ณ ร้านอาหารอิตาเลี่ยนหรูหราแห่งหนึ่งกลางย่านสุขุมวิท ผู้คนคับคั่งสรวลเสเฮฮาบรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยความสุข เพราะวันนั้นเป็นวันครบรอบวันแต่งงาน 1 ปี ของ พริมเจ้าภาพสาวแสนสวยการันตีความงามด้วยตำแหน่งมิสยูลีค เมื่อสมัยยังเป็นนักศึกษามหาวิยาลัย และท้อปหนุ่มนักบินสุดเท่ห์ ทั้งสองจึงจัดงานฉลองท่ามกลางความยินดีของเหล่าเพื่อนๆ และในวันสุดพิเศษนี้ชายหนุ่มยังได้ให้ของกำนัลแด่ภรรยาสุดที่รักเป็นแหวนเพชรเม็ดงามขนาด 3 กะรัตราคาเรือนล้าน แสงวิบวับจากเพชรน้ำงามรูปหัวใจทำเอาเหล่าเพื่อนๆของพริม ตาลุกวาวด้วยความอิจฉา
ท้อปนั้นนอกจากจะเป็นนักบินอยู่สายการบินต่างประเทศแห่งหนึ่ง เขายังมีฐานะระดับเศรษฐี ด้วยการเป็นเจ้าของธุรกิจขายและดูแลเครื่องบินส่วนตัวของเล่นของบรรดาเศรษฐีอีกด้วย ส่วนพริมไม่ใช่มีเพียงความสวยอย่างเดียว เธอจบ Marketing จากมหาวิทยาลัยด้วยคะแนนเกียรตินิยมเหรียญทองอันดับหนึ่งทีเดียว น่าเสียดายที่ไม่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาเลย เพราะสามีหนุ่มไม่ยอมให้เธอทำงานแถมให้เงินใช้มากมายเรียกว่าอยากซื้ออะไรอยากได้อะไรเป็นต้องได้ เพื่อนๆ ต่างต่างอิจฉาชีวิตของเธอทั้งนั้น งานเลี้ยงอันชื่นมื่นเลิกไปตอนเกือบเช้าวันใหม่ และแล้วต่างคนต่างก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
แต่ชีวิตของพริมสบายดีก็จริงแต่ใช่ว่าจะดีสมหวังดั่งใจของเธอไปเสียหมด เพราะช่วงไหนสามีหนุ่มต้องไปต่างประเทศคราวละหลายวันก็ทำหญิงสาวเหงาไม่น้อย เธอจึงมักก็นัดเพื่อนๆ สนิท ที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย มาเฮฮากันบ่อยๆ กลางวันก็ออกไปทานอาหารกับเพื่อนๆ ตามร้านเก๋ๆ ถ้าเพื่อนไม่ว่างมา เธอก็ต้องไปไหนมาไหนคนเดียว หรือไม่ก็เข้าสปา พริมชอบนวดตัวมาก นวดคลายเครียดแบบอโรมา มีเพลงไพเราะ มีกลิ่นหอมๆ ระหว่างที่โดนนวดมันช่างสบายดีจริงๆ ซึ่งทำเอาหญิงสาวเคลิ้มหลับลืมเวลาทุกครั้ง เธอเอาใจใส่ ดูแลตัวเอง ขัดผิว นวดตัว นวดหน้า เสริมสวย อยู่เป็นประจำ ทำให้หญิงสาวแม้นจะมีสามีแล้วแต่ด้วยใบหน้าที่งดงามปานภาพวาดของจิตรกรของเธอและผิวพรรณวรรณะที่ผุดผ่องแทบไม่มีที่ติ ผนวกกับกริยามารยาทอันงดงาม เป็นที่หมายปองของหนุ่มน้อยใหญ่ ยามอยู่ในหมู่เพื่อนๆเธอจะดูโดดเด่นกว่าใครๆ
วันหนึ่งนพดารา หรือยัยอุ๊ เพื่อนซี้ปึ๊กของพริมก็ออกปากชวนเพื่อนๆซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมดสี่คนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่อยู่ในรั้วจามจุรี ไปเที่ยวบ้านพักตากอากาศของเธอที่ชะอำกัน พริมรีบตอบตกลงทันที เพราะช่วงที่นัดนั้นตรงกับช่วงที่พี่ท้อปต้องบินไปอิตาลีพอดี และเธอรู้ดีบ้านริมทะเลของอุ๊สวยน่าอยู่และสงบมากๆ มีสระว่ายน้ำและหาดส่วนตัวเหมาะแก่การพักผ่อน เธอเคยไปพักกับพี่ท้อปมาแล้วสองครั้ง ส่วนยัยปูกับยัยดายังไม่เคยแถมทำท่าอิดออดจะไม่ไป พริมต้องลงทุนตื้อตั้งนานในที่สุดก็ต้องยอม เราตกลงไปรถกันคนละคัน โดยอุ๊ไปกับพริมไปกันก่อนวันศุกร์ ส่วนปูกับดาขอเคลียร์งานก่อนและจะตามไปให้ถึงก่อนเที่ยงวันเสาร์
เช้าวันศุกร์เบ๊นซ์ SLK สีบรอนซ์คันงามก็พาสองสาวออกจากกรุงเทพฯ อุ๊ขับตะบึงด้วยความเร็วสูงไปตามทางมอร์เตอร์เวย์มุ่งหน้าสู่ชะอำ และแล้วเวลาประมาณสิบโมงเช้าเธอก็พาพริมไปถึงบ้านพักริมหาดของเธอ รถเก๋งคันงามเลี้ยวเข้าถนนที่ปูด้วยหินกาบเข้าไปสู่หมู่รีสอร์ทส่วนตัวที่หรูหรา ที่มีแต่คนมีฐานะเท่านั้นจะมีปัญญาเป็นเจ้าของ
เดิมทีอุ๊เป็นหญิงสาวที่มาจากครอบครัวปานกลางเท่านั้น แต่ที่มามีฐานะเหนือกว่าเพื่อนๆหลายคน ก็เพราะเสี่ยฮุก สามีของเธอนั้นเป็นคนมีฐานะระดับเศรษฐี เขาเป็นชายวัย 50 รูปร่างอ้วนผิวขาว หน้าตาบ่งบอกว่าต้นตระกูลมาจากเมืองจีน เขาเป็นคนใจกว้างอารมณ์ดี เป็นเจ้าของกิจการโรงเหล็กใหญ่และมีการค้าอื่นๆอีกหลายอย่าง อุ๊พบกับเสี่ยฮุกตอนที่เธอไปสมัครทำงานเป็นพนักงานบัญชี แต่แล้วก็เหมือนเป็นโชคที่เสี่ยฮุกตกหลุมรักเธอ แรกๆอุ๊ไม่เล่นด้วย เพราะการที่สาววัยแค่ 25 อย่างเธอ ต้องเป็นเมียเสี่ยอ้วนอายุตั้ง 50 มันไม่น่ายินดีเอาเสียเลย แต่เพราะปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าทางบ้านอย่างหนักทำให้อุ๊ต้องจำใจรับรักจากเขา
ทั้งคู่แต่งงานกันไปเมื่อสองปีที่แล้วยังไม่มีบุตรด้วยกัน ชีวิตของอุ๊นั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพริมเพื่อนสนิทเลย ทว่าชีวิตสวยงามของเธอนั้นมีความลับบางอย่างที่คนนอกไม่อาจลับรู้ และสำคัญที่สุดต้องทนกล้ำกลืนที่เห็นชายคนรักเก่ามีความสุขอยู่กับเพื่อนของเธอ ใช่แล้ว…ท้อปกับอุ๊เดิมทีทั้งสองเป็นคู่รักกันคบหากันมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ต่อมาเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอได้แนะนำเพื่อนชายคนสนิทให้รู้จักกับพริม ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพราะเพื่อนสาวของเธอนั้นโดดเด่นกว่าเธอในทุกๆ ด้าน ทั้งความสวย การเรียนและฐานะ เธอจึงไม่ใช่คู่แข่งของ พริมเลย สุดท้ายเธอจึงต้องจำใจก้าวเท้าออกมาด้วยความเจ็บช้ำและเคียดแค้น มันเป็นความแค้นที่รอวันสะสาง
“อื๊ออ…ยัยอุ๊…เธอขับรถนิ่มจัง..ฉันหลับเกือบตลอดทางเลย…ฮ้าวว..ว” สาวพริมพูดพลางหาวบิดขี้เกียจ
“ก็รถชั้นน่ะ เบนซ์นี่ยะ ไม่ใช่เกวียน” อุ๊สัพยอกเพื่อน
ทั้งสองลงจากรถแล้วเปิดกระโปรงท้าย
“ลุงพัน…ชั้นมาถึงแล้ว…มาช่วยกันยกของด้วย” เธอร้องเรียกคนในบ้านให้ออกมา
สักครู่ชายหน้าตาขึงขังวัยประมาณ 40 กว่าๆ รูปร่างสันทัดแต่ก็กำยำผิวดำแดงเพราะแรงแดด สวมเสื้อกล้ามสีมอๆและกางเกงขาสั้นสีดำก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมา โดยมีชายหนุ่มวัยประมาณ 26-27 หน้าจัดว่าคมสัน สวมกางเกงขาสั้นเปลือยท่อนบน เห็นแผ่นอกกำยำและหน้าท้องที่มีมัดกล้ามเป็นลูกๆ หุ่นสูงโปร่ง แต่ล่ำๆ เกร็งๆ แบบนักมวยไทย เดินตามออกมาด้วย
“อ้าว…ป๊อด…นี่พวกเธอมากันแล้วเหรอ”
อุ๊ทักเขาด้วยน้ำเสียงแปลกๆ ชายหนุ่มพยักหน้า ทั้งสองยิ้มทักพริมแล้วช่วยกันลำเลียงสัมภาระจากท้ายรถเข้าไปในบ้านแล้วลุงพันหันไปมองพริมด้วยสายตาที่ไม่อาจเดาได้ว่าคิดอะไร
“ลุงพัน คนดูแลบ้านเธอน่ะ แกชอบมองชั้นแปลกๆ เหมือนเคยนะ…แล้วนายป๊อดนี่ใครเหรอ. หุ่นยังกะนักมวยไทยแน่ะ” พริมเอ่ยถาม
อุ๊หัวเราะเบาๆ “แกก็เป็นของแกอย่างนี้ล่ะอย่าไปถือสา…เธอเก่งนะดูออกด้วยว่านายป๊อดเป็นนักมวยไทย…หลานลุงพันน่ะมาจากร้อยเอ็ด…ชั้นจ้างให้มาคุมคนงานต่อเติมบ้าน”
พริมพยักหน้าลอยๆแบบไม่ใส่ใจ
ยามนี้หญิงสาวมีอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกตัวร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก บริเวณท้องน้อยและลามไปถึงจุดเร้นลับของเธอนั้นมันคันยุบยิบไปหมด
\"โอวว….อุ๊…อุ๊…เธออยู่ไหน…ชั้นเป็นอะไรไปเนี่ย…อูยย…ทำไมมัน…\" หญิงสาวร้องหาเพื่อนรัก
\"สงสัยพั๊นซ์จะแรงไปมั๊ง…พริม…เธอนอนพักหน่อยละกัน…เดี๋ยวฉันจะตามคนมาช่วยเธอเองนะ\" อุ๊ยิ้ม เสียงของเธอแว่วเหมือนกระซิบ
“นังพริม…วันนี้ล่ะที่ชั้นจะทำให้แกเจ็บกว่าที่แกทำกับชั้นนับสิบเท่า……ฮะๆๆ” อุ๊หัวร่อร่า
ที่พริมมีอาการเช่นนั้นก็ด้วยฤทธิ์ยา love ในน้ำพั๊นซ์ที่อุ๊ได้เสริฟให้เธอดื่มจั้งแต่เย็นตอนกินอาหารค่ำไม่ต่ำกว่าห้าหกแก้วนั่นเอง ตอนที่เธอปล่อยตัวไปกับมาร์คหมอนวดหนุ่มก็เพราะฤทธิ์ยาที่ผสมในเหล้ากัปป้าเหมือนกัน แต่เพราะดื่มไปเพียงแก้วกว่าๆ ยามนั้นฤทธิ์จึงยังไม่ออกเต็มที่ แต่ก็เพียงพอให้อารมณ์กระสันต์เพริดไปกับหนุ่มแปลกหน้า แต่เพราะหญิงสาวยังพอคุมสติอยู่จึงไม่เลยเถิดไปขึ้นขั้นสอดใส่ แต่ยามนี้ฤทธิ์ของมันได้ทวีถึงขีดสุดแล้ว สาวพริมรู้สึกหายใจขัดๆ ต้องถอนหายใจหนักๆ หลายครั้งจนทรวงอกอวบอัดกระเพื่อมขึ้นลง เธอรู้สึกปั่นป่วนที่ท้องน้อยและจุดเร้นลับจนบอกไม่ถูก อารมณ์เพศในตัวของเธอกระเจิดกระเจิงชนิดที่ว่า ยามนี้ชายคนไหน หน้าไหน ที่คนก็ได้ เธอพร้อมแล้ว น้ำเมือกธรรมชาติถูกจับออกมาหล่อลื่นโพรงสวาทจนฉ่ำไปหมด หญิงสาวเอื้อมมือไปไล้เนินสาวของตัวเองเบาๆ กรีดนิ้วกลางไปตามรอยแยกแล้วครางอูยยย อุ๊รู้อาการของเพื่อนสาวดี เธอเรียกให้ป็อดเข้ามาแล้วสั่งให้อุ้มร่างที่แทบจะหมดเรี่ยวแรงของพริมจากเก้าอี้นอนริมสระว่ายน้ำเข้าไปในห้องนอน
ไอ้ป๊อดคนเดียวก็อุ้มร่างแบบบางนั้นเดินตัวปลิว แต่ลุงพันทำทีเข้ามาช่วยด้วยจุดประสงค์บางอย่าง หญิงสาวถูกนำไปวางบนเตียงขนาดใหญ่ ห้องนอนหรูหรานั้นเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ แต่ยามนั้นเธอกลับร้อนรุ่มนัก เหงื่อผุดเป็นเม็ดๆไปทั้งสรรพางค์กาย อากาศมิได้ร้อนทว่าที่เธอร้อนมันเป็นความร้อนด้วยไฟราคะ
“อูยยย…ทำไมร้อนเหลือเกินนะ”
มือเธอเปะปะทึ้งเสื้อตัวเองเหมือนอยากจะถอดออกให้พ้นๆ ไป และแล้วเสื้อผ้าชีฟองยี่ห้อกุชชี่ตัวหรูก็ถูกถอดออกและเหวี่ยงไปที่ปลายเตียง ทำให้ร่างงามระหงหญิงสาวอยู่ในสภาพเกือบเปลือย ท่อนบนมีเพียงยกทรงลูกไม้ตัวจิ๋วสีไข่ไก่ที่ปกปิดปทุมถันที่ขาวราวกับไข่ปอกขนาด 35 นิ้วแทบไม่มิด ท่อนล่างสวมกางเกงผ้า พริ้วบางเบา มีแนวผ่าสูงถึงต้นขา เนื้อผ้ามองทะลุจนเห็นเนื้อต้นขาอันขาวเนียน หญิงสาวอยู่ในสภาพที่เหมือนนางแบบในหนังสือนู๊ดอย่างไรอย่างนั้น
ไอ้ป๊อดและลุงพันมองร่างหญิงสาวที่สวยระดับนางงามที่นอนหายใจระทวยอยู่บนเตียง กลืนน้ำลายเอื๊อก ท่อนควยเขื่องของสองลุงหลานแข็งปั๋งตนปวดหน่วง จนต้องเอามือบีบ ทั้งคู่หันมามองหน้ากันเหมือนตกลงอะไรสักอย่าง แล้วสองลุงหลานก็แก้ผ้าตัวเองออกจนล่อนจ้อน ท่อนควยขนาดเขื่องหัวบานเป็นดอกเห็ดของทั้งคู่ตั้งลำตระหง่านผงกหัวอวดความใหญ่ยาว และแข็งแรงราวกับทำด้วยไม้ ขนาดท่อนเอ็นของลุงหลานคู่นี้คงเป็นกรรมพันธ์เพราะความใหญ่ยาวนั้นดูกันไม่ออกว่าของใครใหญ่และยาวกว่าใคร แต่ที่แน่ๆ มันมีขนาดอวบใหญ่พอๆ กับข้อมือเด็กทีเดียวแล้วแยกกันเดินไปคนละฟากของเตียง
บริเวณด้านข้างของเตียงก็ยวบลงเพราะมีน้ำหนักของคนที่ก้าวขึ้นมาทั้งสองด้าน ในแสงไฟสลัวๆนั้น พริมผงกหัวขึ้นมอง เธอพอจะมองเห็นร่างกำยำของชายฉกรรจ์สองคนที่กำลังประชิดเข้ามาทั้งสองด้าน แต่สติที่กำลังตกอยู่ในฤทธิ์ยากล่อมประสาทกำลังมึนงงทำให้สายตามองไม่ใคร่ชัด
“ใครน่ะ…อูยยย…ทำไมร้อนอย่างนี้…เปิดแอร์ให้ที”
เสียงของเธอแผ่วเบาแต่เซ็กซี่เหลือเกิน สิ้นเสียง เธอก็ทำให้สองลุงหลานตะลึงเมื่อเธอเอื้อมมือปลดตะขอเสื้อชั้นใน แล้วค่อยๆ ถอดออก ปทุมถันงามเนื้อแน่นแต่งตึงเด้งดึ๋งออกมาทันทีเมื่อได้รับอิสรภาพ แล้วเธอเหวี่ยงเสื้อชั้นในตัวหรูไปที่หน้าห้องน้ำ ลุงพันมองที่จะงอยทับทิมแดงใสป้านนมสวยได้รูปแล้วกลืนน้ำลาย มันปราดเข้าประชิดแล้วก้มลงดูดจะงอยหัวนมนั้นทันทีอย่างหื่นกระหาย ไอ้ป๊อดเห็นอย่างนั้นก็คว้ามือตะโบมอีกข้างที่เหลือ แล้วก้มลงดูดบ้าง ลุงพันกระชากกางเกงแพรบางของหญิงสาวออกจากร่าง เนินเนื้ออูมฟูมเกือบจะปรากฎแก่สายตาของพวกมัน มีเพียงกางเกงในลูกไม้บางๆ กั้นอยู่เท่านั้น
ที่ห้องนั่งเล่นซึ่งติดกับห้องนอนนั้นมีเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ บรรดาคนงานก่อสร้างที่ล้วนเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์อีกถึง 8 คนถูกอุ๊สั่งให้ขึ้นมารวมกัน เธอบอกพวกมันไว้ตั้งหลายวันแล้วว่าจะมีเหยื่อดีๆ มาให้พวกมันจัดการ ซึ่งพวกมันถอดเสื้อกางเกงของตัวออกออกเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว บางคนก็นั่งดูหนังโป๊และสาวว่าวไปด้วยเพื่ออุ่นเครื่อง มีเสียงเถียงกันเซ็งแซ่ว่าใครก่อนใคร
“เข้าไปทีละสองแล้วกันนะ…เผื่อนังคนสวยมันดิ้น…ต้องจับคนนึง…เย็ดคนนึง”
ไอ้มิ่งเสนอความเห็น ซึ่งพวกมันก็เห็นว่าเข้าที จึงตกลงจับคู่กันเข้าไปทีละสองคน ส่วนคู่ใครก่อนก็ให้วัดที่ความใหญ่ของลำลึงค์ แน่นอนว่าคู่ไอ้สมนึกกับไอ้มิ่งพี่น้องร่างบึกได้ยืนหัวแถว เพราะขนาดควยของมันนั้นกินขาดทุกคน ด้วยขนาดที่อวบหนาขนาดมือผู้ใหญ่กำไม่รอบและยาวถึง 7 นิ้วครึ่งแถมปูดโปนด้วยเส้นเลือด ส่วนไอ้มิ่งถึงขนาดจะย่อมกว่าพี่ชายเล็กน้อยแต่ความใหญ่ยาวก็ไม่เป็นรอง คู่ของไอ้ทิมและไอ้โทนคนงานก่ออิฐคือคู่สุดท้าย ถึงจะเล็กกว่าเพื่อนแต่ท่อนควยพวกของมันทั้งก็เกินมาตรฐานชายไทย มันทั้งสองเพียงแค่เล็กกว่าเพื่อนกลุ่มนี้เท่านั้นเอง แถมไอ้โทนยังมีของเด็ดที่รอให้หญิงสาวลิ้มลองนั่นคือเม็ดมุกสี่เม็ดที่เรียงประดับรอบท่อนลำ
เมื่อนับจำนวนชายฉกรรจ์ที่รอเรียงคิวสาวพริมได้อีก 4 คู่พอดี
อนิจจา คุณพริมสาวไฮโซคนสวย รอบบ่ายเธอได้เผลอใจให้มาร์คหมอนวดหนุ่มลูกครึ่งที่หล่อปานเทพบุตรล่วงเกินภายนอกไปแล้วครั้งหนึ่ง แม้จะเข้มแข็งไม่ยอมทอดตัวให้เขา แต่รอบดึกเธอก็ไม่พ้นต้องรับศึกหนักเป็นเหยื่อบำบัดความของบรรดาคนงานก่อสร้างไทยแท้ๆ ที่ทั้งกักขฬะ เนื้อตัวสกปรกและหื่นกระหายในกามอีก เพียงวันเดียวเรือนร่างที่น่าทะนุถนอมและสวยสพรั่งราวกับนางงามต้องตกเป็นของชายถึง 8 คน หากสามีของเธอรู้เข้าจะเป็นอย่างไร
“ถ้าท้อป ได้ดู ภาพจาก VCD ถ่ายตอนแกดูดควยให้ไอ้หมอนวดจนแก้มตอบเมื่อบ่าย…เขาจะคิดยังไง” อุ๊รำพึงกับตัวเองแล้วยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
“แล้ว VCD ที่แกกำลังจะโดนพวกกรรมกรรุมอีกล่ะ”
อุ๊หัวเราะร่าก่อนที่จะเดินผ่านกลุ่มคนงานที่แก้ผ้าล่อนจ้อนในห้องนั่งเล่นอย่างไม่สะทกสะท้าน
“คุณอุ๊ครับ…วันนี้สวยจังครับ…ไม่หยุดคุยกับพวกเราหน่อยเหรอครับ” ไอ้สมนึกร้องทัก
อุ๊หันมามองหน้าสมนึกก่อนที่จะละสายตาไปที่ท่อนเอ็นเขื่องกลางหว่างขาของมันที่เจ้าของจงใจเกร็งกระดกหัวงึกงักทักทาย เธอยิ้มให้มัน ร่างงามเดินเข้าไปประชิดร่างบึ้กเปลือยเปล่าที่เหม็นสาบด้วยเหงื่อไคลของไอ้สมนึก
“สมนึกแกคงเป็นคนแรกสินะ…ดีแล้วให้แกนำร่องก่อน…เพื่อนแกหลังๆจะได้เอาง่ายๆ เพราะอีนังพริมเนี่ย รับรองว่าแน่นหนึบเหมือนไม่เคยโดนเลย”
“โอโห ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ไอ้สมนึกร้อง พวกเพื่อนกรรมกรเป่าปากกันใหญ่ “อ้อ…แล้วอย่าลืม…ไม่ต้องใส่หรอกนะถุงยางกันนะ น้ำแตกข้างในมดลูกมันไปเลย” อุ๊ย้ำ
“อันนี้แน่นอนอยู่แล้วครับ…รับรองคืนนี้น้ำพวกผมท่วมมดลูกเพื่อนคุณอุ๊แน่” ไอ้มิ่งบอก
“ดี” อุ๊ยิ้มมุมปากอย่างสะใจ
เธอเอื้อมมือขวาโน้มคอไอ้สมนึก แล้วเผยอบางเป็นกระจับประกบกับริมฝีปากดำหนาเพราะดูดบุหรี่จัดของมัน ทั้งสองดูดปากแลกลิ้นเป็นพัลวันจนเพื่อนกรรมกรฮือฮา มือซ้ายเรียวขาวแบบผู้ดีมีเงินแถมมีแหวนเพชรแต่งงานเม็ดเขื่องประดับที่นิ้วนาวของเธอป่ายปะไปตามกล้ามหน้าอก ท้องแกร่งและละเรื่อยลงไปที่ท้องน้อยของมันก่อนที่จะกำท่อนเอ็นใหญ่ไว้ในมือ บีบด้วยความมันเขี้ยวแล้วรูดกระทอกช้าๆ จนไอ้สมนึกครางอูยย
“นึก…แกเอานังพริมเสร็จแล้วขึ้นมาหาชั้นนะ…” เธอกระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงเหมือนเว้าวอน
“ มิ่ง…แกด้วย…เก็บไว้ให้ชั้นบ้าง” เธอมองไปทางไอ้มิ่งแล้วปรายตามองท่อนลึงค์ที่แข็งตัวเต็มที่ในมือของมัน ไอ้มิ่งพยักหน้ารับอย่างยินดี
“ส่วนพวกแก จะเอานังพริมอีกกี่ทีก็ได้…กว่าฤทธิ์ยาจะหมด…ชั้นว่ามันคงนอนแบให้พวกแกเอาได้ยันเช้าสบายๆ” ตอนหลังนี่น้ำเสียงของเธอเฉียบขาด
สิ้นเสียงสั่งร่างสะโอดสะองก็ทรุดตัวคุกเข่าลงต่อหน้าไอ้สมนึก มือของเธอรูดถอกท่อนเอ็นขนาดเท่ากระบอกไฟฉายเสียงดังฟุบฟับ ดอกเห็ดสีม่วงบานเป็นมันมีคราบขี้เปียกเกาะเขรอะ เพราะไอ้สมนึกแทบไม่เคยล้าง กลิ่นคาวแรงโชยเตะจมูกหญิงสาวกระตุ้นให้อารมณ์ลุกโชน สายตาของพรรคพวกที่เหลือที่จ้องอยู่ต้องตะลึง เมื่อนายสาวคนงามอ้าปากแลบลิ้นออกมาตวัดเลียใต้คอหยักก่อนที่จะครอบหัวบานร่าเป็นดอกเห็ดนั้นจนหมด ท่อนเอ็นใหญ่ถูกขย้อนเข้าไปในปากบางจนตุงกระพุ้งแก้มโดยไม่รังเกียจ ไอ้สมนึกหลับตาคราง
“อูยยย…ซี๊ด…ด…คุณอุ๊…โอววว”
ไอ้กรรมกรหนุ่มกัดฟันเบ้ปากเสียวหัวล่างวาบๆๆ เมื่อท่อนเอ็นของมันเข้าไปจนสุดคอหอยของหญิงสาว เธอดูดอย่างแรง รูดเข้าออกในปากห้าหกครั้งก่อนจะถอนออกเสียงดัง “จ๊วบ…บ” เธอมองเอ็นใหญ่ในมือที่ตอนนี้สะอาดเกลี้ยงเกลาอย่างเสียดาย แล้วก็ลุกขึ้นหันหลังเดินเข้าห้องนอนที่พริมกำลังอยู่ในเงื้อมมือของลุงพันกับหลาน ไอ้สมนึกกับไอ้มิ่งสองพี่น้องยิ้มอย่างลิงโลด เพราะรู้ดีว่าทุกครั้งที่พวกมันขึ้นไปปรนเปรอสวาทให้กับนายสาว พวกมันได้ทิปเป็นค่าเหนื่อยเป็นเงินไม่น้อยเลย
“ลุงพัน… ป๊อด… แกสองคน จะทำอะไรน่ะ ”
เสียงอุ๊แหลมขึ้นมา เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องนอนเห็นสองลุงหลานกำลังดูดเลียสองเจ้าของพริมอยู่ ทั้งสองชะงัก
“เอ่อ..ผมคิดว่า..เออ…” ลุงพันตะกุกตะกัก
“ชั้นให้แกอุ้มนังพริมเฉยๆ นังนี่มันต้องโดนไอ้พวกกรรมกรมันรุมก่อน…แต่ถ้าแกสองคนอยากนะ… ก็ไปขอต่อคิว”
“ครับ”
ทั้งสองก้มหน้างุด เดินไปหยิบเสื้อผ้าและเดินทำท่าจะออกไปจากห้อง
“เรียกสมนึกกับมิ่งเข้ามาได้เลย”
ลุงพันพยักหน้ารับคำสั่งก่อนทั้งสองจะเดินออกไปด้วยความรู้สึกเสียดายสุดๆ อุ๊สั่งเสร็จก็จัดการเดินกล้องที่ตั้งไว้ตามมุมต่างๆทั้ง 3 ตัว เธอกะถ่ายทำชนิด 3 มุมกล้องแล้วเอาไปตัดต่อเป็นหนังเลยทีเดียว ไอ้สมนึกและไอ้มิ่งเดินเข้ามา
“ไหนครับคุณอุ๊ เมียผมคืนนี้” ไอ้สมนึกร้องถาม
“นั่นไง… รอพวกแกอยู่บนเตียงแล้วจัดการเลย… เอาให้ทุกท่าเลยนะ” เธอบอกมัน แล้วเดินออกไปอย่างไม่ไยดี
“โอ้ โห…. อีนางเอ๋ย….ขาวอย่างกับหยวก…งามแท้ๆ…วันนี้กูจะเย็ดให้เอวเคล็ดเลยมึง…ซูดดด”
ทั้งไอ้สมนึกและไอ้มิ่งส่งเสียงอุทานและซูดปากพร้อมๆกัน เมื่อเห็นเหยื่อสาวนอนอยู่บนเตียงหนานุ่มในลักษณะเกือบเปลือย สวมเพียงกางเกงในลายลูกไม้เท่านั้น หน้าอกงามสล้างขนาดฝ่ามือผิดไม่มิดกระเพื่อมเป็นจังหวะขึ้นลง เกิดมามันทั้งสองไม่เคยเจออะไรสวยขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
“เฮ้ย กูก่อนนะ” ไอ้สมนึกบอกไอ้มิ่ง มันพยักหน้า
“กูช่วยจับละกัน” ไอ้สมนึกไม่ขัดน้องชาย
มันปีนขึ้นเตียง ร่างใหญ่กำยำคร่อมไปบนตัวของหญิงสาว มือทั้งสองข้างตะโบมไปบนหน้าอกที่แน่นและขาวราวกับงาสลัก และอ้าปากดูดเม็ดทับทิมบนยอดอกอย่างตะกละ ยามนี้พริมออกอาการกระสับกระส่าย ตาปรือ
“อูยยย… ใครคะ….พี่ท๊อปเหรอ….พริมเสียวจังเลย โอววว”
ในสติอันลางเลือน เธอนึกว่าผู้ที่กำลังล่วงเกินอยู่นั้นคือสามีสุดที่รัก เธอกางแขนโอบกอบร่างกำยำนั้นและลูบไล้ไปมา ไอ้สมนึกได้ใจ พลางโลมเลียหญิงสาวตั้งแต่หน้าอกจรดซอกคอและประกบปากแลกลิ้นกับเธออย่างเมามัน ท่อนลำขนาดกระบอกข้าวหลามทิ่มแทงกลางลำตัวของหญิงสาวบริเวณของสงวนเป็นจังหวะ มือบางอ้อนแอ้นเลื่อนไปคว้ามากุมกำไว้และกระทอกเล่นอย่างมันมือ
“อูยยย…ใหญ่จังเลย.. ท๊อปขาาา”
หญิงสาวขาดสติจนไม่รู้แล้วว่าใครเป็นใคร การเอ่ยชื่อสามีออกมานั้นเป็นเพียงจิตใต้สำนึกเท่านั้น
“โอยยย …ซี๊ดดด..ให้มันได้อย่างนี้สิ กูไม่อยากเย็ดคนหลับไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว”
ไอ้สมนึกยิ้มย่องเมื่อเหยื่อสาวที่มีอาการคล้ายคนละเมอ ตอบสนองเพราะนึกว่ามันเป็นสามีของเธอ มันพลิกตัวลง เขยิบไปนอนพิงหมอนที่หัวเตียง แล้วจับให้หญิงสาวนอนคว่ำ
“ดูดควยให้ผัวหน่อย เมียจ๋า” มันสวมรอยเป็นสามีของเหยื่อสาว
พริมหน้าแดง ตาเยิ้มฉ่ำ มันดึงเธอเข้ามาหา มือของเธอที่กำท่อนควยขนาดกำไม่รอบนั้นรูดควยของมันขึ้นๆ ลงๆ แล้วอ้าปากกว้างครอบหัวบานแล้วอมเข้าไปจนหมดเงี่ยง เธอถอนปากเข้าออก แล้วดูดเบาๆ ไอ้สมนึกหลับตา ปากคราง “อูยยยย”
เบื้องล่าง ไอ้มิ่งบรรจงถอดกางเกงในลูกไม้ของเธอออก แถมหญิงสาวยังขยับสะโพกเหมือนช่วยให้ถอดง่ายขึ้น
“อื้อฮือ”
มันครางเมื่อเห็นก้นกอยเนื้อแน่นที่ขาวเนียนราวกับแก้มทารก มันก้มลงจูบที่แก้มก้น ก่อนที่จะใช้หัวแม่โป้งทั้งสองแหวกดูร่องรักของหญิงสาว
“โอยยย กู ซี๊ดดด”
มันร้องอย่างลืมตัว เมื่อเห็นร่องรูแดงที่ฉ่ำด้วยน้ำเมือกใสของหญิงสาว ช่องทางสวรรค์นั้นงดงามราวกับเป็นของเด็กสาวๆ ที่ไม่เคยผ่านควยชายใดมาก่อนเลย รูก้นของเธอก็สีชมพูดูน่าเลียนัก มันทนไม่ไหมก้มหน้าซุกและแลบลิ้นเลียทั้งรูก้นและช่องทางสวาทอย่างอร่อยลิ้น หญิงสาวสะดุ้งด้วยความเสียว
“อูยยย ซี๊ดดด อย่าค่ะ เสียววว”
ไอ้สมนึกเบ้หน้าครางอูยๆ เสียวหัวควยเพราะการดูดเลียของเธอ สักพักก็พลิกร่างของพริมให้นอนหงาย
“ขอกูเลียหีหน่อยซิ”
มันจับขาทั้งสองแหวกออก แล้วก็ต้องตะลึงกับเครื่องเพศของหญิงสาว สองกลีบขาวนั้นบีบแน่นเป็นพูราวกับกลีบส้มโอ เนื้อเนินเนียนไร้ตำหนิ ขนหมอยมีเพียงรำไรที่เนินและข้างขอบแคม ช่างอิ่มเอิบงดงามราวกับของเด็กสาวไม่มีผิด