ภายในห้องที่กะรัตถูกลักพาตัวไปซ่อนนั้น ชัยนั่งดูเธอที่ยังนอนไม่ได้สติด้วยความสงสารบอกทั้งที่เธอยังคงหลับอยู่ว่า
"ฉันจะช่วยเธอเอง กะรัต ฉันจะสืบให้รู้ให้ได้ใครเป็นคนที่โกงพ่อเธอของเธอ ฉันจะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอกลับคืนมาให้ได้ " ชัยเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของกะรัตอย่างแผ่วเบา ก่อนเพ่งพิศมองกะรัตอย่างลืมตัว กะรัตใส่เสื้อรัดรูปตามแบบฉบับสาวโฉบเฉี่ยว เสื้อสายเดี่ยวเว้าลึก ผมของเธอยาวพาดลงมาที่ไหล่ทำให้มองเห็นเนินอกของสาวสวยที่กระเพื่อมขึ้นลง อย่างช้าๆตามจังหวะการหายใจ
“เธอสวยเหลือเกินกะรัต” ชัยพึมพำเบาๆก่อน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอนุชา
“ฮัลโหล... ชานายอยู่ที่ไหนนะ”
“ฉันต่างหากที่ควรจะถามว่าแกอยู่ที่ไหน รู้ไหมคุณกะรัตหายตัวไป แม่นายกำลังให้คนในบริษัทออกตามหากันให้ขวัก อ้อมขวัญก็เป็นห่วงเพื่อนของเธอมาก”
“เออ รู้แล้ว นายรีบมาที่กระท่อมร้างข้างทางรถไฟเร็วเข้า ฉันกับกะรัตอยู่ที่นี้”
“เข้าใจแล้วจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
อนุชาวางหู โทรศัพท์ก่อนหันเดินเข้าไปหา โชติ ที่กำลังสาละวนหาตัวกะรัตอยู่อีกด้านหนึ่ง
“คุณโชติ ผมจะไปเดินหาทางด้านโน้น ฝากคุณช่วยดูแลอ้อมขวัญให้ด้วย”
“ได้ครับคุณอนุชา ถ้าคุณเจอตัวคุณกะรัตกับนายชัยแล้วรีบโทรบอกคุณเรืองรองด้วยนะครับ ตอนนี้เจ้านายเป็นห่วงทั้งสองคนนั้นมาก”
“ไม่ต้องห่วง ถ้าผมเจอผมจะรีบโทรบอกคุณเรืองรองทันที”
หลังอนุชาแยกตัวออกมาได้แล้ว ก็รีบขับรถมารับชัยและกะรัตที่กระท่อมร้างข้างทางรถไฟทันที
“ไอ้ชัย!!!...คุณกะรัตเป็นอะไร?”
“ฝีมือไอ้พิทักษ์กับไอ้ดำรง มันส่งคนมาจับตัวกะรัต มันจะให้ฉันทำว่ามีอะไรกับกะรัตแล้วจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้คนทั้งบริษัทรู้ เธอจะได้อับอายขายหน้าและลาออกไป”
“ไอ้เลวสองตัวนี้เอง” เสียง อนุชา คำรามอยู่ในลำคอ
“เท่าที่ฉันสืบรู้มาได้ในตอนนี้ ไอ้พิทักษ์ เอาบ้านกุหลาบขาว มาขายให้กับแม่ฉัน แล้วเอาส่วนต่างของราคายัดใส่กระเป๋าตัวเอง”
“งั้นเชื่อได้100%เลยว่าเงินในบริษัทของแกต้องถูกพวกมันยักยอกไปแน่”
“พี่นิพนธ์ไว้ใจไอ้พิทักษ์มากเกินไป แต่สักวันฉันจะกระชากหน้ากากของมันออกมาให้ทุกคนได้รับรู้ว่ามันเลวแค่ไหน”
“แล้วคุณกะรัตเราจะเอายังไงดี จะพาเธอกลับไปที่บ้านกุหลาบขาวไหม?”
ชัยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ไม่.... พาเธอกับไปสภาพนี้ไม่ได้แน่ ฉันว่าควรหาโรงแรมพักดีกว่า”
“แต่ถ้านายพาเธอไปโรงแรม เกิดมีใครเห็นเข้าจะต้องคิดว่า นายพาคุณกะรัต ไปทำมิดีมิร้ายแน่ คราวนี้นายก็จะไม่มีข้อแก้ตัวอีก ดีไม่ดีเรื่องที่นายปลอมตัวมาเป็นคนส่งเอกสารอาจจะถูกเปิดเผยขึ้นมาก็ได้ ทีนี้ไอ้พิทักษ์กับไอ้ดำรงคงระวังตัวแจไม่ยอมให้เราสืบสาวเรื่องราวของพวก มันได้อีก”
ชัยขบกรามแน่น
“ถือว่ามันถือไพ่เหนือกว่าพวกเรา พาเธอกลับไปบ้านกุหลาบขาว เราจะต้องแอบเข้าไปอย่างเงียบๆ ลองวัดดวงกับพวกมันดูซักตั้งว่าฉันหรือมันจะแน่กว่ากัน”
อนุชาขับรถมาจอดที่หน้าบ้านกุหลาบขาว พลางเหลียวมองดูรอบๆก่อนบอกเพื่อนอย่างโล่งใจว่า
"บ้านมืดสนิท ไม่มีใครอยู่เลย เป็นโชคดีของแกแล้ว ฉันส่งแกแค่นี้
รีบพาคุณกะรัตไปไว้ที่ปลอดภัยก่อน อย่าให้ใครเห็น ไม่งั้นแกได้ซวยไปตลอดถึงชาติหน้าแน่ๆ ส่วนฉันจะลองไปดูลาดเลาว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าเห็นท่าไม่ดีจะได้รีบโทรมาบอกแก"
“ขอบใจมากอนุชา ฉันไปล่ะ”
“เออ”
อนุชาขานรับก่อนที่ชัยจะอุ้มกะรัตไปเข้าไปในบ้าน เขาพาเธอเข้าไปในห้องนอนบนชั้นสองก่อนวางเธอลงบนที่เตียงนอน ภายในห้องมืดสนิท ชัยไม่กล้าเปิดไฟเพราะกลัวว่ามีใครจะรู้ว่าเขากับกะรัตซ่อนตัวอยู่ในห้องนี้ ชัยมองกะรัตพลางใช้มือสัมผัสแก้มเธอเบาๆ ก้มเอ่ยบอกทั้งๆที่เธอยังไม่รู้สึกตัว
"ขอโทษนะ ผมไม่ได้ล่วงเกินอะไรคุณเลย จะไม่มีใครรู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ" ถึงแม้ชัยจะไม่ได้คิดทำอะไร แต่ก็ห้ามความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึกๆภายในใจไว้ไม่ได้ โน้มตัวหอมแก้มเธอเบาๆ กลิ่นน้ำหอมที่กะรัตใส่ หอมฟุ้งไปทั่วทั้งตัว ใบหน้าของชัยปรากฏสีเลือดฝาดจางๆ ไฟราคะเริ่มโหมก่อตัวขึ้นอย่างปั่นป่วน ยิ่งมองทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามลมหายใจของสาวสวยแล้ว ก็ยิ่งอยากสัมผัสความอวบอิ่มของเรือนร่างที่อยู่ตรงหน้าแทบจะขาดใจ
“ไม่...เราจะต้องไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด” ชัยพร่ำบอกตัวเองทั้งที่ทั่วทั้งตัวเกิดความรู้สึกแปลกๆรู้สึกรุ่มร้อนอะไร ขึ้นมา อย่างบอกไม่ถูก
“เอ๊ะ...ทำไม..จู่ๆ....ตัวของเราถึงได้ร้อนขึ้นมาอย่างนี้นะ ทั้งๆที่วันนี้อากาศก็ไม่ได้ร้อนสักหน่อย”
ชัยแกะกระดุมเสื้อตัวเองออกมา ก่อนขยับเสื้อให้หลวมขึ้นเพื่อคลายความร้อนที่เกิดขึ้นมาอย่างปัจจุบันทัน ด่วนให้กับตัวเอง ไม่ใช่เฉพาะชัยเท่านั้น แม้แต่กะรัตเองที่ยังคงสลบอยู่ด้วยฤทธิ์ของยาสลบก็ยังขยับเขยื้อนตัวไปมา พร้อมกับครางละเมอเหมือนคนที่เป็นไข้
“อูยยยย.......ร้อนจัง...ทำไมถึงร้อนอย่างนี้....”สาวสวยสะบัดส่ายหน้าเร่าๆปานตกอยู่ในกองเพลิงที่กำลังลุกท่วม
“นี้เราเป็นอะไรกันแน่นะทำไมถึงได้อยากจะ........” ความรุ่มร้อนที่บังเกิดขึ้นกับชัยกำลังปลุกบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เบื้อง ล่างให้ตื่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
ชัยเหลียวมองดูกะรัตทีดูตัวเองที มันต้องไม่ใช่อาการปกติแน่ๆแต่มันคืออะไร?
“คุณคิดว่าแผนนี้จะสำเร็จหรือ?” เสียงของรัชนียังคงก้องอยู่ในหัว เมื่อครั้งที่เขาแอบฟังทั้งสองพูดคุยกันถึงแผนการเล่นงานกะรัต
“ไม่ต้องห่วง ผมวางแผนไว้เป็นอย่างดี รับรองได้ว่ากะรัตต้องไม่รอดมือไอ้ชัยไปได้แน่นอนถึงตอนนั้นเราก็แค่พาทุกคน เข้ามาดูตอนกะรัตกำลังแสดงบทรักกับไอ้ชัย แค่นี้ชื่อเสียงของนังนี้ก็ป่นปี้ไม่มีชิ้นดีแล้ว หึๆๆ” พิทักษ์หัวเราะอย่างมั่นใจ
“แต่ฉันก็ยังไม่ไว้ใจไอ้กระจอกชัยอยู่ดี ถึงมันจะชอบนังกะรัตก็จริง แต่มันชอบทำตัวเพี้ยนๆเกิดมันไม่ยอมทำตามแผนขึ้นมาไปบอกเรื่องของเรากับคุณ เรืองรอง เราก็แย่เท่านั้น” รัชนีแย้ง
“อย่าห่วงไปเลยรัชนี” พิทักษ์ อ้อมตัวไปกอดรัชนีทางด้านหลัง
“คุณก็รู้นี้ผมมักจะทำอะไรกับคนที่เข้ามาเป็นก้างขัดขวางผลประโยชน์ของเรา เพื่อกันความความผิดพลาดผมเตรียมการเอาไว้ให้ทั้งสองคนนั้นโดยเฉพาะแล้ว” หลังจากฟังจบสีหน้ารัชนีเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
“งั้นก็ดี นังตัวมารนี้จะได้พ้นไปจากเส้นทางของพวกเราซะที”
“คุณเองก็ชอบไม่ใช่เหรอ?”
“บ้านะเดี๋ยวคนเห็น”
ภาพการคลอเคลียของทั้งสองจางหายกลับมาเป็นภาพห้วงความนึกคิดก่อนที่กะรัตจะถูกจับตัว
“นายชัย ดื่มอะไรก่อนสิ นี้ของเธอกะรัต”
“ขอบคุณคะ คุณรัชนี”
“ขอบคุณครับ แหม...ไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณรัชนีจะบริการด้วยตัวเองถึงขนาดนี้ เอ...ถูกหวยหรือว่าได้แฟนใหม่หรือครับถึงได้ใจดีกับผมจัง”
“ทะลึ่ง...นายชัย จะกินหรือไม่กินฉันจะได้เททิ้ง”
“โอ...กินเสียครับ อุตสาห์ได้รับน้ำใจจากคุณรัชนีทั้งที จะไม่รับได้ยังไงล่ะครับ”
เค้าลางนึกขึ้นได้เริ่มปะติดปะต่อ ถึงตอนนี้ชัยพอจะเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองและกะรัต
“ไอ้เลวพิทักษ์ นังรัชนี มันวางยาปลุกเซ็กซ์เรากับกะรัต”
กว่าที่ชัยจะรู้ตัวก็เหมือนจะสายไปเสียแล้ว กะรัต ที่นอนหลับอยู่ ละเมอจนเสื้อผ้าเริ่มหลุดลุ่ย เลือดสาวสูบฉีดไปทั่วทั้งร่างใบหน้าแดงซ่านไปด้วยฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดที่เธอ ไม่ได้ตั้งใจกิน
“โธ่...กะรัต อย่าทำอย่างนี้สิ”