ไม่นึกฝันมาก่อนเลยครับสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองหลวงของนิสิตจบใหม่อย่างผมนี่ จะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อที่สุดตั้งแต่เกิดมา ซึ่งนอกจากจะต้องผจญกับการแก่งแย่งครอบครองพื้นที่ในการขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางไปไหนมาไหนตลอดทั้งวันเพื่อ “ขายงาน”ตามตำแหน่งเซลล์ตามที่ร่ำเรียนมาเมื่อสมัยอยู่มหาลัยชื่อดังทางภาคเหนือนั้น ไอ้เจ้ามลพิษทางอากาศในเมืองกรุงที่ทั้งเหม็นทั้งร้อนแถมรถยังติด-ติ๊ด-ติด จนบางครั้งระยะทางแค่ไม่ถึงยี่สิบกิโลดีจากฝั่งธนข้ามไปยังรัชดาแค่นี้ต้องใช้เวลาถึงสองชั่วโมงกว่าๆแบบนี้ ทำให้คนเหนืออย่างผมถึงกับเป็นภูมิแพ้ขึ้นมาทันที ส่วนไอ้เรื่องซื้อรถซื้อรามาใช้น่ะหรอหากเทียบกับรายจ่ายในแต่ละเดือนแล้วยังเป็นเรื่องอีกนานครับ ลำพังเพียงแค่เงินเดือน+ค่าคอมราวๆสองหมื่นกว่าต่อเดือนนี่ก็แทบไม่พอต่อการผ่อนค่าห้องที่ซื้อไว้เป็นเรือนหอร่วมกับเมียผมหรอกครับ แรกๆยอมรับเลยว่าท้อจนแทบจะลาออกกลับบ้านไปอยู่กับแม่อยู่เหมือนกัน แต่คิดดูแล้วหากกลับไปปล่อยให้เมียต้องทำงานอยู่คนเดียวแบบนี้ไม่กีเดือนมีหวังเขางอกบนหัวแน่ๆ อ้าวคิดดูสิกับตำแหน่งเลขาหน้าห้องที่วันๆต้องเจอกับพวกเฒ่าหัวงูกระเป๋าหนามาก้อร่อก้อติกตลอดทั้งๆที่รู้ว่ามีผัวเป็นตัวเป็นตนแบบนี้มันไว้ใจได้ซะที่ไหนล่ะจริงมั๊ยครับคุณ เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าทุกอย่างมันเริ่มขึ้นตรงการเดินทางไป-กลับในแต่ละวันของผมนี่น่ะสิ ย้อนไปเมื่อราวๆตอนกลางปีที่แล้ว วันนั้นหลังจากต้องกรำสายฝนเบียดเสียดฝูงชนส่งตัวเองขึ้นไปบนรถเมล์ที่ทราบดีอยู่แล้วล่ะครับว่า ถึงแม้จะยังเช้าไม่ถึงเจ็ดโมงดีอย่างนี้การข้ามฝั่งจากบางแคมานั้นคนมันมากขนาดไหน ยิ่งฝนตกลงมาหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ด้วย เพียงแค่ “หาที่ยืน” นั้นมันช่างเป็นเรื่องที่ทำให้ผมกับสาวออฟฟิตคนหนึ่งต้องออกอาการเคืองกันนิดๆตอนขึ้นรถ แหมก็ผมจ่อคิวรอขึ้นอยู่แล้วจู่ๆจะมาโทษผมที่คุณเธอต้องเปียกปอนเพียงเพราะผมไม่ยอมให้เธอขึ้นก่อนป้าแก่ๆได้ไงล่ะฮะ นี่ยังไม่เท่าไหร่พอผมขึ้นบนรถได้และเบียดตัวเข้ายืนแทรกตรงราวขวาอันเป็นชัยภูมิที่ดีที่สุด อ้าวลองนึกสภาพรถร้อนสีครีมแดงแบบมีประตูกลางที่อัดคนเอาไว้แน่นจนแทบล้นทะลักออกประตูแล้วต้องจอดนิ่งๆเพราะรถติดโคตรนานแถมหน้าต่างก็เปิดไม่ได้แบบนี้ดูสิ คนที่อยู่ใต้กลางการเป่าของพัดลมแบบผมเนี่ย มันช่างเป็นเรื่องที่ถือว่าโชคดีมากๆเลยไม่ใช่รึไง ครั้นพอรถเคลื่อนตัวกระดึ๊บๆไปได้สักสองป้ายแล้วเปิดให้คนขึ้นมาอีกทำให้ “เจ้าหล่อน”คนนั้นถูกเบียดเสียดเลยต้องเลื่อนมาอยู่ข้างๆผม นั่น ! ยังไม่หายโกรธอีกแน่ะ มีทำหน้างอนๆมองเชิดๆใส่ซะอีก เห็นแบบนี้เลยถอยร่นไปข้างหลังเล็กน้อยเพื่อที่ให้เจ้าหล่อนได้กระเถิบเข้ามาได้ลมเย็นๆเป่าระบายเพื่อคลายร้อนกันหน่อยพร้อมผงกหัวลงและยิ้มมุมปากเป็นการเชื้อเชิญ ซึ่งเธอก็ตอบรับไมตรีด้วยการเขยิบเข้ามาในตำแหน่งข้างหน้าผมในรูปแบบหันหน้าเข้าหาทางด้านข้าง อืม...ดูใกล้ๆนี่น่ารักเหมือนกันนิ อายุน่าจะราวๆสักยี่สิบเห็นจะได้ พวงแก้มใสๆทาปากสีแดงสดมันช่างขับให้ใบหน้ารูปไข่ดูขาวกว่าปรกติ ยิ่งรวมกับการแนบเนื้อของเสื้อสีเนื้อคอปาดแบบติดกระดุมด้านข้างที่กำลังแนบสนิทกับผิวกายอันอ่อนละมุนแบบนี้ด้วยแล้ว มันช่างเป็นเรื่องดีของคนหนุ่มอย่างผมให้มีอะไรมาให้ดูมากกว่าภาพมัวๆนอกหน้าต่างของเม็ดฝนเป็นแน่แท้ ยิ่งตอน “เจ้าหล่อน” สลับมือเปลี่ยนเอามือซ้ายไปจับราวแทน ซึ่งจากภาพที่เห็นในขณะนี้ที่หากเพ่งสังเกตจริงๆแล้วจากการเป่าตรงๆลงบริเวณหน้าอกหล่อนรวมกับกริยาที่ดึงคอเสื้อขึ้นมารับลมเย็นๆก่อนหน้านั้นเจ้าตัวคงไม่ได้สังเกตถึงการรอยแยกของคอเสื้อที่มันเผยให้เห็นเนินเนื้ออูมๆทั้งสองฝั่งขนาดโตราวๆกับซาลาเปาลูกละสิบบาท ไม่สิใหญ่กว่านั้นเล็กน้อยกำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ อูยยิ่งช่วงตอนเธอเอามือปิดปากในขณะหาวแล้วทราบแล้วครับว่านมสวยๆเด้งดึ่งๆมันเป็นยังไง นี่ขนาดมีบราไร้สายสีดำทรงห่อ “ครึ่งเต้า”อยู่นะหากถอดออกมันจะสวยขนาดไหน ใครจะไปนึกล่ะอยู่ดีๆก็มีนมมาให้เห็น “เต็มใบ” ในระยะห่างออกไปเพียงไม่ถึงฟุตแบบนี้ บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอกเนอะ และก็ตามคาดกับการ “หลับนก” ของเจ้าหล่อนที่หันเอาหัวมาพิงแขนซ้ายแล้วหรับตาพริ้มลงพร้อมทิ้งท่อนแขนลงแนบข้างร่างกายดันเป็นจังหวะเคลื่อนตัวของรถทำให้มือนุ่มๆของหล่อนมาโดนกับ “เจ้าหนู” ของผมมันกำลัง “ตื่นตัว”พอดิบพอดี “ซวยแล้วสิกู” นี่ขนาดเด้งเอวออกไปข้างหลังเพื่อเบี่ยงไม่ให้โดนแล้วนะยังไม่รอดเลย “อูย....โวยขึ้นมานี่จบเลยนะ” เลยแอบปรายตาชำเลืองมอง “อ้าว นิ่งเลย” แต่กระนั้นก็ดีมือของเจ้าหล่อนยังป้วนเปี้ยนๆอยู่แถวๆหน้าขาผมแต่ดวงตากลมโตคู่นั้นยังปิดสนิทไม่มีทีท่าเปิดขึ้นมาดูอะไร ดีว่ะโอกาสเห็นนมสวยๆทั้งใบแบบใกล้ชิดคงไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดได้ทุกวันหรอกนะ อืม..ยิ่งดูนมน้องนี่ยิ่งสวยไม่ใช่เล่นเลยนะ ขนาดผมเขยิบตัวเข้าไปใกล้กว่าเดิมเพื่อมองให้ชัดๆจน “น้องชายตัวดีที่กำลังตื่นตัว” แนบชิดติดมือเจ้าหล่อนยังไม่มีวี่แววว่าจะชักมือออกคิดว่าเจ้าหล่อนคงง่วงสุดๆเลยผล็อยหลับไป ก็แน่อยู่หรอกขนาดผู้ชายทั้งแท่งอย่างผมยังออกอาการวูบๆจะหลับง่ายๆเหมือนกัน คิดดูสิครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ถึงท่าพระเลย เข้าทางเลยสิครับขนาดลองเอาแท่งเนื้อ “บด” ลงมือเต็มๆแถมถูไปมาเบาๆก็เหมือนเดิมอีก “อุ๊บ..แล้วจะมีใครเห็นอาการหม้อขึ้นหน้ากูรึปล่าววะเนี่ย” เลยหันซ้ายหันขวาดูคนรอบข้าง ตามคาดอีกแล้วคนส่วนใหญ่ที่ยืนหากไม่หลับก็กำลังปล่อยใจไปกับเกมบนมือถือหรือไม่ก็เสียงเพลงในโลกส่วนตัวทั้งนั้น ซึ่งในเมื่อไม่มีใครสนใจ “เรา”ทั้งสองแบบนี้แผนการอุบาท์ขั้นต่อไปหลังจากที่ผมยืน “ถู”มือเจ้าหล่อนทั้งแบบ“ถูตรงๆยืนบี้กับหลังมือ”หรือ “เขยิบเอียงตัวหันไปถูเอาด้านตรงบริเวณสันเอวแถวๆหน้าขาเจ้าหล่อน” มันก็ไม่มีวี่แววจะรู้สึกตัวขึ้นมา ท่านี้ทำให้กลายเป็นว่าเธอยืนพิงคนหน้าในท่าที่เอาบั้นท้ายเกาะพนักพิงริมหน้าต่างทิ้งน้ำหนักตรงขาซ้ายมากกว่าเดิมส่วนขาขวามัน “อ้า”ออกนิดหน่อย แม่งเอ๊ย....X สัตว์จังครับแล้วท่านี้มันช่างเข้าทางโจรเลยว่ะ” ผมเลยจัดท่าทางในการ “เสพสม”ซะใหม่โดยก้าวท้าวขวาไปข้างหน้าพร้อมจับราวมือซ้ายส่วนมือขวาหันไปจับตรงพนักพิงข้างหน้า ท่านี้นอกจากช่วยปิดบังสายตาของนักศึกษาที่นั่งหลับอยู่ด้านไม่ให้เห็นการกระทำของผมได้ชัดเจนแล้ว มันยิ่งทำให้ “น้องชาย” “ป้วนเปี้ยนแบบแนบสนิท” กับร่างกายเธอได้มากขึ้นไปอีกจนบางครั้งจากการขยับตัวของคนรอบข้างที่ส่งผลให้ร่างกายไม่เธอก็ผมเคลื่อนไหว การเสียดสีอย่างจงใจระหว่าง “ดุ้นแข้งๆ”กับ “กลีบแน่นๆ”จึงเพียงมีกระโปรงผ้าบางๆสีครีมทรงเอสั้นเหนือเข่าขึ้นมาสักสามสี่นิ้วและกางเกงในที่ทั้งสวมใส่เป็นอุปสรรคขวางทางอยู่เท่านั้นเอง “อืม..เอาไงต่อดีวะ ถูจนมันเยิ้มทั่วกางเกงในไปหมดแล้ว เอาแบบนี้ดีกว่า…. ” ทันใดความคิดที่อยากจะสัมผัสกับบัวตูมคุ่นี้มันผุดขึ้นมาทันที “ทำไงดีวะ แตะๆดูก่อนก็แล้วกัน” คิดได้เลยถอยฉากสืบเท้าซ้ายออกไปข้างหลังนิดนึงแล้วละมือขวาที่จับพนักลงมาข้างตัวแล้วค่อยเลื่อนสู่ด้านบนฟอร์มเสยผมก่อนแล้วค่อยมาค้างอยู่ที่หน้าอกผมจากนั้น เบียดตัวเข้าหาเธออีกครั้งจนกำปั้นสัมผัสกับโนมเนื้อและค้างอยู่อย่างนั้นก่อน “เนื้อล้วนๆไม่มีฟองน้ำเสริมแถมเด้งสู้มือตามคาดครับ” ขั้นต่อมาขยับมือค่อยๆกางออกและพลิกด้านเปลี่ยนเป็นเอาด้านฝ่ามือเข้าหาพร้อมเลื่อนมาเป็นหน้าอกด้านซ้ายแทน “สววรค์จริงๆครับ” แค่ถึงแม้จะเป็นการสัมผัสกับนมด้านนอกเสื้อผ้าอย่างแผ่วเบาแต่จากการเกาะกุมอย่าง “เต็มมือ” ที่อาศัยลูกตามน้ำลูบไล้ไปกับจังหวะรถเขยื้อนก็ตามทีไอ้ความเสียว+ตื่นเต้นอย่างนี้ มันช่างรัญจวนใจในชนิดที่ไม่เคยพบพานมาก่อน ก็ขนาดตอน “เปิดซิง” น้องเมย์ เมียสุด LOVE ของผมนั้นยอมรับเลยว่ายังมันสู้อารมณ์ที่พลุกพล่านของผมในขณะนี้ไม่ได้เลย “อืมส์...” เสียงใสๆเล็ดลอดออกจากปากกระจับพร้อมๆกับการขับัตัวเล็กน้อยก่อนร่างกายอันหอมหวนจากน้ำหอมชั้นดีจะนิ่งสนิทขึ้นอีกครั้ง เพียงแค่นั้นเชื่อแล้วฮะว่าความเสียวที่วิ่งจากหัวลงขาจนสันหลังเย็นวาบเป็นยังไงเล่นเอาผมชักมือออกจากชายเสื้อหล่อนแทบไม่ทันเลย สงสัยไอ้การที่ผม “ย่ามใจ”หันมา “ล้วง”เข้าไปในชายเสื้อด้านล่างมุ่งตรงไปเกาะกุมสัมผัสกับเนื้อแท้ๆที่เนียนนุ่มแถมลื่นมือคงเป็นเพราะผ่านการบำรุงรวมกับชาติเชื้อจีนแบบนี้คงจะออกแรงมากไปหน่อยหรือไม่เธอคงล่วงรู้ถึง “สิ่งแปลกปลอม” ที่กำลังรุกรานร่างกายเธอได้นั่นเอง เอาเถอะแค่ได้จับนมคุณภาพๆของใครก็ไม่รู้แบบนี้มันก็เพียงพอแล้วใช่มั๊ยล่ะครับ “นมก็จับแล้วเปลี่ยนมาเป็น.....ดีกว่า” อีกครั้งที่มือไวเท่าความคิดจึงเปลี่ยนทิศหันมาคืบคลานเข้าหาชายกระโปรงทางด้านหน้าซึ่งถูกรั้งไปด้านหลังจากบั้นท้ายเจ้าหล่อนจึงเปิดเผยอบานออกข้างหน้าเล็กน้อย ค่อยๆเข้าไปใกล้ๆ ใกล้ๆ และใกล้ๆ ในที่สุดกระโปรงของหล่อนก็คลุมมือขวาของผมหมดแล้ว หันไปดูน้องนิสิตหน่อยนึง หลับหัวตกแถมมีร่างกายผมบังในมุมนี้ ปลอดโปร่งครับ ย้อนกลับมาตรงมือขวาซึ่งพลิกเอาด้านอุ้งมือเข้าหาโคกเนื้อในระยะ “เผาขน” จนรู้สึกถึงความร้อนระอุออกมาให้รับรู้ ทำให้ชายกระโปรงด้านหน้าเปิดเลิกสูงขึ้นๆ “เอาน่าขอดูหน่อยนะ” และเมื่อข้อมือที่ใช้เป็นตัวการในการ “เลิก” จนชายกระโปรงเนื้อหยาบถ้าไม่ผิดน่าจะเป็นผ้าเวสป๊อยบานออกจนผมสามารถมองเห็นการรัดติ้วของกางเกงในสีขาวตัวจิ๋วห่อรัดก้อนเนื้ออันปูดโปนได้ถนัดตาจึงเอนตัวเข้าหาเอาดุ้นเนื้อถูตรงๆอีกครั้งเป็นการหยั่งเชิง นิ่งอีกครับคนอะไรจะหลับลึกกันนักกันหนา ไม่มีทีท่าอะไรเลย และทันใดที่นิ้วชี้มาแตะๆเข้าหาเป้าหมายพร้อมถูวนๆขึ้นลงๆตามรอยแยกที่แนบสนิทแถมยังเกินเลยไปสัมผัสกับเนื้อหนั่นหน้าขาจนกลายเป็นกางฝ่ามือออก “ตะปบเต็มๆ” สมความอยากซะที จากความบางของผ้าเนื้อดีที่เรียบ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของปลายนิ้วทั้งสาม(ชี้-กลาง-นาง) ในแต่ละทีนั้นมันรู้ซึ้งถึงเส้นขนอ่อนๆซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายใต้เนื้อผ้ามันลู่ไหวไปตามแรงนิ้ว และแล้วการ “ย่ามใจ” ก็กลับมาอีกครั้งสงสัยว่าชั้นในของเจ้าหล่อนคงจะเล็กไปซะหน่อยผสานกับท่ายืนที่ทิ้งตัวไปด้านหลังจึงรั้งให้มันรัดเป้ามากกว่าปรกติการ “ไชชอน” ของนิ้วชี้ที่คิดจะมุดเข้าเนื้อในกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เธอ “รู้สึกตัว” ส่งเสียง+บิดตัวเบาๆอีกครั้ง ซึ่งพอผมทิ้งระยะเวลาแล้วหันไปเอาท่อนเนื้อถูไถกับ “ง่ามขา” เล่นๆสักห้านาทีก่อนกลับมา “ชอนไช” อีกครั้งผลลัพธ์กลับแย่ลงกว่าเดิมอีก ชนิดพอถูตรง “รอยแยก” บริเวณข้างนอกเล่นได้ไม่นานเท่าไหร่หน้าเจ้าหล่อนก็บิดตัวทำคิ้วขมวดทันที “หรือว่ามันใกล้จะตื่นแล้ววะ ” เป็นไปได้ครับเพราะตั้งแต่เธอเริ่มหลับมาจนถึงตอนนี้นี่ก็ร่วมๆจะชั่วโมงเข้าไปแล้ว แถมตอนนี้ยังถึงอโศกแล้วด้วยไอ้หนูผมมันก็ยัง “แข็ง” อยู่ ระหว่างคิดไปคิดมาอยู่นั้น “ของทางด้วยค่ะ”เสียงคนยืนข้างหลังของทางลงไปอีกสองคนแต่ดีนะที่พวกหล่อนเบียดออกไปทางเสาประตูผมก็เลยเอียงตัวเบียดเพื่อ “กัน” ไม่ให้โดนเธอไม่งั้นเดี๋ยวตื่นขึ้นมาตอนนี้ก็เซ็งอ่ะดิ “เอาวะไหนก็ไหนแล้ว ขอสักทีแล้วกัน” อ๊ะๆผมไม่กล้าอย่างที่คุณคิดหรอกขืนทำไปมีหวังซวยแน่ๆ เอาเป็นวิธีนี้ก็แล้วกันซึ่งหลังจากหันมาปลดปล่อยน้องชายให้ออกมาเป็น “อิสระ” จากกางเกงบ็อคเซอร์กับแสลคเนื้อบางที่สวมใส่ภายนอกพร้อม “จัดท่าทาง” ของเจ้าหล่อนโดยการ “เปิด” ให้ชายกระโปรงมันพับขึ้นไปด้านบน “คลุม” ทั้งมือและน้องชายที่กำลังขยายตัวหัวแดงกร่ำจนเส้นเอ็นปูดโปนแล้ว การเอา “ท่อนเนื้อ”ที่มันผงาดอยู่อย่างนี้เข้าไปแตะๆกับต้นขาแล้วค่อยๆเบี่ยงตัวเอาดุ้นเนื้อวางแนบตรงต้นขาซ้ายด้านก่อนจึงค่อยถูไถ “ส่ายเอว” ดุนๆทีละน้อยๆจนน้ำหล่อลื่นเยิ้มเปรอะเลอะทั่วหน้าขามีโดนกลีบเนื้อบ้างบางครั้ง โดยบังคับไม่ให้ตัวผมชนกับคนข้างหลังหรือถูมากเกินไปจนผิดสังเกตุได้ ทำอยู่อย่างนั้นได้สี่ห้าครั้งจนความเสียวเริ่มก่อตัวขึ้นที่บั้นเอวทีละน้อยๆ แสดงถึง “สวรรค์” ใกล้คืบคลานเข้ามาหาแล้ว เสียวสุดๆอย่างนี้อยู่ไม่นานเจ้าหล่อนก็เข้าอีหรอบเดิมอีกแล้วแต่ครั้งนี้มันมีเสียง “จิ๊-จ๊ะ” ตรงมุมปากคล้ายกับคนไม่พอใจ ไอ้ที่แข็งๆอยู่นี่เหี่ยวเลยฮะ แต่จากการชักมือขวาที่ช่วยเปิดกระโปรงมาอยู่ข้างตัวผมนั้น ผมว่าคงเป็นรางวัลแห่งความหื่นแน่ๆเพราะนอกจากมันจะไปติดแหมะอยู่แถวๆหน้าอกฝั่งซ้ายของน้อง “นิสิต” ที่สลบไสลหัวพับไปมาอย่างนี้ขาขวาของเจ้าหล่อน (สาวออฟฟิต) ที่เหยียดออกไปด้านข้างมากกว่าเดิมจึงกลายเป็น “ตัวช่วย” ให้กระโปรงยังเปิดคาอยู่อย่างนั้น ทีนี้การจู่โจมทั้งสองฝั่งคนสันมือขวาสัมผัสรุกล้ำนมน.ศ.ซึ่งถึงแม้จะเล็กกว่าแถมมีฟองน้ำบวมขึ้นมาขวางทางไม่ให้รู้ซึ้งถึงเนื้อแท้ได้ง่ายๆนั้น แต่เนื่องจากการ “ปริ” ตรงออกเสื้อที่รัดซะขนาดนี้ทำให้นิ้วก้อย+นางผมลูบไล้ภายในได้อยู่ไม่ใช่น้อย ส่วนดุ้นเนื้อก็ยังทำหน้าที่ถูไถบริเวณต้นขาด้านข้างอย่างเบาๆจนกระทั่ง ความการเกร็งตัวของบั้นเอวผมกลับมาอีกครั้งมากขึ้นๆ มากจนกระทั่งไม่อาจสะกดใจได้แล้ว เลยเอียงตัวไปข้างหน้าพร้อมละมือจากนม น.ศ.มาจับดุ้นเนื้อแล้วสาวเลยครับ เน้นแต่ตรงส่วนปลายบริเวณแถวๆคอหยักอย่างเร็ว จนกระทั่ง “หยาดรักแห่งความสุขสม” กระฉูดออกจากรูตรงปลายพุ่งเปรอะ เกาะติดตั้งแต่เหนือท้องน้อยไหลเยิ้มลงมาตรงตรงเป้าสามเหลี่ยม นี่ขนาดผมใช้มือบีบส่วนปลายไม่ให้มันออกไปแถมยังเบี่ยงแท่งให้มันกดลงพื้นเพราะกลัวความแตก นั้นมันไม่ทันครับหยาดรักบางส่วนยังติดมืออยู่ “เอาไงดีวะ” สติสัมปะชัญยะเริ่มกลับมาอีกครั้งหันไปดู น.ศ. ยังหลับเหมือนเดิมความคิดอุบาท์เพื่อหาทางออกจึงคิดได้ตรงไปลงที่ชายเสื้อส่วนแขนของน้องที่มีอยู่หน้อยนึงและใช้เป็นวิธีเอาสองมือ “บีบ”ชายเสื้อแล้วถูแรงๆเร็วๆจนมันซึมลงไปในเนื้อผ้าจนหมดแถมยังเอาส่วนที่เป็นวุ้นเหนียวๆเหลืออยู่หน่อยป้ายตรงแถวๆปากกับแก้มทิ้งท้ายซะหน่อย หันมาที่ “เมียด้านหน้า” (อ้าวก็เสร็จกับร่างกายเธอแบบนี้ ไม่เรียกว่าเมียจะให้เรียกว่าอะไรไม่ทราบครับ) รู้สึกว่าคราบน้ำรักมันจะเปียกชุ่มอยู่เต็มโคกคงเช็ดไม่ได้แน่ๆ อืม....เสี่ยงดวงละกันล่ะ เก็บเจ้าหนูให้เรียบร้อยล้วงลงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในกางเกงแล้วนำมาซับแตะๆอย่างแผ่วเบาตรงแถวๆหน้าขาขวาที่มันกำลังจะไหลเยิ้มลงข้างล่างเท่าที่จะทำได้จนแน่ใจว่ามันจะไม่เหนอะหนะมากไปกว่านี้ พร้อมเอื้อมมือไปปิดชายกระโปรงลงมาปิดเหมือนเดิม ขั้นต่อไปเก็บหลักฐานบนพื้นครับง่ายหน่อยเพียงแค่เอาเท้าถูๆไม่กี่ทีมันก็แทบจะมองไม่เห็นแล้ว จากนั้น “นิ่ง”ครับ “คุณผู้โดยสารว่างแล้วนั่งเลยนะคะ” “เสื้อสีน้ำตาลนั่นล่ะค่ะนั่งเลย” เสียงกระเป๋าบอกให้เจ้าหล่อนนั่งแทนที่คนเดิมอีกทั้งป้ายเยาฮันมันเป็นป้ายใหญ่คนลงเยอะ “อุ๊ย !”เธอสะดุ้งตื่นแต่เมื่อมองไปข้างหลังเพื่อหาต้นตอของมือปริศนาที่กำลังจิ้มๆอยู่ตรงบั้นท้ายซึ่งเป็นของกระเป๋า และพอหายมึนๆจากการปลุกอย่างฉับพลันพร้อมออกอาการขวยเขินจากการมองของทุกๆสายตาที่หันมาตามเสียงอุทานอันดังลั่น แน่นอนหนึ่งในนั้นมันย่อมมีสายตาของผมรวมอยู่ด้วยแถมยิ้มให้นิดๆ “เจ๊เค้าบอกว่าเบาะหลังคุณให้ว่างนั่งเลยครับ” “ขอบคุณค่ะ”เจ้าหล่อนผงกหัวขอบคุณพร้อมกับจัดท่าทางของเสื้อผ้าให้มันเข้าทีแล้วก็นั่งลงทันที “ป้ายหน้าแยกห้วยขวางใครลงเตรียมตัวเลยนะคะ” เอาล่ะถึงป้ายผมซะที ก่อนลงขอโดนนม น.ศ.อีกครั้งก็แล้วกันนะจึงปล่อยให้มือเอนออกด้านข้างในทันทีแถมเน้นขยี้ออกแรงมากสักหน่อยกะว่าเน้นๆเป็นดอกสุดท้ายอาส์.....มันมือดีครับ แต่เมื่อหันไปมองต้องตกใจเพราะสายตาใสแป๋วของน.ศ.เธอมองผมอยู่ฮะแถมยิ้มนิดๆให้ซะด้วย อืม...สุดยอดจริงๆทำไมกูไม่เล่นไปพร้อมๆกันวะ และก่อนที่จะลงรถลองหันไปดูสาวออฟฟิตกะว่าจะจำภาพเพื่อคราวหน้าเผื่อมีโอกาสจะได้.....อีกครั้งก็ต้องพบกับความงุนงงของสีหน้าและแววตาช้ำๆในขณะสายตาที่มองตรงกระโปรงไปพร้อมๆกับการลูบไล้ของปลายนิ้วซึ่งถูเข้าหากัน แถมยังมีการเอามาดมกันอีกแบบนี้ ทันทีที่ประตูเปิดผมเลยรีบลงเลยฮะ
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของ “กิจกรรมพิเศษ” ของผมยามที่ขึ้นรถเมล์ ซึ่งอย่างน้อยความคิดที่จะซื้อรถในช่วงปลายปีเห็นทีคงเลื่อนออกไปก่อนดีกว่า ก็ในเมื่อรถเมล์มันให้อะไรๆเกินกว่าที่คาดคิดไว้แบบนี้จะทิ้งไปคงไม่งามใช่มั๊ย แต่ที่แน่ๆขึ้นรถขากลับวันนี้คงไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะครับ.....