ณ ตึกคอนโดฯทรงกลมหรูสูง 22 ชั้น ริมฝั่งโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ในเวลาเช้าตรู่วันจันทร์ในขณะที่ทุกคนที่อาศัยภายในคอนโดฯซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นกลุ่มไฮโซหรือไม่ก็เป็นชาวต่างชาติเริ่มที่จะออกจากที่พักตรงไปยังชั้น จอดรถของอาคารเพื่อไปทำงานหรือไปเรียนกันนั้น หญิงสาวสวยรูปร่างหน้าดีมากคนหนึ่งอายุเธอประมาณ 24-26 ปีกำลังจะเดินไปยังรถ Benz รุ่น New C-Class 2008 สีเงิน ที่คุณพ่อของเธอซื้อให้เป็นของขวัญหลังจากที่เธอเรียนจบจาก Oxford และได้เข้าทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ท่านถือหุ้นอยู่ ซึ่งจอดอยู่ในชั้นจอดรถของอาคารภายในคอนโดฯหรูแห่งนั้น เมื่อเดินไปจะถึงรถแล้วเธอจึงกดรีโหมดเพื่อที่จะเปิดประตู ‘ปีบ ปีบบ’ เสียงสัญญาณที่บอกว่าระบบร็อกของรถได้เปิดแล้วด้วยความไม่สนใจอะไรหญิงสาว จึงเปิดประตูหลังด้านคนขับเพื่อวางถุงและแขวนเสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มเกียบดำ ตัวนอกเข้ากับราวที่แขวนแล้วจึงหันไปเปิดประตูด้านคนขับทันใดนั้น
พิมมาลา - “ว้ายยยย!!!ขะโมยขโมย ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วยยยยย” เธอร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังก้มลงไปทำอะไร บางอย่างที่ใต้พวงมาลัย
เสียงร้องตะโกนของหญิงสาวเรียกให้ยามทั้ง 3 คนที่เดินตรวจอยู่แถวนั้นวิ่งมาทันทีที่ได้ยินพร้อมทั้งผู้คนที่กำลังจะเดินไปขึ้นรถด้วย
ทศ - “เฮ้ยยย!!อะไรวะอยู่ๆมาเปิดประตูรถชาวบ้านมีอะไร?” ชายหนุ่มที่อยู่บนรถร้องตะโกนถามออกมาอย่างฉุนเฉียวทันที
ยาม - “เออ มีเรื่องอะไรกันครับ”ยามคนหนึ่งถามออกมาเมื่อเห็นว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดี มากรูปร่างสูงใหญ่ใส่สูทอย่างดีแต่งกายสุภาพเรียบร้อยเหมือนกับว่ากำลังจะ ออกไปทำงานซึ่งพวกเขาจำได้ว่าเป็นหนึ่งในเจ้าของคอนโดฯแห่งนี้กำลังก้าวลง จากรถเพื่อเผชิญหน้ากับหญิงสาว
พิมมาลา - “ก็นี่อะรถชั้นพอชั้นมาเปิดประตูรถก็เจอไอ้หัวขโมยนี่กำลังต่อสายตรงรถของชั้น”หญิงสาวรีบหันไปบอกยามทันที
ทศ - “นี่มันรถผม ผมกำลังก้มลงไปเก็บของอยู่คุณผู้หญิงคนนี้มาถึงก็เปิดประตูรถผมแล้วร้อง โวยวายว่าขโมยๆ แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับคุณผู้หญิงรถรุ่นนี้ต่อสายตรงไม่ได้หรอกคุณ”ชายหนุ่ม หันไปพูดกับยามก่อนที่จะหันมาหาหญิงสาว
พิมมาลา - “ตาบ้าอย่ามั่วนิ่มนะนี่รถชั้น”หญิงสาวรีบเถียง
ทศ - “อะไรวะ?”ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความงงพร้อมทั้งเกาหัว
พิมมาลา - “ก็นี่ไง” ‘ปีบ ปีบบ’ หญิงสาวยกกุญแจรีโหมดขึ้นมาพร้อมทั้งกดเพื่อต้องการพิสุทธิ์แต่แทนที่รถที่ อยู่ตรงหน้าเธอจะร้องกลับเป็นเสียงร้องของรถอีกคันที่มียี่ห้อเดียวกันรุ่น เดียวกันและสีเดียวกันที่อยู่ถัดไปอีก 3 คันจากรถคันนี้
ทศ - “นั้นไงปีบเลยปีบเลยไปเลยครับรถคุณอยู่นั่นไปเลยเชิญ”ชายหนุ่มชี้ไปที่รถคันนั้น
ยาม - “เอองันถ้าไม่มีอะไรพวกผมไปก่อนนะครับ”ยามคนหนึ่งพูดออกมาพร้อมทั้งส่ายหัว ไปมาและเริ่มเดินออกไปพร้อมๆกับการสลายตัวของเหล่าไทยมุมที่มากับเสียง หัวเราะเบาๆ
พิมมาลา - “ค่ะขอบคุณมากค่ะ”หญิงสาวเอ่ยคำขอบคุณอย่างแผ่วเบาด้วยความอับอาย
พิมมาลา - “เออคุณค่ะขอโทษนะค่ะขอของของดิฉันด้วยค่ะ”หญิงสาวรีบเอ่ยกับชายหนุ่มทันทีที่เห็นว่าฝ่ายชายกำลังกลับขึ้นไปบนรถ
ชายหนุ่มหันไปดูด้านหลังและส่ายหัวไปมาพร้อมทั้งนึกในใจว่า ‘ยัยเบะเอยยยย’ แล้วจึงรุกขึ้นออกจากรถอีกครั้งและหันไปเปิดประตูหลังเพื่อก้มลงไปหยิบถุง และเสื้อสูทตัวนอกของหญิงสาวที่แขวนอยู่ด้านหลังพร้อมทั้งเดินไปส่งของให้ หญิงสาวที่รถของเธอตามมารยาท
พิมมาลา - “ขอโทษด้วยนะค่ะพอดีรถมันเหมือนกัน” หญิงสาวกล่าวขอโทษด้วยเสียงที่แผ่วเบาพร้อมทั้งก้มหน้าแดงๆเป็นลูกตำลึงลงพื้น
ทศ - “ครับไม่เป็นไรคนเรามีพาดกันได้ หมดเรื่องแล้วนะครับผมจะได้รีบไป”ชายหนุ่มกล่าวออกมาแต่ในใจเขากลับคิดว่า ‘เออยัยเบะนี่ก็สวยน่ารักดีแฮะ’
พิมมาลา - “ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะค่ะ”หญิงสาวพูดอีกครั้ง
พิมมาลา - “โอ้ยยยย!!! ทำไมวันนี้มันโคตรซวยอย่างนี้นะ”หญิงสาวบ่นพึงพำคนเดียวในรถของเธอหลังจาก ที่เห็นรถของชายหนุ่มได้ขับผ่านหน้ารถเธอออกไปจากชั้นลานจอดรถของคอนโดฯแล้ว ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นนาฬิกาหน้ารถที่บอกเวลาว่าเกือบจะ 8 โมงแล้ว
พิมมาลา - “ต๊าย!!!ตายแน่ๆๆวันนี้เข้างานวันแรกกรรมๆๆพระเจ้าขาช่วยลูกช้างด้วย ขออย่าให้สายเลยยยเจ้าประคุ้นนนน”หญิงสาวทาบอกและกุญแจอย่างรุรี้รุกรนทันที และรีบขับรถออกไปอย่างเร็ว
ณ ตึกสำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัทในเครือ BAK. ภาพของหญิงสาวผมยาวแสนสวยใส่ชุดด้านในเป็นเสื้อแพรคอกลมสีชมพูอ่อนทับด้วย เสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มเกือบดำเหมืองสีของกระโปรงคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบ เข้ามาภายในอาคารบริษัทเพราะความสวยของเธอจึงเป็นที่สนใจของพนักงานที่กำลัง จะเข้างานและคนที่กำลังเดินผ่านไปมาในตัวอาคารเป็นอันมาก
พิมมาลา - “โอ๊ยยย เกือบไม่ทัน” หญิงสาวยืนหอบอยู่ที่หน้าห้องฝ่ายบุคคลก่อนที่เธอจะสูดหายใจลึกๆและเดินตัวตรงเข้าไปภายใน
ชั้นที่ 27 ของตัวอาคาร ณ ห้องเลขากรรมการผู้จัดการใหญ่
ทศ - “คุณนี เชิญมาพบผมด้วยครับ”
สุพรรณี - “ค่ะบอส”
เมื่อหญิงสาวผู้เป็นเลขาเข้ามาในห้องกรรมการผู้จัดการใหญ่ซึ่งมีประตูเปิดถึงกันได้โดยไม่ต้องออกไปทางหน้าห้อง
ทศ - “เอกสารที่ผมต้องใช้คุณเตรียมแล้วนะ”
สุพรรณี - “ค่ะบอส”
ทศ - “ขอบคุณครับ”
สุพรรณี - “บอสค่ะ วันเลขาคนใหม่จะเข้างานวันแรกบอสจะรอดูตัวก่อนไหมค่ะ?”
ทศ - “หรือครับ คนที่คุณอาชัยยุทธ์มาฝากใช่หรือเปล่าครับ?”
สุพรรณี – “ค่ะบอส”
ทศ – “แล้วเธอชื่ออะไรครับ?”
สุพรรณี – “พิมมาลา สกุลเกียรติค่ะ”
ทศ – “หรือครับ ‘สกุลเกียรติ’ นึกว่าจะนามสกุลเดียวกับอาชัยซะอีกงันก็คงไม่ใช่ยัยหมูตอนนั่นหรอก”
สุพรรณี – “ค่ะบอส? ยัยหมูตอนไหนค่ะ?”
ทศ – “ป่าวครับป่าว แล้วนี่ตกลงคุณจะลาออกจริงๆหรือครับนี่”
สุพรรณี - “ค่ะ” เลขาสาวตอบพร้อมกับยิ้มออกมา
ทศ - “ผมคงจะคิดถึงคุณน่าดู”
สุพรรณี - “ค้า เดียวเลขาใหม่มาบอสก็ลืมดิฉันแล้ว”
ทศ - “แหมใครจะลืมคนสวยๆอย่างคุณนีลงละครับ”
สุพรรณี - “พูดแบบนี้เดียวหย่ากับคุณนุมาแต่งงานใหม่กับบอสซะเลยนิ”
แล้วทั้งเลขาสาวและนายต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
ทศ - “งันผมขอคุณนีหน่อยนะครับขอให้คุณอยู่เทรนเด็กใหม่ซักเดือนหนึ่งจะได้ไหม ครับ? คงไม่ครบกำหนดคลอดก่อนนะครับ” ชายหนุ่มพูดออกมาพร้อมทั้งมองที่หน้าท้องของเลขาสาวที่ตอนนี้มันได้ขยายใหญ่ จนเห็นได้อย่างชัดเจน
สุพรรณี - “แหมกำหนดคลอดอีก 2 เดือนค่ะถึงบอสไม่พูดดิฉันก็คงต้องอยู่สอนงานเด็กใหม่อยู่แล้วละค่ะ”
ทศ - “ครับขอบคุณคุณนีมากนะครับ”
สุพรรณี - “ค่ะบอส แล้วบอสต้องการอะไรอีกไหมค่ะ?”
ทศ - “ไม่ละครับผมมาเอาเอกสารนี่แล้วจะรีบออกไปที่สนามบินเลย”
สุพรรณี - “ค่ะบอส”
แล้วเลขาสาวจึงเดินออกจากห้องกรรมการผู้จัดการใหญ่
หลังจากที่หญิงสาวได้รายงานตัวกับฝ่ายบุคคลแล้วได้รับคำสั่งให้มาเป็นผู้ ช่วยเลขาของกรรมการผู้จัดการใหญ่แล้วเธอจึงขึ้นมาสู่ชั้นที่ 27 ของอาครยักษ์แห่งนี้ ภายในห้องนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งที่ส่วนกลางของร่างกายเธอยื่นออกมาอย่างเห็น ได้ชัดเจน
สุพรรณี - “น้องพิมมาลาใช่ไหมค่ะ?” หญิงผู้นั้นถาม
พิมมาลา - “ค่ะพี่” หญิงสาวตอบ
สุพรรณี - “พี่ชื่อสุพรรณีนะค่ะเรียกพี่ว่าพี่นีก็ได้” หญิงผู้นั้นบอก
พิมมาลา - “ค่ะพี่นี พี่นีเรียกหนูว่าพิมเฉยๆก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มและตอบรับ
สุพรรณี - “ดีค่ะ งันเรามาเริ่มเรียนงานกันเลยนะค่ะไม่ต้องกลัวค่ะบอสเค้าไปร่วมประชุมกับ องค์กรอื่นๆที่ Germany เพิ่งออกไปจากบริษัทเมื่อสักครู่นี้เอง กว่าจะกลับก็อีก 4 วันโน้นแหละจ๊ะ”
ผ่านไป 4 วัน ทั้ง 2 คนได้ทำงานด้วยกันจนทั้ง 2 เริ่มที่จะคุ้นเคยกันและสนิทกันค่อนข้างดีแล้วเนื่องจากหญิงสาวเป็นคนง่ายๆ และมีสัมมาคาราวะกับรุ่นพี่ที่กำลังสอนงานให้เธอจึงเป็นที่ถูกใจของสาวผู้ พี่เป็นอย่างมาก
สุพรรณี - “แหมน้องพิมนี่เก่งจังนะค่ะสมกับที่จบมาจาก Oxford เลย”
พิมมาลา - “แหมไม่หรอค่ะพี่นี หนูเก่งสู้พี่นีไม่ได้หรอกค่ะ”
สุพรรณี - “อย่าพูดให้พี่ได้ใจหน่อยเลยหนูนะทั้งเก่งทั้งสวยทั้งน่ารักแถมยังพูดได้ ตั้ง 5 ภาษานี่ถ้าไม่ใช้เพราะคุณชัยยุทธ์คุณพ่อของหนูจะให้เป็นเลขาบอสละก็คงได้ อยู่ฝ่ายบริหารเต็มตัวแน่ๆเลย” รุ่นพี่สาวเอ่ยแซวอย่างไม่เกรงใจหญิงสาวที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุขไป แล้ว
พิมมาลา - “แล้วนี่พี่จะออกจริงๆหรอค่ะ?” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยความเสียดาย
สุพรรณี - “ค่ะแฟนพี่เค้าจะให้พี่ไปเป็นแม่บ้านดูแลลูกๆที่จะเกิดนะค่ะ” สุพรรณีตอบพร้อมทั้งยิ้มออกมาและลูบท้องที่กำลังขยายใหญ่ของตนด้วยสีหน้าที่ ยิ้มแย้ม ทันใดนั้นไฟจากอินเตอร์คอมก็สว่างขึ้นพร้อมๆกับเสียงทุ้มนุ่มของเจ้านาย หนุ่มดังขึ้นมา
ทศ - “คุณนีครับช่วยเอาแฟ้มรายงานผลการประกอบการของไตรมาด 2 มาให้ผมที”
สุพรรณี - “ค่ะบอส”
แล้วเธอจึงรีบหันไปหยิบแฟ้มรายงานที่เตรียมเอาไว้จากตู้ข้างๆออกมาและรีบบอกพิมมาลาว่า
สุพรรณี - “น้องพิมหนูช้วยชงกาแฟไปให้บอสทีนะค่ะ เทจากเครื่องต้มเลย Black Coffee นะค่ะเมทไม่ต้อง”สุพรรณีหันไปสั่งพิมมาลา
พิมมาลา - “ค่ะพี่นี” แล้วหญิงสาวจึงรีบรุกขึ้นออกไปจัดการที่ห้องเตรียมอาหารที่อยู่อีกด้านของ ชั้นและเดินเข้าไปในห้องผู้จัดการใหญ่ทันที
เมื่อเข้าไปถึงแล้วหญิงสาวจึงวางถ้วยกาแฟพร้อมทั้งจานขนมลงบนโต๊ะก่อนที่จะ เงยหน้ามองตัวกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจและประสบความสำเร็จ อย่างสูงทั้งๆที่อายุเพิ่งจะ 30 ย่าน 31 เท่านั้น
พิมมาลา - “อุยตาย!! นี่คุณ”
ทศ - “ยัยเบะ”
สุพรรณี - “เออ อะไรกันค่ะนี่?” สุพรรณีเป็นฝ่ายถามด้วยความงงในท่าทีของนายและผู้ร่วมงานคนใหม่
ทศ - “ไม่มีอะไรครับ เออคุณนีช่วยไปเอาแฟ้มข้อมูลแผนการตลาดของไตรมาดนี้ที่ฝ่ายการตลาดมาให้ผม ด้วย แล้วคุณช่วยไปบอกผู้จัดการทุกฝ่ายด้วยนะครับว่า ‘ผมเรียกประชุมพรุ่งนี้ตอน 9 โมงเช้า เรื่องแผนประกอบการในไตรมาดหน้า’นะครับ” ชายหนุ่มสั่งพร้อมทั้งยกกาแฟขึ้นดื่มแต่พอจิบได้อึกเขาก็ทำหน้าแหย
ทศ - “เออคุณนีช่วยไปเติมน้ำตาลมาให้ผมทีนะครับมันขมไป”ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมทั้งวางแก้วกาแฟลง
สุพรรณี - “เออค่ะ”
หลังจากนั้นทั้ง 2 คนจึงออกมาจากห้องของประธานกรรมการใหญ่
สุพรรณี - “แหมพี่ก็ลืมบอกหนูไปของบอสเป็น Black Coffee ใส่น้ำตาล 2 ก้อนพอ งันน้องพิมช่วยไปขอเอกสารที่ฝ่ายการตลาดทีนะจ๊ะเดียวพี่โทรไปบอกกับเลขาผู้ จัดการฝ่ายอื่นๆแล้วพี่จะเอากาแฟไปให้บอสใหม่เองจ๊ะ”
พิมมาลา - “ค่ะพี่นี เดียวหนูมานะค่ะ”
สุพรรณี - “จ๊ะ”
จากนั้นทั้ง 2 คนก็ไปทำตามที่ได้ตกลงไว้
สุพรรณี - “เออนี่น้องพิมตอนแรกที่เจอกับบอสทำไมหนูอุทานอย่างนั้นละ?”สุพรรณีถามหลังจากที่พวกเธอจัดการอะไรเสร็จแล้ว
พิมมาลา - “ก็.......”พิมจึงเล่าเรื่องเมื่อตอนเช้าของ 4 วันที่แล้วให้พี่นีของเธอฟัง
สุพรรณี - “ฮ้าๆๆๆๆๆ ต๊าย ตายจริงๆนี่หนูไปทำกับท่านอย่างนั้นเลยหรือจ๊ะฮ้าๆๆๆ” สุพรรณีหัวเราะพรางเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาไปพราง
พิมมาลา - “พี่อย่าหัวเราะซิหนูอายนะ ก็ใครมันจะรู้ละรถยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันสีเดียวกันแถมยังจอดแถวเดียว กันแต่ห่างจากกันไม่เท่าไหร่เป็นใครก็ต้องสับสนละ” หญิงสาวบอกออกไปด้วยความอับอายเมื่อได้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าวันนั้น
สุพรรณี - “โอ๊ยยย ท้องแข็ง”
พิมมาลา - “พี่อะรู้งี้ไม่เล่าก็ดีหรอก”
สุพรรณี - “โอ๋ออออ โอ๋ออออ อย่างอนเลยนะโอ๋อออ”สุพรรณีปลอบด้วยสีหน้ายิ้มๆแล้วจึงหันไปสนใจกับงานพร้อม กับอธิบายสายงานต่างๆให้พิมมาลาได้รับรู้