สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อพิมพร หรือเรียกง่ายๆว่า พร ก็ได้ค่ะ ดิฉันเป็นตำรวจหญิง ซึ่งตอนนั้นทำหน้าที่งานด้านเอกสาร และเขียนบันทึกประจำวัน ประจำอยู่ใน สน.แห่งหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพฯ เงินเดือนตำรวจที่ดิฉันได้ในตอนนั้นก็ไม่มาก แต่ก็พอที่จะเลี้ยงดูตัวเองและลูกชายหนึ่งคนได้ พอไม่ให้อดอยาก
ชีวิตของฉันก่อนหน้านั้นย้อนไป 15 ปี ดิฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่ง ที่หลงผิดเสียความสาวตั้งแต่อยู่ม.3 ให้กับเด็กนักเรียนรุ่นพี่ม.ปลายหน้าตาดีคนหนึ่ง จนตั้งท้องขึ้นระหว่างที่ดิฉันกำลังจะเรียนชั้น ม.ปลาย รุ่นพี่ม.ปลายแฟนของดิฉันในตอนนั้น พอรู้เรื่องเข้าก็ทิ้งดิฉันไป ตามประสาเด็กที่ยังไม่มีความรับผิดชอบ ส่วนพ่อแม่ของดิฉันพอรู้เรื่องเข้า ก็พาดิฉันออกจากโรงเรียน ดิฉันถูกสังคมรอบข้างกล่าวหาว่าดิฉัน เป็นเด็กใจแตก พอคลอดลูกได้ไม่นาน ดิฉันจึงหอบลูกหนีอาย เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ
ตอนมากรุงเทพฯแรกๆ ดิฉันได้งานเป็นพนักงานขายในร้านซูเปอร์สโตร์แห่งหนึ่ง โดยตอนนั้นดิฉันฝากลูกให้กับ เพื่อนของดิฉันที่อยู่ในกรุงเทพฯเลี้ยง ดิฉันเหนื่อยมาก เพราะทำงานไปและเรียน กศน. ไปด้วย จนได้วุฒิ ม.6 มา ตอนนั้นลูกของดิฉันก็เริ่มโตแล้ว จำเป็นต้องเรียนหนังสือ ดิฉันจึงต้องหางานใหม่ที่ได้เงินมากกว่านั้น พอดีเพื่อนของดิฉันแนะนำให้ดิฉันไปสมัครงานที่ร้านอาบ อบ นวด แห่งหนึ่งซึ่งเพื่อนของดิฉันก็ทำงานอยู่ที่นั่น ตอนนั้นดิฉันไม่เกี่ยงงาน ขอแค่สามารถเลี้ยงปากท้องตัวเองได้ดิฉันทำหมดทุกอย่าง
ในตอนแรกที่เข้าไปนั้น ด้วยความที่ไม่ประสีประสาไม่รู้ว่า อาบ อบ นวด ต้องทำอย่างไรบ้าง ดิฉันก็ต้องเสียตัวให้กับเจ้าของสถานที่เพื่อแลกกับงาน ตอนนั้นดิฉันกำลังอยู่ในวัยสาวอายุ 20 ต้นๆ ทำให้มีแขกมาติดเยอะมาก ในตอนแรกดิฉันกล้ำกลืนฝืนทน ที่จะต้องยอมเสียตัวให้ชายอื่นที่ไม่ใช่ผัวของเราเพื่อแลกกับเงิน หลังๆพอโดนบ่อยๆเข้าก็ชักจะชินชาไป แต่ก็ถือว่าดิฉันโชคดีที่จับแขกได้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ คนนึง ที่เข้ามาใช้บริการในนั้น เขาขอให้ดิฉันเป็นเมียเก็บของเขา โดยแลกกับการเลิกเป็นหมอนวด เขาเสนอค่าเลี้ยงดูรายเดือนให้ ดิฉันเลยตกปากรับคำทันที แต่หลายปีต่อมาเมียของนายตำรวจผู้นั้นก็จับได้ว่ามีเมียน้อย เขาเลยต้องเลิกความสัมพันธ์กับดิฉันไป ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็เริ่มตั้งท้องอ่อนๆด้วย แต่ไม่ได้บอกให้เขารู้ ภายหลังดิฉันได้ทำแท้ง เอาเด็กออก เพราะถ้าเกิดมาคงไม่มีปัญญาเลี้ยง เรื่องราวในตอนนั้นทำให้ดิฉันเข็ด และขยาดผู้ชายไปนานมาก
ดิฉันได้งานตำรวจก็จากข่าวประกาศทางโทรทัศน์ ซึ่งพอประกาศดิฉันก็ไปสมัครทันที ดิฉันใช้เส้นนายตำรวจที่ดิฉันเคยเป็นเมียเก็บให้กับเขามาก่อน โดยแลกกับการเลิกติดต่อกันอีกโดยสิ้นเชิง ดิฉันได้ตำแหน่งงานมาโดยง่าย แต่ลึกๆแล้วดิฉันก็คิดถึงเขา เพราะว่าดิฉันยอมเป็นเมียเก็บให้เขาอยู่หลายปีจนดิฉันมีใจให้กับเขา
ปัจจุบันดิฉันเป็นตำรวจหญิงมาได้ร่วม 3 ปีแล้ว ตอนนี้ดิฉันอายุ 30 ส่วนลูกชายของดิฉันอายุ 15 ย่าง 16 เขาชื่อว่า แทน แม้ดิฉันจะอายุ 30 แล้ว แต่ก็ 30 ยังแจ๋ว เพราะเวลาที่ไปซื้อของในตลาดกับลูกชาย แม่ค้าก็มักจะทักเอาว่า ดิฉันเป็นพี่สาวมากกว่าจะเป็นแม่ ดิฉันสูง 170 ซึ่งสูงกว่าลูกชายเล็กน้อย สัดส่วนก็ 35 24 35 หน้าอกใหญ่ สะโพกใหญ่ตามประสาคนมีลูกแล้ว แม้ดิฉันจะหน้าตาธรรมดาๆ แต่ด้วยทรวดทรงองเอวที่ชวนยั่วน้ำลาย ทำให้มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้ามาแจกขนมจีบไม่ขาดสาย เนื้อหอมไม่แพ้สาวๆวัยรุ่น ตามประสาม่ายสาว กระดังงาลนไฟ แต่ดิฉันก็ยังเข็ดขยาดผู้ชาย อีกทั้งความเป็นอยู่ในตอนนี้ก็พอมีพอกิน จึงไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย
ปัจจุบันดิฉันอยู่กับลูกชายสองคนในคอนโดฯย่านลาดพร้าว เพราะใกล้ที่ทำงาน และใกล้กับโรงเรียนของลูกชาย
ลูกชายของดิฉันกำลังเรียนอยู่ชั้นม.4 เขาเป็นเด็กที่ฉลาดมาก เรียนได้เกรด 3 กว่าๆตลอด อีกทั้งยังเก่งเรื่องกีฬา เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียน ยิ่งเขาโตขึ้น ก็ยิ่งหน้าตาหล่อคล้ายพ่อของเขามากขึ้น อีกทั้งยังเจ้าอารมณ์ ถอดแบบกันมาไม่มีผิด
หลังจากขึ้นม.ปลาย ดิฉันพบความเปลี่ยนแปลงในตัวลูกชายของดิฉันมากขึ้น ทุกครั้งที่ดิฉันทำความสะอาดห้อง ดิฉันมักจะเจอหนังสือโป๊ ซ่อนอยู่ใต้หมอน หรือใต้ที่นอนเป็นประจำ ดิฉันเจอก็เก็บไว้ให้ที่เก่า เพราะคิดว่าก็เป็นเรื่องปกติของลูกผู้ชาย แต่อารมณ์ของเขานี่สิ ทั้งก้าวร้าว และฉุนเฉียวใส่ดิฉันมากขึ้น พูดอะไรก็ไม่ค่อยฟัง ซึ่งดิฉันที่เป็นแม่เป็นห่วงเรื่องนี้มาก เพราะกลัวว่าความอารมณ์ร้อนของเขาจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดี
แล้ววันหนึ่งเขาก็ไปชกต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียนมา พอดิฉันไต่สาหาความถึงสาเหตุ ก็ได้รู้ว่า ลูกของฉันโดนล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ พอลูกชายของฉันพูดออกมาก็ปล่อยโฮร้องไห้ทันที ถึงเขาจะเป็นเด็กก้าวร้าวและอารมณ์ร้อน แต่ลึกๆแล้ว เขาก็เป็นเด็กน่าสงสาร ที่โหยหาความรักตลอดเวลา ดิฉันสงสารเขาจับใจ ตัวฉันเองก็ไม่ได้ดูแลเขาดีเท่าไรนัก เพราะมัวแต่หาเงิน วันนั้นฉันกอดเขาไว้ในอ้อมอก ความก้าวร้าว และต่อต้านของเขาเริ่มๆอ่อนลง เราสองแม่ลูกจึงสามารถพูดเปิดใจกันได้มากขึ้นหลังจากวันนั้น
วันหนึ่ง หลังจากที่ดิฉันเลิกงานเร็วกว่าปกติ ดิฉันก็กลับมาที่ห้องทันที พอดิฉันเปิดประตูเข้าไปก็พบลูกชายตัวเองกำลังนั่งดูหนังโป๊ และกำลังช่วยตัวเองอยู่ พอเขาเห็นดิฉันก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที โดยเปิดหนังทิ้งไว้ เพราะปิดไม่ทัน ฉันเหลือบไปมองบนหน้าจอ ผู้หญิงที่อยู่ในหนังกำลังโดนชายหนุ่มกระเด้าซอยเอากันมันส์หยดเลยทีเดียว ฉันเองพอได้เห็นก็ยังหวิวๆใจตุ้มๆต่อมๆขึ้นมาเหมือนกัน
“อย่าเข้าไปนานนะลูก แม่จะอาบน้ำ” ดิฉันพูดออกไป หลังจากที่ปิดทีวีได้พักใหญ่ๆ
ไม่นานแทน ลูกชายของฉันก็ออกจากห้องน้ำมา ชักสีหน้าหงุดหงิดเดินผ่านประตูห้องไป
“แม่ฝากซื้อ กับข้าวด้วยนะ เดี๋ยวค่อยมาเอาเงินที่แม่” ดิฉันพูดตามออกไป เพราะกลัวเขาเตลิดออกไปหาเรื่อง เลยพูดฝากซื้อของเพื่อให้เขากลับมาที่ห้อง
ดิฉันเข้าห้องน้ำ อาบน้ำชำระเหงื่อไคล เพราะทำงานหนักมาทั้งวัน ระหว่างที่ลูบไล้สบู่ตามร่างกาย สมองพลันคิดถึงเรื่อง ที่ลูกชายเปิดหนังโป๊ดูก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังเห็นลูกชายกำลังช่วยตัวเองต่อหน้าต่อตา แม้จะเห็นไม่ถนัดนัก แต่ก็ทำให้คนที่ร้างราเรื่องบนเตียงมานานอย่างดิฉัน มีอารมณ์ทางเพศขึ้นมาได้บ้าง ดิฉันเองก็เพิ่งจะ 30 อารมณ์ของฉันจึงยังไวกับเรื่องพวกนี้อยู่ ดิฉันอดไม่ได้ที่จะแยงนิ้วแทรกเข้าไปในรูสวาท ขณะที่ดิฉันกำลังถูสบู่ ลูบไล้ไปตามร่างกาย แต่ก็ยั้งใจไว้ได้และรีบอาบน้ำจนเสร็จ
ดิฉันออกจากห้องน้ำมา นั่งทาครีมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งในผ้าขนหนูกระโจมอก เป็นช่วงเดียวกับที่แทน ลูกชายของดิฉันเข้ามาพอดี เขาไม่มองมาที่ดิฉันเลย เราสองคนแม่ลูกแทบมองหน้ากันไม่ติด ทั้งๆที่ดิฉันคิดว่าเราสองคนเริ่มสนิทกันมากขึ้นแล้วเชียว ดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไรในตอนนั้น และไม่รู้ว่าดิฉันกำลังคิดอะไรอยู่ จึงเปิดโทรทัศน์ และเครื่องเล่นวีซีดี เล่นแผ่นหนังโป๊ ขึ้นมาอีกที
“เอ้าอยากดูก็มาดู แม่จะดูด้วย” ดิฉันเดินไปจูงมือแทน มานั่งตรงหน้าทีวี โดยฉันนั่งดูอยู่ข้างๆเขา
ตอนแรกแทน ลูกชายของฉันมีทีท่าอึกอักอยู่บ้าง แต่สักพักหนึ่งก็ตั้งใจดูเงียบๆ เมื่อถึงฉากที่พระเอกกับนางเอกกำลังซุกไซร้กันนัวเนีย ไม่ใช่แค่ลูกชายเท่านั้นที่นั่งดูนิ่งๆ ดิฉันก็เช่นกัน ยิ่งพอถึงฉากเอากันด้วยแล้ว ใจของดิฉันเต้นตึกตัก จนหน้าอกกระเพื่อมดันปมผ้าขนหนูที่นุ่งกระโจมอกไว้ คลายออกจนแทบหลุด ดิฉันต้องแก้ปมออกแล้วมัดเข้าไปใหม่ แต่ไม่ทันระวังตัว จึงทำให้ลูกชายของดิฉันที่นั่งอยู่ข้างๆมองลอดผ้าขนหนูเข้ามาเห็นเนื้อนม ขาวๆจนตาค้างเลยทีเดียว ดิฉันรู้ตัวเมื่อเหลือบตาไปมองทางลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆจึงรู้ว่าเขากำลัง จ้องมองดิฉันอยู่ตาเป็นมัน ฉันคิดในใจว่านี่เขาคงเห็นเนื้อหน้าอกอวบขาวของดิฉันไปแล้วแน่ๆ หลังจากนั้นลูกชายดิฉันก็มองดูหนังโป๊ไปสลับกับการชำเลืองมองเนื้อตัวของ ดิฉันไป ในจังหวะหนึ่งที่เขาพยายามชำเลืองมองต่ำ ผ้าขนหนูที่ดิฉันนุ่งอยู่ก็แสนจะสั้น ถ้าเขาพยายามมองลอดใต้ผ้าตรงง่ามขาของดิฉัน ก็จะเห็นเนื้อโหนกนูนได้ไม่ยาก ดิฉันจึงพยายามใช้มือกดผ้าขนหนูให้ปิดตรงระหว่างขาไว้ แต่นั่นก็ทำให้ปลายผ้าขนหนูเลื่อนขึ้นมา จนเผยให้เห็นขาอ่อนชัดเจน ดิฉันทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน เมื่อถูกลูกชายตัวเองมองด้วยสายตาหื่นๆแบบนั้น ไม่นานนักลูกชายของดิฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเข้าไปทำอะไรนะคะ ดิฉันใช้เวลาช่วงนั้นปิดหนังโป๊ เปลี่ยนเป็นทีวีช่องรายการปกติ และรีบสวมใส่เสื้อผ้า
คืนนั้นลูกชายขอนอนบนเตียงเดียวกับดิฉัน ซึ่งดิฉันก็ไม่ขัด ดิฉันและเขาก็ได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง
“แม่ดูหนังโป๊กับผม แม่ไม่อายหรือครับ” แทน ลูกชายดิฉันนอนหันหน้ามาพูดกับฉัน
“แม่ จะอายทำไมหล่ะ ตอนแทนอยู่ป.6 แทนยังเดินเจี้ยวโด่ มาถามแม่เลย ตอนที่หมอยลูกเพิ่งขึ้นใหม่ๆ ลูกจำได้มะ” ดิฉันพูดรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆขึ้นมา ดิฉันอดหัวเราะไม่ได้พอนึกถึงเรื่องนั้น
“แต่นี่ผมโตแล้วนะแม่ แม่ไม่รู้สึกแปลกๆบ้างหรอ” แทนพูดแย้งกึ่งถามดิฉัน
“ถึง จะโตแล้ว ลูกก็เป็นลูกของแม่วันยังค่ำนั่นแหล่ะ แต่แม่ก็ดีใจนะ แม่จำได้ว่าตั้งแต่ขึ้นม.ต้น มานี่ แทนไม่เคยมานอนกับแม่เลย” ดิฉันพูดให้ลูกชายของดิฉันฟัง ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ลูกชายของดิฉันไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น ฉันคว้าตัวเขาเข้ามากอดไว้ โดยที่ใบหน้าของเขาซบแนบอยู่กับหน้าอกนุ่มของดิฉันพอดี เขาเองก็ใช้มือกอดเอวดิฉันไว้ แล้วเราสองแม่ลูกก็หลับไป พอเช้ามา ดิฉันและลูกชายก็ตื่นขึ้นมาตามปกติ และแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน
พอเลิกเรียนดิฉันก็กลับมาที่บ้าน พลางถอดเสื้อตำรวจออก เหลือไว้แต่เสื้อซับใน ดิฉันเป็นคนที่ชอบใส่ซับในหรือไม่ก็สายเดี่ยวซ้อนไว้เสมอเวลาใส่ชุดตำรวจ ดิฉันทำความสะอาดห้อง จนเหงื่อออกรู้สึกศีรษะชื้นๆเลยแกะมวยผมออก ปล่อยผมยาวลงมา ไม่นานลูกชายของดิฉันก็กลับมาที่ห้อง แต่วันนี้ดูแปลกไปทุกที เขาจ้องมองดิฉันบ่อยมาก โดยเฉพาะที่หน้าอก ทั้งๆที่เมื่อก่อนแทบไม่เคยเหลียวมาด้วยซ้ำ ยิ่งฉันถอดเสื้อตำรวจออกไปแล้วเหลือแต่ซับในบางๆที่มองเห็นเสื้อในและร่องอก อย่างเด่นชัดขนาดนี้ด้วย ไม่นานเขาก็เข้าห้องน้ำไปเงียบๆอยู่ประมาณห้านาที ซึ่งดิฉันก็ต้องเข้าต่อจากเขาเพื่อไปอาบน้ำพอดี เพราะทำความสะอาดเสร็จแล้ว
พอเข้าห้องน้ำไปดิฉันก็อาบน้ำตามปกติ แต่ก็มีกลิ่นนึงซึ่งเป็นกลิ่นคาวเตะจมูกดิฉันเหลือเกิน ดิฉันพยายามควานสายตาหาต้นตอของกลิ่น ก็ไปเจอผนังด้านหนึ่งในห้องน้ำซึ่งมีคราบน้ำเมือกเป็นเส้น ดิฉันพยายามก้มไปดมใกล้ๆ กลิ่นก็ชัดขึ้น ซึ่งแน่ใจว่านั่นเป็นน้ำเชื้ออสุจิของลูกชายฉันแน่ๆ ดิฉันพยายามที่จะไม่คิดว่า เขาจะแอบมองฉันเพื่อไปจินตนาการสำเร็จความใคร่ กลิ่นนั้นมันคาวชวนให้อารมณ์ของดิฉันเตลิดเหลือเกิน จนต้องรีบใช้ฝักบัวฉีดทิ้งไป
คืนนั้นแทน ลูกชายของฉันก็ขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกับดิฉันอีกครั้ง พอดึกๆเข้า ขณะที่ดิฉันสลึมสลือครึ่งหลับครึ่งตื่น เขาก็เข้ามากอดฉันจากทางด้านหลังจนตัวแนบติดกันแน่น ลูกชายของดิฉันเริ่มมีสรีระใหญ่โตสมชาย อีกทั้งหน้าตาก็หล่อเหลาเหมือนพ่อของเขาไม่มีผิด นับเป็นครั้งแรกที่ดิฉันรู้สึกใจหวิว เมื่อถูกลูกชายตัวเองกอดแบบแนบชิดจากทางด้านหลังแบบนี้ แล้วสิ่งที่ดิฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อลูกชายของดิฉันกระเด้าบั้นเอวของเขาอัดใส่ก้นของดิฉัน เป็นจังหวะช้าๆเนิบๆ ดิฉันคิดในใจว่าเขาพยายามคิดจะทำอะไรกันแน่ ระหว่างที่ดิฉันนอนนิ่งให้เขากอด เขาก็เริ่มเด้งอัดเกร็งเข้ามา ส่งเป้าตุงๆแนบเข้ากับร่องก้นของดิฉัน พลางกระตุกตัว กอดรัดดิฉันไว้แน่นราวกับว่าเขาเสร็จกิจแล้ว ดิฉันเองพยายามแกล้งหลับตลอด และปล่อยให้ลูกชายทำโดยไม่ได้ขัดขืนอะไร แต่ในใจกลับว้าวุ่นไปหมด
พักหลังๆลูกชายก็เข้ามาคุยกับดิฉันมากขึ้น จนดิฉันรู้สึกโล่งอกไปว่าเราสองคนเริ่มสนิทสนมกันได้แบบแม่ลูกทั่วไปซะที แม้จะดูแปลกไปบ้าง เพราะในช่วงกลางดึกเขามักจะทำแผลงๆกับดิฉัน แต่ดิฉันก็พยายามคิดในแง่ดีไปว่า ให้ลูกได้ระบายออกมาบ้างจะได้ไม่เก็บกด เขาเองก็ไม่ได้ล่วงล้ำทำอะไรมากนัก นิดๆหน่อยๆดิฉันก็พอจะยอมๆได้
แต่ มีวันหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่เมนส์ของดิฉันใกล้จะมา มันเป็นช่วงที่ฉันไวต่ออารมณ์มากๆ วันนั้นลูกชายแอบมองดูฉันเหมือนทุกวัน และคงเอาเก็บไปคิดจินตนาการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองตามปกติ เขาผ่อนคลาย แต่หลายๆวันเข้ากลับเป็นฉันเองที่เกิดความเงี่ยนสะสม คืนนั้นดิฉันใส่ชุดนอนคอวีคว้านลึกแบบเน้นหน้าอก ตอนนอนดิฉันไม่ใส่ชุดชั้นในอยู่แล้ว ระหว่างที่นั่งดูละครหลังข่าว เขาก็นั่งดูอยู่ด้วยข้างๆ ดิฉันจงใจแต่งตัววาบหวามเพื่อยั่วเขา เพราะวันนี้ฉันรู้สึกร้อนรุ่มในใจเหลือเกินจนแทบอยากระบายออกมา ดิฉันทำเป็นยกแขนพาดโซฟาไว้ จนเผยให้เห็น วงแขนขาวๆเรียบเนียนไร้ขนและเนื้อด้านข้างหน้าอกขาวผ่องของดิฉัน เพราะเพราะช่องแขนชุดนอนกว้างมาก จนลูกชายของฉันมองเห็นได้ถนัดตา ยิ่งช่วงที่ดิฉันกำลังก้มปิดทีวี ฉันแกล้งทำเป็นอ้าขาออก จนเนื้อผ้าไหวไปตามแรงเขยื้อนตัว เห็นบั้นท้ายเป็นทรง และรูปก้นกลมๆกลึงก็ปรากฏหราต่อหน้าเขา ฉันค้างท่านั้นอยู่นาน เพื่อให้ลูกชายได้มองเสียให้พอ ฉันเองก็สังเกตว่าเป้ากางเกงของเขาตุงคับเป้าเลยทีเดียว
พอกลางดึก ลูกชายก็เริ่มทำแผลงๆกับดิฉัน คืนนี้ดิฉันนอนหันหน้าไปทางเขา ทำให้เขาเข้ามากอดเอวดิฉันไว้ทางด้านหน้า ลูกชายของฉันเริ่มเดาะบั้นเอวใส่หลายที จนดิฉันเผลออารมณ์แอ่นโคกรับไว้เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาอัดเข้ามา เครื่องเพศของดิฉันและลูกชายแนบเข้าหากัน ราวกับเป็นแม่เหล็กคนละขั้ว ถึงแม้จะมีเสื้อผ้าบังกั้นไว้ แต่ก็เกิดความเสียวซ่านขึ้นมาจนทำให้อารมณ์ของดิฉันกระเจิงไม่น้อย คราวนี้เขากอดรัดตัวฉันแน่นขึ้น เขาเอาหน้ามาซุกไว้ที่หน้าอกนุ่มๆของดิฉัน ด้วยความใคร่สะสมของดิฉันที่มี ทำให้ดิฉันเผลอรั้งสายชุดนอนลงข้างนึง จนหน้าอกอวบของดิฉันเด้งผึงออกมา ดิฉันยังแอ่นอกข้างนั้นแนบเข้ากับใบหน้าของลูกชาย เขาอ้าปากงับเข้าไปตามสัญชาตญาณเพศผู้ เขาทั้งดูดทั้งเลียราวกับเด็กหิวนมก็ไม่ปาน ดิฉันเสียวสะท้านไปทั้งตัว ไม่นานเขาก็เกร็งตัวเสร็จสมไปตามระเบียบ ความใคร่ของดิฉันก็ยังคงสะสมมากขึ้นต่อไปอีก
หลังจากคืนนั้น พอเข้ากลางดึกเขาก็เริ่มล่วงเกินร่างกายของดิฉันมากขึ้น โดยลูกชายของฉัน เขากล้าจับกล้าบีบขยำหน้าอกของดิฉัน บางคืนเขาก็เอามือมารั้งไว้ที่สะโพกของดิฉัน แล้วกระเด้าบั้นท้ายของเขาอัดเข้ามา ดิฉันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกลูกชายเอาทำเมียจริงๆ คืนนึงดิฉันเกือบจะโดนลูกชายเอาเข้าจริงๆอย่างที่เคยคิดไว้ กลางดึกคืนนั้นเขาก็ทำแผลงๆกับดิฉันเหมือนทุกวัน แต่พอเริ่มไประยะหนึ่ง ภายใต้ผ้าห่มเขาก็ใช้มือรั้งปลายชุดนอนของดิฉันขึ้นช้าๆจนเลยก้นดิฉันขึ้นมา ดิฉันนิ่งเพื่อรอดูต่อว่าเขาจะทำอะไร สักพักดิฉันรู้สึกได้ถึงท่อนเนื้ออุ่นๆที่กำลังลอดผ่านง่ามขาเข้ามา ดิฉันตกใจมากเมื่อรู้ว่าลูกชายคิดจะเอากับดิฉันซึ่งเป็นแม่ของเขาจริงๆ เลยใช้มือดันไว้ที่หน้าท้องของเขา เขาพยายามกระเด้าซอยท่อนเนื้อของเขากับง่ามขาของดิฉัน ในบางจังหวะท่อนเนื้อของเขาก็เสยเข้ามาโดนติ่งเสียวของดิฉัน บางจังหวะก็ทำท่าจะแทรกผ่านรูกลีบของดิฉันเข้ามาจริงๆ จนต้องโหย่งตัวหนี เขาเองก็จับเอวดิฉันไว้แน่น คืนนั้นดิฉันพยายามขืนตัวเองเต็มที่ เพื่อพยายามไม่ให้โดนลูกชายเอา สักพักใหญ่ๆเขาก็เกร็งตัวกระตุก ฉีดน้ำเชื้อเลอะง่ามขาของดิฉันและผ้าห่มไว้เปรอะ หลังจากคืนนั้นเขาคงสำนึกผิด เพราะเขาไม่มานอนบนเตียงกับดิฉันอีก
เวลาผ่านไปหลายอาทิตย์ แม้แต่ดิฉันเองก็ไม่กล้าที่จะคุยกับแทน ลูกชายของฉัน เพราะต่างคนต่างก็ละอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แล้ววันหนึ่ง เรื่องราวที่เคยคิดแค่ในใจก็เกิดขึ้นจริงๆ ขณะที่ดิฉันกำลังจะไปเข้าเวรรอบดึก แต่ดันลืมมือถือไว้ที่ห้องเลยต้องวกกลับไปเอา ดิฉันมาถึงหน้าประตูห้อง ก็ได้ยินเสียงสองเสียงซึ่งเป็นเสียงผู้ชายกับผู้หญิงคุยกันดังขึ้นมาจากข้าง ใน ดิฉันบิดลูกบิดประตูปรากฏว่าไม่ได้ล๊อคจึงค่อยๆแง้มประตูเปิดออก ภาพที่ดิฉันเห็นทำเอาดิฉันแทบช็อคไปเลย เมื่อบนเตียงนอนของดิฉัน ซึ่งอยู่ทางมุมตรงข้ามกับประตู ลูกชายของดิฉันกำลังซุกไซร้กันนัวกับเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งบนเตียงดูแล้ว น่าจะเป็นรุ่นพี่ของเขา ดิฉันมองด้วยใจเต้นระทึก ไม่นานนักลูกชายของฉันก็ถูกนักเรียนหญิงรุ่นพี่คนนั้นจับนอนลง ก่อนที่เธอจะถลกกระโปรงนักเรียนขึ้น แล้วขึ้นคล่อมตัวลูกชายของฉัน เธอใช้มือประคองลำของลูกชายฉัน แล้วห่มตัวทิ้งน้ำหนักให้ลำแทรกผ่านกลีบของเธอไป เธอขย่มควบลำของเขาอย่างออกรส จนครางออกมา ดิฉันได้ยินเสียงครางของเธอจึงได้สติเปิดประตูเข้าไปแสดงตัวทันที