บางคนก็ท่าทางระริกระรี้เหลือเกิน

"แม่งเอ้ย ตัวจริงขาว สวยกว่าบนปกอีกสัด" โอตาคุรูปร่างท้วมพึมพำกับตัวเองเสียงหายใจหื่นๆ ขณะต่อแถว เล่นเอาผมส่ายหน้าด้วยความปลง

ผมไปงานด้วย พร้อมความระแวดระวังว่าจะมีใครที่รู้จักฮิคาริมาโผล่ในงานด้วย ซึ่งก็มีแต่คาโตะที่ได้ยินข่าวคราวจากผมมาบ้าง และติดตามรู้สถานที่จัดงานเองในที่สุด เล่นเอาผมรั้งตัวมันไว้แทบไม่ทัน

"เฮ้ย อย่าเข้าไปต่อแถวเชียวนะ"
"เออ กูมาแค่ดูเฉยๆ ว่าเป็นยังไง" คาโตะหัวเราแหะแหะ
"ไม่ได้ไปบอกใครอีกใช่มั้ย"
"โอย ไม่ได้บอกหรอก ยังกับว่าตอน ม.ปลายพวกเรามีสักกี่คนวะที่คบด้วย" ก็จริงอย่างที่คาโตะพูด ในชั้นปีนั้น ส่วนใหญ่ก็ลูกคนมีเงินทั้งนั้น บางคนได้ข่าวว่าก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง เรียนต่างประเทศ คงไม่มีเวลามาสนข่าวดาราเอวีอะไรแบบนี้นัก
"เออๆ ก็ดีแล้ว สงสารเขาหน่อยเถอะว่ะ" ผมทำท่าดุใส่
"เฮ้อ...ไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันนะ ว่าดาวโรงเรียนรุ่นเราต้องตกต่ำถึงขนาดนี้" คาโตะพูดแบบปลงๆ

จู่ๆ ผมหวนนึกถึงคำพูดของคาโตะ เพื่อนสนิทสมัย ม.ปลาย ขึ้นมาระหว่างเดินทางไปถ่ายทำหนังเอวีอย่างต่อเนื่องหลายซีรี่ส์ หลายเรื่อง เก็บตัวตามต่างจังหวัด เปลี่ยนสถานที่มาหลายแห่ง เรียกได้ว่าทำงานไม่รู้วันรู้คืนกันเลยทีเดียว เผลอเพียงอึดใจ เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว สังคมคนที่นี่ก็เป็นเช่นนี้ เกาะเกี่ยวกับงานและการหาเงินจนไม่ได้มีเวลาส่วนตัว หรือความรื่นรมย์อะไรมากนัก แม้แต่ฮิคาริเองที่เคยเป็นลูกเศรษฐีขนาดนั้น โชคชะตาก็ต้องเข้ามาสู่วงจรเช่นนี้

พอเดินทางกลับมาถึงที่บริษัท ผมก็เห็นแคตาล็อกของค่าย Max-A ในห้องทำงานทิ้งไว้จึงหยิบขึ้นมาดู บนปกเป็นรูปดาราเอวีหน้าใหม่...ฮิคารินั่นเองบนปกงานเดบิวต์ในชื่อยูกิ ฮิเมะ ที่เน้นถ่ายใบหน้าสวยๆ ของเธอเต็มที่ อีกเล่มของเดือนใหม่ล่าสุดเป็นงานเรื่องที่สองของเธอ ภาพลักษณ์การแต่งกายยังคงคล้ายคลึงกับเรื่องแรก แต่เปลี่ยนเป็นชุดแซกแขนกุดมีรอยยิ้มปรากฎต่างออกไปจากปกแรกที่ดูลึกลับ เป็นการถ่ายภาพขนาดกลางให้เห็นด้านหลังของแมกไม้เขียวชอุ่มรับช่วงหน้าร้อนของปี ในชื่อเรื่องว่า "ยูกิ ฮิเมะ คุณหนูคนงามเรียนเรื่องเซ็กส์" เรียกได้ว่าขายภาพลักษณ์กันเต็มที่

จะว่าไปผมเองก็ยังไม่ได้มีโอกาสดูงานของฮิคาริเลย คิดแล้วใจก็เต้นรัว อดจินตนาการตามไม่ได้ และไปขอยืมจากฝ่ายจัดจำหน่ายมาดูจนได้

กลับห้องพักรูหนู ความที่ไม่เน้นข้าวของเครื่องใช้ที่เกินความจำเป็น ผมยังต้องไปขอยืมเครื่องเล่นดีวีดีของคุณอุชิโอะ คนข้างห้องเพื่อเปิดดูด้วยกัน ระหว่างดูแกเลยพากย์ตามเป็นพักๆ ไปอย่างช่วยไม่ได้

งานเดบิวต์ของฮิคาริต้องยอมรับว่ามีการจัดแสงต่างๆ ช่วยให้บรรยากาศดูนุ่มนวลขึ้นมาก ฉากเปิดตัวก็เพิ่มดนตรีเข้ามาคลอสร้างบรรยากาศแทนเสียงสั่งของผู้กำกับที่หายไป จากเดิมที่ผมคิดว่าคนจะเห็นภาพที่เธอร้องห่มร้องไห้อยู่มาก ก็มีให้เห็นไม่มากนัก ใช้การตัดต่อช่วยเน้นฉากเซ็กส์เข้าช่วย น้ำตาของเธอก็เลยกลายเป็นเพิ่มความเร้าใจให้คนดูแทนที่เสียอย่างนั้น

"อูว แม่หนูนี่เด็ดจริง ความสวยความขาวชนะเลิศว่ะ มีของดีอย่างนี้มาแบ่งกันอีกนาเคอิโงะคุง แหะๆๆ" ผมได้แต่ยิ้มแก้เก้อ พยักหน้ารับตาม
"เหมือนยังใช้ปากไม่เป็นเนอะ ว่าไหม แต่แบบนี้ก็ได้อารมณ์อีกแบบนะว่าไหม"
"อื้อหือ กลีบชมพู โคกอย่างสวย อยากเอาโมเสกพวกนี้ออกจริงๆ ให้ตาย"
"ยังดูท่าทางไม่เป็นงานเลยนะ แต่ได้ความใสว่ะ ฉากเปิดแม่งมีร้องไห้ด้วย ทำจิ้นไปไกลเลยเว้ย ถ้าเป็นการแสดงนี่อย่างเนียน" ท่าทางคุณอุชิโอะจะอินพอสมควร แต่เพราะความที่เรื่องเปิดเน้นมุมกล้องหลายๆ มุมปิดบังหน้าตาอมทุกข์ของฮิคาริ บางฉากแกก็กดรีโมตเร่งให้ไปฉากสำคัญอื่นๆ แทน
"ของมีให้เลือกต้องรีบดู แหม่ ถ้าไม่เกรงใจนี่อาจเสียน้ำไปแล้วว่ะ ยังไงคืนนี้ขอยืมต่อนะ"

"ไหนๆ มาดูพัฒนาการกันต่อสิเรื่องสองเป็นไง" มาถึงเรื่องที่สองที่คุณอุชิโอะไม่รอช้า เปิดตามต่อทันที

ฉากแรกถูกจัดบรรยากาศมาให้เป็นงานเลี้ยงหรูแห่งหนึ่ง ฮิคาริ หรือ ยูกิ ฮิเมะ ในชุดราตรีสีขาวราวกับเจ้าหญิงกำลังทำท่าพูดคุยกับแขกในงาน คุยได้ไม่นานก็พูดคุยออกรสกับชายหนุ่มหน้าตาคมคายคนหนึ่งในชุดสูท ท่ามกลางเสียงพูดคุยจอแจ ไม่นานก็ตัดมาที่ห้องนอน ชายหนุ่มหญิงสาวกำลังคุยกันถูกคอได้อีกสักพัก ไม่นานก็กอดจูบกันอย่างเร่าร้อน ที่ทำเอาผมแปลกใจคือไม่เห็นท่าทางอมทุกข์ หรือเกร็งแบบเรื่องแรกของเธอแล้ว แม้จะไม่ได้มีบุคลิกเป็นสาวร่านสวาท แต่ก็ดูดปากแลกลิ้นกับนักแสดงฝ่ายชายบดกันถึงพริกถึงขิงทีเดียว

ทั้งคู่เล้าโลมกันเช่นนั้นจนเพียงชั่วอึดใจเสื้อผ้าที่ตัดเย็บมาอย่างสวยหรู รวมถึงชุดชั้นในก็ไปกองกับพื้น ไม่นานฝ่ายชายก็เริ่มละเลียดเต้านม เลื่อนลงมายังเบื้องหลัง ยูกิที่หน้าตาแดงก่ำอ้าปากร้องรับการกระตุ้นนั้นได้อารมณ์ร้อนแรงเหลือประมาณ

"อา ดีค่ะ เสียวจัง"
"คุณหนูนี่เร่าร้อนจริงๆ นะครับ" เสียงฝ่ายชายช่วยบ่งบอกสถานะของเธอในฉากดังกล่าว ยิ่งทำให้ผมจินตนาการไปไกลลิบ

ชายหนุ่มลงลิ้น ใช้นิ้วช่วยแยงสลับให้กับหญิงสาวสวยที่แบะขาอ้ารับแต่โดยดี จนโคกฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำลาย และคราบคาวสวาทของตน เขาดึงมือมาจับขาที่แบะออกนั้นให้สูงขึ้น และอ้าถ่างยิ่งกว่าเดิม เธอยินยอมแต่โดยดี
"อา อ๊า ตรงนั้นแหละค่ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อย่าหยุดค่ะ อ๊ะๆๆๆๆ อ๊าาาาาา" ในที่สุดคุณหนูยูกิ ฮิเมะก็ถึงจุดสุดยอด  นักแสดงชายเลียซ้ำท่าทางเอร็ดอร่อย พร้อมๆ กับที่ฝ่ายหญิงแอ่นโคกเสนอสนองหลับตาพริ้ม ร้องซี๊ดปาก แสดงถึงความสุขสมที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

เป็นอีกฝ่ายบ้างที่ยืนอวดลำกล้องยาวใหญ่เสนอตรงหน้ายูกิ ใช้เวลาไม่นานเธอก็ค่อยๆ ใช้ลิ้นตวัดเลียตามท่อนแข็งเกร็งนั้นช้าๆ กล้องจับภาพสีหน้าท่าทางอันท้าทายอีกฝ่าย บ้างหลับตาพริ้มให้เห็นถึงความเต็มใจกับการโม้กให้ บางช่วงขณะที่เธอกำลังดูดจนแก้มตอบนั้น ก็ตัดไปเป็นภาพมุมต่ำให้เห็นชัดเจนว่าหญิงสาวดูดอมจะๆ จริง น้ำลายไหลย้อยที่ซอกคาง ขยับปากชมพูแก้มขาวใสเข้าออกตัดกับควยสีน้ำตาลคล้ำนั้น ก่อนจะตัดไปยังส่วนสะโพกขาวสวยได้รูปกำลังโก้งโค้งจนเห็นเป็นกลีบเด่นบนเตียง เผยร่องสวาทที่ยังเปียกแฉะจากการถูกโลมเลีย และแม้จะมีโมเสกปิดบังแต่ส่วนบนกล้องก็ซูมจนเผยให้เห็นรูก้นชัดเจน

"เหยดดด ร่องตูดแม่งยังเนียน" คุณอุชิโอะพูดอย่างหื่นๆ ผมเองตั้งแต่ดูฉากนี้ก็ตกใจ และเกิดอาการ "ขึ้น" ตามเช่นกัน เพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะเจอฉากที่เกินคาด เห็นฮิคาริในสภาพที่ยอมเล่นมากขึ้นกว่าเดิมขนาดนี้

"อาห์ อูย ดูดควยอย่างนั้นครับ ดีครับคุณหนู" ฝ่ายชายยังแสดงความสาแก่ใจ จับผมเธอให้โยกเข้าออกแรงขึ้น เร็วขึ้น ก่อนจะเริ่มร้อนได้ที่ ดึงควยออกจากปากของอีกฝ่าย ถูไถไปยังใบหน้าสวยนั้น จับร่างนอนหงายเตรียมเข้าสู่เกมพิศสวาทอย่างต่อเนื่องจับลำควยจ่อเข้าร่องรูที่อ้ารับ ก่อนจะสลับตำแหน่งเปลี่ยนท่า และจับเปลี่ยนมุมในห้องดังกล่าวอีกหลายจุด ทั้งจับชิดตรงผนังกำแพง โซฟา หรือโก้งโค้งตรงเก้าอี้รับแขก ฉากที่เอาผมอึ้งไปเลยคือเมื่อฝ่ายชายนั่งบนโซฟาหนังสีดำแหกขาให้ฮิคาริคร่อมเพื่อขึ้นให้ เธอใช้ขาเหยียบ และมือยันบนโซฟาขย่มขึ้นลง เห็นท่อนควยเข้าออกกันแทบจะเต็มจอ ก่อนจะมาถึงช่วงท้ายที่ฝ่ายชายพลิกมาทับเรือนร่างงามอารมณ์หยาดเยิ้มนั้น กระแทกรุนแรงก่อนจะถึงจุดสุดยอด

"อ๊ะๆๆๆๆ อ๊ากกกก ออกแล้ว" ก่อนจะรีบลุกเอาควยที่กำลังน้ำแตกนั้นไปจ่อบริเวณหน้าอกหญิงสาวราดรดอสุจิสีขาวขุ่น เธอหอบเหนื่อยจากกามกิจดังกล่าว แต่ฝ่ายชายยังรบเร้าให้เธอลูบคลำลำควยที่ยังแข็งเกร็งไม่ฝ่อนั้นชักเข้าออก และยิ้มอย่างสุขสมทั้งคู่

ฉากต่อมายังทำให้ผมอ้าปากค้างต่อเนื่อง เป็นฉากโชว์การช่วยตัวเอง ยูกิ ฮิเมะ ในชุดนอนแบบชุดแซกผ้ามันสีครีม กำลังอยู่บนเตียงหนาขนาดใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศห้องไฟสลัวอมส้ม มีคำถามขึ้นเป็นตัวอักษรถามเธอว่า "เคยช่วยตัวเองต่อหน้ากล้องไหม ?" พอเธอส่ายหน้า ก็มีคำถามต่อว่า "ทำให้ดูหน่อยได้หรือเปล่า ?" สักพักก็หยิบไข่สั่นสีชมพูที่เปิดแล้วถูลูบไล้ไปตามเสื้อผ้า หลับตาพริ้มโดยเฉพาะเมื่อบิดบี้บริเวณหน้าอก ก่อนจะเลื่อนลงต่ำถูไปเบื้องล่าง กว่าห้านาที อารมณ์ของเธอก็เริ่มคุกรุ่น หอบหายใจแอ่นรับไข่สั่นนั้น จนค่อยๆ ถลกชุดนอนเผยต้นขางามสล้างแยกออกช้าๆ เพื่อนำไข่สั่นบี้บริเวณที่สร้างความพึงใจ มืออีกข้างเริ่มจับหน้าอก ลูบไล้ตามตัว กล้องเริ่มจับไปมุมสูงให้เห็นถึงอิริยาบถชัดๆ

อีกครู่ใหญ่ภายใต้อากัปกริยาดังกล่าว ไม่นานชุดนอนราคาแพงนั้นก็ถูกหญิงสาวถลกขึ้นมาถึงช่วงคอ มือลูบไล้หน้าอกอันเปลือยเปล่า แอ่นอ้ารับไวเบรเตอร์อันเขื่องสีเทาที่ค่อยๆ หยิบมาจ่อสั่นเสียงดังบริเวณร่องสวาทที่บัดนี้ถอดกางเกงในไปกองที่ข้อเท้าแล้ว แอ่นสะโพกอ้าขารับด้วยความยินยอมพร้อมใจ เพื่อให้เม็ดแตดถูไถกับเครื่องมือดังกล่าวเพื่อถึงจุดหมายปลายทาง

"อ๊า อ๊ะๆๆๆๆๆๆ อ๊าาาาาาา เสียวจังๆๆๆ อะ อาาาาาาว" ยูกิ ฮิเมะ ในสภาพเกือบเปลือยนั้นถึงจุดสุดยอดไปจากแท่งหรรษาแท่งนั้นในที่สุด เธอเหนื่อยหอบ ยิ้มรับอย่างมีความสุข

ช่วงระหว่างดูฉากนี้เอง คุณอุชิโอะก็ลุกขึ้น พูดเสียงสั่น "อูย ขอตัวว่ะ ไม่ไหวจริงๆ ขอเข้าห้องน้ำก่อน ไม่ต้องปิดเสียงนะ ตามสบายๆ"

ฉากต่อมาเป็นการใช้ปาก หญิงสาวมาในชุดเสื้อเชิ้ตสวมทับเสื้อสูทกระโปรงสั้นรัดรูปสีพื้นเรียบหรู นั่งบนเก้าอี้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวในห้อง คำถามเริ่มขึ้นถามเธออีกว่า "ดูดควยเป็นไหม" หญิงสาวยิ้มหัวเราะเขินอาย "ก็พอเป็นบ้างแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่เก่ง" คำถามถามต่อ "ง้นทำให้ดูหน่อยได้ไหมว่าเก่งแค่ไหน" สักพักก็มีชายที่กล้องไม่ได้ถ่ายใบหน้าเดินเปลือยกายพุงยื่นเล็กๆ เดินควยเด่ เท้าสะเอวมาหยุดตรงหน้าฮิคาริพอดี เธอถึงกับเอามือปิดปากด้วยความอาย แต่เป็นใบหน้าเอียงอายที่ต่างไปจากเดิมอันมาพร้อมความตื่นกลัว เมื่อมันเปื้อนด้วยรอยยิ้มแสดงถึงความตื่นเต้นมากกว่า

สักพักชายไม่ระบุตัวตนก็เดินเข้าไปใกล้ใบหน้าเธอมากขึ้น เธอค่อยๆ มองก่อนจะจับท่อนแข็งเกร็งนั้นมาจับถอกไปมา มองจ้องชายดังกล่าวด้วยรอยยิ้ม ถอกไปได้ไม่นานก็ค่อยๆ นั่งคุกเข่าใช้ลิ้นโลมเลียควยนั้นจากล่างขึ้นบน สลับกับการเลียวนหัวถอกอย่างช้าๆ ดวงตาจ้องมองปฏิกิริยาของอีกฝ่ายอย่างท้าทาย

กล้องเริ่มเปลี่ยนเป็นจับจากมุมสูง ให้เห็นใบหน้าของเธอที่ดูดอมควยจนแก้มตอบ เสียงดังจ๊วบจ๊วบ ครางอืมม์ อูวว์ ปะปนกับเสียงครางของฝ่ายชาย เลียมันราวกับไอติมแสนอร่อย มือคอยลูบไล้ต้นขา และพวงไข่ของอีกฝ่าย สีหน้าของเธอทำให้ผมสงสัยว่าทำไมจึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เพราะแทบไม่เห็นอาการฝืนทนใดๆ ให้ปรากฎสักนิด บางครั้งก็ใช้มือช่วยถอก และใช้ลิ้นแตะเลียรัวๆ ตรงหัวถอกนั้นอย่างชำนิชำนาญ

"อูย ยูกิจัง ขอจับนมหน่อยสิครับ อูยยย" เสียงฝ่ายชายขอหลังจากได้รับการโลมเลียดังกล่าวมาพักใหญ่ หญิงสาวพยักหน้ารับคำ ใช้ปากรูดอมควยถอกนั้นมองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย ก่อนจะใช้มือค่อยๆ ถอดชุดสูทออก ฝ่ายชายถึงกับรีบบอกสำทับ "อย่าหยุดนะครับ อูย กำลังดูดควยได้ที่เลย" ก่อนที่อีกฝ่ายจะผงกหัวดูดท่อนลำนั้นอย่างต่อเนื่อง มือก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด ถอดชุดออกเผยให้เห็นเพียงชุดชั้นในสีขาว ที่เธอค่อยๆ เอื้อมมือทั้งสองข้างไปปลดตะขอออกจนเต้านมคู่สวยขนาดได้ที่ออกมาท้าทาย

ชายที่ร้องขอไม่รอช้า ใช้มือเคล้นคลึงเต้านมนั้น บ้างก็บิดบี้หัวนมสีชมพูสลับกัน หญิงสาวถามบ้างในช่วงที่ปากถอนออกจากท่อนควย
"เสียวไหมคะ"
"อูย เสียวสิคร้าบ ยูกิจังล่ะเสียวไหม"
"เสียวค่า" ว่าแล้วเธอก็ใช้ปากพร้อมกับมือรูดควยเข้าออกสร้างความหฤหรรษ์ให้ฝ่ายชาย กล้องจับภาพระยะกลางเผยให้เห็นฮิคาริในสภาพที่เปลือยท่อนบน ขาไม่ได้คุกเข่าแล้ว แต่นั่งยองๆ ด้วยรองเท้าส้นสูงจนอ้าถ่างกระโปรงสั้นนั้นให้เห็นกางเกงในสีขาวบางด้านใน ปล่อยให้อีกฝ่ายขยำขยี้หน้าอกตามอำเภอใจ แทบจะลืมภาพคุณหนูที่ตัวเรื่องบรรจงสร้างไปเสียสิ้นด้วยความเงี่ยนง่านเต็มที่
"อื้ม อึ๊ม อื้ม บีบแรงๆ ค่ะ อืมม์ เสียวววว" หญิงสาวพูดพร้อมครางฮือทั้งที่ปากยังอมควยอยู่ พูดอู้อี้แต่กลับฟังรู้เรื่องได้อย่างน่าแปลกใจ
"อาซซซ อ๊ะๆๆๆ อย่าหยุดครับ อย่าหยุด โอว" ยูกิ ฮิเมะ หลับตาพริ้มมือถอกควย ใช้ปากรูดอมหัวถอกเข้าออก บ้างใช้ลิ้นเลียแตะรัวๆ ยาวนานจนในที่สุดฝ่ายชายก็ทนไม่ไหว
"อา....ออกแล้ว" พร้อมกับจับท่อนควยของตนชักเข้าออกปล่อยน้ำเชื้อรดแก้มนวลใสแก่หญิงสาวตรงหน้า
ชายคนดังกล่าวบอกให้เธอใช้มือป้ายเช็ดน้ำขุ่นข้นนั้นให้เห็นว่ามีออกมามากแค่ไหน หญิงสาวทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะถือมาให้กล้องเห็น ใบหน้าหญิงเขินๆ ก่อนจะตอบคำถามที่ขึ้นมาว่า "ดูดควยคราวนี้เป็นไงบ้าง"
"ขอบคุณมากค่ะ รู้สึกดูดควยเก่งขึ้นอีกนิดแล้วค่ะ ยูกิจะพยายามเพื่อทุกคนค่ะ"

ฉากสุดท้ายของดีวีดีเรื่องที่สองยิ่งบีบหัวใจยิ่งขึ้นไปอีก ฮิคาริในชุดกิโมโนสีชมพูเกล้ามวยผมปรากฎขึ้นมาเดินตามธรรมชาติ และห้องพักแบบโบราณอย่างสง่างาม กล้องซูมและถ่ายไล่ให้เราเห็นชุด และใบหน้าที่สะสวยของเธออย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ ซูมออกมาอีกครั้งให้เราเห็นว่าตอนนี้มีคนเข้ามาซุกไซ้เธอ เป็นชายวัยกลางคนในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ มือก็พลางบีบขยำหน้าอกทั้งชุดสวยนั้น ก่อนจะค่อยๆ เอามือลูบไล้ด้านในเสื้อ และเอื้อมมือปลดออกอย่างช้าๆ ไม่มีทีท่าขัดขืน มิหนำซ้ำสีหน้าแดงก่ำ และดวงตาละห้อยเผยความเคลิบเคลิ้มออกมาชัดเจน... ครู่ใหญ่เราก็เห็นฮิคาริเอนหลังพิงฝ่ายชายจูปปากแลกลิ้นกับอย่างเร่าร้อน ชุดกิโมโนในสภาพหลุดลุ่ยเผยให้เห็นหน้าอก และเบื้องล่างที่เปลือยเปล่า อ้าขาแอ่นสนองให้นิ้วของเขารุกล้ำ บิดบี้เม็ดแตดอย่างไม่มีความเขินอาย สายตามองมาที่กล้องท้าทายคนดูอยู่เป็นระยะ

เป็นสายตาดังกล่าวนี่เองที่ทำเอาผมใจเต้นระส่ำ บางครั้งทั้งที่อ้าปากแลกลิ้นกับชายที่กำลังเล้าโลมอยู่แท้ๆ ก็มองมาที่กล้อง สายตาเชิญชวนเหลือเกิน

บทรักยิ่งถึงพริกถึงขิง ชายคราวพ่อเมื่อเทียบกับเด็กวัยรุ่นอย่างเธอถอดชุดออกจนหมด คุกเข่ายื่นท่อนควยเสนอสนองให้ยูกิ ฮิเมะของเราอ้าอม หญิงสาวที่กำลังอารมณ์ได้ที่ก็นอนดูดอมอย่างว่าง่าย ขาก็ถ่างรับนิ้วมือที่เคล้นคลึงอย่างเคลิบเคลิ้ม

"อื๊มม อืมม์ อื๊มมมมมมม" เสียงหายใจหอบถี่สลับกับเสียงคราง โคกที่เด้งรับนิ้วถี่ยิบเน้นๆ แสดงให้เห็นการถึงจุดสุดยอดอีกครั้งของหญิงสาว สิ้นสภาพกุลสตรีในชุดกิโมโนเมื่อตอนเริ่มฉากนี้ไปเสียสิ้น

นักแสดงชายไม่ได้หยุดแค่นั้น เขาจับพลิกอีกฝ่ายทับคร่อมล่างกลับหัวกลับหาง ปล่อยให้หญิงสาวโม้กให้ต่อ ขณะที่ตนเองถลกปลายผ้ากิโมโนจนร่นออกใช้ลิ้นลากเลียร่องสวาทที่เปียกเยิ้มนั้นเสียงดังซวบๆ ออกมา คลอไปกับเสียงครางอย่างพึงพอใจของ ยูกิ ฮิเมะ ...ท่วงท่าดังกล่าวถูกทำเนิ่นนานพร้อมกับกล้องที่จับหลายมุม เสียงหญิงร้อง "อึ๊ อึ๊" ดังถี่ขึ้น ฝ่ายชายจึงจับสะโพกยกขึ้นสูง ถ่างออก และใช้นิ้วปักเข้ารูหีกระตุกเข้าออกตามการร่อนรับ จนหญิงสาวทนไม่ไหว "อื๊ออออออออออออออออออออออออออออออออ" เสียงดังยาวนานทั้งที่ปากแน่นคับไปด้วยท่อนเอ็นอยู่ ถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง

ท่วงท่าเกมรักดำเนินต่อไปตามขั้นตอน ไม่นานเลยนักแสดงทั้งชายหญิงก็ร่วมรัก ร่วมสอดใส่ เปลี่ยนท่วงท่าอย่างเมามัน บ่อยครั้งกล้องจับไปที่สายตายั่วยวนทายท้าของฮิคาริที่มองมาคล้ายผู้ชมเป็นผู้ร่วมรักกับเธอ อาจเพราะตกไปอยู่ในห้วงแห่งความตื่นใจ ทำให้ผมไม่สามารถมองเห็นความขัดเขินที่แสดงออกมาในงานชิ้นนี้เลยสักนิด

ในที่สุดฝ่ายชายที่คร่อมกระเด้าควยใส่ต่อเนื่องจากการร่วมรักต่อเนื่อง ก็ร้องดังลั่น "อาซซซ ออกแล้ว" ถอนท่อนเอ็นออกมาคร่อมทับหน้านักแสดงสาว ราดรดน้ำกามเปรอะที่แก้มนั้น บ้างกระเซ็นไปเปรอะจมูก และริมฝีปากของเธอ หญิงสาวหลับตาพริ้มหายใจแรงถี่บ่งบอกถึงความเหน็ดเหนื่อยจากการกระทำที่เกิดขึ้น ก่อนที่ฝ่ายชายจะลูบผมอย่างเบา และยกศีรษะเธอขึ้นช้าๆ นั่นเองเธอจึงลืมตา เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกให้ทำบางอย่าง นักแสดงสาวรุ่นยูกิ ฮิเมะ จึงอ้าปากออกมาดูดรับท่อนควยที่จ่อรอตรงหน้า ทำความสะอาดน้ำกามที่คั่งค้างของอีกฝ่ายให้หมดจด

"อา...." ยูกิ ฮิเมะ ถอนริมฝีปากออกเสียงชวนกระสันต์ซ่าน

ผมเหม่อลอยดูดีวีดีแผ่นนี้จนไม่ทันสังเกตว่าอุชิโอะมานั่งดูตอนไหนไม่ทราบ จนแกมาแตะไหล่ผมอีกรอบ
"สงสัยได้อีกรอบว่ะ สบายตัวแน่ล่ะมึงเอ๊ย งานนี้" ก่อนจะวิ่งไปห้องน้ำ เท่านั้นเองผมก็หมดความอดทนออกจากห้องของแกไปโดยไม่บอกลา รีบนอนบนฟูกปลดปล่อยอารมณ์ด้วยมือตนเอง หลับตาจินตนาการนึกถึงภาพของตนแทนนักแสดงชายเหล่านั้น

.................

หลังจากลืมตัวช่วยตัวเองไปเมื่อคืน วันต่อมาผมจึงไปเลียบเคียงถามคุณมิกิ ครูฝึกการแสดงให้กับฮิคาริ
"พี่ครับ ผมเพิ่งดูดีวีดีเรื่องใหม่ของ ยูกิจัง...ยูกิ ฮิเมะ มาเมื่อคืน เล่นดีขึ้นเยอะเลยนะครับ"
"งั้นเหรอ ก็ดีแล้ว" เธอพยักหน้า
"อ้าว พี่ยังไม่ได้ดูเหรอครับ"
"แน่ล่ะสิ ชั้นเองก็มีงานทำเยอะแยะ แล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายนี่ยะจะได้มาดูของแบบนี้ทุกวัน"
"แหะ แหะ โทษครับ" แต่ผมยังไม่ละความพยายามในการถาม
"ว่าแต่...พี่ใช้เทคนิคอะไรสอนเค้าเหรอครับ ถึงผิดหูผิดตาจากเดิมเลย"
"ก็...ต้องยอมรับนะว่าไอ้ที่ชั้นสอนปกติเนี่ย เด็กคนนี้ไม่เป็นเลย สอนยาก" ซึ่งก็เป็นความจริงที่ปกตินักแสดงที่มาเป็นดาราเอวีหลายคนผ่านประสบการณ์ทางเพศมาก่อนจะทำงานนี้ บ้างก็ดิ้นรนปากกัดตีนถีบเดินทางจากต่างจังหวัดมาหางานในเมือง ทำให้การทำงานสอนท่วงท่าทางเพศ หรือเรื่องเซ็กส์เพื่อแลกกับรายได้งามๆ เป็นไปได้อย่างไม่ยากนัก ผิดกับฮิคาริที่ถูกประคบประหงมมาตลอดชีวิต แม้แต่ตอนเริ่มคบกับคุโระ ทำให้การจะมาทำงานแบบนี้ยากกว่าอย่างที่เห็นในครั้งแรก
"แล้วทำไงเหรอครับ"
"ก็...ทางทีมงานเขาเสนอมาว่าให้ใช้วิธีแบบยุคเก่าๆ นะในการเวิร์คช็อป ก็บอกคุณคุโระไป เขาก็เห็นดีด้วย ปกติเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ทำกันแล้วแหละ เพราะมันเสียเวลา"
"วิธีแบบยุคเก่าๆ ?" ผมทวนคำ
"ก็...เก็บตัวกับนักแสดงที่จะร่วมงานด้วย แล้วชั้นก็ไปคอยสอน คอยบอกบท มีผู้กำกับคอยดู ทำหลายๆ วันจนกว่าจะพอใจ เอาให้ผ่านไปเลย ทนเหนื่อยครั้งเดียว"
"หา ? แล้วนี่เอ่อ...ยูกิเขายอมหรือครับ"
"แหม เคอิโงะคุง ปกติคนอื่นน่ะเล่นได้แค่นี้โดนตวาด โดนด่าไปแล้ว นี่เขาเห็นว่าเป็นเด็กของคุณคุโระหรอก ถึงยอมทำแบบนี้ แค่นี้ถือว่าไม่ใจร้ายหรอก"
"อ่า...ครับ"
"สนใจจะดูมั้ยล่ะ ว่าเขาสอนกันยังไง"
"เฮ้ย ไหงมีถ่ายเก็บไว้ด้วยล่ะครับ"
"ก็เป็นแอบถ่ายน่ะ คุณคุโระเขาขอมา"
สุดท้ายผมก็ตอบรับคุณมิกิ แอบเปิดดูในที่ทำงานวันนั้นเอง



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
บ่อยครั้งเราก็รับรู้ความจริงเพียงครึ่งเดียวจากสิ่งที่เราเชื่อ ใช่แล้ว มันเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้บิดเบือนแต่ประการใด หากพอมันถูกยกมาเพียงความจริงประการเดียว ความจริงอื่นๆ ที่แวดล้อมหายไปหมด มันก็ถูกอคติที่เราคาดหวังทำให้มันกลายเป็นความจริงที่เราอยากเชื่อ...วิดีโอเรื่องที่สองของฮิคาริก็เป็นอย่างนั้น

ผมนึกถึงครั้งหนึ่งที่ทำงานกองถ่าย และได้มีโอกาสร่วมงานกับ ไอโนะ คิชิ ดาราเอวีชื่อดังอยู่ครั้งหนึ่งในการว่าจ้างของค่าย AliceJapan ระหว่างที่นั่งรถตู้ไปยังสถานถ่ายทำ คุยกันสัพเพเหระในเรื่องต่างๆ เพราะอายุไล่เลี่ยกัน ผมก็เผลอถามคำถามที่เคยสงสัยไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"โทษนะ จริงหรือเปล่าน่ะที่ไอโนะเคยบอกว่าเริ่มสนใจมาเล่นหนังเอวี เพราะดูริโอะเล่นแล้วคิดว่าเธอสวยจัง" คำถามนั้นทำเอาการสนทนาที่เริ่มจะออกรส กร่อยลงไปในบัดดล ไอโนะที่กำลังสวมแว่นดำเงียบไปและไม่พูดกับผมต่อ จนถึงช่วงทำงาน และปิดกล้อง

ตอนขับรถตู้ไปส่งทีมงาน และเธอที่บริษัทต้นสังกัดนั่นเอง ผู้คนส่วนใหญ่ต่างหลับใหล และถึงช่วงเปลี่ยนกะ ผมเห็นเป็นโอกาสเหมาะเลยเพราะนั่งด้านหลังที่นั่งเธอพอดี
"ขอโทษนะ ที่ถามอะไรไม่เข้าท่าเลย ทำให้เสียอารมณ์เปล่าๆ" ผมพยายามพูดแบบสุภาพที่สุด เอามือจับหัวค้อมตัวเพื่อแสดงความรู้สึกผิด เธอนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบผมแบบห้วนๆ ว่า
"ไม่เป็นไร"
"ขอบคุณครับ" ดูเหมือนเธอจะคิดพอสมควร พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจใครจึงพูดขึ้นว่า
"ถามว่าจริงไหมน่ะเหรอ มันก็มีส่วนจริงนะ....แต่...มันไม่ใช่ทั้งหมดนี่ เราก็พูดสิ่งที่เขาอยากจะฟังเท่านั้นเอง ...เหมือนคนดูก็เห็นในสิ่งที่เขาอยากเห็นไง แต่ไม่ได้พูดเรื่องว่าเราอยากมีเงินเยอะๆ หรือจริงๆ เราอยากเป็นดาราโทรทัศน์เหมือนกัน แต่เรารู้แล้วว่าเราเป็นไม่ได้นี่นะ..."
"อา..." ผมขานรับคำตอบ แต่พอเธอเริ่มหันหน้ากลับมาชี้หน้าก็เล่นเอาผมชะงัก
"นี่...เราไม่ได้โกรธที่ถามนะ แต่ขอเถอะ งานเรา เราก็เหนื่อยพอแล้ว อย่าถามอะไรแบบนี้อีกนะ โอเค๊"
"อะ...โอเค ไม่ถามแล้วๆ"

ตอนที่ผมดูดีวีดีบันทึกช่วงการซ้อมอีกครั้งของฮิคาริ ก็ทำให้นึกถึงคำว่าความจริงแบบนั้นที่ต่างไปจากที่ผมเห็นในวิดีโอเรื่องที่สองเหลือเกิน

ดีวีดีแม้จะผ่านการตัดแบบหยาบๆ มาแล้ว แต่ก็มีหลายแผ่นใช้เวลาบันทึกหลายวัน ผมใช้วิธีกดข้ามไปดูผ่านๆ เพื่อเห็นช่วงที่สำคัญจริงๆ ดูพร้อมกับคุณมิกิที่เป็นคนสอน และปรากฎในดีวีดีนั้นเอง

ภาพที่ปรากฎล้วนเป็นภาพระยะไกลแบบกล้องแอบถ่ายตั้งนิ่ง ฮิคาริกำลังนั่งอยู่กับคุณมิกิบนโซฟาในห้องแห่งหนึ่ง และห้องนี้เองที่จะกลายเป็นสถานที่สำคัญในการฝึกสอนด้วยวิธีที่ว่านั้น ดูจากเสียงที่ดังแทรกเข้ามาไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งคู่กำลังดูหนังเอวีกันอยู่นั่นเอง

ฮิคาริมีท่าทีอึดอัดพอสมควร หน้าแดง ดูไปหลบภาพตรงหน้าไป

"นี่อย่าบอกนะว่าไม่เคยดู" คุณมิกิถามขึ้นมา
"ค่ะ"
"เฮ้อ แล้วตอนแรกก็ไม่เห็นบอก มิน่าถึงแสดงยากขนาดนั้น" คุณมิกิถอนหายใจ
"เอาล่ะ ลองดูให้จบนะ" ฮิคาริพยักหน้ารับ

ถึงตอนนี้ผมกดข้ามไปก็เจอฉากเด็ดพอดี เตียงที่อยู่ไม่ไกลจากโซฟานั้น หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนเปลือยกายกลับกลายเป็นคุณมิกินั่นเอง สาววัยสามสิบกำลังนอนสาธิตวิธีการช่วยตัวเอง โดยมีฮิคาริยืนดูอย่างอายๆ คุณมิกิกำลังแอ่นโคกร่อนไปตามนิ้วของตนที่ใช้มือทั้งสองข้างลูบไล้ทั้งบนล่างอย่าเพลิดเพลิน ปากก็บอกอธิบายไป ขณะที่สะโพกก็เด้งขึ้นเป็นจังหวะเหนือเตียง
"อูย ดูไว้นะยูกิจัง ต้องแสดงให้ร่านๆ เข้าไว้ พูดคำหยาบๆ ให้ดูแล้วรู้สึกว่าเราเงี่ยนจริงๆ ผู้ชายเวลาดูมันจะได้เกิดอารมณ์ตามเรา อูย เสียวจัง อ๊ะ อึ๊ อึ๊ อึ๊ๆๆๆๆๆ อร๊าย น้ำแตกแล้วๆๆ อร๊ายยยยยยย ซี๊ดดดดดดดด" ท่าทางคุณมิกิจะเสร็จคานิ้วตัวที่ล้วงเข้าออกโพรงหีไปเรียบร้อยตามเสียงทิ้งท้ายนั้น หอบหายใจเหนื่อย สีหน้าแดงก่ำ
ขณะตั้งใจดู ใส่หูฟังอยู่ แล้วจู่ๆ คุณมิกิก็มาตบบ่าเบาๆ เล่นเอาสะดุ้งหันกลับไปมอง
"ไง ฉันเล่นเก่งมั้ย" ผมได้แต่หัวเราะแหะๆ แก้เก้อ
"ไม่ต้องคิดมาก ฉันเองก็เคยอยู่วงการนี้มาก่อน ชินแล้วกับการให้คนเห็นฉันทำอะไรแบบนี้" คำตอบที่ได้ทำเอาผมหน้าแดงแทน

กดข้ามไปอีกนิดหน่อย ก็เจอช่วงที่ฮิคาริตอนนี้เหลือเพียงชุดชั้นใน กำลังพยายามทำตามที่คุณมิกิสอน ใช้มือล้วงเข้าไปใต้กางเกงในสีขาวนั้น แต่ก็เป็นอย่างเก้ๆ กังๆ จนคุณมิกิถอนหายใจ เข้าไปนอนขนาบข้าง
"ไม่เคยเลยล่ะสิ ไร้เดียงสาอะไรอย่างนี้หนูน้อย มานี่พี่จะสอนเอง" ว่าแล้วเธอก็รูดกางเกงในของฮิคาริร่นลงมา จับมือของลูกคุณหนูที่อ่อนต่อเชิงโลกีย์นี้มาจิ้มไปยังจุดสำคัญเสียเอง
"ว้าย"
"ไม่ต้องกลัวๆ นี่จะสอน ตรงนี้เขาเรียกว่าคลิตอริสไงล่ะจ๊ะ จะเรียกว่าเม็ดแตดก็ได้ยิ่งดูร่านดี" คุณมิกิพูดพลางหัวเราะ หึหึ
"ชุดเนี่ยก็อย่าปิดซ่อนอะไรมากนัก จะได้ทำคล่องๆ" ว่าแล้วเธอก็จัดแจงทำให้ฮิคาริเสียเอง จนอีกฝ่ายเปลือยกายหมด
"อ้าขากว้างๆ สิ"
"ค่ะ" แม้จะดูไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ฮิคาริก็ทำตามอย่างว่าง่าย คงเพราะเห็นว่าอยู่ในห้องหับมิดชิดด้วย
"ปล่อยตัวตามสบายสิ คิดถึงเวลามีอะไรกับคนที่เรารัก ว่ามีความเสียว ความสุขยังไง ลองหลับตาจินตนาการดู" แต่คุณมิกิไม่พูดเปล่า จับมือข้างขวาของฮิคาริมาลูบไล้ตามหัวนม ข้างซ้ายก็จับมาถูไถตามร่องสวาทพร้อมกับสัมผัสเองด้วย
"ตายแล้ว ไม่แฉะเลย มานี่ เดี๋ยวพี่ช่วยเอง หน้าตาน่ารักๆ อย่างนี้เดี๋ยวจะทำให้หน้าแดงก่ำเลย" ก่อนจะไซ้ไปตามใบหู และซอกคอของอีกฝ่าย
"อ๊ะ ยะ อย่าค่ะ"
"ไม่ต้องกลัวน่า เดี๋ยวจะสอนให้" ก่อนที่เธอจะค่อยๆ กดนิ้วของฮิคาริเข้าไปยังร่องหลืบนั้น ลิ้นเลื่อนตวัดมาลามเลียหัวนมทั้งสองข้าง
"อึ๊" เสียงร้องตกใจของหญิงสาวหายไปทันทีเมื่อสาวใหญ่ใช้ปากบดบี้ริมฝีปากสร้างอารมณ์ร่วมให้
"อ้าปากกว้างๆ สิจ๊ะ ลองแลบลิ้นออกมา" ทันทีที่เพื่อนของผมทำปากตาม เธอก็จูบซ้ำ ดูดเลียลิ้นอีกฝ่ายอย่างเอร็ดอร่อยเสียงจ๊วบจ๊าบ
"อ๊ะ" ฮิคาริโดนปลุกอารมณ์อยู่พักใหญ่ ไม่นานเธอก็เริ่มหายใจหอบถี่ ขณะที่คุณมิกิยังจูบอย่างเร่าร้อน และซุกไซ้จุดต่างๆ ตามร่างกายอย่างชำนาญ พลางกระซิบสอน
"เอ้า ลองใช้นิ้วบี้แตดเลยจ๊ะ" หญิงสาวที่กำลังมีอารมณ์ได้ที่ทำตามที่สอนอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าสวยนั้นกัดฟันราวกับสะกดกลั้นถึงขีดสุด อีกมือหนึ่งก็ลูบไล้ตามหัวนม และหน้าอกคู่สวยนั้น
"ค่ะ อ๊ะๆๆๆๆๆ อ๊าาาาาาา" ไม่นานจากการร่วมปลุกปั่นจากคุณมิกิ ฮิคาริก็ถึงจุดสุดยอดด้วยมือตนเองเป็นครั้งแรกในชีวิต
"อย่าลืมอารมณ์ที่ทำได้เมื่อกี้นี้ล่ะ"
"ค่ะ" หญิงสาวตอบทั้งที่ยังหอบเหนื่อยอยู่

ผมกดข้ามมาอีกครั้ง ก็พบฉากที่ฮิคาริกำลังสอนเรื่องการช่วยตัวเองอีกครั้ง เธอกำลังนั่งยองกับพื้นคร่อมทับไปยังควยยางแท่งใส ที่ปักคาไว้บนพื้น ท่อนบนใส่เสื้อผ้ามิดชิด แต่ท่อนล่างเปลือย พร้อมกับคุณมิกิที่นั่งบนเตียงคอยสอน
"แค่นั้นยังกดไม่พอนะ ค่อยๆ กดน้ำหนักตัวลงไปอีก"
"ค่ะ...อ๊ะ...อา"
"ดีจ๊ะ ฝึกไว้ให้คล่อง ฉากแบบนี้ในหนังที่ถ่ายนี่ได้ใช้แน่นอน จากนั้นก็โยกเอวขึ้นลงตามอารมณ์ตัวเองเลยนะ"
หญิงสาวที่ไม่ประสีประสาค่อยโยกขึ้นลง แต่ก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า และเงียบ มีเพียงเสียงอือๆ ออกมาจากลำคอแผ่วเบาเท่านั้น จนคุณมิกิอดรนทนไม่ไหว
"มะ มาเดี๋ยวจะช่วยเอง" ก่อนจะเดินไปหน้าหลังบีบหน้าอกของฮิคาริ จนอีกฝ่ายตกใจขึ้นมา
"ว้าย" เท่านั้นยังไม่พอ มือที่เคล้นคลึงนั้นยังเลื่อนลงไปบิดบี้เบื้องล่าง ช่วยเสริมกับแท่งยางที่ปักอยู่อย่างสอดประสาน
ไม่นานนัก เพื่อนของผมก็เกิดอารมณ์หน้าแดงก่ำอีกครั้ง ตามการช่วยของพี่เลี้ยงโยกเอวขึ้นลงเข้าหาแท่งยางถี่กระชั้นขึ้น แม้กล้องจะจับจากระยะกลาง แต่ก็พอเห็นว่าเบื้องล่างเริ่มมีน้ำใสเปียกชื้นที่พื้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอีกไม่นาน

เธอก็จะเสร็จสมอารมณ์หมายอีกครั้ง แต่คุณมิกิยังไม่จบแค่นั้น
"เอาล่ะ ไหนๆ ก็สอนกันขนาดนี้ จะให้บริการเสริมอีกละกันนะจ๊ะหนูยูกิ"  มิกิพูดจบก็ลุกจากด้านหลังมาด้านหน้า โน้มศีรษะลงเบื้องล่างใช้ลิ้นแตะเข้าออกตรงคริสตอริส เล่นเอาผมที่ดูพร้อมกันนั้น ต้องชำเลืองปฏิกิริยาของแกที่ยืนอยู่ด้านหลังเลย
"อ๊ะๆๆๆๆ อย่าค่ะ อ๊ะๆๆๆๆ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา" ฮิคาริเจอการใช้ลิ้นระดับมืออาชีพของสาวใหญ่ไปก็ถึงกับโยกแรงขึ้นๆ และถึงจุดสุดยอดไปในที่สุด

ผมเลื่อนดูข้ามไปอีกครั้งละหลายสิบนาที และพบว่าฮิคาริยังถูกฝึกให้ใช้ไวเบรเตอร์ หรือใช้นิ้วช่วยตัวเองอีกหลายครั้ง จนข้ามไปถึงช่วงที่ทั้งคู่เหมือนเพิ่งซ้อมเสร็จในครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบได้ แต่เมื่อทำเสร็จ ฮิคาริที่นั่งลงบนเตียง

เอาผ้าขนหนูปิดคลุมร่างกายไม่ให้น่าเกลียด กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นหนัก ใช้มือปิดปาก โดยมีคุณมิกิคอยปลอบอยู่ข้างๆ
"ฮึกๆ ฮือ พี่มิกิคะ ผู้ชายเขาชอบแบบนี้จริงๆ เหรอ"
"ก็น่าจะส่วนใหญ่นะ"
"หนูรู้สึกไม่ดีเลยค่ะ ที่ต้องมาทำแบบนี้ มันน่าอับอายเหลือเกิน"
"ยูกิจัง พี่จะสอนให้นะ ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ...ทำงานของเราให้ดีที่สุด แล้วจบงานจะไประบายอารมณ์ จะร้องไห้เสียใจยังไงก็ทำเลยจ้ะ แล้วหนูจะชินเอง"
"ได้ยินว่าหนูมีหนี้สินเยอะอยู่นี่"
"ค่ะ"
"ก็คิดถึงวันที่เราเอาเงินใช้หนี้ให้หมดไปสิ เวลาเราทนไม่ไหว เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง"
"ขอบคุณค่ะ" แต่กว่าฮิคาริจะสงบอารมณ์ได้ก็ใช้เวลาอีกพักใหญ่ ทำเอาผมซึมไปเหมือนกันว่ากว่าจะกลายเป็นงานชิ้นที่สองที่ลีลาท่วงท่าต่างจากตัวตนของเธอได้ ก็เจ็บปวดไม่ต่างจากงานชิ้นแรกแต่อย่างใด

ผมเปิดดีวีดีแผ่นที่สอง น่าจะเป็นการบันทึกเหตุการณ์ของวันใหม่ คุณมิกิแนะนำชายคนหนึ่งให้รู้จัก
"นี่คุณ ยาสึ นะ ฮิคาริ วันนี้เขาจะมาร่วมสอนวิธีการใช้ปากให้เรา"  ฮิคาริได้แต่พยักหน้ารับ แม้สีหน้าจะแสดงความหวาดหวั่นต่อบทเรียนใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น แต่คุณมิกิก็ได้แนะนำเรื่องต่างๆ ไปหมดแล้ว
"ถ้าเมื่อกี้เหมือนแค่จานเรียกน้ำย่อย ต่อจากนี้ไปต่างหากที่ถือว่าของจริง" คุณมิกิสะกิดไหล่ผม และพูดขึ้นมาอีก จนต้องละสายตาจากหน้าจอ
"จากนี้ไป นอกเหนือจากคุณคาวายะ ฉันจะให้ดาราชายอีกสี่คน คือ คุณยาสึ คุณนาริ คุณคาวะ และคุณบาตะ ที่ยูกิจังต้องร่วมเล่นด้วยตามสัญญาอีก 4-5 เรื่อง มาทำความรู้จักจะได้เกิดความคุ้นชินกันตอนแสดงไปเลย เวลา

แสดงจะได้ไม่เคอะเขิน หรือเกร็งอะไรอีก"
"ห๊ะ หมายความว่า..."
"เออ ก็มีเซ็กส์กันจริงๆ นั่นแหละ ทำตกใจไปได้" แทนที่คนตกใจจะเป็นฮิคาริ กลับกลายเป็นผมเสียเอง
คะเนจากในวิดีโอคุณยาสึน่าจะอายุราว 40 ปี โกรกผมสีทองด้านนอก หน้าตาอันธพาล หุ่นผอมบางจนเห็นซี่โครง แม้คุณคาวายะเองจะไม่ได้หล่อเหลาอะไร แต่ถ้าเทียบกับหมอนี่ก็กลายเป็นนายแบบหุ่นดีขึ้นมาทันที

ทั้งคู่พูดคุยทำความรู้จักกันอยู่นานพอควร ผมรีบกดข้ามผ่านไปจนพบช่วงที่ฮิคาริกำลังคุกเข่า โดยมีนายยาสึยืนเหลือกางเกงในตัวเดียวอยู่
"เอ้า มาดูกันหน่อยสิว่าต้องฝึกแค่ไหน ไหนลองใช้ปากให้หน่อยครับ"
"ค่ะ" ฮิคาริที่สีหน้าไม่สู้ดี รับคำอย่างเสียไม่ได้ แต่ยังนิ่งไม่รู้จะต้องทำยังไง
"ถอดกางเกงสิครับ พี่มีงานนะ ไม่ได้จะฝึกให้ได้ทั้งวัน" ไอ้ยาสึนี่ได้ทีเล่นตัวขึ้นมาเลย
"ค่ะๆ ขอโทษค่ะ" ฮิคาริรีบปลดกางเกง มือกำอวัยวะที่ยังไม่ชูชันแต่ก็เป็นลำขึ้นมาของอีกฝ่าย ชักเข้าออกได้สักพักก็หลับตาปี๋เหมือนกลั้นใจ อ้าปากกว้างๆ อมท่อนที่เริ่มแข็งเกร็งนั้น
แต่กลายเป็นว่าคุณยาสึผลักออก
"โอย พอๆ พอก่อน น้องครับทำท่าผะอืดผะอมขนาดนั้นใครมันจะไปมีอารมณ์ หน้าของน้องต้องทำให้คนดูที่ดูเขารู้สึกดีด้วย"
"ค่ะ"
"นี่สอนแล้วเหรอ ฮึ มิกิจัง" คุณมิกิทำหน้าเซ็งๆ เมื่อโดนกระแหนะกระแหน
"มาๆ เดี๋ยวชั้นทำให้ดูนะ" แต่พอจะเดินเข้าไป นายยาสึก็ยกมือห้าม
"พอๆๆ โอ๋กันขนาดนี้น่ะสิถึงไม่เป็นงานเป็นการสักที เอ้า บอกกันตรงนี้ไปเลย ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับบ้าน"
คุณมิกิจึงคอยสอนอยู่ข้างฮิคาริ แต่ก็ดูงุ่มง่ามกันอยู่นานทีเดียว ผมกดเร่งไปบ้างก็ยังเห็นฮิคาริโดนตวาดอยู่เรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายๆ ของแผ่นดีวีดีนั่นเอง เลขนาฬิกาที่แสดงบันทึกว่าเป็นเวลาเย็นแล้วของวัน และผ่านการบันทึกมา

ตั้งแต่ช่วงสาย ? ผมเห็นถึงกับตาลุกหันไปถามคุณมิกิ
"โห นี่เล่นฝึกกันทั้งวันเลยเหรอครับ"
"เออ ไม่งั้นจะได้เรื่องเหรอ" หันกลับไปอีกทีก็พบภาพฮิคาริกำลังใช้ปากให้หมอนี่อีกรอบ หลับตาพริ้มดูเคลิบเคลิ้ม ใช้ลิ้นตวัดเลียรอบ ก็ลากไล้ขึ้นลง ก่อนจะใช้มือช่วยชักเข้าออก ผมเองที่ดูอยู่นั้นกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากใจแทน

แต่อยู่ดีๆ ขณะที่กำลังใช้ปากรูดเข้าออกพร้อมมือนั้นกลับถูกสั่งให้หยุดอีกที
"พอ เกือบดีแล้ว แต่พี่ไม่ให้ผ่านหรอกนะ" เฮ้ย อะไรของมันกันวะ ! ผมคิด แต่ยาสึบอกเหตุผลพร้อมทำท่าประกอบยกสองนิ้วชี้มายังดวงตาของตน
"ยูกิจัง ไม่มีการโต้ตอบกับคนดูเลย จะใช้ปากเก่งยังไง ถ้ามัวแต่หลับตาทำอารมณ์อยู่ก็ไม่มีประโยชน์ นักแสดงไม่มีใช้สายตายั่วยวนคนดูก็เท่านั้น"
"ค่ะ" เสียงฮิคาริตอบรับอย่างเหนื่อยล้า
"วันนี้พอแค่นี้ก่อน ใกล้ค่ำแล้วพี่ยังมีงานอยู่ ไว้ต่อพรุ่งนี้"
"ค...ค่ะ" เธอได้แต่ตอบรับไปเท่านั้น สิ้นเสียง และเมื่อยาสึเดินจากไป ฮิคาริก็เอามือปิดหน้าคุกเข่าสะอื้นไห้ตรงนั้น

....

ผมเปิดอีกหลายรอบถัดจากนั้นแบบข้ามดูอย่างรวดเร็ว แต่ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง สิ่งที่พบยังเป็นเช่นเดียวกัน แผ่นก่อนๆ มันเริ่มต้นด้วยการสอนด้วยการอธิบาย แนะนำตัวนักแสดงชายที่จะมาเล่นด้วย แต่เริ่มต้นได้ไม่นานฝ่ายชายก็จะให้ฝึกใหม่ให้ชำนาญครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกิดความเคยชิน ทั้งการแสดงเมื่อผ่านกล้อง และท่วงท่าจริตจก้านในการมีเพศสัมพันธ์กันมากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากผ่านการใช้ปากในวันต่อมากับยาสึ ฮิคาริก็จะถูกถามว่าจะฝึกฉากเซ็กส์ต่อไหม ? ซึ่งในวิดีโอเรื่องแรกเธอยอมเล่นต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนสภาพที่เหนื่อยล้าทางใจนั่นเองทำให้เธอขอผลัดเป็นวันต่อไป เมื่อฝึกแล้วไม่ผ่าน ไม่ว่าจะด้วยสีหน้าท่าทางที่คุณมิกิบอกว่าแสดงความฝืนใจได้เพราะอย่างไรเสียก็เป็นจริตจก้านอย่างหนึ่ง แต่ต้องไม่เกร็งจนเกินพอดี ตรงนี้เป็นหน้าที่ๆ เธอและนักแสดงชายเป็นคนตัดสิน คุณมิกิยังเสริมว่าเสร็จจากการซ้อมแบบนี้แล้ว หลังจากนี้อาจมีการซ้อมย่อยในเรื่องต่อไปอีก แต่ก็ไม่ถึงกับต้องมาทำอะไรกันจริงๆ แบบนี้อีก

"เหนื่อยช่วงแรกไง แล้วต่อไปจะได้สบาย" เธอบอก แต่ผมคิดในใจว่ามันจะแค่ช่วงแรกจริงหรือ ?

แผ่นสุดท้ายที่ผมเปิดเป็นการร่วมรักระหว่างฮิคาริกับนายบาตะ นักแสดงร่างท้วมค่อนไปทางอ้วนและหน้าตาดูไม่จืดเลย ถึงผมจะเกลียดไอ้คุโระแค่ไหนก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นชายกลางคนร่างท้วมที่มีบุคลิกดูภูมิฐานอยู่บ้าง ผิดกับตานี่ที่หน้าตาหื่นๆ ดูขี้โรคไม่มีมาด และสิวเขรอะทั้งสองแก้ม แต่การกดดูดีวีดีผ่านเป็นสิบแผ่นก็ไม่แปลกใจอีกต่อไปที่ตอนนี้ฮิคาริจะแสดงกับหมอนี่ได้อย่างไม่มีเคอะเขิน

เพราะถ้าแสดงออกทางสีหน้าถึงความฝืนใจเมื่อไหร่ ก็หมายถึงการต้องเล่นซ้ำแล้วซ้ำอีกนั่นเอง

ภาพที่ผมเห็นในช่วงท้ายๆ ของแผ่นเป็นมุมด้านข้างเตียง ฮิคาริจึงเป็นเหมือนฝ่ายรุกเสียเองที่มีฝ่ายชายเป็นคนสั่ง เธอเป็นฝ่ายขึ้นควบขย่มอย่างช้าๆ ก่อนจะเร่งถี่ขึ้นๆๆ ร้องครวญคราญผสมปะปนกันทั้งสองคนก่อนฝ่ายชายจะจับโน้มตัวมาจูบแลกลิ้น ถึงตอนนี้คงผ่านการซักซ้อมกันมาอย่างดีแล้วนั่นเอง เพียงแค่ฝ่ายชายยื่นลิ้นออกมา เธอก็สนองตอบแลบลิ้นตวัดสู้โต้ตอบ ก็จะเปลี่ยนพลิกตัวมาโถมทับ ช่วงนี้ด้วยความเป็นคนร่างอ้วนของนายบาตะก็เกิดช่วงขัด

เขินงักๆ เงิ่นๆ บ้าง ก่อนจะสอดใส่เข้าไปใหม่ ทำได้อยู่พักใหญ่มันก็ซอยถี่ยิบรุนแรงจับอีกฝ่ายยกขาสูงถ่างกว้าง แต่แทนที่มันจะรีบดึงออกก็เปล่า เพราะกดแช่กระแทกต่อไปเลยเต็มที่

"อ๊าซซ อาซซ ออกแล้ว อูย" พอมันชักควยออกพร้อมดึงถุงยางก็รีบก้าวเข้าไปคร่อมที่หน้าสวยๆ ของฮิคาริ และโดยไม่ต้องบอกใดๆ อีกต่อไปสาวในฝันของผมก็อ้าปากรับ ผงกศีรษะเข้าออกรับการกระทำดังกล่าวอย่างว่าง่าย บาตะกำชับก่อนจะฮิคาริจะปล่อยควยมันออกจากปาก
"อ๊ะ อย่าเพิ่งหุบขานะ อ้าขาไว้อย่างนั้นแหละจ๊ะหนู มันดูร่านดี หึหึ น่านแหละจ้า" เสร็จสมอารมณ์หมายมันก็รีบลุกมาดูท่าทางที่สั่งไว้ได้ครู่หนึ่งก็บอก
"โอเค ผ่านละจ้ะ ต้องรอให้กล้องจับเผื่อไว้ประมาณ 1-2 นาที  สัปดาห์หน้าเจอกันในกองถ่ายจริงนะจ๊ะ" พูดจบฮิคาริก็รีบลุกจากเตียง รีบถามทันที
"ผะ ผ่านแล้วใช่มั้ยคะ"
"อื้อ แค่นี้ก็โอเคแล้วล่ะ" เท่านั้นเองเธอก็รีบโค้งคำนับ
"ขอบคุณมากค่ะ"
"ไม่เป็นไรจ้ะหนู ครั้งแรกก็เหนื่อยเงี้ยล่ะนะ" ก่อนฝ่ายชายจะเดินไปเข้าห้องน้ำเปลี่ยนชุด ช่วงท้ายนั้นเองที่คุณมิกิมาช่วยพาฮิคาริไปพักและแต่งตัว สังเกตได้ว่าสีหน้าของเธอหลายวันอ่อนล้า แม้จะไร้น้ำตา แต่หน้าตาเหม่อลอยเฉยชานั้นก็แสดงให้เห็นถึงความเครียดที่คั่งค้างมานานเหลือเกิน...


"คนดูก็เห็นในสิ่งที่เขาอยากเห็น" ตอนนั้นเองที่ผมนึกถึงคำพูดเกี่ยวกับอคติของคนดูขึ้นมา

-------------------------------------

สัปดาห์ต่อมา ผมเดินเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ และเหลือบไปเห็นงานใหม่ของฮิคาริที่เพิ่งจะวางจำหน่าย "ยูกิ ฮิเมะ กับ 5 ชุดคอสเพลย์" ...จะว่าไปแล้วหลังจากเธอเริ่มมาเข้าวงการนักแสดงเอวี ผมก็ไม่ได้คุยด้วยเลย มันกระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นเพื่อนที่เป็นสาวในฝันต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยความรู้สึกฝืนใจ และฮิคาริเองเวลาเห็นผมก็หลบเลี่ยงที่จะชวนพูดคุยเช่นกัน

ระหว่างเตรียมงานนั่นเอง คุณทาเคชิก็เข้ามาทัก และขอคุยด้วย
ผมเดินตามไป โดยไม่ได้นึกเลยว่าจะได้รับข้อเสนอที่ชวนประหลาดใจที่สุดในชีวิต
"เฮ้ย เคอิโงะคุง สนใจจะเล่นหนังเอวีไหม เป็นแบบสมัครเล่นนะ เข้าฉากกับหนูยูกินั่นน่ะ"
"หา ? ว่าไงนะครับ !"



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
"แหม่ ทำเป็นไม่ได้ยิน กูถามว่ามึงอยากแสดงเข้าฉากกับหนูยูกิไหม เขาจะถ่ายกันมะรืนนี้"
ผมรีบถามด้วยความไม่แน่ใจทันที
"เอ่อ แล้วนึกยังไงล่ะครับ ถึงจะให้ผมแสดง ผมไม่เคยเล่นนะ" ดูเหมือนผมจะเก็บอาการบางอย่างไว้ไม่อยู่ เลยถูกแซวกลับ
"แน่ะๆๆ ทำเป็นวางฟอร์ม แหม ดูตากูก็รู้ว่ามึงดีใจจนตัวสั่น"
"แหม ลูกพี่ครับ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ ข้อเสนอแบบนี้ผมก็รู้สึกแปลกๆ อยู่แล้ว แล้ว...นี่เขาเป็นเพื่อนผม"
"คืออย่างนี้นะ เห็นผู้กำกับเรื่องนี้เขาบอกว่าจะมีฉากนึงอยากได้มือสมัครเล่นมาเล่นน่ะให้มีอาการตื่นๆ แล้วต้องการคนหน้าใหม่ๆ จะได้รู้สึกว่าหน้าไม่ช้ำมาก" คุณทาเคชิเว้นระยะไปครู่ก่อนพูดว่า
"แล้วที่สำคัญ...เห็นเขาถามหนูยูกิแล้วว่าถ้าจะเอาคนที่นอกเหนือจากนักแสดงชายที่เขาต้องเล่นด้วยเนี่ยได้ไหม ? เขาก็เลยเสนอชื่อนายไง"
"ห๊ะ !" คำบอกเล่าดังกล่าวทำเอาผมอึ้งไปชั่วคราว

...

คืนนั้นผมได้โทร.ถามฮิคาริ
"ฮิคาริจัง ....จริงหรือที่เธอบอกชื่อเราให้มาแสดงด้วย" เธอเงียบไปพักใหญ่ก่อนตอบเพียงสั้นๆ
"อื้อ"
"ทำไมล่ะ"
"เรา...เราก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน เขาถามเราว่าพอจะรู้จักใครพอเล่นได้บ้างไหม เราก็ไม่รู้จักใคร" ฮิคาริเงียบไปพักใหญ่
"แล้วนี่เธอตอบตกลงไปแล้วเหรอ"
"ยัง...ยังไม่รู้เลย" ซักพักบทสนทนาผมก็สิ้นสุด เมื่อมีเสียงสายซ้อนเข้าโทรศัพท์มือถืออีกฝ่าย
"แค่นี้ก่อนนะ คุณคุโระเขาโทร.มา"

ผมครุ่นคิดไปมาระหว่างที่นอน ว่าทำไม เหตุผลอะไรที่ฮิคาริพูดชื่อผมออกไป "เธอมีใจให้ผมหรือเปล่านะ" แล้วก็แอบด่าตัวเองในใจ "ไอ้บ้า มึงจะเข้าข้างตัวเองเกินไปหน่อยละ" กระวนกระวายอยู่อย่างนั้นจนในที่สุดก็นอนแทบไม่หลับ

...

และช่วงเช้าที่แสนอิดโรยในที่ทำงานนั้นเอง คุโระเดินคู่มากับฮิคาริเพื่อส่งไปฟังรายละเอียดงานที่จะถ่ายใหม่ เห็นได้ชัดว่าเธอเหลือบมองผม แต่เลี่ยงจะไม่พูดด้วย
ไม่นานนักคุณทาเคชิก็ชวนคุย ไอ้คุโระก็โม้สะบัดตามเคย ทันทีที่ได้ยินมันเล่าเรื่องฮิคาริ ผมก็ทำทีเดินไปเข้าห้องน้ำดักฟังอีกครั้ง
"แหะแหะเป็นไงครับลูกพี่ ตั้งแต่ให้แม่หนูเขาไปเป็นดาราเอวี"
"บ๊ะ ไอ้นี่ เดี๋ยวนี้มึงกล้าถามแบบนี้เลย ?"
"อ้าว แหม ก็เห็นส่งเสริมอยู่นี่ครับ" คุโระพูดเสียงแผ่วเบาหื่นกระหาย
"หึหึ ก็ไม่เป็นไงหรอก ก็สบายกูสิวะ ฮ่าๆๆๆ"
"แหม่ อะไรจะขนาดนั้นครับ"
"ไม่ขนาดนั้นได้ไงวะ ตั้งแต่ไปฝึกสนามจริงนะมึงเอ๊ย รู้งานว่ะ รู้จักออดอ้อนเอาใจกูทุกอย่าง ฝากชมมิกิมันด้วยนะที่สอนมาดี กูให้ทำอะไรก็ทำหมด ไม่สบายตัวกูยังไงไหว ล่อซะจนเพลินเลย ฮ่าๆๆๆ"
สติที่เลอะเลือนวันนั้นทำให้ผมยิ่งฟังยิ่งอารมณ์กระเจิดกระเจิง ยิ่งมันเล่ารายละเอียดต่างๆ มากขึ้นๆ มือผมก็เผลอปลดกางเกง จินตนาการไปเป็นฉากๆ

ฮิคาริและคุโระเดินเปิดประตูห้องในแมนชั่นเข้ามา เมื่อปิดห้องวางของได้สักพัก เธอก็เดินไปโอบกอดชายวัยคราวพ่ออย่างพิศวาส
"คุณอาคะ ไม่ได้มาตั้งนาน...คิดถึงจัง"
"แหม อาก็งานยุ่งๆ น่ะ ไม่ได้ตั้งใจหายไปหรอกจ้ะ หนูฮิคาริพูดคำหวานๆ อย่างนี้ อาได้มาหาบ่อยๆ แน่นอน"
"จริงเหรอคะ แล้วคุณอา...จะค้างคืนนี้มัยคะ" ฮิคาริมองด้วยสายตาหยาดเยิ้ม
"จริงๆ อาก็มีธุระอยู่แหละนะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า..." คุโระมองกลับด้วยสายตามีเลศนัย "หนูฮิคาริจะดีกับอาขนาดไหน"
"หนูทำให้ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ คุณอาบอกมาสิคะ"
"เอ้า งั้นแสดงให้อาดูหน่อยสิ ไปเล่นหนังมาแล้วเป็นยังไง" ฮิคาริเปลี่ยนสีหน้าและพูดแบบเง้างอน
"หึ คุณอาเนี่ย มาพูดแบบนี้เลยหมดมู้ดกันพอดี"
"แหมๆๆ ก็บอกแล้วไงว่าอาไม่ถือ โอ๋ๆๆๆ ไม่เอาน่าคนสวยของอา" ก่อนจะกอดรัดกระซิบที่ข้างหู "อาดูหนังที่หนูแสดงแล้ว รู้สึกเสียวซ่านสุดๆ เลยจ้ะ ทำแบบนั้นหน่อยสิจ้ะ หึหึ" มันหัวเราะอย่างหื่นกระหายแต่เธอไม่ถือ กลับชอบที่จะได้ปรนนิบัติกับคนที่รัก จ้องหน้าและโอบรัดแน่นกลับ
"ได้สิค่ะ มากกว่านั้นก็ได้" ก่อนจะจูบปากอย่างเร่าร้อน ลิ้นกระหวัดเกี่ยวแน่นรุกเร้าอีกฝ่าย หายใจถี่แรง เนิ่นนาน ก่อนจะใช้ปากดึงลิ้นอีกฝ่ายมาเกี่ยวกระหวัดข้างนอก มือก็ลูบไล้ภายนอกเสื้อและกางเกง คุโระเองก็ใช้มือตะโบมทั้งหน้าอก และควักล้วงใต้กระโปรงจนถึงกางเกงใน
"อา...คุณอาคะ หนูเสียว" คุโระทำเสียงหื่นกระซิบข้างหู
"เรียกป๋าได้ไหมจ๊ะ พูดหยาบๆ แบบในหนัง ป๋าชอบ อูย"
"ได้สิคะ ป๋าขา" ฮิคาริที่กำลังเกิดอารมณ์ และหลงใหลอีกฝ่ายยินยอมทำตามอย่างง่ายดาย ต่างฝ่ายต่างซุกไซ้ซอกคอ และเล้าโลมกันจนเป็นเนื้อเดียว ฮิคาริค่อยๆ ทำหน้าที่ถอดเสื้อผ้าฝ่ายชายจนเหลือแต่กางเกงใน และค่อยๆ ปลดอาภรณ์ของตนจนหมด ก่อนจะใช้ลิ้นลากไล้มายังหน้าอกของฝ่ายจนลงมาที่ท้องอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ ก่อนจะก้มลงไปอยู่เบื้องล่างลูบคลำท่อนลำที่แข็งตรงนั้น มองสายตาอีกฝ่ายอย่างลุ่มหลง
"ป๋าขา หนูโม้กควยให้นะคะ" อีกฝ่ายแค่เพียงพยักหน้า ฮิคาริก็ใช้ลิ้นวนเลียหัวถอกหลังจากฝึกฝนมาอย่างดี ก่อนจะรูดปากเข้าออกท่อนลำนั้นอย่างต่อเนื่อง สลับกับใช้มือชักเข้าออก ใช้ลิ้นลากเลียท่อนลำอย่างไม่รังเกียจ คุโระกระหยิ่มท่าทีร้อนร่านของหญิงสาว เพราะก่อนหน้านี้เธอยังแทบอ้วกออกมาเสียด้วยซ้ำ
"หนูจ๋า ควยป๋ามันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ ฮ่าๆๆๆ"
"ค่ะ อร่อยจังค่ะ" ฮิคาริราวกับสวมบทนักแสดงเอวีที่เธอเล่นมาได้ 3 เรื่อง มองหน้าอีกฝ่ายพลางดูดขบท่อนลำเสียงดังจ๊วบจ๊าบก่อนจะถอนออกมาดัง "พล๊อบ"
"อา...."
"อูย ป๋าเสียวจริงๆ จ้ะหนู" คุโระพลางถามเสียวหื่น "เงี่ยนขนาดนี้เลยเหรอจ๊ะ"
"อูย เงี่ยนสิคะป๋า" ไม่ว่าเปล่า เธอจับท่อนควยอีกฝ่ายถูไถไปยังหน้าอกกลมกลึงนั้น พร้อมเอามือลูบไล้หน้าอกอีกข้าง หลับตากระสันซ่าน "อา เสียวจัง"
"อูย..." คุโระร้องได้เท่านั้นก็จับฮิคาริขึ้นมาจูบปากแลกลิ้นอีกรอบ พร้อมกระซิบสั่ง เพียงเท่านั้นหญิงสาวก็ลงไปนอนระทดระทวยบนเตียงตามคำขอ พร้อมเรียกร้องอย่างร้อนร่าน
"อาห์....ซี๊ด ป๋าขา เย็ดทีค่ะ เงี่ยนเหลือเกิน" ท่าทีของหญิงสาวยังดำเนินต่อไป เธอแยกขาถ่างกว้างออก ลูบไล้ร่างกายเชิญชวน
"หึๆ ดี ร่านๆ อย่างนี้ป๋าชอบ" ก่อนจะโถมร่างท้วมนั้นลงทาบทับ จับปลายถอกถูไถร่องที่ฉ่ำเยิ้มนั้น ก่อนจะสอดใส่เข้าไปอย่างช้าๆ หญิงสาวหลับตาพริ้มทำท่ารัญจวนใจ
"อูย ตอดรัดอะไรอย่างนี้" มันเอ่ยปากชมที่หญิงสาวเร่าร้อนต่างจากเดิมที่ไม่ประสีประสาเรื่องอย่างว่า
"อูย เสียวจังเลยค่ะ" ก่อนจะอ้าปากและยื่นลิ้นรับการตะโบมจูบอย่างมูมมามของคุโระที่ใช้ลิ้นลากเลียทั่วริมฝีปากไปจนถึงแก้ม ท่อนล่างก็กระแทกถี่แรงขึ้นยาวนาน หญิงสาวไม่เพียงอ้ารับแต่ยังกระหวัดขาทั้งสองรัดสะโพกอีกฝ่ายตอบสนองเสมือนบอกให้เร่งแรงขึ้น ปากก็ร้องซี๊ดซ๊าด
"ป๋าขา ตกลงวันนี้ค้างคืนใช่มั้ยคะ"
"หึๆ ถ้าทำให้ป๋าไม่ต้องนอนทั้งคืนได้ล่ะก็ไม่มีปัญหา ป๋าได้ค้างทั้งคืนแน่" คุโระยังพูดไปกระเด้าไปไม่หยุด "คืนนี้ทำให้อาได้ทุกอย่างแน่นะ"
"ได้ทุกอย่างแน่นอนค่ะ" ฮิคาริโอบคออีกฝ่ายมองตาหวานซึ้ง
"อา...แรงๆ ค่ะ อย่าหยุด" แต่เหมือนคำพูดแสนรัญจวนใจนี้ยังไม่พอสำหรับคุโระ มันกระซิบให้ฮิคาริพูดจนหมดความเป็นคุณหนูลูกผู้ดีไปสิ้น
"อา ป๋าขา เย็ดแรงๆ ค่ะ อาห์...เย็ดแรงๆ อ๊ะๆๆๆ จะแตกแล้ว อย่าหยุดค่ะ" ไม่พูดเปล่าแต่ขาเธอยิ่งรัดแน่นสนองก่อนจะหวีดร้องแสดงอาการถึงจุดสุดยอด
"อร๊ายยยยย ป๋าขา ถึงแล้ว อร๊ายยๆๆๆๆ " ฮิคาริเด้งสะโพกรับควยอย่างถี่ยิบ
"อ๊าซซซซซซซซซซซซซซ ถึงแล้ว" คุโระรีบลุกจับท่อนลำที่กำลังน้ำแตกจ่อไปที่ใบหน้าฮิคาริ หญิงสาวที่กำลังเกิดอารมณ์พลุ่งพล่านไม่เพียงเลี่ยงหลบ แต่ยังแลบลิ้นอ้ารับน้ำกามที่พุ่งมายังใบหน้า และลิ้นนั้น
"อูย ดูดเลียทำความสะอาดควยต่อเลยจ้ะ" เพียงแค่พูดเท่านั้นฮิคาริก็ทำตามอย่างว่าง่าย ดูดเลียและยังฝืนหลับตากลืนมันลงไปในคออีกด้วย
"อูย หนูจ๋า เยี่ยมไปเลย นี่มันยิ่งกว่าที่ป๋าดูในดีวีดีเสียอีก"
"คุณมิกิบอกน่ะคะว่าผู้ชายชอบแบบนี้ หนูทำแบบนี้..." ฮิคาริมองอย่างเง้างอน "ป๋าชอบมั้ยคะ"
"ชอบสิจ๊ะ ก็หนูไม่เคยโม้กควยเก่งขนาดนี้เลย" คุโระจ้องกลับอย่างหื่นกระหาย "ป๋าบอกแล้วใช่มั้ยจ๊ะว่าชอบคนใช้ปากเก่งๆ มันเร้าใจดี ฮ่าๆๆ "
พอพูดได้เท่านั้น ฮิคาริก็ลุกขึ้น จัดการก้มไปยังท่อนควยที่กำลังฝ่อนั้นใหม่ ใช้ลิ้นโลมเลียกระตุ้นอีกครั้ง
"อุ๊ อูยยยย"
"ลุกขึ้นสิคะ เดี๋ยวหนูจะทำให้ใหม่" คุโระจึงจัดแจงคุกเข่าขึ้นบนเตียง แอ่นควยเสนอสนองให้หญิงสาวเต็มที่ หน้าตายิ้มกริ่มอย่าได้ใจที่หญิงสาวที่เคยเย่อหยิ่งคนนั้นยอมสยบในสภาพนี้ มิหนำซ้ำมันยังจับศีรษะเธอเข้าหากระทุ้งเข้าไปจนสุดลำ ฮิคาริที่พยายามเอาอกเอาใจคนรักไม่มีท่าทีขัดขืน แม้จะเข้าไปในลำคอจนอยากขย้อน....
อีกหลายนาทีต่อมา ชายร่างท้วมก็จับท่อนลำกระแทกปากหญิงร่างอรชรตรงหน้าเต็มที่
"อ๊าซซซ อ๊ะๆๆๆๆ อูย ออกแล้ว....อาห์หหหห"

...

ผมหลับตาจินตนาการคิดเป็นตุเป็นตะตามที่คุโระมันคุยโอ่ได้ถึงตรงนี้ก็ใช้มือชักจนน้ำแตกคามือเพียงลำพังในห้องน้ำใกล้ๆ นั้น พอใส่กางเกงเดินโผเผออกมา คุโระก็เดินเข้าไปยังห้องคุยงานกันแล้ว เหลือเพียงคุณทาเคชิอยู่ที่โต๊ะ
"ลูกพี่ครับ"
"ว่าไง มีอะไร"
"เรื่องที่ลูกพี่เสนอเมื่อวาน ที่จะให้ผมแสดง" ผมนิ่งไปชั่วครู่ "...ตกลงผมรับข้อเสนอครับ"
16 เมษายน 2008

"สวัสดีครับ กลับมาพบกับข่าวพยากรณ์ยามเช้ากันอีกครั้ง เริ่มที่สถานการณ์ของพายุโซนร้อน “นิโอกุรี” บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางจากเกาะไหหลำ ประเทศจีน ได้ยกระดับความรุนแรงขึ้นเป็น....  อย่างไรก็ตามพายุลูกนี้จะไม่ได้กระทบมายังประเทศญี่ปุ่นครับ"

ผมนั่งกินข้าวกล่องในที่ทำงานฟังข่าวช่วงเช้าแล้วสะดุดกับชื่อพายุที่ตั้งเป็นภาษาญี่ปุ่นจนเผลอจับประโยคต่างๆ ได้ชัด แม้จะไม่ได้ต้องเกี่ยวข้องอะไรกับมันเลยก็ตาม...ท่ามกลางฟ้าโปร่ง สดใสของแรกวัน

1 เดือนผ่านไปแล้วหลังผมได้เข้าฉากกับฮิคาริ มันเป็นความสุขสมที่แลกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ผมก็ยากจะลืมเหตุการณ์วันนั้นไปได้ปะปนผสมผเสไปกับความสับสน

หากหลังจากนั้นจะทำให้ผมยิ่งห่างเหินกับเธอไปอีกก็ตาม แต่เมื่อความเงียบเหงามาเยือนก็เผลอไผลคิดถึงวันนั้นขึ้นมา

...

"คืออย่างนี้นะไอ้หนุ่ม งานนี้มันจะเป็นเรื่องแนวตามคำขอของแฟนๆ หนังของยูกิจังเขา แฟนๆ จะเขียนจดหมายขอให้ยูกิทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้ ของเรานี่จะเป็นแบบจำลองให้ไปพบที่ห้องพักเล็กๆ แห่งหนึ่ง ประมาณเป็นคนขี้อาย คุยกันได้สักพัก คุยเรื่องอะไรก็ได้ สักพักก็มีอะไรกัน..." ผู้กำกับที่พอจะรู้ว่าผมเป็นคนในบริษัทที่รับงานถ่ายทำนี้ อธิบายอย่างเป็นกันเอง แต่ในหัวสมองของผมเหมือนจะท่องจำอยู่อย่างเดียว

"ยูกิๆๆๆๆ เธอชื่อยูกิ ไม่ใช่ฮิคาริ ไม่ใช่ฮิคาริๆๆๆๆ "
"เฮ้ย ไอ้หนุ่ม เป็นไรเปล่า เหงื่อแตกเลย ห้องเปิดแอร์ออกจะเย็น"
"อ้า เปล่าครับ" จริงๆ ที่ผู้กำกับบรีฟบทคร่าวๆ ให้นั้น ผมจำมาไม่รู้กี่รอบแล้ว ผมเลยมัวแต่คิดว่าแค่อย่าจำชื่อผิดก็พอ เลยคิดแค่ว่าคนที่จะเล่นด้วยคือ ยูกิ ฮิเมะ ไม่ใช่ฮิคาริเพื่อนของผม

ไม่ต้องนับเรื่องประสบการณ์ทางเพศที่ถึงจะทำงานวงการนี้ แต่นับตั้งแต่มีแฟนคนแรกเป็นนักแสดงเอวีอยู่ช่วงหนึ่ง กับช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาที่คุณทาเคชิพาไปเลี้ยงฉลองให้เข้าร้านนวดกระปู๋ฟรี ผมเลยได้โอกาสมีอะไรกับสาวนวดที่รับค้างคืนด้วยคนนึงเท่านั้น

ระหว่างแต่งหน้า ทำผม -- ผมคิดว่ายังไงเสียก็ควรพูดคุยทำความเข้าใจกับฮิคาริสักหน่อย แต่พอเดินไปถึงเธอกลับมองผมด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึก มันเป็นสายตาที่ผมคาดไม่ถึง เธอไม่มีสีหน้าโกรธ แค้น หรือเสียใจกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ไม่นึกมาก่อนว่าจะได้เห็น แม้แต่ตอนเรียนเธอก็ไม่เคยมองผมด้วยสายตาเช่นนี้เลย นั่นทำให้ผมต้องรีบผละไปจากตรงนั้นอย่างช่วยไม่ได้

แล้วก็ถึงการถ่ายทำ
หลังจากถ่ายฉากหน้าประตูห้องที่ทักทายกันเพื่อจะแทรกเป็นฉากเปิดตัวสั้นๆ ก็มาถึงฉากภายในห้องบนเตียงนอน

ฮิคาริใส่ชุดสวยผ้าชีฟองสีขาว กระโปรงสีฟ้าอ่อน เริ่มทำการอ่านจดหมายที่แต่งขึ้นว่าผมเป็นคนขอให้เธอมา อ่านอย่างช้าๆ ไปได้สักพักก็จะเริ่มหัวเราะเขินอายตรงคำบรรยายที่ผมอยากให้มาที่ห้องเพื่อจะมีเซ็กส์กันยังไง เพราะเป็นความฝันของคนดูที่ติดตามเธอมาตั้งแต่เห็นเธอตอนเป็นนางแบบชุดว่ายน้ำ ฮิคาริแสดงเป็น ยูกิ ฮิเมะ ที่ไม่มีทีท่าว่ารู้จักกับผม หรือเพิ่งทำท่าเย็นชากับผมเมื่อสักครู่ ขณะที่ผมนั่งนิ่ง พูดขานรับแค่เพียง "ครับ" "ใช่ครับ" "อ้า ครับ" "ใช่แล้ว" อย่างเดียว แม้จะทำงานเบื้องหลังวงการนี้มานาน แต่เมื่อเข้ากล้องเองกับเกิดอาการเกร็งอย่างหนัก แต่ผู้กำกับก็ถ่ายทำไป เพราะคิดบทให้เข้ากับลักษณะของเรื่องของมือสมัครเล่นแบบนี้อยู่แล้ว

สักพักขณะที่กำลังตื่นกล้องนั้นเอง มือฮิคาริก็มาจับมือสั่นๆ กำแน่นของผม
"ใจเย็นสิคะ ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น" ฮิคาริที่สวมบทบาทสมจริงยิ้มให้กับผมอย่างเป็นกันเอง
แล้วจู่ๆ ผมก็เหมือนนึกอะไรไม่ออก "อา ยูกิจัง ผม ผะ...ผมดีใจจังเลยครับ ผะ ผมขอกอดได้มั้ย"
"ได้สิคะ ยูกิยินดีค่ะ" ว่าแล้วเธอก็หลับตาพริ้มผายมือให้ผมกอดอย่างช้าๆ ซึ่งผิดกับบทที่จริงๆ แฟนคลับจะต้องขอให้เธอจูบ และใช้ปากเลย แต่ใจส่วนลึกผมกลับบอกให้ทำเรื่องต่างๆ อย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป
อ้อมกอดของเธอนุ่มนวลเหลือเกิน แต่หลังจากนั้นเองผมก็เหมือนอาการอยู่ในภวังค์ที่ปะปนกับอาการตื่น ผมพูดอะไรยังไงไม่ทราบ รู้สึกตัวอีกทีก็จูบปากกับฮิคาริ มันเป็นแค่จูบรับขวัญเท่านั้นแต่ก็ทำให้ผมตื่นตัวขึ้นมาทันที
พอผละออก ผมอ้าปากแลบลิ้นทำสัญญาขอจูบอีกครั้งแบบแลกลิ้น เธอเองก้มหน้ารับด้วยความยินดี
ทันทีที่เราเอาลิ้นสัมผัสกัน ผมสังเกตว่าสายตาเธอลอยไปทางอื่น แต่ตอนนั้นกลับไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเป็นความเขินอายตามบท
"อาห์ อูว" ผมเผลอครางออกมา เพราะมือตนเองก็ไม่อยู่สุข ไปก่ายตามเนื้อตัวฮิคาริอย่างหื่นกระหายจับนม และไล้ตามท้อง
"จ๊วบ อาห์ อืมม์ แจ๊บๆๆ โอย ขาวสวยอะไรอย่างนี้" ผมมารู้สึกอีกทีก็ดูดนมคู่สวยของฮิคาริ ชมไม่ขาดปาก ไม่นานหลังจากนั้นก็พบว่าเธอเป็นฝ่ายรุก ก่อนจะถอดกางเกง-กางเกงในใช้ปากให้ผม
"อูยยยย อาห์ ดูดแรงๆ ครับ โอย เสียวควยเหลือเกิน โอย"  ว่ากันจริงๆ มานึกดูตอนนี้ ฮิคาริไม่ได้ใช้ปากเก่งกาจอะไรอย่างที่ผมจินตนาการ แต่นี่ก็เหมือนฝันผมแล้วที่ได้ดาวประจำโรงเรียนมัธยมคนนั้นมาโม้กควยให้ตรงนี้ แม้จะเป็นการแสดงอย่างหนึ่งก็ตาม
"อา อาซๆๆๆ " สะโพกผมไม่อยู่นิ่ง กระแทกกระทั้นโดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าฮิคาริอึดอัดหรือเปล่า
"เสียวมั้ยค่ะ" จริงๆ ผมได้ยินเสียงสำลักจนคายออกมา แต่ฮิคาริรีบแก้เก้อด้วยการถาม แต่ผมไม่ตอบ เธอใช้มือชักให้ไปได้สักพัก สติที่หลุดลอยของผมก็จับศีรษะเธอมาโม้กให้ต่อ จับกดไปตามอารมณ์ของตนเองที่ใกล้จะถึงจุดหมาย
"อูยยยยย อาซซซซซ อูย อูย โอววว"
"แค่กๆๆๆ" ฮิคาริรีบบ้วนคายทั้งน้ำกามของผมและน้ำลายออกมา
"คัต !!!! เฮ้ย ใครใช้ให้แตกในปากวะ !" เวรละ ตามสคริปต์คือให้แค่โม้กจากนั้นก็มีอะไรกันต่อเท่านั้น จากนั้นผู้กำกับก็อธิบายว่าจะตัดฉากนั้นออกไปเหลือฉากใช้ปากแค่ครึ่งเดียวเพราะฉากไคลแม็กซ์อย่างการน้ำแตกควรมีครั้งเดียว และตามสัญญาคือแตกใส่หน้า
ผมฟังเหงื่อแตก จับใจความอธิบายได้บ้างไม่ได้บ้าง รู้แค่คำท้ายๆ
"เล่นต่อได้นะ !"
"ครับ"

พักไป 1 ชั่วโมงก็มาต่อฉากเดิม ทีมงานให้ผมกินเครื่องดื่มชูกำลัง
หลังจากฉากใช้ปาก เป็นการตัดมาที่ฮิคาริค่อยๆ ถอดชุดอย่างช้าๆ ผมที่ตอนนั้นเบื้องล่างไม่มีกางเกงใส่ก็ชูชันขึ้นมาอีกครั้ง และรีบถอดเสื้อ
ฮิคาริเข้ามาเล้าโลมผมช้าๆ จูบซอกคอก่อนระเรื่อยมาถึงปาก แต่ผมกลับไม่มีมาดอะไรทั้งสิ้น มีเพียงความหื่นที่รีบตะโบมกอดและทาบทับเธอทันที
"อา อูย ขาวอะไรอย่างนี้ โอย" นึกถึงตอนนี้น้ำเสียงผมตายอดตายอยากเหลือเกิน ก่อนจะค่อยๆ สอดใส่อย่างยากลำบาก
"อูย แน่นอะไรอย่างนี้" ผมไม่ได้สังเกตสีหน้าอะไรเธอ แต่ก็ได้ยินเสียงแอบกระซิบดังแว่วมาที่หูว่า
"ช้าๆ เราเจ็บ โอย" สติจึงพอกลับคืน ค่อยๆ สอดใส่เข้าออกช้าๆ เห็นสีหน้าอีกฝ่ายที่ตอนแรกหลับตาแน่น ค่อยๆ มีความสบายขึ้น ความหื่นกระหายก็กลับมาอีกรอบ กระแทกกระทั้นต่อไป
"อูย ฟิตจริงๆ อาห์ อาซซซ"
"คัต !" เสียงผู้กำกับมาขัดจังหวะอีกรอบ
"โอเค ซีนเมื่อกี้แค่นี้พอ เปลี่ยนท่า" คราวนี้ผมจับเธอมาในท่าโก้งโค้ง การสอดใส่เป็นไปอย่างยากลำบาก ได้แค่เฉียดบ้าง เข้าบ้าง แต่ผู้กำกับก็ให้ตากล้องซูมในจังหวะหนึ่งจนคิดว่าผ่าน จึงให้เปลี่ยนท่าให้ฮิคาริขึ้นคร่อม
เธอหันหลังให้ และจับจ่อเองอย่างช้าๆ เมื่อเข้าสุดก็ส่งเสียงครางอย่างสุดสยิว
"อื๊มมมม" ผมไม่รู้ว่านั่นเป็นการแสดงหรืออย่างไร แต่ก็ทำให้ผมเกิดอารมณ์อีกครั้งหลังจากสะดุดไปครู่หนึ่ง จับสะโพกเธอกระแทกเข้าออกจากช้าไปเร็ว อาการตื่นเริ่มหายไปแล้ว
"โอยยย อูย เสียวชิบ"
"อึ๊มมๆๆ อ๊ะ อ๊า อร๊ายยๆๆๆ " เสียงของฮิคาริเหมือนจะถึงจุดหมายปลายทาง และทำให้เอาผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ
"คัต ! เยี่ยมมากฮิคาริ ซีนต่อไปกลับไปท่าปกติเหมือนเดิม" ก่อนจะถามผมว่าปล่อยน้ำได้หรือเปล่า ผมรีบพยักหน้ารับ
"อ๊ะๆๆ เสียวจัง อ๊ะๆๆ ว้ายยยย" ฮิคาริรอรับผมที่ทาบทับเด้งสะโพกตามน้ำเสียงที่เร่าร้อน จากการคัตดังกล่าวมันทำให้ผมแอบสับสนระคนความเสียวว่านี่คือการแสดงล่ะหรือ แต่สุดท้ายก็หักห้ามอารมณ์ที่คั่งค้างดังกล่าวไม่ได้อีกต่อไป
"อาซซซซ ออกแล้ว อาซซซ" ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปตรงหน้า จ่อน้ำที่คุมไม่อยู่ออกจากถุงยางไปพอควรแล้ว ได้เพียงเหลือน้ำนิดหน่อยเปื้อนแก้มขาวนวลตรงหน้าเท่านั้น
"อูยยย อาววววว" ก่อนจะจ่อที่ปาก ฮิคาริผงกหัวมองกล้องอย่างท้าทาย แต่จริงๆ เพียงแค่สัมผัสเล็กน้อย และทำเสียงจ๊วบทิ้งท้าย ผิดกับที่ผมคิดว่าคงจะใช้ปากตอดรัดน่าดู
ทีมงานค่อยๆ ดึงตัวผมออก กล้องค่อยๆ จับฮิคาริที่นอนเปื้อนน้ำกามบริเวณแก้ม หลับตาพริ้มพูด
"ขอบคุณค่ะ ลาก่อน แล้วโอกาสหน้าค่อยเจอกันนะคะ"
"คัด ! เยี่ยมครับ วันนี้พอแค่นี้ พรุ่งนี้มาถ่ายฉากต่อไป" ก่อนทีมงานจะรีบเอาผ้าคลุมปกปิดร่างกาย และกันเธอออกไป เดินลับหายเข้าไปยังห้องแต่งตัว...และผมไม่ได้เจอเธออีก

...

"ตรู๊ดดดดด"

ข่าวร้ายแต่ละระลอกก็พุ่งตรงเข้ามาตั้งแต่ช่วงเช้า ไฮบาระโทรศัพท์มาบอกข่าวหนึ่งที่พอจะเกี่ยวข้องกับคุโระ ขณะที่ผมยังลังเลว่าจะติดต่อกับฮิคาริดีหรือไม่ กลางวันนั้นอีกข่าวจากคาโตะก็ตามมา ผมขอให้ทั้งคู่ส่งภาพหลักฐานมาให้ เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผมคงเก็บงำเอาไว้เฉยๆ ไม่ได้

เสียงเรียกเข้าจากปลายสายดังต่อเนื่องหลายครั้ง ในที่สุดเธอก็ยอมรับโทรศัพท์จากผม
"มีอะไร" เธอรับด้วยน้ำเสียงเบาๆ เจือความเฉยแชเชือน
"ฮิคาริ เรามีข่าวเกี่ยวกับคุโระ เราคิดว่าต้องบอกเธอ"
"อย่าเลย เราเคยบอกเธอไปแล้วว่าให้เลิกทำแบบนี้" แต่ผมไม่ฟังคำทัดทาน
"แต่เราต้องบอก ไอ้คุโระมันมีเมียแล้วนะ ! เธอโดนมันหลอก" เธอนิ่งไปสักครู่ก่อนตอบอย่างใช้อารมณ์
"ไม่จริง เธอโกหก"
"เรามีหลักฐาน เพื่อนเราที่ทำงานบริษัทที่คุโระติดต่อ มันไปค้นเอกสารเจอบัตรประชาชนของบริษัทที่เซ็นร่วมลงทุน บริษัทที่ว่ามีชื่อสองคนพร้อมตราประทับ เป็นทะเบียนสมรส และบัตรทั้งคู่ชัดเจน เดี๋ยวเราจะส่งไปให้ดู" ก่อนผมจะส่ง MMS ไปให้ทันที
"เห็นยัง" แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้ผมรู้สึกผิดหวังเล็กๆ
"แค่นี้ใช่มั้ย เราจะวางหูแล้ว"
"เดี๋ยวสิ...ยังมีอีก...เราให้เพื่อนที่รู้จักทางสถานี FTV ช่วยสืบให้เขาพบหลักฐานว่าคุโระ...เป็นส่งหลักฐานที่บ่งบอกว่าพ่อเธอล๊อบบี้บริษัทจัดเรตติ้งทีวี..."
"อะไรนะ !"
"หลักฐานเป็นจดหมายสนเท่ห์ พร้อมเอกสารทางการเงินของบริษัทเรตติ้งทีวีส่งมา จากนั้นการตรวจสอบจึงเกิดขึ้น มันไม่มีชื่อคนส่ง แต่พอเช็คเบอร์แฟ็กซ์ ทางสถานีก็ระบุไว้ว่าเป็นของบริษัทคุโระนั่นแหละ" ผมส่ง MMS อีกครั้ง
"ฮิคาริได้รับหรือยัง" ปฏิกิริยาของฮิคาริเงียบไปครู่ใหญ่จนผมต้องถาม
"สารเลว...." เป็นคำสบถสุดท้ายของเธอก่อนที่ผมจะได้เสียงวางสายในเวลาไม่นาน
"ฮิคาริ ! อย่าเพิ่งวาง ! ฮิคาริ !"

...

หลังจากวางสายและพยายามติดต่อกลับ แต่เธอไม่รับ ผมจึงเชื่อแน่ว่ามีสถานที่เดียวที่เธอจะไปพบนั่นคือออฟฟิศหลักของคุโระ คิดได้ดังนั้นก็สอบถามคุณทาเคชิ และรีบเดินทางไปก่อนทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะช่วยอะไรได้

ทันทีที่ไปถึงบริษัทดังกล่าว ผมก็พบว่าฮิคาริยืนโต้เถียงกับคุณคุโระที่บริเวณห้องรับแขกเสียงดังน่าจะได้ครู่ใหญ่ แต่คุโระกลับไม่มีท่าทีเคร่งเครียดอะไรแต่ประการใดที่ความลับถูกเปิดเผย กลับนั่งบนโซฟารับแขกอย่างสบายใจ มี รปภ.ประจำออฟฟิศดูเชิงอยู่ด้านข้าง
"มีอะไรจะอธิบายไหมคะ กับเรื่องที่พูดไปเมื่อกี้ บอกหน่อยเถอะค่ะว่าไม่จริง" เธอตวาดพร้อมยกมือถือมาท่าทางกระหืดกระหอบ ความโกรธแค้น กลัว ระคนผิดหวังสับสนกันไปหมดในสายตาคู่นั้น แต่คุโระกลับยังคงโต้ตอบด้วยสายตาที่ยิ้มกระหยิ่มไร้ความหวาดหวั่นในการปะทะอารมณ์โกรธของอีกฝ่าย
"อ้อ ไม่มีหรอกจ้ะ แหม ความแตกจนได้
"หา อะไรนะ !!"
"แต่อาก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าปิดได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง จ้ะ ก็ตามที่หนูเห็น แล้ว...มีแค่นี้ใช่มั้ย ? หือ ?"
"แก๊.........!!!" ฮิคาริเสียงตวาดพร้อมๆ กับสะอื้นไห้ เป็นคำพูดที่แสดงการสิ้นความนับถือคนตรงหน้า ระคนเสียใจในสิ่งที่ประสบพบ "แกทำอย่างนี้กับฉันทำไม แกทำกับพ่อฉันอย่างนี้ทำไม้ !!!"
"อ๋อ หนูฮิกกี้สงสัยเรื่องนี้เอง ? งั้นก็จำไว้เลยนะว่าพ่อหนูที่ตายไปแล้วน่ะ ตอนใหญ่โต ดูถูก 'กู' ไม่รู้กี่สิบครั้งตอนอาไปติดต่อขอฝากงานให้สถานี นี่พ่อหนูมันไม่คิดเหรอวะว่าจะมีคนเขาเจ็บแค้น ตอนแรกก็ตั้งใจจะส่งให้เกิดเรื่องกับมันไม่มากนะ ไม่นึกว่าจะบานปลายถึงขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆๆ  จะบอกอะไรให้อีกนิดนะ ไอ้ที่ล๊อบบี้บริษัทจัดเรตติ้งที่ไหนเขาก็ทำกันทั้งนั้น แต่ที่อาส่งไปน่ะมีหลักฐานส่งไปถึงหนังสือพิมพ์ นักข่าวหมดแล้ว เขาเลยเลือกพ่อหนูไงมาเป็นแพะ ฮ่าๆๆๆๆ ชีวิตจริงมันก็อย่างนี้แหละนะ"
"แก๊ ไอ้...!!!"
"แถมอีกอย่างนะ ลูกสาวเชิดๆ ของมันอย่างหนู ยังกลายมาเป็นเมียเก็บให้ผัวคนนี้เย็ดเล่นๆ อีก ฮ่าๆๆๆ"
"ไอ้สัตว์นรก !!!" ฮิคาริที่โกรธแค้นขาดสติปรี่เข้าไปหาทั้งน้ำตา พร้อมจับกระชากคอเสื้อของคุโระที่นั่งอยู่ แต่คว้าได้แค่เสื้อสูท ก็โดน รปภ.ใช้มืออันแข็งแรงกัน ก่อนจะใช้กำลังที่เหนือกว่าผลักไหล่อีกฝ่ายเหวี่ยงไปกองกับพื้นตรงนั้น
"โอ้ย" เธอล้มลงไปแต่สายตายังจ้องเขม็งอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ
"โถๆๆๆ ที่หนูทำเมื่อกี้น่ะ คงไม่ได้อ่านสัญญาเลยสินะว่าการประทุษร้ายหรือกระทำผิดต่อผู้ว่าจ้าง สัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัดจะถือเป็นโมฆะ
"เออ !  ยกเลิกไปสิ ไม่ทงไม่ทำมันแล้ว"
"เอ้าๆๆ ใช้อารมณ์แบบนี้คิดให้ดีๆ นะ เดี๋ยวจะบอกข่าวดีให้อีกอย่าง..." คุโระจุ๊ปาก ยืนขึ้นจ้องมองฮิคาริที่ล้มลงหมดท่าตรงนั้น ราวกับเงาทะมึนที่มีอำนาจเหนือกว่า "นั่นหมายความว่าหนูจะไม่ได้เงินค่าจ้างสักแดง หนี้หนูน่ะอาเองก็ไม่เคยใช้ให้เต็มจำนวนเลยนะจ๊ะ ฮ่าๆๆๆ ใช้ให้พอตัวเลขไม่น่าเกลียด ตอนนี้เห็นว่าขึ้นด้วยมั้งเป็นสิบล้านเยนแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ"
เท่านั้นฮิคาริก็หน้าถอดสีขึ้นมา ก่อนจะระเบิดอารมณ์ด่ากลับอีกครั้ง
"มึง ไอ้สารเลว ไอ้ๆๆๆ" จังหวะที่กำลังชะงักอยู่นั้น คุโระก็ชิงพูดก่อน
"เอาเถอะจ๊ะ อยากด่ากู ก็ด่าไปนะ ยังไงซะถือว่าเป็นค่าเลี้ยงอาหาร ข้าวของเครื่องใช้แบรนด์เนมที่มึงอยากได้ก็แล้วกัน กูยกให้ เพราะยังไงกูก็ทำให้มึงเป็นกะหรี่ให้คนเขาเย็ดฟรีๆ ไม่รู้กี่คนแล้วว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ" โดนโต้กลับเพียงเท่านั้น ฮิคาริก็หมดสภาพจะโต้ตอบใดๆ ฟุบหน้าลงไปร้องไห้พ่ายแพ้อย่างยอมรับสภาพ แต่กลับทำให้ผมที่แอบฟังอยู่ข้างประตูสติขาดผึงแทน รีบวิ่งเข้าไปหมายจะทำร้ายมันแทนบ้าง
"มึง...ไอ้คุโระ !" แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวมัน รปภ.ร่างใหญ่ก็ใช้กระบองอัดผมที่ลิ้นปี่จนจุกล้มลงไปกองกับพื้น
"อ่อก !"
"หึๆๆ เพื่อนมึงนี่ก็โง่ไม่ต่างจากมึง คิดจะสู้กับกู ก็มีปัญญาสู้ได้แค่นี้เอง เหอะ กระจอกฉิบหาย ถุย !" ผมอยากจะด่ามันกลับเหลือเกินแต่เจ็บจนพูดไม่ออก
"ไหนๆ ก็ให้โอกาสแล้วกันนะ กูจะไม่ฟ้องเอาเรื่องเมื่อกี้ก็ได้ เดี๋ยวจะหาว่ารังแกคนไม่มีทางสู้ แล้วก็ไม่ต้องเล่นต่อแล้วนะ เก็บของจากแมนชั่นแล้วก็ไสหัวไปให้พ้นๆ ซะ กูเอามึงมาพอแล้ว จะเอาอะไรไปก็ได้นะเผื่อจะใช้หนี้ได้บ้าง"
"อ้อ แล้วจำไว้" มันนิ่งก็จะเน้นคำที่พูดอย่างช้าๆ "วงการบันเทิงมันก็เป็นอย่างนี้ล่ะ หึหึ" ฮิคาริที่นั่งอยู่กับพื้นนั่นเอง ฟังได้สักพักก็ก้มหน้า เดินคอตกน้ำตารินจากไปแต่โดยดี
"ฮิคาริ ! อุ๊บ"  ผมที่ลุกขึ้น แต่ยังเจ็บที่หน้าท้องอยู่รีบลุกเรียกด้วยเสียงแผ่วเบา
"อ้อ ไอ้หนู มึงชื่ออะไรนะ" คุโระเดินเบื้องล่างมาที่ผมแทนที่
"เคอิโงะ"
"กูจะถือว่าเหตุการณ์เมื่อกี้ไม่เกิดขึ้นเหมือนกัน เพราะยังไงซะ ก็ต้องขอบใจมึงนะ ที่ทำให้แผนของกูสำเร็จลุล่วงมาได้ในวันนี้ ฮ่าๆๆๆๆ" คำพูดของมันทำให้ผมหน้าชา
"เอ้า รีบตามไปช่วยซะสิ กูอยากรู้เหมือนกันว่าพวกมึงจะเอาอะไรมาสู้กูได้ ฮ่าๆๆๆๆ" ผมได้แต่ค่อยๆ ลุกจากไปอย่างเจ็บแค้น

...

"ฮิคาริ ! รอก่อน !" ผมรีบตะโกนเรียกไปพร้อมกับเดินกะโผลกกะเผลกไปหาเธอ แต่เมื่อกำลังจะเข้าไปใกล้นั่นเอง เธอกลับหันมาตาขวางทั้งที่น้ำตายังนองหน้า
"ไม่ต้องมายุ่ง !" วินาทีนั้นเองมือผมรีบคว้าจับข้อมือของฮิคาริ แต่กลับได้ผลตอบรับเป็นการสะบัดอย่างแรง
"ปล่อย !!!!" น้ำเสียงของเธอไม่มีทีท่าโอนอ่อนเลยสักนิด
"เธอโกรธอะไรเรากัน เราทำอะไรผิด"
"หึ เราคงผิดเอง ที่เราอุตส่าห์ไว้ใจเธอ แต่สุดท้ายเธอก็เหมือนคนอื่นๆ ทำทีว่าเป็นเพื่อน แต่สุดท้ายก็หวังอยากทำอะไรต่ำทรามกับตัวเรา !"
"ก็...ก็เธอเป็นคนเสนอชื่อเราเองไม่ใช่เหรอ ฮิคาริ !"
"เราบอกชื่อเธอ เพราะผู้กำกับพูดกดดันให้หาคนมาแสดง ทั้งที่มานึกจริงๆ มันเป็นฉากที่ใช้คนแสดงที่หาไว้แล้วก็ได้ แล้วคุณทาเคชิก็พูดชื่อเธอขึ้นมา รู้ไหมทำไมเราถึงยอมให้เสนอชื่อเธอ.." ฮิคาริก้มหน้านิ่งไปพัก "ก็เพราะเธอเป็นคนส่งข้อความกับเราว่า ถ้ามีคนเสนอให้เล่นหนังพวกนี้ 'ห้ามรับข้อเสนอ เด็ดขาดนะ' เราถึงไว้ใจว่าเสนอชื่อเธอไป เพราะรู้ว่าเธอจะปฏิเสธแน่นอน !"
การตวาดด้วยเสียงอันดังช่วงท้ายทำเอาผมหน้าชา ยืนแน่นิ่ง แท้ที่จริงความสุขสมจากฉากดังกล่าวคงมีเพียงผมที่รู้สึกอยู่เพียงคนเดียว
"แล้วนี่เธอจะบอกให้เราไว้ใจงั้นเหรอ หึ เธอเองก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆ " พูดได้เพียงเท่านั้นฮิคาริก็ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกครั้ง
"ฮิคาริ !" ผมรีบโผเข้าไปด้วยความห่วงไย แต่เธอรีบยกมือห้าม เงยหน้าทั้งน้ำตานั้น
"ขอเถอะเคอิโงะ นับจากวันนี้อย่ามายุ่งกับเราอีกเลย เราไม่อยากจะข้องแวะกับคนอย่างพวกเธออีกแล้ว"
"แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปล่ะ ฮิคาริ ให้เรามีโอกาสช่วยอะไรเธอบ้างสักนิดเถอะ"
"เราไม่รู้ๆๆๆ " เธอกล่าวซ้ำๆ เสียงสั่นเครือจนแทบไม่เป็นคำ "แต่ขอเถอะให้เราเดินไปตามทางของเรา เรา...เราเจ็บปวดพอแล้ว" พูดได้เพียงเท่านั้นเธอร้องไห้จนตัวโยนอีกพักก็สงบลง ผมได้แต่เพียงยืนมองอย่างชั่งใจ
แล้วเธอก็หันหลังก้าวเดินไป และเหมือนเธอรู้ว่าผมเตรียมก้าวเท้าตามต่อจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา แต่ช่างแสนเย็นชาห่างเหิน
"อย่าตามมานะ ! บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับเราอีก" ความรู้สึกบางอย่างโถมกระหน่ำให้ผมเหม่อลอยเศร้าสร้อย เพราะรู้แล้วว่าคนที่ผมแอบหลงใหล ต่อจากนี้ผมจะไม่มีได้รับความรักจากเธออีกเลย...
จนเมื่อเธอเดินลับหายไปที่ทางแยกของถนนใหญ่นั่นเอง ผมจึงตั้งสติได้อีกครั้งรีบวิ่งฝ่าฝูงชนหนาแน่นออกตามหาฮิคาริ และโทรศัพท์ตามหา ทว่าไร้ผล

ฟ้าช่วงบ่ายยังโปร่ง เมฆสีขาวลอยนุ่มละมุน แต่ชะตากรรมที่ไม่เป็นใจ กลับทำให้รู้สึกถึงพายุลูกใหญ่ถาโถมกระหน่ำชีวิตอีกครั้ง...



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
เกริ่นนำ : หายไปนานครับ เนื่องจากติดภาระกิจชีวิตส่วนตัวจนไม่มีเวลาเขียน หลังจากนี้ก็จะไม่ได้เขียนต่อเนื่องครับเพราะยังไม่มีเวลา แต่จะพยายามเจียดเวลาเขียนครับ ขอบคุณสำหรับหลายคนที่ยังติดตาม ตอนนี้จะบรรยายเรื่องค่อนข้างนานหน่อยนะครับ

.............................................................

"อู๊ยยยยยย ซี๊ดดดดส์ แตกแล้วๆๆๆๆๆ อร๊ายยยย อย่าาาาาาา เสียวววว พี่ขาาาาาาา อูยยยย" หญิงสาวที่แทบจะเปลือยกายในสภาพที่ชุดนักเรียนแบบกะลาสีถูกถลกออกจนหมด กำลังเอามือพิงโต๊ะในห้องเรียนที่มีเพื่อนนักเรียนร่างบึกบึนกำลัง

ตะบันท่อนลำเข้าออกรัวเร็ว ก่อนที่เสียงหลงร้องบอกถึงการเสร็จสมอารมณ์หมาย จะทำให้อีกฝ่ายชักมันออกและจับยกขาตะแคงเผยร่องรูอะร้าอร่ามจนถ่างสุด และใช้สองนิ้วล้วงเข้าออกอย่างชำนิชำนาญจนน้ำทะลักพร่างพรู บางหยดเปรอะที่หน้ากล้องถ่ายทำจนภาพที่ปรากฎพร่ามัว

ผมมองจอคอมพิวเตอร์ดังกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน สายตาจดจ่อเพียงบางจุดอย่างตั้งใจ ผิดกับสมัยที่ผมตื่นเต้นสุดๆ ขณะเริ่มทำงานเป็นเบ๊ที่นี่ หรือวันที่เปิดแผ่นหนังเอวีมาดูเองที่ห้องเช่า

คราวนี้กลายเป็นงานตัดต่อ หน้าที่ของผมคือค่อยๆ บรรจงเลื่อนเมาส์เอาโมเสก ขนาดเลเยอร์ต่างๆ ไปปิดทีละช็อตๆ ที่มีอวัยวะเพศโผล่หราเด่นชัด เพื่อไม่ให้หนังลามกเหล่านี้ผิดกฎหมายในญี่ปุ่น บ่อยครั้งมันสร้างความรำคาญให้กับบรรดาหนุ่มกลัดมันทั้งหลาย แต่บางครั้งมันก็สร้างอารมณ์ตื่นเต้นและทิ้งช่องว่างจินตนาการให้กับบางคน

3 เดือนหลังจากเหตุการณ์น่าเศร้าผ่านไปแล้ว แต่ขณะทำงานอันแสนทรมานนี้ก็ยังนึกถึงมันอย่างเจ็บปวดเป็นบางครั้ง

เมื่อตามหาฮิคาริไม่เจอ อารมณ์ที่ยังเคียดแค้นไม่จางหายของผมจึงปรี่ตรงไปที่คุณทาเคชิแทน เมื่อถึงสำนักงานผมก็ตวาดเสียงสั่นบ้าคลั่งขาดความชั่งใจใดๆ

"รุ่นพี่ !!! รุ่นพี่ทำกับผมอย่างนี้ได้ไง ทำไมรุ่นพี่ถึงหลอกผม ทำไมต้องไปหลอกฮิคาริ ผมอุตส่าห์ไว้ใจรุ่นพี่มาตลอด โว้ยยยย !"
"เฮ้ย ! เป็นอะไรของมึงใจเย็นๆ ก่อน" ไม่นานการซักถาม ก็เป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น รุ่นพี่ทาเคชิพอจับใจความได้ก็รีบพูดขึ้นมาขอความเห็นใจ
"เข้าใจข้าบ้างสิ คุณคุโระเขาเป็นนาย สั่งอะไรขัดได้เรอะ"  ก่อนจะอธิบายอะไรอีกมากมายแต่โสตประสาทผมไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น ได้แต่ขอลาออกท่าเดียว แม้รุ่นพี่ทาเคชิจะพยายามเกลี้ยกล่อมสารพัด และยกเรื่องหนี้ที่ผมยังใช้ไม่หมด ซึ่งอันที่จริงมันเหลือไม่สูงมากแล้ว แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ให้ผมออกตามที่ร้องขอ

หลายวันผ่านไปเมื่อเห็นผมไม่มีใจจะทำงานในแผนกดังกล่าว ลึกๆ รุ่นพี่ซึ่งแม้จะเป็นยากูซ่าแต่ก็ไม่ใช่คนใช้ไม้แข็งกับลูกน้อง และไม่ทิ้งพวกพ้อง จึงย้ายผมให้ไปทำงานกับคนตัดต่อที่ต้องการคนทำแทนพอดี ผมจึงได้ขลุกตัวเองอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงนี้

"หายเศร้าเมื่อไหร่ ก็กลับมาทำงานได้กองถ่ายต่อนะ" คุณทาเคชิตบบ่าผมขณะมาเยี่ยมครั้งแรก แม้ผมจะทำหน้าเฉยเมย

วิดีโอของฮิคาริในนาม ยูกิ ฮิเมะ วางแผงในเดือนต่อมา ก่อนเรื่องที่ผมได้เล่นด้วยนั้นจะกลายเป็นเรื่องสุดท้ายที่จากไปโดยไม่มีการแถลงอำลาปิดฉากอาชีพ เนื่องจากเธอทิ้งงานไปกะทันหัน ราวกลับสติผมกลับคืนหลังจากมองไปยังวิดีโอที่เธอเคยเล่นอีกครั้งอย่างละเอียดก็พบกับหลายฉากที่สีหน้าของเธอไม่เต็มใจหรือสุขสมตามบทบาทหลุดออกมา หลายฉากที่เห็นได้ชัดว่าเป็นการแสดงหลอกๆ โดยใช้มุมกล้อง โดยเฉพาะเรื่องแรกนั้นเอง เมื่อผมสอบถามคุณคาวายะที่ต้องเล่นคู่กับเธอในครั้งนั้นก็ยิ่งชัดว่าหลังจากวันถ่ายทำสองวันนั้น ก็มีการเรียกไปถ่ายซ่อมแบบหลอกเข้าไปช่วย แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจหรือรับรู้เนื่องจากติดงาน หรือกับสองเรื่องสุดท้ายที่มีฉากสองรุมหนึ่ง ฉากแรกนั้นนักแสดงชายสองคนใช้ไวเบรเตอร์ช่วยเธอ กับอีกฉากที่เป็นการให้เธอใช้ปากช่วย ยิ่งพบว่าเธอมีสีหน้าเคร่งเครียดจนปิดไม่อยู่จริงๆ

"ว่ากันจริงๆ น้องเขาไม่ค่อยมีอารมณ์กับฉันหรอกนะ ถึงจะเป็นการแสดงก็เถอะ แต่มันก็ต้องถึงบทบาทไง น้องเขาเครียดเกินไป ขนาดไปติวเข้มมาแล้วถ้ายังเครียดอยู่มันก็ไม่มีประโยชน์"

.....................................

ย้อนกลับไป 1 เดือนหลังเหตุการณ์ที่ฮิคาริเดินจากไป ผมไม่ได้เจอเธออีกเลย ได้แต่ขอให้คาโตะซึ่งได้ฝึกงานในสถานีโทรทัศน์ที่พอจะคาดหวังได้ช่วยสืบหาตัว

ในช่วงที่ทำงานกองถ่ายผมเคยถามคนที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงนี้มานานเหมือนกันว่าชีวิตนางเอกหนังแบบนี้ หลังจากเลิกเล่นไปแล้วจะทำอะไรต่อ ผมเองคาดเดาไม่ออกเลยจริงๆ ...เขาตอบว่าส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่ในวงการกลางคืนหรือที่มืดแบบนี้ต่อไปจนอายุมากก็กลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายตามต่างจังหวัด บ้างที่ดังมีชื่ออยู่บ้างก็โชคดีได้ทำงานแสดงบทเล็กๆ ในวงการต่อไป หรืออยู่เบื้องหลัง บ้างก็แต่งงานกลายเป็นแม่บ้านอยู่ต่างจังหวัดที่ไม่ต้องมาข้องแวะกับวงการนี้

"ไอ้หนุ่ม เอ็งรู้จักดาราเอวีคนนี้ไหมล่ะ" คุณลุงคนที่ผมลองถามเรื่องดังกล่าวชี้ไปที่โปสเตอร์หนังเอวีเก่าๆ คะเนว่าน่าจะติดค้างไว้เกือบ 4-5 ปีได้ ผมได้แต่ส่ายหน้า แต่คำตอบของลุงทำให้ต้องจำจนวันนี้
"แต่ก่อนน่ะนะ ดังใช้ได้เลยตอนเปิดตัว แต่พอผลงานหลังๆ ชื่อตกเร็วมาก ทำงานถ่ายหนังได้สามปี ทุกวันนี้ไปอยู่อาบ อบ นวด แถวย่านอิเคะบูกุโระแล้ว ตอนเย็นก็รับเป็นโฮสเทส ในบาร์ละแวกนั้นแหละ"

แล้วฮิคาริล่ะ คนอย่างเธอจะรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากแร้งพวกนี้ไปได้หรือ ผมอดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ

แต่โชคดีว่าไม่นานหลังจากนั้น คาโตะก็เผอิญไปพบโบรชัวร์แถวหอโทรทัศน์ NTT ที่เมืองนาโงย่า และสะดุดตากับภาพพริตตี้ที่แสดงในงานคนหนึ่งที่สวยโดดเด่นกว่าใคร และเหมือนฮิคาริมาก พอมันอาศัยเส้นสายของพ่อที่ทำงานในสถานีโทรทัศน์ที่โตเกียว ไหว้วานให้คนที่ทำงานสายโมเดลลิ่งติดต่อโทร.ไปยังบริษัทอีเว้นท์ดังกล่าว และขอประวัติกับรูปถ่ายมา แม้จะใช้นามแฝงก็ชัดเจนว่าเป็นฮิคาริแน่ๆ

ยิ่งเมื่อสอบถามเงื่อนไขกับผู้จัดการที่ดูแลว่าเธอ ว่ารับงานเป็นพริตตี้ และนางแบบเรซควีน รวมถึงยินยอมรับงานถ่ายแบบที่หวือหวาตั้งแต่ชุดว่ายน้ำ เปลือยเต็มตัวได้บ้าง แต่เลือกทำงานเฉพาะในแถบภาคกลางเท่านั้น ไม่เข้ามาในเขตโตเกียวก็ยิ่งมั่นใจ

ผมรีบรุดนั่งรถไฟไปยังเมืองนาโงย่า ในวันที่เธอเป็นพริตตี้งานอีเว้นท์ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งทันที ฮิคาริยังสวย ใบหน้าหวานซึ้งไม่เปลี่ยแปลง

เป็นไปตามคาด เธอมองผมราวกับอากาศธาตุ...แต่มันก็ทำให้ผมเจ็บปวดอยู่ดี

ได้แต่กลับมานั่งทำงานไปเรื่อยๆ อยู่หน้าจอโชว์ภาพเคลื่อนไหวของชายหญิงกอดก่ายกันอะร้าอร่ามต่อไปอย่างสมเพชตัวเอง เพื่อพยายามลืมเธอ ได้แต่ปลอบใจตนเองว่า

"ดีแล้ว อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องมาข้องแวะกับเส้นทางโสมมพวกนี้"

..................................................

ปลายปี 2008 นั้นเอง ที่ผมเก็บเรื่องราวน่าเศร้าในความสัมพันธ์ของฮิคาริไว้ในซอกหลืบของความทรงจำ ดูภายนอกผมมีความสุขดีเพราะผมได้ใช้หนี้ก้อนที่ติดค้างกับคุณทาเคชิไปเรียบร้อยแล้ว งานตัดต่อปิดโมเสกหนังเอวีอาจเป็นงานที่น่าหดหู่ไปเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ต้องทำมัน แต่ในอีกด้านการไม่ต้องคลุกคลีกับใครทำแต่งานตามที่กำหนด ก็มีรายได้สม่ำเสมอกว่าเดิมเสียอีก

ยิ่งช่วงหลังผมทำงานจนชำนาญ และถอยคอมพิวเตอร์มาอีกเครื่อง ก็รับงานนอกได้เพิ่มขึ้นจากไฮบาระที่ชวนให้ผมทำหน้าที่ปิดโมเสกหนังของค่าย SOD ที่มันดูแลอยู่ด้วย ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร

วันหนึ่งผมแกะแผ่นดีวีดีติดสติ๊กเกอร์สีขาว เขียนแค่รหัสหนังกำกับไว้อย่างง่าย โดยไม่ได้ดูรายละเอียดที่เขียนมาตรงปก

พอภาพฉายด้วยรหัส กับชื่อหนังที่ขึ้น Debut ด้วยความเคยชินผมรีบกดข้ามไปยัง 20 นาทีต่อมาเพราะรู้ดีว่าคงไม่มีอะไรให้ต้องมาเซ็นเซอร์อีก แล้วภาพตรงหน้าก็ตะลึง หญิงสาวสวยที่กำลังถูกฝ่ายชายจูบแลกลิ้นอย่างเร้าร้อนมองหน้าอย่างท้าทาย นัวเนียพลางถอดเสื้ออีกฝ่าย ส่วนฝ่ายหญิงก็ลูบจับที่เป้ากางเกงอย่างหนักหน่วงตรงหน้าคือ ฮิคาริ !

ผมรีบย้อนกลับไปเปิดดูตั้งแต่ต้น วิดีโอแนะนำว่าเธอชื่อ ยูกิ คาคุ เป็นหญิงสาวที่ซอยผมสั้นขึ้นมาอีกนิด ดัดผมลอนดูโตขึ้น แต่แน่นอนภาพระยะใกล้ที่กกถ่ายออกมานั้นดาราในเรื่องคือฮิคาริแน่นอน

"ฮิคาริ นี่มัน ...อะไร ...ทำไม" ผมเผลอพึมพำคนเดียวอย่างลืมตัว

งานเปิดตัวกับค่าย SOD Star ต่างออกไปจากงานที่เธอทำกับค่าย Max-A ลิบลับ แม้มันจะเปิดด้วยฉากแนะนำตัวพื้นๆ ก่อนจะร่วมเพศกับฝ่ายชายแบบปกติ

ผมพยายามสังเกตจับผิดอากัปกิริยากล้ำกลืนฝืนทนของเธอแต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด  มิหนำซ้ำยังดูร้อนแรงกว่าเดิมจนวิดีโอที่เธอเคยเล่นกลายเป็นงานหนังติดเรตเบาๆ ไปเลย

ฉากแรกหลังเธอแนะนำตัว ฝ่ายชายที่เข้าประชิดบนเตียงก็ไม่พูดพล่าม เล้าโลมกันได้ไม่นานก็เปลือยกายบนเตียงนอนสีขาวนั้น ยูกิ คาคุ ถูกจูบแลกลิ้นขณะที่ฝ่ายชายไม่ปล่อยมือให้ว่างบดคลึงโหนกนูน และอ้าขาให้ถ่างกว้างออกเห็นจะๆ ตา

และใช้เวลาไม่นานนัก หญิงสาวก็ถึงจุดสุดยอดตามนิ้วที่ล้วงลึก กระตุกชักเข้าออก

"อ๊าาาาาาา ตะแตกกกกกแล้ว อูยยยยย อืมม์ อื๊มมมมมมมม" หญิงสาวมองน้ำเงี่ยนที่แตกกระจายของตนเปรอะเตือนอย่างสุขสมได้ไม่นาน ฝ่ายชายก็จับมาจูบหนักหน่วง ก่อนจะถอนปากน้ำลายไหลยืดชวนให้เห็นถึงราคะที่มากล้นของทั้งคู่พร้อมจะระเบิดออก มิหนำซ้ำอีกฝ่ายก็ทำครั้งเดียวไม่พอยังจับหญิงสาวพลิกคว่ำนอนหงาย ใช้นิ้วควักล้วง บ้างก็ใช้ลิ้นโลมเลียร่องรูดังกล่าวจนอีกฝ่ายถึงจุดสุดยอดไปอีกสองครั้ง และแอ่นควยเสนอให้ฝ่ายหญิงบ้าง

ฮิคาริ ในชื่อใหม่ว่า ยูกิ คาคุ ไม่มีทีท่าอิดออด มิหนำซ้ำยังลากไล้อย่างชำนาญ มองกล้องอย่างท้าทาย ก่อนจะลากลิ้นลงต่ำดูดพวงไข่ตามคำขอของอีกฝ่าย ทำได้ไม่นานฝ่ายชายก็ขอให้เปลี่ยนท่า ให้หญิงสาวนอนหงายก่อนจะนั่งยองแอ่นก้นให้

เธอใช้ลิ้นเล้าโลมทางรูก้น เพียงมีท่าทีเขินอายนิดหน่อยเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ทำตามอย่างว่าง่าย ใช้มือถอกควย ตวัดขึ้นลงเข้ารูก้นอย่างรู้งาน

อีกฝ่ายเมื่อร้องครางอย่างพึงใจ ก็ทาบทับตัวลงหญิงสาว จับควยตวัดที่ร่องรูอีกฝ่ายเป็นการยั่วเย้า เธอไม่มีทีท่ารังเกียจแต่ยิ้มและถ่างขาอ้าง แอ่นเนินเข้าหาเสียอีก ทันทีที่ชายหนุ่มกำยำตรงหน้าสอดใส่ก็ตาปรือ สูดปากร้องอย่างสุขสม

"อร๊ายยยย คับจัง เสียววววว" การร่วมเพศเป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง บทรักถูกเปลี่ยนท่วงท่าจากเตียงนอน ไปสู่ผนังกำแพงจับหญิงยืนโก้งโค้ง บ้างก็ยกขาข้างเดียวซอยถี่ยิบ ก่อนจะถูกจูงพาไปยังเตียงสีขาวที่เปรอะน้ำสวาทไปหมดนั้นเพื่อจับโก้งโค้งให้เห็นการสอดใส่ที่ชัดเจนถนัดถนี่ หญิงสาวได้แต่สูดปากก็ร้องซี๊ด บอกว่าเสียวอยู่ตลอด

ฉากสำคัญในช่วงนี้เห็นจะไม่พ้นช่วงต่อมาที่ฮิคาริถูกจับให้นอนหงายคร่อมทับ นักแสดงชายไม่ต้องจับแขนเธอเพื่อเหนี่ยวรั้ง แต่เป็นฝ่ายหญิงที่ร่อนรับท่อนควยที่กระแทกกระทั้นเข้าออกนั้นต่อเนื่องเร็วขึ้นๆๆๆ

และในที่สุดร่องรูสวาทนั้นก็เด้งหลุดจากท่อนแข็ง น้ำที่พรั่งพรูออกมาแม้ไม่มากแต่ก็แสดงถึงความสุขสม กลีบแคมขมิบเข้าออกเกร็งแน่นแสดงให้เห็นอาการพร้อมตอดรัดใหม่ต่อเนื่อง ฮิคาริที่มีสีหน้าเหน็ดเหนื่อยแต่รับรู้ได้ว่าเสียวซ่าน
"อูย ตะแตกกกกแล้ว คุณพี่ขาาาา" ก่อนจะเป็นฝ่ายจับท่อนควยนั้นมาปักเข้าไปใหม่ ภาพที่ผมเห็นไม่ได้มีการโมเสกมาก่อนยิ่งบ่งชัดด้วยคราบน้ำสีขาวที่เยิ้มควยที่หุบเข้าหุบออกจนเปรอะไปหมดว่าฝ่ายหญิงกำลังมีอารมณ์ร่วมกับมันแค่ไหน มันถูกตัดเข้าฉากใหม่น้อยมากจนแทบจะเป็นโฮมวิดีโอบันทึกการมีเซ็กส์ที่ใช้การเคลื่อนกล้องจับท่วงท่าต่างๆ - ก่อนที่มันจะด้วยการให้ฝ่ายชายถึงจุดสุดยอดถอนควย จ่อไปที่หน้าพ่นน้ำอสุจิเปรอะเต็มทั้งจมูก ปาก

ฉากต่อมาอีกสองฉากก็นับเป็นฉากใหม่สำหรับเธอ อันที่จริงมันมีบางส่วนคล้ายกับหนังที่เธอเคยเล่น แต่ก็ดูแรงกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นฉากใช้ปากบริการให้ฝ่ายชายที่นอนอยู่ในลักษณะภาพแทนสายตาให้คนดูเสมือนถูกเธออมควยให้ ซึ่งเต็มไปด้วยอากัปกิริยายั่วสวาทอย่างมืออาชีพ มิหนำซ้ำการดูดก็ทำอย่างสุดลำ ลึกเข้าคอหอยจนน้ำลายไหลเปรอะ ยิ่งการถ่ายภาพจากมุมสูงที่ทำให้หน้าสวยของเธอดูไม่ดีเอาเลยนั้นกลับยิ่งทำให้เกิดอารมณ์อย่างประหลาด และมันจบด้วยเสียงดัง

"บ๊วบ พล็อก" ก่อนเธอจะมองผลงานที่ทำอย่างภาคภูมิใจและร้องอย่างตะลึง "อาาาาาาห์ ดูดควยเป็นไงบ้างคะ"

ตามด้วยฉากช่วยตัวเองที่ ยูกิ คาคิ นอนเปลือยกายใช่ควยยางสีดำอันเบ้อเริ่มสอดเข้าออก หลังจากใช้ทั้งไข่สั่น ไวเบรเตอร์ ช่วยอย่างถึงใจ ขณะที่เธอถึงจุดสุดยอดนี้เอง ไม่มีอาการกระมิดกระเมี้ยนปิดบังแต่อย่างใด ได้แต่อ้าขา สอดควยยางนั้น หลับตาแอ่นหน้า ใช้มืออีกข้างลูบไล้ และเลื่อนลงมาใช้นิ้วบี้เม็ดละมุดอย่างได้อารมณ์จนเสร็จสม

ก่อนจะมาถึงช่วงสุดท้ายของวิดีโอที่เป็นแบบสองรุมหนึ่ง ไม่มีการพูดพล่ามทำเพลง วิดีโอขึ้นตัวอักษรบอกไว้ทันทีว่าคนดูจะได้ดูฉากอะไร แล้วภาพที่ปรากฎหญิงสาวกำลังจูบนัวเนียกับชายหนุ่มสองคน คนแรกนั้นหน้าตาพอใช้ได้ร่างกายกำยำไม่ต่างจากนักแสดงชายในฉากแรก แต่อีกคนนั้นหน้าแก่เอาการ แถวตัวยังผอมกะหร่องอีกต่างหาก แต่ฮิคาริก็ตวัดแลกลิ้นจูบกับทั้งคู่อย่างเมามันทั้งคู่ไม่มีการแยกแยะ

ถึงตอนนี้ผมที่เคยหมดอารมณ์กับเรื่องเหล่านี้ไปแล้วจากอาชีพที่ทำ ก็เกิดความรู้สึกพลุ่งพล่านอีกครั้งจนเผลอถอดกางเกงช่วยตัวเองตามไปอย่างลืมตัว

ฉากสองรุมหนึ่งเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เร้าใจ และเพียงไม่นานผมก็ลืมรายละเอียดของมัน เผลอตัวเองอีกก็ชักจนน้ำแตก ไปพร้อมๆ กับฉากปิดท้าย ชายหน้าแก่คนนั้นกระแทกเป็นคนสุดท้าย หลังจากให้ชายคนแรกปล่อยน้ำว่าวที่หน้าหญิงสาว พร้อมดูดทำความสะอาดให้ ซอยต่อเนื่องได้พักใหญ่ก็ร้องดัง

"อ้าก ออกแล้วๆๆ" ก่อนจะยกก้นไปคร่อมหน้าหญิงสาวพ่นน้ำตาม และให้ดูดทำความสะอาดตามมาเป็นคนที่สอง

...........................................

ดูจบ ผมรีบนัดเจอไฮบาระทันทีที่คอฟฟี่ชอปแห่งหนึ่ง และอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตให้ฟัง บางเรื่องนั้นไฮบาระรับรู้มาบ้างแล้ว สิ่งต่างๆ จึงพรั่งพรูออกมาอย่างรวดเร็ว

"อ้าว คนนี้น่ะเหรอ ฮิคาริที่นายชอบพูดถึงบ่อยๆ "
"ใช่"
"เออ ขอโทษทีนะ แต่ก่อนที่นายให้ช่วยติดตามก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาอะไร ก็มัวทำแต่งานล่ะว่ะ ไม่งั้นคงไม่ลงเอยแบบนี้"
"แล้วเรื่องมันเป็นไงมาไง" ผมรีบชิงถาม
"ก็...เรื่องมันยาว แล้วในร้านคงเล่าไม่สะดวกนะ ไปที่บ้านเราดีกว่าว่ะ"

และนั่นเองความเชื่อของผมที่ว่าฮิคาริจะรอดพ้นจากวงการนี้จึงมอดมลายลง และเป็นชีวิตที่ราวเส้นขนานซึ่งมองไม่เห็นหนทางในการช่วยเหลืออะไรมากนักหลังจากนั้น
ไฮบาระนั้นแต่ก่อนมันเคยเป็นเหมือนผู้ร่วมงานกันมากกว่าเพื่อน เพราะการไปรับงานของค่าน SOD บ้าง รับงานตัดต่อบ้าง พูดจาสื่อสารกันนิดหน่อย และเริ่มคุยกันมากขึ้นตอนที่ไหว้วานให้หาข้อมูลเกี่ยวกับคุโระ ซึ่งนำมาสู่การเปิดโปงอันน่าเศร้านั่นเอง

หลังจากการสอบถามครั้งนี้นี่เอง ภายหลังผมก็เลยสนิทกับมันมากเสียกว่าเพื่อนสมัยเรียนอย่างคาโตะเสียอีก เรียกว่าต้องเจอกันพูดคุยกันทุกเรื่องตั้งแต่ธุรกิจ ยันเรื่องฮิคาริที่เป็นเรื่องส่วนตัวของผมแท้ๆ และเหตุการณ์ส่วนใหญ่หลังจากนี้ก็มาจากปากคำของมัน ที่มีส่วนพัวพันจนผมอดโกรธไม่ได้ในหลายๆ เรื่อง แต่ก็เห็นนิสัยที่มีทั้งดีและเลวในตัวเองแบบปุถุชนทั่วไปเช่นเดียวกับตนเอง เราก็คงไม่มีสิทธิไปต่อว่าอะไรได้มากนัก

ไฮบาระเล่าว่าเหตุที่ได้รู้รายละเอียดต่างๆ จนมันสามารถเอามาเล่าได้ก็เพราะปัจจุบันได้เป็นหนึ่งในทีมผู้ช่วยของคุณอาคุมะ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในบอร์ดของค่าย SOD หรือ Soft on Demand และยังทำหน้าที่เป็นผู้กำกับหนังหลายเรื่องด้วย ทำให้ต้องติดสอยห้อยตามไปไหนมาไหนตลอด

วันหนึ่งก็มีคนมานัดพบที่บริษัท จากโมเดลลิ่งแห่งหนึ่งโดยพานางแบบที่จะถ่ายแบบแนว Full Nude(เปลือยหมด)

...ฮิคาริ นั่นเอง

แต่คุณอาคุมะ รวมกับเจ้าหน้าที่อีก 3-4 คนพยายามทาบทามให้เธอแสดงหนังเอวีแทนที่ หว่านล้อมต่างๆ นานา แต่ฮิคาริก็ได้แต่ปฏิเสธ จนเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่เป็นแมวมองพูดขึ้นมาว่า
"เอ...แต่พี่จำได้นะ น้องเคยเล่นหนังเอวีแล้วไม่ใช่เหรอครับ อยู่ค่าย Max-A ไง" จนฮิคาริที่เก็บอาการได้แต่ยอมรับ
"ค่ะ"
"แล้วทำไมไม่แสดงต่อล่ะ หน้าตาสวยๆ อย่างหนูนี่ เห็นมั้ยพี่ยังจำได้ไม่ลืมเลย"
"หนูคงให้เหตุผลอะไรมากไม่ได้ค่ะ แต่หนูไม่อยากเล่นแล้ว อยากทำอาชีพอื่นหาเลี้ยงตัวเองแทน"
"อ้อ" เสียงอาคุมะขานรับ หน้าตาเฉยเมย
สรุปผลการหารือวันนั้นก็จึงเป็นเพียงการพูดคุยเรื่องถ่ายนู้ดเหมือนเดิม

.................................

หลังจาก ฮิคาริก็ย้ายข้าวของหาที่พักชั่วคราว และเพียงไม่นานเธอก็ได้งานกับบริษัทโมเดลลิ่งที่นาโงย่า ส่วนหนึ่งก็เพราะระหว่างที่เธอทำงานถ่ายแบบจนถึงช่วงแสดงหนังเอวี มีคนให้นามบัตรมากมาย และกลายเป็นเหมือนโชคเพียงเล็กน้อยของเธอในช่วงเวลานั้น ทำให้เธอได้งานโดยมีตัวเลือกที่สามารถเลือกได้อย่างต่างจังหวัด

คุณจิโร่ที่เป็นหนึ่งในคนสัมภาษณ์รับเธอเข้าทำงานของบริษัทแห่งนี้ก็สารภาพกับเธอภายหลังว่าจำฮิคาริได้ว่าเคยเป็นนักแสดงเอวี แม้เธอพยายามปกปิด แต่เห็นว่าดูมีความตั้งใจดี หน้าตาก็สะสวย การรับงานในเมืองนี้ไม่มีปัญหา นาโงย่าเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่โดยรวมผู้คนไม่ได้มีความวุ่นวายขนาดโตเกียว ไม่ได้มีย่านเฉพาะชัดเจนที่คนบางกลุ่มจะสนใจใคร่รู้ว่าใครมีชีวิตความเป็นมายังไง การเริ่มต้นอาชีพใหม่จึงไม่ยาก แต่นั่นหมายความว่ากรณีที่บริษัทมีงานในสาขาโตเกียว หรือย่านละแวกนั้น ฮิคาริคงจะไม่สามารถรับงานได้ ซึ่งเธอก็รับทราบและยินยอมเงื่อนไขนี้ ขยันทำงานทุกวันรายได้ก็พอช่วยหักหนี้ไปได้บ้างแม้จะน้อยนิดก็ตาม

แต่พอภายหลังสามเดือนได้ทราบว่าเธอติดหนี้จำนวนมหาศาล ก็เลยพยายามเกลี้ยกล่อมหางานที่ได้เงินมากขึ้น เร็วขึ้น โดยมาที่ค่าย SOD ในโตเกียว ผิดเงื่อนไขที่ตั้งต้นไว้

ว่ากันที่ค่าย SOD ที่มีค่ายย่อยในสังเกตมากมาย จนอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสองบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการหนังเอวี เช่นเดียวกับบริษัท โฮคุโตะ ทั้งสองผลิตหนังเอวีทุกประเภทตั้งแต่เน้นความสวยงามไปจนวิตถารสารพัด แต่ถ้าเทียบกันแล้วความดิบเถื่อนในค่ายย่อยๆ ของ SOD นั้นมีหลากหลายกว่ามากทีเดียว รวมไปถึงการบริหารภายในบริษัทที่ไม่ได้รับผลิตหนังเอวี หรือสายงานวงการบันเทิงอย่างเดียว แต่รุกเข้าธุรกิจผิดกฎหมายมากมาย รวมถึงบ่อนการพนันลับๆ ซึ่งที่นี่เอง คุณ
จิโร่ที่ภายนอกเป็นโมเดลลิ่งธรรมดา ก็เกิดติดหนี้พนันกับบ่อนแห่งหนึ่งในเครือบริษัทยากูซ่าแห่งนี้

ระหว่างที่ลงลิฟต์มาจากชั้นของบริษัทนั้นเอง ฮิคาริดูสีหน้าเคร่งเครียด แต่ก็ยิ้มรับทุกคนเมื่อออกมาที่โถงทางเดินชั้นหนึ่ง ตอนนั้นเองที่เธอรีบเดิน และไปหลบมุมข้างตึกด้านนอก ส่งสัญญาณเรียกคุณจิโร่ หลังจากที่เห็นบรรดาคนจากบริษัท SOD ลับตาไปแล้ว
"ทำไมต้องโกหกกันด้วยคะ" ฮิคาริพูดเสียงเบาๆ แต่ก็แสดงให้เห็นอารมณ์โกรธไม่น้อย
"ขอโทษนะ แต่เห็นเรามีหนี้เยอะขนาดนั้น พี่ก็..."
"จะให้เล่นหนังเอวีเนี่ยนะคะ"
"แต่เราก็เคย..."
"ใช่ค่ะ แต่มันไม่ใช่งานที่หนูอยากทำ หนูเต็มใจทำเสียที่ไหน" ฮิคาริก้มหน้าพลางน้ำเสียงขมขื่น
"อ้า งั้นก็ขอโทษด้วยนะ จะพยายามไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก แต่เราต้องเข้าใจนะวงการนี้มันก็แคบวนเวียนโคจรกันแบบนี้แหละ" เจอท่าทีแบบนี้เข้าโมเดลลิ่งที่จัดการไม่ถึงกับมืออาชีพนักอย่างจิโร่ก็ถึงกับไปไม่เป็นต้องรีบค้อมหัวขอโทษไป
"ค่ะ เข้าใจค่ะ งั้นกลับกันได้หรือยัง หนูไม่อยากจะอยู่ที่แบบนี้นานๆ มันทำให้นึกถึงเรื่องแย่ๆ สมัยก่อน" อีกฝ่ายจึงพยักหน้า รีบเดินไปยังที่จอดรถ

ตลกร้ายของเหตุการณ์นี้คือมันเป็นวันที่หน้าตึกอาคารพาณิชย์ให้เช่าใจกลางย่านชินากาวะ ที่คนจอแจจนแทบจะตะโกนคุยกัน บ่ายวันนั้นกลับเงียบสงบจนเสียงเบาๆ ของพวกเขาทั้งคู่แว่วออกไปให้อาคุมะที่กำลังเดินไปขึ้นรถต้องชะงัก และให้ลูกน้องหยุดฟังจนจบ ก่อนจะสั่งให้เดินต่อ สักพักก็สำรอกเสียงสบถออกมาอย่างเหลืออด
"เหอะ พวกมึงได้ยินมันพูดเหมือนที่กูได้ยินมั้ย"
"ได้ยินครับหัวหน้า" คำพูดดังกล่าวบ่งบอกชัดเจนว่าโมเดลลิ่งเหล่านี้แท้จริงก็เป็นลูกน้องของอาคุมะทั้งสิ้น
"หึ สวยจริงๆ ดูเรียบร้อยดี แต่มึงเคยบอกใช่มั้ยว่าอีนี่ก็เคยเล่นหนังเอวีมาแล้ว"
"ครับ หัวหน้า แต่น่าจะเลิกเล่นได้หลายเดือนแล้ว"
"โธ่ มึงเห็นสีหน้าของมันตอนที่คุยงานข้างบนมั้ย อีห่านึกว่าตัวเองสวย มองพวกกูขยะแขยงเหมือนตัวปลิง"
"ใช่ครับ ใช่" ลูกน้อง 2-3 คนเสริมรับตามน้ำ
"เฮ้ย ไฮบาระ มึงน่ะ วันนี้โทร.ไปเร่งรัดหนี้ไอ้จิโร่เลย ท่าทางอย่างมันนี่ตะล่อมได้ไม่ยากหรอก เดี๋ยวแม่งพอให้ยกหนี้ไปก็ยอมทำตามทุกอย่างแหละ กูมีแผนไว้แล้วว่าจะเอาอีนี่มาทำงานให้ได้"
"เอางั้นเลยเหรอครับ ลงทุนไปหรือเปล่าครับรุ่นพี่ เด็กที่มาสมัครก็มีให้เลือกเป็นร้อยรูป คนที่คัดแล้วเราก็มี จะมาเสียเวลากับเด็กคนเดียวเนี่ยนะ"
"โถ ทำมาเถียง เด็กที่มึงว่าสวยเท่าอีนี่ไหมล่ะ แล้ววิธีตามขั้นตอนระเบียบห่าเหวอะไรเนี่ยกูเบื่อว่ะ พวกกูนี่นักเลงนะ ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน มัวแต่คิดทำอะไรแบบเดิมซ้ำๆ มันจะได้งานอะไรใหม่ๆ ท้าทายวะ"
"ขอโทษครับ รุ่นพี่" ไฮบาระรีบก้มหัวให้หลังจากเผลอเถียงไปอย่างลืมตัว
"คอยดูเถอะ กูจะทำให้มึงมาสยบแทบเท้ากูนี่ และทำลายความทรนงของมึงจนหมด"  อาคุมะหัวเราะตามหลังเบาๆ จนไฮบาระเองยังรู้สึกขนลุกตามอย่างช่วยไม่ได้



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
จากคำบอกเล่าของไฮบาระ ในฐานะคนที่เติบโตมาจากสายงานผู้กำกับต้องนับว่าอาคุมะมาไกลมากทีเดียว แม้จะถูกมองว่ามีเส้นสายจากการเป็นลูกชายคนรองของรองประธานบริษัท SOD แต่จากคนที่เติบโตในครอบครัวยากูซ่าซึ่งเลี้ยงดูลูกแบบปล่อยปละละเลย ยิ่งลูกคนรองที่ถูกมองไม่เห็นหัว ก็ทำให้อาคุมะดิ้นรนจากทีมงานระดับล่างเช่นเดียวกับผมหรือไฮบาระ และฝ่าฟันขึ้นมาด้วยการใช้ชีวิตในโลกอโคจรอย่างสมบุกสมบัน เพียงอายุ 35 ปี เขาก็ได้รับการยอมรับในฝีมือที่สร้างความโดดเด่นให้กับค่ายย่อยต่างๆ ใน SOD จนประสบความสำเร็จ กลายเป็นบริษัทผลิตหนังเอวีระดับต้นๆ มาได้ ก่อนจะใช้สิทธิในฐานะบอร์ด และรายได้ที่เข้าบริษัททำให้ได้รับการยินยอมให้ทำงานแบบล้ำเส้นผิดกฎหมายกว่าปรกติ

ความดิบเถื่อน และไม่แคร์เรื่องการถนอมดารานักแสดงมากกว่าเน้นการเซอร์ไพรส์คนดูด้วยความสมจริงของอาคุมะ การถ่ายทำที่เน้นสไตล์กึ่งสารคดีกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังกลุ่มนี้สดใหม่มากกว่ากลุ่มบริษัทของโฮคุโตะ ที่มีหนังกลุ่มนี้มากไม่เท่า แต่ก่อนพอไฮบาระพูดถึงความแตกต่างในประเด็นนี้ ผมเองก็ไม่เข้าใจนัก เพราะตนเองเวลาทำงานก็ถ่ายทำแบบกองโจร ถ่ายกันอย่างบ้านๆ ออกบ่อย แต่พอได้มีโอกาสดูแล้วก็ต้องยอมรับตามจริงว่าหนังที่ผมเคยร่วมงานกับผุ้กำกับคนอื่นส่วนใหญ่จะประนีประนอมกับนักแสดงมากกว่า ฉากที่แรงๆ ก็พยายามเซฟให้นักแสดงถึงจะถ่ายทำทุนต่ำยังไง เนื้อหาโหดร้ายกับผู้หญิงขนาดไหน ก็ไม่ทำกันจริงๆ มักใช้มุมกล้องบ้าง การเคลื่อนกล้องมาช่วยบ้าง ผิดกับหนังค่าย Real หรือ Dandy ในเครือนี้ ที่ดูสมจริงกว่า จนกลายเป็นจุดขายที่พอมาเทียบกันแล้วค่ายที่เน้นฉากแรงๆ อย่าง Das หรือ  Moodyz ของโฮคุโตะเองโดยรวมก็สู้ความสมจริงและไอเดียแปลกๆ ของค่ายเหล่านี้ไม่ได้

อีกเรื่องที่กลายเป็นแนวทางของบริษัทคือการจ่ายเงินตามเงื่อนไขที่ทำ ยิ่งนักแสดงสาวทั้งหลายอยากได้เงินในเรตที่สูงขึ้น พวกเธอก็ต้องยอมทำกามกิจที่ผาดโผนมากกว่าท่านอนหงายธรรมดา นั่นทำให้กรอบการปั้นดาราว่าใครคือเบอร์เต็งของค่ายที่มีแต่เดิมนั้นพังทลายลง แน่นอนการเข้ามาเป็นดาราเอวีนั้นมีวิธีต่างกันออกไป บางคนพอมีชื่อเสียงในฐานะอื่นมาก่อนก็จะได้เซ็นสัญญาเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่ด้วยวิธีการจ่ายเงินแบบนี้สุดท้ายไม่นานนัก ดาราเกือบทุกรายก็ยอมเล่นหนังด้วยภาพที่หวือหวามากขึ้น ตั้งแต่ให้ชายหื่นทั้งหลายเรียงคิวแตกใส่หน้า บ้างกลืนกินน้ำกาม บ้างเล่นเซ็กส์หมู่ ไปจนถึงหลั่งข้างใน หรือประกอบกามกิจในสถานที่ประหลาด

แรกเริ่มมีแต่คนคัดค้านวิธีดังกล่าวบอกว่าจะกระทบกระเทือนวงการแน่นอน แต่อาคุมะไม่ได้ฟังเสียงใครยืนกรานวิธีดังกล่าว ซึ่งไปประจวบเหมาะกับยุคดาวน์โหลดเถื่อนที่แพร่กระจายพอดี วิธีดังกล่าวกลับได้ใจบรรดาโอตาคุนักซื้อหนังเอวีที่เฝ้ารอวันให้ดาราในฝันเล่นบทต่างๆ ให้ครบถ้วน ชนิดที่ว่าค่ายแนวหน้าของโฮคุโตะอย่าง S1 หรือ Ideapocket ต้องหันมาทำตาม

คุณไคโช ที่เป็นคนกำกับหนังเรื่องแรกของฮิคารินั้น ก็เป็นผู้กำกับรุ่นราวคราวเดียวกับอาคุมะ ที่เคยรู้จักกันมาก่อน ไฮบาระยังจำคำประชดประชันของลูกพี่เขาได้ว่า
"เฮอะ เป็นผู้กำกับหนังโป๊ ยังกระแดะถ่ายประดิษฐ์ ให้นักแสดงมาทำหน้าบ้องแบ๊ว จัดแสงนุ่มนวลอะไรของมัน แม่งทำหนังเด็กให้วอล์ทดิสนี่ย์หรือไง นี่ทำงานเป็นผู้กำกับก่อนกูอีกมั้ง ทุกวันนี้เจอหน้าต้องค้อมหัวให้กูปะหลกๆ แล้ว"

ที่มันเกริ่นมายืดยาวให้ผมฟังนั้น ก็เพื่อจะบอกว่าวิธีคิดธุรกิจของหมอนี่ไม่ได้มาจากหัวทางด้านการตลาด แต่เป็นเรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมาในบริษัทเกี่ยวกับปมของไอ้อาคุมะให้ทราบว่าในอดีตของมันที่ถูกทิ้งเป็นหัวเน่าของพ่อนั้น สมัยวัยรุ่นก็เป็นแค่เด็กอันธพาลหลังห้อง หน้าตาสิวปรุ รูปร่างท้วมๆ เป็นเบ๊ให้พวกหัวหน้าแก๊งค์ต่างๆ เวลาจีบใครก็โดนสาวเมินมานักต่อนัก เมื่อไหร่ที่เมาเหล้าก็จะเล่าความหลังเรื่องนี้ให้ฟังอย่างเก็บกดอารมณ์เสีย ทำให้หลายคนคาดเดากันว่าทำไมเมื่อได้มาทำงานเส้นทางนี้ อาคุมะถึงถ่ายทำหนังเนื้อหาโหดๆ การถ่ายทำดิบๆ ที่มาจากการมีเซ็กส์อย่างรุนแรงจริงๆ โดยไม่ปราณีกับสาวๆ นักแล้วก็อ้างศัพท์แสงภาพยนตร์ของมันไป

ยิ่งกับคนที่สวยๆ มีบุคลิกที่ดูสูงส่ง เย่อหยิ่งแบบฮิคาริแล้ว ความรู้สึกของมันยิ่งไวเป็นพิเศษ ถึงฮิคาริจะสงวนท่าทีปิดซ่อนอารมณ์อย่างไร อาคุมะก็จับตาเป็นพิเศษอยู่ดี

ผมฟังไฮบาระอธิบายมาแล้วก็ได้แต่คิดว่าช่างเป็นเคราะห์หามยามร้ายของฮิคาริเสียจริงๆ

.....................

ภายหลังจากปิดงานถ่ายแบบเซ็กซี่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีงานเลี้ยงเล็กๆ ฉลองกันในผับแห่งหนึ่ง คุณจิโร่ดึงฮิคาริมาได้เพราะบอกว่าจะพามารู้จักคนระดับโปรดิวเซอร์ในวงการทีวี เจ้าของธุรกิจชั้นนำ ผู้บริหารของค่ายในสังกัดของ SOD ที่จะทำให้ได้งานต่อไปในระยะยาว หนึ่งในนั้นก็มีอาคุมะด้วย

ข้อเท็จจริงที่พูดมานั้นเป็นเรื่องจริง แต่ฮิคาริคงไม่ได้ตระหนักว่าแม้คนเหล่านี้จะมีหน้าที่การงานใหญ่โต ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนมีศีลธรรม หรือจรรยาบรรณใดๆ ไม่นานหลังจากแกมบังคับให้ดื่มเหล้าไปได้หลายแก้ว สภาพที่เริ่มมึนเมาขาดแรงปัดป้องได้อย่างมีสติไม่ใช่อุปสรรคเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงยาปลุกเซ็กส์ที่ใส่ไว้ในแก้วท้ายๆ ซึ่งไอ้อาคุมะเป็นเอเยนต์รายใหญ่อีกด้วย

นอกจากค้ายา มันยังทำธุรกิจค้าประเวณีให้กับบรรดาคนใหญ่คนโตหลายคนโดยเฉพาะประธานของ SOD กลายเป็นช่องทางสำคัญที่เปิดให้คนเหล่านี้ปล่อยให้อาคุมะคิดนโยบายให้กับหนังเอวีวิตถารต่างๆ ตามใจชอบ

เล่าจบไฮบาระก็เปิดดีวีดีที่บันทึกเหตุการณ์บางส่วนในคืนนั้นมาให้ดู
"อ๊ายยยยย อร๊ายยยย อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ อ๊าาาาาา" เสียงฮิคาริที่โดนบังจากชายร่างอ้วน เจ้าของธุรกิจชั้นนำนอนคร่อมกระแทกควยอย่างแรงแทบมิด
"อูย ร้องดังเลยจ๊ะหนู อูยยยย คืนนี้ของเขาดีจริงๆ อาคุมะ" มันประกอบกามกิจไปก็พลางชมเจ้าของแผนการที่นั่งแก้ผ้าอยู่โซฟาด้านข้าง ยิ้มรับอย่างยินดี
"อ๊ากกกก ออกแล้วๆๆๆๆ ตอดดีจริงๆ สัด อูย รับน้ำควยป๋าเต็มๆ เลยนะจ๊ะ อ๊าซซซซๆๆๆๆ" ระหว่างภาพที่เริ่มเฟดออกไป อยู่ดีๆ ไฮบาระก็ชะงักนิดๆ และเผลอสบถขึ้นมา
"สัด แม่งเปิดผิดแผ่นแล้วกู" แล้วมันก็รีบกดรีโมตเพื่อกดข้ามฉากไป ผมเห็นอาการผิดสังเกตของมันก็รีบแย่งรีโมตมา
"เฮ้ย ข้ามอะไรวะ มานี่กูดูเอง" ว่าแล้วผมก็กดเร่งไปจนเจอคนที่มาเรียงคิวต่อมาคือภาพฮิคาริกำลังนอนโก้งโค้งร้องครวญครางโดยมีไฮบาระกระเด้าถี่ยิบ พร้อมเสียงเฮจากคนที่นั่งร่วมวงไพบูลย์นั้น
"เยี่ยมๆ เอ้า ตากล้องเราจัดการอีหนูนี่ให้เต็มคราบเล้ย ฮ่าๆๆ มาๆๆๆ เดี๋ยวถ่ายให้ๆ" ผมที่ตอนแรกจะดูวิดีโอต่างๆ ด้วยอาการปลงเต็มที่ก็หัวเสียขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ มองเพื่อนที่เป็นตากล้องในงานต่างๆ ของอาคุมะอย่างไม่สบอารมณ์
"เฮ้ย ไฮบาระ มึง !"
"เอ๊า ไอ้ห่า เขาให้กูฟรีๆ เป็นมึงๆ ก็เอาเหมือนกันล่ะ แล้วกูจะรู้ที่ไหนว่าเป็นผู้หญิงที่มึงชอบ"

ผมขี้เกียจทะเลาะกับมัน ให้มันเล่าผลที่เกิดขึ้นว่าสุดท้ายทุกคนก็เรียงคิวทีละคนตามลำดับคนละยกสองยก พอดูได้สักพักก็รีบให้ไฮบาระปิด จากอารมณ์ที่ยังเคืองๆ มันอยู่
"เออๆ พอๆๆ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าฮิคาริต้องกลับมาแสดงหนังเอวีอีกก็เพราะวิธีการเหี้ยๆ ของบริษัทมึงแบบนี้ใช่มั้ย กูจะได้กลับแล้ว" ผมก้มหน้าพูดอย่างขมขื่น แต่แล้วก็ต้องชะงัก
"เปล่า มันไม่ได้จบง่ายๆ แค่นั้นหรอกว่ะเคอิโงะ"
"เห ? อะไรอีก"

.........................................................................

คืนต่อมาช่วงเย็นหลังการแบล็คเมล์ฮิคาริ เธอก็ปรากฎตัวที่บริษัท SOD ใส่แว่นดำปิดหน้า แต่งตัวมิดชิด สภาพท่าทางอิดโรย เพื่อขอพบอาคุมะด้วยท่าทางยอมจำนน ก่อนที่ไม่ถึงชั่วโมงหลังการพูดคุยจึงกลับไป พอไฮบาระถามเพื่อนในบริษัทก็ได้คำตอบว่าน่าจะมาขอให้ลบวิดีโอดังกล่าวไป อาคุมะมันยื่นข้อเสนอว่าเธอต้องเซ็นสัญญาเล่นหนังเอวี แต่เธอยังยืนกรานปฏิเสธเช่นเดิม
"โถๆๆ ใจแข็งจังนะครับ ได้ข่าวว่าร้อนเงินไม่ใช่เหรอ งานนี้ไม่ต้องห่วงถามลูกน้องผมก็ได้ ผมมันประเภทเล่นจริง ก็จ่ายจริง ครบทุกเยน" มันเงียบเสียงไปสักพัก ก่อนจะกระซิบกระซาบไปอย่างมีเลศนัย "อาจจะได้เงินมากกว่า 'คืนนั้น' ก็ได้นะ"
ว่ากันว่าที่นอกจากฝ่ายคนใหญ่โตในวงการไม่เอาเรื่องอาคุมะแล้ว หญิงสาวที่ต้องเป็นมาแสดงด้วยวิธีการของมันไม่เอาเรื่องก็เพราะตัวแปรสำคัญคือเงินนี่เอง ภายหลังจากการถูกมอมยาและรุมโทรม ฮิคาริเองได้เช็คเงินสดปิดปากไปร่วมแสนเยน ซึ่งก็เป็นเงินบางส่วนจากรายได้ที่คนเหล่านี้ที่มาหลับนอนกับเธอนั่นเอง

"เรื่องเงิน ดิฉันขอคืนให้ก็ได้ค่ะแต่คงเลือกไม่เล่นดีกว่า" พออาคุมะได้ยินคำตอบบแบบนี้ มันกลับพยักหน้าตามอย่างใจเย็น
"ก็...ไม่เป็นไร อาต้องชื่นชมหนูจริงๆ ที่ยังใจเด็ดได้ขนาดนี้ ไม่ต้องคืนหรอกครับถือเสียว่าเป็นค่าปลอบใจแล้วกัน" ก่อนมันจะหยิบบางอย่างออกมาจากลิ้นชักที่โต๊ะเป็นหลอดยาใสๆ หลอดหนึ่ง "หนูเห็นไอ้หลอดนี่มั้ย" มันเว้นจังหวะไม่รอคำตอบก่อนจะพล่ามต่อ
"มันคือยาที่ใช้มอมหนูเมื่อคืนนั้นไงล่ะ นอกจากจะมีฤทธิ์ปลุกอารมณ์ทางเพศแล้ว....มันยังเป็นยาเสพติดชนิดรุนแรง ใครเสพไปแล้วติดทันทีอีกด้วย" ประโยคท้ายมันมองด้วยสายตายิ้มเยาะอย่างมีเลศนัย
"วันนี้หนูไม่เซ็นก็ไม่เป็นไร แต่วันไหนถ้าทนเสี้ยนยาได้.... ก็ค่อยมาหาใหม่แล้วกันนะ" ถึงตอนนี้เองฮิคาริหน้าถอดสี รีบเดินออกไปจากบริษัททันที
เพื่อนของไฮบาระยังเล่าทิ้งท้ายว่า อาคุมะมองจนเธอลับตาไปก็หัวเราะหึหึในลำคอ ก่อนจะค่อยๆ แผดเสียงดังออกมาอย่างสะใจ
"ฮ่าๆๆๆๆ พวกมึงเชื่อมั้ย อีกไม่เกิน 3 วันนะ กูท้าเลย จะกลับมาร้องขอยาจากกู"

แล้วก็จริงดังคาด ไม่ถึงสองวันหลังจากนั้นฮิคาริ ที่มาในสภาพหน้าซีด ดูเหนื่อยโทรมยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เข้ามาบริษัทในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์อย่างปราศจากการเตรียมตัว ใส่เสื้อโค้ททับ ขอบตาคล้ำเหมือนอดนอน ดูหนาวสั่นราวกับจับไข้ทั้งที่ช่วงที่เกิดเรื่องยังไม่เข้าช่วงหน้าหนาวแต่อย่างใด
พอเข้ามาได้ไม่นานอาคุมะก็เชิญเข้าห้องประจำของมัน รีบเสนอเรื่องแสดงหนังทันที ฮิคาริตอบตกลงอย่างว่าง่าย เอกสารต่างๆ ก็ถูกเตรียมออกมาให้เธอเซ็นราวกับรู้ว่าเหตุการณ์นี้จะต้องเกิดขึ้น ไฮบาระเล่าว่าทุกอย่างเกิดขึ้นค่อนข้างเร็วมาก

ทันทีที่เซ็นเสร็จ ฮิคาริมีท่าทางปลงเล็กน้อย แต่ก็คงไม่สามารถทนอาการอยากยาได้อีกต่อไป รีบพูดช้าๆ อย่างสุภาพ
"คุณอาคะ หนูเซ็นแล้ว รบกวนขอยาให้หนูด้วยเถอะค่ะ" แต่คำตอบของมันทำให้เธอถึงกับชะงัก
"อะไรกับครับ หนูเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ที่อาให้เซ็นเนี่ยคือเรื่องวิดีโอนะครับ อาลบให้ตามที่สัญญา เรื่องยาอะไรนั่น..." อาคุมะทำท่าโบ้ยมือ ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "มันคนละเรื่องนะหนู หึหึ"
ฮิคาริที่เจอสถานการณ์ดังกล่าวทำอะไรไม่ถูก จะด่าโต้ตอบก็ทำไม่ได้ ได้แต่นั่งนิ่งมองสายตาล่อกแล่กอย่างไม่รู้จุดหมาย แต่อาการของเธอนั้น ไฮบาระมองจากระยะไกลก็รู้ได้ทันทีว่าอดทนอย่างมากต่ออาการเสี้ยนยาชนิดนี้
อาคุมะเดินลับหายไปทำธุระข้างนอกสักพัก ก็เดินกลับมาทำท่างงๆ ของมันเป็นการวางฟอร์มอย่างเลวทรามจริงๆ
"อ้าว ฮิคาริ หนูยังไม่กลับอีกหรือ เราคุยธุระกันเสร็จแล้วนี่นา"
"คือ...คือว่า" เธอได้แต่อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอะไร
ทันใดนั้นเอง อาคุมะก็หยิบหลอดยาขึ้นมาจากกระเป๋าของมัน
"อะอ๊า อารู้แล้ว หนูอยากได้ยาตัวนี้ใช่มั้ย" มันยกยาขึ้นมาตรงหน้ายั่วเย้า
"ใช่ค่ะ คุณอา หนูขอ"
"อ๊ะๆๆๆ เดี๋ยวซี อาจะให้ก็ได้" มันพูดพลางนั่งลงที่โซฟาข้างๆ เธอ "แต่...หนูช่วยถอดส่วนบนหนูออกก่อนได้มั้ย"
"ถะ ถอดเสื้อ เหรอคะ" สีหน้าเธอลังเล แต่นิ่งได้พักใหญ่อาคุมะที่รู้ว่าตนถือไพ่เหนือกว่ามากก็ลุกออก ตวาดเสียงดัง
"วู้ ถ้าไม่ทำก็อย่าได้เลย ยาเนี่ย เอาไปเก็บดีกว่า" มันเดินออกจากบริเวณนั้นก้าวเดินฉับๆ อย่างไม่สนใจ และก็ได้ผล ฮิคาริที่มีสีหน้าตกใจ รีบโน้มตัวไปคว้าขอยาตั้งแต่มันลุกหนี จนถึงกับรีบคลานเข่าตามไปจับชายเสื้อมัน
"ขอร้องล่ะค่ะ คุณอาได้โปรดอย่าเพิ่งไป แค่ถอดเสื้อใช่มั้ย ได้ค่ะ ได้หนูจะทำ" เธอมองมันอย่างร้องขอเต็มที่ให้พ้นจากสภาพทรมานนี้เสียที ก่อนจะรีบเลิกเสื้อยืดในสภาพที่ยังคุกเข่าตรงพื้นนั้น เผยให้เห็นร่างกายท่อนบนที่สวมเพียงบราเซียร์ทับไว้ โดยไม่ได้สนใจสายตาจากคนในบริษัทที่สามารถมองเข้าไปในห้องทำงานของอาคุมะได้แต่อย่างใด
"เอ้า อาบอกว่าท่อนบนทั้งหมดนะจ๊ะ หึๆ " ฮิคาริมองมันอย่างวิงวอนเหมือนจะร้องไห้ แต่มันไม่มีทีท่าสนใจแต่อย่างใด
"ทำสิหนู ช้าจริง" มันพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น ฮิคาริรีบปลดอาภรณ์ท่อนบนชิ้นสุดท้ายออก รีบเอามือกอดอกโดยเร็ว ก้มหน้าก้มตาอย่างไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของอาคุมะ
อาคุมะค่อยๆ เดินมาตรงหน้าอย่างผู้มีชัยชนะเหนือผู้ยอมศิโรราบ
"หึหึ ดีมากหนู ทำตามอย่างนี้ค่อยว่าง่ายหน่อย เอ้า เงยหน้ามา อ้าปากสิจ๊ะ ยาอยู่นี่แล้ว" ฮิคาริทำตามอย่างว่าง่ายปากคอสั่นไปหมด มันค่อยๆ หยดทีละหยดอย่างช้าๆ
ไม่นานนักราวสิบกว่านาที อาการทางกายที่ดูราวกับเป็นไข้นั้นก็ค่อยๆ หายไป ฮิคาริที่เปลือยกายท่อนบนตาปรือท่าทางมีความสุขตรงพื้นนั้นเอง ก่อนจะค่อยๆ มานอนอยู่ทีโซฟา ด้วยฤทธิ์ยาทำให้เธอเผลอลูบไล้เนื้อตัวอย่างอภิรมย์โดยหลงลืมความอายจากสายตาผู้คนไปเสียสิ้น
"เป็นไง รู้สึกดีใช่มั้ยล่ะ" อาคุมะมองดูเหยื่อของมันอย่างสบายอารมณ์ไปได้อีกสักพัก ก็ถือหลอดที่ยังมีเหลือยาอยู่นั้นมาตรงหน้าอีก
"ว่าไง ต้องการอีกมั้ย"
"ดีค่ะ" เธอค่อยๆ ตอบอย่างช้า
"งั้นคราวนี้หนูถอดท่อนล่างด้วยนะ" และด้วยฤทธิ์ยาคราวนี้เธอไม่มีอาการลังเลเพื่อความสุขจากโอสถหลอนจิตขนานนี้ รีบปลดกางเกงยีนส์ลงมากองที่ข้อเท้า แม้ไม่ได้ถอดกางเกงในซึ่งเป็นเครื่องนุ่งห่มชิ้นสุดท้าย แต่นั่นก็สร้างความพอใจให้กับอาคุมะแล้ว มันมีสีหน้าสะใจยิ่งที่ให้หญิงสาวที่ถือดีปฏิเสธมันอยู่ในสภาพเช่นนี้ รีบปลดซิบกางเกงสแล็คออก
"เอ้า หนูคุกเข่าลงมารับยาเลยจ๊ะ" ฮิคาริทำตามอย่างว่าง่าย แต่ก็สะดุด เมื่อไอ้สารเลวนี่ควักท่อนอวบของมันมาจ่อตรงหน้า ก่อนจะหยดน้ำยาดังกล่าวลงไปที่ควยของมันตรงหัวหน่าวพอดี
"อู้ว หยดสุดท้ายด้วยนะหนู หึหึ เลียมันซะสิ" เธอมองอย่างลังเลได้ไม่นาน ก็หมดแรงต้านทานค่อยเอาหน้ามาจรดปากแลบลิ้นเลียหยดยาที่ซึมไปรอบโคนนั้น และอาคุมะก็ใช้จังหวะนั้นค่อยๆ จับศีรษะเธอกดเข้ามาอมควยมันจนสุดลำ
"อุ๊บ อ๊อก" ฮิคาริแทบสำลัก
"ค่อยๆ ดูดให้หมด อย่าฝืนเอาออกอย่างนั้นสิจ๊ะ เดี๋ยวยาจะไหลออกไปหมดด้วยนะหนู" มันพูดด้วยท่าทีอ่อนโยน แต่มือมันกลับจับหัวเธอโยกคลอนตามอารมณ์ความอยากของมัน
"อุ๊บๆๆๆ อูย นั่นแหละ ปากตอดเข้า ดูดแรงๆ หึๆ " เธอฝืนได้ไม่นานก็สิ้นสภาพ ดูดเลีย ใช้ปากให้มันตามฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์นี่

ไฮบาระเล่าว่าใช้เวลาโม้กให้อยู่นาน อาคุมะก็แผดร้องเสียงดังอย่างสะใจ
"อ๊ะๆๆๆๆ อ๊าซซซซซซ โอว" ก่อนจะกดควยแช่ไว้บังคับให้ฮิคาริกลืนกินน้ำกามของมัน
"เอ้าไหน อ้าปากสิ นั่นแหละครับ น่านแหละ แลบลิ้นด้วย กลืนให้หมดเลยนะ ฮ่าๆๆๆ ทำดีกับอาไว้ เดี๋ยวป้อนงานให้ตลอดแน่ๆ " มันพูดโดยไม่ได้สนใจสีหน้าฮิคาริที่มีคราบน้ำตาแต่อย่างใด ก่อนจะจัดแจงรีบแต่งตัวเดินออกมา ปล่อยให้เธออยู่ในสภาพเมายาบนโซฟาในห้อง
"เฮ้ย พวกมึง ใครอยากเอาอีนี่ก็ตามสบาย กูยกให้ สภาพตอนนี้ใครจะทำอะไรมันก็ได้ทั้งนั้นแหละ กูมีธุระต้องไปประชุมข้างนอก ถือซะว่าเป็นค่าเหนื่อย" เสียงวู้ว้าว ฮือฮาดังระงม
และไฮบาระแทบไม่ต้องอธิบายอีกว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไงต่อไป
เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียน หลังจากเป็นเวรประจำทำความสะอาดห้องเสร็จ เมื่อเดินเล่นแถวสวนหลังอาคารเรียน ภาพที่ผมและเพื่อนๆ มักเห็นเจนตา ไม่ว่าจะเป็นหัวโจกหรือลูกไล่เขาอย่างผมต่างหาที่แอบมอง คือการนัดมาสารภาพรักกับฮิคาริของเด็กหนุ่มมากหน้าหลายตาทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง ไปจนถึงรุ่นเดียวกัน ที่หลังอาคารเรียนแห่งนี้ และแทบทุกคนล้วนต่างถูกปฏิเสธอย่างมีมารยาทของเธอ เย็นวันนี้ก็คล้ายกับอีกหลายๆ วันที่พบผ่านตาชำเลืองไปจนต้องหยุดดูจากระยะไกล

"ขอโทษด้วยค่ะ" ฮิคาริซึ่งขณะอยู่ ม.5 ค้อมหัวขอโทษอีกฝ่าย
"ทะ ทะทำไมล่ะครับ" เด็กหนุ่มร่างท้วมใหญ่ละล่ำละลัก ฮิคาริพยายามพูดอธิบายอยู่นาน แต่เด็กคนนี้ก็ยังคาดคั้นถามซ้ำๆ ไม่หยุด
"โธ่ ไอ้อ้วน ถามไม่ดูสารรูปเล้ย" เสียงลอยๆ ของมิยาตะ หนึ่งในหัวโจกของห้องที่แอบมองเหตุการณ์ดังกล่าวห่างจากผมไปไม่กี่เมตรบ่นขึ้นมา เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนรอบข้างได้ทันที
"พี่ยังไม่คิดจะมีแฟนตอนนี้หรอกค่ะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ ขอตัวนะคะ" ฮิคาริค้อมหัวขอโทษอีกครั้ง ก่อนเดินจากไปด้วยสีหน้าอึดอัดเล็กน้อยเพื่อกลับบ้าน ผิดกับเด็กหนุ่มคนนั้นที่ตอนนี้ไม่ใช่เสียใจ แต่ร้องไห้กระซิกเสียงดังจนน้ำมูกไหล ทรุดเข่ากับพื้น จากเดิมที่ไม่ใช่คนหน้าตาหล่อเหลาก็ยิ่งหมดสภาพ
"โอ้โห นอกจากไม่เจียมแล้วยังขี้แยเป็นเบบี๋เลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ " คราวนี้มิยาตะกับเพื่อนพูดแซว ร้องโห่ฮากับภาพตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจ
ผมเองที่ยืนดูกับคาโต้ได้แต่มองดูอย่างเงียบ โดยเฉพาะคาโต้นั้นที่มองอย่างสังเกตมากขึ้น
"อ้าว นั่นไอ้ยูตะเด็ก ม.4 นี่หว่า มิน่า"
"มิน่าอะไรวะ" ผมถามที่มันทิ้งท้าย
"มิน่าถึงกล้าจะมาจีบฮิคาริไง เห็นอย่างนั้นก็ไม่ใช่กระจอกแบบพวกเรานะเว้ย"
"ไงวะ"
"มันก็ลูกคนมีเงินน่ะ รวยมากด้วย มีลูกน้องยอมติดสอยห้อยตามเพราะความรวยของมันที่จ่ายที่เลี้ยงเพื่อนไม่อั้นด้วยล่ะ"
"โห งั้นเลยเหรอวะ แล้วงี้ฮิคาริจะไม่ซวยเหรอ"
"โอย ไม่ต้องห่วยเขาหรอก ระดับนั้นเขาก็มีเพื่อนมีฝูงช่วยได้ อีกอย่าง...มึงลองมองทางนั้นสิ" คาโต้สะบัดหน้าไปอีกทาง พอชำเลืองมองไปก็เห็นกลุ่มเด็กหนุ่มคะเนว่าน่าจะเป็นรุ่นน้องผมปีนึงได้ มองยูตะที่กำลังร้องไห้ขี้มูกโป่งอย่างเยาะหยัน
"ทุเรศว่ะ กระจอกเหี้ยๆ" ผมได้ยินเสียงบางคนในกลุ่มบ่นพึมพำ
"เดาได้เลยว่าต่อไปมันก็คงหาคนพินอบพิเทายากแล้วแหละ"

เป็นดังที่คาโต้คาดเดา แถมแย่เสียยิ่งกว่า ไม่นานเมื่อคนเห็นว่าอยู่ในสภาพรังแกได้ง่าย ไอ้ยูตะ ที่เคยกร่าง พอโดนสลัดรักก็ถูกพวกเกกมะเหรกหัวโจกในห้องของมันตั้งตัวขึ้นมาล้อเลียนเรียกมันใหม่ว่า "บูตะ"(ไอ้หมูตอน) บ้างก็เรียกไอ้บูตะขี้แย กลายสภาพเป็นเครื่องกดเงินเคลื่อนที่และเครื่องซ้อมมือซ้อมเท้าอย่างดีให้คนเหล่านี้

วันหนึ่งขณะผมกำลังเก็บของช่วยแม่ตอนเย็น เดินผ่านทางเดินหน้าห้องก็บังเอิญเห็นยูตะนั่งร้องไห้ในสภาพหน้าบวมช้ำ เสื้อกระดุมขาด กางเกงเปื้อนฝุ่นตามพื้นจนสกปรก แม้จะรู้ว่าคนแบบนี้ดูแคลนผมแค่ไหน ก็อดสงสารไม่ได้รีบยื่นมือให้ดึงขึ้นมาชวนไปล้างเนื้อล้างตัวเปลี่ยนเสื้อที่มอมแมม ทีแรกยูตะปัดมืออย่างไม่ไยดี แต่ต่อมาอีกหลายวันก็เริ่มเชื่อใจคุยดีด้วย ถึงได้รู้นิสัยใจคอของมันบ้าง

แม้โรงเรียนนี้ส่วนใหญ่ก็มาจากครอบครัวฐานะดีกันทั้งนั้น หากยูตะนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นลูกมหาเศรษฐี ได้รับการเลี้ยงดูตามใจอยากได้อะไรต้องได้ ซึ่งก็แลกมากับการไม่มีเวลาดูแลของพ่อแม่ที่ทำงานบริษัทส่งออกรายใหญ่ มันแอบชอบฮิคาริตั้งแต่แรกเห็น เพื่อนที่เป็นเสมือนคนคอยช่วยพาไปเที่ยวเตร่ก็คอยยุยงอยู่พักใหญ่เมื่อเริ่มสังเกตเห็นมันแอบมองอย่างทำอะไรไม่ถูก เพราะแม้จะไม่ใช่กระจอกในด้านฐานะอย่างที่คาโต้ว่าไว้ หากบุคลิกของยูตะก็เป็นคนเก็บตัวขี้อายต่อหน้าผู้หญิง ยิ่งมาเจอผู้หญิงสวยๆ อย่างฮิคาริบอกปฏิเสธ ก็ไม่สามารถห้ามอารมณ์ขณะนั้นได้

ในช่วงเย็นเกือบค่ำหลังจากยูตะกับผมเริ่มเจอกันบ่อยๆ เช่นเดียวกับอีกหลายวันที่เห็นมันในสภาพโดนไถตังค์ เสื้อผ้าเลอะเทอะ มันนั่งนิ่ง สายตาเขม็งด้วยความเคียดแค้น พูดพึมพำเบาๆ กับตัวเอง
"เพราะมันคนเดียว เพราะมันคนเดียว" ผมหยุดมองมันที่ดูผิดปรกติกว่าทุกวัน
"เป็นอะไรวะ" มันเงยหน้ามอง
"เปล่าครับรุ่นพี่เคอิโงะ แค่รู้สึกแค้นใครบางคน"
"เพื่อนที่มันมาไถตังค์มึงล่ะสิ"
"ไอ้พวกนั้นก็แค้นครับ แต่ผมแค้นผู้หญิงคนนึงมากกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะอีฮิคาริที่มันทำให้ผมต้องอับอาย ผมคงไม่ต้องมาเจอสภาพแบบนี้หรอก อีเหี้ย อีสัตว์"
"เฮ้ยๆๆๆๆ เขาไปทำอะไรให้มึง ใจเย็นๆ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด"
"ไม่จริงหรอก ไม่เคยมีใครทำให้ผมต้องอับอายแบบนี้มาก่อน คอยดูเถอะสักวัน" มันเหม่อมองด้วยสายตาอาฆาต
"สักวัน..................." จู่ๆ สายตาผมก็จ้องไปที่หน้าอ้วนๆ ใหญ่ๆ ของมันจนงงงัน แล้วสติสัมปชัญญะก็ดับวูบกลายเป็นภาพหมุนเคว้ง

................

ผมตื่นขึ้นมาเหงื่อแตก... ไม่แน่ใจว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงฝันถึงเรื่องเดิมๆ ในอดีต ทั้งที่แทบจะลืมไปจากชีวิตแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อนที่ไฮบาระเล่าเรื่องราวของฮิคาริให้ฟัง เหตุการณ์ต่อจากนั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินคาดเดาอีกต่อไปว่าเธอจะตกอยู่ในวังวนของวงการหนังเอวีไปนานแค่ไหนในสภาพติดยา

แต่นั่นยังรวมมาถึงอาชีพค้ากามด้วย

เช้าวันถัดมา ไฮบาระที่ติดสอยห้อยตามอาคุมะไปเข้าบริษัทตอนสายเล่าว่า ภาพที่เห็นในห้องเมื่อเปิดเข้าไป ทำเอาหัวหน้าใหญ่ของบริษัทส่ายหน้า ฮิคาริหญิงสาวอดีตลูกคุณหนูหนอนหงายอยู่บนฟูกเก่าๆ ถ่างขาอล่างฉ่าง ที่ปากเปื้อนไปด้วยคราบน้ำกาม ลูกน้องอาคุมะร่างกายกำยำคนหนึ่งกำลังขยำนม จับขาแยกออกกระแทกเสียงดังแจะๆๆๆ ไม่หยุด ขณะที่อีกคนที่แก้ผ้าอย่างไม่อายกันใช้ควยถูไถบริเวณใบหน้าอุ่นเครื่องเตรียมรอคิวคนต่อไป

"อ๊าซๆๆๆๆๆ ออกแล้วๆๆๆ สาด หีอีนี่รีดน้ำกูออกไปรอบที่สามแล้วแม่งเอ๊ย มันชิบหาย"
"ฮึๆๆๆๆๆ อ๊ะๆๆๆๆ " แม้ดวงตาจะเหม่อลอยเหมือนสติยังอยู่ในฤทธิ์ยา แต่เสียงของฮิคาริก็มีอารมณ์จากอำนาจของมัน เห็นได้ชัดว่าลูกน้องได้ให้ยาเพิ่มต่อเนื่อง
"เฮ้ย ! ไอ้เหี้ย สินค้าแม่งสึกหรอหมด" อาคุมะตะโกนขัดจังหวะ ทำเอาคนที่กำลังตะบันเย็ดอยู่รีบผละออกมา ปล่อยให้ฮิคาริที่อยู่ในสภาพขาถ่างสั่นขากระเพื่อม ตาปรือ ในสภาพอารมณ์ที่ยังคั่งค้าง
"โธ่ พวกผมก็ออมมืออยู่ครับ ไม่ได้เล่นแรงอะไรมากมาย ทยอยเย็ดกันทีละคน"
"ออมเหี้ยอะไร ล่อแม่งถึงเช้าวะสัด พวกมึงพอแล้ว สินค้าต้องใช้งาน ส่งมันไปทำงานเสริม แล้วก็จับให้มันเลิกยาซะ เดี๋ยวจะเมายาทำงานไม่รู้เรื่องเปล่าๆ"

ผมแอบแปลกใจไม่น้อยที่สิ่งแรกๆ ที่สั่งคือการเลิกยา แต่ไฮบาระอธิบายว่าเพราะอาคุมะมองทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง มันมองว่าในระยะยาวการจะให้สินค้าของมันติดยาไปเรื่อยๆ นั้นไม่ใช่เรื่องดีในการทำงานสักเท่าไหร่

วิธีการเลิกยาแบบหักดิบของสมุนไอ้อาคุมะนั้นจัดว่าโหดเอาการ ราวกับเป็นความคิดที่น่าจะมีแค่ในหนังเอวีเท่านั้น แต่ไฮบาระบอกว่าพวกนี้ทำจริงโดยการจับมัดแขนขากับเก้าอี้ตรึงกับพื้นแน่น ติดไข่สั่นในจุดกระสันต์ตามร่างกาย รวมถึงสอดใส่ไข่สั่นขนาดใหญ่ไว้ในช่องคลอดเป็นเวลาหนึ่งคืน ผู้หญิงแม้จะดิ้นทุรนทุรายมากมายสักเท่าไหร่ แต่อาการอยากยาตัวนี้ก็จะหมดไปในที่สุดหลังพ้นช่วงข้ามคืน แถมเป็นผลพลอยได้ให้เหยื่อที่เลิกยาเหล่านี้เป็นทาสกามพวกนั้นต่อไปโดยง่ายดาย

"ฮ่าๆๆๆ ทีแรกแม่งร้องขอยา ดิ้นพราดๆ ตอนเช้าแม่งร้องซี๊ดซ๊าด ร่อนสะโพกแทนเว้ยเฮ้ย" ไฮบาระเล่าคำพูดของลูกสมุนอาคุมะในวันหลังจากพาฮิคาริไปเลิกยาให้ฟัง เรียกได้ว่างานที่ดูคาบเส้นความถูกผิดของคุณทาเคชิซึ่งผมเคยทำ หรือสิ่งที่คุโระทำอาจดูธรรมดาไปถนัดเมื่อเจอคนเหล่านี้

จากนั้นลูกน้องของอาคุมะนำฮิคาริที่หมดสภาพลูกคุณหนู และปลงตกไปเป็นนักแสดงหนังเอวี พร้อมกับเป็นเด็กใหม่ของเซ็กส์คลับหรูสำหรับคนรวยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของมัน ด้วยค่าจ้างที่ล่อตา และให้เงินถึงมือจริง ทำให้มีดาราเอวีหลายคนที่แขวนเต้าแล้วมารับงานที่นี่ไม่น้อย ภายนอกของคลับเป็นเหมือนบาร์ทั่วไปที่คอยให้บริการแขกผู้มีฐานะ แต่ด้านในจะมีห้องแยกกัน ปิดมิดชิดส่วนตัว ให้หาความสุขตามแต่ใครต้องการแบบใดกับสาวที่ให้บริการตามภาพ บ้างก็เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง บ้างก็ขอมากกว่าคนเดียว และหลายครั้งก็เปิดห้องใหญ่เป็นชุมนุมสวิงกิ้งที่ไม่ต้องแลกคู่กับใคร หากเป็นการรุมสาวที่พวกเขาเลือก

คล้ายกับการจงใจให้ถูกฝึกปรือ ฮิคาริที่เสมือนเด็กหน้าใหม่อีกครั้งในเส้นทางสายนี้ได้ถูกจับคู่กับดาราเอวีจัดเจนสังเวียนกามซึ่งเกือบจะแขวนเต้าไปแล้วอย่าง ริสะ มุระคามิ กับ เออิ คุโรซาวะ ที่แม้จะดูโรยรา แต่ก็แคล่วคล่องเป็นการเป็นงานกว่าฮิคาริแน่ๆ

ไฮบาระเล่าว่าค่าจ้างตั้งต้นในการมาอยู่คลับไม่ได้สูงมากมาย พวกเธอจึงต้องหารายได้จากการจ่ายตามความพอใจของลูกค้ากระเป๋าหนัก โดยมีค่าเรียกเก็บเริ่มต้นส่วนหนึ่งของการบริการอยู่แล้ว แต่หากมีเซ็กส์ตามเงื่อนไขที่ลูกค้าเสนอ ราคาก็ยิ่งสูงตามไปด้วย การที่ฮิคาริได้เข้าไปอยู่รวมกับอีกสองสาวรุ่นใหญ่ ทำให้เธอเข้าไปสู่การเล่นเกมกามที่ลูกค้าที่นี่ชอบเล่น นั่นคือเรียกหญิงสาวมาบริการพร้อมกันสามคนเพื่อแข่งขันประชันกัน โดยมีลำดับเงินที่พวกเธอจะได้รับสามขั้น ใครที่สามารถทำให้ลูกค้าพอใจได้มากที่สุดจะได้ค่าตอบแทนสูงสุด และลดหลั่นตามกันมา

ไม่น่าแปลกอะไรนัก ที่เรื่องที่ไฮบาระฟังต่อกันมาคือแม้ฮิคาริจะสวยและสาวสะพรั่ง แต่ลีลาบนเตียงซึ่งย่อมไม่มีทางสู้สองสาวที่ประกบคู่เธอได้ รายได้ค่าตอบแทนที่เธอเองก็มาทำไม่ทุกคืนเพราะต้องรับงานในส่วนแสดงหนังเอวีจึงอยู่รั้งท้ายเสมอ หากก็เพราะสองสาวอดีตดาราเอวีที่รับเล่นมาแล้วแทบทุกแนวหลายปีนี่เองที่เหมือนเป็นพี่สาวคนสนิท เป็นทั้งเพื่อนในช่วงเลิกงาน และในขณะทำงานก็ช่วยสอนชั้นเชิงกามจนเธอเปลี่ยนบุคลิกคุณหนูที่ดูสูงส่งไปในที่สุด

สามเดือนผ่านไปหลังจากที่เล่าวันนั้น ไฮบาระก็เอาวิดีโอที่ยืมมาจากพนักงานคนรู้จัก ที่ลูกค้าของคลับว่าจ้างให้ไปถ่ายเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึก ภาพค่อนข้างมืดและหลายครั้งมือไม่นิ่งตามประสาคนไม่ชำนาญ แต่ก็ดูออกว่าใครเป็นใคร

ชายแก่คราวพ่อสังเกตได้จากผิวหนังที่เริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวแห้งตามวัย แต่หุ่นยังคงสมส่วนดูดี หลังจากกอดกกหญิงสาวนางหนึ่งในท่วงท่าปกติ ฝ่ายที่ถูกทาบทับนั้นไม่เพียงเต็มใจแต่ยังตวัดขารัดแน่น แอ่นสะโพกขึ้นลงตามการกระเด้าเข้าออก สังเกตได้ว่าตามกลีบแคมมีคราบน้ำสีขาวไหลเอ่อนองไม่หยุด แต่มีอีกสองสาวใหญ่คอยใช้มือลูบไล้เนื้อตัวให้อย่างรู้งาน คนหนึ่งประกบปากดูดลิ้นฝ่ายชายอย่างเร่าร้อนราวกับกำลังจะกลืนกินลิ้นนั้นก็มิปาน อีกคนก็ใช้ลิ้นดูดเลียหัวนมสายตาหลงใหลได้ปลื้มร่างกายเหี่ยวชรานั้น เมื่อสอดใส่ได้ไม่นานอีกฝ่ายก็พลิกหญิงสาวคนดังกล่าว

นั่นเองที่ผมสังเกตได้ทันทีว่าเธอคนนั้นคือฮิคาริ

ชายคนดังกล่าวจับฮิคาริหงายให้มาขึ้นคร่อม เธอจับควยจ่อเข้าร่องหีพลางสูดปากตาปรือ ค่อยๆ หย่อนสะโพกเข้าออกอย่างช้าๆ ถึงตอนนี้สองสาวรุ่นใหญ่เปลี่ยนเป้าหมายมาที่เธอคนนึงดูดเลียหัวนมขนาดกลมกลึงพอดีมือนั้น ชิวหาของเออิ คุโรซาวะที่มาประเคนเธอเผลอๆ จะชำนาญเก่งกาจกว่าผู้ชายหลายๆ คน ทำเอาสะโพกเธอเคลื่อนถี่ขึ้นๆ ตามไปด้วย ขณะที่ริสะ มุระคามิ ยืนเหนือเธอ เสนอลิ้นตรงหน้า ฮิคาริก็ตวัดแลกลิ้นโต้ตอบอย่างเผ็ดร้อน ร่วมรักกันท่านี้อยู่นานทีเดียว

"อูย อา ป๋าขา แรงๆ อร๊ายๆ หนูจะแตกแล้ว อ๊ะๆๆๆๆ"  ฝ่ายชายเหมือนราวกับรู้จังหวะกับอีกสองสาว จับสะโพกฮิคาริที่กำลังสั่นพร่า แหกขาเพรียวขาวนั้นขึ้น สองนิ้วของริสะก็ทำหน้าที่แยงเข้าออก หยดน้ำแห่งความเสียวก็ไหลออกมากระจายตามมือ และเตียง

"อ๊ะๆๆๆๆๆ ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ป๋าขาาาาาาาาาาาา"
จากนั้นอีกฝ่ายก็เปลี่ยนท่าให้เธอมานอนหงาย จับขาถ่างพาดขึ้นกระเด้าถี่ยิบอีกนาน ขณะที่สองสาวยังประกบติด เออิไปจูบแลกลิ้นฝ่ายชาย มือก็ตกเบ็ดอย่างเงี่ยนง่าน ริสะไปดูดเลียหัวนมฮิคาริพร้อมๆ กับนานๆ ครั้งก็เลื่อนไปช่วยเลียท่อนควยและติ่งแตดของฮิคาริอย่างไม่รังเกียจ

ก่อนที่เกมกามจะจบ ฝ่ายชายกระเด้าถี่ยิบ
"อ๊าซซซซซซซซซ ออกแล้ว หนูจ๋า อูวววววว" พร้อมกับยื่นควยไปหลั่งรดน้ำกามตรงหน้าฮิคาริที่แลบลิ้นรออยู่แล้ว น้ำอสุจิที่ค่อยๆ ไหลกระเซ็นไปติดข้างแก้ม แต่ส่วนใหญ่ไปตกยังลิ้นเป้าหมายนั้นค้างตรงบริเวณดังกล่าวไม่นาน สองสาวใหญ่ก็รุมเข้าไปช่วยกันตวัดเลียจูบแลกลิ้นราวกับเครื่องดื่มรสโอชาเสียอย่างนั้น
"อั้นอ่อน(ชั้นก่อน)" เสียงสองสาวชิงพูดแย่งกินน้ำกามฝ่ายชายผู้จ่ายให้พวกเธอมาร่วมรักร่วมใคร่ ทั้งที่ลิ้นยังตวัดกันไม่หยุดต่างฝ่ายต่างแย่งใช้ปากดูดลิ้นอีกฝ่ายราวกับแข่งกันว่าใครจะกินน้ำกามของชายคนนี้ได้มากกว่ากัน

ภาพที่ถ่ายวิดีโอมา ทำเอาผมแทบไม่อยากเชื่อสายตา เพราะนี่ไม่ใช่ในหนังเอวีที่มีการตัดต่อบ้าง หรือการเตรียมตัว แต่เป็นการมีเซ็กส์กันจริงๆ ไฮบาระให้ข้อมูลว่าตอนนี้ฮิคาริจัดว่ารายได้ดีขึ้นเป็นลำดับแรกแทนมาได้พักนึงแล้ว กล่าวกันว่าหญิงสาวที่ได้รับความนิยมของคลับมักอยู่ในจุดเดียวกับช่วงเวลาของเธอนี้ มีจริตจก้านไม่ลามกหยาบคาย และยังอายุไม่มาก แต่บนเตียงก็แสดงความร่านราวกับอีตัวเจนสังเวียนได้...ฮิคาริ...เธอกลายเป็นกะหรี่เต็มตัวไปแล้ว

"โธ่...ฮิคาริ" ผมเผลออุทานเบาๆ ขณะดูวิดีโอดังกล่าวอย่างไม่ได้ตั้งใจ

....

บ่ายแก่ๆ ย่านชูโอขณะผมกำลังเดินหาสำนักงานจากแผนที่อยู่ เหตุการณ์ที่ไล่เลี่ยเกิดหลังจากนั้นได้ไม่นาน ที่ทำให้ผมนึกถึงความฝันในคืนดังกล่าวได้แม่นยำอีกครั้ง

ไฮบาระเสนอโอกาสให้ผมได้เจอกับฮิคาริอีกครั้งแบบแอบดูวันถ่ายทำหนังเอวีเรื่องใหม่ของเธอ จำได้คร่าวๆ ว่านี่เป็นเรื่องที่ 5 ไปแล้ว แต่ผมไม่ชำนาญแถวนี้สักเท่าไหร่
"พี่ครับ ถามทางหน่อยสิ" เสียงวัยรุ่นคนนึงแว่วมาจากด้านหลัง ผมรีบหันไปตอบ
"โทษครับ พี่ก็ไม่รู้จักเส้นทางเท่าไหร่ขอตัวนะ" ก่อนรีบเดินต่อไป
"เอ่อ พี่ครับ"
"อะไรเหรอ" ผมหันกลับไปอีกทีโดยไม่ได้มองคนถามเลยด้วยซ้ำ
"พี่ใช่พี่เคอิโงะที่เคยอยู่โรงเรียน P หรือเปล่าครับ ?" ผมต้องรีบเงยหน้าด้วยความสงสัย
"เฮ้ย ยูตะนี่ไปไงมาไงมาอยู่แถวนี้ได้เนี่ย ?"
เสียงหัวเราะเล่าเรื่องราวไต่ถามสารทุกข์สุกดิบของเด็กที่ถูกรังแกมาแทนที่ แม้จะฐานะต่างกัน แต่ความที่เคยอยู่สภาพเดียวกันจึงคุยกันอย่างออกรส

ยูตะนั้นตั้งแต่เปลี่ยนสภาพเป็นคนโดนรังแก ตัวมันเองไม่ได้ปรับปรุงตัวแต่อย่างใด กลับยิ่งตามใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ พอจบมัธยมก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็ไม่ค่อยเข้าเรียน วันๆ หมกตัวอยู่กับวิดีโอเกม ร้านเกมเซ็นเตอร์บ้าง หรือดูหนังเอวี หุ่นจากเดิมที่อ้วนอยู่แล้วเกือบเก้าสิบกิโล สภาพตอนนี้ก็ยิ่งปล่อยตัวกลายเป็นร้อยกิโลเสียแล้ว ส่วนผมเองเสเรื่องอาชีพที่ทำว่าเป็นคนตัดต่อวิดีโองานต่างๆ ที่รับจ้างตามแต่คนต้องการ เล่นเอายูตะทำท่าตกใจว่ามีการมีงานทำแล้ว
"ไม่น่าเชื่อเลยว่ะพี่ เห็นว่าพี่เรียนไม่จบเลยไม่ใช่เหรอ มาไกลขนาดนี้เก่งจริงๆ ครับ" มันพูดอวยเสียจนผมต้องรีบปัดมือ
"เฮ้ย ก็พูดไป เอ้อ ว่าแต่มาทำอะไรแถวนี้ล่ะวะ บ้านน่าจะอยู่คนละที่เลยนี่"
"อ๋อ แหะๆ คือว่า...ผมจะมาแสดงหนังเอวีน่ะพี่ เอวีนะครับ เอวี" มันทิ้งท้ายเป็นกระซิบยิ้มอย่างกระดี๊กระด๊า
"เฮ้ย ! บ้าหรือเปล่า มันจะเป็นไปได้ไงวะ" ผมเผลอโพล่งออกไปอย่างตกใจจริงๆ
"อ้าว ทำไมล่ะครับ ทำไมผมจะเป็นไม่ได้"
"ก็...ก็มัน มันก็งานไม่ได้ดีอะไร เห็นเขาว่าเงินก็น้อย นายก็บ้านรวย เอ้อ จะมาเป็นทำไมวะ เห็นเขาว่ามีคัดตัวด้วยนะเว้ยไม่ใช่จะเดินเข้าไปขอเป็นก็เป็นได้"
"ปัดโธ่พี่ พี่ไม่รู้อะไรแล้ว ไอ้ที่พี่บอกเรื่องคัดตัวเนี่ย ผมผ่านมาแล้วครับ เนี่ยจะได้แสดงวันนี้นี่แหละ"
"ฮ้า" ผมอุทานเสียงดัง นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว ต้องรีบซักไซ้ยูตะมันใหญ่ให้เท้าความเรื่องราว
"คือตอนที่ผมซื้อหนังเอวีมาดูเมื่อปีก่อนน่ะพี่ แม่งดาราในหนังนี่มันเหมือนอีฮิคาริที่ผมเคยแอบชอบมากเลยน่ะพี่ พี่น่าจะจำได้น่ะนะมันอยู่รุ่นพี่นี่ แต่ก็คิดว่ามันจะเป็นไปได้ไงวะ ระดับดาวโรงเรียนที่ทำคนทั้งโรงเรียนแดกแห้วกันหมดจะมาแสดงหนังแบบนี้ แต่แม่งยิ่งดูยิ่งใช่ ดูไปอีก 2-3 เรื่องชักว่าวกับหนังมันไปมั่นใจแม่งใช่แน่นอน ผ่านไปห้าเดือนได้ผมแม่งเลยรวบรวมความกล้าไปขอสมัครร่วมแสดงว่ะพี่ที่บริษัท Max-A เลย ตอนแรกแม่งคงต้องมีเส้นหรืออะไรก็ไม่รู้นี่แหละ พนักงานท่าทางแม่งยากูซ่ามันไล่ผมบอกว่ามาแบบน้องนี่เขาไม่รับหรอก อายุก็ยังไม่น่าจะถึง ผมก็ต้องรีบยืนยันเอาบัตรประชาชนให้ดู ตื๊อมันอยู่นานเป็นชั่วโมง พอมันรู้ว่าผมอยากแสดงหนังเอวีเพราะสงสัยว่าเป็นคนรู้จักหรือเปล่านั่นแหละ มันรีบด่าใหญ่ว่าเรื่องแบบนี้เขาปกปิดกัน แล้วก็ไล่ผมไป"

"แต่ผมไม่เลิกว่ะพี่ วันต่อๆ มาก็ไปคะยั้นคะยอถาม จนวันนึงน่าจะเป็นเจ้าของบริษัทหรือไงเนี่ยชื่อคุโระ ท่าทางดูใหญ่โตที่สุดแล้วเขาเกิดสงสัยเลยเดินมาถามว่าสงสัยใคร ผมรีบตอบไปว่า ยูกิ ฮิเมะ ผมมั่นใจแน่ๆ ครับว่าเป็นฮิคาริจังที่ผมรู้จักแน่นอน ตานี่แม่งตลกว่ะพี่ แม่งหัวเราะท่าทางสะใจอะไรไม่รู้ มันบอกผมว่ายูกิจังเนี่ยเขาเลิกเล่นกับที่นี่ไปแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงไปติดต่อกับคนชื่ออาคุมะอีกที่นึง เพราะเธอย้ายไปทำงานกับหมอนี่ กำชับเตือนผมว่าถ้าจะเข้าหาได้ต้องมีเงินพอสมควร แต่เรื่องฝากเด็ก เขาจะโทร.บอกให้ ผมบอกว่าไม่ต้องกลัวเรื่องตังค์ผมมีแน่นอน เขาหัวเราะสะใจเหมือนเดิม ผมเลยไปติดต่อกับไอ้อาคุมะอะไรนั่นได้ไง ไอ้ห่านี่ถ้ามีเงินทุกอย่างง่ายหมดจริงๆ"
"เชี่ย เอ้ย สัด"
"เป็นไรครับพี่"
"อ๊ะ เปล่าๆไม่มีอะไร"

แต่ผมคิดในใจ บรรลัยจริงๆ ที่แท้คุโระกับอาคุมะมันรู้จักกันหรือนี่ ?



Offline thep59

  • แฟนพันธ์แท้
  • *
    • Posts: 1217
    • เสียว: 11
    • View Profile
ขอบคุณครับ