เผยพฤติกรรมที่ซ่อนเร้นจากชีวิตจริงของครู"วัยสาว"
- - บ ท ที่ ๑ - -
ลัดดา สีแสงวงศ์ คือชื่อผู้มีกำเนิดเติบโตขึ้นมาในกรุงเทพมหานครนี่เอง จากครอบครัวที่มีฐานะไม่สู้จะคล่องตัวนัก เพราะเธอมีพี่น้องด้วยกันถึง ๖ คน ตามแบบฉบับของพ่อจีนแม่ไทย เมื่อเรียนจบมัธยมต้นเธอก็มีโอกาสเพียงได้เข้าศึกษาต่อในแขนงพละศึกษา ซึ่งกลับกลายเป็นผลดีต่อเธอ ในเมื่อเธอได้เปรียบในด้านหน้าตาและผิวพรรณที่งดงามอยู่เป็นทุนเดิม จากการได้ออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ยิ่งวันพลานามัยของลัดดาก็นับแต่จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทุกส่วนสัดของร่างกายอวบอัดตึงเปรี๊ยะ ใบหน้าเปล่งปลั่ง ดวงตาสุกใสเป็นประกาย พูดได้เต็มปากว่าเธอเป็นคนที่สวยที่สุดในคณะวิชาแขนงนี้...
ในที่สุดเธอก็สำเร็จการศึกษาออกมาด้วยวัยที่ไม่ครบ ๒๒ ปีดีนัก เป็นช่วงเวลาที่ความสาวของเธอกำลังบานสะพรั่งเต็มตัว หลังจากที่ได้พยายามวิ่งเต้นเพื่อหาโรงเรียนที่จะเข้าบรรจุอยู่เป็นเวลานานพอควร ในที่สุดก็ลงเอยที่รงเรียนรัฐบาลในจังหวัดหนึ่งห่างไกลจากกรุงเทพฯพอดู ซึ่งผู้อำนวยการของโรงเรียนนั้นเป็นญาติห่างๆกับครอบครัวเธอโดยมีศักดิ์เป็นลุงของลัดดาเอง
ลัดดารอคอยวันเดินทางด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น เมื่อถึงกำหนดเธอก็จับขบวนรถไฟมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนั้นทันที ด้วยความคิดที่เชื่อมั่นในตัวเองอย่างแน่วแน่ที่จะบำเพ็ญประโยชน์ในฐานะแม่พิมพ์ที่ดีของชาติ แต่ในความไร้เดียงสาต่อโลกของเธอนั้นคงคิดไปไม่ถึงหรอกว่า...เธอกำลังเดินทางไปพบกับประสพกามที่แปดเปื้อนจนเธอแทบจะเสียผู้เสียคน
นายปัญญา ทศพรสาร ผอ.วัย ๕๒ ของโรงเรียนแห่งนี้ อดีตคือนักฟุตบอลทีมชาติ เคยผ่านการศึกษาจากอังกฤษ หลังจากที่นายปัญญาสูญเสียภรรยาไปกว่า ๕ ปีแล้วก็ครองตัวเป็นโสดเรื่อยมา มีบุตรสาววัย ๒๐ ที่ไม่ค่อยจะเอาไหนนักในด้านการเรียน ชอบแต่จะแต่งตัวออกเที่ยวเตร่ แม้วัยของนายปัญญาจะล่วงเลยมาขนาดนี้แล้วก็ตาม แต่ด้วยร่างกายที่ยังแข็งแรงล่ำสันแบบมะขามข้อเดียว ศีรษะล้านเถิกใบหน้ากลม เขียวครึ้มไปด้วยหนวดเครา อันเป็นลักษณะของคนเซ็กซ์จัด โดยเฉพาะระยะหลังๆมานี่ออกจะมีพฤติการของคนตัณหากลับและค่อนไปทางซาดิสต์อ่อนๆ
มีข่าวลือหนาหูว่าบรรดาครูสาวทั้งโสดและไม่โสดมักจะตกเป็นเหยื่อตัณหาของนายปัญญาแทบจะทุกคนไป โดยใช้อำนาจหน้าที่ ผอ.เข้าบังคับ ไม่ว่าจะเป็นครูสาวที่ทำผิดวินัยหรือถูกกลั่นแกล้งหรือต้องการให้เสนอปรับขั้นเงินเดือน ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือนั้น บรรดาครูสาวเหล่านี้จะต้องยอมทอดร่างให้นายปัญญาเชยชม ตะบี้ตะบันอย่างหื่นกระหายเสียก่อน นั่นแหละทุกอย่างจึงจะสำเร็จ แต่ครูสาวบางคนเองกลับติดอกติดใจในลีลาการร่วมเพศที่รุนแรงของนายปัญญา ถึงกับหวนกลับมาทอดร่างให้เชยชมอีกโดยสมัครใจก็มี แม้กับนักเรียนสาวบางคนก็ถูกภาวะจำยอมบังคับให้ตกเป็นเครื่องระบายตัณหาของเฒ่าตัณหากลับผู้นี้
เมื่อวันแรกของการเปิดภาคเรียนเริ่มขึ้น เป็นวันที่ลัดดาตื่นเต้นที่สุดที่จะได้พบกับชีวิตใหม่ ทันใดนั้นก็มีเสมียนมาบอกว่า ผอ.เรียกเข้าพบ เธอประหม่าใจเต้นแรงในขณะที่เคาะประตูและเปิดเข้าไป ทันทีที่เข้าไปในห้องก็มองเห็นนายปัญญา ลุงห่างๆของเธอยืนยิ้มอยู่กลางห้องอย่างอารมณ์ดี
"สวัสดีค่ะคุณลุง...เอ่อ..หรือหนูต้องเรียกว่าท่านผู้อำนวยการคะ..." เธอไหว้อย่างนอบน้อม
"เอาเถอะหลาน อยู่กันตามลำพังจะเรียกลุงก็ได้... โอ้โฮ! เผลอแผล็บเดียวโตเป็นสาวแล้ว...บะ!! สวยซะด้วย มา..มา..เข้ามาข้างใน" พูดพร้อมกับเดินเข้ามาโอบไหล่ลัดดาด้วยความเอ็นดู พาตัวเดินไปที่โต๊ะ พร้อมกับหย่อนร่างอันใหญ่โตลงบนเก้าอี้นวมโดยมีลัดดายืนอยู่ไม่ห่าง
"หนูต้องขอโทษลุงด้วยนะคะ ที่ต้องเข้ามาพบทั้งชุดวอร์ม เตรียมจะสอนเด็กอยู่พอดี"
"ก็ไม่เป็นไรนี่ ครูพละก็ต้องให้มันดูทะมัดทะแมงเป็นธรรมดา...อืมม์ หนูนี่สมบูรณ์ดีมาก..." สายตาที่คมวาวของนายปัญญาโลมเล้าไปทั่วร่างอวบอัดที่ซ่อนอยู่ในชุดวอร์มเข้ารูป พร้อมกับรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย
"ประวัติการเรียนของหนู ลุงอ่านดูแล้ว พอใจมาก..." และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่นายปัญญาอธิบายให้ลัดดาฟังอย่างเป็นทางการด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและเต็มไปด้วยอำนาจ ขึ้นทุกทีจนฟังดูน่าเกรงขาม และแล้วหัวใจของลัดดาก็แทบจะหยุดเต้น เมื่อนายปัญญาพูดอย่างดุๆออกมาว่า
"ไหน..ลองถอดเสื้อออกซิ!"
"คะ?!!..." เธอตาค้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"เสื้อ...เสื้อ! ลุงให้ถอดออก!" คราวนี้เธอได้ยินอย่างถนัดหู
"ทำ..ทำไมเหรอคะ?!! ต้องให้หนูถอดเสื้อ??..." ลัดดาเริ่มหน้าซีดเสียงสั้น
"อ้าว ก็หนูเป็นครูพละไม่ใช่เหรอ? ฉันก็ต้องตรวจดูนะซิ ว่าร่างกายเธอสมบูรณ์แค่ไหน? ถ้าไม่เหมาะก็จะได้ให้ไปสอนอย่างอื่น... ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันแก่ปูนนี้เห็นมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว หนูเองฉันก็เห็นมาตั้งแต่แก้ผ้าด้วยซ้ำ...เอ้า! เร็วเข้าสิ!!!"
ได้ผล การพูดแกมบังคับทำให้ลัดดาผู้อ่อนต่อโลกคิดไปว่ามันอาจจะเป็นไปตามหน้าที่จริงๆ ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของตัวเองนั้นเต้นโครมครามแทบจะหลุดออกมานอกเสื้อ สุดท้ายเธอกลั้นใจหลับตาเอื้อมมือขึ้นมาจับซิปและรูดลงมาจนเสื้อวอร์มแบะออก จนมองเห็นเนื้อขาวเนียนที่ถูกตัดด้วยยกทรงรัดรูปสีดำ ที่ห่อหุ้มปทุมถันขาวผ่องคู่นั้นจนส่วนบนล้นขึ้นมาเป็นก้อน
"ไหน...แบะออกให้ถึงไหล่ซิ ไม่ต้องอายลุงหรอกน่า"
เขาเน้นด้วยเสียงต่ำๆ เพื่อให้เธอคลายความประหม่า ลัดดาเองน้ำตาซึมหลับตากลั้นใจเปิดเสื้อวอร์มด้วยมือทั้งสองจนถึงช่วงไหล่ ในขณะที่ลุงเจ้าเล่ห์ของเธอจ้องมองตาเป็นมัน ตั้งแต่ช่วงลำคอที่ขาวระหง ช่วงไหล่ และเนินอกที่เปล่าเปลือย หน้าท้องแบนราบไร้ไขมัน และสายตามาหยุดอยู่ที่ทรวงอกคู่นั้นซึ่งบัดนี้กระเพื่อมขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่ลัดดาจะลืมตาขึ้นก็รู้สึกว่ามือหยาบๆของนายปัญญาเอื้อมมาสัมผัสกับเต้านมข้างหนึ่งของเธอเขเาอย่างจัง รู้สึกได้ถึงพลังที่เริ่มเคล้นลงไปบนเต้าข้างนั้น จนเธอต้องสะดุ้งเฮือกใหญ่
"อ๊ะ!! ...คุณลุง...อย่า...." เธอหน้าซีดเผือดลงทันที พร้อมกับกระถดถอยหนี แต่นิ้วของนายปัญญาบัดนี้ได้ยึดเอาขอบยกทรงตอนล่างของเธอไว้
"ไม่ต้องกลัวหรอกหนู...ลุงตรวจดูเท่านั้นเอง ถึงลุงไม่ตรวจก็ต้องไปให้หมอตรวจสุขภาพอยู่ดีนั่นแหละ หมอประจำโรงเรียนก็เป็นผู้ชาย เขาก็ต้องตรวจอย่างนี้เหมือนกัน... มา..ขอตรวจอีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว"
คราวนี้นิ้วที่เกี่ยวขอบยกทรงนั้นเปลี่ยนเป็นเลิกมันขึ้นอย่างรวดเร็ว ลัดดากลั้นหายใจพร้อมกับเบือนหน้าหนีเมื่อรู้แน่ว่าบัดนี้พวงนมข้างนั้นของเธอกำลังเปลือยสล้างชูชันอยู่ต่อหน้านายปัญญาที่กำลังจ้องมองความเนียนละมุนและยอดชมพูระเรื่อ ฝ่ามือเขาลูบไล้ไปบนเต้าอันกลมกลึงนั้นเริ่มด้วยแผ่วๆและเคล้นหนักขึ้นทุกที จนเห็นว่าเธอรู้สึกอึดอัดมากขึ้น จึงตัดบทว่า
"เอาล่ะ แค่นี้แหละ ใส่เสื้อได้แล้ว ตั้งใจทำงานให้ดีเถอะนะหนู มีอะไรเดือดร้อนล่ะก้อ มาพบลุงได้ทุกเวลา"
ลัดดาเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ แม้เธอจะรู้สึกอายแทบแทรกแผ่นดินหนีและเจ็บที่หน้าอก แต่ความรู้สึกที่ประหลาดอย่างหนึ่งบังเกิดขึ้นกับเธอโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน เธอรีบขยับยกทรงให้เข้าที่ รูดซิปเสื้อวอร์มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เธอเดินออกจากห้องนั้น รู้สึกว่าสายตาทุกคู่ของคนที่อยู่หน้าห้องกำลังมองมาที่เธอเป็นจุดเดียว