ลมร้อนพัดเป่าเข้ามาทางรูกระดาษที่ปิดหน้าต่างเป็นครั้งคราว ลำแสงสาดส่องกระทบพื้นเป็นวงกลมกึ่งหลางห้อง
กระจกเงาบานเล็กๆที่แขวนผนังสะท้อนภาพใบหน้าดรุณีสาวสะคราญโฉมนางหนึ่งที่ กำลังชื่นชมกับเงาของตัวเอง เส้นผมดำเป็นเงาสลวยนุ่มห้อยประบ่าปลิวไปตามลมเป่า ปลายผมพลิ้วปัดป่ายอยู่บนวงแก้มเปล่งปลั่งดั่งกลีบกุหลาบ นางยกมือลูบไล้มันเล่น ริมฝีปากบางเผยอยิ้มอย่างภาคภูมิ นัยน์ตากลมโตดำขลับเป็นประกาย ราวกับเพชรน้ำเอกที่ต้องแสงไฟ นางหันซ้ายหันขวาให้กับเงาตัวเอง แย้มยิ้มอย่างสุขใจ
“หลานเอ๋อ” ใกล้จะเป็นสาวแล้ว ร่างปริเปล่งปลั่งดั่งดอกกุหลาบตูมที่กำลังจะสยายกลีบบาน ในมณฑลอันฮุยนี้หามีสตรีบ้านใดจะงดงามเทียบนางได้ ธรรมชาติได้ให้ความงามอันพิลาศเหนือสตรีอื่นใดทั้งปวง
พลันดวงตาที่แวววาวราวแสงเพชรก็หม่นวูบ ริมฝีปากสีชมพูเม้มเป็นเส้นตรง นางคร่ำครวญอย่างปวดร้าว
“โอ เราแม้เกิดมาเป็นหญิงที่งดงามเพียบพร้อม แต่ชะตาช่างกลั่นแกล้งให้ต้องมีชีวิตต้องต่ำต้อย พ่อกับแม่ก็ยากจนขัดสนเหลือเกิน”
ฮุ่ยจง บิดาของนางเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ตั้งชื่อเล่นให้นางว่า หลานเอ๋อ ซึ่งหมายถึงดอกกล้วยไม้ ชื่อจริงของนางคือ เย่อเหอนารา น้องสาวของนางชื่อ จี๋ฮวา หมายถึงดอกเบญจมาศ แต่น้องสาวนั้นหามีความงามได้ถึงครึ่งของนางไม่ ส่วนน้องสุดท้องเป็นชายชื่อ กุ้ยเสียง แม้นเป็นชาย แต่เกียจคร้าน ไม่สนใจหาความรู้ความก้าวหน้าให้ตัวเอง
หลานเอ๋อมีนิสัยต่างกับน้องและสาวๆบ้านอื่น นางชอบอ่านตำรับตำราโบราณรวมทั้งกาพย์กลอน นับเป็นดรุณีที่เพียบพร้อมทั้งความงามและความรู้ จะขาดก็เพียงชาติตระกูลเท่านั้น
“ลูกสาวของข้าไม่เหมือนคนอื่น” พ่อของนางบ่นให้อู๋ถัง เพื่อนรักฟัง “ข้าเคยดุมันว่า เป็นผู้หญิงดันไปสนใจวิชาการที่เป็นเรื่องของผู้ชาย ไม่เข้าท่าเลย ทีไอ้เรื่องเย็บปักถักร้อยไม่สนใจ พอข้าสอนมันว่า เป็นผู้หญิงถึงมีความรู้ก็เป็นทาสบำเรอผัววันยังค่ำ มันดันย้อนว่า ‘จงอย่าดีใจเมื่อได้ลูกเป็นชาย จงอย่าเศร้าใจหากได้ลูกเป็นหญิง ผู้หญิงอาจสืบสกุลได้’ ฟังมันว่าสิ มันบอกตอนนี้แม้อับจนแต่อนาคตอาจมีอำนาจเหนือคนเป็นล้าน”
อู๋ถังหัวเราะชอบใจ เขายอมรับว่าเด็กสาวผู้นี้ฉลาดไม่เบา สตรียากนักที่จะฉลาดรอบรู้และกล้าหาญเช่นนาง
หลานเอ๋อประเคนน้ำชาให้อู๋ถัง แล้วก็ยืนก้มหน้านิ่ง เหลือบตาคมวาวมองแวบหนึ่ง แล้วรีบหลบอย่างเหนียมอาย สายตาจับจ้องมองพื้น
“จริงนะพี่ท่าน” พ่อของนางเอ่ยต่อ “ข้าน่ะจนเต็มที แต่นังลูกคนนี้กลับคิดมักใหญ่ใฝ่สูง เพ้อจะเป็นถึงสนมและมเหสีของฮ่องเต้ เชอะ! หน้าอย่างเจ้าน่ะหรือ ไปช่วยแม่ทำครัวดีกว่า อีหนู!”
จบคำเยาะเย้ยถากถางจากพ่อ หลานเอ๋อสืบเท้าก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าเพื่อนพ่อ ประสานมือจรดหน้าผาก ค้อมหัวคารวะอย่างนอบน้อม แล้วเดินจากไปเงียบๆ
อู๋ถังมองตามหลังเรือนร่างโปร่งบางน่ารัก ด้วยความชื่นชมและพูดกับพ่อนางว่า
“อย่าได้ดูถูกลูกเลยฮุ่ยจง เด็กคนนี้ท่าทางฉลาดมาก ลักษณะสง่าเหมือนนางพญา วันหนึ่งข้างหน้าอาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินก็ได้..ใครจะรู้?”
ด้วยความรักและเอ็นดูในตัวหลานเอ๋อ อู๋ถังจึงสนับสนุนให้นางใฝ่หาความรู้ อนุญาตให้นางไปบ้านเขา ให้เลือกหนังสืออ่านในห้องสมุด ซื้อเสื้อสวยๆให้ มิให้นางน้อยหน้าหญิงอื่น
แต่มิช้า อู๋ถังก็ถูกย้ายไปรับตำแหน่งข้าหลวงต่างเมือง บิดาของนางก็มาเสียชีวิตอีก ครอบครัวเย่อเหอนาราต้องอับจนลงถึงขีดสุด สองแม่ลูกต้องออกเที่ยวรับจ้างปะชุนเสื้อผ้าให้ชาวบ้าน ผ่านพ้นความลำบากไปวันๆ
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่หลานเอ๋อส่องกระจกเหมือนเคย อดไม่ได้ต้องพึมพำน้อยใจในชะตาชีวิตของตนเอง เสียงแม่ก็ร้องเรียกขึ้น
“หลานเอ๋อ หลานเอ๋อเอ๊ย!”
“อะไรจ๊ะแม่”
“ไปซื้อน้ำมันมะเกลือทีลูก มันจะหมดอยู่แล้ว”
สิ้นเสียงแม่สั่ง หลานเอ๋อคว้าตะกร้า รับเศษเงินจากแม่แล้วรีบออกจากบ้าน
ท้องฟ้ามืดครึ้มเป็นสีเทาเข้ม ลมหนาวกรรโชกมาเป็นพักๆ พายุพัดฝุ่นคลุ้งกระจายปลิวเข้าจนนางต้องหยีตา หลานเอ๋อหุ้มกายด้วยเสื้อผ้าบางๆ เดินสั่นสะท้านฝ่าลมหนาวและพายุฝุ่น ลมหนาวเย็นเยือกเข้ากระดูกราวกับมีดที่กรีดผิว นางเร่งฝีเท้าจนเข้าไปยืนตัวสั่นริกๆอยู่ในร้านขายของชำ เถ้าแก่เจ้าของร้านตะลึง เกิดมาจนอายุปูนนี้ เพิ่งเคยเห็นสตรีที่งามสุดฟ้าสุดดินแบบนี้เป็นครั้งแรก นางช่างยั่วยวนใจยิ่งกว่ากระไร แม้จะหน้าซีดปากเขียวคล้ำเพราะความหนาวสั่น ก็ยังดูผุดผาดมีเสน่ห์ชวนหลงใหลยิ่งนัก
“อา ดรุณีที่สวยบริสุทธิ์อย่างเจ้านี้ น่าจะเก็บเนื้อสงวนตัวอยุ่ในห้องหอ ไม่ควรจะออกมาจ่ายตลาดเลยนะ” เถ้าแก่พูดด้วยความเห็นใจ แต่ดวงตาวาววามมองเรือนร่างขาวตึงด้วยประกายหื่นกระหาย
“ข้าไม่มีวาสนาอย่างนั้นหรอกจ้ะลุง” หลานเอ๋อตอบพลางถูมือให้อุ่น
“ข้าจะช่วยเจ้าก็ได้ เอาไหมล่ะ?” สายตาของเถ้าแก่โลมเลียไปทั่วเรือนร่างของนาง
“ท่านจะช่วยข้าจริงๆหรือ?” หลานเอ๋อเบิกตาโต สีหน้างุนงง
“มีซี่ ข้าจะช่วยให้เจ้าได้อยู่อย่างสบาย ไม่ต้องเดือดร้อน นั่งกินนอนกินไปตลอดชีวิต” เถ้าแก่ยิ้มกรุ่มกริ่มและเดินเข้าไปหา
“ข้าไม่เข้าใจ ทำไมทำไม เถ้าแก่จึงจะช่วยข้า”
เถ้าแก่หัวเราะ เอื้อมมือจับจมูกนางบิดเล่นเหมือนเอ็นดูและว่า
“ข้ากำลังต้องการเมียมาแนบข้างซักคน อากาศมันหนาวเหลือเกิน ถ้าเจ้าไม่รังเกียจละก็... ข้ารับรองจะให้เจ้าได้อยู่ดีกินดี ชาตินี้ไม่ต้องทำงานอะไรทั้งสิ้น”
หลานเอ๋อสะบัดหน้าหนี ถ่มน้ำลายให้ ใบหน้าแดงซ่านด้วยความอายและโกรธ
เถ้าแก่ถูกนางถ่มน้ำลายใส่ก็โมโห ดึงร่างของเข้ามากอดจูบ หลานเอ๋อตกใจร้องห้ามเสียงแต่ไร้ผล เถ้าแก่กอดฟัดสูดดมกลิ่นกายสาวยิ่งเกิดอารมณ์หื่นกระหาย เขาซุกจมูกบดขยี้ กอดรัดร่างอันอวบอิ่มเต่งตึงมิให้ดิ้นรน ช่างตื่นแต้นจริงๆ หลานเอ๋อได้แต่ดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของเขา เถ้าแก่จูบซอกไซ้รทั้งซอกคอ ติ่งหู แก้มอันขาวนวลเปล่งปลั่ง พยายามจะประกบปากจูบ แต่หลานเอ๋อหลบดิ้นไปมา เถ้าแก่ผลักนางล้มลงกับพื้นจับแขนทั้งสองข้างของนางกดไม่ให้ดิ้น อารมณ์หื่นพุ่งพล่านเต็มที่ ถึงกับคิดจะข่มขืนเด็กสาวให้สมใจอยาก หลานเอ๋อถูกจับแขนดิ้นไปมา ทำให้เสื้อรั้งตึง ปทุมถันทั้งสองข้างดันเสื้อจนเห็นเป็นลูกลอยเด่นอยู่ตรงหน้า
เถ้าแก่ตาลุกวาวเพราะไม่เคยเห็นปทุมถันของเด็กผู้หญิงที่กำลังจะเป็นสาว เขาก้มลงซุกหน้าฟัดสูดดมอยู่บนเสื้อของนางอย่างชื่นใจ มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปรั้งแผ่นหลังให้อกลอยเด่นขึ้นมา แล้วซุกหน้าไซ้รไปบนความอวบหยุ่นเต่งตึงอย่างหื่นกระหาย มืออีกข้างก็ขยำขยี้ปทุมถันจนหลานเอ๋อเริ่มอ่อนแรงลง บิดร่างไปมา เถ้าแก่ลดมือลงลูบไล้ตรงขาอ่อนและแล้วก็มาสะดุดตรงเป้ากางเกง ตะปบเต็มแรงพร้อมกับขยี้ไปบนความโหนกนูน ร่างงามยิ่งบิดแรงขึ้นเตะถีบไปมา หลานเอ๋อพยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์ พลันมือของเถ้าแก่ก็สอดเข้าไปในกางเกงของนาง พลางร้องว่า
“อย่าดิ้นเลยน่าคนสวย! ข้าจะสอนให้เจ้ามีความสุข โอ เจ้านี่ช่างเต่งตึง เนื้อนุ่มมือดีเหลือเกิน อูยยย ข้าจะคลั่งตายอยู่แล้ว”
เถ้าแก่ร้องเสียงกระเส่า พร้อมกับสอดมือเข้าไปตะปบที่โคกสวาทของนางเต็มเปา หลานเอ๋อตกใจสุดชีวิต รวบรวมสติเตะใส่เขาสุดแรงพร้อมกับกรีดร้องโวยวายเสียงดังลั่น ไม่ทราบว่าเท้าของนางเตะไปโดนอะไรเถ้าแก่ถึงกับผงะ หน้าเขียวซีด หลานเอ๋อรีบตะเกียกตะกายรุกขึ้น เถ้าแก่เห็นนางดิ้นหลุดไปได้กลับไม่ไล่ปล้ำต่อ หากปลอบโยนนางว่า
“เอาละๆ อย่าโกรธเลยนะคนสวย ข้าจะให้น้ำมันกะเกลือให้โดยไม่เอาเงิน แต่ขอให้เจ้าเก็บเอาเรื่องนี้ไปคิดให้ดี อยู่กับข้าจะได้เป็นคุณนาย ไม่ต้องทำงาน ข้าจะทนุถนอมเจ้าเหมือนแก้วตาเลยทีเดียว นี่ข้าพูดด้วยความจริงใจนะ”
ได้เกลือกับน้ำมันแล้ว หลานเอ๋อรีบกลับบ้าน ใบหน้ายังร้อนผ่าวด้วยควาอาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีมือชายมาแตะต้องของสงวน มันเป็นการลวนลามที่ไม่นึกไม่ฝัน