close buttonclose buttonclose button
ความเสียวอัดอั้น

ความเสียวอัดอั้น

เรื่องเสียว · 33413

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
“ชั้นบอกแกกี่ครั้งกี่หนแล้ว ว่าให้สอบให้ได้
แล้วทีนี้เป็นไง ไม่ได้อะไรเลยซักอย่าง
ชั้นควรจะร้องไห้แทนแกดีมั๊ยเนี่ย”
เสียงเรียบ เย็นชา
ผ่านริมฝีปากบางเฉียบที่ดังจากด้านหลังของผม
ทำให้สมองของผมมึนงงไปหมด
หางตาเหลือบไปมองผู้ที่ยืนค้ำหัวผมอยู่ข้างหลัง
ผมนิ่งฟังเสียงประชดเหน็บแนมที่ยังคงดังอยู่
เหมือนไม่มีวันจบ...
..........................................................

ผมนึกไม่ออกเลยว่าตัวเองทำอะไรผิด ตั้งแต่เข้าเรียนม.1
ผมทำทุกอย่างตามที่แม่อยากให้เป็น
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจแม่ซักอย่าง
แม่คาดหวังว่าผมจะทำกิจกรรมเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆและคุณครูที่โรงเรียน
ผมก็พยายามทำทุกอย่าง ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ
แต่ผมก็พยายามแล้ว...
จนเมื่อผมอยู่ม.6 แม่อยากให้ผมสอบเข้าคณะแพทย์
ทั้งๆที่ผมพยายามบอกแม่แล้วว่าผมไม่อยากเป็นหมอ
แต่ดูเหมือนว่าคำอุทธรณ์ของผมจะไม่มีผลกับแม่แต่อย่างใด
คำขาดของแม่ก็คือ...
“แกต้องสอบเข้าแพทย์ให้ได้ ไม่อย่างงั้น
ชั้นก็ไม่มีลูกอย่างแก...”
คำพูดของแม่เหมือนประกาศิต ผมไม่กล้าที่จะโต้แย้งอะไรอีก
พยายามเรียนกวดวิชาและอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อให้ทุกอย่างเป็นได้อย่างที่แม่ต้องการ...
แต่การสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ไม่ใช่ว่าเพียงแค่อยากเข้าเรียนก็ได้เรียน สำหรับผม
มันเป็นการสอบที่หนักที่สุดตั้งแต่เกิดมา
เพราะผมไม่ได้แข่งเพื่อหาความรู้ให้กับตัวเองอย่างเดียว
แต่ยังต้องแข่งกับคนอีกเป็นหมื่นเป็นแสน
ที่ก็ต้องการเข้าไปเรียนต่อเหมือนกับผม...
..........................................................

ตั้งแต่จำความได้ ผมก็อยู่กับแม่เพียงสองคน
ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แม่เป็นคนจัดการให้ผมเกือบทั้งหมด
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าแม่คิดถูกแล้วที่มีอาชีพเป็นอาจารย์
เพราะด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
น้ำเสียงเย็นชาและกิริยาการเดินเนิบๆ
เพียงแค่นี้ก็ทำให้นักเรียนที่มีแนวโน้มจะเกเร
ต่างหัวหดกันหมด ซึ่งก็ไม่ได้ยกเว้นผมแต่อย่างใด
ตั้งแต่เด็กมา
ผมจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่แม่ยิ้มให้ผมน่ะเมื่อไหร่
และจำไม่ได้แล้วว่าโดนแม่ตีกี่ครั้งกี่หน
บางครั้งก็เพียงแค่เพราะว่าทำการบ้านผิด
หรือไม่ก็ดูโทรทัศน์นานไปหน่อย
ผมไม่เคยได้แสดงความคิดเห็นหรือแสดงความต้องการอะไรให้แม่เห็นเลย
เพราะแม่ไม่เคยฟังและไม่เคยที่จะสนใจความคิดใดๆของผมทั้งสิ้น
สิ่งที่ได้ยินได้ฟังจนชินก็คือ
แม่สอนเด็กให้ได้ดีหลายคนแล้ว ทำไมจะสอนลูกให้ได้ดีไม่ได้
แต่มันเหมือนกับว่าแม่จะเข้มงวดกับผมจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง
เพื่อนแต่ละคนของผม จะต้องถูกแม่ซักถามก่อนที่จะคบด้วยเสมอ
เพราะกลัวว่าเพื่อนเหล่านั้นจะมาชักจูงให้ผมออกนอกลู่นอกทาง
จนบรรดาเพื่อนของผมต่างถอยห่างจากผมจนเกือบไม่มีเพื่อนเหลืออยู่เลย
คงเหลือเพื่อนบางคนที่ผมต้องแอบคบอยู่เพราะกลัวว่าแม่จะเข้ามาวุ่นวายจนเพื่อนกลุ่มสุดท้ายนี้ต้องเลิกคบกันไปอีก
ซึ่งความอึดอัดนี้มันสะสมอยู่กับผมมาเป็นเวลาหลายสิบปี
จนกระทั่งถึงวันนี้...
..........................................................

“แล้วทีนี้จะทำยังไงต่อ...” เสียงเย็นชาของแม่ดังขึ้นอีก
“...ไม่ต้องเรียนดีมั๊ย ชั้นจะเอาแกไปฝากครูใหญ่
ให้ช่วยรับแกเข้าไปเป็นภารโรงของโรงเรียน
บอกตรงๆว่าชั้นคิดผิดจริงๆ
รู้อย่างนี้เอาขี้เถ้ายัดปากแกตั้งแต่เด็กๆก็ดีแล้ว”
คำพูดของแม่ทำให้ผมสะอึก
ทำไมแม่ต้องกดดันผมหนักขนาดนี้ด้วย
“นี่ถ้าพ่ออยู่...” ผมเอ่ยขึ้น แต่แม่ตัดบทเสียงดัง
“ไม่ต้องพูดถึงพ่อแกเลย...” เสียงเย็นชาของแม่เข้มขึ้น
“...แกนั่นแหล่ะที่ทำให้พ่อแกออกจากบ้านไป
ยังมีหน้าไปพูดถึงมันอีก”
“แต่..” ผมจ้องหน้าแม่
เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องของพ่อมาก่อน
ไม่รู้ด้วยว่าเกี่ยวอะไรกับผม
“พอแล้ว...” แม่ตัดบท “...ชั้นไม่พูดเรื่องนี้กับแกอีก
รู้ไว้ซะด้วยว่าชั้นทนเลี้ยงแกมาเนี่ยก็เพราะอยากให้พ่อของแกรู้ว่าชั้นก็มีปัญญาเลี้ยงแกได้
แต่แกกลับทำตัวไม่ได้เรื่องเหมือนพ่อแก
แกไม่มีอะไรที่เหมือนชั้นซักนิด
นี่ถ้าชั้นไม่ได้เบ่งแกออกมาเองนะ
ชั้นคงไม่เชื่อหรอกว่าแกเป็นลูกของชั้น”
ประโยคสุดท้ายของแม่ทำให้ความอดทนของผมถึงขีดสุด
ผมลุกออกจากเก้าอี้ในห้องและเดินออกจากห้องไปทันที
“จะไปไหน...แกยังไม่ไหนไม่ได้ ชั้นยังพูดไม่จบ”
แม่ตะโกนไล่หลังมา แต่ผมไม่สนใจจะฟังอีกแล้ว...
...........................................................................

ผมเดินออกมาจากบ้าน
ตรงไปหน้าปากซอยซึ่งเป็นที่สิงสถิตของบรรดาเพื่อนๆกลุ่มสุดท้ายของผมเพราะเพื่อนที่โรงเรียนหรือเพื่อนที่อื่น
ต่างถูกแม่ของผมถามโน่นถามนี่จนหนีผมไปหมดแล้ว
ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะพวกมันนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟกันครบหน้าเพราะแต่ละคนก็ไม่ได้ทำอะไร
นอกจากจะมานั่งสุมหัวกันอยู่ที่นั่นทั้งวัน...
............................................................................


“มึงก็เลยเดินหนีออกมาจากบ้าน...”
เปี๊ยกถามพลางหัวเราะเสียงดังลั่น
เพื่อนคนอื่นๆที่นั่งอยู่ด้วยก็พลอยหัวเราะไปด้วย
“...แค่เนี้ย?”
“มึงจะให้กูทำยังไงล่ะ...” ผมพูดเสียงหงุดหงิด
เพราะหวังว่ามาคุยกับเพื่อนๆที่ร้านกาแฟหน้าปากซอยแล้วจะสบายใจขึ้น
แต่กลับกลายเป็นว่าโดนพวกมันหัวเราะเยาะอีก
“เป็นกู กูไม่ยอมเว้ย...”
ไอ้เติมพูดพลางหัวเราะก่อนจะจ้องหน้าผม
“...มีอย่างที่ไหนวะ ด่าเอาๆ อยากเป็นหมอก็มาเรียนเองสิวะ”
“แล้วกูจะทำยังไงดีเนี่ย...”
ผมพูดด้วยความกลุ้มใจเพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อ
มองเหม่อไปบ้านตัวเองที่เห็นอยู่ลิบๆ
หางตาเหลือบเห็นพวกมันมองสบตากัน
“แม่มึงเครียดมาก...” เสียงไอ้เปี๊ยกพูดเบาๆ
“มึงไปหาวิธีให้แม่มึงลดความเครียดหน่อยเถอะ”
“กูก็เห็นแม่กูเครียดมาตั้งแต่กูเกิดแล้ว...” ผมบ่น
“...ไม่รู้จะทำยังไงนี่หว่า”
“ไม่ต้องห่วง...” เปี๊ยกตบไหล่ผมเบาๆ
“...พวกกูเป็นเพื่อนมึง มึงไม่สบายใจ
พวกกูก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย เอ้านี่...”
มันพูดพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
หยิบซองพลาสติกเล็กๆขึ้นมาซองนึง ชูที่หน้าของผม
“...นี่เป็นยาแก้เครียด
พวกกูเก็บไว้ใช้เวลาที่มีเรื่องกลุ้มใจ
มึงเอาไปให้แม่มึงกิน รับรองว่าหายเครียด บอกไว้ก่อนนะโว้ย
นี่ของแพงนะ ถ้าไม่รักกันจริง กูไม่ให้มึงหรอก”
“แล้วแม่กูจะยอมกินเหรอวะ...” ผมยื่นมือไปรับ
ภายในซองมีผงสีขาวอยู่ค่อนถุง
“...กูยังไม่เคยเห็นแม่กูกินยาอะไรเลย
แล้วเดี๋ยวเค้าถามว่าเอามาจากไหน กูขี้เกียจอ้างถึงพวกมึง”
“มึงก็ไม่ต้องให้แม่มึงรู้สิ...” เติมพูดเบาๆ
“...กูรับรองแทนไอ้เปี๊ยกเลย พอแม่มึงกินยาแล้วนะ
รับรองจะรักมึงมากเลยล่ะ แล้วต่อไปจะไม่หาเรื่องด่า
หรือขัดใจอะไรมึงอีกเลย เชื่อกูสิ”
“ไม่เป็นอันตรายนะมึง” ผมคาดคั้น
“กูจะหลอกมึงทำห่าอะไรวะ...” เปี๊ยกทำเสียงจริงจัง
“...ถ้ามันกินแล้วตาย กูจะเอาติดตัวไว้ทำห่าอะไร
มึงนี่คิดโง่ๆ”
ผมพยักหน้า
มองหน้าพวกมันสลับกันไปมาพลางคิดว่ายาที่พวกมันให้ก็คงไม่พ้นพวกยาอีหรือยากล่อมประสาท
เพราะพวกมันเป็นเด็กข้างถนน
จะเอายาแก้เครียดจริงๆมาจากที่ไหน...
บางที...บางทีนะ ถ้าแม่ได้กินยาพวกนี้สักครั้ง
อาจจะดีขึ้นก็ได้ เพราะแม่ดูเครียดอยู่ตลอดเวลา
ถ้าได้ผ่อนคลายลงบ้างอาจจะดีขึ้นก็ได้
ความคิดของผมเวลานั้น
อะไรก็ได้ที่ทำให้แม่เลิกวุ่นวายกับผมซักที
ผมคิดพลางมองหน้าพวกมันอีกครั้ง...
.............................................................

“เมื่อกี้ผมขอโทษครับที่เดินออกจากบ้านไป”
ผมยืนอยู่หน้าแม่ที่กำลังเตรียมอาหารเย็น
“ไม่เป็นไร แกไปอาบน้ำแล้วเตรียมลงมากินข้าวได้แล้ว
มีอะไรไว้เดี๋ยวค่อยคุยกันหลังกินข้าว”
เสียงของแม่ยังเย็นชาเหมือนเดิม
ผมมองหน้าแม่อีกครั้งก่อนจะเดินไปอาบน้ำ
กลับลงมาจากอาบน้ำ แม่ก็ขยับตัว
“กับข้าวเสร็จแล้ว ชั้นไปอาบน้ำก่อน
แกจะกินก่อนหรือรอก็ตามใจนะ” โดยไม่รอฟังคำตอบ
แม่เดินขึ้นไปข้างบนทันที
ผมมองตามร่างที่เดินขึ้นไปชั้นบน
นิ่งคิดอะไรอีกครั้งก่อนจะหยิบซองพลาสติกขึ้นมา
และเทผงสีขาวลงไปในแก้วน้ำของแม่เกือบครึ่งนึง
ผมใช้ปลายช้อนคนจนผงเหล่านั้นละลายเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ
และนั่งรอแม่ลงมาทานข้าวพร้อมกัน...
.................................................................

ผมนั่งกินข้าวกับแม่ ตาก็คอยเหลือบมองแม่อยู่ตลอด
“เป็นอะไร กินไปสิ
เดี๋ยวเสร็จแล้วเราค่อยขึ้นไปคุยกันข้างบน”
แม่พูดพลางยกแก้วน้ำที่ผมผสมยาแก้เครียดขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“ครับ” ผมตอบสั้นๆ หวังว่าถ้าแม่ได้พักอย่างเต็มที่
บางทีแม่อาจจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง...
แม่นั่งเฉยๆซักพักก็เอ่ยปากขึ้น
ทำให้ความหวังของผมดับวูบลง
“เดี๋ยวกินเสร็จแล้วตามชั้นขึ้นไปข้างบนนะ
จะเอายังไงต่อก็พูดให้รู้เรื่องวันนี้แหล่ะ”
แม่พูดจบก็ลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวและเดินขึ้นข้างบนโดยไม่หันมามองผมอีก
ผมนั่งสะอึกอยู่ในใจ อิ่มตื้อเดี๋ยวนั้นเลย
นั่งฟุ้งซ่านอยู่ซักพักก็ตัดสินใจลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวแล้วเดินตามแม่ขึ้นไปที่ห้องของแม่...
..................................................................

“แกจะทำยังไงต่อ”
เสียงของแม่ยังเย็นเฉียบอย่างเสมอต้นเสมอปลายในความคิดผม
ยาของไอ้พวกนั้นคงไม่ได้ผล แม่นั่งอยู่บนเตียง
ส่วนผมยกเก้าอี้มานั่งอยู่ต่อหน้าแม่
“ผม...” ผมไม่รู้จะพูดอะไร “...ผมแล้วแต่แม่ครับ”
แม่พยักหน้า ใบหน้าเรียบเฉย
จากนั้นก็เริ่มด่ากรอกหูของผมเหมือนทุกครั้ง
จนผมอยากจะเอามืออุดหูแล้ววิ่งหนีออกไปจากห้องแม่
แต่ก็รู้ว่าทำอย่างนั้นไม่ใช่วิธีที่ฉลาด เพราะยังไงซะ
ผมก็หนีแม่ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว
“ชั้นพยายามจะให้แกมีอาชีพการงานที่ดี
ก็เลยอยากให้แกเรียนแพทย์ แทนที่แกจะพยายาม
แกดันไม่ยอมตั้งใจเรียน เอาแต่เล่นทั้งวัน...”
แม่พูดเสียงเรียบๆแต่เชือดเฉือนตามสไตล์
“...แก...แก..ถ้าแก..อืมม...ถ้าแกตั้งใจจริงซักหน่อยนะ...อืมม...”

จู่ๆแม่ก็พูดตะกุกตะกัก เสียงที่เคยเย็นชาเริ่มสั่น
ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูจางๆ
ขนลุกชันไปทั้งตัวจนสังเกตเห็นได้
แม่เอามือกุมขมับเหมือนกับจะเป็นลม
“แม่ เป็นอะไรครับ”
ผมถามด้วยความตกใจเพราะไม่เคยเห็นแม่เป็นอย่างนี้มาก่อน
“ชั้นไม่ได้...เป็นอะไร...” แม่ตวาดขึ้น
แต่เสียงที่ออกจากปากกลับสั่นระริกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“...ชั้น..ยังพูด....ไม่จบ...”
ผมดูด้วยความมึนงง ถ้ายาของไอ้พวกนั้นออกฤทธิ์จริง
แม่ต้องมีท่าทางผ่อนคลายสิ ไม่ใช่ดูกระวนกระวายอย่างนี้
“ชั้น...” แม่พยายามจะพูดต่อ แต่ก็ต้องก้มหน้านิ่ง
เสียงลมหายใจเข้าออกดังหนักหน่วงคล้ายกับพยายามควบคุมอารมณ์อยู่
ใบหน้าที่ระเรื่อเป็นสีชมพูในตอนแรกนั้น
บัดนี้ได้แดงกล่ำไปจนถึงต้นคอ
ร่างที่นั่งอยู่บนเตียงก้มหน้า พยายามหายใจเข้าออกช้าๆ
เบียดต้นขาทั้งสองข้างไปมาช้าๆจนชุดนอนที่แม่สวมอยู่ยับย่นไปด้วยแรงบิดนั้น
“ทำไมเป็นอย่างนี้...” เสียงแม่พึมพำกับตัวเอง
ซึ่งผมฟังไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร
รู้อยู่แต่ว่าอาการของแม่เหมือนคนไม่สบาย
แต่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
ร่างของแม่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้นซักพัก
ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างรุนแรง “...ไม่ไหว...แล้ว...”
เสียงแม่พึมพำเบาๆ
“เอก...” แม่เงยหน้าเรียกผม เสียงที่ผ่านริมฝีปากออกมา
ทำให้ผมต้องเงี่ยหูฟังอย่างแปลกใจ
เพราะไม่เคยได้ยินแม่เรียกผมด้วยเสียงนุ่มนวลขนาดนี้มาก่อน
แววตาที่แม่มองมานั้นเปล่งประกายบางอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
มันหยาดเยิ้มจนผมต้องก้มหน้าหลบสายตาของแม่
“ครับ” ผมขานรับเบาๆอย่างไม่รู้จะทำยังไง
“แม่เป็นอะไรก็ไม่รู้...” เสียงอ่อนนุ่ม
แหบพร่านั้นสั่นคลอนประสาทผมอย่างรุนแรงเพราะมันเจือไปด้วยสำเนียงที่เร่าร้อน
จนแม้แต่คนที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์เรื่องผู้หญิงมาก่อนอย่างผมก็ยังรู้สึกได้
“...มันเป็นมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย เอก”
“แม่..แม่เป็นอะไรล่ะครับ” ผมพยายามถามเสียงตะกุกตะกัก
แล้วก็ต้องใจหายวาบเพราะแม่ขยับมือทั้งสองข้างลูบไล้ต้นขาของตัวเองอย่างแผ่วเบา



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
Reply #1 on: June 01, 2011, 08:46:29 am
“แม่...แม่อึดอัด......ทำไมเป็นอย่างนี้
แม่...แม่ทน...ทนไม่ไหวแล้ว” เสียงสั่นระริก
ร่างที่นั่งอยู่บนเตียงค่อยๆบิดกายไปมาช้าๆ
สองมือที่ลูบไล้ต้นขาค่อยๆขยับเลื่อนขึ้นมาด้านบนจนฝ่ามือทั้งสองข้างสัมผัสกับเต่งเต้าที่อยู่ภายใต้เสื้อนอน
“แม่...” ผมอุทานเสียงหลง เพราะไม่คิดว่าจะเห็นภาพอย่างนี้
ร่างที่นั่งลูบไล้เรือนร่างของตัวเองอยู่บนเตียง
บิดกายไปมา หลับตาพริ้ม ใบหน้าแดงกล่ำ
เสียงหอบหายใจของแม่ทำให้ผมขนลุกไปหมดทั้งตัว
เพราะมันแหบพร่าอย่างยั่วยวนยังไงบอกไม่ถูก
สองมือที่ลูบไล้เต่งเต้านั้นขยับขึ้นไปบนไหล่ของตัวเอง
“แม่...” ผมอุทานอีกครั้ง เมื่อแม่ปลดสายชุดนอนออกจากร่าง
ผิวกายขาวผ่องของแม่สว่างวาบขึ้นต่อหน้าต่อตาผม
ด้วยวัยย่างเข้า 40 ของแม่ ถึงจะไม่ใช่สาวแรกรุ่น
แต่ผิวกายที่ขาวเนียน บวกกับการรักษาเนื้อรักษาตัวของแม่
ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในร่างของแม่
ยังคงเต่งตึงจนดูอ่อนวัยกว่าอายุจริง
ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่สองตาของผมจ้องมองร่างของแม่ตาแทบถลน
และทั้งๆที่รู้ว่าไม่เหมาะสม
แต่ท่อนเนื้อที่อยู่ในกางเกงดันแข็งตัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
สายตามองลาดลงมาจากลำคอที่ขาวผ่อง
เห็นสองเต้าที่เคลื่อนคล้อยลงบ้างตามอายุ
แต่ยังคงรูปไว้ไม่คล้อยยานจนเสียสภาพแต่อย่างใด
ป้านสีน้ำตาลจางๆประดับปลายยอดด้วยหัวนมสีน้ำตาลอ่อนพุ่งชูชันขึ้นมาราวกับเม็ดบัวขนาดย่อม
สองมือของแม่ปาดเสื้อนอนลงมากองอยู่ที่เอว
ก่อนจะวกฝ่ามือขึ้นลูบไล้และขยำขยี้สองเต้าช้าๆแต่หนักหน่วง
พลางบีบบี้หัวนมที่แข็งชันนั้นเบาๆ
เสียงครางที่หลุดออกมาจากแม่ทำให้ผมแทบคลั่ง
“แม่...เป็นอะไร”
สำนึกสุดท้ายสั่งให้ผมถามแม่ที่นั่งแอ่นร่างบีบเคล้นเต่งเต้า
ตอนนี้อย่าว่าแต่แม่เลยที่บิดไปมา
ผมก็นั่งบิดขาไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
ท่อนเนื้อข้างในดันกางเกงนอนจนแทบทะลุ
“เอก...” เสียงเรียกของแม่ไม่ดังไปกว่าเสียงครางนั้น
“...มานี่”
“ผม...” ผมลังเล ร่างที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมในขณะนี้
ทำให้ผมตัวแข็งไปหมดทั้งร่าง โดยเฉพาะท่อนเนื้อในกางเกง
เหงื่อซึมทั่วแผ่นหลัง
“แม่บอกให้มานี่ไง...” เสียงเหมือนพยายามจะดุ
แต่กระแสเสียงนั้นราวกับจะเชิญชวนเสียมากกว่า
ฝ่ามือทั้งสองของแม่เปะปะไปมาบนเต้านมอ่อนนุ่มก่อนจะค่อยๆป่ายผ่านหน้าท้องลงมา
“แม่...” ผมอ้าปากค้างอีกครั้ง
เมื่อร่างที่นั่งอยู่ต่อหน้านั้น ขยับเอวขึ้นเพียงนิด
ก่อนจะดันชุดนอนที่กองอยู่ตรงเอวให้เลื่อนลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า
สองขาที่เบียดเสียดบิดไปมานั้นค่อยๆถ่างกว้างออกจนเป็นรูปตัววี
สาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมา
ผมไม่เคยเห็นแม่ในสภาพที่เปล่าเปลือยมาก่อนเลย
เกือบทุกครั้ง ถ้าไม่ใช่ชุดนอนก็เป็นชุดอยู่บ้าน
หรือไม่ก็เป็นชุดที่ใส่ออกไปสอน...
แต่วันนี้
เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นร่างเปลือยเปล่าของแม่อย่างเต็มตาขนาดนี้
สายตาที่จับจ้องอยู่บนเต่งเต้าขนาดค่อนข้างใหญ่เลื่อนผ่านหน้าท้องลงไปจนถึงเนินเนื้อที่มีเส้นไหมดำสนิทปิดคลุมแผ่ทั่วหน้าขา

แม่เงยหน้าหลับตาพริ้ม แก้มแดงกล่ำ ฝ่ามือลูบไล้
ขยำขยี้บนเนินเนื้อจนเส้นไหมดำยุ่งเหยิงไปหมด
ฝ่ามืออีกข้างก็วกกลับขึ้นไปบีบเคล้นสองเต้าอย่างหนักหน่วง
เสียงหอบหายใจหนักหน่วงขึ้น
“แม่สั่งให้มานี่...” เสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง
แต่คราวนี้ราวกับถูกมนต์สะกด ผมค่อยๆลุกขึ้นยืน
ก้าวไปยืนอยู่หน้าร่างของแม่ที่กำลังนั่งอยู่ตรงขอบเตียง
“เอก..” เสียงหยาดเยิ้มอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนดังขึ้น
“...ช่วยแม่...ด้วย...แม่...ไม่...ไม่ไหวแล้ว...”
ผมสะดุ้งทั้งตัวเพราะร่างของแม่ที่กำลังเคล้นคลึงเรือนร่างของตัวเองนั้น
ขยับตัวมาประชิดร่างที่กำลังยืนอยู่ของผม
และโดยที่ยังไม่ทันตั้งหลัก
แม่ก็จับขอบกางเกงนอนซึ่งเป็นกางเกงยืดของผม
และรูดลงไปกองกับพื้นทันที
“แม่...” ผมร้องเสียงหลง งอตัวด้วยความเคยชิน
เพราะผมไม่เคยใส่กางเกงในเวลานอนมาก่อน ดังนั้น
เมื่อแม่รูดกางเกงผมออกจากร่าง
ท่อนเนื้อที่แข็งชันเนื่องจากภาพที่เห็นต่อหน้า
จึงดีดพุ่งไปข้างหน้าจนแทบชนกับใบหน้าของแม่ที่ก้มลงมาระหว่างที่รูดกางเกงนอนผมออก...
“อยู่เฉยๆ...” เสียงแหบพร่านั้นยังคงสั่งอยู่
สองมือของแม่ปราดเข้ามาลูบไล้หน้าท้องของผมจนผมเสียววาบไปทั้งตัว
มือนั้นป่ายเปะปะจนสัมผัสท่อนเนื้อแข็งเกร็งที่ตั้งขนานกับพื้นเนื่องจากความเสียวที่ได้รับ
ผมสะดุ้งไปทั้งร่างเพราะอุ้งมือที่อ่อนนุ่มของแม่คว้าที่ดุ้นเอ็นขนาดพอดีมือ
มืออีกข้างหนึ่งของแม่โอบสะโพกของผมและดึงตัวเข้าไปจนยืนจ่อท่อนเนื้ออยู่ตรงกับใบหน้าของแม่
“แม่...” ผมอุทานเสียงหลง
เมื่อร่างที่นั่งอยู่บนขอบเตียงก้มหน้าลงมาที่ดุ้นเอ็นและตวัดลิ้นเลียจนรอบ
ก่อนจะอ้าปากอมท่อนเนื้อเข้าไปในปากจนแทบถึงโคน ผมเสียววาบ
ขนลุกไปหมดทั้งตัว
ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวผสมกับปลายลิ้นที่ตวัดไล้เลียไปมา
ทำให้ผมต้องแอ่นตัวขึ้นรับความเสียวที่ได้รับอย่างไม่นึกไม่ฝันมาก่อน
ร่างของแม่ที่ก้มหน้าก้มตาดูดดุ้นเนื้ออย่างหิวโหย
ทำให้ผมเกร็งไปทั้งร่าง ทำไมจู่ๆแม่ถึงเป็นอย่างนี้
ทั้งๆที่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เอง
แม่ทำท่าเหมือนจะไล่ผมออกจากบ้าน
แต่ตอนนี้กลับทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้
ผมยืนเห็นแม่ขยับศีรษะเข้าออกกับหว่างขาของผมอยู่ชั่วครู่
ก็เงยหน้าขึ้น
ริมฝีปากของแม่มันเยิ้มไปด้วยน้ำลายซึ่งก็เลอะบนท่อนเนื้อของผมจนเป็นคราบมันวับ
สองขาของผมสั่นระริกด้วยความเสียวที่ผ่านมาจากริมฝีปากของแม่
และผมก็ต้องเซขึ้นไปนั่งบนเตียงเมื่อแม่ดึงตัวผมขึ้นไปนั่งบนเตียง
“มานี่...เอก...” เสียงสั่นระริกของแม่ดังขึ้น
ทำให้ผมนึกภาพไปถึงหนังที่เคยแอบดู เพราะพอถึงตอนนี้
ผมเริ่มจะรู้แล้วว่าแม่จะจบเรื่องนี้ยังไง
พอคิดอย่างนั้น ก็ยิ่งทำให้ผมเสียวไปหมดทั้งตัว
นี่แม่จะเล่นพิเรนทร์อะไรกับผมอีก
เพราะเพียงแค่นี้ก็ทำให้ผมแทบขาดใจตายอยู่แล้ว
ท่อนเนื้อที่เป็นมันวาวด้วยคราบน้ำลายของแม่แข็งเกร็งขึ้นราวกับหิน
ผมมานั่งอยู่ขอบเตียงข้างๆแม่ พอสบตาแม่ ผมก็ต้องหลบตา
เพราะแววตาของแม่นั้นมันมีประกายอะไรบางอย่างที่ผมก็บอกไม่ถูก
เสียงหอบหายใจของแม่ยิ่งทำให้ผมนั่งเบียดท่อนขาไว้แน่นเพราะกลัวว่าแม่จะเห็นว่าท่อนเนื้อที่ตรงกลางนั้นมันบอกถึงความปรารถนาของเจ้าของอย่างไม่สามารถปิดบังไ
ด้...
แต่แม่ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นิดเดียว
สองมือของแม่ดันร่างผมลงไปนอนหงายอยู่บนเตียง
ร่างขาวเนียนขยับตัวปีนขึ้นมาคล่อมอยู่บนร่างของผม
สองเต้างามแกว่งไกวไปมาตามการขยับตัว
แม่ขยับประชิดแนบใบหน้าลงกับใบหน้าผมและ...
“อืมม...” ผมครางออกมาเบาๆ
เมื่อแม่ประกบริมฝีปากกับผมแนบแน่น
ปลายลิ้นเรียวเล็กร้อนผ่าวโผล่พ้นริมฝีปากเรียวงาม
ไต่ตวัดไปมาอยู่บนริมฝีปากผม
ก่อนจะมุดแทรกเข้าไปภายในจนปลายลิ้นของเราสัมผัสกัน
ผมสะดุ้งเฮือกไปทั้งร่างเหมือนถูกไฟชอร์ต
เมื่อปลายลิ้นอ่อนนุ่มนั้นกวาดจนทั่วทั้งปากและตวัดลิ้นเข้าพันกับลิ้นของผม
สองมือแม่ลูบไล้ทั่วร่างผมก่อนจะไปหยุดอยู่ที่กลางหว่างขาและเคล้นคลึงท่อนเนื้อที่แข็งราวกับหินนั้นอย่างแผ่วเบาจนผมต้องแอ่นตัวขึ้นรับความนุ่มนวลนั้น
อุ้งมือของแม่รูดท่อนเอ็นของผมขึ้นลงช้าๆ
แต่มันยิ่งเพิ่มความเสียวให้ผมมากขึ้นไปอีก
“แม่...แม่ครับ...ผม...” ผมครางเบาๆ
ร่างแอ่นขึ้นลงตามอุ้งมือของแม่ที่ทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง
แม่หยุดเสียงครางของผมด้วยริมฝีปากอ่อนนุ่ม
ปลายลิ้นของแม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ผมได้แต่นอนบิดไปมาด้วยความเสียว
จนกระทั่งลิ้นเรียวงามของแม่แตะกับหน้าอกของผม
ริมฝีปากร้อนผ่าวประกบกับนมที่พึ่งแตกพานของผม
ผมแทบจะขาดใจตาย ชาไปหมดทั้งร่าง
เมื่อปลายลิ้นของแม่ฉวัดเฉวียนอยู่บนหัวนมทั้งสองข้าง
ผมได้แต่นอนกระตุกร่างด้วยความเสียวอยู่อย่างนั้น
จนรู้สึกว่าแม่พลิกตัวนอนหงายและดึงร่างของผมขึ้นไปนอนอยู่บนตัวแม่
“เอก..เอก..ช..ช่วยแม่...ช่วยแม่ด้วย...”
เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูของผมที่ตอนนี้พลิกตัวขึ้นไปนอนอยู่บนร่างขาวโพลนนั้น
สองมือของแม่ป่ายเปะปะลูบไล้อยู่บนแผ่นหลังของผม
ผมคงจะต้องฆ่าตัวตายแน่ๆ ถ้าไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ
ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงมาก่อน
แต่ธรรมชาติก็สอนให้ผมรู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน...
ใบหน้าเย็นชาที่มองผมอย่างเรียบเฉยตั้งแต่เมื่อสมัยที่ผมยังเด็กจนผมแทบไม่อยากมอง
แต่ตอนนี้ผมกลับจูบไซ้ใบหน้านั้นจนทั่วก่อนจะมาประกบปากกับริมฝีปากที่เคยเชือดเฉือนผมมาตลอด
เจ้าของริมฝีปากบางนั้นรีบเผยอริมฝีปากรอรับปลายลิ้นของผมที่สอดแทรกเข้าไปควานจนทั่วและตวัดพันลิ้นกับเจ้าของปากจนแทบแยกไม่ออก

ผมเล่นลิ้นอยู่อย่างนั้นจนพอใจก่อนจะค่อยๆเลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซ้อยู่ตรงซอกคอ
แม่เงยหน้าครางเสียงกระเส่า
เร้าอารมณ์ให้ผมยิ่งพลุ่งพล่านมากขึ้นไปอีก
จนเมื่อใบหน้าผมซบอยู่กับร่องอก
สองมือเลื่อนขึ้นมาประกบอยู่กับสองเต้าที่อ่อนนุ่มแต่ยังคงรูปงามอยู่
ผมเคล้นคลึงเต้างามอย่างแผ่วเบา...
“เอก...แรง...แรงกว่านี้...” เสียงเร่งเร้าของแม่
ทำให้ผมบีบเคล้นเต้าทั้งสองหนักหน่วงขึ้นจนแทบแหลกคามือ
แต่แทนที่แม่จะเจ็บปวด
กลับแอ่นอกขึ้นรับแรงบีบเคล้นนั้นด้วยความเต็มใจ
ใบหน้าของผมที่ซบอยู่กับร่องอกค่อยๆขยับไต่ขึ้นไปหาปลายยอดที่แข็งชันรออยู่
“อูยย...นั่น..นั่นแหล่ะ..เอก...นั่นแหล่ะ...”
แม่สะท้านขึ้นทั้งตัว
เมื่อริมฝีปากผมประกบเข้ากับเม็ดบัวปลายยอด
ผมเม้มปากดูดดึงหัวนมพลางใช้ปลายลิ้นตวัดไล้เลียอย่างเอร็ดอร่อย
เสียงครางของแม่ดังขึ้นไปอีก
สองเต้าของแม่ขยับขึ้นลงตามแรงหอบหายใจ
ผมยังคงสลับริมฝีปากดูดดื่มความหอมหวานจากเต่งเต้าทั้งสองข้างจนเนินอกของแม่แดงช้ำไปด้วยแรงบีบเคล้นและเปียกเยิ้มไปด้วยน้ำลายที่ละเลงจนทั่ว
ผมไล้ปลายลิ้นลงมาจนถึงหน้าท้องแบนราบโดยที่สองมือยังคงบีบเคล้นเต้างามทั้งสองอย่างหนักหน่วงเป็นจังหวะ
จนใบหน้าผมลงมาซบอยู่บนเนินเนื้อที่ปกคลุมด้วยไหมดำสนิท
แม่เด้งเอวขึ้นอย่างลืมตัวเมื่อผมไล้ปลายลิ้นจนกลุ่มไหมงามนั้นเปียกชื้นไปด้วยน้ำลายมองเห็นเป็นเงาวาววับ
“เอก..เอก..”
แม่กระหืดกระหอบเรียกเมื่อผมค่อยๆซุกใบหน้าลงบนร่องเนื้อที่ดำสนิทไปด้วยเส้นไหมลาดยาวลึกลงไปถึงด้านหลัง
ผมจับต้นขาของแม่ถ่างออกจากกันโดยที่ไม่ต้องใช้แรงแม้แต่นิดเดียว
เพราะแม่รีบขยับตัวแยกขาให้ด้วยความเต็มใจ
เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นร่องรักของผู้หญิงอย่างชนิดที่เรียกว่าเห็นในระยะเผาขนอย่างนี้
กลีบเนื้อสีน้ำตาลอ่อนของแม่ลากจากด้านบนที่มีปุ่มที่ไวต่อความรู้สึกยื่นออกมาจนเห็นเป็นเม็ด
ร่องนั้นยาวลึกหายไปด้านล่างปกคลุมไปด้วยสีดำที่ระเกะระกะตลอดทางจนแทบมองไม่เห็นร่องรัก
ผมจ้องอย่างตื่นตะลึงเพราะภายในร่องรักนั้น
เอ่อซึมไปด้วยหยาดน้ำขาวใสจนแทบจนล้นออกมาจากร่อง
“เอก..” เสียงเตือนของแม่ดังขึ้นอีกครั้ง
ทำให้ผมขยับใบหน้าเข้าหาร่องรักนั้นอย่างไม่นึกรังเกียจ
ปลายลิ้นที่ทำงานอย่างหนักตอนที่ควานหาความหอมหวานจากสองเต้าด้านบน
ค่อยๆแตะลงในร่องรักก่อนที่จะลากขึ้นลงตามความยาวของร่องช้าๆ
“อ๊ายย....”
แม่กระตุกไปทั้งร่างเมื่อผมตวัดลิ้นอยู่บนติ่งเนื้อด้านบนและแทรกลิ้นเข้าไปภายใน
ตอนนี้ใบหน้าผมแนบกับร่องเนื้อของแม่จนแนบสนิท
กลิ่นคาวจากหยาดน้ำรักยิ่งทำให้ผมหมดความอดทนทีละน้อย...
“เอก..แม่..แม่ไม่ไหว...แล้ว...”
เสียงกระหืดกระหอบของแม่บอกให้ผมรู้ว่าบทจบของเรื่องนี้ควรจะเป็นยังไง
ผมขยับตัวขึ้นไปนอนประกบอยู่บนร่างขาวละเอียดของแม่และใช้หัวเข่าแยกต้นขาของแม่ออกจากกัน
แม่ขยับตัวเพื่อให้เข้าที่เข้าทาง
แยกขาออกจนสุดโดยที่ผมคล่อมอยู่บนร่าง...
ผมเสียววาบอีกครั้งเมื่อแม่จับท่อนเนื้อที่แข็งเกร็งของผมรูดขึ้นลงช้าๆก่อนที่จะจ่อปลายหัวเข้ากับร่องรักที่เอ่อเยิ้มไปด้วยหยาดน้ำใส
“เข้ามาสิ...เอก...” แม่เอ่ยปากเสียงกระเส่า
เอวขยับไปมารอท่อนเนื้อของผม ซึ่งก็ไม่ต้องให้แม่เตือนอีก
ผมค่อยๆดันท่อนเนื้อเข้าไปในร่องรักช้าๆ
รู้สึกเสียววาบไปหมดทั้งดุ้น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันใจแม่
เพราะแม่จับเอวของผมไว้แล้วกดเอวของผมลงกับช่วงล่างของแม่อย่างรวดเร็วจนเนินเนื้อของแม่บดกับท่อนเนื้อของผมจนมิดดุ้น
“โอยยยย......”
ผมครางสุดเสียงเมื่อท่อนเนื้อจมหายเข้าไปในร่องรักของแม่จนหมด
ความอุ่นชื้นภายในโพรงรักทำให้ผมเสียวปลาบไปทั้งดุ้น
“ทำสิ...ทำสิเอก...เอก..”
แม่ครวญครางเสียงดังลั่นห้องโดยไม่กลัวว่าใครจะได้ยิน
เอวขยับไปมาเหมือนจะเตือนให้ผมต่อเรื่องให้จบซะที
ผมกดท่อนเนื้อนิ่งอยู่ในร่องรักของแม่อยู่ชั่วครู่เพื่อซึมซับความเสียวที่ได้รับอย่างไม่คาดฝัน
โพรงรักของแม่ขมิบตอดดุ้นเนื้อของผมอย่างรุนแรงจนรู้สึกได้
ผมจ้องใบหน้าที่เคยเย็นชากับผมมาตลอดซึ่งตอนนี้ไม่เหลือเค้าเดิมแม้แต่น้อย
ก่อนที่จะโยกตัวดึงท่อนเอ็นเข้าออกในร่องรักของแม่ช้าๆ
“อูยย..อย่างงั้น...อย่างงั้นแหล่ะ..เอก..”
เสียงครางกระเส่าของแม่ดังเข้ากับจังหวะที่ผมโยกเอวเข้าใส่
ลิ้นเรียวเล็กเกลี่ยริมฝีปากบางที่แห้งผากจนผมต้องประกบปากเข้ากับริมฝีปากที่เคยดุด่าผมมาสารพัด
แม่รีบตวัดม้วนลิ้นเข้าพันกับผมอย่างแทบไม่หายใจ
ในห้องมีเพียงเสียงหอบหายใจและเสียงครวญครางของทั้งผมและแม่ดังระงม
ดุ้นเนื้อที่ซอยเข้าออกในร่องรักค่อยๆเร่งความเร็วและความหนักหน่วงขึ้น
ตามอารมณ์ของผมที่ค่อยๆแตกกระเจิงมากขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งเสียงร้องครางและเรือนร่างของแม่ที่บิดไปมา
ยิ่งทำให้ผมหมดเสียวซ่านมากยิ่งขึ้นไปอีก
จนต้องบดกระแทกท่อนเนื้อเข้าใส่ร่องรักของแม่อย่างไม่กลัวว่าเนินเนื้อของแม่จะบอบช้ำ
แต่มันกลับกลายเป็นยิ่งทำให้แม่ส่งเสียงครวญครางดังขึ้นไปอีก...
“เอก...เอก...ระ...เร็ว...แม่..แม่..”
เสียงแม่ครางกระหืดกระหอบ
ร่องรักของแม่เริ่มบีบรัดท่อนเนื้อของผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ
แม้จะไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร
แต่ธรรมชาติก็บอกให้รู้ว่าผมไม่สามารถอดทนได้อีกแล้ว..
“แม่...แม่...ผมจะ..ผมจะเสร็จ...”
ผมบดกระแทกท่อนเนื้อเข้าใส่ร่องรักของแม่อย่างถี่ยิบ
ร่างของแม่แอ่นขึ้นรับการบดกระแทกจนเอวแทบไม่แตะพื้น
“เอก...” แม่ร้องครางเรียกชื่อผมดังลั่น
ก่อนจะกอดเอวของผมไว้แน่น ร่างของแม่เหยียดเกร็ง
ร่องรักบีบจนท่อนเนื้อของผมแทบขยับไม่ได้...
ถึงจะไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่ผมก็เสียววูบไปทั้งร่าง
กระแทกท่อนเนื้ออีกครั้งก่อนบดเอวแนบแน่นกับร่างของแม่จนดุ้นเนื้อจมหายเข้าไปในร่องรักจนมิด
“โอยย....” ผมครางเสียงลั่น
ก่อนจะเกร็งท่อนเนื้อปลดปล่อยน้ำรักเข้าใส่ร่องรักของแม่อย่างทะลักทลาย
ร่างของแม่สะท้านเฮือกขึ้นมาอีกครั้ง
แอ่นช่วงเอวขึ้นรับน้ำรักของผมที่ฉีดพุ่งเข้าไปเหมือนไม่มีวันหมด...
.......................................................................

แม่นอนหายใจระรวย เหงื่อซึมทั่วใบหน้าอยู่บนเตียง
ร่างงามที่ถูกผมบดขยี้จนแดงช้ำไปหมดยังคงนอนหงายอยู่อย่างนั้น
ร่องรักของแม่มีหยาดน้ำรักของผมเอ่อเยิ้มออกมา
ไหลล้นลงสู่ซอกขาหายลงไปบนผ้าปูเตียงโดยที่ผมพลิกตัวลงมานอนด้านข้าง
ผมไม่กล้าหันไปมองหน้าแม่ ความคิดของผมสับสนไปหมด
ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น
ผมนึกไม่ออกว่าทำไมแม่ถึงได้มีอารมณ์พลุ่งพล่านอย่างรุนแรงขึ้นมาเหมือนเมื่อกี้นี้
แล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ...
กำลังนอนคิดด้วยความกังวล
ผมก็ต้องสะดุ้งเพราะรู้สึกว่าแม่จะพลิกตัวหันมาทางผม
“แม่ครับ...เอ่อ..ผม...ผม..”
ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็ต้องตกใจเพราะแม่เอื้อมมือมากอดผมอีกครั้ง
ฝ่ามือลูบไล้หลังผมเบาๆก่อนจะวกกลับมาด้านหน้าจนอุ้งมือสัมผัสกับท่อนเนื้อที่พึ่งจะคลายตัวลง
ปลายนิ้วทั้งห้าที่สัมผัสดุ้นเนื้อ
ค่อยๆบีบคลึงอย่างแผ่วเบาจนผมขนลุกซู่
ทั้งๆที่พึ่งปลดปล่อยน้ำรักออกไป แต่สัมผัสที่ได้รับ
ทำให้ท่อนเนื้อของผมขยับตัว
“แม่...แม่...เป็นอีกแล้ว...”
เสียงแหบพร่าของแม่ดังขึ้นอีกครั้ง
อุ้งมือที่บีบเคล้นดุ้นเนื้อของผมอยู่รูดเข้าออกช้าๆอย่างเป็นจังหวะจนมันแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้งผมใจหายวาบ
“แต่...” ผมพยายามจะท้วง
แม่เอามือปิดปากก่อนจะเปลี่ยนเป็นประกบริมฝีปากบางเฉียบเข้ากับริมฝีปากของผม
แววตาที่จ้องมองผมนั้นเปล่งประกายหยาดเยิ้มจนผมต้องหลบตา
คืนนี้
สงสัยว่าผมคงต้องนอนค้างที่ห้องของแม่เสียแล้วล่ะ....................................................................



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
Reply #2 on: June 01, 2011, 08:47:30 am
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมลืมตาขึ้นมา
รู้สึกอ่อนเพลียอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สายตาหยุดชะงักมองเพดาน เพราะนี่ไม่ใช่ห้องของผม
ผมหันขวับไปมองด้านข้างก็ต้องตกใจเพราะมองเห็นร่างของแม่ที่นอนเปลือยเปล่าหลับสนิทอยู่ข้างตัวผม
ส่วนตัวผมนั้นก็ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนร่างแม้แต่ชิ้นเดียว
ความตกใจทำให้ผมทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่งทันที
แล้วก็ต้องรีบเอาผ้าห่มขึ้นมาบังท่อนล่างของตัวเองเพราะมันไม่มีอะไรปกปิดอยู่เลย
ส่วนแม่ก็นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง
ผมมองดูบนเตียงก็ต้องตกใจเพราะผ้าปูที่นอนบนเตียงแม่ยับยู่ยี่จนแทบจะหลุดออกจากที่นอน
และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือมีคราบอะไรบางอย่างเลอะบนเตียงเป็นดวง
“เมื่อคืนเอกทำอะไรแม่...”
เสียงแผ่วเบาของแม่ดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่นอนคว่ำอยู่
แม่ยังคงนอนคว่ำอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมหันหน้ามาคุยกับผมตรงๆ
“ผม...ผม...” ผมพูดไม่ออก
“เอกรังแกแม่...” เสียงนั้นยังคงแผ่วเบาอยู่
แต่กระแสเสียงไม่ได้เย็นชาเหมือนที่ผมเคยได้ยินอยู่ทุกวัน
“ผม...ผมเปล่า..” ผมยังคงตะกุกตะกักตอบ
ก็ไม่ได้รังแกอะไรแม่เลย
แม่ต่างหากที่บังคับให้ผมทำโน่นทำนี่อย่างเมื่อคืน
“แม่ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่เป็นอะไร...”
เสียงอู้อี้จากการที่นอนคว่ำหน้าพูดยังพูดต่อ
“...แม่อยากจะโกรธตัวเอง อยากจะโกรธเอก
ที่ทำเรื่องบัดสีอย่างเมื่อคืน...” เสียงของแม่แผ่วเบาลง
ผมนั่งนิ่งใจสั่นระทึก แม่จะทำยังไงต่อ
“...แต่ไม่รู้สิ...” เสียงอ่อนนุ่มของแม่ดังขึ้นอีกครั้ง
“...มันเหมือนกับได้ระบายอะไรบางอย่างออกมา
แม่ไม่เคยรู้สึกสบายอย่างนี้มาก่อนเลย...”
แม่พูดเหมือนคนละเมอ ผมได้แต่อ้าปากค้าง
“แม่...แม่ไม่โกรธผมเหรอครับ” ผมกลั้นใจถาม
แม่หันมาจ้องหน้าผมนิ่ง กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มบางๆ แก้มระเรื่อเป็นสีชมพู
“โกรธ...โกรธสิ...” ผมใจหายวาบ เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย
“...จะโกรธมาก ถ้าเอกไม่ทำอย่างเมื่อคืนอีก”
พูดจบแม่ก็ขยับตัวพลิกมาดึงร่างผมลงในนอนกอดอีกครั้ง...
หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ ผมก็ยังไม่รู้อนาคตเลยครับ...
บางที...บางทีนะ มันอาจจะเปลี่ยนอนาคตของผมก็ได้
ใครจะไปรู้........................................................................
ผมลุกจากที่นอนเกือบเที่ยง ปวดระบมไปหมดทั้งตัว
ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าสิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนรวมทั้งเมื่อเช้านั้นเป็นความจริงทั้งสิ้นเพราะผมยังคงนอนอยู่ในห้องของแม่
ลองขยับตัวดูก็รู้สึกว่ามีผ้านวมผืนใหญ่คลุมร่างที่นอนแก้ผ้าล่อนจ้อนของผมอยู่
ผมนอนนิ่งอยู่ซักพักก่อนจะลองเอื้อมมือไปคลำดูข้างๆตัวก็พบว่าแม่ไม่ได้นอนอยู่ข้างๆแล้ว
จึงค่อยๆลุกขึ้นนั่งมองดูรอบๆห้องพลางคิดทบทวนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ความรู้สึกผิดชอบวิ่งพล่านอยู่ในหัว
เมื่อคืนนี้ไม่ว่าแม่จะเป็นยังไงหรือรู้สึกยังไง
ผมก็ไม่ควรทำอย่างนั้น ผมมีทางเลือกมากมายที่จะปฏิเสธแม่
แต่ผมกลับทำอย่างที่แม่สั่งทุกอย่าง
ทำให้เกิดความรู้สึกว่าที่จริงแล้วมันเป็นเพราะความต้องการของผมหรือเพราะคำสั่งของแม่กันแน่...
ผมลุกขึ้นยืนมองดูผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่
บางส่วนของผ้าปูยังมีคราบของเหลวเลอะเป็นรอยอย่างเห็นได้ชัด
ผมถอนหายใจก่อนจะหยิบกางเกงและเสื้อขึ้นมาใส่และเดินลงไปชั้นล่าง...
......................................................................................

“ตื่นแล้วเหรอเอก...” เสียงเรียกของแม่ดังขึ้น
คงเพราะได้ยินเสียงผมก้าวลงบันไดมา “...มาทานข้าวสิ
รวบเป็นมื้อเที่ยงเลยก็แล้วกันนะ
เพราะนี่ก็เกือบเที่ยงอยู่แล้ว”
ผมฟังเสียงแม่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อน
ขืนผมตื่นสายขนาดนี้มีหวังถูกด่าหูชาแน่ๆ
แต่วันนี้เสียงของแม่ฟังดูอ่อนนุ่มผิดไปจากที่ผมเคยได้ยินมาตลอด
ผมเดินเข้าไปในครัว ความรู้สึกผิด
ความรู้สึกกลัวยังคงฝังอยู่ในหัว
ถ้าวันนี้แม่เกิดเปลี่ยนใจ
แล้วเอาเรื่องที่ผมทำกับแม่เมื่อคืน ผมจะทำยังไงดี
สายตามองร่างของแม่ที่ยืนหันหลังทำกับข้าวอยู่
ยังจำได้ถึงนิสัยเจ้าระเบียบ
เคร่งครัดของแม่ตลอดชีวิตที่อยู่ด้วยกันมาได้อย่างดี
“เอ้า ไปรอที่โต๊ะสิ เดี๋ยวแม่ยกไปให้”
แม่ยกจานกับข้าวหันมาบอกผมพลางยิ้มให้
ร่างที่หันกลับมาทำให้ผมจ้องมองตาค้าง เพราะตั้งแต่เกิดมา
ยังไม่เคยเห็นแม่แต่งหน้ามาก่อน
อย่างมากก็ทาแป้งบางๆหรือไม่ก็ใช้ลิปสติกสีอ่อนเวลาแต่งหน้าไปสอนเท่านั้น
แต่วันนี้ แม่แต่งหน้าทาปากจนผมจำแทบไม่ได้
ลิปสติกสีแดงสดที่เคลือบอยู่บนริมฝีปากบาง
แป้งสีอ่อนที่ทำให้ใบหน้าอ่อนวัยตามไปด้วย
และเหมือนกับว่าผมจะได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากร่างของแม่ด้วย
ผมกำลังยืนงงเพราะไม่รู้ว่าแม่จะเตรียมตัวไปไหน
ก็ต้องสะดุ้ง
“เอ้า ยืนนิ่งอยู่นั่นแหล่ะ ไปรอที่โต๊ะสิ
เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วเอกไปจัดกระเป๋านะ...”
แม่ยิ้มจนมองเห็นลักยิ้มที่แก้มเมื่อเห็นผมยืนงง “...
เดี๋ยววันนี้เราไปเที่ยวทะเลกันนะ
แม่ทำงานที่โรงเรียนจนเหนื่อยแล้ว
ถือโอกาสพักผ่อนซักคืนดีกว่า”
ผมเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าวเหมือนโดนมนต์สะกด
บางทีหูผมอาจจะแว่วไปเอง ตามองดูแม่ตักข้าวมาให้
แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าแม่ก้มลงมาหอมแก้มเบาๆ
“ว่ายังไงล่ะ...” แม่กระซิบถามเบาๆที่หูผม
“...หรือว่าเอกไม่อยากไปเที่ยวทะเลกับแม่”
เสียงอ่อนนุ่มที่กระซิบข้างหูทำให้ผมขนลุกเกรียว
ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนย้อนกลับมา
ทำให้ท่อนเนื้อที่อยู่ในกางเกงค่อยๆขยายตัวขึ้นมา
ผมรีบขยับตัวนั่งให้เรียบร้อยเพราะไม่อยากให้แม่เห็นถึงปฏิกิริยาของช่วงล่าง
แต่หางตาคล้ายกับจะเห็นแม่ยิ้มบางๆ
“ไปครับ”
ผมก้มหน้าทำเป็นสนใจกับอาหารบนโต๊ะพลางตอบเสียงแผ่วเบา
แม่หอมแก้มผมเบาๆอีกครั้งก่อนจะนั่งเก้าอี้ข้างๆแล้วลงมือทานข้าวพร้อมๆกัน
ซึ่งก็เป็นเรื่องผิดปกติอีกเช่นกันเพราะทุกครั้ง
แม่จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับผมเสมอเวลาทานข้าว ต่างคนต่างทาน
ไม่เหมือนวันนี้ที่แม่คอยตักกับข้าวใส่จานให้ผมตลอด
ซึ่งมันก็ทำให้ผมวางตัวไม่ถูกเหมือนกัน...
..............................................................................

ผมขึ้นไปจัดกระเป๋าตามที่แม่บอกพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
แต่พอลงมาข้างล่างก็ต้องตาค้างอีกครั้งนึง
“จัดกระเป๋าเสร็จแล้วใช่หรือเปล่าลูก จะได้ไปกันเลย”
แม่ยืนรออยู่ที่โซฟา
ภาพที่ทำให้ผมตาค้างก็คือแม่ใส่เสื้อยืดคอกลม
กางเกงยีนส์ฟิตเปรี๊ยะ รวบผมไว้ข้างหลัง
ทำให้แม่ดูเหมือนเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะออกจากบ้าน
มากกว่าจะเป็นอาจารย์จอมเฮี๊ยบที่นักเรียนในโรงเรียนต่างเกรงกลัว
“ทำไม แม่แต่งตัวอย่างนี้ไม่ได้เหรอ”
เสียงแม่ดังขึ้นเมื่อเห็นผมยืนจ้องเหมือนถูกผีหลอก
“ได้ครับ...” ผมตอบ
“...แม่แต่งอย่างนี้แล้วกลายเป็นเด็กเลยล่ะ”
“อ้าว ก็ไปกับเด็ก จะแต่งตัวแก่ได้ยังไงกันล่ะ
จริงหรือเปล่า” แม่พูดยิ้มๆ ผมพยายามยิ้มให้
แต่รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆก็ไม่รู้สิ
ผมขึ้นรถกับแม่โดยแม่เป็นคนขับ ตลอดทาง
ผมพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อคุยกับแม่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ผมอยากจะบอกแม่ว่าผมไม่ได้ตั้งใจ
แต่คำพูดของผมก็ค้างอยู่แค่ริมฝีปากเพราะวันนี้ดูแม่มีความสุขมาก
ซึ่งผมสาบานได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมา
ผมไม่เคยเห็นแม่มีอารมณ์เบิกบานอย่างนี้มาก่อน
ทำให้เรื่องที่ผมอยากคุยกับแม่ต้องเก็บไว้ในใจ
เพราะไม่อยากให้บรรยากาศมันกลับไปเครียดเหมือนสมัยก่อนอีก...
.................................................................................


เราสองคนแม่ลูกเข้าพักในโรงแรมริมหาดจอมเทียนที่พัทยา
แม่เลือกห้องชั้นบนที่มองเห็นวิวทะเล
ลมทะเลเย็นสบายพัดเข้าใส่ร่างตอนที่ผมเปิดประตูระเบียงห้อง
อากาศที่สดชื่นรวมทั้งภาพวิวทะเลที่เห็นทำให้ผมคลายจากความรู้สึกกังวลที่อยู่ในใจตั้งแต่เมื่อคืน...
กำลังยืนรับลมทะเลอย่างมีความสุข
ผมก็สะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าแม่มายืนอยู่ข้างหลัง
สองมือของแม่โอบรอบเอวผมไว้พลางพูดผ่านจากด้านหลังมา
“ชอบมั๊ยเอก” เสียงแม่กระซิบเบาๆที่หลังหู
ทำให้ผมขนลุกไปหมดทั้งตัวเพราะมันทั้งเบา ทั้งอ่อนนุ่ม
“ชอบครับ” ผมตอบสั้นๆ
รู้สึกว่าแม่โอบรัดแขนรอบเอวผมแน่นขึ้นจนรู้สึกถึงความหยุ่นแน่นของทรวงอกที่เบียดอยู่บนหลังผม
“เอก” แม่กระซิบเรียกเบาๆ
ลมหายใจของแม่ที่รดอยู่หลังใบหูทำให้ผมขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง
“ครับ”
ผมขานรับเสียงสั่นเพราะรู้สึกว่านอกจากทรวงอกของแม่ที่บดเบียดไปมาอยู่บนหลังแล้ว
ผมยังรู้สึกว่าแม่เบียดเป้ากางเกงยีนส์เข้ามาจนแนบกับก้นของผมและคล้ายๆกับว่าแม่จะโยกคลึงเอวเบาๆ
“แม่ขออะไรเอกบางอย่างสิ” เสียงนุ่มหูกระทบเข้ามา
ผมยืนหลับตานิ่ง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนย้อนกลับมาอีกครั้ง
ทำให้ท่อนเนื้อในกางเกงค่อยๆพองตัวขึ้นมา
“อะไรครับ” ผมกระซิบถามกลับ
แล้วก็ต้องตัวงอเพราะฝ่ามือของแม่ที่โอบรัดเอวของผมอยู่นั้นเลื่อนลงไปลูบไล้บนเป้ากางเกงก่อนจะบีบคลึงท่อนเนื้ออย่างแผ่วเบา
ทั้งๆที่ยังมีกางเกงขวางกั้นอยู่
แต่ผมก็รับรู้ถึงสัมผัสที่นุ่มนวลขณะที่แม่เคล้นคลึงท่อนเนื้อ
ทำให้ดุ้นเอ็นที่ซุกซ่อนอยู่ภายในขยายตัวขึ้นรับแรงสัมผัสนั้นทันที
“แม่จะขอเอกว่า อะไรก็ตามที่เอกสงสัยหรืออยากรู้
เอกอย่าถามแม่เลย แม่ก็ตอบไม่ถูกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง
เอกรับรู้แต่ว่าสิ่งที่ทั้งเอกและแม่ทำลงไปนั้น
มันทำให้แม่รู้สึกดีที่สุดในชีวิตเลย
แม่ไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อน จนกระทั่งเมื่อคืน...”
เสียงของแม่แผ่วเบาลง
“คะ..ครับ” ผมขานรับเสียงสั่นทั้งที่ยังสงสัยอยู่
ฝ่ามือของแม่ลูบขึ้นลงตามความยาวของท่อนเนื้อทำให้ผมต้องบิดตัวด้วยความเสียว
“แต่เอกรับปากแม่นะว่าเรื่องทั้งหมดของเรา
จะไม่มีคนอื่นรับรู้อย่างเด็ดขาด
ให้คนอื่นรู้แค่ว่าเอกเป็นลูกของแม่แค่นั้นพอ
ส่วนเรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นรู้หรอก
เอกรับปากแม่ได้มั๊ย”
“ตกลงครับ” ผมรับปากทันที
ใครจะอยากให้คนอื่นรู้ว่าผมกับแม่มีอะไรกัน
แต่ฟังคำพูดของแม่แล้วมันแปร่งๆยังไงชอบกล
คล้ายๆกับว่าเรื่องระหว่างผมกับแม่คงจะไม่ใช่นิยายเรื่องสั้นแน่ๆ
“ขอบใจจ้ะ...” เสียงนุ่มของแม่ดังเบาๆที่ข้างหู
“...ลมแรงจัง เราปิดประตูระเบียงดีกว่า”
แม่พูดพลางขยับตัวออก
ผมเอื้อมมือไปปิดประตูกระจกตามที่แม่สั่ง
รู้สึกว่าแม่ดึงมือจนผมต้องเดินมายืนที่ขอบเตียงโดยมีร่างของแม่ยืนอยู่ตรงหน้า
...........................................................................



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *****
    • Posts: 8464
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เรื่องเสียว
Reply #3 on: June 01, 2011, 08:48:23 am
ทั้งห้องเงียบสนิท ได้ยินเพียงเสียงแอร์ทำงานแผ่วเบา
ร่างที่ยืนอยู่ต่อหน้าผมขณะนี้
ไม่มีคราบของอาจารย์ที่สุดแสนจะเจ้าระเบียบหรือแม่ที่เข้มงวดในทุกเรื่องเหมือนที่เคยเป็น
คงมีเพียงหญิงสาวร่างอวบอิ่มที่มองหน้าผมนิ่งอยู่
ผมยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก
แต่ก็ต้องตาค้างเพราะร่างงามนั้นค่อยๆถอดเสื้อยืดออกจากร่างก่อนจะปลดตะขอกางเกงแล้วรูดกางเกงยีนส์ลงไปกองอยู่ที่พื้น
ทำให้ทั้งร่างของแม่มีเพียงยกทรงสีครีมที่ห่อหุ้มสองเต้าขาวเนียนและซับในชั้นล่างสีขาวที่มองเห็นไหมดำซุกซ่อนอยู่ภายใน
“แม่” ผมอุทานเบาๆ
ร่างงามนั้นสว่างวาบอยู่ในห้องที่เปิดผ้าม่านโล่ง
แสงจากภายนอกส่องเข้ามาจนเห็นทุกสัดส่วนภายในร่างของแม่
ผมเห็นแม่ยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะก้าวมาประชิดจนร่างของแม่แนบสนิทกับผม
แม่ดึงสองมือผมให้โอบกอดรอบร่างขาวผ่องทำให้มือของผมลูบไล้ทั่วแผ่นหลังเนื้อเนียนนั้นโดยอัตโนมัติจนปลายนิ้วกระทบกับตะขอยกทรงที่เกะกะอยู่อยู่บนแผ่นหลัง
“ถอดออกสิ...”
เสียงแม่ที่ยืนกอดซุกใบหน้าอยู่บนอกผมกระซิบเสียงอู้อี้
ทำให้ผมปลดตะขอยกทรงออกอย่างลืมตัว
จนฝ่ามือสัมผัสกับแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่ปราศจากสิ่งใดขวางกั้น

ผมลูบไล้ผิวเนียนนั้นอย่างแผ่วเบาจนทั่วตั้งแต่ไหล่ลงไปจนถึงเอวคอด
ก่อนจะลงไปถึงซับในชั้นล่าง
สองมือของผมสัมผัสกับแก้มก้นแน่นกระชับที่ท้าทายให้บีบเคล้นจนผมต้องเพิ่มน้ำหนักในการเคล้นคลึงให้หนักหน่วงขึ้น
แม่กระตุกร่างแผ่วเบาตามแรงบีบเคล้นของผม
เนินเนื้อด้านหน้าเบียดถูไถกับเป้ากางเกงของผมที่โป่งนูนขึ้นมาตามขนาดของท่อนเนื้อที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนคับกางเกง
สองมือของแม่ที่กอดร่างของผมไว้ค่อยๆเอื้อมวกกลับมาด้านหน้าเพื่อสัมผัสกับความเป็นชายที่ตอนนี้แข็งตัวขึ้นราวกับหิน
ฝ่ามือนุ่มนิ่มที่ป้วนเปี้ยนอยู่ตรงเป้ากางเกงทำให้ผมต้องงอตัวด้วยความเสียว
“มะ..มะ...แม่” ผมครางเบาๆ
เมื่อรู้สึกว่าฝ่ามือนุ่มนิ่มนั้นค่อยๆปลดกระดุมกางเกงผมออก
เสียงซิปกางเกงถูกรูดลงพร้อมๆกับรู้สึกเย็นวาบเมื่อฝ่ามือคู่นั้นดันทั้งกางเกงยีนส์และชั้นในของผมลงไปกองอยู่ตรงหัวเข่า
ทำให้ท่อนเนื้อที่แข็งตัวรออยู่นั้นดีดตัวขึ้นมาจนกระทบกับเนินสามเหลี่ยมที่ปกปิดด้วยซับในชิ้นสุดท้ายนั้น...
“อูยยยย....”
ผมครางขึ้นอีกครั้งเมื่อฝ่ามือนุ่มนิ่มนั้นเปลี่ยนทิศทาง
จากกางเกงที่ลงไปกองอยู่ด้านล่างมาเป็นท่อนเนื้อที่กวัดแกว่งไปมาอยู่ตรงหน้าขา
สองมือนั้นลูบไล้ดุ้นเนื้ออย่างแผ่วเบาก่อนจะรูดขึ้นลงช้าๆอย่างเป็นจังหวะ
ปลายเล็บยาวเกลี่ยไปจนทั่วจนผมต้องแอ่นตัวขึ้นรับความเสียว
แม่ขยับตัวเล็กน้อย
ก่อนจะลงไปนั่งบนขอบเตียงพลางดึงร่างผมไปยืนตรงหน้า
เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ผมรู้ว่าแม่กำลังจะทำอะไร
“มะ..แม่...อย่า...อย่าเลยครับ” ผมร้องออกมา
สำนึกภายในที่รู้สึกว่าแม่เป็นของสูง
ผมไม่ควรให้แม่ทำอย่างที่แม่กำลังจะทำ
แต่ดูเหมือนแม่จะไม่ฟังเสียงผมเลย ร่างงามดึงตัวผมไปจนชิด
ใบหน้าอยู่ห่างจากท่อนเนื้อของผมเพียงแค่คืบ
“โอยยยยยยยยยยยยยยยย...”
ผมครางเสียงกระเส่าพลางแอ่นเอวกระตุกเหมือนถูกไฟดูดเมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากของแม่สัมผัสกับส่วนปลายก่อนจะตวัดลิ้นไล้เลียท่อนเนื้อจนเย็นวาบไปหมด
แล้วผมก็ต้องแอ่นเอวขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าท่อนเนื้อจมหายเข้าไปในริมฝีปากบางนั้นทั้งดุ้น
ความอุ่นชื้นภายในปากบวกกับปลายลิ้นที่ตวัดล้อเล่นไปมาอยู่ภายในทำให้ผมเกร็งไปทั้งร่าง
สองมือผมจับหัวของแม่แน่นด้วยความลืมตัวก่อนจะขยับร่างรูดท่อนเนื้อเข้าออกผ่านริมฝีปากงามของแม่ด้วยความเสียวซึ่งแม่ก็อ้าปากรับดุ้นเนื้อที่กำลังขยอกอยู่นั
้นด้วยความเต็มใจ
ท่อนเนื้อวาววับด้วยคราบน้ำลายยิ่งทำให้ผมเสียวซ่านมากยิ่งขึ้น...
..........................................................................

ผมยืนโยกท่อนเนื้อเข้าใส่ริมฝีปากงามของแม่ได้ซักพักก็สุดแสนจะทนซึ่งดูเหมือนแม่ก็จะรู้
แม่ขยับตัวขึ้นไปนอนบนที่นอนก่อนจะค่อยๆรูดซับในชิ้นสุดท้ายนั้นออกช้าๆ
ภาพที่เห็นยิ่งทำให้ผมกระสันมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้ผมหมดความคิดที่จะยับยั้งชั่งใจอีกแล้ว
ร่างงามที่นอนอยู่บนเตียงยังคงมีความงามเหมือนที่ผมเคยเห็นเมื่อคืนทุกประการ
ผมรีบถอดเสื้อยืดออก ก่อนจะขึ้นไปนอนอยู่ข้างๆ
สายตามองสองเต้าที่ขาวเนียน
ป้านสีน้ำตาลอ่อนขนาดพอเหมาะที่ประดับด้วยหัวนมสีน้ำตาลแข็งตัวชูชันขึ้นมาราวกับจะรอให้ผมดูดดื่มให้หายอยาก..
“อูยยย....นั่นแหล่ะ เอก”
เสียงครางของแม่ดังระงมเมื่อริมฝีปากของผมประกบกับยอดเต้าก่อนจะใช้ปลายลิ้นเกลี่ยตวัดไปมาอย่างหิวโหย
เต้างามอีกข้างถูกฝ่ามือผมบีบเคล้นจนล้นทะลักง่ามมือออกมา
ผมสลับปลายลิ้นดูดดื่มเต้างามทั้งสองไปมา
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแรงที่ผมเคล้นคลึงสลับไปมาบนสองเต้านั้นทำให้เกิดรอยแดงเถือกจนทั่ว
ซึ่งแม่ก็ไม่ได้อุทธรณ์ถึงความเจ็บปวดแต่อย่างใด
ตรงกันข้าม
แม่กลับยิ่งแอ่นอกขึ้นรับทั้งปากทั้งมือของผมเหมือนกับต้องการให้สองเต้านั้นแหลกเหลวคามือของผม...
ผมวนเวียนหาความสุขอยู่กับสองเต้างามนั้นจนพอใจก่อนจะค่อยๆเลื่อนใบหน้าลงมาช้าๆจนใบหน้าสัมผัสได้กับความอ่อนนุ่มของไหมดำที่ปกคลุมเนินสามเหลี่ยม
ปลายลิ้นของผมตวัดไปมาช้าๆ
รู้สึกได้ว่าแม่หายใจหนักหน่วงขึ้นจนเมื่อปลายลิ้นผมสัมผัสกับติ่งเนื้อด้านบนที่ยื่นโผล่พ้นร่องรักกลางลำตัวของแม่
“โอยย...เอก...” แม่ร้องครางพลางแอ่นเอวขึ้นสุดเหยียด
ทำให้ผมต้องซบหน้าลงบนร่องรักนั้นและตวัดลิ้นเข้าใส่ติ่งเนื้ออย่างรวดเร็ว
รู้สึกแปลกเหมือนกันว่าทำไมยิ่งเห็นแม่ทรมาน
กลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกดี
รู้สึกเสียวซ่านมากยิ่งขึ้นก็ไม่รู้
ภาพที่แม่นอนดิ้นพล่านไปมาด้วยความเสียวเมื่อผมชอนไชลิ้นเข้าไปในร่องรักยิ่งทำให้ผมกระสันไปหมดทั้งร่าง
ทั้งปากทั้งลิ้นไล้เลียทั่วทั้งร่องรักนั้นหนักหน่วงขึ้น
ท่อนเนื้อที่กวัดแกว่งไปมาระหว่างที่ผมมอบความเสียวให้แม่นั้นแข็งเกร็งจนแทบระเบิด
“แม่...แม่ไม่ไหวแล้ว...เอก...” แม่ครางเสียงกระเส่า
เอวลอยขึ้นรับความเสียวจากผมจนแทบไม่ติดพื้น
ผมก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน
กลิ่นน้ำรักของแม่ที่ปะทะจมูกในระหว่างที่ผมซุกไซ้อยู่ในร่องรักกับติ่งเนื้อในร่องรักที่แข็งชันขึ้นมายิ่งทำให้ผมเสียวกระสันจนแทบทนไม่ไหว
ผมปีนขึ้นไปนอนคล่อมอยู่บนร่างงามที่นอนบิดตัวไปมาอยู่นั้นทันที
แต่ก่อนที่จะถึงบทจบ
วูบนึงที่ผมจำได้จากในหนังโป๊ที่เคยแอบดู
ทำให้ผมอยากลองทำอย่างที่ดาราในหนังแสดง...
“อุ๊ย...เอก จะทำอะไรเนี่ย...”
แม่ลืมตาขึ้นมองด้วยความแปลกใจเพราะแทนที่ผมจะสอดใส่ท่อนเนื้อเข้าไปในร่องรักตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด
ผมกลับดึงร่างของแม่ให้ลุกขึ้นจากที่นอน แต่ถึงแม้จะแปลกใจ
แต่แม่ก็ยอมลุกขึ้นจากที่นอน
“ขอผมลองทำอะไรดูหน่อยสิครับ...” ผมกระซิบที่ข้างหูแม่
ถึงตอนนี้คงไม่ต้องอายอะไรกันแล้วล่ะ
“อุ๊ย..ไม่เอานะ เอก..”
แม่สะดุ้งพยายามจะดิ้นหนีเมื่อผมจับร่างของแม่ไปยืนหันหน้าเข้าหากระจกประตูระเบียงที่มองเห็นวิวทะเล
ผู้คนเดินไปมาอยู่บนชายหาด
โดยมีร่างของผมยืนประกบด้านหลังอยู่
ร่างงามพยายามจะสลัดให้หลุดออกจากอ้อมกอดที่ผมโอบอยู่ด้านหลัง
“เถอะนะครับ แม่ ผมอยากลองทำดู” ผมออดอ้อน
สองมือเอื้อมลอดใต้แขนของแม่ขึ้นไปเคล้นคลึงสองเต้าอย่างนุ่มนวล
โดยเบียดท่อนเนื้อเข้าถูไถกับร่องก้นแน่นกระชับเพื่อให้แม่คล้อยตาม
“เอกไม่อายคนอื่นเหรอ แม่อายนะ” แม่เอียงหน้าหันมาบอก
ท่อนเอวบิดโยกรับการบดเบียดจากดุ้นเอ็นของผม
แต่ผมปิดปากของแม่ด้วยริมฝีปากจนแม่ต้องเผยอริมฝีปากขึ้นรับปลายลิ้นที่ตวัดม้วนเข้าไปล้อเล่นกับลิ้นเรียมงามของเธอ
สองมือของผมบีบเคล้นเต้างามหนักหน่วงขึ้นก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปจับข้อมือทั้งสองของแม่ให้เกาะอยู่กับกระจก
แม่ทำท่าเหมือนจะขัดขืน แต่ซักพักก็โอนอ่อนตาม
ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก
ค่อยๆขยับตัวเพื่อให้แม่ยืนในลักษณะแอ่นตัวหันด้านหลังให้ผม
ผมค่อยๆคลึงท่อนเนื้อกับแก้มก้นของแม่เบาๆ
ก่อนจะค่อยๆจับท่อนเนื้อให้จ่อตรงกับร่องรักแล้วเกลี่ยขึ้นลงช้าๆตามความยาวของร่องรักทำให้แม่สะดุ้ง
ร่างที่พยายามจะดิ้นหนีตอนนี้ยืนแอ่นตัวนิ่งรอรับความสุขที่กำลังจะได้รับในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า...
“อูยยยย...”
แม่ครางเสียงกระเส่าเมื่อผมค่อยๆดันท่อนเนื้อเข้าไปในร่องรักช้าๆ
ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการมีความสุขโดยท่ายืนจะทำให้รู้สึกเสียวอย่างนี้มาก่อน
ร่องรักของแม่ฟิตกระชับแต่ผมก็พยายามดันดุ้นเอ็นเข้าไปจนสุด
“อา....”
ทั้งผมและแม่ระบายลมหายใจออกมาพร้อมๆกันเมื่อรับรู้ว่าท่อนเนื้อดันเข้าไปในร่องรักจนสุดแล้ว
แม่หันหน้ามาค้อน
“เอกเนี่ย...”
ร่างงามหันมาบ่นพลางชำเลืองมองคนที่เดินไปมาอยู่ข้างล่าง
ใบหน้าเป็นสีชมพูเข้ม “...เล่นอะไรบ้าๆ
ถ้ามีคนมองขึ้นมาล่ะ”
“ใครเค้าจะมองขึ้นมาล่ะครับ นี่มันชั้นสิบสอง
มองขึ้นมาก็ไม่เห็น เพราะกระจกมันเป็นสีชา” ผมตอบแม่ยิ้มๆ
แม่หันมาค้อนอีกครั้งก่อนจะสูดปากเมื่อผมรูดท่อนเนื้อเข้าออกในร่องรักนั้นช้าๆ
“แล้ว...แล้วไปคิดท่าแบบนี้...มา...จาก...ไหน...”
แม่ถามเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อผมเริ่มโยกเอวเข้าใส่ร่างของแม่หนักหน่วงขึ้น
สองมือของผมล้วงผ่านเข้าไปเคล้นคลึงเต้างามที่แกว่งไปมาตามแรงโยก
“ผมดูจากหนังโป๊ครับ..” ผมตอบง่ายๆ แม่หันมาค้อนอีกครั้ง
ร่างงามโยกเอวเข้ารับการกระแทกของผมอย่างเป็นจังหวะ
หางตายังคงคอยชำเลืองมองดูผู้คนด้านนอกอย่างระแวง
“อ้อ นี่แหน่ะ ที่แท้ก็แอบดูหนังโป๊นี่เอง...” แม่ต่อว่า
แต่ไม่มีน้ำเสียงดุด่าแต่อย่างใด
ผิดจากสมัยก่อนหน้ามือเป็นหลังมือ สมัยก่อน
ถ้าแม่รู้ว่าผมแอบดูหนังโป๊
ผมคงถูกด่าหรือไม่ก็ถูกตีตายแน่ๆ แต่ตอนนี้
แทนที่แม่รู้แล้วจะเป็นคนทำโทษ
กลับกลายเป็นผมเป็นคนทำโทษแม่ซะเอง
ร่องรักที่อุ่นกระชับของแม่ทำให้ผมทวีความเสียวมากขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งความรู้สึกตื่นเต้นที่ผมมาหาความสุขกับแม่ในที่ๆอาจจะมีคนมองเห็น
ยิ่งเร่งเร้าความเสียวซ่านภายในให้เพิ่มเป็นทวีคูณ
จากการบดเนิบๆเข้าใส่ร่องรัก
ผมกระแทกดุ้นเนื้อเข้าใส่ร่างของแม่หนักหน่วงขึ้น
สองมือที่เคล้นคลึงเต้างามเปลี่ยนมาเป็นจับช่วงเอวเพื่อความสะดวกในการโยกเอว
เสียงครวญครางของแม่ค่อยๆดังขึ้น
“อะ...เอก...เอก...แม่...แม่...”
แม่ครางเสียงกระเส่าตามจังหวะโยก
ร่องรักค่อยๆเกร็งแน่นกระชับขึ้น
บ่งบอกว่าแม่กำลังจะถึงเส้นชัยแล้ว
ทำให้ผมยึดเอวของแม่ไว้แน่นก่อนจะกระแทกท่อนเนื้อเข้าใส่ร่างของแม่อย่างหนักหน่วง
“แม่...แม่ครับ...ผม...ผม...” ผมครางเสียงสั่น
บดกระแทกดุ้นเอ็นเข้าใส่ร่องรักถี่ยิบ
ร่างของแม่เกร็งวูบขึ้น
“อะ...เอก...แม่...แม่ถึง...ถึงแล้ว...”
แม่ครางเสียงดังลั่นห้อง ร่างงามยืนขาเกร็งแน่น
ใบหน้าแนบกับกระจก แอ่นเอวขึ้นสุดเหยียด
“ผม...”
ผมร้องได้แค่นี้ก็ต้องเกร็งตัวบดท่อนเนื้อเข้าใส่ร่องรักของแม่จนมิด
ก่อนจะฉีดน้ำรักเข้าใส่ร่างงามอย่างทะลักทลาย
ร่างของผมกระตุกตามแรงฉีดที่ยังคงไหลเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ร่างของแม่ยืนแนบอยู่กับกระจกรอรับน้ำรักของผมที่ปลดปล่อยเข้าไปภายในร่าง...
.....................................................................

“ต่อไปไม่เอาอย่างนี้อีกแล้วนะ...”
แม่หันมาค้อนพลางหยิกที่ต้นแขนผมเบาๆ
ตอนนี้ทั้งแม่และผมย้ายตัวเองขึ้นมานอนอยู่บนเตียงเพราะต่างคนต่างหมดแรงจากการหาความสุขเมื่อครู่
และรู้สึกเมื่อยขาจนแทบยืนไม่ไหว “...ถ้าเกิดมีใครเห็นเข้า
แม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ไม่มีใครเห็นหรอกครับ...” ผมหอมแก้มแม่เบาๆ
ซึ่งแม่ก็เอียงแก้มให้หอมแต่โดยดี
“...ผมอยากรู้แค่ว่ามันจะมีความสุขขนาดไหนเท่านั้นเอง...
“แล้วเอกมีความสุขขนาดไหนล่ะ” แม่หลบตาถามเสียงอู้อี้
หน้าเป็นสีชมพู ผมยิ้มให้
“มีความสุขที่สุดเลยล่ะครับ แล้วแม่ล่ะ” ผมย้อนถาม
แม่ชะโงกหน้ามาหอมแก้มผม
“รู้มั๊ย แค่นี้แม่ก็มีความสุขที่สุดแล้วล่ะ
แต่เอกอย่าลืมที่สัญญานะว่าเราจะรู้เรื่องนี้กันแค่สองคน”
แม่กำชับอีกครั้ง
“ผมสัญญาครับ” ผมพยักหน้ารับคำของแม่
ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงเปลี่ยนเป็นอย่างนี้เพราะแม่ขอร้องไม่ให้ผมถาม
แต่ผมก็รู้ว่าให้เรื่องเหล่านี้มันตายไปพร้อมกับผมและแม่จะดีซะกว่า
“เรานอนซักงีบดีมั๊ย เดี๋ยวตอนเย็นค่อยออกไปหาอะไรกินกัน”
เสียงแม่เอ่ยถาม ทำให้ผมยิ้มรับ เพราะตั้งแต่เกิดมา
แม่ไม่เคยขอความเห็นผมเลย แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆก็ตามเถอะ
“ครับ นอนก่อนก็ดี ผมเพลียจังเลย” ผมตอบเบาๆ แม่หันมาค้อน
“ก็ใครใช้ให้เล่นท่าพิเรนทร์อย่างนั้นล่ะ
มันก็เสียแรงไปเปล่าๆนะสิ”
คำย้อนนั้นทำให้ผมหัวเราะพลางชะโงกหน้าไปหอมแก้มแม่อีกครั้งก่อนจะหลับด้วยความอ่อนเพลีย...........................................................................



Offline chawat

  • Master Hero
  • *
    • Posts: 441
    • เสียว: 2
    • View Profile
    • Email
Reply #4 on: June 01, 2011, 01:26:34 pm
 (19; (19; (19;THANKS (19; (19; (19;



Offline st735

  • แฟนพันธ์แท้
  • *
    • Posts: 3479
    • เสียว: 10
    • View Profile
    • Email
Reply #5 on: June 02, 2011, 12:37:04 am
(007; (007; (007; (007; (007; (007; (007; (007; (007; (007; (007; (007;



Offline vansakorn

  • Master Hero
  • *
    • Posts: 34
    • เสียว: 0
    • View Profile
    • Email
Reply #6 on: June 02, 2011, 10:59:14 pm
รูปสวยเรื่องเยี่ยม (39; (39; (39; (39; (39; (39; (010; (010; (010; (011; (011; (011; (003; (1212; (07; (05; (05; (03; (00; (00; (01;



Offline aidid

  • Master Hero
  • *
    • Posts: 2985
    • เสียว: 5
    • View Profile
    • Email
Reply #7 on: June 14, 2011, 02:23:50 pm
 (5; (5; (5;



Offline dongdang

  • Super Master Hero
  • **********
    • Posts: 878
    • เสียว: 5
    • View Profile
    • Email
Reply #8 on: June 22, 2011, 03:17:48 pm
Thanks krub