“พี่ต้องการ นะหวาน” ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มอ้อนวอนกับหญิงสาวในชุดนักศึกษาที่นั่งอยู่ข้างๆ “หวานไม่ใช่เด็กอมมือแล้วนะ แล้วพี่ก็ต้องการของจริง ผู้หญิงจริงๆ”
“หวานยอมไม่ได้หรอกค่ะ มันน่าละอาย พ่อกับแม่ของหวานต้องเสียใจแน่ๆ ถ้าหวานทำอย่างนั้น” กมลวรรณรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ หญิงสาวคบหาเป็นแฟนธวัชชัยมานานแล้ว เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมยุรินทร์น้องสาวของธวัชชัยมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน จึงมักจะมาหา มยุรินทร์ที่บ้านอยู่เสมอ ด้วยความน่ารัก สดใสของหญิงสาวทำให้ธวัชชัยตัดสินใจจีบเธอจนเป็นแฟนกันตั้งแต่ที่เธอยังเป็น นักเรียน ตอนนี้เขาได้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ส่วนกมลวรรณก็เอ็นติดเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน
บ้านของธวัชชัยเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ แต่เขาก็เช่าอพาทเมนท์เป็นที่พักอีกแห่งหนึ่งเพื่อความสะดวก เพราะคิดว่าถ้าวันไหนทำงานดึกจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขับรถกลับบ้าน แล้วอีกอย่างธวัชชัยก็ต้องการใช้อพาทเมนท์นี้เป็นที่พลอดรักกับสาวๆของเขา ด้วย ธวัชชัยเป็นคนเจ้าชู้ ชอบจีบผู้หญิงทีละสองสามคน แต่อาศัยว่าสับรางเก่งจึงเอาตัวรอดไปได้ตลอด เขาเป็นคนรูปหล่อ มีเสน่ห์ บุคลิกและคารมดี จึงหาสาวๆได้ไม่ยาก แต่กับกมลวรรณแล้วเธอไม่เคยจะยอมใจอ่อนไปกับเขา เด็กสาวยอมให้เขาทำบางอย่าง กอดและจูบกัน... บางครั้งเธอก็ยอมให้เขาถอดเสื้อของเธอออก หรือแม้กระทั่งถอดเสื้อยกทรง แต่เธอก็ไม่ยอมให้เขาถอดอะไรไปมากกว่านี้
“พ่อแม่ของหวานจะไปรู้ได้ยังไง มันเป็นเรื่องธรรมชาตินะ ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ ให้ตายซิหวาน หวานน่าจะดูเพื่อนคนอื่นๆบ้าง...”
“มันยังไม่ถึงเวลาค่ะ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็วันที่เราแต่งงานกันไงคะ” เด็กสาวตอบหน้าแดงระเรื่อ
ธวัชชัยหัวเราะลั่น กมลวรรณมองด้วยความสงสัย คิดไม่ถึงว่าเขาจะหัวเราะ ธวัชชัยกระโดดลุกจากเตียง
“ถึงเวลากลับบ้านแล้วหนูน้อย”
กมลวรรณโล่งอก เธอคิดว่าเขาคงละพยายามที่จะพาเธอขึ้นเตียงก่อนแต่งงานไปแล้ว แต่เมื่อเขาไม่ได้มาหาเธอตามนัดในวันถัดมา เธอก็เริ่มเป็นห่วง เธอตามหาเขาอีกสองวันก็ไม่เคยเจอ ไม่เคยเลยที่เขาจะห่างหายจากเธอไปอย่างนี้ ด้วยความว้าวุ่นทำให้เด็กสาวไปหาเขาที่อพาทเมนท์ กมลวรรณหน้าแดงเมื่อเห็นเขายืนขวางประตู เสื้อไม่ได้สวม ซ้ำยังรูดซิบกางเกงไม่เสร็จด้วยซ้ำ
“ทำไมพี่เงียบหายไปล่ะคะ” เธอถามไม่ทันสังเกตว่าหน้าของเขาซีดเผือดไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอ
“พี่..พี่ มีธุระ” เขาพูดตะกุกตะกัก แล้วก็มีเสียงหัวเราะของผู้หญิง สักครู่หนึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เดินออกมา กมลวรรณเห็นเธอเป็นเด็กสาวหน้าตาสวยคม ร่างคลุมด้วยผ้าปูที่นอน เธอกอดธวัชชัยจากด้านหลัง มองกมลวรรณ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“กลับมาที่เตียงเถอะค่ะอาจารย์ เรามีภารกิจที่ต้องสะสางอยู่นะ เดี๋ยวหนูก็เฉาแย่ซิคะ”
กมลวรรณใจหายวาบ หน้าของเธอซีดเผือด ตาจ้องมองเขาเขม็ง
“…ก็พี่มันเป็นผู้ชายนี่” ธวัชชัยก้มหน้าตอบเบาๆ
กมลวรรณกลับบ้านในทันที เธอหยุดเรียนไปสองวัน และเอาแต่ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา จนเริ่มทำใจได้ เธอจึงกลับไปเรียนอีกครั้ง แต่สมองยังเต็มไปด้วยความว้าวุ่น และใจลอยอยู่ตลอดเวลา จนเรียนไม่รู้เรื่องเลย
. . . . . . . . . . . . . . .
“หวาน หวาน...”
กมลวรรณสะดุ้ง หันไปมองก็เห็นเด็กสาวในชุดนักศึกษายืนอยู่ข้างๆ
“อ้าว ยุ้ยมาเมื่อไหร่เนี่ย”
“เป็นอะไรไปหวาน ยุ้ยเรียกตั้งหลายครั้งแล้ว... ทำไมใจลอยจังเลย”
“ไม่...ไม่มีอะไร”
“ต้องมีสิ..ต้องมีแน่ๆ หวานไม่เคยใจลอยแบบนี้” ยุ้ยพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “มีเรื่องกลุ้มใจอะไรก็บอกยุ้ยเถอะ หรือไม่เห็นยุ้ยเป็นเพื่อน”
กมลวรรณจ้องมองเพื่อนสาว เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่แสดงถึงความห่วงใยอย่างแท้จริง ทำให้เธอตื้นตันใจ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมด ยุ้ยนั่งฟังอย่างเงียบๆจนจบ จึงเริ่มพูด
“หวานเลิกคบกับอาจารย์ธวัชชัยเถอะ”
“อะไรนะ”
“ยุ้ยพูดจริงๆนะ”
“ทำไม”
“อาจารย์ธวัชชัยเป็นคนเจ้าชู้ หวานเป็นคนซื่อตามเค้าไม่ทันหรอก หวานไม่เหมาะกับเค้า”
“แต่...แต่นี่เพิ่งครั้งแรกเองนะ เค้าอาจจะพลาดไป”
“ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก” ยุ้ยตอบ “เขาจีบไปทั่วแหละ แต่เค้าไม่จีบต่อหน้าหวานเท่านั้นเอง นักศึกษาที่หน้าตาดีน่ะโดนเขาจีบกันทั้งนั้น บางคนก็ยอมนอนกับเขา... หลายคนด้วย”
“ยุ้ยรู้ได้ยังไง”
ยุ้ยถอนหายใจ “เพราะเค้าก็เคยจีบยุ้ยด้วยน่ะซิ แต่ยุ้ยไม่เล่นด้วย เค้าเลยหันไปจีบยัยแนนแทน แม่นั่นน่ะอยากได้เค้าจนตัวสั่น ยุ้ยไม่แปลกใจหรอกที่รู้ว่ายัยแนนนอนกับเค้า”
“แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพี่ชัยจะนอนกับคนอื่นด้วย”
“อย่าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเลย ลองจีบไปทั่วแบบนี้คนไหนยอมมันก็เอาทั้งนั้นแหละ” ยุ้ยดุ แต่พอเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดของเพื่อน เธอก็สงสาร รีบปลอบโยนอย่างนุ่มนวล
“หวานตัดใจเถอะนะ เค้าไม่เหมาะกับหวานจริงๆ คบกันต่อไปมีเต่จะเสียใจ”
“หวานทำไม่ได้หรอกยุ้ย หวานรักเค้ามากจริงๆ หวานต้องตายแน่ๆถ้าต้องเลิกกับเค้า”
“ถ้ายังงั้นยุ้ยจะบอกอะไรให้ ยัยแนนยังไม่เท่าไหร่หรอก ต้องพี่แพมซิน่ากลัว รู้มั๊ยว่าอาจารย์กำลังจีบเค้าอยู่”
“พี่แพมคนไหน หวานไม่เห็นรู้จักเลย” เด็กสาวเอ่ยอย่างงุนงง
“ตายจริง ไม่รู้จักได้ไง เค้าออกจะดัง พี่แพมก็รุ่นพี่ปี4 ไงจะจบอยู่แล้ว สวยสุดๆเลยรู้มั๊ย”
“แล้วหวานไม่สวยหรือ” กมลวรรณถามเสียงเครือ
“เปล่าๆ หวานน่ะสวยอยู่แล้ว แต่สวยน่ารักใสๆแบบเด็กๆน่ะ” ยุ้ยรีบปลอบเมื่อเห็นเพื่อนทำท่าจะร้องไห้ “แต่พี่แพมน่ะสวยแบบเซ็กซี่น่ะ อยากรู้จะพาไปดู”
“ไม่..ไม่ดีกว่า”
“เถอะน่า จะได้รู้จักคู่แข่งไง”
. . . . . . . . . . . . . . .
“เห็นมั๊ย พี่แพมน่ะ สวยอย่างที่ยุ้ยบอกเลยใช่มั๊ย”
กมลวรรณตาแดงก่ำ รู้สึกเสียใจอยากจะร้องไห้เมื่อเห็นธวัชชัยกำลังยืนคุยอยู่กับนักศึกษาสาว รุ่นพี่ เธอเป็นคนสวยมากจริงๆ ทั้งดวงตา จมูก ปากพอเหมาะพอเจาะ ผิวพรรณดี จริงอย่างที่ยุ้ยพูดทุกอย่าง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ธวัชชัยจะนอกใจเธอจริงๆ
“มาเถอะ ไปทักทายคู่แข่งกันหน่อย” ยุ้ยพูด
“อย่าเลย..กลับดีกว่า” กมลวรรณร้องห้าม แต่ยุ้ยก็ฉุดเพื่อนไปจนได้
ธวัชชัยกำลังยืนคุยอยู่กับแพมอย่างเพลิดเพลิน เขายืนหันหลังให้กับสองสาว จึงไม่รู้ตัวว่ารถไฟกำลังจนชนกันอย่างจังแล้ว
“สวัสดีค่ะอาจารย์” ยุ้ยตะโกนทัก
ธวัชชัยหันกลับมา แล้วก็สะดุ้งเมื่อเห็น กมลวรรณยืนตาแดงก่ำอยู่ตรงหน้า
“อ้าว หวานมาได้ยังไง”
“ก็อาจารย์นัดพวกเราไปกินข้าวไม่ใช่หรือคะ” ยุ้ยแกล้งพูด
“เอ๊ะ” แพมที่จับตามองอยู่อุทานอย่างแปลกใจ “ใครกันคะอาจารย์ ไหนอาจารย์บอกจะไปดูหนังกับแพม ทำไมไปนัดคนอื่นอีก” หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่พอใจ ตาคมวาวสำรวจสองสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เอ้อ..สงสัยคงจะเข้าใจผิดกันน่ะ” ธวัชชัยเหงื่อแตกโซมหน้าสมองวิ่งเร็วจี๋เพื่อหาทางเอาตัวรอด “หวาน ยุ้ยเดี๋ยวเราไปคุยกันทางโน๊นดีมั๊ย” เขาหันกลับไปหาสองสาว
“คุยตรงนี้ก็ได้ค่ะ” ยุ้ยบอก แต่หวานนั้นรีบขัดเพราะทนดูท่าทางกระอักกระอ่วนของเขาไม่ได้
“ยุ้ยเค้าล้อเล่นน่ะค่ะพี่ ไปกันเถอะยุ้ย” พูดพลางฉุดแขนของเพื่อนเบาๆ ยุ้ยทำท่าจะไม่ยอม แต่หวานไม่สนใจหันหลังเดินไปก่อน ทำให้ยุ้ยต้องรีบเดินตามไป
“ใครกันคะอาจารย์ ท่าทางแปลกจัง” แพมถาม
“อ๋อ เพื่อนน้องสาวน่ะครับ” ธวัชชัยตอบอย่างโล่งใจที่รอดจากสถานาการณ์อึดอัดเมื่อครู่มาได้ “รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไปดูหนังกันเถอะ เสียเวลามากแล้ว” เขารีบเปลี่ยนเรื่อง แพมนั้นถึงจะสงสัยในตัวสองสาว แต่เมื่อเขาไม่พูดเธอก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อ ยิ้มหวานให้ขณะที่เขาจูงมือเธอไป
. . . . . . . . . . . . . . .
กมลวรรณนอนร้องไห้เกือบทั้งคืน สิ่งที่เธอได้พบเห็นนั้นทำร้ายจิตใจเธออย่างรุนแรง โกรธธวัชชัย โกรธตัวเอง แล้วก็โกรธยุ้ยด้วยที่พาเธอไปเจอเรื่องแบบนี้... แล้วกมลวรรณก็เริ่มใช้ความคิด อาจจะเป็นเพราะความหวงตัวของเธอทำให้เขาเบื่อหน่ายเลยหันไปคบกับสาวอื่น เขาเป็นผู้ชายเลยคิดไม่เหมือนเธอ เมื่อเธอไม่ยอมเขาเลยต้องหาที่ระบาย... แต่ธวัชชัยเป็นของเธอ เธอยอมเสียทุกอย่างเพื่อให้เขาเป็นของเธอคนเดียว ดังนั้น กมลวรรณจึงก็ตัดสินใจที่จะทำบางอย่าง เธอจะให้สิ่งที่เขาต้องการ... เธอเชื่อว่าถ้าเธอให้ เขาจะต้องกลับมา..กลับมาเป็นของเธอคนเดียว...
. . . . . . . . . . . . . . .
ธวัชชัยเต็มไปด้วยความแปลกใจและตื่นเต้น เมื่อกมลวรรณนัดให้เขามาพบเธอ ธวัชชัยกำลังกลุ้มใจเพราะกลัวว่าเด็กสาวจะโกรธและเลิกรากับเขา ถึงธวัชชัยจะมีผู้หญิงอื่น แต่คนที่เขารักที่สุดก็คือกมลวรรณ เธอไม่เหมือนผู้หญิงอื่น กมลวรรณเป็นเด็กน่ารัก สดใส และเรียบร้อย... ผู้หญิงสวยๆเซ็กซี่นั้นมีเกลื่อน แต่ส่วนใหญ่มักจะยอมเขาง่ายๆ แต่กมลวรรณไม่เคยยอม เธอบริสุทธิ์เหมือนเทพธิดา แต่แล้วเมื่อเธอบอกจุดประสงค์การมาทำให้เขาดีใจสุดขีด เพราะเขานึกว่าเธอจะโกรธที่เห็นเขานอกใจกลับกลายเป็นว่าเธอยินดีมอบสิ่งที่ เธอหวงแหนที่สุดให้แทน
ธวัชชัยคว้ามือเธอ ครึ่งลากครึ่งจูงพาเธอตรงไปยังอพาทเมนท์ของเขาทันที เธอไม่เคยสูบบุหรี่ แต่เขาก็สอนให้เธอสูบ กมลวรรณดูตื่นเต้นมาก สีหน้าแดงระเรื่อเต็มไปด้วยความเอียงอาย ตัวของเธอสั่นเหมือนกระต่ายตัวเล็กๆที่หนาวเหน็บอยู่กลางสายฝน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้เขาอย่างยิ่ง
เขาถอดชุดนักศึกษาของเธอออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ ปากก็เอ่ยชมความงามของเธอไม่หยุด เขาอุ้มร่างบอบบางของเธอไปนอนบนเตียง แล้วก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง เธอนอนหลับตาอยู่บนเตียง หายใจหนักๆ หายใจแทบไม่ทันเพราะความตื่นเต้น ในที่สุดเธอก็ลืมตามองเพราะความอยากรู้อยากเห็น กมลวรรณเคยเห็นเขาในแบบเกือบจะเปลือยมาหลายครั้งแล้ว แต่มันเป็นกางเกงอาบน้ำที่เขาสวมเวลาไปว่ายน้ำ ต่างจากตอนนี้... เขาสวมเสื้อผ้าครบชุด และเริ่มถอดมันออกทีละชิ้น เสื้อของเขาก่อน จากนั้นซิบกางเกงก็ถูกรูดลงมา เขาเดินตรงมาหาเธอ
กมลวรรณหายใจระรวย มองคนที่เธอรักในสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัว ใจเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้น และออกจะกลัวอยู่มาก เธอเคยเห็นสิ่งนี้มาแล้ว แต่มันอยู่ในหนังสือหรือจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ได้ทำให้เธอตื่นกลัวขนาดนี้ แต่เจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นมันต่างไปมาก มันมีชีวิตชีวา และดูเหมือนมันจะจ้องมองเธอด้วย คงเพราะเธอบ่ายเบี่ยงมาตลอด เลยทำให้มันโกรธจนพองตัวเหมือนอาวุธร้าย กมลวรรณกลัวจนใจสั่นหวิว...
..........
หลง #2
..........
มือของเขารั้งศีรษะเธอขึ้นมา แล้วก็จูบที่ริมฝีปาก มืออีกข้างโอบไหล่นวลเนียนนั้นไว้ .. แม้จะมีอาการตื่นกลัว แต่กมลวรรณก็ตอบสนองจูบที่นุ่มนวลของเขา เธอลูบไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ ก่อนที่เขาจะผละออก แล้วก้มต่ำลงไป ทรวงอกขาวผ่องลอยอยู่ตรงหน้า วงกลมเล็กๆที่อยู่เหนือทรวงขาวผ่องนั้นเป็นสีชมพูระเรื่องามเปล่งปลั่งอย่าง ถึงที่สุด
“พี่รักหวานเหลือเกิน รักมากจริงๆ” เขาพึมพำ แล้วซุกไซร้ลงไป ลิ้นของเขาโลมไล้ไปมาอยู่บนยอดทรวงนั้น
“โอ..อย่า...อย่าค่ะ” แม้จะเตรียมใจมาแล้ว แต่เธอก็ร้องห้ามตามสัญชาติญาณ แขนของเธอผลักดันอยู่เบาๆที่อกเขา “พี่ชัย อย่า...ได้โปรด...”
ริมฝีปากของเขาบดบังทรวงอกนั้นไว้จนหมดสิ้น มืออีกข้างลูบไล้ไปมาตามเนื้อตัว สัมผัสความนุ่มนวลละเอียดอ่อนอย่างหลงใหล... ลมหายใจของเธอหอบถี่ เมื่อมือของเขาลูบไล้ต่ำลงไปจนถึงปุยขนดกดำที่ท้องน้อย.. และแล้วเธอก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง สะบัดตัวหลุดจากเขา นั่งจับแขนเขาไว้มั่น พยายามผลักไสเขา
“อย่าค่ะ พี่ชัย... อย่า...ได้โปรดเถอะ หวานไม่เคยทำอย่างนี้..หวานทำไม่ได้” เธอร้องเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลออยู่ที่เบ้า แล้วก็เริ่มไหลลงมาที่แก้มนวลใส
แขนของเขายังกอดกุมเธออยู่ ตามองลึกไปในดวงตาของเธอด้วยความสงสัย เหมือนจะค้นหาความรู้สึกที่แท้จริงจากภายใน
“ขอโทษค่ะ...” เธอก้มหน้ากระซิบ “หวานทำไม่ได้ หวานรักพี่จริงๆ แต่อย่าทำเลยค่ะ”
เขาปล่อยแขนออกจากเธอช้าๆ
“หวาน...”
“หวานรักพี่ชัยที่สุด...” เธอพูดอย่างเสียใจ น้ำตาไหลพรากไม่หยุด “แต่..มัน...”
“ไม่เป็นไรครับ” เขาบอก ผละจากร่างเธอ “แต่งตัวซิ พี่จะไปส่ง”
เธอลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เขาขยับลุกขึ้นตาม แต่เธอร้องห้าม
“ไม่ต้องส่งหรอกค่ะพี่ หวานกลับเองได้ ...อย่าโกรธหวานเลยนะ”
“ไม่หรอก.. พี่เข้าใจ พี่จะรอจนหวานพร้อม”
“ขอบคุณค่ะ พี่ชัย”
หลังจากเธอกลับออกไปแล้ว ธวัชชัยก็ทรุดตัวนั่งลงบนเตียง ถอนหายใจอย่างเสียดาย
“โง่จริงๆ เลยว่ะเรา” เขาพึมพำ
จริงๆ ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นเขาจะบังคับเธอก็ได้ แต่ธวัชชัยรักและทะนุถนอมกมลวรรณเกินกว่าที่จะทำให้เธอต้องชอกช้ำ เขาต้องการที่จะร่วมรักขณะที่เธอยินยอมมากกว่าการบังคับแข็งขืน ช่างมันเถอะ! ปล่อยไปก่อนซักคน ถึงยังไง เขาก็ยังมีผู้หญิงสวยๆอีกหลายคนให้ระบาย ความใคร่...
..........
ฝนตกหนัก ขณะที่สาวแพมก้าวลงจากรถ หลังจากกดรีโมทล็อคประตูเสร็จ ก็หันขวับ ขาที่เรียวสวยก้าวไปตามทางเดิน พื้นนั้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำและหลายแห่งเป็นดินโคลน ทำให้เธอต้องบ่นพึมพำขณะที่ก้าวเท้าด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวรองเท้าสวยๆ ของเธอจะต้องแปดเปื้อน
“เดี๋ยวค่ะพี่แพม”
หญิงสาวคนหนึ่งร้องตะโกนเรียก แพมหันไปมองก็เห็นนักศึกษาสาวรุ่นน้อง ถือร่มวิ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้า
“มีอะไรหรือแนน”
“เรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ”
“เรื่องอะไร ไปคุยข้างในตึกดีกว่ามั๊ง” เธอตอบแล้วหันหลังกลับทำท่าจะเดินต่อ แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด เพราะแนนรีบเดินไปขวางทางไว้
“ไม่ค่ะ คุยกันตรงนี้ ต้องคุยให้รู้เรื่อง”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“พี่แพมจะแย่งผัวแนนเหรอ”
“อะไรนะ” แพมร้องอย่างตกใจ “แนนพูดอะไร”
“อาจารย์ธวัชชัยไง แนนขอเตือนว่าอย่ายุ่งกับเขา ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“แนน..เมื่อครู่แนนบอกว่าอาจารย์เป็น...”
“ใช่ อาจารย์ธวัชชัยเป็นผัวแนน แล้วแนนจะไม่ยอมแบ่งกับใครทั้งนั้น ถ้าพี่แพมเข้ามายุ่ง แนนเอาตายแน่”
แพมหน้าร้อนฉ่าด้วยความโกรธ หญิงสาวไม่รู้มาก่อนเลยว่าธวัชชัยจะนอกใจเธอ แต่เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับความหยาบคายของแนนจึงพยายามจะเดินเลี่ยงเธอ ไป
“เดี๋ยวซี่” แนนคว้ามือเธอไว้ “บอกมาซิว่าจะเลิกยุ่งกับอาจารย์”
“ปล่อยนะ” แพมร้องตะโกนแล้วสะบัดมือจนหลุด “จะยุ่งหรือไม่ยุ่งมันก็เป็นสิทธิของพี่ ถ้าเธอคิดว่าอาจารย์รักเธอจริงเธอก็ไปสั่งเค้าซิ” แพมพูดอย่างอารมณ์เสีย แล้วหันหลังเดินโดยไม่สนใจสาวแนนอีก
และแล้ววินาทีนั้น แพมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างลอยเข้ามากระทบหลังเข้าแต็มแรง
“พลั่ก!”
โคลน! ฝนตกหนักจนพื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ และด้วยความโกรธอย่างสุดขีดของแนน ทำให้เธอก้มลงปั้นโคลนจนเป็นก้อนขนาดพอมือ แล้วขว้างออกไปอย่างไม่ยั้งคิด แล้วมันก็โดนเป้าหมายจริงๆเสียด้วย
ผู้หญิงสวย หยิ่ง และรักความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ อย่างแพม พอโดนเอาโคลนขว้างใส่มันน่าอับอายขนาดไหน ทำให้แพมโกรธแค้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แถมยังเห็นแนนก้มลงปั้นอีกก้อนเตรียมจะขว้างใส่ ต่อให้ใจเย็นแค่ไหนก็เกินกว่าจะกลั้น.. แพมทิ้งร่มอย่างไม่ใยดี แล้วเดินกลับมาอย่างจะเอาเรื่อง แต่ก่อนที่จะทำอะไรต่อไป โคลนก้อนที่สองก็ปลิวมาโดนหน้าดังพลั่ก
ไม่ทันป้ายแขนเช็ด ร่างของสาวแนนก็โถมเข้าใส่อย่างไม่ยอมให้ตั้งตัว พอมาถึงแนนก็เหวี่ยงสองมือตะกุยจนโบว์สีขาวที่ผูกรวบเรือนผมไว้ถูกดึงหลุดจน ผมกระจายยุ่งเหยิง ในขณะที่สาวแพมไม่ยอมเสียเปรียบ มืออีกข้างของเธอตอบโต้ด้วยการฉีกกระชากเสื้อนักศึกษาของแนนจนขาดแคว่ก เผยให้เห็นสองเต้าขาวผ่องที่ถูกบราเซียร์สีชมพูห่อหุ้มไว้ก็หลุดทะลักออกมา ปรากฏแก่สายตาของนักศึกษาทั่วไป ที่เริ่มมองดูด้วยความสนใจ ...
ด้วยความอับอาย ทำให้แนนโถมเข้าปล้ำจนล้มลงไปคลุกโคลนกันทั้งคู่ แนนหลับหูหลับตายื่นมือออกมาตะกายบ้าง จังหวะหนึ่งที่สามามารถจับขอบกระโปรงสาวเซ็กซี่ได้ แนนออกแรงกระชากเต็มเหนี่ยวทันที
มีเสียงดังคว้าก จากนั้นกระโปรงซึ่งเลอะไปด้วยโคลนก็หลุดจากร่างผู้เป็นเจ้าของมาอยู่ในมือ ของแนน ตามด้วยเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจระคนอับอายจากแพม เมื่อเห็นท่อนล่างของตัวเองมีเพียงชั้นในตัวกระจิริดปิดป้องของรักของสงวน อยู่เพียงชิ้นเดียว อยู่ในห้องหับส่วนตัวก็ไม่เป็นไร แต่นี่อยู่กลางถนนในมหาวิทยาลัย มีสายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องเขม็ง แล้วสาวเลิศ เชิด หยิ่งอย่างแพมด้วยจะไม่ให้โกรธ ไม่ให้อับอายขายหน้าได้อย่างไร
คิดได้ดังนั้น ก็โถมเข้าหาสาวน้อยตัวแสบ ปล้ำกระชากจนร่างของสาวแนนเหลือแต่ชั้นในชิ้นล่างเพียงตัวเดียว เป้าหมายต่อไปของเธอก็คืออาภรณ์ชิ้นสุดท้ายนั่นแหละ แถมยังเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำเสียด้วย สองมือของแพมคว้าหมับเข้าที่ขอบยืดของมัน กระชากเต็มหนี่ยวด้วยความว่องไว... ดังนั้นก่อนที่แนนจะทันปัดป้อง มันก็เลยหลุดติดมือแพมออกมาแล้ว
สองสาวไม่มีฝ่ายไหนหวีดร้องอีกต่อไป เพราะมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาจะห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนบรรดาหนุ่มสาวนักศึกษาที่หลบฝนอยู่ที่ตึก พากันโห่ร้องด้วยความชอบใจอึงคะนึงทีเดียว...