ดิฉันเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งแถวลาดพร้าวค่ะ อยู่แผนกเครื่องเขียน จะว่าไปแล้วหน้าตาของดิฉันก็จัดอยู่ในขั้นที่เรียกว่าสวยเหมือนกัน อาศัยที่ดิฉันเป็นคนรูปร่างใหญ่ อะไรๆ ในตัวของดิฉันก็เลยใหญ่ตามไปด้วย ไหนๆ ก็เปลือยหัวใจแล้ว ก็ขอเปลือยอกเลยก็แล้วกัน หน้าอกของดิฉันตอนยังไม่มีอะไรกับแฟนก็ 36 นิ้วค่ะ แต่พออยู่กับแฟนแล้วขยายตัวเป็น 37 นิ้วครึ่ง เรียกว่าใหญ่ตามมือน่ะค่ะ ดิฉันเองหน้าตาดี ฉะนั้นจึงมีคนมาชอบอยู่หลายคน ทั้งผู้หญิงเองก็มี ผู้ชายก็มีค่ะ เรื่องเพศสัมพันธ์ถึงขั้นนอนด้วยกันดิฉันยังไม่เคยค่ะ ยกเว้นกับเพศหญิงด้วยกัน 2-3 ครั้ง พอให้หายหงุดหงิด เรื่องเพศสัมพันธ์กับเพื่อนหญิงด้วยกัน มีอยู่คนหนึ่งที่ดิฉันประทับใจมาก แต่พอมาเจอของจริงเข้าลืมเลยค่ะ หญิงกับหญิงไหนจะสู้ของจริงตามธรรมชาติได้ วันหนึ่งๆ ดิฉันก็อยู่แต่หน้าเครื่องเก็บเงินไม่ได้สนใจอะไรมากนัก คราวนั้นแฟนฉันคนปัจจุบันแหละค่ะ เขาเป็นลูกค้ามาซื้อของ ตอนแรกดิฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่มาเอะใจตอนที่พนักงานคนอื่นๆ มักจะล้อเสมอๆ ว่าเขามาอีกแล้ว สงสัยติดใจพี่กาญจน์แน่เลย ดิฉันเลยถามเอากับเพื่อนพนักงานรุ่นน้องว่ามีอะไรเหรอ น้องๆ บอกว่าผู้ชายคนนี้แหละที่มาซื้อของทุกวันเลย แล้วยังถามถึงพี่ด้วยนะว่าชื่ออะไร เป็นยังไงอะไรทำนองนี้แหละ เขาบอกว่าเขาสนใจพี่ แต่ไม่กล้าเข้ามาพูดด้วยกลัวเสียงาน ดิฉันไม่ได้ว่าอะไร นั่งมองชายคนที่พูดถึงอยู่ หน้าตาก็ใช้ได้ จังหวะเขาหันมามองพอดี เขายิ้มให้ดิฉัน ดิฉันก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่ในใจคิดว่าเขายิ้มเท่ห์ดีนะ พอหลังจากวันนั้นมาดิฉันก็สังเกตว่าเขาจะมาประมาณบ่ายโมงกว่าทุกวัน มาถึงก็เดินดูปากกา ดินสอ เครื่องใช้เครื่องเขียน และยิ้มให้กับดิฉันทุกครั้งไปเหมือนกัน เป็นอย่างนี้อยู่นานเกือบเดือน จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 14 มาถึง ขณะนั้นบ่ายโมงกว่าแล้ว อยู่ๆ เขาก็มายืนอยู่ข้างหน้าเครื่องเก็บเงินแล้วยื่นช่อกุหลาบสีแดงให้ พร้อมกับยิ้มเท่ห์เสียด้วย บอกว่า
“สำหรับคุณครับ...”
ตอนนั้น ดิฉันอายเป็นที่สุด จะไม่รับคนก็มองกันเต็มไปหมด ก็เลยต้องรับมาพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณไปด้วย หลังจากนั้นเป็นต้นมาแฟนดิฉันกับดิฉันก็รู้จักและพูดคุยกัน ความสนิทสนมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเรียกว่าวันไหนถ้าไม่มายืนส่งยิ้มให้ดิฉันรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปเหมือนกัน ต่อมาเขาขอนัดทานข้าวกลางวัน แต่กฎของพนักงานห้ามออกไปทานนอกห้าง เขาก็เข้าใจ ไม่ว่าอะไร ดิฉันก็บอกว่าวันหยุดก็ได้ เขาก็ตกลง เราเลยนัดกันวันอาทิตย์หน้า เขาเลยนัดว่าจะเจอกันที่ไหน ก่อนกลับเขาย้ำว่าอย่าลืมนะ พอถึงวันอาทิตย์เราก็มาพบกันที่อนุสาวรีย์ชัยฯ วันนั้นทั้งวันเราเดินเที่ยวกันอย่างมีความสุข ความสนิทสนมทำให้เขากุมมือดิฉันตลอดเวลา ซึ่งดิฉันเองก็มีความอบอุ่นอย่างมาก เราเดินซื้อของใช้บางอย่างกันในห้างแถวนั้น ประมาณบ่ายโมงนิดหน่อยก็ทานข้าว เขาถามดิฉันว่าจะกลับเย็นได้ไหม ดิฉันก็บอกว่าถ้าไม่ดึกจนเกินปกติก็ไม่เป็นไร เขาบอกต่อว่างั้นดูหนังรอบค่ำได้ไหม ดิฉันตอบตกลง เราเลยเลือกโรงหนังที่สะดวกในการเดินทางกลับบ้านดิฉัน ระหว่างรอเวลาเราสองคนก็นั่งในห้องอาหารใต้โรงหนังเพื่อรอเวลา เขาบอกว่าเขาสนใจดิฉัน ดิฉันถูกใจเขา รูปร่างสูงใหญ่และก็สวย ดิฉันตอนนั้นฟังคำพูดเขาแล้วก็เคลิบเคลิ้มไปหมด ได้แต่ยิ้มๆ สงวนท่าทีเอาไว้ เพราะในใจของดิฉันตอนนั้นก็นึกชอบเขาอยู่เหมือนกัน เรายังคงคุยกันต่อไปอีกหลายเรื่อง ตลอดเวลาที่คุยกันเขาไม่ได้ล่วงเกินหรือลวนลามดิฉันเลย ทำให้ดิฉันพอใจเขาอยู่เหมือนกัน ทั้งในขณะดูหนังเขาก็สุภาพเรียบร้อย พอดูหนังจบแล้วก็ออกมาหาอะไรทานก่อนกลับบ้าน เขามาส่งดิฉันที่บ้านด้วยค่ะ ดิฉันอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย ใส่ชุดนอนประจำแล้วก็มานอนนึกถึงเขา กลางวันที่ผ่านมาดิฉันมีความสุขอย่างจับใจ อดใจไม่ได้ที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง ดิฉันค่อยๆ เลิกชายเสื้อนอนขึ้นมา ปกติดิฉันจะไม่ใส่ชั้นในเวลานอน พอชายเสื้อนอนขึ้นมากองอยู่ที่หน้าท้อง เนินเนื้อนูนที่หว่างขาของดิฉันก็โผล่ให้เห็น ปกคลุมไปด้วยกลุ่มขนสีดำสนิทแผ่เต็มเนินสามเหลี่ยม ดิฉันเอามือทาบทับลงไป นิ้วกลางค่อยๆ เกลี่ยและวนเวียนถูไถอยู่ที่ปากร่อง บดขยี้กับติ่งพิศวาสจนต้องครางออกมาด้วยความสยิว จากนั้นก็ค่อยๆ ถูขึ้นลงช้าๆ สลับแรงๆ จนดิฉันรู้สึกถึงความชุ่มฉ่ำที่หยาดเยิ้มจนถึงง่ามก้นของดิฉันแล้ว ในที่สุดนิ้วกลางก็จมหายลงไปในรูเนื้อหว่างขาของดิฉันจนหมด ดิฉันดึงเข้าดึงออกช้าๆ แต่ก็ควานคว้านไปมาภายในรูรอบๆ อย่างเสียวสุข ค่อยๆ ดันเข้าดึงออกเร็วขึ้นตามลำดับจนทนไม่ไหว ดิฉันถึงสวรรค์ด้วยการช่วยตัวเอง เพราะคิดถึงคนรักเมื่อกลางวันนั้นเอง คินนี้ฉันหลับด้วยอาการที่นิ้วยังคงคาอยู่ในรูเนื้ออย่างนั้นทั้งคืน หลังจากนั้นมาพอถึงเวรวันหยุดของดิฉันทีไร เราก็จะมาพบกันทุกครั้งไป จนดิฉันเองก็ยอมรับกับตัวเองว่าชอบเขา เขาเองเคยพูดเหมือนกันเรื่องของเราสองคนว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเขายินดีรับผิดชอบเอง ดิฉันก็ถามว่าอะไรล่ะ เขาไม่ตอบแต่เขาก็พูดให้รู้ว่า เขารักดิฉันมาก เรายังคงเจอกันอยู่เสมอๆ และในที่สุดวันที่ดิฉันต้องจำมาตลอดเวลานี้ก็มาถึง เป็นวันที่ดิฉันเต็มใจจะให้ความบริสุทธิ์ของฉันแก่เขาด้วยค่ะ ทำให้ดิฉันรู้ว่าของแท้มีความสุขเช่นนี้เอง ไม่เหมือนผู้หญิงด้วยกันเลย อย่างน้อยก็ทำให้ดิฉันหุบไม่ลงไปหลายวันเลยทีเดียว เกือบเป็นไข้เลยก็ว่าได้ วันนั้นเป็นเวรวันหยุดของดิฉันตามปกติ เรานัดพบกันที่เดิม แต่คราวนี้เขาบอกดิฉันว่าจะไม่ดูหนังหรืออะไรล่ะ แต่อยากอยู่กับดิฉันเงียบๆ เพียงสองคนเท่านั้น เขาพูดตรงๆ ค่ะ และก็บอกตรงๆ ดี ดิฉันก็เลยถามว่างั้นที่ไหนล่ะ บ้านดิฉันก็มีคนอยู่ เขาบอกว่าที่ห้องพักของเขาก็ได้ เขาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ค่ะ ไม่แพงสำหรับเขาเท่าไหร่นัก ตกลงเราก็เลยไปที่ห้องพักของเขา พร้อมกับซื้ออะไรไปทานด้วย มาถึงห้องพักของเขาแล้วก็ดูเรียบร้อยดีสมกับอยู่คนเดียวเป็นผู้ชายจัดห้อง สะอาดมากมารู้ทีหลังเขาเพิ่งจัดเพื่อรับดิฉันนั่นเอง เรานั่งคุยที่เก้าอี้ในห้องของเขา ครึ่งนั่งครึ่งนอนบนเตียง เขาถามดิฉันว่า
“ไม่กลัวเหรอที่มีอยู่กันเพียงสองคน...”
“ถ้ากลัวแล้วจะมาเหรอ ไว้ใจหรอกถึงได้มา...”
เขา เดินมาที่ดิฉันนั่งอยู่ ดึงตัวดิฉันให้ยืนขึ้น และก่อนที่ดิฉันจะตั้งตัวติด เขาก็กอดดิฉันทันทีเลย จูบปากดิฉันด้วย พอถอนปากออก เขาก็บอกว่า
“ผมรักคุณมากเลย...”
ดิฉันยอมรับค่ะว่าวูบวาบในอกไปหมด ไม่เคยถูกมือชายมาก่อน เขาดึงดิฉันให้มาที่เตียงนอน พอเรียบร้อยแล้วก็พูดขึ้นว่า
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ผมรับผิดชอบทุกอย่าง ขอรับรอง...”
ว่า แล้วเขาก็จูบดิฉันอีก สองมือโอบกอดดิฉันไว้ ดิฉันเองก็จูบตอบเขาเช่นเดียวกัน มือของเขาไม่อยู่นิ่งแล้ว ตอนนี้แกะกระดุมเสื้อของดิฉันที่ละเม็ด ปากก็ยังจูบกันอยู่ เราควานลิ้นเข้าหากัน ดูดดุนลิ้นของกันและกันอย่างสุดอารมณ์ใคร่ เขาแกะกระดุมจนหมด ถอดเสื้อของดิฉันออก เหลือแต่ยกทรงตัวเล็กๆ ที่ห่อหุ้มเอาไว้ไม่หมด ดิฉันรูปร่างใหญ่อยู่แล้ว เต้าก็ใหญ่ด้วย เขาถอนปากมาไซ้ที่เด้านม แล้วบอกว่า
“อกคุณสวยจังเลย อวบใหญ่ ขอผมกินนมนะ...”