อาถรรพ์ขุมทรัพย์กามาสุตรา
ตอนที่ 1
ผกา นักธุรกิจสาวสวยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงานของเธอซึ่งอยู่บนชั้นที่ 69 ของตึกvagina ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุด ในกรุงเทพมหานคร ด้วยความรู้สึกที่อ้างว้างโดดเดี่ยว
การหายตัวไปอย่างลึกลับของสามีเธอเป็นคดีที่ถูกนำมาพูดถึงอย่างมากตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะหาหลักฐานอะไรได้เลย นอกจากบันทึกปากคำของพยานที่ยืนยันถึงสถานที่ต่างๆ ที่สามีเธอได้เดินทางไปในช่วงก่อนการหายตัวเท่านั้น
สามีของเธอเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากการค้าขาย สินค้าโบราณวัตถุ โดยที่เขาได้เริ่มทำธุรกิจนี้เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่ธุรกิจของเขากลับมียอดขายที่เพิ่มขึ้นมาอย่างสูงมากจนสามารถที่จะแย่ง ลูกค้าจากคู่แข่งทั้งใน และนอกประเทศจนทำให้คู่แข่งหลายรายต้องปิดกิจการไป ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตำรวจมุ่งเป้าการหายตัวของเขาไปที่ประเด็นการ ขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ
การหายตัวไปของเขาทำให้ The vagina company ซึ่งเป็นบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมาต้องพบกับปัญหาตามมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวัญ และกำลังใจของพนักงาน ตลอดจนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัท
จากปัญหาต่างๆ ที่เข้ามารุมเร้าทำให้บอร์ดบริหารของบริษัทต้องแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่เข้า มาดูแลแทน แต่ก็ไม่สามารถที่จะกอบกู้วิกฤตที่เกิดขึ้นได้ ทำให้ในที่สุดบอร์ดบริหารได้ขอร้องให้ ผกา ภรรยาของวุฒิพงศ์เข้ามาบริหารกิจการแทน แม้ว่า ผกา จะไม่มีความรู้ในเรื่องการบริหารงานบริษัทเลย แต่เนื่องจากความที่เธอเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเป็นมิตรต่อทุกคนทำให้ เธอสามารถทำหน้าที่ ที่มีความสำคัญยิ่งในงานบริหารจัดการงาน นั่นก็คือเธอสามารถประสานงานระหว่างแผนกต่างๆ ในบริษัทได้เป็นอย่างดี ทำให้ตลอดช่วงสองเดือนที่เธอเข้ามาดูแลกิจการปัญหาต่างๆ ดูเหมือนว่าจะค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
5 เดือนแล้ว
นับตั้งแต่ วุติพงศ์ สามีของเธอหายตัวไป เธอต้องรับผิดชอบดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว เรื่องปัญหาที่เข้ามารุมเร้าบริษัท เธอไม่รู้ว่าผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาได้อย่างไร และต่อจากนี้ไปเธอคงจะต้องสูญเสียความเป็นอิสระที่เธอเคยมีในช่วงที่สามีเธอ ยังอยู่
ขณะที่เธอยืนปล่อยอารมณ์อยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ในห้องทำงานเธอก็ดังขึ้นมา
‘อะไรกันห้าโมงเย็นแล้ว ยังมีปัญหาอะไรที่ต้องให้เราทำอีก’ เธอคิดขึ้นมาแวบนึงขณะก้มลงมองดูนาฬิกาที่ข้อมือพร้อมกับเดินไปยังโต๊ะทำงาน ที่จัดเก็บเรียบร้อยแล้ว
“คุณผกาค่ะ” เสียงสดใสกังวานของ ช่อทิพย์ เลขาสาวสวยของเธอดังขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า
“คุณเอกพจน์โทรมาจากโรงงานค่ะ”
‘ป่านนี้แล้วยังโทรมาอีก’ ความคิดแวบนึงของเธอผุดขึ้นมา พร้อมกับกล่าวว่า “โอนสายเข้ามาเลย ทิพย์”
หลังจากคุยกับเอกพจน์แล้ว สีหน้าของผกาแสดงให้เห็นถึงเหนื่อยอหน่ายจากนั้นจึงเก็บเอกสารเดินทางกลับบ้าน
___________
“กินข้าวกันได้แล้วเด็กๆ” เสียงเรียกอันสดใสของผกาดังขึ้น ในขณะที่ เด็กชายสามคนกำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานภายในสระว่ายน้ำส่วนตัวของบ้าน หลังหนึ่ง หนึ่งในนั้นเป็นเด็กซึ่งอาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียง ส่วนอีกสองคนเป็นลูกชายของเจ้าของบ้าน
“ครับแม่....ครับแม่” เสียงตะโกนกลับไปของเด็กชายสองคน อย่างพร้อมเพรียงกันดังขึ้น
“อีกสัก 10 นาทีนะครับแม่” หนึ่งในนั้นตะโกนเสริมขึ้นมา
“เร็วหน่อยนะ แม่หิวแล้ว” เธอพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปในตัวบ้าน
“เฮ้ย พล ไปกันเหอะ กูหิวแล้ว” แจ็คเอ่ยขึ้นกับเพื่อนพร้อมๆกับเดินขึ้นจากสระ
“เดี๋ยวสิวะ กำลังสนุกเลย”
“เออ มึงเล่นไปก่อนละกันกูไปอาบน้ำก่อนพอดีอาบเสร็จก็ 10 นาทีตามที่มึงบอกพอดี”
“อะไรของมึงวะ” พลกล่าวขึ้นอย่างเสียอารมณ์
“ไปเหอะ พล พี่ว่าแจ็คมันก็พูดถูกนะ เดี๋ยวแม่รอนาน” แพนเด็กอีกคนซึ่งเป็นพี่ชายของพลเอ่ยขึ้นพร้อมกับตะโกนไปหาแจ็ค “เฮ้ยแจ็ครอกูด้วย”
“อะไรวะ ขึ้นก็ได้วะ” พลสบถขึ้นมาเบาๆ อย่างเสียอารมณ์
หลังจากอาบน้ำเสร็จทุกคนก็พร้อมกันที่โต็ะอาหาร
“ตามสบายนะแจ็คไม่ต้องเกรงใจ” ผกาเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอย่างเอ็นดู เพื่อลดอาการประหม่าที่เกิดขึ้นกับแจ็ค ก่อนหน้านี้ตอนที่สามีเธอยังอยู่ อยู่ๆเขาก็ห้ามไม่ให้พลกับแพนคบกับแจ็คทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่เคยยุ่ง กับการคบเพื่อนของลูกๆเลย เธอเองก็ไม่ทราบสาเหตุที่สามีเธอไม่ให้ลูกๆ คบกับเด็กคนนี้ แต่เนื่องจากเด็กทั้งสามคนคบกันมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้จะถูกห้ามแต่เด็กทั้งสามก็ยังแอบเที่ยวเล่นกันอยู่ ซึ่งเธอเองก็รู้มาโดยตลอด และก็ไม่ได้คิดขัดขวางอะไร การเข้ามาเล่นกันในบ้านครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังจากที่ถูกห้ามจากสามีเธอ
“ครับ” แจ็คเอ่ยขึ้นในขณะที่ยังคงไม่กล้าสบตากับผกา
ผกายิ้มขึ้นอย่างเอ็นดู หล่อนเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมจึงเอ็นดูเด็กคนนี้เป็นพิเศษ
“แม่วันนี้ พี่แพรวกับพี่พลอยกลับดึกเหรอครับ” แพนถามขึ้นขณะเคี้ยวอาหารอยู่
“แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่า เวลามีอาหารอยู่ในปากห้ามพูด” ผกาเอ็ดขึ้นพร้อมกับกล่าวขึ้นว่า “พี่แพรวโทรมาบอกว่าเคลียร์งานยังไม่เสร็จ ส่วนพี่พลอยเห็นบอกว่าต้องตรวจข้อสอบเด็กๆที่โรงเรียนคงกลับดึกน่ะ ไม่เป็นไรเรากินกันก่อนนี่แหล่ะ เดี๋ยวพี่สองคนเขาหากินจากข้างนอกเอง”
“แล้วนี่เราสองคนปิดเทอมกันกี่เดือนเนี่ย” ผกาถามพลกับแพน ซึ่งเรียนหนังสืออยู่โรงเรียนในละแวกใกล้บ้าน
“ประมาณ 2 เดือนครับแม่” แพนตอบคำถามของผกา
“ตกลงเราไม่คิดที่จะย้ายโรงเรียนกันเหรอ โรงเรียนนี้แม่รู้สึกว่าชั้น ม.ปลาย เด็กเกเยอะนะ” ผกาถามลูกด้วยความเป็นห่วง
“เราไม่อยากย้ายครับแม่ เรียนมาตั้งแต่ป.1 อีกอย่างที่นี่ก็ใกล้บ้านดีด้วย ตื่นสายก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องรีบกลับบ้านก็ได้ด้วย” แพนตอบออกด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเป็นพิเศษ ซึ่งผการู้ดีว่าลูกคนนี้ลองตั้งใจแล้วจะไปขัดแกคงจะยาก ดังนั้นเธอจึงไม่ถามถึงเรื่องนี้ต่อ
“แม่ผมว่าเราน่าจะไปเที่ยวกันนะ ช่วงนี้แม่ว่างรึเปล่าครับ พาผมไปเที่ยวหน่อยนะ นะครับ” พลถามแม่ของเขาขณะที่บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารเงียบไปซักพักนึง
“อะไรกันพล เรื่องของพ่อยังไม่จบเลย จะไปเที่ยวกันได้ยังไง” แพนกล่าวขึ้นกับน้องชายฝาแฝดของเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก
“แพนอย่าไปว่าน้องเลย แม่ว่าเราก็น่าจะไปเที่ยวกันเหมือนกันนะ จะได้สบายใจกันบ้าง ถ้าพ่อรู้ว่าเราเป็นแบบนี้คงไม่สบายใจ ยังไงแม่จะลองหาเวลาว่างดูละกัน คิดว่าสัปดาห์นี้น่าจะว่างนะ ถ้ายังไงแม่จะรีบเคลียร์งานละกันนะ”
“แต่แม่ครับ....”
“ไม่เป็นไรหรอก” ผกาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“แจ็คไปด้วยกันนะ” พลหันไปชวนเพื่อน
“เออ....” แจ็คอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไรดีในสถานการณ์อย่างนี้
“อืม... นั่นสิแจ็คไปด้วยกันนะ จะได้เป็นเพื่อนพลกับแพนด้วย” ผกาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“ค...ค...ครับ”
หลังจากทานข้าวกันไปได้สักพักนึง ผกาสังเกตุเห็นว่าทุกคนเริ่มจะอิ่มกันแล้วจึงเรียกคนรับใช้ในบ้านมาเก็บโต๊ะอาหาร
เด็กๆ ทั้งสามคนก็นั่งเล่นเกมกันอีกสักพักนึง จากนั้นแจ็คก็กลับบ้านไป ส่วนพลกับแพนเล่นกันต่อสักพักก็ขึ้นห้อง ส่วนผกานั่งรอลูกสาวสองคนกลับมาแล้วจึงขึ้นนอน
___________
ผกายืนอยู่หน้ากระจกในห้องนอนของเธอเองในสภาพที่เปลือยเปล่าปราศจากอาภรณ์ ใดๆ เผยให้เห็นถึงทรวงอกอวบอัดขาวเนียน และเต่งตึง แสดงให้เห็นถึงการดูแลรักษาร่างกายของเธออย่างดี ส่วนปลายคือยอดถันซึ่งแม้จะหมองคล้ำไปบ้างเนื่องจากผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่ผิวสีที่ขาวเนียนของเธอสามารถกลบจุดด้อยในส่วนนี้ลงได้เป็นอย่างดี สีหน้าของเธอในตอนนี้ยังคงแสดงออกถึงความเป็นสาวสะพรั่งแม้จะผ่านการมีลูกมา แล้วถึงหกคน แต่จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ทำให้มีความหม่นหมองบางอย่างปรากฎบนใบหน้าของเธอแต่ก็ ไม่ได้ทำให้ความสวยงามของเธอลดลงเลย
เธอค่อยๆลูบไล้โลชั่นบำรุงต่างๆ บนเรือนร่างของเธอ จากแขนซ้าย แขนขวา ผ่านซอกคอ ลูบไล้ลงมาถึงก้อนกลมๆสองก้อนซึ่งมีขนาดเท่ากับมะพร้าวลูกเล็กๆ หลังจากนวดคลึงจนทั่ว ก็ค่อยๆ ลูบไล้ผ่านหน้าท้องแบนเรียบ ลงไปจนถึงโคนขาหนีบ ปลีน่องเนียนขาว เรียวขายาวงาม ย้อนกลับขึ้นมาถึงก้นกลมงอน อย่างแผ่วเบา
“แม่พลอยไปก่อนนะค่ะ” พลอยลูกสาวคนที่สองตะโกนเข้ามา
ผกาสะดุ้งขึ้นแว้บนึง ‘ลูกคนนี้ทำให้ตกใจอยู่เรื่อยเลย’ เธอคิดขึ้นมาแวบนึงก่อนจะตอบออกไป “อย่ากลับดึกนะลูกวันนี้แม่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย”
“ค่ะแม่ พลอยจะรีบกลับนะคะเจอกันเย็นนี้คะ” พลอยตะโกนตอบกลับมา
___________