close buttonclose buttonclose button
หลง โดย daona

หลง โดย daona

เรื่องเสียว · 128630

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
on: January 07, 2010, 10:24:48 am


“พี่ต้องการ นะหวาน” ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มอ้อนวอนกับหญิงสาวในชุดนักศึกษาที่นั่งอยู่ข้างๆ “หวานไม่ใช่เด็กอมมือแล้วนะ แล้วพี่ก็ต้องการของจริง ผู้หญิงจริงๆ”
“หวานยอมไม่ได้หรอกค่ะ มันน่าละอาย พ่อกับแม่ของหวานต้องเสียใจแน่ๆ ถ้าหวานทำอย่างนั้น” กมลวรรณรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ หญิงสาวคบหาเป็นแฟนธวัชชัยมานานแล้ว เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมยุรินทร์น้องสาวของธวัชชัยมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน จึงมักจะมาหา มยุรินทร์ที่บ้านอยู่เสมอ ด้วยความน่ารัก สดใสของหญิงสาวทำให้ธวัชชัยตัดสินใจจีบเธอจนเป็นแฟนกันตั้งแต่ที่เธอยังเป็น นักเรียน ตอนนี้เขาได้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ส่วนกมลวรรณก็เอ็นติดเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน

บ้านของธวัชชัยเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ แต่เขาก็เช่าอพาทเมนท์เป็นที่พักอีกแห่งหนึ่งเพื่อความสะดวก เพราะคิดว่าถ้าวันไหนทำงานดึกจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขับรถกลับบ้าน แล้วอีกอย่างธวัชชัยก็ต้องการใช้อพาทเมนท์นี้เป็นที่พลอดรักกับสาวๆของเขา ด้วย ธวัชชัยเป็นคนเจ้าชู้ ชอบจีบผู้หญิงทีละสองสามคน แต่อาศัยว่าสับรางเก่งจึงเอาตัวรอดไปได้ตลอด เขาเป็นคนรูปหล่อ มีเสน่ห์ บุคลิกและคารมดี จึงหาสาวๆได้ไม่ยาก แต่กับกมลวรรณแล้วเธอไม่เคยจะยอมใจอ่อนไปกับเขา เด็กสาวยอมให้เขาทำบางอย่าง กอดและจูบกัน... บางครั้งเธอก็ยอมให้เขาถอดเสื้อของเธอออก หรือแม้กระทั่งถอดเสื้อยกทรง แต่เธอก็ไม่ยอมให้เขาถอดอะไรไปมากกว่านี้

“พ่อแม่ของหวานจะไปรู้ได้ยังไง มันเป็นเรื่องธรรมชาตินะ ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ ให้ตายซิหวาน หวานน่าจะดูเพื่อนคนอื่นๆบ้าง...”
“มันยังไม่ถึงเวลาค่ะ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็วันที่เราแต่งงานกันไงคะ” เด็กสาวตอบหน้าแดงระเรื่อ
ธวัชชัยหัวเราะลั่น กมลวรรณมองด้วยความสงสัย คิดไม่ถึงว่าเขาจะหัวเราะ ธวัชชัยกระโดดลุกจากเตียง
“ถึงเวลากลับบ้านแล้วหนูน้อย”
กมลวรรณโล่งอก เธอคิดว่าเขาคงละพยายามที่จะพาเธอขึ้นเตียงก่อนแต่งงานไปแล้ว แต่เมื่อเขาไม่ได้มาหาเธอตามนัดในวันถัดมา เธอก็เริ่มเป็นห่วง เธอตามหาเขาอีกสองวันก็ไม่เคยเจอ ไม่เคยเลยที่เขาจะห่างหายจากเธอไปอย่างนี้ ด้วยความว้าวุ่นทำให้เด็กสาวไปหาเขาที่อพาทเมนท์ กมลวรรณหน้าแดงเมื่อเห็นเขายืนขวางประตู เสื้อไม่ได้สวม ซ้ำยังรูดซิบกางเกงไม่เสร็จด้วยซ้ำ

“ทำไมพี่เงียบหายไปล่ะคะ” เธอถามไม่ทันสังเกตว่าหน้าของเขาซีดเผือดไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอ
“พี่..พี่ มีธุระ” เขาพูดตะกุกตะกัก แล้วก็มีเสียงหัวเราะของผู้หญิง สักครู่หนึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เดินออกมา กมลวรรณเห็นเธอเป็นเด็กสาวหน้าตาสวยคม ร่างคลุมด้วยผ้าปูที่นอน เธอกอดธวัชชัยจากด้านหลัง มองกมลวรรณ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน

“กลับมาที่เตียงเถอะค่ะอาจารย์ เรามีภารกิจที่ต้องสะสางอยู่นะ เดี๋ยวหนูก็เฉาแย่ซิคะ”
กมลวรรณใจหายวาบ หน้าของเธอซีดเผือด ตาจ้องมองเขาเขม็ง
“…ก็พี่มันเป็นผู้ชายนี่” ธวัชชัยก้มหน้าตอบเบาๆ
กมลวรรณกลับบ้านในทันที เธอหยุดเรียนไปสองวัน และเอาแต่ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา จนเริ่มทำใจได้ เธอจึงกลับไปเรียนอีกครั้ง แต่สมองยังเต็มไปด้วยความว้าวุ่น และใจลอยอยู่ตลอดเวลา จนเรียนไม่รู้เรื่องเลย

. . . . . . . . . . . . . . .

“หวาน หวาน...”
กมลวรรณสะดุ้ง หันไปมองก็เห็นเด็กสาวในชุดนักศึกษายืนอยู่ข้างๆ
“อ้าว ยุ้ยมาเมื่อไหร่เนี่ย”
“เป็นอะไรไปหวาน ยุ้ยเรียกตั้งหลายครั้งแล้ว... ทำไมใจลอยจังเลย”
“ไม่...ไม่มีอะไร”
“ต้องมีสิ..ต้องมีแน่ๆ หวานไม่เคยใจลอยแบบนี้” ยุ้ยพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “มีเรื่องกลุ้มใจอะไรก็บอกยุ้ยเถอะ หรือไม่เห็นยุ้ยเป็นเพื่อน”

กมลวรรณจ้องมองเพื่อนสาว เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่แสดงถึงความห่วงใยอย่างแท้จริง ทำให้เธอตื้นตันใจ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมด ยุ้ยนั่งฟังอย่างเงียบๆจนจบ จึงเริ่มพูด
“หวานเลิกคบกับอาจารย์ธวัชชัยเถอะ”
“อะไรนะ”
“ยุ้ยพูดจริงๆนะ”
“ทำไม”
“อาจารย์ธวัชชัยเป็นคนเจ้าชู้ หวานเป็นคนซื่อตามเค้าไม่ทันหรอก หวานไม่เหมาะกับเค้า”
“แต่...แต่นี่เพิ่งครั้งแรกเองนะ เค้าอาจจะพลาดไป”
“ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก” ยุ้ยตอบ “เขาจีบไปทั่วแหละ แต่เค้าไม่จีบต่อหน้าหวานเท่านั้นเอง นักศึกษาที่หน้าตาดีน่ะโดนเขาจีบกันทั้งนั้น บางคนก็ยอมนอนกับเขา... หลายคนด้วย”
“ยุ้ยรู้ได้ยังไง”
ยุ้ยถอนหายใจ “เพราะเค้าก็เคยจีบยุ้ยด้วยน่ะซิ แต่ยุ้ยไม่เล่นด้วย เค้าเลยหันไปจีบยัยแนนแทน แม่นั่นน่ะอยากได้เค้าจนตัวสั่น ยุ้ยไม่แปลกใจหรอกที่รู้ว่ายัยแนนนอนกับเค้า”
“แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพี่ชัยจะนอนกับคนอื่นด้วย”
“อย่าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเลย ลองจีบไปทั่วแบบนี้คนไหนยอมมันก็เอาทั้งนั้นแหละ” ยุ้ยดุ แต่พอเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดของเพื่อน เธอก็สงสาร รีบปลอบโยนอย่างนุ่มนวล
“หวานตัดใจเถอะนะ เค้าไม่เหมาะกับหวานจริงๆ คบกันต่อไปมีเต่จะเสียใจ”
“หวานทำไม่ได้หรอกยุ้ย หวานรักเค้ามากจริงๆ หวานต้องตายแน่ๆถ้าต้องเลิกกับเค้า”
“ถ้ายังงั้นยุ้ยจะบอกอะไรให้ ยัยแนนยังไม่เท่าไหร่หรอก ต้องพี่แพมซิน่ากลัว รู้มั๊ยว่าอาจารย์กำลังจีบเค้าอยู่”
“พี่แพมคนไหน หวานไม่เห็นรู้จักเลย” เด็กสาวเอ่ยอย่างงุนงง
“ตายจริง ไม่รู้จักได้ไง เค้าออกจะดัง พี่แพมก็รุ่นพี่ปี4 ไงจะจบอยู่แล้ว สวยสุดๆเลยรู้มั๊ย”
“แล้วหวานไม่สวยหรือ” กมลวรรณถามเสียงเครือ
“เปล่าๆ หวานน่ะสวยอยู่แล้ว แต่สวยน่ารักใสๆแบบเด็กๆน่ะ” ยุ้ยรีบปลอบเมื่อเห็นเพื่อนทำท่าจะร้องไห้ “แต่พี่แพมน่ะสวยแบบเซ็กซี่น่ะ อยากรู้จะพาไปดู”
“ไม่..ไม่ดีกว่า”
“เถอะน่า จะได้รู้จักคู่แข่งไง”

. . . . . . . . . . . . . . .

“เห็นมั๊ย พี่แพมน่ะ สวยอย่างที่ยุ้ยบอกเลยใช่มั๊ย”
กมลวรรณตาแดงก่ำ รู้สึกเสียใจอยากจะร้องไห้เมื่อเห็นธวัชชัยกำลังยืนคุยอยู่กับนักศึกษาสาว รุ่นพี่ เธอเป็นคนสวยมากจริงๆ ทั้งดวงตา จมูก ปากพอเหมาะพอเจาะ ผิวพรรณดี จริงอย่างที่ยุ้ยพูดทุกอย่าง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ธวัชชัยจะนอกใจเธอจริงๆ
“มาเถอะ ไปทักทายคู่แข่งกันหน่อย” ยุ้ยพูด
“อย่าเลย..กลับดีกว่า” กมลวรรณร้องห้าม แต่ยุ้ยก็ฉุดเพื่อนไปจนได้
ธวัชชัยกำลังยืนคุยอยู่กับแพมอย่างเพลิดเพลิน เขายืนหันหลังให้กับสองสาว จึงไม่รู้ตัวว่ารถไฟกำลังจนชนกันอย่างจังแล้ว
“สวัสดีค่ะอาจารย์” ยุ้ยตะโกนทัก
ธวัชชัยหันกลับมา แล้วก็สะดุ้งเมื่อเห็น กมลวรรณยืนตาแดงก่ำอยู่ตรงหน้า
“อ้าว หวานมาได้ยังไง”
“ก็อาจารย์นัดพวกเราไปกินข้าวไม่ใช่หรือคะ” ยุ้ยแกล้งพูด
“เอ๊ะ” แพมที่จับตามองอยู่อุทานอย่างแปลกใจ “ใครกันคะอาจารย์ ไหนอาจารย์บอกจะไปดูหนังกับแพม ทำไมไปนัดคนอื่นอีก” หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่พอใจ ตาคมวาวสำรวจสองสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เอ้อ..สงสัยคงจะเข้าใจผิดกันน่ะ” ธวัชชัยเหงื่อแตกโซมหน้าสมองวิ่งเร็วจี๋เพื่อหาทางเอาตัวรอด “หวาน ยุ้ยเดี๋ยวเราไปคุยกันทางโน๊นดีมั๊ย” เขาหันกลับไปหาสองสาว
“คุยตรงนี้ก็ได้ค่ะ” ยุ้ยบอก แต่หวานนั้นรีบขัดเพราะทนดูท่าทางกระอักกระอ่วนของเขาไม่ได้
“ยุ้ยเค้าล้อเล่นน่ะค่ะพี่ ไปกันเถอะยุ้ย” พูดพลางฉุดแขนของเพื่อนเบาๆ ยุ้ยทำท่าจะไม่ยอม แต่หวานไม่สนใจหันหลังเดินไปก่อน ทำให้ยุ้ยต้องรีบเดินตามไป

“ใครกันคะอาจารย์ ท่าทางแปลกจัง” แพมถาม
“อ๋อ เพื่อนน้องสาวน่ะครับ” ธวัชชัยตอบอย่างโล่งใจที่รอดจากสถานาการณ์อึดอัดเมื่อครู่มาได้ “รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไปดูหนังกันเถอะ เสียเวลามากแล้ว” เขารีบเปลี่ยนเรื่อง แพมนั้นถึงจะสงสัยในตัวสองสาว แต่เมื่อเขาไม่พูดเธอก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อ ยิ้มหวานให้ขณะที่เขาจูงมือเธอไป


. . . . . . . . . . . . . . .
กมลวรรณนอนร้องไห้เกือบทั้งคืน สิ่งที่เธอได้พบเห็นนั้นทำร้ายจิตใจเธออย่างรุนแรง โกรธธวัชชัย โกรธตัวเอง แล้วก็โกรธยุ้ยด้วยที่พาเธอไปเจอเรื่องแบบนี้... แล้วกมลวรรณก็เริ่มใช้ความคิด อาจจะเป็นเพราะความหวงตัวของเธอทำให้เขาเบื่อหน่ายเลยหันไปคบกับสาวอื่น เขาเป็นผู้ชายเลยคิดไม่เหมือนเธอ เมื่อเธอไม่ยอมเขาเลยต้องหาที่ระบาย... แต่ธวัชชัยเป็นของเธอ เธอยอมเสียทุกอย่างเพื่อให้เขาเป็นของเธอคนเดียว ดังนั้น กมลวรรณจึงก็ตัดสินใจที่จะทำบางอย่าง เธอจะให้สิ่งที่เขาต้องการ... เธอเชื่อว่าถ้าเธอให้ เขาจะต้องกลับมา..กลับมาเป็นของเธอคนเดียว...

. . . . . . . . . . . . . . .

ธวัชชัยเต็มไปด้วยความแปลกใจและตื่นเต้น เมื่อกมลวรรณนัดให้เขามาพบเธอ ธวัชชัยกำลังกลุ้มใจเพราะกลัวว่าเด็กสาวจะโกรธและเลิกรากับเขา ถึงธวัชชัยจะมีผู้หญิงอื่น แต่คนที่เขารักที่สุดก็คือกมลวรรณ เธอไม่เหมือนผู้หญิงอื่น กมลวรรณเป็นเด็กน่ารัก สดใส และเรียบร้อย... ผู้หญิงสวยๆเซ็กซี่นั้นมีเกลื่อน แต่ส่วนใหญ่มักจะยอมเขาง่ายๆ แต่กมลวรรณไม่เคยยอม เธอบริสุทธิ์เหมือนเทพธิดา แต่แล้วเมื่อเธอบอกจุดประสงค์การมาทำให้เขาดีใจสุดขีด เพราะเขานึกว่าเธอจะโกรธที่เห็นเขานอกใจกลับกลายเป็นว่าเธอยินดีมอบสิ่งที่ เธอหวงแหนที่สุดให้แทน

ธวัชชัยคว้ามือเธอ ครึ่งลากครึ่งจูงพาเธอตรงไปยังอพาทเมนท์ของเขาทันที เธอไม่เคยสูบบุหรี่ แต่เขาก็สอนให้เธอสูบ กมลวรรณดูตื่นเต้นมาก สีหน้าแดงระเรื่อเต็มไปด้วยความเอียงอาย ตัวของเธอสั่นเหมือนกระต่ายตัวเล็กๆที่หนาวเหน็บอยู่กลางสายฝน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้เขาอย่างยิ่ง

เขาถอดชุดนักศึกษาของเธอออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ ปากก็เอ่ยชมความงามของเธอไม่หยุด เขาอุ้มร่างบอบบางของเธอไปนอนบนเตียง แล้วก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง เธอนอนหลับตาอยู่บนเตียง หายใจหนักๆ หายใจแทบไม่ทันเพราะความตื่นเต้น ในที่สุดเธอก็ลืมตามองเพราะความอยากรู้อยากเห็น กมลวรรณเคยเห็นเขาในแบบเกือบจะเปลือยมาหลายครั้งแล้ว แต่มันเป็นกางเกงอาบน้ำที่เขาสวมเวลาไปว่ายน้ำ ต่างจากตอนนี้... เขาสวมเสื้อผ้าครบชุด และเริ่มถอดมันออกทีละชิ้น เสื้อของเขาก่อน จากนั้นซิบกางเกงก็ถูกรูดลงมา เขาเดินตรงมาหาเธอ

กมลวรรณหายใจระรวย มองคนที่เธอรักในสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัว ใจเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้น และออกจะกลัวอยู่มาก เธอเคยเห็นสิ่งนี้มาแล้ว แต่มันอยู่ในหนังสือหรือจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ได้ทำให้เธอตื่นกลัวขนาดนี้ แต่เจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นมันต่างไปมาก มันมีชีวิตชีวา และดูเหมือนมันจะจ้องมองเธอด้วย คงเพราะเธอบ่ายเบี่ยงมาตลอด เลยทำให้มันโกรธจนพองตัวเหมือนอาวุธร้าย กมลวรรณกลัวจนใจสั่นหวิว...

..........

หลง #2
..........

มือของเขารั้งศีรษะเธอขึ้นมา แล้วก็จูบที่ริมฝีปาก มืออีกข้างโอบไหล่นวลเนียนนั้นไว้ .. แม้จะมีอาการตื่นกลัว แต่กมลวรรณก็ตอบสนองจูบที่นุ่มนวลของเขา เธอลูบไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ ก่อนที่เขาจะผละออก แล้วก้มต่ำลงไป ทรวงอกขาวผ่องลอยอยู่ตรงหน้า วงกลมเล็กๆที่อยู่เหนือทรวงขาวผ่องนั้นเป็นสีชมพูระเรื่องามเปล่งปลั่งอย่าง ถึงที่สุด

“พี่รักหวานเหลือเกิน รักมากจริงๆ” เขาพึมพำ แล้วซุกไซร้ลงไป ลิ้นของเขาโลมไล้ไปมาอยู่บนยอดทรวงนั้น
“โอ..อย่า...อย่าค่ะ” แม้จะเตรียมใจมาแล้ว แต่เธอก็ร้องห้ามตามสัญชาติญาณ แขนของเธอผลักดันอยู่เบาๆที่อกเขา “พี่ชัย อย่า...ได้โปรด...”

ริมฝีปากของเขาบดบังทรวงอกนั้นไว้จนหมดสิ้น มืออีกข้างลูบไล้ไปมาตามเนื้อตัว สัมผัสความนุ่มนวลละเอียดอ่อนอย่างหลงใหล... ลมหายใจของเธอหอบถี่ เมื่อมือของเขาลูบไล้ต่ำลงไปจนถึงปุยขนดกดำที่ท้องน้อย.. และแล้วเธอก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง สะบัดตัวหลุดจากเขา นั่งจับแขนเขาไว้มั่น พยายามผลักไสเขา

“อย่าค่ะ พี่ชัย... อย่า...ได้โปรดเถอะ หวานไม่เคยทำอย่างนี้..หวานทำไม่ได้” เธอร้องเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลออยู่ที่เบ้า แล้วก็เริ่มไหลลงมาที่แก้มนวลใส

แขนของเขายังกอดกุมเธออยู่ ตามองลึกไปในดวงตาของเธอด้วยความสงสัย เหมือนจะค้นหาความรู้สึกที่แท้จริงจากภายใน

“ขอโทษค่ะ...” เธอก้มหน้ากระซิบ “หวานทำไม่ได้ หวานรักพี่จริงๆ แต่อย่าทำเลยค่ะ”
เขาปล่อยแขนออกจากเธอช้าๆ
“หวาน...”
“หวานรักพี่ชัยที่สุด...” เธอพูดอย่างเสียใจ น้ำตาไหลพรากไม่หยุด “แต่..มัน...”
“ไม่เป็นไรครับ” เขาบอก ผละจากร่างเธอ “แต่งตัวซิ พี่จะไปส่ง”
เธอลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เขาขยับลุกขึ้นตาม แต่เธอร้องห้าม
“ไม่ต้องส่งหรอกค่ะพี่ หวานกลับเองได้ ...อย่าโกรธหวานเลยนะ”
“ไม่หรอก.. พี่เข้าใจ พี่จะรอจนหวานพร้อม”
“ขอบคุณค่ะ พี่ชัย”

หลังจากเธอกลับออกไปแล้ว ธวัชชัยก็ทรุดตัวนั่งลงบนเตียง ถอนหายใจอย่างเสียดาย
“โง่จริงๆ เลยว่ะเรา” เขาพึมพำ
จริงๆ ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นเขาจะบังคับเธอก็ได้ แต่ธวัชชัยรักและทะนุถนอมกมลวรรณเกินกว่าที่จะทำให้เธอต้องชอกช้ำ เขาต้องการที่จะร่วมรักขณะที่เธอยินยอมมากกว่าการบังคับแข็งขืน ช่างมันเถอะ! ปล่อยไปก่อนซักคน ถึงยังไง เขาก็ยังมีผู้หญิงสวยๆอีกหลายคนให้ระบาย ความใคร่...

..........

ฝนตกหนัก ขณะที่สาวแพมก้าวลงจากรถ หลังจากกดรีโมทล็อคประตูเสร็จ ก็หันขวับ ขาที่เรียวสวยก้าวไปตามทางเดิน พื้นนั้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำและหลายแห่งเป็นดินโคลน ทำให้เธอต้องบ่นพึมพำขณะที่ก้าวเท้าด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวรองเท้าสวยๆ ของเธอจะต้องแปดเปื้อน

“เดี๋ยวค่ะพี่แพม”
หญิงสาวคนหนึ่งร้องตะโกนเรียก แพมหันไปมองก็เห็นนักศึกษาสาวรุ่นน้อง ถือร่มวิ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้า
“มีอะไรหรือแนน”
“เรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ”
“เรื่องอะไร ไปคุยข้างในตึกดีกว่ามั๊ง” เธอตอบแล้วหันหลังกลับทำท่าจะเดินต่อ แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด เพราะแนนรีบเดินไปขวางทางไว้
“ไม่ค่ะ คุยกันตรงนี้ ต้องคุยให้รู้เรื่อง”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“พี่แพมจะแย่งผัวแนนเหรอ”
“อะไรนะ” แพมร้องอย่างตกใจ “แนนพูดอะไร”
“อาจารย์ธวัชชัยไง แนนขอเตือนว่าอย่ายุ่งกับเขา ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“แนน..เมื่อครู่แนนบอกว่าอาจารย์เป็น...”
“ใช่ อาจารย์ธวัชชัยเป็นผัวแนน แล้วแนนจะไม่ยอมแบ่งกับใครทั้งนั้น ถ้าพี่แพมเข้ามายุ่ง แนนเอาตายแน่”
แพมหน้าร้อนฉ่าด้วยความโกรธ หญิงสาวไม่รู้มาก่อนเลยว่าธวัชชัยจะนอกใจเธอ แต่เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับความหยาบคายของแนนจึงพยายามจะเดินเลี่ยงเธอ ไป
“เดี๋ยวซี่” แนนคว้ามือเธอไว้ “บอกมาซิว่าจะเลิกยุ่งกับอาจารย์”
“ปล่อยนะ” แพมร้องตะโกนแล้วสะบัดมือจนหลุด “จะยุ่งหรือไม่ยุ่งมันก็เป็นสิทธิของพี่ ถ้าเธอคิดว่าอาจารย์รักเธอจริงเธอก็ไปสั่งเค้าซิ” แพมพูดอย่างอารมณ์เสีย แล้วหันหลังเดินโดยไม่สนใจสาวแนนอีก

และแล้ววินาทีนั้น แพมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างลอยเข้ามากระทบหลังเข้าแต็มแรง

“พลั่ก!”

โคลน! ฝนตกหนักจนพื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ และด้วยความโกรธอย่างสุดขีดของแนน ทำให้เธอก้มลงปั้นโคลนจนเป็นก้อนขนาดพอมือ แล้วขว้างออกไปอย่างไม่ยั้งคิด แล้วมันก็โดนเป้าหมายจริงๆเสียด้วย

ผู้หญิงสวย หยิ่ง และรักความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ อย่างแพม พอโดนเอาโคลนขว้างใส่มันน่าอับอายขนาดไหน ทำให้แพมโกรธแค้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แถมยังเห็นแนนก้มลงปั้นอีกก้อนเตรียมจะขว้างใส่ ต่อให้ใจเย็นแค่ไหนก็เกินกว่าจะกลั้น.. แพมทิ้งร่มอย่างไม่ใยดี แล้วเดินกลับมาอย่างจะเอาเรื่อง แต่ก่อนที่จะทำอะไรต่อไป โคลนก้อนที่สองก็ปลิวมาโดนหน้าดังพลั่ก

ไม่ทันป้ายแขนเช็ด ร่างของสาวแนนก็โถมเข้าใส่อย่างไม่ยอมให้ตั้งตัว พอมาถึงแนนก็เหวี่ยงสองมือตะกุยจนโบว์สีขาวที่ผูกรวบเรือนผมไว้ถูกดึงหลุดจน ผมกระจายยุ่งเหยิง ในขณะที่สาวแพมไม่ยอมเสียเปรียบ มืออีกข้างของเธอตอบโต้ด้วยการฉีกกระชากเสื้อนักศึกษาของแนนจนขาดแคว่ก เผยให้เห็นสองเต้าขาวผ่องที่ถูกบราเซียร์สีชมพูห่อหุ้มไว้ก็หลุดทะลักออกมา ปรากฏแก่สายตาของนักศึกษาทั่วไป ที่เริ่มมองดูด้วยความสนใจ ...

ด้วยความอับอาย ทำให้แนนโถมเข้าปล้ำจนล้มลงไปคลุกโคลนกันทั้งคู่ แนนหลับหูหลับตายื่นมือออกมาตะกายบ้าง จังหวะหนึ่งที่สามามารถจับขอบกระโปรงสาวเซ็กซี่ได้ แนนออกแรงกระชากเต็มเหนี่ยวทันที

มีเสียงดังคว้าก จากนั้นกระโปรงซึ่งเลอะไปด้วยโคลนก็หลุดจากร่างผู้เป็นเจ้าของมาอยู่ในมือ ของแนน ตามด้วยเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจระคนอับอายจากแพม เมื่อเห็นท่อนล่างของตัวเองมีเพียงชั้นในตัวกระจิริดปิดป้องของรักของสงวน อยู่เพียงชิ้นเดียว อยู่ในห้องหับส่วนตัวก็ไม่เป็นไร แต่นี่อยู่กลางถนนในมหาวิทยาลัย มีสายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องเขม็ง แล้วสาวเลิศ เชิด หยิ่งอย่างแพมด้วยจะไม่ให้โกรธ ไม่ให้อับอายขายหน้าได้อย่างไร

คิดได้ดังนั้น ก็โถมเข้าหาสาวน้อยตัวแสบ ปล้ำกระชากจนร่างของสาวแนนเหลือแต่ชั้นในชิ้นล่างเพียงตัวเดียว เป้าหมายต่อไปของเธอก็คืออาภรณ์ชิ้นสุดท้ายนั่นแหละ แถมยังเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำเสียด้วย สองมือของแพมคว้าหมับเข้าที่ขอบยืดของมัน กระชากเต็มหนี่ยวด้วยความว่องไว... ดังนั้นก่อนที่แนนจะทันปัดป้อง มันก็เลยหลุดติดมือแพมออกมาแล้ว

สองสาวไม่มีฝ่ายไหนหวีดร้องอีกต่อไป เพราะมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาจะห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนบรรดาหนุ่มสาวนักศึกษาที่หลบฝนอยู่ที่ตึก พากันโห่ร้องด้วยความชอบใจอึงคะนึงทีเดียว...


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #1 on: January 07, 2010, 10:26:59 am
หลง #3
..........

สภาพของแพมสาวสวยตอนนี้ ทรวงอกคู่งามกำลังโยนกระเพื่อมเพราะเจ้าตัวหอบหายใจขรม ที่สำคัญคือเจ้าสัดส่วนที่เคยขาวผุดผาดสะอาดตา กลับถูกดินโคลนเคลือบจนทุเรศสิ้นดี โอ...เกิดมายังไม่เคยมีใครหน้าไหนทำให้เธอต้องอับอายขายหน้าเท่านี้มาก่อน เลย

แนนฉวยโอกาสที่แพมมัวแต่ตะลึงลานเพราะเสียงโห่ฮาจากเพื่อนๆนักศึกษา เหวี่ยงเท้าผ่าหมากเข้าให้จนแพมถึงกับตัวลอยตามหน้าแข้ง ก่อนจะหล่นลงไปเกลือกกลิ้งกับโคลนอีกหน เสร็จแล้วก็โถมลงไปกอดปล้ำกันนัวเนียจนดูไม่ออกแล้วว่าฝ่ายไหนเป็ฯฝ่ายไหน

ทั้งหัวจรดเท้าของหญิงสาวทั้งสองมีแต่โคลนพอกเต็มไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าผลสุดท้ายใครดิ้นหลุดออกมาจากการกอดปล้ำได้ ทั้งสองฝ่ายจึงกลิ้งหนีไปคนละทาง แล้วรีบลุกพรวดพราดขึ้น ก่อนจะโผเข้าหากันใหม่

จังหวะนั้นแนนอาศัยว่ามีประสบการณ์โชกโชนมากกว่าสาวแพมที่ถูกทะนุถนอมเป็น คุณหนูมาตลอด แทนที่แนนจะโผเข้าปะทะซึ่งๆหน้า ก็กลับแกล้งทำเป็นโผเข้าใส่ แล้วพอจะประชิดติดตัวก็รีบเบี่ยงร่างหลบวูบ แล้วยื่นมือข้างหนึ่งไปตะปบทรวงอกคู่งามของสาวสวยที่เหวี่ยงสะท้อนไปมา แล้วก็ออกแรงบิดเต็มที่

แพมร้องเสียงหลง จุดเล็กๆตรงนั้นไม่เคยถูกมือใครสัมผัสมาก่อน พอโดนบิดโดนดึงแรงอย่างนั้นจะไปมีอะไรเหลือนอกจากความเจ็บปวด เธอพยายามกระเสือกกระสนสะบัดตัวหนี สะบัดจุดเล็กๆนั้นให้เป็นอิสระ แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหนมันก็ไม่หลุดซักที หญิงสาวเจ็บจนน้ำตาไหลพราก แต่จะยอมแพ้กลางคันมันก็เสียเชิงหญิง ดังนั้นสาวสวยจึงลดมือลงไปตะครุบหมับที่ดินแดนแสนสงวนของสาวแนนบ้าง

ไม่ตะครุบเปล่า เสี้ยววินาทีเดียวหลังจากตะครุบได้มั่นเหมาะ แพมก็ออกแรงกระชากเหมือนกำลังกระชากหนังหัวใครซักคน และที่สำคัญมันทำท่าจะหลุดติดมือออกมาด้วย!

แนนกรีดร้องโหยหวน แม้สายฝนจะตกออกมาอย่างหนักหน่วง แต่เสียงร้องของเธอดังก้องไปทั่วทำให้คนมามุงดูกันเพิ่มอีก บางคนถึงกับยอมตากฝนเพื่อดูอย่างใกล้ชิด

ถึงจะโดนกระชากอยู่อย่างนั้น แต่แนนก็ไม่ยอมคลายมือจากยอดปทุมถันกระจี๊ดริดบนหน้าอกของแพม มืออีกข้างเริ่มตอบโต้ด้วยการเอื้อมลงไปกระชากกางเกงชั้นใน อาภรณ์ตัวสุดท้ายของแพมจนหลุดคามือออกมา

บรรดานักศึกษาทั้งหลายโห่ร้องเอ็ดอึงยิ่งกว่าคราวแรกเสียอีก เพราะสาวแพมถึงจะแต่งตัวเซ็กซี่แต่ก็รักนวลสงวนตัว ไม่เคยมีใครได้เห็นแม้กระทั่งขาอ่อนมาก่อน ดังนั้นคราวนี้จึงนับเป็นบุญตายิ่งนัก

แพมเผลอด่าออกมาด้วยความโกรธ ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะเสียหลักล้มลงไปเกลือกกลิ้งอยู่ในกองโคลนอีกครั้ง ยังไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมลดละ ต่างก็ใช้อาวุธทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เตะ ตบ กัด ข่วน ต่อสู้กันอย่างถวายหัวทีเดียว

จวบจนมีร่างของใครคนหนึ่งย่างสามขุมเข้ามา

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เสียงใสๆ ดังอย่างเฉียบขาดอย่างน่าเกรงขาม แล้วเจ้าของเสียงก็ปรากฏตัวเข้ามา แน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะกล้าเข้ามาห้ามปราม นอกจาก ธัญรดา อาจารย์สาวสวยอีกคนของมหาวิทยาลัย

อาจารย์สาวต้องแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกันโดยช่วยแกะมือเล็กๆของแนน ออกจากหน้าอกของแพม เสร็จแล้วก็ต้องแกะมือของแพมออกจากดินแดนความสาวของแนนบ้าง กว่าจะทำได้ก็เล่นเอาต้องวุ่นวายมาก แต่ผลสุดท้ายก็ลากคอสองสาวขึ้นมายืนได้สำเร็จ

แต่ถึงแม้จะมีร่างของอาจารย์สาวยืนขวางกั้นอยู่ตรงกลาง แต่ทั้งแพมและแนนก็ยังจ้องหน้ากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตั้งท่าจะกระโจนเล่นงานกันใหม่ เพราะยังไม่หายแค้น ช่วงนี้บรรดากองเชียร์ทั้งสองข้างต่างก็ส่งเสียงโห่ฮาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะกำลังดุเดือดเผ็ดมันอยู่แท้ๆ อาจารย์หน้าสวยดันเข้ามาขัดจังหวะเสียฉิบ

เสียงเชียร์ของบรรดาเพื่อนๆ เหมือนเสียงยุให้คู่ต่อสู้ได้ใจยิ่งขึ้น ดังนั้นแม้ ธัญรดา จะพยายามปรามเสียงแข็ง
“อย่านะ ไม่งั้นจะโดนลงโทษสถานหนัก ทั้งคู่น่ะแหละ”
ห้ามไม่ห้ามเปล่า แถมยังเอามือยันอกอวบๆเปรอะโคลนทึ้งสองฝ่าย สถานการณ์ก็เขม็งเกรียวทวีขึ้นถึงขีดสุด

สองสาวปัดมือของอาจารย์สาวออกแล้วก็โถมเข้าหากันอีกครั้ง คราวนี้ในเมื่อมีบุคคลที่สามขวางอยู่ตรงกลาง ก็เลยลากเอาอาจารย์สาวเสียหลักลงไปเกลือกโคลนอีกคน

สภาพการณ์ตอนนี้ก็เลยดูนัวเนียมากขึ้นไปอีก เสียงเฮฮาร้องเชียร์ของนักศึกษาดังขรมขึ้นอีก เพราะขาหกข้างของสามสาวก่ายกระหวัดจนแยกไม่ออก มือทั้งหกก็เหมือนกัน นิ้วแทบทุกนิ้วซุกเข้าไปในทุกซอกมุมเท่าที่จะค้นพบ ต่างกันตรงที่แนนกับแพทกำลังตบตีกัน แต่บางครั้งก็มีลูกหลงไปฝากอาจารย์สาว ข่างฝ่าย ธัญรดา ตอนแรกก็ตั้งใจจะห้ามปรามตามประสาอาจารย์ที่ดี แต่พอมาโดนลูกหลงจากฟากนี้ทีฟากโน้นที ผลสุกท้ายก็ชักโกรธ ฟาดมือกวาดซ้ายป่ายขวาผสมโรงไปอีกคน...

หลง #4
..........
ในขณะที่สามสาวกำลังโรมรันพันตูกันอย่างติดหนึบนั้น ไม่มีใครสังเกตว่า ชายหนุ่มกับชายวังกลางคนสองคนที่ยืนดูอยู่ระยะไกลนั้นกำลังให้ความสนใจกับ ศึกครั้งนี้เป็นพิเศษ หนึ่งในนั้นก็คือ ชาตรี อาจารย์สุดเฮี๊ยบที่บรรดานักศึกษาต่างยำเกรงเป็นพิเศษ ส่วนอึกหนึ่งคือ นายอาด หัวหน้าภารโรงคนสนิทของเขานั่นเอง

“เอาล่ะ ไปเอาตัวนังนั่นมาได้แล้ว” เขาออกคำสั่ง

ผู้ที่ได้รับคำสั่งก็คือนายอาด และก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายเสียด้วย

นายอาด ภารโรงแกล้งทำเป็นวางมาดขรึม ทำเป็นเดินเข้าไปห้ามปรามแพมกับแนน ซึ่งถึงแม้ตอนนี้ไม่มีใครห้าม ทั้งคู่ก็แทบจะยกแขนขาไม่ขึ้นอยู่แล้ว จากนั้นเขาก็ช่วยพยุงอาจารย์ธัญรดา กลับมายังห้องคณบดี ตามสายตานักศึกษาทั่วไปต่างพากันเข้าใจว่า นายอาดมาช่วยลากอาจารย์สาวเพื่อพาไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าให้สะอาด

แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า หลังจากผลุบหายเข้าไปในประตูห้องคณบดี นายอาดจะจัดการมัดอาจารย์สาวอย่างแน่นหนาแล้ว ทั้งอาจารย์กับภารโรงตัวแสบต่างก็พากันจ้องมองไปที่เรือนร่างงดงามที่ถูก พันธนาการนั้น

อาจารย์ชาตรี กวาดสายตาสำรวจตั้งแต่ใบหน้าไล่ลงมาตามเรือนร่างของอาจารย์สาว ถึงแม้เธอจะยังสวมเสื้อผ้าเต็มยศ แต่ไม่ว่าผู้ชายคนไหน ลองมาพบเห็นธัญรดาในสภาวะที่ถูกพันธนาการอยู่เช่นนี้ รับรองต้องยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์น่าลิ้มลองจริงๆ เรียกว่าถ้าจะไปเป็นดาราก็ต้องดังเปรี้ยงปร้างเป็นลูกแมวยั่วสวาทของวงการ ได้เลย หน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้ไม่น่ามาเป็นอาจารย์เลยจริงๆ

อาจารย์สาวนั้นถูกมัดแขนขา แถมยังมีผ้าปิดปากทำให้ได้แต่ส่งเสียงร้องอู้อี้ ดวงตาแดงก่ำนั้นเบิกกว้างอย่างตกใจในสภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร่างถูกมัดให้นอนเหยียดและเชือกขึงตึงจนเจ้าตัวต้องแอ่นหลังขึ้น ทำให้ส่วนอะร้าอร่ามทั้งหลายพุ่งผงาดอย่างท้าทาย ทำให้อาจารย์ชาตรีเต็มไปด้วยอารมณ์คึกคุก เนื้อตัวส่วนนั้นขยับยกระดับงอกเงยขึ้นมาจนเป้ากางเกงโป่งพอง

“เซ็กส์ชิบเป๋งเลยครับอาจารย์” นายอาดพูดเสียงสั่นๆ
“ใช่ ..ทั้งเซ็กส์ทั้งสวย... สวยมาก” ชาตรีรับคำ “ฉันแอบมองมานานแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้”
“ยังไงต้องแบ่งผมบ้างนะครับ”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วโว๊ย ไม่ต้องห่วง คืนนี้เราไม่ต้องกลับบ้านกันแล้วนายอาด เอาอีนี่แม่งทั้งคืนนั่นแหละ”
“ถ้างั้นจะรออยู่ทำไมล่ะครับ อาจารย์ เอาเลย ผมอยากจนจะลงแดงตายอยู่แล้ว”

อาจารย์ชาตรีหัวเราะอย่างหื่นๆ เนื้อตัวคันยิบๆ รู้สึกส่วนสำคัญคึกคะนองขึ้นมาจนสุดขีด เดินเข้าไปยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าร่างของอาจารย์ธัญรดา

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา อาจารย์หนุ่มปลดตะขอกางเกง รูดซิบออก ก่อนจะทิ้งตัวลงคลุกคลานเข้าไปหา เขากระหยิ่มยิ้มย่องขณะลงมือปลดตะขอกระโปรงของอาจารย์สาว แล้วดึงขอบกระโปรงที่คับติ้วลงจากตะโพกผายของเธอลงมาแต่ดึงมาได้คืบเดียวก็ ติดกับสะโพก แถมอาจารย์สาวยังดิ้นไปมาเตะถีบเป็นพัลวัน เดือดร้อนนายอาดต้องเข้ามาช่วย ชกเปรี้ยงเดียวไปที่ท้องอย่างไม่ปราณี เล่นเอาอาจารย์สาวจุกจนน้ำตาไหลพราก ไม่กล้าดิ้นอีก

“อยู่เฉยๆ จะได้ไม่เจ็บตัว” นายอาดขู่

อาจารย์ชาตรีจับร่างของอาจารย์สาวพลิกคว่ำหน้า จัดการดึงขอบเอวด้านหลังลงไปอีก คราวนี้ค่อยสะดวกในการถอด เพราะไม่กี่อึดใจบั้นท้ายอวบใหญ่ก็ปรากฏแก่สายตา แต่มันยังไม่เห็นเนื้อแท้ๆ เพราะอาจารย์สาวยังสวมเป๊ตติโค๊ตไว้อีกชั้นหนึ่ง ทำให้อาจารย์ชาตรีต้องจัดการดึงมันออกและตามด้วยกางเกงชั้นใน เท่านั้นเอง ความอวบขาวเปล่าเปลือยก็ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เพระไม่มีอะไรจะปิดกั้นไว้อีกแล้ว

“อูยยยยย....สวยเนียนเหลือเกิน” นายอาดอุทาน
“สินค้าคุณภาพ ม.อ.ก.จริงๆเลยโว๊ยยยย..... ขาวอะไรจะขนาดนี้” อาจารย์ชาตรีอุทานขึ้นอย่างดีใจ แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย บั้นท้ายของอาจารย์ธัญรดามันช่างน่าลูบคลำ ขยำขยี้เสียเหลือเกิน เขาคิดอยู่ในใจแต่ไม่ได้รีบร้อนจะทำอะไร ไหนๆอาจารย์ธัญรดาก็เป็นของตายถูกมัดมือนอนแผ่หราอยู่ตรงนี้ ก็ขอเชยชมให้หนำใจซะก่อนเถอะ เคยเห็นแต่หญิงสาวในชุดเต็มยศ ซึ่งก็สร้างความเสียงกระสันต์จนเหลือจะบรรยายได้ทุกครั้ง เพราะหุ่นอาจารย์สาวมันบ๊ะจิงจา ยั่วยวนเสียเหลือเกิน ยามเดินยามเหินมันกระเพื่อมจนเขาไม่เคยละสายตาไปจากสัดส่วนนั้นได้เลย

อาจารย์ธัญรดาเต็มไปด้วยเสน่ห์ของสาวที่เซ็กซี่แบบสุดๆจริงๆ เขาได้แต่คิดและจินตนาการเรือนร่างของเธอมาช่วยตัวเองหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดแม้แต่น้อย เพราะเธอไม่เคยเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหนจีบเลย ฟงแฟนก็ไม่เห็นจะมี ไม่รู้จะหวงตัวไปถึงไหน จนกระทั่งวันนี้นี่แหละที่นายอาดวิ่งมาบอกเขาเรื่องเด็กนักเรียนตบกัน พอเห็นอาจารย์สาวอยู่ด้วย ทำให้เขาเกิดไอเดียขึ้นมาทันที ภาพที่เห็นมันกระตุ้นอารมณ์จนเขาตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน วันนี้ต้องเอาลูกแมวยั่วสวาทตัวนี้ให้ได้

อาจารย์ชาตรีจับร่างเธอพลิกหงายอีกครั้ง ตะลึงลานจ้องมองความสาวความงามที่สว่างโพลนอยู่ตรงหน้า โอ มันช่างงดงามราวกับแพรไหม แถมปิดสนิทขาวปนชมพู สวยอะไรอย่างนี้

อาจารย์ธัญรดาหลับตาหน้าแดงซ่านด้วยความอับอาย น้ำตาไหลพรากลงมาไม่หยุด แต่ในสภาพถูกมัดมือ มัดปาก และยังโดนคุมเชิงโดยผู้ชายสองคนอย่างใกล้ชิดนี้ มันสุดวิสัยที่เธอจะช่วยเหลือตัวเองได้ จึงได้แต่ร่ำไห้สะอื้นอยู่ในลำคออย่างคับแค้นใจ

ในขณะนั้น อาจารย์ชาตรีไม่ยอมดูอยู่เฉยๆ แต่ยังแสดงความสามารย์ออกมาโดยขยี้ขยำอย่างไม่ปราณีปราศรัย เล่นเอาอาจารย์สาวสะดุ้งเฮือกๆแทบตลอดเวลา

จนกระทั่งอารมณ์ตัวเองชักจะตื่นตัวได้ที่แล้ว อาจารย์หนุ่มก็จับร่างสาวสะพรั่งตรงหน้าให้กลับไปพลิกคว่ำตามเดิม แล้วพยายามดันเข่าทั้งสองของอาจารย์ธัญรดาให้ไปคุดคู้แนบอก บั้นท้ายขาวผ่องของอาจารย์สาวก็ถูกยกขึ้นมาอย่างโดดเด่น โดยที่เจ้าตัวไม่เต็มใจแม้แต่น้อย เพราะอาจารย์สาวเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ อับอาย และใจหายวูบวาบ ร้องไห้โฮ เพราะรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น...


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #2 on: January 07, 2010, 10:27:32 am
หลง #5
..........
อาจารย์ชาตรีสำรวจกลีบพลูที่ปลิ้นออกมาจนถึงด้านหลังอย่างยั่วยวนใจ ส่วนรูน้อยๆที่อยู่เหนือกลีบพลูนั้นก็ขาวสะอาดน่าหลงใหลยิ่งนัก เขาก้มหน้าซุกลงไป พลางโลมไล้ลิ้นที่ช่องน้อยๆนั้นอย่างไม่รังเกียจ

นายอาด ภารโรงเห็นเจ้านายทำอย่างนั้นก็เสียวจนทนไม่ไหว เขาทรุดตัวไปนั่งข้างๆร่างของอาจารย์สาวที่นั่งสี่ขาโก้งโค้งอยู่นั้น มือสากๆของเขาโอบกอดคว้าหมับเข้าที่ทรวงอกอวบอิ่มของเธอ แล้วบีบขยำอย่างมันส์มือ ใจเต็มไปด้วยความกระหยิ่มยินดียิ่งนัก เพราะฐานะของเขาไม่มีสิทธิที่จะได้ใกล้ชิดหญิงสาวที่มีศักดิ์ฐานะอย่างนี้ อาจารย์ธัญรดานั้นเปรียบเหมือนของสูงสำหรับเขา ได้แต่ชะเง้อดูอยู่ห่างๆ จะถูกเนื้อต้องตัวซักนิดก็ไม่มีโอกาส หากจะมีโอกาสได้พูดคุยบ้าง ก็เป็นแต่เพียง ครับๆ ทำตามคำสั่งของเธอเท่านั้น แต่วันนี้อาจารย์สาวไม่ผิดอะไรกับลูกไก่ในกำมือ จะบีบจะขยำ จะปล้ำ จะหอม ก็ทำได้ตามแต่ใจที่ต้องการ และเธอก็ได้แต่ ค่ะ ค่ะ ทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น โลกมันช่างกลับตาลปัตเสียจริงๆ

อาจารย์ธัญรดาได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ด้วยความอดสูใจ ไม่กล้าปิดป้องขัดขืน ปล่อยให้ทั้งอาจารย์หนุ่มกับภารโรงสนุกกับการลวนลามไปตามเนื้อตัวของเธอตาม ความพอใจ

อาจารย์ชาตรีจับร่างของธัญรดาพลิกขึ้น สายตาจ้องเพ่งไปที่หอยของอาจารย์สาว ลูบไล้ไปมาที่พงขนอ่อนนุ่มที่ขึ้นจนรกครึ้มไปหมด
“อื้อฮือ ขนดกจริงๆเลยครับอาจารย์ โกนออกซะหน่อยดีมั๊ย”
อาจารย์ธัญรดาหน้าแดงด้วยความอับอาย ตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ รีบสั่นศีรษะอย่างไม่คิดชีวิต อาจารย์หนุ่มหัวเราะอย่างหื่นกระหาย
“ตาลงใช่มั๊ย ถ้างั้นผมทำตาที่อาจารย์ต้องการละกัน อาดโว๊ยไปเอามีดโกน กับครีมโกนหนวดมา”
นายอาดหัวเราะกับไอเดียหัวหน้า รีบวิ่งออกไปแล้วกลับมาพร้อมอุปกรณ์ที่เขาต้องการ

อาจารย์ชาตรีละเลงครีมลงไปที่ปุยขน ลูบไล้ไปมาพร้อมกับสอดนิ้วแหย่เข้าไปในร่องหลืบของเธอไปด้วย ดวงตาก็จับจ้องมองไปที่ใบหน้าขาวใสของหญิงสาว ธัญรดาหลับตาพริ้มน้ำตาไหลนองหน้า แก้มนั้นแดงระเรื่ออย่างยั่วยวนใจยิ่งนัก เขาจับร่างของเธอโดยจัดให้ก้นกลมกลึงของเธอพาดอยู่บนตัก ดังนั้นหอยของอาจารย์สาวจึงลอยแอ่นอยู่ตรงหน้า

“อย่าขยับจิ๋มนะครับ เดี๋ยวโดนมีดบาดไม่รู้ด้วยนะ... อยู่นิ่งๆ”
อาจารย์สาว นอนตัวแข็งในทันที อาจารย์ชาตรีก้มหน้าลงมา แล้วค่อยๆโกนขนเธอออก นายอาดจับตามองด้วยความตื่นเต้น

“เอาละ เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์ คราวนี้จิ๋มอาจารย์สวยน่ารักเหมือนกับของเด็กๆแล้ว ชอบมั๊ย”
เขาพูดแล้วเทน้ำทำความสะอาดหอยของอาจารย์สาวจนสะอาด จากนั้นก็วางร่างเธอบนพื้น ขยับไปนั่งอยู่ที่หว่างขาของเธอ มือสองข้างของเขาจับอยู่ที่ต้นขาขาวเนียนของเธอ เขาดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ ซุกหน้าลงไปตรงนั้น เธอเกร็งไปทั้งตัวไม่สามารถขยับได้ ลิ้นของชาตรีเริ่มแหวกเข้าไปข้างใน ลิ้นของเขาสะบัดไปมา เข้าๆออกๆ ทุกส่วนของเธอในบริเวณนั้นอย่างชำนาญ

นายอาดก็ไม่รอช้า จัดการกับเสื้อผ้าท่อนบนของเธอปลดเปลื้องจนเปลือยเปล่า แล้วก้มหน้าลงดูดดื่มกับยอดทรวงเม็ดเล็กๆสีชมพู ปากนั้นดูดเม้มไม่ผิดอะไรกับทารกที่ดูดนมแม่เสียงดังจ๊วบๆ ไม่ช้า เม็ดเล็กๆนั้นก็ตั้งชูชันขึ้นมาสู้ลิ้นของเขา มืออีกข้างของเขาก็บีบเคล้นก้อนเนื้อหยุ่นๆนั้นอย่างได้ใจ ก้อนเนื้อที่ทรวงอกของเธอนั้นทั้งเต่งตึง และดีดเด้งสร้างความเพลิดเพลินและเร่งเร้าให้เขาขยำ ขยี้ หนักขึ้น..หนักขึ้น...

อาจารย์สาวโดนรุมปรนเปรอทั้งข้างล่างข้างบนจากสองผู้ชำนาญการ ก็ทำให้เธอต้องปั่นป่วนรัญจวนใจอย่างช่วยไม่ได้ ร่างของเธอบิดไหวไปมาอย่างรัญจวนใจ ปากก็ส่งเสียงครางออกมาอย่างลืมตัว

“เสียวแล้วหรอครับอาจารย์ อยากให้ผมเอาผ้าออกจากปากมั๊ย” อาจารย์ชาตรีถาม

ธัญรดาไม่ตอบ ได้แต่หลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น อาจารย์ชาตรีจึงพยักหน้ากับนายอาด

“ผมจะเอาผ้าออกให้ แต่อาจารย์อย่าร้องนะครับ ถ้าแหกปากร้อง ผมจะชกท้องอาจารย์อีก และจะหนักกว่าเมื่อกี้ด้วย”

นายอาดขู่ แล้วแก้ผ้าที่มัดปากออกให้ อาจารย์ธัญรดาไม่กล้าร้องจริงๆ ได้แต่อ้อนวอนทั้งคู่ด้วยเสียงสั่นเครือ
“อย่าทำหนูเลยค่ะน้าอาด.. อาจารย์ชาตรี... ปล่อยหนูเถอะ .. ปล่อยหนูเถอะค่ะ”

“อ๊ะ เรียกตัวเองว่าหนูด้วย” นายอาดร้องออกมาอย่างกระหยิ่มใจ “ไม่เคยเห็นอาจารย์อ่อนหวานกับผมอย่างนี้มาก่อนเลย น่ารักจริงๆ หวานใจของผม” ว่าแล้วก็ซุกหน้าลงไประดมจูบไปตามหน้าตา ทั้งหน้าผาก แก้ม ใบหู ริมฝีปากไม่พ้นลิ้นสากๆของเขาไปได้เลย เขาระดมจูบจนสาแก่ใจ ความปราถนาที่ซุกซ่อนไว้ถูกระบายออกมาอย่างรุนแรง กลิ่นอันหอมกรุ่นของอาจารย์สาวแทบจะทำให้ภารโรงตัวแสบบ้าตาย

อาจารย์ชาตรีที่ซุกไซร้อยู่ด้านล่าง เริ่มปลดกางเกงของตัวเองปล่อยให้สัดส่วนความเป็นชายของเขาเป็นอิสระ มันผงาดง้ำ พร้อมกับแผ่หัวบานอย่างทระนง อาจารย์หนุ่มจับมันจ่อเข้าไปที่หอยของอาจารย์สาว แล้วจับมันเสียดสีไปตามบริเวณนั้นและซอกขาของเธอไปมา

อาจารย์สาวนอนตัวสั่นระริก ด้วยความกลัวปะปนไปกับความรู้สึกแปลกๆ เธอยังไม่เคยกับความรู้สึกที่ซอกขาของเธอ สิ่งที่เขาแนบถูไถไปมาตามต้นขาของเธอนั้น มันแข็งจริงๆ

“อยู่นิ่งๆ” เขาบอกเธอ “ยกขาขึ้น ทำตัวให้สบาย… มันอาจจะเจ็บนิดหน่อยแต่เพียงครั้งแรก ครั้งเดียวเท่านั้นน่ะ”

นายอาดหัวเราะชอบใจ แต่ธัญรดาตัวสั่น มองเข้าไปในตาของอาจารย์ชาตรี คิ้วเรียวสวยขมวดอย่างหวาดหวั่นสุดขีด

“ดากลัวค่ะ..” เธอเริ่มพูด แต่เขาไม่ได้ฟัง ขยับดันขาของเธอให้ถ่างออกไปอีก อาจารย์ธัญรดาหยุด รู้สึกหวาดหวั่น หลับตาปี๋สั่นสะท้านไปทั้งตัว พร้อมกับเหงื่อที่แตกโทรมเต็มใบหน้า

อาจารย์ชาตรีค่อยๆกดหัวเข้าไปช้าๆ หญิงสาวกรีดร้องโหยหวน
“โอ๊ย เจ็บ เอาออก เอาออกไป๊ โอ๊ยยย”

ผลั่วะ!

ฝ่ามืออันหยาบหนาของนายอาดฟาดเข้าไปที่ใบหน้าเธอ แต่เขายังยั้งไว้ไม่รุนแรงมากนัก ถึงกระนั้นมันก็ทิ้งรอยแดงไว้บนแก้มของเธออย่างชัดเจน

“ผมบอกแล้วไงว่าอย่าแหกปากร้อง” นายอาดตะคอกใส่หน้าเธออย่างเหี้ยมเกรียม

อาจารย์ธัญรดาน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด กัดฟันกรอดๆ มือกำแน่นจนเล็บจิกลงไปในอุ้งมือ อาจารย์ชาตรีแสยะยิ้มอย่างหื่นๆ เขาดันมันเข้าไปอย่างช้าๆ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดแทนที่จะทำให้เขาสงสาร กลับกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาให้ลุกโชนมากขึ้นอย่างแปลกประหลาด


เธอนอนตัวเกร็งแข็งทื่อ เจ็บปวดจนร้องอะไรไม่ออก

“ขยับเป็นจังหวะตามผม ตรงนี้ ผมจะแสดงให้ดู”

ด้วยความหวาดกลัวฝ่ามือพิฆาตของนายอาดทำให้เธอจำต้องโยกสะเอวตามที่อาจารย์ ชาตรีสั่ง เธอขยับให้มันเข้าไปตรงจุดที่เขาต้องการ อาจารย์ชาตรี เริ่มส่งเสียง มันเป็นเสียงแปลกประหลาดสำหรับเธอ ธัญรดาบิดกายสั่นไหวเพื่อหลีกหนีความเจ็บปวด แต่เมื่อนึกถึงคำขู่ของนายอาดทำให้ต้องพยายามฝืนใจรับการกระแทกกระทั้นของ อาจารย์ชาตรี ซึ่งสีหน้าท่าทางที่กึ่งขัดขืนกึ่งจำยอมของเธอ ไม่เคยหลุดพ้นไปจากการจับตาสังเกตอยู่ตลอดเวลาของอาจารย์หนุ่ม ซึ่งทำให้เขามีอาอารมณ์ร้อนแรงยิ่งขึ้น

“ทำตัวให้สบาย” เขาปลอบโยนเธอ “ทำตัวให้สบาย”

เขากระแทกแรงขึ้น ถี่ขึ้น ธัญรดารู้สึกตึงแน่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆภายใน เพิ่มอีก เพิ่มขึ้นอีก จนเธอรู้สึกว่ามันแทบจะปริฉีกขาดเสียให้ได้ เธอส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

“เจ็บ... เจ็บค่ะ... โอย...เจ็บเหลือเกิน” เธอร้องออกมาอย่างลืมตัว นายอาดขยับทำท่าจะตบอีก แต่ชาตรีจับมือเขาไว้แล้วสั่นหน้า เขาเริ่มสงสารและไม่อยากให้อาจารย์สาวต้องเจ็บปวดอีก

เขากระแทกกระทั้นอย่างเงียบๆ เหงื่อออกมาตามหน้าผาก เขาใช้แขนสองข้างพยุงตัวไว้ แล้วดันตัวเข้าออก เข้าออก แรงยิ่งขึ้น

เธอเกาะเขาแน่น กัดฟันกรอดๆ อยากจะให้ความเจ็บปวดทรมานนั้นจบสิ้นเสียที แต่เขายังไม่มีทีท่าจะหยุด หากอารมณ์ใคร่ของเขากลับพุ่งสูงขึ้น สูงขึ้น มันเป็นความสุขที่สุดเท่าที่เขาเคยได้รับมา อาจารย์ธัญรดานั้นสาว และบริสุทธิ์จริงๆ หอยของเธอคับตึงแน่นและตอดรัดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน หน้าสวยๆของเธอที่บิดเบี้ยว ร่างที่บิดเกร็ง นั้นกระตุ้นอารมณ์ใคร่สุดขีด เธอเกาะเขาแน่น เล็บของเธอจมลงไปในเนื้อของเขาอย่างลืมตัว สร้างความตื่นเต้นของเขาอย่างมากมายจริงๆ

“อูยยยย... วิเศษ...ธัญรดา... หีคุณเยี่ยมมาก” อาจารย์ชาตรีพึมพำเสียงสั่น

นายอาดเองก็ร้องครางกับภาพที่เห็น ตาของเขาลุกวาวเมื่อเห็นความตรึงเครียดของเธอไหลออกมาจากร่างกายของเธอผสม ผสานกับสีแดงๆที่เกิดจากการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ เขารู้สึกเสียวสะท้านจนทนดูอยู่ไม่ไหว ต้องปลดกางเกงปล่อยให้ท่อนเอ็นของเขาเป็นอิสระ

ภารโรงตัวแสบขยับไปที่ใบหน้าของธัญรดาแล้วร้อง
“อ้าปาก” เขาตะโกน

ธัญรดาลืมตาขึ้นมามอง สีหน้าเต็มไปด้วยความแตกตื่น นายอาดบีบปากเธออย่างรุนแรง จนเธอต้องยอมอ้าปาก นายอาดจับยัดเข้าไปในทันที

“อื้อฮือ สุดยอดจริงๆ”

เขาร้องอย่างหื่นกระหายแล้วขยับโยกถี่ยิบราวกับว่าปากของเธอเป็นหอย

อาจารย์ธัญรดารู้สึกผะอืด ผะอม คลื่นไส้จนอยากอาเจียน แต่พยายามกลั้นไว้สุดฤทธิ์ อาจารย์สาวเคราะห์ร้ายเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น เมื่อโดนรุมกระหน่ำทั้งข้างล่างข้างบนตั้งแต่ครั้งแรกของเธอ น้ำตาไหลพรากออกมาไม่ขาดสาย

อาจารย์ชาตรียังคมปั๊ม กระแทกเข้าไปในร่างกายเธออยู่ หนักขึ้น หนักขึ้น ตาของเขาจ้องมองดูเธออยู่ตลอดเวลา ปากเขาเม้มสนิท แล้วเข้าก็ถึงจุดสุดยอด

“อูยยยย...ยอดเยี่ยมจริงๆ คนสวย” เขาร้องแล้วฟุบลงบนร่างของเธอ

นายอาดภารโรงที่จับตามองดูอยู่ รีบชักของเขาออกจากปากเธอ แล้วขยับเข้ามาแทน

“ตาผมแล้วนะอาจารย์”


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #3 on: January 07, 2010, 10:27:51 am
หลง #6
..........

ทศพลจอดรถตรงหน้าบ้าน แล้วเดินขึ้นบันไดระเบียง เดินตรงไปยังประตูไม้บานคู่ บ้านหลังนี้ถูกสร้างมานานแล้วด้วยฝืมือการออกแบบของสถาปนิกชื่อดัง เขาภูมิใจในบ้านหลังนี้มาก มันทรงความสง่างามและจะตั้งตระหง่านเป็นมรดกตกทอดให้แก่ลูกสาวทั้งสองของเขา

เมื่อเขาเดินไปในห้องโถง ทศก็ได้ยินเสียงพูดคุยมาจากห้องรับแขก เขาจึงเดินมุ่งหน้าไปยังห้องนั้น แขกของเขารวมตัวกันอยู่ ทศกวาดสายตามองหาปริษาก่อน เธอกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่งใกล้หน้าต่าง เรือนผมสีดำขลับของเธอต้องแสงอาทิตย์เป็นประกาย แขนขาวผ่องทาบทับอยู่บนหน้าท้อง การได้เห็นเธอทำให้เขารู้สึกรักและหวงแหนทุกครั้ง เธอเป็นสำนึกของความห่วงใยและอาทร ที่อยู่ลึกในจิตใจของเขา

ปริษาส่งยิ้มมาให้ทักทาย ขณะที่ทศพลเดินเข้าไปหาเธอตรงเก้าอี้ แม้ความสนใจของเขาจะมีต่อแขกที่รวมตัวกันอยู่ในห้อง แต่เขาก็ยังเอื้อมไปเกาะกุมมือของภรรยารักไว้ในอุ้งมือของเขา

“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมไม่อยู่ตอนที่พวกคุณมาถึง” เขากล่าวคำขออภัยต่ออาคันตุกะทั้งสี่ ซึ่งมีนักการเมืองรวมอยู่ด้วย
“ไม่มีปัญหาหรอกคุณ เพราะเรามาถึงเร็วกว่าที่คิดไว้มาก” นักการเมืองพูดขึ้น กาลเวลาได้ประทับริ้วรอยบนใบหน้าของเขา แสดงให้เห็นถึงความกร้านโลกมาไม่น้อยกว่าห้าสิบปี
“กิจการเป็นไงบ้างล่ะ? คงจะดีสินะ เห็นจะไม่ต้องช่วยอะไรอีกแล้วมั๊ง” เขาหลิ่วตาให้ทศเหมือนเคยคบคิดทำผิดอะไรกันมา
“ไม่มีแล้วครับ” ทศตอบเสียงเรียบ

ทศเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงมาตั้งแต่ยังหนุ่ม แต่ครั้งหนึ่งเขาเคยตำรวจยัดข้อหาค้ายาเสพติดให้ ทำให้เขาเริ่มรู้ถึงความสำคัญของการมีเส้นสาย เขาจึ่งเริ่มคบหาคนใหญ่คนโตตั้งแต่นายตำรวจ ข้าราชการระดับสูง ไปจนถึงนักการเมือง ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจของเขาแล้ว ยังช่วยเพิ่มลูกค้าของเขามากขึ้นไปด้วย ตอนนี้เขามีทั้งธุรกิจโรงแรม ที่ดิน และร้านขายอัญมณีอีกหลายแห่ง ชีวิตเขารุ่งเรืองถึงขีดสุด และนักการเมืองคนนี้ให้ความช่วยเหลือมาตลอด

“ทศ ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ แอนดี้หน่อยนะ” เขายกแขนโอบไหล่ผู้ที่เขาเอ่ยซึ่งอายุอ่อนกว่ากันนิดหน่อย ทศสังเกตุเห็นหน้าตาเขาเหมือนกับพวกลูกครึ่งไทยฝรั่ง “ผมน่ะอยากให้คุณสองคนรู้จักกันมานานแล้ว คุณแอนดี้เป็นเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าในอเมริกา เขาอาจช่วยขยายตลาดให้คุณได้”

ทศก้าวออกจากข้างตัวปริษาเพื่อสัมผัสมือกับบุรุษผู้สูงวัยกว่า ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อผ้าราคาแพง
“ยินดีที่รู้จักครับคุณแอนดี้”
“ด้วยความยินดีครับ” แอนดี้ตอบ “ผมสนใจอัญมณีมาก และอยากจะขอปรึกษาเรื่องการทำธุรกิจร่วมกัน นี่คือทอมหุ้นส่วนของผม” แอนดี้หันมาแนะนำชายทียืนเคียงข้าง
“สวัสดีครับ” น้ำเสียงของทอมนั้นออกสำเนียงแปร่งๆ ทศพลรู้ว่าเขาคงเพิ่งหัดพูดภาษาไทยไม่นาน ทอมหันไปทางปริษา ผงกศรีษะเบาๆอย่างสุภาพ
“ผมยอมรับเลยนะครับว่าผู้หญิงไทยนั้นสวยมาก โดยเฉพาะภรรยาของคุณ”
ปริษาหน้าแดงด้วยความอายที่ถูกชมต่อหน้า
“ผมเห็นด้วยกับคุณ” ทศพลเอ่ยขึ้นอย่างภูมิใจ เขาหันไปสบตาที่เป็นประกายแวววาวของปริษา และเป็นการมองด้วยสายตาของคนที่เป็นเจ้าของ ปริษาสวยสะดุดตามาตั้งแต่สมัยสาวๆแล้ว กาลเวลาไม่ได้ทำให้ความงามของเธอลดลงเลย หากแต่กลับเพิ่มความสง่ามากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ
“คุณทอมโตที่อเมริกาหรือคะ” ปริษาเอ่ยถาม ชักนำการสนทนาให้อยู่ห่างตัวอย่างชาญฉลาด แม้เธอจะรู้สึกปิติในคำชมนั้น
“ครับ..คุณปา” น้ำเสียงของเขานุ่มนวล แล้วหันไปคุยกับทศพลต่อ “ผมอยากให้คุณทศมาร่วมเป็นหุ้นส่วนของเรามาก... จริงๆนะครับ”
“ครับ เรื่องนี้เราน่าจะปรึกษาหารือกันได้” ทศพลเอ่ยตอบ
..........

ในลักษณะที่เพิ่งจะเคลิ้มหลับ ปริษาขยับตัวตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาภายในห้อง เธอยันตัวขึ้นกดสวิทช์ที่หัวเตียง
“ทศ นั่นทศหรือคะ” เธอเอ่ยถามขึ้น ทันทีที่แสงไฟกระจ่างตา ปริษาก็เห็นเขาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาพอดี เพื่อจะถอดรองเท้าออก
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ปาตื่นเลย” เขาวางรองเท้าที่พื้น ดึงชายเสื้อออกจากกกางเกง ความเหน็ดเหนื่อยเผยให้เห็นชัดอยู่ทั่วใบหน้า
“อะไรกันคะ นั่งคุยกันจนถึงตอนนี้เลยหรือ” ปริษาถาม เธอขอตัวกลับมานอนตั้งแต่หัวค่ำแล้ว
“ใช่”
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอก”
ทศถอนหายใจ ลุกขึ้นเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างต่อ ปริษาขยับตัวเพื่อที่จะให้เขาใช้หมอนยามที่สอดตัวเข้ามานอนเคียงข้างเธอ แต่ทศไม่ได้ต้องการแค่นั้น เขาสอดแขนเข้าไปใต้ร่างช้อนเธอเข้ามาแนบใกล้ ความอบอุ่นจากเรือนกายซึมแทรกไปทั่วตัวของปริษา และทำให้เธออบอุ่นขึ้นอย่างมาก
“ลูกนอนแล้วหรือ” ศีรษะของเขาเคลื่อนเข้ามาแนบอยู่กับเธอ กระซิบกระซาบอยู่ที่ข้างหู
“ทศคะ ปาอยากจะคุยกับทศเรื่องนี้เหมือนกัน” ปริษาเบือนไปมองหน้าทศพล พยายามระงับใจไม่ให้หวิวไหวไปตามฝ่ามือของเขาที่ลูบไล้ไปมาตามเนื้อตัว
“เรื่องอะไรล่ะปา” เขาถามขณะที่สายตาเลื่อนไปจับอยู่ตรงเนินทรวงที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อนอนเนื้อนุ่ม
“ไม่รู้ว่าอุปทานหรือเปล่า แต่ปารู้สึกว่าหวานแกดูแปลกๆ เหมือนคนมีความทุกข์ใจอะไรซ่อนอยู่น่ะ”
“เหลวไหล ...ปาน่ะคิดมากไป ลูกของเรามีทุกอย่างเพียบพร้อม จะไปมีเรื่องทุกข์ได้ยังไง”
“ไม่นะคะ เมื่อก่อนปาไม่เห็นจะรู้สึกอย่างนี้เลย” ปริษาพูดไม่ทันจบก็ร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า เมื่อชุดนอนของเธอถูกเขารั้งขึ้นจนถึงเอว ในขณะที่มือของเขาลูบไล้ลงไปที่ใต้ท้องน้อย เธอรู้สึกสั่นสะท้านจนต้องส่งเสียงครางเบาๆออกมา
“หวานน่ะโตแล้วนะปา แล้วเราก็อบรมแกดีด้วย ผมเชื่อว่าแกตัดสินใจอะไรเองได้ ปาน่ะปล่อยๆซะบ้าง ไม่ต้องห่วงอะไรแกมากนักหรอก”
ปลายนิ้วของทศสอดผ่านไปตามผิวละเอียดอ่อนทั้งสองข้างปาดเข้าหาตำแหน่ง กะทัดรัดในความสาวของเธอ ลากพลิกไปมาจนเธอสะดุ้ง ผิวพรรณความสาวของเธอตอดกระชับทักทายนิ้วของเขาอย่างคุ้นเคย ..แต่ถึงแม้การสัมผัสเล้าโลมอย่างชิดใกล้จากสามี จะทำให้อารมณ์ของปริษาปั่นป่วน แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรุกเร้าเขาเพราะมันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเธอ

“ยิ่งโตเป็นสาวน่ะแหละ ยิ่งต้องระวัง”

ทศกระพริบตาด้วยความประหลาดใจที่เธอยังทนคุยอยู่ได้ทั้งๆที่เขาเล้าโลมขนาด นี้ แต่ความตั้งใจของเขาไม่คลอนแคลน ทศรั้งร่างอวบอิ่มของภรรยาเข้ามาในวงแขน พร้อมกับก้มหน้าลงดูดดื่มความหอมหวานจากซอกคอหอมกรุ่นและกลีบปากนุ่มละมุน
“อะไรกันจ๊ะที่รัก จะให้หวานเป็นลูกแหง่ไปจนโตเลยหรือไง”

ชุดนอนของเธอหลุดลุ่ยลงไป ขณะที่ปลายนิ้วร้อนผ่าวราวเปลวเพลิงของหนุ่มใหญ่ กลับมาวนไล้อย่างแผ่วเบาไปบนยอดทรวงที่ชูชัน ปริษาต้องระงับความปรารถนา บังคับใจตัวเองไม่ให้วอกแวกไปตามน้ำหนักมือของเขาที่เคล้นคลึงบัวงามของเธอ ด้วยความกระสันซ่านนั้น ทำให้ยากเย็นเหลือเกินที่จะดำเนินการสนทนาต่อไป

“ทำไมพ่อของหนูหวานถึงใจร้ายขนาดนี้นะ”
“ หมายความว่าไงจ๊ะแม่ตุ๊กตาน้อย” แม้จะแต่งงานกันมาหลายปี จนลูกสาวโต แต่เขาก็ชอบที่จะเรียกเธอว่าตุ๊กตาน้อยอยู่อย่างนั้น
“ก็ทศเอาแต่ขโมยจูบปา แล้วก็ยุ่งแต่เรื่องงานไม่เคยเอาใจใส่ลูกสาวที่น่าสงสารของเราเลย” ปริษาต่อว่าสามีอย่างขุ่นเคืองแง่งอน
“โธ่ ผู้ชายที่ไหนจะไปอดใจไหว ถ้าลองได้เห็นเมียตัวเองนอนถ่างขายั่วขนาดนี้”
ปริษาหน้าแดงทุบหลังเขาดังพลั่กด้วยความหมั่นไส้
“เอ๊ะ ทศนี่.. ปานอนถ่างขาที่ไหนกันคะ... พูดน่าเกลียด”
ทศพลหัวเราะชอบใจ พลางนึกในใจว่าท่าทางโกรธๆงอนๆของภรรยาเขานั้นงดงามที่สุดในโลก
“ที่รักจ๊ะ ถึงผมจะงานยุ่ง แต่ผมก็พูดคุยกับลูกอยู่ทุกวันนะ และผมก็ไม่เห็นแกจะมีท่าทีทุกข์ใจอะไรอย่างที่ปาพูดเลย ปาน่ะคิดมากไป แต่เอาเถอะผมจะช่วยดูแลแกให้มากขึ้น พอใจรึยังที่รัก”

ปริษาเห็นประกายอบอุ่นในดวงตาของเขา และจับน้ำเสียงที่ผ่อนปรนให้เธอได้เป็นอย่างดี ทำให้อารมณ์รักแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
“ขอบคุณค่ะ ปายอมตายเสียดีกว่าที่จะเห็นลูกต้องซึมเศร้าแบบนี้” หญิงสาวกล่าวเสียงเครือ พร้อมกับสอดแขนโอบรอบร่างใหญ่โตของสามีไว้ แล้วซุกหน้าลงกับทรวงอกที่กว้างอบอุ่นนั้น
“มีอะไรอีกหรือเปล่าจ๊ะ บอกมาทีเดียวเลย กระผมจะยอมทำทุกอย่างตามที่เมียสั่ง” ทศยิ้มพราย ขณะก้มหน้าลงเกลือกกับเรือนผมหอมกรุ่นของเธอ ปริษาหัวเราะคิก เบือนหน้ามาสนองจุมพิตดูดดื่มที่ประทับลงมาอย่างเต็มใจ ทศพลบดขยี้ลิ้มรสความหวานบนกลีบนุ่มที่เผยอรับอย่างหิวกระหาย มือแข็งแรงกำบั้นท้ายงอนงาม

“คราวนี้ ทิ้งบทแม่ แล้วมาทำสิ่งที่ภรรยาควรจะทำได้แล้วนะจ๊ะที่รัก” เขากระซิบเสียงอู้อี้ ริมฝีปากอุ่นๆ นุ่มเหมือนกลีบกุหลาบสีชมพูนาบประกบอยู่กับปากเขา ลิ้นของเขาสอดควานเข้าไปในปากของเธอแล้วก็พบว่าเธอตอบสนองด้วยการดูดเม้มริม ฝีปากของเขาในทันที มือของเขาโอบกอดร่างอวบอิ่มได้สัดส่วนและดึงกระชับเข้ามาจนอกอวบหยุ่นของเธอ เบียดอยู่กับอกของเขา

ทศกวาดมือลงไปก็พบว่าปริษานั้นทอดกายแผ่กว้าง ในขณะที่เขาตะโบมลูบไล้ลงไปสู่ส่วนสำคัญของร่างกายเธอ ปริษานั้นร้อนเร่าไปทั้งตัวด้วยไฟพิศวาสที่โหมกระพือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกเสียวกระสันแผ่ซ่านไปทั่วทุกขุมขน ยินยอมให้ความแข็งขึงของเขาเบียดแทรกเข้าไปไม่ขัดขืน หญิงสาวครางเสียงกระเส่าเมื่อปากร้อนระอุของเขาเคลียซุกไซร้ไปตามซอกคอขาว ผ่อง ก่อนจะอ้าปากงับยอดทรวงสีชมพู

“โอ” ปริษาครวญครางขณะที่มือหนาหนักของเขาคลึงเคล้นอกอวบอีกข้างอย่างเมามัน...

กลิ่นตัวหอมอ่อนๆที่โชยออกมาแตะจมูกเป็นกลิ่นสาวที่ปลุกเร้าอารมณ์ของทศพล ให้คุกรุ่นอย่างรุนแรง อกอวบหยุ่นในอุ้งมือยามที่บีบเคล้นสร้างความพึงพอใจให้เขาอย่างสูงสุด ทศดูดเม้มยอดที่ชูชันของมันอย่างหิวกระหาย ดื่มด่ำเหมือนตะกละตะกลาม พลิกพลิ้วไปมา พร้อมกับดูดเม้มและขบกัดลงไปจากแผ่วเบาแล้วเริ่มแรงขึ้น แรงขึ้น...

สองเต้าอันอวบอิ่มนุ่มนิ่มของปริษาสร้างความเสียวซ่านไปทั่วทุกขุมขนของเขา อย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งเนื้อนมอันอวบหยุ่นบดเบียดกับแก้ม จมูก คางและปากเขามากเท่าไหร่ ทศพลก็แทบจะหยุดหายใจเนื่องมาจากความสุขสุดเสียวที่วูบวาบไปถึงหน้าท้องและ หน้าขาไหลสู่ท่อนเนื้อที่ชูชันแข็งขัน เขาเกลือกกลั้วฟอนเฟ้นกับก้อนเนื้อนุ่มๆทั้งสองข้างเหมือนคนบ้าคลั่ง ปริษาเองก็แหงนหน้าหอบหายใจแรงขึ้น แรงขึ้น ร่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขาทั้งขยี้ ขยำ อยากจะกลืนกินดูดเน้นให้สาสมตามที่หัวใจเรียกร้อง

“เสียวมั๊ยจ๊ะ ที่รัก” เขากระซิบถาม
“เอ๊ะ พูดทะลึ่งอีกแล้วนะทศ” ปริษาต่อว่าอายๆ แล้วทุบไปที่หลังเขาเบาๆ ทศพลเลยแก้แค้นด้วยการขยำนมหนักขึ้นไปอีกจนหญิงสาวร้องครางออกมาดังๆ

ความอดทนหมดสิ้นไป... เธอต้องการเขาเดี๋ยวนี้ ปริษาโยนเรื่องของลูกสาวออกไปชั่วคราว แล้วหันมาสนองความสุขให้กับสามีอย่างเต็มที่ ทศพลส่งเสียงครวญครางบอกความสุขสมเมื่อเธอยักย้ายส่ายสะโพกยักเยื้องไปตาม จังหวะเพลงรักได้อย่างเหมาะเจาะ มือน้อยๆลูบคลำไปตามจุดต่างๆที่เธอรู้ว่าจะสร้างความหฤหรรษ์ให้กับเขา ปริษารู้ว่าเธอได้แต่งงานให้กับบุรุษที่วิเศษที่สุดในโลก

อารมณ์ความต้องการของปริษารุนแรงจนพุ่งขึ้นสูง ใบหน้ามีเลือดฝาดฉีกขึ้นมาหล่อเลี้ยงจนแดงระเรื่อ ลมหายใจเร่งรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ เธอรัดแขนรัดขาของทศพลเหมือนลืมตัว กอดกระหวัดและส่งเสียงร้องครวญคราง ขณะที่ทศวนเวียนจูบซุกไซร้ไปทุกส่วน

ร่างของทศแทบจะจมหายไปกับเรือนกายของปริษา กลิ่นหอมจางๆจากนวลเนื้อเธอทำให้เขามีความรู้สึกอบอุ่นอย่างเป็นสุข แก้มซ้ายของเขาแนบกับเนื้อนมขาวผ่องของเธอ และมิวายจะฟอนเฟ้นดอมดมอย่างไม่รู้เบื่อ ขณะที่เรือนกายอวบขาวของเธอเด้งไปเด้งมา และส่ายไหวเหมือนกับคลื่นที่แระฉอกตัวเป็นจังหวะจะโคน ปริษาขยับสะโพกยกขึ้นเด้งสู้แรงกระแทกของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ เลือดในกายของเธอเดือดพล่าน ความสาวของเธอตอดกระชับเป็นช่วงๆ ตาของเธอฉ่ำหวานเป็นประกาย ขณะที่ปากก็ครวญคราง

“อา...วิเศษที่สุดเลยทศ ... ปา ... มีความสุขเหลือเกิน...โอ”
“ผมก็เหมือนกันที่รัก”
ปาริษาแทบจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว บั้นท้ายเธอบดขยี้กับที่นอน เรือนร่างบิดย้ายสะบัดแรงขึ้นเรื่อยๆ
“แรงขึ้นอีกค่ะทศ แรงขึ้นอีก.. ได้โปรด”
“แรงขึ้นอีกหรือปา แรงอีกมั๊ย”
“แรงอีกค่ะ โอ...แรงอีก”
“อา..ปาร้อนเหลือเกิน ที่รัก…”เขาพึมพำเสียงสั่น “....ถ้างั้นให้ปาทำเองเลยดีกว่า”

ทศร้องแล้วเปลี่ยนสลับให้เธอนั่งอยู่ข้างบน ปริษาขยับร่างส่ายสะโพกอย่างไม่ยอมให้เสียจังหวะ ทรวงอกอวบอิ่มของเธอสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรงและยั่วยวนใจเขาจนแทบจะ กระดอนออกจากอก มือของเขาลูบคลำไปตามเรือนร่างของเธอ ลากขึ้นไปจนถึงทรวงอกอวบอิ่มที่กำลังเด้งขึ้นลงอย่างรุนแรง แล้วบีบขยำอย่างมันมือ เธอสะบัดหน้าจนผมกระจาย ปากก็ร้องครวญคราง ปลายเล็บจิกลงบนเนื้อหนังที่ร้อนระอุของเสามี ทศรู้ว่านี่คือสัญญาณที่แสดงว่าภรรยาของเขากำลังจะเดินทางเข้าสู่ห้วงแห่ง ความสุขสุดยอดแล้ว

บัดนี้ปริษารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว ทุกอย่างเลือนหายไปจากจิตใจ เหลือเพียงจังหวะการโหมกระหน่ำของเธอเท่านั้น จังหวะการหอบหายใจของเขา ผสานเข้าเป็นจังหวะเดียวของเธอ ในที่สุดเธอก็กรีดร้องเสียงหลง... อาการกดจิกเล็บนั้นเปลี่ยนไป ปริษากดร่างลงไปแนบสนิทกับเขา ทศพลรู้สึกเหมือนกับร่างกายจะระเบิดออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย ราวกับลูกโป่งที่อัดลมโป่งพองจนถึงขีดสุด ลมหายใจร้อนผ่าวของเธอระบายพรวดมาอาบทั่วใบหน้า ขณะที่ละอองแห่งความสุขของเขาแตกทะลักไปทั่วอณาบริเวณของเธออย่างล้ำลึกที่ สุด...

เมื่อลืมตาขึ้น ปริษาก็มีโอกาสเห็นใบหน้าที่เปี่ยมล้นด้วยความสุขของสามีพอดี มันเป็นความสุขที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความบริสุทธิ์ นี่คือช่วงเวลาที่ไม่จริตมายาเข้ามาเคลือบคลุม... จากนั้นเธอก็หลับตาพริ้มลงอีกครั้ง กางแขนโอบรัดร่างของเขาอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง....


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #4 on: January 07, 2010, 10:28:12 am
หลง #7
..........

“ซวยชิบเป๋งเลยว่ะเรา” อาจารย์ธวัชชัย บ่นพึมพำขณะที่ขับรถฝ่าการจราจรอันแออัดในเมืองหลวง ทุกอย่างมันกำลังไปได้ดีอยู่แล้วจนกระทั่งมีเรื่องตบกันในมหาวิทยาลัยนี่ แหละ ตอนนี้ชื่อเสียงของเขายับเยินไปทั่วมหาลัย เขาต้องลาพักรัอนเพื่อหลบเรื่องอื้อฉาวนี้... แต่โชคดีที่เขายังมีสาวน้อยเป็นสแปร์พาร์ทอีกหนึ่งคน “กนกวรรณ” สาวสวยเจ้าของร้านอัญมณี เธอช่างสวยงามน่ารักราวกับตุ๊กตา เขาหลงใหลเธอยิ่งนัก เขากำลังจะไปพบเธอแล้วในตอนนี้ เขาอยากจะชวนธอไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัด มันจะเป็นการลาพักร้อนที่เพอร์เฟคที่สุด ถ้ามีสาวน้อยอย่างกนกวรรณอยู่เคียงข้าง

ธวัชชัยเดินเข้าไปในร้าน มันมีขนาดไม่ใหญ่นัก หากแต่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ พนักงานสาวอสองคนกำลังคุยอยู่กับลูกค้า และชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ช่วยของกนกวรรณกำลังนั่งดูเอกสาร อยู่ที่โต๊ะทำงาน มีเพียงพนักงานสาวคนเดียวที่ยืนว่างอยู่ เขาตรงเข้าไปหาในทันที

“แอน”เขาทักพนักงานสาวคนนั้นอย่างคุ้นเคย ” คุณอ้ออยู่มั๊ยครับ”
“อยู่ข้างในห้องค่ะ อาจารย์ “ แอนตอบเสียงหวาน หญิงสาวรู้จักเขาดี เพราะธวัชชัยแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเจ้านายสาวของเธอบ่อยๆ
“งั้นผมขอเข้าไปนะครับ”
“เชิญค่ะ”
“ขอบคุณครับ”

……

“อ้าว...อาจารย์ มาได้ไงคะ ไม่เห็นโทรมาบอกเลย” หญิงสาวร้องทักเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าห้องมา

ธวัชชัยเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างกนกวรรณ เค้าหน้าออกจะคล้ายๆกันแต่สูงวัยกว่า สัญชาติญานบอกว่าผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นพี่สาวของกนกวรรณ โดยไม่รอให้หญิงสาวแนะนำ เขารีบยกมือไหว้เธอก่อนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีมารยาทอันดี
“สวัสดีครับพี่”
ผู้หญิงคนนั้นหน้าแดงระเรื่อ
“อุ๊ย...” กนกวรรณร้องอุทาน ”พี่อะไรกันคะอาจารย์ นี่คุณแม่ของอ้อนะ”
ธวัชชัยหน้าแดง
“โอ๊ะ ตายจริง ....ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ปริษายิ้มให้กับความเปิ่นของเขา พลางกวาดตาสำรวจชายหนุ่ม.. หน้าตาผิวพรรณของเขาดีบอกถึงความมีชาติตระกูล นี่คงจะมาจีบหนูอ้อลูกสาวของคนโตของเธอซินะ แต่ไม่เห็นลูกสาวของเธอเคยพูดถึงเลย ช่างเถอะ!ไว้ถามทีหลัง ตอนนี้เธอไม่มีเวลา
“คุณคงมีธุระจะคุยกับหนูอ้อ”
“ครับ”
“ถ้างั้นก็ตามสบายนะ น้าขอตัวก่อน พอดีมีธุระ”
“ครับคุณน้า ผมต้องขอโทษอีกครั้งครับ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ” พูดจบก็หันไปหากนกวรรณ “แม่ไปก่อนนะอ้อ แล้ววันนี้คงไม่กลับค่ำอีกนะ”
“ค่ะแม่”

พอลับหลังแม่ กนกวรรณก็เชิญเขานั่ง
“จะรับกาแฟก่อนมั๊ยคะอาจารย์”
“ไม่ต้องหรอกครับ จะเที่ยงแล้วด้วย เราไปหาอะไรทานข้างนอกกันดีกว่าครับ”
“ก็ดีค่ะ ท้องร้องยู่พอดี” กนกวรรณยิ้มหวานเอนหลังแล้วทำท่าลูบท้อง ธวัชชัยกลืนน้ำลายเอื๋อก เพราะท่าทางเอนหลังลูบท้องของเธอมันช่างเย้ายวนใจเขาพิกล กนกวรรณไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของเขา หญิงสาวจัดการเก็บแฟ้มเอกสารจัดวางให้เรียบร้อย ก่อนจะลุกขึ้นหยิบกระเป๋ามาสะพาย
“เรียบร้อยค่ะ ไปกันได้แล้ว”
ธวัชชัยเดินมาเปิดประตูให้ก่อนจะก้าวตามออกไป

“ฉัตร ดูร้านไว้ก่อนนะ อ้อจะออกไปทานข้าวกับเพื่อน” หญิงสาวสั่งกับชายหนุ่มผู้ช่วยของเธอ
“ครับ.. แล้วคุณอ้อจะกลับมาอีกมั๊ยครับ”
“กลับค่ะ ประมาณไม่เกินบ่ายสอง ถ้ามีเรื่องด่วนก็โทรมาละกันนะ”
“ครับ” ฉัตรรับคำ

เขามองร่างของหญิงสาวที่เดินเคียงคู่กับอาจารย์หนุ่มออกไป นัยน์ตาของเขาเป็นประกายฉ่ำหวาน หากแต่เจือด้วยความเศร้า เขาทั้งรักทั้งหลงเจ้านายคนนี้มานานแล้ว แต่ด้วยฐานะที่ต่างกันมากมายทำให้เขาเจียมตัว ถึงฉัตรจะมีตำแหน่งอยู่บ้างในที่นี้ แต่เขาก็เป็นเพียงลูกน้องของเธอ ชายหนุ่มรู้ดีว่าครอบครัวของหญิงสาวนั้นร่ำรวยขนาดไหน กนกวรรณนั้นเหมือนดอกฟ้าที่อยู่สูงสุดเอื้อม ชาตินี้ทั้งชาติเขาคงจะไม่มีโอกาสได้เธอ ดังนั้น เขาจึงได้แต่เก็บซ่อนความรักเอาไว้ในใจ ไม่กล้าแม้แต่จะแสดงอะไรออกมาให้เธอรู้... สำหรับฐานะอย่างเขา ...แค่ได้เห็นได้ใกล้ชิดก็ชื่นใจพอแล้ว

“มองอะไรคะพี่ฉัตร มองไม่วางตาเลยนะ” แอน สาวสวยเอ่ยปากล้อเลียนเมื่อเห็นท่าทีผิดปกติของเขา
“มองอะไรเล่า แอน.. พูดอะไรบ้าๆ” เขาดุ
“แน๊...อย่าทำเส แอนรู้นะ”
“บ้าจัง ทำรู้ดี นั่นไปต้อนรับลูกค้าซิ เข้ามาแล้ว” เขารีบบอกเมื่อเห็นลูกค้าสาวสองคนเข้ามาในร้าน หัวใจของเขาเต้นระทึก รู้สึกหงุดหงิดตัวเองเล็กน้อยที่เผลอแสดงท่าทีผิดสังเกตุให้พนักงานสาวใน ร้านได้เห็น
..........

อาจารย์ชาตรีมองนมเบ้อเริ่มเทิ่มที่ถูกชุดนักศึกษารัดจนเห็นเป็นก้อนกลมๆอย่างอ่อนใจ
‘โอ้โฮ..ทำไมมันช่างใหญ่โตบ๊ะล๊ะก๋าขนาดนี้ แล้วเสื้อมันก็รัดเปรี๊ยะเสียเหลือเกิน แม่คุณเอ๋ย สงสารกระดุมจัง มันคงจะทำงานหนักน่าดู... อื้อฮือ... มันน่าขยำซะจริงๆ’ อาจารย์หนุ่มคิดอย่างมันเขี้ยว ขยับตัวไปมาอย่างอึดอัด

แนนกำลังอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวสุดขีด จึงไม่ทันสังเกตท่าทีที่ผิดปกติของอาจารย์หนุ่มที่นั่งหื่นอยู่ตรงหน้า
“หมายความว่าไงคะอาจารย์ ทำไมหนูโดนลงโทษคนเดียว แล้วพี่แพมล่ะคะ” เธอโวยวายลั่นห้อง
แต่หามีคำตอบจากอาจารย์หนุ่มไม่ หน้าของเขาแดงก่ำ หอบหายใจแรง และเหงื่อออกโทรมเต็มหน้า นักศึกษาคนนี้หน้าตาคมขำดีเหลือเกิน ผิวก็ขาวจั๊วะ...
“อาจารย์...อาจารย์คะ” เธอเรียกย้ำหลายครั้ง
“หา...ว่าไงนะ”
“หนูสงสัยว่า ทำไมหนูโดนลงโทษคนเดียว ทำไมพี่แพมไม่โดนอะไรเลย” แนนถามย้ำอีกครั้งอย่างหงุดหงิด
“เพราะจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ เค้ายืนยันว่าคุณเป็นคนก่อเรื่องก่อนน่ะซิ”
“แต่พี่แพม ก็ทำร้ายร่างกายหนูด้วย อย่างน้อยเธอก็น่าจะต้องโดนทำโทษอะไรบ้าง”
“เรื่องการลงโทษนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหาร คุณไม่ต้องมาแนะนำ” อาจารย์ชาตรีพูดอย่างไม่พอใจ แต่สายตาไม่เคยละไปจากอกอวบๆที่ดันเสื้อจนแทบทะลักของเด็กสาว
“อ๋อ หนูรู้แล้ว พ่อของพี่แพมเป็นคนให้ทุนสนับสนุนที่นี่ ก็เลยไม่กล้าทำโทษใช่มั๊ยล่ะ”
“อ๊ะ อ๊ะ นี่คุณกำลังกล่าวหาอาจารย์นะ”
“แต่...”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ออกไปได้ ไม่งั้นจะโดนทำโทษหนักกว่านี้” เขาตัดบท
แนนกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ หญิงสาวหันหลังเดินกระแทกส้นเท้าออกมาอย่างไม่พอใจ

พอประตูปิด อาจารย์ชาตรีก็เลื่อนตัวออกจากโต๊ะ

“ออกมาได้แล้ว”

หญิงสาวคนหนึ่งค่อยๆคลานออกมาจากใต้โต๊ะ เธอก็คือ ธัญรดา อาจารย์สาวเคราะห์ร้ายที่ถูกชาตรีกับภารโรงรุมข่มขืนนั่นเอง หญิงสาวสวมกระโปรงสีดำ เสื้อสีขาวของเธอถูกปลดกระดุมออกทุกเม็ด ทำให้สาบเสื้อแยกออกจากกันตลอดแนวเผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มขาวผ่องโผล่ออกมา พลอมแพลมอย่างล่อตาล่อใจ กางเกงในของเธอกรอมอยู่ที่ข้อเท้า... นี่ถ้าน้องแนนยังอยู่คงจะต้องตกใจขนาดหนัก เพราะขณะที่เธอกำลังคุยอยู่กับอาจารย์ชาตรีนั้น ธัญรดากำลังใช้ปากช่วยสำเร็จความใคร่ให้เขาอยู่ที่ใต้โต๊ะ

ชาตรีมองหน้าสวยๆที่ผัดแป้งจนขาวนวลของอาจารย์ธัญรดาอย่างชื่นชม ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ ผิวพรรณดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะยอมเขาถึงขนาดนี้ ...ก่อนหน้าเธอยังเป็นผู้หญิงที่ไว้ตัว และดูจะสูงจนเกินเอื้อมสำหรับหนุ่มๆ ใครจะเชื่อว่าตอนนี้อาจารย์คนสวยจะมายืนโชว์วับๆแวมๆอยู่ตรงหน้า แถมทำทุกอย่างตามที่เขาสั่งอีกด้วย โอ...มันเหมือนกับฝันไปจริงๆ

"ไปนั่งบนโต๊ะ.ซิอาจารย์”เขาสั่ง

ธัญรดาลุกไปนั่งอยู่ที่โต๊ะ อาจารย์หนุ่มลุกขึ้นไปนั่งเคียงข้างเธอ มือของเขาโอบกอดเกาะกุมอยู่ที่ไหล่กลมมนของอาจารย์สาว ธัญรดาขยับตัวเล็กน้อย แต่ไม่กล้าขัดขืนอย่างจริงจัง ปล่อยให้เขาลูบคลำเนื้อตัวไปมาอย่างย่ามใจ อาจารย์ชาตรีก้มหน้า ลงไปดูดดื่มความหอมหวานจากปากของเธอ ลิ้นกวาดเข้าไปในริมฝีปากบางสวย มือข้างที่โอบกอดอยู่รัดร่างของเธอให้แนบชิดเข้ามา อาจารย์สาวตัวอ่อนระทวยไปในทันทีเมื่อเขาเริ่มใช้มือข้างหนึ่งขยำทรวงอกที่ อวบอิ่มของเธอ

“อืมมมม... นมอาจารย์ใหญ่เต็มไม้เต็มมือดีเหลือเกิน ..แข็งเป็นไตเลย”

ธัญรดาหน้าแดงซ่านเมื่อได้ยินคำพูดหยาบคายของเขา อาจารย์หนุ่มยังคงพึมพำ พลางคลึงเคล้นอกอวบๆไปมา แต่มันคงไม่สะใจพอ ดังนั้นเขาเลยจับอาจารย์สาวให้เอนหลังพิงไปที่อกของเขา แล้วสอดมือทั้งสองข้างเข้ามาขยำขยี้ก้อนเนื้ออ่อนหยุ่นทั้งสองข้างของเธอ อย่างเมามัน และหนักหน่วง มือเขาบีบบี้คลีงเคล้นไปมา แล้วก็กระชากเสื้อออก จนเต้านมขาวอวบอึ๋มที้งสองก้อนของเธอออกมาเด้งดึ๋งยั่วตาอยู่ข้างนอก อาจารย์ชาตรีหนุ่มนัยน์ตาวาวโรจน์ ร้องครางออกมาอย่างพอใจ มือทั้งคู่ขยำขยี้ก้อนเนื้อแท้ๆของเธออย่างมันส์มือ

“มันส์จริงๆเลย อูยยยย”

เขาพึมพำชมเชย ปากก็บดขยี้ไปตามใบหน้าและพวงแก้มขาวใส เสียงพึมพำเสียงครางประกอบกับการปรนเปรอของเขาทำให้หัวใจของอาจารย์สาวเริ่ม ปั่นป่วนพิกล เธอแหงนหน้ารับการระดมจูบ ขาเรียวสวยทั้งสองข้างขยับหนีบเสียดสีไปมา จนกระโปรงเลิกขึ้นไปเห็นต้นขาอ่อนผ่องละลานตา

อาจารย์หนุ่มทรุดตัวลงก้มหน้าโล้มลิ้นไปที่หัวนมของเธอ เม็ดเล็กสีชมพูนั้นแข็งตัวชูชันขึ้นสู้ขณะที่โดนลิ้นของเขาตวัดไปมา เขาดูดเม้มมันอย่างเอร็ดอร่อย มืออีกข้างก็ขยำขยี้ทรวงอกข้างที่ว่างอยู่คลึงเคล้นไปมาไม่ยอมหยุด ทั้งเต้าซ้ายเต้าขวาโดนขยำจนแทบจะแหลกเละไปกับมือของเขา

“อูยยยย...”

อาจารย์สาวร้องครางเริ่มบิดตัวดิ้นไปมา เขาลุกขึ้นยืนแล้วดึงเธอให้ลุกขึ้นตาม มือของเขาลดลงไปใต้กระโปรง ลูบคลำที่ก้นอวบงามกลมกลึงของเธอแล้วบีบขยำไปมา อาจารย์สาวขาสั่นระริกแทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่จนต้องยื่นมือไปยึดขอบโต๊ะเพื่อ ยันตัวไว้ เขาอ้อมไปนั่งด้านหลัง จับเธอโก้งโค้งแล้วเลิกกระโปรงขึ้นไปกองอยู่ที่เอว มือแหวกแก้มก้นที่เปล่าเปลือยเกลี้ยงเกลาทั้งสองข้างของเธอออก หม้อใบกะทัดรัดทะเล็ดออกมาใต้ก้นกลมอวบวับๆแวมๆเป็นเนื้อนูนโหนก อาจารย์หนุ่มยืนเป้าแข็งตุงจนแทบระเบิดกับภาพที่เห็น เขาเริ่มทำการสำรวจร่องหลืบลึกลับของธัญรดาต่อไปอย่างหื่นกระหาย... เริ่มด้วยนิ้ว.... ก่อนจะฝังหน้าลงโลมลิ้นไปที่รูน้อยๆนั้น พร้อมกับดูดเลียอย่างไม่รังเกียจ

“อุ๊ยย...อาจารย์ อย่าค่ะ...อย่า” ธัญรดาร้องอุทธรณ์ หน้าแดงซ่านด้วยความอาย แต่เขาหาสนใจไม่ ลิ้นนั้นตวัดไปมาอย่างชำนิชำนาญ อาจารย์สาวสะดุ้งเกร็งด้วยความเสียว เธอถึงกับตะปบมือไปจิกหนังศีรษะเขาจนจมูกจมลงไปที่ร่องก้นจนหายใจแทบไม่ออก เขาดูดเลียจนพอใจแล้วจึงจับเธอหันกลับมา

"ถลกกระโปรงขึ้นซิอาจารย์ ผมอยากจะดูหีคุณ"

เขาตั้งใจจะพูดหยาบๆกับเธอ มันช่างสะใจยิ่งนักที่ได้พูดอย่างนี้กับอาจารย์สาวคนสวยอย่างธัญรดา เขาชอบที่จะพูดย่ำยีเธอ เขาชอบที่จะเห็นท่าทางอับอายของเธอ มันช่างกระตุ้นอารมณ์หื่นๆของเขาได้อย่างประหลาด

เลือดสูบฉีดขึ้นไปทั่วใบหน้า จนหน้าขาวๆนั้นแดงระเรื่อ มือน้อยๆของเธอค่อยๆเลิกกระโปรงขึ้นสูง อาจารย์หนุ่มตาลุกวาวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ถึงจะเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็ยังสร้างความตื่นเต้นให้เขาอย่างสุดขีดเหมือนเดิม เขาอยากจะจ้องมองมันอย่างนี้ มองทั้งวันได้อย่างไม่รู้เบื่อ มันช่างสวยงามและเย้ายวนเสียเหลือเกิน...


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #5 on: January 07, 2010, 10:28:41 am
หลง #8
..........

ความสาวของธัญรดาเปล่าเปลือยเกลี้ยงเกลาด้วยฝีมือการโกนของเขาเอง เขายิ้มอย่างพึงพอใจ จับเธอให้ถ่างขาออกไปอีก
"เข้ามาใกล้ๆ" เขาสั่ง
อาจารย์สาวขยับเท้าเข้ามาทั้งๆที่ยังถ่างขาอยู่อย่างนั้น
"เอาขาวางบนเก้าอี้นี่"

เธอทำตามที่เขาบอก อาจารย์ชาตรียิ้มอย่างพอใจ เขาเอามือตะปบลงไปตรงโคกนูนอย่างแรงจนเธอถึงกับแอ่นก้นไปด้านหลัง

“ชอบมั๊ย” เขาถามขณะที่คลึงเคล้าไปมา อาจารย์สาวก้มหน้าเงียบไม่ยอมตอบ

อาจารย์หนุ่มก้มลงดูดดื่มความหอมหวานจากร่องหลืบของเธออย่างหิวกระหาย มือของเขาแหวกกลีบแคมทั้งสองข้างออก แล้วเอานิ้วเขี่ยไปที่ติ่งเนื้อเล็กๆที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ
“อูยยยย.....”
อาจารย์สาวเผลอครางออกมา เพียงการตวัดโลมไล้ไม่กี่ครั้งก็เล่นเอาอาจารย์สาวผู้อ่อนประสบการณ์ตัวอ่อนระทวยแทบจะยืนไม่อยู่

“ขึ้นไปบนโต๊ะดีกว่าอาจารย์ ผมจะได้เลียหีคุณได้ถนัดๆ”

เขาว่าแล้วจับร่างอวบอึ๋มขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ พร้อมกับแหกขาอาจารย์สาวออกจากกันจนอ้าซ่า อาจารย์สาวหลับตาปี๋ขณะที่เขาใช้นิ้วเขี่ยไปมาที่ติ่งเนื้อเล็กๆนั้น อาจารย์สาวสั่นสะท้าน สยิวกายออกมาอย่างอดไม่อยู่ หน้าสวยๆใสๆเริ่มบิดเบี้ยวเหยเกผิดรูป มือน้อยๆปัดผมที่เริ่มรุ่ยสลายออกมาปรกหน้า อาจารย์หนุ่มเขี่ยไปมองหน้าเธอไปอย่างหื่นกระหาย

"คุณเซ็กซี่เหลือเกินที่รัก รู้ตัวมั๊ย ว่าคุณน่ะเซ็กส์มากเลย ผมโชคดีจริงๆ"

เขาพึมพำอย่างพึงพอใจ อาจารย์สาวพุดไม่ออก เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดพรายเต็มใบหน้านวลใส เธอแหงนหน้าครางออกมาเบาๆขณะที่อาจารย์ชาตรี ก้มหน้าลงไปดูดดื่มน้ำหวานของเธอต่อ แถมมือของเขายังจับขาของเธอให้แบะกว้างออกไปอีกทั้งๆที่มันก็ถ่างจนเกือบจะ เต็มที่อยู่แล้ว

“อืมมมม...หอมมาก... อร่อยมาก ชื่นใจจริงๆ ที่รัก”

เขาละใบหน้าออกจากความสาวเธอ พร้อมกับส่งนิ้วเข้าไปทำหน้าที่แทนลิ้น เขาเขี่ยติ่งเนื้อนั้นสลับกับขยับนิ้วดึงเข้าออกจากช้าๆนุ่มนวล แล้วเร่งสปีดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงจ๊อบแจ๊บดังขึ้น เพราะน้ำหล่อลื่นของอาจารย์สาวเริ่มหลั่งออกมาเรื่อยๆ พร้อมกับกระฉอกออกมาตามจังหวะนิ้วเขา อาจารย์สาวบิดเกร็งร้องครวญครางลั่นอย่างลืมอาย อาจารย์หนุ่มยิ้มกริ่มจ้อมงมองใบหน้าของเธอตลอดเวลา เขาชอบเห็นหน้าสวยๆยามที่บิดเบี้ยวครวญครางของเธอยิ่งนัก มันช่างยั่วยวนสะใจเขาอย่างบอกไม่ถูก

ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่า อาจารย์สาวลืมตาปรือขึ้นน้อยๆ พอเห็นสัดส่วนของเขาพองโตแผ่บานอย่างหื่นกระหายเต็มที่ก็หวาดหวั่น แม้เธอจะเคยเห็นเคยโดนมาแล้ว แต่เมื่อมันมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้งมัน เธอก็ยังหวาดกลัวอยู่ดี

"ยังกลัวอีกอยู่หรืออาจารย์ เอาน่า โดนเอาบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชอบ" อาจารย์หนุ่มพูดยิ้มๆ แล้วเขาก็ทำให้เธอประหลาดใจ ด้วยการลุกขึ้นไปนอนบนโต๊ะ
"มาซิคนสวย... ถ่างขาออกแล้วนั่งมาบนหน้าผมนี่"
"อุ๊ย" อาจารย์สาวอุทานหน้าแดงก่ำด้วยความอาย
"ผมบอกให้มานั่งบนนี้... เร็ว"
"ไม่เอา.. ดาไม่อยากทำ...อย่าให้ดาทำแบบนี้เลยค่ะ" เธออ้อนวอน
"อยากเจ็บตัวรึไง มาเร็ว"
อาจารย์สาวหน้าแดง อิดเอื้อนไปมา แต่ภายใต้การข่มขู่ของเขา ในที่สุดเธอก็ไม่กล้าขัดขืน จำเป็นต้องปีนขึ้นไปบนโต๊ะ แล้วแยกขาออกยืนคร่อมอยู่ตรงศีรษะเขา แต่เธอยืนอยู่นานเหมือนจะลังเล จนอาจารย์หนุ่มเริ่มรำคาญ
"นั่งลงมาซิวะ ชักจะโมโหแล้วนะโว๊ย" เขาตะคอก
นั่นแหละ เธอถึงจะยอมนั่งยองๆ ขยับให้ความสาวของเธอจ่ออยู่ตรงปากของเขา คิ้วเรียวสวยของเธอขมวดแอบค้อนเขาด้วยความไม่พอใจ ข้างฝ่ายอาจารย์หนุ่มพอเห็นความสาวที่ขาวเกลี้ยงเกลาจ่ออยู่ตรงหน้า ก็รีบสอดลิ้นเข้าไปในร่องหลืบของเธออย่างหิวกระหาย เขาตวัดลิ้นควานไปทั่วอณาบริเวณร่องหลืบที่เปียกชุ่มของเธออย่างพอใจ

ธัญรดาขยับก้นไปมาด้วยความเสียวสยิว ทั้งอับอายทั้งเสียวสะท้านปั่นป่วนไปหมดทั้งตัว มือของอาจารย์หนุ่มจับแก้มก้นของเธอแหวกออกแล้วไล้นิ้วไปที่รูน้อยๆที่ ขาวสะอาด ขณะที่ลิ้นยังจู่โจมอย่างชำนิชำนาญไม่หยุด อาจารย์สาวได้แต่นั่งบิดกายไปมาอยู่ตลอดเวลา

สักพักเขาผลักเธอขึ้นแล้วร้องว่า

"พอแล้วอาจารย์ ไปนั่งคล่อมบนควยผมได้แล้ว"

ไม่มีการขัดขืนใดๆ ธัญรดาทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย เขาจับเธอกลับหลังหันหลัง อาจารย์สาวค่อยๆหย่อนก้นลงไป แล้วจับท่อนเนื้อให้จ่อตรงความสาวของเธอ พร้อมกับค่อยๆนั่งลงไป ปล่อยให้มันสอดเข้าไปช้าๆจนสุด มันคับตึงจนเธอรู้สึกแน่นไปหมด เขาเอื้อมมือมาจากด้านหลัง ขยำเต้านมอวบอั๋นของเธออย่างเมามัน

“อย่านั่งเฉยๆ ขยับตัวซิ” เขาสั่ง

อาจารย์สาวเริ่มขยับเขยื้อนขึ้นลงช้าๆ แล้วแรง เร็วขึ้นเรื่อยๆ คราวนี้อาจารย์หนุ่มถึงกับครางลั่นด้วยความเสียว มือขยำบีบเคล้นนมของเธอหนักขึ้นอย่างลืมตัว อาจารย์สาวก้มๆเงยๆ หลับตาปี๋ สะบัดหน้าจนผมกระจาย ปากก็ส่งเสียงครวญครางออกมาตลอดเวลา

“อูยยย...ยอด..ยอดด...คุณควบเก่งมาก...อูยยยย” อาจารย์หนุ่มครางลั่น

เขาดึงร่างเธอให้เอนหลังลง ทำให้เธออยู่ในสภาที่ต้องต้องแอ่นด้านหน้าไว้ ขณะที่ยังขยับขโยกไม่ยอมหยุด เต้านมอวบขาวนั้นสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง ขาเรียวสวยทั้งสองข้างเกร็งเต็มที่

อาจารย์ชาตรีมองดูลำคอ แลแผ่นหลังที่ขาวผ่องของเธออย่างหลงใหล มันนวลเนียน ละเอียดขาวเป็นประกาย บอกให้รู้ว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากเจ้าของ เขาลูบไล้ไปมา พร้อมกับดึงเธอเข้ามาลงสูดดมความหอมกรุ่นจากเนื้อขาวๆที่คอของเธอ หญิงสาวสั่นระริกครวญครางเมื่อเขาขยับเอวส่ายไปมาขณะที่เธอยังขโยกอยู่ มือของอาจารย์หนุ่มสอดกลับเข้ามามาคลึงเคล้นเต้านมเธออีกครั้งอย่างเมามัน

โอ..มันช่างอวบนุ่ม อ่อนหยุ่นเต็มไม้สบายมือดีเหลือเกิน เธอช่างหอมหวานไปทั้งตัว... น่ากินไปทุกส่วนจริงๆ

อาจารย์สาวเริ่มขยับเขยื้อนตัวช้าลงเหมือนกับจะหมดแรง เหงื่อออกโทรมเต็มไปหมดทั้งตัว ดังนั้นอาจารย์หนุ่มจึงเป็นฝ่ายที่ต้องที่ช่วยขยับเขยื้อนเด้งขึ้นแทน เขาาจับเอวของเธอไว้ พร้อมกับกระเด้าขึ้นไปอย่างหนักหน่วง ปากก็สูดร้องครวญครางอย่างสะใจ

หลังจากทำท่านั้นอยู่ได้อีกพักหนึ่ง อาจารย์หนุ่มก็เริ่มจะหมดแรงเพราะต้องออกแรงยกก้นของเธอขึ้นลงตลอดเวลา

“พอก่อนดีกว่าอาจารย์ ผมเมื่อยว่ะ เปลี่ยนท่ามั่งดีกว่า”

เขาว่าแล้วประคองเธอลุกขึ้นลงจากโต๊ะ จับอาจารย์สาวให้หันหลังไปเกาะขอบโต๊ะไว้ ส่วนตัวเขาขยับไปยืนด้านหลัง แล้วสอดเข้าไปในร่องหลืบของเธออีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มกระเด้าอย่างหนักหน่วงในทันที

“ซี๊ดดด...อูยยยย....คับชิบเป๋งเลย..หีดีจริงๆ.” อาจารย์หนุ่มกระเด้าไปครวญครางไปอย่างเสียวซ่านในอารมณ์

อาจารย์สาวโดนล่อเข้าไปหลายท่าเล่นเอาตัวอ่อนระทวยไปหมด เสียวจนแทบจะขาดใจ ขาทั้งสองข้างสั่นระริก รู้สึกอ่อนปวกเปียกหมดเรี่ยวแรง อยากจะล้มตัวลงไปนอนกับพื้นอย่างเดียว แต่อาจารย์ชาตรียังไม่หายสนุก เขายึดเอวของเธอไว้ไม่ให้ดิ้นหนีพร้อมกับขยับกระแทกกระทั้นหนักหน่วงขึ้น เรื่อยๆตลอดเวลา

“อูยยย...เสียวมั๊ย..เสียวมั๊ยยย...อาจารย์” เขาพึมพำถามซ้ำไปซ้ำมา
“อูยยย..เสียว..เสียวค่ะ..ซี๊ด...” คราวนี้อาจารย์สาวเผลอตอบเสียงสั่นด้วยความลืมตัว เล่นเอาอาจารย์หนุ่มถีงกับยิ้มหน้าบานด้วยความพอใจ

ขาของอาจารยฺ์สาวขยับไปมาอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็อ่อนระทวยทรุดลงทำท่าจะล้มไปกับพื้น แต่อาจารย์หนุ่มช่วยดึงประคองเธอไว้ แต่เขาไม่เคยหยุดยั้งการขยับเขยื้อนกระแทกกระทั้นนั้นเลย อาจารย์สาวสะบัดหน้าเร่า เหงื่อแตกโทรมเต็มร่าง หน้าแดงก่ำด้วยเลือดที่สูบฉีดขึ้นมาหล่อเลี้ยงเต็มที่ พร้อมกับหอบหายใจแรง

ด้วยความหมดแรง ทำให้อาจารย์สาวก้มหน้าไปแนบกับพื้นกระจกบนโต๊ะ เขากระแทกกระทั้นจนหน้าเธอถูไถไปมา หญิงสาวแทบจะขาดใจตาย หมดแรงที่จะต่อต้าน ขัดขืน ปล่อยให้เขากระแทกกระทั้นอยู่ข้างเดียว

“อูยยย...มันส์...ชอบแรงๆแบบนี้ใช่มั๊ย ...ใช่มั๊ย ... ตอบซิ” เขาถาม
“ค่ะ..ค่ะ...แรง...แรงอีก...อูยยยย...ซี๊ด...” อาจารย์สาวครวญคราง

ชาตรียิ้มกริ่ม มือยึดจับอยู่ที่สะโพกของเธอ ดึงเข้าออกให้ผสานกับจังหวะการกระเด้าของเขา นมของเธอแกว่งไกวไปมา สั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรงจนดูเหมือนจะหลุดออกจากเต้าเสียให้ได้ ตอนนี้ธัญรดาได้ถึงจุดสุดยอดไปสองครั้งแล้ว แต่อาจารย์หนุ่มยังไม่มีทีท่าจะเสร็จเลย เขาช่างอึดเหลือเกิน …

จากความเจ็บปวดในตอนแรกกลายมาเป็นความเสียว และจากความเสียวก็เริ่มกลับมาเป็นความเจ็บอีกครั้ง เพราะเธอโดนกระเด้าไม่หยุดอยู่เป็นเวลานาน ตอนนี้เธอทั้งแสบและเจ็บระบมไปหมดแล้ว เธอเริ่มออกอาการดิ้นรนเพื่อให้ร่างเปล่าเปลือยหลุดพ้นจากการกระเด้าอย่าง หนักหน่วงไม่ยอมหยุดของเขา แต่ก็ดูจะเป็นการเพิ่มความสนุกสนานให้กับอีกฝ่ายหนึ่งด้วยซ้ำ

“อาจารย์.... ดาไม่ไหวแล้ว พอเถอะ...ได้โปรด...”
“อุยยยย...พอได้ไง..ผมยังไม่ถึงเลย..แต่....อาจารย์ดิ้นอย่างนี้ก็ดี..ดิ้นเข้าไป ดิ้นเข้าไป..อย่างนี้ผมชอบ..อูยยยย”

อาจารย์สาวเจ็บแสบไปหมดทั้งความสาว ร่ำไห้จนน้ำตานองหน้า ร้องวิงวอนให้เขาหยุด แต่เขากลับกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงหนักหน่วงขึ้น ราวกับว่าเสียงวิงวอนของเธอจะช่วยกระตุ้นอารมณ์หื่นกระหายให้เขาอย่างแปลก ประหลาด

ร่างอวบอั๋นของอาจารย์สาวถูกพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่ตลอดเวลา ตัวของเธออ่อนแรงหมดสภาพ เงียบกริบปล่อยให้เขากระหน่ำกระแทกอย่างสะใจ กว่าที่เขาจะเสร็จเธอก็อ่อนระทวยไปหมดทั้งตัว ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นแต่งตัว...


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #6 on: January 07, 2010, 10:29:05 am
หลง #9
..........

มันเป็นเวลาเย็น แสงแดดอ่อนๆสาดผ่านแนวพุ่มไม้เข้ามาในบริเวณริมสระน้ำ ปริษากำลังนอนพักผ่อนอยู่ที่เตียงผ้าใบริมสระน้ำส่วนตัว หญิงสาวสวมนอนหลับพริ้มอย่างสบายใจ

“สวัสดีค่ะ คุณแม่ “ เสียงลูกสาวคนเล็กดังขึ้น “นี่อาจารย์ธวัชชัย อาจารย์ของหนูค่ะ” กมลวรรณแนะนำ เพื่อนชายให้กับเธอ

ปริษาได้ยินเสียงลูกสาวคนเล็กก็ลืมตาหันมามอง แล้วเธอก็สะดุ้งเมื่อเห็นว่าอาจารย์หนุ่มที่กมลวรรณแนะนำนั้นก็คือผู้ชายที่ ไปหากนกวรรณที่ร้านอัญมณีนั่นเอง

ธวัชชัยเองก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่กระนั้นก็ไม่ยอมเสียมารยาท รีบยกมือไหว้
“สวัสดีครับ คุณน้า”
“สวัสดีค่ะ” ปริษารับไหว้ คิ้วขมวดมุ่น

ธวัชชัยกลืนน้ำลายเอื๊อก เมื่อพบว่าปริษาอยู่ในชุดว่ายน้ำสีขาวสะอาด ชุดว่ายน้ำนั้นรัดรูป จนเห็นทรวงอกอวบอัดขนาดใหญ่ ช่วงคอของชุดว่ายน้ำนั้นคว้านลึกจนเห็นร่องอกเบียดชิดขาวลออ... เอวของเธอคอดกิ่ว.. ต้นขาอวบใหญ่ขาวนวลเนียน และเหนืออื่นใด ที่ตรงกลางเหนือต้นขานั้นอวบอูมนูนเป็นพลูโหนกนูนอย่างเหลือเชื่อ!

ปริษาไม่ทันสังเกตท่าทีของเขา ด้วยอยู่ในอาการงุนงง... เธอเป็นคนบอกให้กมลวรรณพาเพื่อนชายมาแนะนำเอง แต่หญิงสาวคาดไม่ถึงว่าคนที่มาจีบลูกสาวคนเล็กของเธอ จะเป็นคนเดียวกับที่ไปหาลูกสาวคนโตของเธอ ...นี่เขาจะจีบใครกันแน่

“จะเล่นน้ำกันใช่มั๊ย งั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนซิ” ปริษาร้องสั่ง เธอยังไม่อยากซักไซ้เขาเรื่องนี้ หญิงสาวไม่อยากให้ลูกสาวต้องเสียใจ

“ค่ะคุณแม่” กมลวรรณรับคำ แล้วหันไปพยักหน้าชวนชายหนุ่มไปเปลี่ยนชุด

..........

“ช่วยผมหน่อยนะหวาน ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ” ธวัชชัยระล่ะระลักบอก
กมลวรรณนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา กางเกงในของชายหนุ่มโป่งพองดันกางเกงอาบน้ำตัวจิ๋วจนเห็นเป็นลำ กมลวรรณอับอายจนหน้าแดงฉาน ตัดพ้อ
“ทำไม.. ทำไมพี่ต้องบังคับให้หวานทำแบบนี้... พี่ไม่รักหวานเลย”
“เปล่า..ไม่ใช่อย่างนั้น... หวานก็รู้ว่าพี่ออกไปอย่างนี้ไม่ได้ หวานต้องช่วยพี่”
“แต่หวาน...หวานไม่เคยทำแบบนี้เลย”
“พี่จะสอนให้ ก่อนอื่นดึงกางเกงอาบน้ำพี่ลงก่อน” เขาสั่ง

กมลวรรณเอื้อมมืออันสั่นเทาเข้าไป ดึงมันลงมา หญิงสาวหลับตาปี๋ ขณะที่มันเด้งดึ๋งออกมาเป็นอิสระ
“อย่าหลับตาสิหวาน ลืมตาขึ้นมามอง หวานต้องทำมันนะ”

เด็กสาวค่อยๆลืมตาช้าๆ มองมันอย่างหวั่นเกรง ไม่เคยเลยที่เธอจะเห็นมันชัดๆอย่างนี้ มันผงาดง้ำอยู่ตรงหน้า หัวบานอย่างน่ากลัว ดวงตากลมโตของเธอระริกด้วยความพรั่นพรึง

ธวัชชัยกำลังอยู่ในอารมณ์กระสันปั่นป่วนเป็นที่สุด เขาไม่อาจบอกให้กมลวรรณรู้ได้ว่าทำไมเขาจึงเกิดอาการอย่างนี้ มันเป็นเพราะแม่ของเด็กสาวเองที่กระตุ้นอารมณ์เขาให้ลุกโชนเหมือนลูกโป่งที่ ถูกอัดลมจนแทบระเบิด...

ผู้หญิงที่เติบโตเต็มวัยใบหน้าหวานพราวเสน่ห์...
ผู้หญิงที่งามสง่า ลำคอระหง ผิวขาวลออตา...
ผู้หญิงหุ่นอวบอัดในชุดว่ายน้ำสีขาว เต้านมล้นหลามจนแทบทะลัก...
โอ...เขาทนไม่ไหวแล้ว...
เขาจำเป็นต้องระบายออก....

“อ้าปากออก แล้วค่อยๆ เลียให้พี่ก่อน ช้าๆ”

กมลวรรณ ฝืนใจยื่นหน้าเข้าไปหามัน แตะเข้าไปที่ผิวของมันก่อน จากนั้นก็ค่อยๆไล้ปลายลิ้นลงไป กลิ่นของมันคาวแตะจมูก เธอรู้สึกคลื่นไส้ในลำคอ ถอนใบหน้าออก หอมหายใจหนักๆ

“พี่คะ หวานจะอาเจียน” กมลวรรณตัดพ้อ ดวงตาแดงก่ำพร้อมจะร้องไห้ออกมาทุกขณะ...


หลง #10
..........

แม้จะโหมกระหน่ำอยู่กับกมลวรรณ แต่จินตนาการของเขาล่องลอยไปถึงแม่ของเธอ “ปริษา” โคกสวาทที่โหนกนูนอยู่ใต้ชุดว่ายน้ำสีขาวนั้นกระจ่างอยู่ในมโนสำนึก อยากรู้จริงๆว่า ความสาวที่ซ่อนอยู่ระหว่างต้นขาขาวผุดผาดนั้นจะงามสะพรั่งอยู่แค่ไหน หัวใจของเขาเต้นโครมครามร้อนระอุไปหมด เขาอยากเห็นมันจริงๆ เขาอยากจะดึงผ้าส่วนนั้นออก แล้วจะเพ่งมองไปทุกซอกทุกมุม จากนั้นก็จะใช้นิ้วลองคะเนความตื้นลึกดู โอ.. ปริษาคนสวย ทำไมคุณจึงเสน่ห์แรงบาดใจเขาได้มากถึงขนาดนี้...

“อูยยยย...คุณน้า...ผมอยากเอาคุณน้าเหลือเกิน ..ใจผมจะขาดอยู่แล้ว...อูยยย..”

ชายหนุ่มแอบเพ้อพร่ำครวญครางอยู่ในใจ เขาอยากจะตะโกนออกมาดังๆด้วยความอัดอั้นตันใจ แต่ก็ทำไม่ได้ด้วยเกรงว่ากมลวรรณจะรู้ว่าเขาคิดไม่ดีกับแม่ของเธอ...

แต่เสน่ห์ของปริษาทำให้เขาหยุดคิดถึงไม่ได้.... ความต้องการในตัวเธอดูจะทวีมากขึ้นเป็นร้อยๆพันๆเท่า โดยเฉพาะในขณะที่กำลังโหมกระหน่ำใส่ปากลูกสาวของเธออยู่แบบนี้!

ธวัชชัยโหมจังหวะเต็มเหนี่ยว ในที่สุดกระแสแห่งความสุขก็โบยบินไป มันพุ่งเข้าไปในปากของเด็กสาวจนเธอสำลัก เขากดศีรษะเธอไว้แน่นไม่ให้เธอคายออก แต่มันล้นทะลักออกมาตามริมฝีปาก ไหลย้อยลงมาตามคาง...

สักพักเขาจึงยอมให้เธอถอนใบหน้าออก…

หญิงสาวรีบลุกขึ้นวิ่งกลับไปในห้องน้ำ เสียงร่ำไห้ เสียงอาเจียนโครกครากดังลั่นออกมา....

..........

ภายในอณาบริเวณลานต้นลีลาวดี หญิงสาวในชุดนักศึกษาคนหนึ่งกำลังเหม่อมองไปที่สระน้ำของมหาวิทยาลัย น้ำตาไหลพรากๆอย่างไม่ขาดสาย บอกให้เห็นถึงอาการเศร้าเสียใจอย่างล้นเหลือ

อาจารย์ธวัชชัย.... เขาเป็นชายคนแรกและคนเดียวของเธอ เธอทั้งรักและภักดีต่อเขา ยอมมอบทั้งกายและใจ แต่เขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอเลย

ดูเอาเถอะเกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ เขาจะโทรมาปลอบโยนซักนิดก็ไม่มี หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ ….

ความรักของอาจารย์ธวัชชัยนั้น...
เหมือนพระจันทร์ในน้ำ...
เหมือนหมอกควันในอากาศ..
มองเห็นได้..แต่ไม่อาจไขว่คว้าได้จริง..
ผู้หญิงคนไหนปล่อยใจให้ “หลง”
ก็มีแต่จะเจ็บช้ำใจ....


บัดนี้หญิงสาวได้รู้ซึ้งแล้วว่า เขาไม่ได้รักเธอและห่วงเธอเลย เขาคบกับเธอก็เพียงแค่จะหลอกฟันเท่านั้นเอง หญิงสาวเจ็บใจเหลือเกิน แต่จะโทษใครล่ะ ก็ตัวเองที่โง่เขลาหลงไปกับคำหวานของเขา...

หญิงสาวคิดสะเปะสะปะ โกรธอาจารย์หนุ่ม แล้วเลยไปโกรธถึงรุ่นพี่คู่กัด

พี่แพมก็เหมือนกัน เป็นถึงดาวมหาลัย มีผู้ชายมาให้เลือกตั้งเยอะ ทำไมถึงต้องมาแย่งคนรักของเธอ

โลกนี้มันจะหาคนดีๆซักคนไม่ได้เลยรึไง...

“น้องแนนครับ พี่ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
เสียงนุ่มนวลดังขึ้น

“พี่จิ” หญิงสาวอุทาน รีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตา จากนั้นก็หยิบกระเป๋ามาสะพาย ทำท่าจะลุกขึ้น แต่จิรพนธ์คว้าข้อมือเธอไว้
“เดี๋ยวซิครับ นั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ซักครู่ได้มั๊ยครับ”
เสียงของเขานุ่มนวลและแฝงแววเว้าวอน ทำให้เธอยอมที่จะนั่งต่อ
“พี่สงสารแนนเหลือเกิน” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ พลางหันไปมองเธอ

แต่หญิงสาวยังคงเหม่อมองไปที่สระน้ำราวกับอยู่เพียงลำพัง
จิรพนธ์รู้ดีว่าเธอกำลังฟังเขาอยู่
“พี่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอาจารย์ธวัชชัยจึงทำแบบนี้กับแนน”

หัวไหล่ของเธอไหวสะท้านเบาๆ ซึ่ง จิรพนธ์สังเกตเห็นอย่างชัดตา ชายหนุ่มรู้ว่าคำพูดของเขาโดนใจเธออย่างแรง

“อาจารย์ไม่ควรทำแบบนี้เลย พี่เจ็บใจแทนแนนเหลือเกิน เขาทำอย่างนี้กับคนที่น่ารักแบบน้องแนนได้ยังไง” เขาพูดย้ำ
หญิงสาวหันมามองหน้าเขา ดวงตาของเธอวาววามและคลอด้วยหยาดน้ำ
“สวยเหลือเกิน” ชายหนุ่มคิดในใจ

“พี่จิคิดอะไรอยู่คะ นี่มันเรื่องส่วนตัวของแนน”
“ก็เพราะพี่จิเป็นห่วงแนนไง” เสียงของเขาจริงจัง จนเธอรู้สึกหวั่นไหว
หญิงสาวหันกลับไปมองสระน้ำอีกครั้ง

“ตัดใจจากอาจารย์เถอะแนน ถ้าแนนไม่หลอกตัวเอง ก็น่าจะรู้ว่าอาจารย์ไม่ได้รักแนนเลย”
หญิงสาวหันขวับมาจ้องหน้าเขา ริมฝีปากของเธอสั่นระริก
“พี่จิจะมาเยาะเย้ยแนนหรือคะ” ดวงตาเธอจ้องหน้าเขาเหมือนจะคาดคั้น
“ตรงกันข้าม พี่ต้องการจะปลอบโยนแนนต่างหากล่ะ”
หญิงสาวหยิบกระเป๋ามาสะพายอีกครั้ง
“นั่งคุยกับพี่เถอะ” เขาวอนอีกครั้ง “ถ้าอยู่คนเดียวจะยิ่งคิดมาก พี่ขอรับรองว่าพี่หวังดีต่อแนนอย่างจริงใจ พี่ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นแนนเศร้าแบบนี้” เขาหยุดไปชั่วครู่ แล้วกล่าวต่อ “พี่รู้ว่า ตอนนี้ คำพูดอะไรตอนนี้ก็ยากที่จะทำให้แนนหายเศร้า แต่แนนจะต้องตัดใจ หาอะไรทำ จะได้ไม่ต้องคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องนี้”
“แต่แนน แนนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้วพี่จิ แนนทุกข์ใจเหลือเกิน”
ชายหนุ่มแอบยิ้มในใจ ในที่สุดหญิงสาวก็ยอมระบายความในใจกับเขา

“ก็เพราะว่าแนนรักอาจารย์จริงๆไงล่ะ ผู้หญิงก็อย่างนี้เวลารักใครจะรักจริงแบบไม่เหลือใจไว้ให้กับตัวเองเลย”
“แล้วผู้ชายไม่เป็นอย่างนี้หรือคะ”
“ก็แล้วแต่คน.. แต่ที่แน่ๆอาจารย์ธวัชชัยไม่ใช่คนแบบนี้ ไม่งั้นเขาคงไม่รานน้ำใจแนนแน่ๆ”
หญิงสาวขบริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด เธอเห็นด้วยกับจิรพนธ์

“ไอ้แมนมันจะจัดงานปาร์ตี้พรุ่งนี้ พี่อยากจะชวนแนนไปด้วย ไปสนุกเฮฮา ซะบ้าง รับรองว่าเดี๋ยวก็ลืมอาจารย์ได้”
“แต่แนนอยากจะอยู่คนเดียวมากกว่า” หญิงสาวพึมพำ
“แล้วก็เอาแต่ร้องไห้ล่ะซิ” เขาดุเธอเหมือนกับเธอเป็นเด็กๆ “ไม่ได้ พี่จะยอมให้แนนเป็นแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว พรุ่งนี้ พี่จะไปรับแนนตอนเก้าโมงเช้า เราไปเที่ยว ดูหนังอะไรให้สบายก่อน แล้วตอนค่ำก็ไปงานปาร์ตี้กัน” เขาพูด
“ไม่ได้หรอกค่ะ พี่จิ ตอนเช้าแนนมีเรียน ถึงบ่ายสองเลย”
“ก็ได้ ถ้างั้นบ่ายสองพี่ค่อยมารับแนน” เขาพูดเองเออเอง จนหญิงสาวงง
“มาเถอะ ไปทานข้าวกัน แล้วพี่จะไปส่ง” เขายื่นมือมาให้
แนนส่งมือให้เขา ปล่อยให้จิรพนธ์พาเธอไปที่รถ

..............................................

“แนน พี่อยู่นี่” จิรพนธ์ร้องเรียกเมื่อเห็นแนนเดินออกมาจากอาคารเรียน เขามารอเธออยู่สิบกว่านาทีแล้ว
“ขอโทษนะคะพี่จิ แนนออกมาช้าไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับ พี่เพิ่งมาถึงไม่นาน น้องแนนทานข้าวกลางวันรึยัง”
“ทานแล้วค่ะ”
“งั้นเราไปดูหนังกันก่อนดีกว่า กว่าหนังจะจบก็ใกล้เวลางานพอดี”
“ให้แนนกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนดีมั๊ยคะพี่จิ”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง” จิรพนธ์รีบโบกไม้โบกมือห้าม “ชุดนักศึกษาอย่างนี้ดีแล้ว งานปาร์ตี้แบบสบายๆ คนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสียเวลา”

จากนั้นจิรพนธ์ก็พาหญิงสาวไปขึ้นรถ ตลอดเวลาชายหนุ่มเทคแคร์เธอเป็นอย่างดี ทำให้แนนลืมความทุกข์ไปชั่วขณะ หญิงสาวรู้สึกซึ้งในน้ำใจเขาเหลือเกิน จิรพนธ์ไม่เพียงแต่จะเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดี แต่เขายังเป็นสุภาพบุรุษ เอาใจเก่ง พูดเพราะ เขาพาเธอไปดูหนัง เสร็จก็ชวนเธอไปเดินช็อปปิ้งที่ห้างแห่งหนึ่งเพื่อฆ่าเวลา และเมื่อเห็นเธอสนใจอะไร เขาก็ซื้อให้โดยที่เธอไม่ได้ร้องขอ หญิงสาวเกรงใจเขายิ่งนัก แต่จิรพนธ์ก็คะยั้นคะยอให้เธอรับไว้จนได้

จิรพนธ์ช่างเป็นชายหนุ่มที่วิเศษเหลือเกิน ต่างกับอาจารย์ธวัชชัยลิบลับ!

..............................................

แล้วเวลางานก็มาถึง จิรพนธ์พาเธอมาที่บ้านหลังหนึ่ง มันเป็นบ้านสองชั้นขนาดใหญ่ มีอณาบริเวณกว้างขวางพอสมควร มีโรงรถสำหรับจอดรถได้ถึงสี่คัน ซึ่งถูกจอดเต็มหมด แถมยังเลยมาจอดบนถนนอีกสามคัน รถแต่ละคันถ้าไม่ใช่สปอร์ท ก็เป็นรถหรูราคาแพงทั้งสิ้น ซึ่งบอกให้รู้ว่าแขกที่มาในงานปาร์ตี้ล้วนแต่เป็นคนมีฐานะดีกันทั้งสิ้น เสียงเพลงในบ้านเปิดดังลั่น จนได้ยินมาถึงข้างนอก

“มาเถอะ” จิรพนธ์ชวนเธอ ในขณะที่กดรีโมทล็อครถเสร็จเรียบร้อย

เขาพาเธอขึ้นบันไดสองสามขั้นมาถึงหน้าประตู

เขาผลักประตูเปิดออก แล้วหันไปยิ้มให้เธอ
“เชิญครับ”

หญิงสาวยิ้มตอบแล้วเข้าไปในห้อง แต่พอสายตากวาดมองเข้าไปเห็นสภาพในห้อง ก็ตกตะลึงพรึงเพริด

สัมผัสแรกที่ได้รับก็คือกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่อบอวลเต็มไปหมด ภายในห้องมีชายหนุ่มอยู่เกือบสิบคน แต่เธอรู้จักอยู่เพียงสามคนเท่านั้น ทุกคนอยู่ในอากัปกิริยาแตกต่างกัน บางคนกำลังนั่งดูทีวี บางคนกำลังเต้นอย่างสนุกอย่างสุดเหวี่ยง บางคนกำลังนั่งล้อมวงกินเหล้า สูบบุหรี่

ผู้ชายเหล่านั้นบางคนก็แต่งตัวดี...
แต่ก็มีบางคนนั่งเปลือยกายท่อนบน...
ในขณะที่บางคนสวมกางเกงในตัวเดียวเท่านั้น!!!

ทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียว ก่อนที่เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจจะดังจนลั่นห้อง

“มาแล้วหรือครับ น้องแนน”
“น่ารักจังเลย น่ารักที่ซู๊ด”

แนนตกใจแทบสิ้นสติ ขณะกำลังจะหันมาต่อว่าจิรพนธ์ ชายหนุ่มก็ยกเท้าถีบเปรี้ยงไปที่ก้นกลมกลึงจนเธอเซถลาเข้าไปในห้อง

“ว๊ายยยยย”

หญิงสาวกรีดร้องลั่นห้อง ถลาล้มลงไปกระแทกพื้นอย่างรุนแรง

จิรพนธ์ปิดประตูล็อคทันที!

..............................................


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #7 on: January 07, 2010, 10:30:02 am
หลง #11

“เฮ้ย ไอ้จิ มึงอย่ารุนแรงกับน้องเค้าซิวะ ไอ้ห่า”
ชายหน้าตาดีร่างใหญ่คนหนึ่งตวาดด่าไอ้จิ แล้วเดินเข้าไปประคองนักศึกษาสาวเคราะห์ร้ายให้ลุกขึ้นจากพื้น
น้องแนนตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
“พี่..พี่จะทำอะไรแนน”
ชายร่างใหญ่ก้มลงหอมแก้มน้องแนนดังฟอด
“น้องแนนเห็นมั้ยว่าพวกพี่น่ะมีกันแปดคน ถ้าพวกพี่รุมข่มขืนน้องแนนพร้อมกันละก็ เห็นทีน้องแนนไม่หีฉีกก็หีบาน รับรองได้”
“พี่ พี่อย่าทำแนนเลย พี่ๆอยากได้เงินกันใช่มั้ย เดี๋ยวแนนจะหามาให้ ปล่อยแนนไปเถอะ”

ไอ้จิตะโกนว่า
“พี่เอก จะไปเสียเวลาคุยทำไมวะ เอาแม่งไปข่มขืนเลยดีกว่า พวกผมเงี่ยนกันแล้วนะโว้ย”
เสียงฮือฮาเห็นด้วยดังเอะอะไปหมด ไอ้เอกต้องตวาดดังๆ
“มึงเงียบเลยไอ้จิ กูไม่เบิร์ดกระโหลกมึงก็บุญแล้ว หนอยเสือกมาถีบน้องแนนกู”

พูดจบก็หันมาคุยกับน้องแนนซึ่งยืนตัวสั่นไม่หยุด
“เงินของน้องแนนน่ะพี่เอกไม่เอาหรอก พวกพี่มีตังกันทั้งนั้น แล้วยังจะแบ่งให้น้องแนนด้วย ถ้าน้องยอมให้พวกพี่ทั้งแปดคนเย็ด น้องแนนแค่ช่วยเด้ง ช่วยดูดให้พวกพี่ๆเท่านั้นเอง พี่เอกรับปากจะให้พวกมันทำกันแบบนุ่มนวล และจะให้ตังน้องแนนด้วย...”
น้องแนนร้องไห้ พยายามวิงวอนต่อ
“พี่เอก แนนไม่อยากได้ตัง ปล่อยแนนเถอะพี่เอก”
“ปล่อยไม่ได้ พี่ให้น้องเลือกได้สองทางแค่นั้น คือโดนแบบรุนแรง หรือโดนแบบนุ่มนวล คิดดูนะน้องแนน เอ้า พี่รับปาก พี่จะเก็บเงินพวกมันคนละห้าพัน รวมกันก็สี่หมื่น ไม่ใช่น้อยนะน้องแนน น้องแนนก็ไม่ได้ซิงๆซะหน่อย โดนอาจารย์ธวัชชัยเย็ดมาแล้ว นี่น้องแนนได้ตั้งสี่หมื่นแลกกับการโดนพวกเราเย็ดแค่แปดคนนี่คุ้มยิ่งกว่า คุ้มอีกนะน้องแนน”

“พี่เอก...แต่แนนไม่ไหวหรอกแปดคนน่ะ แนนไม่ไหวจริงๆ พี่เอก อย่าทำแนนเลย...”
ไอ้เอกหัวเราะอย่างใจเย็น กล่อมต่อ
“คือน้องแนนโดนเย็ดอยู่แล้วหละ แต่พวกพี่น่ะอยากให้น้องแนนสนุกด้วยมากกว่า ไม่อยากให้น้องแนนต้องเจ็บตัว เอาละพี่จะถามเป็นครั้งสุดท้ายเพราะพวกเพื่อนๆพี่เริ่มหงุดหงิดกํนแล้วเห็น มั้ย”
น้องแนนกวาดตามอง ก็เห็นจริงตามที่ไอ้เอกบอก ใจเต้นโครมคราม เข่าอ่อนแทบทรุดลงกับพื้น รู้ตัวว่ายากที่จะรอดไปได้แล้ว
ไอ้เอกยิ้มกริ่ม
“เลือกมาว่าอยากโดนรุมทีละ8ควย หรือจะให้ความร่วมมือพร้อมกับรับตังสี่หมื่น” ไอ้เอกถามเสียงเฉียบขาด

น้องแนนรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ยังไงก็ไม่รอดพวกมันไปได้ ถ้าพวกมันรุมจริงๆหอยของตัวเองจะต้องพังยับเยิน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ยอมให้พวกมันเอาแล้วรับตังยังดีกว่า จึงกัดฟันตอบ
“แนน....แนน ยอมก็ได้ค่ะ พี่เอก...พี่เอกรับปากแนนแล้วนะคะว่าจะไม่ทำให้แนนเจ็บ”

เสียงไชโยโห่ร้องดังลั่นห้อง ทั้งแปดคนล้วนแต่เป็นนักศึกษา มีฐานะดีกันทุกคน ไม่มีใครอยากรุมข่มขืนเธอแบบรุนแรง เพราะถ้ามีเรื่องมีราวอาจเสี่ยงกับคุกตารางโดยไม่จำเป็น เมื่อน้องแนนรับปากยอมให้รุมแลกกับเงิน มันก็สวรรค์เท่านั้นเอง... เงินคนละห้าพันสำหรับพวกนี้แล้วถือเป็นแค่เศษเงินเท่านั้น เมื่อแลกกับการได้เย็ดนักศึกษาสาวๆ สดๆ อย่างน้องแนน มันคุ้มยิ่งกว่าไปเอากระหรี่ หรือสาวคาราโอเกะเป็นร้อยๆพันๆเท่า

“น้องแนนสุดยอดเลย”
“ใจถึงจริงๆ”
“น้องแนน น่ารักที่ซู๊ดดดดด”

เสียงชมเชยดังกันเซ็งแซร่ ไอ้เอกรีบปรามให้เงียบลง พร้อมกับออกคำสั่ง
“เอาละ ถ้างั้นเรามาปรึกษากันก่อนโว๊ย เข้าไปพร้อมๆกันน้องแนนตายห่าแน่”
“เอาไงล่ะพี่เอก” ไอ้แมนเจ้าของสถานที่ถาม “เอาไงก็เอาอย่าชักช้า”
“ในฐานะที่กูศึกษาตำราพิชัยสงครามของซุนวูมา กูจะจัดขุมกำลังเอง พวกมึงฟังให้ดี” ไอ้เอกคุย “พวกเราต้องแบ่งเป็นสองผลัดโว๊ย ผลัดละสี่คน ผลัดแรกประกอบไป ไอ้จิ ไอ้แมน ไอ้อ๊อด แล้วก็กู ส่วนผลัดสอง ประกอบไปด้วย ไอ้เต่า ไอ้เบี้ยว ไอ้เหม่ และไอ้วิน”

“อ้าว เฮ้ยพี่เอก งี้ก็ไม่ยุติธรรมซิวะ ผมมันทหารกล้า ต้องอยู่ผลัดแรก เอาไปไว้ผลัดสองได้ไง” ไอ้เต่าโวย
“กูแบ่งยุติธรรมแล้วโว๊ย ไอ้จิเป็นคนพาน้องแนนมา ไอ้แมนเป็นเจ้าของบ้าน ไอ้อ๊อดเป็นคนคิดแผน ส่วนกูเป็นหัวหน้า ไม่ยุติธรรมได้ไงวะ”
ไอ้เต่าอึ้ง
“เอาละมีใครข้องใจกันอีกมั้ย”
ไม่มีใครคัดค้าน เพราะเหตุผลของไอ้เอกฟังขึ้น มันเป็นคนที่ยุติธรรมเสมอจึงได้รับการนับถือจากเพื่อนร่วมก๊วนทุกคน

“ถ้างั้นเริ่มต้นได้ ผลัดหนึ่งแก้ผ้าเตรียมตัวไว้ ผลัดสองจัดเตรียมสนามรบด่วน เดี๋ยวนี้เลย”

ทุกคนทำตามอย่างรวดเร็ว ไอ้จิ ไอ้แมน ไอ้อ๊อดรวมทั้งไอ้เอกพากันถอดเสื้อผ้า ส่วนไอ้เต่า ไอ้เบี้ยว ไอ้เหม่และไอ้วิน จัดการไปยกเตียงขนาดโคตรคิงไซส์มาตั้งไว้กลางห้อง พอทุกอย่างเรียบร้อย ร่างอวบอึ๋มของน้องแนนก็ถูกยกขึ้นไปวางบนเตียง

ไอ้เอกถลาไปที่ร่างของนักศึกษาสาวเคราะห์ร้าย จัดแจงหญิงสาวให้นอนห้อยขามาที่ขอบเตียง พร้อมกับถลกกระโปรงสั้นจู๋ของหญิงสาวขึ้นไป จากนั้นก็ฝังหน้าลงไปซุกไซร้สูดดมอยู่ที่เป้ากกน.ตัวน้อย สีขาว ลายการ์ตูนน่ารัก
“อึ๊ยยย หีน้องแนนหอมจริงๆ” ไอ้เอกร้องออกมาดังๆ
ไอ้สามตัวที่เหลือถลาขึ้นมานั่งบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทุกคนช่วยกันลูบไล้ คลึงเคล้นไปตามร่างกายของหญิงสาว น้องแนนรู้สึกเหมือนมีมือเป็นสิบๆ ลูบคลำขยำไปทุกๆส่วน ไม่รู้มือใครเป็นมือใคร บางคนก็คลำเบาๆ แต่บางคนก็บีบหน้าอกเธอแรงๆ แถมบางคนหยิกแก้มเธออีก
“โอ๊ยย เบาๆค่ะพี่ เบาๆ แนน เจ็บ” หญิงสาวร้องอุทธรณ์
“เฮ้ยเบาๆหน่อยโว๊ย เดี๋ยวน้องแนนช้ำ” ไอ้วินทหารผลัดสองซึ่งจับตามองด้วยความเงี่ยน ร้องโวยวายขึ้นเพราะกลัวร่างของน้องแนนจะแหลกเหลวไปก่อนที่จะถึงคิวพวกมัน

“น้องแนนนี่นมใหญ่เต็มไม่เต็มมือจัง ขอพี่จิดูให้ชัดๆหน่อยนะ” ไอ้จิว่า
จากนั้นมือทั้งหกข้างก็ช่วยกันปลดกระดุม ดึงโน่นดึงนี่ ไม่นานท่อนบนของหญิงสาวก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อน
“โอ้โฮ ดอยอินทนนท์” ไอ้แมนร้องตะโกน
“ไอ้เหี้ย ดอยอินทนนท์ที่ไหนมันจะขาวโพลนขนาดนี้วะ ไอ้แบบนี้มันต้องภูเขาไฟฟูจีโว๊ย 5555” ไอ้จิว่า
ทุกคนหัวเราะชอบใจ ส่วนหญิงสาวเคราะห์ร้ายได้แต่นอนหน้าแดงซ่านใจเต้นโครมคราม จากนั้นก็รู้สึกว่านมของเธอถูกบีบขยำจากไม่รู้กี่มือต่อกี่มือ แก้ม ใบหู ตลอดจนใต้วงแขน ก็ถูกหน้าใครไม่รู้ซุกไซร้เข้ามาเต็มไปหมด หญิงสาวเริ่มรู้สึกปั่นป่วนกระสันรัญจวนอย่างห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่
“อืมมม อูยยยยย” น้องแนนร้องครางออกมาเบาๆ
“เสียวแล้วหรือน้องแนน” ไอ้แมนถามเสียงหวาน
หญิงสาวไม่กล้าตอบ หลับตาพริ้มตัวสั่นระริก
“น้องแนน นี่ฮ๊อมหอม ผิวก็ค๊าวขาว ชืนใจพี่จิจริงๆ อูยยยยย” ไอ้จิครวญครางเสียงกระเส่าหลังจากระดมจูบไปที่ซอกรักแร้ “กลิ่นเต่าหอมชื่นใจ”
ไอ้จิร้องออกมาดังๆเรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากทุกคนดังลั่นห้อง
“อูยยย นมทั้งใหญ่ทั้งแข็ง มันส์มือชิบเป๋งเลยโว๊ย” ไอ้อ๊อดร้อง
“หิวนมจัง... ขอลูกดูดนมหน่อยนะแม่จ๋า” ไอ้แมนว่า แล้วก้มลงไปดูดเม้มหัวนมของเธออย่างไม่รั้งรอ
“ถ้างั้นลูกอ๊อดขอข้างนี้ละกัน ขอดูดด้วยคนนะจ๊ะ แม่จ๋า” ไอ้อ๊อดว่าเล้วก้มลงไปดูดนมข้างที่ว่างอยู่อย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย ไอ้เหี้ย แล้วกูจะลงตรงไหนวะเนี่ย” ไอ้จิบ่นพึมพำเมื่อเห็นโมจิขนาดมหึมาทั้งสองข้างโดนจับจองไปหมดแล้ว เมื่อกวาดตาขึ้นมาเห็นหน้าขาวใสของน้องแนนบิดเบี้ยว ร้องครวญคราง ก็เกิดความเสียวซ่าน ก้มลงไปประกบปากเข้าไปทันที กลิ่นของเธอหอมกรุ่น มันสอดลิ้นเข้าไปแลกน้ำลายกับเธอเป็นพัลวัล จากนั้นก็ดูดลิ้นของเธอแรงๆ
ไอ้เต่าทหารผลัดสอง จ้องมองจนเป้ากางเกงตุงแทบขาด ทนไม่ไหว ค่อยๆย่องเข้ามา จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งคุกข่า ถอดรองเท้าของเธอออก แล้วก้มลงเลียนิ้วหัวแม่โป้งของเธออย่างไม่รังเกียจรังงอน
“อูยยย หอมขนาดนิ้วเท้ายังหอมเลย”
ไอ้เบี้ยวเห็นไอ้เต่าเป็นทหารผลัดสองแท้ๆแต่ได้รุมหญิงสาวก่อน ก็รู้สึกเสียเปรียบ ดังนั้นรีบเข้าไปหาเท้าที่ยังว่างอยู่อีกข้างของน้องแนน จากนั้นก็เลียนแบบไอ้เต่า ถอดรองเท้าเธอออก แล้วก้มลงหอมไปตามฝ่าเท้าของเธอ สลับกับการดูดนิ้วเสียงดังจ๊วบๆ

ตอนนี้เสียงครวญคราง เสียงพึมพำดังลั่นห้องไปหมด!

หญิงสาวโดนรุมกระหน่ำจากทุกทิศทุกทาง ทำให้สติกระเจิดกระเจิง ปั่นป่วนไปหมดทั้งตัว ร่างบิดสะบัดไปมา ตัวเกร็งกระตุกร่างสั่นระริก ไม่รู้ว่าโดนถอดกางเกงในไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าขณะนี้ที่ความสาวของเธอกำลังถูกลิ้นใครไม่รู้ลากไล้ไปมาตามร่องของ เธอขึ้นๆลงๆ
“อูยยย.......... อูยยยยย.......... ซี๊ดดดดดดดดดด......... อูยยยยยยยยยยยยย........ อูยยยยยยยยยยย.........” หญิงสาวร้องครวญครางดังลั่นอย่างไม่อายอีกต่อไปแล้ว
“หีน้องแนนหอมมั๊ย พี่เอก” เสียงไอ้จิถาม
“หอมชิบหายเลยว่ะ แถมตอดลิ้นกูอีก แม่งเด็ดสุดๆ” ไอ้เอกตอบเสียงกระเส่า
“เอาได้แล้วครับ พี่เอก เดี๋ยวผมจะได้เอามั่ง” ไอ้แมนว่า
“เดี๋ยวซิวะ กูอยากกินน้ำของน้องแนนหน่อย อูยยยย น้ำเงี่ยนไหลเต็มเลยน้องแนน” ไอ้เอกคราง พลางเลียเข้าไปแผล่บแผล่บ
“หอมหวานจังเลย หลั่งออกมาเยอะอีก น้องแนน” ไอ้เอกว่า
“เฮ้ย พี่เอก ขอผมบ้างซิ” ไอ้จิว่า
ไอ้เอกถอนใบหน้าออก ปล่อยให้ไอ้จิเข้าไปเลียหอยน้องแนนบ้าง
ไอ้แมนเงยหน้าออกจากนมของน้องแนน พอเห็นปากของเธอว่าง มันก็ขยับเข้าไปหาทันที พร้อมกับจ่อท่อนเนื้อของมันเข้าที่ปากของน้องแนน
นักศึกษาสาวรีบเม้มปากแน่น
“ดูดให้พี่หน่อยนะ น้องแนนคนเก่ง” ไอ้แมนว่าพร้อมกับถูไถไปที่ริมฝีปากบางของเธอ
น้องแนนส่ายหน้า เม้มปากแน่น ไม่กล้าพูดอะไร เพราะกลัวมันจะยัดเข้าปากเธอ หญิงสาวมองเห็นหัวมันบานร่าอย่างน่าหวาดหวั่น แถมยังมีน้ำเหนียวๆไหลยืดลงมาบนริมฝีปากเธออีก ที่สำคัญกลิ่นของมันรุนแรงเหลือเกิน แต่เพราะการถูกรุมคลึงเค้นไปทั้งเนื้อตั้งตัวแบบนี้ มันก็ยากที่เธอจะทนได้ ไม่ช้าเธอก็ต้องอ้าปากส่งเสียงร้องครวญครางออกมาอีกจนได้ เมื่อรู้สึกว่าติ่งเนื้อที่ไวต่อความรู้สึกกำลังถูกลิ้นใครไม่รู้ตวัดเลีย ปลุกเร้าอย่างชำนิชำนาญ
ไอ้แมนได้ทีรีบยัดท่อนเนื้อลงไปทันที
“อ๊อก อ๊อก อ่า อ่า” หญิงสาวร้องครางอู้อี้ พยายามจะดันมันออก แต่มีหรือที่ไอ้แมนจะยอมมันกดหัวลงไปแน่นพร้อมกับร้องว่า
“ดูดให้พี่หน่อยซิครับน้องแนน ดูดหน่อยดรับ อูยยยยยย” มันว่าพร้อมกับค่อยๆสาวเข้าออกช้าๆ

“พอแล้วไอ้จิ ตากูมั่ง” ไอ้เอกดึงไอ้จิออกมา พร้อมกับซุกหน้าเข้าไปแทนที่
ไอ้จิขยับขึ้นไป จับมือของนักศึกษาสาวเคราะห์ร้ายมาที่ท่อนเนื้อของมัน
“ชักว่าวให้พี่หน่อยนะ” มันว่า
หญิงสาวกำลังอยู่ในความกระสันรัญจวน โดนเล้าโลมทั้งมือ ทั้งปาก เคล้าคลึงไปทุกส่วนของร่างกาย ใจแทบจะขาดด้วยความเสียวอยู่แล้ว พอเกาะกุมโดนของไอ้จิเท่านั้นก็ตัวอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้ง ขยับข้อมือรูดไปมาให้มันอย่างลืมตัว
“อูยยย อย่างนั้น น้องแนน อูยยยยยย เสียววว อูยยยยยย” ไอ้จิร้องครวญครางเมื่อหญิงสาวเริ่มขยับข้อมือถี่เร็วยิ่งขึ้น

น้องแนนหนาวสะท้านไปทั้งตัว นี่คือสถาณการณ์ที่เร่าร้อนที่สุดในชีวิตที่หญิงสาวเคยเจอ มันต่างจากการเย็ดกับอาจารย์ธวัชชัยอย่างเทียบไม่ติด ทุกอย่างเหมือนกับความฝัน... จากความตื่นตระหนกหวาดกลัวในครั้งแรกกลายเป็นความกระสันรัญจวนที่เร่าร้อน แผ่ซ่านไปทั้งๆตัว ความรู้สึกความเสียวไหลซึมออกมาไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะเมื่อกำลังโดนใครคนหนึ่งเอานิ้วชักเข้าออกในหอยของเธออยู่แบบนี้ แถมไม่ใช่นิ้วเดียวอีก มันสองสาม สี่ หรือห้านิ้ว เธอก็ไม่อาจจะทราบได้ เพราะตอนนี้สติเธอกระเจิดกระเจิงไปถึงไหนถึงไหนแล้วก็ไม่รู้....

“อูยยย อูยยยยย เร็ว.... เร็ว...อีก อูยยยยย” หญิงสาวร้องครวญครางบิดกายไปมาราวกับโดนทุบหัว

เสียงกระฉอกดังลั่นห้องเมื่อน้ำของเธอกระเซ็นตามนิ้วออกอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนานก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆดูมันจะมากมายราวกับจะไม่มีวันหมด ร่างสั่นระริกไปกับความรู้สึกที่ได้รับ ติ่งเนื้อของเธอนั้นเต้นเร่าไปตามแรงกระซวกนั้น โอย เธอจะขาดใจตายอยู่แล้ว..............................................


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #8 on: January 07, 2010, 10:30:26 am
หลง #12
..............................................

ขณะที่น้องแนนโดนไอ้เอกมันใช้นิ้วกระซวกหอยอยู่นั้น ไอ้แมนยังสนุกอยู่กับการสาวท่อนเอ็นขนาดกล้วยหอมใบเขื่องเข้าๆออกๆในปาก จิ้มลิ้มของสาวน้อย มันควานวนไปมาสลับกับการสอดเข้าออกลึกๆ บางครั้งบางครามันล่วงล้ำเข้าไปจนน้องแนนแทบจะสำลักอาเจียนออกมา แม้จะรู้สึกเสียวอย่างเต็มที่แต่อีกใจหนึ่งของน้องแนนก็รู้สึกขมขื่นเหลือ เกิน แม้เธอจะเคยเอากับอาจารย์ธวัชชัยมาหลายครั้ง แต่ธวัชชัยก็ไม่เคยขอให้เธอทำอย่านี้มาก่อน หญิงสาวรู้สึกขยะแขยงแทบอาเจียน เพราะท่อนเอ็นของไอ้แมนนั้นเหม็นคาวอย่างเหลือร้าย

ฉับพลัน น้องแนนก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อไอ้เอกมันกดหน้าของมันลงไปที่หอยของเธออีก ครั้ง มันตวัดลิ้นเลียแผล่บๆ เข้าไป ซอกเนื้อสงวนของเธอถูกรุกรานอย่างกักขฬะ มันใช้มือฉีกปากแคมของเธอออกจากกันจนแทบปริ ปล่อยให้กลีบเนื้อสีชมพูผงะแผงปลิ้นเป็นมันเยิ้มด้วยน้ำลายของมันออกมาพลิ้ว ระริกอยู่ใต้ลิ้นของมันอย่างหมดทางขัดขืน

หลังจากดูดดื่มความหอมหวานจนสาแก่ใจแล้ว ไอ้เอกก็เงยหน้าขึ้นจากหว่างขาของเธอแล้วเสือกตัวเข้าไปแทนที่อย่างไม่รอช้า มันเล็งท่อนเอ็นให้ตรงร่องของนักศึกษาสาว จากนั้นก็ยัดลำพรวดเดียวยันโคน เห็นมันทำหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเพราะหอยของน้องแนนนั้นฟิตเปรี๊ยะไม่ผิดอะไรไป จากสาวบริสุทธิ์เพราะหอยเธอผ่านการใช้งานมาจากอาจารย์ธวัชชัยคนเดียวเท่า นั้น

ในจิตใจของสาวแนนตอนนี้มันสับสนไปหมด จากความกลัวในตอนแรก บัดนี้กลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้วทีละน้อย ในขณะที่ไอ้เอกกำลังก้มหน้าก้มตาซอยเอวอยู่ยิกๆ ข้างล่าง ไอ้พวกที่เหลือต่างก็รุมบีบขยี้ขยำไปทุกๆส่วนอยู่ตลอดเวลา เนื้อตัวของเธอแทบไม่มีที่ว่างเพราะถูกมือหลายคู่จับจองไว้หมด หญิงสาวรู้สึกเสียวไปทั้งตัวโดยเฉพาะหว่างขานั้นขับน้ำเงี่ยนไหลเยิ้มออกมา ตลอดเวลา และยิ่งโดนมือสากๆผลัดกันตะโบมเต้าถันอวบๆเข้าไปเท่านั้น ร่างขาวโพลนของเธอก็อดที่จะบิดส่ายไปมาไม่ได้ ครางฮือฮือไม่ขาดสาย ยิ่งทำให้ไอ้พวกที่รุมเธออยู่ได้ใจเป็นหนักหนา

ไอ้เอกละจากหอยของนักศึกษาสาวแล้วล้มตัวลงนอน ไอ้แมนรู้ทันทีว่าเพื่อนต้องการอะไรจึงจับร่างของน้องแนนพลิกขึ้นมา
“ไป... น้องแนน ขึ้นคล่อมพี่เอกซะ...แล้วขย่มให้พี่เค้าหน่อยคนสวย”

น้องแนนกำลังเงี่ยน ไม่ปฎิเสธซักคำ รีบขึ้นไปคล่อมร่างกำยำของไอ้เอกแล้วโก่งตูดย้อยมาด้านหลัง ไอ้แมนขยับเข้าไปที่ด้านหลังเธอ น้องแนนใจหายวาบ รู้ได้ในทันทีว่ามันคงจะยัดเธอทางทวารแน่ แล้วก็เป็นเช่นที่คาดไว้ไม่ผิดเมื่อ ท่อนเอ็นปานสากกะเบือเริ่มกระดืบลำอันร้อนผ่าวล่วงลึกเข้ามาทีละน้อยๆ

“โอ๊ยยยย...พี่แมน .แนนเจ็บ..เจ็บ..อย่า ....โอ๊ยยยย....เอาออกไป๊” หญิงสาวร้องโวยวาย เจ็บจนน้ำตาร่วงออกมาทันที ไอ้จิที่กำลังสนุกกับการขยำนมอวบใหญ่ของสาวน้อยก้มลงไปกระซิบที่ริมหู

“อย่าร้องซิน้องแนน เดี๋ยวก็มันส์เชื่อพี่เหอะ พี่ทำอย่างนี้มากับหลายคนแล้ว ที่รัก” มันว่าแล้วก็เลียแผล่บๆ ที่หน้าตาของเธอ จากนั้นก็ลงไปก้มจูบปากน้องแนนอย่างเมามัน ไอ้อ๊อดเข้าไปประกบข้างๆเอื้อมมือเข้าไปบีบเคล้นสองเต้าของนักศึกษาสาวอย่าง รุนแรงเล่นเอาน้องแนนถึงกับครางฮือ จากนั้นก็ก้มลงไปใช้ปากดูดเลียหัวนม ร่างเปลือยของสาวน้อยสั่นสะท้าน คิ้วย่นสะบัดหน้าเร่าจนผมกระจายด้วยความเจ็บปวดระคนเสียว ไอ้แมนกดลำเอ็นเข้าไปทีละน้อย ทีละน้อย สาวน้อยตัวสั่นระริก

“อา.ซี๊ดส์..โอย...อูยยยยย...พี่แมน...เบาๆค่ะ...ตูดแนนจะฉีกแล้ว”
เหล่าบรรดาพวกที่รุมสาวน้อยอยู่หัวเราะกันครืนเมื่อเห็นหญิงสาวร้องวิงวอนคำหยาบออกมา ทั้งๆที่ตัวเองก็ร้องครวญครางไม่ยอมหยุด
“เจ็บแต่เสียว ใช่มั้ยจ๊ะน้องแนน” ไอ้เอกหยอก ขณะที่กระเด้าสาวน้อย พั่บ พั่บ ไม่ยอมหยุด

ในขณะนั้นไอ้แมนมันยัดของมันเข้าไปในตูดของน้องแนนจนหมดลำแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆดึงออกช้าๆ จนเกือบสุดโคนแล้วดันเข้าไปอีก จากช้าๆค่อยๆแรงขึ้น สักพัก ลูกสูบของไอ้เอกกับไอ้แมนก็ผลัดกันเหวี่ยงข้อชักลำออกจากกระบอกดังฟูดฟาดๆ ผลัดกันอัดเข้าไปในหอยและตูดของนักศึกษาสาว เล่นเอาน้องแนนถึงกับสั่นไปทั้งตัว หน้าบิดเบี้ยวเหยเกร้องออกมาดังลั่นฟังไม่ออกว่าเจ็บหรือเสียว

“อูยยย..อูยยยยยย...เจ็บ...เจ็บ...เบา..เบา ...อูยยยย...เจ็บ...เสียว.ซี๊ดดดด..แรงแรง...แรง...แรง..อูยยยย...แรงอีก แรงอีกค่ะ...ซี๊ดดด....” หญิงสาวร้องครวญคราง

สักพักพอสาวแนนตั้งตัวติด หญิงสาวก็เริ่มตอบโต้อย่างลืมตาย สะโพกผายโอฬารทั้งยักทั้งร่อนจนไอ้เอกกับไอ้แมนครางอู้ แข่งกันตะกายสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน

ไอ้เอกลงไปนอนแผ่หลา ในขณะที่ไอ้จิล้มตัวสอดเข้ามาลองหอยของน้องแนนดูมั่ง ในขณะที่ไอ้วินกำลังเพลินพริ้มตาอยู่ด้วยอารมณ์เสียวสุดขีด เนื่องจากพุ่มพวงของมันถูกกลืนหายเข้าไปในปากแสนสวยของน้องแนนทั้งพวง...
“อูยยยย เสียว ดูดแรงๆ ดูดแรงๆเลยน้อง อูยยยย ซี๊ด ...เสียวว่ะ” ไอ้วินครวญคราง

ขณะนั้นไอ้อ๊อดซึ่งเข้าไปแทนที่ไอ้แมน ก็กระเด้าอัดตูดของสาวแนน พั่บ พั่บ พั่บ ไม่นานก็ร้องอู้ เมื่อถึงจุดหมายอย่างปลายทางอย่างรวดเร็วยิ่งกว่านกกระจอกกินน้ำ
“อูยยยยย....กูไม่ไหวแล้วโว๊ย....โอ๊ย.... มันส์ชิบหาย...”
มันร้องเสียงดัง แอ่นตูดกดลงไปพร้อมกับปล่อยน้ำเสียวพุ่งทะลักใส่รูตูดของน้องแนนอย่างเต็มๆ ขณะที่ไอ้วินซึ่งเล่นปากน้องแนนอยู่ ก็เสร็จไปพร้อมๆกัน

“เฮ้ย เสร็จแล้วออกด่วน ผลัดสองเงี่ยนแล้วโว๊ย” ไอ้เบี้ยวร้องบอกกับไอ้อ๊อด
“ไอ้ห่าเอ๊ย ขอกูแช่รูดตูดน้องเค้าอีกซักหน่อยก็ไม่ได้”
ไอ้อ๊อดบ่นพีมพำ ค่อยๆถอนลำออกจากรูตูดของน้องแนน ลุกเดินออกไปเหมือนคนหมดแรง
แต่ก่อนที่ไอ้เบี้ยวซึ่งอุตส่าห์ไล่ไอ้แมนออกไปจะเข้าไปทำอะไรกับน้องแนน ไอ้เหม่ซึ่งถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนเปลือยเปล่าไปนานแล้ว รีบกระแทกไอ้เบี้ยวกระเด็นออกไป ก่อนจะล้มทาบไปบนลำตัวของน้องแนนแทน มันบดขยี้ถูไถท่อนเอ็นไปตามสะโพก แก้มก้น และร่องตูดของหญิงสาวอย่างเมามัน หนวดเคราแข็งถูไถไปตามผิวเนื้ออันอ่อนนุ่มละเอียดอ่อนของหญิงสาวทำให้มีรอย แดงเต็มไปหมด มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปบีบเต้านมของน้องแนน ทั้งๆที่มีมือหลายๆมือจับจองอยู่แล้ว แต่มันก็หาที่ลงจนได้ เมื่อเกาะกุมได้ถนัด ก็รีบบีบเคล้นอย่างรุนแรงราวกับโคบาลรีดนมวัว เล่นเอาหญิงสาวถึงกับร้องครวญคราง

“อูยยย เสียววว...เสียวชิบหายเลยโว๊ย...” น้องแนนหลุดปากพูดออกมาอย่างลืมตัวเรียกเสียงฮาครืนทั่วห้อง
“อูยยยย มันส์ใช่มั้ยน้องแนน พี่จิบอกแล้วว่า สาวคนไหนโดนพวกพี่รุมรับรองว่าติดใจกันทุกคน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้จิหัวเราะชอบใจ พร้อมกับขยับกระเด้าขึ้นมาถี่ยิบจนมองแทบไม่ทัน
“อูยยย ซี๊ด...เสียว...อูยยย..ไม่ไหวแล้ว...อูย...เย็ดแรงๆเลยค่ะ...พี่จ๋า..อูยยยย...ซี๊ด..” น้องแนนร้องครวญคราง

ไอ้เหม่หลังจากใช้ท่อนเอ็นถูไถเนื้อตัวของน้องแนนจนดุ้นเนื้อแข็งปั๋งเต็ม ที่แล้วก็รีบขยับตัวลงมา จัดการแหกแก้มก้นขาวจั๊วะทั้ง 2 ข้างออกของนักศึกษาที่กำลังสูดปากร้องครวญครางออกจากกัน มันจับท่อนเอ็นขนาดยักษ์เล็งจ่อที่รูตูดของหญิงสาวแล้วกดเข้าไปทันที รูตูดของน้องแนนเพิ่งจะถูกท่อนเอ็นขนาดใหญ่ของไอ้แมนกับไอ้อ๊อดทะลวงมาก่อน ยังไม่ทันจะหุบลงมาดี ก็โดนท่อนเอ็นขนาดใหญ่ยิ่งกว่ายักษ์ทะลวงเข้ามาอีก เล่นเอาหญิงสาวถึงกับดิ้นพราดๆ รู้สึกว่ารูตูดของตัวเองคงจะฉีกแน่แล้ว

“โอ๊ยย เบาๆ โว๊ย กูเจ็บ ไอ้เหี้ย กูบอกให้เบาๆโว๊ย....โอ๊ยยยย” น้องแนนตวาดด่าออกมาด้วยความโมโห เพราะรู้สึกเจ็บปวดแทบขาดใจ

ไอ้เหม่ไม่สนใจ มันรู้สึกว่ารูตูดของสาวแนนฟิตเปรี๊ยะ กระชับรัดท่อนเนื้อของมันแน่น มันดันพรวดเดียวเข้าไปมิดด้าม เล่นเอาสาวสายร้องด่าโวยวายด้วยความเจ็บ
ไอ้เหม่ก็ค่อยๆขยับตัวช้าๆ โชคดีที่รูตูดน้องแนนโดนท่อนเอ็นของไอ้แมนกับไอ้อ๊อดนำร่องไปแล้ว ไม่งั้นท่อนเอ็นขนาดยักษ์ของไอ้เหม่ก็คงจะเข้าไปไม่ง่ายดายอย่างแน่นอน
ไอ้เหม่คอยให้รูตูดของหญิงสาวขยายตัวรองรับของมัน จึงค่อยๆขยับตัวสาวเข้าออกช้าๆ สาวแนนตอนแรกยังเจ็บปวดสุดขีด แต่สักพักเมื่อเริ่มปรับตัวได้ ความเสียวก็กลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ก็เพราะถูกรุมขยำขยี้ปลุกอารมณ์จากมือเป็นสิบๆนั่นเอง

“อูยยย ซี๊ด ....เสียว...เสียวจังเลยค่ะพี่ขา....เย็ดแรงๆเลยค่ะ..” พอความเสียวกลับเข้ามาสาวแนนก็กลับมาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานอีกครั้ง
“อูยยยย....เสียวก็ช่วยพวกพี่เด้งหน่อยซิจ๊ะน้องแนน..อูยย...ซี๊ด..” ไอ้จิพูดพร้อมกับกระเด้าขึ้นไป
“อูยยย...ได้ซิคะพี่...อูยยยย...เสียวหีจังเลย...อูยยยยย...” น้องแนนร้องครวญคราง พลางขย่มตัวเด้งรับท่อนเนื้อทั้งสองดุ้นอย่างเร่าร้อน
“นั่น..อย่างนั้น...ซี๊ด...น้องแนน..เด้งเก่งเหลือเกิน..อูยยยย” ไอ้จิร้องครวญคราง

สาวแนนร้องครวญครางต่อได้ไม่นานก็รู้สึกว่ามีท่อนเอ็นอันใหม่จ่อเข้ามาที่ปากอีกครั้ง
ไม่ต้องให้สั่ง สาวน้อยรีบอ้าปาก รับเอาท่อนเอ็นนั้นเข้าไปพร้อมกับเริ่มดูดทันทีเล่นเอาเจ้าของท่อนเอ็นนั้น ถังกับครางอู้ จับศีรษะเธอไว้พร้อมกับกระเด้าปากของสาวสวยทันที

สาวแนนหลังจากถูกปลุกอารมณ์จากผู้ชำนาญการทั้งแปดอย่างไม่ปล่อยให้หายใจหาย คอ ก็รู้สึกเร่าร้อนไปทั้งตัว เกิดอารมณ์หื่นกระหายอย่างรุนแรง สติกระเจิดกระเจิงเตลิดไกล เพลิงราคะที่ถูกจุดจนลุกโชนจาการถูกถูกรุมกระหน่ำ อย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทำให้นักศึกษาสาวผู้น่าสงสารไม่สามารถที่จะขัดขืนความต้องการทางเพศของตัว เองได้เลย หญิงสาวรู้สึกเสียวกระสันไปกับรสสวาทของพวกมันทั้งแปด และไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองจะโดนข่มขืนสักนิด

พวกมันสลับกันสนุกสนานอยู่บนเรือนร่างอวบอึ๋มของนักศึกษาสาวแสนสวย ทั้งปาก ตูด หอยโดนพวกมันผลัดกันใช้เป็นที่ระบายอารมณ์กันคนละหลายๆรอบ จวบจนใกล้สางจึงหมดแรงไปตามๆกัน.....

..............................................


ณ.โรงแรมแห่งหนึ่งในภาคเหนือ

“โกรธแม่หรือหนู ที่แม่ขอมากับหนูด้วย” ปริษาเอ่ยปากถามกนกวรรณ ลูกสาวคนโตของเธอ

กนกวรรณขออนุญาตปริษามาเที่ยวกับอาจารย์ธวัชชัยที่จังหวัดแห่งหนึ่งในภาค เหนือ แต่ปริษาไม่ไว้ใจธวัชชัย ก็เลยขอติดตามมาด้วย โดยอ้างว่าจะมาเยี่ยมเพื่อนเก่า กนกวรรณไม่กล้าขัดใจแม่ ดังนั้นแม้จะไม่ค่อยพอใจแต่ก็ยอมให้ปริษามาด้วย ส่วนอาจารย์ธวัชชัยนั้นมีท่าทีเฉยๆไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรเมื่อกนกวรรณบอก กับเขาว่าแม่ของเธอจะขอติดมาด้วย

“ไม่หรอกค่ะคุณแม่ อ้อเข้าใจค่ะ” กนกวรรณตอบ

ปริษาสังเกตท่าทีของกนกวรรณก็รู้ว่าหญิงสาวไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เธอยังไม่ได้บอกกนกวรรณให้รู้ว่า เธอเห็นธวัชชัยมีท่าทีสนิทสนมกับกมลวรรณ ซึ่งทำให้ปริษาไม่ไว้ใจเขา เธอเลี้ยงลูกสาวมาอย่างทะนุถนอม เรื่องอะไรที่จะยอมปล่อยให้ลูกสาวของเธอโดนเขาหลอก แต่ปริษานั้นไม่ใช่คนที่จะกล่าวหาใครโดยไม่มีเหตุผล เธอต้องสอบถามเรื่องนี้กับธวัชชัยให้รู้เรื่อง เขารักลูกสาวคนไหนของเธอแน่ๆ? ทำไมทำเหมือนกับจะจีบทั้งสองคน? ถ้าเขาไม่มีเหตุผลที่ดีมาอธิบาย เธอจะบังคับให้ลูกสาวทั้งสองคนเลิกคบกับเขา

“แม่ขอให้อาจารย์ไปส่งแม่ที่บ้านเพื่อน หนูคงไม่ว่าใช่มั้ย” ปริษาถาม
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เดี๋ยวอ้อก็ว่าจะไปเดินเที่ยวแถวๆนี้นิดหน่อย กลับมาก็คงพอดีกัน”
ปริษาลูบคลำเรือนผมของหญิงสาวพูดเสียงนุ่มนวล
“หนูเป็นเด็กดีอ้อ.... แต่แม่ก็รู้ว่าหนูคิดอะไร วางใจเถอะเมื่อกลับมาแล้วแม่จะอธิบายให้หนูฟังทุกอย่างว่าทำไมแม่จึงต้องมา กับหนูด้วย ยังไงก็ตาม ขอให้หนูรู้ว่าแม่รักหนูเสมอและจะไม่ยอมให้หนูต้องเสียใจเพราะใครอย่างแน่ นอน”
กนกวรรณงงกับคำพูดไม่มีต้นไม่มีปลายของปริษา แต่เธอก็เพียงแต่รับฟังอย่างเงียบๆ

ปริษาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ลงมาที่ล็อบบี้ ธวัชชัยรอเธออยู่แล้ว เขาส่งยิ้มให้ก่อนที่จะพาปริษาไปที่รถ

ธวัชชัยขับรถตรงออกไปตามถนนที่ทอดยาวออกจากตัวเมือง มุ่งไปทางทิศตะวันตกตามทางที่ปริษาบอก เมื่อขับไปได้สักพัก เขาก็เอ่ยปากถาม
“ทางไหนครับคุณน้า”
ปริษาตอบว่า
“ช่วยหยุดรถก่อนเถอะค่ะ อาจารย์”
ธวัชชัยหันมามองหน้าเธอด้วยความสงสัย แต่ก็ทำตามคำสั่งเธอ รถชะลอตัวช้าๆก่อนที่จะหยุดนิ่ง ธวัชชัยหันไปถาม
“มีอะไรหรือครับคุณน้า”
“น้าบอกตามตรงว่าน้าไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่หรอกค่ะ... แต่น้าอยากจะคุยอะไรบางอย่างกับอาจารย์…”
ธวัชชัยยิ้ม ก่อนที่จะเอ่ยตอบ
“ผมรู้ว่าคุณน้าจะถามอะไร แต่จอดคุยริมทางหลวงอย่างนี้ไม่ดีแน่ เดี๋ยวโดนรถอื่นชน เราไปหาที่เงียบๆคุยกันดีกว่า ผมรู้จักน้ำตกแถวนี้ ผมจะพาคุณน้าไปเที่ยวด้วยเลย”
ปริษาอยากจะร้องห้าม แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ
“ไปคุยกันเงียบๆก็ดีเหมือนกัน”เธอคิด

ปริษามัวแต่เป็นห่วงเรื่องลูกสาว ไม่ทันคิดว่าอาจารย์หนุ่มนั้นอยากเย็ดเธอยิ่งกว่าลูกสาวไม่รู้กี่เท่า ยิ่งอยู่กันตามลำพัง ได้เห็นทรวงอกขนาดใหญ่ที่ดันเสื้อจนอูมล้นเป็นลูกกลมๆทั้งสองเต้ายิ่งทำให้ เขาปั่นป่วนรัญจวนใจมากยิ่งขึ้น มันดูเต็มไม้เต็มมือน่าดูดน่าขยำให้สะใจเสียเหลือเกิน

ธวัชชัยแอบชำเลืองมองขาขาวๆของปริษาที่อยู่นอกกระโปรงลายดอกบางเบา ท่อนเอ็นของเขาแทบจะลุกผงาดขึ้นมาทันที.....

อันที่จริงธวัชชัยไม่ใช่คนที่จะชอบข่มขืนผู้หญิง กับกมลวรรณเมื่อเธอมีทีท่าลังเลเขายังยอมปล่อยเธอแต่โดยดี.... แต่กับปริษาแล้วไม่เหมือนกัน เขารู้ดีว่าผู้หญิงท่าทางไว้ตัว แบบนี้ไม่มีทางที่เขาจะจีบได้ เขาสังเกตออกว่าปริษาเป็นคนที่เรียกได้ว่าหัวโบราณและรักมั่นอยู่กับสามีของ เธอ ทางเดียวที่เขาจะได้ปริษามาครองก็คือต้องข่มขืนเธอเท่านั้น และเขาก็พร้อมที่จะทำอย่างนั้นแล้ว...

กลิ่นน้ำหอมที่ระเหยออกมาจากตัวปริษาหอมกรุ่นไปทั้งรถ... ท่าทางอันงามสง่า พูดจาไพเราะ อาจารย์อย่างนั้นอาจารย์อย่างนี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเงี่ยนอย่างบอกไม่ถูก ปริษาที่น่าสงสารมัวแต่คิดปกป้องลูกสาวไม่รู้เลยว่าเสน่ห์ของตัวเองรุนแรง กว่าลูกสาวหลายเท่านัก และเธอกำลังจะเป็นเหยื่ออันโอชะ เพราะชายหนุ่มวางแผนที่จะเผด็จศึกเธอไว้เรียบร้อยแล้ว....

..............................................


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #9 on: January 07, 2010, 10:30:49 am
หลง #13

ธวัชชัยขับตรงไปสักครู่ก็เลี้ยวเข้าถนนลูกรัง เขาตีวงโค้งไปตามเส้นทางสายเก่าที่ไม่มีใครนิยมใช้ รถวิ่งขโยกขเยกเข้าไปตามทางขรุขระ ปริษาเริ่มเหลียวมองสองข้างทางอย่างตื่นๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ พอรถวิ่งไปสักระยะก็ได้ยินเสียงน้ำตกดังแว่วมา ธวัชชัยจอดรถที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วหันมายิ้มให้หญิงสาว
“ถึงแล้วครับ คุณน้าได้ยินเสียงน้ำตกมั้ย”
ปริษาพยักหน้า มองออกไปทางนอกหน้าต่างรถ เห็นดอกไม้หลากสีชูช่อไสว ขึ้นเกลื่อนกลาดอย่างงดงามน่าดู รอบๆตัวมีแต่ความเงียบสงบ นอกจากเสียงน้ำตกกับเสียงนกร้องแล้วก็เกือบจะไม่ได้ยินเสียงอื่นใดเลย

ธวัชชัยเปิดประตูรถ เขาเดินไปเปิดกระโปรงด้านหลัง ดึงเสื่อฝืนใหญ่ออกมา ปริษามองดูเขาด้วยสายตาเฉยเมย วินาทีนั้นเธอคิดว่าน่าจะคุยกับเขาที่โรงแรมมากกว่า แต่ก็อีกนั่นแหละถ้าอยู่โรงแรมเธอก็คงไม่มีโอกาสคุยกับเขาตามลำพัง
“อ้าว ลงมาซิครับคุณน้า เดินไปดูน้ำตกกันทางโน้น”

ปริษาอึกอักอยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อนึกว่าไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว รีบๆคุยให้จบก็จะได้ชวนเขากลับ ดังนั้นหญิงสาวจึงเปิดประตูรถแล้วก้าวออกไป
“เดี๋ยวเราไปนั่งตรงชะง่อนผาโน่นดีกว่าครับ มองเห็นน้ำตกถนัดดี”
“แต่น้าว่า เราคุยกันตรงนี้ก็ได้นะคะ จะได้รีบกลับกัน เดี๋ยวหนูอ้อจะคอยนาน”
ชายหนุ่มทำหน้าพิกล
“อ้าว ทำไมล่ะครับ เราอุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้ว ไม่ไปดูน้ำตกก็น่าเสียดาย”
ปริษาหลบตาเขา
“น้าปวดหัวพอดีเลยค่ะ เมื่อกี้นี้เอง”
แววตาของธวัชชัยวาวโรจน์ ริมฝีปากของเขาเม้มเข้าหากันแน่น
“เถอะครับ ไปนั่งคุยบนนั้นดีกว่า บางทีละอองเย็นๆจากน้ำตกจะช่วยให้คุณน้าดีขึ้นบ้าง ถ้าไงเดี๋ยวค่อยกลับ เดินตามผมมาทางนี้เถอะ”

โดยไม่ฟังเสียงปริษา เขาปีนขึ้นไปก่อนด้วยท่าทางคล่องแคล่ว เดินตามทางเล็กๆผ่านกอหญ้าที่รกทึบ พอพ้นแนวหญ้า คนทั้งสองก็ขึ้นมาบนลานหินที่ร่มรื่น มองลงไปเห็นน้ำตกทอดตัวขาวโพลนเป็นสายลงจากหน้าผา
ธวัชชัยปูเสื่อแล้วเชื้อเชิญปริษานั่ง คนทั้งสองจับจ้องดูสายน้ำที่พรั่งพรูหลั่งไหลกระทบแก่งหินข้างล่างโดยไม่พูดไม่จากันเลย
“เอ..ทำไมน้ำตกนี้ไม่มีคนเลยล่ะคะอาจารย์”
ธวัชชัยชี้ไปข้างล่าง
“ถ้าคุณน้าอยากดูคนต้องเดินไปชะโงกดูตรงนั้นครับ ส่วนมากเขาเล่นน้ำตกชั้นล่างกัน ที่นี่มันเกือบจะชั้นสูงสุดแล้ว ไม่ค่อยมีใครขึ้นมากันหรอกเพราะทางไม่ดี”
ปริษามองหน้าเขา
“ทำไมอาจารย์พาน้ามาที่นี่ล่ะคะ” ปริษามองหน้าเขาด้วยความกังวล
“ก็คุณน้าอยากจะคุยเงียบๆไม่ใช่หรือ ผมว่าเราอยู่กันตามลำพังอย่างนี้เข้าทีกว่าไปรวมอยู่กับคนข้างล่างเป็นไหนๆ...จริงมั้ย”
ปริษาหน้าพยักหน้า
“ค่ะ..อาจารย์...เอ้อ...คือเรื่องที่น้าอยากจะถามก็คือ...อืมมม...น้าจะถามยังไงดี...”
ปริษาเอ่ยตะกุกตะกัก อยากจะถามตรงๆก็เกรงว่าจะเสียมารยาท
ชายหนุ่มเห็นทีท่ากระดากกระเดื่องของเธอจึงพูดขึ้นแทน
“คุณน้าคงอยากถามว่า ทำไมผมจึงสนิทสนมกับน้องหวานกับน้องอ้อพร้อมกัน..พูดง่ายๆก็คือคุณน้าคงนึก ระแวงว่าผมจะจีบลูกสาวคุณน้าพร้อมกันทั้งสองคนใช่มั้ยครับ”
ปริษาตกใจคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดออกมาตรงๆ ธวัชชัยเห็นเธอนิ่งไม่ปฎิเสธ ชายหนุ่มก็หัวเราะเบาๆแล้วอธิบายต่อ
“จริงๆแล้ว ผมรู้จักกับน้องหวานก่อนน่ะครับคุณน้า น้องหวานเป็นเพื่อนกับน้องสาวผม ผมรู้จักตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นนักเรียน เพราะมาที่บ้านผมบ่อยๆ ”
“แล้วอาจารย์คิดยังไงกับหนูหวานล่ะคะ” ปริษาถามตรงๆ เริ่มรู้สึกอึดอัดกับสายตาของเขาที่มักชำเลืองมองช่วงขาของเธอบ่อยๆ
“น้องหวานเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อย ดูซื่อๆ ผมมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้เธอ”
“แล้วอาจารย์รักเธอหรือเปล่า”
ธวัชชัยส่ายหน้า
“ผม...ผมบอกไม่ถูกครับคุณน้า”
ปริษาไม่พอใจกับคำตอบของเขา ถามต่อ
“แล้วหนูอ้อล่ะ” น้ำเสียงนั้นเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว มองหน้าเขาด้วยแววตาคาดคั้น
“คุณอ้อทั้งสวย ทั้งเก่ง ผู้ชายคนไหนได้เธอมาเป็นภรรยาก็โชคดี”
“เอ๊ะ อาจารย์พูดยังไงกันนี่... น้าฟังแล้วไม่เข้าใจ ตกลง อาจารย์ชอบคนไหนกันแน่ หรือจะหลอกจีบลูกสาวน้าเล่นๆ”
ธวัชชัยถอนหายใจ
“ก่อนหน้านี้ ผมก็คิดวนไปวนมาอยู่หลายครั้ง แต่ผมตัดสินใจไม่ได้ซักที ทั้งสองคนมีดีกันไปคนละอย่าง และผมก็ไม่อยากให้คนใดคนหนึ่งต้องเสียใจ ...แต่ตอนนี้ผมตัดสินใจได้แล้ว”
“ยังไง” ปริษาถาม รู้สึกเดือดกับคำตอบของเขา
ธวัชชัยมองใบหน้าสวยหวานของปริษา พูดเสียงนุ่มนวล
“คุณน้าครับ ผมดูยังไง คุณน้าก็ไม่ได้แก่พอที่จะเป็นน้าผมได้เลย ผมว่าคุณน้าคงจะมีวัยไล่เลี่ยกับผมเสียมากกว่า ขอผมเรียกคุณน้าว่าพี่ได้มั้ยครับ พี่ปา...”
ปริษาหน้าเสีย นึกเจ็บใจตัวเองที่ไว้ใจเขา สีหน้าเธอไม่สู้ดีนัก หญิงสาวรู้แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนกะล่อนหาความจริงใจไม่ได้ เธอตัดสินใจที่จะให้ลูกสาวทั้งสองคนเลิกคบกับเขา ถึงจะต้องบังคับกันก็ต้องทำ
“ไม่ดีมั้งคะอาจารย์ เรียกน้าอย่างเดิมดีกว่า เอาละ...น้าว่าเรากลับกันได้แล้ว”
ธวัชชัยตาเป็นประกาย เขาขยับกายใกล้เธอเข้ามา
“เดี๋ยวซิครับพี่ปา จะรีบกลับทำไม พี่ปายังไม่ได้ฟังคำตอบจากผมเลย”

ปริษาขยับตัวจะผละออกมา แต่นาทีนั้นเองมือแข็งแรงของธวัชชัยก็คว้ามือเธอไว้แน่น เขาขยับกายเข้ามาจนชิด มืออีกข้างเอื้อมมาโน้มไหล่หญิงสาวรั้งเข้าไปหา
ปริษาตกใจร้องโวยวายลั่น
“บ้าจริง...ปล่อยน้านะ อาจารย์”
ธวัชชัยหัวเราะในลำคอ อาจารย์หนุ่มรั้งร่างเธอเข้ามาอีก
“พี่ปา ผมตัดสินใจแล้วครับ คนที่ผมต้องการจริงๆก็คือพี่นั่นเอง ผมรักพี่จริงๆนะครับ พี่ปา”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ อาจารย์... บอกให้ปล่อย...คุณนี่หยาบคายแท้ๆ”
ธวัชชัยไขว่คว้าเธอเป็นพัลวัน
“แบบนี้เขาไม่เรียกว่าหยาบคายหรอกครับพี่ปา เขาเรียกว่ารักต่างหาก พี่ปา...ผมรักพี่...ได้ยินไหม?.... ผมรักพี่”
“รักบ้าบออะไรกัน...ปล่อยมือชั้นเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นชั้นจะร้องให้ลั่นเชียว” หญิงสาวขู่
อาจารย์หนุ่มยังพยายามรั้งร่างของเธอเข้าไปอีกทั้งๆที่ปริษากำลังดิ้นรนอย่างสุดฤทธิ์
“เสียเวลาเปล่าๆครับพี่ปา พี่ร้องจนคอแตกก็ไม่มีใครได้ยิน น้ำตกนั่นมันดังอย่างกับอะไรดี... น่าตามใจผมหน่อยเถอะครับ อย่าดิ้นเลย จะเหน็ดเหนื่อยไปเสียเปล่าๆ”
“บ้า..คุณมันบ้า โธ่ ชั้นไม่คิดเลยว่าคุณจะชั่วชาติไร้ศีลธรรมถึงขนาดนี้ เป็นถึงอาจารย์” หญิงสาวตะโกนด่า น้ำตาร่วงรินลงมาตามพวงแก้ม

ธวัชชัยห้วเราะกระหึ่มในลำคอ เขาไขว่คว้าปริษาอย่างเมามัน มือขวาตะโบมทรวงอก แต่ปริษาเบี่ยงหลบ มือของเขาจึงดึงชายเสื้อของเธอกระชากออกเต็มแรง

คว้ากกกกก

เสียงเสื้อขาดดังลั่น ปริษาอุทานอย่างตกใจ บราที่รัดเต้าทรวงขนาดใหญ่ของเธอปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ธวัชชัยผวาเข้าไปหา ตาเป็นประกายวาววาม
“พี่ปา โอ้โฮ ใหญ่อย่างที่คิดไว้เลย พี่สวยน่ากินเหลือเกิน”
หน้าของเขายื่นเข้ามาใกล้ ลมหายใจร้อนผะผ่าวเป่ารดที่แก้มของหญิงสาว ปริษาบิดกายสุดแรง ฉับพลันมือข้างซ้ายที่เป็นอิสระของเธอก็ฟาดลงไปเต็มเหนี่ยว
เพี๊ยะ!!!
แก้มของอาจารย์หนุ่มเป็นรอยแดงปื้นใหญ่ขึ้นมาในทันที
“ปริษา...นี่พี่ตบผม พี่กล้าตบนายธวัชชัย” เขาคำรามออกมา
หญิงสาวไม่ตอบ พยายามดิ้นจะให้หลุดจากมือ แต่ทันทีนั้นเองธวัชชัยก็แสดงวิญญาณของความเป็นสัตว์ป่าออกมา เขากดร่างเธอนอนราบลงบนพื้นหญ้า ปริษาร้องด้วยคามเจ็บปวด ร่างกายท่อนล่างของเธอถูกเขาคร่อมกดทับไว้ อาจารย์หนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างเหี้ยมเกรียม
“เมื่อพี่ไม่ต้องการที่จะพูดจากันดีๆก็ไม่เป็นไร คนสวย ผมจะเป็นผัวพี่แบบโจรก็ได้ ฮะ ฮะ จะดิ้นไปทำไมครับ เดี๋ยวเจอฤทธิ์เดชน้องชายหัวโตของผมเข้าเดี๋ยวก็ร้องครางไม่หยุด 555555”

ปริษาดิ้นสุดชีวิต แต่ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งเจ็บมือขวาของเขาที่เอื้อมมาที่ไหล่ของเธอ บราเซียร์ถูกกระชากจนตะขอขาดติดมือเขาออกมา ปทุมถันอันยองใยที่อัดแน่นอยู่ในที่ปกปิด ทะลักหลุดออกมาเด่นชัดกระจ่างตา ปริษาหลับตาตัวสั่นเทิ้มด้วยความขยะแขยง เธอรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ปริษาร้องให้คนช่วย แต่เสียงของเธอดูจะเลือนหายไปกับเสียงน้ำตกที่ดังกึกก้องปัมนาทอยู่ใกล้ๆ เธอรู้สึกว่าลมหายใจอันหื่นกระหายของธวัชชัยกำลังก้มต่ำลงมาทุกที

หลง #14
..............................................
ปริษาดิ้นรนเตะถีบสุดชีวิต ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกข่มเหง ธวัชชัยก็เลยโผขึ้นโถมทับ จับมือจับขาหล่อนไว้ไม่ให้ออกฤทธิ์มากนัก
“ชาติชั่ว” ปริษาโวยวาย ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้น “คุณทำชั้นในชั้นขาดหมดแล้วเห็นมั้ย”
“โธ่ ก็พี่อยากดิ้นนี้ ที่รัก”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ชั้นจะลุกขึ้น” ปริษาทำเสียงเกรี้ยวกราด
“ลุกขึ้นทำไมล่ะ พี่ไม่อยากให้ผมไปยุ่งกับลูกสาวทั้งสองของพี่ไม่ใช่รึ ถ้างั้นพี่ก็ต้องยอมเอาตัวเข้าแลกแทน...อย่าดิ้นน่า..”

และโดยไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวได้โต้ตอบกลับ ธวัชชัยก็กำข้อมมือทั้งสองของเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ฉีกกระชากชั้นในชิ้นล่างส่วนที่เหลือออกให้พ้นทาง ด้วยความที่เมื่อครู่มัวแต่ปลุกปล้ำไม่ให้สาวงามดิ้นรนเป็นอิสระจึงไม่ทัน มองว่าเจ้าอาภรณ์ที่ถูกกระชากขาดคามือมันเผยให้เห็นความงามอะไรบ้าง

แต่ขณะนี้เมื่อกวาดสายตาลงไปยังเป้าหมาย เขาก็ตะลึงจนตาค้าง
ทั้งนี้เพราะอณาจักรความสาวของปริษานั้นมีขนขึ้นดกดำเป็นระเบียบ ทั้งรูปร่างและขนาดอวบอูมอย่างน่าหลงใหลซึ่งสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับ เขา จนอดไม่ได้ต้องลดมือลงไปลูบคลำจับต้อง สัมผัสความนุ่มนวลละเอียดอ่อนของผิวเนื้อและปุยขนนั้น

“อูยยย...นุ่มมือจริงๆ พี่ปา”เขาพึมพำอย่างพอใจ

ทันทีที่ถูกมือของเขาจับต้อง ปริษาก็มีอาการดิ้นรนหาทางเป็นอิสระอย่างสุดฤทธิ์อีกครั้ง คราวนี้ธวัชชัยต้องใช้เวลาปลุกปล้ำอยู่นานทีเดียว จนในที่สุดปริษาจึงต้องยอมยุติการต่อสู้ นอนหอบหายใจนิ่งเฉย และอีกชั่วครู่ธวัชชัยก็ต้องประหลาดใจอีกครั้งที่เห็นเนื้อตัวของปริษาไม่ ได้แข็งขืนเหมือนตอนแรก แถมความโกรธยังหายไปจากสีหน้าอีกด้วย

“อาจารย์ทำน้าเจ็บนะ” ปริษาพึมพำเป็นเชิงขอความเห็นใจ

ธวัชชัยไม่แน่ใจว่าเธอจะมาไม้ไหนกันแน่ ดังนั้นจึงคลายมือที่กุมข้อมือทั้งสองของเธอออกเล็กน้อย

แต่แค่นั้นก็นับว่าเพียงพอแล้ว เพราะปริษาซึงรอจังหวะอยู่รีบกระตุกข้อมือหลุดเป็นอิสระ แล้วลดมือวูบลงไปข้างล่างทันที

ความตกตะลึงทำให้ธวัชชัยทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะเมื่ออุ้งมือข้างนั้นตะครุบหมับเข้าที่สัดส่วนความหนุ่มแน่นของธวัช ชัยอย่างฉับไวและมั่นคง เหมือนจะบอกให้รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะได้รับต่อไปนี้ก็คือความนุ่มนวลที่จะมอบ ให้

เมื่อเป็นเช่นนั้น ธวัชชัยจึงขยับลงไปนอนเคียงข้างตามสบายรอคอยสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป และก็รอเพียงไม่นาน อุ้งมือข้างนั้นก็เริ่มขยับเขยื้อนในทิศทางขึ้นลง หยิบยื่นความเพลิดเพลินให้ธวัชชัยอย่างคาดไม่ถึง

สัญชาตญาณสอนให้อาจารย์หนุ่มรั้งร่างสาวงามเข้ามาสวมกอด ความสุขที่แผ่กระจายไปทั้งเนื้อทั้งตัวทำให้เขาลืมเสียสนิทว่าทำไมปริษาจึง เปลี่ยนปฏิกิริยาท่าทีได้รวดเร็วเช่นนี้

ความสุขที่ว่าก่อตัวขึ้นทีละน้อยๆ เช่นเดียวกับการขยับเขยื้อนอุ้งมือของปริษา ซึ่งโหมจังหวะเร่งเร้าอย่างรวดเร็วจนผิดสังเกต และในที่สุดอาจารย์หนุ่มก็เข้าใจแล้วว่าปริษาคิดอะไรอยู่ในใจ

คุณแม่ยังสาวของกนกวรรณคนนี้กำลังจะสะสางทุกอย่างให้จบสิ้นในเวลาอันรวดเร็ว โดยตัดสินใจใช้วิธีปลดเปลื้องความสุขให้อาจารย์หนุ่มด้วยอุ้งมือ แทนที่จะปล่อยให้เขารุกล้ำของสงวนของเธอ

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาก็รีบดันเข่าเข้าแทรกตรงหว่างขาของเธอในทันที และก่อนที่ปริษาจะไหวตัวทัน ร่างของเขาก็สอดเข้าไปตรงกลางปลายเท้าคู่นั้น จังหวะเดียวกันก็โถมน้ำหนักขึ้นกดทับร่างอวบอัดนั้นไว้ สัดส่วนความเป็นชายของเขาก็เลยบดเบียดอยู่กับความสาวของหญิงสาว ถูไถไปมา

“โอ” ปริษาอุทาน น้ำตาไหลพรากออกมาในทันที หญิงสาวรู้แล้วว่าตอนนี้การกระทำของเธอถูกชายหนุ่มรู้ทันแล้ว “เดี๋ยวอย่าเพิ่งอาจารย์ เดี๋ยวน้าท้อง ถอยออกก่อนเถอะ”
แต่อาจารย์หนุ่มไม่สนใจ ขยับดันสัดส่วนของเขาดันให้มันลึกเข้าไป พร้อมกับร้องครางออกมาเบาๆด้วยความกระสันรัญจวน ไม่น่าเชื่อว่าร่องหลืบของเธอจะยังฟิตเปรี๊ยะและรัดรึงของเขาไว้แน่นไม่ผิด อะไรกับเด็กสาวๆ

“เอาออกเถอะค่ะอาจารย์ ให้น้าใช้ริมฝีปากมอบความสุขให้อาจารย์ก็ได้” ปริษาวิงวอนเสียงสั่นสะท้าน รู้สึกดวงตาพร่าเลือนด้วยน้ำตา

นับเป็นข้อเสนอที่น้าสนใจอย่างยิ่ง เพราะผู้หญิงหัวโบราณน้อยคนนักที่จะยอมปรนเปรอความสุขให้ผู้ชายด้วยริมฝีปาก เนื่องจากถือเป็นเรื่องสกปรกของผู้หญิงชั้นต่ำ เป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงและเป็นการลดค่าตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัยที่สุด

แต่ถึงตอนนี้อาจารย์หนุ่มรู้แล้วว่าปริษานั้นร้ายกาจ ถึงจะดูเรียบร้อยไม่ทันคน แต่เอาเข้าจริงก็มีลูกล่อลูกชนไม่น้อย ทางที่ดีก็คือเดินหน้าต่อไป เพราะวิธีการนี้มันก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ รีบฉกฉวยเอาไว้ดีกว่า ดังนั้นเขาจึงออกแรงบุกไปข้างหน้าเต็มเหนี่ยว

น่าอัศจรรย์ที่สุด อณาจักรความสาวที่บุกฝ่านั้นมีสภาพอันแคบกะทัดรัดลงไปทุกที แน่นวนว่าปริษาไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ ซ้ำยังมีลูกสาวโตแล้วถึงสองคน แต่มันก็ตอดรัดเขาอยู่ตลอดเวลาอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเจ้าสัดส่วนของเขามันพองโตจนเต็มที่แบบนี้

“โอ๊ยย...ปล่อยนะ” สาวสวยกรีดร้องด้วยความตกตะลึง “ปล่อยชั้นนะไอ้อาจารย์ชั่ว...ถ้าสามีชั้นรู้เข้า รับรองแกตายแน่”

ต่อจากนั้นทั้งเสียงสบถ เสียงก่นด่า เสียงโวยวายก็พรั่งพรูมาจากริมฝีปากคู่บางของเธอ ไม่น่าเชื่อว่าสาวที่ดูสุภาพเป็นผู้ดีอย่างปริษาจะเอ่ยคำพูดเหล่านั้นได้ ซึ่งมันก็สร้างความเร้าใจให้กับเขามากขึ้นเป็นทวีคูณ อาจารย์หนุ่มยังคงชักนำความหนุ่มแน่นเดินทางรุดหน้าถอยหลังโดยไม่ฟังเสียง รสขาติเส้นทางอันคับแคบของปริษา ตลอดจนคำดุด่าของเธอสร้างความตื่นเต้นให้อาจารย์หนุ่มอย่างเหลือคณา

มันคล้ายกับการข่มขืนผู้หญิง การหาความสุขกับผู้หญิงในขณะที่หล่อนพยายามต่อต้านทุกวิถีทาง คือสี่งที่อาจารย์หนุ่มไม่เคยรู้จักมาก่อน

จวบจนความสุขเอ่อล้นขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของขอบทำนบ เขาจึงยุติการเขยื้อนขยับชั่วคราว และเมื่อมันเหือดหายไปบ้างจึงเริ่มโหมจังหวะใหม่ ช่วงแรกจะเปลี่ยนทำนองให้เชื่องช้าเนิบนาบถอนกลับจนสุดตัว ก่อนจะรุกใหม่เต็มเหยียด

ระหว่างนั้นคำสบถก่นด้ายับมีให้ได้ยินไม่ขาดสาย แต่ถึงช่วงนั้นอาจารย์หนุ่มก็สังเกตว่า แม้ปากของปริษาจะก่นด่า แต่หญิงสาวกลับยกสะโพกขึ้นโต้ตอบการกระแทกของอาจารย์หนุ่มอย่างไม่รู้ตัว

ช่วงเวลาไม่นาน จังหวะการเคลื่อนไหวระหว่างทั้งคู่ก็สอดประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ธวัชชัยรู้ว่าสถานการณ์มันเลยเถิดไปถึงขนาดกู่ไม่กลับแล้ว จึงได้แต่ตะกุกตะกักว่า
“ผมไม่สนใจ ถ้าต้องตายเพื่อพี่ปา ผมก็ยอม...เร็วเข้า...”

ท่อนเอ็นของอาจารย์หนุ่มเดินทางบุกเบิกเสียดสีผนังเข้าไปข้างหน้า ปริษากลั้นใจนิ่ง และพอเขาถอนกลับ ปริษาก็อ้าปากหอบหายใจ ขณะเดียวกันบั้นท้ายก็ยกขึ้นตอบโต้การรุกไล่ของเขาตลอดเวลา

อาจารย์หนุ่มส่งยิ้มให้ ปริษาก็จ้องสบตาด้วยความโกรธแว่บหนึ่ง แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น เพราะสถานการณ์เช่นนี้อยู่เหนือความควบคุมของหญิงสาวไปแล้ว

“อืมมมม...อูววววว.....”

เสียงครวญครางเริ่มดังเล็ดลอดจากริมฝีปากของหญิงสาว สะโพกผายส่ายคลอนอย่างไม่อาจระงับยั้ง ธวัชชัยโหมจังหวะรุกไล่อย่างดุเดือด ขณะเดียวกันก็ปล่อยมือของปริษาให้เป็นอิสระ ซึ่งปริษาก็กระหวัดขึ้นรัดรอบคออาจารย์หนุ่มอย่างลืมตัว

ในที่สุด อาจารย์หนุ่มก็พิชิต สาวแสนงามอย่างปริษาได้สำเร็จ

อีกชั่วครู่ต่อมา ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะปั่นป่วนรัญจวนใจ ความสุขก็กระจายไปทั่วร่างสั่นระริกของหญิงสาว เช่นเดียวกับอาจารย์ธวัชชัยซึ่งฉวยโอกาสนั้นปลดปล่อยหยาดแห่งความสุขตัวเอง ให้กระเซ็นไปบ้าง

จวบจนคลื่นแห่งความสุขสุดยอดระลอกสุดท้ายโถมทับเข้ามา จวบจนร่างงามนอนอย่างอ่อนระทวยหงายเหยียดยาวบนเตียง ยกท่อนแขนข้างหนึ่งขึ้นปิดป้องใบหน้า ริมฝีปากแดงเรื่อซึ่งเมื่อครู่ก่นอ่าอาจารย์หนุ่มจนยับเยิน บัดนี้กลับปิดเงียบ นอนร้องไห้สะอึกสะอื้น... อาจารย์หนุ่มจึงลุกขึ้นแต่งเนื้อแต่งตัว
..............................................


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #10 on: January 07, 2010, 10:32:08 am
หลง #15


เมื่อชาคริตอ่านจดหมายจากทางบ้านจบ เขาก็อดยิ้มไม่ได้ เขาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนจะพับและสอดใส่ลงในกระเป๋ากางเกงเตือนตัวเองว่า ต้องกลับไปบ้านในครั้งนี้ เขายกมือขึ้นเสยผม

แป๊น แป๊น ...

เสียงแตรรถดังกังวานขึ้นทางเบื้องซ้ายมือ ปลุกให้เขาตื่นขึ้นจากภวังค์เข้าสู่สภาวะปัจจุบัน รถสปอร์ตคันหนึ่งเทียบเข้ามาใกล้ แพมลูกพี่ลูกน้องของเขาอยู่เบื้องหลังพวงมาลัย อยู่ในชุดเทนนิสสีขาว มีผ้าคาดสีขาวทาบอยู่กับเรือนผม เสริมใบหน้ารูปใข่ให้ดูเด่นสะดุดตาขึ้น เลือดร้อนๆ ฉีดซ่านไปทั่วเรือนกาย ขณะที่ชาคริตเดินตรงเข้ามาหา
“กระโดดขึ้นมาเลย” เธอบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้า

ชาคริตเลื่อนตัวเข้ามประตูเข้าไปนั่งเคียงข้างเธอในรถคันนั้นด้วยท่าทางของ นักกรีฑา และแล้ว รถสปอร์ทก็เคลื่อนออกจากแนวทางโค้งเข้าสู่แนวถนนในบริเวณมหาวิทยาลัย ชาคริตพินิจเสี้ยวหน้าด้านข้างอันสมบูรณ์แบบของเธอ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“รู้สึกกำลังใจลอยเชียวนะ ตอนที่พี่ขับรถเข้าไปใกล้น่ะ” คำพูดของแพมเหมือนจะเหน็บแนมกับการที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นเธอมาก่อน จนเมื่อเธอกดแตรเรียกขึ้น
“คือผมกำลังคิดอยู่ว่าสมควรจะตัดผมได้แล้วหรือยังเท่านั้นละ”
แพมปรายตามองดูเรือนผมสีดำของเขาซึ่งบัดนี้ลูกสายลมเป่าจนออกจะยุ่งเหยิง
“เอ๊ะ แต่พี่ว่ายาวขนาดนี้มันก็เข้าท่าดีนี่”
ชาคริตกำลังหมกมุ่นอยู่กับความสั้นของขอบกางเกง และท่อนขาที่เพรียวงามของเธออยู่
“วันนี้มีนัดเล่นเทนนิสหรือ” ชาคริตลองเดา ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นความสดชื่นในเรือนกายเธออยู่
“เป้กับพี่จะลงเล่นคู่ชายหญิงตอน 4 โมงเย็น” แพมตอบความเป็นตัวเองแฝงอยู่ในน้ำเสียง “แล้วโจ้ล่ะ จะไปไหน ห้องสมุดหรือว่าจะกลับบ้าน”
“ห้องสมุดครับ” ชาคริตขยับสมุดบันทึกที่วางอยู่บนตัก สายตาเพ่งมองไปข้างหน้ามิได้แสดงปฏิกิริยากับการยอมรับว่า แพมมีนัดเล่นเทนนิสแล้ว...กับผู้ชายคนอื่น
“ดีเลย....พี่กำลังจะไปยืมหนังสืออยู่พอดี” แพมเอ่ยเบาๆ ก่อนจะถามต่อ “รถไปไหน”
“เช็คสี่หมื่นกิโลอยู่ครับ” เขาตอบเรียบๆ

ชาคริตแอบหลงรักลูกพี่ลูกน้องแสนสวยคนนี้มานานแล้ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ได้เป็นไปในแบบที่เขาคิด ตั้งแต่ที่ชาคริตเริ่มรู้จักความรัก เขาก็เห็นพี่แพมมีแฟนมาแล้วหลายๆคน เธอนัดพบกับผู้ชายไปเรื่อยๆ เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้ากัน จนกระทั่งเธอก้าวเข้ามหาวิทยาลัย ก็ยิ่งมีชื่อเสียงขจรขจายมากขึ้น การนัดหมายกับเธอก็คือรางวัลอันยิ่งใหญ่สำหรับพวกผู้ชายที่จะโอ้อวดกันมาก ขึ้น ชาคริตได้แต่ถอนตัวดูอยู่ห่างๆ เพราะนับคู่ต่อสู้ที่เขาเผชิญหน้าไม่หวาดไม่ไหว บางคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเลย ซึ่งเป็นประเภทที่มีจุดหมายแอบแฝงในตัวสาวงาม ต่อเมื่อเธอหันมาคบกับอาจารย์ธวัชชัย ก็ทำให้พวกเด็กนักศึกษาต้องถอนตัวออกไป ชาคริตสังเกตเห็นแพมดูจะมีความรักจริงจังมากขึ้น จวบจนกระทั่งมาเกิดเรื่องตบตีขึ้น ทำให้เขาแอบมีความหวังเล็กๆว่าจะกลับมาทีให้สาวสวยคนนี้มาไยดีด้วย

รถจอดลงที่มุมที่ว่างอยู่ใต้ต้นไม้ด้านหลังห้องสมุดมหาวิทยาลัยซึ่งขณะนี้ ว่างเปล่าปราศจากผู้คน และแทนที่ชาคริตจะเอื้อมไปเปิดประตูรถ ชาคริตก็หันมาหาทางนักศึกษาสาวรุ่นพี่อีกครั้ง
“ผมรู้ข่าวเรื่องพี่แพมกับน้องแนนแล้ว ผมเสียใจด้วย”
แพมหันมามองหน้าเขา หน้าแดงนิดๆเมื่อคิดว่าเขาคงจะนึกภาพเธอเปลื้องผ้าตบกับสาวแนน
“อ้อ เรื่องนั้นหรือ อย่าไปพูดถึงเลยพี่ลืมไปหมดแล้ว... ลงรถเถอะ” สาวสวยเอ่ย
“อย่าเพิ่งครับ ผมยังอยากจะคุยกับพี่”
แพมทำหน้าสงสัย
“มีอะไรหรือ”
“เรื่องของอาจารย์ธวัชชัยน่ะ ผมรู้ว่าพี่แพมคงจะเสียใจมาก”
เมื่อเห็นเธอนิ่งเงียบเขาจึงเอ่ยต่อ
“อาจารย์ธวัชชัยไม่ควรทำกับพี่อย่างนี้ ผมโกรธแทนพี่จริงๆ..”
“ขอบใจนะโจ้ แต่เธอไม่ต้องมาเสียใจแทนพี่หรอก บอกตามตรงว่าตอนแรกพี่ก็เสียใจมากที่อาจารย์ธวัชชัยไม่ได้เป็นอย่างที่พิ่ คิด แต่ตอนนี้พี่รู้แล้ว และพี่ก็ตัดสินแล้วด้วย” หญิงสาวตอบ
“ตัดสินใจอะไรหรือครับ” ชาคริตถามด้วยความแปลกใจ เขาจ้องมองดวงตาของแพมเพื่อค้นหาความในใจที่แท้จริงของสาวสวย แต่ก็ไม่พบวี่แววแห่งความเสียใจ
“พี่ก็สนุกสนานกับชีวิตไปเรื่อยๆน่ะซิ” มันเป็นคำตอบที่เธอใช้มาอย่างชาชิน
ชาคริตหัวเราะเจื่อนๆ ตอนแรกเขาคาดว่าเธอคงจะเสียใจอย่างมากมายแต่ผิดถนัด สาวแพมดูจะเป็นผู้หญิงที่แกร่งและมั่นใจในตัวเองมากกว่าที่เขาคิด
“พี่ไม่ได้รักอาจารย์ธวัชชัยหรือ” เขาอดไม่ได้ที่จะต้องถาม
“เคยรัก” เธอตอบแล้วเปล่งเสียงหัวเราะสดใสกังวานราวกับเสียงดนตรี “แต่เมื่อเขาไม่ซื่อตรงต่อพี่ก็จบเกมส์ พี่อาจจะเสียใจบ้าง แต่จะให้จมอยู่ในความทุกข์สามวันห้าวันละก็คงไม่ใช่พี่แน่ๆ”
แพมตอบพลางเปิดประตูรถก้าวลงมา ชาคริตรีบลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหาเธอ
“ไปห้องสมุดกันดีกว่า อย่าเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระนี้เลย” สาวสวยเอ่ย

แต่เมื่อเธอทำท่าจะหันเดินจากไป อ้อมแขนของชาคริตก็ตระหวัดร่างบางๆของแพมเข้ามาแนบตัว ประทับริมฝีปากลงด้วยจุมพิตอันหนักหน่วง หญิงสาวเอนหน้าหลบทำให้ลำตัวและสะโพกแนบเข้าหาท่อนขาส่วนกลางของเขา

แรงแห่งความใคร่ที่ถูกเก็บกดมานานทำให้ชาคริตไม่แยแสกับแรงผลักของฝ่ามือ เล็กๆคู่นั้น มีแต่ความละมุนละไมจากเนินทรวงกลมกลึงที่ถูกรั้งเข้ามาหาแผ่นอกของเขา ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้อย่างล้นเหลือ ความหวานปานน้ำผึ้งจากริมฝีปากของแพมทำให้เขาไม่อาจตัดใจถอนจากริมฝีปากของ เธอได้

ชาคริตรู้ว่าเขากำลังล่วงเกินลูกพี่ลูกน้องคนสวยมากเกินกว่าที่หญิงสาวจะ ตั้งตัวได้ แต่เขามั่นใจว่ารสจูบของเขาจะทำให้สาวสวยปรารถนาในสิ่งเดียวกันกับเขาได้ ในที่สุดอุ้งมือของเขาก็แระชับเกาะกุมอยู่ที่แก้มก้นของนักศึกษาสาว ทรวงอกอวบหยุ่นของเธอแนบอยู่กับแผงอกของเขา เน้นริมฝีปากอยู่กับติ่งหู และซอนไซร้อยู่กับความละมุนของช่วงลำคอ ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงเสียงทักท้วงของเธออยู่ในลำคอ

ฝ่ามือของเธอยกขึ้นปิดปากเพื่อผลักใบหน้าที่โน้มลงจุมพิตให้ห่างออกไป ชาคริตเอื้อมมือขึ้นปลดลงอย่างหงุดหงิด แพมแหงนหน้าจ้องมองดูญาติผู้น้องของเธออย่างเดือดดาล แววตาของเธอคมเข้มและแฝงแววเด็ดเดี่ยวอย่างแปลกประหลาด
“พี่เห็นแก่ที่เธอเป็นญาติผู้น้องจะไม่เอาเรื่อง แต่เธอต้องเลิกทำในสิ่งที่กำลังจะทำอยู่นี่ก่อนที่จะถลำไปไกลกว่านี้” สาวสวยพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด
“พี่แพม” เขาร้องด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ผมรักพี่นะ”
แต่แพมไม่ยอมใจอ่อนด้วย
“พี่ไม่ได้ให้เธอติดรถมา เพื่อจะให้ตัวเองถูกข่มขืนแน่” ฝ่ามือของเธอยันอกเขาไว้ สกัดกั้นไม่ให้เข้าใกล้

ชาคริตผงะ สติกลับมาอยู่กับตัว แพมทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนกับเป็นสัตว์ที่ร่านราคะ พร้อมที่จะบดขยี้เธอด้วยสันดานดิบ เขาโกรธตัวเองที่ยอมให้อารมณ์เช่นนั้นเข้าครอบงำจิตใจ
“ผมขอโทษ” เขาปล่อยมือจากเธอ ยกขึ้นลูบต้นคอ “พี่พูดถูก ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนี้เลย”
“โจ้” เธอเอื้อมมือมาแตะแขนเบาๆ ความอ่อนโยนในน้ำเสียง กลิ่นกรุ่นจากเรือนผมเกือบจะทำให้เขาครางออกมาดังๆ
“พี่ไม่ได้โกรธโจ้หรอกนะ ถ้าพูดกันจริงๆละก็” แววขำขันเจืออยู่ในน้ำเสียง “พี่เพียงแต่อาจจะเสียใจเท่านั้น พี่รู้ว่าผู้ชายทุกคนเป็นยังไงเมื่ออยู่ใกล้ๆพี่ มันไม่ใช่ความผิดของโจ้หรอก”
คำพูดของเธอยิ่งทำให้เขานึกด่าตัวเองอยู่ในใจ เมื่อเบือนหน้ากลับมามองเธอ ชาคริตก็อดที่จะหวั่นไหวกับความงามอันเหลือเชื่อของแพมไม่ได้ ความถวิลหาอาวรณ์ที่ซ่อนอยู่แผ่ซ่านไปทั่วเรือนกาย ยามนี้เป็นความรู้สึกสแยงใจโดยแท้
“ไปกันเถอะ” เธอหันมาพยักเพยิดบอกเขา
“พี่แพมไปก่อนเถอะครับ ผมขออยู่คนเดียวครู่หนึ่ง”
“งั้นก็ได้ อย่าคิดมากล่ะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะว่าเธอแรงไป”
แพมส่งยี้มให้ก่อนจะหันหลังเดิน ฉับ ฉับ ออกไป


..............................................



“ถึงกับตาค้างเลยหรือเพื่อน”
ชาคริตสะดุ้ง เมื่อมีมือมาตบบ่าของเขา
“อ้าว ไอ้จิ” เขาอุทานเมื่อเห็นว่าคนตบบ่าเขาเป็นใคร
“เธอสวยสุดยอดเลยใช่ไหม” จิรพนธ์ถาม
“พี่แพมเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุด” เขาตอบเบาๆ
“ขนาดนั้นเลยหรือวะ แล้วทำไมอาจารย์ธวัชชัยถึงปล่อยให้หลุดมือได้เล่า”
ชาคริตรู้สึกไม่ชอบในน้ำเสียงของเพื่อน จึงหันหลังทำท่าจะเดินหนีไป แต่จิรพนธ์รีบเดินตามไปข้างๆ
“มึงอยากได้พี่แพมมั้ยล่ะ กูช่วยได้”
ชาคริตหยุด
จิรพนธ์หัวเราะเบาๆ กล่าวต่อ
“กูช่วยให้มึงฟันพี่แพมได้ มึงอยากได้มั้ย”
“ยังไง”
“เอาเถอะ แล้วกูจะบอกให้ ไปคุยกันในโรงอาหารดีกว่า กูหิวแล้ว”
จิรพนธ์พูด
ชาคริตนิ่งไปสักพักก็พยักหน้า แล้วสองหนุ่มก็พากันเดินไปทางโรงอาหาร

..............................................

หลง #16 แผนกำราบดาวมหาลัย 2

ในช่วงบ่าย หลังจากน้องแนนเรียนเสร็จก็ก้าวออกมาจากห้อง ขณะเดินลงมาที่หน้าอาคารเรียน จิรพนธ์ก็เข้าไปขวางหน้าเธอไว้ น้องแนนสะดุ้งนิดๆ ขณะที่จิรพนธ์พาเธอเข้าไปในเวิ้งสำหรับนั่งเล่นเล็กๆ ใต้ราวบันได

“พี่จิ พาแนนมาตรงนี้ทำไมคะ” เธอถามเขาอย่างหวาดๆ
“พี่อยากจะคุยกับน้อแนนสัก 5 นาที โดยไม่ต้องมีใครเข้ามาขัดจังหวะน่ะซิ” เขาตอบยิ้มๆ จ้องมองเธอ ความน่ารักของน้องแนนปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาของเขาขึ้นมานิดๆ
“อย่าบอกนะคะ ว่าจะชวนแนนไปปาร์ตี้อีก แนนไม่เอาแล้วนะพี่จิ” หญิงสาวตอบอย่างหวาดระแวง นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วยังเสียวสยองไม่หาย
“พี่มีอะไรจะให้น้องแนนช่วยหน่อย”
“อะไรคะ”
“นั่งลงก่อนซิ”

ม้ายาวที่นั่งออกจะแข็งเกินกว่าจะนั่งให้สบายได้ แต่มันก็เป็นที่เดียวที่มีอยู่ น้องแนนนั่งอยู่ตรงมุมของมันหันหน้ามาเผชิญกับเขา ซึ่งลักษณะการนั่งเช่นนี้ทำให้จิรพนธ์ไม่อาจเข้าใกล้ตัวได้ มีแต่หัวเข่าเท่านั้นที่ชนกันยามที่จิรพนธ์เอนร่างเข้าไปหา

“เกี่ยวกับพี่แพมน่ะ ถ้าน้องแนนช่วยพี่นะ พี่จะให้รางวัลน้องแนนอย่างงามเลย สนใจมั้ย”
น้องแนนตาลุกวาว แต่ยังคงถามเขาด้วยความสงสัย
“แนนจะช่วยอะไรพี่จิได้คะ พี่จิก็รู้ว่าพี่แพมกับแนนน่ะมีเรื่องกัน จะเข้าหน้ายังไม่ติดเลย”
“พี่มีแผนละกัน ขอเพียงน้องแนนโอเคละก็ไม่ยาก ตกลงใช่มั้ยล่ะ”
น้องแนนยังอ้ำอึ้งอยู่ หญิงสาวไม่ค่อยจะไว้ใจเขานัก ทำให้จิรพนธ์ต้องเกลี้ยกล่อมต่อ
“คิดดูซิ น้องแนนจะได้แก้แค้นพี่แพมให้สะใจ แถมยังได้ตังด้วย ว่าไงล่ะ”
“พี่จิพอจะบอกแนนก่อนได้มั้ยคะว่าจะให้แนนช่วยอะไร”

จิรพนธ์เอื้อมมือไปทาบอยู่กับที่นั่งใกล้สะโพกของนักศึกษาสาว แสงไฟส่องประกายต้องอยู่บนเรือนผมดำขลับ แทบจะอดใจไม่ไหวที่จะประทับจูบไปบนริมฝีปากสีแดงสดมันเลื่อมราวจะเชิญชวนเขา อยู่ตลอดเวลา

“คือ...เอ้อ...พี่พูดตามตรงเลยละกัน...พวกพี่ๆอยากจะฟันพี่แพมน่ะ เลยอยากขอให้น้องแนนช่วย... น้องแนนอยากแก้แค้นพี่แพมไม่ใช่หรือ นี่เป็นโอกาสดีแล้ว”
“พี่จิ” น้องแนนอุทาน “พี่จิก็รู้ว่าแนนถูกคาดโทษไว้ ถ้ามีเรื่องอีกคราวนี้แนนถูกไล่ออกแน่ แถมดีไม่ดีจะติดคุกอีก ไม่เอาดีกว่า”
“เฮ้ย..! พี่จะให้น้องแนนเดือดร้อนได้ไง รับรองว่าพี่มีวิธีจัดการน่า รับรองว่าไม่เพียงแต่พี่แพมจะไม่เอาเรื่องเท่านั้น แต่จะยอมทำทุกอย่างที่น้องแนนสั่งด้วย รับรองน้องแนนจะได้แก้แค้นแบบสะใจจริงๆ” จิรพนธ์จ้องลึกไปในดวงตาเธอ เขาสังเกตุเห็นแววของความตื่นเต้นฉายวับในนั้น
“พี่จิแน่ใจนะคะ” น้องแนนถามกลับ แสดงถึงความสนใจในข้อเสนอของเขาอย่างแท้จริง
เสียงหัวเราะดังก้องออกมาจากปากของจิรพนธ์ เขาวางมือลงบนเข่าอันกลมมน ซึ่งซ่อนอยู่ในกระโปรงนักศึกษาสีดำของเธอ
“ไปหาที่คุยกันเงียบๆดีกว่า เราจะได้คุยกันอย่างละเอียด”
หญิงสาวนั่งนิ่งเหมือนจะครุ่นคิด จิรพนธ์รีบล้วงกระเป๋าหยิบธนบัตรมาปึกหนึ่ง แล้วส่งให้น้องแนน
“เอ้า นี่ พี่แสดงความจริงใจก่อนเลย นี่เป็นมัดจำ... ถ้างานเสร็จจะได้มากกว่านี้อีกหลายเท่า.... คราวนี้ เชื่อใจพี่รึยัง”
น้องแนนตาลุกวาว หมดความลังเลในทันที หญิงสาวรีบยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะรับเงินจากเขามา
“ตกลงค่ะพี่จิ แนนเชื่อแล้ว”

และแล้ว หญิงสาวก็ลุกขึ้นยืนโดยมีจิรพนธ์ลุกตามติดๆ กลิ่นน้ำหอมจากเรือนกายของเธออบอวลเย้ายวนใจเขา ปลุกประสาททุกส่วนให้ตื่นขึ้น เขาโอบเอวอ้อนแอ้นของเธอไว้ซึ่ง น้องแนนก็ไม่ได้ปัดป้องแต่ประการใด แถมยังยิ้มหวานให้อีกด้วย ซึ่งทำให้จิรพนธ์เกือบจะร้องครางออกมาดังๆ
“น้องแนนสวยเหลือเกิน พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ไปหาที่คุยกันเงียบๆสองคนดีกว่า”
หญิงสาวพยักหน้า รอยยิ้มพริ้มพรายเหมือนแมวเปอร์เซียนดูยั่วยวนใจนัก ทำให้เขาอดใจไม่ไหวที่จะดึงร่างเธอเข้ามาหา เนินทรวงอวบๆเสียดสีอยู่กับแขนเสื้อ สาวน้อยปล่อยใจให้ลอยล่องไปกับจุมพิตอันดื่มด่ำของชายหนุ่ม

“ไปคุยกันที่คอนโดพี่ดีกว่านะ”
“ที่ไหนก็ได้เจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงหวานฉ่ำ เมื่อคิดถึงบทรักดิบๆเถื่อนที่เคยได้รับ ก็ทำให้ไฟตัณหาของหญิงสาวลุกโชนขึ้นมาอย่างรุนแรง... ตอนนี้เธอไม่สนใจอาจารย์ธวัชชัยแล้ว อยู่กับเขาไม่เคยได้อะไร แต่มาคบกับพวกรุ่นพี่แบบจิรพนธ์ไม่เพียงแต่จะได้ความมันส์ที่จะใจกว่าเท่า นั้น แถมมีเงินใช้อย่างสุขสบายอีกด้วย... ยิ่งเมื่อได้จินตนาการถึงภาพ ของพี่แพม สาวคู่แข่งที่เย่อหยิ่ง ชอบทำเป็นเลิศหรู จะต้องโดนรุมกระหน่ำแล้ว..... โอย มันสะใจเหลือเกิน. ..

. ..........................


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #11 on: January 07, 2010, 10:32:52 am
หลง #17 แผนกำราบดาวมหาลัย บทที่ 3

“สวัสดีค่ะพี่แพม”
“เอ๊ะ” สาวแพมอุทานอย่างแปลกใจ เมื่อพบว่าสาวน้อยที่เข้ามาทักเธอคือน้องแนนคู่กัดตัวแสบ สาวสวยไม่ทักตอบ ทำท่าจะเดินเลี่ยงไปเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่สาวแนนก็ดึงมือเธอไว้
“เดี๋ยวซิคะพี่แพม แนนมีเรื่องจะคุยด้วย”
แพมขมวดคิ้ว
“เรื่องอะไรแนน ถ้าเรื่องอาจารย์ธวัชชัย พี่ไม่คุยด้วยแล้วนะ พี่ไม่อยากทะเลาะกับเราอีก”
“โธ่ พี่แพม ก็เรื่องนี้น่ะแหละ คือ แนนอยากจะปรับความเข้าใจกับพี่น่ะค่ะ... ตั้งแต่เกิดเรื่องแพมไม่สบายใจเลย แพมรู้ตัวว่าทำผิดไป เลยตั้งใจจะมาขอโทษพี่แพมด้วย”

แพมมองนักศึกษารุ่นน้องอย่างแปลกใจ เป็นครั้งแรกที่น้องแนนพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับเธอ ท่าทีของแนนทำให้แพมใจอ่อน
“ไม่ต้องขอโทษพี่หรอกแนน พี่ก็ผิดด้วยเหมือนกัน เราไม่ควรทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้เลย”
แนนยิ้มหวาน
“จะเที่ยงแล้ว เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีมั้ยคะ แนนจะเลี้ยงพี่แพมเอง”
“เอาไว้วันหลังดีกว่า พี่ต้องรีบไป ตอนบ่ายพี่ต้องไปตีเทนนิส นัดกับเพื่อนไว้แล้ว”

แนนทำตาแดงทำท่าจะร้องไห้
“โธ่ พี่แพมยังโกรธแนนอยู่ใช่มั้ยล่ะ ถึงไม่ยอมไปกินข้าวกับแนน พี่ต้องไม่หายโกรธแนนแน่ๆเลย”
“เปล่า พี่มีนัดจริงๆนะแนน” หญิงสาวรีบร้องขึ้น แต่แล้วก็ต้องเอ่ยต่ออย่างจนปัญญา เมื่อเห็นสาวแนนทำท่าจะร้องไห้จริงๆ “เอาละ ไปกินกันก่อนก็ได้ แต่พี่อยู่นานไม่ได้นะ”
“ค่ะพี่แพม ไม่นานหรอกค่ะ พี่แพมนี่น่ารักจริงจิ๊ง” น้องแนนออดอ้อน พลางคล้องแขนสาวแพมไว้ทันที
สาวสวยหน้าแดง อยากจะดึงแขนออก แต่ก็กลัวเด็กสาวจะน้อยใจอีก จำต้องปล่อยให้สาวแนนพาตรงไปยังโรงอาหารของมหาวิทยาลัย

. ..........................

ระหว่างที่สองสาวกินข้าวกันอยู่นั้น น้องแนนก็ชวนสาวแพมคุยอย่างสนิทสนม ทั้งคู่สนทนากันอย่างถูกคอราวกับไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน โดยเฉพาะสาวแนนนั้นพูดออดอ้อนเอาใจนักศึกษารุ่นพี่ตลอดเวลา ทำให้สาวแพมหมดความหวาดระแวงและรู้สึกดีกับสาวรุ่นน้องอย่างจริงใจ

“พี่แพมคะ แนนอยากจะคุยกับพี่เรื่องอาจารย์ธวัชชัยน่ะค่ะ”
“ทำไมหรอ”
“แนนตัดสินใจแล้วค่ะ ว่าแนนจะไม่ยุ่งกับอาจารย์อีกแล้ว ถ้าอาจารย์เค้าชอบพี่แพม แนนก็จะขอตัดใจเอง”
“แนน..!” แพมอุทานอย่างตื้นตันใจ ตังแต่เกิดเรื่องหญิงสาวเข้าใจตลอดมา ว่าสาวแนนทั้งรักทั้งหลงอาจารย์ธวัชชัย เมื่อเห็นเด็กสาวพูดอย่างนั้นก็รู้สึกสงสารเป็นอย่างยิ่ง รีบพูดต่อว่า
“แนน พี่กำลังจะบอกกับแนนเหมือนกันว่า พี่น่ะตัดสินใจเลิกกับอาจารย์ธวัชชัยเด็ดขาดแล้ว แนนไม่จะเป็นต้องทำอย่างนี้เลย พี่รู้ว่าแนนรักอาจารย์มาก ใข่มั้ย”
“จริงหรือคะ พี่แพมพูดจริงหรือคะนี่”
“จริงซิ”
“หรือพี่แพม มีปิ๊งกับคนอื่นแล้ว” เด็กสาวถาม
สาวแพมหัวเราะเบาๆ
“ก็ยังไม่มีแบบจริงๆจังๆหรอกน่ะ พี่ก็จะดูไปเรื่อยๆก่อน ไม่อยากผิดหวังอีก”
“จริงซิ พี่แพมทั้งสวยทั้งรวย มีคนมาให้เลือกตั้งเยอะ จะรีบไปทำไม”
สาวสวยหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อได้ยินรุ่นน้องชม หญิงสาวยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วก็เอ่ยขึ้น
“จะบ่ายแล้ว พี่คงต้องขอตัวก่อนนะแนน ไว้คุยกันวันหลังนะ”
“เดี๋ยวค่ะ พี่แพม แนนมีอีกเรื่องค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“คือพี่จิเค้าจัดงานปาร์ตี้ฉลองกันเล็กๆน้อยวันศุกร์นี้ เห็นพี่จิเค้าคุยว่า งานนี้มีเซอไพรซ์ด้วยนะ เพราะเค้าเชิญหมอดูชื่อดังมาด้วย พี่แกโม้ว่าทายแม๊นแม่น เราไปงานกันนะคะ จะได้ให้เค้าทายให้พี่แนนด้วยเผื่อจะรู้ว่าเนื้อคู่ของพี่แพมเป็นใครกันแน่”
สาวแพมหัวเราะเสียงใส
“โม้แน่ๆ แนนเชื่อเรื่องนี้ด้วยหรือ”
“ก็นิดหน่อยค่ะ แต่หมอคนนี้น่าเชื่อถือจริงๆนะคะพี่แพม พี่จิบอกว่าแกไปเรียนวิชานี้มาจากเขมรเชียวนะคะ”
“อืมมม ก็น่าสนใจนะ” หญิงสาวชักจะคล้อยตาม เพราะเคยได้ยินมานานแล้วว่า พวกเขมรนั้นมักจะมีวิชาแปลกๆ
“ตกลงไปนะคะพี่แพม แนนจะได้มีเพื่อน ไม่อยากเป็นผู้หญิงไปคนเดียว”
“ไว้นัดกันอีกทีละกัน ตอนนี้พี่ต้องไปแล้ว”
“ค่ะ แล้วคืนนี้แนนจะโทรไปหาพี่แพมนะ”
“จ้ะ”
แนนยิ้มหวาน ท่าทีของแพมนั้นบอกชัดว่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
“ทำเป็นเลิศ มีคนรุมจีบเยอะหรือ งานนี้มึงโดนเละแน่” สาวแสบเจ้ามารยาดาราตุ๊กตาทองนึกกระหยิ่มอยู่ในใจ....

. ..........................

“เฮ้ย ไอ้จิ บอกตามตรงว่ากูลังเลว่ะ กูไม่ต้องการแบบนี้เลยจริงๆ” ชาคริตเอ่ยกับเพื่อนอย่างไม่สบายใจ
“โธ่ มึงจะคิดมากไปทำไมวะ ไอ้ห่าเอ๊ย มึงลองคิดดู พี่แพมน่ะผู้ชายรุมจีบกันเป็นฝูง... ไม่ใช่กูดูถูกมึงนะโว๊ย แต่โอกาสของมึงมันไม่มีเลยว่ะ ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ แห้วแน่ๆ”
“จริงค่ะพี่โจ้” แนนกล่าวเสริม “พี่แพมน่ะมีคนมาจีบเยอะ แนนบอกตรงๆ ถ้าเป็นแนนก็จะเลือกแบบหล่อๆรวยๆไว้ก่อนเหมือนกัน”
“อ้อยจะเข้าปากช้างแล้ว ถ้าคลายก็โง่ล่ะวะ มึงอย่าไปคิดเรื่องความรักลมๆแล้งๆเลย ได้ตัวก่อนเรื่องอื่นว่ากันทีหลัง”
“จริงค่ะ พิ่จิพูดถูก” แนนพยักหน้าสนับสนุน
ชาคริตยังลังเล
“ถึงยังไงวันศุกร์นี้พี่แพมก็ไม่รอดแน่ๆ พวกกูเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว หมอจัน น่ะของจริงนะโว๊ย งานนี้มึงเห็นดาวคณะร่านสุดๆแน่ๆ..... อูย.... แค่คิดกูก็เสียวแล้วว่ะ”
“นั่นดิ ขนาดแนนเองยังอยากเห็นเลย พี่โจ้ไม่ต้องคิดมากแล้ว เป็นผู้ชายอะไรปอดยิ่งกว่าผู้หญิง น่าขายหน้าจริงๆ”
“เอาก็เอาโว๊ย” ชาคริตพูดออกมาดังๆ นึกถึงใบหน้าที่แสนหวานของญาติผู้พี่ ก็สุดจะอดใจไหวไว้เหมือนกัน จริงของไอ้จิ ไม่ว่าเขาจะตกลงหรือไม่ พี่แพมก็ไม่รอดพวกมันอยู่แล้ว ไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว
เอาไงเอากันวะ....ชายหนุ่มคิดในใจ

. ..........................

หลง #18 แผนกำราบดาวมหาลัย บทที่ 4

รถสปอร์ทของสาวแพมวิ่งเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าคฤหาสน์หลังงามที่น้องแนนเคยโดนหลอกมาเชือดเมื่อไม่กี่วันก่อน
“ทำไมเงียบจังเลยล่ะแนน” แพมเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ไม่เหมือนจะมีงานปาร์ตี้เลย”
“อืมม ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะพี่แพม หรือจะเกี่ยวกับหมอดูคะ”
“พี่ว่า เรากลับดีกว่ามั้ง ดูไม่ค่อยดีเลย” แพมพูดอย่างหวาดๆ
แนนหัวเราะคิก
“พี่แพมกลัวใช่มั้ยเนี่ย หมอจันแกเป็นหมอดูนะคะไม่ใช่หมอผี ไปกันเถอะค่ะ”
สาวแพมหน้าแดง สาวสวยเป็นคนกลัวผีจริงๆด้วย แต่พอโดนน้องแนนล้อก็อายไม่กล้ายอมรับ ถอนใจเบาๆ ขับรถไปจอดตรงที่จอดรถก่อนจะบิดกุญแจรถดับเครื่องแล้วเปิดประตูก้าวลงมา หลังจากล็อครถเรียบร้อยทั้งสองสาวก็พากันเดินไปยังคฤหาสน์

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ทั้งคู่ก็เห็นภายในนั้นค่อนข้างจะมืดผิดปกติเพราไม่ได้เปิดไฟไว้เลย ภายในมีผู้ชายนั่งกันอยู่เก้าคน มุมหนึ่งของห้องมีชายสวมชุดขาว นั่งอยู่หน้าแท่นบูชาอะไรสักอย่าง มีเทียนจุดสว่างรำไรอยู่สองเล่ม แพมรู้สึกบรรยากาศในห้องเงียบสงบและดูน่ากลัวอย่างประหลาด เสียงแอร์ครางกระหึ่มเบาๆทำให้บรรยากาศหนาวเย็นจนเธอถึงกับขนลุกซู่มาอย่าง ไม่รู้ตัว นึกอยากจะกลับในทันที แม้แต่สาวแนนเองก็รู้สึกหวาดหวั่นอยู่นิดๆ..

คนในห้องยกเว้นชายชุดขาวต่างหันมามองสองสาวเป็นตาเดียว แพมเห็นหนึ่งในนั้นคือชาคริตลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่งอยู่ด้วยก็ใจชื้นขึ้น ชาคริตส่งยิ้มให้แล้วพยักเพยิดเป็นเชิงให้เธอเข้าไปนั่งด้วย แพมจึงเดินนำน้องแนนเข้าไปหา สองสาวทรุดตัวนั่งทีด้านซ้ายของชาคริต ขณะที่หญิงสาวคิดจะเอ่ยอะไร ชาคริตก็ส่ายหน้าทำทีว่าอย่างเพิ่งพูดอะไรตอนนี้

ครู่หนึ่งชายชุดขาวก็ทำพิธีเสร็จ แล้วหันกลับมา แพมเห็นชายคนนั้นไว้หนวดเคราหงอกขาว อายุน่าจะอยู่ในราวประมาณ 60 ปี ชุดขาวที่สวมไว้บวกกับหน้าตาชวนให้หญิงสาวคิดว่า ชายคนนี้น่าจะเป็นหมอผีมากกว่าหมอดู

“เอาละ ใครจะเป็นคนดูคนแรก” ชายชุดขาวซึ่งก็คือหมอจันเอ่ยเสียงขรึม
จิรพนธ์หันมามองแพม แล้วรีบบอกกับหมอจันทันที
“ให้พี่แพมดูก่อนละกัน เลดี่เฟิร์ส”
“อุ๊ย” แพมอุทาน “ให้คนอื่นก่อนดีกว่าค่ะ”
หมอจันหันมามองหน้าแพม ตาเป็นประกายวาบ รู้ในทันทีว่าทำไมหนุ่มๆพวกนี้จึงเชิญเขามาทำพิธีให้ หมอจันเอ่ยกับแพมด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“มานี่เถอะแม่หนู เอ็งกำลังดวงตกอย่างแรง”
แพมใจหายวาบทันที ถึงหญิงสาวจะดูเป็นสาวสมัยใหม่ แต่ลึกๆแล้วเธอก็ค่อนข้างมีความเชื่อในเรื่องแบบนี้อยู่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าหมอดูคนนี้มีวิชาเขมรยิ่งทำให้สาวน้อยถึงกับใจเต้นระทึก เมื่อได้ยินว่าตัวเองกำลังดวงตก
“มาซิ” หมอจันย้ำอีกครั้ง
แพมลุกเดินไปนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าหมอจันตามคำสั่งของเขา หญิงสาวยกมือไหว้
“เอ็งชื่ออะไร แม่หนู” หมอจันถามเสียงห้าว
“แพมค่ะ”
เวลานั้น แพมนั่งพับเพียบกระโปรงสั้นนั้นเปิดวาบขึ้นมา ทำให้สายตาของชายหนุ่มทั้งหมดต่างกวาดไปตามลำขาอ่อนกันเป็นตาเดียว บางคนถึงกับรู้สึกท่อนเนื้อลุกแข็งขึงขึ้นมาในทันที...
หลง #19 แผนกำราบดาวมหาลัย บทที่ 5

“เอ็งกำลังมีเคราะห์อย่างหนักรู้ตัวมั้ย”
“เคราะห์? เคราะห์อะไรคะ” แพมถามอย่างหวาดๆ ในเต้นโครมคราม
“มองตาข้าสิ นังหนู ข้าจะอ่านชะตาจากดวงตาเอ็ง”
แพมเงยหน้าขึ้น หมอจันผู้มีอำนาจอันสูงส่งในทางสะกดจิต จ้องมองตาหญิงสาวนิ่ง บริกรรมคาถาแล้วเป่าพรวดเข้าไปที่หน้าผากของสาวสวย แพมสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย...
ในอึดใจต่อมา หญิงสาวก็ตกอยู่ใต้อำนาจสะกดจิตของหมอจันอย่างง่ายดาย
“เอาละพวกมึงฟังไว้ ขณะนี้อีแพมตกอยู่ใต้อำนาจการสะกดของกูแล้ว” หมอจันหันมาพูดกับพวกเด็กนักศึกษา
“จริงหรือครับอาจารย์” ไอ้เอกหัวโจกถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
“คนอย่างหมอจันไม่เคยพูดเล่น” หมอจันบอกอย่างเยือกเย็น

ทุกคนหันกลับไปทางสาวสวย ก็เห็นเธอนั่งนิ่ง อยู่ในอาการงงงันและเคลิบเคลิ้ม ตาลอยเหมือนคนไร้ความรู้สึก

“ผม..ผมทำอะไรเธอได้มั่งครับอาจารย์” ไอ้เอกหันมาถามหมอจันตะกุกตะกัก
“ทุกอย่าง.... กูรับรองว่ามันจะทำตามอย่างไม่มีการขัดขืน แต่กูต้องเตือนไว้ก่อนว่าตอนนี้อีแพมมันยังอยู่ในสภาวะสะกดขั้นต้น มึงจะถูกตัวมันไม่ได้ ไม่งั้นมันจะหลุดจากอาการสะกดของกู”
“แล้วต้องนานแค่ไหนล่ะครับอาจารย์ ถึงจะถูกตัวได้”
“ก็สักพักนึงล่ะ แล้วกูจะบอกพวกมึงเอง ตอนนี้พวกมึงอยากถามหรือให้มันทำอะไรก็เอาเลยแต่ห้ามถูกตัวมัน” หมอจันตอบ

เอกหันมาทางนักศึกษาสาว
“ถามอะไรหน่อยได้มั้ยแพม”
“อืมม” หญิงสาวขานรับอยู่ในลำคอ
“แพม ..เคย...เคย..นอนกับผู้ชายรึยัง” ไอ้เอกตัดสินใจถามตรงๆเลย ทุกคนหูผึ่งจ้องเขม็งไปทางหญิงสาว จับตาดูอย่างสนใจว่าเธอจะมีปฎิกิริยาอย่างไร
หญิงสาวนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบเบาๆ
“ไม่เคย”
“อูวววว”
เสียงฮือฮาดังขึ้นมาลั่นห้อง ทุกคนเชื่อแล้วว่าหญิงสาวถูกสะกดอยู่จริงๆ ไม่งั้นด้วยนิสัยปกติของสาวสวย ลองโดนคำถามหยาบคายอย่างนี้มีหรือที่จะตอบ แถมคนถามอาจจะโดนตบด้วยซ้ำ
“งานนี้มันส์สุดๆแน่ๆ ไอ้แมน มึงไปเอากล้องมาถ่ายอีแพมเก็บไว้ดูกันดีกว่า”
“ได้ครับพี่เอก” แมนรับคำแล้วรีบลุกขึ้นไปหยิบกล้องถ่ายวีดีโอออกมา
“อีแพมเอ๊ย ถือว่ามีคนจีบเยอะทำเป็นหยิ่ง คราวนี้มึงได้อายสุดๆแน่” น้องแนนพึมพำอย่างสะใจ
ไอ้แมนจัดแจงเปิดสวิทช์กล้อง เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็พยักหน้าให้ทุกคนเป็นเชิงว่าพร้อมแล้ว

“แล้วจูบล่ะ มึงเคยรึยัง” จิรพนธ์ถามโพล่งขึ้นมาบ้าง เมื่อรู้ว่าหญิงสาวอยู่ในอาการถูกสะกด มันก็ถามสาวรุ่นพี่อย่างไม่มีความเกรงใจอีกต่อไป
ทุกคนเงียบกริบ รอฟังคำตอบจากหญิงสาว
แพมนั้นนิ่งอึ้ง เหมือนกับพยายามจะต่อต้านกับอำนาจสะกด แต่สักพักหญิงสาวก็ตอบออกมา
“เคย”
“กับใคร”
“....อาจารย์ธวัชชัย.... แล้วก็ชาคริต”
“ว๊าวว” ไอ้จิร้อง ทุกคนหันไปมองชาคริต ชายหนุ่มหน้าแดง
“เฮ้ พี่โจ้นี่ทำเป็นหงิมๆ ที่แท้ก็ร้ายไม่ใช่เล่น” น้องแนนเย้า
“เงียบๆโว๊ย ตากูมั่ง” ไอ้เบี้ยวร้อง “อีแพม มึงเคยแก้ผ้าให้ผู้ชายดูรึเปล่า”
“โอ๊ยยยย...! ถามได้โดนใจมาก” ไอ้จิร้องอย่างถูกใจ พร้อมกับทุกคนที่พากันจับตาดูสาวแพมว่าจะตอบยังไง

ไอ้แมนซูมกล้องไปที่หน้าหญิงสาว เหมือนกับจะจับความรู้สึกของเธอแบบชัดๆ

ครั้งนี้หญิงสาวนิ่งไปนานกว่าทุกครั้ง และแม้อากาศในห้องจะเย็นฉ่ำแต่ใบหน้าที่ขาวนวลเป็นยองใยของหญิงสาวมีเหงื่อ ผุดขึ้นพราวอย่างแปลกประหลาด ทรวงอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรงตามจังหวะการเต้นของหัวใจที่ดูจะรัว เร็วขึ้นอย่างผิดปกติ แล้วในที่สุดเธอก็ตอบกลับมาจนได้
“ไม่เคย”
“ทำไม หรือว่ามึงหุ่นไม่ดี” ไอ้จิแกล้งถาม
“ไม่..! ไม่ใช่ แพมหุ่นดี..” คราวนี้หญิงสาวตอบอย่างรวดเร็ว
“หุ่นดีแล้วทำไมไม่แก้ให้ผู้ชายดู”
“แพม..แพมอาย..” หน้าหวานๆนั้นแดงซ่าน
เสียงหัวเราะดังลั่นห้อง
“แล้วจริงๆมึงอยากอวดของดีให้ผู้ชายดูรึเปล่า”

แพมนิ่งอึ้งอีกครั้ง หญิงสาวพยายามอย่างหนักที่จะต่อต้านอำนาจสะกดของหมอจัน แต่ก็แปลกยิ่งนัก สาวสวยรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา รู้แม้กระทั่งว่าคำถามแต่ละคำถามนั้นล้วนแต่น่าอับอายและอดสูสำหรับลูก ผู้หญิง แต่ก็แปลกประหลาดที่เธอไม่สามารถบังคับตัวเองไม่ให้ตอบได้ แถมเป็นคำตอบที่ออกมาจากใจอย่างแท้จริงด้วย

“บาง....บางครั้งก็อยาก”
“ทำไมถึงอยาก”
“อยากให้คนชมว่าแพมหุ่นสวย”
“สวยตรงไหน นมหรือหอย” เอกถามเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆอีกครั้ง
แพมหน้าแดงระเรื่อ พยายามบังคับใจอย่างสุดตัว แต่อำนาจสะกดของหมอจันแรงยิ่งนักจนเธอไม่สามารถต่อต้านได้เลย
“สวย ..แพมสวยหมดเลย” หญิงสาวตอบเสียงหวานฉ่ำ ตากลมโตนั้นหยาดเยิ้มอย่างน่าหลงใหล
ไอ้เอกจับตามองจากทรวงอกอิ่มเรื่อยลงมาสู่ต้นขาขาวผ่องที่ลอดออกมา จากกระโปรง เรื่อยไปตามลำขา ถึงปลายเท้าก็ต้องแอบกลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยความหื่นกระหาย...
“โม้หรือเปล่า..คนสวย .......ถอดเสื้อผ้าให้พวกเราดูหน่อยซิ”
“ไม่”
“ถอดซิ”
“ไม่”
“ทำไมมึงไม่ถอด”
“แพม ...แพมอาย” แม้จะอยู่ภายใต้อำนาจสะกด แต่เธอก็ปฎิเสธที่จะตามเพราะความรักนวลสงวนตัวยังยับยั้งไว้
“อาจารย์ ไหนบอกว่าสั่งได้ทุกอย่างไง” ไอ้เอกหันไปโวยกับหมอจัน


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #12 on: January 07, 2010, 10:33:32 am
หลง #20 แผนกำราบดาวมหาลัย บทที่ 6

“นั่นเป็นเพราะอีแพมมันเป็นผู้หญิงที่มีจิตสำนึกต่อต้านกับเรื่องกามารมณ์ น่ะซิวะ ผู้หญิงแบบนี้มันจะไม่ถูกสะกดให้ทำเรื่องที่มันละอายใจง่ายๆ สามัญสำนึกของมันยับยั้งไว้”
“อ้าว อาจารย์อย่างงี้ก็ไม่มันส์น่ะซิครับ” ได้เอกบอก
“ใจเย็นๆ กูยังอธิบายไม่หมดเลย เรื่องแบบนี้ถ้ากูแก้ไม่ได้ก็เสียชื่อหมอจันหมด มึงต้องการให้มันเป็นยังไงล่ะ”
“ผมอยากให้อาจารย์ทำให้อีแพมมันร่าน แบบสุดๆเลยน่ะ” ไอ้เอกย้ำ
“ใช่ครับ เอาแบบที่เห็นของผู้ชายเป็นผวาเข้าใส่เลยอาจารย์”
“เอาให้ร่านแบบกะหรี่เลยอาจารย์” เสียงสนับสนุนดังกันเซ็งแซ่ ในขณะที่สาวแพมยังนั่งอย่างเหม่อลอยเหมือนกับไม่รู้ตัว ว่าเพื่อนๆกำลังพูดถึงเธอ...

แต่ที่จริงแล้วสติของแพมยังอยู่ครบถ้วน หญิงสาวได้เห็นได้ยินทั้งหมด แต่ไม่มีเรี่ยวแรงและกำลังที่จะพูดต่อต้าน ด้วยว่าอวัยวะในร่างกายถูกตัดขาดไปจากการควบคุมของสมอง หญิงสาวได้แต่ตกตะลึงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั่งฟังอย่างหวาดหวั่น น้ำตาเริ่มเอ่อคลอที่เบ้า สำนึกได้ว่าตนเองเสียรู้เพื่อนๆเข้าแล้ว

แพมกวาดสายตามองมายังชาคริตเหมือนจะขอความช่วยเหลือ แต่ชายหนุ่มตอนนี้ก็อยู่ในความสับสนไม่แพ้กัน ใจหนึ่งอยากจะช่วยญาติสาวผู้พี่ แต่อีกใจก็เต็มไปด้วยความปั่นป่วนรัญจวนใจ ยิ่งเห็นใบหน้างามสะคราญ ชุดที่รัดรูปอวบอัด ก็ยิ่งอยากที่จะกอดรัดฟอนเฟ้น อยากที่จะได้นอนกับเธอให้สมกับที่ใฝ่ฝันมานาน... แล้วในที่สุดอำนาจฝ่ายต่ำก็เป็นผู้ชนะ เขาปลอบใจตัวเองว่าเรื่องถึงขั้นนี้ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ถึงเขาอยากจะช่วยแต่เพื่อนๆก็คงไม่ยอมอยู่ดี

“พวกมึงจงนั่งดูเงียบๆ อย่าส่งเสียงดังให้เสียพิธี” หมอจันพูดเสียงแข็ง จากนั้นก็หันมาทาง สาวแพม ดาวมหาลัยผู้ดวงตกสุดขีด “ยืนขึ้นอีแพม”

หญิงสาวลุกขึ้นยืนตามคำสั่งของหมอจัน
“ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของมึงออกให้หมด”

เสียงของหมอจันทรงอำนาจอย่างประหลาด แพมพยายามจะขัดขืนแต่ไม่สามารถควบคุมบังคับร่างกายได้ มือของเธอเอื้อมขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด... ทีละเม็ด และในไม่ช้าร่างของหญิงสาวก็เปล่าเปลือยล่อนจ้อน อวดความขาวโพลนอยู่ใน แสงเทียน

เสียงครางเสียงหอบหายใจดังกระเส่าเต็มห้อง ทุกสายตาจับจ้องมาที่ร่างของหญิงสาวกันเป็นตาเดียว เพราะเรือนร่างของสาวแพมนั้นงดงามอย่างสมบูรณ์แบบเย้ายวนไปทุกส่วนสัด ความอวบนูนของเนื้อโคกนั้นเผยให้ทุกสายตาได้เห็นอย่างเต็มตา ขนหมอยของเธอเป็นระเบียบแลดูอ่อนนุ่มน่าลูบไล้ ปกคลุมพื้นที่ด้วยปริมาณที่พอเหมาะได้ดกและไม่บางจนเกินไป เนื้อแคมทั้งคู่นั้นเบ่งพองออกมานูนเป่ง อันแสดงถึงความงามของสาวบริสุทธิ์ มองเห็นรอยผ่าแดงระเรื่อราวกับสีกุหลาบสด แม้แต่น้องแนนเองยังต้องมองด้วยความอิจฉา

หญิงสาวยืนตัวสั่นระริก ดวงตากลมโตมีน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ทั้งหวาดกลัวทั้งอับอายสุดขีด ตอนนี้แม้แต่อยากจะหลับตาก็ไม่สามารถจะบังคับได้ ร่างงดงามเปล่าเปลือยของเธอแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อไปทั้งตัวด้วยความ อัปยศอดสูใจ ไม่เคยเลยที่เธอจะต้องตกอยู่ในสภาพนี้ จริงอยู่ที่เธอจะเคยเปลือยกายให้คนเห็นมาแล้วเมื่อครั้งตบกับน้องแนน แต่ตอนนั้นมันด้วยอารมณ์โกรธและเป็นการพัวพันอยู่กับแนนโดยมีโคลนเปื้อนเต็ม ตัว อีกทั้งคนที่มุงดูก็อยุ่ในระยะไกลทั้งสิ้น ต่างจากครั้งนี้ที่เธอเปลือยเปล่าอย่างแท้จริง แถมอยู่ต่อหน้าผู้ชายมากมายในระยะใกล้แค่เอื้อม... และยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้อีกด้วย

สายตาหลายๆคู่มองไปยังร่างของแพมด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสายตาที่หื่นกระหายใคร่จะได้ลิ้มลองเรือนร่างที่น่าฟัด อย่างยิ่งนี้ แต่สายตาของชาคริตยังมีแววของความสงสารและความรักเจือปนอยู่บ้าง ในขณะที่สายตาของสาวแนนนั้นเต็มไปด้วยความสะใจและอยากรู้อยากเห็น

หมอจันหยิบเอาขันน้ำมนต์ใบเขื่องขึ้นมา บริกรรมคาถา จากนั้นก็หยิบเทียนขาวเล่มใหญ่หยดไปในขัน ปากก็พึมพำอยู่ตลอดเวลา จากนั้นก็ยกขันขึ้นมาดื่ม แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ร่างของแพม จากนั้นก็เป่าพรวดลงไปที่หน้าอกของหญิงสาว แพมกรีดร้องโหยหวน รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ล้มตัวลงนอนกับพื้นในทันที ร่างกายร้อนระอุราวกับถูกไฟเผาผลาญ ดิ้นรนไปมา เต้านมสั่นกระเพื่อมไปตามแรงดิ้นรน เหงื่อเกาะพราวเต็มเรือนร่างที่เปล่าเปลือย หมอจันเป่าพรวดลงไปเป็นครั้งที่สอง ทำให้ดาวเปลี่ยนจากร้อนระอุกลายเย็นยะเยือก หนาวจนต้องนอนขดตัว ริมฝีปากสั่นระริกหอบหายใจแรง จากนั้นก็กลับไปเป็นร้อนสลับกับหนาวอยู่ตลอดเวลา รู้สึกหูอื้อ และตาพร่าจนมองอะไรลานเลืองไปหมด สักครู่ร่างงามนั้นก็หยุดดิ้นรน ถึงตอนนี้เหล่าคนดูทุกคนเริ่มรู้สึกหวาดกลัวกับภาพที่เห็นอย่างไม่ทราบ สาเหตุ

หมอจันทรุดตัวลงนั่ง จากนั้นก็กรอกน้ำมนต์ใส่ปากของนักศึกษาสาว แล้วสั่งให้เธอกลืนน้ำมนต์ หญิงสาวปฎิบัติตามคำสั่งทันที หมอจันบริกรรมคาถาแล้วเป่ากระหม่อมของแพมอีกครั้ง จากนั้นก็เดินกลับมานั่งยังที่เดิมแล้วบอกว่า

“ตอนนี้กูลงอาคมบนตัวอีแพม จิตของมันอยู่ในอำนาจสะกดอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้แต่จิตสำนึกส่วนลึก ตลอดจนสามัญสำนึกก็ไม่มีทางที่จะต่อต้านคำสั่งของกูได้”
“แล้วตอนนี้มัน..มันร่านรึยังอาจารย์” ไอ้เอกถาม
“ยัง..มันแค่อยู่ในอำนาจสะกดเฉยๆ แต่กูจะทำพิธีขั้นต่อไปเพื่อเปลี่ยนนิสัยมัน ลุกขึ้นอีแพม” หมอจันสั่งเสียงกร้าว พร้อมกับยื่นมือเข้าไปหา

ทันใดนั้นแพมก็ลุกขึ้นมานั่งคุกเข่า ใบหน้าของสาวสวยแสดงถึงความเคลิบเคลิ้ม ตาที่เคยกลมโตบัดนี้หรี่ปรือ เหมือนคนกำลังใกล้จะหลับ สาวสวยก้มลงจุมพิตเบาๆที่หลังมืออันหยาบกร้านมีขนของหมอจัน ขณะที่ก้มลงจุมพิตมือ แพมก็รู้สึกเยือกเย็นบนศีรษะด้วยลมปากเป่าเบาๆของหมอจัน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นรู้สึกสลึมสลือบางครั้งก็เคลิบเคลิ้มบางครั้งก็รู้สึกตัว เหมือนกับเป็นปกติ แต่ไม่ว่าจะมีความรู้สึกอะไร หญิงสาวก็ไม่สามารถควบคุมอวัยวะของตัวเองได้เลย ยังคงต้องรอรับคำสั่งของหมอจันเหมือนกับอวัยวะเหล่านั้นไม่ใช่ของตัวเอง

หมอจันหยิบย่ามออกมา แล้วล้วงเข้าไปข้างในดึงเอาวัตถุออกมาสิ่งหนึ่ง เสียงฮือฮาดังขึ้น แพมซึ่งจับตามองอยู่ถึงกับใจหายวาบเมื่อเห็นเจ้าสิ่งนั้นอย่างชัดเจน มันมีรูปร่างคล้ายกับอวัยวะของผู้ชาย ใหญ่ขนาดที่มือของเธอกำไม่มิด หญิงสาวหวาดหวั่นจนตัวสั่นระริก รู้แล้วว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง

หมอจันหันมาบอกกับพวกนักศึกษาที่นั่งจ้องกันเงียบกริบว่า
“ลึงศ์อันนี้ทำมาจากเศษเนื้อบริเวณท่อนเนื้อของศพฆาตกรซึ่งชอบฆ่าข่มขืน ผู้หญิง ผสมกับเศษเนื้อบริเวณหีของศพผู้หญิงที่ยามมีชีวิตอยู่ก็เป็นกะหรี่ หรือร่านสวาทคบชู้ไม่เลือกหน้า รวมทั้งหมด 7 ศพ ผสมกับดิน 7 ป่าช้า แล้วผ่านการลงอาคมด้วยน้ำมนต์ที่ปลุกเสกด้วยคาถา 7 บท อันเป็นคาถาเมตตามหานิยม ซึ่งเป็นคาถามหาเสน่ห์ ทำให้คนรักคนหลง แต่เมื่อถูกนำมาใช้ในพิธีนี้จะทำให้ ลึงค์นี้เป็นที่รวมของความรู้สึก หมกมุ่นกามารมณ์ ปลุกปั่นอารมณ์เพศ เสพสังวาสอยู่เป็นนิจ และสำคัญที่สุดคือขาดผู้ชายไม่ได้เลย กูจะสั่งให้อีแพมสังวาสกับลึงค์นี้ หลังจากนั้นมันจะเป็นผู้หญิงที่ร่านแบบสุดๆ เห็นของผู้ชายเป็นต้องผวาเข้าใส่ ตอนนี้กูจะถามเป็นครั้งสุดท้ายว่ามึงอยากจะให้กูทำพิธีต่อไปหรือไม่”

ทุกคนหันมามองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำพูดอะไร เพราะไม่มีใครคิดว่ามันจะน่ากลัวถึงขนาดนี้ ยิ่งแพมสาวสวยนั้นมีอาการสั่นระริกอย่างรุนแรง เพราะความหวาดกลัวท่อนเอ็นนี้อย่างสุดขีด

และในท่ามกลางความเงียบนั้น ในทีสุดก็มีเสียงใสๆดังขึ้น ซึ่งจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้นอกจากสาวแนนที่ยังแค้นนักศึกษารุ่นพี่ไม่หาย
“ทำต่อเลยค่ะอาจารย์”

ชาคริต พูดสอดขึ้นอย่างกังวล
“น้องแนน”

จิรพนธ์ถามหมอจัน
“แล้วมันจะกลับมาเป็นอย่างเดิมหรือเปล่าอาจารย์”
“ก็ต้องประมาณ สามเดือนเป็นอย่างน้อยที่อาคมจะเสื่อมถอยลงไปเอง ซึ่งถ้าไม่นำมาลงอาคมเพิ่มมันก็จะคลายความร่านลง แต่ความอยากในกามารมณ์เมื่อถูกปลุกเร้าแล้วก็ไม่มีวันจะกลับมาเป็นปกติแล้ว”
“มีวิธีอื่นอีกมั้ยอาจารย์ เอาแบบให้ร่านแค่สามสี่วันน่ะ” จิรพนธ์ถาม
“ไม่มี ถ้าไม่ใช้ลึงค์นี้อย่างมากก็ทำได้แค่สะกดให้อยู่ในอำนาจจิตเฉยๆแบบที่กูทำใน ตอนแรก แต่มันจะไม่ร่านอย่างที่พวกมึงต้องการ” หมอจันตอบเรียบๆ
“งั้นทำเลยอาจารย์” ไอ้เอกตัดสินใจบอก
“เอาไงเอากัน” ไอ้แมนเสริม
ชาคริตเองก็นิ่งเงียบ

หมอจันหันมาทางนักศึกษาสาวที่นั่งคุกเข่าล่อนจ้อนอยู่ตรงหน้า แล้วยื่นท่อนลึงค์ศักดิ์สิทธิ์ให้
“อีแพม มึงต้องสังวาสกับลึงค์ศักดิ์สิทธิ์นี้เดี๋ยวนี้”

แพมรับท่อนลึงค์จากมือของหมอจันมา แล้วลุกขึ้นยืนถ่างขาออกจับท่อนลึงค์ตั้งไว้กับพื้น แล้วค่อยๆนั่งยองๆลงไป จ่อท่อนลึงค์กับหอยของตัวเอง แต่เมื่อท่อนลึงค์นั้นสัมผัสกับปากแคมของตัวเองหญิงสาวก็หยุดชะงักไปเฉยๆ สีหน้านั้นเผือดขาว ริมฝีปากที่ทาลิปสติคจนแดงฉานนั้นสั่นระริก

“นั่งลงไปซิ เอาลึงค์เข้าหีมึงเดี๋ยวนี้”

หญิงสาวค่อยๆนั่งลงไป ทั้งๆที่แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและอ้อนวอน ท่อนลึงค์ศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆสอดเข้าไปในร่องหลืบของตัวเองทีละนิดทีละนิด หญิงสาวทรุดตัวนั่งลงไปเรื่อยๆ ปล่อยให้ท่อนลึงค์ชำแรกผ่านหนังร่องหลืบของตัวเอง มันฝืดคับจนหญิงสาวน้ำตาร่วง แต่ก็กดร่างลงไปช้าๆไม่ยอมหยุด ฉับพลัน เลือดพรหมจรรย์ของสาวสวยก็ไหลซึมลงมาตามลำลึงค์แล้วหยดหยาดลงไปนองบนพื้นใน ทันที

“อูยยยยย” เสียงร้องครางดังออกมาระงมทั่วห้องด้วยความหวาดเสียว

ความเจ็บปวดพุ่งเข้าสู่ทุกเส้นประสาทของหญิงสาวจนหน้าตาบิดเบี้ยว แต่ก็หาได้หยุดการกระทำของตัวเองไม่ แพมยังคงทรุดตัวนั่งลงไปเรื่อยๆ ปล่อยให้ดุ้นเนื้อดันผ่านร่องหลืบอันคับแน่นเพราะไม่เคยมีวัตถุใดฝ่าเข้าไป ก่อนเลยในชีวิต ตอนนี้เลือดพรหมจรรย์อาบลำลึงค์จนแดงโชกไปหมดทั้งลำ

หญิงสาวปวดร้าวแทบขาดใจร้องครางออกมาในลำคอ แต่ไม่อาจขัดขืนต่อคำสั่งของหมอจัน หญิงสาวกัดฟันกดร่องหีของตัวเองลงไปไม่ยอมหยุด กลีบแคมเผยออ้ากว้างขึ้นเรื่อยๆ ความเจ็บปวดทวีขึ้นอย่างรุนแรง น้ำตาไหลพรากๆไม่ขาดสาย

“โอยยย.... ตายแล้ว” แนนคิดอยุ่ในใจด้วยความเสียวสยอง ลึงค์อันนี้มีขนาดใหญ่มากจนแม้กระทั่งแนนเองที่ผ่านผู้ชายมาหลายคนยังรู้ตัว ว่าทนไม่ไหวแน่ๆ แต่ทำไมแพมซึ่งเป็นสาวบริสุทธิ์จึงกดตัวเองให้ลึงค์ยักษ์เข้าไปไม่หยุดยั้ง นี่แสดงว่าคาถาอาคมของหมอจันนั้นมีฤทธิ์อำนาจรุนแรงจริงๆ หญิงสาวยกมือขึ้นปิดตา แล้วแอบมองผ่านร่องนิ้ว เพราะไม่กล้ามองอย่างเต็มตา ความรู้สึกหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่วร่างจนขนลุกเกรียวไปทั้งตัว...

ในที่สุดลึงค์ก็เข้าไปในรูหีของแพมจนมิดหมดทั้งตัว..! เหลือเพียงแต่ฐานขนาดใหญ่เท่านั้นที่ถูกกุมไว้ในอุ้งมือของหญิงสาว ท่อนลึงค์นั้นแดงฉานไปหมดอย่างน่ากลัว

เหล่านักศึกษาหนุ่มๆต่างพากันจ้องเขม็งกันไปที่หอยของสาวสวย ความรู้สึกนั้นแตกต่างกันไป บางคนอาจจะรู้สึกเสียดายที่พรหมจรรย์ของสาวสวยพราวเสน่ห์ต้องสังเวยให้กับ เอ็นผีแทนที่จะเป็นเอ็นของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นทุกคนต่างก็รู้สึกท่อนเนื้อของตัวเองลุกตั้งชันแข็งขันไปตามๆ กัน เมื่อเห็นแคมหีของหญิงสาวเขมือบท่อนลึงค์จนมิดด้าม

ใบหน้าของสาวสวยบิดเบี้ยวร้องครวญครางอยู่ตลอดเวลาด้วยความเจ็บปวด นี่หากไม่ได้โดนอาคมของหมอจันสะกดไว้คงกรีดร้องลั่นไปนานแล้ว

“เป็นไง มึงรู้สึกยังไงอีแพม” หมอจันเอ่ยปากถาม สายตากร้าวแข็งด้วยอำนาจจิต
“เจ็บ แพมเจ็บเหลือเกิน...” หญิงสาวร้องเสียงแตกพร่าเหงื่อไหลหยดหยาดลงมาจนถึงปลายจมูก
“แน่ละมึงเจ็บ แต่มึงจะเจ็บแค่ครั้งเดียว ลึงค์นี้เป็นลึงค์ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากมึงสังวาสกับลึงค์นี้แล้ว ต่อไปมึงจะมีแต่ความสุขและคอยจะหาลึงค์มาใส่หีตัวเองตลอดเวลา ความสุขมึงจะมีมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น มึงอยากมีความสุขตลอดเวลามั้ย”
หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็กัดฟันพูดตอบ
“อยาก... แพมอยากมีความสุข ช่วยแพมด้วย.... โอยย...แพมเจ็บเหลือเกิน” หญิงสาวพูดไปร้องครวญครางไป


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #13 on: January 07, 2010, 10:34:25 am
หลง #21 แผนกำราบดาวมหาลัย บทที่ 7

หมอจันจับตามองอยู่ครู่หนึ่งก็ลุกขึ้น
“เอาละ พวกมึงรอจนกระทั่งลึงค์ศักดิ์สิทธิ์หลุดออกจากหีอีแพม พิธีก็จะเสร็จสิ้น อีแพมจะกลายเป็นหญิงร่านสวาทขาดผู้ชายไม่ได้ พวกมึงอยากทำอะไรก็ทำ ข้าหมดหน้าที่แล้วต้องขอไปพักก่อน”
“อาจารย์ ไม่อยู่ก่อนหรือ เผื่อมีอะไรผิดพลาด” ไอ้เอกถามอย่างหวาดๆ
“กูอยู่ดูพวกมึงทำอะไรกับอีแพมไม่ได้ ของจะเข้าตัวกู จำไว้ว่าอย่าไปแตะหรือดึงลึงค์ออก ปล่อยให้มันหลุดเอง”
“งั้นก็ตามใจอาจารย์” ไอ้เอกบอก ก่อนจะหันมาหาไอ้เบี้ยว “เฮ้ย ไอ้เบี้ยว ไปส่งอาจารย์ที่ห้องซิ”
“โธ่ พี่เอก ให้คนอื่นไม่ได้เหรอ กำลังมันส์เลย” ไอ้เบี้ยวบ่นพึมพำ แต่ก็จำใจต้องทำตามที่ไอ้เอกสั่ง มันเดินเข้ามาแล้วพาหมอจัน ออกจากห้อง

ข้างฝ่ายสาวแพมจากที่ค่อยๆโหย่งตัวขึ้นลง ปล่อยให้ลึงค์ผลุบเข้าผลุบออกในร่องสวาทของตนเองอย่างช้าๆ ก็ดันกระแทกทิ้งร่างลงมาเร็วขึ้นหนักขึ้น หน้างามแหงนขึ้นบิดเบี้ยว สะบัดศีรษะจนผมปลิวกระจาย ในขณะทีทรวงอกก็กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะกระแทก เหงื่อแตกโทรมเต็มร่างกายที่ขาวผ่อง เสียง พั่บ พั่บ ดังลั่นห้องไปหมด

“อูยยย เจ็บ อูยยยย เสียววววว โอยยยยย” เสียงร้องครวญครางของสาวสวยดังขึ้นบอกถึงอารมณ์ที่สับสน อันเกิดจากอำนาจของลึงค์ศักดิ์สิทธิ์

“มันส์มั้ยคะพี่แพม แหม โยกกระแทก ยิ่งกว่ากว่ะหรี่มืออาชีพอีกนะคะนี่ คิก คิก” สาวแนนหัวเราะเยาะเย้ยด้วยความสะใจ

สาวแพมได้ยิน ก็หันขวับมาจ้องหน้านักศึกษาสาวตัวแสบ พลางยกมือชี้หน้าของสาวรุ่นน้อง
“มึงหยุดหัวเราะอีดอก เดี๋ยวมึงจะโดนด้วย” เสียงของสาวแพมที่เปล่งออกมานั้น แหบห้าว และทุ้มหนักแบบเสียงของผู้ชาย ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดกันไปหมด สาวแนนหน้าซีดเงียบกริบในทันที

ทันใดนั้นนักศึกษาสาวเคราะห์ร้ายก็กรีดเสียงหัวเราะลั่นห้อง ขณะที่ร่างยังโหมกระแทกลงไปบนลึงค์อย่างรุนแรงหนักหน่วงไม่หยุดยั้ง
“ฮะ ฮะ ฮะ มันส์ มันส์ เหลือเกิน โอย หีอีนี่ สะอาดบริสุทธิ์ ทั้งสวยทั้งหอม อูยยยยย ฟิตอะไรเช่นนี้” เสียงที่ออกจากปากของสาวสวยครั้งนี่เปลี่ยนเป็น แหลมเล็ก ขณะที่ร่างไม่เคยหยุดยั้งการขโยกขึ้นลงเลย

“โอยยย เจ็บ โอยยยยย เจ็บเหลือเกิน ....ช่วยด้วย ... อย่าทำแพม.... ช่วยด้วย... ชาคริต... ช่วยพี่ด้วย... พี่เจ็บเหลือเกิน... โอยยยยย…เจ็บจะตายอยู่แล้ว...ฮือ ฮือ” เสียงของแพมกลับกลายมาเป็นหวานใสตามเดิม หากเต็มไปด้วยความโศกรัดทด พร้อมกับกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ตลอดเวลา

ชาคริต ตัวสั่นระริก ตอนนี้เขาหมดอารมณ์ใคร่อย่างสิ้นเชิงแล้ว มือของชายหนุ่มกำแน่น สงสารญาติสาวผู้พี่จับใจ แต่ไม่รู้จะช่วยเธอได้ยังไง ในขณะที่เพื่อนคนอื่นต่างจับจ้องมอง ร่างเปลือยของสาวแพมด้วยความหื่นกระหาย ร่างสมส่วนที่กระแทกขึ้นลงจนนมกระเพื่อมนั้น ปลุกอารมณ์ของทุกคนให้หื่นกระหายเต็มที่ ทุกคนต่างเฝ้ารอเวลาที่ลึงค์จะหลุดออกจากโคกสวาทของหญิงสาว เพื่อจะได้เข้าไประบายความใคร่กับร่างงามนั้นแทน

นักศึกษาสาวเคราะห์ร้าย เอนร่างทิ้งตัวลงนอนกับพื้น ดิ้นไปดิ้นมา ก่อนที่จะยกสะโพกขึ้นสูงจากพื้น ในขณะที่ลึงค์นั้นราวกับมีชีวิตกระแทกเข้าออกในร่องรูนั้นอย่างรวดเร็ว

“อูยยยย....อูยยยยย.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า.... มันส์มั้ยอีหนู แรงกว่านี้มั้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงแหบห้าวดังขึ้นอีกครั้ง

ร่างงดงามเปล่าเปลือย ดิ้นร้องครวญครางอยู่สักพัก ก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เสียงหัวเราะแหบห้าวนั้นหยุดลง ทุกคนในห้องต่างจับตามองความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ สาวสวยด้วยใจเต้นระทึก

แพมกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ตาของสาวสวยเต็มไปด้วยความหยาดเยิ้มและยั่วยวนอย่างแปลกประหลาด ใบหน้าของเธอนั้นหวานเซ็กซี่อยู่แล้ว เมื่อกวาดสายตาที่แฝงแววยั่วยวนก็ทำให้บรรดาชายหนุ่มในห้องต่างครางฮือกันไป ตามๆกัน

แพมกวาดสายตาไปมาจากนั้นก็มาหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าชาคริต ริมฝีปากแดงระเรื่อเผยอรอยยิ้มน้อยๆ อย่างยั่วยวนพร้อมกับเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงหวานฉ่ำ

“ชาคริต พี่สวยมั้ย พี่รู้ว่าเธอรักพี่ มาซิ...พี่อยากอยู่ในอ้อมกอดของเธอ ชาคริต..ได้โปรดเถอะ”
“พี่แพม...” ชาคริตครางเบาๆ ใบหน้าที่หวานเย้ายวนของคนที่เขาเทิดทูลบูชาทำให้อารมณ์ใคร่ของเขากลับคืนมา อีกครั้ง แต่จิตสำนึกส่วนลึกภายในยังยับยั้งไว้

แพมกวาดสายตามองมายังจิรพนธ์
“จิ มาหาพี่ซิ เธอเป็นคนวางแผนทั้งหมดไม่ใช่หรือ... ถึงเวลาแล้ว.... มาซิ มานอนกับพี่เถอะ”
“พี่แพม...” จิรพนธ์ครางเสียงแหบแห้ง ขยับกายจะลุกขึ้น แต่เอกซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ดึงเขาไว้ พร้อมกับตะคอกเบาๆ
“ไอ้เอก มึงจะบ้าหรือ อาจารย์สั่งไว้อย่าแตะต้องเธอจนกว่าท่อนลึงค์จะหลุดออกมา”
จิรพนธ์สะดุ้งได้สติ เหงื่อไหลเต็มใบหน้า หันมาทางชายหนุ่มนักศึกษารุ่นพี่
“ขอบคุณครับพี่เอก ผมเกือบไปแล้ว ...เธอสวย ยั่วยวนเหลือเกินพี่เอก ผมจะอดใจไม่ไหวแล้ว”

แพมกวาดสายตาหวานเยิ้มมาเทางเอก เลียริมฝีปากที่ชุ่มชื้น พร้อมกับเอื้อมมือขึ้นมาคลึงเคล้าทรวงอกที่อวบอิ่มงดงามของตนเอง พร้อมกับเดินยักย้ายส่ายสะโพกอย่างยั่วยวนมาตรงหน้า

“เอก เธออยากเอาเรามากใช่มั้ย ดูซิ เราอยู่ตรงหน้าแล้ว จะรอช้าอยู่ทำไม หรือไม่กล้า หือ” แพมแยกขาออกจากกัน พร้อมกับย่อกายลงส่ายสะโพกไปมา มือก็คลึงเคล้นทรวงอกของตัวเองหนักขึ้น อย่างเมามัน ใบน้าที่หวานยั่วยวน เสียงที่กระเส่าเร้าอารมณ์ เรือนร่างที่งดงามขาวนวลสมบูรณ์แบบ ตลอดจนลีลาท่าทางที่ยั่วยวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตัณหาของทุกคนพลุ่งพล่านถึงขีดสุด แต่ก่อนที่ทุกคนจะทันขยับตัวทำอะไร สาวแนนซึ่งจับจ้องมองอยู่ เห็นผู้ชายทั้งห้องต่างแสดงทีท่าคลั่งไคล้สาวคู่แข่งจนแทบบ้าคลั่ง ทำให้เธออิจฉาถึงขีดสุด ในที่สุดเธอก็ลุกพรวดวิ่งไปที่ร่างของสาวแพมในทันที

“ยั่วเก่งนักหรือนังร่าน เดี๋ยวกูจะช่วยให้มีงหายร่านเอง” แนนร้องอย่างเคียดแค้น มือคว้าไปที่ลึงค์ที่ขณะนั้นกำลังถอนลำออกมา

ไอ้เอกเมื่อเห็นนักศึกษาสาวรุ่นน้องกำลังจะสัมผัสถูกลึงค์ก็ร้องตะโกนห้ามเสียงดัง “อย่า น้องแนน อย่าจับ..”
แต่ช้าไปแล้ว มือเล็กๆของน้องแนนคว้าไปที่ลึงค์ปีศาจพร้อมกับถอนกระชากเต็มแรง

“โอ๊ยยยยยยยยยยยย”

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นห้องในฉับพลันนั้นเอง!!!

หลง #22 แผนกำราบดาวมหาลัย บทที่ 8

ร่างของแนนหงายหลังตึงลงไปบนพื้น กระโปรงเลิกขึ้นไปถึงท้องน้อย พร้อมกับแยกขาทั้งสองข้างถ่างออกจากกัน มือข้างหนึ่งยังกำท่อนลึงค์ศักดิ์สิทธิ์ไว้แน่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงร้องแหบห้าวดังออกจากปากของน้องแนนอย่างน่ากลัว

บรรดาชายหนุ่มในห้องต่างตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ยกเว้นชาคริตที่จับตามองญาติสาวผู้พี่ของตนอยู่ตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง เขาเห็นชัดเจนตอนที่แนนดึงลึงค์ออกจากร่องสวาท สาวแพมได้ถอยกายไปอยู่ที่มุมห้อง พร้อมกับงอเข่าปิดร่างที่เปล่าเปลือยของตนเอง หญิงสาวก้มหน้าร้องไห้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง หมดสภาพของดาวมหาลัยอย่างสิ้นเชิง ถึงตอนนี้ชาคริตไม่สนใจเรื่องอื่นๆอีกต่อไปแล้ว แต่ลุกขึ้นวิ่งไปนั่งโอบกอดญาติสาวผู้พี่เหมือนจะปลอบโยน

คว้ากกกกกกกกก

สาวแนนฉีกกระชากกางเกงในออกจากตัว พร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อีนี่ บังอาจลบหลู่กู มึงจะต้องชดใช้ด้วยการสังเวยร่างของมึงแทน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
พูดจบก็จ่อ ท่อนลึงค์เข้าที่ร่องหลืบของตนเอง
“อย่า อย่า ... พี่เอก พี่จิ ช่วยด้วย อย่า อย่า... กลัวแล้ว กลัวเล้ว ฮือ ฮือ อย่าเอาเข้าไป อย่า ฮือ ฮือ” แนนร้องไห้โฮออกมา ในขณะที่จ่อลึงค์เข้าหาร่องของตัวเองอย่างช้าๆ หญิงสาวพยายามขัดขืนสุดชีวิต แต่ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนได้ ตากลมโตของหญิงสาวเบิกกว้างด้วยความพรั่นพรึง ปากก็ตะโกนร่ำร้องให้รุ่นพี่ช่วยอย่างน่าสงสาร

“ไอ้เบี้ยว มึงไปตามอาจารย์จันมา เร็ว” ไอ้เอกหันไปสั่งไอ้เบี้ยวด้วยความเป็นห่วง
“ไปตามที่ไหนเล่าพี่เบี้ยว อาจารย์กลับไปแล้ว”
“อ้าว มึงไม่ได้ไปส่งอาจารย์ที่ห้องรึ”
“อาจารย์บอกว่า แกนัดทำพิธีกับคุณนายอีกคนไว้ เลยขอตัวไปก่อน แกขอฝากลึงค์ศักดิ์สิทธิ์กับเครืองมือไว้ พรุ่งนี้จะกลับมาเอา”
“ชิบหายแล้ว” ไอ้เอกอุทานมาอย่างตกใจ
“ทีนี้เอาไงดีล่ะ พี่เอก น้องแนนตายแน่” จิรพนธ์พูดเสียงสั่น
“ไอ้เบี้ยวมึงไปเอาลึงค์ผีออก” เอกหันมาสั่ง แต่ไอ้เบี้ยวรีบสั่นหน้า
“โอ๊ย ไม่ไหวหรอกพี่เอก พี่เอกทำเองเถอะ”
“อุ๊ย พี่เอก แนนยัดเข้าไปแล้ว” ไอ้เต่าบอกอย่างตกใจ ทุกคนหันขวับไปมองสาวรุ่นน้องในทันที

สาวแนนตอนนี้ แอ่นก้นลอยขึ้นจนเนินนูนลอยเด่นขึ้นมา พร้อมกับเริ่มดันท่อนลึงค์เข้าไปในร่องหลืบของตัวเองช้าๆ
“อูยยยย ... อย่า....อูยยยย.... เสียวจังเลย....อูยยยย.....อย่า...กลัวแล้ว....อูยยยย.....เสียวจังเลย....” เสียงของหญิงสาวดังอย่างสับสนสลับกับการสูดปากร้องครวญคราง มือน้อยๆเลื่อนกลับขึ้นไปบีบขยำทรวงอกของตนเองอย่างเมามัน ในขณะที่ท่อนลึงค์นั่นเลื่อนเข้าออกด้วยตนเองราวกับมีชีวิต

“พี่เอก” จิรพนธ์เรียกเบาๆ แต่สายตาไม่ละไปจากร่างของน้องแนนเลย
“ทำอะไรไม่ได้แล้ว รอให้ลึงค์หลุดมาเองละกัน” เอกพูด

“อูยยย เสียว เสียวหีจังเลย”
ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริด เสียงที่ดังครั้งนี้เป็นเสียงน้องแนนจริงๆ แต่ถ้อยคำลามกหยาบคายแบบนี้ปกติน้องแนนจะไม่เคยใช้มาก่อน ทำให้ทุกคนอึ้งไปตามๆกัน

“อีนี่นมใหญ่กว่าอีคนเมื่อครู่อีกว่ะ ขยำมันส์จริงๆ” เสียงแหบห้าวดังขึ้นจากปากสาวสวย
“หีก็ฟิต ตอดของกูด้วยว่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” เสียงผู้ชายอีกคนดังขึ้น “อูย...แรงอีก..แรงอีก..อีหนู” ลึงค์ศักดิ์สิทธิ์ผลุบเข้าออกเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้แนนสูดปากครวญครางดังลั่น
“อูยยย..ซี๊ด...เสียว...เสียวจะตายอยู่แล้ว...อูยยยย ดี....ดี...ยัดลึกๆเลย....อูย....ซี๊ด.....” เสียงน้องแนนดังขึ้น พร้อมกับส่ายก้นไปมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ได้เลยอีหนู เด้งรับหน่อยซิวะ...ฮ่า..ฮ่า...อย่างนั้น...อูยยยยย....หีมึงนี่ดูดดีว่ะ ....ฮ่า...ฮ่า....”
“โอ๊ย...น้ำจะแตกแล้ว...อูย...ซี๊ดดด...อูย กูไปก่อนแล้ว...โอ๊ยยยย น้ำกูแตกแล้ว...” เสียงแหลมเล็กของผู้ชายคนหนึ่งดังจากปากของน้องแนน

ฉับพลันทุกคนก็เห็นน้ำขาวขุ่นข้นไหลซึมออกมาจากปากแคมไหลลงมาตามง่ามขาแล้วหยดลงบนพื้น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า มึงนี่นกกระจอกไม่กินน้ำเหมือนเดิมเลยว่ะ ...ฮ่า..ฮ่า...ตากูโว๊ย อีหนู เด้งหน่อย...ฮ่า...อูยยยยย....เสียวโว๊ย....”
“ซี๊ด...อูย..เสียวหีจังเลย..อูยยย...เจ็บ....อูยยยยยเสียว....”
“อูย ขอกูเล่นตูดมันหน่อยโว๊ย”
น้องแนนเลื่อนมือไปขยำแก้มก้นของตัวเองแรงๆ แล้วแหย่นิ้วเข้าไปในช่องหลืบน้อยๆ หน้าตาบูดเบี้ยวครวญครางออกมา
“อย่า อย่าเอาทางนั้น...ว๊ายยยยย...อย่า...อูยยย...เสียว...ดี...ดีจังเลย...อูยยยยย”
“อูยยย พี่จ๋า เอาแรงๆเลย...อูยยยย...ควยใหญ่จัง...อูยยยย....ไม่เจออย่างนี้มานานแล้ว ...อูยยย...” เสียงผู้หญิงดังขึ้นแต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงน้องแนน

มือของนักศึกษาสาวเลื่อนลงไปจับที่ท่อนลึงค์พร้อมเด้งก้นขึ้นลงกระแทกกับท่อนลึงค์เหมือนต้องการจะให้เข้าไปลึกๆ
“โอ๊ยยย..เจ็บ...อย่าดันแรง...โอ๊ยยยย...ไม่ไหวแล้ว....” เสียงน้องแนนครวญคราง น้ำตาไหลพรากเหมือนกับเจ็บปวดสุดชีวิต
“ดี..ดี...พี่จ๋า...แรงๆอย่างนี้...หนูชอบ...อูยยย...ซี๊ด...เสียวหี....อูยยยยย” เสียงผู้หญิงอีกคนสูดปากร้องครวญคราง
ภาพที่ทุกคนเห็นตอนนี้อัศจรรย์ยิ่งนัก เพราะตามเนื้อตัวของน้องแนนตอนนี้ ยุบเข้ายุบออกไปทั่วเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็น บีบขยำไปทุกๆส่วน จนเนื้อที่ขาวนวลเนียนเป็นรอยแดงๆเต็มไปหมด ในขณะที่ร่องหีก็มีน้ำสีขาวขุ่นไหลเป็นทางออกจากง่ามขาอยู่ตลอดเวลาเหมือน กับไม่มีวันจบสิ้น

“ฮือ...ฮือ...กลัวแล้ว...เบาๆ...อย่าทำ...ฮือ...ฮือ...” เสียงน้องแนนร้องพร้อมกับน้ำตาไหลพรากลงมา

ร่างบอบบางเหมือนนางแบบบิดส่ายไปมาไม่ขาดระยะ แต่บางครั้งก็เด้งหน้าเด้งหลังเหมือนกับเงี่ยนสุดชีวิต สองมือลูบคลำขยำเต้านมของตัวเองอย่างรุนแรงปานจะให้แหลกเหลวคามือไปเลย ในขณะที่ปากก็ส่งเสียง หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้าง บางครั้งก็ร้องด่าหยามเหยียดตัวเองอย่างรุนแรง แต่ก็สูดปากครางซี๊ดซ๊าดไม่ขาดระยะ ซึ่งเป็นอำนาจของปีศาจหื่นทั้งชายหญิงที่สิงอยู่ในลึงค์นั่นเอง

“โอ๊ยยยย...ซี๊ด...เปลี่ยนทามั่งโว๊ย...อีหนู...กูเบื่อท่านี้แล้ว”
ขาดคำ แนนก็ลุกขึ้นนั่ง แล้วเปลี่ยนเป็นคลานสี่เท้า ใบหน้าถมึงทึง ยิ้มอย่างหื่นกระหาย พร้อมกับเลียริมฝีปาก
“อุ๊ย...ท่าถนัดของหนูเลยพี่....อูยยยย...แรงแรง...เอาแรงๆ...” เสียงผู้หญิงที่ไม่ใช่แนนร้อง พร้อมกับคลานสี่ขาไปมา เต้านมอวบขาวของสาวสวยสั่นกระเพื่อมตามการขยับเขยื้อนของร่างกาย ซึ่งยั่วยวนบรรดานักศึกษารุ่นพี่เป็นอย่างมาก บางคนถึงกับอดไม่ไหวที่จะลดมือลงไปกุมเป้าของตัวอง

“ฮ่า ฮ่า เป็นไงพวกมึง เงี่ยนกันไปแล้วใช่มั้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกมึงนั่งกันได้แล้ว เดี๋ยวกูเอามันเสร็จแล้วจะยกให้พวกมึง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงแหบห้าวดังขึ้นจากปากงาม น้ำลายไหลย้อยมาตามมุมปาก แต่สาวน้อยก็สูดกลับไปอีกครั้ง

“อูยยย เสียวหี...อูยยย....ซี๊ด ...แรงอีกซิพี่...อูยยย” เสียงผู้หญิงร้องพร้อมกับที่แนนหยุดคลาน แต่เปลี่ยนเป็นนั่งยองๆ มือข้างหนึ่งขยำเต้านมของตัวเอง แต่อีกข้างสอดเข้าไปพร้อมกับที่ท่อนลึงค์ยังขยับเข้าออกอยู่ไม่หยุดยั้ง นิ้วน้อยๆนั้นเกี่ยวเม็ดเล็กๆที่ไวต่อความรู้สึกที่สุด ในขณะที่น้ำสีขาวๆไหลออกมาจากร่องจนนองเต็มพื้นไปหมด

“อูยยยยย...ซี๊ด....เสียว...อูยยยยยย.....น้องน้องขา อยากเย็ดหีอีนี่รึยังคะ ....ฮะ..ฮะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
“อูยยยย...จริงด้วย....หีหนู..ฟิตนะคะ...ฮิ..ฮิ.....อยากลองมั้ย...อูยยยย ...ฮิ...ฮิ...”เสียงผู้หญิงอีกคนดังขึ้นอย่างกระเส่ายั่วยวนสุดขีด
แนนกวาดสายตาค้อนควักมองนักศึกษารุ่นพี่ด้วยสายตาหยาดเยิ้มเปี่ยมจริต ในขณะที่ปากก็สูดร้องครวญครางอยู่ตลอดเวลา ครั้งนี้น้ำเงี่ยนนั้นไหลพรวดจากง่ามขาเป็นสายเลยทีเดียว....

ไอ้เอกดูไปดูมา อดที่จะเงี่ยนตามไม่ได้จริง เพราะทั้งภาพทั้งเสียงล้วนแต่ปลุกเร้าอารมณ์ให้ความเสียวกลับคืนมาอีกครั้ง แถมน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนดูสาวแพมด้วยซ้ำ
“ไหนๆ ก็ทำอะไรไม่ได้ นึกว่าดูโชว์ละกันวะ” มันพูดพร้อมทรุดตัวนั่งหน้าตาเฉย
ทุกคนเห็นด้วย เพราะลีลาของน้องแนนนั้นยั่วยวนสุดขีด ต่างดูจนเป้ากางเกงตุงไปตามๆกัน จึงรีบนั่งตามพร้อมกับจ้องเขม็งไปที่นักศึกษาสาวรุ่นน้อง

“ว่ากันไม่ได้นะน้องแนน....อยากรนหาที่เอง” ไอ้เอกพึมพำ
“เอ๊ะ พี่เอก อีแพมหายไปไหนแล้ว” ไอ้เบี้ยวถามอย่างตกใจ
“ชาคริตก็ไม่อยู่ด้วย สงสัยมันพาหนีไปแล้ว ไอ้เวรนี่ไว้ใจไม่ได้เลย” จิรพนธ์อุทานขึ้นบ้าง
“ช่างแม่งเหอะวะ เรื่องนี้มันมีส่วนอยู่ด้วยยังไงก็ไม่กล้าไปบอกใคร เดี๋ยวรอเล่นน้องแนนแทนละกัน” ไอ้เอกพูด

...............


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #14 on: January 07, 2010, 10:35:01 am
“พี่แพม รู้สึกตัวรึยัง พูดอะไรซักอย่างซิ” ชาคริตซึ่งกำลังขับรถอยู่ หันไปถามดาวมหาลัยที่นั่งอยู่ด้านข้าง

สาวแพมตอนนี้สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงนั่งเซื่องซึมตาลอยเหมือนคนที่สติไม่อยู่กับตัว ใบหน้างามของเธอเผือดขาว ดูน่าสงสารผิดจากเดิมที่เคยเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองอย่างไม่เหลือเค้า
ชาคริตใจหายวูบตัดสินใจหยุดรถลงที่ข้างทาง พร้อมกับหันไปเขย่าร่างงามนั้นอย่างรุนแรง

“พี่แพม พี่แพม โธ่...พูดอะไรซักอย่างซิ” ชายหนุ่มพูดอย่างเศร้าใจ
“น้ำ...” แพมพูดออกมาเบาๆเหมือนคนละเมอ
“ว่าไงนะ” ชาคริตรีบถาม รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเมื่อได้ยินเธอพูดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พาขึ้นรถ
“น้ำ...หิวน้ำ...” แพมพูดมาอีกครั้ง
“ผมจะไปซื้อให้” ชาคริตพูดออกมาอย่างดีใจ เขาขับรถไปจนถึงหน้าร้านสะดวกซื้อ ก็จอดรถ
“คอยผมอยู่นี่นะพี่แพม อย่าลุกไปไหนนะ เดี๋ยวผมมา... เข้าใจมั้ย” ชายหนุ่มสั่งย้ำ
สาวสวยพยักหน้า
ชาคริตปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วเปิดประตูรถ เขาหันมามองอีกครั้งด้วยอย่างไม่ไว้ใจ แพมยังนั่งนิ่งไม่มีท่าทีจะไปไหน ทำให้เขาปิดประตูรถ แล้วรีบเข้าไปในร้าน

ชายหนุ่มเลือกซื้อโค้กมาสองกระป๋อง พอออกจากร้านก็แปลกใจ เมื่อเห็นสาวแพมยืนเอนหลังพิงรถโดยมีเด็กผู้ชายยืนรายล้อมเต็มไปหมด ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปดู พอเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตกใจ

สาวแพม ถลกกระโปรงตัวเองเลิกขึ้นมาถึงเอว กางเกงในกรอมอยู่ที่เข่าเผยให้เห็นโคกเนินเปล่าเปลือย โดยพวกเด็กๆเอานิ้วจิ้ม ลูบของสงวนของเธอไปมา ปากก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกสนาน

“ไอ้พวกเด็กเวร มึงไปไกลๆตืนกูเดี๋ยวนี้” ชาคริตตะโกนด้วยความโกรธจัด

ฝูงเด็กแตกฮือกระจัดกระจาย ไอ้คนหนึ่งยังหันมาพูด
“โกรธอะไรพี่ แฟนพี่เรียกมาดูเองนะ”
“มึงไปไกลๆเลย”ชาคริตพูด พร้อมกับดึงกางเกงในของญาติสาวผู้พี่ขึ้นมา “พี่แพมขึ้นรถ” ชายหนุ่มสั่งเด็ดขาด
“เจ้าค่ะ” แพมทำท่าถอนสายบัวล้อเลียน พร้อมกลับขึ้นรถตามคำสั่งเขา

“แฟนพี่จิ๋มสวยจังเลย”
“เอาเผื่อผมด้วยนะ”
พวกเด็กพากันตะโกนล้อเลียน
“ไอ้เด็กเหี้ย” ชาคริตหลุดปากด่า พร้อมกับเดินไปขึ้นรถ จากนั้นก็สตาร์ทรถออกไปทันที

“ทำไมทำอย่างนี้” เขาถามญาติผู้พี่หลังจากสงบสติอารมณ์ได้
“ทำอะไร” แพมแกล้งถาม
“ก็ไปแก้ผ้าให้เด็กดูไง ไม่อายรึไง”
“เอ๊า มีดีก็ต้องให้ดูซิ... ไม่เอาน่า... อิจฉาเด็กรึไง”