close buttonclose buttonclose button
ลีลารักของจอมยุทธ

ลีลารักของจอมยุทธ

เรื่องเสียว · 49642

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
กิมโง้วเหมย ที่โรงเตี๋ยมนอกเมืองหวงโจว ในยามดึกเงียบสงัด พลันปรากฏเงาร่างสีดำ กำลังพุ่งตรงมายังโรงเตี๋ยมแห่งนี้ บนหลังคาเห็นมันค่อยๆงัดกระเบื้องหลังคาออกมา 1 แผ่น ก่อนที่จะจุดไฟใส่กระบอกไม้ พอเริ่มมีควันมันก็ก้มลงเป่าลงไปในห้องใต้หลังคา มันนั่งนิ่งรอชั่วอึดใจ ก็ก้มลงมองดู ก่อนที่จะลงมืองัดหลังคาออก พอที่ตัวมันลอดลงไปได้ ในห้องนั้นเห็นเงาร่างชุดดำสะท้อนแสงจันทร์เพ็ญ ที่ส่องผ่านลูกกรงหน้าต่าง มันตรงไปยังเตียงนอนที่มีสตรีนางหนึ่งนอนหลับอยู่ มันเอื้อมมือเขย่าร่างสตรีนางนั้น แต่นางก็ไม่ตกใจตื่น เห็นมันยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นมันก็เริ่มปลดสายรัดเสื้อของสตรีนางนั้นออก ค่อยๆบรรจงแหวกแยกออกจากกันช้าๆ ก่อนที่จะรูดกางเกงตามออกมาติดๆ บัดนี้ร่างของสตรีนางนั้นเหลือแต่เอี๊ยมสีแดงปักลูกไม้ตัวน้อย ที่ไม่สามารถปกปิดความอวบใหญ่ของเนินอก ที่ล้นทะลักออกมา มันถูมือตัวเองไปมา พึมพัมเบาๆ "แม่นางคนนี้ ช่างอวบใหญ่จริงๆ คืนนี้สวรรค์เป็นของข้าแล้ว ฮา..ฮา.." มันค่อยๆบรรจงปลดเอี๊ยมตัวน้อยออก ภาพที่ปรากฏตรงหน้า ร่างที่ขาวโพลนสะท้อนแสงจันทร์ เห็นมันตาถลนแทบหลุดออกมาจากเบ้า เรือนร่างที่แสนโสภา เนินอกที่ขาวสล้างทั้งสอง อวบใหญ่จนล้นมือ หน้าท้องที่แบนราบปราศจากไขมัน ลดต่ำลงมา เนินสวาทกลางหว่างขา ที่มีหญ้าขึ้นรกประปราย ดูแล้วชวนให้แหวกค้นหาขุมทรัพย์ยิ่งนัก มือทั้งสองของมันลูบไล้อย่างแผ่วเบา จากลำคอลงมาถึงปทุมถันทั้งสอง ที่อวบใหญ่จนมันกำไม่มิด มันคลึงเคล้นเบาๆ เพียงชั่วครู่เม็ดบัวน้อยๆกลางเต้า ก็แข็งสู้มือตามสัญชาตญาณ แล้วก็ลูบไล้ลงมาจนถึงเนินสวาทกลางหว่างขา พักใหญ่มันก็เริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก ในช่วงขณะนั้นก็มีเงาร่างอีกสายหนึ่ง ค่อยๆย่องเข้ามาด้านหลังจนห่างประมาณวาเศษ เงาร่างดำที่กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ ก็รู้สึกตัว มันหันร่างกลับสะบัดฝ่ามือเข้าใส่ทันที เงาร่างที่มาที่หลัง พบว่ามีฝ่ามือฟาดตรงเข้ามา ก็หลีบพลิกร่างหลบ ฟาดฝ่ามือเข้าปะทะด้วย เสียงเพี๊ยะดังขึ้นครั้งหนึ่ง ก่อนที่เงาร่างทั้งสองจากแยกออกจากกัน ได้ยินเสียงตวาดดังสดใส "โจรร้าย..บังอาจนัก ยอมให้ข้าจับกุมเสียดีๆ" เสียงสตรีดังขึ้น แต่เงาร่างสายแรกรีบพุ่งร่างทะลุหลังคาหนีออกไปแล้ว สตรีนางนั้นหันมามอง ร่างของสตรีสาวที่นอนเปล่าเปลือยไม่รู้สึกตัว ก่อนที่จะสะบัดผ้านวมมาคลุมร่างนางไว้ แล้วก็พุ่งร่างตามไป เงาร่างหนึ่งพุ่งหนีมุ่งหน้าสู่ป่านอกเมือง อีกเงาร่างพุ่งไล่ล่าตามจนเกือบทัน พลันเงาร่างสายแรกก็หยุดร่างนิ่ง เงาร่างสตรีนางนั้นตามจนทัน นางพุ่งร่างเข้ามาห่างไม่ถึงวา พลันโจรร้ายก็หันร่างกลับสะบัดฝุ่นสีจางๆเข้าใส่ สตรีนางนั้นรีบพุ่งร่างหลบ แต่ก็ไม่วายสูดเข้าไป เห็นนางส่ายหน้ามึนงง ร่างนางโงนเงน "เจ้า..เจ้า.." "ฮา..ฮา..สตรีเสียด้วย ไม่ได้คนนั้นก็ได้คนนี้แทน คืนนี้สวรรค์เป็นใจให้ข้าจริงๆ ฮา..ฮา.." "เจ้า..เจ้า.."
นางชี้หน้าโจรร้าย มือนางสั่นระริกๆ " เจ้าโดนพิษที่ข้าพึ่งปรุงมาใหม่เป็นคนแรก นี่คือพิษ กิมโง้วเหมย (ดอกไม้ทองทั้งห้า) ผู้ใดโดนพิษชนิดนี้แล้ว จะรู้สึกกระหายในร่างของบุรุษขึ้นมาทันทีทันใด และที่นี่ก็มีข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยดับพิษให้เจ้าได้ ฮา..ฮา.." มันเดินเข้ามาจนใกล้ สตรีนางนั้นรีบถอยร่างหนี แต่ก็ไม่สามารถยืนอยู่ได้ ล้มตัวลงกับพื้น โจรร้ายคนนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับถอดเสื้อผ้าตัวเองออก เห็นท่อนเนื้อที่ยาวใหญ่ของมัน แข็งชูชันตะหง่าน "เจ้าดูของข้าสิ..สิ่งนี้จะช่วยเจ้าได้.." มันชี้นิ้วมาที่ท่อนเนื้อยาวใหญ่ของมัน พร้อมกับเดินเข้ามาที่ปลายขาสตรีนางนั้น เห็นนางเบือนหน้าหนีพายามไม่หันมามอง "เจ้าลองหันมาดูสิ..แล้วเจ้าจะมีความสุขมากที่สุดในชีวิต.." พิษในร่างของนางกำเริบมากขึ้น จนนางทนไม่ได้หันหน้ากลับมา นางมองเห็นท่อนเนื้อที่ทั้งยาวใหญ่และแข็งชูชัน ยิ่งเกิดอารมณ์เสียวซ่านที่ใต้ท้องน้อย จนต้องร้องครางออกมาเบาๆ "ฮา..ฮา..ในที่สุดเจ้าก็ทนไม่ได้ มาข้าจะช่วยเจ้าเอง.." มันก้มลงมา หมายจะแกะสายรัดเองสตรีนางนั้นออก ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงพูดด้านหลังมัน "เจ้าเป็นใคร..คิดจะข่มขืนสตรีนางนี้หรือไร?"
โจรร้ายสะดุ้งร่างเฮือก รีบพุ่งร่างหลบทันที มือก็สลัดอาวุธลับเข้าใส่ต้นเสียงนั้นทันทีทันใด เห็นเงาร่างสายนั้น สะบัดพัดในมือคลี่ออกสะบัด อาวุธลับดังกล่าวพุ่งกลับเข้าหาโจรร้าย "อ๊ากก..เจ้า..เจ้า.." มันกระตุกร่างเฮือกใหญ่ เนื่องจากโดนอาวุธลับของตัวเอง "เจ้าคงทำชั่วไว้มาก กรรมเลยตามสนอง รีบเอายาขจัดพิษออกมาให้ข้า" "ฮา..ฮา..ถึงข้าจะตาย แต่นางคนนี้ก็ต้องตายตามด้วย.." "เจ้า..หมายความว่า.." "นางโดนพิษกิมโง้วเหมยของข้า ต้องร่วมรักกับบุรุษและต้องถึงจุดสุดยอดห้าครั้ง ภายในสิบสองชั่วยามพิษก็จะสลายไปเอง แต่ท่านกลับมาขัดขวางพิษได้ซึมเข้าสู่หัวใจนางแล้ว นางไม่รอดแน่นอน.." มันหัวร่อดังๆ ก่อนที่ล้มร่างลงขาดใจตาย บุรุษหนุ่มผู้นั้น หันร่างกลับเดินเข้ามาคุกเข้าข้างสตรีนางนั้น จับชีพจรของนางดู ชีพจรนางเต้นแผ่วเบาลงๆ มันรีบทาบฝ่ามือลงไปกลางอกนุ่มหยุ่นของนาง ถ่ายทอดพลังเข้าไปช้าๆ จนนางรู้สึกตัว "ข้า..ข้าขอขอบคุณท่านมาก ที่..ที่ช่วยรักษาความบริสุทธิ์ของข้า ไม่ให้มีมลทิน ข้าตายตาหลับแล้ว" "แม่นาง..ข้าพอจะช่วยเจ้าได้ ท่านรีบทานยาเม็ดนี้โดยเร็ว" บุรุษหนุ่มหยิบยาออกมาจากอกเสื้อ ส่งจ่อไปที่ปากรูปกระจับของนาง ป้อนเข้าไปแล้วก็พลิกร่างนางกลับ ทาบฝ่ามือไปที่หลัง ถ่ายทอดพลังเข้าไปชั่วอึดใจ นางก็ลืมตาขึ้น นางยิ้มทั้งน้ำตากล่าว "ขอบคุณท่านมาก ที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ข้าไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรดี" "ไม่เป็นไร แต่ข้าช่วยหยุดพิษให้ท่านชั่วคราวเท่านั้น ภายในสองชั่วยาม ถ้าไม่รีบสลายพิษออกท่านอาจจะ..." เห็นใบหน้าที่แสนสวยหยุดยิ้มทันที "หมายความว่า.." "ใช่..ยาของข้าเพียงยับยั้งพิษได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่สามารถสลายพิษได้" "ถ้าเช่นข้า..ก็..ข้า.." "มีวิธีเดียวเท่านั้น.." บุรุษหนุ่มกล่าว "ท่านหมายความว่า.." พูดจบนางก็รีบก้มหน้าเอียงอาย นางเพิ่งสังเกตเห็นว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้ หล่อเหลาคมสันยิ่งนัก ครู่ใหญ่นางก็เงยหน้าขึ้นมา "ถ้าท่านไม่รังเกียจ..ข้าขอพลีร่างให้ท่าน เพื่อตอบแทนบุญคุณ" "แม่นาง..เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ข้าว่าท่านปรึกษาคนที่บ้านก่อนดีกว่า" "ข้าตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ข้าเป็นนักล่าเงินรางวัลเร่ร่อนไปทั่วยุทธจักร แล้ว..แล้ว..ข้าก็ยัง..ยัง..บริสุทธิ์อยู่.." นางพูดอึกๆอักๆ เอียงอายก้มหน้ากล่าว เนื่องจากความคิดพลุกพล่าน จึงทำให้พิษในร่างกายกำเริบขึ้นมาอีก จนทำให้นางควบคุมสติไม่อยู่ จึงโผร่างเข้าโอบกอดบุรุษหนุ่มผู้นั้น มือของนางบังเอิญมาโดนกลางเป้ากางเกงของบุรุษหนุ่มพอดี นางรีบกุมทันที เจ้าท่อนเนื้อของบุรุษหนุ่มตื่นขึ้นมาทันทีทันใด "ท่าน..ท่าน..ช่วยข้าด้วย..ข้าต้องการ..ข้า.." นางร้องครวญคราง มือก็ขยำคลึงเคล้น จนบุรุษทนไม่ไหว "ถ้าเช่นนั้น ข้าต้องขอโทษแม่นางด้วยที่ล่วงเกิน.." กล่าวจบก็จี้จุดสลบของนาง ช้อนร่างนางอุ้มขึ้น พุ่งร่างกลับเข้าสู่ตัวเมืองอีกครั้ง ที่โรงเตี๋ยมนอกเมือง มันเคาะประตูเรียกอยู่พักใหญ่ เถ้าแก่เจ้าของก็เดินงัวเงียมาเปิดประตู "เถ้าแก่..น้องสาวข้าไม่สบายมาก ข้าขอเปิดห้องส่วนตัวที่เงียบๆให้นางพักผ่อนหน่อย"
"รีบเข้ามา..ข้างนอกอากาศหนาวเย็น น้องสาวเจ้าเป็นอะไรล่ะ?" "นางโดนงูพิษกัด ข้ามียารักษาแต่ต้องใช้เวลาหน่อย ข้าต้องการห้องพักที่ห่างผู้คนหน่อย เสียงร้องของนางจะได้ไม่ไปรบกวนคนอื่น" "มี..มี..ข้ามีห้องเดี่ยวแยกอยู่ด้านหลัง เจ้าตามข้ามา" ภายในห้องพัก บุรุษหนุ่มค่อยๆวางร่างสตรีสาวนางนั้นลงบนเตียง ก่อนที่จะจุดเทียนในห้องให้สว่างขึ้น มันเดินมานั่งที่ขอบเตียง คลายจุดสกัดออก นางลืมตาขึ้นมามองเห็นบุรุษได้ชัดเจนมากขึ้น ยิ่งได้เห็นใบหน้าบุรุษหนุ่ม นางยิ่งเกิดความกระสันมากขึ้น "ข้าชื่อ..น่ำเจ็ง.." "ข้า..เล็กเซี่ยวฮุ้น" "ฮุ้นกอ..ข้ารู้สึก..ข้า.." นางอึกอักพูดหน้าแดงเอียงอาย "ข้าขอล่วงเกิน..เจ็งม่วย" จบคำเล็กเซี่ยวฮุ้นก็เอื้อมมือปลดสายรัดเอวน่ำเจ็งออก ค่อยๆถอดกางเกงนางออก น่ำเจ็งรีบยกสะโพกขึ้นช่วย จัดแจงบรรจงถอดเอี๋ยมตัวน้อยออก เรือนร่างที่ขาวโพลนรับแสงเทียน มองเห็นร่างวัยสาวที่แรกแย้ม ปทุมถันที่เล็กเท่ากระเปาะมือแบนราบไม่อวบอิ่ม เม็ดบัวน้อยๆแดงฝาดแข็งชูชันเป็นไตเล็กๆ น่ำเจ็งเห็นเล็กเซี่ยวฮุ้นมองเขม็งไปที่ปทุมถันทั้งสอง นางรู้สึกอายเนื่องจากไม่อวบใหญ่เหมือนสตรีทั่วๆไป จึงรีบเอามือทั้งสองปกปิดเอาไว้
"ข้า..ข้าไม่อวบใหญ่..เออ..เหมือนคนอื่น..ฮุ้นกอคงผิดหวัง" เล็กเซี่ยวฮุ้นส่ายหน้ายิ้มแย้ม เอามือทั้งสองมาแกะมือน่ำเจ็งออก "เจ็งม่วย..ข้าผ่านสตรีมาพอควร ทุกคนล้วนอวบใหญ่เต็มมือทั้งสองของข้า แต่ของเจ้าข้าเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก ข้ากลับรู้สึกต้องการในตัวเจ้ามากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เหมือนกับว่าได้ร่วมรักกับเด็กสาววัย ขบเผาะ อีกทั้ง.." เล็กเซี่ยวฮุ้นเอื้อมมือมาลูบไล้กลางหว่างขาของน่ำเจ็ง ที่อวบนูนลอยเด่น มีไรขนขึ้นบางๆรำไรๆ น่ำเจ็งสะดุ้งร่างเฮือก แอ่นสะโพกขึ้นรับด้วยความกระสันรัญจวน พร้อมกับร้องครางออกมา
"เนินเนื้อของเจ้าช่างเหมือนสาวแรกรุ่นจริงๆ มันทำให้ข้ากระสันตัวเจ้ายิ่งนัก" "ข้า..ข้าอายุยี่สิบห้าแล้วนะฮุ้นกอ" น่ำเจ็งค้อนวงใหญ่ สะบัดร่างดิ้นเบาๆ เล็กเซี่ยวฮุ้นตอบกลับทันที พร้อมกับขยำเนินเนื้อและปทุมถันเบาๆ "แต่ทั้งบนและล่างของเจ้า มันฟ้องว่าอายุสิบสี่สิบห้าเท่านั้นเอง" "ข้า..อูยยย..ซี๊ดดดด..ฮุ้น..ฮุ้นกอ..อย่าแหย่นิ้วเข้าไป..ข้า..ข้า..เสียวใจจะขาดแล้ว..อูยย.." เล็กเซี่ยวฮุ้นดันนิ้วชี้ แหวกเข้าไปกลางร่องเนื้อของน่ำเจ็ง จนนางสะดุ้งแอ่นสะโพกรับ ร้องครางออกมา น้ำสวาทในร่องเนื้อของนาง หลั่งพรั่งพรูจนล้นออกมาข้างนอก "ฮุ้น..ฮุ้นกอ..ช่วย..ช่วยข้าด้วย..ข้า.." น่ำเจ็งเกิดอารมส์เสียวซ่านจนนางเองทนไม่ไหว นางลุกขึ้นมาถอดเสื้อผ้าเล็กเซี่ยวฮุ้นออก มองเห็นมังกรที่ตื่นลืมตาผงกหัวรออยู่ ใบหน้านางแดงกร่ำด้วยความกระหาย น่ำเจ็งเอื้อมมือมาลูบคลำเบาๆ ด้วยมือที่สั่นเทา "ฮุ้นกอ..ใหญ่..ใหญ่เหลือเกิน..ข้า..ข้ากลัวเจ็บ..ข้า.." เล็กเซี่ยวฮุ้นค่อยๆผลักร่างนางให้เอนนอนลง จับขานางแยกถ่างออก ร่องเนื้อกลางหว่างขาของ น่ำเจ็งอ้ากลีบออกรอรับ เห็นน้ำเมือกใสๆเอ่อล้นออกมาเนืองนอง เล็กเซี่ยวฮุ้นมองด้วยความกระสันยิ่งนัก "เจ็งม่วย..เดี๋ยวเจ้าจะมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว" เล็กเซี่ยวฮุ้นค่อยๆบรรจงจับมังกรร้ายจ่อที่กลางร่องเนื้อสวาทที่เยิ้มแฉะ มันดันสะโพกเข้าไป "อูวว...วว..ฮุ้น..ฮุ้นกอ.." น้ำสวาทที่หลั่งออกมามากเนื่องจากพิษร้าย ทำให้น่ำเจ็งเสียวซ่านมากกว่าเจ็บปวด นางร้องครางออกมา เล็กเซี่ยวฮุ้นเห็นนางไม่เจ็บปวดเท่าไรนัก จึงดันเจ้ามังกรร้ายเข้าไปอีกคราหนึ่ง "อาาา...ฮุ้นกอ..ข้า..ข้า.." เล็กเซี่ยวฮุ้นดันพรวดเดียว มังกรร้ายมุดพรวดเดียวเข้าถ้ำสวาทของนางจนหมดตัว "โอยยย...ฮุ้น..ฮุ้นกอ..เจ็บ..เจ็บข้าเจ็บ..ท่าน..เบา..เบาๆก่อน.." "ขอโทษด้วยเจ็งม่วย..ของเจ้าคับแน่นจนข้าทนไม่ไหวจริงๆ" "ข้า..ข้าก็อยากเช่นกัน..ฮุ้นกอ.." เล็กเซี่ยวฮุ้นเอื้อมมือมาลูบไล้ ปทุมถันทั้งสองที่แบนราบเหมือนสาวรุ่น คลึงเคล้นไปมาเบาๆ จนน่ำเจ็งขนลุกซู่ไปทั้งร่าง เม็ดบัวน้อยแข็งสู้มือเป็นไต เล็กเซี่ยวฮุ้นบี้นิ้วบีบคลึงเม็ดบัวเบาๆไปมา น่ำเจ็งถึงกับสูดปากร้อง "ซู๊ดดด..อาาา..แรง..แรงๆอีก...ฮุ้นกอ.." เล็กเซี่ยวฮุ้นบี้เม็ดบัวทั้งสองแรงขึ้นๆ ส่วนล่างของมันก็เริ่มขยับมังกรร้ายออกมาช้าๆ แล้วดันเข้าไป "อาา..ซี๊ดดด...ฮุ้นกอ..เร็ว..เร็ว..ข้าไม่ไหวแล้ว..ข้า..ข้า.." ร่างของน่ำเจ็งบิดส่ายไปมา สะโพกนางแอ่นรับแรงกระแทกของมังกรร้าย เล็กเซี่ยวฮุ้นเร่งเร็วขึ้นๆแรงขึ้นๆ เสียงกระแทกดังพับๆ ประสานกับเสียงร้องครางของน่ำเจ็ง "ฮุ้น..ฮุ้นกอ..เร็ว..เร็วอีก..แรงๆ..แรงๆเลย..ข้า..โอยยยย..ยย.." น่ำเจ็งทั้งเสียวทั้งเจ็บระคนกัน นางรู้สึกเหมือนกับว่าร่างของนางแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นางร้องครางออกมาพร้อมๆกับ แอ่นสะโพกขึ้นรับสุดตัว นางกระตุกร่างเฮือกใหญ่ก่อนที่จะนอนลงกับพื้นเตียง เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองดังระคนทั่วห้อง "ข้า..ข้าไม่เคยรู้สึกอะไรเช่นนี้มาก่อนในชีวิตเลย ฮุ้นกอ.." เล็กเซี่ยวฮุ้นยิ้มรับ "เจ็งม่วย..เจ้าก็ทำให้ข้ามีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน" "จริง..จริงหรือฮุ้นกอ..ท่านหลอกให้ข้าดีใจหรือเปล่า..ท่านผ่านมามาก อีกทั้งแต่ละคนก็..ก็..ใหญ่กว่าข้าทั้งนั้น" พูดจบก็ซุกหน้ากับอกเล็กเซี่ยวฮุ้นอย่างเอียงอาย เล็กเซี่ยวฮุ้นส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ
"เจ้าไม่รู้หรอกว่า ของของเจ้านั้น ทำให้ข้ากระสันอย่างสุดแสน" พูดเสร็จก็กระแทกมังกรร้ายที่ยังคาถ้ำอยู่ อีกซ้ำยังไม่ได้คายพิษออกมา จึงยังแข็งร่างอยู่คงเดิม น่ำเจ็งสะดุ้งร่างสูดปากร้อง "อุ๊ย..ซี๊ดด..บ้าจริงๆฮุ้นกอ..แกล้งข้า.." น่ำเจ็งสูดปากร้องเมื่อเล็กเซี่ยวฮุ้นกระแทกมังกรเข้าถ้ำของนาง น่ำเจ็งใช้มือ ทุบอกเล็กเซี่ยวฮุ้น อย่างแรง นางเริ่มมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเนื่องจากพิษแรงสลายไปส่วนหนึ่ง เมื่อเล็กเซี่ยวฮุ้นกระแทกดันมังกรเสียดสีผนังถ้ำของนาง ทำให้อารมณ์ความกำหนัดบังเกิดขึ้น พิษร้ายก็เริ่มออกฤทธิ์ขึ้นมาอีกครา "ฮุ้นกอ..ท่านต้องทำให้ข้าถึงห้าครั้งพิษจึงจะหมดไป แค่ครั้งแรกข้าก็เจ็บระบมไปหมดแล้ว" เล็กเซี่ยวฮุ้นไม่ตอบ ทอดร่างลงนอนทาบร่างของน่ำเจ็ง สอดลิ้นเข้าไปในปากรูปกระจับของนาง พัวพันดูดลิ้นไปมาจนน่ำเจ็งเสียวซ่านอีกครั้ง สองมือนางลูบไล้แผ่นหลังเล็กเซี่ยวฮุ้นไปมา ส่ายสะโพกเสียดสีท่อนล่างของเล็กเซี่ยวฮุ้นไปมา เล็กเซี่ยวฮุ้นถอนริมฝีปากออก ลุกขึ้นนั่งโดยดึงร่างของน่ำเจ็งให้ลุกขึ้นตามมา ทั้งสองนั่งกอดรัดกันอยู่บนเตียงนอน เล็กเซี่ยวฮุ้นก้มลงดูดเม้มเม็ดบัวกลางปทุมถันของน่ำเจ็ง ไซ้ลิ้นวนไปมา ก่อนที่จะขบกัดเบาๆ น่ำเจ็งสะดุ้งร่าง หงายหน้าสูดปากครวญคราง "ซี๊ดดด...ฮุ้นกอ..ท่านทำให้ข้ามีความสุขมากที่สุดจริงๆ" เล็กเซี่ยวฮุ้นวนเวียนลากลิ้นไปมา ที่สองเต้ากระเปาะน้อยๆของนาง ขบกัดเบาๆสลับกันไป "ฮุ้นกอ..ข้า..ทำให้ข้าเถิด..ข้าทนไม่ไหวแล้ว.." เล็กเซี่ยวฮุ้นได้ยินดังนั้น จึงเงยหน้าขึ้น เอาหมอนมารองรับที่สะโพกของนาง แล้วประคองร่างของน่ำเจ็งให้เอนนอนลงไปช้าๆ สะโพกของน่ำเจ็งจึงลอยสูงเด่นขึ้นมา เล็กเซี่ยวฮุ้นค่อยๆขยับร่างคุกเข่าช้าๆ เพื่อไม่ให้มังกรร้ายหลุดออกจากถ้ำสวาทของนาง มันคุกเข่าลงกลางหว่างขาของน่ำเจ็ง มือทั้งสองยันพื้นเตียงข้างเอวของนาง ก่อนที่จะเหยียดขาทั้งสองออก ถอนเอามังกรออกมาช้าๆ จนหัวมังกรหลุดโผล่ออกมาหายใจหน้าปากถ้ำ "ฮุ้นกอ..ซี๊ดด..อย่าเอาออก..อย่า.." เล็กเซี่ยวฮุ้นหัวเราะเบาๆ ก่อนที่ดันพรวดเดียว มังกรร้ายมุดเข้าจนจนก้นถ้ำด้านใน "อูววว...ซี๊ดดด...บะ..เบา..เบาๆก่อน..ฮุ้นกอ..เจ็บ..เจ็บ..ข้า.." เล็กเซี่ยวฮุ้นถอนมังกรออกมาช้าๆ พร้อมกับดันเข้าไปใหม่อย่างนิ่มนวล เข้าๆออกๆ พร้อมกับเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นๆ น่ำเจ็งส่ายหน้าไปมา "ดี..ดี..แรงๆอีกก็ได้ฮุ้นกอ..ดี..ดี..ซี๊ดดด...." เล็กเซี่ยวฮุ้นเร่งเร็วขึ้นอีกๆแรงขึ้นๆๆ "ข้า..ข้า..ออก..ออก...ออกแล้ว..ออก..ซี๊ดดด..ดด..ด.." น่ำเจ็งถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งที่สองอย่างรวดเร็ว เล็กเซี่ยวฮุ้นยังไม่ทันที่จะคลายพิษร้ายของเจ้ามังกรออกมาสักที นางนอนแผ่หรา หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เล็กเซี่ยวฮุ้นเอาหมอนรองสะโพกนางออก ก่อนที่จะถอนมังกรออกอย่างช้าๆ "ซู๊ดดด..." น่ำเจ็งร้องเบาๆ ผงกหน้าขึ้นมองพร้อมกับค่อยๆยันร่างลุกขึ้น เล็กเซี่ยวฮุ้นช่วยประคองตาม นางก้มลงมองที่เนินเนื้อไร้ไรขนของตัวเอง เอามือลูบคลำเบาๆ น้ำสวาทที่ทะลักออกมา ติดนิ้วมือนางจนรู้สึกเหนียวหนึบ นางยกมือขึ้นมาดู เห็นน้ำเมือกใสๆสีแดงบนฝ่ามือ "ฮุ้นกอ..มี..มีเลือดออกมาด้วย..ข้า.." "เจ็งม่วย..ที่เจ้าเจ็บเมื่อครู่ เพราะเยื่อพรหมาจารีย์ของเจ้าถูกมังกรของข้ากระแทกจนฉีกขาดนั่นเอง เจ้าจึงรู้สึกเจ็บในตอนนั้น ข้า..ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเจ้า" น่ำเจ็งมองหน้าเล็กเซี่ยวฮุ้น นางยิ้มก่อนที่จะโผเข้ากอด "ไม่..ข้ายินดีและดีใจที่ท่านเป็นคนแรกของข้า.." เล็กเซี่ยวฮุ้นกอดรัดนางตอบอย่างดีใจ พักใหญ่ก็ดันร่างน่ำเจ็งออก "เราต้องกำจัดพิษร้ายออกให้หมด ไม่เช่นนั้น..." น่ำเจ็งได้ยินเช่นนั้นก็นิ่วหน้า เล็กเซี่ยวฮุ้นเห็นแล้วถึงกับหัวเราะ "ข้าคิดว่ายังไงเสีย เจ้าคงต้องระบมแน่ๆ" "บ้า..ฮุ้นกอนี่.." น่ำเจ็งอายหน้าแดงกร่ำ รั่วกำปั้นน้อยๆทุบ อกเล็กเซี่ยวฮุ้นเป็นการใหญ่ เล็กเซี่ยวฮุ้นยิ่งหัวเราะ ก่อนที่จะจับมือน้อยๆทั้งสองของนางให้หยุด ทั้งสองนิ่งนั่งมองหน้ากันชั่วขณะ ก่อนที่เล็กเซี่ยวฮุ้นจะโน้มหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากนาง สอดลิ้นเข้าไปภายใน มือน้อยๆของน่ำเจ็งผ่อนคลายลงข้างลำตัว เล็กเซี่ยวฮุ้นจึงใช้มือทั้งสองลูบไล้ปทุมถันทั้งสองแทน น่ำเจ็งแอ่นอกรับทันที มือของนางป่ายมาจับมังกรขยำบีบเบาๆ เล็กเซี่ยวฮุ้นถอนริมฝีปากออก "เจ็งม่วย..เจ้าช่วยข้าบ้างสิ" "ฮุ้นกอ..ท่านจะให้ข้าช่วยอย่างไร?" เล็กเซี่ยวฮุ้นไม่ตอบ จับมือน่ำเจ็งให้กำรอบตัวมังกร รูดเข้ารูดออก แล้วก็ปล่อยให้นางทำเอง น่ำเจ็งรูดเข้ารูดออกช้าๆ แล้วเร่งเร็วขึ้นๆๆ "ซูดดด...เจ็งม่วย..เบาๆก่อน..เดี๋ยวข้าจะออกเสียก่อน" "อะไรออกหรือ? ฮุ้นกอ.." "มังกรของข้านะสิ..มันจะคายพิษออกมาก่อนที่จะมุดถ้ำของเจ้า"


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #1 on: November 23, 2009, 12:14:07 pm
"บ้าอีกแล้ว ฮุ้นกอ.." เล็กเซี่ยวฮุ้นหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะจับมือน่ำเจ็งให้คลายออก มันลุกขึ้นลงจากเตียง "ฮุ้นกอ..ท่านจะทำอะไร?" "ข้าจะสอนท่าใหม่ให้เจ้า..หรือเจ้าจะให้ข้าทำท่าเดิมให้เจ้าอีกครั้ง" "บ้า..ฮุ้นกอ.." น่ำเจ็งหน้าแดง โผร่างจะเข้ามาทุบอกเล็กเซี่ยวฮุ้น เล็กเซี่ยวฮุ้นจับมือนางเอาไว้ ค่อยๆผลักร่างน่ำเจ็งให้นอนลง หันปลายขาออกมาหามัน เอาผ้านวมผืนใหญ่รองกันศีรษะนางไว้ไม่ให้กระแทกผนังห้อง จับขาทั้งสองของน่ำเจ็งอ้าออก ชันเข้าขึ้นวางเท้าทั้งสองไว้ที่ขอบเตียง เล็กเซี่ยวฮุ้นก้มร่างลงที่กลางหว่างขาของน่ำเจ็ง ใช้ลิ้นโลมเลียไปที่ร่องเนื้อของนาง ร่างของน่ำเจ็งสะดุ้งเฮือก แอ่นสะโพกขึ้นมาทันที นางหนีบขาทั้งสองรัดศีรษะเล็กเซี่ยวฮุ้น "ซู๊ดดด..ฮุ้น..ฮุ้นกอ..อย่า..ไม่ดี..อย่าทำ..อุ๊ยยย...ซี๊ดดด.." เล็กเซี่ยวฮุ้นจับขานางให้ถ่างออก เงยหน้าขึ้นมา "เจ็งม่วย..ข้าจะสอนให้เจ้ารับรู้ถึงความเสียวซ่านอย่างไม่เคยมีมาก่อน" กล่าวจบก็ก้มลงไปอีกครา ใช้ลิ้นโลมเลียปากคูหาสวาท ที่มีไรขนอ่อนไรขนบางตา น้ำในถ้ำสวาทเริ่มหลั่งรินออกมาตามความกำหนัด เล็กเซี่ยวฮุ้นทั้งดูดทั้งเลีย ยิ่งดูดเท่าไร น้ำเมือกใสกลับยิ่งทะลักออกมามากขึ้นอีก น่ำเจ็งเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก นางทนไม่ไหวต้องเกร็งร่างลุกขึ้นนั่ง ใช้สองมือประคองศีรษะของเล็กเซี่ยวฮุ้น ให้ฝังแน่นเข้าไปอีก "ฮุ้นกอ..พอ..พอเถอะ..ข้าจะถึงอยู่แล้ว..ข้า.." เล็กเซี่ยวฮุ้นรู้ว่าน่ำเจ็ง ใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง จึงถอนร่างออก "อูวว..ฮุ้นกอ..ทำไมท่านทำอย่างนี้..ข้า..อยาก..ข้า.." น่ำเจ็งพูดเชิงต่อว่า ที่ทำให้อารมณ์นางหยุดชะงักไม่ถึงจุดสุดยอด เล็กเซี่ยวฮุ้นไม่พูดพล่ามทำเพลงลุกขึ้นยืนจับเจ้ามังกรร้าย ที่อยากจะพ่นพิษใจจะขาด จ่อที่ปากถ้ำของนาง ดันพรวดเดียวสุดตัว น่ำเจ็งถึงกับอ้าปากค้างตาเหลือก สองมือผลักดันอกเล็กเซี่ยวฮุ้นออก "ฮุ้นกอ..โอยยย..ซี๊ดดด...." ทั้งสองโรมรันพันตูกันอย่างดุเดือด ฝ่าหนึ่งนั่งอ้าขาบนขอบเตียง อีกฝ่ายก็ยืนข้างเตียง กระแทกร่างเข้าใส่อย่างเมามันส์ เสียงร้องครวญครางของน่ำเจ็งดังรอดไรฟันออกมา "อืมม..ซี๊ดดด...ข้า..อะ..ออก..ออกแล้ว...ออกแล้ว..." "โอยยย..เจ็งม่วย..ข้าไม่ไหวเหมือนกัน..ออก..ออกแล้ว..ซี๊ดดดด..ดดด..." มังกรร้ายผ่านการเสียดสีกับผนังถ้ำสวาทของน่ำเจ็ง ถึงสามครั้งสามครา ในที่สุดมันก็ทนไม่ไหวคายพิษร้ายออกมาจนหมดสิ้น ทั้งสองกอดรัดกันแนบแน่นอยู่นาน เสียงหอบหายใจดังไปทั่วห้อง พักใหญ่ก็แยกร่างออกจากกัน "ฮุ้นกอ..ข้าแสบไปหมดแล้วนะ..นี่เพิ่งจะครั้งที่สามเอง ยังเหลืออีกตั้งสองครั้ง ข้า..." น่ำเจ็งกล่าวเสียงสะท้านด้วยความเจ็บระคนกับความกระสัน ในช่องคูหาสวาทของนาง เล็กเซี่ยวฮุ้นจึงแกล้งหยอกล้อนางเล่น "เจ็งม่วย..เจ็บที่ไหนหรือ? ขอข้าดูหน่อยสิ..ข้าจะช่วยบรรเทาให้.." "บ้า..บ้าที่สุดเลยฮุ้นกอนี่..ท่านก็รู้ว่าข้าหมายถึงตรงไหน..ไม่อายบ้างหรือไร?" "เจ็งม่วย..เจ้ามีเรือนร่างที่พิเศษไม่เหมือนใคร ข้าอยู่ใกล้เจ้า แล้วเกิดความอยากขึ้นมาทุกที ยิ่งเห็นปทุมถันน้อยๆของเจ้า เนินสวาทที่ปราศจากไรขนของเจ้า มันช่างยั่วยวนอารมณ์ข้ายิ่งนัก" "บ้าจริงเชียวฮุ้นกอ..ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ" "ฮา..ฮา..เจ็งม่วย นี่ยังเหลืออีกสองครั้งนะ" "บ้า..บ้า..ฮุ้นกอท่านแกล้งข้า.." "มา..เจ็งม่วย ข้าจะสอนท่าใหม่ให้เจ้าอีกหนึ่งท่า" น่ำเจ็งหน้าแดงขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่ายังไงเสีย คูหาสวาทของนาง ต้องโดนเจ้ามังกรร้ายที่แข็งตัวขึ้นมารออีกครั้งหนึ่งแล้ว พอนางครุ่นคิดอารมณ์บังเกิด พิษร้ายก็กำเริบกระจายออกทันที นางรู้สึกเหมือนกับว่าในช่องคูหาสวาทของนาง มันคันยุบยิบๆไปหมด อยากจะให้เจ้ามังกรร้ายมาเสียดสีให้หาย น่ำเจ็งไม่ตอบก้มหน้าบิดมือไปมา ก่อนที่จะนอนหงายเอามือปิดหน้าไม่มอง เล็กเซี่ยวฮุ้นมองร่างที่ขาวโพลนสะท้อนแสงเทียน เหมือนเห็นเด็กสาววัยขบเผาะนอนทอดร่างอยู่ ยิ่งมองยิ่งเกิดความอยาก เล็กเซี่ยวฮุ้นลูบไล้แผ่วเบา ไปทั่วร่างของน่ำเจ็ง จากปทุมถันเรื่อยมาจนถึงเนินสวาทกลางหว่างขา ชอนไชนิ้วเข้าไปภายในถ้ำน้อยๆของนาง แยงเข้าชักออกๆ น่ำเจ็งถึงกับร้องครางออกมาอีกครั้ง ด้วยความกระสันน้ำในถ้ำเริ่มหลั่งรินออกมา พร้อมที่จะรับรองมังกรร้ายอีกที เล็กเซี่ยวฮุ้นจับร่างนางพลิกคว่ำ "ฮุ้นกอ..ท่านจะทำอะไร?" "เจ้านอนคว่ำแล้วยกสะโพกขึ้นมา อย่างนั้นนั้นแหละดีมาก..เจ็งม่วย" น่ำเจ็งทำตามทุกประการ ด้วยความอยากรู้และความใคร่ในอารมณ์ บัดนี้สะโพกของนางลอยเด่น เล็กเซี่ยวฮุ้นมองจากด้านหลัง ก้นอันอวบอิ่มผึ่งผาย หว่าง กลางเห็นเนินสวาทแผลมออกมาจากสองแก้มก้น ปากถ้ำของนางอ้าออกเชิญชวนให้เขาไปสำรวจ น้ำเมือกใสๆฉ่ำแฉะนองไปทั่วปากถ้ำ เล็กเซี่ยวฮุ้นจับแก้มก้นทั้งสองของนางแบะอ้าออก เห็นปากถ้ำอ้าออกตาม มองดูภายในแดงระเรื่อๆเยิ้มเปียกแฉะ มันก้มลงใช้ลิ้นเกร็งให้แข็ง ก่อนที่จะดันเข้าไปในถ้ำ น่ำเจ็งสะดุ้งร่างหดไปด้านหน้า "อูยยย...ฮุ้นกอ..ข้า..ข้าเสียว.." ยิ่งนางเสียวซ่าน ภายในคูหายิ่งคันระยิบระยับไปหมด จนนางทนไม่ไหว "ฮุ้นกอ..เอามังกรท่านเข้ามาเถอะ..ข้าไม่ไหวแล้ว.." น่ำเจ็งทนไม่ไหวต้องร้องขอเล็กเซี่ยวฮุ้น พร้อมกับจะพลิกร่างนอนหงายให้เล็กเซี่ยวฮู้นจัดการ แต่เล็กเซี่ยวฮุ้นจับสะโพกนางให้หยุดเอาไว้ พร้อมกับยืนจ่อมังกรมาที่ปากถ้ำสวาท ก่อนที่จะกระแทกเข้าไป น่ำเจ็งร้องลั่นสองมือนางกำผ้าปูที่นอนแน่น ใบหน้านอนแนบพื้นเตียงร้องครวญคราง "อู้..อูยยย..เสียว..เสียวไปหมด...เสียว...ข้า.." น่ำเจ็งเกร็งสะโพกรับการกระแทกของเล็กเซี่ยวฮุ้น อย่างเมามันส์ในอารมณ์ "ดี..ดี..แรงๆ ฮุ้นกอ..เร็ว..เร็วอีก...เร็วอีก..อีก..อีก..โอยยย...ยย...ย.." น่ำเจ็งทั้งแสบทั้งเจ็บ ทั้งเสียวซ่านถึงจุดหมายเป็นครั้งที่สี่ในที่สุด "เจ็งม่วย ข้าจะออกอยู่แล้ว ข้าจะทำให้เจ้าเป็นครั้งที่ห้าต่อเลย" "ฮุ้นกอ..ข้าไม่ไหวแล้ว..มันทั้งเจ็บทั้งแสบไปหมดแล้ว ถ้าท่านเอา..เอาอีกครั้ง..ข้าต้องตายแน่ๆ" น่ำเจ็งหันหน้ากลับมา ส่ายใบหน้าร้องขอเล็กเซี่ยวฮุ้น "เจ็งม่วย..มีวิธีสุดท้ายที่ข้าจะช่วยท่านได้ เจ้าจะยินยอมหรือไม่?" "ทำอย่างไรฮุ้นกอ.."
"ข้าจะเอาเข้าทางนี้แทน เพื่อให้เจ้าถึงเป็นครั้งที่ห้า ก่อนที่จะครบกำหนดเวลาพิษกำเริบ" เล็กเซี่ยวฮุ้นกล่าว พร้อมกับแหวกแก้มก้นทั้งสองของนางอ้าออก โดยมังกรร้ายยังคารูสวาทอยู่ พร้อมกับใช้นิ้วชี้จิ้มสัมผัสถูไถไปที่ ปากถ้ำน้อยๆอีกถ้ำหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน น่ำเจ็งสะดุ้งหดร่างหนี "อุ๊ย..ฮุ้นกอ..นี่..นี่มัน..เออ..เออ..จะเข้าไปได้อย่างไรกัน..ข้า.." "ข้าก็ไม่เคยเหมือนกัน เคยอ่านแต่ในตำรา เราต้องลองดูไม่มีเวลาอีกแล้ว เจ็ง ม่วย หรือว่าเจ้าจะให้ข้าเอาเข้าที่เดิมอีกครั้ง" "ไม่..ไม่นะฮุ้นกอ..ที่เดิมของข้ามันไม่ไหวอีกแล้ว..เอาเถอะ..เอาก็เอา.." กล่าวจบนางก็ก้มหน้าไปกับพื้น อย่างเอียงอายด้วยความไม่เคยระคนความแปลกใหม่ที่จะได้ลิ้มรสสวาทจากถ้ำแห่งใหม่นี้ เล็กเซี่ยวฮุ้นค่อยๆถอนมังกรที่เปียกแฉะออกมาช้าๆ มือหนึ่งแหวกแก้มก้นน่ำเจ็งอ้าออก อีกมือหนึ่งป้ายเอาน้ำเมือกจากถ้ำแรก มาป้ายที่ถ้ำด้านหลัง แล้วจับหัวมังกรร้ายจ่อปากถ้ำหลัง ดันเข้าไปทันที
"อูววว..ซี๊ดดด..จะ..เจ็บ..เจ็บ..เอาออก..เอาออกก่อน..อูยยย..." "ขอโทษเจ็งม่วย ข้าก็เจ็บเหมือนกัน เดี๋ยวข้าจะทำใหม่" เล็กเซี่ยวฮุ้นชักหัวมังกรที่มุดเข้าไปเล็กน้อยออกมา เอาน้ำลายในปากมาป้ายให้ทั่วหัวมังกรและปากถ้ำสวาทด้านหลัง แล้วจึงจับยัดดันเข้าไปใหม่ช้าๆ "อาาาา...ฮุ้นกอ...ข้า..ข้าเสียว..ไม่เคยเสียวแบบนี้มาก่อน..มันช่างวิเศษจริงๆ.. ฮุ้นกอท่านทำแรงๆอีกหน่อย..อีก..อีก..ข้าทนได้..อีก..อูววว...ซี๊ดดดด..ดด.." เล็กเซี่ยวฮุ้นเองก็รู้สึกถึงความแปลกใหม่ในรสชาดเช่นกัน มันรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ยิ่งได้ยินเสียงร่ำร้องของน่ำเจ็ง มันยิ่งเกิดความอยาก จึงเร่งกระแทกแรงขึ้นๆๆ ตามคำร้องขอ เล็กเซี่ยวฮุ้นใช้สองมือจับสะโพกของน่ำเจ็ง กระแทกเข้าๆออกๆ เสียงดังพับๆ จนครั้งสุดท้ายมันถอนมังกรออกมาหายใจชั่วอึดใจ ก่อนที่จะดันเข้าเต็มแรงเป็นครั้งสุดท้าย "โอววว...ซี๊ดดด...ข้า..ข้า..อะ..ออก...ออกแล้ว...ออกแล้ว...โอยยย...ยย..." "อ๊ากกก...ข้าออก..ออกเหมือนกัน...เจ็งม่วย..โอยยย..." ในที่สุดพิษร้าย กิมโง้วเหมย ก็ถูกเล็กเซี่ยวฮุ้นกำจัดออกจากร่างของ น่ำเจ็งจนหมดสิ้น แต่น่ำเจ็งกลับไม่สามารถลุกขึ้นมาได้หนึ่งวันเต็มๆ เนื่องจากถ้ำสวาทน้อยๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังของนางระบมไปหมด จนไม่สามารถขยับร่างไปไหนมาไหนได้ เล็กเซี่ยวฮุ้นจึงป้อนข้าวป้อนน้ำให้นางกินไป หยอกล้อเล่นกันไปอย่างมีความสุขยิ่งนัก…….
ช่วงใกล้พลบค่ำอากาศที่เย็นสบายท้องฟ้าสลัวๆ ที่ชายป่าด้านตะวันตกของเมืองโกวพัว เล็กเซี่ยวฮุ้นกำลังเดินทอดน่องอย่างสบายอารมณ์ ปากของมันคาบก้านดอกหญ้าหมุนไปมา ดูมันไม่เดือดร้อนอาทรใจ เมื่อใกล้จะพลบค่ำแล้ว อีกทั้งจะต้องเดินทางข้ามป่าแห่งนี้ไปอีก มันคงจะถือดีในวิทยายุทธที่มีอยู่พอควร จึงใจกล้าพอที่จะนอนหลับในป่า ไม่ได้เกรงกลัวโจรผู้ร้ายแต่ประการใด ขณะที่มันกำลังเดินอย่างเพลิดเพลินใจอยู่นั่นเอง หูของมันก็ได้ยินเสียงหวีดร้องของสตรีแว่วผ่านเข้ามาในหู พร้อมทั้งเสียงหัวเราะของผู้ชายหลายคนด้วยกันแทรกเข้ามาด้วย สมองของมันครุ่นคิดถึงเรื่อง ฉุดคร่าข่มขืนขึ้นมาทันที พร้อมกับร่างของมันก็พุ่งทะยานปานสายฟ้าแลบ มุ่งตรงไปยังจุดต้นเสียง เพียงชั่วพริบตาร่างของเล็กเซี่ยวฮุ้นก็มาอยู่ที่กิ่งไม้ใหญ่ที่มีพุ่มใบไม้ปิดบังหน
าแน่นพอควร เบื้องล่างตรงหน้าที่โค่นต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ถัดไป มีร่างของสตรีสาวอายุประมาณยี่สิบเศษหน้าตาสวยมีเสน่ห์ อีกทั้งเรือนร่างที่อวบอิ่มของวัยสาว นางสวมชุดผ้าลายดอกสีแดงเข้ม นั่งหลังพิงโคนต้นไม้อยู่ ใบหน้าของนางฉายแววหวาดกลัว ตรงหน้าของนางมีชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดุร้าย ไว้หนวดเครารุงรังสองคน สายตาของมันทั้งสอง เต็มไปด้วยแววหื่นกระหายในอารมณ์ มันจ้องมองไปที่เรือนร่างของสตรีนางนั้น หมายมั่นด้วยใจตรงกัน "ตั่วกอ..ข้าให้ท่านก่อน เดี๋ยวข้าจะไปดูต้นทางให้" ชายฉกรรจ์ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือกล่าว "ตกลงยี่ตี๋..เสร็จแล้วเราจะให้ท่านต่อ ฮา..ฮา.." "ข้าไปก่อนนะ..ตั่วกอ" กล่าวจบชายฉกรรจ์ด้านซ้ายมือ ก็พุ่งร่างออกไปดูต้นทางให้ ชายฉกรรจ์ที่เหลืออยู่ มันหันกลับมามองร่างของสตรีนางนั้นแน่นิ่ง ก่อนที่จะเอ่ยปากด้วยสายตาที่กรุ่มกริ่ม "ม่วยม่วย..เราสองคนมาเล่นอะไร ที่มันสนุกดีกว่า" สตรีนางนั้นดูออกว่ามันกำลังกล่าวถึงเรื่องอะไร "อย่านะ..อย่าเข้ามานะ..ไม่เช่นนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย" "ฮา..ฮา..ที่นี่มันที่ไหน ใครจะมาช่วยเจ้าได้" เห็นนางครุ่นคิดตามคำพูดของชายฉกรรจ์ ซึ่งก็เป็นความจริง ที่นี่ในป่าใหญ่อีกทั้งใกล้ค่ำแล้วใครจะมาช่วยเหลือนาง "ท่าน..ท่าน..เมตตาข้าเถอะ ข้าจะเข้าเมืองทำธุระ จึงรีบร้อนเดินทาง" "จริงสิ..เจ้าคงจะเหนื่อยมาก ข้าว่าเจ้านอนหลับพักผ่อนที่นี่คืนหนึ่งก่อน ข้ากับตี๋ตี๋จะอยู่คุ้มครองเจ้าให้" ชายฉกรรจ์เอ่ยปากชักชวน "ตั่วกอท่านนี้ กรุณาข้าเถอะ ปล่อยข้าไปเถอะ.."
เล็กเซี่ยวฮุ้นครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะพุ่งร่างไปยังชายฉกรรจ์ที่เป็นยี่ตี๋ ที่อยู่ห่างออกไปประมาณห้าสิบวา เห็นมันกำลังยืนดูต้นทางอยู่ เล็กเซี่ยวฮุ้นหยุดร่างลงที่ด้านหลังมันอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะตบที่ไหล่มันเบาๆ ได้ยินเสียงมันกล่าวออกมาก่อนที่จะหันร่างกลับมา "ตั่วกอ..ทำไมเร็วจัง ข้าจะ.." มันพูดยังไม่ทันจบคำ เล็กเซี่ยวฮุ้นก็จี้สกัดจุดมันไว้ มันยืนร่างแข็งทื่อสายตาของมันจ้องมองเล็กเซี่ยวฮุ้นอย่างฉงนสงสัย "ท่าน..ท่านเป็นใคร" "เจ้าอยู่นี่เฉยๆสักพัก.." กล่าวจบก็จี้สกัดจุดสลบ ร่างที่ยืนอยู่ล้มลงนอนที่พื้นพงหญ้าแห่งนั้น หลังจากจัดการเรียบร้อยก็พุ่งร่างกลับมาที่กิ่งไม้เดิม มองไปที่เบื้องหน้า "ถ้าเจ้ายอมเป็นของข้า ข้ายินดีให้เจ้าติดตามข้าตลอดไป" "ตั่วกอ..ท่านปล่อยข้าไปเถอะ ได้โปรด.." ชายฉกรรจ์เริ่มมีอารมณ์คุกรุ่นขึ้นมาบ้าง "เฮอะ..ยินยอมดีๆไม่ชอบ เจ้าชอบให้ใช้กำลังใช่หรือไม่?" กล่าวจบก็ยื่นมือมาสกัดจุดสตรีนางนั้นเอาไว้ ก่อนที่จะเอื้อมมือรับร่างของนางให้นอนลง "ช่วยด้วย..ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย" สตรีนางนั้นกล่าวยังไม่ทันจบคำ ชายฉกรรจ์ก็จี้สกัดจุดใบ้ไว้ก่อน "ฮืมม์..รูปร่างของเจ้าช่างสวยงามยิ่งนัก.." ปากของมันพูดไป มือทั้งสองก็ลูบไล้ไปตามเรือนร่างนอกเสื้อผ้าไปมา สตรีนางนั้นได้แต่กรอกสายตาส่ายไปมา ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ มือของมันค่อยๆแหวกชายเสื้อ ล้วงมือเข้าไปภายใน ลูบไล้ไปมาจนสตรีนางนั้นเริ่มมีอาการหงายหน้าอ้าปาก สายตาของนางเริ่มมีอารมณ์ร่วม อารมณ์ของนางเริ่มคุกรุ่นขึ้นตามลำดับ ชายฉกรรจ์ยังคงใช้สองมือคลึงเคล้นที่ปทุมถัน ทั้งสองจนชายเสื้อแหวกแยกออกจากกัน เล็กเซี่ยวฮุ้นแลเห็นปทุมถันทั้งสองที่อวบใหญ่เต็มฝ่ามือ ปลายถันสีแดงคล้ำ ป้านเนื้อสีน้ำตาลล้อมรอบเป็นวงใหญ่ มองดูออกว่าสตรีนางนี้ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ "ฮา..ฮา..ในที่สุดเจ้าก็ต้องการเหมือนข้าใช่หรือไม่?" มันพึมพัมอยู่คนเดียว มืออีกข้างก็เริ่มแกะชายผ้าด้านล่าง หลุดออกเผยให้เห็นเรือนร่างที่เปล่าเปลือย สายตาของมันจ้องมองเบื้องล่างอย่างถูกใจ เนินเนื้อที่อวบใหญ่ลอยนูนเด่น ดงหญ้าที่ดำรกครึ้มจนแทบมองไม่เห็นปากถ้ำสีแดงคล้ำ ที่ซ่อนอยู่ภายใน "ฮืมม์..เรือนร่างของเจ้า น่ากินไปทุกสัดส่วน" กล่าวจบมันก็ลุกขึ้นยืน ปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก ทันใดนั้นเล็กเซี่ยวฮุ้นก็พุ่งร่างลงมา ชายฉกรรจ์ผู้นั้นรู้สึกถึงความผิดปกติ มันรีบหันร่างกลับ แต่มันก็ไม่รู้สึกตัวอะไรอีกแล้ว เล็กเซี่ยวฮุ้นลากมันไปรวมกับยี่ตี๋ของมันก่อนที่จะกลับมา นั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาของสตรีสาว เพื่อที่จะคลายจุดให้
สตรีนางนั้น ใช้สายตาจ้องมองเล็กเซี่ยวฮุ้นด้วยแววตาขอบคุณ เล็กเซี่ยวฮุ้นรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากวิธีการคลายจุด คือจะต้องคลายบริเวณใต้ปทุมถันทั้งสองของนาง และที่บริเวณโคนขาทั้งสองข้างจึงจะหายเป็นปกติ มันนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะตัดสินใจคลายจุดให้ "ต้องขอโทษแม่นางเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องล่วงเกินท่าน ข้าขอล่วงเกินแล้ว.." พลันก็ลงมือจี้คลายจุดลงไปที่ปทุมถันทั้งสองข้าง ก่อนที่จะจี้ที่โคนข้างทั้งสอง เมื่อกระทำเสร็จสิ้น มันก็รีบลุกขึ้นหันหลังให้ทันที ครู่ใหญ่ก็ได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง "ต้องขอขอบคุณ
ตั่วกอท่านนี้เป็นอย่างมาก ที่ช่วยชีวิตข้าไว้.. ข้า..ไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรดี.." เสียงหวานไพเราะกระทบโสตของเล็กเซี่ยวฮุ้น "ไม่เป็นไรหรอกแม่นาง..บังเอิญข้าผ่านทางมาพอดี ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วเดี๋ยวข้าจะไปเป็นเพื่อนทางเข้าเมือง" กล่าวจบก็หันร่างกลับ เห็นนางสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย แลเห็นใกล้ๆๆสตรีนางนี้ดูไม่สวยสะคราญเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับอัปลักษณ์ แต่เรือนร่างของนางอวบใหญ่สมบูรณ์ยิ่งนัก ชวนให้จุดไฟราคะแก่ผู้พบเห็น เล็กเซี่ยวฮุ้นพยายามไม่มองดูนางนานนัก เนื่องจากมันก็เป็นผู้ชำนาญด้านนี้คนหนึ่งเช่นกัน มังกรน้อยของมันเริ่มลืมตาอ้าปากขึ้นมาเล็กน้อย มันต้องรีบสะกดอารมณ์ไว้อย่างเหนียวแน่น ยามสองก็ถึงตัวเมืองโกวพัว สตรีนางนั้นกล่าวว่าธุระของนางต้องทำในตอนสายของวันรุ่งขึ้น คงจะต้องค้างแรมก่อน เล็กเซี่ยวฮุ้นจึงพานางไปที่โรงเตี๋ยม วนเวียนจนรอบเมืองจึงได้เข้าพักที่โรงเตี๋ยมเล็กๆนอกกำแพงเมือง เนื่องจากเป็นฤดูเทศกาลจึงมีคนเข้าพักมากผิดปกติ มีห้องว่างเหลือเพียงห้องเดียว จึงจำเป็นต้องพักร่วมห้องเดียวกันอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อรับประทานอาหารเสร็จจึงเข้าห้องเพื่อพักผ่อน ก่อนที่จะแยกย้ายกันทำธุระกันต่อไป
"แม่นาง..ท่านนอนบนเตียงด้านในก็แล้วกัน ข้าจะนอนที่เตียงด้านนอก" "ขอบคุณตั่วกอมากที่กรุณา.." สตรีนางนั้นกล่าวขอบคุณ ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน ยามสี่เล็กเซี่ยวฮุ้นตื่นขึ้นมา มันรู้สึกว่าช่วงล่างของมันเย็นๆเหมือนไม่มีผ้าสวมใส่ แต่มังกรของมันกลับอบอุ่น เหมือนมีอะไรมาห่อหุ้มเอาไว้ และยังเคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆอีกด้วย มันลืมตามองไปที่ปลายเท้า ก็แลเห็นร่างของสตรีสาวนางนั้น กำลังใช้ปากของนางดูดดื่มมังกรของมันอย่างหิวกระหาย "แม่นาง..ท่าน.." เล็กเซี่ยวฮุ้นครางออกมาเบาๆ ด้วยความกระสัน สตรีนางนั้นอ้าริมฝีปากคลายมังกรออกมา นางเงยหน้ามองเล็กเซี่ยวฮุ้น "ข้า..ข้าไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรดี ได้แต่ใช้วิธีนี้เท่านั้น.." "แม่นาง..ท่านตอบแทนข้ามากเกินไปแล้ว" นางกล่าวตอบอย่างเอียงอาย "ไม่มากหรอกตั่วกอ..แล้ว..แล้วข้า..ข้า..ข้าก็ต้องการ..เออ..เออ.." เล็กเซี่ยวฮุ้นจ้องมองนางแน่นิ่ง ก่อนที่จะเอ่ยปาก "ตกลง..ข้าจะช่วยแม่นางด้วย" กล่าวจบก็ดึงร่างตัวเองขึ้นมานั่งหลังพิงหัวเตียง เอื้อมมือรั้งร่างนางขึ้นมา ประกบปากสอดลิ้นพัวพันเข้าไปภายใน จนร่างของนางอ่อนระทวย ฟุบร่างลงบนอกของเล็กเซี่ยวฮุ้น มือของมันแหวกล้วงเข้าไปในชายเสื้อของนาง สมองของมันนึกถึงเหตุการณ์ที่ชายป่า ปทุมถันที่อวบเต็มมือจนมันรู้สึก ปลายติ่งแดงคล้ำวงป้านสีน้ำตาลวงใหญ่ ยิ่งนึกมันยิ่งรู้สึกถึงความต้องการทวีความรุนแรงมากขึ้น ถ่ายทอดความรู้สึกไปยังมือที่กำลังคลึงเคล้นถันทั้งสอง "อาาา...ดีเหลือเกิน..ข้า..ข้าต้องการ..ข้า.." นางร้องครางออกมาอย่างโหยหา มือของนางล้วงลงไปที่มังกรของเล็กเซี่ยวฮุ้นที่ตื่นตัวรอคอยอยู่นานแล้ว นางลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเล็กเซี่ยวฮุ้นออกจนหมดสิ้น เล็กเซี่ยวฮุ้นใช้มืออีกข้าง ล้วงลึกลงไปที่เบื้องล่างของนาง นิ้วมือของมันพลันกระทบกับเนินหญ้ารกครึ้ม นิ้วมือของมันค่อยๆแหวกค้นหา ถ้ำลึกลับที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังดงหญ้าแห่งนี้ ในที่สุดก็ค้นพบจนได้ จึงรีบดันนิ้วมือเข้าไปสำรวจทันทีไม่รีรอช้า เข้าไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็พบกับสายธารน้ำที่ข้นเหนียวติดนิ้วจนทั่ว "ตั่ว..ตั่วกอ..ข้า..ข้าไม่ไหวแล้ว..ท่าน..ท่านให้ข้าเถิด..ข้า.." นางร้องครวญครางวิงวอนเสียงสั่น เล็กเซี่ยวฮุ้นจับที่สะโพกยกร่างนางขึ้น ก่อนที่จะค่อยๆหย่อนสะโพกนางลง ให้มังกรของมันมุดชอนไชเข้าไปสำรวจถ้ำแห่งนั้น เสียงมังกรร้องคำราม เมื่อร่างของมันครูดถูไถกับผนังถ้ำ จนได้ยินกระทบโสตเป็นจังหวะ เร็วขึ้นๆๆ ผสมผสานไปกับเสียงร้องครวญครางของคนทั้งสอง "โอวว..มังกรของท่านใหญ่จริงๆ..ข้า..ข้า.." "ของแม่นางก็เช่นกัน.." ในที่สุดมังกรของเล็กเซี่ยวฮุ้นก็ไม่สามารถ ทนต่อการเสียดสีผนังถ้ำต่อไปไม่ไหว จึงได้คายน้ำออกมาช่วยลดการเสียดสี จนไหลหลั่งล้นออกมาที่ปากถ้ำนองแฉะไปทั่ว ทั้งสองนอนทอดกายกอดก่ายอย่างมีความสุข ก่อนที่จะเปิดศึกมังกรมุดถ้ำอีกครั้งจนกระทั่งถึงรุ่งเช้า เล็กเซี่ยวฮุ้นลืมตาขึ้นมาในยามใกล้เที่ยงวัน ก็ไม่พบร่างของสตรีนางนั้น นอกจากจดหมายที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะ มีใจความว่า "หวังว่าเราคงได้มีโอกาสพบกันอีก ขอบคุณท่านที่ช่วยให้ข้ามีความสุขที่สุดในชีวิต"
ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว ดวงตะวันลับฟ้าความมืดเข้ามาแทนที่ ท้องฟ้าปราศจากเมฆหมอก ดวงดาวเริ่มทอประกายแสง ค่ำคืนนี้ท้องฟ้าสว่างเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง เล้งเซี่ยวฮุ้นเดินทอดน่องชื่นชมบรรยากาศรอบข้าง ที่เป็นป่าละเมาะก่อนเข้าหมู่บ้านโซ่วจิว ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆนอกเมืองโซวโจ "คืนนี้ช่างร้อนยิ่งนัก...เมื่อไรจะถึงตัวหมู่บ้านสักที จะได้อาบน้ำให้ชื่นอุรา" ยินเสียงมันพึมพัมให้ตัวเองฟัง ชั่วครู่ใหญ่เล้งเซี่ยวฮุ้นได้ยินเสียงน้ำตกดังกระทบโสต "ช่างโชคดีจริง..มีน้ำตกอยู่บริเวณนี้ด้วย ต้องอาศัยก่อนเข้าหมู่บ้านจะดีกว่า.." ด้วยความเร่งรีบจึงใช้วิชาตัวเบา พุ่งร่างคล้ายหมอกควันหายไปจากที่ยืนอยู่ในพริบตา เสียงสายน้ำกระทบครืนๆ ดังใกล้เข้ามาจนเล้งเซี่ยวฮุ้นหยุดร่าง ที่เบื้องหน้าเป็นแอ่งน้ำไม่ใหญ่มากนัก กว้างประมาณสามวาเศษ น้ำตกไหลรินมาจากช่วงบน เสียงน้ำกระทบครืนๆจนพูดคุยกันไม่ได้ยินชัดเจน ไอความเย็นที่พุ่งเข้ามาสัมผัสร่างเล้งเซี่ยวฮุ้น รู้สึกสดชื่นคลายร้อนทันทีทันใด มันรีบจัดแจงถอดเสื้อผ้าออกจากร่าง เพื่อลงแช่น้ำให้เย็นชื่นฉ่ำอุราขณะที่กำลังถอดเสื้อ โสตประสาทพลันได้ยินเสียงคนเดินตรงเข้ามา จึงหยุดถอดเสื้อ พุ่งร่างขึ้นไปซ่อนตัวบนกิ่งไม้ใหญ่ข้างแอ่งน้ำ ชั่วครู่สายตามันพลันเห็นคนเดินตรงเข้ามาหนึ่งคน ใกล้เข้ามาจนเห็นเรือนร่างได้ชัด จากแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ แลเห็นสตรีสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง วงหน้ารูปกลมมลถักผมเปีย ดูอายุประมาณสิบแปดสิบเก้าปี "นี่..ก็เริ่มมืดแล้ว ทำไมจึงมาสถานที่นี้คนเดียว? ช่างอันตรายยิ่งนัก ไกลจากหมู่บ้านพอสมควรอยู่ด้วย" เสียงมันพึมพัมเบาๆ พลันได้ยินเสียงสตรีนางนั้นกล่าวดังสดใสเบาๆ "ช่างร้อนยิ่งนัก...ต้องรีบอาบน้ำก่อน มีเวลาแค่หนึ่งชั่วยาม(สองชั่วโมง) เดี๋ยวเตี่ยจะด่าว่าอาบน้ำนาน" ได้ยินเสียงตะโกนมาไกลๆ "แชยี้..รีบอาบเร็วๆเข้า เดี๋ยวจะดึกเสียก่อน" "ทราบแล้วเตี่ย..อย่าเร่งมากนัก" "เสร็จแล้วตะโกนเรียกเตี่ยด้วย โอย..เด็กเดี๋ยวนี้ช่างเอาใจยากเสียเหลือเกิน นึกอะไรก็ไม่รู้ จะมาอาบน้ำที่นี่ เออ..มีลูกคนเดียวก็อย่างนี้" เล้งเซี่ยวฮุ้นนึกในใจ "อ้อ..ที่แท้มาสองคน ฮืม..ช่างเป็นสตรีที่ไม่เบาทีเดียว.."
มันยังคงนั่งบนกิ่งไม้ มองดูสตรีนางนั้นอยู่ เห็นนางเริ่มถอดรองเท้าถุงเท้าออก จากนั้นก็เสื้อผ้า และสุดท้ายเอี๊ยมแดงก็หลุดมากองที่พื้น นางหันหลังให้เล้งเซี่ยวฮุ้น จึงเห็นแผ่นหลังที่ขาวโพลน รูปร่างโค้งเว้าได้สัดส่วนสมวัยสาว และสะโพกที่อวบอิ่ม นางก้มร่างลงจัดเก็บเสื้อผ้ากองแอบไว้ข้างโขดหิน ก่อนที่จะยืนหันร่างกลับมา "อา...ช่างงดงามสมวัยสาวสิบเก้าจริงๆ" เล้งเซี่ยวฮุ้นเพ่งมองดูเรือนร่างของสตรีสาว ปทุมถันที่เริ่มเบ่งบานของวัยสาว ขาวอมชมพู เม็ดบัวสีแดงอมชมพูที่ปลายถันทั้งสองข้าง ดูน่าเข้าไปสัมผัสจับต้องยิ่งนัก ต่ำลงมาเอวคอดลง ก่อนจะถึงสะโพกที่ผึ่งผาย โค่นขาที่อวบอิ่มลงไปถึงน่องที่เรียวเล็กลงไปถึงปลายเท้า เลือดในกายเล้งเซี่ยวฮุ้นลุกซู่ขึ้นทันทีทันใด เหงื่อกาฬเริ่มไหลรินออก มันรู้สึกรุ่มร้อนอยู่ในใจ "อา...ช่างทรมานดีแท้ ข้าจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว..." สตรีนางนั้นค่อยๆหย่อนเรือนร่างแช่ลงไปในแอ่งน้ำ แหวกว่ายเล่นอย่างสุขใจ ยินเสียงนางร้องเพลงคลอเบาๆ เล้งเซี่ยวฮุ้นได้แต่นั่งมองอย่างอิจฉาตาร้อน ตัวมันเองก็ร้อนเหนียวไปทั้งตัว "โอย..วันนี้ช่างเป็นวันที่แสนทรมานยิ่งนัก ทรมานกายไม่พอแถมทรมานใจอีก.." มันได้แต่รำพันอยู่ในใจ นั่งมองดูสตรีสาวอาบน้ำ มองไปทางซ้ายมือห่างออกไปยี่สิบวา เห็นร่างเงาเรือนราง นั่งเอนพิงก้อนหินปากคาบกล้องดูดยาแดงวาบๆ พ่นควันออกมาเป็นระยะ คิดว่าคงเป็นบิดาของสตรีสาวคนนี้ หันกลับมามองที่สตรีสาวอีกครั้ง นางนั่งพิงก้อนหินริมแอ่งน้ำ เสียงน้ำไหลซู่ซ่าคลอกับเสียงเพลงแผ่วเบาที่นางร้องออกมา มือทั้งสองลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างช่วงบนที่พ้นน้ำ ปทุมถันขาวอวบแน่นเคร่งครัด มีหยดน้ำเกาะแพรวพราวสะท้อนแสงจันทร์ ช่างละลานตาน่าชวนมอง พลันยินเสียงนางร้องอุทาน พุ่งมือขวาผ่านน้ำลงไปที่หว่างขาทั้งสอง "อุ้ย..เจ้าปลาบ้า ที่อื่นมีตั้งมากมายไม่รู้จักไปมุด มามุดเข้าถ้ำของข้าได้อย่างไร?" เล้งเซี่ยวฮุ้นหัวร่อในใจ แทบตกต้นไม้ "ฮา..ฮา..เจ้าช่างเป็นปลาที่โชคดีอะไรเช่นนี้.." เห็นนางยังร้องอุทานอยู่ ก่อนที่จะลุกขึ้นมาที่ขอบแอ่งน้ำ "เจ้าปลาบ้า..ไม่มีที่ไปหรือไร? ทำไมจ้องจะมุดที่นี่อยู่เรื่อย" มือซ้ายพาดปิดปทุมถันทั้งสอง มือขวาของนางกางปิดที่หว่างขา นางนั่งลงบนก้อนหินแผ่นใหญ่ที่ราบเรียบริมแอ่ง แสงจันทร์สว่างไสวแลเห็นร่างนางได้ชัด เล้งเซี่ยวฮุ้นมองดูนางค่อยๆเอานิ้วกลาง ล้วงแหย่เข้าไปในถ้ำน้อยที่หว่างขาของนางคิดว่านางคงต้องการดูว่า มีปลาหลงเข้าไปหรือไม่? พลันได้เสียงนางอุทานแผ่วเบา "ดีที่ไม่มีเล็ดลอดเข้าไป เอ..แต่ถ้ามันเข้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นหนอ.." เห็นนางเหลียวซ้ายแลขวา ก่อนที่จะนั่งเอนพิงก้อนหินใหญ่ แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบผิวเนื้อขาวเนียนของนาง ดูโดดเด่นท่ามกลางต้นไม้นานาพันธ์ โขดหิน แอ่งน้ำตกที่ไหลรินลงมาจากเบื้องบน หัวใจเล้งเซี่ยวฮุ้นเต้นแรงขึ้นๆ จนแทบออกมาจากอก สายตามันจ้องมองลงมาข้างล่าง สตรีสาวนางนั้นนั่งเอนหลังพิงก้อนหิน เรียวขาทั้งสองของนาง ถ่างกางออกเล็กน้อย ชันหัวเข่าขึ้น มือขวานางล้วงลงไปที่หว่างขา มือซ้ายกุมถันซ้ายขวา บีบคลึงสลับไปมาระหว่างปทุมถันทั้งสอง มือขวานางเริ่มขยับช้าๆก่อนที่จะเร่งเร็วขึ้นๆ มือซ้ายนางบีบคลึงเคล้นถันทั้งสองอย่างเมามันในอารมณ์ ใบหน้าบิดเบี้ยวเหมือนคนถูกทรมาน ยินเสียงนางครวญคราง "อูย...อาา...ทำไมเสียวเช่นนี้...อาา..ซี๊ดดด..." มือขวานางขยับเร็วขึ้นแรงขึ้น มือซ้ายบีบขยำถันตัวเองจนแทบจะแหลกเหลวคามือ เสียงนางร้องครางกระเส่า กระชั้นถี่ขึ้นๆ จนที่สุด "ซู๊ดดด....อูยยย....อาา..าา..า..." นางค่อยๆผ่อนแรงมือทั้งสองลงช้าๆ จนสงบแน่นิ่งยินแต่เสียงหอบหายใจดังกระชั้นถี่ๆ "อาา..." นางคลายมือซ้ายออกจากปทุมถัน และชักมือขวาออกจากหว่างขา อย่างช้าๆเหมือนคนที่หมดเรี่ยวแรง "แชยี้...อาบน้ำเสร็จหรือยัง?" เสียงตะโกนไกลๆ สตรีสาวชันร่างขึ้น ก่อนร้องตอบ "จะเสร็จอยู่แล้วเตี่ย รอสักครู่.." นางเดินลงไปแช่ร่างในแอ่งน้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า แล้วจึงเดินจากไป เล้งเซี่ยวฮุ้นทิ้งร่างลงมาสู่พื้นดิน มันยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ จึงหันร่างเดินทางเข้าหมู่บ้านที่อยู่ข้างหน้า ยินเสียงมันพึมพัม "เข้าถึงหมู่บ้านวันนี้ คงนอนไม่หลับเป็นแน่แท้...."


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #2 on: November 23, 2009, 12:14:39 pm
แสงแดดอ่อนๆในตอนเช้าที่แยงตามันทำให้เล้งเซี่ยวฮุ้น ต้องฝืนลืมตาขึ้นจากการหลับ ความปวดเมื่อยภายในร่างกาย ที่ร้าวระบมไปทั่ว เล้งเซี่ยวฮุ้นค่อยๆลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนั้นมันนั่งอยู่บนเรือประมงเล็กๆลำหนึ่ง สืบเนื่องจากความเบื่อหน่ายในแผ่นดินใหญ่ มันจึงตัดสินใจท่องทะเล ทั้งๆที่มันเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น ผ่านไปวันที่สาม พลันมีพายุพัดโหมกระหน่ำ เข้ามาทุกทิศทุกทาง เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เรือประมงโดนพายุพัดจนล่มจมลงในที่สุด คนบังคับเรือและลูกเรือ ต่างกระจัดกระจายหายไปในทะเลกันหมด ส่วนตัวเล้งเซี่ยวฮุ้นเอง คว้าไม้ไว้ได้ท่อนหนึ่ง มันกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย คลื่นที่พัดโหมกระหน่ำเข้าหาทุกทิศทุกทาง แต่มันกอดท่อนไม้ไว้แน่นประหนึ่งคนที่มันรักมากที่สุด เวลาผ่านไป พายุก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หัวของเล้งเซี่ยวฮุ้นหมุนเวียนจนมันรู้สึกมึนงง จนในที่สุดก็หมดสติไป ลืมตาอีกทีตัวมันก็นอนอยู่บนพื้นทรายที่ละเอียด รู้สึกนุ่มนวลยิ่งกว่าผ้านวมใดๆในโลกนี้ เพราะว่าทำให้มันมีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง เล้งเซี่ยวฮุ้นนอนลำดับเหตุการณ์อยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะพลิกร่างก้มลงจูบพื้นทราย ตรงที่มันนอนอยู่เป็นเวลาเนินนาน ก่อนที่จะลุกขึ้นมองไปรอบบริเวณ หมู่มวลแมกไม้ที่แปลกตา เขียวขอุ่มเบื้องหน้า มองออกไปไกลเบื้องหลังเป็นขุนเขาสูงตะหง่าน แนวหาดทรายขาวละเอียดนุ่มสบายเท้า ทอดยาวไกลลิบ ดูเหมือนว่าจะเป็นเกาะร้าง ไกลโพ้นทะเลเกาะหนึ่ง เล้งเซี่ยวฮุ้นค่อยๆเดินลากเท้าเข้าไปยังหมู่แมกไม้เบื้องหน้า ครู่ใหญ่จึงพบเห็นต้นกล้วยป่า ออกผลที่กำลังสุกง่อม มันไม่รีรอตรงเข้าไปทันที ไม่นานนักกล้วยนั้นก็หายหมดลงไปในกะเพาะ บัดนี้เล้งเซี่ยวฮุ้นเริ่มมีพละกำลังขึ้นบ้างแล้ว จึงตกลงใจสำรวจรอบๆเกาะนี้ดูสักเที่ยวหนึ่งก่อน ผ่านไปสองชั่วยาม (ประมาณ 4 ชั่วโมง) มันสำรวจรอบๆเกาะจนทั่ว ไม่พบเห็นผู้คนใดๆ มีเพียงนกหลากหลายชนิดเท่านั้นเอง เพียงแต่ยังไม่ได้เข้าไปสำรวจใจกลางเกาะที่เป็นขุนเขา ดงไม้หนาทึบ ช่วงบ่ายทั้งวัน มันจึงใช้เวลาสร้างกระท่อมหลังน้อยขึ้นมา เพื่อใช้เป็นที่ซุกหัวนอน ที่ใช้กิ่งไม้ และ ใบมะพร้าวมาคลุม นี่เป็นผลงานครั้งแรกของมัน จึงดูไม่สวยงามเท่าไหร่นัก อย่างน้อยคืนนี้ก็ยังมีที่ซุกหัวนอนไปก่อนผ่านไปเดือนเศษ ยังไม่มีเรือลำใดผ่านมายังเส้นทางนี้เลย เล้งเซี่ยวฮุ้นใช้เวลาสำรวจจนทั่วเกาะแล้ว ใจกลางเกาะเป็นป่าไม้ทีบ มีน้ำตกหนึ่งแห่ง จึงเป็นแหล่งน้ำดื่มและใช้อาบน้ำได้อย่างดี วันเวลาที่ผ่านไป มันอาศัยจับนกจับปลา หาผลไม้ป่าเป็นอาหาร จนเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ อีกทั้งยังปลงตกด้วยว่าชาตินี้ มันคงต้องอยู่เกาะนี้ไปคลอดชีวิตเป็นแน่ เช้าวันหนึ่ง หลังจากที่เมื่อคืนก่อนมีพายุฝนกระหน่ำจนกระท่อมน้อยของมันแทบพังทะลาย ก่อนที่จะสงบลง เล้งเซี่ยวฮุ้นเดินทอดน่องไปตามหาดทรายขาวนวล จนกระทั่งไปถึงอีกฟากหนึ่งของตัวเกาะ ทันใดนั้นเอง มันพลันเห็นบางสิ่งบางอย่างเกยที่ริมหาดไกลๆ มันไม่รีรอช้า ใช้วิชาตัวเบาเหินหาวเข้าไปทันที จวบจนมาถึง ที่เบื้องหน้าเป็นร่างของคนสองคน มันดีใจมาก ที่ได้พบเห็นเพื่อนร่วมโลกเดียวกัน จึงรีบเข้าไปตรวจดูว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ทันทีที่จับต้องร่าง ก็พบว่าเป็นสตรีทั้งคู่ เมื่อมันพลิกร่างนางกลับมา เป็นสตรีอายุประมาณสามสิบเศษ แต่งงานแล้ว อีกนางหนึ่งอายุสิบห้าสิบหก ทั้งสองเค้าหน้าใกล้เคียงกัน ดูเหมือนเป็นเจ้ม่วยกัน มันพบว่าทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ จึงรีบทำการรักษาทันที ไม่นานนักนางทั้งสองก็ได้สติขึ้นมา ทั้งสองดีใจมากที่ยังมีชีวิตรอดมาได้ อีกทั้งยังได้พบเพื่อนร่วมโลก อย่างเล้งเซี่ยวฮุ้น ทั้งสองได้ช่วยกันเล่าให้ฟังว่า เรือของนางเป็นเรือค้าขาย ครั้งนี้ติดตามบิดามาท่องเที่ยวด้วย มิคาดว่าเจอพายุร้ายพัดโหม กระหน่ำจนเรือล่มสลาย ไม่ทราบว่าบิดา และ ลูกเรือจะมีชีวิตรอดหรือไม่ เล้งเซี่ยวฮุ้นได้แต่ปลอบโยนพวกนาง ทั้งเล่าสภาพของเกาะนี้ให้พวกนางฟังคร่าวๆ ซึ่งทั้งสามคงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไปอีกนานเท่าไหร่ก็ยังไม่ทราบเช่นกัน เล้งเซี่ยวฮุ้นจึงปลูกกระท่อมเพิ่มอีกหลังหนึ่ง ห่างจากที่เดิมไม่ไกลมากนัก โดยมันแยกมาอยู่กระท่อมหลังใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่า สตรีทั้งสองเป็นเจ้ม่วยกันดังคาด ผู้พี่มีนามว่าแป๊ะเจ็ง นางเป็นม่ายเนื่องจากสามีเสียชีวิตจากการถูกโจรสลัดปล้นเรือสินค้าฆ่าตาย ส่วนผู้น้องมีนามว่าแป๊ะเง็ก ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว ยังไม่มีหวี่แววของเรือผ่านมายังเส้นทางนี้ให้เห็น เล้งเซี่ยวฮุ้นเอง ก็ไม่ย่อท้อ มันจุดกองไฟทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืน เผื่อว่ามีเรือผ่านทางมาพบเห็นแสงไฟ หรือ ควันไฟกองนี้ เช้าวันหนึ่งขณะที่เล้งเซี่ยวฮุ้น ไปอาบน้ำที่น้ำตกกลางเกาะ ขณะที่มันเปลือยร่างชำระล้างร่างกาย พลันหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ประมาณยามสอง พลันได้ยินเสียงหวีดร้องดังมาจากกระท่อมสองพี่น้อง มันรีบทะยานเข้าไปทันที เมื่อเข้าไปในกระท่อม "เกิดอะไรขึ้น" "เล้งกงจื้อ.... คล้ายกับมีงูเลื้อยเข้ามาในห้องของเรา" ทั้งสองพี่น้องที่ปราศจากวิทยายุทธ ต่างหวาดกลัว รีบเข้ามาโถมกอดเล้งเซี่ยวฮุ้นแนบแน่น โดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว มันรู้สึกถึงความอบอุ่น โนมเนื้อที่แนบชิดติดร่าง อีกทั้งกลิ่นกายสาบสาวโชยเข้าจมูก จนมังกรในร่างตื่นขึ้นทันที ก่อนที่จะคิดอะไรให้ว้าวุ่นใจต่อไป มันค่อยปลอบประโลม พร้อมผลักร่างทั้งสองออกอย่างนุ่มนวล "ท่านทั้งสองรอสักครู่ ให้ข้าพเจ้าจุดไฟก่อน" เมื่อจุดไฟขึ้นสว่างในกระท่อม มันสอดส่ายสายตาไปทั่ว จึงพบเห็นงูน้อยตัวหนึ่ง กำลังเกี่ยวตวัดพันอยู่ที่ขื่อของกระท่อม จึงใช้ดรรชนีจี้ใส่จนงูนั้นตายไป พร้อมกับเขี่ยทิ้งออกไปนอกกระท่อมให้ไกล "ไม่เป็นไรแล้ว ท่านทั้งสองนอนหลับต่อเถิด" ขณะที่มันหันหน้ามากล่าวกับสองพี่น้อง ต้องลอบระงับจิตใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทั้งสองอยู่ในชุดชั้นใน (เอี๊ยม) เท่านั้นเอง เพราะว่าต่างก็มีชุดสวมใส่เพียงชุดเดียว ยามนอนจึงได้ถอดออก มันพึ่งสังเกตว่า ผู้พี่ที่เป็นม่ายแม้ว่าจะอายุสามสิบเศษแล้ว นางยังคงรักษารูปร่างเป็นอย่างดี ปทุมถันที่อวบใหญ่ จนแทบจะหลุดออกมากจากเอี๊ยมที่นางสวมใส่ เอวที่ผึ่งผาย ผิวที่คล้ำเล็กน้อย ส่องต้องกระทบแสงไฟ ส่วนผู้น้องมีรูปร่างที่เล็กกว่า ปทุมถันแทบจะไม่ดันเอี๋ยมออกมาให้เห็น แต่ผิวนางนั้นขาวผมชมพูสล้างต้องแสงไฟ นับว่าเย้ายวนใจได้อีกแบบหนึ่ง "เออ....... เล้ง....เล้งกงจื้อ"
เสียงของแป๊ะเจ็งผู้พี่ ทำให้เล้งเซี่ยวฮุ้นตื่นจากภวังค์ มันรีบเบือนสายตาหลบ หน้าแดงด้วยความอาย "ขอโทษด้วยแม่นางทั้งสอง ข้า...ข้าพเจ้าขอตัวไปนอนก่อน ท่านทั้งสองก็นอนพักผ่อนเถิด" มันรีบขยับร่างออกจากกระท่อม กลับไปยังกระท่อมของมันทันที แต่ทว่าคืนนั้นมันนอนไม่หลับ มโนภาพของสตรีทั้งสอง ทำให้จิตใจของมันลุกโชนด้วยความกระหาย มันติดอยู่บนเกาะมาเดือนกว่าแล้ว ไม่ได้ใกล้ชิดสตรีมานาน ยิ่งทำให้มันฟุ้งซ่านมากขึ้น แต่ก็พยายามข่มตาหลับเอาเมื่อตอนใกล้แจ้ง ส่วนสองพี่น้องก็นอนไม่หลับเช่นกัน
แป๊ะเจ็งผู้พี่นั้น นางเป็นม่ายมาสองปีแล้ว นางถนอมร่างไม่เคยได้ใกล้ชิดกับใครอื่นอีกเลย นับตั้งแต่สามีนางเสียชีวิตไป ภาพที่นางเห็นเล้งเซี่ยวฮุ้น ที่อยู่ในชุดเสื้อในที่เบาบางตัวนั้น ยิ่งตอนที่นางโถมกอดรัดเล้งเซี่ยว
ฮุ้น นางเองก็มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ย่อมทราบว่า มังกรของเล้งเซี่ยวฮุ้นได้ตื่นขึ้นมา ใช้หัวซุกไซ้ทิ่มแทงที่หน้าขาของนาง จนนางเกิดความรู้สึกซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก "เจ็งเจ้..." เสียงแป๊ะเง็กผู้น้องเอ่ยปากถาม "มีอะไรหรือ เง็กม่วย?" "ข้าขอถามเจ็งเจ้สักอย่าง คือว่า..." นางตะกุกตะกัก แป๊ะเจ็งพลิกร่างมาโอบกอดน้องสาว พร้อมกล่าว "มีอะไรหรือเปล่า เง็กม่วย ทำไมไม่พูดต่อ เจ้าบอกมาเถอะ" นางเร่งเร้าให้แป๊ะเง็กกล่าว
"ข้ารู้สึกแปลกๆ ตอนที่ถูกเล้งกงจื้อโอบกอด ร่างกายร้อนผ่าวไปหมด ใจเต้นระส่ำอย่างบอกไม่ถูก" แป๊ะเจ็งเลยถามต่อ "เง็กม่วยรู้สึกชอบพอเล้งกงจื้อหรือไร?" แป๊ะเง็กอายหน้าแดง ทุบอกที่อวบใหญ่ของพี่สาวเบาๆ พร้อมกล่าว "บ้า...เจ็งเจ้ก็ชอบเล้งกงจื้อเหมือนกัน ข้าเห็นเจ็งเจ้ลอบมองเล้งกงจื้อบ่อยๆ" คืนนั้นทั้งสองคนโอบกอดกัน พูดคุยเกี่ยวกับเล้งเซี่ยวฮุ้น จนผล็อยหลับไปในที่สุด เล้งเซี่ยวฮุ้นยิ่งคิดถึงเรือนร่างของสองพี่น้อง จิตใจยิ่งฟุ้งซ่านมากขึ้น มังกรของมันลืมตาผงาดขึ้นมา มันอดใจไม่ไหว จึงใช้มือขวากำมังกรไว้ ก่อนที่จะรูดเข้ารูดออก พร้อมจินตนาการถึงสองศรีพี่น้อง ขณะที่เล้งเซี่ยวฮุ้นยืนหลับตา ร่างพิงก้อนหินใหญ่ที่น้ำตก พร้อมกับช่วยเหลือตัวเองอยู่นั้น มันหารู้ไม่ว่า สองพี่น้องได้เดินมาเพื่อจะอาบน้ำเช่นกัน แต่นางทั้งสองพบเห็นเล้งเซี่ยวฮุ้น จึงหยุดร่างแอบดูที่หลังพุ่มไม้ห่างไปไม่ถึงห้าวา แป๊ะเจ็งผู้พี่นั้น มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน นางรู้สึกเหมือนมีอะไรมาชอนไชในถ้ำน้อยของนาง จนนางต้องขมิบถ้ำเป็นการใหญ่ ยิ่งขมิบน้ำในถ้ำยิ่งหลั่งออกมา ใบหน้านางแดงซ่านด้วยความกระหายอย่างเหลือล้น ส่วนแป๊ะเง็กผู้น้อง ผู้ไร้เดียงสาในเรื่องนี้ นางไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน แต่ก็รู้สึกว่าร่างกายนางร้อนผ่าวไปหมด เมื่อได้เห็นภาพนั้นตรงหน้า ยิ่งสงสัย "เจ็งเจ้.... เล้งกงจื้อกำลังทำอะไร?" "เออ.... " แป๊ะเจ็งรู้ว่า น้องสาวยังไม่ประสีประสาในเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย จึงครุ่นคิดหาคำตอบที่เหมาะสม "เออ... ฮุ้นกงจิ้อกำลังชำระล้างร่างกายอยู่ ก็เหมือนกับเวลาเราสองอาบน้ำ" "อ้อ.... แล้วที่เล้งกงจื้อกำลังชำระล้างเขาเรียกว่าอะไร? ไม่เห็นเหมือนของข้ากับเจ้เลย... "
"เออ....นี่เง็กม่วย เจ้าอย่าถามมากนักได้ไหม เดี๋ยวเล้งกงจื้อได้ยินเข้า" ยามนั้นเล้งเซี่ยวฮุ้น หูอื้อตาลาย จึงไม่ได้ยินเสียงสตรีทั้งสองแม้แต่น้อย จนกระทั่งมังกรของมันทนทานแรงเสียดทานไม่ไหว จนยอมพ่นพิษพุ่งกระฉุดออกมา สตรีทั้งสองต่างเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แป๊ะเจ็งนั้นกระสันจนร่างสั่นระริก นางปรารถนาอยากให้มังกรยักษ์ตัวนั้น พ่นพิษใส่คูหาสวาทของนางมากกว่าพ่นพิษออกมาใส่น้ำตกเช่นนั้น ส่วนแป๊ะเง็กนั้นเบิ่งตากว้าง อ้าปากค้างกับภาพที่เห็น แป๊ะเจ็งกลัวว่าเล้งเซี่ยวฮุ้นจะพบเห็น จึงรีบดึงร่างน้องสาวเดินออกมาในทันที จนถึงกระท่อมที่พัก "เจ็งเจ้...น้ำอะไรพุ่งออกมา จากท่อนเนื้อของเล้งกงจื้อ ดูน่ากลัวมาก" "มันเป็นสิ่งที่จะทำให้สตรีมีความสุขได้มากที่สุด" แป๊ะเจ็งรำพันเหมือนคนละเมอ ครุ่นคิดถึงภาพดังกล่าว "อะไรหรือเจ็งเจ้ ความสุข ความสุขอะไร?" "ไม่...ไม่มีอะไร" เช้าวันรุ่งขึ้นแป๊ะเจ็งบอกน้องสาวว่าจะไปอาบน้ำ ส่วนแป๊ะเง็กนั้นบอกว่าขออยู่ที่กระท่อมดีกว่า เมื่อไปถึงที่น้ำตก นางจึงค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกจนร่างเปล่าเปลือย แล้วจึงลงไปอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเรือนร่างที่อวบอิ่มทุกซอกทุกมุม ยิ่งตอนที่นิ้วของนางลูบไล้ไปที่เนินสวาท นางยิ่งเสียวซ่านจนไม่อาจละมือออก ยิ่งคิดถึงภาพที่มังกรยักษ์ของเล้งเซี่ยวฮุ้นพ่นพิษออกมา นางยิ่งเสียวซ่านมากขึ้น ขณะนั้นเอง นางได้ยินคนเดินย่ำใบไม้ตรงเข้ามา เสียงฮัมเพลงเบาๆ จึงรู้ว่าเป็นเล้งเซี่ยว
ฮุ้น นางตกใจมาก เลยรีบลุกขึ้น หมายไปเอาเสื้อผ้ามาสวมใส่ ด้วยความเร่งรีบจึงพลัดลื่นตกลงไปยังช่วงที่น้ำไหลแรง จึงร้องดังขึ้น เล้งเซี่ยวฮุ้นได้ยินเสียง จึงรีบพุ่งร่างเข้ามา เห็นแป๊ะเจ็งกำลังว่ายสู้แรงน้ำที่เชี่ยวกราก จึงกระโดดลงไปช่วยพยุงร่างนางเข้ามายังริมฝั่ง ที่น้ำขังนิ่ง "ขอบ...ขอบคุณเล้งกงจื้อ ที่ช่วยข้าไว้" นางเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก เพราะยังตกใจอยู่ เล้งเซี่ยวฮุ้นที่กอดกระชับเรือนร่างที่อวบอิ่มเปล่าเปลือยอยู่นั้น มังกรยักษ์ของมันพลันตื่นขึ้นทันใด จึงไปเสียดสีที่หน้าขาของแป๊ะเจ็งเข้า "อุ้ย....." แป๊ะเจ็งตกใจยิ่งนัก นึกว่าเป็นปลาว่ายเข้ามาชอนไช จึงรีบเอามือปัด จึงไปเจอมังกรของเล้งเซี่ยวฮุ้นเข้า เมื่อกำเอาไว้ จึงพบว่ามันไม่ใช่ปลา แต่เป็นมังกรยักษ์ที่พ่นพิษให้นางเห็นเมื่อวานนี้เอง นางตกใจนางแดงก่ำ แต่กลับไม่ยอมปล่อยมือออก "เออ.....แป๊ะโกวเนี้ย ข้า.... ข้า...." เล้งเซี่ยวฮุ้น เองก็ตกใจไม่น้อย ที่เจ้ามังกรร้าย ดันมาตื่นขึ้น แถมยังถูกกำไว้ด้วยมือน้อยๆอีกด้วย แป๊ะเจ็งรู้สึกว่าร่างของนางร้อนรุ่มไปหมด ถึงแม้ว่าจะแช่ร่างอยู่ในน้ำก็ตามที นางทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงโอบกอดประกบปากเล้งเซี่ยวฮุ้นในทันใด เล้งเซี่ยวฮุ้นเมื่อโดนจู่โจมเช่นนี้ ก็รู้ว่าแป๊ะเจ็งเองมีปรารถนายิ่งนัก มันเองก็ต้องการเช่นกัน จึงโอบกอดร่างที่อวบอิ่มไว้เช่นกัน ไม่นานนัก ร่างเล้งเซี่ยวฮุ้น ก็เปล่าเปลือยเช่นเดียวกับแป๊ะเจ็งไปด้วย เล้งเซี่ยวฮุ้นตะโบมจูบลูบไล้ปทุมถันที่อวบใหญ่ทั้งสองของแป๊ะเจ็ง จนนางเอนหงายร่าง สูดปากร้องครวญคราง มังกรยักษ์ก็ทิ่มแทงเสียดสีอยู่ที่ปากถ้ำไปมา "เล้ง....เล้งตี๋ ข้า....ข้าไม่ไหวแล้ว ท่านช่วยข้าด้วยเถิด" เล้งเซี่ยวฮุ้นจึงอุ้มร่างแป๊ะเจ็งขึ้นมาจากน้ำ มาที่ก้อนหินใหญ่ที่พื้นราบเรียบดุจเตียงนอนขนาดใหญ่ มันใช้เสื้อผ้าที่ถอดออกปูพื้นลงไป ก่อนที่จะโอบอุ้มร่างแป๊ะเจ็งลงนอน แล้วมันก็โถมร่างตามลงไป ผ่านไปครู่ใหญ่ เสียงหอบหายใจของทั้งสองยิ่งดังมากขึ้น ในขณะที่แป๊ะเจ็งกำลังคุกเข่า มือทั้งสองท้าวที่พื้น ส่วนเล้งเซี่ยวฮุ้นกำลังยืนคร่อมเข้าที่ด้านหลังของนาง "อูววววว....เล้งตี๋...ดี..ดี...โอย....ไม่ไหวแล้ว" "ของเจ็งเจ้ก็ดีจริงๆ......" ทันใดนั้น พลันมีเสียงสอดแทรกเข้ามา "อุ้ย...เจ็งเจ้...ทำอะไร? เล้งกงจื้อด้วย" ทั้งแป๊ะเจ็งและเล้งเซี่ยวฮุ้นตกใจยิ่งนัก เล้งเซี่ยวฮุ้นรีบจะถอนเอามังกรออก แต่แป๊ะเจ็งนั้นใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว นางรู้ว่าน้องสาวต่างวัย ยังไม่ประสีประสาเรื่องนี้ จึงรีบรั้งร่างเล้งเซี่ยวฮุ้นเอาไว้ พร้อมกล่าว "เง็กม่วย....เล้งกงจื้อ กำลังรักษาข้าอยู่ ข้าโดนพิษ รู้สึกคันในนั้นไปหมด เจ้าอย่าเพิ่งขัดขวาง เพราะการรักษาใกล้ถึงวาระสำคัญแล้ว" กล่าวจบ รีบหันไปกล่าวกับเล้งเซี่ยวฮุ้นต่อ "เล้งตี๋...ข้าไม่ไหวแล้ว ท่านช่วยข้าต่อเถิด ม่วยม่วยข้านั้น นางไม่ประสีประสาหรอก" พูดพลางก็ขยับร่างเข้าออกช่วยกระตุ้นให้ มังกรร้ายเสียดสีผนังถ้ำสวาทของนางต่อ เล้งเซี่ยวฮุ้นเองเพิ่งจะเคยกระทำเรื่องแบบนี้ ต่อหน้าคนที่สาม ถึงแม้ว่านางยังไม่ประสีประสาก็ตามที แต่ถึงกระนั้นมันเองก็ไม่ขัดใจแป๊ะเจ็ง จึงเร่งดำเนินการต่อ "อูววว......ซี๊ดดด......." แป๊ะเจ็งร้องครวญคราง "เจ็งเจ้ ท่านเจ็บมากหรือเปล่า ให้ข้าช่วยอะไรไหม?" แป๊ะเง็กเข้ามาใช้ผ้าซับเหงื่อที่หลั่งไหลออกมาจากใบหน้าแป๊ะเจ็งให้ มือก็ประโลมลูบไล้หลังแป๊ะเจ็งเบาๆ แป๊ะเจ็งจึงรีบจับมือแป๊ะเง็ก มาที่ปทุมถันที่แกว่งไกวตามแรงกระแทกกระทั้นของเล้งเซี่ยวฮุ้น "เจ้าช่วยบีบขยำให้ข้าหน่อย บีบขยำแรงๆนะ มันจะช่วยคลายพิษได้" แป๊ะเง็กรีบปฏิบัติตามทันที "ดี...ดี...แรงๆ...อูว.....ซี๊ดดด......." แป๊ะเง็กนั่งอยู่ตรงหน้าแป๊ะเจ็งที่กำลังร้องครวญคราง มือทั้งสองก็โอบอ้อมร่างมาขยำปทุมถันทั้งสองของพี่สาว เล้งเซี่ยวฮุ้นเริ่มกระแทกแรงขึ้นเรื่อยๆ จนแป๊ะเจ็งต้องฟุบหน้าลงไปที่หน้าตักของแป๊ะเง็ก ใบหน้านางจึงฝังลงไปที่เนินเนื้อกลางหว่างขาของแป๊ะเง็กพอดี นางส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ปากนางเริ่มจูบลงไปที่เนินสวาทของแป๊ะเง็กบ้าง "อุ้ย....อาาาา........" แป๊ะเง็กตกใจในตอนแรก ต่อมานางเริ่มรู้สึกว่าคูหาสวาทของนาง เหมือนมีมดมาชอนไชคันระยิบระยับไปทั่ว จนนางต้องขมิบถ้ำสวาทไปมา ใบหน้านางแดงกร่ำ หงายหน้าครางเบาๆ เล้งเซี่ยวฮุ้น เห็นแป๊ะเง็กครางออกมา ก็รู้ว่านางเริ่มเสียวซ่านขึ้นมาบ้างแล้ว มันยิ่งรู้สึกคึกคักมากขึ้น "เจ้....ข้ารู้สึกคันระยิบระยับ ในนั้น เจ้...ข้าถูกพิษแบบท่านแน่เลย" นางตกใจมาก ก่อนที่จะกล่าวกับเล้งเซี่ยวฮุ้น "เล้งกงจื้อ เมื่อท่านรักษาให้เจ็งเจ้เสร็จแล้ว ช่วยรักษาให้ข้าด้วยนะ...." เล้งเซี่ยวฮุ้นเห็นนางพูดอย่างไร้เดียงสา ใบหน้าแดงกร่ำด้วยไฟปรารถนา มันยิ่งรู้สึกฮึกเหิมยิ่งนัก "ได้....เง็กโกวเนี้ย ข้า.... ข้ายินดี"
"ขอบคุณท่าน... ท่านช่วยเร่งรักษาเจ็งเจ้เถิด ดูท่าทางนางจะทนไม่ไหวแล้ว" เล้งเซี่ยวฮุ้นเห็นนางพูดอย่างไม่รู้ว่า แป๊ะเจ็งไม่ใช่ทนพิษไม่ไหว แต่นางใกล้จะถึงจุดหมายต่างหาก มันจึงถอนมังกรที่เปียกเยิ้มไปด้วยน้ำจากคูหาสวาทของแป๊ะเจ็ง ออกมาก่อนที่จะโหมกระแทกกระทั้นเข้าไป จนร่างแป๊ะเจ็งสั่นสะท้าน "โอววว......เล้งตี๋....เล้ง....." เล้งเซี่ยวฮุ้นเร่งโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง "โอววว.....ข้า.....ข้า......อูววว....ซี๊ดดด......ซี๊ดดดด........" แป๊ะเจ็งหวีดร้องเสียงดังลั่น ก่อนที่จะฟุบร่างอ่อนระทวย บนพื้นนั่นเอง นางหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข หลังจากที่ไม่เคยได้ลิ้มรสมาสองปีเศษ เล้งเซี่ยวฮุ้นโน้มหน้ามากระซิบที่ใบหูแป๊ะเจ็ง
"เจ็งเจ้....ข้าขอต่อกับเง็กโกวเนี้ยได้หรือไม่" แป๊ะเจ็งลืมตามองเล้งเซี่ยวฮุ้น ก่อนที่หันไปมองแป๊ะเง็กแวบหนึ่ง จากนั้นนางก็พยักหน้าตกลง เล้งเซี่ยวฮุ้นจึงลุกขึ้นเข้าไปสวมกอดร่างแป๊ะเง็กทันที นางร่างสั่นระริก ก่อนที่จะโดนเล้งเซี่ยวฮุ้นปิดปาก มือมันตะโบมลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง จนแป๊ะเง็กหนาวสั่น ขนลุกเกรียวไปทั่วร่าง เล้งเซี่ยวฮุ้นค่อยๆถอดเสื้อผ้าออก จนร่างแป๊ะเง็กเปล่าเปลือยขาวสล้าง ปทุมถันที่อูมขึ้นมาเล็กน้อย ตรงกลางเห็นเม็ดปทุมถันที่แข็งชูชัน แดงระเรื่อ จนมันอดใจไม่ไหว ต้องโน้มใบหน้าลงไปดูดดื่ม จนแป๊ะเง็กต้องหงายหน้าร้องครวญครางออกมา "อา....... เล้ง...เล้งกอ ข้ารู้สึกคันในนี้อีกแล้ว สงสัยพิษจะเริ่มกำเริบอีกแล้ว" นางผลักร่างเล้งเซี่ยวฮุ้นออก ก่อนที่จะใช้มือชี้ไปที่เนินสวาทของตัวเอง แป๊ะเจ็งนอนทอดกายดู รู้สึกขบขันในความไร้เดียงสาของน้องสาวต่างวัยยิ่งนัก ขณะเดียวกันนางเองก็รู้สึกคันในถ้ำสวาทของนางขึ้นมาอีกครั้งเช่นกัน เล้งเซี่ยวฮุ้นมองตามมือนางลงไป เนินเนื้อที่อวบอูมเล็กน้อย มีขนไรขนมาเล็กน้อย ชวนให้กระสันยิ่งนัก มันคุกเข่าลงไปซุกไซ้ทันที "อุ้ย.....อูววววว.....ซี๊ดดดด....." แป๊ะเง็กรู้สึกเสียวซ่านจนบอกไม่ถูก นางยืนเอามือทั้งสองโอบศีรษะเล้งเซี่ยวฮุ้น กดให้ใบหน้ามันแนบแน่นเข้าไปที่เนินสวาทของนางให้มากที่สุด เล้งเซี่ยวฮุ้นตวัดลิ้นโลมเลีย จนแป๊ะเง็กร่างสั่นสะท้านร้องเสียงดังออกมา "อูวววว......โอว...ซี๊ดดดด.....ซี๊ดดดด........." นางถึงจุดสุดยอดในครั้งแรกของชีวิตอย่างง่ายดายยิ่งนัก ก่อนที่คลายมือออก ล้มตัวนอนอย่างอ่อนระทวย นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข เล้งเซี่ยวฮุ้นเองก็คิดไม่ถึงว่า แป๊ะเง็กจะถึงไวเช่นนี้ มังกรร้ายของมันยังไม่ได้เข้าไปสำรวจถ้ำสวาทของแป๊ะเง็กเลย ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น แป๊ะเจ็งได้ลุกขึ้นมา ผลักร่างให้มันนอนลงไป ก้มหน้าลงมากระซิบเบาๆ "คิกคิก..... วันหลังแล้วกันเล้งตี๋ สำหรับเง็กม่วย ท่านไม่ต้องเสียดายหรอก" "เปล่า...คือว่า....ข้า...." แป๊ะเจ็งเอามือน้อยๆของนางปิดปากเล้งเซี่ยวฮุ้นเอาไว้ "ข้ารู้ว่าท่านอยากได้เง็กม่วยมาก แต่วันนี้นางคงสมอารมณ์หมายไปแล้ว ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า ยังมีเวลาอีกมากนัก แต่ตอนนี้ข้าต้องการรีดพิษจากมังกรท่านมากกว่า" กล่าวจบ นางก็ลุกขึ้นยืนคร่อมที่กลางร่างเล้งเซี่ยวฮุ้น ก่อนที่จะนั่งคล่อมลงมา จับมังกรร้ายของเล้งเซี่ยวฮุ้น สอดใส่เข้าไปในถ้ำสวาทที่เยิ้มฉ่ำของนาง ก่อนที่จะทิ้งร่างลงช้าๆ "อูววว....ซี๊ดดดด.....มังกรท่านคับถ้ำข้าจริงๆ ซี๊ดดด....." เล้งเซี่ยวฮุ้น ใช้มือทั้งสองบีบขยำปทุมถันที่อวบใหญ่ของนางไปมา พลางกล่าว "ไม่น่าเชื่อเลยว่า ของเจ็งเจ้จะคับแคบเช่นนี้" แป๊ะเจ็งตีที่ใบหน้าเล้งเซี่ยวฮุ้นเบาๆ "บ้า....เล้งตี๋นี่" พลันถอนร่างออกมาจนมังกรร้ายจะโผล่หัวออกมา แต่เล้งเซี่ยวฮุ้นกลับกระเด้งสะโพกขึ้นใส่เต็มที่ "อูววววว....ซี๊ดดดดด....." ทั้งสองร้องออกมาพร้อมๆกัน ก่อนที่จะเริ่มขยับขึ้นลงๆ จากช้าๆ เร่งเร็วขึ้นๆๆๆ ทันใดนั้น แป๊ะเง็กได้ลุกขึ้นมา เห็นภาพตรงหน้า นางเริ่มรู้สึกคันในถ้ำสวาทอีกครา "เจ็งเจ้.... ข้ารู้สึกคันในนั้นอีกแล้ว" แป๊ะเจ็งทราบว่า เง็กม่วยผู้น้อง มีความปรารถนาขึ้นมาอีกครั้ง และอยากเอาใจเล้งเซี่ยวฮุ้นด้วย จึงบอกออกไป "เง็กม่วย เจ้าเข้ามายืนคล่อมที่ศีรษะเล้งกงจื้อ หันหน้ามาหาข้า นั่นแหละ....ถูกต้อง" แป๊ะเง็กทำทำคำแนะนำของแป๊ะเจ็งผู้พี่ ก่อนที่หย่อนร่างลงมา ทำให้ปากถ้ำสวาทของนาง อยู่ตรงปากของเล้งเซี่ยวฮุ้นพอดี เล้งเซี่ยวฮุ้นไม่รีรอ ใช้ลิ้นตวัดไซ้เนินสวาทของแป๊ะเง็กทันที "ซี๊ดดดด.......อาาาาาา...." แป๊ะเง็กหงายหน้าร้องครางลั่น แป๊ะเจ็งเห็นน้องสาวร้องครางอย่างมีความสุข นางก็ยิ่งเร่งกระแทกกระทั้นลงไปเร็วขึ้น มือของนางเอื้อมมาลูบไล้ปทุมถันน้อยๆของแป๊ะเง็กไปมา "เง็กม่วย เจ้าขยำให้ข้าบ้าง แรงๆเลย" แป๊ะเง็กรีบปฏิบัติตามในทันที เอื้อมมือมีบีบขยำปทุมถันของแป๊ะเจ็งที่ใหญ่จนล้นมือนาง จนแทบจะแหลกเหลวคามือ สะโพกนางก็ส่ายร่อนไปมา รองรับลิ้นเล้งเซี่ยวฮุ้นที่เร่งตวัดชอนไช ฝ่ายแป๊ะเจ็งก็ร้องครางสนั่น โหมกระแทกร่างขึ้นลงแรงขึ้นๆ เล้งเซี่ยวฮุ้นเองก็รับศึกหนักทั้งด้านล่างด้านบน จนในที่สุด "โอวว..โอววว...อาาาาา.....อาาาาาา......." ทั้งสองสาวก็หวีดร้องออกมาดังลั่นอย่างสุขสม โดยเล้งฮุ้นเองก็พ่นพิษพุ่งเข้าใส่ถ้ำสวาทของแป๊ะเจ็งอย่างสุดกำลัง แต่มันกลับไม่มีโอกาสได้ร้องครางออกมาแม้แต่น้อย เนื่องจากโดนเนินสวาทของแป๊ะเง็ก ที่บดขยี้ไปมา จนมันไม่มีโอกาสได้ร้องออกมานั่นเอง ผ่านไปอีกสิบกว่าวัน ก็มีเรือสินค้าแล่นมามาพบเห็น จึงได้รับคนทั้งสามกลับผืนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างสวัสดิภาพ แต่สิบกว่าวันก่อนที่เรือจะมารับนั้น เล้งเซี่ยวฮุ้นได้ลิ้มรสสวาทสองสาวอย่างเต็มอิ่ม วันละหลายรอบ จนแทบจะหมดลมปราณ......


Offline phatthakorn

  • Super Master Hero
  • **********
    • Posts: 1284
    • เสียว: 9
    • View Profile
Reply #3 on: June 16, 2010, 12:50:44 am
 (1;



Offline dongdang

  • Super Master Hero
  • **********
    • Posts: 878
    • เสียว: 5
    • View Profile
    • Email
Reply #4 on: June 17, 2010, 05:38:11 am
Thanks krub.



Offline sunisa2514

  • Master Hero
  • *
    • Posts: 26
    • เสียว: 4
    • View Profile
    • Email
Reply #5 on: June 17, 2010, 02:04:58 pm
สุดๆๆๆๆเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะ (7;