พี่ตูนเป็นลูกสาวคนเดียวของป้ามี บ้านใกล้เรือนเคียงของผม เธอเป็นคนสวย สวยมากเสียด้วย เมื่อสี่ห้าปีก่อน พี่ตูนได้เป็นตัวแทนไปประกวดเทพีสงกรานต์ ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศแถมรางวัลขวัญใจช่างภาพอีกต่างหาก เพราะนอกจากจะสวย ยิ้มเก่ง อารมณ์ดีแล้ว พี่ตูนยังมีรูปร่างที่น่าฟัดเหลือหลาย แบบว่า ชายใดเห็นแล้วควยไม่กระดกเป็นไม่มี ขนาดนั้นเลย
คนสวยขนาดนี้แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องมีคนมาจีบ แต่ป้ามีแกหวงลูกสาวมาก ใครแหยมมาที่บ้านเป็นโดนแกตะเพิดไล่ไปหมด บางครั้งผมเดินผ่านบ้านแกยังเคยได้ยินเสียงพี่ตูนร้องห่มห้องไห้เพราะโดนป้ามีด่าเรื่องผู้ชายที่แวะเวียนมาหาที่บ้านเลย
แต่ก็แปลกดีว่า ป้ามีกลับไม่ว่าอะไรเวลาผมแวะเวียนมาที่บ้านแก อาจเป็นเพราะแกเห็นว่าผมอ่อนกว่าพี่ตูนหลายปี (ตอนนั้นผมอายุ 20 ส่วนพี่ตูนก็ราว ๆ 27-28 ได้) และส่วนใหญ่ผมจะมาคุยกะแก ไม่ได้มีทีท่ามาเกาะแกะพี่ตูนแต่อย่างใด ด้วยนิสัยผมที่คุยเก่ง และชอบฟังคนแก่เล่าเรื่องเก่า ๆ ด้วยละมังจึงทำให้ป้ามีรักเอ็นดูผมเหมือนลูกเหมือนหลาน เข้านอกออกในบ้านแกได้เหมือนเป็นบ้านของตัวเอง
พี่ตูนเองก็ดูจะเอ็นดูผมมิใช่น้อย เวลาผมมาหาป้ามี เธอจะยกขนมนมเนยมาให้ผมพร้อมรอยยิ้ม บางครั้งเวลาป้ามีไม่อยู่ พี่ตูนก็นั่งคุยกับผมได้ทั้งวัน เธอบอกว่าผมนิสัยดี คุยเก่ง ทำเอาเธอหัวเราะได้ตลอด ผมเองก็ชอบเวลาพี่ตูนหัวเราะ เพราะหน้าอกหน้าใจอวบอั๋นของเธอมันกระเพื่อมขึ้นลงจนควยผมกระดกทุกที
แต่ก็นั่นแหละครับ ผมไม่ได้คิดจะไปจีบพี่ตูนอย่างเป็นจริงเป็นจังนัก เพราะสาว ๆ รุ่น ๆ เดียวกะผมละแวกนั้นมีให้ฟันได้ไม่ซ้ำแต่ละวัน แต่ละคนก็น่ารักน่าฟัดกันไปคนละแบบ ทำเอาผมเพลินไปตามประสาหนุ่มโสด ไม่ได้คิดจะไปสนใจพี่ตูนที่เรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้
และเหตุการณ์เสียวซ่านระหว่างผมกับพี่ตูนก็เกิดขึ้นเมื่อวันสงกรานต์นี่เอง เช้าตรู่วันนั้น ผมแวะไปรดน้ำป้ามีเหมือนเช่นทุกปี แกก็ยิ้มแย้มและให้ศีลให้พรผมเป็นการใหญ่ แต่พอผมจะลาแกไปบ้านอื่นต่อ แกเรียกผมไว้ ถามผมว่าเย็นนี้ผมว่างหรือเปล่า พี่ตูนอยากไปเที่ยวงานสงกรานต์ที่หมู่บ้านข้าง ๆ เส้นทางมันเปลี่ยว แกอยากให้ผมไปเป็นเพื่อน ผมรับปากแก และบอกว่าตอนเย็นผมจะแวะมารับพี่ตูน แกขอบอกขอบใจเป็นการใหญ่ แล้วผมก็ขอตัว
ว่ากันตามตรง ตอนที่ผมรับปากแกนี่ไม่ได้คิดอกุศลกับพี่ตูนเลยซักนิดเดียว เพียงแต่เห็นว่าสนิทกัน ก็อยากช่วยเหลือกันเท่านั้นจริง ๆ
วันนั้นผมออกไปเฮฮากับบรรดาเพื่อน ๆ ตั้งเพิงดักรอสาว ๆ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านทาง แล้วก็ประแป้งราดน้ำสนุกสนานตามประสาหนุ่ม ยิ่งสาวคนไหนใส่เสื้อยืดสีขาวล่ะก็เวลาเปียกน้ำแนบเนื้อเห็นสัดส่วนเข้าไปถึงไหน ๆ เล่นเอาควยลุกกันทั้งแก๊ง ร่ำ ๆ จะลากเข้าพงข้างทาง แต่พอผู้ใหญ่ ๆ ผ่านมา พวกเราก็ทำทีเป็นเด็กเรียบร้อย เล่นน้ำเรียบร้อยตามประเพณี เรียกว่า เปลี่ยนบทบาทตามสถานการณ์ ยังกะกิ้งก่ายังไงยังงั้น
พอถึงเวลาเย็น ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่ารับปากป้ามีเอาไว้ เลยบอกลาผองเพื่อน บึ่งรถกลับไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปที่บ้านป้ามี ตอนนั้นเวลาซักหกโมงเย็นได้ ดวงอาทิตย์ยังลอยอยู่เหนือขอบฟ้าหน่อย ๆ ความร้อนก็ยังระอุขึ้นมาจากพื้นดิน จนผมรู้สึกเหนียวตัวขึ้นมาทั้ง ๆ ที่เพิ่งอาบน้ำมาหยก ๆ
ผมยังไม่ทันดับเครื่อง พี่ตูนก็เปิดประตูออกมา อู้หู ผมร้องชมในใจ พี่ตูนแต่งตัวสวยชะมัดยาด ใบหน้าเธอขาวผ่อง ริมฝีปากแดงเรื่อ เรือนผมก็เกล้าขึ้นไปสูง เปิดหน้าผากจนดูโดดเด่น จากลำคอระหงก็เป็นเสื้อลายดอกชมพูยาวกรอมแขนแต่จีบเข้ามาตรงรอบเอว แล้วต่อลงมาเป็นผ้าซิ่นดิ้นทอง ดูยังกะนางสงกรานต์ตัวจริงสำแดงกายออกมาในยามโพล้เพล้
เธอตรงเข้ามาหาผมพร้อมรอยยิ้มหวาน ผมได้กลิ่นน้ำหอมไทยอ่อน ๆ โชยพัดมาตอนที่เธอขึ้นนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ผม
"พร้อมแล้วจ้ะอี๊ด" พี่ตูนบอก
ผมบิดเร่งเครื่องตรงไปทางถนนลูกรังที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านโดยมีป้ามีคอยโบกไม้โบกมือให้จากชั้นสองของบ้าน
"พี่เตรียมไปชิงตำแหน่งเทพีสงกรานต์ที่หมู่บ้านโน้นเหรอครับ" ผมตะโกนแซวแกท่ามกลางลมที่ตีพัดมาจากด้านหน้า
ผมได้ยินพี่ตูนหัวเราะเสียงใส "ปากหวานจังนะ แล้วถ้าพี่จะขึ้นประกวดจริง ๆ มันจะเป็นไรเหรอ"
"ผมจะได้เรียกตำรวจมาคุ้มกันน่ะซิครับ พี่ตูนสวยขนาดนี้ ต้องได้เป็นเทพีสงกรานต์ชัวร์ แล้วผมได้โดนไอ้หนุ่มหมู่บ้านโน้นกระทืบตายคาตีนฐานพาสาวสวยไปหยามถึงถิ่นแหง ๆ"
พี่ตูนตีหลังผมดังเพียะ ไม่เจ็บหรอกครับ แต่คันยุบยิบในหัวใจมากกว่า รถเครื่องที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นต่างพากันมองพี่ตูนกับผมด้วยความอิจฉา ทำเอาผมภูมิใจนิด ๆ ที่ได้พาอดีตเทพีสงกรานต์ซ้อนท้ายไปเที่ยว
พอเข้าเส้นทางระหว่างหมู่บ้านไปได้นิดหนึ่ง พี่ตูนก็ตบไหล่ผม พอผมหันไป เธอก็ชี้บอกให้ผมหยุดตรงใต้ต้นประดู่ ผมก็นึกเอาเองว่าเธอปวดฉี่ พอผมจอดรถ เธอก็เดินดุ่ม ๆ พาผมฝ่าพงหญ้าเข้าไปสักสิบเมตร ตรงนั้นมีกระท่อมผุ ๆ อยู่หลังหนึ่ง พี่ตูนบอกให้ผมรออยู่ข้างนอก เธอขอเวลาแป๊บนึง
พอเธอเดินเข้ากระท่อมไป ผมก็นั่งลงบนแคร่ไม้ไผ่ข้าง ๆ แล้วมองไปรอบ ๆ อูย วังเวงจับใจเลยครับ แสงแดดกำลังจะหมดไป แถมลมร้อน ๆ ยังเริ่มพัดจนกอหญ้าโดยรอบไหวเสียงดังซู่ซ่า ประกอบกับแถวนั้นไม่มีเสียงรถผ่านไปผ่านมาและบ้านคน มีแต่ท้องนาด้วยยิ่งแล้วใหญ่
ผ่านไปราวห้านาที พี่ตูนก็เดินออกมาจากกระท่อม อู้หู ผมอุทานในใจเป็นครั้งที่สอง ก็พี่ตูนเธอเปลี่ยนลุคใหม่ชนิดที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน เส้นผมที่เคยเกล้าไว้อย่างเรียบร้อย บัดนี้ได้ทิ้งตัวลงมาคลอเคลียกับไหล่ที่เปลือยเปล่า เพราะชุดลายดอกตัวสวยหลุดหายไปไหนก็ไม่รู้ เหลือแต่สายเดี่ยวตัวจิ๋วที่รัดรึงรอบตัวพี่ตูนจนเห็นหน้าอกเธอนูนออกมาเป็นลูก และผ้าซิ่นผืนนั้นก็เช่นกัน เปลี่ยนเป็นกระโปรงบานสีแสบตาสั้นเลยโคนขาอวบขาวขึ้นมานิดเดียว โชว์ความเพรียวยาวขาวน่าลูบไล้ของเรียวขาออกมาจนหมด
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ ควยที่สงบนิ่งมาตลอดดิ้นกระดุบ ๆ อยู่ในกางเกง พี่ตูนในตอนนี้สลัดคราบสาวรุ่นพี่ที่เรียบร้อยราวกุลสตรีมาเป็น สาวเปรี้ยวมากสีสันชนิดที่ชายใดเห็นก็ต้องน้ำลายหกเหมือนผมนี่แหละ
"เป็นไงจ๊ะอี๊ด คราวนี้ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะไปประกวดเทพีที่หมู่บ้านโน้นแล้วนะ" พี่ตูนเดินเข้ามาใกล้แล้วพูดยิ้ม ๆ
ผมถึงบางอ้อก็ตอนนี้เอง แสดงว่าพี่ตูนวางแผนมาตั้งแต่ต้นแล้ว เธอกลัวว่าป้ามีจะไม่อนุญาตให้ออกไปเที่ยว จึงแต่งตัวเรียบร้อยให้แกตายใจ พอพ้นหมู่บ้าน เธอก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนี่ง ซึ่งผมเชื่อว่านี่แหละเป็นตัวตนที่แท้จริงของพี่ตูน
ผมกับพี่ตูนเดินกลับมาที่รถ คราวนี้พี่ตูนนั่งคร่อมที่นั่งท้ายและกอดผมแน่นจนผมรู้สึกได้ถึงสองเต้าอวบที่บดคลึงอยู่กับแผ่นหลังผมโดยเฉพาะตอนที่ผมต้องชะลอเครื่องหลบหลุมและหินก้อนใหญ่ ๆ มันหยุ่นแน่นจนผมแทบไม่มีสมาธิบังคับรถ ควยเต้นดุบ ๆ จนปวดไปหมด ดูเหมือนพี่ตูนเธอก็รู้อยู่ แต่แทนที่จะหยุด เธอกลับยกมือที่รัดรอบเอวผมขึ้นมาลูบไล้แถวหน้าอกผมแทนจนผมขนลุกซู่ ยิ่งตอนที่เธอไล้มือผ่านหัวนมผม มันเสียวจี๊ดเข้าไปในอกจนผมกลัวว่ารถจะล้ม
"ปู้โธ่ พี่ตูนอย่าแกล้งผมดิ เดี๋ยวได้ล้มระเนระนาด ไม่ต้องไปเที่ยวกันนา" ผมจุ๊ปากปรามเธอ ผมได้ยินเสียงหัวเราะใส ๆ แว่วมา แต่ก็ยังดีที่เธอยอมหยุดมือ
ผมขับต่อไปอีกราวสิบห้านาทีก็เข้าสู่บริเวณงานซึ่งจัดที่ลานกว้างริมแม่น้ำ คนยั้วเยี้ยสักล้านเจ็ดเห็นจะได้ แผงลอยพวกลูกชิ้นและขนมขบเคี้ยวอีกทั้งการละเล่นตั้งเรียงรายอยู่โดยรอบ ด้านตรงข้ามแม่น้ำมีเวทียกสูง กำลังมีวงสตริงเล่นเพลงแด๊นซ์อย่างเร่าร้อน สังเกตดูคนที่มาเที่ยวงานนี้ส่วนใหญ่เป็นหนุ่ม ๆ สาว ๆ มากันเป็นคู่ ๆ หรือเป็นกลุ่ม ก็อย่างว่าแหละครับ คนเฒ่าคนแก่เขาคงไปร่วมงานวัดที่จัดขึ้นอีกฟากของหมู่บ้านมากกว่า
พอผมหาที่จอดมอเตอร์ไซค์และจ่ายเงินค่าฝากรถแล้ว พี่ตูนก็จูงมือผมเดินตรงไปหาเวทีสตริงทันที เสียงบริเวณนั้นดังแสบแก้วหูเพราะลำโพงขนาดมหึมาที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบลาน ตรงบริเวณหน้าเวที มีหนุ่มสาวหลายสิบคนกำลังแด๊นซ์กันสุดฤทธิ์สุดเดช แต่ละคนแต่งตัวกันมาอย่างเริ่ด ทำเอาผมอายที่ใส่แค่กางเกงวอร์มกับเสื้อยืดมาเที่ยวงานนี้
ตอนแรกผมจะไม่เข้าไปเต้น กะจะแค่ยืนดู แต่พี่ตูนไม่ยอม ยังไงก็จะให้ผมไปเต้นด้วยกะเธอ จนผมใจอ่อน เอาก็เอากันซักตั้ง พอดีช่วงที่เปลี่ยนเพลงเป็นเพลงที่ผมชอบพอดี ผมเลยนึกสนุก เข้าไปวาดลวดลายเต้นสะบัดแขนขาเอวไหล่อย่างเต็มที่
พี่ตูนเต้นคู่กับผม เราหันหน้าเข้าหากัน ลีลาเธอไม่เบาทีเดียว สะเอวอ่อนพลิ้วไหว สะโพกสะบัดส่าย ทรวงอกเด้งดึ๋ง เส้นผมเธอสะบัดไปมาตามการบิดตัวที่เร่งร้อน ผมแทบไม่เชื่อสายตาเลยว่านี่คือพี่ตูนที่แสนจะเรียบร้อยยามอยู่ที่บ้าน ลีลาที่เฉียบขาดของเธอทำเอาบรรดาหนุ่ม ๆ แถวนั้นมองตาเป็นมัน
รอบ ๆ ตัวเรา หนุ่มสาวที่มาเต้นด้วย ต่างก็ปลดปล่อยอารมณ์กันเต็มที่ สีหน้าแต่ละคนแช่มชื่นเบิกบาน ผมกับพี่ตูนก็เช่นกัน เราสองคนเต้นเข้าขากันเป็นอย่างดีตามจังหวะที่เร้าใจของเพลง ผมบิดทางซ้าย พี่ตูนก็บิดทางขวา ยามที่ผมโค้งไปข้างหน้า พี่ตูนก็โค้งตามจนใบหน้าเราสองคนแทบจะสัมผัสกัน พี่ตูนยิ้มและหัวเราะเต็มที่อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนกับเธอได้ระบายความอัดอั้นในตัวออกมาจนหมด
พอจบเพลง ผมกับพี่ตูนก็พากันออกไปหาน้ำดื่ม การเต้นด้วยกันเมื่อกี้นี้เหมือนช่วยย่นระยะห่างระหว่างเราสองคนจนเหมือนคนรู้ใจกัน ผมพาพี่ตูนไปเดินเที่ยวดูแผงต่าง ๆ จนไปถึงแผงยิงปืนใส่ตุ๊กตา
"อุ๊ย ตุ๊กตาตัวนั้นสวยจังเลย" พี่ตูนร้องอุทาน สายตาจ้องไปยังตัวหมีพูห์ที่เป็นรางวัลใหญ่
ผมหัวเราะเบา ๆ "งั้นเดี๋ยวผมยิงให้พี่นะ"
เธอสะบัดหน้าและเม้มปากยิ้มหวาน "ไม่เอา พี่อยากยิงเอง อี๊ดคอยให้กำลังใจพี่อยู่ข้าง ๆ ละกัน"
ผมจ่ายเงินให้คนเฝ้าแผง แล้วส่งปืนให้พี่ตูน เธอรับไปถืออย่างเก้ ๆ กัง ๆ และก็จริงอย่างที่ผมคิด เงินยี่สิบบาทหมดไปอย่างรวดเร็วโดยที่พี่ตูนยิงไม่โดนเลยสักนัดเดียว
"กำลังใจของผมส่งไปไม่ถึงพี่เหรอ" ผมกระเซ้า พี่ตูนหัวเราะจนอกกระเพื่อม
"พี่ว่ากำลังใจอย่างเดียวคงไม่พอแล้วล่ะ มา อี๊ดมาช่วยพี่อีกแรงนะ ยังไงพี่ก็อยากได้ไอ้ตัวนั้นไปนอนกอดที่บ้าน" พี่ตูนพูดยิ้ม ๆ ผมไม่ว่าอะไร จ่ายเงินอีกยี่สิบบาทให้กับคนเฝ้าแผง
ผมจับมือพี่ตูนที่ถือปืนอยู่เล็งไปยังตุ๊กตาหมีพูห์ตัวนั้นจากด้านข้าง แต่ยังไงก็เล็งไม่ถนัด ผมจึงอ้อมไปยังด้านหลังพี่ตูน โอบแขนไปจับสองมือเธอเล็งไปยังส่วนหัวของตุ๊กตา
ลมหายใจผมเป่ารดข้างหูพี่ตูน ในขณะที่ร่างอวบอัดของพี่ตูนอยู่ในอ้อมอกของผมจนมือไม้ผมสั่นดิก ๆ ตามแรงเต้นของไอ้ตัวเล็กผมที่ตอนนี้มันพองก๋าดันกระทุ้งที่ลอนสะโพกและง่ามก้นของเธอ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา เลือดลมวัยหนุ่มยังแล่นปรู๊ดปร๊าด ผมซบหน้าลงที่ซอกคอพี่ตูน ทำทีเป็นเล็งศูนย์ แต่ความจริงแอบสูดดมความหอมจากเรือนผม ส่วนล่างผมก็แอ่นดันเข้าหาจนควยผมแนบอยู่กับร่องก้นพี่ตูน ผมได้ยินเสียงพี่ตูนหายใจหอบ ๆ ผมเองก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่เหมือนกัน เสียงหัวใจพี่ตูนเต้นตึกตักถี่เร็วไม่ผิดกับของผม
"พี่ตูนย่อตัวลงหน่อยนะ ศูนย์ถ่วงมันจะได้ต่ำลง เวลายิงจะได้แม่นขึ้น" ผมบอกเธอ พี่ตูนถอนหายใจเฮือก ย่อเข่าลงนิดหน่อยจนกระโปรงบานที่สั้นเต่ออยู่แล้วรูดขึ้นไปถึงโคนขา สะโพกเนียนแน่นเบียดบดกับควยผมในร่มผ้าอย่างเต็มที่จนผมอดไม่ได้ที่จะดันมันไปข้างหน้าให้แนบชิดกว่านี้
เราสองคนกอดกันแน่น ไม่แคร์กับสายตาของคนรอบข้างที่มอง ผมกลั้นใจเล็งส่วนหัวจนแน่ใจดีแล้วรั้งไกปืนต่อเนื่องกัน ลูกกระสุนพุ่งไปถูกส่วนจมูกของตุ๊กตาจนมันโอนเอนและล้มลงในที่สุดเมื่อโดนกระสุนนัดต่อ ๆ ไปที่ตามมา
พี่ตูนทิ้งปืนและปรบมือด้วยความดีใจ หลังจากนั้น พี่ตูนก็พาผมไปที่แผงไอติม เธอบอกว่าจะเลี้ยงผมเป็นการตอบแทน เราสองคนพากันไปนั่งที่ม้านั่งตรงริมแม่น้ำ เลียกินไอติม พลางมองตามคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ผมอดที่จะเหลือบสายตาไปมองดูพี่ตูนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้
ภาพสาวสวยกำลังแลบลิ้นสีชมพูเลียแท่งไอติมทำเอาผมเสียววาบไปถึงปลายควย พี่ตูนเองก็กำลังหันมาสบตากับผมด้วยประกายตาที่เหมือนล้อเลียนและเหมือนอะไรซักอย่างที่ผมเหมือนเข้าใจและเหมือนไม่เข้าใจความหมาย
"เอาล่ะ ไปกันต่อดีกว่านะอี๊ด" พี่ตูนโยนแท่งไอติมทิ้งแล้วดึงมือผมลุกขึ้น
เราสองคนพากันเดินเที่ยวงาน แวะที่โน่นทีที่นี่ที พี่ตูนเดินคล้องแขนผมราวกับเราเป็นแฟนกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้อึดอัดใจเลยซักนิด ตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกภูมิใจที่ได้ควงสาวสวยรุ่นพี่ดีกรีนางงามมาเที่ยวงาน ยิ่งพอเห็นหนุ่ม ๆ จ้องมองรูปร่างพี่ตูนตาแทบถลน ผมก็ยิ่งสะใจ ผมเปลี่ยนเป็นโอบเอวบางของพี่ตูนซึ่งพี่ตูนก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับซบตัวเข้ามาแนบไหล่ผมจนเราดูเหมือนคู่รักกันยิ่งขึ้น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอผมดูนาฬิกาอีกทีก็ปาเข้าไปสองทุ่มครึ่ง ผมชวนพี่ตูนกลับบ้านเพราะกลัวป้ามีโกรธ แต่พี่ตูนยังไม่ยอมกลับ เธอพาผมกลับไปที่เวทีซึ่งตอนนี้เปลี่ยนวงไปเรียบร้อยแล้ว แสงไฟที่เคยสว่างจ้าก็ลดลงเป็นสลัว ๆ จนแทบมองไม่เห็นหน้าตาคนที่อยู่ใกล้ ๆ เพลงที่เป็นแบบแด๊นซ์เปลี่ยนเป็นเพลงรักเบา ๆ คงให้เข้ากับบรรยากาศในตอนนั้นซึ่งอากาศเริ่มเย็นลงบ้างแล้ว
พี่ตูนดึงผมแทรกเข้าไปกลางลานซึ่งคนแน่นจนแทบขยับไม่ได้ ผมบอกพี่ตูนว่าผมเต้นเพลงช้า ๆ แบบนี้ไม่เป็น เธอบอกว่าไม่เป็นไร ทำตามเธอละกัน แล้วพี่ตูนก็ดึงผมเข้าไปโอบตัวเธอ
"เอามือวางไว้บนหลังพี่นะ นั่นแหละ" เธอกระซิบบอก
ผมก็ทำแบบงก ๆ เงิ่น ๆ ก็คนมันเคยแต่เต้นฉีกแข้งฉีกขาสไตล์มันส์สะใจอย่างเดียวนี่ครับ จู่ ๆ จับมาเต้นสโลว์แบบนี้ ใครก็ต้องเป็นหยั่งผมหมดแหละ แต่พี่ตูนก็ใจเย็นครับ เธอค่อย ๆ สอนผมจนผมค่อยมั่นใจขึ้นมา
ผมมัวแต่จดจ่ออยู่กับจังหวะก้าวขา พอรู้ตัวอีกที ร่างหอมกรุ่นของพี่ตูนก็ซบอยู่กับอกผม ปทุมถันอวบเต่งที่มีเสื้อสายเดี่ยวบาง ๆ คลุมอยู่ก็บดคลึงอยู่กับแผงอกของผม ลมหายใจอุ่น ๆ ของพี่ตูนราดรดบนลำคอจนผมสยิว
เสียงเพลงเบา ๆ ซึ้ง ๆ ดังกังวานรอบตัวพร้อมกับเสียงขยับเท้าและเสียงเสื้อผ้าเสียดสีกันของบรรดาหนุ่มสาวทำเอาผมเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศยามนี้ ลมหายใจผมเริ่มแรงขึ้น ๆ แขนผมก็รัดพี่ตูนแน่นเข้าจนเราแทบเป็นเนื้อเดียวกัน แทนที่พี่ตูนจะว่าอะไร เธอกลับหายใจแรงและยกแขนขึ้นรัดร่างผมไว้เช่นกัน
เมื่อเราสองคนกอดรัดกันแน่นอย่างนั้น เป็นธรรมดาอยู่เองที่ท่อนล่างของเราจะเบียดชิดกันด้วย ผมเสียววาบตามลำควยทุกครั้งที่เราขยับตัวตามเสียงเพลง พี่ตูนเองก็คงรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของผม แทนที่เธอจะขยับถอยห่างออกไป พี่ตูนกลับยิ่งแนบตัวเข้าหาผมจนผมสัมผัสได้ถึงความแน่นแต่นุ่มนวลของเนินเนื้อใต้กระโปรงบานตัวนั้นได้อย่างชัดเจน
ลมหายใจเราสองคนเป่ารดกันจนร้อนผ่าวไปทั้งตัว ผมเลื่อนมือลงไปตามแผ่นหลังจนถึงสะเอวแล้วผมก็หยุดชะงักดูปฏิกิริยาของพี่ตูนครู่หนึ่ง พอเห็นเธอไม่มีทีท่าปฏิเสธ ผมจึงลดมือลงไปวางทาบอยู่บนบั้นท้ายกลมกลึงแล้วคลึงเคล้นเบา ๆ ก่อน
เสียงครวญครางแผ่วเบาดังมาจากปากที่เผยอน้อย ๆ ของพี่ตูน ผมก้มลงมองก็เห็นใบหน้าพี่ตูนแดงเรื่อใต้แสงสลัว ๆ ดวงตาพี่ตูนหรี่ลง ใบหน้าเอียงซบอยู่กับซอกคอผมจนผมได้กลิ่นลมหายใจหอมกรุ่น
เป็นไงเป็นกันวะ ผมนึกในใจ มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดคงจะไม่ได้ แถมดูท่าทางพี่ตูนก็ออกจะเต็มใจซะด้วยซ้ำ
"พี่ตูนครับ" ผมกระซิบเบา ๆ
"ขา" พี่ตูนตอบเสียงแผ่ว ๆ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่
"วันนี้เรามาสนุกกันให้สุดเหวี่ยงไปเลยนะครับ" ผมบอกเธอ
"ตามใจอี๊ดซิจ๊ะ" พี่ตูนตอบเหมือนเสียงละเมอ
ผมเหลือบมองดูรอบข้าง แสงไฟตอนนี้ยิ่งสลัวลงไปอีกจนมองเห็นคนรอบข้างเป็นเงาลาง ๆ เท่านั้น ผมเพ่งตาดู บางคู่ก็กำลังกอดจูบลูบคลำกันด้วยซ้ำ ผมลูบมือต่ำลงไปถลกชายกระโปรงบานเธอขึ้นแล้วขยำขยี้แก้มก้นกลมใต้กางเกงในลินินบาง ๆ สัมผัสนั้นช่างหยุ่นเด้งสู้มือดีจริง ๆ
ผมเกาะกุมแก้มก้นแน่น ๆ แล้วรั้งให้เข้ามาขยี้กับลำควยผมที่แข็งเป็นลำ พี่ตูนยกแขนขึ้นโอบคอผมไว้แล้วหอบหายใจแรง เธอเขย่งตัวขึ้นแล้วจูบปากผม พี่ตูนจูบได้เก่งมาก ผมก็ไม่ยอมแพ้ ม้วนปลายลิ้นพี่ตูนเข้าไปดูดเน้น ๆ เราแลกจูบกันอยู่นาน ในระหว่างนั้นมือผมก็เคลื่อนไปทั่วร่างอวบเร่งจุดไฟราคะในตัวพี่ตูนให้ลุกโพลงยิ่งขึ้น
พอริมฝีปากเราแยกจากกัน พี่ตูนก็รีบทรุดตัวลงไปแล้วรูดกางเกงวอร์มของผมลงไป ตามด้วยกางเกงในจนลำควยที่ปวดหนึบของผมดีดผึงขึ้นมา พี่ตูนกำรอบควยผมแน่นแล้วกระทอกขึ้นลงสองสามครั้งจนผมเสียวแปล๊บไปถึงโคนลำ
แล้วผมก็รู้สึกอุ่นวาบที่ปลายถอกเมื่อลิ้นนุ่ม ๆ ของพี่ตูนกวาดวนไปมารอบหัวบานเหมือนกับตอนที่เธอเลียแท่งไอติมก่อนหน้านี้ยังไงยังงั้น ผมต้องแหงนหน้าขบกรามสูดปากเบา ๆ แล้วกำมือแน่น มันเสียวจนบอกไม่ถูก ทั้งอุ่นทั้งชื้น แถมยังมีตวัดปลายลิ้นเขี่ยตรงปลายท่ออีกด้วย ลีลาของพี่ตูนนับว่าไม่ธรรมดาเลย ขนาดสาว ๆ ที่ผมผ่านมาแล้วหลายต่อหลายคนยังเทียบชั้นกะเธอไม่ได้เลยซักคนเดียว
แค่นั้นยังไม่พอ มือนุ่ม ๆ ข้างหนึ่งของเธอยังช้อนพวงไข่ผมไว้แล้วคลึงไปมา ผมก้มลงมองดู ก็เห็นพี่ตูนอ้าปากกว้างแล้วอมส่วนหัวบานโร่ของผมเข้าไป เธอทั้งดูดทั้งม้วนลิ้นเล่นกับมันจนผมตัวเกร็ง สูดปากครางแบบไม่อายใคร ผมเผลอตัวแอ่นกระเด้าปากพี่ตูนจนควยผมจมหายเข้าไปในโพรงปากเธอจนหมด ความอุ่นนุ่มและรสสัมผัสที่รัดรึงรอบลำควยผมมันสุดที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้จริง ๆ มันส์เหลือหลาย ผมกระเด้าเย็ดปากสวยของพี่ตูนอยู่พักนึงจนกลัวว่าตัวเองจะแตกคาปากเธอและเสียฟอร์มต่อหน้าสาว จึงถอนควยออกจากปากพี่ตูนอย่างเสียดาย น้ำลายพี่ตูนเคลือบควยผมเป็นมัน
ดวงตาพี่ตูนหวานเยิ้มปานจะหยดตอนที่ผมดึงร่างเธอขึ้นมา รอบ ๆ ตัวผมในตอนนี้แสงไฟรอบข้างมันดับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เสียงดนตรีก็เงียบไปแล้ว ได้ยินแต่เสียงครางกระเส่าปนกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังพั่บ ๆ เต็มไปหมด เงาตะคุ่ม ๆ ของหนุ่มสาวเป็นคู่ ๆ คู่ใครคู่มันพอมองเห็นได้ลาง ๆ ยิ่งช่วยเพิ่มความกระสันอยากในอกผมยิ่งขึ้น เพราะผมยังไม่เคยเล่นเซ็กส์ในที่สาธารณะแบบนี้มาก่อน ทำเอาควยผมแข็งแทบจะระเบิดเลยทีเดียว
พี่ตูนรั้งใบหน้าผมลงมาแลกจูบกับเธออีกครั้ง มือข้างหนึ่งของเธอดึงมือผมลงไปที่หว่างขาเธอ อุแม่เจ้า เธอคงถอดกางเกงในทิ้งไปตั้งแต่ตอนที่โม๊กควยให้ผมแล้ว เพราะผมสัมผัสได้ถึงเนื้อแท้ ๆ ของพี่ตูนที่ฉ่ำเยิ้มและนุ่มมือชวนให้ขยำขยี้เสียนี่กระไร ผมใช้สันมือขยี้ไปตามร่องแคมจนพี่ตูนตัวงอและเด้งสะโพกงามเข้าหา ส่วนปากเราสองคนก็ไม่ว่าง ต่างดูดดื่มความหอมหวานจากกันและกัน พี่ตูนหายใจแรงจนผมรู้สึกได้ มืออีกข้างหนึ่งของผมสอดเข้าไปใต้เสื้อและขยำขยี้สองเต้าอวบที่ล่อตาผมมานานแล้ว แม้ว่าจะยังถูกห่อหุ้มอยู่ใต้บรา แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความหยุ่นแน่นและยอดหัวนมที่แข็งชันจนสัมผัสได้ผ่านเนื้อผ้า
"อูย ซี๊ดดด" พี่ตูนครางออกมาเมื่อผมบดนิ้วบนเม็ดแตดของเธอ พร้อมกับเกี่ยวนิ้วลึกลงไปในร่องรูที่เยิ้มไปด้วยน้ำเมือกและชักเข้าชักออกเบา มืออีกข้างผมก็ตะโบมสองเต้าจนบี้คลอนไปมา
แค่สัมผัสนอกร่มผ้ายังไม่ถึงใจผม ผมถลกเสื้อสายเดี่ยวตัวสวยออกจากร่างพี่ตูนโดยที่พี่ตูนก็ดึงเสื้อยืดผมออกไปพร้อม ๆ กัน เสร็จแล้วก็ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจนเหลือแต่ตัวเปล่าเปลือย ผมก้มลงอมยอดเม็ดบัวของพี่ตูนไว้ในปากพร้อมกับดูดดุนอย่างเมามัน มืออีกข้างก็บีบคลึงเต้าที่เหลือด้วยความสะใจ เสียงพี่ตูนครางกระเส่าพร้อมกับขยุ้มหัวผมแน่นทำให้อารมณ์ผมร้อนรุ่มยิ่งขึ้น
ผิวกายเราสองคนแนบสนิทกันจนรู้สึกได้ถึงความเนียนนุ่มและส่วนโค้งส่วนเว้าที่งดงามของพี่ตูนโดยที่ผมไม่ต้องใช้สายตากวาดดู ความเต่งตึง ความอวบหยุ่นดีดสะท้อนของทุกส่วนในร่างกายพี่ตูนยั่วเย้าให้ผมบรรเลงเพลงรักกับร่างนั้นอย่างไม่รู้เบื่อ
"อี๊ดจ๋า อูย พี่เสียวเหลือเกิน โอววว์ ดูดนมพี่แรง ๆ ด้วยนะ" เสียงพี่ตูนที่ครวญครางไปกับความเสียวที่ผมมอบให้ดังแว่วมาไม่ขาดระยะ
ผมปล่อยมือข้างที่ตะโบมอกอวบแล้วกลับลงมาคลึงเคล้าโคกสวาทพี่ตูนอีกครั้ง น้ำเมือกเสียวพี่ตูนหลั่งไหลออกมามากมายจนเลอะมือผมไปหมด ผมบรรจงกรีดนิ้วไปตามกลีบแคมจนเจอเม็ดแตดที่แข็งชันแล้วก็เขี่ยนิ้วเล่นกับมันจนพี่ตูนตัวเกร็งสะท้าน หายใจฟืดฟาด ร้องครางเรียกชื่อผมไม่ขาดปาก
พอผมแทรกนิ้วกลางเข้าไปในรู พี่ตูนก็เด้งสะโพกสวนเข้ามาทันทีจนนิ้วผมจมมิดเข้าไปถึงข้อ กล้ามเนื้อโพรงหีพี่ตูนบีบรัดรอบนิ้วผมจนแทบชักนิ้วไม่ออก พี่ตูนครางเสียงเครือ ผมเร่งดูดนมและชักนิ้วกระเด้าหีพี่ตูนต่อไปเรื่อย ๆ จนพี่ตูนดึงตัวผมขึ้นไปยืนแลกจูบกันอีกครั้ง
มือนุ่ม ๆ ของพี่ตูนควานลงมาจับลำควยผมไว้แล้วจ่อมันตรงกับปากรู ผมช้อนขาอวบข้างหนึ่งขึ้นมาหนีบไว้ที่สะเอวจนพี่ตูนอยู่ในท่ายืนขาเดียว พี่ตูนยกแขนอีกข้างขึ้นคล้องคอผมไว้แล้วเด้งสะโพกเข้าหา
"อูยยย .... ซี๊ดดด...." เราสองคนสูดปากครางออกมาพร้อมกันเมื่อหัวบานแทรกผ่านกลีบแคมเข้าไปจุกคาปากรูหี ผมรั้งตัวพี่ตูนเข้ามาแนบชิดแล้วย่อตัวเด้งควยไปข้างหน้าแรง ๆ จนมันผลุบหายเข้าไปในรูหีค่อนลำ พี่ตูนช่วยเด้งสะโพกอีกครั้ง ควยผมก็จมมิดหนอก
"แน่นจังอี๊ด อูยยย ของเธอร้อนดีจริง ๆ" พี่ตูนสูดปากคราง ผมไม่ตอบเธอแต่ก้มลงบดริมฝีปากเข้าหา เราแลกจูบกันอย่างเมามันส์ในขณะที่ส่วนสะโพกเด้งเข้าใส่กันอย่างเป็นจังหวะจะโคน เสียงหน้าขาเราตีกันดังปั่บ ๆ รูหีพี่ตูนตอดรัดดีอะไรอย่างนี้ ผมรู้สึกแน่นเสียวไปหมดยามที่ผมสาวควยออกมาจนเกือบหลุด และกระเด้ากลับเข้าไปในส่วนลึกของร่างพี่ตูน
"โอวว์ ซี๊ดดดด เสียวดีจริง ๆ เลยจ้ะอี๊ด อูยยย" พี่ตูนกัดกรามครางกระเส่า เธอสะบัดหน้าไปมาจนผมกระจายในยามที่ควยผมกระเด้ามิดหายเข้าไปในรูหีเธอ สะโพกกลมบิดวนเป็นวงขยี้หนอกควยผมซึ่งทำให้ปลายควยผมควานไปทั่วโพรงหีของเธอไปด้วย ความอร่อยเช่นนี้ถ้าไม่ได้ลองเองคงไม่รู้หรอกครับ ผมกับพี่ตูนเย็ดกันอย่างอร่อยสุดหัวใจในท่านั้นจนเราทั้งสองคนเหนื่อยหอบ เหงื่อไหลพลั่ก เมื่อยขาจนทนไม่ไหว
ผมมองไปรอบข้าง แล้วก็ไปปิ๊งไอเดียขึ้นมา ผมปล่อยขาพี่ตูนลง ขาเธอยังสั่นจนต้องเกาะตัวผมไว้
"พี่ตูนครับ ไปต่อกันตรงโน้นดีกว่า" ผมชี้ไปทางม้านั่งริมแม่น้ำซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของต้นตะแบก พี่ตูนพยักหน้า เราสองคนคว้าเสื้อผ้าแล้วเดินลัดเลาะผ่านหนุ่มสาวหลายต่อหลายคู่ที่กำลังเย็ดกันอย่างไม่อายใคร ระหว่างที่เดินไปที่ม้านั่ง ผมและพี่ตูนก็ผลัดกันลูบคลำกันและกันไม่ให้อารมณ์หยุดชะงักไปด้วย
พอไปถึง ผมให้พี่ตูนนั่งหมิ่น ๆ บนม้านั่ง ยื่นสะโพกออกมาข้างหน้า ส่วนผมก็โน้มตัวลงมา ใช้มือยันพนักหลังเอาไว้ แล้วแอ่นควยลงมา พี่ตูนยิ้มหวาน เธอขยับตัวให้ตรงที่ตรงทางแล้วรั้งสะโพกผมเข้ามาหา ลำควยผมแหวกทะลวงเข้าไปในรูหีพี่ตูนอย่างไม่ลำบากด้วยมีน้ำหล่อลื่นอยู่แล้ว เราสองคนพากันซี๊ดปากด้วยความเสียว ในท่านี้ สะโพกพี่ตูนค้ำอยู่กับขอบม้านั่งทำให้โคกหีทำมุมตั้งฉากกับลำควยผมพอดี เวลากระเด้าแต่ละที ควยผมเข้าลึกจนมิดโคนขยี้เม็ดแตดพี่ตูนไปด้วยในตัว
"อาวว์ว์ ท่านี้อร่อยจังเลยอี๊ด อูยยย" พี่ตูนครวญคราง ตาคู่งามหรี่ปรือ ปากห่อเป็นวง เธอกอดคอผมไว้แน่น ในขณะที่ผมกัดกรามทุ่มแรงหนุ่มเด้งสะโพกกดควยกระเด้าหีพี่ตูนคนสวยสุดกำลัง เสียงควยผมทะลวงรูหีพี่ตูนดังเจ๊าะแจ๊ะระคนกับเสียงเนื้อต่อเนื้อกระทบกัน รูหีพี่ตูนให้ความเสียวกับผมอย่างมากมาย ทั้งหนึบแน่น ทั้งดูดรั้ง และยังร้อนผ่าวแต่ก็ลื่นไหลด้วยน้ำเมือกที่ขับออกมา
"พี่ตูนครับ ผม...ผม..." ผมครางกระเส่า ในขณะที่ลำควยผมร้อนผ่าวแข็งตัวจนแทบระเบิดเมื่อมันพุ่งเข้า ๆ ออก ๆ โพรงหีที่อร่อยล้ำของพี่ตูน
"อย่าเพิ่งออกนะอี๊ด อูยยย์ พอก่อนนะ เปลี่ยนท่าดีกว่า" พี่ตูนคงรู้จากอาการของผมว่าผมแทบจะอั้นไว้ไม่อยู่แล้ว เธอจึงดันสะโพกผมออก ควยผมหลุดจากปากรูดังพล็อก เราสองคนหอบหายใจเหนื่อย เหงื่อพราวไปทั้งตัว
แล้วพี่ตูนก็ดึงผมลงมานั่งบนม้านั่งแทน ส่วนเธอลุกขึ้นมาหันหลังให้ผมจนผมเห็นทรวดทรงองค์เอวที่คอดกิ่วราวกับนาฬิกาทรายของเธอ พี่ตูนหันมายิ้มหวานให้กับผม แล้วเธอก็คว้าควยผมจ่อตรงกับปากรูอีกครั้ง พอตรงทางดีแล้ว พี่ตูนก็ทิ้งน้ำหนักกดสะโพกงอนงามลงมา ผมมองเห็นลำควยผมจมหายเข้าไปทีละน้อย โอวว์ มันช่างเร้าใจดีเหลือเกิน
"ซี๊ดดดด พี่ตูนครับ พี่สวยจังเลยครับ อูยยย เก่งด้วย" ผมสูดปากครางเมื่อสะโพกอวบเคลื่อนลงมาแนบติดหน้าขาของผม แน่นอนว่าลำควยผมมิดหายเข้าไปในตัวพี่ตูนเรียบร้อยแล้ว ผมโน้มตัวไปข้างหน้า พร้อมกับที่พี่ตูนเหลียวหน้ากลับมา เรายื่นลิ้นออกมาพัวพันกันอย่างเอร็ดอร่อยในขณะที่สองมือผมเอื้อมไปเกาะกุมคลึงเคล้นสองเต้าอวบทางด้านหน้าพร้อมกับบดบี้หัวนมไปด้วย
สะโพกพี่ตูนเริ่มยกขึ้นลง ช้า ๆ เนิบ ๆ ก่อน แล้วก็เร็วขึ้น แรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอยันแขนบนท่อนขาผมแล้วก้มตัวลงทุ่มแรงกระเด้าควยผมจนสองเต้างอนงามไหวกระเพื่อมเด้งไปมา ผมเองก็เสียวจนตัวเกร็ง ต้องยันพื้นม้านั่งเด้งควยสอดรับกับการเด้งลงมาของเธอ ความแน่นหนึบของเนื้อสะโพกที่ตีหน้าขาผม ความเด้งสู้มือของสองเต้าอวบ ผสานกับความรัดติ้วของโพรงหีทำเอาผมต้องครางกระเส่าออกมาอย่างไม่สนใจถึงศักดิ์ศรีอะไรอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ในห้วงสมองผมเต็มไปด้วยความเสียวซ่านอันบรรเจิดที่ได้รับจากร่างงามของพี่ตูนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เสียงพั่บ ๆ ที่เกิดจากเพลงรักของสองเราดังต่อเนื่อง ผสมผสานเข้ากับเสียงหอบหายใจและเสียงครวญครางของทั้งผมและพี่ตูน เปลี่ยนความเงียบสงัดริมแม่น้ำให้กลายเป็นเป็นความร้อนแรงของการสมสู่ระหว่างหญิงและชายที่ต่างก็หมายมั่นจะไปให้ถึงฝั่งฝันให้จงได้
"โอยยย อี๊ดจ๋า พี่เสียวเหลือเกิน บี้หัวนมให้พี่ด้วยซิจ๊ะ ซี๊ดดด" ผมไม่เพียงแต่บี้หัวนมให้เธอเท่านั้น แต่ผมยังตะโบมสองเต้าจนแทบแหลกเหลวคามือ แต่พี่ตูนไม่ได้โอดครวญด้วยความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงก้มหน้าก้มตากระแทกสะโพกงามกระเด้าควยผมจนหอบตัวโยน
แล้วในที่สุด ความอดทนของสองเราก็ขาดผึงลง ร่างงามของพี่ตูนยกสูงขึ้นจนหัวควยแทบหลุดออกจากปากรู แล้วเธอก็ทิ้งตัวลงสุดแรงจนกลืนควยผมกลับเข้าไปในตัวเธอจนหมดในทีเดียว พี่ตูนตัวสั่นระริก กล้ามเนื้อโพรงหีบีบรัดควยผมแน่นและตอดปลายหัวถอกผมดุบ ๆ เธอกัดฟันกรอดแต่ผมยังได้ยินเสียงครางแว่วออกมาจากลำคอของเธอ พอเธอหายเกร็ง ผมรีบดึงตัวเธอให้ยืนโก้งโค้งยันม้านั่ง แล้วผมก็เข้าประกบจากด้านหลัง กระเด้าควยผ่านง่ามตูดพรืดเดียวจมมิดหี เสียงพี่ตูนร้องครางอูย ๆ แต่ผมไม่สนใจแล้ว เพราะใกล้จะแตกเต็มที
ผมใช้สองมือรั้งสะเอวคอดพี่ตูนไว้แน่น เรี่ยวแรงมีเท่าไหร่ก็ทุ่มให้กับการเด้งควยกระเด้าหีพี่ตูนจากด้านหลัง จนท้องน้อยผมตีแก้มก้นพี่ตูนดังเพียะ ๆ เนื้อตัวพี่ตูนสั่นสะท้านด้วยแรงหนุ่ม ลำควยผมพุ่งเสียบรูหีพี่ตูนอย่างเร็วและแรงครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมสาวควยออกมากระเด้าสุดแรงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะน้ำแตกกระฉูดเข้าใส่โพรงหีพี่ตูนเป็นระลอก พี่ตูนครางสะอื้นในลำคอ เนื้อตัวสั่นระริก เธอคงถึงจุดสุดยอดอีกครั้งตามผมไปติด ๆ น้ำผมออกมากจนรู้สึกตัวเบาโหวง แต่ก็สุขที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เราสองคนนั่งคลอเคลียบนม้านั่งจนหายเหนื่อยแล้วก็สวมเสื้อผ้าพากันไปนั่งรถกลับ แน่นอนครับว่า ตอนไปถึงกระท่อมที่ใช้เปลี่ยนเสื้อผ้าในตอนขามานั้น ผมกับพี่ตูนก็ใช้โอกาสนั้นเล่นเสียวกันอีกรอบจนแข้งขาสั่นพั่บ ๆ แทบจะขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ไหวเลยทีเดียว
กว่าจะกลับไปถึงบ้านพี่ตูนก็ร่วมห้าทุ่มกว่า แต่ผมบอกป้ามีว่ารถผมเสียกลางทางเลยต้องแวะซ่อมจึงกลับมาช้าอย่างนี้ ซึ่งดูแกก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร
นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา เวลาผมไปบ้านป้ามี ถ้าเจอแก ผมก็คุยกับแกเหมือนปกติ แต่ถ้าแกไม่อยู่เมื่อไหร่ อะแฮ่ม... ผมกับพี่ตูนก็เล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะกันเมื่อนั้นแหละครับ