สุดยอดผลงานของความเสียวก๊อปมาให้อ่านกันครับ ผลงานของคุณไวไฟ
โชว์เสียว ตอนที่ ๑
--------------------
ชอบ..หรือไม่ชอบ
ถูกใจ..หรือไม่ถูกใจยังไงก็บอกนะครับ
บอกตรงๆว่าผมค่อนข้างที่จะลังเล กับการที่เอาเรื่องมาลง
เปิดหน้าจอจัดเรียงบรรทัดทิ้งไว้นานเป็นชั่วโมงๆเลยเหมือนกัน
ก่อนที่จะตัดสินใจกดPost!...
----------------------------------------------------------
พิษของเศรษฐกิจที่ย่ำแย่..หลายๆโรงงานแถวสมุทรปราการได้ปิดตัวเองลง และรีไทร์พนักงานออกกันอย่างคึกคัก
ผมกับแฟนก็เป็นอีกคู่หนึ่ง ที่ต้องว่างงานตามเพื่อนๆหลายร้อยหลายพันคนไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้...
ตอนแรกผมกับแฟนคิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านเปิดร้านขายของชำเล็กๆน้อยๆกัน
เพราะในภาวะที่ทุกอย่างกำลังตกต่ำแบบนี้ การจะหางานใหม่ทำไม่ใช่เรื่องง่ายๆ..
แต่การที่จะกลับไปเปิดร้านขายของชำบ้านมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเหมือนกัน..
เพราะค่าครองชีพที่สูงลิ่วในแต่ล่ะเดือน ทำให้ผมกับแฟนแทบจะไม่มีเงินเก็บติดบัญชีกันเลย..
หลังจากออกงานได้วันสองวัน ผมกับแฟนชวนกันไปปรึกษาพี่สาวกับพี่เขย
ที่ทำงานเป็นนักแสดงโชว์อยู่ในบาร์อะโกโก้ย่านพัฒพงษ์ เพราะถ้าว่างงานอยู่นานเงินก็จะหมดไปเฉยๆโดยเปล่าประโยชน์
อีกอย่างก็เพื่อที่จะขอยืมเงินพวกเขาไปลงทุนเปิดร้านขายของชำด้วย.. เพราะทุกวันนี้ก็ได้พี่สาว
กับพี่เขยที่คอยช่วยเหลือจุนเจือมาตลอด... คือพี่สาวกับพี่เขยผมมีรายได้ดีมาก บางคืนได้ถึงสี่ห้าพันก็มี..
ถ้าคืนไหนฟลุ๊คอาจจะได้ถึงหมื่นหรือมากกว่านั้น.. เท่าที่ผมรู้จากปากของพี่สาวกับพี่เขยคร่าวๆก็คือ
พวกเขานักแสดงโชว์เอากันให้แขกดู..? แต่รายละเอียดจริงๆเป็นอย่างไรนั้น ผมก็ไม่ทราบเพราะไม่เคยถาม
ซึ่งเมื่อก่อนนี่..พี่สาวกับพี่เขยก็เคยชวนผมกับแฟนไปทำหรือไปแสดงโชว์แบบนี้ด้วยเหมือนกัน
บอกว่ารายได้ดีมาก ทำไม่นานก็ตั้งตัวได้.. ซึ่งก็คงจะรายได้ดีจริงๆแหละ.. เพราะไม่ถึงปีพี่สาวกับพี่เขยผม
ก็ส่งเงินไปให้พ่อกับแม่สร้างได้หลังเบ้อเร่อ.. แถมยังพักอยู่ห้องแอร์เดือนตั้งหกเจ็ดพัน แถมมีรถเก๋งขับอีกต่างหาก...
แต่ตอนนั้นผมกับแฟนไม่กล้า..ใจไม่ถึงพอ อยู่ดีๆไปแก้ผ้าเต้นให้คนดูอายเขาตายเลย..
อ้อ..ลืมบอก.. ผมกับแฟนอายุยี่สิบปีเท่ากัน.. พี่สาวผมยี่สิบห้า..
พี่เขยยี่สิบสามอ่อนกว่าพี่สาวผมสองปี...ทั้งพี่สาวและพี่เขยผมเป็นคนรูปร่างหน้าตาดีทั้งคู่
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน... ผมกับแฟนไปปรึกษาขอยืมเงินไปลงทุน..พี่สาวกับพี่เขยผมก็ชักชวนให้ไปทำงานแสดงโชว์ด้วยกันอีก
พี่สาวกับพี่เขยบอกว่ากลับไปค้าขายอยู่บ้านจะไปพอกินอะไร.. มัวแต่อายก็อดตายกันพอดี.. พี่สาวผมบอกว่าดูอย่างพี่..
ทำงานไม่ถึงปีก็ส่งเงินไปให้พ่อกับแม่สร้างบ้านได้ แล้วยังอยู่อย่างสุขสบายมีรถขับมีเงินเก็บอีกเป็นแสนๆ..
แล้วพี่สาวกับพี่เขยก็เอาสมุดบัญชีธนาคารมาให้ผมกับแฟนดู...พี่เขยผมบอกว่า แรกๆใหม่ๆก็อาจจะอายแต่ต่อไปเดี๋ยวก็ชิน
คิดซะว่าเราทำเพื่อเงิน ทำเพื่อความอยู่รอดและความสบายของของเราเองในวันข้างหน้า..
ตอนแรกผมกับแฟนก็ปฏิเสธเพราะอาย..ใจไม่ถึง.. แต่พอเห็นตัวเลขในสมุดฝากเงินของพี่สาวกับพี่เขยที่เอามาอวดแล้ว
ผมกับแฟนก็มองหน้ากันอย่างลังเลๆ สองจิตสองใจกึ่งกล้าๆกลัวๆ เพราะตั้งแต่เกิดจนอายุยี่สิบแม้แต่กางเกงในก็ยังไม่เคย
ใส่ให้ใครเห็น... พี่เขยกับพี่สาวผมบอกว่าเรื่องอายไม่ต้องกลัว..มีวิธีแก้ให้ รับรองว่าทั้งผมและแฟนจะไม่มีคำว่าอายเวลา
ขึ้นเวทีแสดง..? ผมถามว่าทำยังไง.. พี่สาวผมมองหน้าพี่เขยแล้วบอกยิ้มๆว่า ถึงเวลาแล้วจะบอกถ้าหากผมกับแฟนตกลงทำ
พี่เขยผมบอกว่าทำเหอะ.. อย่ามัวแต่อาย.. เก็บเงินได้พอที่จะตั้งตัวได้แล้วค่อยกลับไปอยู่บ้าน.. กลับไปตอนนี้ก็ลำบาก
เหมือนเดิม ยิ่งเศรฐกิจแบบนี้ไปค้าขายก็มีแต่จะขาดทุนอย่างเดียว... ผมกับแฟนปรึกษามองหน้ากันอย่างลังเลๆ..
ทั้งอยากทำทั้งไม่อยากทำ ถ้าไม่ทำก็กลับไปอยู่บ้านแบบอดๆอยากๆอย่างที่พี่สาวพี่เขยว่า..
แต่ถ้าทำผมก็สงสารแฟน.. เพราะแฟนผมเธอพึ่งอายุแค่ยี่สิบเอง แถมยังทั้งขาวทั้งสวยอีกต่างหาก..
ต้องมาแก้ผ้าโป๊โชว์โน่นโชว์นี่ให้คนอื่นดูมันค่อนข้างจะทำใจลำบาก แล้วอีกอย่างแฟนผมเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดด้วย..
แต่ในที่สุดแฟนผมเธอก็เป็นคนตัดสินใจเองว่าทำ ? เธอบอกว่าทุกวันนี้เราอยู่ได้เพราะเงิน.. ถ้าไม่มีเงินเราก็อยู่ไม่ได้..
เก็บเงินได้พอแล้วเราค่อยกลับไปอยู่บ้าน.. ผมถามย้ำว่าแน่ใจแล้วเหรอ..? เธอบอกแน่ใจ
ผมก็เลยโอเค.. ทำก็ทำ..ดีกว่ากลับไปค้าขายอยู่บ้าน.. แล้วถามพี่สาวกับพี่เขยว่าต้องทำยังไงบ้าง..
พี่สาวกับพี่เขยบอกว่า.. ถ้าตกลงทำก็ย้ายมาพักอยู่ด้วยกันก่อนสักระยะ เก็บเงินได้แล้วค่อยหาที่พักใหม่ก็ได้..
จะได้ใกล้ที่ทำงานด้วย.. ส่วนเรื่องเต้นโยกย้ายส่ายขาส่ายก้นจะหัดให้.. วันเดียวก็เป็นแล้วเพราะใช้เวลาแสดงไม่นาน..
แต่ละชุดละรอบไม่เกินยี่สิบสามสิบนาทีเอง..
ผมมองหน้าแฟนขำๆหัวเราะฮาๆซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม..? แล้วถามพี่สาวว่า นอกจากโชว์เอากันแล้วไม่มีอย่างอื่นให้ทำมั่งเหรอ ?
แบบที่ไม่ต้องแก้ผ้าเอากันให้คนอื่นดู พี่สาวกับพี่เขยผมบอกว่ามีเหมือนกัน.. แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่..
รายได้ก็ไม่ดีเหมือนกับที่แสดงโชว์แบบนี้.. ผมถามว่ายังไง..? พี่สาวบอกว่า.. บาร์ที่ทำประจำอยู่ เขาจะแบ่งการโชว์ออก
เป็นสามช่วง.. ช่วงแรกจะเป็นโชว์เต้นยั่วยวนธรรมดาๆแบบทั่วๆไป.. ในช่วงที่สองเป็นการโชว์ที่เริ่มเข้มข้นขึ้นมาหน่อย
คือมีการจับคู่ระหว่างชายหญิงแสดงท่าทางเอากันให้แขกดู แต่ไม่ได้เอากันจริงๆ... คือโยกย้ายส่ายก้นบดคลึงกันนอกผ้า
ผืนน้อยที่ห่อหุ้มอยู่เท่านั้น.. พี่เขยผมบอกยิ้มๆว่า ถึงโชว์เขาจะกำหนดให้แค่ทำหลอกๆหรือแกล้งเอากันให้แขกดู
แต่ก็น้อยคู่ที่จะทำได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วเกือบทุกคู่ ล่อกันบนเวทีแบบดาดๆเลย
ผมถามว่ายังไงเหรอ..? พี่เขยบอกยิ้มๆว่าบนเวทีมันเร้าใจมาก ถึงเวลาแล้วจะรู้
ผมถามว่าแล้วช่วงที่สามมันเป็นยังไง..? พี่สาวบอกว่าในช่วงที่สามนี่เป็นช่วงไฮไลฟ์
เป็นสุดยอดของการโชว์และเป็นการปิดฉากการแสดงในคืนนั้นๆด้วย..
คือเป็นการโชว์ที่เอากันจริงๆแบบจะๆของพี่สาวกับพี่เขยผมและเพื่อนร่วมงานอีกคู่ โดยสลับกันขึ้นไปแสดงทีละคู่
หรืออาจจะขึ้นไปแสดงพร้อมกันซึ่งก็แล้วแต่สถานการณ์...ผมเลยถามว่า.. แล้วทำไมไม่ให้ผมกับแฟนเต้นโชว์ในช่วงแรก ?
พี่เขยบอกว่า..เต้นโชว์ในช่วงแรกจะมีแต่ผู้หญิงไม่มีผู้ชาย.. และเต้นเสร็จก็ต้องลงไปเล่นไปนั่งกับแขก ให้แขกล้วงแขกจับ
ด้วยถึงจะได้เงิน..มันไม่คุ้ม แล้วช่วงนี้ส่วนมากจะมีแต่ผู้หญิงที่ไม่ค่อยสวย แฟนผมสวยๆแบบนี้ลงไปนั่งให้แขกล้วงแขกจับได้เงินน้อย..เสียเปรียบ..
ผมเลยถามว่า.. งั้นขอผมกับแฟนแสดงโชว์ในช่วงที่สองได้เปล่า..? เพราะในช่วงที่สองนี่ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด
และไม่ได้เอากันจริงแค่ทำท่าทางให้เหมือนเท่านั้น พี่เขยผมหัวเราะฮาๆ.. บอกว่าได้.. แล้วถามว่าเมื่อถึงเวลาแล้วจะทน
ไหวเหรอ...? เพราะโชว์ในช่วงที่สองนี่คู่ไหนคู่นั้นแทบจะทุกคู่... ตอนแรกๆถึงจะไม่ถอดไม่แก้เอากันแบบจะๆ...
แต่ในช่วงกลางๆของการแสดงไป ก็ปล่อยให้ผ้าเปิดเลิกออกโชว์หีโชว์ควย แอบเอากันจริงๆน้ำแตกคาเวทีแทบจะทุกคู่..?
ผมบอกว่า.. ก็ยังดีกว่าแก้ผ้าทั้งหมด.. พี่สาวผมหัวเราะแล้วบอกว่า มันไม่ได้แตกต่างกันหรอกน้อง ถึงเวลาแล้วจะรู้
คู่ไหนคู่นั้นเวลาบดคลึงกันชุดที่ใส่มันเลิกเปิดออกไปด้านข้าง ปล่อยหีปล่อยควยออกมาบดคลึงบดอัดกันแบบเต็มๆ..
บางคู่เพลงยังไม่จบก็แอบเอากันน้ำแตกไปก่อนก็มีเพราะอดไม่ไหว... ถ้าตกลงทำแล้วจะพาไปดูว่ามันเป็นยังไง
เพราะพูดไปก็ไม่เห็นภาพ...
พี่เขยบอกว่า..จริงๆแล้วโชว์ช่วงที่สองกับช่วงที่สามมันก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่
เพียงแต่ว่าช่วงที่สองจะไม่ถอดชุดที่ใส่ออกจากตัว และเปิดไฟสะท้อนแสงสลัวๆกับไฟกระพริบที่ส่องวูบวาบเห็นแค่วับๆ
แวมๆเท่านั้น.. ส่วนโชว์ช่วงที่สาม.. ที่พี่เขยกับพี่สาวและอีกคู่แสดงนั้น จะเปิดไฟสว่างจ้าทั้งเวที เห็นเอากันแบบจะๆตาไป
เลย... ผมหัวเราะฮาๆแล้วถามว่าพวกพี่ไม่อายกันมั่งเหรอ..? พี่สาวกับพี่เขยบอกยิ้มๆว่ารู้สึกอายแค่วันแรก..
พอวันที่สองที่สามมาก็ชิน ผมกับแฟนตกลงเลือกแสดงโชว์ในช่วงที่สอง เพราะถึงจะเปลือยเกือบหมดเหมือนกัน
แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีอะไรหุ้มอยู่ แล้วถึงแม้จะถอดจะหลุดหมดยังไง ก็ยังเห็นแค่วับๆแวมๆเพราะไฟแค่สลัวๆไม่สว่างจ้า
เหมือนกับรอบที่สาม.. พี่สาวกับพี่เขยบอกว่า.. โชว์ในช่วงที่สองนี่.. จะมีคู่ของผมกับเพื่อนแสดงร่วมกันอีกสองคู่
แต่เป็นการโชว์ครั้งเดียวคือขึ้นไปแสดงพร้อมกันสามคู่เลย ใช้เวลาประมาณยี่สิบสามสิบนาทีในการโชว์แต่ละครั้ง
แต่บางครั้งอาจจะใช้เวลามากกว่าหรือน้อยกว่า ซึ่งก็แล้วแต่ว่าแขกหรือคนดูจะชอบจะให้ความสนใจแค่ไหน...
ถ้าหากแขกยังให้ความสนใจอยู่.. คู่ของผมและเพื่อนร่วมงานก็อาจจะยืดเวลาออกไปอีก
หลังจากที่ผมกับแฟนตกลงเลือกแสดงโชว์ในช่วงที่สองแล้ว พี่เขยกับพี่สาวก็บอกว่า ให้ขนของมาพักอยู่ด้วยกันเลย
เดี๋ยวตอนเย็นจะพาไปสมัครแล้วดูของจริง.. ส่วนชุดที่จะใส่ขึ้นแสดงโชว์บนเวที พรุ่งนี้จะพาไปซื้อแล้วหัดเต้นหัดโยกให้..
พี่เขยบอกว่าเรื่องแบบนี้ ขึ้นเวทีแค่ครั้งสองครั้งเดี๋ยวมันก็เป็นเอง ไม่ต้องหัดอะไรกันมากเพราะท่าเต้นท่าโยกมันมีไม่กี่ท่า
เอง อีกอย่างเวลาเต้นมันก็อิสระ ไม่จำเป็นต้องเต้นให้เข้ากลุ่ม เพียงแต่คอยรับคอยส่งให้เข้ากันก็ใช้ได้แล้ว...
พี่สาวกับพี่เขยผมเขาเก่ง.. บางคืนวิ่งรอกแสดงกันหลายที่ถ้ามีคนหรือบาร์อื่นติดต่อเข้ามา.. แต่ถ้าไม่มีก็แสดงประจำที่เดิม
หลังจากคุยกันเสร็จเรียบร้อย พี่สาวกับพี่เขยก็ชวนผมกับแฟนกลับไปขนของมาอยู่ด้วยกันเลย..
เพราะไม่อยากให้เสียเวลา ผมกับแฟนมองหน้ากันหัวเราะฮาๆ แล้วบอกว่าขอกลับไปนอนคิดอีกสักคืนไม่ได้เหรอ..?
พี่สาวกับพี่เขยบอกว่าถ้าจะทำก็ขนของมาเลย ตอนนี้บาร์เขากำลังขาดนักแสดงแบบนี้อยู่พอดี..
เพราะคู่เก่าเขาลาออกกลับไปอยู่บ้าน.. กลัวว่าเขาจะรับคู่อื่นเข้ามาซะก่อน.. ผมมองหน้าแฟนหัวเราะฮาๆถอนหายใจเฮือก..
นึกปลอบใจตัวเองว่าเอาว่ะ..ไหนๆก็ไหนๆแล้ว.. มันก็มันเสียวก็เสียวแถมยังได้เงินอีก..
พี่สาวกับพี่เขยพาผมกับแฟนออกมาหากินข้าว แล้วก็เลยไปขนของที่สมุทรปราการที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้น
ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นเสื้อผ้าย้ายมาอยู่ที่ห้องของเขาเลย