แรงแค้น แรงเสน่หา ตอนที่1
ฉันเจอเธอแล้ว
โดย ใจร้าย
“ติ้ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เสียงนาฬิกาปลุกบอกเวลา 6 โมงเช้า
มือเรียวยาวเอื้อมไปกดนาฬิกาให้เสียงเงียบ
“ได้เวลาทำงานวันแรกแล้ว” มด คิดในใจ พร้อมกับรีบลุกขึ้นจากเตียง เธอตรงดิ่งเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทันที สักพักเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เปิดตู้เสื้อผ้า เธอยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่สักพัก เธอก็ได้ชุดที่ถูกใจ เธอยืนหมุนดูรอบตัวเองว่าแต่งตัวเรียบร้อยดีหรือยัง เหมาะสมกับการเป็นอาจารย์วันแรก
“มด” ชื่อจริงของเธอคือ “ภัคจิรา” เธอเป็นนักเรียนนอก เมื่อเธอจบปริญญาตรีที่ประเทศไทยเธอก็ไปอยู่กับแม่ที่ประเทศเยอรมันนี จนเธอจบการศึกษาระดับ ปริญญาโท เธอจึงเลือกกลับมาทำงานที่เมืองไทย โดยเธอไปสมัครเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เธอเลือกสอนด้านภาษาเยอรมัน จากประสบการณ์ที่เธอไปเรียนต่อเป็นเวลา 6 ปี ด้วยอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น เธอจึงเป็นที่สนใจของอธิการบดี จึงได้รับเธอเข้าทำงานทันทีที่เธอสมัคร ด้วยความสามารถใบเกียรติประวัติต่าง ๆ แถมพ่วงด้วยเกรดเฉลี่ย A ทุกวิชา
เธอมีบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เธอเลือกที่จะซื้อคอนโดของเธออยู่เอง ด้วยความที่เธออยากอยู่เป็นส่วนตัว และใกล้มหาวิทยาลัย เพราะบ้านเธอนั้นยังมีพี่สาว และน้องสาว ที่มีครอบครัวแล้วทั้งคู่
“เอาละ สวยแล้ว รีบไปดีกว่าเดี๋ยวสาย” มดเธอรีบออกจากคอนโดของ เธอ เธอขับรถป้ายแดงที่ซื้อมาใหม่ BM Series 3 สีแดง รุ่นสปอร์ตใหม่ล่าสุด เป็นสิ่งแรกที่เธอซื้อเมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ด้วยฐานะทางบ้านเรียกได้ง่าย ๆ ว่า เศรษฐี ทำให้เธอไม่ค่อยสนใจในเงินเดือนที่ได้สักเท่าไหร่ เธอเลือกที่จะทำงานในสิ่งที่เธอชอบและถนัดมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านอธิการบดี” เธอยกมือสวัสดีอธิการบดีของมหาวิทยาลัยทันทีเมื่อเข้ามารายงานตัวทำงานเป็นวันแรก
“สวัสดีครับ พร้อมรึยังครับสำหรับการสอนวันแรก”
“พร้อมแล้วค่ะ แต่ก็ยังมีตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ” มดกล่าวอย่างไว้ตัว
“อืม ดีมากครับ เดี๋ยวผมจะให้หัวหน้าหมวดพาอาจารย์ภัคจิรา ไปที่ห้องพักอาจารย์ก่อนนะครับ และ หัวหน้าหมวดจะอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ให้ทราบ อีกทีนะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” มดกล่าวขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้อีกครั้ง เดินตามหลังอาจารย์หัวหมวด
“พี่ชื่อ อาจารย์ปทุมพร นะค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่าพี่พร ก็ได้นะค่ะ ถึงพี่จะชื่อเชย แต่พี่ไม่เชยตามชื่อนะค่ะ 5 5 5” ผู้ที่เป็นอาจารย์หัวหน้าหมวดแนะนำตัวอย่างอารมณ์ดี และเป็นกันเอง เธอเป็นหญิงวัย 40 ต้น ๆ รูปร่างท้วม ใบหน้ากลม เหมือนมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ท่าทางอารมณ์ดี
“สวัสดีค่ะ ชื่อภัคจิรา ค่ะ เรียกว่า มด ก็ได้ค่ะ” เธอกล่าวตอบพี่พรอย่างยิ้มแย้มสดใส
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะจ๊ะ โต๊ะของ มด อยู่ด้านซ้ายมือนะจ๊ะ มาเดี๋ยวพี่จะพาไปรู้จักอาจารย์ท่าน อื่น ๆ ในหมวดนะ” หลังจากนั้นพี่ศรี ก็พาเธอไปรู้จักอาจารย์อีก 5-6 ท่านที่ทำงานอยู่ในหมวด้วยกัน ซึ่งในนั้นทั้งหมด มีอาจารย์อยู่คนนึงที่อายุไล่เลี่ยกับมด เขาชื่อ สมชาย แต่เรียกกันง่าย ๆ ว่า อาจารย์ลิลลี่ ด้วยท่าทางที่ดูตุ้งติ้ง กริยาออกไปทางผู้หญิงซะมากกว่า อายุแก่กว่า มด แค่ 5 ปีเท่านั้น อาจารย์พร เลยให้ลิลลี่คอยช่วยดูแลมด หลังจากที่ได้ทักทายและได้พูดคุยกับลิลลี่แล้ว มดก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างที่มีเพื่อนอายุใกล้เคียงกัน และยังเป็นคนร่าเริงสนุกสนานอีกด้วย
“มด จ๊ะ วันนี้มดมีสอนคาบที่ เท่าไหร่จ๊ะ สอนปีอะไรเอ่ย” ลิลลี่จีบปากจีบคอถาม มด ทันทีเพื่อให้มดได้เตรียมตัวในการสอน
“มด มีสอน อืม............ คาบที่ 3-5 ค่ะ ปี 2 ค่ะพี่ลิลลี่”
“อ๋อ ๆๆๆๆๆๆๆๆ” อ๊อดลากเสียงยาว “เด็กปีนี้นี่เอง จะมีนักศึกษา ประมาณ 20 กว่าคนนะจ๊ะ ที่ลงเรียนคลาสนี้ มีแสบหลายคนอยู่เหมือนกันนะ แต่ก็น่ารัก ๆ ๆ ทั้งนั้น ถ้าโดนเด็กพวกนี้ป่วนละก็ ต้องใจเย็น ๆ หน่อยนะจ๊ะ เพราะมด ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเค้า คอยดูนะต้องโดนพวกทโมนพวกนี้แซว แน่ ๆ แต่ละคนนะ เป็นถึงนักศึกษากันแล้ว ระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กมัธยมกันทั้งนั้น ...........”
ลิลลี่ พูดร่ายยาวไปเรื่อย มดก็ได้แต่นั่งฟังพร้อมกับขำในท่าทีของลิลลี่ และเรื่องที่ลิลลี่เล่าให้ฟัง ทำให้อดนึกถึงนักศึกษาของเธอไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร เธอเริ่มรู้สึกประหม่าในการสอนครั้งแรกของเธอ
“สวัสดีค่ะ นักศึกษา ทุกคน อาจารย์ชื่ออาจารย์ภัคจิรา นะค่ะ อาจารย์มาสอนภาษาเยอรมันให้พวกเธอ” มดกล่าวแนะนำตัวเองเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องเรียนและมาหยุดที่โต๊ะเลคเชอร์ ที่เธอใช้สอน
นักศึกษาทุกคนต่างมองอาจารย์ใหม่ เป็นตาเดียวทุกคน ด้วยที่อาจารย์ใหม่ของพวกเขานั้น เป็นผู้หญิงผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง หุ่นเพรียว ผมยาวสีดำปะบ่า ตากลมโตสีน้ำตาล จมูกโด่ง ริมฝาปากได้รูปแดงระเรื่อด้วยสีลิปสติก แต่งหน้าด้วยสีของเครื่องสำอางที่ไม่เข้มและไม่อ่อนจนเกินไป แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวข้างใน ผูกไทด์สีน้ำตาลเส้น สั้น ๆ น่ารัก ทับด้วยเสื้อสูทสีดำ นุ่งกระโปรงสีเข้ากับเสื้อสูทสั้นระดับหัวเข่ากำลังพอดีใส่ถุงน่องเข้ากับสี ผิว สวมด้วยรองเท้าส้นสูงที่ทันสมัย
“สวยจังเลยครับ” นักศึกษาหนุ่มคนนึงเอ่ยแซวขึ้นมาในทันทีที่ คำแนะนำตัวจบ
“ขอบคุณค่ะที่ชม ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงแรกที่เราได้พบกัน ให้ทุกคนแนะนำตัวให้อาจารย์ได้รู้จักกันหน่อยนะค่ะ และเดี๋ยวใครอยากสอบถามอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ค่อยถามกันอีกทีนะค่ะ”
นักศึกษาแต่ละคนค่อย ๆ แนะนำตัวกัน ทีละคน จนมาถึงคนสุดท้าย มด สะดุดตาขึ้นมาทันทีด้วยความที่หน้าตาแบบชาวต่างชาติจ๋า.... ไม่มีเค้าโครงความเป็นไทยหรือชาวเอเซียเลยสักนิดเดียว ใบหน้ารูปไข่ ตาสีเขียวมีประกาย ผมสีนำตาลถักเปียยาวถึงกลางหลัง บนใบหน้ามีกระเล็กน้อยพอน่ารัก ผิวขาวฝรั่ง จมูกโด่งแหลม ริมฝีปากสีชมพู หน้าตาไม่ได้แต่งแต้ม ตัวสูง แบบชาวต่างชาติ ใส่ชุดนักศึกษาสีขาวรัดรูป รูปทรงของร่างกายดูสมส่วน แต่ทำไมพูดภาษาไทยชัดเจน และเพราะหน้าของนักศึกษาคนนั้น คล้ายกับคนที่เธอเคยรู้จักเมื่อนานมาแล้ว จนเธอลืมไปแล้ว จนเมื่อได้เห็นหน้านักศึกษาคนนี้มันทำให้เธอกลับนึกถึงหน้าคน ๆ นั้นขึ้นมาอีก
“ชื่อ เดน่าค่ะ เป็นลูกครึ่ง อิตาลี เยอรมัน ค่ะ พ่อกับแม่มาทำธุรกิจที่เมืองไทย เกิดและโตที่เมืองไทยค่ะ อยากเรียนภาษาเยอรมันให้แก่งเพราะตั้งใจว่าจบจากนี่แล้วจะย้ายไปอยู่ เยอรมัน” เธอพูดตอบด้วยภาษาไทยที่ฉะฉาน ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อขยับไปมาน่ามอง จนทำให้ มด ยืนอดที่จะยืมอมยิ้มไม่ได้ขณะที่มองคนใบหน้าสวยนั้นแนะนำตัว
“คราวนี้ถึงคราวอาจารย์บ้างนะค่ะที่จะตอบคำถามของพวกเรา” เดน่า ถามกลับทันที ที่แนะนำตัวเสร็จ
“อาจารย์มีแฟนรึยังค่ะ” เดน่า ยิงคำถามทันที ทำให้เพื่อนทั้งห้องพากันโห่ร้องชอบใจ
“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ” มดตอบกลับ
“อาจารย์อายุเท่าไหร่แล้วค่ะ ทำไมถึงมาสอนภาษาเยอรมันค่ะ อาจารย์บ้านอยู่ไหนค่ะ แล้วอยู่กลับใครค่ะ ตอนที่อยู่เยอรมันพักอยู่เมืองอะไรค่ะ” เดน่ารีบถามกลับทันที
“เฮ้ย ยัยแหม่ม แกจะสำรวจสำมโนครัวอาจารย์เขารึไงว่ะ ถามซักไซร้จังโว้ย” เพื่อน ๆ ในห้องตะโกนแซวเดน่า เพื่อน ๆ ในชั้นปีเดียวกัน ต่างเรียกเธอเล่น ๆ ว่า แหม่ม กันทั้งนั้น เพราะย่อมาจากใยแหม่มกะปิ เป็นเพราะเดน่าเธอชอบน้ำพริกกะปิมาก
“ อายุ 25 ค่ะ อาจารย์เรียนจบด้านนี้มาโดยตรงที่เยอรมันค่ะ อาจารย์พักอยู่คอนโดใกล้ ๆ มหาลัยค่ะ ส่วนพักอยู่กับใครไม่ขอตอบนะค่ะ ตอนที่อยู่เยอรมัน อาจารย์พักอยู่กับคุณแม่ที่ เบอร์ลิน และก็ แฟรงค์เฟิส ค่ะ บ้านแม่อาจารย์อยู่ที่เบอร์ลิน ส่วนอาจารย์ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่แฟรงค์เฟิสค่ะ”
เดน่า มองอาจารย์สาวที่อยู่ตรงหน้า ทำไมเธอจะจำอาจารย์ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ ก็ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของพี่ชายเธอนั่นเอง พี่ชายของเดน่า ชื่อ มาร์ค เขาไปอยู่กับกับคุณยายที่เยอรมัน ตั้งแต่อายุ 18 แต่ระหว่างเดน่ากับพี่ชายของเธอยังติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา พี่ชายของเดน่าส่งรูปแฟนของเขามาให้เธอดูทางอินเตอร์เน็ตในทุกอริยาบถ เพราะพี่ชายเธอรักผู้หญิงคนนี้มาก ที่ว่าอยากจะแต่งงานด้วยเลยก็ว่าได้ พี่ชายของเดน่ามักจะส่งเมลล์มาเล่าให้ฟังว่าเขามีแฟนเป็นผู้หญิงไทยหน้าตา สวย น่ารัก หนุ่ม ๆ ทั้งในหลายในคลาส ต่างพากันจีบเธอแต่ไม่มีใครจีบติดนอกจากพี่ชายเธอ
ระยะเวลา 4 ปีที่พี่ชายของเดน่า คบกับผู้หญิงคนนี้มาเขามีทั้งสุขและทุกข์ เพราะเวลาสุขพี่ชายเธอจะเมลล์มาบอกว่าผู้หญิงไทยคนนี้ดีกับเขาทุกอย่างดูแล เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน รักและเข้าใจเขา และเขายังเป็นของกันและกันแล้ว แต่เวลาทุกข์พี่ชายเธอก็จะเมลล์มาบอกเช่นกันว่าเวลาที่เขาขอผู้หญิงคนนี้ แต่งงานทีไรผู้หญิงคนนี้จะปฏิเสธเขาทุกครั้ง เธอมักจะบอกเสมอว่าเธอยังไม่พร้อม และเขามักจะได้ยินเพื่อน ๆ พูดเสมอว่าผู้หญิงไทยคนนี้เจ้าชู้ไม่ได้คบกับเขาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ไม่เคยเชื่อ จนวันนึงเขาได้ไปเห็นผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเขายืนกอด จูบ กับผู้ชายอีกคนนึง เขาเสียใจมาก แทบเป็นบ้า เขาทนที่จะอยู่เห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อีก จนเขาต้องเลิกเรียนแล้วหายตัวออกจากบ้านไป จนทุกวันนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวเลย
“ในที่สุดชั้นก็ได้เจอเธอจนได้น่ะ คนที่ทำให้พี่ชายชั้นต้องหายตัวไป คอยดูฉันจะแก้แค้นให้พี่ฉัน จะทำให้เธอไม่มีวันได้ผุดได้เกิดเลย” เดน่า มองหน้าอาจารย์สาวด้วยสายตาอาฆาต
“เอาละ ไหน ๆ วันนี้เราก็ได้เจอกันเป็นคาบแรกนะค่ะ อาจารย์จะให้ทุกคนทำงานส่งอาจารย์เบา ๆ ก่อนนะค่ะ” มดพูดกับนักศึกษาในห้อง
“โอ้ย ...... ทำไมให้รีบทำงานจัง อย่าเพิ่งทำเลยนะๆๆๆ .” เสียงนักศึกษาในห้องต่างร้องเสียงโอดครวญ
“อาจารย์จะให้นักศึกษาทุกคน เขียนเรียงความเกี่ยวกับ เรื่องอะไรดีเอ่ย ...... เรื่องชีวิตรักในวัยรุ่น เป็นภาษาเยอรมันนะค่ะ หนึ่งหน้ากระดาษค่ะ” เดน่า พูดสั่งงานพร้อมกับอมยิ้มกับท่าทางของนักศึกษา
ออด...............................
เสียงออดดังหมดเวลาเรียน แล้ว นักศึกษาต่างเอาสมุดงานที่เขียนมาส่ง และทยอยพากันเดินออกไป มด รวบรวมสมุดที่นักศึกษานำมาส่ง และหิ้วของที่พะรุงพะรังของเธอจะเดินกลับห้องพัก
“หนูช่วยถือค่ะ อาจารย์” เดน่าเสนอตัวเข้ามาช่วย มด ทันที
“จ๊ะ ขอบใจจ๊ะ” มดตอบ พร้อมกับยื่นสมุดส่งให้เดน่า
เดน่าเดินตาม มด ออกไปพร้อมกับมองหลังของมด “หุ่นดีอย่างนี้นี่เองพี่ชายเราถึงได้หลงนัก” เดน่าคิดในใจ พร้อมกับเดินตรงเข้าไปเดินข้าง ๆ มด
“ตัวสูงจัง หุ่นดีด้วย สมกับเป็นเด็กฝรั่งจัง” มดพลางคิดในใจเมื่อเดน่าเดินมาข้าง ๆ
“แอ้ด......” มดเปิดประตูเข้าไปในห้องพักอาจารย์ แต่ในห้องพักอาจารย์นั้นไม่มีใครอยู่เลย
“ขอบใจอีกทีนะ ที่อุตสาห์ช่วยถือให้ วางไว้บนโต๊ะเลยจ๊ะ” มดหันไปบอก เดน่า แล้วก็หันกลับมาที่ชั้นวางแฟ้ม เธอพยายาม ที่จะหยิบแฟ้มที่ว่างมาใส่เอกสารซึ่งอยู่บนชั้นบนสุด เธอพยายามเอื้อมมือหยิบ แต่ก็หยิบไม่ถึง ทันใดเธอก็ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ และไอร้อนจากร่างกายของคน มาซ้อนอยู่ด้านหลังของเธอ ร่างกายของคนที่อยู่ข้างหลังดันตัวเธอ จนหน้าเธอไปจนชิดชั้นวางแฟ้ม มือข้างหนึ่งของคนข้างหลังเอื้อมเข้ามาโอบเอวเธอ ส่วนมืออีกข้างหนึ่ง เอื้อมเข้ามาจับหน้าอกของเธอ พร้อมกับบีบเบา ๆ
“ว้าย!” “ปล่อยนะ เธอจะทำอะไร” มดร้องเสียงดังตกใจ
มือที่โอบเอวเธอเลื่อนขึ้นมาปิดปากเธอ ไม่ให้เสียงเธอเล็ดลอดออกมา ส่วนมือที่จับหน้าอกอยู่นั้นก็เริ่มบีบหนักขึ้นเรื่อย ๆ ริมฝีปากของคนที่อยู่ด้านหลัง ก็แตะไล่อยู่ที่ด้านหลังหูไล่เรื่อยลงมาที่ต้นคอ จนทำให้มด รู้สึกวูบวาบกับการกระทำนั้น ด้วยคนที่อยู่ข้างหลังเธอนั้นดันเธอจนชิดชั้นวางแฟ้ม ทำให้มดดิ้นหลุดออกมาไม่ได้ นิ้วมือที่เค้นคลึงอยู่ที่หน้าอกก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อของมดออก มือนั้น ก็ค่อย ๆ หายเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของมด มือข้างนั้นได้สัมผัสกับเนื้อปทุมถันที่ขนาดพอเหมาะที่ชูชันรอรับมือ ตามอารมณ์วาบหวามของคนที่โดนจู่โจมทั้งบีบ ทั้งเคล้น รุนแรงเหมือนจะให้แหลกคามือทันที มือข้างนั้นได้สัมผัสกับปทุมถัน ทั้งสองข้างอย่างพอใจแล้ว ก็ค่อย ๆ เลื่อนลงไปจนถึงเนินสวาท ลูบคลำ คลึง หมุนวน อยู่ตรงเนินสวาท แล้วนิ้วเรียวยาวลากลงไปตรงกลางร่องสวาททั้งที่ยังมีชั้นในขวางกั้นอยู่ นิ้วเรียวงามนั้นลากไปมา อยู่ตรงบริเวณ จุดเสียวทำให้อารมณ์ของคนที่โดนจู่โจมกระเจิดกระเจิง จนร่างกายที่แข็งขืนเริ่มอ่อนเปลี้ยไปตามอารมณ์ น้ำรักของเธอไหลออกมาจนเปียกชั้นในตัวน้อยจนคนเป็นต้นเหตุนั้นรู้สึกได้
ทันใดนั้นมดก็ถูกดึงออกมาจากชั้นหันมาเผชิญหน้ากับสาวน้อยหน้าตาฝรั่งในตา สวยที่ทำให้เธออ่อนเปลี้ยอยู่ในขณะนี้ มือทั้งสองข้างของมดถูกดึงขึ้นไว้เนื้อหัว ดันติดไว้กับชั้นวางแฟ้ม ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน หน้าอกของเดน่าดันชิดกับหน้าอกของมด เรียวขายาวของสาวฝรั่งแทรกดันไปตรงระหว่างขาของมด เพื่อหยุดการดิ้นรน ใบหน้าของทั้งสองแนบชิดกัน เดน่าใช้ปลายลิ้นของเธอไล้เลียที่ริมฝีปากของอาจารย์สาวเบา ๆ ใบหน้าของสาวน้อยก็ค่อย ๆ เลื่อนลงมาจนถึงหน้าอกขาวสวยที่มีแต่เสื้อชั้นในตัวน้อยปกป้องอยู่ เธอใช้ลิ้นไล้เลียที่รอบยอดปทุมถันไปมา ทั้งดูด กัด ทั้งขบเบา ๆ จนทำให้อาจารย์สาวครางออกมาด้วยความเสียวกระสัน
“วันนี้แค่นี้ก่อนนะค่ะ อาจารย์” เดน่าหยุดการกระทำทันที แล้วเลื่อนหน้าขึ้นมาเผชิญหน้า
“เอาไว้คราวหน้าจะทำให้อาจารย์ถึงใจยิ่งกว่านี้อีกค่ะ” เดน่า พูดด้วยสีหน้าเย้ยหยันเมื่อเห็นอาการที่อ่อนปวกเปียกของอาจารย์สาว แล้วเธอก็ปล่อยให้อาจารย์สาวได้เป็นอิสระ พร้อมกับถอยออกมา
“อย่าคิดหนีนะค่ะ เพราะอย่างไรอาจารย์ก็หนีไม่พ้นหรอก” เดน่าพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อ
“ติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยนะค่ะ รอยแดงนั้นอย่าให้ใครเห็นละ เดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้าจะหาว่า อาจารย์นะเป็นผู้หญิงใจง่าย” เดน่าพูดพร้อมกับเดินออกจากห้องไป
“ใยเด็กบ้า!” มดสบถออกมา “คอยดูฉันจะไม่มีวันเข้าใกล้เธออีกเป็นแน่” มดพูดพร้อมกับติดกระดุมเสื้อและแต่งกายให้เรียบร้อย แรงแค้น แรงเสน่หา ตอนที่ 2
ประกาศสงคราม
โดย ใจร้าย
ความเดิมตอนที่แล้ว
“ใยเด็กบ้า!” มดสบถออกมา “คอยดูฉันจะไม่มีวันเข้าใกล้เธออีกเป็นแน่” มดพูดพร้อมกับติดกระดุมเสื้อและแต่งกายให้เรียบร้อย
************************
เดน่า เดินออกจากห้องพักอาจารย์ ทิ้งความรู้สึกไว้หลาย ๆ อย่าง ไว้ให้มด มด ทั้ง โกรธ โมโห แค้นใจ อาย ที่โดนดูถูก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก รวมทั้งรู้สึกในอารมณ์วาบหวามที่เดน่าทำไว้กับเธอ ไม่ทันที่มดจะแต่งตัวเสร็จดี ลิลลี่ ก็เดินเข้ามาในห้องพักอาจารย์
“เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะน้องมด สอนวันแรก” ลิลลี่ ทักทายทันที่เข้ามาในห้องพักอาจารย์
“ดีค่ะ พี่ลิลลี่” มดตอบสั้น ๆ พร้อมหันหลังก้มหน้าก้มตารีบแต่งตัว กลบเกลื่อนหน้าตาและความรู้สึกของตัวเองที่ยังครุกกรุ่นอยู่
“แล้วทำไมหน้าแดงอย่างนั้นละ ไม่สบายรึเปล่า” ลิลลี่ ถามกลับเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของมด
“เอ่อ.............” มดตะกุกตะกักที่จะตอบ
“คงยังไม่หายตื่นเต้นละสิ” ลิลลี่ถามพร้อมกับยิ้ม เมื่อคิดว่าตัวเองคิดถูก
“ค่ะ คงเป็นอย่างนั้น คงยังตื่นเต้นอยู่ค่ะ” มดรีบตอบทันที เพื่อไม่ให้ พี่ลิลลี่สงสัยอีก
“อย่างนี้ละค่ะ สอนครั้งแรกใครก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น ตอนสมัยพี่ก็เหมือนกัน สอนครั้งแรกตื่นเต้นจนแทบอยากจะเป็นลม แต่น้องมดเนี่ยเก่งนะค่ะ ดูแล้วคงสู้ไหวนะค่ะ เอ่อ...... ก่อนเข้ามาพี่เห็นใยแหม่มกะปิ แว๊บ ๆ เด็กคนนั้นมาพบพี่รึเปล่าจ๊ะ อุ้ย! พี่ลืมบอกน้องมดไป ว่าพี่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาปี 2นะ” ลิลลี่พูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อย ๆ พร้อมกับถามถึงข้อสงสัยของตัวเอง
“เอ่อ................ เดน่า ช่วยมดถือของนะค่ะ พี่ลิลลี่เป็นที่ปรึกษาของ นักศึกษาปี 2 เหรอค่ะ” มดเริ่มใคร่อยากที่จะรู้เรื่องของนักศึกษาปีนี้ ยิ่งเรื่องของนักศึกษาสาวหน้าตาฝรั่ง
“ใช่จ๊ะ นักศึกษาห้องนี้น่ารักทุกคนจ๊ะ แต่อย่างที่บอกมีพวกทโมนเยอะพอสมควร แต่พี่ขอรับรองด้วยเกียรติของสาวประเภทสองที่สวยที่สุดในมหาลัยนะจ๊ะว่าเด็ก ห้องนี้นิสัยดีมาก มาก ขอบอก ยิ่งยัยแหม่มที่ช่วยน้องมดถือสมุดนะ นิสัยดีมาก ชอบกิจกรรม ช่วยเหลืองานอาจารย์ดี แต่ที่สำคัญที่สุดอาจารย์ที่ปรึกษาดีด้วยจ๊ะ” ลิลลี่สาธยายถึงความดีของนักศึกษาในความดูแลของตัวเอง..........
“หรือค่ะ ใช่ค่ะ มด ดูแล้วนักศึกษาห้องนี้ต้องดีแน่ ๆ เลย เพราะมีที่ปรึกษาดีอย่างพี่ลิลลี่นี่เอง ฮิ ๆ ๆๆ” มดหัวเราะชอบใจในสิ่งที่ลิลลี่พูด
“มด อยากรู้ถึงพฤติกรรมเด็กคนไหนเป็นพิเศษไหมจ๊ะ พี่จะได้บอกว่าคนไหนเป็นอย่างไร พี่สามารถบอกได้ทุกคนจ๊ะ” ลิลลี่พูดพร้อมกับทำท่าเป็นผู้หยังรู้ในทุก ๆ เรื่อง
ได้ทีของมดในทันที ที่จะได้รู้ข้อมูลของ นักศึกษาสาวหน้าฝรั่งที่ดูถูกเธอ
“ที่สะดุดตา มดนะค่ะ เอ่อ....... ก็มีเดน่า ที่พี่ลิลลี่เรียกว่า แหม่มนะค่ะ”
“น้องมด เนี่ยตาแหลมนะจ๊ะ เพราะใยแหม่ม เนี่ย ป๊อบในหมู่นักศึกษาทั้งหญิง ทั้งชาย ทั้งเก่งเรื่องเรียน เก่งกิจกรรมด้วย อ๋อ ใยแหม่มเนี่ย เป็นฝรั่งเลยจ๊ะไม่มีเชื้อไทย”
ออด................ เสียงออดดังเปลี่ยนคาบเรียน
“ออดแล้ว พี่ไปก่อนนะจ๊ะน้องมด พี่มีสอน เดี๋ยววันหลังพี่เล่าให้ฟังใหม่นะ” ลิลลี่ รีบออกไปเมื่อได้ยินเสียงออด
“ใยเด็กฝรั่งบ้า คอยดูเถอะเธอจะไม่มีทางทำกับชั้นอย่างนี้ได้เป็นครั้งที่สองแน่” มดคิดในใจ
ขณะที่มดนั่งรอเวลางานเลิก เธอก็ได้นั่งตรวจงานของนักศึกษาที่เธอสั่ง เมื่อตรวจมาถึงงานของเดน่า เธออ่านแล้วเธอก็ต้องตกใจในข้อความที่เดน่า เขียนไว้ว่า
“ความรักที่แท้จริงไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากอารมณ์ มากกว่า เมื่อความรู้สึกของคน ที่เราเรียกว่าความรักเกิดขึ้น มันมักจะทำให้คน ๆ นั้น เป็นทุกข์ เสียใจ และใจสลาย แต่ถ้าใครสามารถทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ คน ๆ นั้น ก็พ้นทุกข์ไป ส่วนใครที่ทำใจไม่ได้ก็ต้องทนยอมรับความเจ็บปวด อยู่ที่ว่าใครจะทนได้มากน้อยแค่ไหนถ้าใครทนไม่ได้ก็ต้องตายไป หรือจากไป
สำหรับบางคนก็จะกลายเป็นความแค้นที่จะรอวันชำระ ให้คน ๆ นั้นรู้สึกถึงสิ่งที่ทำไว้กับคนอื่น ให้มันสาสม ให้กระอักออกมาเป็นเลือด ให้ทุกข์ เจ็บปวด เสียใจ มากกว่าคนที่โดนกระทำเป็นร้อยเท่าพันเท่า”
“เด็กคนนี้มีความคิดแปลก ๆ” มดคิดในใจ เมื่อปิดหน้าสมุดของเดน่า มดก็ต้องตกใจอีกครั้งนึงกับชื่อของเดน่า ชื่อเต็ม ๆ ของ เดน่า คือ เดน่า ลุมเบิร์ก !
“นี่ นามสกุล มาร์ค” มดอุทานออกมาในทันทีที่เห็นชื่อและนามสกุล ของ เดน่า ทำให้ มดหวนคิดถึงอดีตที่เธอยังศึกษาอยู่ที่เยอรมัน
มาร์ค เป็นเพื่อนที่เรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นชาวต่างชาติที่มดยอมคบให้ความสนิทด้วย มดให้ความสำคัญกับ มาร์ค มากกว่าผู้ชายคนอื่น ๆ ที่เข้ามาในชีวิตเธอช่วงที่เธออยู่ที่เยอรมัน มด ยอมรับตัวเองเสมอว่าเธอเป็นคนเจ้าชู้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงไทยที่เรียบร้อย รักนวลสงวนตัว ที่มีความเป็นกุลสตรี แต่กลับตรงกันข้าม มด เป็นหญิงไทยที่ยุคใหม่ ที่มีความเป็นฝรั่งอยู่ในตัวเองสูง รักอิสระ รักความเสรี ชอบให้ชีวิตตัวเองโลดแล่นไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ชอบที่จะลองรักในรูปแบบต่าง ๆ ก่อนที่เธอจะเจอมาร์ค เธอก็คบกับชาย มากหน้าหลายตา แม้แต่ตอนที่คบมาร์คอยู่เธอก็ยังคบกับคนอื่นที่เธอต้องการ ถ้าถามว่าเธอรักมาร์ค ไหม เธอสามารถตอบใจตัวเองได้ทันทีว่า เธอไม่ได้รักมาร์ค เลย เธอแค่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กับ มาร์ค มากกว่าคนอื่น ๆ เธอจึงไปไหนมาไหนกับมาร์ค ให้ความสำคัญกับมาร์ค แต่เมื่อวันนึงที่เธอได้มีความสัมพันธ์กับมาร์คทำให้ มาร์คเริ่มเข้ามาวุ่นวายในชีวิตส่วนตัวของเธอ แสดงความเป็นเจ้าของในตัวเธอ ซึ่งเวลาที่มาร์คบอกรักเธอ และมาร์ค จะถามกลับเสมอว่า
“รักมาร์คบ้างไหม” ทุกครั้งที่มาร์ค ถาม เธอจะตอบเสมอว่าตอนนี้มาร์คเป็นคนที่มดสนิทด้วยมากที่สุด หรือ บอกว่าตอนนี้มาร์คเป็นคนพิเศษสำหรับเธอ มดไม่ เคยบอกรักมาร์คเลยสักครั้งเดียว เวลาที่มาร์คขอเธอแต่งงาน เธอก็จะปฏิเสธทุกครั้ง และเธอพูดปัดเสมอว่า มดไม่พร้อม มดอยากจะบอกมาร์ค ว่ามดไม่ได้รักมาร์ค แต่เธอก็ไม่อยากทำลายน้ำใจผู้ชายที่ดีกับเธอ
มาร์คเป็นฝรั่งที่มีความเป็นไทยในตัวเองสูง มาร์ค เคยเล่าให้มดฟังว่า เขาเกิดที่เมืองไทย เขามีน้องสาวอีกคนนึง ที่อยู่ที่เมืองไทย พอเขาอายุได้ 18 เขาก็ย้ายมาอยู่กับยายที่เยอรมัน เขาจึงถูกอบรม ได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงที่เป็นคนไทย ทำให้เขามีความคิดแบบคนไทย ชอบผู้หญิงไทย เพราะมาร์คจะคิดเสมอว่า ผู้หญิงไทย เป็นคนที่รักเดียวใจเดียว เลยทำให้มาร์คให้ความรักกับเธอ เต็มที่ แต่มาวันนึงเมื่อมาร์ค มาเจอมด ที่กำลังยืน พลอดรัก กอดจูบกับผู้ชาย คนอื่น ทำให้มาร์คเสียใจมาก เขายืนดูมดกับผู้ชายอีกคนแสดงความรักกัน ยืนอยู่อย่างนั้น จึงทำให้มดเห็นว่า มาร์คยืนมองเธออยู่
“ทำไม มดทำกับมาร์ค อย่างนี้ มดมีคนอื่น มดไม่ได้รักมาร์คเหรอ ” มาร์คตัดพ้อทั้งน้ำตา เสียใจกับสิ่งที่เขาเห็น ทันทีเมื่อเขามาพบมดที่ห้อง
“มาร์ค มดขอโทษมาร์คนะ แต่มด.........” มดไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะเมื่อเธอเห็นน้ำตาของเขาเธอก็รู้สึกผิด
“ทำไม ๆ ๆ ๆ มดไม่สนใจความรู้สึกของมาร์คเลย ทั้ง ๆ ที่มดบอกว่า มาร์ค เป็นคนพิเศษ เป็นคนสำคัญ ทำไม ๆ ๆ” มาร์คพูดพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างดึงมดเข้ามากอดไว้แน่น เหมือนจะให้หัวใจของเขาหยั่งรู้ถึงหัวใจของเธอ
“มาร์ค มดขอโทษ” มดดันตัวมาร์คออก ถึงคราวที่เธอต้องพูดความจริงกับมาร์คเสียที
“มาร์ค เป็นคนพิเศษสำหรับมด แต่.............. มดไม่ได้รักมาร์ค” มดพูดโพล่งออกมา
“มดไม่ได้รัก....” เสียงของมาร์คพูดออกมาเสียงหายเข้าไปในลำคอเหมือนเป็นเสียงกระซิบ ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเปล่งเสียง
“แล้วมด ให้ความสำคัญกับ มาร์ค ทำไม แล้วที่เรามีอะไรกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่เคยปฏิเสธซักครั้งเวลาที่มาร์ค บอกกับเพื่อว่ามดเป็นแฟนมาร์ค ที่ผ่านมา 4 ปี ไม่มีความหมายเลยรึไง” มาร์คตะโกนออกมาดัง ๆ เหมือนอยากให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงความรู้สึกของเขา
เขาดึงกระชากตัวมดเข้ามาเขย่าตัวเธอแรงขึ้น แรงขึ้น มดพยายามสะบัดตัวออกจากมือของมาร์ค
“ก็บอกแล้วไง มด ไม่ได้รักมาร์ค มาร์คก็แค่เป็นเพื่อนมดเท่านั้น กับการที่เราเคยนอนด้วยกันนะ มันไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับมดหรอกนะ มดก็เคยนอนกับคนอื่นเหมือนกัน มดอยากจะยุ่งกับใครมันก็เรื่องของมด การที่เรามีอะไรกัน มันก็แค่ความสนุกร่วมกันก็แค่นั้น” มด หมดความอดทนกับความรู้สึกของมาร์ค เธอตะโกนใส่หน้ามาร์ค ไม่แคร์ความรู้สึกของมาร์คอีกต่อไป
“ไม่ ๆ ๆ ๆ ๆ” มาร์คตะโกนเสียงดังผลักมดล้มลง แล้วมาร์คก็วิ่งออกจากห้องไป
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้น มด ก็ไม่ได้พบมาร์คอีกเลย ทั้งที่มหาวิทยาลัย และที่อื่น ๆ ที่มาร์ค เคยไป ความที่มดเป็นสาวสมัยใหม่ เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ทำให้มดไม่ได้สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่ มีแค่ความรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ทำให้ผู้ชายคนนึงเสียใจ ก็เท่านั้น
“ขยันจังเลยนะจ๊ะน้องมด” เสียงพี่พร หัวหน้าหมวดทักขึ้น ทำให้มดหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
“ค่ะ......มดไม่อยากให้งานมันค้างนะค่ะ จะได้มีเวลาเตรียมการสอน” มดตอบรับแบบเขิน ๆ
“ขยันอย่างนี้ พี่รักตายเลย” ยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดู “อย่างนั้นพี่กลับก่อนนะค่ะ ได้เวลาเลิกงานพอดี กลับบ้านดี ๆ นะค่ะ” พี่พร หัวหน้าหมวดของเธอพูดชื่นชมแกมเอ็นดูนิด ๆ
“ถึงเวลาเลิกงานแล้วเหรอเนี่ย ทำงานวันแรกของเรา ก็เจอดีซะแล้ว” มดพูดกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับเก็บงานของนักศึกษาที่เธอตรวจเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเธอเดินออกมาทางหน้าตึกคณะ เธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนมองเธออยู่ เธอหันกลับไปข้างหลัง เธอก็เห็น เดน่า สาวหน้าฝรั่งคนนั้น ยืนมองเธออยู่ด้วยสายตาที่มุ่งหมายจะทำอะไรสักอย่าง
มดเดินเอาของไปเก็บที่รถที่จอดไว้ที่หน้าตึก เธอหันกลับมามองอีกที เธอก็ยังเห็น สาวฝรั่งคนนั้น ยังยืนมองเธออยู่ เธอยังไม่ก้าวขึ้นรถในทันที เธอปิดประตูรถ เธอหันกลับเดินตรงไปหาเดน่า ที่หน้าตึกในขณะนั้น นักศึกษาเหลืออยู่ไม่กี่คน เพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว นักศึกษาส่วนมากจะกลับบ้านกันไปแล้ว หรือจะไปนั่งกันตามที่นั่งในสวนหย่อมของบริเวณมหาวิทยาลัย
“เรามีอะไรต้องพูดกัน” มด พูดทันทีเมื่อเธอมายืนอยู่ตรงหน้าเดน่า มดพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบพอที่จะได้ยินกันสองคน
“คุณมีอะไรจะพูดกับชั้น เหรอค่ะ หรือว่า คุณ อยาก....................แบบเมื่อตอนกลางวัน ติดใจแล้วละสิ แต่ตรงนี้คนอยู่เยอะนะค่ะ คุณน่าจะหาที่คนน้อยกว่านี้หน่อย ” เดน่า ทำหน้าตายียวนกวนประสาท พร้อมกับใช้นิ้วมือเขี่ยที่กระดุมเสื้อของตัวเองทำท่าเลียนแบบเหตุการณ์ที่ ห้องพักอาจารย์
“เดน่า! เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวันนะ มันไม่ทำให้ชั้นรู้สึกอะไรสักเท่าไหร่หรอกนะ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรหรอก กับแค่เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ริอาจจะลองก็แค่นั้น”
มดพูดย้อนกลับใส่หน้า เดน่า ด้วยสีหน้าและแววตาที่นิ่งเฉย เหมือนไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ
“ชั้นลืมไปว่าคุณไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปี คงจะช่ำชองเรื่องพรรค์อย่างนี้อยู่แล้ว มันคงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคุณ” เดน่า ตอกกลับไปโดยไม่ยอมลดละ
“เอาละ เปลี่ยนเรื่องคุย อาจารย์อยากจะถามเธอว่า เธอเป็นน้องของมาร์ค ใช่ไหม” มดถามถึงข้อสงสัยของเธอ
“ใช่ค่ะ มาร์ค ลุมเบิร์ก นะ พี่ชายชั้นเอง คุณจำได้ด้วยเหรอค่ะ มาร์ค ผู้ชายที่คุณทิ้งไปอย่างไม่มีเยื่อใย คุณรู้ไหมทุกวันนี้ยังไม่มีใครตาม มาร์ค เจอ มาร์ค หายไป ไม่ติดต่อกลับมา มันเป็นเพราะคุณนั่นแหละ คุณรู้ตัวบ้างรึเปล่า ว่าคุณทำลายชีวิตของผู้ชายคนนึง ทำให้ครอบครัวเขาต้องเสียใจ ไม่รู้ว่า มาร์คยังอยู่หรือตายไปแล้ว” น้ำเสียงของเดน่าเต็มไปด้วยความแข็งกระด้าง มีแต่ความขุ่นแค้นที่แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา
“มันไม่ใช่ความผิดของชั้น พี่ชายเธอนั่นแหละ ที่ทำตัวของเขาเอง ชั้นไม่เคยรักเขา และไม่คิดจะรักด้วย พี่ชายเธอคาดหวังในตัวของชั้นเอง ถึงชั้นจะย้อนเวลากลับไปได้ ชั้นก็ไม่รักพี่ชายของเธอ” มด ไม่ยอมรับในสิ่งที่เดน่า กล่าวหาเธอ เรื่องอะไรที่เธอจะต้องยอมรับชีวิตเป็นของเธอ เธออยากจะทำอะไรก็ได้
“ทั้ง ๆ ที่ มาร์ครักคุณมาก อย่างนั้นหรือค่ะ”
“ใช่ !” มดตอบกลับไปอย่างหนักแน่น
“อ้อ! ชั้นพอจะเข้าใจคุณแล้ว คุณจำคำพูดของคุณไว้ให้ดีนะค่ะ ชันขอบอกกับคุณไว้ตรงนี้เลย ชั้น จะแก้แค้นให้ มาร์ค คุณระวังตัวไว้ให้ดี ชั้นจะทำให้คุณย์ต้องเจ็บปวดกว่ามาร์คหลายเท่า ชั้นจะทำให้คุณรู้ว่าความเจ็บปวดนะมันเป็นอย่างไร คุณจะต้องได้รับกรรมในสิ่งที่คุณทำกับมาร์คไว้”
“ได้! ชั้นจะรอดูว่าเธอจะทำอะไร แต่ขอบอกไว้อย่างนึงนะ ชั้นไม่มีวันที่จะตกหลุมพรางของเธอแน่นอน เธอยังรู้ชั้นน้อยเกินไป”
“แล้วเราจะได้รู้กันค่ะ แล้วคุณจะได้รู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้”
ทั้งสองคนต่างยืนจ้องหน้ากัน สายตาคนนึงมองด้วยความเคียดแค้น แต่อีกคนนึง มองด้วยสายตาท้าทายและเย็นชา ไม่มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“อ้าวยังไม่กลับบ้านหรือจ๊ะน้องมด” เสียงลิลลี่ดังมาแต่ไกล
ทำให้ทั้งสองสาวที่ยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่ลดละ ต้องหันไปมองทางเดียวกัน
“กำลังจะกลับค่ะพี่ลิลลี่” มดตอบกลับ เมื่อตั้งสติได้
“อ้าว! ใยแหม่ม ยืนคุยอะไรกับอาจารย์เขาเหรอจ๊ะ ถ้าท่าทางจริงจังเชียว” ลิลลี่หันไปถามสาวน้อยหน้าฝรั่งที่ยืนปรับสีหน้าอยู่อีกทางนึง
“พอดี แหม่ม กำลังถามอาจารย์เขาเกี่ยวกับประเทศเยอรมันค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง” เดน่า ปรับทั้งสีหน้าและคำพูด โดยใช้คำพูดแทนตัวเองว่าแหม่ม กับอาจารย์ลิลลี่ เป็นคำพูดที่ไพเราะ เปลี่ยนสีหน้าให้เป็นนักศึกษาน่ารักสดใส ผิดกับคนละคนที่ยืนคุยกับมดเมื่อสักครู่
“งั้นแหม่ม ขอตัวกลับบ้านก่อนนะค่ะ เย็นแล้ว สวัสดีค่ะอาจารย์” เดน่ายกมือสวัสดี อาจารย์ลิลลี่ และหันไปสวัสดี มด มองมด ด้วยสายตาอาฆาต
แรงแค้น แรงเสน่หา ตอนที่ 3
เริ่มต้นการชำระแค้น
โดย ใจร้าย