เรื่องมันเกิดเมื่อนานมาแล้วครับ หลังจากที่เกิดมามันก็ทำให้ความรู้สึกต่อกัน
เปลี่ยนแปลงไปด้วย ความสัมพันธ์ระหว่าพี่น้องมันก็เปลี่ยนไปอีกแง่มุมหนึ่ง
ลึกซึ้งแนบแน่นกว่าเดิมแต่ก่อนเราก็อยู่กันแบบพี่สาวจอมเฮี๊ยบ
กับน้องชายอีกคนที่อยู่ในโอวาทมาตลอด...
ผมเองน่ะก็เด็กวัยรุ่นอายุสิบแปดทั่วไปน่ะครับ หน้าตาก็คงพอใช้
มีเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่ไปเที่ยวกันสนุกสนานเฮฮา แต่ยังไม่เคยถึงกับจะกอดจูบ
ลูบคลำใคร เรื่องไปเที่ยวน่ะลืมไปเลยครับได้เงินค่าขนมค่าใช้จ่ายมาก็เก็บ
ไว้ซื้อพวกสมุดหนังสืออุปกรณ์การเรียนเสียเป็นส่วนใหญ่
ที่เหลือก็เจียด ๆ กันในหมู่เพื่อนฝูงไปซื้อหนังสือประเภทโป๊เปลือยมาแบ่งกันดู
แต่ถ้าถึงกับ XXX ก็ต้องเอาไปรวมไว้ที่บ้านเพื่อนคนหนึ่งที่ฐานะดีครับ
เรียกว่าเป็นศูนย์รวมของผองเพื่อนเลย...
เพราะมันมีห้องหับส่วนตัวที่มิดชิดและสะดวกปลอดโปร่ง พวกเราเลยไปซ่องสุมกันทุกเดือน
ที่หนักที่สุดก็คือการสำเร็จความใคร่ (ก็ว่าวนั่นแหละ) แข่งกันว่าใครจะไปไกลที่สุด
แต่ไอ้ความที่กลุ่มนี้เป็นเด็กที่ค่อนข้างเรียบร้อย และขยันเรียนกันส่วนใหญ่
กิจกรรมของพวกเราก็อยู่แค่นั้น ส่วนมากจะไปนั่งดูหนังสือทำการบ้านกันมากกว่า
ก็เพราะพี่สาวของบรรดาหัวโจกกลุ่มสองสามคนนี่น่ะจอมเฮี๊ยบเลยครับ
ถ้าบอกว่าไปดูหนังสือบ้านเพื่อนละก็ พอถึงบ้านเป็นได้เรียกดูสมุดทุกที
ถ้าไม่มีความคืบหน้าละก็ฟ้องแม่ครับ ทีนี้ละหูได้ชากันมั่ง
พวกเราก็เลยขยันกันส่วนใหญ่ มีหนังสืออย่างว่าเป็นส่วนประกอบพอให้ตื่นเต้นเป็นครั้งคราว
ไอ้วันที่เกิดเรื่องน่ะ มันเป็นวันหยุดครับ ปลาย ๆ กุมภาพันธ์แล้ว โรงเรียนก็ปิดเทอม
อากาศก็เริ่มอ้าว ๆแล้ว ตอนบ่าย ผมก็ไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ กลับมาบ้านก็เกือบหกโมง
เห็นพ่อขยับรถมาหน้าบ้านก็รู้ว่าคงไปงานเลี้ยงกันอีก น้องชายอีกคนก็ไปค้างบ้านเพื่อนครับ
ไม่รู้ว่าจะมีกิจกรรมแข่งขันแรงฉีดกันเหมือนผมหรือเปล่า แต่ก็ช่างมันเถอะครับ
ที่สำคัญคือคืนนี้ไม่มีรายการทีวีที่น่าสนใจเลย คงเซ็งน่าดูกว่าจะหลับ เย็น ๆ แล้วอากาศก็ยังอ้าว ๆ
พออาบน้ำเสร็จผมเลยใส่กางเกงกีฬากับเสื้อยืดตัวโคร่ง ๆ แค่นั้น จะได้เย็นสบาย
ชายเสื้อมันก็ยาวจนคลุมง่ามขาลงไปคงไม่มีใครเห็นถ้าเจ้าหนูของผมมันจะ
แกว่งไกวอะไรไปบ้าง ลงมานั่งกินข้าวก็เจอจอมเฮี๊ยบนั่งอยู่ก่อนแล้วแหละครับ
"นึกว่าจมน้ำตายแล้วนะนายโจ"
พี่สาวเปิดฉากบ่น "อาบน้ำอะไรนานนักหนายะ"
"ขัดจรวดน่ะพี่" ตอบแบบกวน ๆ
ก่อนก้มหลบผ้าเช็ดปาดที่ปลิวตามแรงมือข้ามโต๊ะมา
"ก็ไปเตะฟุตบอลมาน่ะ เหงื่อเต็ม สระผมด้วยก็นานหน่อยแหละ พ่อ กะแม่ล่ะ"
ผมรีบอธิบายก่อนที่จะโดนสวดแล้วลงมือคดข้าวใส่จานส่งให้พี่สาวที่เคารพ
เสียก่อนที่จะตักของตัวเอง แล้วลงมือจัดการอาหารเย็น
"ไปงานเลี้ยงน่ะ กลับดึก.." พี่สาวตอบเรื่อย ๆ
"เหรอฮะ.. วันนี้ไม่มีอะไรดูเลยเนอะพี่"
ผมพูดเรื่อย ๆ พลางกวาดเสายตาไปมา
วันนี้จอมเฮี๊ยบใสชุดนอนแบบชิ้นเดียว เป็นผ้าบาง ๆ คอปาดกว้างหน่อย คงร้อนเหมือน
กันแหละ ถันคู่ในเสื้อมันดันเสื้อออกมาตุง ๆ ผมเคี้ยวข้าวไปก็พยายามพิจารณา
ว่า จอมเฮี๊ยบใส่บราหรือเปล่า แต่ก็ถึงสะดุ้งตอนที่โดนแหวเข้าให้
"แกจะมองอะไรชั้น ..เดี๋ยวพ่อแม่กลับมาชั้นจะฟ้องให้"
"เปล่าน่า โจ แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นแหละ"
ผมก็ต้องปฏิเสธอยู่แล้ว ขืนรับตรง ๆ มีหวังหูเหอพัง
"แต่ว่านะคืนนี้ไม่มีอะไรดูเลยเนอะ แล้วกว่าพ่อกะแม่จะกลับมาตั้งดึกแน่ะ"
"นั่นซิ"
เสียงพี่เขาอ่อนลงหน่อย คงจะเริ่มเชื่อแหละ
"งั้นเล่นสแคร็บเบิ้ล กันดีกว่า"
"ก็ได้ ดีกว่านั่งดูรายการเซ็ง ๆ เยอะ"
ตกปากรับคำ ก็พอดีอิ่ม เราช่วยกันเก็บโต๊ะอาหาร
ล้างจานเรียบร้อย ก็ช่วยกันดูแลผิดหน้าต่าง ประตูชั้นล่าง แล้วขึ้นไปบนห้อง
พี่เขาแหละเพราะว่าเตียงเขาใหญ่กว่าเตียงผมน่ะ นั่งเล่นกันสบาย ๆ
ต่างคนต่างนั่งขัดสมาธิบนเตียงเลย...
เรื่องเล่นสแคร็บเบิ้ลนี่ ผมกะพี่เขาก็พอฟัดพอเหวี่ยงกันแหละครับ ได้แต้มสูสี
แต่วันนี้ผมไม่ค่อยจะมีสมาธิเท่าไรเลย ก็เวลาพี่เขาก้มลงมาเรียงอักษร
บนกระดานนี่น่ะ คอเสื้อนอนมันก็ย้วยลง เห็นเนินขาว ๆ เนียน ๆ ทำเอาผม
นั่งจ้องเขม็ง จนกว่าเขาจะเรียงตัวเสร็จนั่นแหละ
ผมถึงกลับมาดูกระดานแล้วเล่นต่อ แต่ก็รีบ ๆ เล่นให้เสร็จ ๆ
จะได้คอยดูตอนพี่เขาก้มลงมาเรียงอักษรต่อ
แล้วก็เพราะชุดนอนเขาเป็นชุดกระโปรงแล้วก็ยาวแค่ต้นขานี่แหละ
เวลานั่งขัดสมาธิจึงต้องรวบชายกระโปรงไปยัดไว้ตรงช่วงหว่างขา
คราวนี้ชายกระโปรงมันก็รั้งขึ้นซีครับเห็นขาขาว ๆ อวบ ๆ บางจังหวะ
พี่เขาเผลอก็พอเห็นเข้าไปข้างใน เล่นไปได้สักพักผมก็สรุปได้ว่า
พี่กับผมแต่งตัวเหมือนกันคือไม่ใส่ชั้นในทั้งคู่...
ดูไปดูมามันไพล่ไปนึกถึงหนังสือเรทสูงที่เคยดูกับผองเพื่อนมาน่ะครับ
คราวนี้ก็ดูไปจินตนาการไปด้วย ดูเพลินสักครู่ก็รู้สึกว่ามันชักมืดมากแล้ว
ผมก็ลุกขึ้นจะไปเปิดไฟชั้นล่างแล้วจะรีบกลับมาดูต่อ
เอ๊ยมาเล่นต่อ แต่พอลุกขึ้นซีครับ ผลจากการที่ดูเพลิน ๆ
ทำเอาไอ้หนูของผมแหละตึงเกร็งดันกางเกงออกมาเป็นกระโจม
ที่สำคัญคือ จอมเฮี๊ยบก็เห็นแล้วซิครับ...
"นายโจ.. " เรียกเสียงเข้ม
"อะไรของแกน่ะ" ผมถึงกับคอเหนียวเลย
"เอ่อ.. ไม่มีอะไรหรอกพี่.. เดี๋ยวไปเปิดไฟข้างล่างก่อนนะพี่ "
"เดี๋ยวซิ มันต้องมีซิ แกเอาอะไรไปไว้ คิดจะเล่นโกงเหรอ"
เรียกจนผมต้องชะงัก
"เปล่าน่าพี่เจน ไม่มีหรอกน่า เดี๋ยวเปิดไฟแล้วขึ้นมาเล่นต่อนะ"
ผมรีบบอกพร้อมกับเตรียมพุ่งออกไปนอกห้อง
"ยังไม่ต้องหรอก นายโจมานี่เลย แกคิดจะเล่นโกงฉันเหรอ
ยังอีก มานี่ไม่งั้นฉันฟ้องพ่อด้วยว่าแกเล่นโกง"
คราวนี้หน้าตาเอาจริงด้วยซีครับ
นี่พี่เขาคงนึกว่าผมโกงเอาตัวสแคร็บเบิ้ลไปซ่อนกระมัง ตัวอักษรตัวนิดเดียว
ไหงจะดันกางเกงจนตุงได้ขนาดนี้ แต่หน้าตาพี่เขาจริงจัง ผมไม่อยากนั่งฟัง
พ่อกะแม่บ่น เลยจำต้องเดินเข้าไปหาแล้วหยุดยืนข้างเตียง
ใจนึกด่าไอ้หนูของตัวเองที่มันยังแข็งขันไม่ถูกเวล่ำเวลา ทั้ง ๆ ที่ผมกลัว
พี่เขาจะเอาไปฟ้องพ่อจะตาย มันก็ยังมีหน้าแข็งอยู่อีก
"มาดูซิ เอาอะไรไปซ่อนไว้"
พี่เขาคงจะจับโกงผมให้ได้เลยคว้าหมับเข้าให้ มือขาว ๆ จับเข้าเต็มที่กำ
เอาเต็มลำเลยครับ พี่เขาหยุดตะลึงปากอ้านิดหน่อย
ไอ้หนูโดนมือที่ไม่ใช่มือผมเข้ามันเหมือนกับจะพองขึ้นอีกแล้วยังรู้สึก
ว่ามันเต้นตุบ ๆอยู่ในมือพี่เขาด้วย พี่เขากลืนน้ำลายลงคอหน้าแดงแจ๋เลย
แต่มือยังกำอยู่ จนผมรู้สึกอุ่น ๆ ขึ้นมา
ตอนนี้เจ้าหนูเหมือนจะเบ่งบานขึ้นเต็มที่แล้วครับ
"อะไรเนี่ย โจ.."
"ก็..ของ.. เอ่อ.. ของอะไรดี.. ของ..ผม แหละพี่"
ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง รู้แต่ว่าความเสี่ยงที่จะโดนฟ้องพ่อแม่ชักสูงขึ้น
และถ้าโดนฟ้องละก็ เรื่องใหญ่แน่นอน
"ขอดูได้ป่าว เราเคยเห็นแต่ในหนังสือ อยากเห็นของจริง"
"บ้าซิ เดี๋ยวพี่ฟ้องพ่อ"
ผมหลุดปากไปเท่ากับเปิดช่องให้จอมเฮี๊ยบรุกฆาตตัวเอง
"ถ้าไม่ให้ดู ฉันฟ้องพ่อแน่ แกถอดกางเกงให้ฉันดูเดี๋ยวนี้เลย"
อุแม่เจ้าโวย พี่เขาสั่งยังกะว่าผมเป็นตัวแกแหละ
ผมมองหน้าแก เห็นหน้าแดงเลยครับ แต่สายตามันบอกว่าถ้าไม่ทำตามที่สั่ง
มีหวังโดนฟ้อง แน่นอน แต่ผมก็ยังลังเลอยู่ล่ะครับ ก็อายนี่ครับ
ถ้าเป็นเพื่อน ๆ กันก็ว่าไปอย่างเพราะพวกเราเคยถอดกางเกงมาเปรียบเทียบ
กันสนุก ๆ อยู่แล้ว แต่คราวนี้พี่สาวผมเองนะครับ
"จะถอดมั๊ยถอด" เสียงแหวเลย แล้วก็ปล่อยมือจากเป้ากางเกง
เจ้าหนูผมก็กระดกหงึก ๆ ดันกระโจมกางเกงนั่นหงึก ๆ ไปด้วย
"ถอดแล้วไม่ฟ้องพ่อแน่นะ พี่เจน" ผมถามยำอีกที
"แน่ซิ" เสียงพี่เขารับปาก
ผมก็ตัดสินใจละครับ เอาตัวรอดก่อน อย่างน้อยพี่เขาก็ไม่เคยโกหกผมเลย
ผมก็หลับหูหลับตา รูดเอวกางเกงนั่นพรืดเดียวหลุดไปถึงเข่าแล้วยืนขึ้นกอดอก
แต่ยังหลับตาด้วยความอายสุดขีด ความรู้สึกรู้ว่าไอ้กางเกงนั่นมันไม่ได้คาอยู่ที่หัวเข่า
อย่างที่รูดมันลงไปแต่ในไหลเผละลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า คราวนี้มีแต่ความเงียบล่ะครับ
ผมนึกอยู่ว่าจอมเฮี๊ยบจะแหวอะไรอีก หรือจะด่าอะไรผมอีก ผมเลยยังกอดอกหลับตา
แน่น แต่ก็เงียบครับ เงียบไปพักใหญ่จนรู้สึกว่ามันนานมาก...