close buttonclose buttonclose button
พรหมลิขิต ผิดคิว

พรหมลิขิต ผิดคิว

เรื่องเสียว · 111580

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
on: June 02, 2013, 08:44:27 pm


เรียบเรี่ยง  โดย ท่าน  ช.ชัชวาลย์  ตอนที่ 1

“เออๆ เด๋วจะรีบไปเด๋วนี้แหละ” วีระพลวางสายโทรศัพท์อย่างรีบร้อน เพราะธนธรณ์ เพื่อนที่เป็นหมอด้วยกันไม่ว่าง มีคนไข้ด่วน ให้เขาไปทำหน้าที่แทน เขารีบเดินกระวีกระวาดแทบจะเป็นวิ่ง จนถึงชั้นสองของอาคาร ถึงตรงเลี้ยวมุมตึก จะไปยังห้องทำงาน
“อุ้บ!!” “ว้ายยยยยยย”
วีระพล ชนเข้ากับหญิงคนหนึ่ง ทำให้ซวนล้มด้วยกันทั้งคู่ วีระพลบิดตัวโอบรัดร่างนั้นไว้แล้วพลิกให้ร่างเขาลงกระทบพื้นก่อน จะด้วยสัญชาตญาณสุภาพบุรุษอย่างไรไม่อาจบอกได้ พอล้มเอนกระทบพื้น ร่างที่เค้ากอดรัดก็ล้มเอนตาม จมูกเค้าปะทะกับแก้มอวบอิ่ม กลิ่นน้ำหอมจางๆ โชยมาให้ได้กลิ่นอย่างน่าประทับใจ ชั่วขณะนั้นต่างคนต่างก็รีบลุกขึ้น
“ขอโทษครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ผมรีบ ไม่ทันได้ดู ขอโทษจริงๆ คับ”
“ไม่เป็นไรคะ ดิชั้นเองก็รีบเหมือนกัน”
พอได้มองหน้าชัดๆ วีระพล เลยทราบว่าเจ้าของร่างเป็นหญิงอายุกลางคน น่าจะประมาณ 30 สวย หวาน หยาดเยิ้ม ยิ่งขณะนี้หน้าแดงเป็นตำลึงสุก คงเพราะอายเหตุการณ์เมื่อสักครู่
“เด๋วผมช่วยเก็บของให้นะครับ” อาสาพลางเก็บเอกสาร โดยที่เจ้าของยังไม่ทันได้กล่าวอะไร
“เอ่ออ....คุณรีบไม่ใช่เหรอ ดิชั้นเก็บเองคะ เอ่อ คุณเป็นหมอเหรอคะ”
“ครับ เผอิญมีคนไข้ด่วน เลยรีบไปหน่อย นี่ครับเอกสารของคุณ ไปก่อนนะครับ”
วีระพลรีบเดินไป แต่ในขณะนั้น เขาได้รู้สึกถึงกลิ่นน้ำหอมยังติดจมูกอยู่เลย หันกลับมามองอีกที เจ้าของร่างก็เดินไปไกลพอสมควร เห็นแต่ช่วงท้าย เดินทะมัดทะแมง แต่ก็ยังสวยอยู่ คนมองแอบยิ้มนิดๆ พอวีระพลตั้งสติก็สะบัดศีรษะ “เฮ้อ นี่กูท่าจะบ้า ดันปิ๊งคนแก่ หึ หึ หึ” แล้วก็รีบเดินเข้าห้องทำงาน
วันนั้นคนไข้ที่ว่างานด่วน เป็นสาวพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง อยู่สาขาในตัวเมือง ที่จริงอาการก็ไม่ถึงขั้นรุนแรงมากนัก เพียงแค่วูบ เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ และทำให้ท้องเสียไปด้วย จะว่าไปคนไข้รายนี้ก็สวยไม่หยอก เพียงแต่ตอนนี้หน้าตาซีดเซียวไปหน่อย พอเขาทำการให้ทานยาให้น้ำเกลือ และให้คนป่วยพักผ่อนแล้ว จึงบอกพยาบาลสาวคนใกล้ชิดว่า
“เดือน เดี๋ยวอีกสักชั่วโมงค่อยมาดูอาการอีกทีนะ ถ้าคนป่วยไม่มีอาการอะไรอีก ก็บอกญาติมารับกลับบ้านตอนเย็นวันนี้ได้เลย เด๋วพี่ไปดูคนไข้รายอื่นก่อน”
“คะ พี่พล เดือนจะจัดการให้คะ”
หลังจากตรวจคนไข้ และทำการรักษาอยู่ 2-3 ราย ซึ่งก็กินเวลาถึงบ่ายสามโมง เสร็จแล้ว วีรพลก็เดินกลับไปยังห้องพักของตน ซึ่งหมอทุกคนจะมีห้องพักที่โรงพยาบาลจัดไว้ ในห้องของเขาเป็นห้องรวมกับหมอเพื่อนอีกคนหนึ่ง ก็คือ ธนธรณ์ นั่นเอง แต่พอจะเปิดประตูเข้าไป หูเขาก็ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมา
“อูยยยยยยยย พี่ธร เดือนเสียวจะแย่อยู่แล้ววว จะทำอะไรก็รีบทำเถอะคะ อูยยยยส์ เดี๋ยวพี่พลมาเห็นเข้า อายเค้าตาย”
“จ๊ะๆๆ พี่จะรีบทำ แต่แหม กะลังเลียอร่อยๆ อยู่เลย เร่งพี่จัง พี่จะกระแทกแล้วนะ อ๊าส์”
“อ๊า อูยยย แน่นเหลือเกิน อย่าเพิ่งเร่งกระแทกนะคะ ให้เดือนตั้งตัวก่อน อูยยยย โอยยยย ทั้งคับ ทั้งเสียว” นั่นมันเสียงธนธรณ์กับพยาบาลคนสนิทของเขาเองหรือนี่!!! วีรพลได้ยินแล้วก็ทั้งโกรธเพื่อน ที่อ้างว่าไม่ว่าง ต้องให้เขารีบไปรักษาคนไข้ แต่ตัวมันกลับมาเสพสุขกลับพยาบาล สบายตัวซะอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากฟังต่อ จึงไม่เปิดเข้าไป เพียงแต่แง้มประตูมองลอดเข้าไป ห้องพักห้องนี้ จะเป็นห้องพักที่สำหรับเก็บเอกสารต่างๆ ของหมอแต่ละคนที่เป็นเจ้าของเท่านั้น เพราะฉะนั้น จึงไม่ค่อยมีใครจะเข้ามาวุ่นวายเท่าไหร่นัก วีรพลจึงแง้มประตูดูกิริยาอาการของทั้งคู่อยู่ข้างนอก ถึงแม้จะเห็นภาพไม่ชัด แต่ว่าเสียงนี่สิ ชัดเจนจนอดกระสันต์ด้วยไม่ได้
“เป็นไงบ้างจ๊ะ คนดี มันหีมั้ย”
“มันสิจ๊ะ สุดๆ เลย อา.... พี่ธรเย็ดได้ถึงใจเดือนมากๆ เลย อุยยยย ดูสิ ส่ายควยด้วย อึ้ยยยยส์ พี่ธรจะออกหรือยังคะ อูยยยยย ดะ ดะ เดือนใกล้แล้วนะ อูยยย กระแทกแรงๆ ได้เลยจ๊ะ พี่จ๋า อ๊าส์”
“ใกล้แล้วจ๊ะ อูยยยยย หีตอดดีเป็นบ้า นี่แนะๆ ถ้าไม่คิดว่ามีเวลาน้อย พี่จะขอเย็ดเดือนนานๆ เลยล่ะ อูยยย”
“เอาไว้ว่างๆ เราค่อยเย็ดกันใหม่ก็ได้คะ พี่ธรอยากเมื่อไหร่ เดือนจะแบหีให้พี่เย็ดตลอดเลย อูยยยย เย็ดเก่งอย่างงี้ เดือนให้เย็ดทั้งวันยังไหว อ้ายยยยยยยยยย แรงๆ คะ อูยยยย จะ อะ อะ ออกกกกกกกกกกก แล้วววว”
“โอ้ววววววววว พี่ก็ออกจะออกแล้ว เดือนอ้าปากนะ พี่จะป้อนน้ำเงี่ยนให้เต็มปากเลย มาเลย พี่จะออกแล้ววว อ้ากกกกกกกก อูยยยย ซี้ดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงทั้งสองเงียบไปสักพัก วีรพลรีบถอยฉากกลับออกไประยะหนึ่งแล้วจึงทำเป็นเดินเข้ามา ในห้องพัก
“อ้าว ธร เดือน อยู่นี่เอง งานเรียบร้อยแล้วเหรอ แล้วคนไข้ที่พี่ฝาก ว่ายังไงมั่งล่ะ”
“เอ่อ คนไข้บอกว่าเดี๋ยวหัวหน้าเค้าจะมารับเย็นนี้คะ แล้วเค้ายังบอกขอบคุณเราด้วย เค้าอยากจะเลี้ยงขอบคุณพี่พลด้วยนะ ถ้าพี่พลจะรับเลี้ยงขอบคุณ ก็ 5 โมงเย็น เค้าจะมารับคะพี่”
“อืมมม ขอบใจจ๊ะ ถ้าพี่ว่างก็จะรับละกัน แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ แล้วมีงานไรทำอีก รีบไปทำซะไป๊ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเลิกงาน เด๋วงานค้างนะ”
เมื่อได้ยินคำสั่งคล้ายๆ แกมไล่ เดือนก็ขอตัวออกจากห้องไป วีรพลจึงหันหน้าไปทางธนธรณ์ ซึ่งตอนนี้ หน้าเหมือนหมดแรง นั่งถอนหายใจอยู่ ถึงแม้จะพยายามปรับสีหน้าแล้วก็ตาม วีรพล จึงเดินไปนั่งใกล้ๆ เพื่อน แล้วตบไหล่
“ร้ายนะแก โบ้ยงานให้ชั้นทำ แกกลับพาเดือนมาจ้ำจี้กันในห้องพัก”
“เฮ่ย พล นี่แกรู้เหรอ”
“วะ ครางกันลั่นขนาดนั้น ดีนะ ไม่มีใครเดินมาได้ยิน ที่จริงชั้นจะโกรธแกมากด้วยซ้ำ แต่คิดอีกที ไม่รู้จะโกรธทำไม ว่าแต่แกเถอะ ถ้าอยากมาก ทำไมไม่หาที่มันเหมาะกว่านี้วะ ชั้นเป็นเพื่อนแก ชั้นยังอายเลยว่ะ”
“ก้อ จะหาเวลาไหนมั่ง ที่จะได้เจอกัน บางทีเดือนเค้าก็ออกเวรไม่ตรงกันกับชั้นสักที แต่ว่า ที่เสี่ยงๆ แบบนี้ ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“เวนกำ ดูมันพูด ไม่อายเล้ยยย แล้วน้องเดือนนี่ แกจิงจังเหรอวะ ถึงได้ทำขนาดนี้ เกิดท้องขึ้นมา จะเดือดร้อนนะเว้ยยย”
“ไม่หรอกพล เราคุยกันแล้ว ขอแค่แก้ความเงี่ยนวะ น้ำแตกก็แยกทาง เดือนเค้าไม่หัวโบราณน่า”
“เฮ้อ เมืองไทยเป็นแบบนี้ด้วยวุ้ยย เอ้า ช่างเถอะ ทีหลังชั้นขอร้องล่ะ หาที่อื่นเถอะ นะ ชั้นกระดากว่ะ”
“โอเคๆ แล้ววันนี้งานเสร็จหมดแล้วเหรอ ถึงได้เข้าห้องเร็วกว่าเดิม ปกติแกนี่ เกือบ 5 โมงโน่น”
“อืมมม ส่วนมากก็คนไข้ อาการดีขึ้นเยอะ รอแค่ดูอาการไปสักระยะเท่านั้น ชั้นเลยได้พักเร็ว ถึงมาได้รู้เห็นความสัปปะดนของแกไง”
“เอาน่าๆ แล้วที่คนไข้เค้านัดเลี้ยงขอบคุณเอ็งจะไปมั้ย ถ้าเป็นชั้นนะ ไม่ปฏิเสธ ชั้นเห็นหน้าเธอละ สวยถูกใจเป็นบ้า ได้สักครั้งนะมึ้งงงงงงงงงง หูยยยย อึ้ยยย ไม่อยากเซด” ธนธรณ์ ทำหน้าทำตาจินตนาการไปไกลถึงไหนไม่รู้ วีรพล หมั่นใส้เพื่อนที่ลามกได้ทุกเวลา เลยซัดผั๊วะ เข้าให้ที่กลางกบาล
“น่านไง ไม่เท่าไหร่มันจะหาที่ปักธงอีกล่ะ เอาเป็นว่าชั้นรับคำเชิญ และแกต้องไปกับชั้น เพราะว่าที่จริงแล้วเค้าคงอยากขอบคุณแก เพราะเป็นเจ้าของเคสนี้ หึหึ รู้น่า ว่าแกอยากไป”
“โอ้ววว แต๊งกิ้ว สหาย แม๋ รู้ใจกันงี้ รักกันตายเลย แต่แกอย่าแย่งชั้นนาโว้ยยย”
“อ่าวววว อุตส่าห์นำทางให้ จะหาว่าตูจะชุบมือเปิบซะเองเหรอ ไอ้เวนเอ้ยยยยย ไม่คุยด้วยล่ะ เตรียมตัวละกัน ชั้นจะไปทำธุระสักหน่อย ถ้าเค้ามารับ ชั้นจะโทร. เรียกละกัน ไปล่ะ”
เมื่อตรวจคนไข้เสร็จ วีรพล ก็เตรียมเก็บเอกสารจัดเข้าแฟ้ม แล้วจึงส่งให้เดือนเอาไปเก็บที่ห้องพัก และบอกว่าจะไปหาคนไข้ ที่จะเลี้ยงขอบคุณ พอเข้าไปถึงห้องคนไข้รายนั้น ก็พบว่า มีญาติคนไข้คนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่นแล้ว พอเห็นหน้าชัดๆ วีรพลก็จำได้ นี่คือคนที่เขาเดินชนเมื่อตอนสายนี่นา ยิ่งพอพิศดูหน้าอย่างชัดเจนแล้ว ทำให้วีรพลนิ่งไปชั่วขณะ เธอผู้นี้รูปร่างเพรียวสูง ผิวขาว ซึ่งผิดกับคนในท้องถิ่นนี้ แต่ดูท่าทางขรึม เป็นผู้ใหญ่ นัยน์ตาคม แต่แอบซ่อนความหวานไว้ภายใน ชุดที่เธอสวมบ่งบอกให้รู้ว่า เป็นชุดพนักงานของธนาคาร แต่ไม่ว่าชุดอะไร ในขณะนี้ก็ตาม วีรพลแทบลืมหายใจ ลืมไปว่ายังมีอีกคนอยู่ในห้องนี้ด้วย
“คุณหมอธนธรณ์ ใช่มั้ยคะ”เสียงถามนั่นทำให้วีรพลสะดุ้งนิดๆ ทำให้คนถามเหมือนจะรู้กิริยาอาการของเขา ยิ้มๆ ขำๆ นิดหน่อย
“เอ่อ ไม่ใช่ครับ ผมวีรพล ตอนคุณไม่สบาย ธนธรณ์เพื่อนผมวานให้ผมมารับงานแทนครับ”
“ดิชั้นแพรวาคะ ส่วนนี่พี่วิภาวรรณ พี่เค้าเป็นผู้จัดการของแพรเองคะ”
“เอ่อ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ และขอขอบคุณที่ให้เกียรติเลี้ยงขอบคุณผม ที่จริงแล้วไม่เห็นต้องลำบาก คนไข้รายอื่นเค้ารักษาหายแล้ว จ่ายค่ารักษา ค่ายา ก็กลับบ้านแล้ว ผมก็เพิ่งได้รับเกียรติก็คราวนี้ล่ะ”
“ก็แหม แพรอยากเลี้ยงนิคะ พี่วิภา ก็สนับสนุน ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ของหมอ แพรว่าเรามีน้ำใจให้กันบ้างจะเสียหายอะไร จริงมั้ยคะ คุณหมอ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณอีกครั้งครับ เอ่อ ว่าแต่ คุณ... ผมขอเรียกว่าพี่ด้วยนะครับ พี่วิภาวรรณ อาการเป็นอย่างไรบ้างครับ เมื่อเช้านี้ผมรีบไปหน่อย” ได้ยินคำถามนั้น วิภาวรรณก็เหมือนกับปั้นหน้าไม่ค่อยถูก เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ ยังไม่เคยเห็นชายหนุ่มคนไหนจ้องเธอเหมือนอยากจะให้ละลายลงตรงนั้นมาก่อน และอีกอย่าง ผู้ชายที่มองอยู่นี้ ถ้านับอายุ ก็น่าจะรุ่นลูกของเธอด้วยมั้ง แต่ทำมองเธอเหมือนกับมองสาวรุ่นอย่างงั้นแหละ
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอกคะ คุณน่าจะถามแพรวานะคะ ไม่ใช่ดิชั้น” คำตอบนี้ทำเอาวีรพลสะอึก ได้ยินแต่เสียงขำ ล้อๆ ของแพรวา
“เอ๋ คุณหมอกับพี่ภา เคยเจอกันแล้วเหรอคะ มิน่า คุณหมอถึงมองพี่ภา เหมือนกับเคยรู้จัก”
“ก็เพิ่งเจอเมื่อเช้าโดยบังเอิญจ๊ะ ไม่ได้สนิทสนมอะไรเลย พร้อมจะไปรึยังคะ คุณหมอ? เด๋วจะค่ำเสียก่อน”
“เอ่อ ครับ ผมขออนุญาตชวนเพื่อนไปด้วยนะครับ ที่จริงแล้วเคสนี้ต้องเป็นของเค้าที่รับผิดชอบ พอดีผมรับทำแทน ผมจะได้มีเพื่อนไปด้วย ผมไปคนเดียวก็วางตัวไม่ถูก ยังไม่คุ้นกับที่นี่ด้วยเท่าไหร่ เพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นานครับ”
แล้วทั้ง วีรพล ธนธรณ์ วิภาวรรณ และแพรวา ก็ได้เลือกร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อได้ทำความรู้จักทักทาย ก็พากันพูดคุยถามแลกเปลี่ยนเรื่องราว ประวัติของแต่ละคนเพื่อสร้างความคุ้นเคยยิ่งขึ้น สองสหายต่างรู้ใจกันพอสมควร จึงไม่ต้องแย่งหรือเกี่ยงอะไรกันมากมาย ธนธรณ์นั้นชวนแพรวา พูดคุยออกรสออกชาติสลับกับคุยกับวิภาวรรณ เพื่อไม่ให้เสียมารยาท วีรพลโดยปกติก็เป็นคนไม่ค่อยจะพูดสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับเพศตรงข้ามด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึง พอๆ กับวิภาวรรณ เนื่องจากเธออยู่ในตำแหน่งหน้าที่การงานสูง จึงอยู่ในลักษณะพูดวางตัวเรียบๆ คุยบ้าง แต่ไม่ค่อยเล่นลิ้นสนุกสนานเท่าไหร่ ในวงสนทนาจึงกลายเป็นแพรวากับธนธรณ์ที่พากันคุยถูกคอซะทุกเรื่อง ไม่ถูกได้อย่างไร ธนธรณ์ชอบแพรวาตั้งอยู่โรงพยาบาลแล้ว แล้วก็มีความคิดบางอย่างอยู่ในหัว ตอนนี้กำลังไต่(หา)เต้าอยู่...


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #1 on: June 02, 2013, 08:45:22 pm
เมื่องานเลี้ยงเล็กจบลง ธนธรณ์ก็อาสาพาแพรวาไปส่งที่พัก แล้วก็โบ้ยให้วีรพลไปส่งวิภาวรรณ แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ในระหว่างทางที่ธนธรณ์ขับรถไปส่งแพรวา เขาก็เฝ้าลอบมองปลีขาเนียนของแพรวาที่พ้นขอบกระโปรงอยู่เป็นระยะ ซึ่งตอนนี้มันก็แค่ร่นมาเลยหัวเข่าหน่อยเดียว คนอย่างธนธรณ์ก็มองแล้วจินตนาไปไกลแล้ว แพรวาเอง ก็อดเขินประหม่าไม่ได้ที่มีคนจ้องมองอย่างนั้น
“คุณหมอคะ มองทางเถอะคะ เด๋วจะไปไม่ถึงบ้าน” คำพูดดักคอ ทำให้เอาธนธรณ์สะดุ้งนิดๆ แต่เสืออย่างเค้ารึจะเสียเหลี่ยมเสียลาย
“ก็ แหะๆ มีอย่างอื่นชวนมองมากกว่าถนนนี่ครับ ยอมรับนะครับ ว่าคุณแพรสวยมาก จนผมอดมองไม่ได้ ยิ่งคุณใส่ชุดนี้ด้วย ใครไม่มองก็บ้าล่ะ” ดูมัน ขนาดชุดทำงานพนักงานธนาคาร มันพูดไปได้..
“แค่ยูนิฟอร์มนี่นะคะ สวยตรงไหน คุณหมอปากหวานมากกว่า” พูดพลางเขินพลาง แต่ในใจก็กระหยิ่มที่มีคนชมความสวยของตน ทำให้รู้สึกหวิวๆ ไปบ้าง อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอล์ฮอล์ด้วยก็ไม่รู้ สักพักก็รู้สึกว่ามือข้างนึงวางแหมะลงบริเวณต้นขา
“อุ้ย คุณหมอ อะไรคะนี่” “อ่า ขอโทษครับคว้าผิด ว่าจะเข้าเกียร์ครับ” ฟอร์มไปนั่น..
“คุณแพรครับ ขาคุณสวยจัง เอ่อ ขอผม....” พูดไม่ทันจบ ไอ้เสือก็วางมือลูบไล้ไปแล้ว แพรวาสะดุ้ง แล้วก็คว้ามือเค้าออก แล้วนั่งตัวลีบ
“เลี้ยวซ้ายข้างหน้า คะ จะถึงบ้านแพรแล้วคะ” ธนธรณ์ชักสีหน้า เหมือนว่าเสียดายไม่น่าถึงเร็วเลย
“ขอบคุณนะคะ ที่มาส่ง ไว้โอกาสหน้าค่อยเจอกันนะคะ”
“เรายังมีโอกาสได้เจอกันอีกเหรอครับ คุณแพรไม่โกหกผมนะ”
“คะ ก็คุณรู้จักบ้านแพรแล้วนิคะ ที่ทำงานก็หาไม่ยากซักหน่อย ราตรีสวัสดิ์นะคะ” แล้วแพรวาก็เปิดประตูลงรถไป ถึงธนธรณ์จะไม่ค่อยสมหวัง แต่เธอก็ไม่ได้ทิ้งโอกาสกับเขาเสียทีเดียวนี่นา ว่าแล้วเค้าก็ยิ้มระรื่น มองส่งแพรวาเข้าบ้านไปแล้วจึง ขับรถออกไป
แพรวา เข้าบ้านรู้สึกผิดสังเกตที่วันนี้บ้านเงียบผิดปกติ แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก ไขกุญแจเข้าบ้านไปแล้วเดินขึ้นห้อง แต่พอจะเดินผ่านห้อง พ่อแม่ ก็ได้ยินเสียงครางกระเส่า เหมือนกันเจ็บปวดอะไรสักอย่าง
“อุ้ยย คุณนี่ วันนี้คึกอะไรมาคะ อุยยยยย ทั้งเลีย ทั้งแยงหี เสียวไปหมดแล้ว ผัวขาาาา”
“อืมมมม ก็วันนี้อยากเย็ดเมียนี่นา ลูกก็ยังไม่กลับ เราก็มาหาความสุขกันให้เต็มที่หน่อยสิ”
“อึ้ยยยยยยยย ไม่รู้เบื่อบ้างหรือไง หัวค่ำก็ทีหนึ่งแล้วนะ ผัวววขาาาา อูยยย ซี้ดดดดด ลิ้นตวัดเม็ดแตดเมียอีกแล้ว อ๊าาาา”
ทุกศัพท์สำเนียง ทำให้แพรวาถึงกับตะลึง อะไรกันนี่ คุณพ่อคุณแม่เล่นบทรักกันแบบหยาบโลนขนาดนี้เหรอ แถมไม่ปิดประตูอีกต่างหาก ว่าจะเข้าห้องนอน แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจ แอบมองที่ประตู ภาพที่เห็นนั้น เอกภพ บิดาของเธอ กำลังก้มเลียหีพราวตาผู้เป็นมารดา ยังกับมันเอร็ดอร่อยเกินประมาณ ฝ่ายมารดา ก็หลับตาพริ้ม ฝ่ามือก็ขยุ้มหัวสามีเบาๆ อีกข้างก็บดบี้ปลายถันของตัวเอง ขาแบะอ้าจนมองเห็นหี มีเส้นดำประปราย
“โอยยยย พอแล้วผัวจ๋าาาา เลียต่อไปเมียใจขาดแน่ๆ มาเย็ดหีเมียเถอะ เมียเงี่ยนแล้วววว ภพขาาาา”
“อาาาา หีพราวนี่ เลียอร่อยไม่รู้เบื่อเลย อีกนิดนะจ๊ะ เมียจ๋า ยังไงผัวก็เย็ดอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง”
“เร็วๆ เถอะคะ เด๋วแพรมา จะอดเย็ดกันพอดี อูยยยยย”
“อ่ะ เมียตะแคงข้างนะ ผัวจะนอนตะแคง แทงข้างหลัง อ๊าาาาาาา อย่างง้าน”
“อูยยยย ซี้ดดดด คุณเนี่ย เย็ดเก่งมากเลยย อุ้ยยยย กระเด้าแรงๆ เลย ค่ะ อึ้ยยย มีบี้แตดเมียด้วย อ๊ายยยยยยยย เสียวหีมากเลย ผัวขาาาา”
เอกภพเร่งตะบันบั้นเอวใส่เมียอย่างคึก หันปลายเท้ามาทางประตู เอียงนิดหน่อย ภาพนี้ทำให้แพรวา มองเห็นแม่นอนตะแคงถ่างขาข้างหนึ่งขึ้น หลับตา ซี้ดปากกกก ครางกระเส่า ตรงหว่างขา ก็เห็นสันควยของพ่อ เข้าๆ ออกๆ ในรูสวาทของพราวตา มือข้างหนึ่งตะปบที่หน้าอก เฟ้นบดบี้ปลายติ่งถัน อีกข้างคว้าหมับตรงกลุ่มใยไหมดำบางๆ ตวัดเขี่ย บางครั้งก็คลึงนิ้วบี้
“พราวจ๋าาาา พี่เมื่อยบั้นเอวแล้วนะ ทำให้พี่หน่อยสิ อาาาาาาา ขึ้นขย่มให้ผัวหน่อย”
“เมื่อยเหรอคะ ได้คะที่รัก อื้ออ หูยยย วันนี้พี่แข็งมากเลย ยังกับควยสมัยหนุ่มๆ เลย เป็นอะไรคะนี่”
“ขย่มมาเลย จ๊ะ โอ้วววว เสียวควยสุดกั่นเลย อูยยยย ตอนนี้อย่าเพิ่งถามเลย พี่เสียวไปหมดแล้ว โอวว”
“เมียก็เหมือนกันคะ นี่ เมียแตกไปสองทีแล้วนะ อูยยย ยังเสียวไม่หายเลย อึ้บบบ นี่แนะๆๆ คึกมากนักนะ”
“โอ้วววว เมียจ๋าาาาาาาาาา น้ำจะแตกแล้ว อะๆๆๆ อู้วววววววว”
“แตกมาเลยคะ ผัวขาาาาาาา ผัวมีความสุข เมียก็สุขไปด้วย อูยยยยย เมียก็จะแตกเหมือนกัน อ๊ายยยยย แตกแล้วววววววววววววววว” พราวตา เร่งขย่ม สามสี่ทีก็ฟุบร่างกระตุก ส่วนเอกภพก็ยันก้นไม่ติดที่นอน เกร็งค้างสักพักกทิ้งตัวลงเหมือนเดิม ทั้งสองต่างก่ายกอดจูบกันเสียงดังจ้วบจ้าบ ส่วนแพรวที่มองจากหน้าประตู ได้เห็นร่องหีพราวตา มีหยาดน้ำขาวข้นไหลเยิ้มออกจากรู จากอาการที่โดนลูบต้นขา หน้าบ้าน ยังหวิวๆ นี่เห็นภาพเต็มตา แพรวาถึงกับต้องมนต์ ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่า มือตัวเองถลกประโปรงร่นขึ้นมาแล้วลูบเนินหีตัวเองแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อพ่อแม่เสร็จกามกิจ ตัวเองก็พลอยมีอาการเกร็งกระตุก มีน้ำเอ่อแฉะที่รูสวาท กลัวที่ทั้งสองจะรู้ตัว จึงค่อยแอบเข้าห้องตัวเองอย่างแผ่วเบา เมื่อไปถึงห้องถึงทิ้งตัวนอนหอบ ภาพที่เห็นยังติดตา ทำให้กระสันต์รัญจวนใจอย่างมาก ตั้งแต่แตกเนื้อสาว จนจะเป็นสาวใหญ่แล้ว อายุก็ 25 แล้ว ก็เพิ่งเคยเห็นภาพคนเย็ดกันจะๆ ก็คราวนี้ แพรวา ต้องเอามือลองลูบเนินโหนกของตัวเองอีกที รู้สึกเสียวแปลบๆ ใจหวิว ยิ่งภาพนั้นยังติดตา ทำให้นิ้วกรีดตามร่องเสียวไปด้วย ไม่รู้ว่าทำไปได้อย่างไร อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณ ร่างบิดพลิ้ว ไปมา จนสุดท้ายเกร็งกระตุก นิ้วมือที่แหย่เข้าไปก็บี้ ควักหนักกว่าเดิม เมื่อสมอารมณ์หมาย เธอจึงยกนิ้วขึ้นมาดู เห็นเป็นเมือกเหนียวใส เอามาแตะลิ้นลองดู ก็รู้ถึงรสชาติคาวๆ ปะแล่มๆ จากนั้นก็ถึงกับหมดแรง หลับไป..

ฝ่ายวีรพล ก็ขับรถไปส่งวิภาวรรณ ตลอดทางที่ไปส่ง ต้องวิ่งจากตัวเมืองออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร เนื่องจากสองข้างทาง เป็นบ้านสวน เป็นป่าเขา ทำให้เขาขับรถไม่เร็วนัก อีกทั้งไม่ชำนาญทาง เขาจึงพอมีเวลาพูดคุยกับวิภาวรรณ ซึ่งโดยส่วนมากก็เกี่ยวกับความเป็นมาของแต่ละคน
“มิน่าละครับ ผมยังคิดว่าพี่วิภา ไม่ใช่คนภาคตะวันออกแน่ๆ ดูผิวพรรณน่าจะเป็นคนเมืองกรุง”
“คะ พี่เป็นคนกรุงเทพฯ แต่ว่าย้ายมาอยู่ที่จันทบุรีนี่ ก็ประมาณ 15 16 ปีแล้วละคะ”
“ทำไมละครับ “
“เอ่อ !! พี่แยกทางกับครอบครัวค่ะ” ตอบแล้วก็ทำสีหน้าเศร้า ถึงแม้จะมืด แต่วีรพลก็พอจับได้ เพราะน้ำเสียงเริ่มเบาและสั่นเครือ
“ขอโทษครับพี่ ผมเสียใจด้วย เฮ้อ ใครช่างใจร้ายน้า ทิ้งพี่ภาได้ สวยออกขนาดนี้” พยายามพูดเพื่อให้เธอรู้สึกดี อีกอย่างกึ่งเล่นกึ่งจริง เขาไม่อยากให้บรรยากาศระหว่างทางอึมครึมเหมือนบริเวณข้างถนนเลย
“แม้แต่ลูกชายพี่ เค้ายังไม่ให้พี่ได้เห็นหน้าเลย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างไม่รู้ แต่ช่างเถอะคะ พูดไปก็เท่านั้น พี่มาอยู่ที่นี่ก็สุขสบายดีนะคะ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไร งานการก็ถือว่าพออยู่ได้สบายๆ” น้ำเสียงเริ่มจะพยายามปรับให้แจ่มใสขึ้น หล่อนคงกลัวเค้าเครียดไปด้วย
“แล้วคุณหมอละคะ ทำไมย้ายมาที่จันทบุรีคะ ที่โรงพยาบาลเมืองกรุงออกเยอะแยะไป พี่ภาว่านะ อย่างคุณหมอเนี่ย เค้าแย่งจองตัวกันให้ควั่กละคะ”
“หึ หึ ผมก็คล้ายกับพี่นะครับ ไม่ค่อยลงรอยกับแม่เลี้ยงสักเท่าไหร่ ผมเลยอยากมาสร้างตัว ด้วยตัวของผมเอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร อาศัยความรู้ความสามารถตัวเอง”
“อ่าว เป็นงั้นไป ว่าแต่คุณหมอ อายุเท่าไหร่นะคะ ขอโทษเถอะคะ อย่าว่างั้นงี้เลย”
“ 26 ครับ แล้วพี่ละครับ”
“45 คะ” “หาาาาาาาาาา” เอี้ยดดดดด...... เสียงเบรกรถดังลั่น วีรพลตกใจ ถึงกับเหยียบเบรก ทันควัน “อุ้ยยยย คุณหมอ ทำไมคะ ตกใจอะไร มีอะไรตัดหน้ารถเหรอคะ”
“ป่าวครับ ไม่น่าเชื่อนะ ผมนึกว่าพี่ประมาณสัก 30-35 เสียอีก ถ้าพี่ไม่บอก ผมไม่เชื่อนะนี่ บอกตามตรงพี่สวยมาก”
“คิคิคิคิ นี่ คุณหมอคะ อย่ามาปากหวานกับคนแก่เลยค่าาาาาาา คิคิคิคิ” เหมือนเธอเริ่มอารมดี ขำเขาใหญ่เลย
“ผมพูดจริงครับ บอกตามตรง ผมไม่เคยมองหญิงคนไหนแล้วผมตะลึง เหมือนพี่เลยครับ” วิภาวรรณนิ่งสนิท เจอคำนี้เข้า เธอรู้เลย ว่าเค้าไม่พูดเล่นแน่ๆ อะไรกันนี่ เพิ่งเจอกัน เค้าแสดงอาการจะจีบเธอแล้วเหรอนี่ วิภาวรรณมีความรู้สึกแปลกๆ ทั้งๆ ที่เคยเจอผู้ชายมาก้อร้อก้อติก พูดจาเลียบเคียงก็เยอะ เธอเองก็ผ่านการมีสามีมาแล้ว เรื่องอย่างนี้ทำไมจะไม่รู้ แต่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไร มีแต่ขำ แล้วก็พูดดักคอ หรือไม่ก็รับมุขสนุกๆ ไป แต่คราวนี้ทำไม เธอกลับจะพูดอะไรไม่ออกเสียเลย
“ไปเถอะคะ เด๋วจะดึก อีกไม่ไกลแล้วคะ จะถึงบ้านพี่แล้ว” รีบตัดบท
เมื่อถึงบ้านวิภาวรรณ วีรพลก็ได้เห็นบ้านเรือนไทยขนาดย่อม ดูมีฐานะ แต่เป็นแบบบ้านสวน ตกแต่งได้สวยงาม ดูเรียบง่าย วิภาวรรณบอกว่า เธอจะมาบ้านหลังเฉพาะวันหยุด ปกติแล้วจะพักอยู่ที่ร้านขายของฝาก ที่ตัวเมือง เพราะทำงานที่ธนาคารด้วย เป็นเจ้าของร้านของฝากด้วย เมื่อส่งถึงบ้าน พูดคุยกันนิดหน่อย วีรพล ก็ขอตัวกลับ เพราะต้องขับรถอีกนาน เพราะยังไม่คุ้นทาง
“ผมกลับก่อนครับ พี่ภา ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่ให้เกียรติผม บ้านพี่นี่ น่าอยู่มากๆ เลยครับ ถ้าผมจะหาที่ดินสักแปลง ก็กะว่าจะสร้างบ้านประมาณแบบพี่นี่แหละ”
“คะ แม๋ ไม่น่าเชื่อ วัยรุ่นอย่างคุณหมอ ชอบแนวโอเรี่ยน โบราณๆ กับเค้าด้วย คุณหมอ พี่ก็ขอบคุณด้วยเช่นกันที่อุตส่าห์มาส่ง มีโอกาสก็แวะที่ร้านได้นะคะ จะถือว่าเป็นลูกค้าพิเศษคะ ขับรถดีๆ นะคะ ราตรีสวัสดิ์คะ” เธอพูดส่งยิ้มหวาน อย่างเป็นกันเอง
ตลอดระยะทางที่กลับ วีรพล คิดไม่ออกว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมรูปหน้าไข่ขาวนวล ตาคมเข้ม ผมดำสลวย เกล้ารวมไว้ มีปอยผมบางพริ้ว ยังลอยติดเหมือนยังกับหน้ากระจกรถ เป็นจอทีวี แล้วมีรูปหน้าเธอลอยเด่น อย่างนั้น ทุกอย่างที่เป็นเธอ ดูเหมือนจะฝังลึกอยู่ในภวังค์ของวีรพล ตั้งแต่โตมา เขาก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ก็หญิงคนใดเลย นี่เขากลับมาชอบสาวแก่คราวแม่เลยเหรอนี่ พยายามสะบัดศีรษะหลายที ก็ยังอาการเดิม
ตื่นเช้ามา เป็นวันเสาร์ วีรพล ลุกอาบน้ำแบบลวกๆ ตามประสาหนุ่มโสด ไม่ค่อยพิถีพิถัน วันนี้เขามีนัดที่จะซื้อบ้านที่ดิน หลังจากตัดสินใจที่จะมาปักหลักอยู่ที่นี่ ทิ้งความสับสนวุ่นวาย และชีวิตที่คับแคบไว้ที่กรุงเทพฯ คนที่จะพาไปดูที่ดินก็เป็นคนที่ธนธรณ์แนะนำมา วันนี้ถ้าไปดูที่ดินแล้วถูกใจ ก็จะจัดการทำสัญญาซื้อขาย เขาเองก็ได้รับมรดกที่ได้จากพ่อหลังจากที่พ่อตัดสินใจ จะอยู่กับภรรยาใหม่ ซึ่งเขาเองไม่ค่อยมีความสุข เพราะเป็นลูกติด พ่อเขาก็ไม่ใช่ว่ารังเกียจเขาหรอกแต่ก็ต้องทำใจ จึงตัดสินใจ มอบทรัพย์สินมูลค่ามากพอสมควร พอที่เขาจะสามารถตั้งตัวได้ไม่ลำบากนัก หากเขาตัดสินใจจะซื้อบ้านที่ดิน ก็จะโอนเงินให้เลย เมื่อไปพบนายหน้าที่ได้นัดไว้ ก็ออกรถไปนอกเมือง ประมาณ 30 กม. ได้ แต่ที่ทำให้แปลกใจก็คือ มันเป็นทางที่เขา เพิ่งขับผ่านมาเมื่อคืนนี่เอง แล้วที่ทำให้วีรพลใจเต้นแรงขึ้นก็คือ เมื่อถึงที่หมายนั้น เขามองเห็นบ้านเรือนไทย ที่คุ้นตา อยู่ถัดจากรั้วอีกแปลงหนึ่งไป
คราวนี้วีรพลได้เห็นชัดๆ เต็มตาว่าบ้านเรือนไทยที่ว่านั้น เป็นบ้านที่สวย สงบ ร่มรื่นน่าอยู่มากทีเดียว เขามองเหม่อจนไม่รู้ว่านายหน้าและเจ้าของที่ดินพูดอะไรไปบ้าง
“ทำไมเหรอพ่อหนุ่ม อยากได้บ้านหลังนั้นเหรอ อย่าเลย เค้าไม่ขายหรอก เจ้าของก็เป็นคนกรุงเหมือนพ่อหนุ่มนี่แหละ เป็นแม่ม่าย วันนี้ท่าทางจะอยู่บ้านนะเพราะเป็นวันหยุด” เสียงเจ้าของที่ดินพูดขึ้นมา
“อ่อ ปล่าวหรอกครับลุง ไม่มีอะไร แต่ผมชอบเรือนไทย ถ้าผมจะซื้อที่ดินปลูกบ้าน ก็อยากได้แบบนั้นบ้าง เป็นบ้านสวนอย่างที่ผมฝันอยากได้พอดี เอาเป็นว่า ผมชอบที่ดินผืนนี้ ยังไงลุงก็อย่าคิดราคาผมแพงมาก ก็พอรับไหวนะครับ ส่วนเรื่องเงิน เดี๋ยวอาทิตย์หน้า ผมจะจัดการโอน และทำสัญญาซื้อขายให้เรียบร้อยละกัน”
“อืมมม แม๊ วัยรุ่นนี่ใจร้อนนะ จะไม่มีอะไรติบ้างเลยหรือ ยังไงก็ลองเดินสำรวจให้ทั่วก่อนก็ดีนะพ่อหนุ่ม เรามีเวลาทั้งวันน่ะ วันนี้ หรือว่าถ้าตกลงละก้อ ลุงว่าเราน่าจะไปทำความรู้จักเพื่อนบ้านไว้บ้างก็ดี คนกรุงด้วยกัน น่าจะเข้ากันได้นะ ประเดี๋ยวลุงจะลองไปเรียกดู เผื่อคุณวิภาวรรณจะอยู่” เจ้าของที่ดินบอกพลาง เดินไปที่ประตูรั้วบ้านเรือนไทยหลังนั้น ชื่อนี้ รู้สึกปล้าบเข้าหัวใจวีรพล ถึงกับแสดงอาการตื่นเต้น แต่ว่านายหน้า กับเจ้าของที่ดินไม่ทันสังเกต
“เอ่อ ครับ ก็น่าจะดีครับ”
ผลปรากฏว่า วิภาวรรณแสดงสีหน้าแปลกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าวีรพลจะมาซื้อที่ดินแปลงติดกันกับหล่อน
“แหม เพิ่งคุยกันมะคืนเอง ไม่น่าเชื่อคุณหมอจะมาซื้อที่ดินแปลงนี้ ถ้าหากว่าจะย้ายมาสร้างบ้านที่นี่จริงๆ ก็ดีเลยคะ พี่จะได้มีเพื่อนบ้านเพิ่มอีก อบอุ่นดี”
“เอ่อ พี่ครับ พี่ทำงานธนาคารใช่มั้ย งั้นถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมอยากให้พี่ช่วยเหลือเรื่องบัญชีการเงินให้ผมด้วยนะครับ ผมเองไม่ค่อยถนัดเรื่องเงินทองเท่าไหร่ ถือว่าได้ลูกค้าใหม่นะครับ” แหม อะไรจะหัวไวขนาดน้านนน มีช่องโอกาสหน่อยไม่ได้ วีรพลรีบคะยั้นคะยอให้วิภาวรรณรับหน้าที่ผู้จัดการบัญชีธนาคาร
“เอางั้นเลยเหรอคะ เอ่อ....”
“อ่าว ทำไมละครับ หรือว่าผมรบกวนพี่เกินไป”
“ไม่ใช่คะ พี่เป็นผู้จัดการ จะรับเองตรงๆ ก็ยังไงๆ อยู่น๊า พี่จะให้แพรวาเค้าจัดการให้ละกัน โอเคมั้ย” เธอเลี่ยงๆ เพราะเธอดูตาวีรพลออกว่าคิดอะไร
“ผมว่า ผมเชื่อใจพี่นะ ให้พี่รับหน้าที่เถอะ นะครับ เงินไม่น้อยนะครับพี่ ตอนนี้ผมก็เห็นพี่นี่แหละ เหมาะสมแล้ว”
“ก็ได้คะ พี่จะจัดการให้ละกัน ขอบคุณนะคะที่เชื่อใจ ไว้ใจพี่”
วิภาวรรณพาวีรพลเดินดูรอบๆ บ้าน และก็สวนของเธอบางส่วน ทีแรกเค้าก็สงสัยเหมือนกันว่าบ้านใหญ่โตมาก ถ้าเทียบว่าเธออยู่คนเดียว ทำไมถึงดูแลบ้านได้สะอาด เป็นระเบียบ มาได้รับคำเฉลยว่า เธอจ้างคนสวนกับแม่บ้านให้มาดูแล ทุกสัปดาห์ๆละ 2-3 วัน ยกเว้นวันหยุดที่เธออยู่บ้าน เธอจะดูแลเอง วันนี้วิภาวรรณแต่งตัวเรียบๆ แต่ดูหวานไปซะหมดสำหรับวีรพล เสื้อแพรเนื้อนิ่ม แขนกุดสีเหลืองอ่อน คอกว้างนิด เผยต้นแขน หน้าอกนิดหน่อย ต้นคอขาวสะอาด กระโปรงกลีบยาวปิดเข่าสีขาว เวลาเดินนวยนาดเหมือนนางแบบ เพราะหุ่นเธอก็ถือว่าสูงเพรียวกว่าบรรดาหญิงท้องถิ่น ทำให้วีรพลนึกถึงกิริยานี้ เหมือนเค้าเคยเห็น แต่จำไม่ได้ว่าจากไหน เธอดูผิดไปจากตอนงานกินเลี้ยงซึ่งดูขรึม เนี๊ยบ เป็นทางการกว่า ตอนนี้รู้สึกเธอจะมีแววสดใส กว่าเดิม ช่างยิ้ม ช่างพูดกว่าตอนแรก


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #2 on: June 02, 2013, 08:46:08 pm
นานหลายเดือนที่วีรพลเทียวไปเทียวมาระหว่างตัวเมือง และบ้านสวนที่เค้ากำลังสร้าง เขามีโอกาสได้เข้าไปหาวิภาวรรณบ่อยครั้ง ทั้งที่ทำงาน

ที่ธนาคารเกี่ยวกับเรื่องบัญชีเงินฝาก สินเชื่อ ที่ร้านขายของฝาก ทุกวันศุกร์ก็จะขออาสาขับรถพาวิภาวรรณมาส่งที่บ้านสวนเป็นประจำ ความ

รู้สึกที่เขามีก็ทยอยปลดปล่อยออกมาเรื่อยๆ จนวิภาวรรณรู้สึกได้ว่าวีรพล คิดอย่างไรกับเธอ
“พี่ภาครับ ผมอยากรู้ อย่าหาว่าผมจุ้นจ้านนะครับ พี่อยู่มาได้ยังไงคนเดียว ผมหมายถึง เอ่อ ทำไมพี่ไม่ยอมมีครอบครัวใหม่ จะได้มีคนคอยดูแล”
“ไม่รู้สิคะ อาจเพราะว่าเป็นอย่างนี้สบายใจกว่า ไม่ต้องทุกข์ใจเพราะใคร และอีกอย่างพี่เคยเจ็บกับการต้องอยู่กับใครสักคนแล้วทำให้เราเสียใจ

มั้ง พลไม่รู้หรอกว่าเรารักใครสักคนแล้วกลายเป็นคนที่เค้าไม่ไว้ใจ มันปวดใจแค่ไหน พี่น่ะ ถูกสามีกล่าวหาว่ามีชู้ แล้วก็หย่าร้าง แม้แต่ลูก พี่ก็

ไม่มีโอกาสได้ดูแลเค้า ไม่ได้เห็นหน้าด้วยซ้ำ” พูดไปพลาง ตาเหม่อ บ่อน้ำตาเริ่มเอ่อริน
“ขอโทษครับ ที่ทำให้พี่ไม่สบายใจ ผมไม่ได้ตั้งใจ แต่อย่างน้อยพี่ก็มีผมเป็นเพื่อน ขอให้พี่วางใจผม ผมจะไม่มีทางทำให้พี่เป็นอย่างนั้นอีกเด็ด

ขาด ถ้าพี่ไม่รังเกียจผม นะครับ” วีรพลพูดปลอบใจ พลางคว้าหมับที่มือนิ่มขาวนวลขึ้นมากุม จ้องหน้าวิภาวรรณเหมือนเป็นเครื่องยืนยันเพื่อ

สื่ออะไรสักอย่าง
“พล!! เอ่อ พี่ พี่รู้นะ ว่าพลคิดอะไร แต่พี่ว่าพลคิดให้รอบคอบกว่านี้จะดีมั้ย” วิภาวรรณรู้สึกประหม่า หวั่นไหวไม่น้อย
“พี่รังเกียจผมเหรอ เพราะผมอายุน้อยกว่าพี่ แทบเป็นแม่เป็นลูกงั้นเหรอ”
“เอ่อ พลก็น่าจะรู้นะ ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เรายังต้องอยู่ในสังคมมากมายนะ แล้วพลทำได้เหรอ อุ้ยย พล!!! ทำอะไรนะ” อย่างไม่ทันตั้งตัว วีรพล

คว้ากอดร่างอรชรของวิภาวรรณเต็มอ้อมแขน วิภาวรรณดิ้นรน แต่ก็ไม่เป็นผล ด้วยรูปร่างที่ใหญ่ กำยำ หนากว่าเธอมาก แต่วีรพลก็ไม่ได้ทำ

อะไรเกินเลยไปกว่านั้น เขากอดเธอแน่น สักพัก ก็เปลี่ยนเป็นมากระชับไหล่ จ้องตาวิภาวรรณซึ่งยามนี้เธอยังตระหนก ตั้งตัวไม่ถูก
“พี่ภา ผมก็ไม่รู้เพราะอะไร แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าผมต้องการพี่ อยากเป็นคนที่คอยดูแลพี่ ผมไม่สนว่ามันจะเป็นอย่างไร พี่รู้มั้ย วันแรกที่ผมเจอพี่

ผมนอนไม่หลับ ได้แต่มองเห็นหน้าพี่เต็มไปหมด มัน... มันบรรยายไม่ถูก ที่ผมอยากบอก คือ เอ่อ... คือ.. ผมรักพี่ภา” วิภาวรรณตะลึงงัน ทั้งๆที่

พอจะเดาออกแต่แรกว่าเค้าคิดอย่างไรกับหล่อน แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะกล้าพูด
“พล!!! พูดอะไรออกมา รู้ตัวหรือเปล่า”
“ผมไม่ได้บังคับพี่หรอกครับ เพียงแต่ผมอยากบอกความรู้สึกผมที่มีต่อพี่ เท่านั้น รู้หรือเปล่าที่ผมตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงนั้น เพราะพี่ อย่างน้อย

ผมได้อยู่ใกล้ ได้เจอพี่ ผมก็มีความสุขใจแล้วครับ มันอาจจะดูบ้าไปสักหน่อย แต่ผมก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับหญิงคนไหน

มาก่อน” พูดจบ เขาก็รวบกอดวิภาวรรณซึ่งยังคงทำอะไรไม่ถูก กับคำพูดที่เขาพรั่งพรูออกมา เพราะที่รู้จักกันมาเป็นเดือน ไม่เคยเห็นเขาพูด

ประโยคยาวๆ และจริงจังขนาดนี้มาก่อน
“พล อย่า.. พอเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก อุ้บบบบ!!” ยังพูดไม่จบดี วีรพลรวบรวมความกล้า ประกบปากจูบวิภาวรรณ อย่างดูดดื่ม วิภาวรรณ

ตั้งตัวไม่ติด วีรพลลูบแผ่นหลังหล่อนด้วยมือข้างหนึ่งอีกข้างก็กระชับอ้อมแขนเข้าไป วิภาวรรณตั้งสติได้ ผลักเขาออกห่าง สีหน้ายังบ่งบอกถึง

อาการตระหนก ปากแดงระเรื่อสั่นไหว
“เอ่อ.. พี่ภา ผมขอโทษ ผมไม่น่าทำอย่างนี้ ไม่น่าทำแบบเห็นแก่ตัว ผมยอมรับผมห้ามใจ ห้ามความรู้สึกไม่ได้จริงๆ ” วีรพลก้มหน้างุดพูด

เสียงต่ำ เหมือนว่าสำนึกผิดที่ทำลงไป
“พี่กลับเข้าบ้านล่ะ” แล้ววิภาวรรณก็รีบผลุนผลันเดินจากไป วีรพลยังคงนั่งที่เดิม ครุ่นคิดสิ่งที่ตนทำ จนเกือบมืดจึงเดินไปขับรถกลับที่พักในเมือง

ตลอดทางความคิดเขาสับสนวุ่นวาย จนต้องแวะเข้าหาที่ดับความสับสน จะมีอะไรดีไปกว่าการดื่ม.. ดื่ม..

ภายในบ้านเรือนไทย วิภาวรรณยังคงนั่งเหม่อ บางครั้งเผลอลูบริมฝีปากตัวเอง นี่เธอเป็นอะไรไปเหรอ ทำไมรู้สึกหวั่นไหวไปกับสิ่งที่วีรพลทำ

ทั้งๆ ที่ก่อนนี้ ก็มีผู้ชายเข้ามาเกี่ยวพันมากมาย แต่ก็ไม่เคยโอนอ่อนสักครั้ง แค่จับมือหล่อนก็สะบัด หรือก็ดุด่าว่าเขาไปแล้ว แต่ทำไมเธอกลับ

ไม่ต่อต้านอะไรเลยที่วีรพลทำกับเธอ แล้วความรู้สึกเก่าๆ ก็วูบเข้ามา ความรูสึกนี้ครั้งแรกที่เธอเคยเป็น
“พี่วัฒน์ อย่าคะ พอแล้ววว อื้มมมมม อย่าคะ”
“โธ่ เป็นอะไรไปภา แค่หอมแก้มแค่นี้ เป็นผัวเมียกัน ทำมากกว่านี้ยังได้เลย น่านะ ที่รัก”
“พี่วัฒน์อ่ะ รังแกเค้า รู้อยู่หรอก แค่หอมแก้มไม่พอหรอกสำหรับพี่ ดูสิ ยิ่งห้ามยิ่งยุ เอาไว้ให้มืดกว่านี้ไม่ได้เหรอคะ พี่วัฒน์ขาาาาาาา”
“ทำไมเล่า นี่มันบ้านเรานะ จะตอนไหนก็ช่าง ผัวเมียเค้าจะเย็ดกัน ใครเค้าจะมาขัด ใครจะว่า”
“อึ้ยยยย ดูพูดเข้า หยาบคาย ลามกที่สุด ว้ายยยยยยยยยยยย”
“ไม่ต้องเล่นตัวเลย เมียจ๋า มะ ผัวขอดูดนมทีเถอะ อู้ววววว ดูสิ อวบนุ่มมือดีจัง อ่ะ จ้วบบบบ”
“อูยยยยย พี่วัฒน์ขาาาา มันเสียวคะ อึ๋ยยยย มืออย่าซนสิคะ อ๊าาาา ไหนว่าจะดูดอย่างเดียว พอแล้วพี่วัฒน์”
“หอมไปทั้งตัวอย่างงี้ ใครจะอดใจไหวล่ะ ที่รัก อืมมมม ดูสิ ขาวเนียนทั้งตัว พี่นี่โชคดีที่สุดเลย ภารู้มั้ย”
“ทำไมคะ” “ก็ ได้เมียสวยอ่อนหวานอย่างงี้อ่ะ ใครได้ภาเป็นเมียละก็ รับรองต้องหลงกอด จูบ เย็ดทุกวันแน่ๆ”
“โอยยยย พี่วัฒน์ จับตรงนั้นภาทำไม เสียวนะ วันเข้าหอก็เสียวจะขาดใจแล้ว ยังจะมาจับลูบอีก อ๊าาาาาาา พี่วัฒน์ขาาาาาาา ภา ภา อ่ะๆๆ”

หล่อนเบ้หน้า สั่นสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อวีรวัฒน์แยงนิ้วเข้าหลืบหี ปากก็อมดูดปลายถัน มืออีกข้างก็บี้เม็ดติ่งหัวนม สาวหุ่นอรชร สุดกลั้นกับบท

สวาทที่สามีข้าวใหม่ปลามันมอบให้ เพียงไม่นาน เสียงครางเธอก็ขาดเป็นห้วงๆ ร่างกระตุกเฮือก หลั่งน้ำเมือกออกมาอย่างพร่างพรู
“อาาาาาาา พอแล้ว พี่วัฒน์ขาาา ภาเสียวจะขาดใจอยู่แล้ว อูยยยย..”
“ยังหรอกเมียจ๋าา ภาต้องเสียวกว่านี้ แต่ภาต้องช่วยพี่นะ”
“ทำไงคะ” หล่อนถามเสียงหอบ หน้าอกยังกระเพื่อมถี่ๆ
“ก็ อมควย ให้พี่ก่อนไง เวลาเราเย็ดกัน เราต้องพูดกันหยาบๆ เข้าใจมั้ยจ๊ะ จะได้เงี่ยนมากๆ”
ถึงแม้จะเคยเย็ดกันมาแล้ว เมื่อวันเข้าหอ แต่หล่อนก็ยังเอียงอาย กระดากอยู่พอควร ทำอะไรก็ดูเหมือนยังเก้ๆ กังๆ เมื่อวีรวัฒน์ถอดกางเกงออก

ท่อนลึงค์กึ่งอ่อนกึ่งแข็ง ก็โชว์ต่อหน้า เขาจับมันจ่อที่ปาก
“ทำเหมือนดูดไอศครีมไงจ๊ะ วันเข้าหอพี่ก็ให้ทำให้พี่แล้วนี่ ลืมแล้วเหรอ อู้วววว อย่างง้านน เมียจ๋าาาา ค่อยๆ ก่อนนะจ๊ะ อย่าให้ฟันมันขบเงี่ยง

ของพี่ล่ะ อืมมมม...”
พอเริ่มเข้าที่เธอก็รู้สึกเพลิดเพลิน มันปาก จึงเร่งจังหวะดูดเร็วและแรง วีรวัฒน์ก็ไม่ปล่อยมือว่าง คว้าหมับเข้าที่หน้าอก บีบ คลึง เคล้นนน และ

ก็บี้ปลายหัวนม ทำให้วิภาวรรณสยิวไปด้วย
“เอาล่ะ พอแล้ว เมียจ๋า มานอนหงาย ถ่างขาออกกว้างๆ นะจ๊ะ อูวววว รูสีแดง น่าเย็ดที่สุดเลย อาาาาาาา”
“อ่า พี่วัฒน์ ภายังเจ็บอยู่เลยนะ ไม่เอาเข้าได้มั้ยค่ะ”
“ฮื้อ เด๋วก็หายเจ็บล่ะจ่ะ พี่รับรอง ทนหน่อยนะ พี่จะค่อยๆ ทำ”
“อูยยย เจ็บค่ะ เบาๆ ก่อน อู้วววว แน่นไปหมดเลย อ๊าาาา อุ้บบบ!!” วีรวัฒน์ประกบปากจูบหล่อน สอดลิ้นประสานลิ้น ตวัดปลายลิ้นวนไปมาไป

โพรงปาก เมียสาวก็ตอบโต้ เพราะการจูบนี้ หล่อนกับวีรวัฒน์ทำกันบ่อยตั้งแต่หมั้นหมายกัน ทำให้คลายความรู้สึกเจ็บ กลับเพิ่มความสยิว

กระสันขึ้นมาแทน เมื่อเห็นว่าหล่อนเริ่มตอบสนองแล้ว วีรวัฒน์ก็ค่อยๆ ขยับบั้นเอว เป็นจังหวะช้าๆ ทุกครั้งที่เขาส่ายบั้นเอว หล่อนก็สะท้าน แรกๆ

ก็กระถดกายถอย แต่ก็ทำได้ไม่มากเพราะตัวเองอยู่เบื้องล่าง เมื่อเข้าที่แล้ว วีรวัฒน์ก็ห่มกายกระเด้าทีเดียว คราวควยมิดลำ
“โอยยยย พี่วัฒน์ขา เริ่มเสียวแล้วพี่ อืมมมม แต่ค่อยๆ ไปก่อนนะคะ ภายังไม่ค่อยมั่นใจ”
“จ๊ะ เด๋วก็ค่อยๆ เสียว ทีนี้รับรอง เมียจ๋า เราจะได้มีความสุขกัน อึ้บๆๆ อ๊า”
“อูยย ลำของพี่มิดรูภาแล้ว อึ๋ยยยย มันลึกมากเลยคะ พี่วัฒน์”
“ไม่เอา เรียกพี่วัฒน์ เราเป็นอะไรกันคะ หืมมม ถ้าเรียกไม่ถูกละก้อ.....”
“ว้ายยยยยยยยยยย เราเป็น ผะ ผัว... เมีย กันคะ พี่วัฒน์ ผัวขาาาาาาาาาา”
“อย่างงี้สิ เค้าถึงจะเรียกว่าเย็ดกัน อาาาา หีเมียนี่สุดยอด ทั้งรัด ทั้งแน่น อู้ววววว”
“ก็ภายังเคยนิค่ะ มีผัวคนแรกที่แหละ จะไม่แน่นได้ไง อ๊าาาา ภาเสียวจังเลย พี่ขาาาา อูยยย ผัวเมียเค้าทำกันอย่างงี้เหรอคะ ผัวจ๋า”
“ก็ช่ายสิจ๊ะ เป็นผัวเมียกัน ก็ต้องเย็ดกัน มีหี มีควย ก็ต้องเย็ดกัน จะได้มีความสุขด้วย รักกันมากๆ ไงจ๊ะ”
“อ่าคะ ภารักพี่วัฒน์ที่สุดเลย ค่ะ อื้ออออ ยะ. ยะ.. เย็ดเมีย เร็วๆ ได้แล้วคะ ที่รัก ภาเสียวมากเลย เหมือนๆ. เหมือนภาจะปวดฉี่คะ อู้ยยยยยยย

เร็วๆ คะ พี่วัฒน์จ๋าาาา เมียเสียวจะขาดใจอยู่แล้ว โอวววว ซี้ดดดดดดดด”
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งสิจ๊ะ ต้องขอหลายๆ ท่าหน่อย จะได้เสียวมากๆ”
“อูยยย ยังจะมีเสียวหลายท่าด้วยเหรอคะ ทำไงละคะ บอกเมียเลย เมียยอมแล้วคะ เมียรักพี่วัฒน์ ขอให้พี่บอกมาเถอะ อูยยย”
“เอางี้จ๊ะ ภานอนตะแคง พี่จะเย็ดจากข้างหลัง เด๋ววันหลัง พี่จะพาเย็ดท่าอื่นอีก อ๊า อย่างน้านนน”
“โอยยย ยังมีอีกหลายท่าเหรอค่ะ แค่นี้ภาก็จะขาดใจตายอยู่แล้ว เอาสิคะ แล้วไงต่อ อาาาา พี่ยกขาเมียขึ้นแล้ว อ่ะๆๆ เอาลำพี่เข้ารูน้องข้าง

หลังเหรอ อูวววว เสียวเหมือนกัน”
“เค้าเรียกว่าควย แล้วรูน่ะ เค้าเรียกว่าหี พูดสิจ๊ะ จะได้มีอารมณ์เงี่ยนมากๆ นี่แน่ะๆ ไม่ต้องเขินอายหรอก ผัวเมียกันแล้ว”
“อ่าคะ เมียจะพยายาม อูยยย เสียวรูหีมากเลยคะ ผัวขาาาาาาา กระแทกแรงๆ ได้เลยคะ อ่ะๆๆ อะ โอ้ยยย ภา ไม่ไหวแล้ว พี่วัฒน์

อ๊ายยยยยยยยย อ่ะ.......” เสียงเมียสาวขาดเป็นห้วง ใบหน้าบิดเบี้ยว เกร็ง กระตุกเป็นจังหวะ วีรวัฒน์ ก็สุดทน โหมกระเด้า กระแทกกระทั้นสุด

กำลัง จนในที่สุดทำนบแห่งความกระสันได้พุ่งปรี้ดดเข้าสู่โพรงสวาทของเมียสาว จนเธอรู้สึกถึงความอุ่นวาบที่ท้องน้อย ทำเอาเสียวสะท้าน

อีกรอบ วีรวัฒน์ก็ยังคงแช่ท่อนรักของเขาไว้ อ้อมแขนก็โอบรัดภรรยาสาวหุ่นอรชน คลึงเต้าอวบขาวไปมา ลมหายใจหอบกระเส่าปานวิ่งร้อย

เมตรมาสักสองสามรอบ รินรดซอกคอหล่อน ซึ่งตอนนี้มีความรู้หวิวๆ บอกไม่ถูก ต่างจากครั้งแรกที่เข้าหอ หล่อนรู้สึกเจ็บมากว่าเสียว สักพักวีร

วัฒน์ก็ดึงภรรยาหันกลับมาแลกปากประกบจูบกันอย่างดูดดื่ม ช่างเป็นความรักร้อนแรง แห่งรักแรกของวัลวิภา
วิภาวรรณสะดุ้งรู้สึกตัว ในห้องนอน มือเรียวยังคงอยู่ที่ซอกหีปลายนิ้วชุ่มไปด้วยเมือกความกระสันต์ อาาาา ความรู้สึกนั้น มันเมื่อเกือบ 20 ปี

ก่อน แต่ยังคงตราตรึงในความรู้สึกหล่อน ตั้งแต่แยกทางกับวีรวัฒน์แล้ว วิภาวรรณยังไม่เคยรู้วาบหวามกับเพศตรงข้ามอีกเลย อาจเป็นเพราะ

เธอรักมากจับใจ เมื่อเกิดความเสียใจ จึงเข็ดขยาดต่อความรู้สึกแบบนั้นอีก แต่ครั้งนี้ทำไม วีรพลถึงได้ทำหล่อนควบคุมความรู้สึกเฉยชาไม่ได้

อีกแล้ว สักพัก ก็ต้องสะดุ้ง จากเสียงริงโทนโทรศัพท์ ดูที่หน้าจอ วีรพล หล่อนลังเลอยู่พักนึงก่อนจะกดรับสาย
“พี่ภา พี่ภาครับ ผมขอโทษ พี่ยกโทษให้ผมนะครับ” วิภาวรรณนิ่งเงียบ...
“โธ่ พี่ภาครับ ผมขอสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก นะครับ” เสียงเค้ายังคงเว้าวอนน่าสงสาร แต่เหมือนเค้าพูดลิ้นไก่สั้น เหมือนว่าสติสตังค์ไม่

สมบูรณ์
“พลเมาหรอ ถ้าพลยังไม่มีสติ พูดไม่รู้เรื่อง หมดเรื่องแล้ว ก็แค่นี้ก่อนนะ พี่ขอตัวอาบน้ำ จะนอนแล้วคะ” แล้วก็กดวางสาย
วีรพลกดโทรอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีการตอบรับอีก เขากุมขมับ กลัดกลุ้ม มานึกสภาพตัวเอง เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมหล่อนถึงมีอิทธิพลต่อ

เขานัก เหมือนว่าหล่อนคือสิ่งที่ขาดหายไป กลับมาเติมเต็มให้เขา เขาถึงได้แคร์ขนาดนี้ ทั้งที่เขาเองก็หน้าตาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ มีสาวหลายคน

วางตัวให้ท่า ให้ความสนใจ เขากลับเฉย กลับต้องมาแคร์ความรู้สึกกับสาวใหญ่วัย 45
“เฮ่ย พล ไปเมามาจากไหนว่ะ ดูท่าทางเครียดพิกล หรือว่าโดนโกงที่ดินวะ”
“เปล่าหรอก ธร แต่ว่า... เฮ้อ จะพูดไงดีฟะ”
“มีไรก็บอกกันมาน่า พักนี้เราไม่ค่อยได้เที่ยวกันเลยนะเพื่อน เห็นแกเทียวไปเทียวมาที่บ้านสวน ไปถึงไหนแล้ว ใกล้เสร็จรึยัง จะได้ฉลองบ้าน

ใหม่”
“ก็เกือบแล้วล่ะ” “แล้วท่าทางเครียดนี่ เรื่องอะไรฟะ บอกกันได้น่า”
“ไม่มีไรหรอก ว่าแต่แก กับน้องแพร เป็นไงมั่งเห็นตามรับตามส่งทุกวัน คนนี้รักจริงหวังแต่งหรือป่าว”
“อือ ก็กำลังไปได้ดี แต่รู้สึกไม่กล้าผลีผลามหม่ำเร็วว่ะ ยอมรับว่ะ คนนี้ขอยอมว่ารักจริง เหอะๆ ตลกนะ ไอ้คนอย่างฉันต้องมาง้อ เอาใจผู้หญิง

เหอๆๆๆ”
“ก็ดีแล้ว ฟัดไม่เลือกเดี๋ยวกรรมตามทันนะเว้ยย ดีใจด้วย ที่แกจะจริงจังซะที”
“อืออ ขอบจายยยย ว่าแต่เอ็งยังไม่บอกเลยว่าเครียดเรื่องอะไร”
ในที่สุด วีรพลก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ธนธรณ์ฟัง
“ฮ่าๆๆๆๆ ขำวุ้ย โทดทีเพื่อน แต่ขำจริงๆ ลูกชายเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ กลับมาตกหลุมรักแม่ม่ายวัยรุ่นแม่”
“เหอะๆ เอาๆ จะเยาะเย้ยยังไงก็ช่าง แต่หาทางช่วยหน่อยไม่ได้เหรอวะ แพรวา ก็ลูกน้องพี่ภา อยากให้เขาพูดเกลี้ยกล่อมนายเค้าบ้างสิ”
“นี่ๆๆ พล แกจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่รู้สิ มันเหมือนเธอคือส่วนที่ชั้นอยากมีมาโดยตลอด บอกไม่ถูกว่ะ ว่าเคยเห็นลักษณะนี้ตอนไหน เมื่อไหร่” วีรพลพูดพลางเหม่อ นึกถึงหน้า

วิภาวรรณ
“ชั้นว่านะ พี่ภาเค้าก็คงผ่านอะไรมาเยอะกว่าเรา คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เราชั้นว่าเค้าอยู่กันมาได้ก็ด้วยความจริงใจ ซื่อสัตย์ต่อกัน เอางี้ละกัน คาดคะเน

เอานะ ชั้นว่าพี่ภาเค้าอาจจะมีใจให้แกบ้างแหละ ไม่ง้านไม่ยอมไปไหนมาไหนกับแกหรอก แต่แกควรจะสร้างความเชื่อมั่นให้พี่เค้าเห็นว่าแกจริง

ใจ พี่เค้าคงคิดมากเหมือนกันนะเว้ยย จะรักกับหนุ่มรุ่นลูก เค้าก็ออกมีฐานะ การงานกิจการเค้าก็พอตัว ถ้าจะลงเอยกับแก ก็เสียเครดิตไม่ช่ายน้อย

นอกจากเค้าจะมั่นใจแกจริงๆ”
“ข้อนั้นรับรอง ชั้นพอทำได้ แต่ช่วยวิธีอื่นด้วยสิ แบบนี้ชั้นอกแตกตายแน่ๆ”
“เออๆ จะคุยกับน้องแพรอีกที เผื่อช่วยได้ ยังไงก็อย่าเครียดจนเสียการงานนะ เป็นห่วง ยิ่งหมอหนุ่มไฟแรง ขยันการงาน ก็มีน้อยด้วย ไม่ช่วย

เพื่อนจะช่วยใครว่ะ เอาล่ะ แกพักผ่อนเหอะ ชั้นจะไปล่ะ บายเพื่อน”

ธนธรณ์เดินออกจากอพาร์ทเม้นท์ของวีรพล ก็เดินเตร่บริเวณสวนสาธารณะ สงสารเพื่อนคิดหาวิธีที่จะช่วย แต่จะทำอย่างไร จะให้แพรวาช่วย

ตอนนี้ก็หล่อนก็คงยังโกรธเขาอยู่ อันที่จริงก็กะจะไปชวนวีรพลหาเหล้าดื่มเหมือนกัน แต่เห็นอาการเพื่อนหนักกว่าตน จึงไม่บอก ตั้งแต่รู้จักกันมา

เขากับแพรวา ก็คบหากันได้เร็ว เพราะต่างคนต่างช่างพูด จึงเข้ากันได้เร็ว ธนธรณ์ก็คิดว่าจะง่าย เคยทำเลียบๆ เคียงๆ ตอดนิดตอดหน่อย เพื่อ

ที่จะกระตุ้นอารมณ์สวาทกับแพรวาแต่อย่างมาก ก็ได้แค่หอมแก้ม หรือมากสุดก็แค่จูบ ครั้นนานเข้าเลยคิดจะรวบหัวหาง เหมือนที่เคยทำกับสาวๆ

คนอื่น กลับกลายเป็นว่า เธอโกรธจนไม่อยากพูดกับ เฝ้าเพียรโทร. ไปง้องอนก็บ่อยครั้ง จนธนธรณ์ชักอ่อนใจ เพราะเขาไม่เคยที่จะง้อสาวเลย

สักครั้ง แต่ครั้งนี้รู้สึกต้องมาแคร์ ธนธรณ์เดินไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้จะคิดเรื่องอะไรดี
“เดินเล่นคนเดียว ไม่อยากมีเพื่อนเดินคุยด้วยเหรอคะ พี่หมอ” !!!!! เอ๊ะ เสียงนี้ ทำเอาธนธรณ์สะดุดกึก หันไปตามทิศทางของเจ้าของเสียง ก็

เห็นใบหน้าสวยตาโต ขี้เล่น ยิ้มเขินๆ ธนธรณ์แทบจะกระโดดตัวลอย
“แพร!!! แพรมาทำอะไรที่นี่?” ทีแรกทำท่าทางดีใจ แต่แล้วกลับตีหน้าเศร้า หลบตาต่ำ พูดเสียงต่ำ
“พี่รู้ ว่าพี่มันเห็นแก่ตัว ก็สมควรที่แพรจะโกรธพี่” ทำท่าจะเดินจาก แต่แล้ว ร่างอวบๆ น้อยๆ ก็ถลาเข้ากอดทางด้านหลัง
“พี่หมอ แพรไม่โกรธพี่แล้ว แพรไม่เคยโกรธ รู้มั้ยคิดถึงพี่หมอมากๆ เลย”
“แพร แพรว่าไงนะ แพรไม่โกรธพี่ใช่มั้ย”
“คะ ตอนนั้นแพรตกใจนี่คะ ทำอะไรไม่ถูก แพรเข้าใจความต้องการของพี่หมอ ขอเพียงพี่หมอสัญญาสิคะ ว่ารักแพรจริงๆ” หัวใจธนธรณ์แทบจะ

ระเบิดออกมาด้วยความลิงโลด
“พี่สัญญา พี่ไม่เคยรักจริงจังกับผู้หญิงคนไหน เท่าน้องแพรเลย” พูดจบก็รวบร่างอวบๆ เข้ากอดเต็มรัก ซึ่งเจ้าของร่างเองก็ผวาเข้าสวมกอด

อย่างที่เต็มรักเช่น ธนธรณ์กลั้นความรู้สึกไว้ไม่อยู่ ประคองหน้าสวยๆ ประกบปากแลกจูบกับแพรวา แต่แพรวา ใช้ฝ่ามือยั้งไว้
“บ้า พี่หมอ ที่สาธารณะยังจะไม่เว้น ฮื้อออ” ธนธรณ์จึงรู้สึกตัว สีหน้าเจื่อนลงไปนิด
“ไปห้องพี่หมอสิคะ ถ้าพี่ต้องการ!!!” ขาดคำเท่านั้น ธนธรณ์ลิงโลดรีบคว้าแขนแพรวาแทบจะฉุดวิ่ง กลับไปที่ห้องพักตัวเอง แพรวารู้สึกสองจิต

สองใจ นี่เธอตัดสินใจดีแล้วเหรอ ที่จะทำแบบนี้ แต่แล้ว ก็ทนต่อความต้องการไม่ไหว เพราะบ่อยครั้งที่เธอกลับไปบ้าน จะได้เห็นบทรักอันสุด

แสนวาบหวามของพ่อกับแม่ ทำเอาสาวเปลี่ยนสุดทนต้องหาสิ่งที่จะมาเติมเต็ม
“อื้อออ พี่หมออ่า ไม่ต้องใจร้อนก็ได้คะ แพรไม่หนีไปไหนหรอกคะ”
“โธ่ พี่รอวันนี้มานานนะแพร ขอพี่ได้ชื่นใจหน่อยเถอะ น่านะ”
“อุ้บบบ พี่หมอ ล้อกห้องก่อนคะ เด๋วใครเปิดห้องเข้ามา”
“อื้อออ ห้องส่วนตัวใครเค้าเสียมารยาทกันจ๊ะ อาาาา รูปร่างแพรสวยเหลือเกิน ขอพี่ชื่นใจก่อนเถอะ อื้อออ”
“อูวววว พี่หมอ ค่อยก็ได้ ดูสิทั้งลูบคลำ แพรสยิวๆ ยังไงบอกไม่ถูก”
“แพรจ๋า นี่แค่เริ่มต้นนิดหน่อยเอง อีกหน่อย แพรจะรู้สึกดีกว่านี้”
“ทำไงบ้าง สอนแพรด้วนนะคะ แพรรักพี่หมอ แพรยอมพี่หมอทุกอย่างคะ อี้ยยยย”
ธนธรณ์ปลดเปลื้องอาภรณ์แพรวาออกหมด เหลือแค่ชั้นในจิ๋ว สีขาวตัวเดียว ก็เริ่มบรรเลงความเป็นเสือผู้หญิงให้แฟนสาวทันที แพรวาเองก็

โอนอ่อนตามแต่โดยดี เพราะเธออดกลั้นต่อภาพที่เห็นที่บ้าน ทั้งตั้งใจแอบดู และไม่ได้ตั้งใจ มาบัดนี้ เธอจะได้รับรสนั้นเสียเองแล้ว
“แหม หน้าอกแพรนี่ อวบใหญ่ถูกใจพี่มากเลย ขอดูดให้สมใจหน่อยเถอะ”
“อ้าาาา พี่หมอจ๋าาาา แพร มะ มันเหมือนขาสั่นๆ จะยืนไม่อยู่คะ”
“ไปที่เตียงนอนกันเถอะ แพรนอนลง พี่จะทำให้แพรมีความสุขอย่างที่สุดเลยจ๊ะ”
“อะ โอยยย ทั้งดูดหน้าอก ทั้งแยงรู อ๋ายยยย พี่หมออออออออ แพร มะ มะ เหมือนจะฉี่ราดแล้วพี่หมอ”
“ไม่เปนรายจ๊ะ ปล่อยตัวตามสบายนะ จะเป็นอะไรก็ปล่อยให้มันเปนไป เด๋ว จะรู้สึกดี”
ธนธรณ์ดูดเลียหัวนมป้านสีชมพู เต้ากลมอล่องฉ่องขาวอวบ อีกมือข้างหนึ่งก็ฟ้อนเฟ้น แล้วก็ขยับขึ้นจูบไซร้ซอกคอ ติ่งหู พรมจูบตามพวงแก้ม

งาม แล้วก็มาหยุดปากประกบที่ริมฝีปากน้อยๆ บางๆ ชมพูระเรื่อ ดุนลิ้นเข้าโพรงปาก สลับดูด ควานลิ้น เสียงดังจ้วบจ้าบ อย่างน่าฟัง มืออีก

ข้างก็คลึงเคล้นที่เนินสวรรค์น้อยๆ แต่ยังอยู่นอกกางเกงในอยู่ ถึงกระนั้น ธนธรณ์ก็รู้ถึงความเงี่ยนง่านของแฟนสาว เพราะกางเกงเปียกแฉะไป

ด้วยเมือก ที่ถูกขมิบออกมาจากความเสียวกระสัน เพราะแพรวาก็ไม่เคยมีชายใดถูกเนื้อต้องตัวเธอได้มากเท่าธนธรณ์ผู้เป็นเสือ ผู้หญิงคนนี้เลย

ความเงี่ยนของธนธรณ์เองตอนนี้ก็ไม่ต้องให้ใครมาปลุกปั้นเล้าโลมอีกแล้ว เพราะเป็นความต้องการของเขาที่มีต่อแฟนสาว มันแข็งแทบจะ

ระเบิดออกมานอกกางเกง เล้าโลมแพรวาสักพัก ก็ขยับลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าตัวเองออกหมด เหลือร่างล้อนจ้อน แต่กำยำตามลักษณะชายหนุ่ม

กลัดมัน
“แพรจ๋า พี่จะเริ่มแล้วนะ แพรพร้อมจะเป็นของพี่หรือยัง พี่อยากให้แพรแน่ใจ”
“คะ พี่หมอ แพรต้องการพี่ พร้อมเป็นของพี่หมอแล้วคะ”
“อ่ะ ๆ อูวววว ดูสิ หีน้องแพร น่าเย็ดมากเลย ขอพี่เย็ดน้องแพรละนะ”
“หยาบคายจัง อืยยย จะทำอะไรก็ทำเลยจ๊ะ พี่จ๋า โอะ โอ้ยย พี่หมอ แพรเจ็บอ่า ”
“อ่า พี่ขอโทษ นี่แพรยังเวอร์จิ้นอยู่เหรอนี่ โอววว ที่รักจ๋า พี่เป็นคนแรกช่ายมั้ยนี่
“ก็คนแรกสิคะ อู้ยยยยย พี่หมอ แพรเจ็บคะ อ๊ายยยยยยยย เบาสิคะ แพรยังไม่เคยกับใครเลยนี่คะ โอยยย ยังเจ็บอยู่เลย ถ้าไม่รักพี่หมอ แพรไม่

ยอมพี่หมอหรอก อึ้ยยยย อาาาาาาา ทำไมมันเจ็บอย่างงี้ ออยยยย”
“อดทนหน่อยนะจ๊ะ ที่รัก เด๋วก็ดีขึ้นเอง อึ้บ อื้อ”
ธนธรณ์ทาบร่างประกบจูบกับแพรวาอีกหน เพราะต้องปลุกอารมณ์เธอให้คล้อยตามเสียก่อน เค้าเองก็ลืมไปว่า ธรรมดาสาวต่างจังหวัดยังยึด

ถือการรักษาพรหมจรรย์จนกว่าจะได้เข้าพิธีแต่งงาน แต่ไม่นึกว่าแพรวาเองก็เป็นสาวที่ผ่านการศึกษาใน กรุงเทพฯ มาแล้ว ยังถือคตินี้อยู่อีก ใน

ใจก็กระหยิ่มที่ได้เป็นคนแรกที่เบิกพรหมจรรย์แฟนสาว ซึ่งคนนี้เค้าคิดว่าจะเป็นคนที่เค้ารัก และจะจริงใจที่สุด ท่อนเอ็นเขายังคาอยู่ครึ่งลำ ส่วน

ท่อนบนก็พรมจูบ เล้าโลม ทำเอาแพรวาเสียวสยิวไปกับกับการระดมจูบนั้น การโดนจูบเล้าโลม เป็นอย่างนี้นี่เอง ในใจสาวน้อยคิด มิน่า ภาพที่

เห็นที่บ้านเธอจำได้ติดตา คุณเอกภพกับพราวตา จะมีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงเล้าโลม พรมจูบ เลีย ดูดกันพัลวัน ทุกครั้งที่ธนธรณ์ลูบ จูบ ดูดติ่งไต

บนหน้า แพรวาถึงกับสะท้าน แอ่นอกร่า ครางซี้ดปาก เหมือนได้รับรสอร่อย จนลืมความเจ็บที่หว่างขา
“พี่หมอขาาาา แพรเสียวจะขาดใจแล้ววว อ้อยยยยยยยยยย”
“ไม่เจ็บแล้วใช่มั้ย งั้นพี่จะค่อยๆ กระเด้านะ”
“อะไรนะคะ เด้าๆ”
“ก็คือ แบบนี้ไง อ้าาาาาาา ฝืดมากเลย นี่ขนาดน้ำเงี่ยนหลั่งออกมาเยอะแล้วนะนี่”
“น้ำอะไรนะคะ อูยยย พี่หมอ แพรเจ็บ คันๆ บอกไม่ถูก ค่อยๆ ก่อนนะคะ”
“น้ำที่ออกมาจากรูหีแพรไง ถ้ามีความเงี่ยนมากๆ มันจะไหลออกมา แสดงว่า พร้อมจะให้เย็ดแล้ว”
“อูยยยย คะ นี่เค้าเรียกว่าเย็ดกันเหรอคะ ออยยยยยยยยยย”
“จ๊ะ เป็นไง เมียจ๋าาาาาาา ดีขึ้นมั้ย” ธนธรณ์เปลี่ยนสรรพนาม เรียกเมียเสียแล้ว ทำให้แพรวารู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ชอบ รูหีตอดตุบๆ จนธนธรณ์ผู้

ผ่านเวทีมาพอควรยังต้องขมิบตูดกลั้นความเสียว ความคับแน่นของหีแพรวาไม่ได้
“อูยยย หีตอดดีเหลือเกิน แบบนี้พี่ขอเย็ดหลายๆ ทีเลย แพรจ๋า”
“ถ้าแพรไม่เจ็บ ก็แล้วแต่พี่หมอสิคะ ออยยยยย แพรยอมพี่หมอทุกอย่าง ขอให้พี่หมอรักแพรคนเดียวก็พอใจแล้ว อาาาาาาาาาา เสียยวววเหลือ

เกิน พี่หมอขาาาาาาา”
“ถึงขั้นนี้แล้ว จะเรียกพี่หมออีกเหรอ แพรจ๋าาาา เราเป็นผัวเมียกันแล้วนะ ต้องเรียกพี่ให้ถูกสิ”
“อ๊ายยยยย พี่หมอเบาๆ สิคะ ก็แพรยังไม่ค่อยพร้อมนี่ อูยยยย แพรๆ มะ เมีย อ่อ อ้อยยยยยยยยย”
“ทำไมเหรอ เป็นยังไง บอกผัวมาสิจ๊ะ เมียจ๋าาาา”
“แพรเสียวคะ เมียเสียว อี้ยยยย ซี้ดดดดดดดด”
“ตรงไหน?”
“ ตะ ๆ ตรงนั้น ตรง หี อ๊ายยยยยยยยย เมียบอกแล้วนี่ แล้วกระเด้าแรงทำไม อูยยยย พี่เนี่ย ไม่รักเมียหรือคะ ผัวขาาาา ถึงรุนแรงอย่างงี้ อูยยยย”
“โอยยยยยย ทำไมหีแพร ฟิต และตอดพี่แรงแบบนี้ล่ะ แพรเสียวมากช่ายมั้ย พี่จะกลั้นไม่ไหวแล้วนะ เมียจ๋า”
“สะ เสียวววววว มากเลย พี่จ๋า ผัวจ๋า กระเด้ามาเลย แพรรู้สึกเหมือนปวดฉี่ เหมือนมันจะไหลอยู่แล้ว โอยยยยยยย พี่หมอ เร็วๆๆ พะ แพร ไม่

ไหวแล้วววววววววว ผัวขาาาาาาาาาา มะ มะ เมียย อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยย” แพรวาส่งเสียงกรี๊ดลั่นห้อง พร้อมแอ่นกายขึ้นจนก้นไม่ติดเตียง

นอน ร่องหีขมิบแน่น จนธนธรณ์ผู้เจนจัดเองก็สุดจะกลั้น ทั้งๆ ที่เพิ่งเย็ดไปท่ากบดานเบสิคท่าเดียวเอง แต่หมอหนุ่มก็ได้สุขสมอารมณ์หมาย

ไล่หลังจากที่แพรวาหลั่งน้ำกามของตน ของธนธรณ์ก็กลั้นต่อไม่ไหว สะโพกเกร็งบดหนอกควยเข้ากับเนินหีแพรวาแน่น ปล่อยสเปิร์มกระฉูด

เข้าโพรงหีแฟนสาว เต็มกลั้น จนแพรวารู้สึกอุ่นในช่องหี กายยังสั่นสะท้าน ลมหายใจระรวยประหนึ่งว่าไปหอบหิ้วของหนักมาจากไหน ธนธรณ์

ตวัดร่างแฟนสาวขึ้นทับร่างตัวเอง โอบกอดอย่างรักใครแทบจะให้กลืนร่างเป็นร่างเดียว ประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม แพรวาถึงแม้จะไม่เคย แต่

ด้วยสัญชาตญาณการสืบพันธุ์ก็โต้ตอบการจูบของแฟนหมอ อย่างดูดดื่ม จนกายคลายความเกร็งเครียดแล้ว จึงผละร่างจากกัน มานอนข้างๆ
“แพรจ๋า พี่รักแพรจริงๆ นะ รู้ไหม แพรเป็นหญิงคนเดียวที่พี่เย็ดด้วยความรัก และจริงใจ”
“จ๊ะ พี่หมอ ต้องรักแพรคนเดียวนะ ถ้าไปรักคนอื่น แพรกลั้นใจตายจริงๆด้วย” แพรวาพูดเสียงเว้าวอน ก่ายกอดคู่รักอย่างรักใคร่ นิ้วมือก็ลูบหน้า

อกหมอหนุ่ม เสียงหมอหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็นอนก่ายหน้าผาก
“เฮ้อ” “เป็นอะไรคะ ดูสิ พอบอกว่ารักแพร ก็ทำหน้าหนักใจ ฮึ” มีเสียงทิ้งท้ายแบบงอนๆ ธนธรณ์เลยเอี้ยวตัวมากอดจูบแฟนสาว
“ม่ายช่ายอย่างง้านน ที่รัก เราสองคนสุขสมปรารถนาแล้ว พี่ห่วงเพื่อนพี่นะ วีรพลอ่ะ”
“ทำไมเหรอคะ”
“ไอ่พลมันก็มีความรักเหมือนกันจ๊ะ แต่ยังไม่สมหวัง พี่เลยคิดว่า เราสองคนน่าจะหาทางช่วยมันน่ะ”
“เอ๋ พี่พลเหรอคะ แล้วเค้ารักใครล่ะคะ แพรยังไม่เคยเห็นพี่พลชอบใครนิคะ พักหลังๆ เห็นทำแต่งาน กับ ไปดูบ้านใหม่ที่กำลังสร้าง”
“เมียจ๋า รู้มั้ยจ๊ะ ว่าพลมันชอบใคร ??”
“ฮึ ครายยยอ๋ออ” เสียงยานคาง น่าจับจูบสักจ้วบ “เอ่อ พี่ภาน่ะ ผู้จัดการของแพรวาไง”
“ฮ้า” “จริงๆ ก่อนที่พี่จะมาเจอแพร พี่ไปเห็นมันซึม ๆ กินเหล้ามาด้วย ไปเซ้าซี้ถามมัน ถึงได้ยอมบอก”
“คิคิคิคิ ตายล่ะ พี่พลรูปหล่อ ไปชอบพี่ภา พี่ภาไม่เล่นด้วยเหรอคะ แต่แพรอ่ะ อยากเห็นพี่ภามีแฟนเหมือนกัน ทำงานมาด้วยกันตั้ง 3 ปีแล้วนะ

แพรไม่เคยเห็นพี่ภาแสดงอาการชอบผู้ชายคนไหนสักคน ทั้งๆ ที่พี่เค้ายังดูไม่แก่เลย พี่หมอไม่เชื่อแน่ๆ ว่าพี่ภาน่ะ อายุ 45 ใครๆ ก็คิดว่า

ประมาณ 30-35”
“อืมม นั่นสิ แต่เท่าที่เห็นนะ แพรสังเกตดูนะ พี่ภาไปไหนมาไหนกับเจ้าพลมันบ่อยมาก เวลาคุยกันนี่ พี่ยังคิดเลยว่าพี่ภาอายเจ้าพลมัน พี่

เลยอยากให้แพร ช่วยเป็นแม่สื่อให้เพื่อนพี่อีกคน พี่ไม่เคยเห็นพลมันเป็นทุกข์ กระวนกระวายได้ขนาดนี้เลย นะจ๊ะ แพรจ๋า”
“ค่ะ แพรจะช่วย ถ้ามีทาง”
“ต้องอย่างงี้สิ เมียพี่ ต้องน่ารักอย่างงี้ แบบนี้ต้องให้รางวัลท่อน เอ้ย ก้อนใหญ่ๆ” ธรธรณ์ทำตามีเลศนัย แล้วก็คว้าร่างแฟนสาวมากอดจูบ
“อุ้ย พี่หมอพี่ แพรยังเหนื่อยอยู่เลย อู้ยยยย อย่าเพิ่งค่ะ”
“หื้มมมม ขอพี่เย็ดเมียพี่คนนี้ให้หายเงี่ยนหน่อยสิ ดูสิ ควยพี่ยังแข็งอยู่เลย นะ น้าาาาาาา”
“อี๋ยยย พี่เนี่ย ก็ได้คะ เพื่อพี่หมอ แพรยอมให้ได้ อึ้มมมมม ผัวขาาาาาาา อูยยย”
และแล้วเกมรัก ยกสอง สาม ก็บรรเลงภายในห้องพักของหมอธนธรณ์ อย่างหวานชื่นและสุดเสียวซ่าน


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #3 on: June 02, 2013, 08:46:55 pm
“พี่ภา พี่ภา พี่ภาคะ” เสียงใสหวาน เรียกชื่อหล่อน ทำเอาวิภาวรรณตื่นจากภวังค์ มีอาการสะดุ้งเล็กน้อย
“จ๊ะ ว่าไง แพรวา” “แหม นั่งเหม่อเชียวนะคะ คิดอะไรอยู่น้า” คนถามทำตาเพ้อฝัน เล่นสำนวนแซวสาวใหญ่ผู้เป็นผู้บังคับบัญชา วิภาวรรณปรับสีหน้าให้ปรกติแล้วก็ถามต่อ
“มีอะไรเหรอ” “อ่อ มีคนส่งดอกไม้ให้พี่ภาคะ ช่อโต สวยมากๆ คะ แต่ เอ!!! แพรอยากรู้แล้วสิ ว่าใครส่งมาให้พี่ภาคะ” แพรวาทำทีอยากรู้อยากเห็นก่อนส่งช่องดอกกุหลาบสีชมพูช่อโตให้วิภาวรรณ พอเปิดดูการ์ดที่ส่งมา วิภาวรรณ วางช่อดอกไม้ สีหน้าเรียบเฉย
“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ คนส่งท่าจะบ้าแล้วมั้ง”
“โอ้ยยยย พี่ภาขาาาา คงไม่บ้าหรอกคะ ผู้จัดการสาขาธนาคารของจังหวัดของแพร ออกสวย สาว ใครๆ ก็อยากมอบดอกไม้ ให้ทั้งนั้น เผื่อจะได้มอบหัวใจอีกที ฮิฮิฮิฮิ”
“แพรวา พี่ไม่ใช่สาวรุ่นแบบแพรนะ จะได้หลงใหลได้ปลื้มกะอีแค่ช่อดอกไม้แค่นี้ พี่น่ะ แก่เกินแกงแล้วจ้า คนส่งถ้าไม่กินยาผิด ก็คงสติฟั่นเฟือนละจ๊ะ”
“พี่ภาก้อ อย่างงี้ทุกที แพรอยากรู้คะ พี่ภาบอกแพรได้มั้ยคะ ในฐานะที่แพรก็ทำงานกับพี่ และก็เคารพรักพี่เหมือนพี่สาวคนโตคนนึง ทำไมพี่ภาถึงได้เย็นชากับคนที่มาสนใจพี่ภานักละคะ มีอะไรฝังใจหรอคะ”
“พี่ไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้วนะแพร ชีวิตพี่ที่คิดว่าสวยหรู งดงามทุกอย่าง สุดท้ายก็ต้องมาเจ็บช้ำ พี่เลยไม่อยากจะมีใคร แต่พี่ไม่ได้ปิดกั้นหรอกนะ แต่ยังไม่พบใครที่คิดว่าใช่ คงเพราะความกลัวว่ามันจะเป็นอย่างที่เคยเป็นละจ๊ะ” สีหน้าผู้เล่าขรึมและเศร้าลงกว่าเดิม
“ก็ไม่แน่นะคะ ถ้าพี่ภาเปิดใจ ยอมให้โอกาสเค้า เราอาจจะเห็นแง่ดีของเค้าบ้างก็ได้”
“อย่าดีกว่า แพร พี่ไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนี้อีกแล้วล่ะ ว่าแต่แพรเถอะจ๊ะ มีใครถูกใจหรือยังจ๊ะ รู้สึกหมู่นี้สดใสร่าเริงผิดหูผิดตาเลยนะจ๊ะ”
“เอ่อ ก็ .... คิดว่าเจอแล้วละคะ” สาวน้อยหลบตาต่ำ ทำเสียงเล็กเสียงน้อย เอียงอาย
“ดีจัง ว่าแต่ ว่าที่น้องเขยพี่ภานี่ ใครเอ่ย พอจะบอกพี่ได้มะ”
“ก้อ พี่หมอธนธรณ์คะ เพื่อนพี่วีรพลไงคะ” วิภาวรรณสะอึกเล็กน้อย ดวงตาแพรวาจ้องจับอยู่แล้ว
“พี่หมอเค้าสัญญาแล้วว่า ขึ้นบ้านใหม่พี่หมอวีรพลเมื่อไหร่ จะให้จัดผู้ใหญ่ไปเจรจาสู่ขอกับพ่อแม่แพร นะค่ะ”
“พี่ยินดีด้วยจ่ะ” “ขอบคุณคะ แพรเป็นห่วงและหวังดีกับพี่นะคะ ยังไงก็ลองคบหาดูใครสักคน แพรว่ามีคนสนใจพี่เยอะจะตาย ถ้าพี่ไม่ปิดกั้น”
“ขอบใจจ๊ะ พี่จะรับฟังไว้ละกัน”
“ง้าน แพรไปทำงานต่อนะคะ พี่ภา” “จ๊ะ”
วิภาวรรณหันกลับมาที่ช่อกุหลาบช่อโต หยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน
“ผมอยากจะเลี้ยงข้าว ไถ่โทษ ถ้าพี่ไม่สะดวก ก็ไม่เป็นไรนะครับ ถือว่าครั้งนี้จะรบกวนพี่เป็นครั้งสุดท้ายครับ ต่อไปผมจะไม่รบกวนพี่อีกแล้ว รักและจริงใจ วีรพล”
ความรู้สึกในใจวิภาวรรณแปล้บขึ้นมาทันที

วันนี้หมอวีรพล ทำหน้าที่ตรวจคนไข้ตามปกติ เพียงแต่พยาบาลทุกคนผิดสังเกต ระยะนี้หมอหนุ่มมีอาการเงียบขรึม ทั้งที่ปกติก็พูดน้อยอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ ทั้งเงียบทั้งซึม แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากับการทำงาน ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีเป็นปรกติ
“หมอคะ พักนี้หมอดูหน้าซีดๆ ซึมๆ ไปนะคะ มีเรื่องอะไรทุกข์เหรอ เดือนสังเกตมาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ”
“ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก เดือน ว่าแต่วันนี้พี่มีนัดกับคนไข้รายไหนเพิ่มเติมอีกมั้ย”
“ไม่มีแล้วคะ หมดเคสทำแผล ตรวจการติดเชื้อคนไข้ที่โดนทำร้าย อีกรายเดียวก็หมดแล้วคะ หมอมีธุระด่วนก็ฝากให้เดือนจัดการให้ก็ได้นะคะ เดือนว่าคุณหมอพักบ้างก็ได้ ได้ข่าวว่าจะไปดูเรื่องสร้างบ้านด้วยนิคะ”
“ขอบใจจ๊ะ งั้นพี่ฝากด้วยละกัน ถ้าอาการร้ายแรง ติดต่อพี่ได้ตลอด”
วีรพลกลับมาที่ห้องทำงาน เตรียมเก็บเอกสาร อุปกรณ์เครื่องใช้ประจำ เข้าห้องน้ำ ชำระร่างกายสักพักก็ออกมา แต่แล้วก็ต้องชะงัก !!!!!!
“คุณหมอขี้ใจน้อย ขี้งอน วันนี้จะเลี้ยงอะไรพี่ดีล่ะ ถ้าเมนูไม่ถูกปาก ถือว่าเป็นมื้อสุดท้ายที่จะต้องเลี้ยง ตกลงมั้ยคะ” ใบหน้าสวยหวาน จีบปากจีบคอพูดลอยหน้าตา แต่ทำเอาหมอหนุ่มหัวใจลิงโลด
วันนั้นวิภาวรรณ แต่งชุดฟ้าอ่อน แนบเนื้อ กระโปรงก็รัดรูปด้วยเนื้อผ้าที่บางเนียน ทำเอาวีรพลต้องแอบมองแล้วกลืนน้ำลายทุกที การรับประทานอาหารก็ไปอย่างราบรื่น วิภาวรรณ เป็นฝ่ายชวนคุย จนวีรพลแสดงอาการอารมณ์ดีขึ้นจากเมื่อตอนอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนคนละคน
“พลคะ ครอบครัวคุณทำกิจการอะไรคะ เห็นโอนกรรมสิทธิ์มาให้มูลค่าเป็นสิบล้านเลย”
“อ้าว พี่ภาไม่ได้จัดการเองเหรอคับ ถ้าพี่รับดูแลเรื่องนี้เอง พี่ไม่น่าถามผมนะ เพราะต้องรู้ชื่อผู้โอนให้อยู่แล้ว”
“เอ่อ พี่ให้แพรดำเนินการให้น่ะคะ แต่ถึงรู้ชื่อ ก็ไม่ได้รู้นี่คะว่าทำอาชีพอะไร”
“เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ครับ แต่ช่างมันเถอะครับ ผมไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับธุรกิจนี้อยู่แล้ว และจะไม่ไปก้าวก่ายด้วย”
“ทำไมละคะ”
“มันเป็นบริษัทที่พ่อ กับ แม่เลี้ยงผมเค้าก่อตั้งขึ้นมา แม่เลี้ยงผมเค้าไม่ค่อยจะชอบผมสักเท่าไหร่ ถึงพ่อจะพยายามช่วยแล้วก็ตาม ผมเองก็อึดอัดใจ ผมอยากให้พ่อมีความสุข ผมเป็นตัวที่ทำให้ครอบครัวอึดอัด เลยอยากออกมาสร้างเป็นของตัวเอง คุณพ่อก็เลยมอบมรดกบางส่วนให้ มันเป็นทุกข์นะครับพี่ การอยู่กับคนที่ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของตัวเอง แล้วเขาไม่ยอมรับเรา พี่คิดดูสิครับ แม้กระทั่งรูปแม่ผม เค้าก็เอาไปทิ้งหมด จนผมจำไม่ได้แล้วว่าหน้าแม่ผมเป็นยังไง” สีหน้าเขาเริ่มหม่นอีกครั้ง
“ตอนนั้น ผมน่าจะอายุประมาณ 9-10 ขวบ ที่จริงผมน่าจะจำหน้าแม่ได้บ้าง แต่ทำไมไม่รู้ คิดหน้าไม่ออก พยายามจะตามหาเหมือนกัน แต่ก็ไร้วี่แวว คุณแม่คงไม่รู้หรอกว่า ลูกชายแม่ต้องทุกข์ทรมานใจ คิดถึงแม่แค่ไหน”
วิภาวรรณ ถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ ใจสะท้านสะท้อน
“แล้วที่ว่าลูกพี่ภาละครับ เค้าอายุเท่าไหร่ พี่ไม่คิดจะไปตามเค้ามาอยู่ด้วยเหรอ ผมว่านะ ลูกพี่ภาน่าจะอยากมาอยู่ด้วย เหมือนผมตอนนี้ ความรู้สึกแม่ลูกยังไงมันก็รักผูกพันมากกว่า แล้วสามีเก่าพี่เค้าชื่ออะไรครับ ไม่แน่ผมอาจรู้จัก”
“เอ่อ ... ถ้าตอนนี้คงอายุประมาณ 20 กว่าๆคะ แต่พี่หมดความหวังแล้วล่ะ เค้าอาจจะมีครอบครัวที่มีความสุขแล้วก็ได้ และก้อ ชื่อสามีพี่ พี่ไม่ขอบอกได้มั้ย พี่ไม่อยากคิดถึงมันอีกแล้วล่ะ มันเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยจะดีนักหรอก” วิภาวรรณตอบเหมือนไม่ค่อยมั่นใจ การสนทนาเริ่มกลับมาอึมครึมอีกครั้ง จนวีรพลต้องตัดบท
“ขอบคุณครับพี่ ที่อุตส่ารับการขอโทษจากผม ผมว่าเราไปที่เดินเล่นย่อยอาหารก่อนกลับบ้านดีกว่านะครับ”
“ก็ดีคะ พี่ก็รู้สึกแน่น อึดอัดมากๆ อาหารวันนี้อร่อยถูกใจพี่มาก ดูสิหมดไปหลายจานเลย ถ้ามีคนเลี้ยงแบบนี้บ่อยๆ ได้อ้วนฉุแน่ๆเลย”
ระหว่างที่เดินเล่นไปตามทางสวนสาธารณะ เวลาประมาณสองทุ่มเศษ บรรยากาศเงียบ เพราะถือว่าดึกมากแล้วสำหรับชาวต่างจังหวัด วีรพลเดินเคียงวิภาวรรณต่างพูดคุยเรื่องต่างๆ ที่ชวนสนุกสนานมากขึ้น มีกระเซ้าเย้าแหย่บ้างเล็กน้อย วีรพลลอบมองหน้าหวานๆ ที่ลมพัดผ่านหน้า ผมปลิวสวย ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี พลอยทำให้วีรพลอารมดีตามไป ด้วย หากมองไกลๆ จะเหมือนคู่รักมาเดินพลอดรักคุยกันตามทาง เพราะวีรพลรูปร่างสูงโปร่ง ทะมัดทะแมง กับหญิงร่างระหง อรชร ถ้าหากไม่เห็นหน้าชัดๆ ใกล้ๆ จะดูไม่ออกว่าบ่งบอกถึงอายุที่น่าจะห่างกันพอสมควร
“อุ้ย” ร่างระหงทรุดซวนล้ม แต่วีรพลก็คว้าเข้ามาในอ้อมแขนได้ทัน เพราะอยู่ระยะห่างกันไม่เกินศอก
“เป็นไรครับพี่” “รองเท้าพี่สิ ส้นมันหัก ว้าาาา ดูสิแล้วจะใส่ยังไงล่ะทีนี้ ได้เดินเท้าเปล่ากลับแน่เลย” พูดพลางบ่นพลางแต่เมื่อรู้สึกตัวอีกที วิภาวรรณต้องรีบขยับตัวออกห่าง เพราะเมื่อกี้หล่อนอยู่ในอ้อมแขนเขา ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ วีรพลนั้นได้แต่จ้องตาวิภาวรรณไม่กระพริบ จนสาวใหญ่ออกอาการขวยเขิน ปานเด็กสาวแรกรุ่น วีรพลเห็นชัดกับตา ว่าแก้มหล่อนออกระเรื่อ ถ้าหากไม่อดกลั้นความรู้สึก เค้าอยากจะคว้ามาจูบสักฟอด
“พี่ไม่เป็นไรนะ” “เอ่อ... ไม่ละคะ ขอบคุณนะคะ ไม่งั้นพี่คงล้มคะมำไปแล้ว” “ผมไม่ยอมให้พี่เป็นอะไรเด็ดขาด ผมสัญญา พี่ภาครับ ความรู้สึกผมที่ผมเคยพูดกับพี่ ผมยังยืนยันคำเดิม” สีหน้าวีรพลจริงจัง จนวิภาวรรณพูดอะไรไม่ออก ลมเริ่มพัดแรงขึ้นทำเอาวิภาวรรณสั่นสะท้านกว่าเดิม เพราะชุดที่ใส่มาก็เปิดลำแขน เนื้อผ้าก็บาง วีรพลจึงถอดเสื้อนอกออกมาสวมทับ วิภาวรรณมองหน้าเขาแล้วส่งยิ้ม เหมือนเป็นการขอบคุณ แค่นี้ก็ทำให้วีรพลหัวใจพองโตคับอกทีเดียว
“กลับกันเถอะครับ อากาศเย็นเกินไปแล้ว เดี๋ยวพี่ไม่สบาย จะมาโทษผมเป็นคนทำไม่ได้น๊า” พูดจบทำเป็นขำเล็กน้อย เขาคว้ารองเท้าคู่นั้นมาถือ แล้วก็เดินจูงมือนำหน้าไป วิภาวรรณได้แต่ลอบค้อนนิดนึง แต่ก็ไม่ได้ดื้อดึงการเกาะเกี่ยวแต่อย่างใด
“พี่จะกลับบ้านสวนหรือว่าที่ร้านขายของฝากละครับ”
“ที่ร้านดีกว่าคะ ดึกมากแล้ว เสียเวลาคุณพักผ่อนเปล่าๆ พรุ่งนี้ต้องทำงานอีกนิคะ”
“อ่อครับ เอ้อ อีกประมาณสองเดือนกว่าๆ บ้านผมก็น่าจะเสร็จ ผมกะว่าจะให้เสร็จทันวันครบรอบคล้ายวันเกิดผม จะได้ทำบุญขึ้นบ้านใหม่กับฉลองวันเกิดด้วยเลย อยากจะรบกวนพี่ช่วยเป็นแม่งานให้ด้วย เรื่องงานบ้านงานครัว ผมไม่ค่อยถนัด อีกอย่างนึง เพราะผมยังไม่คุ้นเคยกับบ้านใหม่ อยากจะให้เชิญเพื่อนบ้านในละแวกหมู่บ้านมาร่วมงาน จะได้ทำความรู้จักกันไว้ด้วยน่ะครับ พี่ภาคุ้นเคยกับที่นี่อยู่แล้วคงไม่ลำบากนะครับ”
“พูดซะยาวเลยนะคะ กลัวพี่ไม่ทำให้เหรอคะ คิคิคิคิคิ” วีรพลอึกอักๆ เพราะตอบไม่ถูก เพิ่งรู้ตัวเองว่าพูดยาวมาก “โอเคคะ พี่จะรับทำหน้าที่ให้เท่าที่ทำได้นะคะ ถึงบ้านแล้ว ขอบคุณนะคะ สำหรับเมนูสุดเด็ด ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
แล้วใบหน้าสวยหวานก็ชะโงกมาใกล้หน้าวีรพล ก่อนที่จะคิดทำอะไร กลิ่นแป้งและน้ำหอมกรุ่น ก็ปะทะจมูกเขา เรียวปากนุ่มแปะที่แก้มดังจุ้บ แล้ววิภาวรรณก็เปิดประตูรถออกไป โดยไม่หันกลับมาอีกเลย จนเข้าร้านไปลับตา ฝ่ายคนขับได้แต่นั่งตัวแข็ง ไม่ได้คาดคิดอะไรมาก่อน พอเรียกสติกลับได้ ก็ได้แต่ยิ้ม มีความสุข ถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะขับรถออกไป...

ทุกๆ วันจันทร์วิภาวรรณจะได้รับช่อดอกกุหลาบช่อโตมาส่งที่ออฟฟิตทุกวัน จนแพรวาอดไม่ได้ พูดจาแซวผู้บังคับบัญชา อยู่เป็นประจำ วิภาวรรณก็ได้แต่ค้อนให้ ทำท่าปรามเสียงดุ พอเลิกงานที่ธนาคาร กลับไปที่ร้านขายของ ก็มักจะได้เจอวีรพลบ่อยครั้ง แต่ไม่ทุกวัน เพราะบางวันวีรพลก็มีเข้าเวรช่วงค่ำถึงดึก ก็มี ทุกครั้งที่วีรพลไปที่ร้านวิภาวรรณวางตัวลำบาก เพราะบางทีวีรพลก็มีหยอดคำหวาน ทำตาหวานใส่ จนเด็กพนักงานขายมองเห็นบ่อยครั้ง จนกลายเป็นที่รู้กันในร้านว่ามีหนุ่มน้อยวัยกระเตาะ มาชอบเจ้านายสาวใหญ่ของตัวเอง วิภาวรรณมักจะวางตัวเรียบๆ ไม่ค่อยจะทำท่าสนิทสนมกับวีรพลเท่าใดนัก แต่หากนอกสถานที่ หรือลับตาคนหน่อย วิภาวรรณจะยอมให้วีรพลโอบกอดทุกครั้ง เด๋วนี้เธอยอมรับแล้วว่าหลงรักหมอหนุ่มหมดใจ ด้วยความที่เขาเป็นคนสม่ำเสมอ จริงใจ และไม่แสดงการฉวยโอกาส รู้จักกาลเทศะ สุภาพอ่อนโยน วันนี้เป็นวันศุกร์หลังจากเลิกงานแล้ว วิภาวรรณก็กลับไปยังร้านขายของตามปกติ แต่ในใจเธอกลับกระวนกระวาย บางครั้งก็ทำตาชะเง้อมองมาหน้าร้าน หลังจากตรวจบัญชีรายรับ-จ่ายของร้านเรียบร้อย ก็สั่งงานเด็กที่ร้านอย่างที่เคยทำประจำ สักพักวีรพลก็ขับรถมาที่ร้านเพื่อมารับวิภาวรรณไปที่บ้านสวน พอรถออกมาได้สักพัก วีรพลก็คว้ามือวิภาวรรณมาจุมพิต ซึ่งวิภาวรรณเองก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะหัวใจมันเรียกร้องหาเขามานาน
“กว่าจะเสร็จงาน ผมแทบรอไม่ไหวเลยครับ พี่ คิดถึงพี่จัง”
“ก็รอมาได้จนเดี๋ยวนี้แล้วนิคะ จะพูดทำไม” พูดพลาง ส่งสายตาค้อนขวับ จนวีรพลคิด ถ้าไม่ติดว่าขับรถอยู่จะดึงหน้ามาจูบให้สมความอยากซะเลย
“โธ่ พูดซะแบบนี้ ไม่เห็นใจคนคิดถึงบ้างเล้ยยย ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ การที่รัก และ คิดถึงใครสักคน มันกระวนกระวาย ทรมานใจจริงๆ” พอพูดจบ ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือกำมือของหล่อน บีบกระชับขึ้น ทำเอาคนฟังก็หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“อ้อ อาทิตย์นี้ บ้านก็เสร็จแล้วครับพี่ภา เหลือแต่หาเฟอร์นิเจอร์มาลงตกแต่งเพิ่มเติม พี่ภาอย่าลืมที่สัญญานะครับ เรื่องจัดงานทำบุญบ้านใหม่ และก็วันเกิดผมด้วย ตรงกับวันอาทิตย์ อาทิตย์หน้าพอดี”
“เหรอคะ อืมม วันที่ 10” วิภาวรรณทำหน้าครุ่นคิด เหมือนจะนึกอะไรได้บางอย่าง
“ทำไมเหรอครับ” “เอ่อ ปล่าวคะ พี่แค่คิดว่า จะจัดงานเลี้ยงยังไงดี” ทำหน้าครุ่นคิดอยู่พักนึง
“พรุ่งนี้วันเสาร์ พี่ว่าจะพาพลไปที่วัดวัดนึง เค้าว่ากันว่า คนในจันทบุรี จะทำกิจการอะไรก็ตาม จะพากันไปไหว้พระขอพรที่วัดนี้ แล้วส่วนมากจะทำมาค้าขึ้น ทำงานมงคล ก็จะประสบแต่ความสุขความเจริญ พลจะไปมั้ยคะ”
“ไปสิครับ ดีจังเลย แต่คงเป็นช่วงบ่ายนะครับ ช่วงเช้าผมขอตรวจงานก่อสร้าง แล้วก็เซ็นสัญญาจ่ายค่างวดให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็แล้วแต่เจ้าถิ่นจะเป็นไกด์พาไปแล้วกันครับ” ขณะขับรถไป วีรพลยังไม่ยอมปล่อยมือวิภาวรรณเลย กลับกำบีบกระชับแน่น วิภาวรรณเองก็รับรู้ เอื้อมมืออีกข้างมากุมไว้เป็นการตอบรับ ช่วงนี้ระหว่างข้างทางดูเหมือนบรรยากาศจะสดใสไปหมด พอก่อนจะถึงบ้าน วิภาวรรณกับวีรพลก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เพราะกลัวคนงานก่อสร้างสงสัย ต่างก็แยกกันเข้าบ้านไป วิภาวรรณเข้าบ้านไป ก็เดินดูบริเวณรอบๆ บ้าน สักพักก็เข้าครัวทำอาหารแบบง่ายๆ ใจหนึ่งก็อยากชวนวีรพลมาทานด้วย แต่เห็นว่าคนงานก่อสร้างยังไม่กลับ เกรงว่าจะมีคนสงสัย จึงไม่ได้ชวน เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อย จัดการทำความสะอาดแล้วก็เดินไปเปิดไฟหน้าประตูบ้าน ซึ่งหากเธออยู่ จะต้องเปิดไว้ประจำ แล้วจะเข้าอาบน้ำชำระร่างกาย เพื่อเข้านอน เมื่อเข้าห้องน้ำ วิภาวรรณก็เปลื้องกายออก ร่างขาวโพลน สัดส่วนชวนหลงใหล ก็ปรากฏเย้ยให้ผีบ้านผีเรือนกระสันเล่นซะแล้ว เมื่อเธอเอื้อมมือไปเปิดปุ่มเครื่องทำน้ำอุ่น เปิดก้อกน้ำ สายน้ำไหลพร่างลงมา ทันใดนั้น ร่างระหง ขาวผ่อง ก็มีอาการร้อนวูบวาบ สติสัมปชัญญะวิภาวรรณก็ดับวูบลงอย่างที่หล่อนไม่ทันตั้งตัว...
วีรพล สำรวจการก่อสร้างทั้งภายในและนอกบ้าน บัดนี้บ้านทั้งหลังที่เค้าใฝ่ฝัน ก็เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงตกแต่งภายในนิดหน่อย อีกทั้งจัดหาเฟอร์นิเจอร์มาวางประจำห้อง เสร็จแล้วก็ทานอาหารที่คนงานเผื่อไว้ให้ ทีแรกกะว่าจะไปที่บ้านวิภาวรรณ แต่ยังยุ่งๆ หลายอย่าง จึงบอกคนงานให้เผื่อกับข้าวไว้ เมื่อทานอาหารเสร็จ จัดการชำระล้างร่างกายพอประมาณ คนงานกลับหมดแล้ว เขาจึงเดินออกมานอกบ้าน มองไปที่เรือนไทยอีกฟากรั้ว วีรพลทำสีหน้าผิดสังเกต ทุกครั้งบ้านหลังนั้นจะเปิดไฟหน้าบ้านไว้ตลอด ทำไมวันนี้มันมืดไปหมด หรือว่ามีเหตุอันตรายอะไรหรือปล่าว ด้วยความเป็นห่วง วีรพลรีบเข้าบ้าน คว้าไฟฉายแล้วข้ามรั้วไปบ้านวิภาวรรณ ร้องเรียกชื่อเธอหลายหนก็ไม่ได้ยินเสียงขานรับ จึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ประตูบ้านยังไม่ล้อก!!! วีรพลร้องเรียกวิภาวรรณหลายครั้งก็เงียบ เขาจึงวิ่งเข้าไปค้นหลายที่ที่คิดว่าจะเจอ ในที่สุด วีรพลก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นร่างขาวผ่องเปลือยเปล่า นอนหมดสติอยู่ในห้องอาบน้ำ เร็วเท่าความคิด เขารีบคว้าร่างระหง บัดนี้ขาวซีดแทบไม่มีสีเลือดอุ้มไปยังห้องนอนของหล่อน เขย่าตัวเรียกชื่อก็ยังไร้การตอบรับ เอามือจับชีพจร แตะที่ปลายจมูก จึงรู้ว่ายังหายใจ แต่รวยรินมาก วีรพลคิดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าแน่ๆ เพราะไฟดับทั้งบ้าน ต้นเหตุน่าจะมาจากห้องน้ำ เขาจึงทิ้งร่างนั้นชั่วคราว เดินไปสำรวจระบบไฟ ปรากฏว่าเครื่องตัดไฟ สวิทซ์มันสับลง จึงทำการกดสวิทซ์ขึ้น ไฟฟ้าก็เปิดตามปกติ ได้ยินเสียงน้ำที่ห้องน้ำไหลซู่ๆ เขาจึงเดินไปที่ห้องน้ำ พอก้าวแรกที่เหยียบพื้นห้องน้ำ วีรพลถึงกับสะดุ้งเฮือก มีความรู้สึกร้อนแปล้บแล่นขึ้นเกือบทั้งตัว ไม่รู้ด้วยสัญชาตญาณหรืออะไร เขารีบกระโดดถอยกลับ แล้วไฟก็ดับอีกครั้ง ทำให้สันนิษฐานว่าน่าจะมีไฟรั่ว วีรพลจึงเดินไปดูระบบไฟค้นดูสายไฟห้องน้ำแล้วปิดสวิทซ์สายไฟห้องน้ำ แล้วเปิดสวิทซ์สายเมนอีกที ไฟฟ้าก็สว่างดังเดิม เมื่อเหตุการณ์ปกติแล้ว วีรพลก็รีบกลับไปห้องนอนวิภาวรรณ เค้าได้เห็นร่างอันเปลือยเปล่าหล่อนเต็มตาก็คราวนี้เอง ด้วยความที่หล่อนผิวขาว เพียงแต่บัดนี้อาจจะซีดมากหน่อย เอวคอด สะโพกผายเย้ายวน หน้าอกกลมตึง ถึงแม้ไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่ก็เป็นเต้ากลมกลึงน่าดูน่าชม นัยน์ตาหลับพริ้ม วีรพลตะลึงอยู่พักใหญ่ ในใจเค้าปั่นป่วน ร่างกายหมอหนุ่มสูบฉีดแรง จนแสดงออกมาด้วยลมหายใจที่เริ่มถี่ เมื่อมีร่างกายหญิงงามเปลือยต่อหน้าขนาดนี้ มีหรือเหล่าชายทั้งหลายจะคิดเป็นอย่างอื่น วีรพลเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงข้างๆร่างงามนั้น ตาจ้องไม่กระพริบ โน้มใบหน้าลงที่หน้าสวย ริมฝีปากอวบน่าจูบ ประกบปากลงไป เป่าลมเข้าออก อยู่สักพัก ก็สังเกตเห็นว่า ลมหายใจวิภาวรรณเริ่มดีขึ้น เขาประคองศีรษะหล่อนขึ้นเพื่อที่จะช้อนศีรษะ เอาหมอนรอง มือเขาก็รู้สึกว่ามีหยดน้ำเปียกๆ ยกขึ้นมาดู วีรพลใจหายวาบ!!!!! เลือด!!!!! เขารีบหาตู้ยาประจำบ้าน แล้วจัดการทำความสะอาดแผลที่ศีรษะ แล้วก็หาเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้หล่อน จัดการห่มผ้าเรียบร้อย ก็นั่งเฝ้ามองหล่อนด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใย วีรพลเองก็ชายหนุ่มเต็มตัว เมื่อได้เห็นร่างที่ไร้อาภรณ์ก่อนหน้านี้ ความต้องการทางร่างกายมันพองตัวขึ้นจนไม่อาจระงับได้ ใจจริงวีรพลอยากทำในสิ่งที่เค้าปรารถนา แต่ต้องระงับไว้ แล้วเข้าห้องน้ำจัดการทำให้เจ้ามังกรสงบลง เรื่องเพศแล้ว วีรพลก็คงได้ความสุขสมเพียงเท่านี้ ตั้งแต่เกิดมาจนเป็นหนุ่มกำยำขนาดนี้ เขายังไม่เคยเกี่ยวกับเพศตรงข้ามเลย พอรู้บ้างก็แค่การบำบัดด้วยแม่นางทั้งห้าของตนเท่านั้น แล้วกลับมาเฝ้าวิภาวรรณอีกที จนทนความง่วงไม่ไหวก็ผล๊อยหลับไป...
ดึกสงัดประมาณ 4. น.ได้ วิภาวรรณก็รู้สึกตัวขึ้นมา ขยับร่างกายก็รู้สึกระบม ปวดตุบๆ ที่ศีรษะ ลูบคลำไปก็พบว่ามีผ้าก๊อตพันไว้ !!! หันมองไปรอบๆ ก็เห็นร่างวีรพลนั่งหลับฟุบที่ขอบเตียง สำรวจดูร่างกาย ก็เห็นว่ามีเสื้อผ้าสวม ผ้าห่มห่มกายไว้อีกชั้น ย้อนนึกเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้ว่าเธอเข้าไปอาบน้ำ เปลือยกายหมด แล้วก็หมดความรู้สึกไป วาบเข้ามาในใจ หันกลับมามองวีรพลที่ฟุบอยู่ นี่เขาเป็นพาเธอขึ้นมาห้องนอนเหรอเนี่ย ตายล่ะ นี่เขาคงเห็นอะไรเป็นอะไรของหล่อนหมดแล้วแน่ๆ หล่อนรีบสำรวจร่างกายตัวเองด้วยคิดว่าเขาอาจฉวยโอกาส ล่วงเกินหล่อนในเวลาที่เธอหมดสติ ก็พบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ สาวใหญ่ร่างงาม ก็หันมามองวีรพลอีกครั้ง แววตาหล่อนเปลี่ยนจากอาการตกใจ ระแวง เป็นสีหน้าผ่อนคลาย มองเขาด้วยท่าทีที่ไว้ใจ ส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่ เอามือลูบศีรษะ ด้วยความรัก ไม่ผิดหวังเลย ที่หล่อนรักเขาหมดหัวใจ วิภาวรรณนอนต่ออีกหน่อยรอให้สว่าง แต่กลับหลับไม่ลงเท่าไหร่ ในใจหล่อนเต้นตุบๆ มันปลาบปลื้มจนไม่อาจข่มตาหลับได้สนิท จนเช้า หล่อนจึงลุกไปทำกับข้าว เสร็จแล้วกลับขึ้นมาจะปลุกวีรพล ก็เห็นเขาตื่นแล้ว กำลังเดินลงมาชั้นล่าง ส่งยิ้มให้หล่อน
“ขอโทษนะครับ พี่ภา ที่หลับนานไปหน่อย แล้วพี่รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ ยังปวดหัวหรือเปล่า ยังไงๆ ก็ต้องทานยาต่ออีกหน่อยนะครับ”
“อรุณสวัสดิ์คะ ยังปวดตุบๆ อยู่บ้าง แต่ก็โอเคคะ ไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องขอโทษพี่หรอก พี่ต่างหากต้องขอบคุณพล พี่เป็นอะไรไม่รู้ว่าจะอาบน้ำ อยู่ดีก็หมดความรู้สึกไปเลย ยังระบมที่ไหล่ด้วยนิดหน่อย”
“ผมว่าห้องน้ำพี่มีปัญหาน่ะครับ ไฟฟ้าในห้องน้ำรั่วแน่ๆ คงเป็นที่เครื่องทำน้ำอุ่น พี่เลยถูกไฟดูด ดีนะครับระบบเซฟทีคัทยังทำงานได้ดี ไม่งั้นละก็แย่เลย เดี๋ยววันนี้ผมจะให้ช่างเค้ามาดูและก็ซ่อมให้ละกันครับ ผมละเป็นห่วงพี่แทบแย่ รู้มั้ย” พูดจบก็รีบเข้าคว้าร่างเธอไปกอด วิภาวรรณเองก็ไม่ขัดขืน กลับวาบหวิวเคลิบเคลิ้มกับความห่วงใยที่เขามีต่อเธอ
“ไปอาบน้ำแปรงฟันเถอะคะ พี่ทำกับข้าวไว้แล้ว ทานกับพี่ที่นี่แหละนะคะ” วิภาวรรณจุมพิตที่แก้มหมอหนุ่มฟอดใหญ่แล้วก็รีบไปจัดกับข้าวที่โต๊ะ วีรพลถึงกับยิ้มดีใจ


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #4 on: June 02, 2013, 08:47:32 pm
จากเหตุการณ์วันนั้นจนล่วงมาถึงวันจัดงานทำบุญ วิภาวรรณจัดแจงเป็นแม่งาน ดูแลแทบจะทุกอย่างภายในงาน แทบจะว่าหล่อนเจ้าของงานซะเอง วันนั้นมีแขกมาร่วมงานพอสมควรเพราะเป็นหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่โตคับคั่งเท่าไหร่ ส่วนมากที่มาก็คือเพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาลและธนาคารในตัวเมือง ส่วนคนในหมู่บ้านก็มีประปราย วิภาวรรณกุลีกุจอจัดแจงงานจนมีคนแซวหล่อน
“คุณภา ทำอย่างกับเป็นเจ้าของบ้านซะเองเลยนะครับ แบบนี้ ผมเป็นเจ้าของบ้านละปลื้มตายเลย เอ หรือว่าทางที่ดีนะ ผมว่าให้คุณหมอเค้ารื้อรั้วกั้นบ้านออก ให้มันเป็นผืนเดียวกันดีกว่ามั้ง ว่ามั้ยพวกเรา”
“คงอีกไม่นานหรอกคะ ทุกคน พี่ภารื้อแน่” เสียงแพรวาเสริมทัพ ผู้คนในงานบ้างก็พอรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ก็พากันเฮ โห่ฮิ้ว สนุกสนาน ขณะนั้นวิภาวรรณยืนคู่กับวีรพล ทั้งคู่ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ทำหน้ายิ้มเขินอาย
จนงานเลี้ยงจบลง ดึกพอสมควรทุกคนกลับหมดแล้ว คงเหลือธนธรณ์ แพรวา วิภาวรรณ และเจ้าภาพ ทุกคนช่วยกันจัดแจงทำความสะอาดพักใหญ่จนเกือบหมด เห็นว่าดึกมาก ธนธรณ์และแพรวาก็ขอตัวกลับ วีรพลมองหน้าวิภาวรรณ เห็นเธอท่าทางอิดโรย เพราะวันนี้แทบไม่ได้หยุดพัก ที่จริงก็ตั้งแต่วันศุกร์ก่อนวันงาน
“พี่ภา นั่งพักก่อนเถอะครับ ที่เหลือนิดหน่อยเดี๋ยวผมจัดการเอง เสร็จแล้วผมจะพาไปส่งบ้านนะครับ”
วิภาวรรณจึงนั่งที่โซฟารับแขกเอนกายผล๊อยหลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย วีรพลจัดแจงเก็บข้าวของจนคิดว่าเรียบร้อยหมดแล้วก็กลับมาที่ห้องรับแขก เห็นเธอหลับ ไม่อยากจะปลุกกลัวจะเป็นการรบกวน จึงอุ้มร่างไร้สติขึ้นไปบนห้องนอนของเขา วางหล่อนไว้บนเตียงห่มผ้าให้ เสร็จแล้วเขาเองก็จัดที่นอนอยู่ข้างเตียงด้านล่าง จนถึงรุ่งเช้า วันนี้วันจันทร์ก็จริงแต่ทั้งสองได้ลางานไว้แล้วจึงไม่ต้องกังวลเรื่องทำงาน วิภาวรรณตื่นก่อน มองเห็นห้องแล้วก็ฉงนนิดหน่อยที่ไม่ใช่ห้องตัวเอง มองไปรอบๆ ก็เห็นวีรพลนอนที่พื้น มีผ้าห่มพันตัว หลับตาเหมือนคนนอนหลับสบายประหนึ่งว่าฝันดี วิภาวรรณนั่งมองเขาอยู่นานก่อนที่จะขยับลงจากเตียงนอนมานั่งข้างกายเขามองด้วยสายตารักใคร่ ยิ้มแล้วเอามือมาลูบตามใบหน้าเขาเบาๆ โน้มใบหน้าลง ลมหายใจหล่อนราดรดอยู่บนไปหน้าเขา แล้ววิภาวรรณก็ประกบปากจูบวีรพล เขารู้สึกตัวลืมตา วิภาวรรณรีบขยับตัวออก ตกใจกึ่งอาย วีรพลยังนอนอยู่ แต่ส่งยิ้มหวานมาให้เธอ
“เอ้อออออออ ผมไม่อยากตื่นเล้ยยยยย อยากหลับนานๆจัง” พูดพลางยิ้มทำหน้ากรุ้มกริ่ม คนจูบก็ชักวางหน้าไม่ถูก แก้มเริ่มร้อนผ่าว มีสีเลือดฝาด ไม่กล้าสบตา วีรพลคว้ามือหล่อนมากุมเบาๆ
“ขอบคุณนะครับพี่ สำหรับการจัดงานให้ผม ผมไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว”
“ไม่เป็นไรคะ พี่เต็มใจทำ วันเกิดพล คนอื่นเค้ามอบของขวัญอวยพรพลหมดแล้ว แต่พี่ยังไม่ได้ให้อะไรเลย”
“แค่พี่ช่วยผมแค่นี้ ก็มากสุดๆ แล้วครับ”
“พล!!” หล่อนจ้องตาเขาเป็นประกาย “พี่มีของขวัญมอบให้พลเหมือนกัน ไม่รู้ว่าพลจะยินดีรับมันมั้ย” แล้วดึงร่างเขาลุกนั่ง จ้องมองตา ส่งประกายวาบหวาม สองแขนโอบรวบคอวีรพลเข้ามาประชิด โดยที่หมอหนุ่มยังไม่ทันตั้งตัว ปากอวบอิ่มก็ประกบเข้า หล่อนจูบเขานิ่มนวล สักพักก็ถอนใบหน้าสวยออกแต่ตาหล่อนยังมองเขาเป็นประกาย
“พลจะแกะของขวัญ ที่พี่ให้มั้ย อยู่นี่แล้วไงคะ” หล่อนกุมมือเขามาที่อกเสื้อ ค่อยๆ ปลดกระดุมเม็ดแรก
“พี่ภา!! นี่.. นี่พี่ภาหมายความว่า....” วีรพลนึกได้ ดีใจจนลน แต่ยังไม่มั่นใจ
“คะ ถ้าพลไม่รังเกียจพี่ พี่ก็จะมอบของขวัญชิ้นนี้ให้พล”
วีระพลคว้าร่างนั้นมากอดกระชับเหมือนกับว่ากลัวหล่อนจะหายไป ระดมจูบแลกจูบกันอย่างเร่าร้อน วิภาวรรณเองก็โต้ตอบเขาเช่นกัน มือวีรพลก็ค่อยๆ ปลดกระดุม จนเม็ดสุดท้าย ปากก็ยังประกบจูบอย่างเร่าร้อนและดูดดื่ม หล่อนเองก็จัดการเสื้อผ้าเขาออกหมด พอถอดเสื้อออกหมดแล้ว วีรพลก็ประคองร่างนั้นขยับขึ้นไปที่เตียง
“พี่ภาครับ รู้มั้ย พี่สวยจนผมอดใจไม่ไหวแล้ว ผมรอวันนี้มานาน ผมยินดี ดีใจที่จะรับของขวัญจากพี่แล้ว”
“คะ พี่ก็รอวันนี้ วันที่พี่มั่นใจว่า พี่ได้มอบหัวใจให้กับคนที่พี่รัก รักมากที่สุดแล้ว”
ไม่ต้องพูดอะไรอีก วีระพลจูบหล่อนอีกครั้ง แล้วก็ไล่ไปตามใบหู ซอกคอ จนมาถึงอกอิ่ม ขาวผ่อง เขาพรมจูบอกนั้น ซ้ายที ขวาที จากนั้นก็ลิ้มเลีย ลิ้นตวัดเลียปลายหัวนมจนทำเอาวิภาวรรณเสียวสะท้าน ต้องแอ่นกายรับรสจูบเลียนั้น เขาเลียบัวงามคู่นั้นอยู่นาน ทุกครั้งที่เขาตวัดลิ้นลงไป บางครั้งก็ดูดดุนปลายติ่ง วิภาวรรณครางซี้ดปาก เสียวซ่านทุกครั้ง เขาไล่ลงมาถึงท้องน้อยแบนราบงามผ่อง พรมจูบ แล้วตวัดลุ้นลงตรงรอยบุ๋มสะดือ วิภาวรรณถึงกับแอ่นรับ เชิดหน้าเหยเก ขบริมฝีปากกลั้นเสียงร้องของตน มือทั้งสองข้างตอนนี้ขยุ้มผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่
“ซี้ดดดดด พลจ๋าาา พี่เสียวไปหมดแล้ว อูยยย” กายยังแอ่นกระเด้งรับการจูบ เลียของเขา ถึงแม้จะผ่านการแต่งงานมีผัวมาแล้ว แต่นั่นมันเป็นสิบปีแล้วที่หล่อนไม่ได้รับรสอย่างงี้อีกเลย วีรพลจูบเลียหน้าท้องไป มือหนึ่งก็เคล้นคลึงเต้านม นิ้วโป้งกับชี้ ก็บดบี้เบาๆ ที่ปลายหัวนม ทำเอาวิภาวรรณสะท้านซ่านทรวง ร่องสวาทเริ่มขมิบน้ำเมือกออกมา ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถูกล่วงล้ำผ่านไปเลย กระโปรงยังไม่ได้ถอดออก
สักพักวีรพลก็ขยับตัวขึ้น ค่อยๆ ปลดตะขอกระโปรงกลีบบางๆ ของหล่อนออกแล้วถอดทิ้งอย่างไม่ใยดี เหลือเพียงชั้นในตัวจิ๋วติดกายอยู่ขนาดนี้ เขาลูบไปทั่วหน้าท้องก่อนจะมาถึงขอบตะเข็บชั้นใน แค่นี้วิภาวรรณก็สยิว ร่างเกร็งไปหมดแล้ว จากนั้นเค้าก็ถอดกางเกงชั้นในของหล่อนออก โยนไปข้างล่าง วีรพลปล่อยร่างหล่อนชั่วครู่ทำให้ได้ผ่อนหายใจยาวๆ ดังฟู่ แต่อีกใจก็ยังเสียดายอยู่ เขารีบถอดกางเกง และกางเกงในออกอย่างร้อนรน แล้วก็กลับมานั่งหย่งโย่ ที่หน้าขาหล่อน จับขาหล่อนแบะกว้าง วิภาวรรณจ้องมองร่างล้อนจ้อนของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนได้เห็นทุกสัดส่วน ทุกซอกมุมของเขา แก่นกายของวีรพลเป็นลำเขื่อง อวบใหญ่ หล่อนไม่คิดว่านี่เป็นของชายไทย มันไซ้ส์ยุโรปชัดๆ นี่ขนาดยังไม่ถูกเล้าโลมอะไรเลย มันยังพองก๋าได้ขนาดนี้ นึกแล้วหล่อนถึงกับเสียวแว้บบที่ร่องหี เขาจับมันประคองจ่อที่ปากรู
“พี่ภา เป็นของผมนะ ผมจะยัดเข้าไปแล้ว”
“พล พลจ๋าาา เดี๋ยวก่อนคะ ของพลมันใหญ่มากเลย พี่กลัวเจ็บ เดี๋ยวพลช่วยพี่ก่อนนะ”
ความไม่ค่อยประสีประสา จะยัดท่าเดียว วีรพลชะงักกึก
“ทำยังไงอีกละ ผมทนไม่ไหวแล้วครับพี่ อาาา”
“อย่าลืมสิพล พี่เคยมีสามีมาแล้วนะ พี่อยากให้พล ทำให้พี่นานๆ สมกับที่พี่รัก พลใช้ปากเลียที่ร่องของพี่ เหมือนที่พลเลียหน้าอกพี่น่ะ นะจ๊ะ ให้พี่พร้อมอีกหน่อย ค่อยใส่เข้าไป อาาา าา าา คะๆ อย่างน้านคะ”
“อู้วววว ของพี่น่าเลีย ผมใจร้อนไปหน่อย ตื่นเต้น อืมมม ร่องของพี่มันมีน้ำออกมาด้วย รสชาติดีเหลือเกิน” วิภาวรรณเองก็เอามือมาแหวกเบิกทางให้เค้าได้ลิ้มเลียอย่างเต็มๆ สักพักวิภาวรรณก็ให้เขาหยุด หล่อนลุกขึ้นนั่งแล้วก้มลงที่แก่นกายวีรพล คว้าท่อนควยเขาได้ ก็ใช้มือกำ ลูบไปเบา จากนั้นก็กำแน่นแล้วรูดขึ้นลงไปมา
“โอ้วววว พี่ภาครับ สุดยอดเลย มันเสียวสุดๆ”
“พี่อยากให้พลได้มีความสุข เด๋วจะมีดีกว่านี้จ๊ะ” มองนัยน์ตาเขาหวานเยิ้ม จากนั้นก็ก้มลงอ้าปากอมท่อนควยวีรพล เข้าถึงกับเสียวสุดๆ ขมิบก้นแล้วกระเด้งขึ้นสวน
“อูยยยยย พี่ทำเก่งจริงๆ ผมเสียวไปหมดแล้วพี่ มันจะไม่ไหวแล้วครับพี่” หล่อนจึงคายลำควยของเขาออก แล้วนอนแผ่หรา ถ่างขาออกเล็กน้อย
“มาสิคะ ที่รัก เอาท่อนของพลมาปักที่ร่องพี่ได้แล้ว พี่พร้อมแล้วจ๊ะ พลจ๋าาาาา” พลเข้าไปนั่งคุกเข่าตรงหว่างขาแล้วแบะขาออก ค่อยบรรจงจับท่อนควยแข็งก๋า เล็งเป้า
“ค่อยๆ ก่อนนะคะ พล ไม่ต้องใจร้อน พี่ไม่หนีไหนหรอก วันนี้พี่จะยอมให้พลหมดทั้งตัว และหัวใจ โอยยยย ซี้ดดดด เข้าแล้ววว ค่อยๆ นะ พี่ไม่ได้โดนอย่างนี้มาหลายปีแล้ว อูยยยย ขยับเข้ามาเลยจ๊ะ”
“อ๊าาา ร่องพี่มันคับมากเลย เข้ายากมากๆ แต่ผมเสียวตรงปลายไปหมดแล้วนะครับพี่ อ๊าาา ครึ่งลำแล้ว อึ้บๆๆๆ” จนในที่สุดวีรพลก็ยัดควยเข้าไปจนหมด เขาเองสุดกลั้นมาตั้งแต่หล่อนอมควยให้แล้ว พอเข้าสุดกั่น เขาก็โน้มตัวทาบบนร่างวิภาวรรณ โอบรัดกายหล่อน ประกบปากจูบไปด้วย บั้นเอวก็ทำงานไปด้วย ด้วยความที่ยังหนุ่มจึงมีแรงมากมาย
“อ๊ายยยย พลจ๋าาา าา เบาๆ ก่อนสิจ๊ะ พี่ยังเจ็บอยู่เลย อู้ยยยยยยย”
“ผมไม่ไหวแล้วครับพี่ มันสุดจะทนแล้วววววววว อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก”
วีรพลเร่งเครื่องได้สักพัก ก็เกร็งร่าง กระตุก วิภาวรรณเอง เหินห่างจากเรื่องนี้มานานก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน เด้งเอวตอบโต้เขาอย่างเผ็ดร้อนจนเขาฉีดน้ำรักเข้ารูหีหล่อน ก็สะอึกฮักๆ เกร็งกระตุกด้วยกันกับเขา พอผ่อนคลายความเสียวสะท้านได้ วีรพลก็ทิ้งกายลงข้างๆ วิภาวรรณ หล่อนเองก็ตะแคงตัวนอนกอดเขา มือลูบไล้ตามตัวเขาอย่างหลงใหล
“พลจ๋า เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ย”
“เหนื่อยนิดหน่อย แต่มันเสียวสุดๆ ผมขอโทษนะครับ มันตื่นเต้นไปหน่อย เลยไม่ระวัง ทำรุนแรงกับพี่” วิภาวรรณขยับขึ้นจูบเขาอีกครั้ง
“ไม่หรอกจ๊ะ พี่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นอะไร พี่ยอมมอบให้พลหมดแล้ว รู้มั้ย อะ เอ่อ...ภารักพลคะ ยิ่งตอนนี้ยิ่งรักมากที่สุด”
“ผมก็รักพี่ภา” หล่อนเอามือแตะปากเขาแล้วพูดว่า
“ต่อไปไม่ต้องเรียกพี่แล้ว เรียกภาเฉยๆ ก็ได้ นะ ภาเป็นเมียพลแล้ว ยอมเป็นเมียพลแล้ว อย่าเรียกพี่ อย่างน้อยก็เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน นะคะ พลจ๋าาา” ได้ยินเสียงออดอ้อน ฉอเลาะ อย่างงี้ วีรพลถึงกับปลื้มรั้งหน้าวิภาวรรณเข้าจูบอย่างดูดดื่ม
“เดี๋ยวภาไปทำอาหารเช้าก่อนนะ พลพักก่อน แล้วค่อยลงไปทานข้าวด้วยกัน”
“ขอกอดอย่างนี้ก่อนไม่ได้เหรอ อยากกอดภาอย่างนี้ทั้งวันเลย ปีนี้เป็นวันเกิดของผมที่มีความสุขที่สุดเลยรู้มั้ย นะนะ ขอกอด และทำอย่างมะกี้อีก”
“ไม่เอาคะ ทานข้าวก่อน ภาไม่หนีไปไหนหรอกคะ วันนี้ภาจะอยู่กับพลทั้งวัน รับรองจะทำให้พลลืมโลกไปเลย นะคะ คนดี ภาไปทำอาหารก่อน พลอาบน้ำเสร็จค่อยตามลงไป”
“อ้าว แล้วพี่ภา เอ่อ ภา ไม่อาบน้ำก่อนเหรอ” “ไม่ค่ะ ขอเก็บเป็นความประทับใจ คิคิคิคิ” ว่าแล้วก็จุ้บที่แก้มวีรพลอีกที แล้ววิภาวรรณก็ลุกขึ้นจากเตียง หล่อนขอเสื้อเชิ้ตแขนยาวของเขา แล้วก็สวมลวกๆ เดินออกจากห้องไป วีรพลได้แต่นอนยิ้มอย่างเป็นสุขบนเตียง....


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #5 on: June 02, 2013, 08:48:36 pm
หลังจากอาบน้ำจนร่างกายสดชื่นแล้ว วีรพลก็เดินลงมาเห็นวิภาวรรณกำลังจัดอาหารบนโต๊ะ หล่อนสวมเสื้อเชิ้ตของเขาเพียงตัวเดียว มันดูหลวมโคร่ง เพราะวีรพลนั้นหุ่นสูงใหญ่กว่าหล่อน ทั้งๆ ที่หล่อนเองเมื่อเทียบกับหญิงทั่วไปก็จัดว่าตัวสูงใหญ่กว่า ชายเสื้อมันยาวลงมาปิดก้นหล่อนไม่เกินคืบ หล่อนไม่ทันเห็นเขา ยังง่วนกับการจัดอาหารอยู่ เห็นแล้วอดพิศวาสไม่ได้ทีเดียว เขาเดินไปโอบกอดจากข้างหลังจูบไซร้ซอกคอก พวงแก้ม อย่างรักใคร่หลงใหล
“อุ้ยยย ภาว่าจะเรียกอยู่พอดีคะ เดี๋ยวเราทานข้าวก่อนนะคะ อึ้ยยย พอก่อน”
“หึหึ นี่เราจะทานข้าวเช้าหรือเที่ยงเนี่ย มัน 10 โมงกว่าแล้วนะ ฮ่ะๆๆ แต่ตอนนี้บอกตรงๆ ไม่อยากทานข้าวเลย อยากกินขนมเค้ก ของขวัญวันเกิดผมคนนี้มากกว่า” ยังไม่วายมือก็เปะปะ จบโน่น คลำนี่ วีรพลเพิ่งนึกได้ หล่อนไม่ได้ใส่ชั้นในสักชิ้นเลยนินา มีเพียงเสื้อตัวเดียว
“อื้อออ ไม่ฟังกันเลย เดี๋ยวภาไปล้างตัวแป้บนึง เราทานข้าวก่อนเถอะคะ บอกแล้วไง ภาไม่ขัดพลหรอก ถ้าทานข้าวเสร็จแล้ว น๊า คนดี”
ขัดไม่ได้ วีรพลเลยต้องจำใจทานอาหาร ที่จริงแล้วเขาก็หิวมาก เพราะเหนื่อยตั้งแต่งานเลี้ยงเมื่อคืนแล้ว แล้วยังต้องมาใช้แรงตอนเช้าอีก มื้อนั้นเขาจึงทานซะเต็มคราบ หลังจากช่วยกันทำความสะอาดภาชนะแล้ว เขาก็เข้ากอดวิภาวรรณอีกที
“อื้ออ อะไรอีกละคะ”
“อ้าว ก็สัญญากับผมแล้วนี่ อย่าเบี้ยวสิ”
“แล้วอะไรละคะ” “ ก็ เอ่อ..” เขาก็ยังไก่อ่อนอยู่ดี คิดหาคำพูดไม่ถูก ยกมือเกาหัวแกรก หน้าตาเขินอาย วิภาวรรณก็จ้องตารอคำตอบ ด้วยตาเป็นประกาย ยิ้มมีเลศนัยนิดๆ
“เอ่อ จะพาพี่ไปสำรวจห้องนอนไงครับ” โพล่งออกมาได้ ทำเอาวิภาวรรณหัวเราะลั่น แล้วเขาก็รวบร่างขึ้นอุ้มหล่อนขึ้นไปชั้นบนห้องนอน
“ตามสัญญาน๊า พี่ภา” วิภาวรรณเอานิ้วมือแตะริมฝีปากเขาอีก
“บอกว่าไม่ต้องเรียกพี่ไงคะ เรียกภาเฉยๆ นะคะที่รักขาาา”
“แหม มันยังไม่คุ้นนี่นา ภาที่รัก เมื่อวานเป็นเกิดผม สงสัยวันนี้เป็นวันเข้าหอผมแน่ๆ เลย อา ช่วงนี้มีแต่เรื่องมงคลแฮะ สงสัยจะจริงนะ พะ พี่ ภา ไปไหว้พระขอพร รู้มั้ย ว่าผมขอพรว่ายังไง”
“ว่ายังไงละคะ”
“ผมขอรักพี่ภาคนเดียว และขอให้ท่านดลใจ ช่วยให้พี่ภารักผมด้วย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะขอรักพี่ภาไปชั่วนิรันดร์ อืมมมม.. แล้วภาล่ะ ขอพรว่ายังไง”
“ม่ายบอกกก....คิคิคิ” “อ้าว ขี้โกงนิ” แล้วเขาก็รวบรัดเข้ามากอดแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม เริ่มจากละเมียดละมัย ก็เพิ่มความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้ววิภาวรรณก็ขยับตัว ผลักเขาเอนนอน
“วันนี้ภาจะทำให้พลมีความสุขที่สุด” ว่าแล้วก็ค่อยๆ ถอดเสื้อเขาออก พร้อมทั้งกางเกง ซึ่งคราวนี้เขาไม่ใส่กางเกงในเลย เหมือนจะรู้ว่าไร้ประโยชน์ เริ่มจากจูบไล่ต่ำลงมาจากปาก ซอกคอ แผงอกที่แน่นปึก ค่อยๆ ตวัดลิ้นเลียปลายหัวนมเขา วีรพลก็ลูบหัวหล่อนไปเรื่อย ขยับถอยลงมาหน้าท้อง จูบเลีย แล้วก็ฉกปลายลิ้นลงหน้าท้อง สะดือ เริ่มทำให้วีรพลสะท้าน แขม่วท้องเกร็ง ขบกราม จากนั้นก็มาถึงลำเขื่อง หล่อนกำท่อนควยเขาไว้ เงยหน้ามองตาเขาอย่างยั่วเย้า
“มิน่าล่ะ ภาถึงคับแน่นไปหมด มันใหญ่จนภากำจะไม่รอบเลย ยาวด้วย”
“อาาา มือภานิ่มจัง อูยยย รูดเบาๆ สิครับ”
“พลจ๋าาา เวลาเรามีเมคเลิฟกัน ต้องใช้คำหยาบๆ แล้วล่ะ จะได้ช่วยให้มีอารมณ์ยิ่งขึ้น มะกี้ว่าอะไรนะคะ”
“รูดดด เอ่อ ไงดี รูดควยผมอ่ะ อู้ววววว ภาจ๋าาา”
“จ๋า ภากระถอกให้อย่างนี้ ชอบมั้ย เด๋วภาจะเลีย และดูดควยให้ พลจะได้เสียวสุดๆ อื้มม แค่ปลายเงี่ยงก็เต็มปากเค้าเลย ท่าจะดูดมันดี” ความจัดเจนของหล่อนได้กลับนำมาใช้อีกครั้ง วิภาวรรณจึงงัดแม่ไม้การเย็ดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“โอยยยย ภาครับ มันเสียวมากๆ เลย ปากภาอุ่นดี อ้ากกก ดูดปลายด้วยเหรอ โอววว”
“ปลายควยพลน่าดูดจะตาย ขอภาดูดให้สมกับที่อยากทำให้พลเสียวนะคะ เอางี้ เพื่อไม่เสียเปรียบ พลเลีย เอ่อ ... เลียหีให้ภาด้วยนะ” แล้วหล่อนก็กลับร่างหันสะโพกขึ้นคร่อมหน้าเขา ตอนนี้พูหี ที่วีรพลได้เลียตอนแรก มันเด่นเต็มหน้าเขา ถึงแม้จะยังไม่เคยเย็ดกับใครมาก่อนเลย แต่บางอย่างไม่ต้องบอกกันมาก มันก็เป็นไปเองโดยธรรมชาติ เขาฉกปลายลิ้นเข้าซอกหีวิภาวรรณ ทำเอาหล่อนสะดุ้งกระดกก้นหนีนิดหน่อยแล้วก็ส่ายยั่วยวนอีก พลจึงสอดแขนโอบรั้งสะโพกไว้แล้วแลบลิ้นเลียอีกครั้ง สลับจูบดูด เม้ม เลีย
“อูยยยย พลจ๋า ดีจัง อย่างง้านแหละค่ะ ภาเสียหีแล้วว” พลเองพูดโต้ตอบไม่ได้เพราะตอนนี้ปากไม่ว่าง ก็ได้แต่ละเลงชิวหาตรงหนอกเนินที่เริ่มฉ่ำแฉะด้วยน้ำลายและน้ำเงี่ยนของวิภา วรรณ ฝ่ายวิภาวรรณก็กำรูดท่อนควยเป็นการใหญ่ แล้วก็อมรูดๆ บางครั้งก็อมไล่ลึกจนแทบสุดคอหอย ค้างไว้สักพัก ก็รูดกลับหลุดพ้นปากออกมาดังบั๊วะ เล่นเอาวีรพลเสียวสุดๆ ถึงกับแอ่นก้นตาม มือก็กระชับก้นก้อยสาวใหญ่โน้มลงมาแล้วแยงลิ้นเข้าลึก ตวัดไปมา
“อูยยย พลจ๋า ภาเงี่ยนแล้วคะ พอก่อนนะ เด๋วภาจะทำให้พลเอง”
“ครับ ภาจะทำไรได้เลย ผมก็อดใจไม่ไหวแล้ว อูยยยยย”
“เค้าเรียกเงี่ยนคะ ตอนนี้เราเป็นผัวเมียกันแล้ว อยู่ด้วยกัน ต้องพูดหยาบๆ เอาล่ะ ภาจะยัดควยเข้าล่ะนะ ผัวจ๋าา” วีรพลถึงกับอึ้งไปสักพัก ไม่นึกเลยว่าจากหญิงที่เรียบร้อย วางตัวทุกกระเบียดนิ้ว บัดนี้กลับเล่นบทสวาทกับเขาอย่างหมดเปลือก ไม่เหลือความอ่อนหวานแบบที่เค้าเคยเห็น ทำเอาเขาถึงกับคล้อยตามอารมณ์สวาทที่วิภาวรรณนำพา วิภาวรรณเองก็อยากจะให้คนรักสุขสมประทับใจ จึงพยายามรื้อฟื้น ความช่ำชองที่หล่อนเคยใช้ เมื่อครั้งอยู่กับผัวเก่า เมื่อเวลาปกติหล่อนจะเป็นหญิงหวาน เรียบร้อย น่ารัก แต่เมื่อเรื่องบนเตียง หล่อนถูกผัวเก่าสอนมาให้เป็นคนร่านสวาท ซึ่งก็ทำให้เขารักหล่อนอย่างมาก มาบัดนี้หล่อนได้มอบความรัก ทั้งกายและใจให้วีรพลหมอหนุ่มแล้ว จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อเป็นเครื่องมัดให้เขารัก และประทับใจหล่อน อีกอย่างก็เป็นการสอนขันไก่อ่อนอย่างเขาด้วย
“โอววว ดูสิลำของผม กำลังมุดเข้ารูแล้ว” วิภาวรรณกำท่อนควยไว้ตั้งตรง แล้วค่อยๆ หย่อนก้นลง เมื่อปลายควยจ่อปากรูหีแล้ว ก็ค่อยห่มก้นกดลง
“ดูให้เต็มตาสิคะ ที่รัก ควยพลกำลังจะมุดเข้ารูหีภาแล้ววว อาาา มันคับเหลือเกิน ควยพลใหญ่จังเลย อูยยยย แบบนี้ หีภากลวงแน่ๆ อ๊าา”
“อู้ววว ภา แบบนี้ผมเสียวมากเลยยย ภา”
“ขา เรียกเมียสิคะ ภาเป็นเมียพลแล้วนะ เรียกเมียสิคะ ผัวขาาา”
“จ๊ะ เมียจ๋า ภาขย่มแบบนี้ ผม......”
“เราเย็ดกันแล้ว มันก็ต้องเสียวอย่างนี้สิคะ อ่าาา ค่อยยังชั่วแล้ว เมียไม่ค่อยเจ็บแล้ว พลช่วยกระเด้งเอวขึ้น ตอนเมียขย่มลงนะคะ ภาชอบ มันเสียวเข้ามดลูกเลยล่ะ อ๊ายยยย ค่อยๆ เบาๆ ค่อยๆเร่งแรงทีหลัง ของผัวใหญ่เหลือเกินนน”
“โอววว ภาจ๋า แบบนี้ผมขอเย็ดภาทุกวันเลยนะ มันเสียวสุดๆ”
“แล้วแต่พลสิคะ อยากเย็ดภาเมื่อไหร่ ภาไม่ขัดหรอก ความสุขของผัว ก็เป็นความสุขของเมียเหมือนกัน อูยยย ผัวจ๋าา เมียเสียวไปหมดแล้ว”
“ผมทนไม่ไหวแล้ว เมียขย่มแรงถึงใจเหลือเกิน”
“อูยยยย ภาเริ่มเมื่อยแล้ว มาเปลี่ยนกันบ้างนะ ผัวจ๋า”
แล้วหล่อนก็โน้มตัวกระหวัดกอดเขาไว้แล้วพลิกกายให้เขาทับร่างอยู่ด้านบน โดยที่หียังคาบควยอยู่ พอขึ้นด้านบนเท่านั้น วีรพลก็โหมแรงกระเด้าจนร่างวิภาวรรณโยกสั่นตามจังหวะกระแทกของเขา
“อออยยยยยย ผัวจ๋า เมียก็ไม่ไหวแล้ว เมียจะออกกแล้ว น้ำเมียจะแตกแล้วววว เร่งแรงๆ ได้เลยคะ ที่รัก ออยยยย อูยยยยยย”
“อ๊าาา ผมก็จะออกเหมือนกัน มันเสียว ปลาย.. ปลายควยผมไปหมดแล้ว เหมือนว่า หะ หีของภามันดูดตุ้บๆ เลย อา ภาจ๋า เย็ดภานี่ มันหีเหลือเกิน ขอเย็ดหลายๆ ทีเลยนะ ภาจ๋า”
“วันนี้ถ้าผัวยังมีแรง ภาให้เย็ดได้ตลอดเลยคะ อูยยยยยยย แรงๆ เลยคะ วันนี้เมียถือว่าเป็นวันเข้าหอของเรา เมียยอมให้ผัวทุกอย่างเลย ผัวขา อ๊ายยยย ไม่ไหวแล้ว ภา จะ... อะ.. ออก ออกแล้วววววววววววว กรี้ดดดดดดดดดดดดดดด”
“อ้ากกกกกกก อออกแล้วววววว” วีรพลโหมกระหน่ำรุนแรงจนหยาดน้ำควยพุ่งเข้ารูหีวิภาวรรณเต็มโพรง วิภาวรรณก็ตวัดขาเกี่ยวสะโพกเขาไว้อย่างสุดแน่น แอ่นโหนกปะทะหนอกเขา กอดรัดประมาณว่าจะให้หลอมเป็นร่างเดียว จนทุกอย่างสงบนิ่ง ทั้งสองยังก่ายกอด กันอย่างสมปรารถนา
“ภาจ๋า ผมมีความสุขมากๆ เลย ขอบคุณสำหรับของขวัญอันสุดยอด ผมรักภาที่สุดเลย ภาจ๋า”
“ภาก็รักคุณคะ ภาถึงยอมเป็นของคุณวันนี้ ตั้งแต่แยกทางกับสามีเก่า ภาก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครเลย มีพลนี่แหละ ที่ภายอมมอบให้ ภาไม่เคยคิดฝันด้วยซ้ำว่าพระพรหมท่านจะประทานคนรักให้ภาอีก” ทั้งพูดและไปด้วยสายตาหยาดเยิ้ม มือข้างหนึ่งยังไล้ไปตามใบหน้าคมสันของเขา วีรพลเริ่มเห็นความอ่อนหวานของวิภาวรรณกลับมาอีกครั้ง
“นั่นสินะ ผมเองก็ไม่รู้เพราะอะไร ผมไม่เคยรู้สึกปั่นป่วนทุกครั้งที่เจอหญิงสาว เหมือนเจอภาเลย แต่พอเจอภา วันแรก รู้มั้ยใบหน้าภา ผมจำได้ทุกกระเบียดนิ้ว เหลือเชื่อกว่านั้น เรามาเจอกันได้ไงก็ไม่รู้ สงสัยพระพรหมที่ภาว่า คงจะมีจริง แต่รู้สึกจะผิดคิวไปหน่อย เรามาผิดเวลากันนิดเดียวเอง ถึงอย่างไร ผมก็สัญญาคำเดิม ผมรักภาที่สุด” ได้ยินคำนี้ ทำให้วิภาวรรณปลื้มแกมหมั่นเขี้ยว คว้าหมับที่ปลายจมูก พร้อมกับขยี้เบาๆ
“หื้อออ รู้สึกว่าภาได้ยินบ่อยจังนะคะ จนจะสำลักความรักตายแล้วเนี่ย ปากหวานมากเลยรู้มั้ย อืมม ดูใกล้ๆ หน้าพลนี่ ก็มีแววหวานคล้ายผู้หญิงเหมือนกันนะคะ ไม่ใช่หล่อเข้มอย่างเดียว ขนตางอน ตาคมโต คงได้ความสวยมาจากคุณแม่ด้วยแน่ๆ ถ้าไม่รู้มาก่อนนี่ ใครๆ อาจคิดว่าพลเป็นเกย์แน่ๆ คิคิคิคิ”
“อ่าว ง้านภาก็มีผัวเป็นเกย์นะสิ ฮะๆๆ ไม่รู้สินะ จำคลับคล้ายคลับคลาว่าแม่ผมเนี่ย สวยมากคนนึง ใจดี ผมจำได้แต่ว่า อกแม่ผมเนี่ยอบอุ่น เหมือนกอดภาตอนนี้เลยนะ ว่าแต่ ผมขออีกทีนะ ให้สมกับที่ผมรักและปรารถนาภามาตลอด”
วิภาวรรณมีหรือจะขัด หล่อนปรนเปรอสวาทให้ผัวรักจนล้นปริ่ม เมื่อสงครามความใคร่จบลง วีรพลถึงกับหมดเรี่ยวแรงผล๊อยหลับไป วิภาวรรณเองก็เช่นกัน รู้สึกตัวอีกที ก็สองทุ่ม หล่อนลุกลงจากเตียงเดินไปรอบห้อง หวนคิดถึงบทรักที่มอบให้กันอย่างใจวาบหวิว เดินไปรอบห้องเขา หยิบจับอันนั้นอันนี้ทีขึ้นมาดูอย่างไร้จุดหมาย จนมาถึงสิ่งสะดุดตาที่ตู้ใบหนึ่งมองผ่านกระจก เห็นเป็นอัลบั้มรูปภาพ วันที่เอาของมาจัด หล่อนเป็นคนช่วยจัดเองแต่ไม่ได้รู้อะไรมาก เพราะต้องรีบจัดของหลายอย่างไม่มีเวลามาเปิดดู วิภาวรรณหยิบรูปแต่ละอัลบั้มมาดู มีอยู่ชุดหนึ่งดูเหมือนจะเก่ากว่าชุดอื่น ต้องเป็นสิ่งที่วีรพลชอบมาก เค้าถึงเก็บไว้ จึงหยิบมาเปิดดูทีละหน้า เป็นรูปวีรพลตอนเด็กๆ วิภาวรรณเริ่มขมวดคิ้ว ทำไมถึงคุ้นๆ หน้ามาก ค่อยๆ เปิดไปทีละหน้าเรื่อยๆ แล้วหล่อนก็มาสะดุดอยู่ที่ภาพหนึ่ง ซึ่งต้องเป็นรูปวีรพลกับพ่อแน่ๆ หล่อนจำรูปนี้ ตอนวีรพลอายุ ประมาณ 10 ขวบได้ดี เพราะรูปที่เคยถ่ายตอนนั้น หล่อนยังเก็บไว้อยู่หัวเตียงนอนของตัวเองตลอด วิภาวรรณเบิกตากว้าง มือป้องปากกลัวว่าจะส่งเสียงดังไป ถ้าหากว่าเป็นจริง!!! นั่นคือ วีรวัฒน์ ผัวเก่าที่เคยขับไล่ออกจากบ้านมา ถ้าเช่นนั้น วีรพล!!!!..................

วิภาวรรณเปิดไปอีกหลายรูป ก็มีรูปของวีรพลตอนเป็นเด็ก มีอยู่ทุกรูปและก็มีวีรวัฒน์รวมอยู่หลายรูป บางรูปก็มีผู้หญิงวัยกลางคน ซึ่งน่าจะใช่เมียใหม่ และเด็กหญิงตัวเล็กคนนึงอีกประมาณ 5-6 ภาพ แล้วสมองวิภาวรรณก็เริ่มตื้อ สับสนไปหมด หันกลับไปมองวีรพลซึ่งหลับไหลอ่อนเพลียอยู่ น้ำตาหล่อนไหลออกมาเมื่อไหร่ไม่ทราบ ปากอวบอิ่มสั่นระริก ส่ายหน้าไปมา เหมือนไม่อยากเชื่อหรือไม่อยากให้เป็นอย่างที่หล่อนคิด นี่ วีรพลคือลูกชายหล่อนหรือนี่ วิภาวรรณ ก้มหน้ากุมขมับ สั่นศีรษะไปมา
“ไม่!!! มันต้องไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้”..................

วีรพลตื่นขึ้นมา เวลาเกือบ 5 ทุ่ม โอ้โห นี่เขาหลับยาวไปเลยเหรอนี่ ก็สมควรอยู่หรอก ใช้แรงไปเยอะนี่ คว้ามือเปะปะควานหาร่างที่เขาพิศวาส ข้างกายว่างเปล่า ลุกจากห้องนอนลงมาชั้นล่าง เรียกชื่อวิภาวรรณ ก็ไม่มีขานรับ เดินไปที่โต๊ะทานข้าว จึงมองเห็นกระดาษใบหนึ่ง
...พี่ทำกับข้าวไว้ให้แล้ว ที่ตู้ในห้องครัว ถ้าหิวก็เอามาอุ่นทานนะคะ....
วีรพลงงนิดหน่อย หล่อนจะหนีเขาไปทำไม ไหนๆ ก็ขั้นนี้แล้วก็น่าจะอยู่ทานด้วยกัน หรือไม่ก็น่าจะปลุกเขาก่อนด้วย แต่วีรพลก็คิดได้แค่นั้น อารามหิว จึงจัดการกับอาหารที่หล่อนทิ้งโน้ตฝากไว้ อาบน้ำ เดินเช็คความเรียบร้อยภายในบ้านนิดหน่อย แล้วจึงเข้านอน พรุ่งนี้ต้องไปทำงานตามปกติ
วิภาวรรณเดินกลับเข้าบ้านด้วยความรู้สึกเลื่อนลอย ในสมองก็ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องภาพที่ได้เห็น เดินกลับมาถึงห้องนอน มองไปที่หัวเตียงนอน ภาพเด็กชายวัย 10 ขวบ ผอมๆ ขี้แย ขี้อ้อน ยังอยู่ในความทรงจำเธอมาตลอด ตั้งแต่ออกจากบ้านของวีรวัฒน์มา เธอก็เพียรพยายามอยู่พักนึงที่จะขอเอาลูกมาเลี้ยงเอง แต่กลับถูกปฏิเสธ กีดกันจากครอบครัวของวีรวัฒน์ จนได้พาลูกชายไปฝากกับญาติที่ต่างจังหวัด เธอเฝ้าตามหาจนคิดว่าหมดหนทางที่จะได้พบแล้ว จึงมีเพียงรูปเก่าที่เธอถ่ายกับลูก สองแม่ลูกโอบกอดกันยิ้มอย่างมีความสุข วิภาวรรณหลังจากที่ออกจากบ้านนั้นมา จึงตัดสินใจ เปลี่ยนชื่อจาก วัลวิภา และกลับมาใช้นามสกุลเดิม ความเจ็บปวดจากการไม่เชื่อใจของสามี ทำให้เธอเข็ดขยาดกับการมีครอบครัว เธอมองรูปที่หัวเตียง มือคว้ารูปนั้นมาแนบอก น้ำตาไหลพราก ทำไมต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ อีกครั้ง ยิ่งคิดหล่อนก็ยิ่งปวดตื้อไปหมด คนรักหล่อนที่คิดว่าจะมอบกายใจให้ทั้งชีวิต เพื่อเริ่มการมีชีวิตครอบครัวใหม่ กลับกลายเป็นลูกชายตัวเองไปเหรอเนี่ย ความอ่อนเพลียอีกทั้งความสับสนทำให้วิภาวรรณหลับไป จนถึงเวลาปกติที่หล่อนตื่น ลุกขึ้นทำความสะอาดร่างกายแล้วก็แต่งตัวออกจากบ้านไปที่ทำงาน ..
วีรพลตื่นตอนเช้ามา ตั้งใจจะไปรับวิภาวรรณเข้าเมืองทำงานตามปกติ กลับเห็นบ้านปิด จึงขับรถมาคนเดียว ไปหาที่ร้านก็ไม่พบ ไปหาที่ธนาคารวิภาวรรณทักทายเหมือนทักทายลูกค้าปกติธรรมดา แล้วก็ขอตัวทำงาน วีรพลชักแปลกใจ เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่วิภาวรรณถึงกลับกลายเป็นเฉยเมยต่อเขา หลายครั้งที่เขาพยามไปหา วิภาวรรณก็จะบ่ายเบี่ยงอ้างเรื่องงาน ธุระต่างๆ ดูลักษณะเธอเหมือนไม่อยากพบหน้าเขา โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับสาย วีรพลถึงกับเครียดกับความเปลี่ยนแปลงของคนรัก ธนธรณ์เห็นเพื่อนซึมเศร้าอยู่หลายวัน อดไม่ได้จึงเข้าไปถาม
“หมู่นี้เป็นไรไปอีกวะ เงียบขรึมยังกะแบกโลกทั้งใบ หรือว่าพี่ภาเขายังไม่โอเควะ งานวันเกิดก็เห็นหวานแหววกันแล้วนิหว่า”
“เปล่า ไม่รู้ภา เอ่อ พี่ภาเค้าเป็นอะไร ไม่ยอมพบชั้น หน้าไม่อยากมอง ไม่รู้โกรธหรืองอนอะไร ชั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย หรือทำให้โกรธนิหว่า วันเกิดอ่ะ พี่เค้ายังยอมเป็นของชั้นแล้วนะโว้ย แล้วอยู่ดีๆ ก็มาเฉยเมย งงว่ะ”
“เฮ่ย จริงดิ แล้วมันเป็นได้ไงหว่า เอ หรือว่าแกมันไก่อ่อนว่ะ พี่ภาเค้าผ่านการมีครอบครัวมา แกอาจจะประเภทนกกระจอกหรือไม่ก็ทำไม่ถูกใจมั้ง ฮ่าๆๆ เลยทำพี่เค้าหมดมู้ด”
“ไอ่บ้า แกก็คิดได้แต่เรื่องเดียว ไม่คิดเรื่องอื่นมั่งเหรอว่ะ”
“ไม่รู้สิ คนเป็นผัวเมียกัน เรื่องอย่างนี้ชั้นว่าต้องมีบ้างแหละ”
“นี่ แก ถ้าไม่คิดจะหาทางช่วย ก็ไม่ต้องมาถากถางชั้น กลุ้มจะตายอยู่แล้ว”
“เออน่า ก็คิดจะช่วยแหละ แต่ตอนนี้ก็เย็นๆ ไว้ก่อนสิว่ะ ค่อยเป็นค่อยไป เออ เย็นนี้แกอยู่อพาร์ทเม้นท์แกนะ ชั้นจะเป็นเพื่อนดื่มเหล้า แล้วค่อยหาทางกันไป โอเคมั้ย”
“อืมม อย่างงั้นก็ได้ ป่ะ ทำงานต่อเหอะ เย็นนี้ค่อยว่ากันอีกที”
เมื่อเลิกงาน วีรพลก็กลับไปที่อพาร์ทเมนท์ที่เขาเช่าไว้ชั่วคราวก่อนที่จะหาซื้อที่ดิน สร้างบ้าน ยังเหลือเวลาเช่าอีกเกือบครึ่งเดือน เขาก็จะเลิกเช่า เพราะเขาตัดสินใจจะไปอยู่ที่บ้านสวนแล้ว เมื่อถึงห้องวีรพลก็ยังคิดไม่ตกว่าวิภาวรรณเปลี่ยนไปเพราะอะไร นอนตัวเหยียดยาวอยู่ที่เตียงนอน จนธนธรณ์เรียก และเปิดประตูเข้ามา ธนธรณ์ไม่ได้มาคนเดียว มีแพรวามาด้วย วันนี้เธอสวมเสื้อยึดรัดติ้ว อวดทรวดทรงอวบอั้น กระโปรงยีนส์สั้นๆ อวดเรียวขาสวยเนียน ธนธรณ์มาพร้อมถุงพะรุงพะรัง และก็ถุงกระดาษใบนึง
“มาๆ วันนี้ขอกินเหล้าให้เพื่อนลืมความเศร้าซะบ้าง แพรจ๋า เอากับแกล้มไปจัดมาหน่อยนะ”
“คะ พี่หมอ วันนี้ทำไมพามาห้องพี่พลก็ไม่รุ ไหนว่าจะอยู่ห้องพี่ไง”
“เออน่า มาเป็นเพื่อนมันหน่อย มันเฮิร์ทเรื่องพี่ภาอยู่ แล้วแพรสังเกตพี่ภาบ้างมั้ย เค้าเป็นอย่างไร”
“อืมม ช่าย พี่ภาก็ซึมๆ หน้าไม่ค่อยสดชื่นเลย ตั้งแต่เสร็จงานบ้านพี่พล มีไรกันเหรอคะ พี่พล”
“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรนะ แต่ช่างเถอะ ไปจัดกับแกล้ม มากินเหล้าดีกว่า”
ทั้งสามก็พากันดื่มเหล้าไป จะมีเพียงแพรวา เพียงแค่จิบๆ คนที่หนักมากหน่อยก็คือวีรพล เวลาผ่านไปนานพอสมควร ธนธรณ์หยิบถุงกระดาษล้วงเข้าหยิบแผ่นซีดี 4-5 แผ่นออกมา วีระพลก็ขยับขึ้นเตียงไปนอน ส่วนธนธรณ์ ก็เลื่อนโซฟามาข้างเตียงวีรพล แล้วกอดแพรวา พามานั่งที่โซฟา เดินเอาแผ่นซีดีไปใส่เครื่องเล่น
“มาดูหนังคลายเครียดกันบ้างก็ดี” แล้วเขาก็กลับมานั่งข้างแพรวา นัยน์ตามีเลศนัย
พอแผ่นเริ่มเล่น ภาพเห็นเป็นหนังฝรั่ง ที่มากไปกว่านั้น มันเป็นหนังโป๊!!!!
“ดูๆ ไปนะ พล แกไม่ต้องพูดต้องเถียง เชื่อชั้น แพรด้วยนะ ดูด้วยกัน”
“อะไรกันพี่หมอ” แพรวาเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าธนธรณ์มีแผนอะไร ได้แต่นั่งดูหนังที่จอทีวี ธนธรณ์นั่งอยู่ข้างก็โอบกอดไว้
ฉากเริ่มด้วยมีการกอดรัดฟัดจูบกันอย่างถึงพริกถึงขิง วีรพลตะลึงงัน ไม่รู้เหมือนกันว่าธนธรณ์มีแผนอะไร
“ดูๆ ไปนะ เอาไว้เป็นตัวอย่าง เผื่อใช้ในชีวิตจริง คนมีผัวมีเมีย มันต้องรู้ช่ำชองเรื่องนี้บ้างแหละ แพร ไม่ต้องตกใจนะ เราดูกันไป แล้วเราก็ทำตามอย่างหนัง ชีวิตเซ็กส์ของเราจะได้มีความสุขกัน”
“พี่หมอ แต่นี่มันห้องพี่พลนะ ทำอะไรไม่รู้ แพรอายพี่เค้านะ”
ธนธรณ์เอียงหน้าไปกระซิบใกล้ๆ หู แพรวา “พี่อยากจะช่วยพลมัน อยากให้แพรช่วยด้วย ถือว่าช่วยกัน นะ นะ ที่รัก” แล้วก็หอมฟอดที่พวงแก้มปลั่งของแพรวา เธอก็เอียงหน้าหลบแต่ก็ไม่พ้น แล้วธนธรณ์ก็ชวนดูหนังต่อ กลับมาตอนนี้ที่หน้าจอ ฝ่ายชายจับถ่างขาฝ่ายหญิงที่นอนหงายอยู่แล้วก็ก้มเลียแคมหี มือทั้งควักทั้งบี้ ชอนไช เสียงครางของฝ่ายหญิงดังซี้ดซ้าด อย่างชัดเจน ทำเอาแพรวาเริ่มหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะอายหรือเกิดความรู้สึกตามหนัง แต่ก็ไม่ทำไรไปมากกว่านั้น ฝ่ายธนธรณ์ ก็เริ่มโอบไหล่หล่อน มืออีกข้างก็มาตะปบที่หน้าอกคลึงเบาๆ แพรวาเริ่มหายใจถี่และแรง มองไปที่เตียงตอนนี้วีรพลเหมือนต้องมนต์จังงัง ตาไม่กระพริบ
“พี่หมอ เค้าดูดเลียกันแบบนี้เลยเหรอคะ” แพรวาถามธนธรณ์เบาๆ
“จ๊ะ เพื่อให้ฝ่ายหญิงมีอารมณ์เงี่ยนง่าน จะได้เย็ดกันสนุกๆ ไง”
“บ้าพี่ ไม่อายพี่พลบ้างเหรอ”
“เถอะน่า พี่ตั้งใจอยากโชว์เจ้าพลมัน อยากให้มันรู้วิชาเรื่องนี้บ้าง เอ่อ จะได้ใช้กับพี่ภาไง”
“พี่เนี่ย ลามก อึ้ยยย พี่หมอ แพรเสียวหัวนมนะ”
“ปล่อยตัวตามสบายนะจ๊ะ ทำตามที่หนังมันทำ แล้วแพรจะรู้ได้ว่า มันมีความสุขแค่ไหน”
“แต่แพรยังอายอยู่นินา อ๊ออยยย อย่าบีมนมแพรแรงสิ มันเสียว”
“ก็อยากให้เสียวไง” เลื่อนจากหน้าอก ธนธรณ์ก็ล้วงมือผ่านขอบชายกระโปรงยีนส์สั้นๆ เข้าไป พบว่า แพรวาไม่ใส่กางเกงในเลย มองหน้าแฟนสาวแล้วถาม
“อา แพรไม่ใส่ชั้นไหนเหรอ”
“ก้อ.. เอ่อ แพรคิดว่าพี่จะพาแพรไปห้องพี่หมอนินา ไม่อยากให้พี่เสียเวลาถอด อุ้ยยยย นิ้วพี่โดนแคมแพรแล้ว อาาา” หล่อนหลับตาพริ้ม ที่จริงแล้วหล่อนก็มาหาเขาเพราะติดใจรสสวาทแฟนหนุ่ม หลังจากที่ได้เย็ดกับธนธรณ์มาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่า เค้าจะพาหล่อนมาที่ห้องวีรพล ธนธรณ์ขยับตัวลงมานั่งคุกเข่าตรงหน้าแพรวา รั้งร่นชายกระโปรงหล่อนขึ้น ตอนนี้อารมแพรวาก็เริ่มจะกระเจิง ให้ความร่วมมือเขา ยกสะโพกขึ้นให้เขาเลิกชายกระโปรงขึ้นจนถึงเอว บัดนี้เนินเนื้อประกอบด้วยใยหมอยประปราย ลอยเด่นต่อหน้าธนธรณ์ ไม่รอช้า ธนธรณ์ก็ซุกหน้าเข้าหว่างขา แลบลิ้นเลียแคมหีแพรวา ทำเอาเธอสะดุ้ง ซี้ดปาก แอ่นสะโพกขึ้นรับการฉกเลียนั้น วีรพล เมื่อเห็นภาพที่จอแล้ว ความคุกรุ่นของอารมก็เริ่มร้อน มองมาที่คู่รักของเพื่อน แล้วก็เกิดกระดาก ลุกขึ้นจะเดินออกจากห้อง
“แกจะทำไรกันก็เชิญ ตามสบายนะ”
“เฮ่ย พล ไม่ต้อง แกต้องดู แล้วลองจำเป็นตัวอย่างไว้สิวะ เชื่อชั้น รับรอง ถึงจะเป็นเรื่องลามก แต่เรื่องคู่ครอง มันไม่ใช่เรื่องเสียหาย แกดูไป ไปนอนดูเลย” แล้ววีรพลก็โดนจับให้มานอนดูที่เตียงเช่นเดิม ไม่ใช่ว่าไม่อยากดู แต่เค้าก็ไม่เคยดูหนังอย่างนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น อย่างแพรวา ซึ่งเป็นผู้หญิงด้วย ธนธรณ์หันกลับมาก็ปฏิบัติการชิวหาพาเสียวต่อ มองไปที่จอ ภาพกลับเปลี่ยนเป็นฝ่ายหญิงอมควยให้ฝ่ายชาย
“แพรจ๋า ทำตามหนังนะ ดูนั่น มาเลียให้พี่ด้วย” ไม่รู้ว่าธนธรณ์ถอดกางเกงตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ควยเขาเริ่มผงาด ธนธรณ์ลงมานั่งที่โซฟา แล้วก็จับแพรวาโน้มเข้าหาควย แพรวาพอจะรู้งานแล้ว ยิ่งเห็นที่หน้าจอ ก็ไม่ต้องบอกมากก้มดูดเลย ตาก็สลับมองที่จอทีวี
“อูวววว แพรจ๋า อย่างง้าน ดูดเก่งขึ้นเยอะเลย ปากนุ่มขึ้นด้วย”
“อา พี่หมอควยคับปากแพรเลย อูยยย พี่แหย่ของแพรอีกแล้ว อ๊อยยย อื้อๆๆๆ” แพรวาก้มหน้าอมรูดๆ ท่อนควยของธนธรณ์ต่อด้วยความเงี่ยนง่าน จนฉากที่หน้าจอเปลี่ยนไป ฝ่ายหญิงขึ้นข้างบน โดยหันหลังให้ฝ่ายชาย
“แพรลุกมานั่งอย่างที่หนังเค้าทำสิ ค่อยๆ ถ่างหีนะ แล้วก็ค่อยจ่อควยพี่ อืมมม”
“แค่เห็นในหนังก็เงี่ยนแล้ว พี่พามาทำงี้ แพรยิ่งเงี่ยนใหญ่เลย อูยยยย มันยังคับปากรู แต่ก็เสียวมากๆ คะ พี่หมอจ๋า” ทุกถ้อยคำ ทุกท่าทางทั้งนอกจอและในจอ วีรพลได้ยินได้เห็น จนความอยากขึ้นมาคับอก แต่ยังกระดากอยู่ จะถอดกางเกงมาชักควยตัวเอง ก็ยังไม่กล้า เลยได้แต่นอนลูบๆ กำๆ อยู่อย่างนั้น
“อู้ยยยย พี่หมอ กระเด้งสวนมา ไม่ได้ตั้งตัวเลย อึ้ยยยย”
“ก็เห็นภาพแล้วมัน ชวนให้อยากเย็ดแล้วนี่”
“ก็กำลังเย็ดอยู่ไง ใจเย็นสิ ออยย ท่านี้ก็เข้าลึกดี” แพรวาค่อยโยกขย่มกายขึ้นลง ธนธรณ์ก็ไม่ปล่อยมือว่าง สอดเข้าไปในเสื้อยึดโอบคว้าสองเต้าได้ก็บดเคล้นคลึง บั้นเอวก็เด้งรับการโยกขย่ม
“อูยยย เสียวอะไรอย่างงี้ พี่ธรจ๋า เมียเสียวมากเลย” แพรวาเริ่มเปลี่ยนสรรพนาม ที่เคยใช้เมื่อครั้งเย็ดกับธนธรณ์ตามลำพัง โดยลืมไปว่านี่ไม่ใช่ห้องธนธรณ์
“เสียว ก็ขย่มลงเรื่อยสิจ๊ะ เมียจ๋า ผัวก็เสียวด้วย อู้ยยย นมก็เต็มไม้เต็มมือ หีก็เย็ดมัน”
“อ่า เค้าเปลี่ยนท่าแล้ว มาแพรจะทำตาม” ว่าแล้วแพรวาก็เปลี่ยนจากหันหลังให้เป็นหันหน้าเข้าหาธนธรณ์ แต่ยังเป็นฝ่ายอยู่ข้างบน บัดนี้แพรวาเริ่มจะไม่อาย ไม่รู้ความร่านแบบนี้จะได้มาจากพ่อแม่ของเธอที่เร่าร้อนหรือเปล่า ตอนนี้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์สวาทที่ได้ดูจากวีซีดี อีกทั้งธนธรณ์ก็ชอบ และเจนจัดเรื่องนี้พอสมควร พอจับควยแฟนหมอตรงได้ที่ก็กดสะโพกลงไป
“ซี้ดดด พี่หมอจ๋า เข้าหีแพรเต็มๆ เลย คับแน่น แต่อร่อยหีมากเลย อูยยยย”
“เต็มที่เลย เมียจ๋าาา พี่จะดูดนมช่วย อื้มมม” จากนั้นธนธรณ์ก็ถลกชายเลื้อยืดขึ้น จนหน้าเผยโฉม แล้วก็ดูดดุน เลีย ขบเม็ดติ่งหัวนม มืออีกข้างก็ขยำฟอนเฟ้น โดนทั้งบนและล่างอย่างงี้ แพรสุดเสียว อกก็แอ่นให้ธนธรณ์จูบดูดพัลวัน ส่วนบั้นเอว ก็ขย่มเขย่าได้ถึงกึ๋นน และเริ่มเร่งจังหวะแรงขึ้นๆ เร็วขึ้น
“พี่หมอ แพรจะกลั้นไม่ไหวแล้วววววว อ๊อยยยยยยยยย อึ้ยยยยยย”
“กระแทกเต็มที่เลย ที่รักกก พี่จะเด้งรับช่วย อื้อๆๆๆ”
“ผัวจ๋า มะเมียย เสียวใจจะขาดแล้วววว อูยยยยยย แพรจะเสร็จแล้ว อะ อะ อ๊ายยยย”
“รอพี่ด้วย เราพร้อมกันนะ อ๊าาาา พี่ก็จะ อะ อออ... อออก.. ออกแล้วววววววว โอ้วววววว”
ทั้งคู่ต่างกระเด้งกระเด้าอย่างถึงพริกถึงขิง จนหยาดหยดแห่งกามกระฉูดเข้าหีแพรวาจนหมด หยดสุดท้าย ทั้งคู่ยังคงกอดกันกลม เสียงหอบหายใจกระเส่าแรง จากนั้นก็แลกรสจูบกันป่ายซ้ายป่ายขวา ทุกสิ่งที่เป็นไป วีรพลได้ยินทุกถ้อยคำ อาจจะไม่ได้เห็นทุกท่าทาง เพราะบางครั้งก็สลับมองจอทีวี แต่ก็จินตนาการได้ว่าเป็นท่าเหมือนกัน แต่ทางทีวีชัดเจนกว่า เพราะมีซูมให้เห็นทุกซอกมุม ท้องวีรพลปั่นป่วนไปหมด หูอื้อตาลายไปหมดแล้ว จับเป้าแน่นบิดกาย แต่ยังไม่กล้าถอดกางเกงออกเลย
เมื่อสองหนุ่มสาว บรรเลงเพลงกามจบลง ธนธรณ์ก็หันชะเง้อมามองวีรพล ตอนนี้เขาหน้าแดงก่ำ สีหน้าเคร่ง ขบกรามแน่น ธนธรณ์รู้ว่าเพื่อนรู้สึกอย่างไร จึงหันไปกระซิบกับแพรวา
“แพรจ๋า พี่ว่าเราช่วยพลมันเหอะ ไม่อยากให้มันอกแตกตาย”
“ทำยังไงละคะ” “ก็ เอ่อ แพรไปช่วยมันบ้างสิ”
“บ้า พี่หมออ่ะ นี่คิดจะยกหีเมีย ให้คนอื่นเหรอ คนวิตถาร แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ”
“เดี๋ยวก่อนซี่ พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น เอ่อ คือ พี่อยากให้แพรช่วยใช้ปากกับมันหน่อย นะนะ”
“อะ เอ่อ โอ้ยยย ไงดีเนี่ย” “น่านะ ส่วนหีเมียพี่เนี่ย เป็นของพี่คนเดียว หึหึ” เขาส่งตาเป็นประกาย
ในที่สุดแพรวาก็ตกลง ว่าไปแล้วหล่อนเห็นเขาอัดอั้นทรมานต่อความต้องการแบบนั้น ก็สงสาร เหนืออื่นใด ตอนนี้หล่อนกลายเป็นคนร่านสวาทไปอีกคนแล้ว หลังจากได้เย็ดกับธนธรณ์เรื่อยมา ทั้งคู่เดินมาหาวีรพลที่เตียง ธนธรณ์คว้ารีโมทกดปิดหนัง เดินตัวเปลือยมาหาวีรพล ส่วนแพรวา ยังสวมเสื้ออยู่ แต่กระโปรงยีนส์สั้น ถูกถลกขึ้นไปอยู่เอวนานแล้ว
“ทำไร ธร เสร็จแล้วก็ไปล้างตัวสิ” “อยู่เฉยๆ พล ฉันรู้แกงุ่นง่าน แค่อยากจะช่วยให้สุขสบายตัวเท่านั้น แพรถอดกางเกงมันออก”
“พี่พล ไม่ต้องกลัวนะ แพรเข้าใจ เราสองคนจะช่วยพี่เอง” ว่าแล้วก็เข้าไปถอดกางเกงพลออก
“เฮ่ยๆ ชั้นว่าไม่ต้องหรอก มันตัวของชั้น จะเป็นไงก็เรื่องของชั้น”
“เหอะน่า จนป่านนี้แล้ว แกจะอายอะไร ชั้นสองคนยังเล่นหนังสดต่อหน้าแกเลย”
แพรวาถอดกางเกงพลออก ถึงกับตาลุก ท่อนควยพลดีดผึงออกมา นี่มันไซส์พระเอกหนังโป๊เมื่อตะกี้ชัดๆ ใหญ่อวบ หล่อนใช้มือค่อยๆจับ ลูบไปมา ลำควยก็กระดกหงึกๆ
“เอ็งนอนตามสบาย ไม่ต้องเกร็ง”
“ธร ชั้นไม่อยากยุ่งกับใครนะ ถ้าจะทำ ชั้นขอทำกับ เอ่อ กับคนที่ชั้นรัก คนเดียว”
“โหยยย เรียนจบก็สูง หัวโบราณจริงนะแก เอาเป็นว่าพูดกันง่ายๆ ตรงๆ ชั้นให้แพรทำออรัล ใช้ปากดูดให้อย่างเดียวเฟ้ย ไม่เกินเลยไปกว่านั้น ถ้าไม่ใช่แก ชั้นไม่มีทางให้ทำหรอก หวงเมียเป็นเหมือนกันเว้ยยย” แพรวาได้ยินก็ได้แต่แอบยิ้ม ภูมิใจ จากนั้นหล่อนก็เริ่มอ้าปากอมปลายควยของพล ถึงมันจะใหญ่ แต่ยังมีหนังหุ้มปลายแทบจะมิด เธอจึงค่อยๆ รูดให้หัวเงี่ยงโผล่แล้วก็ตวัดปลายลิ้นเลีย
“หูยย ควยพี่พลใหญ่ชะมัด ปากแพรคงอมได้แค่ครึ่งเดียวเลยเนี่ย”
“ทำสุดฝีมือเลย แพรจ๋า พี่เองก็จะทำสุดฝีมือเช่นกัน”
สิ้นสุดคำพูด ธนธรณ์ เข้าประกบทางด้านหลังแพรวา ซึ่งขณะนี้ อยู่ในท่าคลาน ปากมือ ก็จับรูดอมหัวควยพลอยู่ ทั้งๆ ที่เพิ่งเย็ดจบไปหมาดๆ แต่ธนธรณ์ยังแข็งปั๋ง คงจะเป็นเพราะตื่นเต้นที่เห็นแฟนสาว ทำรักกับชายอื่นด้วย ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่เขาเคยทำ พอเข้าได้ที่ ก็กระทุ้งเข้าใส่แคมหีแพรวาทันที
“อูยยยย พี่หมอ ทำไมเงี่ยนเร็วจัง จะเย็ดเมียอีกแล้ววว”
“อยากเย็ดเมียท่านี้อยู่แล้วด้วย อา มองเห็นทางตูดเมียนี่ มันน่าเย็ดชะมัด อึ้บบ”
“อูยยย พี่หมอนี่ ช่างสรรหา เมียก็เสียววไปหมดแล้ว อร่อยลิ้นปากแล้วยังโดนเย็ดข้างหลังอีก อูยยยย”
วีรพลนั้น สุดแสนงุ่นงานตั้งแต่นานแล้ว ได้ยินถ้อยคำโต้ตอบของเพื่อนคู่รัก ก็เกินสุดจะทนได้ หน้าท้องเริ่มเกร็ง มือป่ายปะไปทั่ว ไม่รู้จะคว้าอะไรดี สุดท้ายก็ได้แต่ขยำผ้าปูเตียง ร่างเกร็งไป ตอนนี้เขาได้แต่คิดถึงหน้าหวานๆ ผิวขาว ที่เขาได้ลิ้มลองรสสวาทมา ยิ่งทำให้อารมณ์ประทุมากขึ้น
“ภา ภาจ๋าาาา พลไม่ไหวแล้วว อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เขาร้องเพ้อถึงชื่อนั้น แล้วก็ดีดตัวจนควยหลุดจากปากแพรวา แล้วน้ำอสุจิ ก็พุ่งปรี้ดดดดดผ่านปลายจมูกขึ้นไปราดรดบนหน้าแพรวา บางส่วนแรงขนาดข้ามหัวแพรไปหยดแหมะอยู่กลางหลังหล่อน ธนธรณ์เห็นอาการเพื่อนดังนั้น ก็พลอยเสียวกระสันไปด้วย เร่งกระเด้าสุดเหนี่ยว จนแพรวาหัวสั่นคลอน
“โอ้ยยย พี่หมอ แทงเมียแรงจัง อ๊อยยๆๆ”
“พี่จะออกแล้วแพร อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก”
เกมส์เย็ดเกมส์นี้ใช้เวลาไม่นานเลย สองหนุ่มก็พ่นสเปิร์มออกมาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะวีรพล คงจะมากเท่า ธนธรณ์ เย็ดกับแพรวา สองหนทีเดียวว
“โหหห พล เอ็งเก็บน้ำได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ ไม่หมดตัวแล้วเหรอเนี่ย”
“นั่นสิ พี่หมอ เต็มหน้าแพรไม่พอ ดูสิ กลางหลัง หัว ยังมีอยู่ ท่าทางเก็บกดมากๆ”
“ภาจ๋า พี่ภาาาาาาาาาาาาา” เขายังคงเพ้ออยู่ ทั้งที่ตายังหลับพริ้ม เสียงสั่นรัว
“หืมม เป็นเอามาก ขนาดแพรดูดให้ ยังมีกะใจเรียกชื่อพี่ภา”
ตอนนี้พลไม่พูดอะไร นอนหอบฮักๆ ครางฮือๆ กายยังสั่นทกอยู่ มือยังคงจิกขยุ้มผ้าปูนอนแน่น หลังจากสุขสมกันไป แพรวาก็ไปทำความสะอาดร่างกาย ตามด้วยธนธรณ์ กลับมาที่เตียงวีรพล เค้ายังคงนอนเงียบ ไม่พูดไม่จา ตอนนี้ธนธรณ์มานั่งข้างเพื่อน
“พล เรื่องพี่ภา ยังไงชั้นกับแพรก็ช่วยอยู่แล้วไม่ต้องห่วง ตอนนี้ก็อย่าคิดมาก ที่ชั้นทำไป เพราะอยากชี้ทางแกด้วยนะ จะหาว่าชั้นลามก วิตถารก็ยอม แต่ยังไงมันน่าจะช่วยได้ทางอ้อมบ้างล่ะน่า”
“พี่พล ยังไงพี่ภา ก็เป็นคนที่แพร รักและเคารพ แพรช่วยอยู่แล้วนะ แต่ตอนนี้พี่คงอยากอยู่คนเดียว ง้าน แพรกับพี่หมอ จะกลับก่อน มีอะไรก็ติดต่อเราได้เลย”
“อืมมม ชั้นทิ้งหนังไว้ให้แกก็แล้วกัน แกนี่น๊า เหลือเชื่อว่ะ จนป่านนี้ เรื่องบนเตียงยังไม่ค่อยรู้อะไรเลย ยังไงก็ติดต่อได้เสมอ เพื่อน ป่ะ แพร เรากลับกันเถอะ”
พลก็ยังไม่พูดไม่จา จนสองหนุ่มสาวเดินจากห้องไป....


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #6 on: June 02, 2013, 08:49:38 pm
หลายวันแล้วที่วิภาวรรณได้แค่ครุ่นคิด ถึงความถูกผิด จนหล่อนไม่กล้ามองหน้าวีรพลที่เพียรพยายามมาพบ หล่อนก็บ่ายเบี่ยงหลบหน้าเขา โทรศัพท์เข้าก็ไม่ยอมรับ ได้รับแต่ข้อความเสียงที่เขาฝากไว้ เป็นเชิงตัดพ้อ ยิ่งทำให้วิภาวรรณอยากจะร้องไห้ แต่ด้วยตำแหน่งหน้าที่ของเธอ ต้องเป็นผู้ใหญ่ เข้มแข็ง จึงได้แต่นั่งเหม่อ วันหนึ่ง แพรวา เดินเข้ามาหา
“พี่ภา พี่ภาคะ พักนี้เป็นอะไร ดูอารมณ์บ่จอยชอบกล ตั้งแต่หลังวันงานบ้านพี่พล ก่อนนี้ก็ยังเห็นดีอยู่นินา มีไรบอกแพรบ้าง เผื่อแพรช่วยได้”
“มีเรื่องบางอย่างทำให้พี่เครียดน่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เด๋วก็คงดีขึ้นเอง แพรคงช่วยอะไรไม่ได้หรอก”
“เกี่ยวกับพี่พลป่าวคะ เนี่ย แพรไปเยี่ยมพี่พลมา รายนั้น ก็อาการเดียวกัน ทะเลาะอะไรกันหรือป่าว”
“เปล่า ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอก”
“แล้วมันอะไรกันคะ พี่ภาจ๋า แพรว่านะ พี่พลน่ะ ดูเค้าจริงจัง จริงใจกับพี่มากเลยนะ แพรเห็นแล้วสงสาร พี่ภารังเกียจพี่พลเค้าหรือป่าว”
“เราอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยนะ พี่ขอร้อง ขอเวลาพี่สักพัก แล้วพี่จะบอกแพรเอง”
วิภาวรรณอยู่ในห้องคนเดียวก็เฝ้าครุ่นคิดแต่เรื่องเดิม ทำไมน๊า จะต้องเป็นเขาด้วย ทั้งที่จริงเธอก็รักเขาทั้งใจแล้ว แต่ติดที่ว่าเขาเป็นลูกชาย หล่อนจะทำอย่างไรดี อยากพบหน้าเขาแทบขาดใจ อยากได้อ้อมแขนเขาโอบกอดให้ความอบอุ่น อย่างที่หล่อนเคยได้ บัดนี้ ความรู้สึกนั้นมันจะยังคงเดิมหรือปล่าว ไม่รู้ว่าวีระพลจะรู้สึกอย่างไร หากรู้ว่าหล่อนคือแม่ตัวเอง หล่อนจะทำอย่างไรดี
ผ่านไปอีก 2-3 วัน วีรพลกระวนกระวาย จนสุดทน ยังไงวันนี้ก็ให้รู้เรื่อง เค้ารีบออกจากโรงพยาบาลขับรถไปหาวิภาวรรณที่ธนาคาร แต่เธอกลับก่อนแล้ว ไปหาที่ร้านขายของฝาก พนักงานก็บอกว่า เธอไปที่บ้านสวนแล้ว เขาจึงตามไปที่นั่น อย่างไรวันนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง หมอหนุ่มวิ่งเข้าไปที่บ้านวิภาวรรณอย่างร้อนรน ร้องเรียกชื่อเธออยู่หน้าประตูบ้าน วิภาวรรณได้ยินเสียงเรียกก็สะดุ้ง รีบวางรูปที่หล่อนกอดกระชับที่อก วางไว้ที่หัวเตียงนอนตามเดิม
“พี่ภาครับ พี่ภา ผมรู้ว่าพี่อยู่ในบ้าน ออกมาคุยกับผมก่อน พี่จะหลบหน้าผมไปถึงไหน” วิภาวรรณได้ยินเสียงเขาก็เริ่มใจเต้นแรง แต่พะว้าพะวง จะทำอย่างไรดี ในที่สุดก็ตัดสินใจ ลงมาหาเขา พอได้เห็นหน้า วีรพลปรี่เดินเข้า รวบไหล่ทั้งสองข้าง บีบรัดแรง
“พี่ทำอย่างนี้ทำไม ผมแทบจะคลั่งตายแล้ว รู้มั้ย”
“พล ใจเย็นๆ พี่เจ็บนะ”
“อยู่ดีๆ พี่ก็หลบหน้าผม มีอะไรเหรอ วันนั้นเรายังอยู่ในอ้อมกอดกันอยู่เลย หรือพี่คิดว่ามันแค่เป็นเกมส์ แกล้งทำให้คนหัวปั่นเล่นสนุกๆ เห็นผมเป็นแค่หมากเกมส์นึงที่ทำไปเพื่อความสนุกงั้นหรือ ใช่สินะ พี่เคยผ่านอะไรมามากต่อมาก ผมมันยังอ่อนต่อโลก คิดอะไรไม่ทันเกมส์ของพี่อยู่แล้วนี่ ถ้าจะทำอย่างนี้ พี่ฆ่าผมให้ตายไม่ดีกว่าหรือ ดีกว่าให้ผมอยู่แบบตายทั้งเป็น” เขาพรั่งพรูคำพูดเชิงตัดพ้อออกมาอย่างเดือดดาล
“พล!!! ฟังพี่ก่อน เลิกพูดอย่างนี้ซะที พี่ก็ไม่ได้ต่างไปจากพลหรอก พี่ขอโทษ ต่อไปพี่จะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว แค่ไม่เจอหน้าพล พี่ก็แทบขาดใจอยู่แล้ว อย่าซ้ำเติมให้พี่เจ็บปวดกว่านี้อีกเลย พี่แค่ไม่สบายใจเรื่องบางอย่างเท่านั้น แต่ต่อไปนี้ พี่จะไม่คิดมันอีกแล้ว แค่มีพลอยู่ข้างๆ พี่จะไม่คิดอะไรอีกแล้ว” วิภาวรรพูดไปสะอื้นพลาง พวงแก้มอาบไปด้วยหยาดน้ำตา วีรพลเห็นดังนั้นก็เริ่มใจหาย สีหน้าเขาอ่อนลง รวบร่างอรชร เข้ามาโอบกอดกระชับ
“มีเรื่องอะไร ทำไมไม่บอกผม พี่เป็นเมียผมนะ ทุกเรื่องทุกอย่างเราจะผ่านไปด้วยกัน เชื่อใจผมสิ บอกมาสิเรื่องอะไร”
“ช่างมันเถอะ ภาไม่เก็บมาคิดอีกแล้ว ขอตอนนี้ได้อยู่กับพลก็พอแล้วนะคะ อย่าถามถึงมันอีกเลยนะคะ” วิภาวรรณยังหอบสะอื้น หน้าซบที่แผงออกกว้างของวีรพล เขาคลายกอดแล้ว ประคองใบหน้าหล่อนขึ้น แววตาเริ่มแจ่มใสขึ้น ยกมือมาปาดน้ำตาที่พวงแก้มปลั่งทั้งสองข้าง
“ตกลง เพื่อให้พี่สบายใจ และตอนนี้ผมก็สบายใจแล้ว แค่รู้ว่าพี่ไม่ได้โกรธผม นี่ รู้มั้ยคิดถึงแทบตาย วันนี้ขอผมอยู่กับพี่ที่บ้านนี้ก็แล้วกันนะ อยู่บ้านผมยิ่งจะทำให้ผมอกแตกตาย นะนะ” เขาจ้องมองหน้าหล่อน สำเนียงเริ่มออดอ้อน ส่งยิ้มหวานซึ้ง วิภาวรรณก็จ้องหน้าตอบ กัดริมฝีปาก
“อย่าไปยิ้มหวานอย่างงี้กับใครนะคะ เดี๋ยวจะมีคนคลั่งตาย อยู่กันสองต่อสองอย่าเรียกพี่อีกเลย ดูเหมือนเหินห่างยังไงไม่รู้” วิภาวรรณก็สีหน้าแจ่มใสขึ้น แต่เสียงยังเครือ บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาอยู่
“แน้ หวงเหรอ หวงแล้วทำไมต้องแกล้งหนีหน้าล่ะ”
“หวงมากคะ พลนี่นะ เวลาขรึมก็ดูดุ น่ากลัวยังกะมาเฟียเชียว แต่เวลายิ้ม เหมือนมันเหมือนเปลี่ยนโลกให้สดใสไปเลย ผู้ชายอะไร ยิ้มหวานยังกะผู้หญิง”
“ฮะๆ ไม่รู้สิ ก็อย่างที่ภาเคยบอก ผมอาจจะได้ความสวยจากแม่ผมมาก็ได้ ว่าแต่วันนี้ตกลงมั้ย ขอผมอยู่กับพี่ อะ เอ่อ กับภา นะนะ นะน้า.. อยากกินขนมเค้กอีก ไม่รู้ว่ารสชาติมันยังจะหอมหวานอยู่รึป่าวน๊าาา” เขาส่งยิ้ม ทำนัยน์ตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม ได้ยินพูดถึงแม่ทำเอาวิภาวรรณสะอึกไปนิดนึง วีรพลพออารมณ์ดีก็เริ่มโน้มใบหน้าคลอเคลีย หอมแก้มพัลวัน
“หื๊อออ บ้า เลยวันเกิดมาเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์แล้ว ยังอยากจะกินอีก ตอนนี้มีแต่แกงจืดคะ”
“ว้า ขอเปลี่ยนเป็นผัดเผ็ด แกงเผ็ดอะไรพวกนี้ ได้มะ เอาให้ซี้ดซ้าด ไปเลย ฮ่ะๆๆๆ โอ้ยยย” วิภาวรรณหมั่นเขี้ยวเต็มประดากับอาการขี้เล่นของเค้า ซัดกำปั้นเข้ากลางอกอย่างจัง “คนบ้า” และแล้วบรรยากาศแห่งความสดใสสีชมพูก็เริ่มส่องแสงประกายขึ้นมาอีกครา...

วีรพลขอตัวไปอาบน้ำ และปิดบ้านให้เรียบร้อยก่อน วิภาวรรณก็ทำหน้าที่แม่ศรีเรือน อย่างที่เคยทำเป็นปรกติ เพียงแต่บัดนี้อาจจะเพิ่มเป็นพิเศษก็ตรงที่ไม่ได้มีหล่อนคนเดียวอีกแล้วในบ้านเรือนไทยหลังนั้น คงจะมีวีรพลมาเป็นสมาชิกอย่างเปิดเผยในไม่ช้านี้ ถึงตอนนี้หล่อนกับเขาจะยังเก็บความลับระหว่างทั้งคู่ไว้ แม้แต่แม่บ้านและคนสวนของเธอ ก็ยังไม่รู้ความสัมพันธ์ของทั้งสอง ขณะที่ทำกับข้าวรอวีรพล วิภาวรรณก็ยังคงมีสีหน้าวิตกกังวลอยู่ ถึงแม้หล่อนยังไม่แน่ใจ 100 เปอร์เซนว่าวีรพลเป็นลูกชายแท้ๆ แต่ภาพที่หล่อนได้เห็นวันนั้น หล่อนจำได้ดี ไม่น่าเชื่อว่าเด็กชายขี้แย ขี้อ้อนของวิภาวรรณ จะเติบโตเป็นหนุ่มหล่อ กำยำ สูงโปร่งเหมือนพ่อไม่มีผิด จนแทบไม่เหลือเค้าเดิมของตอนเป็นเด็ก กลับกลายเป็นชายหนุ่มที่มีความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ดูจากการกระทำของเขาเท่าที่คบกันมา เป็นคนจริงจัง ไม่เสแสร้ง วิภาวรรณตอนนี้ก็ยังตัดสินใจลำบาก ว่าตนเองจะยอมรับเขาในฐานะลูกชาย ที่หล่อนเฝ้าถวิลหามานาน หรือว่าในฐานะสามีที่หล่อนก็หลงรักจนหมดใจ ใช่สินะ หล่อนรักเขาตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และตอนนี้เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าหล่อนคือแม่ของเขา วิภาวรรณตัดสินใจจะไม่ให้วีรพลรู้เรื่องนี้ หล่อนจะเก็บเขาไว้ในฐานะลูกชายที่รักอยู่เพียงในใจผู้เดียว เธอจึงสลัดความกลัดกลุ้มวิตกกังวลนั้นไป ทำกับข้าวจนเสร็จ วีรพลก็เข้ามาในบ้าน เข้ามาคลอเคลียหล่อนไม่ห่าง ไม่ต่างจากหนุ่มสาวข้าวใหม่ปลามัน
“ผมนี่โชคดีเป็นบ้าเลย ได้เมียเป็นแม่ศรีเรือนทำกับข้าวเก่ง ทำงานก็เก่งไปซะทุกอย่าง แบบนี้ผมจะไปรักใครได้อีกเนี่ย ในชีวิตนี้ ผมก็แค่หวังอยากมีครอบครัวอย่างที่เป็นอยู่นี่แหละ มีบ้านสวน อยู่กับลูกเมีย ขอบคุณมากนะครับ ภา ที่เป็นส่วนเติมเต็มให้กับผม ผมไม่ต้องการอะไรอีกต่อไปแล้ว” หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ก็เฝ้าคลอเคลียกอดวิภาวรรณไว้ พร่ำพรรณนาความในใจของเขา
“หืมมม ทีงี้มาปากหวาน ตอนหัวค่ำ ยังว่าภาอย่างโง้นอย่างงี้”
“โธ่ ก็ตอนนั้นยังโกรธนี่ รักมากก็โกรธมากรู้มั้ย แต่ตอนนี้ไม่ล่ะ ยิ่งรักมากกว่าเดิมอีก แต่ยังมีความฝันอีกหนึ่งอย่างที่ยังไม่สมบูรณ์”
“อะไรคะ?” “ก้อ เอ่อ เจ้าตัวน้อยๆ ของเราไง จะได้ไว้เป็นพยานรักของเราสองคนไง” วิภาวรรณสีหน้าวูบลงไปนิดหนึ่ง ใบหน้ายังคงคลอเคลียอยู่ที่แผงออกของเขา
“ภาอายุมากแล้วนะคะ พล ไม่รู้ว่าภาจะทำให้ได้ตามที่พลต้องการหรือเปล่า”
“ไม่เห็นจะแก่ตรงไหนเลย ภายังสาวสวยออกขนาดนี้ นี่ขนาดเวลาที่ภาแต่งตัวเรียบ เป็นทางการ แต่งแบบผู้ใหญ่แต่งกัน ภาก็ยังดูสาวอยู่เลย ถ้าสุขภาพภายังแข็งแรงอยู่ น่าจะทำได้น่า อย่าลืมสิ ผมเป็นหมอนะ”
“คะ ภาก็อยากมีเหมือนกัน เพื่อชดเชยสิ่งที่ภาเคยสูญเสีย ภาอยากได้มีโอกาสเลี้ยงลูกของตัวเอง มีครอบครัวที่อบอุ่น”
“ง้าน.... เราจะมัวช้าอยู่ทำไมล่ะ มาทำหน้าที่ของเราดีกว่า” ไม่มีปี่มีขลุ่ย วีรพลก็อุ้มร่างวิภาวรรณขึ้น รีบเดินขึ้นห้องนอนทันที
“ว้ายยยย คนบ้า ปล่อยภาลงเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ปล่อย ขืนปล่อยไป เดี๋ยวก็หนีหน้าผมอีก คราวนี้ผมไม่ยอมล่ะ นะนะ เมียจ๋า ผมคิดถึงตั้งหลายวัน ขอวันนี้ผมได้ชื่นใจกับเมียหน่อยเถอะนะ เด๋วเรามีลูกช้ากว่าเจ้าธนธรณ์มัน มันจะได้เย้ยผมเอานะ”
“หืมมม บทจะใจร้อนก็ไม่ให้ตั้งตัวเลย คนบ้า อุ้บบบ” วีรพลไม่เปิดโอกาสให้ปากอวบอิ่มได้โต้ตอบอะไรอีกแล้ว โน้มหน้าเข้าจูบหล่อน พอถึงเตียงนอนก็บรรจงวางร่างงามระหงลง แล้วทาบตัวเข้าจูบต่อ วิภาวรรณเองก็โอบคอเขาไว้ตอบรับการจูบอย่างดูดดื่ม ต่างคนต่างฉกลิ้นแลกกัน หมุนหน้าสลับซ้ายทีขวาที วีรพลก็คว้ามือค่อยเลื่อนปลดเสื้อแพรเนื้อนิ่ม ซึ่งเป็นเสื้อที่วิภาวรรณจะโปรดปรานมาก ปากก็ยังคงแลกจูบกันอย่างเย้ายวน เขาถอดเสื้อออกแล้ว ก็เผยให้เห็นร่างงาม ซึ่งบัดนี้ท่อนบนคงมีแค่บราสีชมพูอ่อนๆ ปกปิดเต้าอวบสองเต้ากลมกลึง มือเขาเริ่มฟอนเฟ้นบีบนวดเบาๆ เสียงหายใจวิภาวรรณเริ่มหอบแรงขึ้น วีรพลถอนใบหน้าออกมานิดหน่อย อ้าปากส่งปลายลิ้นตวัดระริก วิภาวรรณก็ทำดุจเดียวกัน ประหนึ่งว่า ต่างล้อยั่วเย้ากันด้วยลิ้น แล้ววีรพลก็กดประทับฝีปากเข้าไปอีกที คราวนี้ทำเหมือนเขาจะดูดจูบหล่อนให้ลิ้นหลุดมาทั้งปากงั้นแหละ เขาเริ่มดูดดุน รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในใจวิภาวรรณรู้สึกว่าคราวนี้ชายหนุ่มคนรัก จะจูบหล่อนเนิ่นนาน ทำเอาเคลิบเคลิ้ม มือหล่อนโอบศีรษะเขาเบาๆ มีขยุ้มบางเป็นบางครั้ง เขาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาที่ซอกคอขาวผ่อง ทั้งจูบสลับเลีย แล้วก้อเลื่อนมาที่หน้าอก มือเขาค่อยๆ คลึงสองเต้าที่ยังมีบราปิดอยู่ บีบเคล้น ทำให้เต่งตูม น่าหลงใหลยิ่งนัก วิภาวรรณจึงได้หายใจได้เต็มที่ เสียงหอบกระเส่าเริ่มดังกว่าเดิม
“พลจ๋า ภามีความสุขเหลือเกินน สยิวไปหมดแล้วคะ พลขา”
“จ๊ะ เดี๋ยวผมจะทำให้ภามีความสุขมากๆ ให้สมกับที่ผมคิดถึงเลย”
ทุกการกระทำของเขา เหมือนมีประจุไฟฟ้า ไม่ว่าเขาจะจูบ จับ ลูบไล้ส่วนใด ทำเอาวิภาวรรณเสียวสยิว ขนลุกไปทั้งตัว เขาเริ่มปลดบราออกแล้วจูบดูดดุนอยู่ที่สองเต้านม สลับไปมา คราวนี้เพิ่มความเร่าร้อนและรุนแรงกว่าเดิม บางครั้งก็บีบเต้า และบดบี้ปลายหัวนม
“อึ้ยยย พลจ๋าาา ภาใจจะขาดแล้ววว จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ”
เขาเลื่อนมาตามหน้าท้องแบบราบ พรมจูบไปทั่ว แล้วมาเน้นตวัดปลายลิ้นฉกลงไปตรงรอยบุ๋มของสะดือ ทำเอาวิภาวรรณแอ่นร่างระเร่า บิดตัวเกร็ง มือพลก็รวบกระโปรงบาน รีดจีบเรียบ ชายยาวปิดครึ่งแข้ง รวบมาจนถึงหน้าขา มือนั้นก็ค่อยๆ ลูบไล้ แล้วแซะเข้าไปในซอกหลืบ วิภาวรรณถ่างขาออกโดยอัตโนมัติ ปากเขายังจูบลูบที่ท้องน้อยอยู่
“พลจ๋า เร็วๆ เถอะคะ ภา.. ภา หงี่ เงี่ยนจะทนไม่ไหวแล้ว”
คราวนี้พลไม่ค่อยพูดตอบโต้ ตั้งหน้าตั้งตาใช้ชิวหา และฝ่ามือเล้าโลมสาวใหญ่หน้าสวย แต่บัดนี้บิดเบี้ยวเหยเก ผมเผ้าที่ดำ ยาวสลวย เริ่มกระจายไม่เป็นระเบียบ มือหล่อนไม่มีสิ่งใดคว้า ก็จับที่เต้าของตัวเอง ลูบ บด บีบไปมา วีรพลจัดการกับกระโปรงถอดทิ้ง พร้อมทั้งชั้นในตัวจิ๋วอย่างไม่ใยดี วิภาวรรณก็แอ่นกายขึ้นให้ความสะดวก พอไม่มีอาภรณ์ใดๆ เหลืออยู่ วีรพลก็เข้าซุกที่หว่างขาของหล่อนแบะขาถ่างออก แล้วก็จบบริเวณหน้าขา รอบๆ แคม
“โอยยยยย พลจ๋า รีบๆ หน่อย เมียใจจะขาดอยู่แล้ว ทำไมวันนี้มันเสียวมากมายอย่างนี้”
ในใจหล่อนคิดว่าเค้าจะเลียหีหล่อนเลย แต่ที่ไหนได้เขากลับเลียไปรอบๆ เฉียดไปมา ทำให้เกิดความงุ่นง่านแก่สาวใหญ่ร่างขาวนวลเป็นอย่างยิ่ง รูหีหล่อนเอ่อล้นไปด้วยเมือกเสียว วีรพลใช้สองมือแบะอ้ากลีบหีงาม มีเส้นไหมดำประปราย เป็นระเบียบไม่รุงรัง แล้วก็ฉกลิ้นแซะเข้าไป ซึ่งเป็นที่ต้องการของวิภาวรรณแต่แรกอยู่แล้ว
“อูยยย เลียหีเมียแล้ว อ๊ายยยยย เสียวไปหมดแล้ว พลจ๋า อุ้ย......ใช้นิ้วแหย่ด้วย อ๊ออยยย ซี้ดดดดดดดด ที่รัก ภาเสียวไปหมดแล้ว ภาจะทนไม่ไหวแล้วนะ อูยยยย”
“ทนไม่ไหว ก็ไม่ต้องทนสิจ๊ะ ปล่อยไปตามสบาย บอกแล้ววันนี้ผมจะทำให้ภามีความสุขที่สุด”
“คะ พลขา อูยยยยย ทั้งแยงทั้งเลีย อ๊ายยยยยย...........เม้มแตดภาอีก ทำไมพลทำเก่งอย่างงี้ อะ. อะ... อ๊อยยยย ภาจะไม่ไหวแล้วคะ พลขาาาา” วีรพลโจมตีหล่อนด้วยปากลิ้น นิ้วก็แหย่แยงเข้าๆ ออกๆ จากจังหวะช้าๆ ก็ค่อยๆ เร่งจังหวะขึ้น จนวิภาวรรณบิดกายเร่าๆ แอ่นสะโพกจนไม่ติดที่นอนแล้ว ตาหลับปี๋ มือก็บดบี้ปลายติ่งหัวนมแรงขึ้น
“พล.......อ๊อยยยยยย ภาทนไม่ไหวแล้ว เสียวที่สุดเลยค่ะ พล นะ.. นะ.. น้ำภา น้ำหีภาจะแตกแล้วววว พลจ๋าาาา อ๊ายยยยยยยยยยยซ์ ซี้ดดดดดดดดด”
พลก็เร่งจังหวะเร็วและแรงขึ้น จนวิภาวรรณกรีดร้องลั่น เสียงกรีดหายเป็นห้วงๆ เสียงหายใจขัดๆ จากนั้นก็ถอนใจยาวเฮือกใหญ่ นอนเหยียดกายเหมือนหมดเรี่ยวแรง หล่อนถึงสวรรค์ไปแล้ว ทั้งๆ ที่วีรพลเสื้อ กางเกงก็ยังไม่ถอดเลย
“เป็นยังไงจ๊ะ ที่รัก เสียวดีมั้ย ดูสิ แคมของภาน่ะ น่าดูดน่าเลียที่สุดเลย”
“อูยยย เสียวสุดๆ เลยค่ะ พลจ๋าาาา ภาไม่เคยเสียวอะไรอย่างนี้มาก่อน ทำไมพลถึงทำเก่งอย่างนี้ ไปทำอะไรมาเนี่ย” ถามเขาไปทั้งๆ ที่เสียงยังสั่น หายใจหอบจนอกกระเพื่อมขึ้นลง
วีรพลขยับขึ้นมาทาบติดร่างวิภาวรรณ กอดจูบหอมแก้ม ยิ้มกระหยิ่มที่สามารถทำให้เมียรักพอใจ สุขสม
“ก็อยากทำให้ภามีความสุข มันก็ต้องศึกษาบ้าง หึหึหึ”
“อย่าบอกนะ ไปฝึกกับใครมา ภาไม่ยอม” เสียงกระเง้ากระหงอดฉอเลาะ น่ารักพองาม นี่ไม่รู้มาจะก่อนใครจะเชื่อว่าหล่อนอายุ 45 ดูตอนนี้ฉอเลาะอ่อนหวานปานสาวรุ่นๆ ดวงตาบ๊องแบ๊วสดใส จนวีรพลอดไม่ได้หอมแก้มอีกฟอดใหญ่
“ฮื้อ คิดมาก ผมจะมีใครซะอีกนอกจากภาคนสวยคนเดียว เอาเป็นว่าผมจะทำให้ดีที่สุด เพื่อภาที่รักของผม เชื่อใจผมนะจ๊ะ ที่รัก”
“แต่นี่ ภาเอาเปรียบพลนะ ภาสุขเสียวอยู่คนเดียว พลยังไม่ได้อะไรเลย”
“ผมต้องได้อยู่แล้ว เรื่องอะไรจะปล่อยให้ภาเสียวคนเดียว”
“ง้านก็ถอดเสื้อ กางเกงออกสิคะ ภาจะทำให้บ้าง”
ไม่รอช้า วีรพลรีบถอดเสื้อกางเกงออกหมด เข้าทาบร่างเปลือยขาวผ่อง เข้าจูบเมียรักอีก แต่วิภาวรรณผลักอกออก
“ม่ายอาวว ไม่จูบแล้ว ภาทำให้บ้างดีกว่า ไหนดูซิ หืมม ใหญ่มากๆ เด๋วภาอมควยให้นะคะ ผัวขา” คำหยาบโลนเริ่มหลุดออกจากปากคนสวยที่เคยเรียบร้อย อ่อนหวาน หล่อนก้มลมคว้าท่อนเขื่องได้ก็จับรูดขึ้นลง ฉกปลายลิ้นเลียรอบหัวควยวีรพลอย่างช่ำชอง
“อืมมม ลิ้นภานุ่มดีเหลือเกิน อาาาาาาา”
“อะ อาาาาาาา เต็มปากเต็มคำเลยคะ พลขาาาา อูยยยย พล อย่าแหย่หีภาสิ มะกี้ยังเสียวไม่หายเลย ว้ายยยย ยังจะกระแทกนิ้วมาอีก เด๋วภาก็เสร็จอีกหรอก อูวววววว”
“แล้วไม่ดีเหรอจ๊ะ ผมอยากให้ภามีสุขมากๆ นิ”
“เดี๋ยวภาจะขาดใจตายซะก่อนสิคะ อูยยยย อย่าเร่งมือเร็วนะคะ ค่อยๆ เบาๆ ก็ได้ ขอภาดูดควยให้พลเงี่ยนเต็มที่ก่อน”
ทำไปได้สักพักกลับกลายเป็นวิภาวรรณเสียงเอง ทนความหงี่ง่านไม่ไหว เพราะวีรพลทั้งแยงหี บีบบี้แคม จึงอมท่อนควยครั้งสุดท้ายแทบสุดคอหอย เม้มปากรูดขึ้นหลุดดังผลั๊วะ ไม่รู้ว่าทั้งน้ำลายหล่อนหรือว่าน้ำเงี่ยนวีรพลอาบควยอวบๆ ของเขามันวาบ วิภาวรรณขยับกลับตัวหันหน้ามาหาเขา ส่งสายตายั่วยวนสุดทน แล้วก้าวขาคร่อมตัวชายสุดที่รัก
“ภาจะขย่มเย็ดพลแล้วนะ ที่รัก ภาทนเงี่ยนไม่ไหวแล้ว”
“มาเลยจ๊ะ เมียจ๋า” วีรพล คว้าท่อนควยของตัวเองจับตั้งตรง วิภาวรรณใช้แขนสองข้างวางข้างกายเขา ยันกายกระดกสะโพกขึ้นก้มมองท่อนควยแล้วค่อยหย่อนตัวลงมา
“อาาาาา คับแน่นจังเลย พลอย่าเพิ่งขยับนะ เดี๋ยวภากดลง ภาจะขย่มเย็ดเอง อูยยยย เกือบมิดแล้ว ที่รักจ๋าาาาา” พอกดลงเกือบมิด วีรพลก็เอื้อมมือมาปัดผมหล่อน ซึ่งบัดนี้แทบกระเซิงไม่เป็นทรง รวบให้ไปไว้ข้างหลัง เห็นหน้าคนรักตาเยิ้ม ปากเผยอ ครางฮือๆ แล้วค่อยๆ ตะบบไปที่ทรวงอกสล้าง เต่งตึง กลมงาม อาจจะเพราะลาร้างจากเรื่องบนเตียงนาน และการดูแลรูปร่างของหล่อนอย่างดี จึงดูเหมือนว่ายังเป็นหุ่นทรงของสาวๆ วัย 20 ด้วยซ้ำ ทุกส่วนสัดยังฟิตเปรี๊ยะ หนั่นแน่น ชวนหลงใหล ค่อยๆ คลำ แล้วเพิ่มการบีบเค้นเบา
“อ๊อยยยยย พลจ๋า มันเสียวเข้าถึงท้องเลย ควยพลช่างดีอะไรอย่างนี้ อูยยย ซี้ดดดดดดดดดดดด”
“ผมเองก็เสียว ขะ... ควยเหมือนกัน หะ....หีภาก็บีบรัดของผมไปหมด” เขาก็เริ่มจะพูดคำหยาบไปด้วยแล้ว จากที่เคยกระดาก
“ภาไม่เคยคิดว่าของพลจะใหญ่ขนาดนี้เลยย ซี้ดดดดดดดดดด...”
วิภาวรรณเริ่มขย่มแรงขึ้นๆ เพราะเริ่มทนไม่ไหวแล้ว ทันใดนั้น วีรพลก็ทำสิ่งที่หล่อนยังไม่ทันคาดคิด เขาเอื้อมมือจับบริเวณเอวหรือเชิงกรานของหล่อน นวดเฟ้น แล้วเลื่อนไปจับแก้มก้น เท่านั้นเอง จากที่อยู่เป็นฝ่ายรับ เขาก็ดีดเอวขึ้นหน่อยกระหน่ำการกระเด้าสวนขึ้น
“อ๊ายยยยย พลจ๋า จะกระแทกสวนก็ไม่บอก อูยยยยย”
เค้าไม่พูดโต้ตอบ ยังคงกระชับแก้มก้นเธอไว้ คราวนี้เขาออกแรงกระแทงสวนถี่ยิบ จนวิภาวรรณหน้าคะมำซบอกเขา
“อึ้ยยยยยยยยยย อ๊ายยยยยยยยยยยยยย” ตอนนี้หล่อนขยับไปไหนไม่ได้ ทำได้แต่เกาะแขนเขาไว้ ครางไม่เป็นภาษา วีรพลยังคงกระแทกสวนขึ้นทั้งเร็วและแรงเป็นจักรผัน
“พลจ๋าาาาา โอยยยยย ภาไม่ไหวแล้ว น้ำภาจะแตกอีกแล้ว ผัวเย็ดเมียถึงใจเหลือเกิน อูยยยยยย”
“อาาาาา ผม ก็จะทนไม่ไหวเหมือนกัน ที่รัก อ๊าาาาาาาาาาาาา”
“อะ...... เสียวหีเหลือเกิน ภาไม่ไหวแล้ว ผัวจ๋า อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย”
เสียงหล่อนขาดหายเป็นห้วง มือขยุ้มไหล่เขาจนเป็นรอย ใบหน้าซุกข้างลำคอวีรพล อกอวบอิ่มเบียดแผงอกเขาแน่น
“พลจ๋า พอก่อน พอก่อนเถอะ ที่รัก..... ภาเหมือนใจจะขาด” หล่อนบอกเขาพลางหอบฮักๆ วีรพลจึงผ่อนช้าแล้วหยุดลง
“ที่รัก น้ำยังไม่ออกอีกเหรอคะ แต่ภาสองทีแล้วนะ อูยยยยย พลอย่าเพิ่งขยับนะ ภาเสียวยังไงไม่รู้ ฮูยยยย...” ในใจหล่อนยังคิด วันนี้ทำไมเขาทำให้หล่อนได้สุดสวาทขาดดิ้น และหล่อนเองทำไมเสียวซ่านไปหมด เกินจะบรรยาย แม้ผ่านการเสพสมมานับไม่ถ้วน หล่อนก็ไม่เคยซาบซ่านถึงปานนี้ สักพัก วีรพลก็ผลักให้หล่อนลงมานอนข้างตัวจับตัวเธอให้นอนหันหลัง มือข้างหนึ่งสอดเข้าสีข้างด้านล่างอีกมือหนึ่ง จับขาเธอข้างหนึ่งแบะแยกแทบจะชี้ฟ้าถ้าหล่อนไม่งอขาพับลง
“เมียจ๋า ช่วยจับควยยัดเข้าให้ที ขอผมเย็ดท่านี้นะ อยากกอดภาด้วย เย็ดไปด้วย”
“คะ เอาสิคะ ภาจัดให้ตรงแล้ว ภาพร้อมแล้ว เย็ดเมียเลยคะ ผัวขาาาาา”
พอเข้าได้ที่วีรพลก็ขยับบั้นเอว เน้นๆ หน่วงๆ วิภาวรรณซึ่งเพิ่งเสร็จสมไปหมาดๆ ถึงต้องกัดฟัน กัดริมฝีปาก หน้าท้องหล่อนเกร็งเป็นลอน แล้ววีรพลก็เร่งเครื่องเร็วขึ้นๆ
“ภาจ๋า คราวนี้ผมไม่ไหวแล้ว โอยยยยยย”
“แรงๆ ได้เลยคะ ที่รัก เมียทนได้ อูยยยย”
“ผะ.....ผม จะออกแล้ว ภาจ๋า เมียจ๋า น้ำจะออก จะแตกแล้วววว”
เขาตระกองกอดรวบทรวงอกวิภาวรรณจากข้างหลัง บั้นเอวทำงานอย่างหนักหน่วงและถี่ จนในที่สุดน้ำรักก็กระฉูดเข้าโพรงอย่างเอ่อล้น วิภาวรรณรู้สึกอุ่นวาบ ซาบซ่านไปทั้งกาย เหงื่อท่วมตัว วีรพลยังคงแช่ค้างไว้สักพัก สองแขนยังโอบกอดหล่อน ยื่นใบหน้าเข้าหอมดอมดมแก้มระเรื่อ วิภาวรรณก็เอี้ยวหน้าหันไปรับ แล้วทั้งต่างแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม
“โอยยย ภาใจจะขาดตาย พลบอกมานะ ไปทำอะไรมาคะนี่ คราวก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ไปฝึกกับใครมา ฮึ”
“เอ่อ ต้องขอบคุณธนธรณ์มันนะ”
“หา ว่าอะไรนะคะ นี่พล!!!! กับธนธรณ์”
“หื๊อออ คิดอะไรนะ เจ้าธรมันเอาหนัง เอ่อ.... หนังโป๊ มาให้ผมดูอ่ะ มันบอกว่าคนที่จะมีคู่ครองควรจะศึกษาไว้ ผมอยากจะทำให้ภามีความสุข ก็เลยดูไว้เพื่อศึกษา”
“แหม๋ ใครจะไปรู้ หน้าตาพลมันบอกยี่ห้ออยู่ด้วย ธนธรณ์นี่ก็เหลือเกิน”
“อ่าวววว หึงผมเหรอ โถ่ ไม่เอาน่า เชื่อใจผมเถอะ นะนะ ที่รัก”
“ไม่รุ ไม่ชิ” วีรพลยังคงกอดออดอ้อนสักพัก ลำควยก็อ่อนตัวหลุดจากรูสวาท
“ดูสิ น้ำพลออกมามากเลยอ่ะ คงต้องไปอาบน้ำอีกรอบแล้วล่ะ”
“ผมก็เหมือนกัน ฟู่ววววว เหนื่อยจัง แต่ก็มีความสุข”
“พลไปอาบก่อนนะคะ ภาจะจัดผ้าปูใหม่ก่อน แล้วจะอาบทีหลัง ดูสิเปรอะหมดเลย จะได้นอนกัน นะคะ คนดี” จุ้บที่แก้มเขาเบาๆ อีกทั้งบี้ปลายจมูกเขาอย่างรักใคร่ วีรพลลุกไปอาบน้ามกลับมานอนที่เตียงซึ่งปูด้วยผ้าใหม่ วิภาวรรณก็เข้าอาบน้ำ ยิ่งคิดเธอยิ่งหลงใหลเขามากขึ้น ทำให้เธอเคลิ้ม อาบน้ำนาน พอออกจากห้องอาบน้ำมา ก็เห็นวีรพลหลับไปแล้ว หล่อนขยับเข้าใกล้ข้างตัวเขายังพิงหมอนกิ่งเอนกึ่งนอน มองไปที่หัวเตียง เพิ่งนึกได้ รีบเก็บรูปนั้นไว้ในลิ้นชัก แล้วกลับเข้ามาหาเขาเหมือนเดิม
“ภาจ๋า ผมรักภามากนะ” เขายังเพ้อละเมอมือป่ายปะ ตายังหลับพริ้ม คว้าหล่อนเข้ากอด วิภาวรรณมองเขาอย่างหลงใหล ในใจครุ่นคิด นี่หล่อนทำถูกหรือเปล่าที่จะทำใจอยู่ในสภาพนี้ คิดแล้วน้ำตาหล่อนก็ร่วงเผาะ โน้มหน้าจูบหน้าผากเขาเบาๆ
“แม่ก็รักลูกจ๊ะ ฝันดีนะคะ ลูกที่รัก” ...........................


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #7 on: June 02, 2013, 08:50:30 pm
จากวันนั้น วิภาวรรณก็เข้าทำงานตามปกติ ด้วยสีหน้าระรื่น ทักทายกับพนักงานทุกคนในธนาคารเสียงแจ๋ว จนเป็นที่แปลกใจ โดยเฉพาะแพรวา หล่อนสังเกตมาหลายวันแล้ว เกิดความอยากรู้ว่า เจ้านายสาวเกิดอะไรขึ้น ถึงได้เปลี่ยนแปลงไป สงสัยจะปรับความเข้าใจกับวีรพลแล้ว น่าจะเป็นเช่นนั้น ก่อนนี้เธอไม่ค่อยกล้าเข้าไปคุยด้วยเท่าไหร่ เพราะหากวิภาวรรณเงียบขรึม หล่อนก็ไม่กล้าไปคุย เพราะส่วนมากแพรวามักจะไปพูดคุยชวนหัวเราะสนุกสนาน เหตุนี้เองทำให้วิภาวรรณสนิทสนมและรักใคร่แพรวากว่าพนักงานทุกคน
“อะแฮ่ม!! เอ พี่ภาของแพร เป็นอะไรน๊า หมู่นี้อารมณ์ดีเชียว หรือว่าพี่พลบอกรัก ขอแต่งงาน....”
“อะรายยยย แพร... จะให้พี่หน้าบึ้งทั้งชาติเลยเหรอ..” เสียงมือถือดังแทรกเข้ามาซะก่อน ...
“โทษจ่ะ แป้บนะ...... ค่ะ ......ค่า.... เพิ่งถึงมะกี้เอง.......ค่า.. เอ่อ ภามีงานอยู่นะคะ แค่นี้นะคะ” พอวางสายก็รีบปรับสีหน้าให้เรียบ เหมือนกับไม่อยากคุยโทรศัพท์ต่อหน้าลูกน้อง
“นั่นแน่ พี่พลโทรมาแน่ๆ รับสายยิ้มหวานขนาดนี้”
“ไม่ช่ายหรอกจ่ะ เพื่อนพี่เองนะคะ”
“หูยยยย โกหกไม่เนียนเลยคะ แพรทำงานกับพี่จะ 4 ปีแล้ว เคยได้ยินแต่คำว่า ชั้น ดิชั้น เพิ่งได้ยินเรียกว่า ภา คราวนี้แหละ อย่ามาอำแพรเลยน่า” แพรวาส่งสายตาทะเล้น รู้ทัน วิภาวรรณเองก็จนแต้ม รีบตัดบทไล่แพรไปทำงานต่อ ทั้งออฟฟิต วันนั้นบรรยากาศครื้นเครง เพราะพนักงานเห็นเจ้านายอารมณ์ดี ต่างก็ทำงานอย่างไม่เครียด จนเลิกงาน วิภาวรรณก็กลับบ้านสวน ทั้งที่ปกติหล่อนมักจะอยู่ร้านขายของฝาก ยกเว้นเย็นวันศุกร์-อาทิตย์ จนพนักงานขายของที่ทำงานด้วยตั้งแต่ตั้งร้านใหม่ๆ เย้าแหย่ เพราะพอจะรู้อยู่บ้างว่ามีหมอหนุ่มมาติดพัน ซึ่งสร้างบ้านสวนติดกัน พอมาถึงบ้านก็เปลี่ยนชุด เดินไปหาวีรพลซึ่งวันนี้ไม่มีตารางเวรเข้าโรงพยาบาล เห็นเค้าเดินเข้าไปในสวนจึงเดินตามไป
“มาทำอะไรในสวนคะ พล”
“ผมมาดูที่อ่ะครับ วางแผนไว้ว่า จะเปลี่ยนจากมังคุด ทุเรียน ที่มีอยู่ 4-5 ไร่เนี่ย มาเป็นสวนกล้วยไม้”
“หืมมมม ทำไมละคะ”
“ผมฝันไว้ อยากปลูกกล้วยไม้ ที่จันทบุรีเค้าปลูกผลไม้สวนกันเยอะแยะแล้ว ผมเองก็ไม่ได้หวังอยากจะปลูกผลไม้ขายอยู่แล้ว เอาแค่เหลือไว้พอได้กินบ้างก็พอ เลยอยากทำสิ่งที่ผมฝันไว้ ก็ไม่ได้คิดว่าจะขายกล้วยไม้เอาทุนกำไร อะไรหรอก แค่อยากมีน่ะ ผมยังพอจำวิชาเพาะกล้วยไม้ตอนผมอยู่กับลุงที่เชียงใหม่ตั้งแต่ 11หรือ12 ขวบนี่แหละจนถึงตอนจะเข้ามหา’ลัย ถึงได้กลับมากรุงเทพฯ ก็คิดว่าน่าจะลองทำดูบ้าง กลับบ้านมาอยู่ในสวนดอกไม้สวยๆ ผมคิดว่ามันมีความสุขดี เหมือนคุณลุงผม กะว่าถ้าภามีลูก อยากให้ภาลาออกจากงาน มาอยู่สวนแทน ผมจะดูงานที่โรงพยาบาล กับ ร้านขายของให้ ภาคิดว่าไง” เขาพูดซะยืดยาว ว่าพลางก็โอบร่างวิภาวรรณมาแนบกาย
“ไม่รู้สิคะ ภายังคิดไม่ออก ตอนเด็ก พลไปอยู่เชียงใหม่เหรอคะ มิน่า!!”
“อะไรเหรอคับ” “อะ.. เอ่อ ปล่าวคะ ก็ดีนะคะ ที่จันทบุรีนี่ก็อากาศดี ชุ่มชื้นเกือบทั้งปี น่าจะเพาะกล้วยไม้ได้สวย ว่าแล้วก็อยากเห็นฝีมือพลจัง ว่าจะปลูกดอกไม้ได้สวยมั้ยน๊าาาาา”
“หึหึ เอ้อ นี่ คิดยังไงครับนี่ ใส่ชุดแบบนี้ เดินมาในสวนน่ะ” วิภาวรรณขมวดคิ้ว มองดูตัวเอง สวมกางเกงขาสั้นสีขาวแนบเนื้อ อวดเรียวขาสวย เสื้อยืดสีชมพูจางแบบง่ายๆ รัดรูป จนมองเห็นสัดส่วนชัดเจน โดยเฉพาะหน้าอก มันกลมเป็นเต้าเด่นชัด ทำให้หล่อนดูกลายเป็นสาวสวยวัยกระเตาะไปเลย ตั้งแต่วีรพลย้ายมา เขายังไม่เคยเห็นหล่อนใส่ชุดแบบนี้สักครั้ง เคยเห็นแต่ชุดประมาณเจ้าหญิง หวานๆ เรียบร้อย
“ทำไมคะ อยู่บ้านก็ใส่แบบสบายๆ ไม่เห็นมีอะไรนิคะ”
“ผมกลัวเจ้าป่า เจ้าสวนจะน้ำลายหกนะ ฮ่ะๆๆๆ โอ้ยยย” ไม่ทันระวังก็เลยโดนทุบปั้กเข้าให้
“บ้า คนลามก”
“เอ้อ ภาครับ เสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ ภาว่างมั้ย”
“มีอะไรเหรอคะ”
“พอดีที่มหาลัยเค้าจัดงานสังสรรค์รวมรุ่นศิษย์เก่านักศึกษาแพทย์ประจำปีน่ะ ผมอยากให้ภาไปด้วย ส่วนเจ้าธรก็จะให้ชวนน้องแพรไป จะได้รู้จักกับเพื่อนๆ ผม แล้วผมจะพาว่าที่สะใภ้ไปรู้จักกับคุณพ่อ กราบเท้าท่านด้วย ภาว่างมั้ยครับ”
“อะ เอ่อ... คือ..”
“ทำไมละ”
“แหม พลไม่อายเพื่อนบ้างเหรอ ภาอายเค้านะ และก้อ คุณพ่อพลจะยอมรับภาเหรอคะ รอให้เวลาอีกหน่อยเถอะคะ ภาคิดว่าภายังไม่พร้อม” วิภาวรรณ รีบทำสีหน้ากลบเกลื่น
“ว้าาาาา ตั้งสองสามวัน คิดถึงแย่เลย ถ้าภาไม่ไปด้วย”
“แล้วพลไม่ไป ไม่ได้เหรอคะ” แววตาหล่อนหม่นลง สวมกอดเขาไว้ บัดนี้ เมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง หล่อนมักจะทำตัวเหมือนเด็กขาดความอบอุ่น ผิดจากที่ทำงานหรือว่าที่อื่น ที่ต้องวางบุคลิกเรียบขรึม เป็นผู้นำ
“คงต้องไปอ่าครับ กะว่าจะคุยธุระกับคุณพ่อด้วย ตั้งแต่ย้ายมาที่นี่ จะเกือบปีล่ะ ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเลย คิดถึงท่านเหมือนกัน ผมยังมีน้องสาวน่ารักๆ อีกคนน๊า ถ้าไม่ติดว่าแม่เธอไม่ชอบขี้หน้าผมล่ะก้อ ครอบครัวผมคงได้อยู่พร้อมหน้ากันหมด ยกเว้นแม่ของผม” น้ำเสียงของวีรพลเข้มขรึมทันที วิภาวรรณได้แต่ลอบมองหน้าเขาเหมือนอยากจะบอกอะไรบางอย่าง โดยที่วีรพลไม่ได้สังเกต
“ป่ะ กลับเข้าบ้านเถอะ หิวล่ะ เอ..... วันนี้เมนูอะไรดีน๊าาาาา แกงจืด แกงป่า แกงเผ็ด ตบท้ายด้วยของหวานขนมเค้ก ดีมั๊ยที่รัก ฮ่ะๆๆๆ” หัวเราะพลางจ้องมองหน้าหล่อนเหมือนเป็นการบอกว่าเขาสื่อความหมายอะไร วิภาวรรณเงื้อกำปั้นจะทุบเขาอีก แต่คราวนี้ไหวตัวทันรวบแขนหล่อนไว้กอด แล้วพากันเดินเข้าบ้านไป..


เย็นวันศุกร์ก่อนที่วีรพลกับธนธรณ์จะเดินทาง แพรวากับวิภาวรรณพากันมาที่บ้านสวน ช่วยกันทำอาหาร ทั้งธนธรณ์และวีรพลตัดสินใจให้แพรวามาอยู่เป็นเพื่อนวิภาวรรณ ซึ่งแพรวาเองก็ตั้งใจอย่างนั้นอยู่แล้ว ทั้ง 4 ร่วมทานอาหารด้วยกันพูดสนุกสนาน จนถึงเวลาเดินทาง สองสาวต่างวัยก็ได้ส่งอำลาคนรัก แม้จะแค่ไปทำธุระไม่กี่วัน ก็ทำเอาสองสาวใจหายเหมือนกัน เพราะตอนนี้ต่างก็สนิทสนมกันอย่างมาก โดยเฉพาะวิภาวรรณนั้นสีหน้าเธอบ่งบอกอาการได้ชัด วีรพลฝากรถเขาให้วิภาวรรณใช้ อ้างว่ารถวิภาวรรณเก่าแล้ว ส่วนเขาจะเปลี่ยนกันขับรถของธนธรณ์เข้ากรุงเทพฯ แพรวาลอบมองสาวใหญ่คนสวย เห็นวิภาวรรณมองส่ง วีรพลกับธนธรณ์ขับรถออกไปด้วยสายตาเหม่อลอย
“แหม เพิ่งจะได้รู้นะเนี่ย พี่พลจะเป็นคนโรแมนติกเอามากๆ เห็นเผินๆ ไม่ค่อยพูดจา อยู่ๆ ก็คว้าหัวใจพี่ภาของหนูไปทั้งดวงแล้ว” แพรวาพูดลอยหน้า ทำตาซึ้ง ล้อเลียน
“หื๊ออ มากไปแล้วแพร ถ้าไม่มีหัวใจ พี่ก็ตายแล้วสิ”
“ก็แพรมองเห็นตอนนี้ พี่ภาเหมือนคนไร้วิญญาณไปแระ” หล่อนยังไม่เลิกกระเซ้าวิภาวรรณ
“ว่าแต่แพรเถอะ ไปกันถึงไหนแล้วค๊าา”
“ก็ พี่หมอบอกว่าไปกรุงเทพฯ คราวนี้ จะไปปรึกษากับญาติผู้ใหญ่ และก็คุยกับท่าน ผอ.ที่โรงพยาบาลให้เป็นเถ้าแก่อยู่คะ รอนานไม่ได้แล้วคะ เอ่อ...อิอิ เดี๋ยว เอ่อ.. ท้องโย้ซะก่อน”
“ห๊า แพร จริงเหรอจ๊ะ แหม วัยรุ่นวัยไฟกันจังนะ พี่ว่าแพรไม่รอให้มั่นใจหรือหลังแต่งงานก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”
“คะ แล้วพี่ภาละคะ จะได้ฤกษ์รื้อรั้วกั้นบ้านเมื่อไหร่คะ”
วิภาวรรณได้แต่ยิ้มเฉยๆ
“น่าอิจฉาจังเลย ที่ดินพี่ภาก็ไม่น้อยถ้าแต่งงานกับพี่พล รวมเข้าด้วยกันนี่เกือบสองร้อยไร่เลยนะคะ ที่จริงพี่ภาไม่เห็นต้องทำงานเลย แค่อยู่เฉยๆ ก็สบายแล้ว นี่ถ้าอยู่กับพี่พลด้วยละก้อ ไม่รู้จะเอาเงินเก็บไว้ไหนแล้ว”
“พี่รักที่จะทำงานจ๊ะ ได้รู้จักผู้คนเยอะแยะ จะได้ไม่เหงา มีเงินแต่ไม่มีสังคม เพื่อนฝูง จะมีค่าอะไรล่ะจ๊ะ”
“งืมม บ้านพี่ภาก็เป็นเรือนไทย บ้านพี่พลก็เรือนไทย แต่ออกปนแนวตะวันตกนิดหน่อย อะไรจะใจตรงกันขนาดน้านน”
“พลเค้าใฝ่ฝันอยากได้บ้านอย่างนี้มานานแล้วล่ะ แล้วเค้ายังจะทำสวนกล้วยไม้ด้วยนะ”
“แม๊ รู้ข้อมูลกันซะละเอียดขนาดนี้ แพรว่า รื้อรั้วบ้านเถอะคะ คิคิคิคิ”
“ยัยบ๊อง อื้อออ พรุ่งนี้เราไประยองกันดีมั้ยจ๊ะ แพร” โดนกัดโดนแซวไม่วายเว้น วิภาวรรณเลยเปลี่ยนเรื่องคุย
“ไประยอง!! ไปทำไมละฮิ ?”
“ไปเที่ยวทะเลกันไง ชอปปิ้งด้วย นานแล้วเราไม่ได้เที่ยวด้วยกันเลย หยุดสองวันพี่ว่าเราไปเที่ยวผ่อนคลายกันบ้างก็ดี พี่เป็นเจ้าภาพให้แพรด้วย ทุกอย่างเลย โอเคมั๊ย?”
“แหม ชอปปิ้งที แพรมือหนักน๊า”
“ตามสบายจ๊า พี่ไม่อั้น”
“อ่อ ลืมไปว่าไปกับใคร ฮิฮิ โอเคคะ”....
เช้ามืดสองสาวก็พากันแต่งตัว เตรียมออกไปเที่ยวกัน แพรวา แต่งชุดเสื้อสายเดี่ยวสีฟ้า กางเกงยีนส์ขาสั้นเป็นริ้วตามชายขากางเกง ดูแล้วน่ารัก ส่วนวิภาวรรณเดินลงมาจะขึ้นรถ
“โห พี่ภา แพรตาฝาดไปหรือเปล่า”
“หืมม มีอะไรหรือจ๊ะ?” ถามพลางหันสำรวจตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
“ก็พี่ภา ไม่เคยแต่งชุดแบบนี้เลย พี่ภาเคยเป็นนางแบบหรือปล่าวคะเนี่ย” วิภาวรรณสวมกางเกงยีนส์ขายาว เรียวแนบตลอดขา ทำให้ขาเธอดูยาวได้ส่วน เสื้อยืดสีเหลืองรัดรูป แต่มีเสื้อสีขาว แขนยาวคลุมอีกที เพียงแต่ไม่ได้ติดกระดุม สังเกตดีๆ จะเห็นได้ว่า ตัวชั้นในจะคล้ายๆ สายเดี่ยว อวดเต้ากลมพองาม มีแว่นกันแดดใส่คาดไว้ ทับที่คาดผม ผมยาวสลวย ถูกปล่อยเป็นธรรมชาติ ไม่ได้รวบเกล้าไว้อย่างเคยทำประจำ ที่แพรวาแปลกใจก็คือไม่เคยเห็นหล่อนใส่ชุดแบบรัดรูปให้เห็นสักครา เคยเห็นแต่วิภาวรรณ แต่งกายแบบปกปิดมิดชิด ซ่อนรูปร่าง ออกแนวหวาน เรียบร้อยอยู่เสมอ กระโปรงที่เคยเห็นหล่อนใส่สั้นมากที่ก็แค่เลยหัวเข่าขึ้นไปหน่อย แพรวามองเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างของนายสาว ก็อดยิ้มชื่นชมไม่ได้ เธออยากให้วิภาวรรณของเธออวดความสวยงามของเธอบ้าง ได้แค่คิดในใจ หมอวีรพลน่าจะมีอิทธิพลต่อจิตใจวิภาวรรณไม่น้อยทีเดียว
“อาราย แพร!! จ้องมองพี่อยู่ได้ ยังกะไม่เคยเห็นพี่เลยหรือไง ไปกันเถอะจ๊ะ เด๋วสาย พี่อยากขับรถให้ไปถึงระยองสัก 6-7 โมงเช้า จะได้รับบรรยากาศทะเลยามเช้าบ้าง”
“ฮิฮิฮิ เปล่าหรอกคะ แพรแค่แปลกใจ เจ้าหญิงหน้าหวานเปลี่ยนแปลงเป็นสาวมาดมั่นไปแล้ว ดูแปลกตาคะ พี่ภาหุ่นสูงเพรียวยังกะนางแบบเลย มิน่า พี่พลถึงได้เพ้อนักหนา”
“บ้าแล้ว ยัยบ๊อง ไปเถอะๆ” ไม่รู้จะโต้ตอบแพรวายังไง ก็ได้แต่ค้อนแล้วตัดบทขึ้นรถของวีรพลที่ทิ้งไว้ให้ขับออกไป
“แหม... เด๋วนี้ถึงกับฝากรถให้ใช้เลย ตัวไม่อยู่ยังอุตส่าห์มีสิ่งแทนใจไว้ให้ ฮิฮิฮิฮิ.... โห้ววว รถพี่พลนี่หรูไม่ใช่เล่น นั่งสบายวิ่งนิ่มนวลมากเลย เสียงเครื่องก็ไม่ดัง เบ๊นซ์หรูๆ นี่มันดีอย่างนี้เอง ไม่เหมือนเจ้ากระป๋องของแพร เร่งเครื่องนานๆ ก็ไม่ได้ เสียงดังอื้อ ฟังเพลงแทบไม่ได้”
“ก็ลองให้ธนธรณ์เค้าซื้อให้สักคันสิจ๊ะ รายนั้นเห็นว่าเป็นลูกเศรษฐีค้าพลอยนี่ พี่ว่าเค้าก็น่าจะพอซื้อให้แพรได้น๊า”
“ไม่เอาดีกว่าคะ รบกวนเขาเปล่าๆ อีกอย่างก็ยังเป็นแค่แฟน แค่พนักงานธนาคารจะเอาอะไรมากมาย มีให้ขับก็ดีถมเถแล้วคะพี่ ว่าแต่เราจะไปหาดไหนดีละคะ”
“ยังคิดไม่ออกเลย พี่ว่าเราขับไปเรื่อยๆ อยากลงเที่ยวที่ไหนก็จอดรถลงไปเล่นดีกว่านะ วันอาทิตย์ค่อยเดินหาที่ซื้อของ เย็นๆ ค่อยกลับก็ได้ ขับรถไม่กี่ชั่วโมงเอง”
“พี่ภานึกยังไงน๊า อยากเที่ยวนอกจังหวัด ทุกทีเห็นเที่ยว ชอปปิ้งแค่ในจันทบุรีเอง ที่จริงแค่ในจันทบุรีที่เที่ยวก็แยะออก”
“แหม ก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศมั่งสิจ๊ะ อุดอู้มากๆ เดี๋ยวได้เฉาตายกันพอดี เอ๊.....แพรนี่ เด๋วนี้ชักขี้สงสัยมากไปล่ะนะ ซักพี่หลายเรื่องละ จะจับผิดพี่เรื่องอะไรล่ะ”
“เปล่าซะหน่อย แค่เห็นพี่ภาเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มะก่อนพี่ภาอ่ะ ทำตัวเหมือนอมทุกข์ ไม่ค่อยเปิดโลก เหมือนมีความในใจอะไรเก็บไว้ แพรไม่อยากเห็นพี่ภาเป็นอย่างนั้นเลย”
“จ้า ยัยตัวจุ้น”
ทั้งสองสาวขับรถถึงระยองก็เร่หาสถานที่ถูกใจลงเล่นน้ำ วิภาวรรณเลือกหาดแห่งหนึ่งซึ่งคนไม่พลุ่งพล่าน ไม่เป็นที่ขึ้นชื่อของนักท่องเที่ยวนัก หล่อนอยากหาที่เล่นน้ำที่มันสงบๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ เปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำ บิกินี่สีเขียวสด หล่อนเป็นคนผิวขาวอยู่แล้วมันยิ่งขับให้ดูขาวนวลตามากยิ่งขึ้น อวดทรวดทรงอะร้าอร่ามชัดเจน แพรวาเองยังแปลกใจ ขนาดเธอเองยังไม่กล้า สวมแค่กางเกงขาสั้นหลวมๆ กับเสื้อสายเดี่ยวเท่านั้นลงเล่นน้ำ แพรวาจนอดถามไม่ได้ว่าทำไมถึงกล้าใส่บิกินี่ วิภาวรรณก็บอกว่าหล่อนเคยใส่ประจำเมื่อครั้งอยู่ที่บ้านที่กรุงเทพฯ เพียงแต่แค่ภายในบ้านเท่านั้น แต่คราวนี้อยากผ่อนคลายบ้าง หลังจากที่มีแต่เรื่องชวนให้ปวดหัวมาพักนึง สองสาวเล่นน้ำจนเป็นที่พอใจแล้วก็พากันขึ้นเปลี่ยนชุดตามเดิม ขับรถหาที่ทานอาหารเที่ยง ไปเจอร้านหนึ่ง ไม่ใหญ่มากนัก คนก็ยังไม่มาก จึงแวะเข้าไป นั่งสั่งเมนูแบบง่ายๆ แต่นั่งอยู่นานอาหารที่สั่งก็ยังไม่มาเสิร์ฟสักที
“เอ๊ะ ยังไงกัน แพร ลูกค้าก็ไม่มาก ทำไมไม่มีคนมาเสิร์ฟอาหารเลย”
“เด๋วแพรจัดการให้คะ พี่........ เอ่อ... คุณลุงๆ คุณลุงคะ อาหารอ่ะ ตั้งนานแล้วนะ จะรอเสิร์ฟเมื่อไหร่กันคะ”
“โทดจ๊ะหนู เอ..... เด็กๆ มันทำไรกันอยู่ เฮ่ย....ลูกค้ารอนานแล้ว ทำอะไรกันอยู่เว้ยยย” ชายวัยกลางคน ร้องเรียกพนักงาน แล้วหันกลับมา พูดหน้าเจื่อนๆ
“โทดทีนะ หนู ปกติก็ไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย เอ๊ะ...!!” ชายคนนั้นทำท่าแปลกใจ จ้องมองมาที่วิภาวรรณ ทำท่าเหมือนเจออะไร วิภาวรรณเองก็จ้องหน้ากึ่งตกใจ อยู่ดีๆ มีคนมาจ้องสำรวจเธอไปทั้งตัว เมื่อมองเห็นหน้าเขา วิภาวรรณชักสีหน้า ขมวดคิ้ว เหมือนเริ่มจำอะไรได้ลางๆ
“นี่ คุณวัลวิภา ช่ายหรือเปล่าครับ ช่ายแน่ๆ ใช่มั้ยครับ”
“ไม่ช่ายหรอกคะ ลุง นี่ พี่เค้าชื่อวิภาวรรณ ลุงคงจำผิดมั้ง”
“เด๋วก่อน แพร.... เอ๊ะ นิ.. นี่ ” วิภาวรรณพูดเชิงปรามให้หยุด แล้วพิศมองหน้าเขาเหมือนจะนึกอะไรออก แล้วยกมือจะชี้หน้า จะพูดก็ยังพูดไม่ออก มันยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก ดวงตาเธอเริ่มออกแววดุ
“ช่ายคุณวัลวิภา แน่ๆ หน้าตาแทบไม่เปลี่ยนเลย คุณคงจำผมไม่ได้ ผมธงชัยไงครับ”
“ธงชัย......นี่นาย...” วิภาวรรณเหมือนจะเริ่มจำอะไรได้ สีหน้าหล่อนเปลี่ยน เริ่มบึ้งตึง ตาดุขึ้น เหมือนจะโกรธเขามาแต่ชาติปางไหน ยกมือชี้หน้าเขา ขยับตัวลุกขึ้น
“แพร พี่ว่าเราเปลี่ยนร้านดีกว่า ไปเถอะ”
“เดี๋ยวครับๆ คุณวัลวิภา อย่าเพิ่งไป คุณจำผมได้แล้วช่ายมั้ยครับ”
“คนที่ชั้นไว้ใจทำชีวิตชั้นแทบไม่มีอะไรเหลือ คงจะลืมง่ายอยู่หรอก”
“คุณวัลวิภา อย่าเพิ่งไปเลยครับ ผมขอร้อง ผมอยากจะพูดบางเรื่องกับคุณ ได้โปรดนะครับ” ชายคนนั้น คุกเข่าลงต่อหน้า วิภาวรรณสีหน้าเหมือนโกรธเคือง มองเขาด้วยหางตา ลมหายแรงเกือบจะเป็นหอบ แต่แล้วก็นั่งลงตามเดิม แพรวายังงงกับเหตุการณ์ ไม่รู้ว่าสองคนมีอะไรกัน รู้จักกันได้อย่างไร
“นายมีอะไรก็พูดมา ชั้นไม่มีเวลา ไม่อยากเห็นหน้านายอีก” วิภาวรรณยังสีหน้าเดิม เชิดคอระหง
“ผมอยากจะขอโทษ สิ่งที่ผมทำลงไป ผมคิดอยู่แล้วว่ามันคงจะทำใจยากที่คุณภาจะยกโทษให้ผม ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ผมก็อยู่มาอย่างทุกข์ใจมาตลอด ตราบใดที่คุณภา ยังไม่ยกโทษให้ผม ผมรู้ว่าผมผิดเอง ผมไม่น่าทำกับคุณภาแบบนั้น ผมไม่น่าเนรคุณคุณภาเลย ขอให้คุณภายกโทษให้ผมด้วย ผมยินดีจะชดใช้ ไม่ว่าคุณภาจะให้ผมทำอะไร”
“มาขอโทษตอนนี้ มันไม่สายไปหน่อยเหรอ นายรู้มั้ย ชีวิตชั้นต้องพังทลายลง ชั้นต้องสูญเสียสิ่งที่ชั้นรักที่สุด ต้องสูญเสียครอบครัว สามี และลูกของชั้น นายรู้หรือเปล่า แค่ชั้นอยากได้ลูกคืน ยังไม่มีทางได้มา ตลอดเวลาที่ผ่านมาชั้นต้องทนทุกข์แค่ไหน” วิภาวรรณเริ่มเสียงเครือ
“เอ่อ คุณภาไม่เคยเจอหนูโอ๊ตเลยเหรอคับ ผมคิดว่าคุณได้เจอเสียอีก ผมไม่น่าหลงผิดเห็นแก่เงิน ไม่น่าเชื่อใจคนผิด คุณอรทัย เค้าจ้างผม เพราะตอนนั้นผมมีปัญหาการเงินงานก่อสร้าง จ่ายลูกน้องไม่ทัน บริษัทรับเหมาจะโดนยึด แต่สุดท้ายก็โดน คุณอรทัยโกง และยึดไป ผมถึงได้มาอยู่ที่นี่ ทำให้ผมทุกข์ใจมาตลอด ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าคุณภาไปอยู่ที่ไหนแล้ว ผมอยากจะขอโทษ คุณภายกโทษให้ผมด้วยเถอะครับ ผมยินดีทำทุกอย่าง”
“ยกโทษแล้ว ชั้นได้อะไรกลับคืนงั้นเหรอ พี่วัฒน์เค้าเกลียดชั้น กล่าวประณามเสียๆ หายๆ ไสส่งชั้นออกจากบ้านอย่างไร้ค่า แล้วยังพรากลูกชั้นอีก ชั้นจะได้กลับคืนมั้ย นายธงชัย....นายรู้หรือเปล่า พ่อแม่ชั้นถึงกับตรอมใจตาย กว่าชั้นจะทำใจยอมรับมันได้ ต้องทุกข์ทรมานแค่ไหน”
“ผมรู้ว่าผมผิด บาปกรรมมันคงตอบสนองผมแล้ว ตอนนี้ลูกเมียผมมันก็หนีตามฝรั่งไปอยู่ยุโรปแล้ว ไม่มีใครเหลือเลย แค่ร้านอาหารเล็กๆ กับบังกะโลนิดหน่อย ก็จะไม่เหลือแล้ว ผมไม่รู้ว่ามันจะอยู่รอดหรือเปล่า ผมถึงได้รู้สึกผิดกับการทำให้ครอบครัวพลัดพราก อยากเจอคุณภา อยากกราบขอโทษคุณภา ถึงคุณภาจะไม่ยกโทษ อย่างน้อยผมก็ดีใจ ที่ได้พูดความจริง ยัยคุณนายอรทัยเธออยากแย่งเจ้านายมาจากคุณภา เลยจ้างผมให้จัดฉากใส่ยานอนหลับแล้วไปนอนกับคุณภา โดยเอาบริษัทผมเป็นประกัน แล้วยัยอรทัยก็เล่นเล่ห์โกงยึดบริษัทผมไป ตอนนี้ผมก็ไม่ต่างจากคุณภาหรอกคับ อาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำ ผมขอโทษจริงๆ ครับ..” แล้วธงชัยก็ก้มลงจะกราบแทบเท้าวิภาวรรณ ใบหน้าเธอยังบอกถึงอาการขุ่นเคืองอยู่
“นายไม่ต้องกราบชั้น ธงชัย ชั้นจะถือซะว่ามันเป็นกรรมของชั้น เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจมั้ย” สำเนียงวาจาของวิภาวรรณ เด็ดเดี่ยวปนดุดั่งนางพญา ออกบัญชาสั่งบริวาร
“โอววว คุณภา ยังจิตใจงามเหมือนเดิม แค่นี้ก็เป็นพระคุณกับผมแล้วครับ คุณภาไม่เปลี่ยนไปเลยนะครับ ยังสวยเหมือนเดิม ยังกะเมื่อ 15 ปีก่อนเลยถ้าคุณภามีอะไรให้ผมชดใช้ ผมยินดีครับ”
“ไม่ต้อง... หมดเรื่องจะพูดแล้วใช่มั้ย ชั้นจะไป”
“เอ่อ คุณภา ถือซะว่าผมทำบุญไถ่โทษ ผมขอเลี้ยงข้าวสักมื้อ ถ้าคุณภามาเที่ยวอยากจะพัก ผมจะจัดที่พักให้ นะครับคุณภา อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้ไถ่โทษกับผู้มีบุญคุณกับผม นะครับ...” วิภาวรรณถอนใจแรง แต่อารมณ์หล่อนยังไม่ได้ลดลงสักเท่าใดนัก
“ก็ได้ ชั้นจะถือว่าเราหมดหนี้กรรมกัน เราจะไม่ต้องพบกันอีก”
นายธงชัยออกอาการดีใจอย่างมาก จัดแจงให้เด็กที่ร้านทำอาหารที่ดีที่สุด และได้จัดบังกะโลหลังหนึ่งให้วิภาวรรณกับแพรวาพัก วิภาวรรณหมดความสนุกในการเที่ยวครั้งนี้ ได้แต่เดินไร้อารมณ์ไปตามชายหาด จนแพรวาเองก็พลอยไม่สนุกไปด้วย
“พี่ภาคะ ลุงคนนั้น เค้าเป็นอะไรกับพี่ภาเหรอ ดูเค้าเกรงกลัวพี่ภามากเลย”
“เค้าเคยเป็นเจ้าของรับเหมาก่อสร้าง เป็นหุ้นส่วนบริษัทบ้านจัดสรรของพี่กับสามีเก่าหน่ะ พี่เป็นคนสนับสนุนทุนให้เขาตั้งบริษัทรับเหมา เพื่อจะได้เป็นเครือข่ายให้บริษัทพี่น่ะจ๊ะ ไม่นึกว่าเค้าจะทำกับพี่ได้”
“เป็นแพรนะ ตามล่าล้างเผ่าพันธุ์ไปแล่ว คนเนรคุณแบบนี้ แต่พี่ภายังอุตส่าห์รับน้ำใจเขาอีก”
“คนเคยสนิทสนมกัน ยังไงมันก็มีใจผูกพันกันบ้าง พี่ว่าเค้าก็ยังรู้จักสำนึกผิด อุตส่าห์คุกเข่าขอโทษ ถึงพี่จะแค้นเขาอยู่มาก อยากจะฆ่าเขามากก็ตาม เห็นอย่างงี้พี่ก็ทำไม่ลงหรอก พี่ไม่อยากผูกแค้นใครล่ะ ทุกข์ใจเปล่าๆ ใครทำอะไรไว้ไม่ช้าก็คงจะได้รับสิ่งที่เขากระทำ พี่เชื่ออย่างนั้น ดูนายธงชัยสิ เค้าอายุเท่าๆ พี่นี่แหละ คงจะเป็นทุกข์มากๆ ดูเขาโทรมไปเยอะเลย จนพี่เกือบจะจำไม่ได้”
“แต่ก็นะ พี่ภาทำถูกแล้วล่ะ แพรว่า ผลกรรมดีจึงพาให้พี่ภากลับมาพบแต่สิ่งดีๆ ตอนนี้พี่ภาจะได้มีชีวิตใหม่ที่สดใสซะที แล้วหนูโอ๊ตนี่ ชื่อลูกพี่ภาเหรอคะ” แพรวาพูดให้กำลังใจ ยิ้มให้เจ้านายสาว แล้วถามต่อ
“จ๊ะ พี่เรียกแต่ลูกโอ๊ตขี้อ้อน เพราะเค้าจะขี้แย มักจะอ้อนแม่เสมอๆ” พูดถึงตอนนี้วิภาวรรณก็เหม่อลอยอีก..
ในวันอาทิตย์สองสาวต่างวัยก็พากันเดินตามร้านตลาด ซื้ออาหารทะเล เครื่องประดับหยุมหยิม ตามประสาหญิงสาว แล้วก็เดินหาร้านเสื้อผ้า แพรวาเลือกเพียงไม่กี่ชุด เพราะเกรงใจวิภาวรรณ ถึงแม้โดนคะยั้นคะยอชวนให้เลือกเพิ่มก็ตาม วิภาวรรณก็เลือกไปหลายชุด โดยเฉพาะชุดนอน ชุดชั้นในที่เซ็กซี่ บางชุดบางวาบหวิว แพรวาเห็นยังตาโต อ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างวิภาวรรณที่เรียบร้อย อ่อนหวาน จะกล้าเลือกซื้อไปใส่
“จะใส่อวดพี่พลเหรอคะเนี่ย แหน่แน๊ แบบนี้คงอีกไม่นาน สองรั้วสองแผ่นดินจะได้เป็นแผ่นเดียวกันแล้วม้างงงง” แพรวากระเซ้า วิภาวรรณก็ได้แต่ยิ้มเขินๆ จากนั้นทั้งสองก็พากันไปหาร้านเครื่องดื่ม ดับกระหาย ทั้งสองเลือกร้านติดชายหาดร้านหนึ่ง ที่ร่มรื่น มีคนเดินประปราย ขณะที่ดื่มน้ำปั่นเย็นๆ มองทะเลไปพลาง ตอนนั้นลมกำลังพัดเย็นสบาย ก็มีคนกลุ่มหนึ่งน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติแถวเอเชียด้วยกันนี่แหละ ประมาณ 10 คน พากันวิ่งเข้ามาหาทั้งสองสาว บ้างก็ถ่ายรูป บ้างก็ถือสมุดเล็กๆ พร้อมปากกา มาพูดคุยกับทั้งสองสาว โดยเฉพาะมุ่งไปที่วิภาวรรณ ไม่รู้เค้าพูดภาษาอะไรอลหม่าน วุ่ยวายไปหมด วิภาวรรณฟังไม่ออก ก็ได้แต่ทำหน้าเหรอหรา จนมีชายคนหนึ่งเข้ามาพูดคุยด้วยจึงรู้ว่าเค้าเป็นคนไทยเป็นไกด์นำเที่ยว พูดภาษาจีนได้
“ขอโทษนะครับพี่ นักท่องเที่ยวเข้าใจผิดนะครับ”
“ทำไมเหรอค่ะ”
“คือว่า เขานึกว่าเจอ หวังจูเสียน มาเที่ยวเมืองไทยเลยอยากมาขอถ่ายรูปกับขอลายเซ็นนะครับ เขาบอกเป็นแฟนประจำ แต่ผมว่าพี่น่ะ ก็คล้ายจริงๆ ครับ ผิดแต่ที่พี่จะตาโตกว่าหน่อย ผมเคยดูหนังของดาราคนนี้อยู่เหมือนกัน”
วรรณวิภากับแพรวาทำสีหน้างงๆ
“ใครคะ หวังจูเสียน” ทั้งแพรวากับวิภาวรรณถามเกือบพร้อมกัน
“เอ่อ เขาเป็นดาราจีนที่ดังมากช่วงนึง”..........

เมื่อนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นจากไป สองสาวก็พากันหัวเราะ ขำกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“พี่ภารู้จักดาราคนนี้หรือปล่าว”
“ไม่จ๊ะ พี่ไม่ค่อยได้ดูหนังสักเท่าไหร่ ส่วนมากถ้าดูจะเป็นหนังฮอลลีวู้ดมากกว่าหนังจีน แพรละจ๊ะ รู้จักเหรอ”
“ไม่หรอกคะ ถ้าดาราเกาหลี ก็พอจะรู้บ้าง เอ้อออ เป็นไปได้เนอะโลกนี้ มีเรื่องแปลกๆ อยู่เรื่อยเลย มาเที่ยวกับพี่ภาคราวนี้เจอแต่อะไรที่เซอร์ไพร้ส์จริงๆ เล้ยยยย” พูดไปพลางหัวเราะไปพลาง
“คิคิคิคิ พี่ก็ไม่นึกเหมือนกัน”
“แค่ข้ามวัน พี่ภาของหนู จะกลายเป็นคนดังไปซะแล่ววว”
จนตกเย็นสองสาวก็พากันขับรถมุ่งหน้ากลับจันทบุรี ระหว่างทางทั้งคู่ก็คุยกันไปสัพเพเหระ ส่วนมากแพรวาจะเป็นคนชวนคุยมากกว่า
“พี่เปลี่ยนชื่อนานแล้วเหรอคะ เห็นลุงธงชัยเรียก วัลวิภา”
“ก็ตั้งแต่พี่ย้ายออกจากกรุงเทพฯ แหละจ้า ไม่อยากใช้ชื่อนั้นแล้ว อยากให้มันหายไปจากใจ แต่ก็นั่นแหละนะ วัลวิภา วิภาวรรณ สรุปแล้วก็เรียกสั้นๆ ว่าวิภา หรือ ภา เหมือนเดิม มาคิดดูคนเราถึงจะเปลี่ยนชื่อไปยังไง หัวใจคนเรามันก็อันเดิม เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้พี่ขอใช้ชีวิตอย่างที่พี่อยากทำ อยากเป็น ไม่อยากยุ่งกับอดีตอีกแล้ว”
“ดีแล้วคะ ตอนนี้พี่ภาก็อยู่สุขสบายแล้ว มีหน้าที่การงาน มีบ้าน แล้วก็แหะๆๆ จะมีผู้รู้ใจมาเติมเต็มหัวใจพี่ภาให้พบแต่ชีวิตใหม่ที่ความสุข แพรยังดีใจแทนพี่ภาเลยนะ แพรก็ขอให้พี่ภาครองรักกับพี่พล มีครอบครัวที่อบอุ่น จากใจน้องสาวคนนี้นะคะ” แพรวาส่งยิ้มอย่างรัก และจริงใจ
“จ้า ขอบใจจ๊ะ พี่ก็อวยพรน้องแพรเช่นกัน ขอให้มั่นคงในรักและเชื่อใจกัน สร้างครอบครัวที่อบอุ่น ขอเพียงเรามีความมั่นคง ซื่อตรงจริงใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน แค่นี้ก็สามารถประคองชีวิตคู่ไปได้ อย่างมีความสุข นะจ๊ะ”
“ก้าบ ป๋ม น้อมรับคำแนะนำและจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะคุณแม่ขอร้อง ไม่อย่างง้าน เด๋วจะม่ายฉะบาย” ว่าพลางก็ทำเสียง หน้าตาท่าทางล้อเลียนตัวละครซิทคอมเรื่องนึง
“ช่ายแล้วค้าบ พี่น้องแพรวาค้าบบบ” วิภาวรรณก็เสริมทัพ ด้วยสำนวนติดปากของตัวละครอีกตัวนึง ในเรื่องเดียวกัน แล้วก็พากันหัวเราะสนุกสนาน......


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #8 on: June 02, 2013, 08:51:17 pm
วีระพลกับธนธรณ์เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ พักอยู่ที่บ้านญาติของธนธรณ์ที่อยู่เขตบางกะปิอยู่จนเช้า เพราะเขาไม่ได้ติดต่อบอกทางบ้านว่าจะกลับ พอสายหน่อย จึงแยกทางกับธนธรณ์ไปยังบ้านตนเอง ธนธรณ์จะขับรถไปส่ง แต่เขาปฏิเสธ เพราะต้องขับย้อนกลับมาเสียเวลาเปล่าๆ ขอนั่งแทกซี่ไปดีกว่า ของก็ไม่ได้มีมากอะไร เขารู้จักและสนิทสนมกันกับธนธรณ์เมื่อตอนเข้ามหาวิทยาลัยคณะแพทย์ศาสตร์ เมื่อเรียนจบ ธนธรณ์ก็กลับไปทำงานเป็นหมอที่บ้านเกิด วีรพลไม่ค่อยสะดวกใจที่จะอยู่กรุงเทพฯ คิดจะหาทางไปสร้างชีวิตใหม่ จึงตัดสินใจตามเพื่อนไปที่จันทบุรีด้วย ธนธรณ์ไม่ได้ไปบ้านวีรพลด้วยต่างก็นัดไปเจอกันที่งานสังสรรค์รวมศิษย์เก่า ที่โรงแรมตามที่สมาคมศิษย์เก่าได้จัดไว้ วีรพลมุ่งหน้าไปบ้านตนเองย่านสุขุมวิท 41 บริเวณนี้ถึงแม้จะเป็นใจกลางกรุง แต่ก็เป็นย่านที่เป็นหมู่บ้านร่มรื่น โดยส่วนมากจะเป็นบ้านสวนเดิม หรือไม่ก็เป็นบ้านของผู้ที่มีฐานะพอสมควร บ้านของวีรพลนั้นเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษ ขอบรั้วมิดชิด เมื่อเข้าไปจะเห็นถึงความสงบร่มรื่นตั้งแต่พ้นประตูเข้าไป ด้านหนึ่ง เป็นบ้านหลังใหญ่ สไตล์ยุโรปหรูหรางามตา ฝั่งตรงข้ามบ้านหลังใหญ่ จะเป็นบ้านของคนงาน คนใช้ ลึกเข้าไปด้านในจากบ้านหลังใหญ่อีกก็เป็นสระว่ายน้ำขนาดย่อม ถัดจากสระว่ายน้ำไปจะเป็นสวนกล้วยไม้ ที่วีรพลเป็นคนเพาะเอง แต่บัดนี้ได้ทิ้งไว้สำหรับเป็นที่ผ่อนคลายของวีรวัฒน์ผู้เป็นพ่อ วีรพลกดกริ่งเรียกอยู่หน้าบ้าน เพราะครั้งที่เขาจากบ้านนี้ไป ไม่ได้พกกุญแจหรือรีโมทรั้วบ้านไปด้วย มีหญิงวัย 50 กว่าคนหนึ่งเดินรี่มาเปิด พอเห็นว่าใครมากดกริ่ง ก็แสดงอาการดีใจอย่างมาก
“คุณโอ๊ต ! ตายแล้ว คุณหนูของป้า นึกว่าทิ้งป้าไปจะไม่กลับมาแล้วซะอีก เชิญคะๆ แล้วมายังไงคะนี่ แล้วทำไมไม่ขับรถมาคะ ดูสิผอมโซไปเยอะเลย ทูนหัวของป้า” ดูเหมือนหล่อนจะรักชายคนนี้มากเอาการ ละล่ำละลัก แทบไม่หยุดปาก เข้ามาสวมกวดชายหนุ่มจ้องสำรวจตามเนื้อตัวอย่างคนรักใคร่เป็นห่วง
“แหม ก็คิดถึงป้านิ่มสิคร้าบบ คิดถึงกับข้าวอร่อยๆ อยู่ที่โน่นโอ๊ตทานไรไม่ลงเลย ดูสิถึงได้ผอมงี้ไง อีกอย่าง ชื่อโอ๊ตนี่ ไม่ได้ยินคนเรียกนานแล้วนะ มีแต่คนในบ้านเราเรียก คนอื่นเค้าเรียกโอ๊ตว่า พล กันหมดเลยครับป้า ได้ยินป้านิ่มเรียกอีกที ยิ่งรักและคิดถึงป้านิ่มมากเลยค้าบบบบบบบบ” เขาก็กอดแล้วพูดจาออดอ้อน ป้านิ่ม
“หืมมม ยังปากหวานขี้อ้อนคนแก่เหมือนเดิมเลย คุณหนูไม่ได้มีของอะไรติดตัวมาเหรอคะ เห็นแค่กระเป๋าใบเดียว อย่างงี้หลอกให้คนแก่ดีใจเล่นแน่เลย สงสัยอยู่ไม่กี่วันหรอกนี่ ป้าอยากให้คุณหนูกลับมาอยู่เหมือนเดิม เดี๋ยวนี้บ้านนี้ไม่ครึกครื้นเลย เฮ้อ... ว่าแล้วก็อดคิดถึงคุณวัลวิภาอีกคนนึงไม่ได้ ป่านนี้จะอยู่อย่างไรไม่รุ”
“ไม่เอาน่าป้า ว่าแต่คุณพ่อไม่อยู่เหรอ แล้วน้องมีนล่ะ”
“คุณผู้ชายไม่ค่อยจะอยู่บ้านเท่าไหร่เลย ตั้งแต่คุณหนูออกไป หนูมีนก็ไปเรียนพิเศษ คงจะกลับเย็นๆ คะ ยิ่งคุณอรทัยยิ่งหนัก สองสามวันเข้าบ้านที อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยคะ คุณหนู ป้าเริ่มสงสัยว่าคุณอรทัยเธอจะไม่ซื่อกับคุณผู้ชายแล้วล่ะ มีคนมาส่งข่าวให้ป้าฟัง แต่ป้าก็ได้แต่เงียบพูดอะไรไม่ได้ เพราะแค่ข่าวลือ ไม่อยากให้มันเป็นความจริงเลย คุณผู้ชายก็หมองๆ ไปคะ คุณหนูกลับมาอยู่บ้านเราเถอะนะคะ คุณวัลวิภาจากไปคนนึงแล้ว คุณหนูยังจะทิ้งป้าไปอีกคนเหรอ”
“โอ๊ตก็ไม่อยากจะทิ้งป้าหรอก แต่อยู่ที่นี่ โอ๊ตก็มีแต่จะมีเรื่องกับน้าอรทัยเหมือนเป็นตัวทำให้พ่อไม่สบายใจ แต่ถ้าคุณพ่อไม่มีความสุข ไม่ไหวจริงๆ โอ๊ตจะคิดดูอีกทีนึงนะป้า แล้วคุณพ่อจะกลับหรือป่าววันนี้น่ะ มีเรื่องอยากจะคุยด้วยเหมือนกัน”
“คงจะดึกๆ น่ะคะ นี่ป้ายังได้ยินคุณผู้ชายบอกว่าจะทำพินัยกรรมไว้ ยกทรัพย์ทั้งหมดให้คุณหนูด้วยนะคะ ไม่รู้ท่านคิดอะไรอยู่”
“เหรอครับ อืมมม เอาไว้ค่อยคุยกับคุณพ่อละกัน ตอนนี้อยากนอนหนุนตักป้านิ่ม อยากฟังเพลงกล่อมเพราะๆ ของป้านิ่มอีก ไม่ได้ฟังนานแล้ว คิดถึงป้านิ่มจังค้าบบบ”
คำพูดออดอ้อน ทำเอาคนใช้เก่าแก่ของบ้านยิ้มหน้าบาน กอดรัดร่างกำยำ หอมแก้มฟอดใหญ่อย่างรักใคร่เอ็นดู
“ทูนหัวของป้า ป้าก็คิดถึงคุณโอ๊ตเหมือนกัน แต่แหม... โตจนป่านนี้ยังอยากหนุนตักฟังเพลงอยู่เหรอคะ แค่พูดเอาใจป้าเฉยๆ มั้ง สงสัยอยู่ที่โน่น คงนอนหนุนตัก ซบอกสาวคนไหนแล้วก็ไม่รุ ยิ่งขี้อ้อนอย่างคุณโอ๊ตด้วย กลัวมีสาวๆ หลงคารมแน่ๆ เลย ตอนนี้ก็สายแล้ว คุณโอ๊ต พักก่อนเถอะนะคะ เดี๋ยวป้าจะจัดอาหารต้อนรับอย่างสุดฝีมือเลย คุณหนูจะทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ ป้าจะทำให้ทู้กกกอย่าง”
“อะไรก็ได้ครับ ฝีมือป้าโอ๊ตทานได้หมดแหละ ขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะครับป้า” ก่อนจะลุกไปเขาก็กอดป้านิ่ม หอมแก้มเอาใจอย่างน่ารัก ทำเอาป้านิ่มค้อนขวับ มองตามอย่างรักใคร่เอ็นดู ในบ้านนี้ ป้านิ่มจะรัก เอ็นดูวีรพลกับน้องสาวเขามาก ยิ่งตอนนี้ลูกชายเจ้านายกลับมาให้เห็นหน้าทำให้ป้านิ่มรู้สึกมีความสุข บ้านหลังใหญ่เหมือนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อวีรพลเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ไม่ได้นอนพักอย่างที่บอก เขาลงจากบ้านออกมาเดินเล่นเรื่อยๆ ไป ถึงสระว่ายน้ำ ผ่านสระไปจนถึงเรือนกล้วยไม้ที่เขาเคยเพาะไว้ และยกให้พ่อไว้เป็นที่พักผ่อน ที่ตรงนี้เป็นที่ร่มรื่นที่สุดของบ้านสุรกุลพานิชย์เลยทีเดียว เพราะเมื่อครั้งยังอยู่ วีรพลกลับมาจากเรียนหนังสือ ก็จะขลุกอยู่ที่เรือนกล้วยไม้แห่งนี้ ไม่ว่าจะมาอ่านหนังสือ ทำรายงาน นอนเล่น หรือว่างๆ ก็จะสำรวจตรวจตราผลงานของตนอย่างมีความสุข บัดนี้ ในเรือนกล้วยไม้ มีกล้วยไม้นานาพันธุ์ ห้อยระย้าเต็มไปหมด ดูเหมือนจะรกไปกว่าเดิมสักหน่อย วีรพลก็เดินทอดน่องชมไปเรื่อยๆ พอเกือบถึงช่วงเกือบจะสุดมุมเรือนกล้วยไม้ ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน หยอกล้อกันกระหนุงกระหนิง
“อี้ยยย พี่นพเนี่ย แค่มานั่งคุยเฉยๆ ก็ได้ ทำไมต้องจับหี บี้แตด คลำนมด้วย”
“แหม ก็คนมันคิดถึงนี่ หวานจ๋าาาา ไม่คิดถึงพี่บ้างหรือไง”
“ไม่คิดถึงจะมาหาเหรอ เดี๋ยวอีกหน่อยป้านิ่มอาจจะเรียกหาหวานอยู่นะ เดี๋ยวป้าจะสงสัยเอา”
“ง้าน ก็ขอให้พี่ได้ชื่นใจหน่อยสิ หวานจ๋า เหมือนวันก่อน พี่ได้ชิมยังติดใจไม่หาย น้องหวาน รสหวานชื่นใจพี่ สมชื่อจริงๆเลย นะนะ”
“อูยยย พี่บีบนมหวานจนขนลุกไปหมดแล้ว หวานก็อยากเหมือนกัน ไม่งั้นไม่มาหาพี่หรอก แต่พี่นพต้องสัญญานะ ห้ามไปมีคนอื่น ไม่งั้นหวานจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก หวานยอมเป็นเมียพี่คนเดียว ให้พี่ เอ่อ ยะ...เย็ดได้คนเดียว”
“สัญญาจ๊ะ ตอนนี้อย่าเสียเวลาเลยนะ พี่อยากเย็ดหวานจนควยจะระเบิดแล้ว เมียจ๋า ดูสิน้องจับรูด กระถอกจนมันแข็งแล้ว ดูสิ ไม่ต้องถอดเสื้อออกหรอก พี่จะถลกผ้าถุงเย็ดหวานเลย”
“หูยยย แข็งมากจริงๆ ด้วย งั้นก็เย็ดหวานเลยคะ หวานรอโอกาสว่างๆ จนมันหงี่ไปหมดแล้ว อา!! อย่ามัวลูบหีหวานอยู่เลย เดี๋ยวก็อดเย็ดกัน เร็วๆ สิจ๊ะพี่ หวานถ่างขาให้แล้ว”
“พี่อยากให้หวานอยู่ในท่าคลานอ่าจ๊ะ นะนะ พี่เห็นก้นหวานทีไร อดใจอยากจะปล้ำไม่ได้ทุกที”
“บ้าพี่นพเนี่ย พิเรนจัง ก็ได้จ๊ะ” วีรพลได้ยินเสียงทั้งคู่ชัดเจน สองคนนี้เขาไม่คุ้นชื่อเลย สงสัยจะเป็นคนใช้ใหม่ คงจะมาพลอดรักกันได้สักพักกระมัง ทีแรกกะว่าจะส่งเสียงออกไปไล่ทั้งคู่ แต่ว่าคิดอีกทีหนึ่งเกรงจะเสียมารยาท คนกำลังมีความสุข จะเข้าด้ายเข้าเข็ม ไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะไปขัดจังหวะ คิดได้ดังนั้นวีรพลก็ถอนใจเบาๆ เดินออกจากเรือนกล้วยไม้ไป ทั้งที่จิตใจเขามีหรือจะอดรู้สึกกระสันตามทั้งคู่ได้ แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้น แว้บๆ ก็นึกถึงใบหน้าหวานๆ ซึ่งอยู่แดนไกล แต่ชายหนุ่มก็ข่มความรู้สึกเอาไว้แล้วเดินออกไป ปล่อยให้คนใช้คู่รัก ได้พร่ำพรอดสอดด้ายเข้ารูเข็มตามลำพัง
ทางฝ่ายคนใช้คู่รักก็ยังคงบรรเลงเพลงกามกันต่อ บัดนี้เจ้านพ ได้ถลกผ้าถุงของหวานที่ตอนนี้อยู่ในท่าหมอบคลานตามที่แฟนบอก หันหน้าไปมองคู่สวาท
“อูวววว ก้นขาวมากเลยจ๊ะ หวานจ๋า น่ากระแทกเย็ดจริงๆ ถ้าเรามีเวลามาก พี่จะขอเลียหีหวานจากข้างหลังแบบนี้จังเลย คราวหน้าให้พี่ทำนะจ๊ะ”
“จะเย็ดก็เย็ดสิจ๊ะ อูยยย เวลามีน้อย อย่ามัวเขี่ยอยู่เลย อูยย มันโดนเม็ดแตดหวาน อะ อ๊ออยยยย ถ้ามีเวลา หวานจะให้พี่นพเย็ดนานๆ หวานเงี่ยนจะตายอยู่แล้ว ผัวจ๋า เย็ดเถอะ อุ้ยยยย”
“อูวววว มันเข้าได้ลึกจัง เสียวหัวควยเป็นบ้า พี่จะกระเด้าแล้วนะ เมียจ๋า อูยยยย” พอควยเสียบเข้า เจ้าหนุ่มใหญ่ร่างกำยำ ก็กระเด้าจากจังหวะช้าๆ ก็ค่อยเพิ่มความเร็ว หวานเองก็ส่ายก้นระริก เด้งรับการกระเด้าของแฟนหนุ่ม หน้าเชิด ตาปรือซี้ดปากความความเสียวสยิว มือข้างหนึ่งค้ำอยู่ที่พื้น อีกข้างก็ยกเอื้อมมาบีบคลำเต้านมตัวเอกอยู่นอกเสื้อ ด้วยกลัวว่าจะมีคนมาเห็น อารามรีบทำเวลา สักพักเจ้าหนุ่มก็เอื้อมมือ รั้งสะโพกแฟนสาว กระหน่ำแรงเข้า จนสาวหวานกระเด้งกระดอนตามแรงกระแทก
“อูยยยย เย็ดมันควยจริงๆ เมียจ๋า พี่น้ำจะแตกแล้ววว หีตอดปลายควยพี่จนทนจะไม่ไหวแล้ววว”
“หวานก็เสียวหีจ๊ะ ผัวจ๋า หวานหลงควยผัวมากเลย อูยยย เย็ดแต่ละที เสียวไปถึงท้องน้อยเลย อาาา แรงๆ เลย พี่จ๋า หวานจะแตกแล้วววว ผัวจ๋าาาา อูยยย ซี้ดดดดดดด” ไม่กล้าครางเสียงดัง หวานก็ได้แต่ซี้ดปากกัดฟัน เม้มปากหน้าบิดเบี้ยว ร่างบิดไปมาเหมือนปลาโดนทุบ
“โอยยยย ไม่ไหวแล้วววววววว ขอพี่ออกในหีนะ เมียจ๋าาาา”
“อย่าคะพี่ เดี๋ยวหวานท้อง รอให้เราพร้อมก่อนนะจ๊ะ อ๊าาาาาาา”
“ก็ได้จ๊ะ งั้นพี่ขอราดก้นหวานนะจ๊ะ อ๊อยยยย ไม่ไหวแล้ว จะออกแล้วววว อ้อกกกกกก” แล้วชายหนุ่มก็รีบถอดควยออกมาจ่อปลายตรงแก้มก้น แล้วมือกระถอก น้ำรักกระฉูดออกเป็นสาย ราดรดบนก้น บ้างก็ลงง่ามก้นไหลย้อยเป็นทางลงมาถึงง่ามหีสาวหวาน ซึ่งตอนนี้มองเห็นแคมขมิบยิบๆ ก้นสั่นระริกด้วยความเสียวซ่าน พอสุขสมแล้วเจ้านพก็รีบคว้าสายยาง เปิดก้อกน้ำ สาวหวานก็ขยับตัว มือรั้งชายผ้าถุงอยู่หน้าท้อง กึ่งนั่งกึ่งเอนให้ชายหนุ่มราดรดเพื่อล้างคราบน้ำรักออก ชายหนุ่มก็เอาผ้าที่ติดตัวมา เช็ดทำความสะอาดให้แฟนสาว แล้วพากันจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หวานต้องรีบไปแล้วจ๊ะ พี่ ว่างๆ ค่อยมาพบกันใหม่ รอให้หวานกับพี่นพพร้อมเมื่อไหร่ หวานจะบอกเรื่องของเรากับป้านิ่ม นะจ๊ะ พี่สัญญานะว่าจะไม่ทิ้งหวาน”
“สัญญาจ๊ะ หวานเป็นเมียพี่แล้ว พี่จะรับผิดชอบหวานเอง เสียดาย เรามีเวลาน้อย พี่ก็ยังไม่กล้าจะบอกป้านิ่ม ไม่งั้นเราคงไม่ต้องปิดบัง อยากจะเย็ดหวานอีกจังเลย เฮ้อออ...... อดใจไว้ก่อนละกัน ไปเถอะหวานจ๋า พี่จะทำงาน คัดแยกกล้วยไม้ต่อ”
ทั้งคู่แลกจูบกันอย่างอาวรณ์ครู่หนึ่งก็แยกย้ายกันไป.....

วีรพล ทานอาหารเที่ยงแล้วก็นอนดูทีวีเล่นที่ห้องรับแขก นั่งพูดคุยกับป้านิ่มตามประสาคนสนิทสนมที่ห่างหายไปนาน ป้านิ่มก็เพียรเอาใจสารพัด จนบ่ายกว่าๆ
“ป้านิ่ม จ๋า มีนกลับมาแล้วค่า อุ้ย!! พี่โอ๊ต..... พี่โอ๊ตกลับมาแล้ว”
เด็กสาวคนหนึ่งวัย 14-15 พอเห็นว่ามีคนนั่งคุยอยู่กับป้านิ่มเป็นพี่ชายต่างมารดา ก็ถลันเข้าหา แทบจะกระโดดกอดทับตัววีรพล
“ดีใจที่สุดเลย มาถึงเมื่อไหร่คะ มีนคิดถึงพี่โอ๊ตที่สุดเล้ยยยย”
ไม่พูดเปล่า หอมแก้มซ้ายขวาด้วยความดีใจที่พี่ชายกลับมา
“ถึงเมื่อเช้านี้คร้าบบป๋ม ไหนว่าเรียนพิเศษไง กลับมาเร็วจัง ”
“อาจารย์ไม่สบาย ไม่ได้สอน เลยรีบกลับ ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน เบื่อๆ แล้วพี่โอ๊ตจะมากี่วันคะนี่ อยู่หลายวันหน่อยนะคะ น้าาา มีนเหงาจะแย่อยู่แล้ว เด๋วนี้ ป้านิ่มก็ไม่อยากเล่นกับมีนแล้ว ป้านิ่มไม่รักมีนแล้ว” แล้วหันมองไปที่คนใช้เก่าแก่ของบ้าน ทำสะบัดเชิดหน้า
“แหม พอคุณโอ๊ตมา ป้าก็เป็นส่วนเกินซะแล่ววว น่าตีจริงๆ อย่างงี้คุณโอ๊ตไม่กลับมาดีกว่ามั้ง ถ้าคุณโอ๊ตกลับไป ป้านิ่มจะขอย้ายไปอยู่กับคุณโอ๊ตดีกว่า คุณหนูมีนไม่รักป้าแล้วนิ ฮึ” ป้านิ่มทำงอน ค้อนอย่างหมั่นเขี้ยว
“โอ๋ๆๆ มีนล้อเล่น ใครจะเกลียดป้านิ่มลง ที่รักของมีน” แล้วก็เข้าไปกอดป้านิ่มจุ้บแก้มเอาใจ “เหนื่อยจัง กว่าจะมาถึงบ้าน หวานจ๋า หวาน มีนขอน้ำเย็นๆ ด้วย หวานอยู่ม้ายยย” ชื่อนี้ทำเอาวีรพลชะงักไปนิด สักพักเจ้าของชื่อก็โผล่มาพร้อมน้ำแตงโมปั่นในแก้วสวย วีรพลมองเห็นหน้าชัดๆ ก็รู้ว่าหล่อนน่าจะอายุเกือบๆ เท่าเขาอ่อนกว่าไม่น่าจะเกิน 3 ปี สวยน่ารักพอดู สายตาซื่อๆ ตัวเล็กๆ ร่างบาง ๆ
“แล้วจะให้พี่ชวนเล่นอะไรล่ะ ทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้ นี่มีน น้องก็เริ่มโตเป็นสาวแล้วน้า อีกสองสามปีก็เข้ามหาลัยแล้ว ดูสิ ไม่เจอเกือบปี เป็นสาวสวยขึ้นกว่าเดิมนะเนี่ย ตั้งใจอ่านหนังสือ ขยันเรียนดีกว่าน่า เอาไว้ว่างๆ พี่จะชวนน้องมีนไปเที่ยวที่บ้านใหม่นะ โอเคมั้ย เจ้าหญิงตัวน้อย”
วีรพลหันกลับมาคุยกับน้องสาวต่ออีกครั้ง ว่าพลางก็หยิกแก้มน้อยๆ ใสๆ ขยี้ไปมาด้วยความเอ็นดู เขากับน้องสาวถึงแม้จะเป็นลูกต่างมารดา แต่ก็รักใคร่กันเหมือนลูกมารดาเดียวกัน จนบัดนี้วีรพลก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใด อรทัย แม่เลี้ยงของเขาจึงจงเกลียดจงชังเขามากนักหนา ถึงขนาดกล่อมพ่อเขาให้ส่งเขาไปอยู่กับลุงที่เชียงใหม่ ทั้งๆ ที่เขาอยากจะอยู่กับแม่ พ่อเขาก็อ้างว่า แม่หนีตามชายชู้ไปแล้ว ตามหาไม่พบ เขาเพิ่งมารู้ความจริงทีหลังจากป้านิ่มว่าแม่เขาถูกพ่อขับไล่ออกจากบ้านเพราะจับได้ว่ามีชู้ ทั้งๆ ที่คนงาน คนใช้ในบ้านทุกคนต่างรู้ดีว่าวัลวิภา ไม่ใช่คนอย่างนั้น ต่างขอร้องให้คุณพ่อคืนดีกับแม่วัลวิภา และให้รับกลับมา แต่ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว ทีแรกวีรพลก็โกรธพ่อไม่น้อย แต่คงด้วยความผูกพันพ่อลูก สายใย สายเลือดมันจึงตัดกันไม่ขาด ยิ่งภายหลังเมื่อรู้ว่าพ่อยังอาลัยรักต่อแม่วัลวิภาอยู่ เขาก็ยิ่งรักและสงสารพ่อมากขึ้น เพราะเหตุนี้กระมัง ยิ่งทำให้เขาเป็นที่เกลียดชังของอรทัยมากขึ้นจนบัดนี้
วีรพลคุยหยอกล้อกับมีนอย่างสนุกสนานตามประสาพี่น้องที่ผูกพันรักใคร่ เฝ้ารอพ่อกลับมาบ้านจนบ่าย 3 โมง ก็ไม่มีวี่แววว่าพ่อจะกลับ ใกล้ถึงเวลานัดกับธนธรณ์ไปงานรวมศิษย์เก่า งานจะเริ่มตั้งแต่ 5 โมงเย็น เขาอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วขับรถที่บ้านออกไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านสีลม ซึ่งห่างจากสถาบันเก่าไปไม่มากนัก วีรพลกับธนธรณ์ไปถึงโรงแรมเกือบ 6 โมงเย็น
ทั้งๆ ที่ยังเวลาแต่หัววันอยู่ แต่ภายในงานเลี้ยงก็คึกคัก คราคร่ำไปด้วยบรรดาศิษย์เก่านักศึกษาแพทย์รุ่นเก่ารุ่นใหม่ ที่สมาคมฯ ย้ายมาจัดที่โรงแรงใหญ่ก็เพราะมีศิษย์เก่าเพิ่มจำนวนมาก หอประชุมของสมาคมฯ มีพื้นที่ไม่พอที่จะรองรับการจัดงานได้ งานเลี้ยงครั้งนี้มีการมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณแก่ศิษย์เก่าที่ทำชื่อเสียงให้กับสมาคม มอบทุนแก่นักศึกษาแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ หารายได้บริจาคเพื่อการกุศล และพิธีการต่างๆ สลับกับความบันเทิงตลอดทั้งงาน วีรพลกับธนธรณ์ เข้าไปในงานก็ได้พูดคุย ทักทายกับเหล่าบรรดาศิษย์เก่ารุ่นพี่ และร่วมรุ่นที่รู้จักมักคุ้นมากมาย ต่างก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันไปตามแต่อัธยาศัย แต่ละคนเมื่อจบออกไปจากสถาบันต่างก็แยกย้ายกันไปประกอบอาชีพของตนตามจังหวัดต่างๆ หลักๆ ก็คือเป็นหมอ จะมีบ้างที่ประกอบอาชีพอื่น บ้างก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งสองหนุ่มก็เดินจนทั่วทั้งงาน เมื่อยขา จึงพากันหาเครื่องดื่มมานั่งดื่มพักแก้เมื่อย
“ธร ไฮ้!! หวัดดี ไม่เจอกันนาน ยังหล่อเหมือนเดิมนะ”
“เมย์ โอ้ววว หวัดดี เป็นไงมั่ง ได้ข่าวชิงทุนไปเรียนต่อที่อเมริกา โห้ววว เด๋วนี้โกอินเตอร์เลยนะ”
“แหม ไม่มีธรสอบแข่งด้วยหรอก ถึงได้ ถ้ามีธรสอบชิงด้วย เมย์ก็คงอดได้ทุนนะสิ ดีใจจังที่ได้เจอธรอีก นานๆ กลับมาไทยสักครั้งได้เจอเพื่อนเก่า เอิ่ม.... ธรเจอกับพลบ้างหรือเปล่า”
“อื้ม ผมก็ดีใจ ผมก็มาด้วยกันกับมันนั่นแหละ ไปทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลที่จันทบุรีด้วยกัน สงสัยมันไปเข้าห้องน้ำมั้ง ถามหามัน คิดถึงมันมากละสิ” ธนธรณ์พูดเหมือนดักคอ ทำตาล้อๆ เมย์ เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาแพทย์ด้วยกัน มีผู้หญิงคนเดียวที่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าสนใจวีรพล หล่อนเทียวไปมาหาสู่กับวีรพลจนสาวๆ คนอื่นไม่กล้าจะเข้าหาวีรพล แต่วีรพลก็วางตัวอย่างเพื่อนกับหล่อนเสมอมา ธนธรณ์เคยยุยงเป็นพ่อสื่อให้พักหนึ่ง ก็รู้ว่าเพื่อนไม่สนใจจึงเลิกไป ที่จริงแล้วธนธรณ์ก็เคยแอบชอบหล่อนเหมือนกัน แต่ความรักเพื่อน เขาจึงไม่คิดจะแตะต้อง เขาเองก็ประเภทเพลย์บอย แค่สาวคนเดียว ไม่ใช่เรื่องใหญ่
“ก็แหม นานๆ เจอกันที ไม่คิดถึงได้ไง เอ้อนี่ ธร เมย์มีเพื่อนมาด้วยนะ เป็นชาวอเมริกัน เชื้อสายแมกซิกัน เด๋วเมย์จะแนะนำให้รู้จัก”
แล้วเมย์ก็เรียกเพื่อนหล่อนมาแนะนำให้ธนธรณ์กับวีรพลซึ่งออกมาสมทบทีหลัง เพื่อนต่างชาติของเมย์คนนี้ รูปร่างก็ไม่สูงใหญ่มากนัก แต่ที่ทำเอาธนธรณ์ร้อนไปทั้งตัวคือ รูปร่างที่อวบอัด เนื้อนมไข่ ตามสไตล์สาวแดนลุงแซม ผิวพรรณหล่อนไม่ถึงกับขาวเผือก เพราะเป็นเชื้อผสม ออกจะสีน้ำผึ้งด้วยซ้ำ ผมสีดำสลวย ดกหนา จมูกโด่ง คิ้วดก ตาคมโต มีนัยเย้ายวนเร่าร้อนอยู่ในที ริมฝีปากเผยอ เซ็กซี่บาดใจ ยิ่งการแต่งตัวหล่อนยิ่งเสริมอารมณ์ความใคร่เพิ่มเป็นทวีคูณ เป็นชุดราตรี สีดำละเลื่อมวาววับ เป็นชนิดสายคล้องคอ แหวกอกโชว์ความอวบอิ่มให้ชายหนุ่มที่พบเห็นได้กลืนน้ำลาย ด้านข้างก็เว้าลงมาถึงกลางชายโครง ด้านหลังโชว์ผิวเนียนจนถึงกลางแผ่นหลัง มองด้านหลัง ได้เห็นสะโพกดินระเบิดกลมกลึง น่าคลึงเคล้า ชายกระโปรงสั้น สูงเลยเข่ามานิด ที่ร้ายกาจกว่านั้น มันมีรอยแหวกขึ้นมาแทบจะถึงหน้าขา เวลาหล่อนเดิน ชายหนุ่มแก่ทั้งหลายต่างก็เหลียวมองจับจ้อง จินตนาการไปไหนต่อไหนไม่รู้ ยิ่งหล่อนเป็นชาวต่างชาติด้วยแล้ว จึงยิ่งเป็นที่สะดุดตามากขึ้นเป็นกอง เธอมีชื่อว่า กาบริเอลา แองเจลิน่า เมย์แนะให้วีรพลกับธนธรณ์ เรียกหล่อนว่าแองจี้ เมย์ต้องคอยเป็นล่ามสื่อภาษาให้สองหนุ่มตลอดการสนทนา เพราะหล่อนพูดไทยไม่ได้เลย งานนี้เมย์เองก็แต่งตัวได้เร่าร้อนไม่แพ้เพื่อนต่างชาติ แทบจะว่าเหมือนกันหมด ต่างกันที่ตรงชุดของเมย์เป็นสีเขียวใบตองอ่อนขับผิวขาวเหลือง ให้เด่นชัด ชวนมอง เพียงแต่ชั่วโมงนี้ แองจี้ตกเป็นที่สนใจมากที่สุดในงาน โดยเฉพาะธนธรณ์ ได้แต่ยืนจ้องส่งสายตาเป็นประกาย แองจี้เองก็สบตาเขาอย่างท้าทาย พูดคุยกันไป จ้องตากันเป็นมัน อาจจะเป็นเพราะเพิ่งมีแค่ชายสองคนนี้เท่านั้นที่เมย์เพื่อนหล่อนแนะนำให้รู้จัก และพูดคุยกันได้สนิทสนมกว่าคนอื่นๆ
“พลคะ เมย์ว่าเราออกไปหาที่คุยกันที่อื่นจะดีกว่า ที่นี่เสียงดังเกินไปเมย์คอแห้งหมดแล้ว นานๆ ได้เจอกันที ขอหาที่คุยกันให้หายคิดถึงสักที อีกไม่กี่วัน เมย์ก็จะกลับอเมริกาแล้ว ธรไปด้วยกันนะ” หล่อนหันมาชวนธนธรณ์ด้วย แล้วหันไปพยักหน้าส่งสัญญาณให้กับเพื่อนต่างชาติ คุยกันเบาๆ สองสามคำ แองจี้พยักหน้ารับคำ สายตายิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วทั้งสี่คนก็ตกลง เดินออกจากงานเลี้ยงโดยเมย์ได้ขอเครื่องดื่มจากงานเลี้ยงติดไปด้วย วีรพลอาสาขับรถพาไป เมย์นั่งหน้าคู่วีรพล แองจี้กับธนธรณ์นั่งเบาะหลัง ทางคู่ด้านหน้าต่างคุยกันอย่างออกรสชาติ โดยเฉพาะเมย์ เพราะบางครั้งหล่อนก็หันมาสื่อภาษาให้กับเพื่อนด้วย คู่ด้านหลังพูดคุยกันน้อย เพราะทั้งวีรพลและธนธรณ์เองก็พอจะพูดอังกฤษได้บ้างนิดหน่อย เรียกประมาณได้ว่า “พูดอังกฤษจนเมื่อยมือ” คู่เบาะหลังจึงได้แต่หันมองและส่งยิ้มให้กัน ชุดที่หล่อนสวมมามันสั้นแถมแหวกข้างด้วย ธนธรณ์มองทีไรอดกลืนน้ำลายไม่ได้ทีเดียว ดูเหมือนหล่อนจะรู้อาการเขา ส่งสายตายั่วยวนท้าทาย มีขยับไขว่ห้างให้ใจเต้นเล่นๆ บางครั้งก็เอื้อมมือ มาลูบขาเขาเบาๆ เอ๊ะ แบบนี้มีลุ้น ธนธรณ์คิดในใจ
รถวิ่งออกจากย่านสีลม ออกสาทรวิ่งข้ามไปยังฝั่งธน เพียงแค่ข้ามสะพานสาทรเลยไปนิดเดียว เมย์ก็บอกให้เลี้ยว เข้าไปถึงคอนโดฯ อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา วีรพลแปลกใจ ที่เคยจำได้ นี่มันไม่ใช่บ้านหล่อนนี่นา ทำไมหล่อนบอกเขาให้พามาที่นี่
“นี่คอนโดฯ ของยัยพลอย มันได้งานบริษัทเงินทุนฯ จึงมาเช่าที่นี่ เมย์มาเยี่ยมยัยพลอย พอดีมันบอกว่าจะไปสัมมนาที่เขาใหญ่หลายวัน มันเลยฝากกุญแจไว้ เผื่อเมย์จะได้พาแองจี้มาเที่ยวเล่น พลก็รู้ บ้านเมย์อยู่ตั้งบางขุนเทียน กว่าจะไปถึง เด๋วก็ดึกกันพอดี มาเถอะน่า ไม่มีอะไรหรอก พลก้อ..” วีรพลนึกออกแล้วว่าเจ้าของห้องเป็นเพื่อนสนิทเพื่อนซี้ของเมย์สมัยเรียนมหาลัย แต่เขาไม่เคยรู้ว่าหล่อนอยู่ที่ไหน เพิ่งมาถึงบางอ้อก็คราวนี้ เมื่อจอดรถเป็นที่เรียบร้อย ทั้งสี่คนก็พากันขึ้นไปชั้นที่ 12 เข้าห้องไป ก็จัดว่าเป็นห้องหรูพอสมควร เจ้าของห้องจัดห้องได้เป็นระเบียบน่าอยู่ และที่น่าสนใจคือบริเวณระเบียงมองออกไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา และฟากฝั่งของเขตสาทร บรรยากาศช่วงนี้ลมกำลังพัดเย็นสบาย เมย์จัดเครื่องดื่มมาให้วีรพลกับธนธรณ์ ต่างมายืนดื่มไปพลางพูดคุยเล่าเรื่องราวต่าๆที่แต่ละคนไปประสบมา บางทีก็รำลึกอดีตที่เคยเป็นนักศึกษามาด้วยกัน ธนธรณ์รู้ว่าเมย์อยากคุยกับวีรพลมากกว่า จึงขอปลีกตัวเข้าไปข้างใน บอกว่าจะไปคุยเป็นเพื่อนกับแองจี้ เพราะปล่อยให้แองจี้นั่งอยู่ข้างในห้องคนเดียว ไม่รู้ว่าข้ออ้างหรือเปล่า เพราะธนธรณ์ไม่ได้เก่งภาษาเท่าไหร่ อาจจะพอได้บ้างบางประโยค แต่จะให้พูดเป็นเรื่องราวคงลำบาก เขาเข้ามาเห็นแองจี้นั่งอยู่ที่โซฟา ดูทีวีซึ่งเป็นหนังต่างประเทศ หล่อนเปลี่ยนช่องไปมาเหมือนยังไม่เจอช่องที่ถูกใจ มือก็จิบเครื่องดื่มไป ธนธรณ์มานั่งลงข้างๆ ตาก็จ้องแต่ร่างอวบอัด ไม่ได้สนใจหนังเลย ธนธรณ์รู้สึกวาบหวาม ใจมันหวิววาบอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นแรง เลือดหนุ่มสูบฉีดแรง ยิ่งสาวแองจี้ซึ่งอยู่ต่อหน้าบัดนี้มันล่อตาล่อใจเขาเหลือเกิน เขาพยายามพูดคุยกับหล่อนเท่าที่พอจะนึกประโยคได้ หล่อนก็ยิ้มตอบ ตอบกลับด้วยภาษาถิ่นคล่องปรื๋อ จนธนธรณ์ไม่รู้จะหาคำอะไรมาพูดคุยแล้ว จู่ๆ แองจี้ก็ขยับเข้ามาใกล้เขาส่งสายตาเป็นประกาย มือลูบคางเขามองตายิ้มๆ ยั่ว ธนธรณ์เองก็มีความรู้สึกต่อหล่อนตั้งแต่แรกแล้ว มีหรือเมื่อเนื้อจะเข้าถึงปาก เจ้าเสืออย่างเขาจะยอมให้มันหลุดลอย ยิ่งตอนนี้อารมณ์เขาพลุ่งพล่านมากกว่าที่เคยเป็น คงเป็นเพราะเครื่องดื่มด้วยกระมัง ธนธรณ์ก็โอบไหล่แองจี้เข้ามาค่อยๆ บรรจงแลกจูบ จากเนิบๆ ก็เริ่มจะเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นของเขาไปประสานลิ้นแม่สาวอเมริกัน เซ็กซ์ซิมโบล รู้สึกว่าลิ้นเขาไปกระทบกับก้อนอะไรบางอย่าง เมื่อถอนปากจากการจูบ ต่างแลบลิ้นตวัดดวลลิ้นกัน เขาจึงรู้ว่าที่กลางลิ้นหล่อนติดเม็ดโลหะขาวกลมเล็กๆ อยู่ แองจี้เอื้อมมือไปปลดสายคล้องคอของชุดราตรี แล้วแก้ออก ปล่อยสายลงเป็นอิสระ เท่านั้นเอง ที่หน้าอกหล่อนมันก็อวดสายตาธนธรณ์จนตะลึง แองจี้เข้าประกบจูบอีกครั้ง คราวนี้เร่าร้อนกว่าเดิม ธนธรณ์ก็จูบตอบ มือเขาก็คว้าหมับไปที่อกภูเขาไฟ บีบขยำอย่างเมามัน
ฝ่ายวีรพลที่อยู่ระเบียงกับเมย์ พูดคุยกันอยู่สักพัก วีรพลจะขอตัวกลับ เมย์ก็รั้งตัวเขาไว้
“พล จะรีบกลับทำไม ยังไม่ดึกมากเลย อยู่คุยกันต่อเถอะ เมย์คิดถึงพลมากเลยรู้มั้ย นานๆ ได้เจอที พลอ่ะ เย็นชากับเมย์ตลอดเลยนะ ทำไม เมย์ไม่สวยไม่น่าสนใจงั้นเหรอ” พูดเหมือนตัดพ้อเขา พลางสายตาหล่อนก็มองเขาส่งประกาย วีรพลรู้สึกอึดอัด ตั้งแต่คุยกันตามลำพัง ดูเหมือนหล่อนพยายามยั่วยวนเขา ทั้งทางสายตา กิริยาท่าทาง แกล้งเบียดเขา เอาอกมาแนบข้างเขาบ้าง วีรพลก็รู้สึกร้อนๆ ไปทั้งตัว ความต้องการทางเพศเขาพลุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็น แต่ก็พยายามข่มความรู้สึก ไม่ให้แสดงออก
“ไม่หรอก เมย์อะสวยอยู่แล้ว ใครๆ ก็สนใจทั้งนั้นแหละ ยิ่งวันนี้ เมย์สวยมาก”
“เหรอคะ ตรงไหนสวย บอกเมย์มาสิคะ” ไม่พูดเปล่า ทำเป็นสำรวจตัวเอง จับโน่นเปิดนี่ ทำให้วีรพลใจเต้นแรงมากขึ้น เมื่อเห็นเขาตะลึง เมย์ก็ยิ้มอย่างพอใจ เหมือนหล่อนสามารถเอาชนะเขาได้ คว้ามือแย่งแก้วเครื่องดื่มจากมือเขามาวาง ทั้งของตัวเองด้วย แล้วหล่อนก็โอบคอโน้มตัวเขาลงประกบจูบทันที วีรพลทำท่าจะขัดนิดหน่อย แต่ไม่รู้เพราะอะไร เขาไม่อาจข่มความรู้สึกได้ จนต้องโอบรัดแลกจูบกับเมย์อย่างเร่าร้อน สักพักจึงถอนปากออกจากกัน
“เมย์ว่าเราไปข้างในกันดีกว่า พลอยากจะทำอะไรเมย์ยอมทุกอย่าง”
แล้วก็จูงมือเขาเดินเข้าไป พอเข้าไปถึงห้อง วีรพลก็ต้องตะลึง แองจี้กับธนธรณ์ นั่งบนโซฟา ร่างกายเปลือยเปล่า แองจี้โน้มตัวก้มลงอยู่ที่แก่นกายของธนธรณ์ มือจับรูดกระถอกท่อนควย ปากก็อมรูดขึ้นลงๆ อย่างน่าเสียวใส้ แล้วคายออกมา แบบลิ้นตวัดเลียไปรอบหัวหยักอย่างช่ำชอง ธนธรณ์นั่งเอนกาย เชิดหน้าซี้ดปากอย่างสุดเสียว
“อู้วววว คู่นี้ไวไฟกันจริงๆ”
“Hey, May come on, join me” แองจี้หันมามองส่งยิ้ม พร้อมกวักนิ้วเรียกเมย์
“พลขา เรามาทำอย่างที่ทั้งคู่เค้าทำกันเถอะ จะได้มีความสุขด้วยกัน”
วีรพลยังตะลึงกับสิ่งที่เห็น แองจี้ผละจากธนธรณ์ เดินมาหาทั้งคู่ แล้วก็จู่โจมลูบไล้ไปตามร่างของวีรพล ค่อยปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด แล้วพยักหน้าให้กับเมย์เหมือนส่งซิกแนลรู้กัน เมย์เดินไปหาธนธรณ์ ที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักเขา แลกจูบอย่างเร่าร้อน ปานจะกลืนกินกันทั้งตัว อกหล่อนก็แอ่นเบียดกายธนธรณ์
“อืมมม ธร เธอนี่กำยำไม่เบานะพ่อรูปหล่อ วันนี้เรามามีความสุขกันเถอะ” ว่าแล้วหล่อนก็รวบชายกระโปรงชุดราตรีถลกขึ้น ถึงเอว ปลดสายคล้องคอ ปล่อยให้หลุดออก ตอนนี้ชุดราตรีมันไปรวบรวมอยู่ที่เอวหล่อน อกแน่นเต่งตึง แม้จะไม่ใหญ่เท่าของแองจี้ แต่ก็งามยั่วใจ หล่อนแอ่นอกให้ธนธรณ์ ตอนนี้เขาหน้ามืดตามัวไปหมดแล้ว อารมณ์กระเจิงตั้งแต่กับแองจี้ จนกู่ไม่กลับแล้ว รีบตะโบมเข้าที่หัวนม ดูดเลีย เม้มป้านหัวนมสีน้ำตาลอ่อน สลับซ้ายขวา
“อูวววว ธร ลิ้นเธอมันเร่าร้อนจริงๆ อูยยย ซี้ดดด” สักพัก เมย์ก็ลุกขึ้น จัดการกับชุดราตรีถอดทิ้งอย่างไม่แยแส ตอนนี้เหลือแต่จีสตริงตัวจิ๋ว ติดกาย มันปิดแค่เนินสามเหลี่ยมไว้เท่านั้น เมย์เข้าไปคุกเข่า คว้าท่อนควยธนธรณ์เข้ามาดูดเลีย รูดกระถอก จนธนธรณ์ต้องแอ่นกายซี้ดปาก
“โอยยยย เมย์ ผมเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว ขอผมเถอะนะ”
“อาาา ธรจะทำอะไรล่ะ ทนอะไรไม่ไหว” หล่อนถามเขา ส่งตาเย้ายวน
“จะเย็ดเมย์นะสิ ทนเงี่ยนไม่ไหวแล้ว เสียวหัวควยไปหมด”
“เอาสิ แต่เลียหีเมย์ก่อนนะ แล้วค่อยเย็ด” แล้วเมย์ก็ขยับไปบนโซฟา หันบั้นท้ายมาทางธนธรณ์ โก่งก้นท้าทายเขา ส่ายสะโพกระริก เอี้ยวตัวมามองธนธรณ์อย่างเชิญชวน สอดมือมาที่กล่างหว่างขา นิ้วเขี่ย ลูบไปตามแคมหี เขาหันไปตามทางนั้น เข้าประกบ เอาปลายควยจ่อที่ปากรู เขี่ยไปมาสองสามที ก็แอ่นเอวเสียบปลายควยเข้าไป
“ผมอดไม่ไหวแล้ว เมย์ ขอเย็ดก่อนเถอะ อู้วววว”
“อูยยยย ไม่เลียหีก่อนเลย อยากเย็ดเมย์ขนาดนั้นเลยเหรอ อาาาา”
“ก็หีเมย์ มันยั่วยวนน่าเย็ดนี่ ขอเย็ดให้หนำใจหน่อยเถอะ อึ้บๆๆ”
“อูยยย ทั้งฝืด ทั้งเสียว ธรจ๋า เย็ดเมย์เลย เมย์เงี่ยนตั้งแต่อยู่ที่งานแล้ว” เมย์คลานเข่า เด้งก้นรับการกระแทกของธนธรณ์อย่างถึงพริกถึงขิง สองมือจับพนักเท้าแขนของโซฟาอีกด้านหนึ่งไว้
ทางด้านวีรพล ก็โดนแองจี้จากแดนลุงแซม เล้าโลม ถอดเสื้อกางเกงออกหมด เขายังยืนอยู่ แองจี้คุกเข่า คว้าท่อนควยของเขามาดูดเลีย
“Oh… It’s so big” แม้จะเป็นสาวที่อยู่ดินแดนฟรีเซ็กส์ เคยผ่านเรื่องแบบนี้มามาก แองจี้ก็ยังตะลึงกับลำลึงค์ของวีรพล ซึ่งใหญ่อวบไม่แพ้หนุ่มอเมริกัน อาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำ หล่อนจู่โจมท่อนล่างอย่างชำนาญการ ตวัดลิ้นเลียปลายหยัก สลับเลียตรงปลายท่อรูเยี่ยว แล้วดูดอม ลิ้นของหล่อนทำงานปานงูฉก ทำเอาวีรพลงุ่นง่านสุดทน จับแองจี้ลุกขึ้น แองจี้เดินไปที่ด้านหัวของเมย์ ก้มลงประคองหน้าเมย์ จูบกันสักพัก วีรพลก็เดินตามหลังมา หล่อนยืนโก้งโค้งแอ่นก้นท้าทาย
“Come on, fuck me baby” กวักนิ้วชี้น้อยๆ เชิญชวนพร้อมทั้งฝ่ามือตบที่ก้นตัวเอง บัดนี้หล่อนหน้าแดงก่ำ นัยน์ตาเยิ้มชวนฟัน ด้วยความที่มีผิวออกสีน้ำผึ้งอยู่แล้ว มันยิ่งดูแดงมากขึ้น วีรพลไม่รอให้เรียกซ้ำรอบสอง เข้าไปจ่อปลายควยได้ก็ยัดกระแทกแองจี้เข้าทางด้านหลัง สองมือคว้าสะโพกหล่อนได้ก็รวบกระชับ กระหน่ำกระเด้าอย่างสุดง่าน
“Ohh…. Baby, like that… you fuck me so good ahhhh…uhhhhh…” แองจี้ครางลั่น กัดฟันกรอดๆ มือหนึ่งก็บีบเค้นเต้านมตัวเองอย่างสุดเสียวกระสัน มือหนึ่งก็ยึดค้ำพนักพิงของโซฟาไว้ ตาก็จ้องสลับระหว่างวีรพลกับธนธรณ์ ที่ตอนนี้ก็ออกแรงกระเด้าเย็ดเมย์อย่างเร่าร้อน
“อู้ยยยย ธรจ๋า เย็ดเมย์แรงๆ เมย์เสียวใจจะขาดอยู่แล้ว อ๊าาาา”
“ได้เลยเมย์ หีตอดๆ ดูดปลายควยอย่างงี้ จะเย็ดให้ถึงใจเลย อ๊าาาา”
“Oh….. fuck me harder, I’m close to cum”
ตอนนี้ต่างมีแต่เสียงครางระงมไปทั้งห้อง คงมีแต่วีรพล ไม่พูดไม่จา ได้ยินแต่เสียงครางในลำคอ โหมแรงกระแทกแองจี้อย่างหนักหน่วง สองแขนเขากระชับสะโพกหล่อน กล้ามเนื้อเกร็งจนมองเห็นกล้ามหน้าอก ไหล่ แขน เป็นมัด เขากัดฟันโถมแรงกระแทกอย่างแรงจนแองจี้คราง ลั่นห้อง วีรพลไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น สาวบั้นเอวเย็ดแม่สาวลูกครึ่งอเมริกัน แมกซิกัน จนร่างสั่นคลอน อกอวบตูมใหญ่สั่นไหวสั่นคลอนไปมาตามแรงกระแทก
“Ah….. I’ll coming now……I’m coming.. ohhhh.. baby wait a minute please…. I’m tired too much” เสียงแองจี้ครางหอบกระเส่า เหงื่อโชกท่วมตัว พลางผลักวีรพลออก สายตาวิงวอน ท่าทางหล่อนเหนื่อยหอบเอามากๆ แองจี้เองไม่อยากเชื่อตัวเองที่ถึงสวรรค์ได้เร็วปานนี้ทั้งที่เคยผ่านมาอย่างโชกโชน หล่อนทิ้งตัวลงข้างโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน เมย์มองเห็นเพื่อนสาว ถึงฝั่งฝันแล้วก็ยิ้มอย่างพอใจ
“โอววว ธร เดี๋ยวหยุดก่อน ขอเมย์เย็ดกับพลก่อน ดูสิ พลน้ำยังไม่ออกเลย” ธนธรณ์ก็สุดเสียดาย ที่จู่ๆ สวรรค์รำไรกลับมาสะดุดกลางคัน เขาก็ยังน้ำไม่แตกเลย
“โอววว ควยพลใหญ่จริง มิน่า แองจี้ถึงได้เสร็จเร็วอย่างงี้ มามะ ขอเมย์เย็ดพลให้สมที่เคยรอมานาน”
เมย์ผลักให้วีรพลนอนกับพื้นแล้วขึ้นคร่อมทับ จับควยจ่อรูหีได้ก็ขย่มอย่างแรง วีรพลได้แต่ครางอย่างสุดเสียว คว้าได้เต้านมสองเต้าก็เค้นบีบ ตามที่เขาเคยได้ดูหนังของธนธรณ์ที่เคยทิ้งไว้ให้ดู เอวก็กระเด้งสวนการกระแทกลง
“อูยยยย พลขาาาา คับรูหีไปหมด เสียวหีไปหมดแล้ว พลขาาาา อูยย”
ธนธรณ์ยังอารมณ์ค้างอยู่ เห็นแองจี้นอนพิงโซฟาอยู่ด้านล่างก็ขยับลงมาหา จับหล่อนถ่างขา กะจะเสียบแทงแล้ว แต่แองจี้ ผลักอกปฏิเสธ โนๆๆ พัลวัน แล้วหล่อนก็จูงมือธนธรณ์ มาที่ด้านหลังเมย์ นั่งลงลูบหลัง ลงไปถึงก้นที่ตอนนี้ขย่มขึ้นลงเห็นจังหวะ แล้วแองจี้ก็เอานิ้วมือมาป้ายน้ำลายตัวเอง กลับไปลูบที่ร่องแก้มก้นเมย์ จังหวะการโขยกขย่มของหล่อนเริ่มช้าลง แองจี้ล้วงนิ้วเข้าร่องก้นของเมย์แหย่เข้าๆ ออกๆ สลับป้ายน้ำลายตัวเอง สักพักแองจี้ก็ส่งสัญญาณให้ธนธรณ์ โดยชี้ไปที่ร่องก้น ของแบบนี้ไม่ต้องมีภาษาใดที่ต้องใช้ล่ามแปล ธนธรณ์ก็สุดงุ่นงานเป็นเดิมทุน จึงค่อยๆ กระหย่งกาย บรรจงจับท่อนควยจ่อเข้าที่ก้นเมย์ โดยแองจี้คอยช่วยเหลือ
“อูยยย จะเย็ดตูดเมย์เลยเหรอ อาาาา ตายแน่เลย โดนทั้งหี โดนทั้งตูด เบาๆ ก่อนนะ ธร ให้เมย์ตั้งตัวได้ก่อน” เมย์เริ่มหน้าบิดเบี้ยวเหยเก ถึงแม้ควยธนธรณ์จะไม่ใหญ่เท่าวีรพล แต่ก็ไม่มากนัก ยิ่งมันเข้ารูตูดหล่อนด้วย ทำให้เสียวสะท้านไปทั้งกาย
“อูยยย เคยแต่ดูหนัง ครั้งนี้ได้เย็ดตูดแล้ว มันคับแน่นกว่ารูหีอีก อาาาา”
พอเริ่มได้ที่ ธนธรณ์ก็เร่งกระเด้า ตอนนี้เมย์แทบขยับตัวไปไหนไม่ได้ ด้านบนก็ขย่มลงมา วีรพลก็กระเด้าเสยขึ้น ธนธรณ์ย่อเข่าโอบร่างเมย์ไว้ได้ก็กระเด้าท่อนควยเข้าออกรูตูดอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาเมย์ครางเสียงหลงไม่เป็นภาษา
“โอยยยย มันทั้งแน่นทั้งเสียว เมย์จ๋าาาาาาา ผมจะไม่ไหวแล้ว ขอแตกในรูตูดเมย์นะ อูยยยย...”
“ไม่นะ ธร อย่านะ......โอ้ยยยยย อูยยยยย” แต่ธนธรณ์ไม่ฟังเสียงแล้ว เขาโขยกบั้นเอวอย่างรุนแรง จนสุดท้ายร่างแอ่นกระตุก กดแช่ท่อนควยไว้พักนึง
“ไม่ไหวแล้ว อ๊ากกกกกกกกก น้ำแตกแล้วววววววววววว”
เมื่อแช่ได้สักพัก เขาก็ถอนลำควยออก น้ำเมือกข้นขาวปนเหลืองนิดๆ ก็ไหลย้อยออกจากรูตูดลงมาตามร่องก้น ลงมาอาบท่อนควยวีรพลที่ยังแช่รูหีเมย์อยู่ บ้างก็หยดลงถึงกะโปกของวีรพล ธนธรณ์ทิ้งกายลงเหนื่อยหอบ อยู่ข้างเมย์ ตอนนี้เหลืออยู่แค่วีรพลกับเมย์ วีรพลรีบกอดร่างเมย์พลิกขึ้นคร่อมทั้งๆ ที่ยังไม่ถอดควยออก
“ออยย พล เย็ดเมย์ต่อได้แล้ว เมย์เงี่ยน น้ำจะแตกอยู่แล้ว อู้ยยยยยย ซี้ดดดดดดดดด” พอขึ้นข้างบนได้ วีรพลก็กระหน่ำแทงไม่บันยะบันยังจนเมย์กระเด้งกระดอนไม่เป็นท่า
“โอ้ยยยยยย ไม่ไหวแล้ว น้ำหีเมย์แตกแล้ว อ๊ายยย กรี้ดดดดดดด”
ร่างเมย์กระตุกเกร็งไปหมด แต่วีรพลยังคงกระเด้าอยู่ แองจี้ พอได้คลายความเสียวลงบ้าง มองเห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดก็เริ่มมีอารมณ์อีก นั่งมองเพื่อนโดนกระหน่ำเย็ดจากสองหนุ่ม มือก็คลำบดขยี้แคมหี เม็ดแตดตัวเองอย่างหื่นกระหาย
“พอก่อนคะ พล เมย์ใจจะขาด อูยยยย เสียวจนจะขาดใจอยู่แล้ว พอก่อน.” เมย์หายใจหอบอย่างแรง แล้วผลักวีรพลออกจากร่าง ถอนตัวออกจนลำควยเขื่อง อวบใหญ่หลุดจากโพรงหีดัง พล้อก!! น้ำเมือกใสๆ ยังคงติดอาบท่อนควย เป็นยางยืดย้อยเป็นเส้น แองจี้ พอเห็นวีรพลอยู่ว่าง ก็เข้าประกอบจูบปาก มือก็กำรูดท่อนควยวีรพล วีรพลตอนนี้ความเงี่ยนง่านรุนแรงหาทางกลับไม่เจอแล้ว จับร่างแองจี้คว่ำหน้าหมอบราบลงกับพื้นห้อง ขึ้นคร่อมทับด้านหลัง จับควยจ่อตรงแคมหีของแองจี้ ที่ตอนนี้มันแนบสนิท พอได้ที่ก็กดพรืดเดียวเข้าหมดลำ
“oh… vivided to me, your cock very tight in my pussy uuuhh……”
ไม่รู้แองจี้ครางอะไร แต่ตอนนี้วีรพลกัดฟันกรอด โถมแรงบั้นเอวกระหน่ำเย็ดแองจี้ หน้าขากระทบแก้มก้นปั่บๆๆๆ สองมือกดไหล่แองจี้จนหล่อนขยับไม่ออก
“harder honey oh… fuck me hard ‘till you come oh… yeh………give it to me baby…”
วีรพลเร่งแรงมากขึ้น แล้วเขาก็กดกระแทกอย่างแรงครั้งสุดท้ายอัดเข้ากับแก้มก้นแองจี้ เชิดหน้าแยกฟัน ร่างเกร็ง หยุดค้างชั่วขณะ แล้วก็ถอนหายใจยาวแรง
“อ้อกกกกกกกกกกกกก”
พอถอนควยออก น้ำรักขาวข้นก็ไหลย้อยออกจากแคมหีแองจี้ เอ่อล้นมาอย่างมากมาย มันไหลย้อยมาจนนองที่พื้นห้อง แองจี้ได้แต่นอนคว่ำ ครางสั่น มือหยิกเกร็ง ธนธรณ์เห็นเพื่อนเป็นแบบนั้นก็แปลกใจ วีรพลไม่พูดไม่จา กระหน่ำเย็ดอย่างเดียว อารมณ์รุนแรง แม้กระทั่งน้ำแตกไปแล้ว แต่ท่อนควยอวบใหญ่ ยังแข็งโด่อยู่เลย แม้แต่ตัวธนธรณ์เองก็เช่นกัน ตอนนี้อารมณ์ความเงี่ยนเขายังไม่หายเลย คงต้องจับแม่สองสาวจอมร่าน เย็ดอีกสักรอบ พอเริ่มเรียกสติกลับได้ธนธรณ์ก็คิดว่า เขากับวีรพลคงต้องโดนวางยาแน่ๆ เพราะเมย์และแองจี้มีท่าทางน่าสงสัยตั้งแต่ชวนกันออกมาจากงานเลี้ยงแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าเมย์จะเป็นสาวร่านสวาทได้ขนาดนี้ แม่สาวแดนฮอลลีวู้ดร่างอวบอัด ตาคมคนนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นประเทศที่เสรี ไม่เหมือนขนบธรรมเนียมไทย เรื่องเซ็กส์ชาวอเมริกันถือว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
เมย์คลานมายังแองจี้ที่ยังนอนเหนื่อยหอบอยู่ จับร่างพลิกนอนหงาย ส่งยิ้มให้กัน กอดจูบกันอย่างนิ่มนวล แล้วก็กลับร่างหันหน้าไปทางปลายเท้าแองจี้ ขึ้นคร่อมร่าง ขยับไปถึงหว่างขา ก้มลงไปเอามือแบะแคมหีแองจี้ เอานิ้วล้วงควักร่องหีของแองเจลิน่าที่ยังมีน้ำขาวข้นของวีรพลอาบย้อยอยู่ ยกขึ้นมาดูดเลีย แล้วก้มลงใช้ปากดูดดุนเลียสลับไปมา แองจี้ก็ร่อนส่ายเอว ผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อยฉกลิ้นเลียแคมหี เม็ดแตดของเมย์
“uhhh.. May.. right there. You’d like eat cumjuice from my pussy?”
“Yes. I do. It’s so sweet”
“So do I. Uhhhh…..Your cunt so sweet, your taste is so good… honey”
สองสาวต่างเชื้อชาติต่างแลกดูดเลียร่องสวาทกันและกัน พร่ำพรรณนาชวนสยิวอย่างออกรส สักพักสองหนุ่มแดนไทยมองเห็นเช่น อารมณ์ก็คุกรุ่นขึ้นอีกเพราะท่อนควยยังแข็งโด่ ยังไม่มีวี่แววว่าจะสงบลง คงต้องใช้วิธีจัดการดับความเงี่ยนง่านอีกสักยก ต่างลุกเข้าไปหาสองสาวเพื่อนรักต่างเผ่าพันธุ์ ยังกะนัดหมายกันไว้ สองหนุ่มต่างเดินไปคนละฟาก วีรพลไปทางหัวของแองจี้ ธนธรณ์ไปทางปลายเท้า ธนธรณ์เข้าไปนั่งคุกเข่าตรงหว่างขาแองจี้ จับขาถ่างออกกว้าง เมย์เห็น ก็เงยหน้าเหลือบมองตาเยิ้ม
“มาเลย ธรขา มาต่อกันให้ลืมโลกไปเลย เดี๋ยวเมย์อมให้ อืมม ไม่ใช่เล่นนะเนี่ย อืมมม......”
วีรพลก็เข้าไปนั่งคุกเข่าทางบั้นท้ายเมย์จับลำเขื่องถูไปไปตามร่องก้น รูดลงไปจนถูกแคมยันแตด แองจี้มองเห็นก็รีบคว้ามาดูดอมในท่าที่ตัวเองนอนหงายอยู่จนเป็นที่พอใจ วีรพลใช้ฝ่ามือลูบ บีบสะโพกเมย์ ขณะที่ตัวเองโดนดูดเลียท่อนควย แถมยังโดนแองจี้บีบคลึงกะโปก ถึงกับครางฮืมๆ ก้นขมิบ หน้าท้องกระตุกเกร็ง อีกด้าน เมย์ก็จัดการกล้วยเขื่องของธนธรณ์ เขาเองก็โต้ตอบด้วยการกระเด้าสู้ ทำให้มันเข้าปากเมย์แทบถึงคอหอย ทำเอาเมย์สำลัก น้ำลายอาบท่อนควยไหลย้อยลงมาแหมะที่เนินหีแองจี้ ทั้งสี่คนปลุกเร้ากันจนได้ที่
“ธรขา เมย์เมื่อยปากแล้ว เย็ดหีแองจี้เถอะ มา เดี๋ยวเมย์จับยัดให้”
“อาาาา ผมก็สุดเสียวสุดทนแล้ว เมย์เล่นดูดซะจะแตกคาปากแล้ว อูยยยย”
“อูวววว ดูสิมันเข้าหีแองจี้แล้ว แคมยู่เลย พลขาาาา เย็ดเมย์ได้แล้ว เมย์เงี่ยนแล้ว ช่วยเป็นผัวให้เมย์สักที อาาาา” วีรพลจับปลายควยถูไถตามปากแคมอย่างมันในอารมณ์
“โอยยย พลขาาาา เย็ดเมย์เถอะ เมย์เงี่ยนจะทนไม่ไหวแล้ว ฟักมี พลี้สสส” ทั้งร้องขอทั้งส่ายก้น แตดสั่นระริก แล้วหล่อนก็ขยับตัวเข้าไปหาธรณ์เล็กน้อย มือลูบไล้ไปตามหน้าท้อง แผงออกของธนธรณ์ ขณะที่ธนธรณ์ก็จับขาแองจี้ฉีกกว้าง โย้ไปข้างหน้านิดๆ ท่อนล่างก็ซอยยิก ส่งลำควยเข้ารูหีแองจี้เข้าออกๆ อย่างน่าหวาดเสียว แองจี้ตอนนี้ได้แต่ครางอู้อี้ วีรพลขยับตามก้นเมย์ไปหน่อยจับจ่อปลายทวนเข้าจ่อปากถ้ำ พอตรงเป้าก็กดพรืด
“อ๊ายยยยย พลจ๋า เบาๆ ก่อน ของพลมันใหญ่มาก อูยยยย ทีเดียวมิดลำเลย หีเมย์กลวงแน่แบบนี้ ออยยยย”
“อูยยยย ไม่เคยนึกฝัน ว่าจะได้เย็ดสาวแหม่ม หีขมิบตอดควยดีชะมัด อูววววว ซี้ดดด”
“สู้สาวไทยได้หรือปล่าว ธรขา แองจี้เค้าอยากจะเย็ดกับหนุ่มไทยมานานแล้ว ตั้งแต่รู้จักกับเมย์ อูยยยยย พลขา เมย์เริ่มเสียวมากแล้ว กระเด้าแรงๆ ได้แล้ว ออยย.....” สักพักเมย์ก็บอกให้เปลี่ยนที่ เปลี่ยนท่า เพราะเจ็บเข่า ให้วีรพลถอนควยออกอย่างเสียดาย ลุกขึ้นพากันไปที่เตียง แองจี้กับธนธรณ์ก็พากันลุกตามไป พอไปถึงขอบเตียงซึ่งสูงประมาณเข่า มีผ้าปูเตียง ผ้าห่มหนาสีฟ้าอ่อนเย็นตา สองสาวเดินเคียงกันไป นั่งขอบเตียงเอนกายนอนคู่กัน ส่งตาเยิ้มชวนฝันแก่สองหนุ่ม
“มาสิคะ พล อยากเย็ดเมย์เท่าไหร่เอาให้สุดๆ ไปเลย พลขา มาเป็นผัวเมย์สิคะ” ว่าพลางแบะขาเชิญชวน วีรพลเข้ายืนไปประกบจับขาทั้งสองหุบเข้าหากันยกตั้งฉากกับลำตัว แล้วก็ส่งท่อนเอ็นแข็งโด่พรวดเข้าไป หน้าอกและไหล่แบกดันขาเมย์โย้ไปข้างหน้า แอ่นกายกระแทกช้าๆ แต่หนักหน่วง
“อุ้ยยยยย เสียบหีแต่ละที เสียวถึงใจจริงๆ ผัวขา ผัวของเมย์”
ธนธรณ์ก็จับขาแองจี้แบะออก คงกลัวน้อยหน้าวีรพล เสียบท่อนลำลึงค์เข้าไปก็ค่อยๆ กระเด้าช้า แต่ละครั้งเล่นเอาเข้าสุดกั่น
“oh….my god it’s so fucking deep” แองจี้ผวาเฮือก แอ่นกายรับการเสียบควย ผงกหัวขึ้นมองคู่เย็ดผิวเข้ม ร่างกำยำ มือข้างหนึ่งบดบี้ปลายหัวนมตัวเอง อีกข้างเอื้อมไปลูบแคมหี และบี้แตดของตัวเองสลับไป
“common fuck my pussy, I’m your whore, I’m your slut, yeh… like that.. A haa.. very fucking hot uuuuhh….yehh. oh my god” ครวญครางไป ต้องก็จ้องเขม็งที่คู่เย็ดอย่างเร่าร้อน ถึงแม้จะแปลไม่ค่อยออก แต่เคยได้ยินศัพท์เหล่านี้จากหนังโป๊ ทำให้ธนธรณ์มีอารมณ์เงี่ยนง่านตาม เริ่มเร่งกระเด้าแรงขึ้น
“อู้ยยยย พลขา เมย์เสียวหี พลเย็ดเก่งจัง อ๊อยยยย ฟัก มี ฮอนนี่”
วีรพลก็เร่งจังหวะเร็วแรง หนักหน่วงขึ้น กำลังจะถึงจุดหมายแล้ว แต่..
“อูยยย พลจ๋า เด๋วขอพอก่อน เรามาเปลี่ยนท่ากันเถอะ อยากเย็ดกับพลหลายๆ ท่า” วีรพลจึงถอนควยออก เมย์ก็แอ่นกายตามเหมือนเสียดาย
“อ๊าาาา คนอะไรควยใหญ่เย็ดเก่งเป็นบ้า อูยยย” แล้วเมย์ก็สะกิดแองจี้ พากันขึ้นไปบนกลางเตียงนอน ซึ่งก็ไม่ค่อยกว้างมากนัก คงเพราะเจ้าของห้องนอนคนเดียว สองสาวขึ้นไปนอนกอดแลกจูบกัน พลางยิ้มให้กันอย่างหวานหยดย้อย แล้วจึงหันมามองชายหนุ่ม คราวนี้ธนธรณ์เดินอ้อมปลายเตียงเข้าไปหาเมย์ วีรพลเข้าไปหาแองจี้ สองสาวนอนกอดกัน ตะแคงข้างหันหลังให้สองหนุ่ม ธนธรณ์เข้าประกบนอนเหยียดยาวริมขอบเตียงด้านหลังเมย์ จับขาข้างหนึ่งยกแบะขึ้น จ่อเจ้าชะโดจ่อปากถ้ำที่หยาดเยิ้มไปด้วยเมือกใสลื่น เสียบเข้าไป แล้วเปลี่ยนมือมาจับขาพับเมย์ คู้เข้ามืออีกข้างสอดไปที่ใต้ซอกคอ โอบกระชับ กันไม่ให้ตกเตียง แล้วก็เร่งกระเด้าส่งท่อนควยเข้าไป เมย์ก็เอี้ยวตัวยกแขนมาเกาะแขนเขาไว้ เอี้ยวคอมองหน้าเขาอย่างหื่นกระหาย
“อูยยยยย ธรก็เย็ดเก่ง ผัวทั้งสองของเมย์ เก่งทั้งคู่เลยย อาาาา”
“หีเมย์ก็เย็ดมันส์ ขอเย็ดเมย์ให้หายอยากหน่อยนะ เมย์จ๋า อ่าาาาาาา”
“ก็เย็ดอยู่นี่ไง อูยยยย เมย์เสียวไปทั้งตัวแล้ว อ๊อยยยย”
ทางด้านวีรพลก็ใช้ท่าเดียวกัน เหมือนยังกับว่าสองสหายจะแข่งขันเย็ดกันอย่างง้านแหละ แต่จนบัดนี้ ยังไม่มีใครได้ยินคำพูดหลุดจากปากวีรพลเลย เขาตะบันเย็ดอย่างเดียว
“uhh… your cock is so big in my pussy, fuck me baby, make me cum with the big dick, ohh common baby ahhh…..” เมื่อต่างแอ่นกระเด้าได้สักพัก สองหนุ่มต่างเมื่อยเอว เพราะท่านี้คงต้องออกแรงมาก อีกอย่างมันอยู่ริมขอบเตียง จะตกแหล่มิตกแหล่
“เมย์จ๋า เราเปลี่ยนท่ากันเถอะ เด๋วจะตกเตียงแล้วนี่ อูยยย เสียวก็เสียว”
“จ๊ะ ผัวขา งั้นเมย์ขย่มให้นะ อ๊อยย ควยหลุด อึ้ยยย”
แล้วเมย์ก็ขยับลุกขึ้นไปปลายเตียงให้ธนธรณ์ขยับเข้ากลางเตียงนอนแผ่หลา มังกรผงกหัวหงึกๆ เมย์ขยับขึ้นคร่อมหันหน้าเข้าหาธนธรณ์ จ่อควยได้ ก็หย่อนสะโพกกดลง โน้มตัวเข้าหาธนธรณ์เอามือค้ำข้างกาย ปากเผลอ ครางซี้ดๆ เอวก็ร่อนบดสะโพกเข้าออกๆ ทำให้ควยธนธรณ์เข้าลึกสุดกั่น อีกคู่เห็นเพื่อนเปลี่ยนท่า แองจี้ก็มองตาวีรพลพยักหน้าส่งสัญญาว่าเปลี่ยนมั่ง ให้วีรพลนอนหงาย หล่อนยืนคร่อม พอได้ที่ หย่อนก้นนั่งจับปลายควยจ่อรูหีตัวเอง หันหน้าไปทางปลายเท้าวีระพล แล้วก็ควบโขยกอย่างเมามันส์
“Uhh….your cock so good It’s tight in my pussy so deep…. Ohh..baby.. I’m gonna come, oh…” ครางกระเส่าตามประสาหล่อน แล้วก็เริ่มกระแทกขย่มแรงขึ้นๆ
“เมย์จ๋า ผมไม่ไหวแล้ว น้ำควยจะแตกแล้ว เมย์เย็ดได้มันส์มากเลย อูยยย โอ้วววว เมย์จ๋า”
“เมย์ก็มันหี ใกล้จะแตกเหมือนกัน เราแตกพร้อมกันนะ ผัวขาาาา โอ้ววว” ทั้งเมย์ทั้งแองจี้ ต่างแข่งกันขย่มสุดแรง ครางระงมแข่งกัน แต่หันหน้าคนละด้าน ธนธรณ์ก็สุดทนไหวเด้งเอวรับการโขยก จับเอวเมย์ช่วยเพื่อเพิ่มแรง ส่วนวีรพลก็รั้งสะโพกแองจี้ เสยก้นขึ้นกระเด้าสวน
“I’m coming, I’m coming now…… oh my goddd…….fucking hot Ah……”
“ผัวจ๋า เมย์ไม่ไหวแล้ว น้ำหีจะแตกแล้วว อ๊ายยยยยยยย ธรจ๋า แตก ละ..แล้วววววววววววว กรี้ดดด” เมย์ร้องลั่นห้องอย่างไม่เกรงว่าใครจะได้ยิน แองจี้เองก็ไม่ต่างกัน ขย่มได้สักพักก็เอนไปข้างหลังหาวีรพล เขาก็โอบกอดขยำเต้าสะบึมทั้งสองข้าง แอ่นกายจนก้นไม่ติดที่นอน กระเด้งเร็วเป็นเครื่องจักรแล้วก็เด้งส่งท้ายสุดเหยียด ร่างเกร็ง กอดรัดแองจี้แนบแน่น ยังมีการกระตุกตามมาเป็นครั้งคราว ธนธรณ์เองก็แทบจะพร้อมกัน
“น้ำควยแตกแล้ว เมย์จ๋า อ๊ากกกกกกกกกกก”
“ฮูยยยย ผัวทั้งสอง เย็ดมันส์สุดๆ อาาาา เสียวไปหมดทั้งตัวเลย”
“ผมก็ไม่เคยเงี่ยนอะไรอย่างงี้มาก่อน ฟู่วววว แทบหมดแรง”
“ฮิๆ ก็เมย์ใส่ยาเซ็กส์ไว้ในเครื่องดื่มนี่ ไม่ง้าน เมย์จะได้เย็ดทั้งพลกับธรเหรอ งานเลี้ยงรุ่นปีนี้ช่างสมใจเมย์ พลขา อย่าโกรธเมย์เลยน้าาาา ขอแค่เมย์ได้มีความสุขกับพล แค่นี้เมย์ก็พอใจแล้ว ไม่ขออะไรจากพลอีกแล้ว” พอเสร็จสมอารมณ์หมาย เมย์ก็เผยความจริงออกมา วีรพลนอนหอบกระเส่ากอดแองจี้อยู่ แต่คนตอบกลับเป็นธนธรณ์
“ช่างเถอะ เมย์ ถ้าเราไม่คิดจริงจัง ผูกพัน เมื่อจบแล้วก็จบไป ผมเข้าใจเมย์ดี”
“ขอบใจ ธร ที่เข้าใจ เมย์ไม่ได้คิดจะผูกพันหรอก แค่อยากสนุกกับเธอ กับ พล อยู่อเมริกา เมย์กับแองจี้ก็สนุกกันแบบนี้บ่อยไป แต่พลสิ โกรธเมย์หรือเปล่า ยังไม่เห็นพูดจาอะไรเลย อย่าคิดมากน้า อีกหน่อยเราก้อจากกันแล้ว ไม่มีอะไรผูกพัน” วีรพลก็ยังนิ่งเงียบ สองสาวจึงพากันเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย สองหนุ่มพักเอาแรงได้สักครู่ แล้วก็สวมเสื้อผ้าตามปกติ เมื่อสองสาวออกมา วีรพลกับธนธรณ์ก็พากันขอตัวกลับ สองสาวต่างส่งยิ้มโบกมือล่ำลาอย่างชื่นมื่น คงมีแต่วีรพลที่สีหน้าเรียบไม่ได้แสดงอาการอะไร พากันเดินออกจากห้องสองสาว ตอนนั้นเวลาประมาณ ตีสองกว่าๆ แล้วก็พากันขึ้นรถขับออกไป ทิ้งบทสวาทอันสุดสวิงไว้ ณ คอนโดฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนั้น ........


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #9 on: June 02, 2013, 08:52:13 pm
“แม่งเอ้ยย..... ไม่น่าเผลอตัวหลงกลเล้ยย.. พับผ่าสิ” วีรพลสบถคำออกมา พลางทุบพวงมาลัยอย่างแรง ในขณะที่ขับรถออกมา ธนธรณ์ถึงกับสะดุ้ง เขาแทบไม่เคยได้ยินคำนี้ ออกจากปากเพื่อนคนนี้เลย ดูเขาจะหัวเสียอย่างมาก
“เฮ่ยๆ เย็นๆ สิพล คิดไรมากน่า ถือซะว่าเราแค่สนุกกัน เมย์เขายังไม่คิดมากเลย แล้วแกทำไมต้องเดือดดาลด้วยว่ะ หรือแกเกิดกลัวขึ้นมาว่าแกนอกใจพี่ภาเค้า อย่าหัวโบราณน่า เดี๋ยวนี้โลกยุคไหนแล้ว”
“มันอดคิดไม่ได้นิหว่า แกรู้ สงสัยตั้งแต่แรกก็ไม่ยอมบอกกันเลย หน๊อย สงสัยอยากจะจ้ำจี้กับแม่วัวพันธุ์เนื้อนมไข่มากละสิ ทำเป็นเงียบเฉย แกเองก็ไม่น่าจะทำงี้ เหมือนนอกใจน้องแพรนะเว้ยยย”
“เราไม่ได้มีเจตนาตั้งใจทำนิหว่า ยาออกฤทธิ์ ของขึ้น ใครจะทนได้ ยัยเมย์ก็คงคิดอยากเขมือบข้าวหลามหนองมนของแกมานานมั้ง ถึงขนาดลงทุนทำอย่างนี้ แกเองก็ทำเป็นพูดดีไป หน๊อยยย ทีตอนนั้นเห็นซอยยิกๆ ซะสองยัยนั่นร้องลั่นห้อง ผู้ชายอ่ะ มันก็มีบ้างแหละว้า ที่อาจผิดพลาด พลั้งเผลอใจไปบ้าง แต่ยังไงผู้หญิงที่เราคิดจะอยู่ร่วมด้วยชั่วชีวิตก็คือหญิงที่เรารักหมด หัวใจเพียงคนเดียวนะ อย่าคิดมากให้เยี่ยวเหลือง เปลืองสมองหน่อยเลยน่า มันจบแค่นี้ ไม่มีอะไรต่อ โอเค๊...” ฟังเพื่อนพูดแล้ว วีรพลก็ยังไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี แต่ก็ลดความเดือดดาลลงไปมาก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ธนธรณ์เห็นเพื่อนอาการยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ก็มองหน้าขำๆ ล้อๆ
“แต่แกนี่มันมีพรสวรรค์เรื่องบนเตียงจริงๆ ว่ะ เผลอไม่เท่าไหร่ จากระดับอเมเจอร์ โนเนม จะพาสชั้นขึ้นเป็นโปรฯ เลยนะเนี่ย.....ไอ่พล หูยย... แบบนี้ แกคงได้หวดสวิงกับพี่ภา ตีลูกหยอดหลุมทำโฮลอินวันเป็นว่าเล่นแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ” วีรพลเริ่มอารมณ์ผ่อนคลายลง อดขำไปกับการเปรียบเปรยของเพื่อนด้วยไม่ได้
“ไอ่บ้า!! เมียนะเว้ย ไม่ใช่หลุมกอล์ฟ แกก็ว่าไปนั่น”
“หืมม...... เด๋วนี้เรียกเมียเต็มปากเลย ก่อนนี้ยังพ่อแง่แม่งอนกันอยู่นิ แม๊ แกนิ เสือปืนไวนิหว่า เรามาแข่งกันมะ ใครจะมีลูกก่อนกัน ถ้าแกมีก่อนชั้นจะมอบสร้อยทับทิมสวยๆ สักเส้น คัดเลือกเอาอย่างดีเลยไว้รับขวัญหลาน แต่ เอ.... ถ้าชั้นชนะ จะได้อะไรจากแกหว่า.....”
“ไม่มีเว้ยย แกท้าพนันเอง ชั้นไม่อยากแข่งด้วยหรอก พ่อหนุ่มเพลย์บอย” “หื้ยยยย... คร้าบ พี่สุภาพบุรุษ พ่อรักเดียวใจเดียว”.........


คืนนั้น ธนธรณ์ค้างที่บ้านวีรพลด้วยเพราะดึกมากแล้วแถมอ่อนเพลีย ตื่นเช้าจึงจะกลับไปเอารถที่จอดค้างที่โรงแรม แล้วค่อยกลับบ้านญาติ สองหนุ่มตื่นมาอีกที เกือบเที่ยงของวันอาทิตย์ จากเสียงแจ๋วๆ ของมีน
“พี่โอ๊ตๆ ตื่นได้แล้ว จะเที่ยงแล้ว อ้าว!! พี่ธรก็นอนนี่ด้วย อี๋ยยย ไปดื่มกันมาอีกสิเนี่ย กลิ่นหึ่งเชียว ไปอาบน้ำได้แล้ว ทั้งคู่เลย คุณพ่อคุณแม่รอทานข้าวอยู่”
“โห่... มีน ทำเป็นบ่นเป็นคุณแม่ไปได้ กำลังนอนสบายอยู่เลย เมื่อคืนเจอขนานหนักไปหน่อย ขอนอนต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอก้าบบ แม่มีน” ธนธรณ์งัวเงียขึ้นมา มองเห็นน้องสาวเพื่อน คู่กัดเก่าขาประจำตั้งแต่เขาเรียนมหาลัย เลยแกล้งเย้าซะหน่อย
“ไม่ต้องเลย พี่ธร พี่นั่นแหละ พาพี่หนูไปเสียคน ยังจะมาพูดดีอีก” มีนมองหน้าธนธรณ์โต้ตอบ เชิดหน้าใส่
“อ้าว เฮ่ยย แหม เด๋วปั้ดจับตีก้นเลย กล่าวหากันชัดๆ เออ... จะเที่ยงแล้วนิหว่า ป๊ะๆ พล รีบไปอาบน้ำกันเถอะ เดี๋ยวพ่อแกรอทานข้าว ชั้นก็จะรีบไปเอารถ จอดทิ้งไว้แต่เมื่อคืนล่ะ”
ที่โต๊ะทานข้าว มีวีรวัฒน์ อรทัย วีรพล ธนธรณ์ และก็มินตรา โดยมีป้านิ่มคอยดูแลกการจัดสำรับอยู่ห่างๆ สองพ่อลูกเพิ่งได้พบกันมื้อนี้เอง ต่างก็พากันคุยไปด้วยทานไปด้วย ธนธรณ์ก็สรรหาเรื่องมาเย้าแหย่ ยียวนมินตราซึ่งเขาก็รักเธอเหมือนน้องสาวคนนึงเหมือนกัน แต่มักจะชอบกวนประสาทสาวน้อยให้อารมณ์ฉุนเฉียว โต้ตอบคารมเขาอยู่แว้ดๆ อยู่ตลอดเวลา วันนี้ก็เช่นกัน ทำให้ทุกคนสนุกสนานครื้นเครง จะมีแต่อรทัยเท่านั้นทำตาขวางไม่ชอบใจ ยิ่งโดยเฉพาะกับวีรพลไม่ว่าเขาจะพูดอะไร หล่อนเป็นต้องหาเรื่องขัดไปซะทุกเรื่อง จนทำให้ทุกคนเริ่มอึดอัด จนทานอาหารเสร็จ อรทัยก็เตรียมตัวออกจากบ้านไปส่งมินตราไปโรงเรียนกวดวิชา ส่วนธนธรณ์ กลับไปเอารถที่โรงแรม และกลับบ้านญาติ และได้นัดให้วีรพลไปเจอกันที่บางกะปิ เพื่อเดินทางกลับจันทบุรี คงเหลือแต่วีรวัฒน์กับวีรพลสองพ่อลูก ทั้งสองจึงได้มีโอกาสคุยกัน
“ลูกมาก็ดีแล้ว พ่อก็มีเรื่องอยากจะคุยด้วย หลายเรื่องทีเดียว”
“ครับพ่อ พ่อดูหมองๆ ไปนะครับ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า โอ๊ตต้องขอโทษพ่อด้วย ที่ไม่ค่อยได้ติดต่อมาเลย คิดๆ ไปแล้วผมก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ทิ้งพ่อไปแบบนี้”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก พ่อกลับภูมิใจเสียอีกที่โอ๊ตเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ รู้จักพึ่งตนเอง ไม่เหมือนตอนเด็กๆ เล้ย เอาแต่ร้องไห้งอแง อ้อนพ่อแม่ท่าเดียว พ่อต่างหากที่ต้องขอโทษโอ๊ต ที่ไม่สามารถให้ความรักความอบอุ่นแก่ลูกเหมือนคนอื่นๆ ต้องขาดแม่ไป พ่อเองก็เสียใจไม่น่าหลงผิดเชื่อคนง่าย แถมด่าประณาม ขับไล่วัลวิภาเสียจนเค้าคงโกรธพ่อไม่อยากกลับมาอีก ถึงขนาดขายมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้หมดทุกอย่าง ไม่ยอมเอาทรัพย์สินที่บ้านพ่อไปสักอย่างเลย แล้วหายไปไม่มาตามหาลูกอีกเลย หลังจากพ่อส่งลูกไปอยู่กับลุงวีรชัยที่เชียงใหม่”
“ช่างเถอะครับพ่อ ถึงผมจะคิดถึงแม่แค่ไหน แม่ก็ไม่มีวันกลับมาแล้ว ผมไปอยู่กับลุงก็ว่าดีแล้ว คุณลุงได้สอนอะไรหลายอย่างให้ผม ทำให้ผมเข้มแข็ง และไม่ต้องมาทนทรมานกับการชิงชังของน้าอรทัย ผมอยากรู้เหมือนกัน ผมไปสร้างเวรกรรมอะไรไว้กับน้า เค้าถึงได้ชิงชังผมขนาดนี้ แต่ไม่เป็นไรครับ โอ๊ตยังมีพ่อที่รักผมอยู่ มีน้องมีน ผมก็สุขสบายใจแล้ว”
“เอ่อนี่ โอ๊ต พ่ออยากให้ลูกอยู่ต่ออีกสักสองสามวัน พ่ออยากจะวางมือแล้ว อยากให้โอ๊ตรับช่วงต่อจากพ่อ ตอนนี้พ่อวางแผนทำพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกแล้ว โอ๊ตจะว่ายังไง”
“ทำไมละครับ พ่อรีบร้อนอะไรถึงทำแบบนี้ คุณน้าอรทัยก็ยังอยู่”
“สุขภาพพ่อมันแย่ลงทุกที พ่อรู้ตัวดี โรคหัวใจกับความดันมันเริ่มออกอาการกำเริบหนักแล้ว ลูกเป็นหมอ น่าจะรู้ดีนะ หนักขึ้นอาจจะมีเบาหวานเพิ่มมาอีก”
“ห๊าาา ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าพ่อเป็นโรคนี้ อย่างนั้นก็เถอะ พ่อน่าจะมอบให้น้าอรทัยกับน้องมีนนะครับ”
“แรกๆ พ่อไม่อยากให้ใครเป็นกังวล ส่วนอรทัยนั่นก็คืออีกเหตุผลหนึ่ง พ่อตามสืบมาระยะหนึ่งแล้ว อรทัยเค้าไม่ซื่อต่อบ้านเราแล้ว เค้านั่นแหละที่ทำให้แม่วัลวิภาต้องออกจากบ้านไป แต่ตอนนี้ยังยืนยันแน่ชัดไม่ได้ โรคของพ่อมันถึงกำเริบแรงขึ้น” วีรวัฒน์เล่าไปด้วยสีหน้าหม่นๆ วีรพลใจหายวาบ ไม่อยากเชื่อว่าอรทัยจะกล้าทำกับพ่อผู้ที่รักและไว้ใจเธอเสมอมา
“มันคงเป็นกรรมของพ่อที่พรากลูกพรากแม่ด้วยใจที่อคติ ไร้เหตุผล มันคงถึงคราวที่ต้องชดใช้แล้ว พ่อเลยอยากยกทุกอย่างที่พ่อมีให้โอ๊ตดูแลแทน ตอนนี้พวกบริษัทเครือข่าย เริ่มมีการเคลื่อนไหว พ่อคิดว่ามันยังไงชอบกล แค่สันนิษฐานเอาว่า จะมีการฮุบหุ้น พ่อว่าอรทัยแน่ๆ พ่อถึงไม่อยากยกให้เค้าไง”
“แล้วน้องมีนละครับ?”
“พ่อรู้ว่าลูกก็รักน้อง เมื่อถึงคราวนั้นพ่อเชื่อใจและมั่นใจว่าลูกจะทำสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม เรื่องนี้พ่ออยากให้มีคนรู้เพียงแค่พ่อ โอ๊ต ทนาย และกรรมการถือหุ้นที่ไว้ใจได้อีกสองสามคนเท่านั้น เมื่อพินัยกรรมเรียบร้อย จึงค่อยประชุมรวมกันทุกฝ่าย ประกาศให้ทุกคนรู้ ช่วงนี้พ่ออยากให้โอ๊ต มาดูแลงานบ้าง พ่อจะได้แนะนำ หรือถ้าเป็นไปได้ ลูกลาออกจากงานที่นั่นแล้วมาทำแทนพ่อเลย โอ๊ตจะโอเคมั้ย?”
“ผมว่าอย่าเพิ่งทำอะไรให้มันกระโตกกระตากดีกว่าครับ จะทำให้ฝ่ายนั้นเค้าไหวตัว อีกอย่างผมก็มีงาน มีบ้าน และก็... เอ่อ มีว่าที่ลูกสะใภ้ของพ่อด้วย พ่อเองก็อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้สิครับ พ่อเองก็เป็นคนแข็งแรง ไม่เป็นอะไรง่ายๆ แน่” วีรพลพูดปลอบใจบิดา ทั้งๆ ที่ในใจเขาชักหดหู่ พ่อต้องมีอะไรในใจมากกว่านี้แน่ๆ ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้
“โอ้ นี่ลูกมีแฟนแล้วเหรอ อืมม... ว่างๆ ก็พามาให้พ่อรู้จักด้วยสิ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้ากัน เรื่องตัวของพ่อ พ่อรู้ตัวเองดี โอ๊ตไม่ต้องปลอบใจพ่อหรอก”
ชายวัย 50 ร่างสูง ทะมัดทะแมง ดวงตาเข้มดุ แต่บัดนี้มีท่าทางหม่นหมอง พูดแล้วตบไหล่ลูกชาย สายตามีแววบ่งบอกอะไรสักอย่างแต่วีรพลไม่อาจล่วงรู้ได้ ยิ่งได้เห็นอาการอย่างนี้ วีรพลสะท้านสะท้อนใจเป็นที่สุด......


หลังจากเลิกงาน แพรวาเข้าไปช่วยวิภาวรรณจัดเอกสาร เข้าแฟ้มเรียบร้อย เช็คตารางนัดหมาย เสร็จแล้วจึงเดินลงมาออกจากออฟฟิตมาที่หน้าล้อบบี้ มองเห็นหน้าธนธรณ์ยิ้มแฉ่ง ยืนถือช่อดอกไม้ช่อโตสีสันสวยงาม เมื่อเห็นสองสาวต่างวัยเดินมา ก็เข้าไปทัก แพรวาร้องออกมาอย่างดีใจที่แฟนหนุ่มมารับ พร้อมรับดอกไม้ช่อโต ยืนเกาะแขนธนธรณ์ วิภาวรรณก็แอบดีใจไม่น้อย ตอนนี้หล่อนอยากกลับไปให้ถึงบ้านสวนไวๆ สีหน้าหล่อนระรื่นในที รับคำทักทายสวัสดีจากหมอธนธรณ์
“พี่ภาครับ พลมันโทรติดต่อมาบอกหรือเปล่า”
“หืมม ทำไมละคะ”
“อ้าว แล้วกัน นี่แสดงว่ามันยังไม่โทร.มาบอกละสิ พลมันบอกผมให้กลับมาก่อน มันว่ามีธุระสำคัญที่บ้าน ขออยู่สะสางให้เรียบร้อยซะก่อน คงอีกสักสองสามวันนะครับ ที่โรงพยาบาลก็ฝากให้ผมดูแลในส่วนเคสเร่งด่วน”
“อ่าว.. เหรอคะ แต่พลก็ยังไม่เห็นโทร.มาบอกพี่เลยนิคะ ขอบคุณนะคะธรณ์ที่อุตส่าห์บอกพี่” วิภาวรรณสีหน้าเจื่อนลงถนัดตาบ่งบอกถึงความผิดหวังเล็กๆ แพรวามองเห็น ก็อดสงสารไม่ได้
“พี่หมอคะ ดูสิ พี่ภาหน้าเสียเลย พี่พลนะพี่พล ติดธุระก็น่าจะติดต่อส่งข่าวมั่ง ใจดำจริงๆ”
“ช่างเถอะจ้ะ แพร พลเค้าคงยุ่งอยู่ สงสัยธุระสำคัญจริงๆ ไม่งั้นคงมีเวลาโทร.มาแล้วล่ะ ป่ะ กลับบ้านกันเถอะ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันล่ะ”
แล้ววิภาวรรณก็ขอแยกตัวกลับบ้าน ปล่อยให้สองหนุ่มสาวเกาะแขนเดินทางกลับบ้านไปอีกทาง วิภาวรรณขับรถไปยังร้านขายของฝากอย่างเลื่อนลอย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาจอดหน้าร้านตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ จอดค้างอยู่นาน จนพนักงานขาย ออกมาดู
“อ้าว!! คุณภาเหรอคะ ก้อยนึกว่าคุณหมอซะอีก แล้วทำไมคุณภาขับรถคุณหมอละคะ เอ๋.....เด๋วนี้ใช้รถคนเดียวกันแล้วเหรอคะนี่ เข้าไปในร้านเถอะคะ มีชาวสวนเค้าจะมาติดต่อฝากผลไม้ขายที่ร้านเราหลายเจ้าเลยคะ ไปเถอะคะ ก้อยให้เค้ารอคุยกับคุณภาอยู่คะ” วรรณวิภาสลัดความรู้สึกเดิมออกไป ลงจากรถเข้าไปในร้าน มีลูกค้าหลายคนรออยู่ เมื่อได้พูดคุยกันลูกค้าแต่ละคนก็อยากเสนอให้วรรณวิภาเป็นตัวแทนส่งผลไม้สด และแปรรูป เข้าไปในกรุงเทพฯ ถ้าหากว่าไปได้สวย น่าจะขยับขยายสาขาเข้าไปในกรุงเทพฯ สักที่หนึ่ง เพราะเมื่อถึงฤดูกาลผลไม้เมืองตะวันออก ผลไม้สดทุกอย่าง ก็กรูกันในเมืองบ้าง มาวางขายข้างถนน บ้างก็เปิดร้านเล็กๆ ชั่วคราว ถ้าขายได้หมดก็ดีไป แต่ส่วนมากจะเหลือ ไม่คุ้มกับแรงที่ชาวสวนทุ่มเท ลูกค้าเห็นว่าร้านของวิภาวรรณมีระบบจัดการที่ดี เธอมีความรู้ความชำนาญทางด้านการตลาด การเงิน น่าจะขยับขยายกิจการ เพื่อเป็นการส่งเสริมรายได้ให้ชาวสวนด้วย หากเป็นไปได้น่าจะทำเป็นตัวแทนจำหน่ายส่งออกไปต่างประเทศด้วย ซึ่งลูกค้าชาวสวนแต่ละรายก็มีสินค้าส่งเข้าร้านได้มากพอสมควรหากวิภาวรรณ ตกลงจะรับหน้าที่เป็นตัวแทน หล่อนก็รับไว้ขอคิดให้รอบคอบเสียก่อน เพราะถ้าจะทำจริงๆ ต้องดูร้านค้าอื่นประกอบด้วย หล่อนไม่อยากจะเป็นคู่แข่งใคร ที่เปิดร้านมานี้ก็แค่อยากทำเพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง จะได้ไม่ฟุ้งซ่านทุกข์ทนกับอดีตที่แสนปวดร้าวของตัวเองเท่านั้น แต่มาบัดนี้ร้านหล่อนก็เริ่มเป็นที่รู้จัก กิจการก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ลูกค้าต่างก็ฝากความหวังไว้กับหล่อน วิภาวรรณจึงแบ่งรับแบ่งสู้ไว้ วันนั้นการเจรจาใช้เวลานาน จนเกือบประมาณสองทุ่มจึงได้ปิดร้าน แล้วก็กลับบ้านสวน....


ล่วงเลยผ่านมาจนถึงวันศุกร์ ครบสัปดาห์พอดีที่เขาไปกรุงเทพฯ ก็ยังไม่มีวี่แววของวีรพล เขาไม่ได้ติดต่อมาเลย วิภาวรรณเองก็ไม่กล้าติดต่อหาเขา เกรงว่าจะรบกวน หากเขาว่างจริงๆ คงจะโทร.มาหาหล่อนแล้ว คงจะมีเรื่องสำคัญจนไม่มีเวลาให้กับหล่อน เย็นวันศุกร์วิภาวรรณกลับบ้านตามปกติ มองไปที่บ้านอีกฟากรั้วก็ยังไร้วี่แววของเขา เธอเดินเหม่อลอยอยู่ในสวน ทำไมก็ไม่รู้ พอไม่เห็นหน้าเขาอยู่ที่บ้านทีไร หล่อนรู้สึกว่ามันโหวงเหวง เปล่าเปลี่ยวชอบกล นึกถึงคำพูดออดอ้อน นัยน์ตาเจ้าชู้แต่จริงใจ อ้อมแขนที่อบอุ่นยามที่เขาอยู่ใกล้ มันทำให้ใจหล่อนกระชุ่มกระชวยเป็นที่สุด นี่เธอหลงรักเขามากขนาดนี้เลยเหรอ ยามเย็นอย่างนี้ อากาศกำลังเย็นสบาย มีลมพัดอ่อนๆ มาเป็นระยะ ทำให้ผมยาวสลวยของหล่อนปลิวล้อลมเป็นริ้ว ในเวลาปกติ หล่อนจะไม่ชอบเกล้าผม ยกเว้นเวลาเข้าออฟฟิตทำงานที่หล่อนจะรวบเกล้าเป็นมวยแล้วมัด หรือหนีบกิ้บไว้ด้านหลัง อากาสเริ่มเย็น วิภาวรรณรู้สึกหนาวสะท้านไปนิดๆ จนต้องเดินกอดอก เพราะใส่แขนกุด คอกว้าง เผยช่วงไหล่และช่วงต้นแขนเนียนตา ในสวนตอนนี้เงียบเชียบ ได้ยินเสียงนกร้องเป็นบางคราว วิภาวรรณเดินเล่นไปเรื่อยๆ ครุ่นคิดถึงแต่หมอหนุ่มคนรัก ใจเคว้งคว้าง น้ำตาเจ้ากรรมจู่ๆ มันก็ไหลเอ่อรินอาบแก้มนวลอย่างที่สุดจะกลั้นได้
“อากาศเย็นๆ เดินคนเดียวในสวน ระวังจะเป็นหวัดเอานะคร้าบบบ..ผมขี้เกียจมารักษาคนป่วยนอกเวลางาน...” เสียงนี้ทำวิภาวรรณสะดุ้งใจเต้นโครมคราม มันเป็นเสียงของผู้ที่หล่อนเฝ้ารอมาหลายวัน หันกลับไปตามต้นเสียง ก็เห็นร่างสูงโปร่งยืนยิ้มจ้องตาหล่อนเอามือไพล่หลัง ห่างจากหล่อนสองวา
“พล!! พลมาถึงเมื่อไหร่คะนี่” สองขาก้าวไปหาเขาแทบจะแนบชิดกับตัวเขา
“ก็เดินตามภามา แต่ทำไม ไม่ได้ยินผมเลยล่ะ หืมมม ร้องไห้เหรอนี่” วีรพลเห็นหน้าวิภาวรรณใกล้ๆ ก็มีขมวดคิ้วนิดหน่อย เอื้อมมือที่ไพล่หลังข้างหนึ่งมาลูบปาดน้ำตาที่พวงแก้ม
“เปล่าซะหน่อย สงสัยละอองดอกไม้แถวนี้มันเข้าตา ทำให้แสบเคืองตา”
“นึกว่าร้องไห้เพราะคิดถึงผมซะอีก เฮ้อ!! ไอ่เรารึ คิดถึงแทบตาย แต่เค้าไม่คิดถึงเราเล้ยยย.... รู้งี้ไม่กลับมาดีกว่า คนใจดำ” พูดเหน็บแนมแล้ววีรพลก็ทำเบือนหน้าหนี ทำสีหน้าผิดหวัง
“ใครกันแน่ใจดำ หายไปเป็นอาทิตย์จะติดต่อส่งข่าวบ้างก็ไม่มี ปล่อยให้รออยู่ได้ แล้วมีหน้ามาบอกว่าคิดถึง” วิภาวรรณเองก็พูดตัดพ้อเขาตอบ น้ำเสียงหล่อนสั่นเครือนิดๆ วีรพล อดไม่ได้ตวัดแขนข้างหนึ่งรวบร่างนั้นเข้ามากอด โน้มหน้าเข้าจูบแก้ม แต่วิภาวรรณก็ก้มงุดหลบหน้าหนีไม่ยอมสบตา
“ไม่คิดถึงผมแล้วรอทำไม ฮึ ปากกับใจไม่ตรงกันเลย ผู้ร้ายปากแข็ง ผมแค่อยากลองใจดูว่าพี่ภา เอ่อ... ภาจะคิดถึงผมบ้างมั้ย เลยไม่โทร ใจจริงอยากโทรมา ได้ยินเสียงมั่งก็ยังดี” คลายแขนข้างที่กอดหล่อนไว้ มาจับเชยคางให้หล่อนสบตา เขายิ้มให้หล่อน เอาอีกแล้ว รอยยิ้มนี้แบบนี้ วิภาวรรณแทบไม่อยากสบตาเขาเลย แก้มร้อนผะผ่าวเป็นสาวรุ่นเลย แต่ก็เบือนหน้าหนีไม่ได้ มือเขาจับเชยคางแน่น ทำได้แต่เพียงหลบตา “น้ำตายังเป็นรื้นอยู่เลย แค่เห็นตอนนี้ก็รู้แล้ว จะยังปากแข็งอีกมั้ย...”
“ก็ก่อนไป พลบอกจะกลับวันจันทร์นี่ นี่มันวันศุกร์แล่ว” ทำเหลือบมองช้อนตามองค้อน เสียงกระเง้ากระหงอด “เอ๊ะ..... พลมีอะไรซ่อนไว้ข้างหลัง” หล่อนเริ่มสังเกตเห็น เพราะผิดสังเกตตั้งแต่แรกที่เขากอดหล่อนเขาใช้แขนข้างเดียวตลอด มองแขนอีกข้างยังไพล่หลังอยู่ เมื่อถูกถาม วีรพลก็ยกแขนชูสิ่งของที่ถือซ่อนไว้ มันเป็นกล่องแข็งขนาด 8x10 นิ้ว หนาสัก 2-3 นิ้วได้ ลายดอกกุหลาบ มีริบบิ้นที่ทำเป็นรูปดอกไม้ และสายริ้วระย้าสีแดง ปักอยู่บนฝากล่อง ยื่นส่งให้วิภาวรรณพร้อมกับรอยยิ้มที่กรีดใจหล่อน
“ภาเปิดดูสิ” วิภาวรรณจึงรับมาเปิดดู เอาฝากล่องนั้นไปซ้อนรับกล่องไว้ด้านใต้ เพราะไม่มีที่วาง ในกล่องนั้นมีที่คาดผม อันหนึ่งสีครีมแถบขอบเลื่อมสีทอง มีลวดลายเล็กน้อย เอียงลงไปตามความโค้งไปข้างหนึ่งมีรูปดอกไม้ มันเป็นดอกกล้วยไม้สีแดงอมม่วงเข้มติดอยู่ วีรพลหยิบมันออกจากกล่องแล้ว รวบไล้ผมเธอให้เป็นระเบียบแล้วคาดให้เธอ สองมือประคองพวงแก้มจ้องมองพิศหน้าวิภาวรรณ ในกล่องนั้นยังมีของอีกสองชิ้น เป็นกล่องกำมะหยี่เล็กๆ สีน้ำเงินเข้มอันหนึ่ง อีกอันกล่องกำมะหยี่สีขาวใหญ่กว่าสัก 3-4 เท่าได้ วีรพลหยิบกล่องใหญ่ก่อน แล้วเปิดมา วิภาวรรณถึงกับตาค้าง ตะลึงงัน มันเป็นสร้อยเพชรส่งประกายวับวาวสวยงาม มีรูปเป็นตาข่ายสามเหลี่ยมห้อยระย้า ประดับเพชรเต็ม คุ้นตาวิภาวรรณมาก เขาหยิบมันขึ้นใส่ให้หล่อน แล้วเขาก็หยิบกล่องเล็กชิ้นสุดท้าย เปิดออกมา มันเป็นแหวนพลอยไพลินน้ำงามเม็ดกะทัดรัดล้อมด้วยเพชรเล็กๆ อีกหลายเม็ด ซึ่งก็คุ้นตาวิภาวรรณอีกเช่นกัน เขาถือมาชูไว้ข้างหน้าหล่อน
“ผมไม่รู้จะหาของอะไรมาให้ภาดี เพราะผมไม่เคยซื้อของให้ผู้หญิง เลยตัดสินใจซื้อที่คาดผม ส่วนสร้อยกับแหวนวงนี้ คุณพ่อผมท่านฝากมาเพื่อรับขวัญว่าที่สะใภ้ พ่อบอกว่ามันเป็นของที่ท่านซื้อให้แม่ตอนหมั้น ตอนแม่จากบ้านไป พ่อโมโห สั่งเอาของที่เกี่ยวกับแม่ทุกอย่างแม้กระทั่งรูปที่มีรูปแม่ติดอยู่ทิ้งหมด เหลือไว้แต่สร้อยกับแหวน ตอนนี้พ่อเสียใจ ท่านอยากให้แม่กลับคืนแต่คงไม่มีวันแล้ว พ่อจึงมอบให้ผม ซึ่งเหมือนเป็นตัวแทนของแม่ให้เอามาให้ภา เห็นมั้ย พ่อผมยังไม่ได้เห็นหน้าภาเลย เพียงแค่ผมเล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับเรื่องของเราสองคนทุกอย่าง ท่านก็ยินดีรับภาแล้ว ไม่ได้รังเกียจด้วยซ้ำ แล้วภาล่ะ จะยินดีให้เกียรติมาเป็นสะใภ้ท่านหรือเปล่า ภาจะยอมแต่งงานกับผมหรือเปล่า?”
ตั้งแต่รู้จักกันมา วีรพลพูดได้ยืดยาวที่สุด และคราวนี้จริงจังกว่าทุกครั้ง เขาพูดไปพร้อมกับรอยยิ้ม และสีหน้าที่จริงจังและจริงใจ วิภาวรรณนิ่งอึ้งแต่แรก พอได้ยินคำถาม จึงเรียกสติกลับได้ ต้องบ้าแน่ๆ สามีเก่ามอบของหมั้นให้ลูกชายมาขอแต่งงานภรรยาเก่าตัวเอง วิภาวรรณอึกอัก พูดไม่ออก วีรพลยังคงจ้องหน้า รอคำตอบ
“ว่าไงครับภา หรือภายังคิดมากเรื่องความแตกต่างของเรา”
ถ้าเป็นคนอื่นวิภาวรรณตอบรับไปแต่แรกแล้ว แต่นี่.... วิภาวรรณเริ่มสับสน จะทำอย่างไรดี คนที่ชูแหวนขอแต่งงาน คือลูกชายตัวเอง พรหมลิขิตหรือว่ากามเทพเล่นตลกอะไรกับเธอหรือนี่ แต่ถ้าจะปฏิเสธก็เหมือนกับการทำร้ายหัวใจตัวเอง หล่อนเฝ้ารอเขามาตลอด เรียกร้องหาเขาตลอด
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกคะ เอ่อ.. คือ..”
“หรือภาไม่ได้รักผม บอกผมมาตรงๆ ก็ได้”
คำนี้เหมือนมีดมากรีดใจหล่อน มันเจ็บแปล้บถึงขั้วหัวใจ แล้วจู่ๆน้ำตาก็เริ่มเอ่อมาอีกครั้ง
“รักคะ รักมากด้วย ค่ะ.. ภาจะแต่งงานกับคุณ”
วิภาวรรณตัดสินใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหล่อนจะยอมรับมัน หล่อนไม่อยากจะสูญเสียอะไรไปอีกแล้ว ไม่อยากสูญเสียเขาไปทั้งในฐานะลูกชาย และคนที่หล่อนรักมากที่สุดจนหมดหัวใจ
“ภา.....ขอบคุณมากครับ” วีรพลสวมกอดกระชับหล่อนอย่างดีใจเป็นที่สุด แล้วค่อยๆ คลายกอดเอื้อมมือมาคว้ามือด้านซ้าย บรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางของหล่อนแล้วยกมันขึ้นมาจุมพิต
“คุณพ่อท่านฝากอวยพรมาให้ด้วย อยากให้เราสองคน รัก เชื่อใจ ซื่อสัตย์ต่อกัน เพราะท่านเคยผิดพลาดกับการไม่เชื่อใจ ไว้ใจในคนที่ท่านรัก ท่านไม่อยากให้ผมต้องวนไปซ้ำรอยประวัติศาสตร์อีก ผมสัญญา ผมจะรักและซื่อสัตย์มั่นคงกับภาตราบเท่าชีวิต” คำพูดเขาจริงจัง ทำเอาวิภาวรรณตื้นตัน หล่อนขอเพียงแค่นี้ เพียงแค่เขารักจริงใจกับหล่อนก็พอแล้ว..........

หลังจากมอบของขวัญให้วิภาวรรณแล้วทั้งคู่ก็พากันเดินกลับเข้าบ้าน วีรพลขอแยกเข้าบ้านตัวเองและขอให้วิภาวรรณไปที่บ้านเขา เธอขอไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วจะตามไป แล้วต่างคนต่างก็แยกเข้าบ้าน พอจะเข้าบ้านวิภาวรรณพบกับโชคและปิ่นสองสามีภรรยาที่หล่อนจ้างมาแม่บ้านและ คนสวนยืนรอหน้าบ้าน กำลังจะกลับ คงจะรอหล่อนก่อนกระมัง ทั้งสองคนอายุก็ประมาณเกือบเท่าวิภาวรรณ อ่อนกว่าปีสองปี เห็นวิภาวรรณถือกล่องก็ถามเพราะก่อนหน้านี้เห็นหมอวีรพลถือมาและเดินตามหา หล่อน ปิ่นก็บอกไปว่าอยู่ในสวน พอตอนกลับมาเห็นวิภาวรรณถือ ปิ่นได้ข่าวจากก้อยที่ร้านในตัวเมือง เลยพอจะรู้อะไรลางๆ เพราะ 4-5 วันมานี้ก็เห็นวิภาวรรณใช้รถของวีรพล เพียงแต่ที่บ้านสวน จะไม่ค่อยเห็นเจ้านายสาวใหญ่กับวีรพลมีท่าทีอย่างไรต่อกันสักเท่าไหร่ เพราะต่างก็ออกไปทำงานนอกบ้าน เสาร์อาทิตย์สองสามีภรรยาก็ไม่ได้มาทำงาน
“คุณภาคะ ถือกล่องอะไรมาเอ่ย สวยเชียวมีอะไรอยู่ข้างในคะ เห็นคุณหมอเดินถือตามคุณภาไปในสวน” ปิ่นถามขณะที่ยืนคู่กับโชค ตาจ้องมองรอคำตอบอย่างอยากรู้อยากเห็น และลุ้นว่าจะเหมือนที่เธอคิดหรือเปล่า วิภาวรรณก็อึกอัก ได้แต่ยิ้มเขินๆ
“เอ่อ..... ปล่าวหรอกไม่มีอะไรมากหรอกจ๊ะ แค่ของขวัญธรรมดาๆ...”
“อุ้ยยย พี่โชค ดูสิ สร้อยเพชร หูววววว วับวาวขนาดนี้ ราคาคงหลายแสนอาจเป็นล้านเลยนะนี่” เพ่งดูที่คอของวิภาวรรณพลางจุ๊ปากทำตาโต วิภาวรรณสะดุ้ง เพราะยังไม่ได้ถอดของขวัญที่วีรพลมอบให้สักชิ้นเก็บไว้เลย ถือแต่กล่องเปล่าเดินกลับมา จะแก้ตัวว่าเป็นของตัวเองก็ไม่มีใครเชื่อ ใครจะอุตริใส่สร้อยเพชรเดินเล่นในสวน ก็ได้แต่เขินอาย อึกอักๆ ทำอะไรไม่ถูก พูดอะไรยังไม่ออก เอามือมาจับลูบสร้อยเส้นนั้น
“อ๋อ สร้อยนี้นะเหรอ เอ่อ.. อ่ะ...”
“เอ๊ะ แหวน คุณภาใส่แหวนด้วย ปิ่นไม่เคยเห็นคุณภาใส่แหวนนินา”
เอ้า.... ความลับแตกกระจาย วิภาวรรณก็ไม่รู้จะปิดบังอะไรอีกแล้ว
“คุณหมอเค้าขอภาแต่งงานน่ะ ปิ่น โชค”
“ว้าวววว ดีจัง ยินดีด้วยคะคุณภา แหม...คุณหมอนี่ร้ายนะคะ เห็นท่าทางเงียบๆ น้ำนิ่งไหลลึก มาอยู่ไม่กี่เดือนเอง แต่ปิ่นก็ชอบนะคะ ดูท่าทางเป็นคนดี น่าไว้ใจได้ ต่อไปนี้บ้านนี้จะได้มีสมาชิกเพิ่ม คนภาจะได้ไม่เหงา แต่ว่า..... คุณภาคงต้องจ้างแม่บ้านกับคนสวนเพิ่มแล้วล่ะคะ บ้านกว้างกว่าเดิม ที่สวนก็ยิ่งมากกว่าเดิมด้วย เราสองคนทำไม่ไหวแน่ๆ คะ เนอะพี่โชคเนอะ ไหนๆ ก็จะได้รื้อรั้วกั้นบ้านแล้วนี่คะ” โชคก็ได้แต่ยิ้มพยักหน้าเห็นด้วยตามภรรยา วิภาวรรณยังยิ้มระรื่นอยู่ไม่หาย เอาอีกแล้ว มีแต่คนพูดเรื่องรั้วบ้านกันจัง
“จ้า แล้วค่อยว่ากันอีกที ภาขอกลับเข้าบ้านก่อนนะ ปิ่น โชค”
“ค่า คุณภา เราสองคนลากลับก่อนนะคะ วันจันทร์ค่อยเจอกันค่ะ”
“กลับก่อนนะครับ คุณนาย” ทั้งสองไหว้วิภาวรรณแล้วก็จากไป.....

วิภาวรรณอาบน้ำเสร็จเปลี่ยนชุดเป็นชุดเสื้อคล้ายๆ เสื้อนอน ยาวเกือบถึงเข่า เนื้อผ้าลินินเนื้อละเอียดบางเบาวาวละเลื่อม เกือบจะแนบเนื้อทั้งลำตัว คอกว้างลงมาหน่อย แขนเสื้อเป็นสายแบบเสื้อคอกระเช้า สีชมพูอ่อนๆ อันเป็นสีโปรด ซึ่งหล่อนมีเกือบทุกชุด เผยลำแขนกลมเนียน ยิ่งหล่อนเป็นคนผิดขาว ชุดนี้ยิ่งขับผิวให้ขาวอมชมพู สวยหวานมากขึ้นไปอีก ใบหน้าเรียวรูปไข่สวยหวานไม่ต้องเอ่ย บัดนี้ ยิ่งเปล่งปลั่งเอิบอิ่มยิ่งนัก เมื่อเปลี่ยนชุดแล้ว ก็ลงมาที่ครัวหยิบจับข้าวของสองสามอย่าง เดินออกไปยังบ้านวีรพล
พอเข้าไปถัดจากห้องรับแขกเป็นห้องนั่งเล่นกึ่งทำงาน เห็นวีรพลสวมเสื้อกล้ามหลวมๆ กางเกงกีฬาสั้นๆ เนื้อผ้าร่มนั่งง่วนอยู่ตรงหน้าโซฟา เขานั่งกับพื้นเหยียดขายาวๆ ของเขาสอดใต้โต๊ะกระจกที่อยู่ด้านหน้า เอนหลังพิงโซฟา เปิดทีวีทิ้งไว้แต่ไม่ดู บนโต๊ะกระจกใสสูงประมาณฟุตหนึ่งข้างหน้าเขามีโน๊ตบุ้คเครื่องหนึ่งและกระดาษ เอกสาร หลายอย่างกระจายเต็มโต๊ะ เห็นเขาวุ่นอยู่กับโน๊ตบุ้ค สลับกับหยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน ขีดนั่นเขียนนี่ไปมา
“พล ทานอะไรหรือยังคะ”
“ทานมาบ้างแล้วจากในเมือง ก่อนเข้ามา” เขาตอบเสียงเรียบๆ โดยที่ยังไม่ได้หันมองหน้า ยังคงสาละวนอยู่กับเอกสาร
“แล้วจะทานของว่างอะไรอีกมั้ยคะ ผลไม้ หรือกาแฟ ภาจะจัดมาให้”
“ก็ดีครับ ขอบคุณ” เขาก็ยังไม่หันมามองหล่อนอีก วิภาวรรณเดินไปในห้องครัวเล็กๆ จัดผลไม้ใส่จาน ชงกาแฟ และคุกกี้ ใส่ถาดเดินมาที่เขา ขยับจัดกระดาษเอกสารแล้ววางถาดไว้บนโต๊ะ เข้าไปนั่งข้างเขา สอดกระชับแขนเขา เกยคางไว้ที่ไหล่มองดูงานที่เขาทำ
“ทำอะไรคะ?”
“เคลียร์เอกสารของคนป่วยที่โรงพยาบาลน่ะครับ ไม่ได้ทำตั้งอาทิตย์เลยต้องรีบเอากลับบ้านมาตรวจ เคลียร์ให้เรียบร้อย” ตอบไปก็เอียงแก้มมาชนแก้มหล่อนหยอกเย้าเล่น แต่ยังคงทำงานต่อไป ผละจากหน้าคอมพ์ฯ ก็หยิบเอกสารหลายฉบับมาอ่าน เอนหลังพิงเชิงโซฟา อ่านเอกสารไปทีละหน้า วิภาวรรณเปลี่ยนจากคลอเคลียที่ไหล่ของเขาแล้ว ก็ขยับสอดตัวเองลอดใต้แขนลงไปเอนนอนบนตักเขา ตะแคงข้างหันหลังให้เขา บางทีก็มีขยับพลิกหน้าไปมาอยู่บริเวณหน้าขาของวีรพล เขาก็ยังอ่านเอกสารไปเรื่อย แต่มือข้างหนึ่งก็ลดมาลูบแก้มบ้างลูบตั้งแต่ไหล่เรื่อยไปตามลำแขนของหล่อน บ้าง ยามที่วิภาวรรณขยับพลิกไปมา ตรงหน้าขาของเขาก็ชักร้อนผะผ่าว มือของหล่อนก็ลูบไล้เล่นไปเรื่อยตามต้นขา วีรพลผละสายตาจากเอกสาร มองมาที่คนรักที่นอนหนุนตักเขาอยู่ มองเห็นลำแขนกลมกลึงขาวเนียน หล่อนนอนตะแคง แขนด้านบนวางแนบลำตัว อีกข้างล่างลูบๆไปตามขาเขาเบาๆ มองตามไปที่ลำแขนจนสุดปลายเห็นสะโพกกลมกลึงที่เนื้อผ้ามันแนบ เย้ายวนตา หล่อนนอนคู้ขาเข้านิดหน่อย เลยสะโพกไป ชายเสื้อชุดนั้นมันรั้งขึ้นมาเกือบจะถึงก้นกอย เป็นปลีขาขาวเนียนจนสุดปลายขา ยิ่งชุดสีชมพู ผิวหล่อนยิ่งยั่วเย้าหมอหนุ่มอย่างยิ่ง วิภาวรรณพลิกหันมาตะแคงหันหน้าเข้าหาตัวเขามือก็ลูบไล้เล่นที่บริเวณหน้า ท้อง บางทีก็ทำเป็นเกาะชายขอบกางเกงกีฬาเล่นโดยไม่สนใจเขา ลมหายใจอุ่นๆ พ่นใส่หน้าท้อง หน้าอกประชิดบริเวณข้อศอกของเขา วีรพลโยนเอกสารที่ถือไว้ทิ้งบนโต๊ะแทบจะทันที แขนข้างหนึ่งช้อนคอหล่อนให้ลุกขึ้นนั่ง พอลุกขึ้นนั่ง วิภาวรรณก็หัวเราะกึ่งๆ กลั้นไว้
“คิคิคิคิ อ่านจบแล้วเหรอคะ” หน้าหล่อนยิ้มระรื่น ตาใสเป็นตากวาง
“ไม่องไม่อ่านมันละ คุณเล่นมายั่วผมอย่างงี้ ใครจะมีสมาธิอ่านได้”
“ภาก็ไม่ได้ทำอารายซ้ากหน่อยยยย... อ่านไม่เสร็จก็อ่านต่อสิคะ” หล่อนยังลอยหน้าพูดหัวเราะระรื่น นั่งข้างแนบชิดเกาะแขนเขาหน้าอกเบียดกับลำแขนเกยคางไว้บนไหล่ ชายตามองเขาด้วยสายตาทะเล้นนิดๆ อมยิ้มหน่อยๆ
“ค่อยมาอ่านทีหลัง ตอนนี้ขอทำโทษคนจอมกวนซะก่อน”
ว่าแล้วก็รวบกอดร่างเย้ายวนนั้น วิภาวรรณหัวเราะระริกอย่างชอบใจที่ยั่วตบะเขาได้ เมื่อเขาปล้ำกอดจูบ ก็ดิ้นขัดขืนได้นิดหน่อยเท่านั้น ก็หยุดนิ่งไป คงสู้แรงเขาไม่ได้หรือไม่อยากสู้ก็ไม่รู้ หน้าเขากับเธอตอนนี้ห่างกันแค่ปลายจมูก ต่างจ้องตากันนิ่งเงียบ
“ไม่ได้กอดมาหลายวันแล้ว คิดถึ้งง คิดถึง” แค่ได้ฟังวิภาวรรณก็สุดปลื้มแล้ว ยิ้มตอบรับเขาแล้วประกบปากจูบเขาอย่างดูดดื่มอ้อยอิ่ง วีรพลเอามือลูบไล้ไปตามไหล่ต้นแขน ป่ายป่ะไปหมด มือวิภาวรรณก็ไม่ยอมแพ้ลูบขึ้นตั้งแต่หน้าท้องสอดเข้าไปในเสื้อกล้ามจนถึง แผ่นอก มีข่วนเบาๆ วีรพลเลื่อนพรมจูบแก้ม ลงซอกคอ คางสากไปด้วยเคราสั้นๆ ที่เขาเพิ่งโกนก็ถูไถแถวๆ ไหปลาร้า ทำให้วิภาวรรณจั๊กกะจี้ปนสยิว ขนลุกซู่ เริ่มได้ยินเสียงสูดปาก มือเขาหมับเข้าที่หน้าอกที่ยังไม่ได้ถอดอาภรณ์ ลูบคลึงเบาๆ วิภาวรรณก็เริ่มบิดส่ายร่างกายไปมา
“พลจ๋า ภาสยิวไปหมดแล้ว”
“ก็อยากแกล้งผมนิ แบบนี้ต้องสั่งสอนให้เข็ด หึหึ” น้ำเสียงเขาเข้ม จึงมองหล่อนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์นิด แล้วเขาก็เอามือบีบเต้านมอยู่นอกเสื้อ แลบลิ้นเลียตรงปลายติ่งจนน้ำลายเปียกเป็นรอยตรงเต้าทั้งสองข้าง หล่อนเองก็แอ่นอกสู้ สูดปากครางในลำคอ พอวีรพลถอนปากออก ก็จับให้หล่อนขึ้นไปนั่งบนโซฟา ถลกชายเสื้อถอดออก เหลือแต่ชุดชั้นในสีชมพูทั้งชุด คุกเข่าลงก็ซุกไปที่หว่างขา วิภาวรรณถ่างขาออกเล็กน้อย วีรพลกรีดนิ้วหน้าร่องหลืบอยู่นอกกางเกงใน ขึ้นๆ ลงๆ มือหนึ่งก็ลูบไปตามต้นขากลมกลึงรับกับสะโพกผาย แล้วก็เผยอปากพรมจบตรงหว่างขา วิภาวรรณคว้าศีรษะได้สองมือก็กดขยุ้มผมเขาเบาๆ สะโพกแอ่นร่อนรับการจู่โจม ตาปรือ ปากเผยอครางเบาๆ วีรพลทำต่อได้สักครู่ ก็ผละถอยออกจับสองขาแนบประชิด รูดขอบกางเกงในออก วิภาวรรณก็ยกสะโพกให้เขาถอดแต่โดยดี รูดม้วนถอดมาได้แค่ขาพับก็ปล่อยไว้จับขาวิภาวรรณโย้ไปข้างหน้า ก้มหน้าประชิดที่แคมกลีบซึ่งแนบสนิท เป็นพูออกมาลอยเด่น ฉกลิ้นตวัดเลียรอบๆ ต้นขาก่อนจะไล้เลียตรงแคม
“พลจ๋า เลียหีให้ภาที ภาอยากให้พลเลียใจจะขาดแล้ว”
“ก็จะเลียอยู่นี่แหละ ใจเย็นๆ สิจ๊ะ ภาจ๋า”
“อูยยย อย่างง้านแหละคะ เลียหีเมียให้หายอยากไปเลย ผัวจ๋าาา”
“เลียหีภาอร่อยลิ้นจริงๆ มันนุ่มน่าดูดเลียมาก”
“ภาก็ชอบให้ผัวเลีย มันเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก อูยยย พลขาาา”
แล้ววีรพลเงยหน้ามาถอดชั้นในทิ้งแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นจับขาวิภาวรรณแบะออก ถ่างกว้าง มือหนึ่งแบะแคมหี ลูบไปมาสวนขึ้นลง ปากก็อ้าตวัดลิ้นเลีย
“อุ้ยยย โดนแตดภา อ๊อยยย ที่รัก ภาเสียวไปหมดแล้ว เลียเก่งอะไรอย่างงี้ อาาา......ซี้ด.....”
คราวนี้วีรพลแยงนิ้วเข้าไป รู้สึกข้างในจะเอ่อไปด้วยน้ำเงี่ยนมันนุ่มลื่น มีการตอดกระตุกรัดนิ้วตุบๆ แล้วค่อยกระแทกนิ้วเข้าออกช้าๆ หน่วงๆ ลิ้นก็ตวัดเลียตรงแตดรัวระริก จนวิภาวรรณส่ายร่อนสะโพกอย่างสุดทานทน
“อูยยยย ที่รัก เสียวทั้งหี ทั้งแตด แบบนี้ภาไม่ไหวแน่ อ๊อยยยยส์...”
วีรพลเร่งจังหวะนิ้วระรัวเร็ว จนแทบมองไม่ทัน ปากก็ดูดดุนเม็ดละมุดไล้เลียทั่วบริเวณแคมหีวิภาวรรณ เล่นเอาวิภาวรรณเด้งส่ายก้นพัลวัน สองมือขยุ้มเบาะโซฟาแน่น มือเกร็งไปหมด วีรพลก็เพิ่มจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้วแทงระรัวเข้าไป
“โอยย... พลจ๋า ภาเสียวเหลือเกิน ทนไม่ไหวแล้ว อ๊ายยยยซ์...” สิ้นเสียงหล่อนก็ดีดกระดกก้นร่า สองขาหนีบโอบรัดคอวีรพลจนแทบขยับไม่ได้ วิภาวรรณทิ้งตัวลง เสียงหายใจเฮือกใหญ่ นั่งหอบอยู่บนโซฟา วีรพลเงยมองหน้าหล่อน ปลายจมูก ปากอาบไปด้วยน้ำเมือกและน้ำลายส่งยิ้มให้หล่อนอย่างพอใจ ขยับลุกขึ้นถอดเสื้อกล้ามออก พร้อมกางเกงกีฬาและกางเกงใน เหลือเหลือแค่ตัวเปลือยเปล่าทิ้งตัวลงนั่งตระกองกอดวิภาวรรณ ประกบปากจูบ วิภาวรรณก็ตอบรับด้วยการตวัดลิ้นเลียรอบฝีปากเขาดูดดื่มและเร่าร้อน สักพักจึงผละร่างออกจากกัน หล่อนส่งยิ้มตาเยิ้ม
“ผัวจ๋า เก่งจังเลย ทำเอาเมียเสร็จก่อนอีกแล้วนะ แบบนี้รักตายเลย”
“ก็อยากให้รักไง จึงพยายามทำให้เมียมีความสุขมากที่สุด”
“ทีนี้เมียทำให้มั่ง จะดูดเลียให้ อืมม ช่างใหญ่อะไรอย่างนี้”
ค่อยๆ จับบีบเล่นเบาๆ ที่จริงวีรพลแข็งโด่ตั้งแต่เริ่มแล้ว ยิ่งมาถูกบีบ ยิ่งทำให้เสียวมากขึ้น หล่อนเริ่มกระถอกท่อนควยคนรัก จากเบาๆ ก็เริ่มรัว แล้วก็หยุด กำบีบ รูดขึ้นลงช้าๆ แล้วก้มลงอ้าปากอมทีเดียวมิดสุดคอหอย แล้วค่อยๆ เม้มปากรูดกลับ วีรพลถึงกับต้องขมิบก้น กระดกควยด้วยความเสียว
“ภาจ๋า ดูดได้เก่งจริง อูยย ผม ผะ..ผัวเสียวควยไปหมด”
“ผัวควยใหญ่คับปากเมียเลย ดูดมันส์ อา... แต่คงดูดได้ไม่นาน ภาเมื่อยปากก่อนแน่ๆ”
“แค่นี้ผัวก็เสียวสุดๆ แล้ว มาเถอะ ขอเย็ดหีเมียดีกว่า เงี่ยนแล้วที่รัก”
ต่างตอบโต้ด้วยคำหยาบโลน วีรพลเริ่มชอบวิภาวรรณมากขึ้นก็ตรงนี้ หล่อนดูเรียบร้อยอ่อนหวาน ในที่ทำงานก็ดูเรียบขรึมวางตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่เวลาเรื่องบนเตียงหล่อนจะเริ่มร่านและร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เข้าทำนองที่ว่า เป็นนางพญาในสังคมและที่ทำงาน อยู่บ้านเป็นกุลสตรี เป็นโสเภณีกับสามีที่เตียงนอน วิภาวรรณขยับลุกขึ้นคร่อมเขาที่นั่งเอนอยู่บนโซฟา ค่อยจับลำแก่นกายตั้งตรง มือหนึ่งแหวกกลีบแคมหีตัวเอง เมื่อตรงเป้าได้ที่...
“อ๊ายยยย ที่รัก จะกระเด้าสวนก็ไม่บอก อูยยยย นี่แนะๆ แกล้งกันดีนัก จะขย่มให้หักคาเลย อูยยย นี่ขนาดเราเย็ดกันสองสามครั้งแล้ว ยังคับหีเมียอยู่เลย”
“ผมว่าหีภา กับควยผมคงสมพงษ์กัน มันเข้ากันได้ดี อาาา ทั้งรัดทั้งดูดแบบนี้ เสียวสุดๆ เลยเมียจ๋าาา”
“คะ ที่รัก อูยยยย ดูดนมให้เมียด้วยสิคะ เมียจะได้เสียวทั้งหีทั้งนม”
วีรพลมองเห็นสองเต้าที่ไหวขึ้นลงตามจังหวะขย่ม ก็คว้าหมับ คลึงเคล้น วิภาวรรณก็แอ่นกายเข้าหา แต่บั้นเอวและสะโพกหล่อนยังไหวยวบยาบ เป็นลอนคลื่นอย่างผู้ชำนาญการเย็ด วีรพลก็สลับดูดเลยเต้านมกลมกลึงสลับซ้ายขวา
“เบาๆ ก่อนนะที่รัก อย่าเพิ่งเร่ง ผัวยังไม่อยากน้ำแตกตอนนี้ อูยยย อยากเย็ดเมียนานๆ”
“แตกแล้วเย็ดเมียอีกก็ได้ ภาให้พลเย็ดได้ตลอดอยู่แล้ว อูยยย ผัวจ๋าาา”
“วันนี้ขอเย็ดหนึ่งยกแต่นานๆ หน่อย และจะไปทำงานต่อ ภาโอบคอผมไว้นะ”
“จะทำอะไรคะ ผัวขา ไม่อยากให้เมียขย่มต่อเหรอ กำลังมันส์เชียว”
“อยากเย็ดรูปแบบอื่นดูบ้าง อ่ะ อึ้บ” เมื่อวิภาวรรณโอบรัดคอเขาไว้ ก็กอดรั้งสะโพกหล่อนลุกขึ้น
“อุ้ย ตาย อุ้มเมียเย็ดด้วย อูยยยย มันเข้าลึกสุดกั่นเลย ที่รัก”
วีรพลอุ้มหล่อนไปทั้งๆ ที่ท่อนควยยังคาอยู่ เวลาเดินเยิบๆ ไป ก็รั้งก้นหล่อนขย่มขึ้นลง เขาอุ้มเดินไปที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้ไม่มีอะไรวางไว้เกะกะ แล้ววางหล่อนริมขอบโต๊ะ สองแขนโอบที่เอวแล้วยืนกระเด้าเยิบๆ
“อ๊อยยยย พลจ๋าาา เข้าใจทำจริงๆ ดูสิมองเห็นควยผัวเข้าหีเมียยวบยาบเลย อูยยย ยิ่งดูยิ่งเสียว”
“เคยดูแต่หนังของเจ้าธร ตอนนี้ได้ทำจริง อูยยย มันเสียวเร้าใจจริงๆ เมียจ๋า ขอผัวกระเด้าแรงๆ นะ ไม่ไหวแล้ว อ๊าาาาา.....เมียจ๋า”
“เมียก็ไม่ไหวแล้ว แรงๆ เลยคะ ที่รัก อึ้ยย..... ทำไมเสียวอย่างงี้”
วีรพลเลื่อนแขนขึ้นไปใต้วงแขนวิภาวรรณสอดเกาะไหล่หล่อนไว้ เพื่อยึดให้ยืนปักหลักได้มั่น วิภาวรรณก็โอบสีข้างเขา มองหน้ากันตาเยิ้มชวนสวาท แล้ววีรพลก็เริ่มจังหวะที่เนิบๆ ถอนควยยาวๆ แล้วกระทุ้งเข้า
“อูยยยย เข้าแต่ละที่ลึกถึงมดลูกเมียเลย พลจ๋า อูย...แรงๆ ได้แล้วคะ ไม่ไหวแล้ว ขอน้ำแตกท่านี้แหละ ผัวขา....”
“จ๊ะ เมียจ๋า...ผัวก็ทนจะไม่ไหวแล้ว อาาาาา ที่รัก....”
วีรพลกระแทกกระทั้นแรง ถี่ขึ้น โอบกอดกันแรงแน่นขึ้นจนวิภาวรรณกอดเข้าไว้แน่นหลับตาปี๋ กัดฟัน ทั้งเขาแหละหล่อนเหงื่อโชกไปหมด
“แรงๆ ที่รัก ภา.. จะ น. นา .น้ำ อ๊ายยยยย.............” ยังพูดไม่ได้ความว่าอะไร วิภาวรรณก็กอดเขาแน่นหวีดร้อง วีรพลตั้งใจจะเล่นท่านานๆ แต่ก็ด้วยความแปลกใหม่ อีกทั้งตอนนี้หีวิภาวรรณตอดบีบกระชับรุนแรง เกินสุดทานทน
“ผมก็จะแตกแล้ว ที่รัก อ๊าาาาา...อะ ออกแล้ว......”
เขากดหนอกควยเบียดแน่นกับเนินหีคนรัก ก้นกระตุกยิกๆ แล้วกอดวิภาวรรณค้างไปชั่วขณะจนลืมหายใจไป แล้วก็ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ น้ำรักขาวข้นค่อยๆ เล็ดเยิ้มออกมาจากกลีบแคม ลงที่ขอบโต๊ะเป็นหยดๆ วิภาวรรณยังคงกอดซบไหล่เขาอยู่ ลมหายใจทั้งคู่หอบปานไปวิ่งรอบสนามมา แล้ววีรพลก็กอดอุ้มหล่อนกลับมาที่โซฟาที่เดิมโดยยังไม่ถอดควยออกเลย พาหล่อนมาวางนอนยาวตามความยาวของโซฟาที่เดิม วิภาวรรณจูบเขาอ้อยอิ่ง แล้วค่อยถอนปากออก ไล้นิ้วเรียวไปตามริมฝีปากเขา จ้องหน้าส่งยิ้มหวาน
“หายคิดถึงหรือยังคะ ที่รัก”
“ยัง... ขนาดเห็นหน้าอยู่ยังคิดถึงเลย” เขาตอบกลับด้วยคำพูดที่จำมาจากซีรี่ย์เกาหลีเรื่องนึง แต่เขาก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มือลูบไปตามแผ่นหลังเบาๆ
“อึ้ยยยย ปากหวาน พลเนี่ย รู้ตัวมั้ยคะ ว่าตัวเองมีพรสวรรค์”
“หืมมม อะไรจ๊ะที่รัก”
“ชอบทำให้คนอยู่ใกล้เคลิบเคลิ้มมีความสุข ยิ่งเวลาพูดจาออดอ้อนนี่ ภาต้องเคลิ้มตามทุกที อย่าไปออดอ้อนใครอีกนะคะ รู้มั้ย ที่รักจ๋า” ไล้นิ้วแตะปากแล้วบีบจมูกเขาขยี้เบาๆ อย่างรักใคร่ วีรพลยิ่งปลื้มไปใหญ่ ความอ่อนหวานของวิภาวรรณกลับมาเป็นเจ้าหญิงในฝันของเขาอีกครั้ง.........


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #10 on: June 02, 2013, 08:53:05 pm

“เป็นไรไอ้เสือ ทำหน้ายังกะท้องผูก หรือว่าโรคบิด.. ปกติเห็นพูดไม่หยุด เดี๋ยวนี้หงอยยังกะไปติดหวัด 2009 มางั้นแหละ”
“เซ็งว่ะ พล ยัยพยาบาลเดือนทำแสบ”
“อ่าว... เอ๊ะ.. ทำอะไร ก็หล่อนลาออกไปแล้วนิ”
“นั่นแหละ... แต่ก่อนจากมีทิ้งหมัดน๊อคไว้ด้วย”
“หืมม... อะไรหมัดน๊อค”
“ก็หล่อนดันไปบอกน้องแพร ว่าเราเคยมีอะไรกัน ไปต่อว่าด่ากราดน้องแพรว่าแย่งชั้นไปจากหล่อน เนี่ย น้องแพรยังโกรธชั้นอยู่ไม่ยอมฟังชั้นอธิบายอะไรเลย ไปที่บ้านก็ไม่ยอมออกมาหา โทร.ก็ไม่รับสาย จะบ้าตาย..”
“เวรกรรม.. งานเข้าล่ะแก ก็เคยเตือนแล้ว ไหนบอกไม่มีปัญหา แค่สนุกๆ ขำๆ ด้วยกัน แล้วมาตอนนี้ดันขำไม่ออก หึหึหึ กรรมตามสนองแกแล้วล่ะ เมื่อก่อนละคิดว่าตัวเองหล่อมีเสน่ห์ เที่ยวฝังเสน่ห์ไปทั่ว เดี๋ยวนี้มานั่งอมทุกข์ ฮ่ะๆๆ”
“เออๆๆ.... แหม.. ได้ทีละขี่ช้างกระทืบเลยนะ แต่ชั้นก็เลิกแล้วนี่ ก็บอกแล้วน้องแพรคือคนสุดท้าย และจะเป็นคนเดียวที่ชั้นจะใช้ชีวิตร่วมทุกข์สุขด้วย นี่แก ถ้าไม่คิดหาทางช่วยเพื่อนก็อย่ามาซ้ำเติม คนยิ่งกลุ้มๆ”
“เออน่า แกยังเคยช่วยชั้น ว่าแต่เรื่องที่จะให้เถ้าแก่ไปสู่ขอนี่จะฟาล์วหรือเปล่าละ ว่าที่คู่หมั้นหลบหนีหน้าอยู่อย่างงี้”
“นี่แหละ ที่ชั้นกลุ้ม พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ท่านผอ. ก็ติดต่อไปแล้ว หาฤกษ์หายามกันแล้วด้วย ถ้าไปถึงบ้านน้องแพร เจ้าหล่อนปฏิเสธไม่รับหมั้นชั้น ก็เสียหน้าผู้ใหญ่หมดสิ คิดว่าตอนนี้แพรไม่ยอมรับชั้นแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น ชั้นคงต้องลาออกจากงานไปอยู่ร้านขายพลอยกับพ่อแม่แล้วล่ะ”
“เฮ่ยๆ แกรักที่จะเป็นหมอไม่ใช่เหรอ มาทิ้งอุดมการณ์ตัวเองกลางคันได้ไง อุตส่าห์หนีจากกิจการร้านพลอยมาเรียนหมอ เหอะน่าเพื่อน น้องแพรเค้าก็รักแกมาก ชั้นรู้ มาเจอกิ๊กเก่าแกไปด่าแบบนี้ก็คงมีเสียใจเป็นธรรมดา เอางี้ เรื่องใจผู้หญิงมันต้องให้ผู้หญิงด้วยกันเกลี้ยกล่อม ชั้นจะปรึกษาภาเค้าก่อนคงจะพอหาทางช่วยได้ ตอนนี้แกก็เตรียมงานหมั้นอย่างเดียว ชั้นจะช่วยทางอื่นให้ โห่.... มาซึมเศร้าเพราะผู้หญิง เสียชื่อเพลย์บอยหมด สบายใจได้ ตกลงมั้ย เพื่อน”
“อืมม ขอบใจ เพลย์บอยน่ะ มันเป็นอดีตไปแล้ว เอ๊ะ มะกี้แกเรียกพี่ภาว่าไงนะ”
“อ่ะ เอ่อ ภาไง ทำไม... แปลกเหรอที่จะเรียกชื่อเมียอย่างง้าน ชั้นขอภาแต่งงานแล้ว และภาก็ตอบตกลงรับหมั้นแล้วด้วย ชั้นทำโฮลอินวันไปแล้วนะเว้ยย ฮ่ะๆๆ แกนะรีบๆ เคลียร์กับน้องแพรให้จบเร็วๆ อาจจะได้มีงานแต่งพร้อมกันไปเลย”
“โห แกนี่ข้ามหน้าชั้นไปแล้วนะ ไม่ยอมๆ ขนาดชั้นตีกรอกหลุมไปหลายทีล่ะ แต่ดันมาโดนจับฟาล์วสั่งแบน โดนดรอปลูกออกห่างหลุมเลย เสียแต้มหมด โอเค จะรีบเคลียร์ ขอบใจนะเพื่อน”....


ในออฟฟิตของวิภาวรรณ ตลอดหลายสัปดาห์ผ่านมาพนักงานทุกคนต่างเห็นความเปลี่ยนไปของวิภาวรรณ แรกๆ ถึงกับอ้าปากค้างกันเป็นแถบๆ เจ้านายสาวใหญ่ เดินเข้าออฟฟิตด้วยท่าทียิ้มแย้มสดใส การแต่งกายจากที่เคยเรียบๆ ชุดสูตรกลายเป็นบางวันกลับแต่งกายด้วยชุดเดรสหวานๆ ผมที่เคยเกล้ารวบมัดไว้เป็นมวย กลับปล่อยยาวสลวยรับกับใบหน้ารูปไข่มีแค่เพียงที่คาดผมคาดไว้ ปล่อยปอยผมบางๆ ตกมาข้างหน้าแบบผมม้า สวยหวานกว่าเดิมไปมาก เดินผ่านพนักงานทีไร จะมีเสียงกระซิบกระซาบกันเป็นแถว ขนาดแพรวาคนสนิทชิดใกล้แท้ๆ ยังอดแปลกใจไม่ได้ จึงเดินเข้าไปในห้องผู้จัดการ
“อะแฮ่ม... แหมช่วงนี้อินเลิฟซะออกหน้าออกตาเลยนะคะ พี่ภา เพื่อนๆ ในออฟฟิตเม้าท์กันให้แซ่ด”
ขณะที่เอามือลูบป้อยๆ ที่นิ้วนางข้างซ้าย ใบหน้าอิ่มเอิบยิ้มตาลอย วิภาวรรณได้ยินเสียงทัก ก็สะดุ้งเล็กน้อย
“อุ้ย แหวนสวยจังเลย นี่อย่าบอกนะคะว่า...” แพรวายังพูดไม่จบ ก็เห็นวิภาวรรณพยักหน้ารับยิ้มระรื่น
“ว้าววว พี่พลนี่ช่างโรแมนติก กลับมาปุ้บก็มีเซอร์ไพร้ส์ปั้บ มิน่าพี่ภาเปลี่ยนไปมากเลย สวยจนลูกน้องหลายคนอิจฉาว่าจะเกินหน้าสาวๆ รุ่นน้องไปแล้วนะคะนี่”
“แล้วแพรล่ะจ๊ะ อย่ามาแซวแต่พี่ เห็นคุณหมอธร ส่งดอกไม้ให้ทุกวัน จะได้ฤกษ์หมั้นวันไหนละจ๊ะ”
“คงไม่มีแล้วละคะ พี่ภา..” แพรวาอารมณ์เปลี่ยนวูบ ตาเศร้าขึ้นทันที
“อ้าว ทำไมละจ๊ะ”
“พี่หมอเค้ามีคนอื่นก่อนแพรแล้ว แต่ก็ปิดบังแพร แพรยังโดนแฟนเก่าเค้าด่ามาไม่กี่วันนี่เองว่าแพรเป็นคนแย่งแฟนเค้า พี่หมอหลอกแพรมาตลอด เสียแรงที่รักและไว้ใจ” น้ำตาไหลรินพูดไปปนสะอื้น
“โธ่ แพร... แพรแน่ใจแล้วเหรอ ฟังพี่นะแพร พี่คิดว่าหมอเค้าคงจะรักแพรจริงๆ แต่ว่าไปตามประสาผู้ชายเค้าอาจจะมีคนอื่นก่อนหน้านี้ แต่พี่ดูๆ แล้วกับแพรนี่ เค้าก็สม่ำเสมอกับแพรมาตลอด พี่ว่าแพรอย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรก่อนเลย นะจ๊ะ คนดี พี่ไม่อยากให้แพรมาเสียใจทีหลัง” วิภาวรรณเข้าไปโอบร่างอวบเข้ามากอดปลอบใจ
“แต่มันน่าโกรธนี่คะพี่ภา แพรโดนด่ากลางห้างว่าแย่งผัวชาวบ้าน คนเห็นกันทั่ว แพรอายเค้าจนไม่รู้เอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว”
“ผู้หญิงคนนั้นเค้าอาจจะหลงรักคุณหมอข้างเดียวก็ได้ เลยหึง แต่พี่ว่ามันอยู่ที่คุณหมอมากกว่าว่าเค้าเลือกใครแคร์ใคร พี่เข้าใจแพรจ๊ะ คนเรารักมากก็เจ็บปวดมาก พี่เองก็เคยประสบมา เอางี้นะจ๊ะ พี่จะลองคุยกับพลอีกที เค้าเพื่อนสนิทกันน่าจะรู้อะไรบ้าง พี่ไม่อยากให้แพรต้องมาทุกข์ใจอีก ตอนนี้ก็ทำใจให้สบายก่อนนะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่ภา แพรจะพยายาม”....

เมื่อถึงเวลาเลิกงาน สองสาวต่างวัยก็เดินออกมาพร้อมกันอย่างเช่นเคย มาถึงล้อบบี้ ก็เห็นวีรพลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“พล มารอนานแล้วเหรอคะ”
“เพิ่งมาได้สักครู่ครับ” วิภาวรรณอยากจะเดินเข้าไปโอบเกี่ยวแขนเขาอย่างที่ใจอยากทำ แต่ตอนนี้ยังไม่กล้า เพราะยังมีพนักงานบางส่วนยังไม่กลับ ทุกคนต่างจ้องมาที่หล่อนกับวีรพล แล้วก็หันหน้าไปกระซิบกระซาบกันระริกระรี้ แพรวาลอบมองเห็น ก็ทำตาถลึงโบ้ยหน้าไล่ จึงพากันรีบเก็บข้าวของกันต่อ
“เอ๊ะ แล้วหมอธรละคะ ไม่มาด้วยเหรอคะ พี่ภาก็เพิ่งนึกได้ว่าไม่เจอหน้าคุณหมอมาหลายวันแล้ว”
“อ่อ ธรมันยุ่งน่ะครับพี่ จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนหมอคนใหม่จะมาแทน จนไม่มีเวลาพักผ่อนโทรมเป็นผีตายซากแล้วตอนนี้”
“อ้าว ทำไมละคะ”
“ก็มันบอกจะลาออก ไปอยู่กับพ่อแม่แล้ว ผมก็เพิ่งไปหามันที่อพาร์ทเม้นท์ นอนซังกะตายอยู่นั่น น้องแพร ไม่ไปเยี่ยมมันหน่อยเหรอ เป็นแฟนกันก็น่าจะไปเยี่ยมหน่อยน๊า แบบนี้มันเสียใจแย่”
“ช่างเถอะคะ พี่พล เค้าจะเป็นยังไงก็ไม่เห็นเกี่ยวกับแพร แพรกลับก่อนนะคะ บายคะพี่ภา พี่พล” แพรวาทำหน้าบึ้งอารมณ์บ่จอย เมื่อได้ยินชื่อธนธรณ์ ลาทั้งสองคนแล้วรีบเดินฉับๆออกไป โดยไม่ฟังเสียงใคร วีรพลกับวิภาวรรณยังไม่ทันได้กล่าวอะไรต่อได้แต่ถอนใจและส่ายหน้าอย่างเห็นใจแล้วจึงพากันเดินมาขึ้นรถ พอขึ้นไปนั่งบนรถได้วีรพลก็หอมแก้มฟอดใหญ่
“อุ้ย... พล เดี๋ยวพนักงานก็มาเห็นหรอก เดี๋ยวนี้พากันซุบซิบเรื่องภาใหญ่แล้ว”
“จะเป็นไรละครับ ต่อไปผมจะประกาศให้รู้ทั่วออฟฟิตเลย จะได้ไม่ต้องซุบซิบ ภาจะอายทำไม อีกหน่อยเราก็จะแต่งงานกันแล้ว ยังไงเขาก็ต้องรู้กันอยู่ดี ผมกะว่าจะเชิญทั้งออฟฟิตไปร่วมงานของเราเลยนะ”
“ที่จริงภาไม่อยากให้จัดงานเลยคะ พล แค่จดทะเบียน มีงานเลี้ยงเฉพาะเพื่อนๆ กันเองก็พอแล้ว แค่ภารู้ว่าพลรักภา แค่นี้ก็พอใจแล้ว”
“หื๊ออ ไม่เห็นจะเป็นไร ดีเสียอีกเค้าจะได้รู้ว่าผมรักภาแค่ไหน ถึงแม้อายุเราจะต่างกัน แต่ผมก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ จะมีคนอิจฉาผมเสียอีกที่มีเจ้าสาวสุดสวยทั้งทำงานเก่งมาร่วมเป็นคู่ครอง ใครจะเชื่อว่าเราห่างกันตั้งเกือบ 20 ปี จะมีก็แต่พนักงานธนาคารของภาแหละที่รู้ ผมจะเป็นเจ้าบ่าวประชันกับเจ้าธร อย่างไม่อายเลยล่ะ หึหึ”
“แล้วคุณหมอธรเค้าจะลาออกจริงเหรอคะ”
“เปล่าหรอก ผมแค่หลอกน้องแพร ลองพิสูจน์ดูว่าแพรจะว่ายังไง”
“อ่าว ป่านนี้แพรไม่โกรธงอนตุ้บป่องไปแล้วเหรอ แพรเค้ายิ่งเสียใจอยู่ตอนนี้”
“ผมก็สงสารธรมัน มันรักและจริงใจกับแพรมาก ตั้งแต่รู้จักกันมาธรมันก็เจ้าสำราญ เพลย์บอย ก็เพิ่งมาเห็นมันเฮิร์ทมากๆ ก็ตอนนี้แหละ ผมเคยเตือนมันแล้วเรื่องคบผู้หญิง แล้วก็โดนเข้าจนได้ ผมเลยอยากให้ภาช่วยพูดกับแพรหน่อย ธรมันรักแพรจริงๆ ไอ่ที่เจ้าชู้มันเลิกหมดแล้ว”
“ภาก็พยายามเกลี้ยกล่อมแพรอยู่คะ ยังไงภาก็รักเหมือนน้องสาวแท้ๆ คนนึง อยากจะให้เค้าคบคนดีๆ อย่างคุณหมอ แล้วนี่เราจะทำยังไงคะ สองคนถึงจะยอมเข้าใจกัน”
“รอดูสักพักครับ ให้ธรมันพิสูจน์ตัวเองด้วยว่ามันรักแพรอย่างจริงใจ ผมเชื่อมั่นอย่างนั้น ความรักความจริงใจซะอย่าง สามารถผ่านอุปสรรคเอาชนะทุกอย่างได้หมด ผมว่าน้องแพรก็คงไม่ตัดเยื่อใยขนาดนั้นหรอก”
“คะ ผู้หญิงน่ะ ถ้าได้มอบหัวใจให้ใครแล้วมันก็ยากที่จะตัดขาด ถึงจะมีโกรธบ้าง ยังไงก็ยังมีเยื่อใยอยู่ดี ยังดีนะคะ แพรเค้าไม่โกรธถึงขั้นไปทำร้ายหมอธรหรือทำร้ายตัวเอง ผู้หญิงน่ะ บทจะร้ายก็อาจถึงฆ่าคนได้นะคะ พลก็ระวังเถอะ ภารู้ว่ามีคนอื่นจะฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ เลย”
“อ่าว ไปกันใหญ่เลย ไหง๋มาลงที่ผมล่ะ โธ่... ผมจะมีใครอีก ทำงานทั้งวันกลับมาถึงบ้านก็มียอดยาหยีหน้าหวานรอรับด้วยรอยยิ้มให้กำลังใจอย่างนี้ ยังจะมีใครอีก ผมไม่ได้อยากหาเรื่องวุ่นวายมาให้ครอบครัวหรอกนะ แค่มีลูกเมีย ครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุข แค่นี้ก็พอแล้ว ภามีลูกให้ผมนะ นะนะ..”
“มันขึ้นอยู่กับว่าคุณพ่อจะมีความสามารถแค่ไหน คิคิคิ”
“อ่า...ดูถูกกันแบบนี้ ฮึ่ม....ให้ถึงบ้านก่อนเถอะ จะพิสูจน์ให้เห็น เอ..หรือจอดข้างทางนี่เลย ว่าไงจ๊ะ ที่รัก” วีรพลชะลอรถทำทีจะเลี้ยวรถจอดข้างทางจริงๆ มองหน้าวิภาวรรณด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“บ้า.....อย่ามาทำพิเรนนะ ....คนลามก... ไปถึงบ้านก่อน จะคอยดูว่าจะเก่งอย่างที่ปากพูดหรือเปล่า คิคิคิ” หล่อนลอยหน้าพูด ยิ้มมุมปาก มองเค้าด้วยหางตา กลั้นหัวเราะนิดๆ วีรพลได้ยินคำท้าก็รีบกระชากรถออกทันที..........

“พี่หมอ ทำอะไรอยู่? ไหนว่าไม่สบาย”
“แพร!!... มาที่นี่ทำไม”
“เห็นพี่พลบอกว่าพี่หมอไม่สบาย ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ ดูท่าทางสบาย คงจะเคลียร์งาน ลาออกแล้วไปอยู่กับแม่เดือนคนนั้นละสิ” ธนธรณ์ขมวดคิ้วนิดๆ พอคิดได้อีกที เจ้าเพื่อนรักคงจะโกหกแพรวาแน่ๆ คงจะวางแผนอะไรสักอย่าง ไวเท่าความคิดเค้าก็รีบปรับสีหน้าหมองหม่น นัยน์ตาเศร้า
“ก็นิดหน่อย ไม่เป็นอะไรมากหรอก ที่ว่าจะลาออกเพราะคิดว่าไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ทำงานเป็นหมอเหนื่อยก็เหนื่อย กลับไปอยู่บ้านอยู่ร้านพลอยน่าจะสบายกว่าเยอะ แล้วแพรจะมาสนใจพี่ทำไม พี่มันคนเจ้าชู้ ไม่ใช่คนดิบดีที่แพรจะต้องมาห่วงนี่” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นจะเดินหลบหน้าหนี
“พี่หมอ อย่าประชดแพรอีกเลย แค่นี้แพรก็ปวดใจจะแย่อยู่แล้ว” ร่างน้อยๆ แต่อวบอั๋นถลาเข้ากอดซบอกธนธรณ์สะอื้นเบาๆ แต่เขาแอบยิ้มโดยที่แพรวาไม่เห็น
“พี่หมอบอกแพรสิคะ ว่าพี่หมอไม่ได้รักแพร แพรจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับพี่หมออีก”
“ใครว่า พี่น่ะรักแพรที่สุด แต่แพรไม่ฟังพี่เลย พี่ยอมรับพี่เคยมีสัมพันธ์กับหญิงมาหลายคน แต่เราก็เคยคุยกันก่อนแล้วว่าจะไม่มีอะไรผูกพัน ไม่เคยคิดจริงจัง มีแต่แพรเท่านั้นที่พี่แคร์ แพรคือคนที่พี่เลือกแล้วว่าจะเป็นคู่ชีวิต พี่ยอมเลิกที่เคยเสเพลมาก่อน แพรก็เอาแต่โกรธ ไม่ฟังกันมั่งเลย รู้มั้ยพี่จะอกแตกตายแล้ว กลัวงานหมั้นจะฟาล์ว อาทิตย์หน้าพี่เตรียมผู้ใหญ่ไปบ้านแพร ทำการสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราวแล้วเนี่ย”
“อา... พี่หมอ.... จริงเหรอคะ”
“จริงสิ นี่มาดูนี่ พี่เตรียมแหวนไว้แล้ว แพรชอบมั้ย” ธนธรณ์จูงมือไปที่โต๊ะทำงานในห้อง ดึงลิ้นชักออกมา หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงกะทัดรัด แล้วเปิดออกมา คว้ามือแพรวาขึ้นมาแล้วหยิบแหวนมาที่นิ้วนาง
“อยากให้แพรลองดูว่ามันใส่พอดีมั้ย ถ้าไม่พอดี พรุ่งนี้เราไปที่บ้านพี่ ไปรู้จักพ่อแม่พี่ด้วย แล้วเราค่อยเลือกกันใหม่ พี่จะสั่งทำตามใจแพร อยากได้แบบไหน เอาให้สวยที่สุดเลย” แล้วก็สวมแหวนเข้าไป มันหลวมนิดหน่อย
“ถ้าเป็นของพี่หมอ แพรว่ามันสวยหมดแหละคะ แต่นี่ออกจะหลวมไปหน่อย”
“จ๊ะ งั้นพรุ่งนี้เราไปที่บ้านพี่ แล้วพี่จะให้แพรเลือก อยากได้รูปแบบไหนพี่จะสั่งช่างที่บ้านทำให้” แพรวายิ้มทั้งน้ำตา กอดกระชับแฟนหนุ่มแน่น
“ขอแค่พี่หมอรักแพร แค่นี้แพรก็ดีใจแล้ว ไม่ขออะไรอีกแล้ว”
“หายโกรธพี่แล้วเหรอ?”
“คะ อยากจะโกรธ แต่แพรทำไม่ลง พี่หมอก็รู้ว่าแพรรักพี่หมอแค่ไหน แค่พี่พลบอกว่าพี่หมอไม่สบาย ใจหายเป็นห่วงแทบแย่ แพรถึงได้รีบมาเนี่ย พี่พลนะพี่พล เจ้าเล่ห์จริงๆ”
“ถ้าพลมันไม่ทำอย่างนั้น พี่จะรู้หรือว่าแพรรักและเป็นห่วงพี่ ต้องขอบคุณมันซะอีก นี่ รู้มั้ย พลมันล้ำหน้าพี่ไปแล้วนะ มันขอพี่ภาแต่งงานแล้ว แบบนี้พี่ไม่ยอมแพ้มันหรอก”
“อึ้ยยย.... เพื่อนกันแท้ๆ ยังจะแข่งขันเอาชนะคะคานกันไปได้”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าเราแต่งงานมีลูกช้ากว่ามัน มันได้เย้ยพี่ตายเลย พี่เป็นคนท้ามันก่อนด้วย”
“บ้า.. พี่หมอ ไปท้าเค้าทำไม แต่แพรว่าเราน่าจะมีก่อนนะ เพราะเรา.. เอ่อ..แพรไม่ได้ป้องกันเลยอ่ะ”
“หึหึ... อย่าประมาทมัน พี่ภาให้มันกินขนมเค้ก ตั้งแต่งานฉลองวันเกิดกับขึ้นบ้านใหม่เมื่อต้นเดือนที่แล้วโน่น พลมันบอกพี่ ไอ่นี่มันน้ำนิ่งไหลลึก”
“ไม่เห็นเกี่ยวกับขนมเค้กเลยนี่ พี่หมอพูดอะไร แพรงง” แพรวาใสซื่ออินโนเซนท์ ธนธรณ์มองตาแพรวายิ้มมีเลศนัย สองมือโอบสะโพกรั้งเข้าหาตัวเขา บีบคลึงไปมา แล้วก็เลื่อนขึ้นแผ่นหลัง โอบแนบ ประกบจูบแพรวาที่ตอนนี้ยังตั้งตัวไม่ติด
“ช่างเถอะ พี่ไม่สนขนมเค้กหรอก ตอนนี้พี่อยากกินขนมหม้อข้าวหม้อแกง รสชาติหวานมันกว่ากันเยอะ”
“อุ้ย... พี่หมอ อะไรเนี่ย ปล่อยคะ อะไรขนมหม้อข้าวหม้อแกง... แพรไม่รู้เรื่อง แพรจะกลับบ้านแล้ว” แล้วกัน ป่านนี้แพรวายังไม่เข้าใจความหมายเลย แต่มีหรือธนธรณ์จะยอมให้แม่ขนมไทยหลุดลอยไปโดยไม่ได้ลิ้มรส
“โธ่แพร ไม่เห็นใจกันบ้างเลย ปล่อยให้คิดถึงหลายวัน ขอชื่นใจหน่อยก็ไม่ได้ แบบนี้รักพี่จริงหรือเปล่าไม่รู้” โดนเข้าไม้นี้ ความใสซื่อของแพรวา ก็อดใจอ่อนไม่ได้ หยุดการดีดดิ้นขัดขืนเขาทันที
“รักสิคะ เป็นห่วงแทบแย่ รู้หรือเปล่า แพรกลัวพี่หมอลาออกแล้วหนีแพรไป แพรบ้าตายแน่ๆ”
“ไม่หนีหรอก แพรก็อย่าหนีพี่สิ มามะ มาเปิดขนมหม้อข้าวหม้อแกงกินกัน เดี๋ยวพี่จะให้แพรกินข้าวหลามหนองมน ฮิฮิฮิ ฮะฮะฮะ” ยังจะมีหน้าติดตลก ว่าแล้วธนธรณ์ก็รวบจูบแพรวาอีกครั้ง ตอนนี้หล่อนพอจะรู้แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร วัวเคยขาม้าเคยขี่ ไม่ต้องยืดเยื้ออะไรมาก ต่างยืนแลกจูบกันอย่างเร่าร้อนและเนิ่นนาน ธนธรณ์ประคองแพรวาไปนั่งที่เก้าอี้ข้างหน้าโต๊ะทำงาน นั่งลงดึงร่างแพรวาเข้าประกบ แพรวาก็นั่งทับตักแลกจูบกับเขา ธนธรณ์ลูบไล้ไปตามตัวสอดมือเข้าไปในชุดยูนิฟอร์ม แต่ยังไม่ผ่านซับในอีกชั้น เขาจึงค่อยๆ ปลดกระดุมแล้วถอดออกไปด้านหลังวางโยนมันขึ้นโต๊ะไป เหลือแต่เสื้อซับในสีขาวบางๆ มือเขาลูบบีบเคล้นตามตัว แล้วก็ไปหยุดที่หน้าอกอวบอึ๋ม แพรวาแม้จะตัวเล็กกว่าวิภาวรรณ ผิวคล้ำกว่า แต่ด้วยวัยสาว จึงเปล่งปลั่งอวบอิ่ม ผิวพรรณเนียนนวล ที่ไม่แพ้วิภาวรรณก็ตรงที่หน้าอก มันกลมเป็นเต้าชัดเจนยิ่งถ้าหากสวมเสื้อรัดรูปด้วยแล้ว จะล้ำหน้าเด่นเลยทีเดียว ใครเห็นเป็นต้องมองจนคอเคล็ดแน่ๆ อกแพรวาอาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ธนธรณ์จูบหล่อนไปมือตะบบอกนิ่มได้ ก็บีบลูบคลำ
“พี่หมอขา.. แพรยังเจ็บหน้าอกอยู่เลย แต่มันก็สยิวยังไงไม่รุ”
“ก็ของแพรมันอวบยั่วยวนพี่นิ อยากจะขยำให้หนำใจ แต่ขอถนอมไว้ให้ชื่นใจนานๆ”
“ซี้ดด... ถนอมแล้วบีบหัวนมทำไม อู้ยย.. ซี้ด ทั้งเจ็บทั้งเสียว”
“อยากให้แพรเสียวมากๆ นี่จ๊ะ ไม่ชอบเหรอ”
“ถามได้ ไม่ชอบจะให้พี่บีบคลึงอยู่เหรอ อูยย....อีกข้างนึงคะ”
ปล่อยให้ธนธรณ์บีบขยำหน้าอก แพรวาก็จูบกับเขาต่อ
“ถ้าอยากจูบให้ได้อารมณ์ แพรต้องดุนลิ้นแล้วตวัดไปรอบๆ นะจ๊ะ อย่างที่เราเคยดูหนังไง แพรจ๋า”
“ในหัวพี่หมอเนี่ย มีแต่หนังโป๊หรือไง ลามกจริงๆ นึกว่าจะมีแต่เรื่องทางการแพทย์ วิธีการรักษาโรคซะอีก”
“อ่าว...คนไม่ลามก มานั่งกอดจูบ ให้เขาบีบนม แล้วไม่ชอบหรือไง เราจะได้เย็ดกันได้อย่างมีอารมณ์”
“ม่ายชอบ.... คิคิคิ.....” แล้วแพรวาก็จูบปากเขาอีก อ้าปากแลบลิ้นตวัดเลียไปทั่วโพรงปากหมอหนุ่ม สลับดูดไปมา จนน้ำลายเลอะรอบริมฝีปากทั้งคู่ พอถอนปากออก ก็ยังติดเป็นเส้นสายเหนียวยืดเป็นทาง แพรวาลุกขึ้นถอดเสื้อซับในกับกระโปรงมินิสเกิ๊ร์ตออก บราเซียลายลูกไม้อีกตัวนึง เหลือแต่กางเกงในลายลูกไม้บางจิ๋วกับถุงน่องแบบมีสายรั้ง ธนธรณ์ก็ถอดเสื้อออกพร้อมกางเกงหมดล่อนจ้อน นั่งบนเก้าอี้ตามเดิม แพรวานั่งคุกเข่าต่อหน้าเขาเหมือนรู้หน้าที่ ไม่รู้ได้ไง ถึงหล่อนจะไม่ค่อยประสีประสา แต่เมื่อเคยได้ลิ้มลองรสชาติของการเย็ดจากแฟนหนุ่มมาแล้วหลายครั้ง จึงไม่จำเป็นต้องบอกอะไรมากมาย
“อืมม.. นี่หรือข้าวหลาม ขอแพรชิมหน่อย” พูดพลางเหลือบขึ้นมองตาแฟนหนุ่มอย่างเย้ายวน คว้าท่อนข้าวหลามได้ก็กำรูดขึ้นลงเบาๆ ธนธรณ์กระหยิ่มในใจ แฟนสาวหัวไวใช่เล่น หล่อนอ้าปากอมเม้มริมฝีปากรูดขึ้นจนสุดปลายแล้วก็ตวัดลิ้นเลียไปรอบๆ หัวหยักแล้วก็อมรูดใหม่
“อูววว แพรจ๋า ปากแพรดูดดีจัง พี่เสียวจี้ดเลย ซี้ดด.... แพรใช้มืออีกข้าง ลูบหีไปด้วยซิจ๊ะ จะได้เสียวไปด้วยกัน อาาา.. อย่างง้าน”
“อืมม ของพี่ก็เริ่มแข็งและใหญ่ขึ้น คับปากแพรเลย อูยย... ลูบไปด้วย ซี้ด.....มันเสียวดีอะไรอย่างนี้”
“ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วแพร จะเย็ดกัน พูดให้มันหมดเปลือกเลย จะได้เงี่ยนมากขึ้น แพรเอานิ้วแยงไปด้วย อา... ดูดด้วยอย่างง้าน”
“แพรเมื่อยปากแล้วค่ะ พี่หมอขา เสียวหีด้วย พี่ธร เอ่อ. ยะ เย็ดแพรเถอะ” ถึงแม้จะเคยเย็ดกันบ่อยครั้ง หล่อนก็ยังไม่ชิน แต่ตอนนี้ชักเริ่มเงี่ยนง่านขึ้นแล้ว ยิ่งไม่ได้โดนเสียบมาหลายวัน ทำให้อยากเร็วขึ้น
“แพรยืนค้ำโต๊ะแล้วยึดไว้นะ อืมม เอาขาข้างนึงเหยียบเก้าอี้ไว้ แอ่นก้นขึ้นหน่อย อย่างง้าน” แล้วธนธรณ์ก็ย่อตัวลงจ่อหน้าตรงก้นของแพรวา เอามือเกาะขอบกางเกงใน เบี่ยงไปด้านข้างมองเห็นพูหีที่มันแบะอ้ารออยู่
“อุ้ยยย... พี่หมอขา เลีย หะ..หีแพรอีกแล้ว”
“ก็หีแพรงามยั่วตาพี่ มันน่าเลีย น่าเย็ดมาก”
“แล้วทำไมไม่เย็ดเลยล่ะคะ อูยย.....แพรเสียวไปหมดแล้ว อ๊อยยย.....มันโดนติ่งแพร ตายแล้ว แพรเสียวจะแย่แล้ว ยะ.. เย็ดแพรเถอะคะ พี่หมอขา”
“ขอพี่เลียหี แตดแพรให้อิ่มก่อน มันน่าดูดเลีย ดูสิ น้ำเงี่ยนออกมาแฉะไปหมด อร่อยถูกใจพี่มาก อืมม...”
“อูยยย....แพรจะไม่ไหวแล้วพี่หมอ อ๊ายยย..... แยงลิ้นเข้าลึกอีก แบบนี้แพรไม่ไหวแล้วพี่หมอขา.....ซี้ดดด” ตอนนี้ธนธรณ์ไม่โต้ตอบ เน้นปลายลิ้นฉกเข้าไปอย่างลึกสุดเท่าที่ทำได้แล้วก็ตะโบมปากดูดจนแคมหีฉ่ำแฉะไปหมด ร่องหีมีอาการขมิบเป็นจังหวะ คราวนี้หมอหนุ่ม แยงนิ้วเข้าไปแทงเข้าออก ปากก็เลียแคมหี ติ่งแตด เริ่มจังหวะแยงนิ้วระรัว
“อ่ะ...อ๊อยยย.. พี่หมอ พะ..แพรไม่ไหวแล้ว แพรเหมือนจะฉี่ราดแล้ว อะ..โอ้ยยยย พี่หมอ...”
“ให้มันออกมาเลยจ๊ะ พี่จะดูดกินให้หมด” ธนธรณ์คงรู้ว่าแฟนสาวใกล้จะถึงสวรรค์ก็ระรัวนิ้ว ลิ้นเร็วและแรงขึ้นๆ
“พี่จ๋า แพร อะ.. อึ้ย....ไม่ไหวแล้ว อ๊ายยยยย...” แพรวาร่างกระตุกจนก้นกระดกยิกๆ สองแขนที่ค้ำโต๊ะอยู่หมดแรง ทิ้งตัวหมอบราบกับพื้นโต๊ะ หน้าอกอวบถึงกับปลิ้นออกมาด้านข้าง ขาสั่นระริก
“พอแล้วพี่หมอขา.... ไม่ต้องเลียอีกแล้ว แพรเสียวจนจะยืนไม่ไหวแล้ว เหมือนใจจะขาด อูยยยย....อุ้ยย ยังจะจูบอีก” ธนธรณ์จูบแล้วดูดจ้วบส่งท้ายก่อนจะผละออกมายืนประกบด้านหลังโน้มตัวโอบทับแล้วจูบตามไหล่ ไซร้ไปถึงพวงแก้ม แล้วโอบดึงร่างขึ้นยืน ประคองกอดแน่นเพราะร่างแพรวาอ่อนระทวยไปหมดแล้ว แล้วก็ค่อยประคองแพรวาให้นอนลงที่พื้นขยับทาบร่างของแพรวา
“พี่หมอเนี่ย.. บอกให้เย็ดก็ไม่ยอม จะแกล้งแพรเหรอ”
“เปล่า อยากให้แพรมีความสุขมากๆ เป็นไงจ๊ะ เสียวดีมั้ย”
“สุดๆ เลยคะ แต่พี่หมอยังเลยนิ”
“เดี๋ยวก็มีต่อน่า ต่อไปนี้ของจริง” สบตายิ้มเป็นประกาย ขยับตัวลุกไปถอดกางเกงในหล่อนออก จับขาแบะกว้าง คุกเข่าประคองเจ้าท่อนข้าวหลามเอาปลายเขี่ยบริเวณปากแคมหีไปมา
“อูยย ยังเสียวไม่หาย ยังมีก้อกสองอีก อาาาา จะเย็ดก็รีบเย็ดสิคะ แพรเสียว อยากให้พี่เย็ดใจจะขาดอยู่แล้ว”
“อยากให้พี่เย็ดต้องเรียกให้ถูก ไม่งั้นจะแหย่นิ้วให้ดิ้นตายเลย”
“อ่ะ อูยย.. เย็ดแพรเถอะ พี่หมอ อ๊ายย.....ผัวขาเย็ดเมียเถอะ เมียเงี่ยนไปหมดแล้ว” แล้วธนธรณ์ก็บรรจงเสียบท่อนควยเข้าพรืดเดียว จมมิด
“อูยยย... ยังคับแน่นเหมือนเดิมเลย เมียจ๋า หีเมียมันเหมาะกับควยผัวมากเลย เย็ดกี่ทีก็ไม่เบื่อ”
“เมียก็เหมือนกัน อยากให้เราแต่งงานกันเร็วๆ จะได้อยู่ด้วยกัน ให้ผัวเย็ดทุกวันเลย อูยยย....เข้าแต่ละที มันครูดหีเมียเสียวไปหมด” โต้ตอบทางด้านคำพูดไม่พอ ต่างฝ่ายต่างโต้ตอบด้วยการกระเด้งเอวเข้าหากันพัลวัน ธนธรณ์ก็เร่งจังหวะเร็วขึ้น จนนมอวบใหญ่ของแพรวาสั่นกระเพื่อมตามแรงกระแทก ธนธรณ์รู้ว่าตัวเองจะไม่ไหว มองเห็นอกแฟนสาวช่างยั่วอารมณ์ก็ผ่อนแรง
“อูยยย ที่รัก หยุดทำไมคะ เมียกำลังเสียวอยู่เลย” ธนธรณ์ค่อยๆ ดึงท่อนควยลำยาวออก รูหีแพรวาก็กระชับดูดทำให้ฝืดออกยาก แพรวาเด้งเอวตามเหมือนเสียดาย เขาขยับขึ้นไปนั่งคร่อมบนอกแพรวา
“แพรเอาสองมือโอบนมแล้วบีบมันให้มันเป็นร่องนะ อย่างง้าน”แล้วเขาก็สอดท่อนเอ็นเข้ากลางร่องอก กระเด้าช้าๆ เบา
“อูยย ทำอะไรอีกนี่ มีเย็ดนมด้วย อา... เสียวนมไปอีกแบบ สรรหาจริงๆ พี่หมอเนี่ย” ทำเป็นต่อว่าเขา แต่สองมือบีบเต้าเข้าหากันแอ่นอกรับน้อยๆ ตาจ้องมองปลายหัวบานหยักผลุบๆ โผล่ๆ บางครั้งก็มากระทบกับคางหล่อน หล่อนจึงผงกหน้าเข้าหาแล้วแลบลิ้นรับตวัดเลีย แทบจะว่าหล่อนเพิ่งจะหัดเย็ดใหม่ แต่ดูเหมือนจะหัวไว หล่อนปรับเปลี่ยนรับท่วงท่ากับธนธรณ์เข้าขากันได้อย่างดี ช่างเป็นคู่รักคู่เย็ดที่เหมาะสมรู้ใจกันจริงๆ
“แพรว่า เย็ดหีแพรดีกว่าคะ ที่รัก แพรเงี่ยนแล้ว เย็ดหีเมียนะคะ ผัวขา”
“ได้จ๊ะ แพรไปยืนค้ำโต๊ะ แบบเมื่อกี้นะ เปลี่ยนท่ากันบ้างจะได้ไม่เบื่อ”
“อุ้ย ไม่เอาคะ เด๋วพี่ก็ไม่เย็ดแพรอีก อูยย แพรเงี่ยน อยากให้พี่เอาควยเย็ดมากกว่า”
“น่า แพรทำตามพี่บอก รับรอง ส. บ. ม. ย.ห. พี่จะ ย.ห.แพรอยู่แล้ว” แพรวาจึงลุกขึ้นตั้งท่าเหมือนตอนแรก ธนธรณ์เข้าประกบก็จับปลายควยเขี่ยแคมไปมา
“จะ ย.ห. ก็ยัดเข้าไปสิคะ ผัวขา อูยยย...อย่าแกล้งเมียเลย ว้าย....ทีงี้กระแทกซะแรง เบาๆ ก่อนสิคะ อูย....”
“ก็อยากให้ ย.ห. ก็ทำแล้วนิจ๊ะ ท่านี้มองด้านหลังเห็นก้นแพรแล้วยิ่งชวนเงี่ยนใหญ่เลย เมียจ๋า...”
“ท่าไหน พี่หมอก็เย็ดได้เสียวหมด อูยย” ครางไปมือข้างหนึ่งก็บีบคลึงเต้า อีกข้างค้ำยันขอบโต๊ะไว้ ธนธรณ์ก็โอบสะโพกกระแทกเข้าเป็นจังหวะ แรงขึ้นเร็วขึ้น
“อูยยย....มันเข้าลึกจัง เสียวถึงท้องเลย ผัวจ๋า เย็ดมันส์อะไรอย่างงี้”
“แพรจ๋า ขอพี่เสร็จท่านี้นะ พี่ไม่ไหวแล้ว ควยจะระเบิดแล้ว”
“คะ ผัวขา แรงๆ เลยคะ แพรก็เสียวจนไม่ไหวแล้ว อึ้ยย...” ต่างคนต่างกระเด้งกระเด้ารับกันจนโต๊ะโยกตามแรงของทั้งสอง
“เมียจ๋า พี่จะออกแล้ว .....”
“แพรก็จะเสร็จเหมือนกัน แรงๆ คะ แรงๆ อ่ะ...อ๊ายยยยย”
แพรวากรีดร้องธนธรณ์ก็เร่งจังหวะแรงเป็นเฮือกสุดท้ายก่อนจะรั้งสะโพกแพรวาเข้าแล้วกระแทกกึกๆ สองสามทีทั้งคู่ก็เกร็งกาย แพรวาถึงกับหมดแรงหมอบคาโต๊ะ โดยมีธนธรณ์ทับอยู่ด้านบน แล้วค่อยๆ ถอนควยออกน้ำรักขาวข้นก็พลันไหลย้อยลงตามมาตามขาเปื้อนถุงน่องแพรวา ธนธรณ์ถอยหลังไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ โต๊ะโดยรวบแพรวาตามไป หล่อนก็แทบจะขาขวิด เหนื่อยอ่อนทิ้งตัวตามทับอยู่บนธนธรณ์ที่เก้าอี้ ต่างสวมกอดกันอยู่ หอบกระเส่าด้วยกันทั้งคู่
“เป็นไง ข้าวหลามพี่มันส์หยดติ๋งเลยมั้ย หึหึ..”
“พี่เนี่ย เล่นท่าอะไรก็ไม่รุ แพรแทบจะยืนไม่อยู่ สร้างสรรค์เหลือเกิน เรื่องเนี๊ยะ”
“อ้าวว ไม่เห็นแพรขัดสักท่านิ”
“เพื่อความสุขพี่หมอ แพรจะขัดทำไมคะ แพรก็มีความสุขด้วย”
“ฟู่วววว ถ้าได้แต่งงานกันเร็วๆ นะ คงได้แคะขนมครก ทั้งหยอดทั้งแคะหมดแรงแน่ๆ เลย ฮ่ะๆๆ”
“อึ้ยยย ก่อนนี้ยังว่าหม้อข้าวหม้อแกง นี่เปลี่ยนเป็นขนมครกแร่ะ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนที่หยอดละ ตาย... แพรไม่ยอมด้วย ฮึ...” พูดมองหน้าเขา ถลึงตาดุเอาเรื่อง ปานเสือดาวจะขย้ำเหยื่อ พร้อมกำปั้นลงกลางอกเขาดังปึ้ก....
“ธ่อ เมียจ๋า มีของดีอยู่นี่แล้วจะเปลี่ยนทำไม เชื่อใจกันบ้างสิ น๊า แพรอ่ะ อย่าเอาแต่ฉุนเฉียว ฟังพี่บ้างสิ ตอนนี้พี่มีแพรเป็นคนสุดท้ายและคนเดียวเท่านั้น”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้ารู้ว่ายังมีใครอีก จะเอามีดหมอจับเจี๋ยนไม่เหลือซาก” แม่เสือดาวร่างอวบคว้าหมับไปที่ลำลึงค์บัดนี้หมดฤทธิ์คอตกไปแล้ว ทำขู่เขาเสียงดุ แต่หน้าแพรวายิ้มปนทะเล้น
“ยึ้ย... ใจร้ายอ่ะ ทำพี่หมอได้ลงเหรอ พี่สัญญาจ๊ะ สาบานก็ได้”
“ดีมากจ๊ะ ว่านอนสอนง่ายนะจ๊ะ เบบี๋” น่าน..พอได้ทีก็เริ่มได้วางอำนาจข่มกันแล้ว ธนธรณ์จากที่เคยเป็นไอ้เสือกลายเป็นแมวเหมียวไปซะแล้ว หล่อนจับคางเขาบีบขยี้ มือข้างหนึ่งลูบหัวเบาๆแล้วหอมแก้มธนธรณ์ฟอดใหญ่ ถึงจะต้องเป็นเหมียวเชื่องๆ ตอนนี้ธนธรณ์คงต้องยอม กระชับกอดแฟนสาวแนบแน่น สุดแสนจะรักใคร่แม่เสือดาวคนนี้.......................

วิภาวรรณเข้าไปหาวีรพลที่ระเบียงกว้างของบ้านเรือนไทยกึ่งยุโรปที่ยื่นออกมา จากตัวบ้านอันเป็นที่นั่งเล่นรับลมในบรรยากาศที่ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ ซึ่งบัดนี้วีรพลได้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับแทบจะรอบบ้าน มันนานหลายเดือนแล้วตั้งแต่เขาสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา ต้นไม้ดอกหลายชนิด เริ่มออกดอกสะพรั่ง รอบรั้วระเบียงมีพวงชมพูออกช่อผลิบานระย้า บริเวณด้านบนก็เป็นซุ้มไม้เถาครึ้มเต็มไปหมดแทนการมุงหลังคา วีรพลก็ปลูกไม้ประดับพวกตระกูลพวงแทบจะทุกอย่างรวมกัน พวงหยก พวงทอง พวงโกเมนทร์ พวงชมพู วีรพลบอกว่าเมื่อถึงคราวพวกนี้ออกดอก ถ้าเป็นพวงหยกจะมีดวกคล้ายๆ ทองกวาวแต่มีสีฟ้าอ่อนแกมเขียวคล้ายสีหยกห้อยเป็นพวง พวงทองก็จะเหลืองอร่ามเต็มซุ้ม ยิ่งถ้าพวงโกเมนทร์ก็จะเห็นสีแดงอมส้มห้อยเต็มซุ้มจนครึ้มไปหมด ถ้าออกดอกมากบางครั้งแทบมองไม่เห็นเครือไม้ทีเดียว คนที่ชอบไม้ประดับถือว่าไม้เหล่านี้เป็นไม้มงคล วิภาวรรณเองอดทึ่งกับความคิดประดิษฐ์ประดับประดอยของเขาไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าคนรูปร่างกำยำ สูงโปร่ง หน้าตาคมเข้ม ดวงตาเข้มดุ มีแอบปนหวานนิดยิ่งยามเค้ายิ้มจนวิภาวรรณหลงใหลมาถึงบัดนี้ เขาจะมีความเป็นศิลปะในการตกแต่งยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก แม้หล่อนเองยังทำไม่ได้เหมือนเขา คงจะได้รับความรู้การจัดบ้านจากลุงของเขาเมื่อครั้งอยู่เชียงใหม่ ตอนนี้เห็นเขานั่งขีดเขียนอะไรสักอย่าง สวมแว่นตาเลนส์รูปมนๆ กรอบดำ ดูจากความหนาเลนส์แล้วเค้าคงสายตาสั้นไม่น้อย โดยที่ปกติแล้ววิภาวรรณแทบไม่เคยเห็นเขาสวมแว่น ยิ่งทำให้เขาดูเอาจริงเอาจังมากขึ้น หล่อนเดินไปนั่งข้างหลังเยื้องออกข้างนิดหน่อย เกยคางบนไหล่เขา มือข้างหนึ่งโอบร่างเขา อีกข้างโอบกระชับแขน เป็นเอกลักษณ์ประจำไปแล้ว ยามที่หล่อนอยู่กับเขาตามลำพัง
“ทำอะไรคะ พล ดูง่วนเชียว”
“กำลังออกแบบสวนกล้วยไม้อยู่ครับ และอีกชิ้นงาน กำลังร่างแบบที่เด็กเล่น ไว้สำหรับลูกของเรา ภาช่วยดูหน่อยสิว่าดีมั้ย”
“หืม... อะไรจะบ้าเห่อขนาดนั้นคะ ลูกยังไม่มีซักหน่อย”
“ก็ทำเผื่อไว้ ยังไงภาก็ต้องมีลูกให้ผม ลูกๆ จะได้มีที่เล่น ที่ดินก็กว้างขวางพอที่จะขยับขยายได้อีกเยอะ ทำไว้ไม่เห็นจะเสียหาย”
“วันหยุดแทนที่จะหยุดทำงาน พลไม่เหนื่อยบ้างหรือคะ ภาเห็นแล้วยังเหนื่อยแทน แล้วนั่นเอกสารอะไรอีกคะ เยอะแยะไปหมด”
“งานที่บริษัทคุณพ่อ เลขาฯคุณพ่อเค้าส่งมาให้ผมศึกษางานไว้ ท่านจะวางมือแล้ว ตอนนี้ผมก็คิดหนัก ไม่รู้จะทำไหวหรือเปล่ามันอยู่ไกลถึงกรุงเทพฯ ไม่รับก็ยังไงอยู่มันเป็นงานที่พ่อสร้างมากับมือ แต่จะให้ทิ้งที่นี่ผมก็เสียดาย มันเป็นบ้านที่ผมใฝ่ฝัน ผมก็ไม่รู้พ่อคิดยังไงถึงรีบจะวางมือ อายุก็ยังไม่มาก แถมยังจะยกให้ผมคนเดียว น้องสาวกับแม่เลี้ยงผมไม่ได้อะไรสักอย่าง”
“นั่นสิคะ แค่ห้าสิบต้นๆ ยังทำงานได้อีกนาน”
“เอ๋ ภารู้ได้ไง ผมจำได้ว่ายังไม่เคยบอกเรื่องอายุคุณพ่อเลย”
“อ่ะ... เอ่อ ภาก็ได้ยินมาจากหมอธนธรณ์อ่าคะ เค้าเล่าให้ภาฟังอยู่บ้าง แหมทำเป็นสงสัย ภาจะรู้เรื่องของครอบครัวพลบ้างไม่ได้เหรอคะ”
“เปล่านี่ครับ เพียงแต่แปลกใจที่ภารู้ ผมนะ อยากให้ภารู้เกี่ยวกับผมหมดทุกอย่างแหละ ไม่อยากให้มีอะไรปิดบังหรอก”
“พลคะ งานเยอะแบบนี้จะทำคนเดียวไหวเหรอคะ ภากลัวพลจะเป็นโรคประสาทเสียก่อน ไม่อยากให้พลหักโหมบ้างานเลยคะ สุขภาพจะแย่เอาเสียก่อน อย่าคิดว่าเป็นหมอแล้วจะป่วยไม่เป็นนะคะ”
“ผมถึงอยากให้ภาลาออกจากงานที่ธนาคารมาช่วยผมไง แล้วก็ร้านขายของฝากผมว่ามอบให้ก้อยเค้าดูแลไปเลย ภาแค่กินส่วนแบ่งเท่านั้นก็พอ หรือแค่วางนโยบายแผนงานเรื่องการขยายสาขา ควบคุมแผนการตลาดถ้าจะมีการส่งออกต่างประเทศ แค่นี้ผมก็ว่าภาแทบไม่มีเวลาแล้ว ที่จริงงานบริษัทเยอะก็จริง แต่ผมก็ไม่ได้ทำคนเดียวหมดหรอก ยังมีหุ้นส่วนเค้าช่วยบริหารดูแลอยู่ ผมรับตำแหน่งสูงสุดในการบริหารแค่นั้นเอง แค่รู้จักแบ่งงานแบ่งคนทำงานให้เหมาะกับสายงานก็ไม่น่ามีอะไรเป็นห่วง”
วิภาวรรณฟังแล้วก็ยังอดห่วงไม่ได้ ทำไมหล่อนจะไม่รู้ หล่อนเคยคลุกคลีทำงานด้านนี้ร่วมกับวีรวัฒน์มาก่อน ถึงแม้จะไม่ได้ออกแรงเหมือนคนใช้แรงงาน แต่ต้องใช้มันสมองดูแลบริหารงานซึ่งมันยุ่งยากไม่ใช่น้อย แต่อีกใจหนึ่งก็อดปลื้มไม่ได้ ดูเขาจะคล่องแคล่วเรียนรู้งานได้เร็ว ยิ่งยังอยู่ในวัยทำงานหนุ่มไฟแรงความกระตือรือร้นก็มีมาก เหมือนวีรวัฒน์ไม่มีผิด
“อย่างนี้คุณพ่อคงปลื้มแน่ๆ ลูกชายขยันเอาการเอางาน คล่องแคล่วอย่างนี้ ไม่ผิดหวังที่จะยกกิจการให้ทั้งหมด”
“ผมก็ไม่คิดจะครอบครองทั้งหมดหรอก ถึงเวลาสักวันผมคงต้องสละออกไปบ้าง การงานเยอะมีเงินมีทองมากมาย แต่ไม่มีเวลาให้ครอบครัว มีแต่จะกอบโกยไม่รู้จักพอ ผมว่ามันก็ไม่ทำให้มีความสุขหรอก ผมยังจำคำพระท่านสอนเลย คนเราเมื่อรู้จักคำว่าพอเมื่อนั้นก็จะพบแต่ความสุข แค่ตอนนี้ผมมีงานทำมีบ้านที่ผมใฝ่ฝัน มีภรรยาสุดสวยดูแลผม รักและเข้าใจผม ก็มีความสุขแล้ว”
วิภาวรรณมองตาเขาอย่างอดปลื้มไม่ได้ เพราะความโรแมนติก ความเอาจริงเอาจังของเขาอย่างนี้แหละที่ทำให้หล่อนหลงเสน่ห์เขายิ่งนัก แต่แล้วก็กลับทำเมินหน้าแกล้งพูดยั่วเขาเล่น
“ใครเป็นภรรยาพล ยังไม่ได้แต่งงานด้วยซักหน่อย”
“อ่าว...ไม่ได้เป็นโดยนิตินัย ก็เป็นโดยพฤตินัยแล้ว หรือจะให้ผมทบทวนอีกรอบ จะได้จำได้ว่าเป็นหรือไม่เป็น” ว่าแล้วก็คว้าร่างที่นั่งโอบข้างเขาอยู่กอดฟัดเป็นพัลวัน
“ว๊ายย..พล..อย่านะ จะทำอะไร ไม่อายผีสางบ้างรึไง”
“แล้วยอมรับมั๊ย หือ..?”
“ค่า...ยอมรับแล้วคะ สามีสุดที่รัก...เซี้ยวจริง พลนี่” ทำค้อนปะหลับปะเหลือกแต่ก็ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนเขาอีก ยังคงอยู่ในอ้อมกอดเขา วีรพลยิ้มอย่างพอใจ จ้องตาหล่อน เอาอีกแล้ว หล่อนไม่อยากจะเห็นรอยยิ้มนี้เลย ทำเอาหล่อนวูบวาบทุกที วิภาวรรณจ้องตาเขากัดริมฝีปากล่าง แล้วถอดแว่นเขาออก คว้าคอเขาได้ก็ประกบหน้าจูบเขาอย่างเหลืออด สักพักจึงผละออก ก้มหน้าซุกอกเขาด้วยความเขินอาย วีรพลได้แต่ขำหล่อนจนตัวโยนโยก
“ขำอะไรคะ”
“ก็ เอ่อ ผมว่าเรารื้อรั้วกั้นบ้านออกเถอะ ผมไม่อยากให้ภาอยู่บ้านหลังโน้นแล้ว บ้านติดกันก็จริง แต่ไม่เหมือนอยู่ด้วยกันเลย อยากอยู่กับภาอย่างนี้มากกว่า อยากให้ภาหาแม่บ้านกับคนงานมาเพิ่ม เพราะจะต้องดูสวนผลไม้กับสวนกล้วยไม้เพิ่มขึ้นอีก ผมยังไม่มีคนงานประจำเลยสักคน ให้พี่ปิ่นกับพี่โชคหาให้ก็ได้” วิภาวรรณหน้าแดงก่ำ อีกคนล่ะ พูดเรื่องรั้วกั้นบ้านเนี่ย แถมยังพูดเหมือนปิ่นกับโชคไม่มีผิด คนอะไรไม่รู้ ช่างมีเสน่ห์ทำให้หล่อนได้เคลิบเคลิ้มกับเขาไปซะทุกอย่าง ไม่รู้จะทำอย่างไรทั้งๆ ที่อยู่กันสองต่อสองนับครั้งไม่ถ้วน หล่อนก็ยังขวยอายเขา เพราะจู่ๆ หล่อนก็เป็นฝ่ายจูบเขาซะเอง จนวีรพลขำหล่อน ได้แต่ทำเป็นทุบอกเขาเล่นเบาๆ........

ผ่านมาจนถึงวันหมั้นหมายระหว่างแพรวากับธนธรณ์ ฝ่ายชายได้เชิญญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และบรรดาผองเพื่อนที่โรงพยาบาลไปเป็นสักขีพยานไม่น้อยเลยทีเดียว วีรพลก็ช่วยเหลืองานเพื่อนรักแทบไม่ได้พักผ่อน วิภาวรรณก็ไปขลุกอยู่บ้านแพรวาสองสามวัน นานมาแล้วที่วิภาวรรณไม่ได้แวะมาที่บ้านแพรวา เท่าที่จำได้ก็ตั้งแต่วีรพลเริ่มเข้ามาเกี่ยวพัน วิภาวรรณแวะมาที่บ้านแพรวานับครั้งได้ มาครั้งนี้ทำให้พราวตากับเอกภพ พ่อแม่ฝ่ายหญิงเห็นความเปลี่ยนแปลงของเจ้านายของลูกสาวว่าหล่อนเปลี่ยนไปมาก ทั้งๆ ที่วิภาวรรณอ่อนกว่าทั้งคู่แค่ไม่ถึง 10 ปี แต่ดูเหมือนว่าต่างกันราวกับพ่อแม่ลูก อาจเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตโสดมายาวนานเกือบ 20 ปี ความสวยสาวจึงไม่โรยรา เพราะหล่อนเองก็มีความสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาถึงตอนที่ฝ่ายชายจะทำการสู่ขอกำหนดฤกษ์ยามที่จะมีพิธีแต่งงานต่อไป มอบสินสอดทองหมั้นและสวมแหวนให้ฝ่ายหญิง บรรดาสาวๆ พนักงานธนาคารทั้งหลาย หมอ พยาบาลบางส่วนต่างพากันมาอยู่ในพิธีทั้งหมด เมื่อสวมแหวนหมั้นแล้ว ทุกคนต่างกู่ร้องเป็นเสียงเดียวกัน ให้ฝ่ายชายจูบฝ่ายหญิง แรกๆ ผู้ใหญ่ทั้งหมดก็ปราม แต่เมื่อเรียกร้องมากขึ้นๆ ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็อนุญาต วิภาวรรณก็สะกิดแพรวาให้ขยับเข้าใกล้ธนธรณ์ ฝ่ายวีรพลก็สะกิดเพื่อนรักส่งสัญญาณ เพราะทั้งคู่ยังมีอาการขวยเขิน ถึงแม้จะเคยมีสัมพันธ์สวาทกันมา ก็อยู่ในสถานที่ลับตา แต่ตอนนี้แขกเหรื่อร่วมร้อยล้นบ้านทั้งๆ ที่เป็นแค่งานหมั้นยังไม่ถึงวันวิวาห์ จ้องตารอลุ้นมาที่ทั้งคู่
“อ้าว รีรออะไรคุณหมอ เดี๋ยวแก้มน้องแพรเหี่ยวพอดี หรือไม่กล้าก็ให้เพื่อนว่าที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเค้าสาธิตก่อนก็ได้ เอามั้ยพวกเรา”
ก็มีเสียงโห่ฮิ้วสนุกสนานขานรับสำทับเข้ามา เล่นเอาอีกคู่โดยเฉพาะวิภาวรรณหน้าแดงอายม้วนถึงกับลุกออกจากพิธี วีรพลเห็นก็เดินตามออกไป
“แน่ะ มีการไปซ้อมหลังฉากก่อนด้วย พี่ภา ไม่ต้องอายหรอก กันเองทั้งน้าน” เสียงพนักงานธนาคารสาวคนหนึ่งส่งเสียงแซวออกมา ทุกคนในงานต่างก็หัวเราะกันครืน แล้วก็ส่งเสียงหันกลับมาเชียร์สองคู่หมั้นต่อ ธนธรณ์ประคองใบหน้าแพรวาที่ตอนนี้อายม้วนต้วน หน้าแดงเป็นตำลึงสุก หันหน้าประสานกันส่งตาหวานหยดย้อยเป็นที่น่าอิจฉาของแขกทั้งงาน ...เกินความคาดหมาย... ธนธรณ์ไม่ได้โน้มใบหน้าจรดฝีปากไปที่พวงแก้มอิ่มละไมแล้วจูบตามที่ประเพณี ไทยทำสืบกันมา แต่เขาประกบไปที่ปากเผยออวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ จูบหล่อน แพรวาเองก็ตอบรับเอามือประคองแก้มฝ่ายชายจูบรับอย่างดูดดื่ม แขกเหรื่อเงียบทั้งบ้าน จนทั้งคู่ละริมฝีปากออกจากกัน จึงมีเสียงกรี๊ดกร๊าดวี้ดวิ้วพร้อมกับเสียงปรบมือกันเซ็งแซ่
“โอ้โห แบบนี้มีหวังคุณอาพราวกับอาภพ ได้อุ้มหลานเร็วๆ แน่ เอ้าฉลอง!!” แล้วก็ตามด้วยเสียงเฮครึกครื้นลั่นบ้าน บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานจนถึงเย็น แขกและญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชาย เพื่อนร่วมงานของทั้งสองฝ่ายจึงพากันแยกย้ายกลับ วีรพลกับวิภาวรรณกลับเป็นคู่สุดท้าย
“เหนื่อยมั้ยคะ พล ดูสิ หน้าโทรม ขอบตาคล้ำหมดเลย”
“นานๆ จะมีงานแบบนี้สักที ก็ต้องยอมเหนื่อยหน่อยครับ”
“ดีใจนะคะ ทั้งสองคนได้ลงเอยซะที ภากลับน้องแพรจะโกรธคุณหมอซะจนไม่ยอมรับหมั้นซะอีก แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอนดิ้ง”
“กลับไปนี้ผมคงหลับเป็นตายแน่ๆ ไหนจะต้องตื่นไปทำงานอีก”
“ลาพักบ้างก็ได้คะ พลนะยังไม่ค่อยได้พักเลยนะ อยู่บ้านก็เห็นทำโน่นทำนี่ตลอด เดี๋ยวจะไม่สบายนะคะ คนเราไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะทนทานได้ตลอด ถึงจะอยู่ในวัยหนุ่ม ร่างกายแข็งแรงก็เถอะ”
“ช่วงนี้คงต้องเหนื่อยต่ออีกยาวหน่อย ผมไม่อยากให้งานขาดตอน เอ้อ..เสาร์อาทิตย์หน้าผมคงจะต้องไปกรุงเทพฯ นะครับ ยังไงก็ขอฝากบ้านด้วยจะไปดูงานคุณพ่อ”
“พลคะ ภาอยากจะช่วยพลนะคะ ช่วงไหนมีงานให้ภาช่วยดูให้ก็ได้ ถ้าในส่วนเรื่องการเงิน การตลาดภาช่วยได้นะ”
“คงไม่ต้องหรอกคับ รบกวนเปล่าๆ”
“พลคะ ไหนบอกอยากให้ภาช่วย หรือเห็นภาเป็นคนอื่นไปแล้ว ภาไม่อยากให้พลหักโหม อีกอย่างงานคุณพ่อพลนะที่ภาเห็นวันนั้น ภาลองตรวจดูแล้ว มันมีอะไรน่าสงสัยอยู่หลายอย่าง อย่าหาว่าภายุ่งเลยคะ ภากลัว...”
“หืมม มีอะไรเหรอ”
“พลกับคุณพ่อมีคนไม่หวังดี พลยังมือใหม่ ภากลัวคุณเผลอ ถึงกับสูญสิ้นทุกอย่างได้นะคะ”
“หมายความว่าไง”
“พลจะโดนกลืนหุ้นไปทีละน้อย ตอนนี้ภาแค่สงสัยไว้ก่อนน่ะคะ เพราะเท่าที่เห็น มีหลายอย่างไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะโรงงานเหล็กกับบริษัทเหมาก่อสร้างที่เข้ามาใหม่ พลยังไม่ต้องเชื่อภาก็ได้ ภาแค่ตั้งข้อสงสัย”
วีรพลชะงัก วิภาวรรณคิดเหมือนเขาเลยทั้งๆ ที่หล่อนเพิ่งได้ดูเมื่อไม่กี่วันทำไมหล่อนมองออก เหมือนกับว่าเคยคลุกคลีงานแบบนี้มาก่อน แล้วชี้ถูกจุดซะด้วย อย่างไรก็ตาม วีรพลก็รับคำของวิภาวรรณจะไปคิดดูให้ถี่ถ้วน
“ขอบคุณมากครับ ภา ผมจะพยายามหาหลักฐานให้มันชัดเจนเสียก่อนแล้วค่อยสรุปว่ามันน่าสงสัยจริงๆ ไม่เสียงแรงนะครับ ที่จะให้ภามาช่วยงานผม มีเมียเก่ง รู้ใจอย่างนี้ไอ้พลสู้ตาย” เขากล่าวพร้อมปล่อยมือจากพวงมาลัยข้างหนึ่งชูสองนิ้ว พยายามให้บรรยากาศไม่ตึงเครียด ใบหน้าเขายามนี้อิดโรยไปมาก ไหนจะเรื่องงานของพ่อ ของตัวเอง นี่ก็เพิ่งเสร็จงานหมั้นของเพื่อนรัก
“ท่าทางจะเหนื่อยมาก พรุ่งนี้ยังจะไปทำงานอีกเหรอคะ กลับไปนี่ เดี๋ยวภานวดให้นะ ก่อนนอนจะได้สบายตัว” วิภาวรรณกล่าวมองหน้าเขาอย่างห่วงใย
“นวดอย่างเดียวเหรอ อืมม... น่าจะมีบริการเสริมพิเศษนะ ฮ่ะๆๆ โอ้ยยย....” พูดพร้อมทำตาเจ้าชู้สื่อความหมาย เลยโดนปั้กใหญ่
“ยังจะทำมาพูดเล่นอีก คนลามก”
“แหม... เย้าเล่นหน่อยก็ไม่ได้ ง้านภามานอนบ้านผมนะ อยากนอนกอดเมียเอากำลังใจไว้ต่อสู้อุปสรรค พรรคนี้เริ่มจะมีเรื่องต้องให้ปวดหัวแน่ๆ เลย อยากแต่งงานกันไวๆ จริงๆ จะได้ไม่ต้องแอบๆ ซ่อนๆ ภาจะได้อยู่กับผมอย่างเปิดเผย สบายใจกว่ากันเยอะเลย” เขาปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาคว้ามือหล่อนไปเกาะกุมบีบเบาๆ วิภาวรรณยิ้มในที มองหน้าเขาด้วยความรักและห่วงใย.......


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #11 on: June 02, 2013, 08:53:48 pm
วีรพลขับรถจากจันทบุรีมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ด้วยใจที่ไม่ค่อยจะสบายนัก นึกถึงหน้าวิภาวรรณเมื่อตอนจะออกจากบ้าน หล่อนมีสีหน้ากังวลอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วยังย้ำเตือนเรื่องงานที่บริษัทพ่อ ที่เขายิ่งครุ่นคิดจนปวดขมับขนาดนี้ก็คือบริษัทก่อสร้างที่เคยเป็นเครือข่ายเก่ามีการเปลี่ยนแปลงตัวเจ้าของ แถมเรื่องการเงินก็เป็นที่น่าสงสัย ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเจ้าของบริษัทนี้เป็นของอรทัยแม่เลี้ยงของเขาเอง ถ้าจะมีการฮุบหุ้นหล่อนจะทำไปทำไมในเมื่อหล่อนก็เป็นภรรยาของพ่อเขาซึ่งเป็นเจ้าของกิจการทั้งยังเป็นบริษัทแม่ข่ายอยู่ด้วย ย้อนนึกถึงตอนที่บิดาบอกว่าอรทัยเริ่มไม่ซื่อเขาก็ยิ่งอยากรู้เหตุผล ภรรยาจะรวบฮุบหุ้นของสามีตัวเองทำไม วีรวัฒน์เองก็รักอรทัยไม่น้อย แล้วหล่อนจะทำไปเพื่ออะไร เขาขับรถมาถึงบ้านอย่างไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าใด รู้แต่ว่ามันดึกมาก น่าจะประมาณตี 3 ได้ เขากดรีโมทประตูบ้านเปิด แล้วขับเบ๊นซ์คันหรูเข้าบ้านหลังใหญ่อย่างเงียบเชียบ จอดรถแล้วก็ขนกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ขึ้นบ้านหลังใหญ่
จนรุ่งเช้าวีรพลตื่นด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของมินตราน้องสาวต่างมารดาที่พอรู้ว่าเขาถึงก็รี่ไปปลุกพี่ชายด้วยความคิดถึง เขาตื่นอาบน้ำลงมาชั้นล่าง ก็ได้เจอกับหน้าที่บอกบุญไม่รับของอรทัย
“ย้ายไปอยู่ข้างนอกแล้ว แกจะกลับมาทำไมอีก ตาโอ๊ต”
“น้าอรทัยครับ นี่มันก็บ้านผม ทำไมผมจะกลับไม่ได้”
“แต่มันเป็นของคุณวีรวัฒน์กับชั้น แกมันคนนอกแล้วจะมายุ่มย่ามอะไรอีก หรือคิดจะกลับมาเอามรดกพ่อว่างั้นเถอะ หึ... อย่าได้ฝันไปหน่อยเลย..”
“น้าอรครับ ทำไมน้าไม่เคยพูดดีๆ กับผมสักครั้ง ผมเคยไปทำอะไรให้น้าโกรธแค้นผมงั้นหรือ ถึงน้าจะไม่ใช่แม่แท้ๆ ของผม ผมก็รักเคารพน้าเหมือนแม่คนนึง แล้วทำไมน้าจะต้องมารังเกียจผมขนาดนี้”
“ไม่ต้องมาสาธยายความรักของแก คิดหรือว่าชั้นไม่รู้ทัน แกคิดจะมาโกยมรดกคุณวัฒน์ แกจะมาแย่งของชั้น เหมือนที่แม่แกเคยแย่ง แสบทั้งแม่ทั้งลูก ขนาดไล่ออกจากบ้านไปแล้ว ยังเหลือแกให้ชั้นเจ็บใจ เพราะมีแกนี่แหละ คุณวีรวัฒน์เค้าถึงไม่ไว้ใจชั้น ยังหลงเสน่ห์ยัยวิภานั่นอยู่ ถ้าแกไปสักคนเค้าคงจะสนใจชั้นบ้าง”
“ผมไม่เข้าใจ ผมว่าน้าต่างหากที่แย่งทุกอย่างไปจากแม่ผม อย่าลืมสิว่าแม่วัลวิภาเป็นเมียคนแรก แล้วที่ผมกลับมานี่เพราะผมก็เริ่มไม่แน่ใจว่าน้าให้ความรักความน่าเชื่อใจกับคุณพ่ออย่างที่คุณพ่อท่านรักและไว้ใจน้าอร”
“นี่แก..... แกคิดว่าชั้นจะทรยศคุณวัฒน์เหรอ”
“อย่าร้อนตัวสิครับ ถ้าไม่ได้ทำ ผมไม่ได้คิดอยากแย่งอะไรจากน้าสักอย่าง ถ้าคุณน้ายังให้ความรัก ให้ความสุขกับครอบครัวพ่อผม ผมยินดีออกไป”
“หึ.. ไม่ได้มาแย่ง แต่ตอนนี้แกดูแลงานแทนคุณวีรวัฒน์หมดทุกอย่าง โดยไม่ปรึกษาชั้นสักคำ แล้วแกยังมีหน้าจะมาพูดอีกเหรอ”
“น้าอรครับ ผมอยากรู้เหมือนกัน คุณน้ากลัวอะไร ทุกอย่างที่คุณน้าร่วมทำร่วมกันสร้างกับคุณพ่อ ก็เป็นของคุณน้าหมดอยู่แล้ว ผมก็เคยบอกว่าผมจะไม่มายุ่ง แต่ตอนนี้คุณน้ากลับกลัว ทำเหมือนนี่ไม่ใช่บ้านไม่ใช่บริษัทของตัวเอง ถ้าคุณน้าบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องกลัวครับ ผมจะออกจากบ้านนี้โดยไม่ขออะไรติดตัวไปสักชิ้น ที่จริงคุณน้าน่าจะละอายใจบ้างนะครับ ผมเป็นลูกคนแรกของพ่อ คุณน้ามาอยู่บ้านพ่อที่สร้างมาแต่ก่อนกับแม่ผม แล้วแม่ผมก็หนีจากไปโดยไม่เอาอะไรไปสักอย่าง ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นของผมหรือแม่ผม คุณน้าน่าจะมอบความรักความเอาใจใส่ผมเหมือนลูกคนนึง ทำให้คุณพ่อท่านสบายใจว่าแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงเข้ากันได้ดี แล้วทุกอย่างที่คุณน้าอยากได้มันจะไปไหนเสีย”
“แกไม่ต้องมาสอนชั้น ฮึ่ย.....” อรทัยไม่ต่อล้อต่อเถียงต่อ สะบัดหน้าเดินหนีเขาไปอย่างโกรธเดือดดาล มินตรามองตามไปอย่างเหนื่อยหน่ายและก็สงสาร เห็นใจพี่ชาย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกของอรทัย แต่ก็ไม่เคยรังเกียจวีรพล จนทำให้อรทัยก็ไม่พอใจเธอไม่น้อย มินตราได้ยืนฟังอยู่ห่างๆ เมื่ออรทัยเดินสะบัดก้นไปแล้ว จึงเข้าไปสวมกอดพี่ชาย
“พี่โอ๊ตอย่าโกรธแม่เลยนะคะ ถือว่ามีนขอร้อง มีนไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย ไม่รู้แม่เคืองแค้นอะไรพี่โอ๊ตหนักหนา มีนอยากมีพี่ชายอยู่ด้วยอยากให้ทุกคนในครอบครัวรักใคร่ปรองดองกัน มีครอบครัวที่อบอุ่น”
“มีน พี่ไม่เคยโกรธน้าอร แต่พี่ก็ไม่รู้ว่าพี่จะอดทนได้อีกสักเท่าไหร่ แต่มีนไม่ต้องเสียใจหรอก ยังไงมีนก็คือน้องสาวผู้น่ารักของพี่ ใครจะเป็นยังไงพี่ไม่สนหรอก พี่ก็ยังรักน้องมีนยัยจอมจุ้นคนเดิม... เอ้อ แล้วนี่คุณพ่อยังไม่เห็นหน้าเลย อยู่บ้านหรือเปล่า มีน...”
“มีนไม่เห็นคุณพ่อตั้งสองวันแล้วคะ หลังๆ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ค่อยอยู่ด้วยกันเลยคะ พี่โอ๊ต ถ้ามีนจำไม่ผิด ก็ตั้งแต่พี่โอ๊ตออกไปไม่นาน มีนถึงอยากให้พี่กลับมาไงคะ บ้านเรามันเงียบเหงายังไงไม่รู้ ได้ข่าวว่าพี่โอ๊ตมีแฟนแล้วเหรอ คุณพ่อบอกมีน ไม่เห็นพี่บอกมั่งเลย สงสัยหลงแฟนจนลืมน้องแล้ว ว่าที่พี่สะใภ้มีนก็ยังไม่เคยเห็นหน้า เมื่อไหร่พี่จะพามาให้มีนรู้จักบ้างละคะ มีนอยากเห็นและจะได้มีเพื่อนเพิ่มอีกคน”
“ตอนนี้เค้ายังไม่ว่างจ๊ะ พี่ชวนมาด้วยเหมือนกัน รอให้ว่างๆ พี่จะชวนมา รับรองมีนต้องชอบแน่ๆ แต่..... เอ่อ...มีนอย่าหัวเราะพี่นะ”
“ทำไมคะ มีอะไรน่าหัวเราะเหรอคะ”
“แฟนพี่อ่ะ แก่กว่าพี่สิบกว่าปีเกือบ 20 แน่ะ แต่หน้าอ่อนยังกะ 30 เล้ยย”
“หูยยย...พี่โอ๊ต ดูทำหน้า ท่าทางจะหลงรักคนแก่เอามากๆ ตาเยิ้มเชียว คิคิคิคิ”
“แน่ะ หัวเราะเยาะพี่เหรอ”
“ไม่หัวเราะเรื่องอายุ แต่หัวเราะพี่ที่ทำหน้าเวอร์ อะไรจะหลงรักปานนั้น สงสัยจะสวยน่าดู พี่ของหนูหล่อล่ำ เก่งออกขนาดนี้ ไม่เคยเห็นชอบใครสักคน ขนาดพี่เมย์ว่าสวยๆ เรียนก็เก่ง พี่โอ๊ตยังไม่สนใจ แบบนี้ต้องสวยและมีเสน่ห์อย่างมากถึงทำให้พี่ชายอินเลิฟได้ขนาดนี้” พูดถึงคนชื่อเมย์ วีรพลถึงกับสะอึกชะงักไปนิดหนึ่ง
“พี่ก็ลืมเอารูปติดตัวมาว่าจะให้มีนเห็นรูปซะหน่อย ว้า.. เอาไว้คราวหน้าจะพาตัวเป็นๆ มาเลย โอเค๊..”
“ได้เลยคะ แล้วอย่าลืมนะคะ ปิดเทอมหน้า มีนจะไม่เรียนพิเศษแล้วล่ะ ขอมีนไปอยู่บ้านพี่โอ๊ตได้มั้ยคะ อยากเห็นบ้านที่พี่โอ๊ตเคยเล่าให้มีนฟังว่าอยากมีบ้านในฝัน”
“ได้เลย แต่ตอนนี้ก็ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีนะจ๊ะ ถ้าผลเรียนเป็นที่น่าพอใจ พี่จะตามใจน้องทุกอย่าง”
“ฮิฮิ พี่โอ๊ตพูดเองนะคะ มีนน่ะ Top ทุกวิชาจ๊ะ ไม่รู้เหรอ แบบนี้ห้ามเบี้ยวเลย...ฮิฮิฮิ”
“อ่าว... นึกว่าตกทุกวิชา เด๋วนี้ติดท้อปเลย ฮ่ะๆๆๆ ก็ได้ๆ พี่พูดแล้วไม่คืนคำแน่ๆ เดี๋ยวขอพี่ทำธุระก่อนนะ ยังไม่ได้ไปที่บริษัทเลย”
“หูยย... วันหยุดยังจะทำงานอีก วัยรุ่นเซง นึกว่าจะอยู่เล่นกับมีนอีก พี่จะขยันไปถึงหนาย นะนะ อยู่บ้านดีกว่า”
“ไม่ได้จ๊ะ พี่รับปากกับคุณพ่อเรื่องจะมาดูงาน เดี๋ยวเสียผู้ใหญ่หมด คนเรามันต้องรับผิดชอบในหน้าที่นะจ๊ะ ไปๆ ไปหาอ่านหนังสือ หรือถ้าขี้เกียจก็ไปเล่นกับป้านิ่มไป๊ พี่จะไปทำงานล่ะ บายจ๊ะ” โน้มหน้าลงจุ้บแก้มใสๆ ของน้องสาวแล้วก็ถือเอกสารออกจากบ้านไป ทิ้งให้น้องสาวหน้ามุ่ยอยู่พักนึงแต่แล้วมินตราก็มองตามพี่ชายอย่างอดยิ้มชื่นชมไม่ได้.....

วีรพลเข้าไปที่บริษัทกะว่าจะเจอวีรวัฒน์แต่กลับเจอแต่เลขาฯ เขาโทรติดต่อก็ไม่ติด พ่อไปทำอะไร? ทำไมต้องปิดมือถือด้วย... คิดได้แค่นั้นเขาก็ตรวจงานกับเลขาฯ สาวใหญ่วัย 30 เศษๆ เท่าที่เขาตรวจสอบทุกอย่างก็ได้รู้ว่าเรื่องการเงินนั้นอรทัยจะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยแต่งตั้งเจ้าของโรงงานเหล็กที่เป็นเครือข่ายขึ้นมาเป็นกรรมการฝ่ายการเงินและบัญชี ดูรายชื่อก็รู้ว่ายังเป็นเจ้าของโรงงานวัยหนุ่ม อายุมากกว่าวีรพล 5-6 ปี เขาได้รับหน้าที่เป็นเจ้าของโรงงานต่อจากพ่อที่เป็นโรคอัมพาต ชื่อ อรรถพล เห็นเลขาฯเรียกเขาว่า “อรรถ” วีรพลนึกถึงคำของวิภาวรรณที่เตือนไว้ จึงเข้าตรวจสอบพอได้เห็นเค้าลางๆ ว่า อรรถพลเขาเริ่มจะมีบทบาทในหน้าที่การงานในบริษัทของพ่อมากขึ้น ทั้งๆ ที่มีกรรมการอาวุโสอยู่หลายคน ดูเหมือนเขาจะเป็นหนุ่มไฟแรงจนตำแหน่งแซงกรรมการอาวุโสมา จนเป็นรองแค่วีรวัฒน์กับอรทัยเท่านั้น เขาสอบถามกับเลขาฯ อยู่หลายเรื่องจนอดสงสัยไม่ได้ เลขาฯของพ่อเขาทำไมไม่ค่อยจะรู้เรื่องการดำเนินงานของกรรมการบริษัทเท่าใดนัก มีแต่อ้างชื่ออรทัยหรือไม่ก็อรรถพล จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ตกลงหล่อนเป็นเลขาฯ หรือว่าอรทัยกับอรรถพล แต่วีรพลยังแสดงอาการปกติ เขาต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขานั่งดูเอกสารไปเรื่อยๆ จนเลขาฯ มีท่าทางกระสับกระส่าย พอเหลือดูเวลาก็เป็นเวลา 6 โมงเย็นแล้ว
“โอ้วว ขอโทษครับพี่ผ่อง ลืมดูเวลา เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะจ่ายพิเศษให้พี่ก็แล้วกัน ผมขอโทษที่ต้องเรียกพี่มาทำในวันหยุด ผมขอเลี้ยงมื้อเย็นพี่ด้วย ส่วนเบี้ยพิเศษ พรุ่งนี้ผมจะจัดการให้ โอเคนะครับ ป่ะ เก็บข้าวของเถอะ”
“พี่ก็ขอโทษด้วยนะ คุณโอ๊ตที่ตอบคำถามคุณโอ๊ตได้ไม่หมด คือพี่ก็อึดอัดใจในเรื่องงานเหมือนกันอ่ะ เหมือนกับว่าพี่โดนก้าวก่ายตำแหน่งงานไปหมดแล้ว จนพี่เองก็ละอายใจที่ทำหน้าที่เลขาฯ เจ้านายใหญ่ไม่ได้เต็มที่”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ก็ทำเท่าที่ทำได้ดีที่สุดก็แล้วกัน ช่วงนี้ผมคงต้องขอรบกวนพี่ช่วยผมบ่อยหน่อย ก่อนที่ผมจะมารับหน้าที่อย่างเต็มตัว ตอนนี้ก็ขอให้รู้กันแค่คุณพ่อ พี่ และก็ลุงทนายก็พอนะครับ”
“คะ คุณโอ๊ต พี่ดีใจนะคะ ถ้าคุณโอ๊ตจะกลับมารับทำต่อจากเจ้านายใหญ่ ท่าทางคุณโอ๊ตจะเก่ง คล่องแคล่วมากเลย แบบนี้พี่ได้ร่วมงานด้วยก็พลอยสบายใจไปด้วยค่ะ”
“ขอบคุณครับ เอ่อ เรื่องร้านอาหารผมให้พี่เลือกเลยนะครับ เดี๋ยวผมจะพาไป”
เมื่อเลือกร้านอาหารได้วีรพลก็จัดแจงสั่งตามที่ผ่องนภาต้องการส่วนเขาขอวิสกี้อย่างเดียว เขาไม่เคยดื่มหนักมาก่อน เพียงไม่กี่แก้วก็เริ่มมีอาการมึนๆ จึงจ่ายค่าอาหารและขอตัวกลับ โดยให้ผ่องนภากลับเอง เขารู้สึกว่าจะเซๆ นิดๆ จึงจอดรถไว้ที่โรงแรม หอบกระเป๋าเอกสารขึ้นแทกซี่กลับถึงหน้าบ้านประมาณเกือบ 4 ทุ่ม เขาเดินกดรีโมทประตูบ้านโดยไม่ได้เรียกใครมารับ เดินเข้าบ้านไปอย่างเงียบๆ ที่บ้านเงียบเชียบ เขามองเห็นแต่ไฟห้องวีรวัฒน์เปิดอยู่ แต่มองไปที่จอดรถกลับไม่เห็นรถวีรวัฒน์ คงเป็นอรทัยที่อยู่บ้าน ส่วนมินตราคงหลับไปแล้ว เดินเข้าบ้านไปที่ห้องโถง ผ่านขึ้นไปที่ห้อง ทีแรกกะว่าจะนอน แต่รู้สึกเครียดๆ จึงเปลี่ยนชุดลำลองสบายๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่อาบน้ำ เดินลงจากบ้านใหญ่ไปที่โรงกล้วยไม้ เขาเดินทอดความคิดไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ยังมีอาการมึนๆ เล็กน้อย พยายามจะสูดอากาศยามค่ำคืนที่เย็นสบายให้รู้สึกปลอดโปร่ง เขาเดินไปด้านในโรงกล้วยไม้กะว่าจะไปที่ประจำของเขา ก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน แรกๆ เขาคิดว่า นายนพกับหวาน คงจะมาพลอดรักกันอีกเป็นแน่ แต่เมื่อได้ยินเสียง เขาถึงกับหูผึ่ง อาการมึนเมาเหมือนมันจะหายไปชั่วขณะ
“อืมม... อย่างง้านแหละ นพ เลียตรงนั้นแหละ อูย เสียวดีเหลือเกิน”
วีรพลค่อยๆ สืบเท้าเข้าไปมองหาที่แอบดูให้รู้ชัด ว่ามันเป็นจริงอย่างที่เขาคิดหรือเปล่า
“เป็นยังไงนพ หีชั้นดูดเลียอร่อยมั้ย อา... อย่างง้าน เลียแล้วก็แลบเข้าไปให้ลึกๆ อูว......”
ภาพที่เขาเห็น วีรพลถึงกับตัวแข็งทื่อ อรทัย!!! นี่หล่อนมาทำเรื่องบัดสีได้ขนาดนี้เลยเหรอนี่ ตอนนี้เจ้านพ คนสวนหนุ่มนั่งคุกเข่าต่อหน้าอรทัยที่สวมชุดคลุมนอนกาววาว เปิดแหวกชุดนั้นออกนั่งถ่างขาบนเก้าอี้นั่งเล่นที่วีรพลเคยนั่งประจำ ตรงนั้นถ้ามองออกจากด้านนอก จะรกทึบมองเข้ามาไม่เห็นใคร แต่ตอนนี้ แสงไฟนอกโรงกล้วยไม้มันสาดเข้าพอเห็นได้เป็นลางๆ แต่ก็ชัดพอที่จะวีรพล ที่ยืนอยู่ห่างจากตรงนั้นประมาณ 30 เมตร เขามองหาที่แอบซ่อนดูว่าอรทัยจะทำอะไรต่อ ตอนนี้หล่อนนั่งถ่างขา หน้าเชิดหลับตาพริ้ม ซี้ดปาก เจ้าคนสวนก็ก้มผงกหัวไปมา
“อูย... นพ พอก่อนชั้นเสียวไปหมดแล้ว ขอชั้นดูควยแกบ้าง อยากอมให้หายอยาก วันนี้รู้สึกเงี่ยนเหลือเกิน อูยยยย.....”
แล้วเจ้านพก็ลุกขึ้นถอดกางเกงออก อรทัยก็รีบคว้าหมับ จับมันรูดเข้าออกพร้อมกับอ้าปากแลบลิ้นตวัดเลียไปรอบๆ หัวหยัก
“อูยย. คุณนายครับ ผมเสียวหัวถอก อย่าดูดแรงสิครับ อา.....”
“หึหึ.... ดูดแรงๆ แกจะได้แข็งเต็มที่ เงี่ยนเต็มที่ แล้วจะได้เย็ดกันสนุกๆ ไงล่ะ ไม่ชอบเหรอ แกมันก็ขี้เย็ดนี่ ยัยหวานถึงติดอกติดใจแกนักหนา อืมม.... เริ่มใหญ่คับปากชั้นล่ะ อื้มๆๆ.....”
“คุณนายครับ อูยยย....เราทำไม่ถูกนะครับ เกิดใครรู้เข้า ถึงหูเจ้านาย ผมตายแน่ๆ อะ อูยยย..”
“อะไรกัน ควยคับปากขนาดนี้ ดูดเลียหีชั้นแล้ว ยังจะทำมากลัว หรือแกอยากโดนไล่ออก หืมม.... ยัยหวานชั้นก็จะไล่ออก ถ้าแกยังทำปากสว่าง”
“อูย..... ก็ได้ครับ ตอนนี้ผมเสียวจนน้ำจะแตกแล้ว พอก่อนครับคุณนาย”
“อย่าเพิ่งสิ ขอให้แกเย็ดชั้นนานๆ หน่อย วันนี้รู้สึกเงี่ยนรูหีมากๆ มาเลียหีชั้นอีกทีสิ จะได้ผ่อนความเงี่ยนแกก่อน”
เจ้านพขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวยาวข้างอรทัย หล่อนเอนตัวยาวตามเก้าอี้ เจ้านพก็จับหล่อนแบะขาข้างหนึ่งห้อยลง อีกข้างชี้ชันพิงกับพนักเก้าอี้ สอดนิ้วแหย่แยงเข้ารูหีอรทัย
“อะ อูยยย.. อย่างง้าน บี้แตดด้วย นพ อา.... นั่นแหละ อะ อุ้ยย... เลียแตดด้วย อูยยย... เสียวจังเลย”
“หีคุณนายนี่สวยน่าเลียน่าเย็ดมาก ขนาดอายุตั้งสี่สิบกว่าแล้ว ผมว่าถ้าใครได้เย็ดละก็เป็นหลงแน่ๆ”
“อูยยย ชั้นก็อยากให้แกเย็ดอยู่นี่ไง อุ้ยย... แยงแรงๆ อื้อๆ.....อา.....เลียไปด้วยแยงไปด้วย น้านนอย่างง้าน..... อูยยย นพ นี่แก.. อ่ะ อ๊ายย...แหย่รูตูดชั้นด้วย อูยยย.... ทำให้เสียวมากเลย แกเข้าใจทำจริงๆ แยงแรงๆ อะ อูยย......”
“หมอยคุณนายดกดำ มันช่างเย้ายวนน่าเย็ดจริงๆ ขอผมเย็ดคุณนายเถอะครับ ผมจะทนไม่ไหวแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน แกแยงให้ชั้นเสร็จสักทีก่อน แล้วแกค่อยเย็ด อูยยย.. แรงๆ นพ ฉันจะแตกแล้ว อะ อะ......อ๊ายยยซ์”
เจ้านพคงจะหงี่งานเต็มที่กลัวไม่ได้เสียบ จึงเร่งนิ้วเข้ารูหี รูตูด อย่างเร็วจนแทบจะมองไม่ทัน ลิ้นก็ตวัดเลียปลายแตดไปด้วย จนอรทัยบิดร่างเร่าๆ แอ่นกายขึ้นกระตุกงั่กๆ แล้วก็ทิ้งตัวลงหายใจหอบ
“มาสิ มาเย็ดชั้นเลย เอาให้น้ำแตกอีกรอบเลย อูยย.. นิ้วแกนี่ทำเอาชั้นเสียวไปหมด มาสิ เอาควยมาเย็ดได้แล้ว อา..... อูยยย เข้าแล้ว กระแทกแรงๆ เลย ก่อนคุณวัฒน์จะกลับ”
วีรพลขบกรามกรอดๆ ไม่นึกเลยว่าแม่เลี้ยงที่เขาพยายามจะทำดีด้วยกลับต้องมาแอ่นร่างรับท่อนควยคนสวน เขาเห็นอย่างนี้แล้วในใจอยากจะลุกออกไปฆ่าหล่อนด้วยมือ ฐานที่นอกใจพ่อของเขา ทั้งๆ ที่วีรวัฒน์ก็ให้ความรักความเอาใจใส่กับหล่อนอย่างดี แต่ดูหล่อนกลับทำตัวเป็นนางกากีร่านสวาท มาเล่นชู้แม้กระทั่งกับคนสวนของตัวเอง มือเขากำหมัดแน่น กำลังจะลุกไปทำสิ่งที่เขาอยากจะทำ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงแตรรถที่หน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ของป้านิ่มวิ่งออกไปพร้อมขานรับ เห็นรถวีรวัฒน์เข้ามา ป้านิ่มก็เข้าไปรับกระเป๋ากับถอดเสื้อสูทถือ แล้วคุยกับวีรวัฒน์สองสามคำ วีรวัฒน์ก็เดินขึ้นบ้านไปโดยมีป้านิ่มเดินตามไป
“อุ้ย คุณวัฒน์กลับมาแล้ว พอเถอะนพ เดี๋ยวชั้นจะกลับขึ้นบ้านแล้ว”
“อูยย คุณนายครับ อีกนิดเดียว ขอผมเย็ดให้น้ำแตกก่อนดีกว่า อีกนิดเดียว”
“ไม่ได้ เอาไว้วันหลัง ปลอดคน ชั้นจะเรียกแกเอง อย่าลืมนะ ถ้าแกปากโป้ง ชั้นจะฟ้องคุณวัฒน์ ป้านิ่มเรื่องของแกกับยัยหวาน”
“โธ่...คุณนาย” เจ้านพหน้าถอดสี ถอนควยออกมายืนแล้วสวมกางเกงกลับคืน อรทัยก็รวบชุดคลุม จัดให้เรียบร้อย คาดเอวแล้วก็เดินไป วีรพลจึงชะงักหลบอยู่ที่เดิม พออรทัยไปแล้ว จะออกจากที่ซ่อน ก็มีร่างๆ หนึ่งเดินเข้ามา
“พี่นพ... พี่นพทำอย่างงี้ได้ยังไง เสียแรงที่หวานรัก และไว้ใจ”
“หวาน.!!!.. หวานมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“นานพอที่จะเห็นว่าพี่ทำอะไร”
“โธ่หวาน ฟังพี่ก่อน พี่โดนบังคับนะ คุณนายแกขู่เรื่องของเรา ถ้าพี่ไม่ทำตาม เราทั้งคู่มีหวังได้ออกจากบ้านนี้แน่ๆ แล้วป้านิ่มคงจะโกรธพี่ จะให้พี่ทำอย่างไร”
“แต่พี่ทำอย่างงี้ ก็ไม่ได้ต่างกันหรอก นั่นคุณนาย เมียเจ้านายใหญ่นะคะ”
“หวาน เชื่อใจพี่เถอะ พี่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก พี่จะยอมยืดอกรับผิดชอบหวาน ถึงคุณนายแกจะไปฟ้อง พี่จะไม่ยอมเชื่อคุณนายอรทัยอีกแล้ว นะจ๊ะ หวานเชื่อพี่เถอะ ที่พี่ทำอย่างนี้เพราะกลัวว่าไม่ได้เจอหน้าหวานอีก แต่ต่อไปนี้ พี่ไม่กลัวแล้ว พี่รู้พี่ทำผิด หวานจะให้อภัยพี่มั้ย”
“ไม่รุ” หวานยังคงโกรธ แสดงอาการฉุนเฉียว วีรพลเห็นว่าสองคนนี้คงต้องปรับความเข้าใจอีกนาน จึงค่อยๆ ย่องๆ ออกจากที่นั้น โชคดีที่เขาสวมเสื้อสีเขียวทึบ กลมกลืนกับสถานที่ และแถวนั้นก็ทึบอยู่แล้ว เขาเดินออกมาอย่างอารมณ์พลุ่งพล่าน โกรธแค้น แต่ตอนนี้เขาคิดว่าปล่อยให้มันผ่านไปสักพัก ค่อยคิดหาแผนการที่จะเปิดโปงความอัปยศที่อรทัยได้ทำกับพ่อและครอบครัวเขา...

ทางด้านโรงกล้วยไม้ นพพยายามเกลี้ยกล่อมหวานให้หายโกรธ
“หวาน พี่ขอโทษ ตอนนั้นพี่กลัว พี่ไม่นึกว่าคุณนายแกจะรู้เรื่องของเรา พี่ไม่อยากเสียหวานไป เลยทำผิดพลาด พี่ก็ยอมรับแล้ว หวานยังจะโกรธพี่เหรอ ก็ได้ ถ้าหวานยังโกรธเคืองพี่ อีกวันสองวันพี่จะขอลาออก แล้วไปจากบ้านนี้ พี่จะไม่ต้องทำเรื่องอัปยศบัดสีอีก หวานจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าพี่อีก”
หวานผู้ซื่อบริสุทธิ์ได้ยินคำนั้น จากอาการโกรธ น้อยใจแฟนหนุ่ม ถึงกับใจหายวาบ รีบโผร่างเข้ากอดนพ
“ไม่นะ พี่ไม่ต้องลาออกหรอก เรามาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงเราก็ต้องเปิดเผยอยู่วันยังค่ำ หวานก็จะสารภาพกับป้านิ่มด้วยเหมือนกัน ส่วนคุณนาย เราค่อยหาทางออก พี่นพอย่าไปเลย หวานไม่อยากให้พี่นพไปไหนทั้งนั้น หวานเป็นเมียพี่นะ หวานไม่มีวันให้พี่ไปหรอก”
“หวาน ขอบใจจ๊ะ ที่ยังเชื่อพี่ ไว้ใจพี่อยู่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป พี่จะไม่กลัวแล้ว จะยืดอกรับมัน ขอเพียงหวานเชื่อใจและรักพี่” นพสวมกอดร่างแฟนสาวกระชับ พรมจูบไปตามใบหน้าที่อาบด้วยคราบน้ำตา บัดนี้หวานสลัดความโกรธน้อยใจไปเป็นปลิดทิ้ง เพราะความรักในตัวแฟนหนุ่ม นพยังอารมณ์ค้างจากเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาจึงพรมจูบแฟนสาว มือไม้ลูบคลำไปตามร่าง สอดมือเข้าไปในเสื้อคอกระเช้าที่แฟนสาวมักจะใส่ในยามนอน บดคลึงไปตามเต้าอวบของวัยสาว แอ่นเอวบดเบียดกับหน้าขาของหวาน จากความโกรธ ตอนนี้หวานไม่เหลือแล้ว กลับเริ่มโอนอ่อนเคลิ้มตามการปลุกเร้าของนพ
“พี่นพ หวานรักพี่นะ ต่อไปพี่อย่าทำอย่างนี้อีก หวานเสียใจรู้มั้ย”
“จ๊ะ ขอพี่ทำการขอโทษกับหวานนะ จะได้รู้ว่าพี่รักหวาน อืม. ดูสิหัวนมหวาน มันแข็งเป็นไตแล้ว นมกลมกลึงนุ่มมือ จนพี่อยากจะกินมันทั้งเต้าแล้ว อา...” แล้วนพก็เลิกเสื้อคอกระเช้าขึ้นไปทางศีรษะ ถอดออกตะโบมจูบหน้าอกอวบเนียนอย่างหื่นกระหาย
“อุ้ย พี่นพ หวานว่าตรงนี้คงไม่ได้แล้วล่ะ เดี๋ยวมีใครมาเห็นอีก ไปที่ห้องพี่นพเถอะ หวานก็อยากแล้ว อูย... พอก่อนนะพี่”
“จ๊ะ ไปสิจ๊ะ งั้นพี่ขออุ้มหวานไปเลยแล้วกัน” พูดจบก็รวบร่างเล็กอรชรที่เปลือยท่อนบนขึ้นอุ้ม โน้มหน้าจูบพร้อมเดินไปที่ห้องของตนซึ่งอยู่ด้านถัดไปจากโรงกล้วยไม้ไม่ถึง 50 เมตร พอเปิดห้องเข้าไปได้ก็วางหล่อนลงลุกไปปิดล้อกห้องให้เรียบร้อย หันกลับมาถอดกางเกงเสื้อออก เดินเข้ามาหาหวานที่นอนเปลือยกายรออยู่เช่นกัน
“มาเถอะหวานจ๋า พี่จะทำให้หวานเสียวสยิวที่สุด”
“จ๊ะ หวานอยากมาก จนต้องเดินมาหาพี่ อูย....พี่จ๋า แหย่นิ้วเข้าไปทำหวานเสียวเลย”
“ไม่ใช่แค่นิ้วหรอกหวาน ควยพี่มันก็อยากแหย่ อูววว. ดูสิ น้ำเงี่ยนหวานมันไหลออกมาจนหีแฉะเลย”
“บ้า.. พี่เนี่ย ก็คนมันหงี่นิ อยากเย็ดก็เย็ดเลยสิจ๊ะ หวานอยากให้พี่เย็ดตั้งแต่หัวค่ำแล้ว รอให้ป้านิ่มนอนก่อน คุณหนูก็ยังไม่กลับ กลัวใครมาเห็นเข้า อูยย... พี่จ๋า หวานเสียว สะ.. เสียวหี อ๊อยยยย.....แยงลึกๆ จ๊ะ พี่จ๋า..”
“พี่ก็อยากเย็ดหวานเหมือนกัน แต่ขอแยงให้หวานเสียวสุดๆ ก่อน อยากให้หวานเสียวอย่างที่หวานรอ อืมม.. หีก็นุ่ม นมก็นุ่ม พี่น่ะอยากจะกินหวานทั้งตัวอยู่แล้ว...”
“อะ อ๊อยย.. พี่จ๋า แรงๆ จ๊ะ...หว่ะ หวานจะถึงแล้ว น้ำหวานจะออกแล้ว”
“เดี๋ยวซิ มา เรามานอนกลับหัวกลับหา หวานอมควยให้พี่ พี่จะเลียหีให้ จะได้เสียวด้วยกัน”
ว่าแล้วเจ้านพก็เอนกายนอนลง ควยยังโด่เด่โงนเงน เพราะยังค้างจากคุณนายอรทัย หวานเองยังไม่เคยทำแบบนี้ก็งกๆ เงิ่นๆ
“แบบนี้หรือจ๊ะ พี่จ๋า หวานนั่งตรงหน้าพี่ แล้วก้มเลียช่ายมั้ยจ๊ะ อุ้ยย... เพิ่งจะได้ทำ มันเสียวขนาดนี้เลย อา.....ลิ้นพี่นพนี่เลยได้เสียวมากเลย อื้มม.ๆๆๆ” เมื่อโดนเลียหวานก็สะดุ้งเฮือกสักพักก็คว้าท่อนควยนพจับตั้งตรง ปากได้ก็อมผงกหัวขึ้นลง
“อูยย.. หวานจ๋า ระวังฟันหวานมันจะโดนหัวควยพี่นะ จะเจ็บ ค่อยๆ เบาๆ อย่างน้าน อูยยย...” ปากบอกแนะนำแฟนสาว นิ้วมือสอดแหย่แยงเข้าโพรงสวาทหล่อน อีกข้างหนึ่งกับจับกลีบแคมแบะออกเพื่อเปิดทาง แล้วก็ผงกหัวขึ้นฉกลิ้นเลีย เท่านั้นเอง หวานถึงกับสะดุ้งเผลอกระเด้าเอวสวนลงอย่างไม่ตั้งใจ เพราะท่านี้นพยังไม่เคยพาทำมาก่อน
“อะ อ๊อยย.... พี่จ๋า ทั้งแหย่ทั้งเลีย หวานเสียวไปหมดแล้ว อุ้ย...มันโดนเม็ดของหวาน อ๊อยย.....”
“จ๊ะ เม็ดแตดหวานมันโผล่มายั่วพี่ อืมมน้ำหีหวานมันหวานสมชื่อเลย อืมม...อา หวานเสียวมั้ยจ๊ะ เมียจ๋า....”
“อ๊ะ อ๊ายยย หวาน จะ...ใจจะขาดแล้ว พอก่อนพี่นพจ๋า หวานไม่ไหวแล้ว อูยย...”
“ม่ายหยุด อยากให้หวานเสียวมากๆ นี่แนะๆ” แล้วนพก็ทะลวงนิ้วเข้าออกอย่างเร็วและแรง มืออีกข้างก็บีบบี้แคมพลางลูบไล้สลับกัน บางจังหวะ เม้มปากดูดดุนเลียเม็ดติ่งไต ดังจ้วบๆ สอดลุ้นเข้าไปด้วย
“พี่นพจ๋า หว่ะ...หวาน ไม่หวายแล้ว อ๊ายยยย.....” หวานตัวเกร็งกดสะโพกลงอัดหน้านพพร้อมกับส่ายบดบี้บนใบหน้าของแฟนหนุ่มอย่างสุดกลั้นได้จนเขาแทบหายใจไม่ออก เขาจึงผลักหล่อนไปนอนหายใจรวยรินอยู่ข้างกาย มองหน้าสาวหวานส่งยิ้มให้
“เป็นไงจ๊ะ เมียจ๋า ลิ้นพี่เย็ดมันส์มั้ย”
“ทั้งมันส์ทั้งเสียวเลยจ๊ะพี่ อูยย.. พี่นพเลียเก่งจัง หวานทั้งรักทั้งหลงพี่ก็เพราะที่ทำเก่งนี้แหละ อา... ยังเสียวหีอยู่เลย”
“พี่ก็หลงหีหวานเหมือนกัน ขอพี่เย็ดให้สมอยากหน่อยนะ เมียจ๋า อุย... ยังคับแน่นอยู่เลย หวานหายเจ็บแล้วช่ายมั้ยจ๊ะ ถ้ายังเจ็บพี่จะค่อยๆ แทง”
“ไม่เจ็บแล้วจะพี่ อะ... อ๊า... พี่อย่าถูหีหวานสิจ๊ะ หวานเสียว ดูสิหัวถอกมันถูร่องหวาน มองเห็นมันน่ากลัว แต่มันเสียวๆ ยังไงไม่รู้ อุย...... พี่จ๋า อย่าถูสิจ๊ะ หวะ...หวาน สะ....เสียวหี อ๊า.....” เจ้านพยังคงเอาหัวเงี่ยงบดถูไถอยู่ปากแคม น้ำเมือกเสียวของแฟนสาวมันเอ่อล้นออกมาอาบหัวถอกเขาจนมันเมื่อม หวานเสียวสะท้านจนอดแอ่นกายรับส่ายไปมาอย่างสุดทน แต่เจ้านพก็ยังคงจ่อหัวบานเขี่ยถูไถอยู่บริเวณปากแคม มองตาสาวหวานอย่างยั่วยวน
“อูย....พี่จ๋า เอามันเย็ดเข้าไปเถอะ ซี้ด... หวานหงี่แล้ว”
“ขนาดนี้แล้ว ยังจะเรียกพี่ ถ้าไม่เรียกผัว ไม่เย็ดด้วย เอ้า...”
“ก็ได้จ๊ะ ผัวจ๋า เย็ดหีเมียเถอะ หวานอยากจะแย่อยู่แล้ว อูยย.. อุ้บ... เบาๆ ก่อนนะจ๊ะ หวานยังตึงๆ อยู่ อูยยย... มันครูดหีหวานเข้าไปแล้ว อา”
รออย่างใจจดจ่อที่จะให้คนสวนหนุ่มคนรักเสียบแทง ผงกหน้ามองตรงหว่างขาตัวเองอย่างสุดสยิว
“เข้าไปแล้ว เมียจ๋า หีฟิตมากๆ อูย....วันนี้ขอเย็ดให้ชื่นใจนะ หวานจ๋า”
“เข้าไปเกือบสุดลำแล้ว ยังจะมาขออีก อูยย.. เมียให้ผัวเย็ดอยู่แล้ว ผัวจ๋า...รู้มั้ย เมียหลงควยผัว จนไม่อยากให้ผัวไปเย็ดกับใครแล้ว พี่ต้องเย็ดหวานคนเดียวนะคะ ผัวจ๋า... หวานจะถ่างขาให้พี่เย็ดตลอด อา......มันครูดหีหวานเสียวไปหมดแล้ว”
“จ๊ะ พี่จะเย็ดเมียคนเดียว หีหวานมันตอดรัดถูกใจพี่มาก อา....เย็ดมาสองสามทีแล้วยังแน่นเหมือนเดิม เจ็บมั้ยจ๊ะ หวานจ๋า”
“ไม่แล้วจ๊ะ พี่ มันเสียวสุดหัวใจเลย อูยย. ค่อยๆ กระแทกนะจ๊ะ ผัวจ๋า เมียเริ่มจะเสียวมากแล้ว อ๊อยย.... ถ้าเราอยู่กันอย่างเปิดเผย เมียจะให้ผัวเย็ดทุกคืนเลย อา....”
นพค่อยๆ สืบสาวลำควยเข้าไปอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ เร่งจังหวะเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังไม่เร็วนัก เขาเองรู้สึกถึงการตอดรัดอยู่ตุบๆ หวานเองตอนนี้ก็ได้แต่นอนบิดส่ายร่างไปมือ มือก็ยุ้มกับฟูกจนแทบจะขาดคามือ ใบหน้าบิดเบี้ยวทนต่อความเสียวสยิวไม่ไหว นพพลิกร่างแฟนสาวให้นอนตะแคง จับขาคู้ไปข้างหน้าหน่อย ตนเองยังนั่งกระหย่งท่าเดิม ค่อยๆ บรรจงเสียบลำรักเข้าไปใหม่
“อ๊ายยย .... มาเปลี่ยนท่าอะไรอีก แค่นี้ก็เสียวจะแย่อยู่แล้วพี่จ๋า เร็วๆ เถอะเดี๋ยวมันจะดึก ป้าจะสงสัย อุ้ยย... เร็วๆ แรงๆ เลยผัวจ๋า ทำไมมันแน่นทั้งเสียวอย่างนี้ อ๊อย......”
“ท่านี้พี่เห็นก้น ขาอ่อนหวานแล้วมันอยากเย็ดให้น้ำแตกเลย เมียจ๋า .... ขอพี่กระเด้าแรงๆ เลยนะ พี่สุดจะทนไหวแล้ว อ๊า.....”
“จ๊ะ ผัวจ๋า เย็ดเมียให้สมกับที่พี่อยากเย็ดเลย ไว้วันหลังเมียจะมาให้เย็ดใหม่ อูยยย.. ควยผัวมันคับแน่นเหลือเกิน แรงๆ จ๊ะพี่ อ๊า......หวาน เสียว ม่ายหวายแล้ววววว..........พี่จ๋า พี่นพ หวานจะ........น้ำจะ....อะ ออกแล้ว... ว๊ายยยย”
หวานร้องออกมาอ้าปากหวอ ด้วยความเสียวซ่าน นพกลัวหล่อนจะส่งเสียงดังเกินไปรีบจับพลิกร่างหล่อนกลับท่าหงายแบบเดิมโน้มตัวลงประกบปากจูบ บั้นเอวยังคงกระเด้าแบบเอาเป็นเอาตาย
“อื้อๆๆๆ อุ้บ....” เสียงครางหลุดลอดออกมา นพยังคงตะบันสะโพกอัดใส่แฟนรักอย่างแรง สักพักก็โหมเฮือกสุดท้ายกระแทกแรงดังกึก แล้วก็เกร็งกายกดแช่ไว้ จนทั้งคู่เริ่มผ่อนคลาย จึงถอนปากจากการจูบออกมา ต่างหอบกระเส่าเหมือนกับทำงานหนักมา
“พี่นพ พี่แตกในหีหวานนะ เดี๋ยวหวานท้องหรอก อูยย มันอุ่นในท้องหมดเลย อา....”
“หวานจ๋า หวานเป็นเมียพี่แล้วนะ ต่อไปพี่จะไปพูดสารภาพกับป้านิ่มเอง พี่จะรับผิดชอบหวานเอง พี่รักหวานนะ”
“จ๊ะ หวานก็รักพี่ ถึงยอมให้พี่ได้เย็ด อูยย. คราวนี้แตกในหีด้วย พี่คงจะได้เป็นพ่อคนในไม่ช้าแน่ พี่ต้องรับผิดชอบหวานนะ”
“รับรอง พี่ไม่ทิ้งหวานหรอก อา..... หวานจ๋า รู้มั้ยน้องหวานไปหมดทั้งตัวเลย ถ้าเราได้อยู่ด้วยกัน พี่คงอดเย็ดหวานทุกวันไม่ได้แน่ๆ”
“หวานไม่ขัดพี่หรอกจ๊ะ พี่อ่ะ ทำเก่ง จนหวานหลงใหลพี่หมดแล้ว”
“ป่ะ ล้างเนื้อตัวเถอะจะได้รีบกลับเข้าเรือน ป่านนี้ป้านิ่มกลับจากบ้านใหญ่แล้ว เดี๋ยวแกจะสงสัย รออีกวันสองวัน พี่จะไปคุยกับป้านิ่มและจะไปบอกเจ้านายให้รู้ด้วย นะจ๊ะ”
“จ๊ะพี่” แล้วทั้งคู่ก็พากันลุกไปทำความสะอาดร่างกาย สามเสื้อผ้าเรียบร้อยต่างก็ล่ำลากันปานประหนึ่งว่าจะไปอยู่คนละโลก แล้วหวานก็กลับเข้าเรือนคนใช้เข้าห้องไป...............................


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #12 on: June 02, 2013, 08:54:38 pm
คืนนั้น วีรพลเฝ้านอนครุ่นคิดหนัก วีรวัฒน์จะรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เมียสุดที่รักกำลังสวมเขาให้ ก่อนมานี้วีรพลเคยคิดที่จะหาทางปรับความเข้าใจกับอรทัย แต่ครั้งนี้เขาคงหมดความตั้งใจ กลับมีแต่ความเคืองแค้นที่หล่อนกล้าทำได้ถึงเพียงนี้ วีรวัฒน์ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับครอบครัวด้วยความเหนื่อยยากแต่อรทัยกลับทำในสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง วีรพลนอนกัดกรามด้วยความโกรธเคืองทั้งคืน เมื่อตื่นเช้ามาในวันอาทิตย์ลงมาเจอมินตราที่พอเห็นพี่ชาย ก็ยิ้มดีใจวิ่งเข้ามากอด
“พี่โอ๊ตจ๋า วันนี้พามีนไปเดินเที่ยวนะคะ เราไม่ได้เดินเที่ยวกันนานแล้ว เราไปแถวสยาม ราชประสงค์ดีมั้ยคะ มีนอยากหาชุดเปลี่ยนบ้าง รู้สึกว่าจะมีแต่ชุดเดิมๆ นะคะพี่โอ๊ต”
“ฮืมม... มีน.......พี่มาทำงานนะ เอาไว้คราวหน้าพี่จะพาไป วันนี้ตอนบ่ายพี่จะไปทำงาน”
“พี่โอ๊ตเป็นอะไรคะ สีหน้าบูดบึ้ง โกรธใครมา แล้วมาพูดกับมีนห้วนๆ แบบนี้ มีนโกรธพี่โอ๊ตแล่ว หึ... ไม่ไปก็ได้”
“พี่ขอโทษจ๊ะ มีน เมื่อคืนพี่ดื่มมากไปหน่อย ตื่นมาไม่ค่อยปลอดโปร่งเลย อารมณ์เลยไม่ค่อยจะดี เอาน่า.. พี่เคยผิดสัญญากับมีนสักครั้งเหรอ คราวหน้าพี่สัญญา เอางี้ พี่จะชวนแฟนพี่มาด้วยให้สองสาวช้อปแข่งกันเลยเอ้า โอเคมั้ย หืมม...”
“จริงๆ นะคะ ห้ามเบี้ยว ถ้าไม่ทำตามสัญญา มีนจะไม่พูดกับพี่โอ๊ตอีกแล้ว”
“คุณหนูมีนอ้อนอะไรคุณโอ๊ตอีกละคะ แหม...พอคุณโอ๊ตมาทีไรละชอบอ้อนจังนะคะ คุณโอ๊ตคะ วันนี้จะรับอะไรมั้ยคะ ป้าจะเตรียมให้คะ หนูมีนด้วย” ป้านิ่มเดินเข้ามาสมทบ เอ่ยปากถามลูกเจ้านายทั้งสองคน
“มีนขอแค่ผลไม้ก็พอจ๊ะป้านิ่ม ก็พี่โอ๊ตอ่ะ มาทีไรมีแต่งานๆๆ คงลืมไปแล้วว่ามีน้องสาวอยู่ แบบนี้มีนไม่อยากมีพี่ชายแล้ว”
“อ่าว แล้วกัน จะมางอนพี่อะไรแต่เช้านี่ เอ้อ... น้องสาวคนเดียวทำไมเอาใจยากจังวุ้ยย... เอ่อ ป้าครับผมขอกาแฟสักถ้วยใหญ่เลย ไม่ต้องน้ำตาล ครีมนะ แก้ปวดหัว มันแฮ้งค์มามะคืนน่ะครับ ยังปวดหัวตุบๆ เลย” ป้านิ่มพยักหน้ารับคำ ก็เดินเข้าครัวไป
“ช่ายสิ ใครจะช่างเอาใจอย่างแฟนพี่โอ๊ตละคะ คงเอาใจทุกอย่างจนพี่โอ๊ตลืมน้องไปแล้ว”
“อ่าว.... ไปกันใหญ่แล้วยัยจุ้น มันคนละเรื่องเลย มีนต้องเข้าใจพี่สิ พี่มาทำงาน และพี่ก็สัญญากับมีนแล้ว น่านะ ง้าน เอางี้ ตอนเช้าน้องมีนอยากจะพาพี่เล่นอะไร พี่ตามใจครึ่งวัน เอามั้ย?”
“เย้.... ต้องงี้สิคะ ถึงจะน่ารัก” น้องสาววัยใสกระโดดตัวลอย ยิ้มร่าดีใจ วีรพลได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างอ่อนใจแกมเอ็นดู น้องสาวก็โตเป็นสาวแรกรุ่นแล้วแต่ยังทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ คงเป็นเพราะเมื่อตอนเด็กๆ เมื่อครั้งที่เขาไปอยู่เชียงใหม่ หล่อนเป็นลูกสาวคนเดียวเลยมีแต่คนตามใจ จึงติดนิสัยอยากได้อะไรต้องได้ดั่งใจทุกอย่าง แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหน ก็ได้ยินเสียงเรียกจากวีรวัฒน์เสียก่อน
“โอ๊ต อย่าเพิ่งไปไหนนะ พ่อมีเรื่องอยากจะคุยส่วนตัว”
“เอ่อ .... มีน พี่ขอคุยกับพ่อก่อนนะ เสร็จแล้วเราค่อยไปเล่นกัน นะจ๊ะ”
ก่อนจากไปก็เอามือขยี้หัวน้องสาวหยอกเล่นเดินจากน้องสาวไป ฝ่ายมินตราได้แต่ทำหน้ามุ่ยอย่างผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“คุณพ่อมีอะไรครับ ดูหน้าไม่ค่อยสบายเลย แล้วทำไมต้องมาคุยกันลับๆ มีอะไรเหรอครับ”
“โอ๊ตตรวจดูงานแล้วช่ายมั้ย โอ๊ตคิดเหมือนพ่อมั้ย ว่ามันเริ่มแปลกๆ”
“เอ่อ...เรื่องบริษัทก่อสร้างกับโรงงานเหล็กเหรอครับ อืม...ครับ ก็น่าจะมีเค้า แต่ผมยังจับเรื่องราวปะติดปะต่อไม่ได้เลย คงต้องเร่งมือหาอีกสักพัก”
“โอ๊ตไม่ต้องแล้วล่ะ เรื่องนี้พ่อก็สืบมานานจนพอจะได้เรื่องราวแล้ว เดี๋ยวพ่อจะจัดการเอง โอ๊ตแค่คอยศึกษางานกับคุณผ่องว่าจะต้องทำอะไรบ้างเท่านั้น ส่วนเรื่องบริษัทก่อสร้างใหม่กับโรงงานเหล็กพ่อจะเป็นคนจัดการเองก่อนที่พ่อจะวางมือ พ่ออยากจะจัดการด้วยมือพ่อเอง” วีรวัฒน์ส่งสายตาดุกร้าว มุ่งมั่นเหมือนเขาครุ่นคิดอะไรไว้บางอย่าง วีรพลได้แต่สงสัยอยากถามเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่กล้าถาม
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ตอนนี้ผมก็ให้พี่ผ่องเค้าสอนงานผมอยู่ ก็คาดว่าไม่นานก็คงพอจะหยิบจับทำอะไรได้บ้างแล้วล่ะครับ แต่โอ๊ตขอถามพ่ออีกครั้งนะครับ คุณพ่อมั่นใจแล้วหรือ ที่พ่อทำอย่างนี้ แล้วคุณน้าอรทัยเค้าจะไม่พอใจหรือครับ แล้ววันนี้คุณน้ายังไม่ตื่นอีกเหรอครับ”
“โอ๊ตไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น บอกแล้วไง พ่อจะจัดการเอง ตอนนี้เค้าไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ไปไหนตั้งแต่เช้ามืดแล้ว โอ๊ตก็ลองคิดดู พ่ออยู่บ้าน แต่ก็ไม่เคยได้อยู่พร้อมหน้าลูกเมียเลย ได้อยู่คุยเล่นหน่อยก็กับยัยมีน พอได้คลายอารมณ์สบายใจหน่อย พ่อเองก็สงสารมีนเค้าเหมือนกัน แม่ตัวเองแทบจะไม่เอาใจใส่ดูแลลูกสาวเลย ยัยมีนถึงได้ติดโอ๊ตยังกะอะไรดี ตอนโอ๊ตไม่อยู่ ร้องถามหาลูกอยู่ตลอด เฮ้อ.. ทำไมพ่อต้องมาเจอเรื่องชวนปวดหัวอย่างนี้ก็ไม่รู้ คิดแล้วพ่อก็อดคิดถึงวัลวิภาไม่ได้ ตอนนั้นทุกวันที่พ่อกลับมาบ้านแม่ของโอ๊ตจะอยู่ดูแลบ้านตลอด แม่โอ๊ตน่ะ เก่งทั้งเรื่องงานบ้านงานเรือน งานที่บริษัทก็คล่อง ครอบครัวเราอยู่พร้อมหน้ากันหมด พ่อไม่น่าทำผิดหลงผิดเลย แต่ทำไงได้มาถึงขั้นนี้พ่อก็คงต้องก้มหน้ารับกับสิ่งที่พ่อทำมันมา เอาล่ะ โอ๊ตก็ทำตามที่พ่อบอกก็พอนะ เรื่องอื่นพ่อจะจัดการเอง ขอให้ลูกตั้งใจที่จะทำงานแทนพ่อแค่นี้พ่อก็สบายใจ นอนตายตาหลับแล้วล่ะ” วีรพลมองหน้าบิดาด้วยสายตาที่ค้นหาว่าบิดาเขาซ่อนความรู้สึกหรือความคิดอะไรไว้ ก็มองเห็นแต่แววตาที่เศร้า ขรึม เขาก็เองก็รู้สึกสงสารพ่อตัวเองจับใจ อยากจะบอกเรื่องที่เขาเจอเมื่อคืนเหมือนกัน แต่เขาขอจับให้มั่นกว่านี้แล้วเขาจึงบอกดีกว่า
“เอ้อ โอ๊ต อีกเรื่องนึง ว่าจะบอกโอ๊ตตั้งนานแล้วก็ลืม พ่อเก็บรูปวัลวิภาไว้รูปหนึ่งเป็นรูปที่โอ๊ตถ่ายไว้กับวัลวิภา ตอนเมื่อลูกน่าจะประมาณ 8-9 ขวบ พ่อว่าลูกอาจจะลืมหน้าแม่ไปแล้ว พ่อก็เพิ่งนึกได้ตอนที่อรทัยเขาเก็บรูปวัลวิภาไปทิ้ง เห็นมันหล่นอยู่รูปหนึ่งพ่อก็เลยแอบเก็บไว้ แต่ก็ไม่ได้ให้โอ๊ตดูสักที ตอนนี้พ่ออยากให้โอ๊ตเก็บไว้ เอ้านี่...”
“ขอบคุณครับ พ่อ... เอ่อ....” พอมองเห็นรูป วีรพลชักคิ้วขึ้นขมวด ผู้หญิงในรูปที่ว่าเป็นแม่เขา ทำไมมันคุ้นๆ เอ๊ะ นี่มัน... จะว่าไปแล้วมันเหมือนวิภาวรรณมาก แตกต่างตรงที่คนในรูปดูสาวสวยกว่า อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นยังอายุน้อย เพราะมันผ่านมาน่าจะเกิน 15 ปีแล้ว แต่ยังไงๆ วีรพลก็คิดว่ามันเหมือนมาก โดยเฉพาะรอยยิ้ม หรือว่าวัลวิภามีฝาแฝด
“เป็นไง จำหน้าแม่ได้รึยัง วัลวิภาเค้าสวยนะ หน้าสวยหวาน กิริยาก็อ่อนหวาน งานบ้านงานเรือนก็เก่ง ก่อนแต่งงานกับพ่อ มีบริษัทหนังมาทาบทามเยอะแยะจะให้เป็นดารา แต่ว่าก็มาแต่งงานกับพ่อเค้าเลยเลิกติดตาม เพราะสมัยนั้น ใครจะเป็นดารา นางแบบ ถ้าจะมีแฟน มีสามีต้องปิดเงียบ ไม่ง้านเรทติ้งจะตก เฮ้อ... พ่อเองก็ไม่น่าไล่แม่เค้าออกเลย ตอนนั้นมันโกรธจัด ภาเค้าเลยหนีไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย พ่อขอโทษโอ๊ตด้วยนะลูก”
“ช่างมันเถอะครับพ่อ มาถึงป่านนี้แล้ว อะไรๆ มันก็คงจะย้อนกลับมาไม่ได้อีกแล้ว แค่พ่อยังรักผมเหมือนเดิมผมก็ดีใจแล้วครับ ผมจะตั้งใจทำงานแทนพ่อ เท่าที่ผมจะสามารถทำได้ งั้นผมขอเก็บรูปนี้ไว้นะครับ ไม่เห็นหน้าแม่ ได้เห็นรูปคุณแม่ก็ยังดี ขอบคุณครับ”
สองพ่อลูกคุยกันได้สักพักจึงพากันออกจากห้อง วีรพลก็เดินไปหามินตรา ตามที่เขาให้สัญญากับน้องสาว...



ณ. คอนโดฯ สุดหรูแห่งหนึ่งแถวราชเทวี อรทัยเดินเฉิดฉายเข้าไปยังห้องๆ หนึ่ง พอเคาะประตูเปิดเข้าไป
“อุ้ย....อะไรกันนี่ อรรถ พี่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดอาบน้ำเลย ดูสิมาถึงก็กอดปล้ำพี่เลย อูยย. เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ ทำเป็นใจร้อนไปได้”
“ผมอดใจรอไม่ไหวแล้ว ไม่ได้เจอหน้าพี่อรเป็นอาทิตย์ จนมันจะคลั่งตายแล้ว อืมมม.....ตัวพี่นี่หอมหวานไปหมด ขอให้ผมได้ชื่นชมให้หายอยากหน่อยเถอะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ อรรถ ขอพี่อาบน้ำก่อน อึ้ยย... อรรถนี่ มือซนจัง อุ้ย...อย่าเพิ่งล้วงสิจ๊ะ อูยย. ไม่ฟังกันเลย”
“ไม่ต้องอาบแล้ว ขอผมฟัดหุ่นอวบๆ แบบไม่ถอดชุดนี่แหละ ดูสิ.. ผมรอจนเจ้าอรรถน้อยมันตุงแล้ว” พูดพลางจับอรทัยให้หันหน้ามาหาตัวเอง อรรถพลนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียว มองดูกลางลำตัวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง มองลงไปตรงแก่นกายมันก็แสดงอาการให้อรทัยเห็นอย่างที่เขาบอก
“อะไรกัน คึกมาจากไหนนี่ ดูสิ จะล้นผ้าขนหนูออกมาแล้ว อุ้บ..”
อรรถพลไม่รอช้าอีก ประกบจูบอรทัยอย่างเร่าร้อน แอ่นเอวเข้าเบียดกับร่างอรทัยที่วันนี้ใส่ชุดเสื้อเดรสบางๆ กระโปรงบางสั้นเลยเข่าไปหน่อย มืออรรถพลก็ป่ายปะไปทั่วร่าง แล้วก็มารั้งประโปรงถลกให้ชายมันสูงขึ้น ผ้าขนหนูมันหลุดไปแล้ว คงเหลือแต่กายกำยำเปลือยเปล่า
“อรรถ พี่ขอถอดชุดก่อนสิ เดี๋ยวยับหมด อูยย.. อย่าล้วงสิ พี่เสียวไปหมดแล้ว อูยยย.”
“ไม่ต้อง วันนี้ขอเย็ดพี่ในชุดนี้เลย อา.... ดูสิ หีพี่น้ำเงี่ยนเอ่อแฉะแล้ว”
“อูยยย....ใจร้อนจัง ก็ได้จ๊ะ อรรถนี่ชอบเล่นอะไรแผลงๆ เรื่อย อูยยย.. อรรถจ๋า ... มืออรรถบี้แตดพี่เสียวไปหมด ว้ายย..... จะเย็ดแบบนี้เลยเหรอ .... อา...... ไม่ดูดเลียหีพี่ก่อนเหรอ”
“ผมรอ กำควยรูดเล่นตั้งแต่พี่โทรมาว่าจะมาหาผมแล้ว... มันเงี่ยนอยากจะเย็ดพี่แล้ว อา.....ทั้งฝืดทั้งฟิตดีจริงๆ ....ผมขอกระเด้าเลยนะ พี่นี่รู้ใจผมจัง กางเกงในก็ไม่ใส่ อยากให้ผมเย็ดอยู่แล้วใช่ไหม” อรรถสอดควยเข้าหีอรทัยได้ มือก็ถลกชายกระโปรงบางขึ้นจนถึงเอว รวบขาอรทัยช้อนขึ้นข้างหนึ่ง ตอนนี้หล่อนยืนประจันหน้าอรรถพล โดยที่เขาแอ่นควยเสียบเข้าไป ขาหล่อนก็ถูกยกถ่างสูง อรทัยเสียวแปล้บในโพรงหีทีเดียว เพราะไม่นึกว่าอรรถพลจะเย็ดหล่อนทันที โดยไม่ได้ตั้งตัว
“อูยยย อรรถ เล่นท่ายืนเลย พี่เสียวไปอีกแบบ อย่างนี้สิ ถูกใจพี่ เย็ดเลยคะ อรรถจ๋า... พี่มาให้อรรถเย็ดอยู่แล้ว.... อูวววว.....ควยมันเสยหีพี่เสียวไปหมด” อรทัยขยับตัวไปไหนไม่ได้แล้ว เพราะอรรถพลใช้มือข้างหนึ่งโอบกายหล่อนไว้อีกข้างก็ช้อนขาหล่อนยกขึ้น จึงทำได้แต่โอบกอดตอบรับแอ่นอกอวบอิ่มภายใต้เสื้อเนื้อบางเบียดกับอกเขา ตรงหว่างขาก็ปล่อยให้อรรถพลกระหน่ำกระเด้าจนหนำใจ
“อูยยย........หีพี่อรนี่เย็ดอร่อยจริง แต่ผมยืนไม่ไหวแล้ว เมื่อยขา มาเถอะไปที่เตียงกัน” ว่าแล้วเขาก็โอบรวบร่างอวบอัดอุ้มขึ้นโดยไม่ได้ถอดลำลึงค์ออก เดินไปที่ขอบเตียง เขานั่งลงโดยที่อรทัยทับทาบอยู่ด้านบน
“ให้พี่ขย่มเหรอ ได้จ๊ะ พี่จะขย่มให้หักเลย ฐานใจร้อน พ่อขี้เย็ด นี่แน่ะๆ อูย..... ไม่ว่าเย็ดอรรถท่าไหน ก็เสียวไปหมด คนอะไรควยแข็งด้วยยาวด้วย อา......บีบนมให้พี่ด้วยอรรถจ๋า อูยย.....” ไม่พูดเปล่ากระโหย่งตัวขย่มให้รูหีกระแทกท่อนควยอรรถพลขึ้นลง อย่างร้อนแรง สองมือก็โอบคอเขาอัดเนินถันให้เขาทั้งบีบฟอนเฟ้น ทั้งดูดดม ทั้งๆ ที่ไม่ได้ถอดเสื้อออก อรรถพลเห็นว่าด้านบนหล่อนโอบกอดไว้แล้วก็ปล่อยมือจากหน้าอก เอื้อมไปความสะโพก สองมือโอบบีบแก้มก้นอวบผายที่ตอนนี้กระเด้งขึ้นลงปานเครื่องลูกสูบ สองมือขย้ำเนื้อหนั่นอย่างหื่นกระหาย แล้วก็ละเลงนิ้วไป ทีนี้เขาพุ่งนิ้วไปที่ร่องก้นกรีดไปมาจนไปเจอร่องรู ก็สอดนิ้วแหย่เข้าไป
“อ๊ายยย.... แหย่ตูพี่อีก... โดนแหย่ทั้งหีทั้งตูดแบบนี้ มันเสียวสุดๆ เลย อรรถจ๋า....แต่มันเจ็บนิดๆ นะ อรรถ มันยังฝืดอยู่ อึ้ยยส์.........”
อรรถพลควักนิ้วออกเอามาให้อรทัยดูดเลียจนมันชุ่มไปด้วยน้ำลายแล้วก็เอื้อมไปที่ก้นกอยของอรทัยเช่นเดิม คราวนี้มีน้ำลายหล่อลื่นมันเข้าไปได้ง่ายกว่าเดิม เขาจึงเร่งจังหวะการแหย่แยงเข้าออกเร็วขึ้น อรทัยสุดเสียวสะท้าน ก็เร่งโหมกายกระเด้าขย่มขึ้นลง
“อรรถจ๋า ผัวจ๋า..... พี่เสียวไปหมดแล้ว อูย........”
“รอเย็ดพี่มาเป็นอาทิตย์ วันนี้ขอเย็ดให้หนำใจไปเลย พี่อรจ๋า..”
“จ๊ะ ผัวจ๋า.... อรมาให้ผัวเย็ดถึงที่แล้ว ผัวมีแรง เย็ดให้ลืมโลกไปเลย”
“พี่อรครับ ขอเปลี่ยนท่าหน่อย พี่ไปหมอบโก่งก้นมาทางขอบเตียงนะ เดี๋ยวจะเย็ดให้น้ำกระจายเลย อูยย... หีตอดดีชะมัด...”
“มาสิจ๊ะ พี่รอควยอรรถอยู่ อูยย. พี่ก็เงี่ยนตั้งแต่ขับรถมาแล้ว ล้วงควักหีตลอดทางเลย รู้มั้ย ผัวจ๋า....” อรทัยรีบถอนกายออกแล้วไปหมอบโก้งโค้งอวดสะโพกผายอวบอัดยั่วยวนอรรถพลที่ขอบเตียง ส่ายก้นยิกๆ เป็นการเชิญชวน เอี้ยวหน้ามามองชู้รักด้วยสายตาหยาดเยิ้ม
“โอวว.....ก้นพี่อรนี่มันกลมกลึงยั่วยวนดีจัง อยากกระเด้าให้น้ำแตกคาตูดเลย อา.... แคมหีปลิ้นน่าเย็ดจัง”
“ก็เย็ดเลยสิ ผัวขา.....เมียแอ่นตูดให้เย็ดแล้วจะรออะไร อู้ยยยย...อย่ามัวแต่ถูแคมหีอยู่เลย พี่เงี่ยนจนทนไม่ไหวแล้ว อย่าเรียกว่าพี่เลย ผัวขา.... อรเป็นเมียอรรถแล้วนะ เย็ดกันก็ต้องเป็นผัวเมียกัน จะได้เย็ดกันมันส์ๆ อูยย... เร็วๆ สิจ๊ะ เสียบควยเข้ามาเลย อึ้ยยส์......”
อรรถพลใช้ปลายถอกบาน หัวเงี่ยงแดงคล้ำชุ่มไปด้วยเมือกเสียวของอรทัยที่ขย่มเย็ดเมื่อครู่ แต่ยังไม่มากนัก เขาจึงค่อยหยอดน้ำลายจากปากเล็งให้ตรงเป้าหยดลงไปตรงรูก้นอรทัย เอามือป้ายขยี้ แล้วแยงรูก้นปาดลงไปตามร่องหลืบหีอรทัย
“อูย....เย็ดซะทีสิจ๊ะ ผัวขา..เมียเงี่ยนจนแตดสั่นหมดแล้ว อ่ะ อูย.... อย่างง้าน อา.....คับแน่นหีไปหมด อึ้ย.....แหย่รูตูดเมียอีกแล้ว....ตอนนี้เย็ดหีเมียก่อนนะ ถ้าผัวอยากเย็ดตูดค่อยเย็ดยกสอง วันนี้เมียจะแบะหี รูตูดให้ผัวเย็ดทั้งวันเลย อูยยย... เสียวไปหมดแล้ว”
“ได้ครับ พี่อร เอ่อ...เมียจ๋า วันนี้ผัวจะเย็ดให้หมดแรงไปเลย อูวว. เมียขมิบหีตอดด้วย นี่แนะๆ สู้เหรอ.... อูยยย. เสียวหัวถอกเป็นบ้า”
อรรถพลตะบันบั้นเอวให้ลำควยเข้าออกโพรงหีอรทัยไปพลาง มือข้างหนึ่งก็สอดนิ้วแหย่รูก้นอรทัยไปด้วย อรทัยได้แต่หมอบหน้าอกอวบแม้จะคล้อยไปนิดตามอายุการใช้งาน แต่ก็ยังอวบอัดน่าเคล้าคลึง ตอนนี้มันอัดแน่นตรงที่นอนจนปลิ้นออกข้าง หน้าหล่อนก็ซบอยู่ที่ฟูกเตียง หน้าเหยเก ซู้ดปากเป็นระยะตามจังหวะกระเด้าของชู้หนุ่มแรงม้า
“อ๊อย.......อรรถจ๋า กระเด้าแรงๆ เลย พี่น้ำจะแตกแล้ว ควยอรรถช่างดีอะไรอย่างนี้ อูยยย...ทั้งเย็ดหี ทั้งแหย่ตูดมันเสียงไปหมดแล้ว อ๊ายยย... แรงๆ จ๊ะ ผัวจ๋า เมียใกล้จะแตกแล้ว...”
“อยากเย็ดเมียนานๆ จัง อูยย..... หีดีอย่างนี้ คุณวัฒน์ทิ้งได้ยังไง มีของดีกับตัวไม่รู้จักใช้ อูยย....ผมจะขอหีนี้มาเย็ดให้หายอยากเลย เป็นไงจ๊ะ เมียจ๋า ควยผัวดีกว่าผัวเก่ามั้ย อื้อๆๆๆ”
“อูยย. อย่าพูดถึงเขาเลย ตอนนี้เขาไม่แข็งแล้ว โรคความดันกับหัวใจทำให้ตาแก่นั่นหมดสภาพไปแล้ว ขุนไม่ขึ้น ผัวจะถามถึงเขาทำไม ของผัวดีกว่าหลายเท่า เย็ดมันส์ เย็ดทน แถมทำได้สารพัดท่า อรถึงได้มาหาควยผัวให้เย็ดอยู่นี่ไง อูยย... แต่ตอนนี้ให้น้ำแตกท่านี้เถอะนะ ผัวจ๋า......เมียสุดเสียวสุดทนแล้ว อา...........”
“ได้เลย เมียจ๋า ท่านี้มันกระเด้าได้สุดควยจริงๆ ก้นก็สวย อูยย..ได้เย็ดแล้วเห็นก้นทีไร มันเงี่ยนทุกที อูยยย.....”
“อ๊อยย....แรงๆ จ๊ะ อุ้ย.....ถอดออกทำไมล่ะ เมียกำลังเสียวสุดๆ เลย อ๊ายย......แน่นรูตูดเลย จะเย็ดตูดก็ไม่บอก พี่ยังไม่เคยนะ เบาๆ อูยย.. ทำไมวันนี้อยากเย็ดตูดพี่ล่ะ อรรถจ๋า...”
“ก็เย็ดกันตั้งหลายที ได้แต่เอานิ้วแหย่ คราวนี้เอาควยเลยดีกว่า อูย.....แน่นกว่ารูหีอีก ทั้งตอดทั้งดูด โอว.....เมียจ๋า ผัวเสียวควยสุดๆ...”
“เมียก็เสียว อยากให้ผัวเย็ดตูดเหมือนกัน เสียวกับนิ้วมานาน อา... คราวนี้สมใจเมียแล้ว ผัวเย็ดตูดเมีย..... อุ้ย.....ทั้งเจ็บทั้งเสียว อ๊ายยย.....อย่าเพิ่งกระเด้าแรงสิจ๊ะ ให้เมียตั้งตัวก่อน อูยย.... ผัวช่างเข้าใจเย็ดเมียอะไรอย่างนี้”
อรทัยสุดเสียวซ่านจากการปรนเปรอสวาทจากชู้รัก ซึ่งคราวนี้แตกต่างไปก็คือโดนทะลวงประตูหลัง แต่หล่อนยังเสียวรูหียุบๆ จึงเอื้อมมือไปบี้คลึงแคมหีก้นก็ส่ายรับการกระแทกของอรรถพล อรรถพลคงจะสุดกลั้น เอื้อมมือรั้งเอวอรทัยได้ ก็กระหน่ำตะบันสุดแรงเกิด
“โอววว...เสียวควยมากๆ เลย เมียจ๋า ผัวขอแตกในรูตูดเมียนะ มันทนไม่ไหวแล้ว อ๊า....... เมียจ๋า....มันจะ อะ.....อออ.....ออกแล้ว”
“เอาเลยจ๊ะ อรรถจ๋า ผัวอยากอัดรูไหน เมียให้หมด อูยยย. แรงๆ เลย เมียก็เสียวทั้งหีทั้งตูด มันจะเสร็จแล้ว เราเสร็จพร้อมกันนะ ผัวขา....อ๊อยย แรงๆ” อรรถพลได้ยินคำพร่ำพรรณนา ก็โหมแรงสุดกำลังกระแทกกระทั้นจนหน้าขากระทบก้นกอยดังผั่บๆๆ อย่างน่าหวาดเสียว ทั้งหน้าอกลำแขนเขาเกร็งแน่นจนกล้ามแข็งปูดโปน ลำคอเกร็งจนเห็นเส้นเลือด เหยหน้ายิงฟัน กัดกรามกรอดๆ เขากระหน่ำไม่ยั้ง จนอรทัยหัวทิ่มอยู่กับที่นอนทั้งคู่ต่างครวญครางแข่งกันระงม ไม่มีเสียงพูดจาโต้ตอบกันแล้วนอกจากการโต้ตอบทางกาย
“น้ำจะแตกแล้วเมียจ๋า.....อ๊า............แตกแล้ววววววววววววว”
“อ๊ายยยย................เมียก็แตกแล้ว อ่ะ......อ๊ายยยยยยยยยยยย”
อรทัยก้นกระตุกยึกๆ น้ำใสๆ ปนเหนียวหน่อยๆ ก็พุ่งพรวดออกมาจากโพรงหีปานน้ำประปาแตก หล่อนไม่เคยน้ำแตกขนาดนี้มาก่อนเลย ทำเอาหล่อนเสียงหายห้วนเหมือนดังว่าขาดใจตายไปแล้ว กายสั่นระริก เกร็ง อรรถพลก็กระแทกครั้งสุดท้ายอัดควยเข้าสุดกั่น ค้างเกร็งอยู่อย่างนั้น ได้สักพักจึงทิ้งตัวลงทาบทับร่างอรทัย ต่างคนต่างสุขสมกันอย่างถึงพริกถึงขิง
“อูยยย... อรรถจ๋า คราวนี้อรแทบขาดใจ หายใจแทบไม่ทัน ผัวอรเก่งอะไรอย่างนี้ หืมม ดูสิ ตูดเมียเยิ้มไปหมดแล้ว อูยย รสชาติก็ปะแหล่มๆ อย่างนี้สิ ถึงใจเมียมากเลย ต่อไปเราจะได้อยู่ด้วยกัน เย็ดกันให้มันส์ไปเลย นะจ๊ะผัวจ๋า..”
พออรรถถอดควยออกดังบั๊วะ น้ำรักขาวข้นก็เริ่มไหลย้อยลงมจากรูก้นอรทัยลงมาตามก้นอวบงามผาย รูหียังตอดยุบยับ อรรถพลก็หายใจหอบเหมือนจะหมดแรง นอนกอดอรทัยที่ตอนนี้นอนตะแคงจากด้านหลัง
“ไม่นานเราคงได้อยู่ด้วยกันอย่างผัวเมียจริงๆ ตอนนี้ผมวางแผนเรื่องที่จะรวบหุ้นไว้หมดแล้ว ยังเหลือแค่ตาแก่นั่นเซ็นสัญญา ทุกอย่างก็จะเป็นของเราหมดแล้ว เมียจ๋า แล้วพี่อรล่ะ วางแผนกับตาแก่นั่นไปถึงไหนแล้ว”
“พี่ก็ค่อยๆ ใส่ยาในเหล้ากับกาแฟ พี่ไม่อยากให้มันแรง อยากให้มันค่อยๆ ออกฤทธิ์ คนจะได้ไม่สงสัย ตอนนี้คุณวัฒน์ก็เริ่มโทรมๆ แล้วล่ะ คนเค้ารู้แล้วว่าคุณวัฒน์เป็นโรคหัวใจกับความดัน ยิ่งเข้าทางเราเลย มันจะได้ไปสู่ที่ชอบๆ ทั้งพ่อแม่ลูก”
“จ๊ะ แล้วเราก็จะได้อยู่ด้วยกัน มีความสุขกันอย่างไม่ต้องหลบซ่อน รู้มั้ย ผมนะติดใจหีพี่อรมากเลย เย็ดมันดีจัง วันนี้อยากจะเย็ดให้ชุ่มฉ่ำไปเลย ดูสิ มันยังอยากเย็ดพี่อรอีกเลย”
“อุ้ยย... คนอะไรช่างขี้เย็ด อูยย... ดูสิ แข็งอีกแล้ว แบบนี้ถูกใจพี่มากเลย อ่า....อย่าเพิ่งมาถูหีพี่เลย พี่ยังเหนื่อย รออีกแป้บนะ ขอพี่เปลี่ยนชุด อาบน้ำก่อน แล้วเราค่อยมาเย็ดกันใหม่”
“เราไปอาบน้ำด้วยกันดีกว่า ผมจะถูตัวให้ แล้วจะจับพี่เย็ดในห้องน้ำเลย หึหึ...”
“อุ้ย บ้า คนพิเรน จะเย็ดเค้าทุกที่เลยเหรอ”
“ก็พี่อรน่าเย็ดไปหมด ไม่ว่าที่ไหนผมจะเย็ดพี่ได้ ผมไม่รอหรอก นะ เราไปอาบน้ำแล้วต่อกันดีกว่า วันนี้เอาให้หมดแรงกันไปเลย เรามีเวลาทั้งวัน”
“จ๊ะ พ่อแรงม้า เมียหลงควยผัวจนอยากจะโดนเย็ดอีกแล้ว อูยย. ยิ่งพูดยิ่งเสียว ป่ะ ไปอาบน้ำด้วยกัน อูยย.”
สองคู่ชู้สวาทก็พากันไปอาบน้ำ และก็ต่อด้วยบทสุดสวาทกันอีกหลายต่อหลายครั้งจนหนำใจ...............

วันนั้นวีรพลไม่ได้ไปทำงาน เพราะคุยกับวีรวัฒน์แล้วโดยวีรวัฒน์ยืนยันจะจัดการเรื่องที่เคลือบแคลงสังสัยเสียเอง วีรพลจึงพาน้องสาวมาเที่ยวตามที่หล่อนขอไว้เมื่อเช้า ขึ้นเซ็นทรัลเวิลด์ เดินต่อไปที่สยามพารากอน สยามเซนเตอร์ เดินเที่ยว ชอปปิ้งจนเป็นที่พอใจแล้วมินตราก็พาพี่ชายไปที่สยามสแควร์เข้าไปที่โรงเรียนกวดวิชาที่หล่อนมาประจำ พาพี่ชายไปรู้จักกับอาจารย์พิเศษ ทำเอาบรรดาสาวๆ พนักงานที่โรงเรียนกวดวิชา ไม่เว้นกระทั่งอาจารย์พิเศษสาว พากันมองวีรพลตาเป็นประกาย ไม่มองได้อย่างไร วีรพลเป็นคนร่างใหญ่สูงโปร่ง หน้าคมสันปนหวาน ยิ่งท่าทางเรียบขรึม ทำเอาบรรดาสาวๆ หัวใจละลายกันเป็นแถบ
“น้องมีนจ๋า พี่ชายน้องมีนอ่ะ หล่อบาดใจขนาดนี้ มีแฟนรึยังจ๊ะ คิคิคิ”
พนักงานสาวคนหนึ่งเข้ามากระซิบหยอกเย้าหรือเอาจริงไม่ทราบ ทำตาระริกระรี้ มินตราก็เอียงหน้ากระซิบตอบ
“มีแล้วจ๊ะ แต่มีนก็ยังไม่เคยเห็นหน้าแฟนพี่โอ๊ตหรอก เพราะอยู่ต่างจังหวัด พี่หนูเข้าไปปักหลักสร้างบ้านอยู่ต่างจังหวัดนะคะ พี่อ้อย”
“ว้า.... รู้มั้ยน้องมีน พี่ล่ะอดอิจฉาผู้หญิงคนนั้นไม่ได้จริงๆ น้องมีนน่าจะพามาให้รู้จักตั้งนานแล้วนะจ๊ะ คิคิคิคิ”
“นั่นแน่ เจอหนุ่มหล่อเป็นงี้ทุกทีอ่ะ พี่อ้อย แถวๆ นี้คนหล่อเยอะจะตาย พี่อ้อยจะมาสนพี่โอ๊ตทำมาย สยามสแควร์ก็นี่ก็หนุ่มหล่อระดับพระเอกหนักเยอะแยะไป พี่อ้อยกวาดได้ไม่หมดหรอกจ๊ะ คิคิคิคิ”
“หืมม น่าตีนัก มาแซวพี่ แต่พี่ชายน้องมีนนี่ หล่อบาดใจพี่จริงๆ แต่มีแฟนซะแล่ว เฮ้อ.... เมื่อไหร่จะมีแฟนหล่อๆ กับเค้ามั่งน้า...” พูดพลางก็ทำตาลอยละห้อย มีนตราปล่อยให้พี่ชายพูดคุยกับอาจารย์พิเศษได้สักพักก็พากันออกจากที่นั่นขึ้นรถที่สยามเซนเตอร์ ขับออกไปทางสี่แยกปทุมวัน แยกเลี้ยวไปทางแยกราชเทวี เพื่อเข้าถนนเพชรบุรีแล้วกลับเข้าบ้านทางสุขุมวิท เมื่อขับรถมาก่อนจะถึงแยกราชเทวี บรรดารถราก็มากมายต่างเบียดเสียดแย่งวิ่งกันเป็นแถว ยิ่งในวันหยุดบริเวณแถวนี้จะมีคนพลุกพล่านมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลาไพรม์ไทม์คือช่วง 4โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม การจราจรจึงดูจะเป็นไปด้วยความเชื่องช้า วีรพลก็ได้แต่เปิดเพลงฮัมตามเนื้อเพลงไปเบาๆ สายตาก็ส่ายมองไปเรื่อยเปื่อย และแล้วเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีรถคันหนึ่งที่คุ้นตาออกมาจากซอยเข้ามาปาดหน้ารถของเขา มินตราเห็นพี่ชายหยุดฮัมเพลง ก็เลยหันไปมองเห็นวีรพลจ้องไปยังรถคันหน้า
“เอ๊ะ พี่โอ๊ต นั่นรถคุณแม่นี่ คุณแม่มาทำอะไรที่นี่”
“นั่นสิ เดี๋ยวๆ มีน ดูต่อข้างหลังอีก 3 คันสิ นั่นมันรถคุณพ่อนี่ เอ... หรือว่าคุณพ่อคุณแม่มาติดต่องานกับลูกค้าเหรอ แต่ก็น่าจะมาคันเดียวกันนะ”
“น่านสิคะ ง้านเดียวมีนลงไปหาดีมั้ยคะ พี่โอ๊ต รถติดแหงกอย่างนี้คงไปขึ้นอีกคันได้ทัน”
“อย่าเลยมีน เราไปเจอกันที่บ้านดีกว่า เอ้อ... อีกอย่าง มีนอย่าพูดเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่เลยนะ เรื่องของผู้ใหญ่ ปล่อยให้เป็นเรื่องของเค้าดีกว่า”
“ก็ได้คะ พี่โอ๊ต สงสัยจะนัดมาเจอลูกค้าที่เดียวกัน แต่ปกติวันอาทิตย์คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ค่อยเห็นนัดลูกค้านินา” มินตรายังอดสงสัยไม่ได้ แต่ก็คงคิดได้แค่นั้น ตรงแยกข้างหน้า ไฟเขียวก็สว่างขึ้น วีรพลจึงปล่อยให้รถที่ออกมาจากซอยเบียดแซงไปก่อน สีหน้าเขาครุ่นคิดในเรื่องที่เขาเห็น แต่ก็คงคิดได้ในใจเท่านั้น มาบัดนี้เขาชักจะไม่ค่อยชอบอรทัยเอามากๆ ตั้งแต่วันคืนวันเสาร์ เหตุการณ์นั้นยังติดตาเขาอยู่ คงได้แต่เพียงเก็บความคับแค้นในใจเงียบๆ ยิ่งตอนนี้น้องสาวของเขายังอยู่ด้วยทั้งคน จะทำอะไรคงต้องค่อยเป็นค่อยไป เขาไม่อยากให้ทุกอย่างกระทบกระเทือนจิตใจน้องสาวที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ต้องมาทุกข์ใจกับการกระทำของแม่บังเกิดเกล้าของเธอ เมื่อนึกถึงแม่ วีรพลก็คว้าหมับไปที่อกตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ รูปที่วีรวัฒน์ให้เขาไว้เมื่อเช้าเขายังเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อ ทำไมหน้าแม่เขามันถึงละม้ายหรือจะว่าไปแทบจะเป็นคนเดียวกันกับวิภาวรรณ ยิ่งคิดสมองหมอหนุ่มก็เริ่มมึนงง มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ที่คนรักของเขาจะเป็นคนเดียวกันกับแม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ วีรพลอดใจหายวูบไม่ได้ เขาเริ่มสับสนไปหมด หากมันเป็นจริงเขาจะทำอย่างไร แต่แล้วเขาก็สลัดความคิดนั้นออกไป ต้องไม่ใช่ คงไม่บังเอิญถึงขนาดนั้น เมื่อนึกถึงหน้าวิภาวรรณ เขาก็อดคิดถึงไม่ได้ ใบหน้าหวานๆ เริ่มลอยเด่นส่งยิ้มให้เขา แล้วเสียงสัญญาณเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นแทรกภวังค์ความคิดของเขา
“สวัสดีครับ....ภาเหรอ อ๋อ คนงานเหรอครับ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นให้ไปหาผมที่บ้านก็แล้วกันครับ จะได้มอบงานให้ ตอนนี้ผมร่างแปลนสวนกล้วยไม้เสร็จแล้ว ภาละครับเป็นไงบ้าง คิดถึงผมไหม” พูดไปพลางสายตาก็ชื่นบานยิ้มร่ากับการสนทนาผ่านคลื่นโทรศัพท์โดยลืมไปว่ามีคนนั่งอยู่ข้างๆ
“ใครคะ พี่โอ๊ต แหม.... เสียงอ่อนเสียงหวานเชียวนะ”
“อ่ะ เอ่อ....โธ่ภา....กิ้กเกิ้กที่หนายกัน นี่น้องมีน น้องสาวผมไง อย่าคิดมากน่า ภาครับ น้องมีนอ่ะ เค้าอยากเจอหน้าว่าที่พี่สะใภ้ อาทิตย์หน้าทำตัวให้ว่างนะ ผมจะพามารู้จักกับยัยจอมจุ้นของผม หรือจะคุยกับน้องมีนก่อนมั้ย นั่งอยู่ข้างๆ ผมเนี่ย วันนี้เขาอยากเที่ยวเลยต้องตามใจทิ้งงานพายัยจุ้นมาเที่ยวเนี่ย ภาจะคุยกับมีนมั้ย....... อ่ะ มีน.... พี่สะใภ้จะคุยด้วย”
วีรพลยื่นหูฟังส่งให้น้องสาว ได้ยินสองสาวคุยกันดูท่าทางถูกคอกันดีจนรถจะเข้าซอยเข้าบ้านมินตราจึงวางสาย
“แม๊.....มิน่าล่ะ พี่โอ๊ตถึงหลงรักหนักหนา พูดจาอ่อนหวาน ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี ท่าทางจะหวงพี่โอ๊ตน่าดู หึงได้แม้กระทั่งกับน้องสาว ฮิๆๆ แบบนี้พี่ชายมีนจะไปไหนรอดละเนี่ย ดูสิคุยกับมีนครั้งแรกมีนยังอยากคุยด้วยนานๆ เลย แบบนี้ ปิดเทอมมีนไปแน่ๆ จะไปนอนเล่นที่บ้านพี่ภา ห้ามเบี้ยวนะคะพี่โอ๊ต..”
“จ้า....ใครจะกล้าขัดเจ้าหญิงจอมแก่น เดี๋ยวก็ได้หัวหลุดจากบ่า หม่อมฉันขอน้อมรับพระราชเสาวนีย์โดยดุษฏี พระเจ้าข้า...” ว่าพร้อมกับขยี้หัวมินตราอย่างหมั่นใส้แกมเอ็นดู สองพี่น้องต่างพูดคุยก็กระเซ้าเย้าแหย่สนุกสนานจนรถวิ่งเข้าถึงบ้าน ทั้งสองลงจากรถ มีหวานวิ่งเข้ามารับของที่ชอปปิ้งเป็นห่อหลายห่อ ป้านิ่มอยู่ที่เรือนใหญ่พูดคุยกับเจ้านายใหญ่ทั้งสองอยู่ วีรพลเดินเข้ามาถึงห้องโถง เห็นวีรวัฒน์กับอรทัยนั่งอยู่ด้วย มีป้านิ่มนั่งอยู่ข้างๆ เท่าที่เดาๆ ทั้งสองคงมาถึงบ้านก่อนเขาไม่นาน เพราะน้ำที่ป้านิ่มเสิร์ฟให้ ยังไม่พร่องเลย วีรพลแทบไม่อยากมองหน้าอรทัยเลย อรทัยนั้นไม่ต้องพูดถึงหล่อนไม่ชื่นชอบเขาแต่ไหนแต่ไรแล้ว สองพี่น้องที่เพิ่งมาถึงห้องโถงต่างก็ถอดสีหน้าทันทีจากที่หัวเราะสนุกสนาน วีรพลมองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วก็จะเดินขึ้นห้องไป
“พ่อครับ โอ๊ตขอตัวเก็บของนะครับ จะเดินทางกลับเย็นนี้เลย พรุ่งนี้ต้องเข้าโรงพยาบาลแต่เช้า เอ่อ... มีน ไปช่วยพี่เก็บของหน่อยนะ ป่ะ ให้พ่อแม่เค้าอยู่คุยกันดีกว่า ผมขอตัวครับ น้าอรทัย หวาน....เอาของมีนไปเก็บที่ห้องละกัน” เขาก้มหัวนิดหนึ่งแล้วก็เดินขึ้นไปที่ห้อง มินตราก็วิ่งตามขึ้นไปที่ห้องของวีรพล หวานสาวใช้หน้าใหม่ก็ถือของที่ชอปปิ้งเดินขึ้นไปที่ห้องมินตรา
“พี่โอ๊ต พี่ยังโกรธแม่อยู่เหรอ ไหนว่าไม่โกรธแล้วไง”
“มีน น้าอรทัยต่างหากที่ไม่ชอบหน้าพี่ ไม่ยอมรับพี่ แล้วจะให้พี่พูดยังไง พี่ว่ามีนอย่าห่วงเลย รับรองพี่จะพยายามทำให้ดีที่สุด เอ่อนี่... ช่วยเก็บเสื้อพี่เข้ากระเป๋าหน่อย ไม่กี่ชุดเอง เดี๋ยวพี่จะจัดเก็บเอกสาร”
“ว้า....พี่โอ๊ตอ่ะ จะทิ้งมีนไปอีกแล้ว เพิ่งไปเที่ยวกันมาแท้ๆ ต้องรออีกอาทิตย์หน้า พี่คะ มีนไม่อยากอยู่บ้านนี้แล้วถ้าคุณพ่อไม่อยู่ด้วย คุณแม่อ่ะ ทำเหมือนมีนไม่ใช่ลูกง้านแหละ พักหลังนี้ไม่ยอมไปส่งมีนไปเรียนพิเศษด้วยซ้ำ ตอนกลับก็มีแต่คุณพ่อไปรับ หรือไม่ก็มีนต้องกลับบ้านเอง จนมีนไม่อยากเรียนต่อแล้วถ้าพี่โอ๊ตไม่มาอยู่ด้วย มีนอยากไปอยู่กับพี่ที่บ้านใหม่ พี่โอ๊ตให้มีนไปอยู่ด้วยนะ”
“มีน เรื่องเรียนเรื่องใหญ่นะ พี่ว่ามีนอยู่ที่นี่แหละ ยังไงคุณพ่อก็อยู่ พี่เองก็จะกลับมาที่นี่ทุกเสาร์อาทิตย์ ไม่แน่นะ พี่อาจจะย้ายกลับก็ได้ มีนน่ะ ตั้งใจเรียนก็แล้วกันนะ ปิดเทอม พี่จะขอคุณพ่อกับน้าอรให้มีนไปอยู่ที่บ้านพี่ ตกลงมั้ย”
“ก็ได้คะ เดินทางโดยสวัสดิภาพ ขับรถดีๆ นะคะ แล้วก็ฝากบอกพี่ภาด้วยว่า มีนอดคิดถึงไม่ได้ ปิดเทอมเมื่อไหร่มีนไปแน่ๆ คอยต้อนรับน้องมีนด้วยก็แล้วกัน นะคะ”
“โอเคจ้า... จัดหมดแล้วใช่มั้ย ป่ะ เดี๋ยวจะไปลาคุณพ่อกับน้าอร พี่อยากจะไปถึงเร็วๆ จะได้นอนพัก พรุ่งนี้ต้องเข้าโรงพยาบาลแต่เช้า”
“หูยย.....ไม่คิดจะหยุดพักมั่งเลย เดี๋ยวก็เดี้ยงก่อนหรอก มีนว่าที่พี่รีบกลับคงไม่ใช่งานหรอกมั้ง พี่ภาโทร.มาอ้อนให้รีบกลับละสิ อดคิดถึงแฟนไม่ได้ช่ายม้า.... อย่าเอางานมาอ้างเลย เห็นคุยกับพี่ภากะหนุงกะหนิงขนาดน้าน”
“พูดมากยัยจุ้น ป่ะ ถือกระเป๋าอันนั้นไป พี่จะกลับแล้ว อย่าทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย อาทิตย์หน้าพี่จะพาพี่สะใภ้มา โอเค๊” ....................


วีรพลขับรถออกเดินทางจากกรุงเทพฯตอน 1 ทุ่มไปทางบางนาเข้าสู่ถนนมอเตอร์เวย์ เส้นทางมุ่งสู่ภาคตะวันออก ในใจก็ครุ่นคิดถึงแต่ใบหน้าสวยหวาน ตาคม อีกใจหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมหน้าหล่อนช่างเหมือนแม่เขาเหลือเกิน ถ้าจะนับไล่อายุก็น่าจะใกล้เคียงกัน เขาไม่อยากคิดมากเลยแต่มันก็อดไม่ได้ ควักรูปที่เขาถ่ายกับแม่เมื่อตอนเด็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อออกมาดูพลางขับรถไปเรื่อย ตอนนี้มีหลายอย่างที่วีรพลชักจะคิดหนักทั้งเรื่องงานที่บริษัท ทั้งเรื่องแม่เลี้ยง สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ครับ ว่าไงครับ หา!!!.....พี่ปิ่น พี่ภาเป็นอะไร”
“หน้ามืดเป็นลมไปคะ วันนี้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว ปิ่นมาบ้านจะบอกคุณภาเรื่องคนงานน่ะค่ะ เห็นคุณภาหน้าไม่ค่อยมีสีเลือดเลย ปิ่นเห็นท่าทางไม่ค่อยดีเลยขออยู่ด้วย แล้วคุณภาก็เป็นลม ตอนหลังจากคุยโทรศัพท์กับคุณหมอได้ไม่นาน คุณหมออยู่ไหนคะตอนนี้”
“เพิ่งเลยบางนามาอ่ะ พี่ปิ่น คงอีกสักสองสามชั่วโมงเร็วสุด เอางี้ เดี๋ยวผมโทรเรียกเจ้าธรณ์กับแพรให้มันไปดูอาการพี่ภาก็แล้วกัน ผมฝากพี่ปิ่นดูแลไปก่อนนะครับ ผมจะรีบไป ครับๆ แค่นี้ก่อนครับ” วีรพลกดเบอร์หาธนธรณ์ฝากให้รีบไปดูวิภาวรรณ แล้วเขาก็เหยียบคันเร่งบึ่งรถเบ๊นซ์คู่ใจวิ่งฉิวไปอย่างร้อนรน........


เมื่อมาถึงบ้าน จอดรถไว้ ข้าวของก็ยังไม่ได้เก็บขึ้นบ้านเลย วีรพลก็แทบจะวิ่งไปที่บ้านวิภาวรรณก็พบปิ่นรออยู่ชั้นล่าง
“อาการเป็นยังไงบ้างครับ พี่ปิ่น”
“คุณหมอธร ให้ทานยา บอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกคะ ตอนนี้หลับไปแล้วคะ คุณหมอกับคุณแพรกลับไปแล้ว ปิ่นก็เลยว่าจะอยู่ด้วยคืนนี้ คุณหมอขึ้นไปดูที่ห้องนอนก็ได้คะ เดี๋ยวปิ่นขอจัดห้องที่นอนด้านล่าง ขอคุณภานอนที่นี่แหละคะ เชิญคุณหมอคะ”
“ครับ ขอบคุณพี่ปิ่นมาก” วีรพลรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนวิภาวรรณมองหน้าสวยหวานขาวผ่อง บัดนี้ออกจะซีดเผือดไร้สีเลือดนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เขาเข้าไปนั่งข้างๆ กายที่หลับอยู่ ดวงตาเขาหม่นลงด้วยความห่วงใย เย็นวันศุกร์ก่อนไปก็ยังเห็นวิภาวรรณอาการดีๆ ไม่มีท่าทีจะเป็นอะไร เขาคว้ามือวิภาวรรณมากุมจุมพิตเบาๆ สักพักเขาก็จัดการถอดเสื้อเชิ้ตออกเหลือแต่เสื้อกล้ามถอดกางเกงขายาว เหลือแต่กางเกงสปอร์ตเตอร์ขาสั้นบางเบา เขาพาดวางเสื้อและกางเกงไว้ที่เก้าอี้ข้างเตียงนอน แล้วก็ทอดกายอย่างแผ่วเบาเงียบกริบ นอนข้างวิภาวรรณ โอบร่างนั้นเข้ามากอด แน่นไว้ที่อก แล้วผล๊อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากหลายๆ เรื่องทั้งการทำงาน พาน้องเที่ยวและการเดินทางจนรุ่งเช้า เมื่อเขาตื่นขึ้นมา ร่างที่เขานอนกอดเมื่อคืนหายไป เขาหันซ้ายขวาก็ไม่มี จึงลุกจากเตียงเดินลงมาข้างล่าง ได้ยินเสียงกุกกักๆ ภายในครัว ก็เดินตามเสียงนั้นไป มองเห็นจากข้างหลัง ร่างสูงระหงอยู่ในชุดเสื้อคลุมนอน หยิบจับข้าวของอย่างคล่องแคล่ว วีรพลยิ้มโล่งอก เดินเข้าไปโอบกอดจากข้างหลัง ใบหน้าคลอเคลียที่พวงแก้มวิภาวรรณ
“อุ้ยย.....ตกใจหมดเลย มาไม่ให้สุ้มเสียงเลย ตื่นนานแล้วเหรอคะ เห็นพลหลับอยู่คงจะเดินทางเหนื่อย ภาเลยไม่อยากปลุก อึ้ย.....อย่าซนสิคะภาทำกับข้าวอยู่”
“อะไรกัน ป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วลุกมาที่ครัวทำไม น่าจะนอนพักผ่อนนะ อุตส่าห์นอนกอดไว้ ยังจะหนีผมลงมาอีก ใจดำจัง ผมละรีบขับมารถแทบจะเหาะให้ได้ เป็นห่วงแทบแย่” กอดหล่อนไปพลางคลุกเคล้าจูบแก้มพัลวัน
“อุ้ย ขอโทษคะ ปิ่นนึกว่าคุณภาอยู่คนเดียว” ทั้งคู่สะดุ้งรีบผละร่างออกจากกัน หันกลับมาที่หน้าประตูห้องครัว เห็นปิ่นทำตาโต อ้าปากค้าง วีรพลก็ลืมไปว่าเมื่อคืนปิ่นนอนอยู่ห้องรับแขกที่ชั้นล่าง
“พลไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วค่อยมาทานข้าวกัน ไปซิคะ” วิภาวรรณหน้าแดง รีบผลักไสวีรพลให้ไปอาบน้ำแก้เขิน วีรพลก็อายๆ ปิ่นเหมือนกันรีบเดินผ่านปิ่นออกไปยิ้มๆ เขินๆ วิภาวรรณก็หันกลับมาทำกับข้าวต่อโดยไม่ยอมสบตากับปิ่น
“คุณภา เดี๋ยวปิ่นจัดการเองก็ได้คะ เดี๋ยวจะไม่สบายอีก ดูสิคุณหมอรีบมาแต่เมื่อคืน ดูท่าทางยังไม่ได้กลับขึ้นบ้านเลยนะคะเนี่ย ฮิๆๆ คงห่วงคุณภามากเลย มาคะเดี๋ยวปิ่นจัดการให้ คุณภาไปคุยกับคุณหมอเถอะคะ เสร็จแล้วเดี๋ยวปิ่นจัดขึ้นโต๊ะจะเรียกคุณภามาก็แล้วกัน นะคะ เดี๋ยวจะเป็นลมอีก”
ปิ่นเข้าไปกุลีกุจอช่วยทำเรื่องกับข้าว วิภาวรรณเองตอนนี้แทบจะไม่อยากมองหน้าปิ่นเพราะอายที่ปิ่นมาเห็นหล่อนกับวีรพล เลยได้แต่พยักหน้ารับแล้วเดินออกจากห้องครัวไป ขึ้นไปชั้นบนที่ห้องนอน เห็นวีรพละกำลังจะเก็บเสื้อกับกางเกงเดินมาที่ประตู พอเห็นหล่อนเขาก็ส่งยิ้มหวานทิ้งเสื้อกับกางเกงเข้ามากอดวิภาวรรณ
“ธรมันบอกว่าเป็นอะไรเหรอ ทำไมเป็นลม”
“ไม่มีอะไรมากคะ แค่เพลียแล้วก็หน้ามืด ภาก็ไม่รู้เหมือนกันคะ อยู่ๆ ก็เกิดหน้ามืดแล้วฟุบไป ดีนะคะที่ปิ่นเค้ามาบ้านพอดี ไม่ง้านคงจะแย่หน่อย”
“แล้วมีอาการอย่างอื่นมั้ย ตอนนี้ดีขึ้นหรือเปล่า” ถามไปสองมือก็ประคองใบหน้ารูปไข่ขาวนวลจ้องสำรวจ
“คะ ภาไม่เป็นอะไรแล้ว พลไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะคะ แล้วค่อยมาทานข้าวกัน”
“ไม่ ขอกอดเมียให้หายคิดถึงก่อน เฮ้อ... ค่อยโล่งอกไปที ต่อไปนี้ผมจะไม่ให้ภาห่างผมล่ะ เป็นอะไรไปจะได้ดูแลทัน อาทิตย์หน้าภาต้องไปกับผมแล้วนะ ห้ามปฏิเสธ ยัยมีนน่ะเค้าอยากเห็นหน้าว่าที่พี่สะใภ้จะตาย ผมดีใจนะ ที่ทั้งพ่อทั้งน้องเค้ายอมรับภาได้ แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว”
วีรพลโอบกระชับร่างอรชรนั้นเข้ามาแนบกาย วิภาวรรณเองก็ซบหน้าที่ไหล่และซอกคอเขาเคลิบเคลิ้มไปกับความรักความห่วงใยของเขา แต่แล้วความคิดชั่ววูบก็แล่นเข้าจับจิตใจหล่อน ตอนที่หล่อนโทรหาเขา “พี่โอ๊ต” เสียงที่มินตราเรียกชื่อเขา วีรพลคือลูกชายหล่อนแน่แท้ ทำไมจะไม่แน่ใจ ทั้งชื่อเล่นชื่อจริงมันตรงกันหมด แถมงานบริษัทที่หล่อนช่วยเขาดูก็เป็นงานที่หล่อนเคยทำมาแล้วทั้งนั้น ชื่อเจ้าของกิจการทุกอย่างเป็นอย่างที่หล่อนคุ้นเคยทั้งหมด วิภาวรรณได้แต่ครุ่นคิดในอ้อมกอดวีรพลโดยที่เขาไม่เห็น ถึงแม้หล่อนจะตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหล่อนจะยอมรับมัน แต่ก็อดคิดไม่ได้ที่หล่อนจะมาหลงรักลูกชายและยอมรับลูกชายมาเป็นคู่ชีวิตของหล่อน มันเป็นคู่ชีวิตที่แปลกพิสดาร และคงไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมแน่ๆ หล่อนจะทำอย่างไรดี คงจะต้องเก็บเรื่องราวนี้ไว้ในใจ หล่อนไม่อยากคิดไปเบื้องหน้าเลยว่าหากวีรพลรู้เรื่องเขาจะเกลียดชังหล่อนหรือเปล่า วิภาวรรณยอมรับเต็มหัวใจว่ารักเขามาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาคือลูกชาย แต่ถ้าหล่อนเก็บเรื่องราวนี้ไว้ไม่แพร่งพราย หล่อนก็จะได้ทั้งลูกชายที่เฝ้าโหยหามานานกลับมาสู้อ้อมอก กับชายคนรักที่หล่อนยอมมอบหมดทั้งหัวใจที่มันเคยแตกสลายไปกับความรักเมื่อครั้งก่อนจนมันแทบจะเย็นชาไปแล้ว แต่ก็มาอ่อนไหวเมื่อได้พบกับวีรพล วิภาวรรณเก็บความรู้สึกเจ็บปวดไว้ในใจ สลัดความรู้สึกกังวลไป ตอนนี้มีแต่ความรู้สึกอบอุ่นในยามที่วีรพลอยู่กับหล่อน วิภาวรรณอยู่ในอ้อมกอดวีรพลเนิ่นนาน จนเขาขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วกลับมาทานข้าว แล้วออกจากบ้านเข้าตัวเมืองไปส่งหล่อนที่ทำงาน ตลอดการทำงาน วิภาวรรณก็รู้สึกแปลก ทำไมระยะนี้ดูเหมือนหล่อนจะตาพร่าเอาบ่อยๆ จนต้องนั่งเก้าอี้หลับตาเป็นระยะๆ จะว่าไม่ได้พักผ่อนก็ไม่ใช่
“พี่ภาคะ หน้าซีดอีกแล้ว นั่งก่อนคะ อีกหน่อยก็จะเลิกงานแล้ว เดี๋ยวงานที่เหลือแพรทำให้ก็ได้คะ งานของแพรหมดแล้ว วันนี้ลูกค้าน้อย”
“จ๊ะ ขอบใจแพรมาก ทำไมพี่เพลียๆ ตาพร่าๆ ไงก็ไม่รู้”
“เดี๋ยวเลิกงานแล้ว เรียกพี่หมอพลมาตรวจให้ก็ได้คะ ดีนะคะมีแฟนเป็นหมอ เจ็บป่วยปุบปับก็ช่วยได้ทันที เมื่อคืนแพรเป็นห่วงพี่แทบแย่ นึกว่าเป็นอะไรมาก เห็นพี่หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่อยโล่งใจ พี่พลไม่น่าทิ้งพี่ภาให้อยู่คนเดียวเล้ย... ระยะหลังนี่เห็นทำแต่งานๆ ระวังเถอะแพรจะยุพี่ภาให้มีแฟนใหม่ให้เข็ด หึ”
“แหม.. แพรก็ พลเค้าก็มีงานของเขานี่ พี่กลับคิดว่าพลน่าสงสารออกต้องวิ่งหน้าวิ่งหลังทั้งงานที่โรงพยาบาลและงานบริษัทคุณพ่อ ไม่แน่นะ พี่อาจจะลาออกจากงานที่ธนาคารไปช่วยงานของพลที่บ้าน พี่ไม่อยากให้เขาบ้างานอย่างเดียว อยากให้ได้พักผ่อนบ้าง เนี่ยพลเขาแทบจะไม่ได้อยู่บ้านด้วยซ้ำ”
“แน่....ไม่อยากมีแฟนใหม่ก็บอกแพรเถอะ คิคิคิ... แพรล้อเล่นคะ ยุให้มีแฟนใหม่พี่ภาก็คงไม่สนแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็พี่พลไปหมดแล้ว ตัวเองไม่สบายแท้ๆ ยังจะเป็นห่วงเค้าอีก” แพรวาพูดพร้อมค้อนขวับ
“ว่าแต่แพรเถอะ ว่าที่เจ้าบ่าวก็เห็นวิ่งรอกงานโรงพยาบาลกับที่บ้านร้านพลอยไม่ใช่เหรอจ๊ะ เดี๋ยวนี้พากันเห่อว่าที่สะใภ้มากเลยนะ เห็นพากันเตรียมงานเรือนหอกับตำแหน่งคุณนายที่ร้านพลอย พี่ว่าแพรอาจจะต้องลางานที่นี่ไปบ้านคุณธรแล้วล่ะ อย่ามาแซวแต่พี่เลย”
“เอ่อ..... แหะๆ ที่บ้านพี่หมออ่ะ มีแต่คนใจดีคุณพ่อคุณแม่พี่หมอก็ไม่ได้รังเกียจอะไรแพรสักอย่าง ตอนนี้แพรก็เทียวไปเทียวมาสองบ้านอยู่อ่ะ เดี๋ยวเรือนหอเสร็จ แพรจะพาพี่ภาไปดูคนแรกเลย ไปนะคะ”
“จ้า...พี่ไม่ยอมพลาดหรอก น้องสาวจะเป็นฝั่งเป็นฝาทั้งคน เอ้อ..เสร็จหมดแล้วช่ายมั้ยจ๊ะ ง้านเก็บเข้าแฟ้มเลยจ๊ะ สักหน่อยคุณหมอคงจะมาแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้เห็นตรงเวลามาก เลิกงานปุ้บเจอหน้าปั้บ” แพรวาช่วยวิภาวรรณจัดเก็บเอกสารการบัญชีจนครบโดยวิภาวรรณเป็นคนสั่งการจนถึงเวลาเลิกงาน แล้วสองสาวก็กันเดินมาที่ล้อบบี้ แล้วก็เจอธนธรณ์ยืนยิ้มเผล่รออยู่ก่อนแล้ว แพรวาก็เข้าไปคล้องแขนโอบกอดคู่หมั้นยืนเคียงคู่เขา
“พี่ภาเป็นยังไงบ้างครับ อาการดีขึ้นมั้ย”
“ก็ยังมีหน้ามืดเป็นพักๆ คะ แต่คงไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องห่วงหรอกคะ”
“พี่ภาเค้าแกล้งป่วยไปงั้นแหละคะพี่หมอ พี่พลทำตัวห่างเหิน พี่ภาเลยแกล้งทำให้พี่พลเค้ามาดูแล คิคิคิคิ”
“เง้อ ไปว่าพี่เค้า เอ่อ... พี่ภาครับ พลมันติดงานคนไข้ที่โรงพยาบาลน่ะครับ คนแก่แล้วอาการหนักน่าเป็นห่วง พลมันเลยฝากบอกให้พี่ภาไปรอที่ร้านก่อน มันจะไปรับที่นั่น ก่อนนั้นก็เห็นคุณอาวีรวัฒน์โทรมาคุยเรื่องงาน ดูเครียดๆ ด้วย เดี๋ยวนี้ผมล่ะสงสารมันเหมือนกัน ดูหน้ามันเนือยๆ พิกล คงจะงานสุมหัวมากไป เอางี้ เดี๋ยวผมไปส่งพี่ที่ร้านแล้วค่อยกลับนะครับ ไปเถอะ”
“คะ ขอบคุณคุณหมอคะ” วิภาวรรณก็ขึ้นรถนั่งเบาะหลังไปกับแพรวาโดยธนธรณ์นั่งขับด้านหน้าคนเดียว ธนธรณ์อดสงสารเพื่อนไม่ได้ตอนนี้วีรพลวุ่นๆ ไปหมดทำงานด้วยกันก็แทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย วีรพลก็สีหน้าอิดโรยแถมตอนนี้วิภาวรรณก็ยังมีอาการไม่ค่อยจะสบายสักเท่าไหร่ ธนธรณ์เลยขอวิภาวรรณให้เขาเป็นเจ้าของไข้ดูแลอาการหล่อนเสียเอง แพรวาก็เห็นด้วย เพราะจะพึ่งวีรพลตอนนี้คงจะทำให้เขาวุ่นมากขึ้น พอไปถึงร้านวิภาวรรณลงจากรถโดยบอกให้ทั้งสองคู่หมั้นไม่ต้องลงไปส่ง หล่อนลงรถเดินเข้าร้านไป วิภาวรรณหมดเรี่ยวแรงที่จะเดินไปตรวจข้าวของในร้าน ได้แต่บอกก้อยให้ดูแลแทน หล่อนขอเข้าห้องไปพักก่อน ก้อยเห็นอาการเจ้านายสาวไม่ค่อยสู้ดี ก็พาหล่อนไปในห้องพักดูแลน้ำท่าแล้วจึงออกไปดูแลร้านก่อนที่จะปิดอีกไม่กี่ชั่วโมง จนเกือบสองทุ่มวีรพลจึงขับรถมารับวิภาวรรณ
“ขอโทษครับภา ที่ให้รอนาน พอดีคนไข้อาการรุนแรงจนผมก็หมดปัญญายื้อชีวิตเค้าไว้ เลยทำเรื่องส่งให้ญาติมารับกับออกใบรับรองเพื่อส่งให้เขาทำมรณบัตร ก็เลยนานหน่อย ภาเป็นไงบ้างครับ ยังเวียนหัวอยู่มั้ย”
“ไม่เป็นไรแล้วคะ นี่พลคะ ภาลืมไปเลยเรื่องที่นัดกับปิ่นเรื่องคนงานที่จะจ้างเค้ามาทำเรื่องสวนกับแม่บ้านอ่ะ ป่านนี้คงกลับบ้านไปแล้วมั้ง พลคะ ดูพลอิดโรยไปมากเลย พักผ่อนบ้างเถอะนะคะ ภาเคยบอกแล้วพลก็ไม่ฟัง ดูสิตาช้ำไปหมดแล้ว” ว่าพลางก็เอื้อมมือไปลูบใบหน้าคมสันที่ตอนนี้ดูซูบซีดอิดโรยของเขาอย่างห่วงใย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวก็คงจะชิน อีกหน่อยงานทุกอย่างลงตัวผมก็คงไม่ต้องวุ่นวายมากแล้วล่ะ พรุ่งนี้ผมไม่มีเวรเข้าโรงพยาบาลแล้ว คงได้พักทั้งวัน ภาก็เหมือนกันพรุ่งนี้ภาลาหยุดอยู่กับผมเถอะนะ ผมอยากให้แน่ใจว่าภาไม่เป็นอะไรจริงๆ แล้วก็จะได้คุยกับพี่ปิ่นเรื่องคนงานด้วย อดทนหน่อยนะครับภา ช่วงนี้ผมอาจจะไม่ค่อยได้อยู่กับภาเท่าไหร่ ต้องเทียวไปมาจันทบุรี-กรุงเทพฯ บ่อยครั้ง รอให้อะไรๆ มันลงตัวทุกอย่าง ผมจะดูแลภาให้มากกว่านี้”
“ภาก็ไม่ได้ว่าพลสักหน่อยนิคะ แต่เป็นห่วงกลัวพลจะหักโหมงานมากไป อย่าห่วงไปเลยคะ ภาจะอยู่เคียงข้างพลเสมอ ยังไงๆ ก็ห่วงสุขภาพตัวเองบ้างนะคะ นี่พลทานอะไรหรือยัง เดี๋ยวภาจะโทรบอกให้ปิ่นเขาจัดสำรับรอ”
“ยังเลยครับ ขอบคุณครับ ไม่ได้เจอหน้าสองสามวันนี้คิดถึงจะแย่ วันนี้ไปนอนที่บ้านผมนะ พรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานล่ะ เด๋วผมจะโทรบอกแพรวาให้ดูแลแทน โอเคนะ ที่รัก” วีรพลคว้ามือหล่อนมาจุมพิตเบาๆ ตายังจ้องมองหนทาง วิภาวรรณได้แต่มองหน้าเขาดวงตาเต็มไปด้วยความรักใคร่ ทั้งสงสารเขา ถึงแม้เขาจะมีงานมากมาย แต่เมื่อยามที่อยู่กับหล่อนเขาจะทิ้งเรื่องงานและพูดเอาใจหล่อนให้ได้เคลิบเคลิ้มตามทุกที นิสัยและบุคลิกแบบนี้เหมือนกับวีรวัฒน์ยังกับถอดแบบกันมาไม่มีผิด ก็แน่ล่ะ ก็เขาเป็นพ่อลูกกัน เมื่อไปถึงบ้านก็ขับรถเข้าบ้านวิภาวรรณไปเลย เห็นปิ่นวิ่งออกมารับกับโชค วีรพลกับวิภาวรรณทานข้าวเย็นจนอิ่มแล้ว วีรพลก็บอกกับปิ่นและโชคให้อยู่นอนเฝ้าบ้านวิภาวรรณ ส่วนวิภาวรรณเขาให้ไปนอนที่บ้านเขา อ้างว่าหล่อนอาการยังไม่น่าไว้ใจ เกิดอะไรขึ้นจะได้ดูแลทัน ทั้งโชคกับปิ่นก็รับคำ มองหน้าวิภาวรรณกับวีรพลเหมือนจะรู้ทัน ส่งยิ้มเหมือนจะกลั้นหัวเราะให้วิภาวรรณเป็นนัยๆ จนวิภาวรรณเองก็อึกอักเขินอายอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะโบ้ยหน้าไล่ปิ่นกับโชคไปเก็บถ้วยจานไปล้างทำความสะอาดครัว แล้วค้อนขวับทำปากบ่นอุบอิบๆ แล้วรีบเดินขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุด...


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #13 on: June 02, 2013, 08:55:31 pm
พอวิภาวรรณเปลี่ยนชุดเสร็จเดินลงมา วีรพลจึงหันมาบอกกับปิ่นและโชคฝากดูแลบ้าน และบอกให้นัดคนงานที่จะมารับงานสวนและแม่บ้านวันรุ่งขึ้นตอนบ่ายหรือว่าเย็นก็ได้ แล้วจึงพาวิภาวรรณไปที่บ้านของเขา
“ดูสิพี่โชค คุณหมอดูท่าทางเป็นห่วงคุณภามากเลย ดีใจแทนคุณภาเหลือเกินจะได้มีคนมาดูแลใกล้ชิด ถึงแม้จะเป็นคนอายุน้อยกว่า แต่ปิ่นว่าดูเหมาะสมกันยังกับคนอายุเท่ากันเลย หวานแหววกันออกขนาดนี้ ไม่นานจะมีคุณหนูตัวน้อยๆให้เราเลี้ยงแน่ๆ พี่โชคว่ามั้ยจ๊ะ”
“อืมม... พี่ก็ว่างั้น เมื่อก่อนพี่ยังคิดเลย คุณนายภาจะอยู่ได้ยังไงผู้หญิงตัวคนเดียว แกก็ไม่ได้แก่จนเกินที่จะมีคู่ครอง อายุก็ห่างเราสองคนไม่กี่ปีแต่ดูคุณนายแกยังสวยพอๆ กับสาววัย 30 อยู่เลย ไม่รู้แกอยู่มาได้ไงจนป่านนี้ ฐานะก็ดี การงานก็มีทำ แต่ไม่ยักกะชอบใคร สงสัยเป็นบุพเพคู่เก่าแต่ชาติปางก่อนกันกับคุณหมอละมั้งนี่ ถึงได้มาเจอกันเอาป่านนี้”
“น่านสิพี่ เราทำงานบ้านนี้มาก็เกือบสิบปี คนเข้าออกบ้านคุณภามาก้อร้อก้อติกก็ไม่น้อยไม่เห็นคุณภาตกลงปลงใจกับใครสักคน ทีคุณหมออายุแทบจะเป็นลูกด้วยซ้ำมาอยู่แค่ไม่ถึงปี คุณภาเปี้ยนไป๋ซะงั้น”
“พี่ก็ดีใจแทนคุณนายเหมือนกัน บ้านนี้ก็จะได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก อย่างน้อยพรุ่งนี้เราก็จะได้มีเพื่อนทำงานเพิ่มตั้งห้าคน ดูท่าทางบ้านนี้คงจะครึกครื้น เป็นบ้านที่อบอุ่นไม่น้อยเลย ว่าแต่คนอื่น แล้วเราละปิ่น พี่ว่าเราน่าจะมีลูกอีกสักคนนะ อย่าให้น้อยหน้าคุณนายกับคุณหมอสิ หึหึ...” โชคปกติเป็นคนพูดน้อยคราวนี้ดูพูดได้เป็นน้ำเป็นเนื้อ ไม่พูดเปล่า หันมามองหน้าเมียตัวเองส่งสายตาบอกความนัย ยิ้มกรุ้มกริ่ม กอดรัดร่างเมีย
“บ้า...พี่โชคเนี่ยพูดเรื่องคุณภาอยู่ดีๆ ไหง๋วกมาเรื่องเราได้ อุ้ย...พี่โชค นี่มันบ้านคุณภานะ ไม่ใช่บ้านเรา สัปปะดนจริงๆ”
“ก็คุณภาไปอยู่บ้านคุณหมอแล้วนี่ แล้วคุณหมอก็บอกให้เราอยู่เฝ้าบ้านนี้ น่า...ปิ่นจ๋า เราไม่ได้ทำการบ้านมาหลายวันแล้ว อยากกินน้ำพริกถ้วยเก่า รสชาติมันจัดจ้านหวานมันส์ของพี่ นะนะๆๆ เมียจ๋า”
“อึ้ย.....พี่โชคเนี่ย ทีวันก่อนเห็นทำอ่อนปวกเปียก วันนี้เกิดคึกอะไรขึ้นมาละเนี่ย ปล่อยปิ่นก่อน ไปที่ห้องดีกว่า ตรงนี้อายผีบ้านผีเรือน” ทีแรกโชคนึกว่าเมียจะขัดขืนเสียอีก กลับเห็นปิ่นรีบผลุนผลันเดินเข้าห้องชั้นล่างของบ้านวิภาวรรณ หันกลับส่งสายตายั่วเย้ากลับมา โชคยิ้มฉีกกว้างอย่างดีใจทำหน้ายังกับถูกหวยรางวัลที่หนึ่งรีบถลันตามปิ่นเข้าไปในห้องแทบจะวิ่งสะดุดธรณีประตูเรือนไทยชั้นล่าง ทำเอาปิ่นหัวเราะคิกคักชอบใจ
“พี่โชคเนี่ย ไม่ต้องใจร้อนหรอกจ๊ะ ดูทำเข้าเดี๋ยวก็หกล้มบาดเจ็บไปหรอก ทำยังกับไม่เคย บอกปิ่นหน่อยสิ เกิดคึกอะไรมาละจ๊ะ”
“ก็เห็นคุณหมอกับคุณนายเค้ามีความสุขกัน พี่ก็อยากจะมีบ้างสิ ไม่ได้หยอดน้ำหลังเต่ามาหลายวันแล้ว กระบอกน้ำพี่มันเต็มจนจะล้นแล้ว หิหิหิ”
“ยี้... ทำสำบัดสำนวน ปากดีแบบนี้อย่าล่มปากอ่าวล่ะ จะไล่ออกไปนอนตากยุงเลยคอยดูสิ”
“โธ่ ปิ่นก็ ทำยังกะไม่เคยรู้จักพี่ พี่เคยทำแบบนั้นที่ไหนกันจ๊ะ เมียจ๋า พี่น่ะถ้าเมียไม่หมดแรง พี่เคยหยุดซะที่ไหน เพียงแต่เดี๋ยวนี้เรี่ยวแรงมันเริ่มน้อย เอาถี่ทุกวันไม่ได้เท่านั้นเอง”
“จ้า...แล้วจะมัวพูดทำไมอยู่ล่ะ เดี๋ยวเต่ามันเฉาตายก่อนนะจ๊ะ ผัวจ๋า...ฮิฮิ” โชคก็เข้ากอดจูบเมียรักอย่างสุดทนไหวแล้ว แล้วถอยตัวออกมามือก็ถอดเสื้อตัวเองออก เข้าไปถอดเสื้อคอกระเช้าของปิ่นที่หล่อนมักจะใส่ก่อนนอนออก อกสล้างตูมพองาม ไม่ใหญ่ไม่เล็กปานใด ผิวสีน้ำผึ้งเรียบเนียนทั้งตัวตามแบบฉบับหญิงบ้านนาเผยโฉมอวดนายโชคอย่างท้าทาย โชคก็เข้าตะโบมจูบดูดดุนเต้าคู่นั้นสลับไปมา มีสลับดูเม้มที่จงอยหัวนมป้านน้ำตาลที่ตอนนี้มันแข็งชูชันท้าทายโชคยิ่งนัก ปิ่นเสียวสยิวจนต้องแอ่นอกรับการเล้าโลมของผัวรักคู่ขาคู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันมาร่วม 20 ปี
“อา...พี่โชคจ๋า......ชอบเลียนมปิ่นจังเลย ลิ้นพี่เลียปิ่นทีไร ปิ่นเสียวทุกทีเลย อ่ะ...อา....” สองมือปิ่นหยิบขยุ้มที่หัวของโชคเบาๆ เชิดหน้าครางเบาๆ โชคไม่ได้แค่เลียหัวนมเท่านั้น มือข้างหนึ่งก็ล้วงลูบแทรกผ่านชายกางเกงชาวเลตัวหลวมที่มีสายมัดไว้พอรั้งเอวอยู่เท่านั้น นิ้วสืบคืบคลานผ่านหน้าท้องไปยังโคกโหนกนูนของปิ่น หล่อนเป็นคนร่างผอมบางกะทัดรัด บริเวณหน้าท้องก็แบนราบไร้ไขมัน แต่บริเวณหว่างขาของปิ่นมันกลับโหนกนูนมีขนไรดำปกคลุมไม่หนาบางมากนักจนนายโชคมักจะเรียกตรงนั้นว่าเนินเต่าเวลาที่อยู่คลอเคลียกับเมียรัก เพราะมันเป็นเนินกะเปาะขึ้นมาจริงๆ เมื่อสืบคืบคลานไปถึงเนื้อเนินนิ้วอสรพิษของโชคก็ทำงานอย่างช่ำชอง มันฉกตอดเข้าบริเวณเนื้อติ่งที่โผล่นอกแคมออกมาทำเอาปิ่นต้องแอ่นเอวขยับสะโพกรับตอบ ตอนนี้ร่างของปิ่นบิดร่อนเป็นตัวหนอนทั้งด้านบนก็แอ่นรับสู้กับปากลิ้น ส่วนล่างก็ร่อนรับดัชนีที่รักของโชคเป็นพัลวัน
“พี่โชคจ๋า.....เมียเสียวไปหมดแล้ว...จะทำอะไรก็รีบเถอะ ปิ่นเงี่ยนอยากให้พี่เย็ดจะแย่อยู่แล้ว ทั้งดูดเลีย ทั้งบี้แตดแหย่หีปิ่นแบบนี้ ปิ่นทนไม่ไหวแล้ว พี่โชคจ๋า เย็ดเมียเถอะนะ..ซี้ดดดดดดดดดด”
“เดี๋ยวก่อนสิ อย่าลืมเป่าปี่ให้พี่ก่อน งั้นมานี่ พี่ยังไม่เต็มที่เลย อย่ารีบร้อนสิจ๊ะ นานๆ จะได้เย็ดกันที ขอให้มันครบเครื่องหน่อยสิจ๊ะ” พูดจบโชคเอนตัวนอนหงาย รูดกางเกงตัวเองออกโยนทิ้งไป ปิ่นรู้งานดี ก็เข้าคว้าปี่แท่งงามสีน้ำตาลคล้ำมือกำบีบเบาๆ แล้วรูดเล่นไปมาสองตามองไปที่ผัวรักส่งยิ้มเย้าชวนก่อนจะก้มหน้าลงไปฉกปลายลิ้นตวัดเลียปลายหัวหยักที่ออกสีน้ำตาลไหม้บ่งบอกถึงอายุการใช้งานมาอย่างโชกโชน ปิ่นละเลงปลายลิ้นระริกตรงปลายลำปี่อยู่สักพักก็เม้มปากดูดตรงปลายอย่างแรง โชคถึงกับสะดุ้งเฮือก ถึงแม้จะเล่นบทรักบทสวาทกันมานาน แต่เจอเข้าแบบนี้ก็สุดจะทานทน ปิ่นเล่นดูดตรงรูเยี่ยวอย่างแรงเหมือนจะให้น้ำบาดาลสีขาวข้นให้มันขึ้นมาซะอย่างนั้น
“อู้ววว.... ปิ่นจ๋า....อย่าดูดแรงอย่างนั้น พี่เสียวปลายควยหมดเลย เดี๋ยวพี่น้ำออกก่อนก็หมดสนุกสิ อู้ววว.....”
“ก็ไหนบอกจะไม่ล่มปากอ่าว เห็นคุยเก่งดีนัก ทีงี้ทำกลัวน้ำแตก อ่ะ...อุ้ยยย....เอานิ้วเย็ดหีเมียอีกแล้ว.....อา......เสียวดีจัง”
“ปิ่นถอดกางก่อนเถอะ แล้วคร่อมให้พี่เลียหีให้ดีกว่า จะได้เสียวด้วยกัน” ปิ่นก็ทำตามที่ผัวรักบอก หล่อนถอดกางเกงออกแล้วก็ขึ้นไปนั่งคร่อมหน้าเขาหันหน้าไปทางปลายเท้า ค่อยๆ โก้งโค้งโน้มหน้าไปยังลำท่อนขนาดย่อมที่กำลังผงกหงึกๆ ท้าทายอยู่ โชคเอามือรั้งสะโพกเมียรักค่อยๆ แบะแคมหีเอานิ้วลูบไล้ไปมา
“จ๊ะพี่ อูวว. ดูสิควยพี่เริ่มจะแข็งมาแล้ว อ่ะ...บีบไข่ให้ด้วยนะ”
“อะ โอยยย... มันเสียวอย่างบอกไม่ถูก อย่าบีบแรงนะ...”
“ควยพี่โชคแข็งแบบนี้แหละที่ปิ่นชอบนัก เข้าทะลวงหีเมียทีไรเสียวถึงใจจริงๆ อู้ยย...ลิ้นพี่โดนปลายแตดปิ่นด้วย อะ อาววว....ซี้ดดด....”
“ปิ่นเงี่ยนแล้วเหรอ ดูสิน้ำเงี่ยนไหลเป็นทางแล้ว รสชาติถูกใจพี่จังเลย ขอดูดเลียให้หมดเลย อื้อ...”
“อึ้ยยย.....พี่โชคจ๋า.....เบาๆสิจ๊ะ ทำอย่างกับหิวมาจากไหน อา.....อูยยย....ดูสิ ดูดซะเต็มปากเลยแถมแยงลิ้นเข้าลึกด้วย อ่ะๆ.....อึ้ยยย....ผัวจ๋า ปะ.. ปะ... ปิ่น อึ้ยยย.......” ปิ่นได้แต่ทำหน้าเหยเก ทำอะไรต่อไม่ได้ มือกำท่อนควยโชคค้างไว้แน่น สะโพกสั่นยึกยัก กัดริมฝีปากกลั้นเสียงกลัวว่าจะกรีดร้องดัง บดโหนกเต่าเข้ากับใบหน้าผัวรักแนบแน่นแถมมีกดกระเด้ายิกๆ จนโชคแทบจะหายใจไม่ออกต้องเอามือรั้งและดันยกขึ้น แล้วน้ำเงี่ยนของปิ่นก็รินไหลเยิ้มเป็นทางย้อยลงบริเวณปากครึ่งจมูกครึ่งของ อาการกระเด้าของปิ่นยังทำโดยอัตโนมัติอยู่ยิกๆ โชคเห็นอย่างนั้นก็ผงกหัวฉกลิ้นเลียไปตามซอกฉ่ำเยิ้มนั้น
“พี่โชคจ๋า..... อึ้ยยยย......พอก่อนจ๊ะ ปิ่นใจจะขาด...อย่าเพิ่งเลียต่อไปเลย ฮูยยย......”
“เป็นไรจ๊ะปิ่น เสร็จแล้วเหรอ ทำไมวันนี้ปิ่นเสร็จเร็วจัง พี่ยังไม่ได้เย็ดเลย”
“ปิ่นเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว พี่อย่าเพิ่งแหย่หีปิ่นเลย อูยย.....ขอปิ่นพักสักหน่อยก่อนนะจ๊ะ ผัวจ๋า......ทำไมวันนี้มันเสียวอย่างนี้” โชคยิ้มชอบใจที่เห็นเมียรักได้ถึงสวรรค์ชั้นฟ้าไปแล้ว ได้แต่เอามือลูบสะโพกพร้อมบีบคลึงไปมาเบาๆ พอหายเหนื่อยแล้ว ปิ่นก็พลิกกายกลับมาหันหน้าเข้าหาเขา ดวงตายังเยิ้มอยู่เลย
“ปิ่นจะเย็ดพี่เองเหรอจ๊ะ ดีเลย ขย่มมาเลย พี่รอให้ปิ่นเย็ดอยู่”
“ก็ตอบแทนที่พี่ทำให้ปิ่นมีความสุขไงจ๊ะ อุ้ยย....ค่อยๆ เด้งสวนสิจ๊ะ ของพี่มันยาว ครูดหีปิ่นเสียวไปหมด เมื่อกี้ยังเสียวไม่หายเลยพี่จ๋า.....อา......”
ปิ่นค่อยโหย่งก้นเอาหีคาบท่อนปลายควยผัวรักเบาๆ แต่โชคกลับเด้งรับอย่างแรงจนหล่อนร้องห้าม แล้วปิ่นก็ค่อยขย่มกายขึ้นลงเบาๆ ยาวๆ โชคได้แต่มองร่องโหนกนูนของเมียรักที่มันอ้าอมท่อนรักของเขาขยับขึ้นลงช้าๆ จนมองเห็นแคมยู่เข้าออกอย่างชัดเจน
“อู้ววว..พี่โชคจ๋า ควยพี่มันค่อยครูดเสียบหีเมีย เสียวจังเลย พี่เสียวควยมั้ยจ๊ะ ผัวจ๋า...”
“เสียวสิจ๊ะ อู้.......อย่างนี้แหละพี่ถึงชอบเย็ดเมีย หลงรักหีเมีย...เย็ดมาหลายปีไม่รู้เบื่อ .. เมียจ๋า ขย่มแรงๆ ก็ได้พี่เสียวปลายค่อยไปหมดแล้ว”
“จ๊ะ ปลายควยพี่มันชนมดลูกปิ่นจนเสียวซ่านไปหมด อุ้ยยย...รู้ใจเมียจริงๆ บี้แตดให้เมียด้วย....อา.....พี่จ๋า ปิ่นรักพี่โชค อยากเย็ดกับพี่โชคอย่างนี้ทุกวันเลย อึ้ย....ซี้ดส์.....ว้ายยยย.. พี่จ๋าอย่าเพิ่งเด้งสวนแรงๆ สิจ๊ะ เมียยังเสียวไม่หาย อุยยยย ควยผัวแทงทีไร เสียวซ่านถึงใจจริงๆ...”
“พี่จะทนไม่ไหวแล้วปิ่นจ๋า....ขอพี่เด้งเย็ดให้หนำใจเถอะนะ”
“เดี๋ยวสิพี่ ปิ่นอยากให้พี่เย็ดหลายๆ ท่า อูย....พี่จ๋า...ปิ่นก็เสียวจะทนไม่ไหวเหมือนกัน” แล้วปิ่นก็ตั้งกายตรงหมุนตัวโดยที่ยังไม่ถอนร่างจากแก่นกายของผัวรักเลย หล่อนกลับหันหน้าไปทางปลายเท้าของโชค ดังกับว่าโพรงหีหล่อนมันครูดบิดลำรักของเขาไปด้วยอย่างนั้นแหละ เล่นเอาโชคกัดฟันกรอดเอื้อมมือไปคว้าร่างบางให้เอนหลังเข้าหาเขาโอบกอดที่อกหยุ่นนุ่มมือบีบเคล้นไปมา ปิ่นก็เอนกายไปเอามือค้ำขนาบข้างลำตัวของโชค แล้วก็เริ่มออกแรงขายันกายโขยกให้ร่องหีคาบลำควยผัวรักเข้าออกๆ เริ่มจากช้าๆ แล้วเพิ่มสปีดขึ้นเรื่อย เหมือนจะไม่ทันใจเจ้าผัวหนุ่มใหญ่ที่ดูจะเงี่ยนง่านหนักขึ้น โอบแขนยึดร่างบางเพรียวเข้ากอดแล้วก็หยัดกายแอ่นบั้นเอวเด้งกระเด้าแทนเสียเอง คราวนี้ปิ่นสะท้านทั้งตัว
“อ่ะ อ๊ายยย....พี่จ๋า...เบาๆ เมียเสียวไปหมดแล้ว”
“ไม่เบาแล้ว ดูสิหีตอดปลายควยพี่จนน้ำจะแตกแล้ว อู้ว.....เมียจ๋า เย็ดท่านี้มันส์ไปอีกแบบ ขอพี่เย็ดให้น้ำแตกเลยนะจ๊ะ เมียจ๋า”
“จ๊ะพี่ ปิ่นก็สุดจะทนแล้ว อึ้ยยย...ผัวจ๋า....แรงๆ ได้แล้วจ๊ะ เมียพร้อมแล้ว เราแตกพร้อมกันนะจ๊ะ อึ้ย....ซี้ดส์” ปิ่นได้แต่อ้าปากหวอเมื่อจบการสนทนาโต้ตอบอย่างเผ็ดร้อน เพราะโชคกระทุ้งบั้นเอวเข้าใส่จนปลายควยชนมดลูกกึกๆ แคมยู่เข้าออก ลูกกะโปกที่ยานๆ ตอนนี้มันหดเกร็งจนเป็นก้อน การกระเด้งกระแทกกระทั้นรุนแรงขึ้นจนประหนึ่งว่าเตียงนอนแทบจะพัง ดังลั่นเอี๊ยดอ๊าด ถึงแม้มันจะปูทับด้วยเบาะหนานุ่มก็ตาม โชคเร่งฝีจักรอย่างลืมตาย สองมือบีบขย้ำหน้าอกปิ่นอย่างแรง สะโพกก็กระเด้งส่งท่อนควยแรงและถี่ขึ้นจนปิ่นได้แต่บิดส่ายหน้าไปมาอย่างสุดเสียวสะท้านทรวง
“ปิ่นจ๋า....ผัวจะออกแล้ว อ๊า.....อะ...ออกแล้ว”
“แรงๆ จ๊ะ เมียก็จะออกเหมือนกัน อึ้ยยย..อี้ๆๆๆๆๆๆ”
โชคเร่งจังหวะแรงเป็นเฮือกสุดท้ายจนก้นดันโด่งไม่ติดที่นอนร่างของปิ่นก็แอ่นขึ้นตามแรงดันของผัวรักแล้วค่อยทิ้งลงพื้นที่นอนอย่างหมดเรี่ยวแรง โชคดันร่างเมียรักพลิกไปนอนตะแคงกอดกัน เหงื่อชุ่มโชกด้วยกันทั้งคู่ ต่างหอบกระเส่าแข่งกัน ปิ่นพลิกร่างหันหน้ามาหาโชค โอบคอเขาเข้าไปประกอบจูบอย่างดูดดื่ม ก่อนส่งยิ้มหวานให้เขา
“สมใจเมียจริงๆ พี่จ๋า แต่วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ พรุ่งนี้ต้องทำงาน”
“อยากเย็ดเมียต่อจัง งั้นพี่ขอแช่ในหีปิ่นได้มั้ย อูวว. ยังเสียวอยู่เลย”
“อึ้ยยย... พี่เนี่ย จะให้มันเน่าคาหรือไง ไม่เอาล่ะ ไปอาบน้ำล้างตัวกันเถอะ ปิ่นจะให้นอนกอดทั้งคืน คืนนี้ปิ่นจะไม่ใส่อะไรเลย ดีมั้ยจ๊ะ เก็บแรงไว้ใช้วันหลังเถอะ ปิ่นไม่หนีไปไหนหรอก เย็ดกันมาตั้งหลายปี ทำยังกะไม่เคยได้เย็ดกัน แต่วันนี้พี่รู้สึกคักคึกกว่าก่อนเป็นไหนๆ ฮิๆๆๆ คงอิจฉาคุณหมอเค้าเหรอ”
“ฮ่ะๆๆ ก็แหมๆ ใครจะไม่อิจฉา คุณหมอมีคุณนายสุดสวยอย่างงั้น ทำเอาพี่คึกไปด้วย อยากจะมีลูกแข่งกับคุณหมอซะแล้ว เราไม่มีลูกห่างกันหลายปีแล้ว เจ้ากล้วยมันก็จะจบ ป.6 แล้ว พี่เลยอยากมีอีกสักคน ก็ได้จ๊ะ ง้านเราไปอาบน้ำด้วยกันแล้วค่อยมานอนก็ได้จ๊ะ แต่ปิ่นต้องไม่ใส่อะไรนะ จะขอนอนกอดทั้งคืนเลย ไม่ได้เย็ดเมียแบบถึงใจแบบนี้มานานแล้ว” ทั้งคู่ต่างกอดจูบอย่างดูดดื่มสักพักจึงพากันไปชำระร่างกายกลับเข้านอน เพื่อเตรียมรอรับวันใหม่อย่างสุขสมตามประสาผัวเมียที่รักใคร่ ต่างนอนกอดก่ายกันนอนหลับพริ้มยิ้มหวานอย่างมีความสุขทั้งคู่..................

วิภาวรรณตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น ขยับตัวลุกจากการกอดของวีรพลที่ยังหลับพริ้ม หล่อนมองเขาตาแป๋ว อดใจไม่ได้เลยก้มลงจูบไปที่แก้มเขาอย่างหมั่นเขี้ยว นอนหลับยังยิ้มอยู่ได้ ตบท้ายด้วยจับที่ปลายจมูกขยี้เบาๆ แล้วก็ลุกจากเตียงสวมเสื้อคลุมทับชุดนอนบางหวิวที่หล่อนซื้อมา เมื่อครั้งไปเที่ยวระยองกับแพรวา รัดสายเสื้อคลุมเนื้อผ้าละเอียดสีเทาจนมิดชิดแล้วก็เดินลงมาที่ชั้นล่างโดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟัน ซึ่งจะใช้ห้องน้ำที่ชั้นบนก็ได้ แต่หล่อนอยากออกมารับอากาศยามเช้าเสียก่อน ออกมาหน้าบ้านสักพักก็กลับเข้าไปข้างในเดินไปในห้องครัวเล็กๆ สำรวจดูว่าจะมีข้าวของอะไรพอที่จะทำอาหารเช้า ยังดูข้าวของไม่ครบเลย ก็เห็นปิ่นเดินเข้ามา
“คุณภาคะ จะให้ปิ่นทำอาหารมาที่บ้านนี้หรือว่าจะจัดไว้ที่บ้านคุณภาคะ ปิ่นทำให้เสร็จแล้วคะ”
“อ่ะ เอ่อ....เอามาจัดที่นี่ก็ได้จ๊ะ ภาจะได้ไปปลุกพลเค้าลงมาทานด้วยกัน”
“แล้วเมื่อคืนคุณภานอนชั้นล่างเหรอคะ?” ปิ่นถามพร้อมทำหน้ายึกยักจ้องตาเหมือนค้นหาอะไรจากสีหน้าของวิภาวรรณ
“ภาก็ เอ่อ...ภาก็นอนที่ห้องทำงานชั้นล่างนี่สิ ทำไมเหรอ เอ๊ะ... ปิ่นนี่ถามแปลกๆ”
“ฮิๆๆ ไม่จริงม้าง ปิ่นถามไปงั้นแหละ เพราะปิ่นรู้อยู่แล้วว่าคุณภาไม่ได้นอนชั้นล่าง เมื่อคืนปิ่นจะเอายามาให้คุณภา เห็นคุณภาลืม พอเดินมาที่หน้าบ้านก็เลยเห็นคุณหมอ เอ่อ...ฮิๆๆ อุ้มคุณภาขึ้นไปข้างบน ปิ่นก็นึกได้ว่าคงไม่ต้องเอายามาหรอก ที่คุณหมอก็มี ปิ่นเลยเดินกลับ ลืมไปว่านี่บ้านหมอ ฮิๆๆ ไม่ต้องโกหกปิ่นหรอก ปิ่นเข้าใจคะ เรื่องอะไรคุณหมอจะให้คู่หมั้นที่ยังป่วยมานอนชั้นล่าง” พูดไปพลางก็ลอยหน้าลอยตาเสียงเล็กเสียงน้อย ออกทะเล้นๆ วิภาวรรณเองก็รู้สึกอายปิ่น แต่ก็รีบทำหน้าขึงขังกลบเกลื่อน
“ปิ่น....!!!!!”
“อุ้ย...ขอโทษค่า คุณภา” พอเห็นเจ้านายสาวทำหน้าจริงจัง ขึงตาโต ปิ่นก็สะดุ้งหน้าเจื่อน ยิ้มแหยๆ อย่างนึกได้ว่าก้าวก่ายเรื่องของเจ้านายเกินไป
“รีบไปจัดอาหารเช้ามาเลย แล้วก็ติดต่อคนงานให้มาพบคุณหมอด้วย.... ไป”
“คะๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละคะ รอสักครู่นะคะ แฮ่ๆๆ” แล้วก็รีบเดินไปบ้านวิภาวรรณ ที่จริงปิ่นก็รู้ว่าวิภาวรรณไม่ได้โกรธอะไรหล่อนหรอก เพราะอยู่ทำงานกับหล่อนมานาน ไม่เคยเห็นหล่อนจะทำอารมณ์เสียมากนัก แม้กระทั่งเรียกสรรพนามตัวเองก็ไม่เคยได้ยินคำว่า “ฉัน หรือ ชั้น” จากปากหล่อนเลยเมื่อวิภาวรรณคุยกับปิ่น จะใช้คำว่า “ภา” เสมอ ทำให้ปิ่นรู้สึกเป็นกันเอง จะมีบางครั้งที่หล่อนจะจริงจังพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ สีหน้าขึงขังบ้าง แต่ก็น้อยเต็มที ปิ่นเห็นแต่วิภาวรรณพูดจาสำเนียงอ่อนหวานเป็นกันเองกับหล่อนและโชค ทำให้สองผัวเมียมาทำงานให้รู้สึกรักและเคารพเจ้านายสาวคนนี้ แต่วันนี้ดูท่าทำเสียงขึงขังคงจะเขินอายปิ่นที่ไปพูดจาหยอกล้อแซวเล่น
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จวีรพลก็ลุกไปโทร.บอกแพรวาเรื่องวิภาวรรณไม่สบายให้แพรวาทำงานแทนด้วย แล้วเขาก็เดินขึ้นชั้นบนไปยังระเบียบกว้างที่ประจำของเขา วิภาวรรณก็ช่วยปิ่นจัดเก็บเครื่องครัว สั่งงานให้ปิ่นกับโชคไปซื้อของทำกับข้าวไว้เพิ่ม และก็ไปแวะรับคนงานที่จะมารับทำงานที่บ้านมาพบหมอวีรพล สั่งงานปิ่นกับโชคเสร็จเรียบร้อย วิภาวรรณก็ขึ้นชั้นบนตามเขาไป มองเห็นเขานั่งสาละวนกับเอกสารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขนาดย่อมเป็นแฟ้มปึกใหญ่หลายแฟ้ม เขาสวมแว่นตาพลิกเอกสารอ่านไปมาอย่างใจจดใจจ่อ หล่อนไปนั่งข้างเขา คว้าแว่นตาถอดออก
“ไหนว่าหยุดงานไงคะ พล นี่ยังจะมานั่งอ่านอะไรอีกตั้งเยอะ พักบ้างเถอะคะ นะ... ภาขอร้อง ภาเห็นก็เหนื่อยแทนแล้ว เอาเป็นว่างานเอกสารพวกนี้ภาจะตรวจดูแลให้ แล้วจะอธิบายให้พลฟัง ดีมั้ยคะ”
“หื้อ....ก็นี่มันงานของผมหน้าที่ผม ผมต้องรู้รายละเอียดทุกอย่าง ถ้าผมไม่อ่านซะเลย ไม่รู้เรื่องอะไร ผมจะดูแลงานบริษัททั้งหมดได้ยังไง”
“ภาพอมีความรู้เรื่องงานบริหารอยู่บ้าง ให้ภาดูให้เถอะคะ เอาเป็นว่าถ้าพลยังไม่เชื่อ ลองให้ภาไปอ่านดู แล้วพลค่อยมาอ่านทวนแล้วซักกับภา ภาจะบอกให้ละเอียดเลย นะคะพลจ๋า ภาไม่อยากให้พลต้องหักโหมมาก ถึงจะตั้งใจทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายยังไง ถ้าร่างกายมันไม่อำนวย ก็เปล่าประโยชน์นะคะ ทำเท่าที่เราจะทำได้ดีกว่า ไม่เห็นว่าพลต้องรีบร้อนไปถึงไหน ภาเข้าใจคะว่าพลน่ะหนุ่มไฟแรง อยากตั้งใจทำผลงานให้มันออกมาดีที่สุด แต่บางครั้งก็ต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่ใช่โหมทำ ต้องรู้จักจังหวะว่าช่วงไหนควรเร่งช่วงไหนควรผ่อน ที่บริษัทคุณพ่อพลเค้าก็คงไม่ได้เร่งรัดพลนี่คะ ผู้บริหารน่ะเค้าไม่ได้เคร่งครัดจริงจังไปซะทุกเรื่องหรอกคะ ต้องมีผ่อนคลายบ้าง คนหนุ่มไฟแรงน่ะ มีดีตรงที่มีความมุ่งมั่นกระตือรือร้นสูง แต่ก็มีข้อเสียคือทำอะไรใจร้อนขาดความยั้งคิดในบางคราว ไม่ง้านในบริษัทต่างๆ เค้าคงไม่จ้างกรรมการอาวุโสไว้เป็นประธานหรือว่ากรรมการที่ปรึกษาหรอกคะ เพราะบางอย่างต้องอาศัยคนมีประสบการณ์คอยแนะนำ รู้จักที่จะใจเย็นคิดอะไรให้รอบคอบบ้าง เชื่อภาเถอะ นะคะพลจ๋า...”
วีรพลวางเอกสารลงบนโต๊ะ มองหน้าวิภาวรรณในขณะที่หล่อนสาธยายให้ฟังอย่างตั้งใจแล้วก็ยิ้ม
“ยิ้มอะไรคะ?”
“แหม... ภานี่ทำเหมือนเป็นแม่ผมเลย”
“หา...อะไรนะคะ”
“ก็...ทำเหมือนแม่แนะนำลูก ชี้ทางแนะนำการทำงานไง ขอบคุณครับภาที่แนะนำเตือนสติผม ผมเองก็มัวแต่กลัวจะทำงานออกมาไม่เพอร์เฟ็ค มุ่งแต่อยากทำให้มันออกมาดีจนบางทีลืมนึกถึงเรื่องสุขภาพร่างกาย เพราะบางทีผมอ่านไปมากยิ่งอ่านยิ่งปวดหัว คิดอะไรไม่ออก เอ้อ...นึกขึ้นอย่างหนึ่ง ภารอแป้บนึงนะ เดี๋ยวผมมา” แล้ววีรพลก็ลุกเดินเข้าบ้านไป สักพักก็เดินกลับมานั่งข้างหล่อน
“ไม่รู้ว่าโลกนี้มันยังมีเรื่องอะไรๆ ที่ตลกๆ อย่างนี้อีกมั้ย นี่...ภาดูนี่สิ..นี่คือรูปคุณแม่ผม คุณพ่อเพิ่งเอาให้ผมเมื่อสองสามวันก่อน ผมยังขำไม่หาย ทำไมหน้าตาเหมือนภาเดี๊ยะเลย ยังกะเป็นฝาแฝด” วีรพลวางรูปนั้นลง วิภาวรรณตกตะลึง ก็มันเป็นรูปเดียวกันกับที่หล่อนเก็บไว้ที่หัวนอนตอนนี้ซ่อนไว้ในโต๊ะเครื่องแป้ง วิภาวรรณได้แต่อึกอักๆ สมองเริ่มสับสน พูดอะไรไม่ออก คิดไปต่างๆ นานา ถ้าหากวีรพลฉุกคิดได้หรือรู้ความจริง เขาจะคิดอย่างไรกับหล่อนละนี่ เขาคงโกรธและเกลียดหล่อนเป็นแน่ หัวใจวิภาวรรณเต้นแรง
“เป็นไงครับ เหมือนกันมากมั้ย อ้าว... ภา..... ภาเป็นอะไร ภา..!!!!”
วีรพลตกใจสุดขีดเมื่ออยู่ดีๆ วิภาวรรณก็หน้าซีดเผือดตาลอยแล้วก็ทิ้งร่างผล๊อยแทบจะร่วงตกจากเก้าอี้ถ้าหากเขาเข้าประคองร่างนั้นไม่ทัน วีรพลเขย่าร่างเรียกชื่อหล่อนจนแทบเสียงหลง วิภาวรรณก็แน่นิ่งไม่ไหวติง.......


วิภาวรรณสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนอนให้ห้องของวีรพล ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็พอนึกได้ลางๆ ว่านั่งอยู่กับเขาที่ระเบียงด้านนอกแล้วก็สติดับวูบไป นี่หล่อนสลบไสลไปนานหรือเปล่า เหลือบไปมองนาฬิกา ก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมง โอ!! เป็นเวลาน่าจะประมาณ 4 ชั่วโมงได้ที่หล่อนหมดสติไป เหลียวมองหาวีรพลก็ไม่เห็นเขา หล่อนลุกเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าชำระร่างกายส่องมองที่กระจกก็พบใบหน้าตัวมันซีดแทบจะไม่มีสีเลือด วิภาวรรณก็ครุ่นคิดว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมหมู่นี้รู้สึกว่าจะหน้ามืดเป็นลมบ่อยทั้งๆ ที่ก็พักผ่อนตามปกติ เมื่อสะสางล้างหน้าเรียบร้อยแล้วก็ออกจากห้องเดินออกไปที่ระเบียง มองเห็นวีรพลนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวนั่งเล่นที่ประจำของเขา ทีแรกนึกว่าเขานั่งอ่านเอกสารอย่างที่เห็นเมื่อเช้า แต่เดินเข้าไปอีกหน่อยวิภาวรรณก็ได้ยินเสียงใสกังวานของกีต้าร์คลาสสิค เพลงที่เขาเล่นอยู่ออกทำนองละตินใสหวานปนจังหวะแดนซ์หน่อยๆ ตามสไตล์เพลงสแปนิชหรือละติน วิภาวรรณเดินไปอย่างเงียบกริบไปนั่งข้างเขาด้านขวามือซึ่งอยู่ทางด้านท้ายของกีตาร์ วีรพลคงสนใจแต่กีตาร์อยู่จึงไม่สังเกตเห็นพอรู้สึกว่าหล่อนมานั่งข้างๆ โอบแขนด้านขวาและหน้าซบไหล่เขาก็หันกลับมามองหล่อน
“ตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้างครับ ทำไมอยู่ดีๆ ก็วูบไปซะอย่างนั้น”
“ภาก็ไม่รู้เหมือนกันคะ พล สองสามวันแล้ว ภารู้สึกว่าจะหน้ามืดบ่อยมากเลย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วคะ” สองแขนหล่อนกระชับข้างแขนเขาหน้าอกแนบประชิดกับลำแขนเขาใบหน้าหล่อนแนบบนไหล่ หน้าเขากับหล่อนห่างกันไม่กี่นิ้ว วีรพลชำเลืองตามองวิภาวรรณด้วยสายตาห่วงใย หยุดเล่นกีตาร์ยกแขนด้านขวาขึ้นมาโอบกอดวิภาวรรณ
“ผมตกใจแทบตาย พอให้ภาไปนอนพักก็เลยออกมานั่งคลายเครียด”
“ภาออกมาเห็นนึกว่าพลนั่งเอกสารเสียอีก พลเล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอ ตอนจัดของเข้าบ้าน ภาไม่เห็นกีตาร์สักตัว นึกว่าแต่จับเข็ม ถือมีดหมอ จรดปากกาเขียนใบสั่งยาเป็นอย่างเดียว นี่เล่นกีตาร์ก็เพราะด้วย”
“อ่ะ.. ไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนอยู่เชียงใหม่น่ะ ผมหัดเล่นจนแทบจะตั้งวงดนตรีได้เชียวนะ ถ้าผมตั้งวงออกอัลบั้มได้ละก็ เสกโลโซ แคลช หรือวงร็อคดังๆ ในเมืองไทย ผมว่าผมก็พอสู้เค้าได้ล่ะ หรือว่าทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ไม่ได้โม้..............ฮ่ะๆๆ หึหึ... ผมเพิ่งเอามาจากกรุงเทพฯอ่ะ เมื่อตอนว่างๆ จากดูหนังสือหรือช่วงใกล้สอบที่มันเครียด ผมจะเอามาเล่นประจำ คิดว่าบางทีเบื่อๆ เครียดๆ มันก็น่าจะพอช่วยผ่อนคลายได้ ภาจะฟังมั้ยล่ะ ผมจะเล่นให้ฟังสักเพลงสองเพลง ฟังมั้ย” เขาหันไปจ้องหน้าถามหล่อน วิภาวรรณได้แต่ส่งยิ้มแล้วพยักหน้า หล่อนคงยังคลอเคลียกระชับข้างกายเขาอยู่ แล้ววีรพลก็ยกมือข้างขวาที่โอบหล่อนปล่อยหล่อนไปวางบนตัวกีตาร์ นิ้วก็เริ่มพลิ้วไปตามสาย มือด้านซ้ายก็ขยับปรับเปลี่ยนไปตามสายตามคอร์ดตามเมโลดี้ของเพลง มันเป็นเพลงสากล เสียงสายกีตาร์กังวานใสไปตามจังหวะที่เขากรีดนิ้วลง แล้วเสียงทุ้มกังวานน่าฟังของเขาก็เริ่มเปล่งเนื้อร้องของเพลง
Whenever I'm weary From the battles that rage in my head
You make sense of madness When my sanity hangs by a thread…
..............ฯลฯ.................
Until the day The oceans doesn't touch the sand
Now and forever I will be your man, Now and forever I will be your man..ฯ
ในท่อนสุดท้าย เสียงหวานๆ ใสของวิภาวรรณก็ประสานร้องกับเขาด้วยจนเพลงจบวิภาวรรณชำเลืองตามองเขาอย่างหวานซึ้ง วีรพลกรีดนิ้วตามสายลงเป็นช่วงสุดท้ายแล้วก็หันมาสบตาหล่อนที่อยู่แนบข้างอย่างหวานซึ้งตอบ
“ไม่น่าเชื่อว่าพลจะเล่นและร้องได้เพราะแบบนี้ ภาไม่เคยเห็นพลเล่นกีตาร์สักที เพิ่งมาเห็นครั้งนี้แหละ”
“ตอนผมเรียนมัธยม อยู่กับคุณลุงผมเห็นลุงแกเล่นซึงเพราะมากเลยอยากเล่นบ้าง แต่ก็เล่นไม่ได้เพราะเหมือนคุณลุงเลย อาศัยแต่กีตาร์พอที่จะเล่นคัฟเวอร์เพลงอื่นที่เขาฮิตกันได้ ผมเล่นได้ทุกแนวนะ เพื่อชีวิต ลูกทุ่ง สากล หรือจะเอาแบบสไตล์กีตาร์ฮีโร่ เฮฟวีเมทัล ก็เล่นได้”
“พลนี่ก็อารมณ์ศิลปินเหมือนกันนะนี่ แต่ภาขอห้าม ห้ามไปเล่นกล่อมใครเป็นอันขาด” วิภาวรรณทำเสียงเล็กเสียงน้อย ออดอ้อนแกมบังคับ บอกถึงความหึงหวงหรือแกล้งเย้าเขาเล่นก็ไม่ทราบ
“ฮ่ะๆๆ อารายกัน.... แค่นี้หวงเหรอ หึหึ.... สัญญาครับ ผมจะเล่นกล่อมภาคนเดียว” แล้ววีรพลก็โน้มหน้าเข้าหาหล่อนประทับจูบที่แก้มขาวที่อาจจะยังซีดอยู่บ้าง วิภาวรรณก็เอียงแก้มรับเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม เขาช่างมีดีไปซะหมดเมื่อยามหล่อนอยู่ลำพังกับเขาทีไรเป็นต้องมีเรื่องให้หล่อนได้เคลิบเคลิ้มหลงใหลตามเขาไปซะทุกอย่าง ทำให้จิตใจวิภาวรรณแช่มชื่นขึ้น สีหน้าเริ่มมีเลือดฝาดระเรื่อ
“อืมม...ดูเหมือนอาการดีขึ้นแล้วนี่ เอ.......สงสัยผมต้องร้องเพลงกล่อมบ่อยๆซะละมั้งภาจะได้หายป่วย งั้นอีกซักเพลงนะ” วิภาวรรณได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดจาโต้ตอบ แล้ววีรพลก็ดีดสายกีตาร์เล่นอีกเพลง เป็นเพลงที่เขาเคยได้ฟังแล้วประทับใจเมื่อคราวไปร้านแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับวิทยาลัยเกษตรแม่โจ้ เขาจำชื่อนักร้องได้ว่าชื่อ ธวัชชัย ชูเหมือน เสียงของนักร้องคนนี้ทุ้มหวานจนเขาชื่นชอบและเล่นแกะเพลงตามจนคล่อง ชื่อเพลงอดีตฝัน วีรพลเล่นกีตาร์พลางร้องเพลงไปจนจบ โดยที่วิภาวรรณยังขนาบข้างกายฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม
“ทำไมเล่นแต่เพลงหวานๆ ไหนบอกว่าแนวเฮฟวี่ก็เล่นได้”
“อ้าว... ยามนี้ผมคงจะเล่นแนวนั้นไม่ได้หรอก เดี๋ยวภาจะได้โยกหัวสั่นหัวคลอน คงน่าขำพิลึก ฮ่ะๆๆๆ” วิภาวรรณได้แต่ทุบต้นแขนเขาเบาๆ กับการเหน็บแนมหยอกล้อของเขา
“อ่ะ เอ่อ....คุณภา คุณหมอคะ อุ้ย....แหม.....มาสวีทหวานกันอยู่นี่เอง”
ทั้งสองสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของปิ่น วิภาวรรรีบขยับตัวออกห่างวีรพลไปอีกศอกหนึ่งนั่งตัวตรง ปรับหน้าให้เป็นปกติเรียบเฉย
“มีอะไรครับ พี่ปิ่น”
“ตอนนี้คนงานที่จะมาทำงาน รออยู่ข้างล่างคะ คุณหมอจะลงไปพบเลยมั้ยคะ”
“อ่อ ให้เค้าขึ้นมาที่นี่เลยดีกว่า อากาศกำลังร่มเย็นดี ข้างล่างมันอบอ้าวไปหน่อย แล้วพี่ปิ่นช่วยจัดน้ำท่ามาต้อนรับด้วยนะ”
“ค่ะๆ...เด๋วปิ่นจะตามขึ้นมาให้คะ” ปิ่นหันกลับเดินลงไปด้วยใบหน้ายิ้มระรื่นแอบลอบมองวิภาวรรณที่ตอนนี้ยังหน้าปั้นยากอยู่ สักครู่คนงานที่ว่าก็ขึ้นมานั่งบนพื้นระเบียงกว้างที่ยื่นออกมานอกบ้านชั้นบน ทุกคนไหว้วีรพลกับวิภาวรรณแล้วก็นั่งพับเพียบอยู่ต่อหน้าทั้งสอง
“นั่งตามสบายเถอะครับ แล้วค่อยว่ากันเรื่องงาน”
“คุณหมอคะ นี่ ศักดิ์ ชล หาญ โต้ง และก็นี่ ประกาย คะ นี่ทุกคนนี่คือคุณหมอวีรพล เจ้าของบ้านหลังนี้ และนี่ก็คุณนายวิภาวรรณเจ้าของบ้านหลังที่ชั้นทำงานหลังโน้น” ทั้งหมดไหว้วีรพลกับวิภาวรรณอีกครั้งหนึ่งตามคำแนะนำของปิ่น วีรพลกับวิภาวรรณก็รับไหว้ตอบ ทั้ง 5 คนที่มาวันนี้ ดูจากลักษณะยังเป็นวัยหนุ่มสาวประมาณ 20 ปลายๆ ท่าทางแข็งแรงทะมัดทะแมงแต่ว่าร่างเล็ก สันทัด เมื่อเทียบกับวีรพล
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คืองี้ ผมอยากจะให้ทุกคนมาช่วยงานที่สวนของผมและก็ที่บ้าน ก็ไม่ได้ทำทุกวันหรอกครับเอาแค่อาทิตย์นึงไม่น้อยกว่า 3-4 วัน จะอยู่ประจำหรือว่าไปกลับก็แล้วแต่ทุกคนจะสมัครใจ ถ้าจะอยู่ประจำผมจะได้สร้างเรือนคนงานเพิ่มให้ ตอนนี้ผมอยากจะทำสวนกล้วยไม้ ผมมีแปลนที่ผมร่างไว้แล้ว สักครู่นะครับ” แล้ววีรพลก็เดินเข้าไปในบ้าน เดินออกมาพร้อมกระดาษแผ่นกว้างสองสามแผ่นที่ขีดเขียนด้วยปากกาเป็นเส้นลาย ดูเป็นระเบียบ
“คุณหมอคะ ทุกคนที่มานี่ส่วนมากก็ทำสวนมาก่อน แต่ว่ามีที่เนื้อที่ไม่มาก ก็เลยว่างงานกัน เรื่องทำสวนคงไม่มีปัญหา ถ้าจะให้อยู่ประจำคงจะเป็น ศักดิ์ โต้งและก็ประกายน่ะคะ ถ้าเรือนคนงานพร้อมเสร็จ ปิ่นพูดคุยก่อนหน้านี้ทุกคนก็ยินดีทำงานที่คุณหมอสั่งได้เลยคะ”
“ขอบคุณครับพี่ปิ่น อีกอย่าง ผมอยากให้พี่ปิ่นกับพี่โชค มาอยู่ประจำที่บ้าน เอ่อ. บ้านพี่ภาเลยน่ะครับ พี่ปิ่นจะพาครอบครัวมาอยู่ด้วยเลยก็ได้ ลูกพี่ปิ่นผมจะรับผิดชอบดูแลเรื่องเล่าเรียนให้เอง พี่โชคเป็นหัวหน้างานเรื่องทำสวนและหาคนขับรถให้พี่ภาสักคนหนึ่งหรือใครในนี้ขับรถได้ก็ขอไว้สักคนนึง ส่วนพี่ปิ่นกับประกายให้ดูแลงานบ้านทั้งสองหลัง ที่เหลือก็อยากจะให้ทำเรื่องสวนกล้วยไม้เป็นอันดับแรก เรื่องค่าจ้างและค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ผมจะขอมอบให้พี่ภาเป็นคนดูแลทั้งหมด เพราะพี่ภาเค้าเป็นคนดูแลบัญชีธนาคารให้ผมอยู่แล้ว เรื่องบัญชีรายรับรายจ่ายคงไม่มีปัญหา ตอนนี้ให้ประกายกับพี่ปิ่น พี่โชค อยู่บ้านพี่ภาไปก่อน แล้วทุกคนช่วยหาจ้างช่างมาทำเรือนคนงาน และก็ทำเรือนกล้วยไม้ เรือนคนงานเสร็จเมื่อไหร่ใครจะมาอยู่ประจำก็ให้บอกมา เรื่องค่าใช้จ่ายก่อสร้างทั้งหมดให้ทำบัญชีมอบให้พี่ภาดูแลนะครับ สวนผลไม้ที่เหลือเมื่อถึงฤดูก็ค่อยๆทำกันไป ไม่ต้องให้ดิบดีมากก็ได้ขอเพียงอย่าให้สวนรกเท่านั้นก็พอ จะขายหรือเก็บไว้ยังไงก็แล้วแต่ทุกคนจะเห็นว่าดีเท่านั้นแหละ งานที่ผมอยากให้ช่วยทำก็มีเท่านี้ใครจะมีอะไรซักถามเพิ่มเติมก็ได้ เชิญครับ อ้อ....และก็อีกอย่างผมอยากจะให้รื้อรั้วกั้นบ้านออกไปเลยดีกว่าผมขี้เกียจเดินอ้อมไปประตูรั้วหน้าบ้านพี่ภา เดินลัดไปบ้านพี่ภาแค่ไม่ถึงร้อยเมตรเอง พี่ภาว่ายังไงครับ”
วิภาวรรณนั่งจ้องมองวีรพลจัดแจงแบ่งงานคล่องปรื๋อ จนหล่อนเองก็แอบภูมิใจในตัวเขาไม่ได้ เมื่อตะกี้เขายังมีอารมณ์หวานโรแมนติกกับหล่อนอยู่เลย แต่พอเข้าเรื่องงานเขาก็ดูขึงขังเป็นเรื่องราว วางแผนงานได้อย่างเป็นระบบ คล่องแคล่ว ฉะฉาน เขาได้ความเป็นนักบริหารนักปกครองมาจากวีรวัฒน์แทบจะเหมือนหมด หล่อนได้แต่นั่งมองเขาอยู่ข้างๆอย่างอดปลื้มชื่นชมในใจไม่ได้ กำลังนั่งมองเขา ฟังเขาพูดไป พอเขาหันมาถามหล่อนถึงกับสะดุ้ง ปิ่นมองหน้าเจ้านายสาวเห็นท่าทางหล่อนก็แอบหัวเราะคิกคักคู่กับโชค วิภาวรรณปรับสีหน้าไม่ถูก เลิ่กลั่กๆ
“อ่ะ เอ่อ... ก็แล้วแต่คุณหมอก็แล้วกันคะ ถ้าคุณหมอว่าเหมาะภาก็ว่าตามนั้นคะ” วิภาวรรณยังตอบด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน ไม่ค่อยกล้าสบตาเขา
“แหม...คุณภา คุณหมอคิดถูกแล้วคะ ไหนๆ ก็จะเป็นแผ่นดินเดียวกันแล้ว เอารั้วออกเลยดีกว่า ปิ่นเคยบอกคุณภาแล้ว คุณหมอจะได้หมดห่วง เดินอ้อมไปประตูรั้วหน้าบ้านตั้งไกล เดินลัดไปบ้านคุณภาแค่นี้เอง ดีแล้วล่ะคะ จริงมั้ยคะ คุณหมอ...” วีรพลยิ้มพยักหน้า วิภาวรรณเหมือนโดนตอกย้ำให้เขินอายหนักเข้า ได้แต่ถลึงตาไปทางปิ่นทำปากขมุบขมิบเหมือนจะว่าอะไรสักอย่าง คนงานใหม่ 5 คนที่นั่งอยู่ต่อหน้าได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่กเพราะยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้ววีรพลก็พูดคุยซักซ้อมกับคนงานใหม่ทุกคนในเรื่องการรับผิดชอบงาน เขาให้ความเป็นกันเองพูดคุยด้วยสนุกสนาน ทำให้ทั้ง 5 คนรู้สึกสบายใจ ทีแรกนึกว่าจะต้องมานั่งหงอต่อหน้าเจ้านาย โดยทีแรกๆ ทุกคนคิดว่าเจ้าของบ้านน่าจะเป็นคนมีอายุ แต่พอมาเจอรู้ว่าเป็นหนุ่มหน้าคมสันหล่อเหลาแถมให้ความเป็นกันเอง ทุกคนก็พลอยคลายความประหม่ากลัว ทุกคนก็ต่างรับมอบหน้าที่ตามที่วีรพลสั่งแล้วทุกคนจึงลากลับ โดยจะมาทำงานในอีกสองวันข้างหน้า..........


“คุณภาจะไปบ้านคุณหมอเหรอคะ อุ้ย...ดูสิ แต่งตัวสวยหวานขนาดนี้ คุณหมอได้นอนหลับยิ้มหวานแน่ๆ ฮิฮิๆ” ปิ่นมองเห็นวิภาวรรณสวมชุดเสื้อคล้องคอสีชมพูหวานแหววเป็นเนื้อเดียวกับกระโปรงเนื้อบางละเอียด เป็นจีบพลิ้ว เป็นชุดสีสันที่วิภาวรรณชอบใส่ประจำ ยิ่งมองหล่อนในยามเย็นแสงแดดอ่อนๆ ระเรื่อแบบนี้ วิภาวรรณดูผิวขาวผ่องนวลอมชมพูสวยหวานบาดใจ ปิ่นทำตาล้อวิภาวรรณเจ้านายสาวที่สนิทคุ้นกันจนแทบจะเป็นเพื่อนหรือน้องมากกว่าแม่บ้านเสียอีก
“ก็คุณหมอบอกให้ไปนอนพักที่บ้าน คุณหมอกลัวภาจะไม่สบายเหมือนเมื่อตอนสายอีก ภาฝากให้ปิ่นเฝ้าบ้านด้วยละกัน”
“ค๊า...ไม่ต้องห่วงบ้านใกล้กันแค่นี้เอง รู้มั้ยคะคุณภา ปิ่นน่ะ อิจฉาคุณภานะเนี่ย คุณหมอเอาใจใส่ดูแลคุณภาทุกอย่างทั้งรักษาอาการป่วยทั้งร้องเพลงกล่อม แบบนี้คุณภาคงหายป่วยเป็นปลิดทิ้งแน่ๆ ยิ่งตอนนี้สั่งให้รื้อรั้วบ้านแล้ว เหมือนคุณหมอจะบอกนัยๆ ว่าไม่ช้านี้คุณภาคงไม่ต้องมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วมั้ง ฮิฮิฮิ”
“บ้าน่า.... ปิ่น นี่ก็บ้านภา ทำไมภาจะมาอยู่ไม่ได้ภาไม่ทิ้งหรอก ไม่คุยกับปิ่นแล้ว ฝากดูบ้านด้วยนะจ๊ะ ไปล่ะ” ขืนอยู่ต่อไปวิภาวรรณคงมองหน้าปิ่นไม่ติดแน่ๆ ก็ปิ่นเล่นมองตาหล่อนล้อๆ แซวๆ อยู่เรื่อย วิภาวรรณจึงตัดบทห้วนๆ เดินจากไปซะอย่างนั้น ทิ้งให้ปิ่นอ้าปากค้าง แต่แล้วหล่อนก็ได้แต่ยิ้มอย่างชื่นชมยินดีที่นายสาวใหญ่จะมีคนรู้ใจมาคอยดูแลเอาใจใส่
วิภาวรรณเดินเข้าไปหาวีรพลที่ห้องทำงานชั้นล่าง เห็นเขานั่งอ่านเอกสารที่ดูค้างไว้เมื่อตอนสาย หล่อนรีบเดินไปหาเขา
“เอาอีกแล้ว ดูจะคร่ำเคร่งกับงานมากไปแล้วมังคะ พล ไม่เอา ภาไม่ยอมแล้ว ตั้งแต่คุยกับคนงานเสร็จก็เห็นพลมาขลุกอยู่แต่ห้องทำงาน เอาไว้ค่อยดูวันหลังก็ได้ นะคะ”
“แหม...ภา ก็ไม่รู้จะทำอะไรนิ ว่างๆ ก็หยิบจับมาดูบ้างไม่เห็นเสียหาย รับรองว่าผมไม่จะไม่คร่ำเคร่งหรอกน่า ว่าแต่ภาเถอะ อาการดีขึ้นหรือเปล่า เอ..รู้สึกภาจะทำตัวเหมือนเป็นแม่ผมไปทุกขณะเลยนะ”
“พล...!!!! นี่ภาเป็นห่วงพลนะคะ ยังมาหาว่าภาจุ้นจ้านเหรอ ก็ได้คะ งั้นภาไม่รบกวนล่ะ” วิภาวรรณพูดตัดพ้อเชิงน้อยใจ เพราะคำพูดที่ว่า “เป็นแม่” มันรู้สึกจะจี้หัวใจหล่อนมาก หันกลับกำลังเดินออกจากห้องทำงานของเขา ก็รู้สึกถึงร่างกำยำใหญ่สูงโปร่งตามมารวบกอดรั้งไว้
“ไม่เอาน่า ภา... ผมขอโทษ ผมไม่ได้ว่าภาจุ้นจ้านหรอกนะ ขอบคุณด้วยซ้ำที่เป็นห่วง ผมแค่ไม่อยากอยู่ว่างๆ น่ะ อีกนิดเดียวก็จะอ่านหมดแล้ว อย่าโกรธเลยน่า เดี๋ยวจะไม่สบายอีกนะ อืมม... ผมก็ลืมไปเลย พรุ่งนี้ภาไปโรงพยาบาลกับผมนะ เดี๋ยวผมจะขอตรวจให้ละเอียดว่าภาเป็นอะไร จะได้หายกังวลซะที ที่นี่เครื่องมือผมไม่ได้ติดมาด้วย”
“ภาเป็นห่วงพลนี่คะ อยากให้พลพักสบายๆ บ้าง ตอนนี้พลมีแต่เรื่องให้คิดหนัก ถึงภาจะไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องอะไรบ้าง ภามองตาก็รู้ว่าพลมีหลายเรื่องที่ยังกลุ้มอยู่ แค่นี้ภาก็อดห่วงไม่ได้แล้ว แล้วยังจะต้องมารับงานหลายอย่าง เดินทางไปโน่นมานี่จนแทบไม่ได้พักผ่อน เรื่องตรวจสุขภาพของภา คุณหมอธรณ์เขาแอดฯ รับภาไว้เป็นคนไข้แล้วคะ เขาไม่อยากให้พลรับภาระหลายอย่าง ภาก็เห็นด้วย ให้คุณหมอธรณ์เขาดูแลเรื่องสุขภาพภาก็ได้คะ พลแค่รับฟังผลจากคุณหมอธรณ์ก็พอ นะคะ ภาไม่เป็นอะไรมากหรอก ไม่ต้องห่วง”
“ไม่ห่วงได้ยังไง นี่ภาเป็นลมมา 2-3 ครั้งแล้วนะ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถจะดูแลคนรักของตัวเองได้ ผมยิ่งไม่สบายใจ ถ้าภาเป็นอะไรไปโดยที่ผมไม่รู้ไม่ได้มีส่วนในการดูแล ตกลงครับเอางั้นก็ได้ เอาเป็นว่า....เดือนนี้ผมจะไม่ไปกรุงเทพฯ อีกแล้ว จนกว่าจะแน่ใจว่าภาไม่เป็นอะไรมาก และงานเอกสารผมจะให้ภาช่วยดูให้ มีอะไรเพิ่มเติมผมจะให้พี่ผ่องส่งงานมาให้ดูและคุยทางโทรศัพท์ก็พอ ภาสบายใจหรือยังครับ” เขายังโอบกอดวิภาวรรณจากด้านหลังพูดอยู่ข้างหูหล่อนกระชับร่างโอนเอนไปมาเป็นการปลอบโยนเอาใจ วิภาวรรณหันกลับมาประจันหน้าเขาส่งยิ้มถึงแม้จะดูซีดๆ เนือยๆ แต่ก็เริ่มดูดีขึ้นมาก
“คะ ขอเวลาให้ภาอีกสักระยะนะคะ ขอทำเรื่องร้านให้เสร็จ ภาจะมอบหมายให้ก้อยเขาดูแลเองทั้งหมด และก็เรื่องตัวแทนจำหน่ายร้านที่จะไปหาทำเลที่กรุงเทพฯ ภาจะทำหน้าที่แค่วางแผนขยายการตลาดก็พอ จากนั้นภาจะเคลียร์งานทุกอย่างและลาออกจากธนาคารมาช่วยงานพลที่บ้านคะ ภาไม่อยากเห็นพลต้องมารับภาระคนเดียวอีกแล้ว”
“ขอบคุณครับ ภา ได้ยินอย่างนี้ชื่นใจจัง ที่รัก รอให้ภาเคลียร์งานทุกอย่างหมด ผมจะพาไปกรุงเทพฯ ไปดูที่บ้านและที่ทำงาน ผมจะได้วางแผนงานให้ภาช่วยทำ ผมกะว่าเมื่อบริหารบริษัทจนอยู่ตัวแล้ว ยัยมีนโตพอที่จะรับช่วงต่อได้ ผมจะยกให้น้องทั้งหมดแล้วเรามาอยู่ที่นี่กันพ่อแม่ลูกอย่างที่ผมฝันไว้ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรอีก ดีมั้ยครับ ภาจ๋า”
วิภาวรรณมองหน้าเขาอย่างซาบซึ้ง สวมกอดเขาแน่น แค่ชีวิตนี้มีเขาอยู่เคียงข้าง หล่อนก็จะไม่ขออะไรอีกแล้ว แล้ววีรพลเดินไปเก็บเอกสารจัดเข้าระเบียบ ปิดไฟห้องทำงานแล้วเดินมาประคองวิภาวรรณขึ้นชั้นบน
“ไปเถอะ วันนี้ผมจะเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกล่อม หรือจะเอาสไตล์เฮฟวี่เมทัล ดีล่ะ โยกหัวให้มันหลุดไปเลย ฮ่ะๆๆๆ”
“ไม่เอา....ขอแบบคลาสิคๆ หวานๆ ดีกว่า จะได้นอนหลับสบาย ขืนเล่นเฮฟวี่ ภาปวดหัวมากกว่าเดิมแน่คะ” แล้วทั้งสองก็ประคองกันเข้าห้อง ประสานเสียงร้องเพลงไปเรื่อย จนดึก ต่างพากันหลับผล๊อยอยู่ในอ้อมกอดกันและกัน.........


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #14 on: June 02, 2013, 08:56:16 pm
สองวันต่อมาวิภาวรรณก็ได้รับนัดหมายจากธนธรณ์เข้าตรวจอาการที่โรงพยาบาลตอน บ่าย 2 โมง แพรวาก็อาสาไปเป็นเพื่อน วิภาวรรณเลยแกล้งเย้าว่าที่อาสาไปด้วยนี่ไม่อยากไปเป็นเพื่อนหรอกมั้ง อยากไปหาคู่หมั้นมากกว่าแพรวาก็หัวเราะยอมรับในที เมื่อไปถึงโรงพยาบาลวิภาวรรณก็ชะเง้อมองหาวีรพลก็ไม่พบ ธนธรณ์บอกว่าวีรพลออกไปนอกโรงพยาบาลมีคนไข้พิเศษระดับข้าราชการชั้นสูงให้ไป ดูอาการโรคหัวใจฉุกเฉิน วิภาวรรณเข้าห้องตรวจโดยมีแพรวาอยู่ด้วยเมื่อธนธรณ์ตรวจอย่างละเอียดได้ผล ตรวจออกมาแล้วก็บอกกับวิภาวรรณ
“ธรคะ แพรด้วย พี่ขอร้องอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับพลนะคะ ถ้าพลจะรู้เรื่องนี้พี่จะเป็นคนบอกเขาคนแรกเอง ได้มั้ยคะ”
“พี่ภาคะ แล้วพี่ภาคิดว่าจะปิดเรื่องนี้ได้นานขนาดไหน พี่พลก็เป็นหมอ สักวันพี่พลก็รู้อยู่ดี พี่ภาเองก็นับวันอาการมันก็ยิ่งจะฟ้องนะคะ”
“นั่นสิครับ อีกไม่นาน สักวันพลมันก็จะได้รู้อยู่แล้ว”
“เอาเถอะคะ พี่ขอร้องอย่าเพิ่งบอกกับพลเลย พี่ไม่อยากให้พลเค้าต้องมาห่วงกังวลกับพี่ ตอนนี้เค้าก็วุ่นวายมากพอแล้ว เมื่อถึงเวลาพี่จะเป็นคนบอกเอง สัญญาได้มั้ยคะ คุณหมอ แพร?.. แล้วเอกสารผลตรวจทั้งหมดขอพี่เก็บไว้เอง เมื่อถึงเวลาพี่จะบอกพลเค้าเอง”
“เอางั้นก็ได้ครับ ผมจะไม่บอกพล น้องแพรด้วยนะ ถือว่าพี่เค้าขอร้อง นี่ครับพี่ภา เอกสารทุกอย่าง เรื่องยาเดี๋ยวผมจะจัดให้เองแล้วจะฝากแพรเอาไปให้ทุกสัปดาห์นะครับ ถ้าผมสั่งผ่านแผนกจ่ายยา เดี๋ยวพลมันจะรู้เสียก่อน มันอาจจะโกรธผมที่ปิดบังเรื่องนี้กับมัน ผมโดนมันต่อยหน้าแหกแน่ๆ พี่ภาก็พยายามรักษาสุขภาพให้ดีกว่าเดิมนะครับ มีอะไรผิดปกติรีบติดต่อผมได้ตลอด”
“ช่ายๆ ช่วงนี้พี่พลเขาก็แทบไม่มีเวลา ถ้าจะมาห่วงกับอาการป่วยพี่ภาอีก เดี๋ยวพี่เขาจะเป็นทุกข์กังวลไปด้วยเปล่าๆ แพรสัญญาว่าจะไม่บอก”
“ขอบคุณทั้งสองนะคะ แล้วนี่เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้วเหรอคะ งั้นเรากลับกันเถอะ”
“รออีกหน่อยก็ได้ครับพี่ภา นี่ก็จะ 4 โมงแล้ว ไปพักดื่มน้ำคุยกันที่ห้องพักของผมก่อนก็ได้ จะได้ให้พลมันรับพี่กลับที่นี่เลย มันไปตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว น่าจะกลับถึงโรงพยาบาลแล้วล่ะ พี่ภาก็โทรสั่งงานที่ธนาคารไปเลยดีกว่า”
“เอางั้นก็ได้คะ”
ทั้งสามก็นั่งคุยกันที่ห้องทำงานส่วนตัวของธนธรณ์กับวีรพล สักพักวีรพลกลับเข้ามา พอเจอทั้งสาม วีรพลก็รีบถามถึงผลตรวจทันที
“ผลเป็นไงมั่ง ธร ภาเป็นอะไร”
“อ่ะ เอ่อ...คือ...” ธนธรณ์คิดหาคำพูดไม่ออก อึกๆ อักๆ ติดอ่างอยู่
“แค่เลือดจางเท่านั้นแหละคะพล กินยาบำรุงเลือดพักผ่อนให้มากว่าเดิมก็ดีขึ้นแล้วคะ” วิภาวรรณเห็นท่าว่าธนธรณ์จะไปไม่รอดก็เลยชิงตอบไปก่อน แพรวาเองก็คันปากยิบๆ อยากจะตอบแต่ก็ยังหาคำตอบกลบเกลื่อนไม่ได้ ทำได้แต่พยักหน้าคล้อยตามวิภาวรรณ
“เออ ชะ...ชะ....ช่ายๆๆ ชั้นจัดยาให้พี่ภาไปแล้วล่ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกน่า สบายใจได้เพื่อน ชั้นขอรับรองด้วยเกียรติของหมอ และในฐานะที่เป็นเพื่อนแก” ธนธรณ์ก็รีบเสริมทัพเข้าไปอย่างตะกุกตะกัก
“ฟู่ววว.....ค่อยโล่งอก ภาน่ะ....ว่าแต่ผมทำงานไม่ยอมพักผ่อน ตัวภาเองก็นอนน้อยเหมือนกันล่ะน่า เห็นมั้ย ดูสิสีหน้าดูซีดๆ อยู่เลย ต่อไปนี้ต้องพักผ่อนให้มากๆ แล้วล่ะ งานอย่างอื่นที่ให้คนอื่นทำแทนได้ก็ให้เขาทำไปเถอะ เข้าใจมั้ยครับ”
“ค๊า.....เข้าใจแล้วค่ะ อืม....วันนี้เราอยู่พร้อมหน้ากัน ภาว่าเราออกไปทานอาหารนอกบ้านสักครั้งน่าจะดีนะคะ ภาเป็นเจ้ามือให้เอง” วิภาวรรณออกความเห็นชักชวน แพรวาก็พยักหน้ายิ้มรับอย่างดีใจ ธนธรณ์ก็ผงกหัวเบาๆ เชิงเห็นด้วย
“อย่าเลย ภาอาการยังไม่ดีเท่าไหร่ ผมว่าเรากลับไปทานที่บ้านน่ะดีแล้ว ไม่รู้ที่ร้านอาหารจะมีอาหารแสลงหรือเปล่า เกิดป่วยขึ้นมาอีก เสียชื่อเป็นแฟนหมอหมด อีกอย่างวันนี้เรานัดคนงานใหม่ไม่ใช่เหรอ จะได้ไปจัดหาห้องพักให้เขาด้วยไง” วีรพลชิงพูดปัดไปก่อน ทำเอาวิภาวรรณและอีกคู่หน้าเจื่อนลง ทุกคนก็พยายามพูดโน้มน้าวเป็นประชาธิปไตยเอาเสียงส่วนมากแต่วีรพลก็ยังยืน กระต่ายขาเดียวแบบเผด็จการอยู่เหมือนเดิม
“โอเคๆ..... ผมว่าเรากลับบ้านก็ดีเหมือนกัน พลมันคงชอบอาหารที่บ้านมากกว่า สงสัยพี่ภานี่มีเสน่ห์ปลายจวัก ทำกับข้าวแกงเผ็ดแกงป่าหรือว่าขนมเค้กคงอร่อยถูกใจ พลมันเลยไม่อยากไปกินข้าวนอกบ้าน ฮ่ะๆๆๆ อุ้บ.” ธนธรณ์พูดไปเรื่อยเปื่อยด้วยความคะนองปากไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรออกไปจึงงับปากปิดสนิทแต่คงช้าไปแล้ว วิภาวรรณหน้าแดงก่ำแอบเอื้อมมือไปหยิกสีข้างวีรพลที่นั่งเคียงข้างจนวีรพล สะดุ้งโหยง แพรวาก็เพิ่งนึกออกว่าคืออะไร เห็นอาการวิภาวรรณหน้าแดงแล้วหยิกวีรพลแก้เขิน ก็อดกลั้นหัวเราะไม่ได้ แล้วทั้งสี่คนก็พากันจับควงคู่แยกย้ายกันขึ้นรถกลับบ้าน
พอรถวิ่งออกได้สักพักวิภาวรรณเงื้อกำปั้นซัดหมัด เข้าที่อกที่ไหล่ของวีรพลที่กำลังขับรถอยู่รัวเป็นชุด
“นี่แน่ะๆ คนผีทะเล กินที่ในลับแล้วยังเอาไปไขในที่แจ้ง”
“โอ๊ยยๆๆ.. ภา อะไรกันนี่ ผมไม่เข้าใจ”
“ไม่ต้องมาทำไก๋เลย พลไปเล่าอะไรให้ธรเค้าฟัง เค้าถึงได้มาพูดแซว ทำหน้าล้อเลียนภา จนภาอายเค้าไปหมดแล้ว”
“เอ๋...นี่ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย เค้าแซวอะไร”
“ก็เค้าพูดเรื่องขนมเค้กอะไรนั่น แล้วยังพากันหัวเราะล้อภาอีก พลอย่าทำเป็นไขสือหน่อยเลย คนบ้า คนอะไรไม่รู้จักอายบ้าง หึ....”
“อ๋อ ฮ่ะๆๆๆ”
“แน่ะ....ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก นี่แนะๆ...” แล้วก็รัวกำปั้นทุบเขาอีกชุดใหญ่ วีรพลได้แต่บิดกายยกแขนปัดป้องเล็กน้อย เพราะตายังจ้องมองทาง มือยังจับพวงมาลัยอยู่
“ภา ผมขับรถอยู่นะ เดี๋ยวก็รถคว่ำกันพอดี เจ้าธรมันก็พูดของมันไปเรื่อยเปื่อย มันไม่ได้รู้เรื่องอะไรสักอย่าง แล้วนี่ภาจะอายมันทำไม เอ...หรือว่า คำว่าขนมเค้กเนี่ย ภาคิดไปถึงแต่เรื่องนั้นเรื่องเดียวเหรอ ฮ่ะๆๆๆ โอ้ยยๆๆ....พอแล้วคร้าบบ ผมจะระบมไปทั้งตัวแล้วเนี่ย” โดนหนักเข้าวีรพลต้องชะลอความเร็วลง แล้วก็จอดรถอยู่ข้างทาง วันนี้ท่าทางดูเขาจะอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อ 3-4 วันก่อนหน้านี้มาก เขาคงยังอดหัวเราะไม่ได้ ทางด้านวิภาวรรณยังคงทำหน้างอค้อนขวับๆ อยู่หลายที พอหยุดหัวเราะวีรพลก็หันหน้ามามองเปลี่ยนสีหน้าไปอีกแบบ เอื้อมมือมาลูบไปหน้าวิภาวรรณเบาๆ
“ภาไม่เป็นอะไรแน่นะ วันก่อนเห็นหน้าซีดเป็นไก่ต้ม กลัวจะทำงานไม่ไหว อืมมม.......แต่ก็ดีเหมือนกันนะ ผมจะได้มีข้ออ้างให้ภามาอยู่กับผมแล้วจะได้ร้องเพลงกล่อมก่อนนอน มีความสุขดีออก อย่างน้อยตอนนี้ผมก็จะพอมีเวลาได้อยู่กับภาอย่างใกล้ชิด ถึงจะมีงานมากขนาดไหนก็ตาม รู้มั้ย ภาน่ะคือแรงใจของผมเลยนะ แค่ทำงานเหนื่อยๆ กลับมาบ้านได้เห็นภรรยาหน้าหวานยิ้มรับทำกับข้าวให้ทาน ผมก็มีกำลังใจพร้อมจะมีชีวิตต่อไปในวันรุ่งขึ้นแล้ว” เขาพูดไปพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับวิภาวรรณเหมือนกับจะเป็นการเอาใจที่ทำให้ หล่อนงอนตุ้บป่องอยู่เมื่อครู่ แค่ได้ยินคำพูดเขากับใบหน้าที่ยิ้มแย้มส่งให้หล่อน วิภาวรรณก็เปลี่ยนอารมณ์จากที่ทำงอน หันหน้าไปสบตามองเขาอย่างหวานซึ้ง ปลดเข็มขัดนิรภัยเอียงกายเข้าไปซบเขาได้ครู่ใหญ่
“ออกรถเถอะคะ” วิภาวรรณขยับคาดเข็มขัดนิรภัยไว้แล้วนั่งตัวตรงดังเดิมอีกครั้ง วีรพลก็เข้าเกียร์แล้วค่อยๆ ออกรถไปอย่างไม่รีบร้อน วิภาวรรณก็หันชำเลืองมองหน้าเขานิ่งนานอยู่หลายครั้งวีรพลเองก็สังเกตเห็น ขนาดประกาศตัวยอมรับเป็นแฟนกันแล้ว วีรพลเป็นผู้ชายแท้ๆก็ยังรู้สึกเขินๆ ที่ถูกจ้องเอาๆ แบบนี้
“มีอะไร เห็นมองหน้าผมบ่อยจัง มันหล่อน่ามองขนาดนั้นเลยเหรอครับ ฮ่ะๆๆ” พูดไปก็หัวเราะแก้เขินไป วิภาวรรณก็ยังจ้องมองเขาแทบไม่กระพริบตา ยามที่เขาเขินอายทำเหมือนเด็กๆก็ยิ่งเหมือนเพิ่มเสน่ห์ของเขาเพิ่มไปอีก ขณะที่รถวิ่งไปตามถนนที่โอบล้อมด้วยภูเขาเล็กๆ ป่าไม้ครึ้มร่มรื่นตลอดสองข้างทาง
“พลคะ ขับไปจอดตรงข้างทางแยกด้านหน้าก่อนสิคะ” วีรพลขมวดคิ้วสงสัย แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าวิภาวรรณคิดทำอะไร เพราะทางแยกที่ว่ามันเป็นทางแยกเล็กๆ เหมือนเป็นทางแยกเข้าสวนของชาวสวน แต่คงนานๆ จะมีคนเข้าออกสักที บริเวณแถวนั้นเงียบสงัด ปลอดคน วิภาวรรณให้เขาเลี้ยวออกนอกทางเข้าทางแยกห่างจะถนนใหญ่พอสมควรก็ให้หยุดและ ดับเครื่องยนต์ วีรพลยังคงขมวดคิ้วทำหน้างง มองไปที่วิภาวรรณเห็นหล่อนยิ้มมองซ้ายทีขวาทีไปรอบๆ รถ แล้วก็หันกลับมามองที่เขาส่งยิ้มแบบแปลกๆ สายตามีประกาย กัดฟันบนขบกับฝีปากล่างเผยอยิ้มหน่อยๆ
“มีอะไรเหรอครับ???” วิภาวรรณไม่ตอบ แต่ขยับตัวปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วโน้มตัวข้ามคันเกียร์รถที่กั้นระหว่างสอง เบาะหน้า สองมือประคองหน้าเขาแล้วประกบจูบอยู่เนิ่นนาน แรกๆ วีรพลไม่ทันตั้งตัวแต่พอสักพักเขาก็จูบตอบกับหล่อน วิภาวรรณไม่จูบเปล่า มือข้างหนึ่งลดจากใบหน้าเขาไล่ต่ำลงไปที่ตรงกลางแก่นกายของเขาลูบไล้หน้า เป้ากางเกงไปมา วีรพลรู้สึกว่าหน้าท้องตัวมันจะเริ่มแขม่วเกร็งขึ้นมาทันที ท่อนกลางแก่นกายเริ่มจะมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมาต่อการลูบไล้ส่วนนั้น มือวิภาวรรณค่อยป่ายปะควานหาหัวเข็มขัดแล้วค่อยๆปลดออกจับซิปกางเกงรูดลง แล้วก็ควานเข้าไปผ่านขอบกางเกงในของเขา แล้วก็ลูบขยับไปมา ตอนนี้ทั้งตัววีรพลเริ่มจะร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งๆ ที่เครื่องปรับอากาศในรถก็ทำงานเย็นฉ่ำ อากาศในยามนี้ก็เริ่มเย็นลงแล้วด้วย วิภาวรรณทั้งจูบเขาแบบเร่าร้อน อ้าปากส่งปลายลิ้นเข้าปากวีรพลแล้วตวัดไปมาหยอกเย้ากับลิ้นเขาอยู่ในโพรงปาก แล้วก็ค่อยดูดดุนไปเรื่อย ส่วนมือก็ยังคงลูบไล้กระตุ้นความรู้สึกเขาอย่างมากแล้วก็ค่อยๆ ควักเจ้าแท่งเนื้ออวบใหญ่ที่ตอนนี้มันชักจะเริ่มคับกางเกงในแล้วออกมาจับบีบ รูดขึ้นลง วีรพลได้แต่ครางอยู่ในลำคอ แล้ววิภาวรรณก็ถอนจูบชักตัวถอยกลับ มองหน้าเขาด้วยสีหน้าหยาดเยิ้มชวนฝัน
“อะไรนี่ ภา??....” “เฉยๆ สิคะ” หล่อนบอกเขาเม้มปากเป็นเส้นตรงทำตาดุแต่ดูปนยิ้มในที แล้ววิภาวรรณก็โน้มตัวเข้ามาอีกครั้งแต่คราวนี้มุ่งลงไปที่ตักเขาพยายามจะ ดึงขอบกางเกงรูดออกเพื่อให้จับท่อนลำลึงค์ได้ถนัด วีรพลก็เลยปลดเข็มขัดนิรภัยออกโหย่งตัวจับรูดกางเกงลงไปอีกพร้อมทั้งกางเกง ในไปอยู่ประมาณครึ่งขา วิภาวรรณก็คว้าท่อนเนื้อเอ็นที่โผล่เผยโฉมเป็นลำเขื่องกำรูดเบาๆ แล้วก็ใช้ปากอมรูด ผงกหัวขึ้นลงได้ยินแต่เสียงหายใจของหล่อนกับเสียงครางฮือเบาๆ วีรพลไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนถึงกับเกร็งกาย หายใจฟืดฟาดแรง ไม่เป็นจังหวะ ทำอะไรไม่ถนัด มือก็ได้แต่ลูบหัววิภาวรรณ อีกข้างก็ลูบไปตามแผ่นหลัง วิภาวรรณก็ใช้ปากอ้าอมท่อนรักของเขาอย่างถึงกึ๋น หล่อนอ้าอมจนมิดลำแล้วค่อยๆ เม้มปากดูดรูดขึ้นขณะที่มือก็รูดลำลงสวนทางจนหนังหุ้มถูกรูดลงสุดคอหยัก เมื่อเจ้าหัวชะโดตัวใหญ่พ้นจากฝีปากก็โดนปลายลิ้นฉกตวัดเลียเข้าที่ปลาย วีรพลถึงกับแขม่วหน้าท้องเกร็งเชิดหน้ายิงฟันพร้อมทั้งขบกรามดังกรอดๆ
“ภาจ๋า ผมจะไม่ไหวแล้ว นี่ภาทำผมเซอร์ไพร้ส์มากเลยนะนี่”
วิภาวรรณหยัดกายลุกขึ้นนั่ง ริมฝีปากหล่อนฉ่ำเยิ้มไปหมด ผมเผ้าที่ยาวสลวยเป็นระเบียบก็เริ่มจะรุงรังไปนิดถึงแม้จะมีที่คาดผมที่วีร พลซื้อให้คาดไว้อยู่ก็ตาม หล่อนเผยอยิ้มแล้วตวัดลิ้นเลียไปรอบริมฝีปากอย่างที่วีรพลไม่เคยเห็นมาก่อน ว่าคนรักที่แสนจะอ่อนหวาน ดูเธอคราวนี้มันช่างยั่วยวนบาดใจไปหมด
“ก็ภาอยากทำให้ที่รักเซอร์ไพร้ส์นิคะ เราไปนั่งเบาะหลังกันดีกว่าคะ มาสิคะที่รัก จะมีเซอร์ไพร้ส์กว่านี้” พูดเชิญชวน ยิ้มเย้ายวน เลิกคิ้วแบบท้าทาย หล่อนเปิดประตูรถออกไปแล้วไปยังประตูหลัง วีรพลกดปลดล้อคประตูแล้วก็ขยับออกตามหล่อนไปที่ประตูหลังอีกด้านตรงข้ามกัน ทั้งๆ ที่ยังเก้ๆ กังๆ เพราะกางเกงมันถูกรูดลงไปครึ่งขา ค่อยๆ รั้งขอบกางเกงขึ้นเปิดประตูหลังเข้าไปนั่งบนเบาะหนังชนิดดีเยี่ยมราคาแพงสี เปลือกไข่ออกเหลืองจางๆ
“ภาวันนี้มีอะไรเนี่ย ถึงได้ทำแบบนี้”
“ก็แค่อยากให้ที่รักได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เราไม่ได้มีอะไรกันหลายวันแล้ว ภาอยากให้พลได้ผ่อนคลายบ้าง อย่าถามมากเลยคะ” แล้ววิภาวรรณก็เข้าโน้มคอเขาประกบจูบอีก คราวนี้วีรพลตั้งตัวติดก็ตอบรับอย่างรู้ใจ วิภาวรรณจูบเขาไปด้วย และก็ค่อยๆขยับตัวไปนั่งทับบนตักเขา วีรพลก็ช่วยรั้งขอบกระโปรงที่ยาวเลยเข่าลงไปสักสองสามนิ้วรูดขึ้นจนถึงเอว เพื่อให้หล่อนได้ขยับถ่างขานั่งคร่อมทับเขาได้ถนัดอย่างรู้อกรู้ใจกันเป็น อย่างดี ทั้งคู่ต่างคลุกเค้าใบหน้าจูบกันอย่างดูดดื่ม วิภาวรรณค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อสูทที่ใส่ทับด้านนอกแล้วถอดออกทิ้งไปทางด้านหลัง คงเหลือแต่เสื้อซับในสีขาวบางจนมองเห็นบราเซียที่มันห่อหุ้มเนินอกกลมกลึง เป็นเต้างามไว้ วีรพลก็เลาะเม็ดกระดุมเสื้อซับในตัวนั้นออกไปจนหมดแล้ววิภาวรรณก็ถอดซับใน ตัวนั้นทิ้งตามเสื้อสูทไป คงอวดแต่บราที่มันรั้งเต้าจนอวบอัดกลมกลึง ทั้งคู่เหมือนกับทำงานเป็นทีมเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดี วีรพลอดใจไม่ไหวรีบคว้าหมับที่เต้ากลมบีบเค้น ปากก็พรมจูบสลับเต้านมซ้ายขวา วิภาวรรณก็แอ่นอกสู้การเล้าโลมของเขา สะโพกก็ส่ายร่อนจนแท่งเนื้อเอ็นที่แข็งโด่เสียดสีอยู่ตรงหว่างขาไปตามหน้าขา ของวิภาวรรณ ปล่อยให้เขาเม้มดูดนมจนหนำใจแล้ว วิภาวรรณก็ตวัดแขนข้างหนึ่งไปข้างหลัง คว้าลำเขื่องของหมอหนุ่มกำรูดเล่น พร้อมทั้งโยกส่ายตัวเองให้เสียดสีกับเขาไปเบาๆ บรรยากาศตอนนี้เริ่มอบอ้าวมากขึ้น วีรพลเองยังมีอาภรณ์อยู่ครบคงมีแต่กางเกงที่ถูกถอดรูดลงไปครึ่งขาเหมือนตอน นั่งเบาะหน้า เขาจึงกดปุ่มกระจกไฟฟ้าให้บานกระจกเลื่อนลง วิภาวรรณหยุดนิ่งไปสักพักมองหน้าเขาด้วยรอยยิ้มหวาน
“เป็นไงคะ พ่อนักกีตาร์ยอดรัก ตื่นเต้นมั้ยคะ” หล่อนถามเขาเสียงหวานจ๋อย
“มากๆ เลย ผมไม่คิดว่าภาจะกล้าทำแบบนี้”
“คิคิคิ ภาก็เพิ่งครั้งแรกเหมือนกันคะที่ทำแบบนี้ บอกแล้วไงคะว่ามีเซอร์ไพร้ส์”
แล้ววิภาวรรณก็กระโหย่งตัวยืนเข่าที่คร่อมทับตักชายหนุ่มต่างวัยหวานใจของ หล่อน หล่อนค่อยๆ จับขอบกางเกงชั้นในที่เหลืออยู่แหวกออกเบี่ยงไปข้างหนึ่งแล้วใช้นิ้วคลึง ขยี้ร่องแคมสวาทของตัวเองจากนั้นก็จับลำลึงค์อวบใหญ่ตั้งให้ตรงแล้วหย่อน กายลงอย่างละเมียดมันค่อยมุดเข้าไปอย่างช้าๆ วิภาวรรณส่ายร่อนสะโพกไปด้วย แอ่นอกเบียดกับใบหน้าเขาไป ใบหน้าหล่อนเชิดหลับตาพริ้ม เผยอปากครางซี้ด วีรพลนั่งพิงติดเบาะอยู่ได้แต่กัดฟันซี้ดปากด้วยความเสียวซ่าน แล้วก็เอามือมาประคองใบหน้ารูปไข่ขาวนวลที่เริ่มจะแดงก่ำไปหมดแล้ว ดึงเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อน ได้ยินแต่เสียงทั้งคู่ครางในลำคอ วิภาวรรณบดส่ายเอวและสะโพกซ้ายขวาขึ้นลงบดบี้กับแก่นกายของคนรักพลิ้วไหว เป็นลอนคลื่นปานนักเต้นไร้กระดูก ไม่ได้เร่งร้อน ช่างเป็นภาพที่เย้ายวนชวนฝันยิ่งนัก หล่อนทำไปอย่างเนิบนาบช้าๆ แต่คนที่แทบจะคลั่งตายคือวีรพล ยิ่งหล่อนทำช้าๆ เท่าใด ความกระสันของเขาก็ยิ่งเพิ่มทวี ตอนนี้เขายังไม่สามารถควบคุมจังหวะได้ จึงปล่อยให้แม่สาวใหญ่หน้าหวานบรรเลงเพลงรักเพลงสวาทไปในรูปแบบสโลวๆ
“ภาจ๋า อูย......ผมแทบจะไม่ไหวแล้วนะ ทำไมวันนี้ภาไม่เร่งรีบเลย นี่เราจะกลับถึงบ้านค่ำมืดนะ อ่ะ...อา....อูยย.....ภาจ๋า”
“จะรีบไปไหนคะที่รัก เรามามีความสุขกันดีกว่า อ่ะ...อูยยยยย....อยู่เฉยๆ ภาจะทำให้พลเองนะคะ อาาว์...ท่อนของพลมันเข้าจนมิดลำ คับแน่นไปหมดเลยที่รัก อูย.....ซี้ดดดดดส์” หล่อนยังคงร่อนส่ายสะโพกบดร่างของชายคนรักอย่างนิ่มนวล แต่เริ่มจะหนักแน่นขึ้นเรื่อย เพราะหล่อนค่อยๆ แอ่นก้นขึ้นสูงจนขอบแคมโยนีที่อ้าอมท่อนเขื่องแทบจะสุดปลายลำแล้วกดลงยวบ ท่อนของวีรพลก็ถูกกลีบแคมคาบอมไปจนมิด มองเห็นร่องแคมของหล่อนแทบปริถึงรูก้นด้วยความอวบใหญ่ของมัน
“อูววว...ภาจ๋า ผมเสียวไปหมดแล้ว เมียจ๋า....อาาว์” วิภาวรรณไม่ได้ตอบได้แต่ส่งยิ้มและส่งเสียงหัวเราะในลำคอแหลมเล็ก หล่อนเอาใบหน้าเคลียคลอหน้าวีรพลไปมา ผมเผ้าสยายปรกใบหน้าเขาไปหมด วีรพลค่อยๆ หาทางขยับกายแล้วคว้าสองมือไปโอบที่สะโพกกลมกลึงรั้งไว้ พอได้จังหวะเขาก็เริ่มออกกำลังบั้นเอวเด้งสวนแต่ก็ไม่ได้เร็วอย่างที่เขา อยากทำได้นัก แต่ก็หนักหน่วงพอดูเพราะไม่ถนัด ขาเขายาวเก้งก้าง ตอนนี้มันไม่สามารถเหยียดออกได้สุดเพราะติดเบาะหน้า
“พลจ๋า ภาแน่นรูไปหมดเลย อูยย.....ที่รัก....ของพลมันอวบใหญ่คับแน่นของภาไปหมดเลย ที่รักจ๋า...อุ้ย.....อย่าเพิ่งกระเด้งแรงสิคะ ภาก็เสียวสยิวเหมือนกัน”
วีรพลก็แปลกใจเหมือนกันว่าแม่สาวใหญ่หวานใจของเขามาไม้ไหนกันแน่ ปกติที่ผ่านมาถึงขึ้นนี้แล้ว คำหยาบโลนหลุดออกจากปากอวบอิ่มเย้ายวนนั้นแทบนับไม่ทัน แต่คราวนี้มาในแบบคำเรียบๆ สำเนียงก็ออดอ้อนหวานหู แต่ก็ทำให้เขาเสียวกระสันไปอีกแบบ แล้ววิภาวรรณก็ถอนกายออกไปนั่งอยู่ข้างกายเขาเกี่ยวรั้งให้เขาขยับมาทาบตัว หล่อนบ้าง วีรพลสุดจะกลั้นความรู้สึกตั้งนานแล้วเขารีบถอดกางออกหมดแล้วทิ้งไว้บนเบาะ พอได้จังหวะที่เขาจะคุมเกม ก็จับสองขาที่ขาวนวลผ่องเนียนไปทั้งช่วงขา เพราะหล่อนใส่ถุงน่องอยู่ด้วยแบะแยกออกเล็กน้อยพอที่เขาจะแทรกร่างไปตรง หว่างขาได้แล้วยกดันให้โย้ไปข้างหน้าจนหัวเข่ามันแนบหน้าอกวิภาวรรณ แต่กระนั้นวีรพลก็ขยับตัวไม่ค่อยถนัด เพราะว่าตัวเขาสูงใหญ่ แค่เขายันย่อเข่าไว้ที่ขอบเบาะหลัง หัวเขาก็ชนกับหลังคารถแล้วจึงต้องโก่งตัวโน้มไปหาวิภาวรรณที่ตอนนี้อยู่ใน ท่าตัวงอแทบจะเป็นกุ้งทีเดียว คราวนี้หล่อนไม่มีทางขยับตัวได้ถนัด วีรพลก้มมองตรงหว่างขาวิภาวรรณเห็นร่องแคมแบะอ้าเล็กน้อยท้าทายเจ้าชะโด ยักษ์ของเขาอยู่ ตรงร่องหลืบมีน้ำเมือกใสๆ เยิ้มออกมา เขาก็จรดจ่อปลายท่อนรักแล้วจับรูดเอาหัวบานหยักถูเล่นหน้าปากถ้ำไปมา
“อ่ะ...โอย......ที่รักขา.....ยัดใส่เข้าไปสิคะ ภารอให้พลยัดเข้าไปจนทนไม่ไหวแล้ว จะทำอะไรก็ทำเถอะ พลจ๋า อูยย....อย่างนั้นแหละคะ อืมม....มันแน่นไปหมด อูยย.....พลจ๋า”
วีรพลสอดเสียบท่อนรักเข้าไปได้ก็ค่อยๆ เริ่มกระแทกทิ่มแทงแบบยาวๆ เนิบๆ เหมือนกับที่วิภาวรรณทำกับเขา เขาค่อยๆ ถอนลำเขื่องออกมาเกือบหมดลำแล้วก็กดพรืดเข้าไป วิภาวรรณสะท้านไปหมดทั้งกาย บิดส่ายหน้าด้วยความเสียวสยิว ถึงแม้เขาเองจะเสียวกระสันแทบจะกลั้นไม่อยู่แล้วแต่ดูเหมือนการทำแบบนี้ก็ ชะลอให้ช้าได้มาก ตอนนี้สองไหล่เขาแบกขาเรียวที่มีถุงน่องเนียนสวยหุ้มอยู่เริ่มกระแทกกระทั้น ถี่ขึ้นเรื่อยๆ วิภาวรรณได้แต่มองหน้าเขา หน้าเริ่มบิดเบี้ยวเหยเก ปากเผยอครางซู้ดซี้ดออกมาดังขึ้นเรื่อยๆ โพรงสวาทหล่อนเริ่มบีบกระชัดตอดท่อนลำของเขาอยู่ตุบๆ
“พลจ๋า....ภาเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว อูยย.....แรงๆ ได้แล้วที่รักจ๋า...”
“ผมก็เหมือนกัน ของภามันบีบกระชับหนุบๆ ที่หัวปลายของผมแล้ว โอ้ว.....ภาจ๋า... ของภามันช่างดีอะไรอย่างนี้ อาาว์”
“ของพลก็เหมือนกัน มันคับแน่นเสียดสีร่องภาจะสยิวไปหมดแล้ว ที่รัก อะ. อ๊ายยยย.... พลจ๋า แรงๆ ได้แล้วค่ะ แรงอีกๆ อ๊า.....”
วีรพลเหงื่อแตกพลั่ก เริ่มจะกัดฟันขบกรามหนักขึ้นจนคอมีเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นมา กล้ามแขนก็เกร็งแน่น มองเห็นกล้ามโปนเป็นมัด เขารวบรวมกำลังใส่บั้นเอวส่งแรงกระแทกแรง หนักหน่วง และเพิ่มความเร็วขึ้นเท่าที่จะทำได้มากที่สุด แต่ก็ทำเอาเบ๊นซ์คันหรูสีดำเคลือบมันเงาวาววับโยกคลอนไปทั้งคัน
“ภาจ๋า......ผมจะทนไม่ไหวแล้ว ขอผมเสร็จแบบนี้เลยนะ”
“คะที่รัก ภาก็เหมือนกัน อา.....อึ้ยยย. พลจ๋า.....ภา จะ.....แรงๆ เลยคะที่รักขา..เราขึ้นสวรรค์พร้อมกันนะจ๊ะ ..อู้ยยยย...”
“อ๊า....ผมจะเสร็จแล้ว เมียจ๋า....”
“อ๊าย.......พลจ๋า.....พลจ๋า....” วิภาวรรณหวีดร้องได้ไม่กี่คำ ก็สะดุ้งเฮือกเกร็งร่างประหนึ่งว่าหยุดหายใจไปชั่วขณะ ห้วงเสียงขาดหายไปเป็นครู่ใหญ่จึงค่อยได้ยินเสียงหล่อนผ่อนหายใจยาวออกตา ปรือคอพับหมดแรง ได้ยินแต่เสียงหายใจรวยริน ร่องสวาทหล่อนยังคงบีบกระชับยวบยาบส่งผลให้วีรพลก็สุดทานทนออกแรงกระแทกไม่ กี่ทีทำนบแห่งกามความใคร่ก็พังกระฉูดพรั่งพรูสู่ถ้ำสาวสาวใหญ่คนรัก เขาบดเบียดแก่นกายไว้ครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยเรียวขาทั้งสองลงแล้วขยับไปนั่ง ที่เบาะข้างวิภาวรรณ หล่อนเองก็เข้าแนบประชิดข้างไหล่เขาแล้วค่อยๆ ซบหน้าไปที่อกเขาที่ยังหายใจหอบอยู่ เอามือจับรูดเนคไทค์เล่น สงครามแห่งความใคร่จบลงอย่างวาบหวามซาบซ่าน พอเริ่มจะเรียกเรี่ยวแรงกลับคืนมาได้ วีรพลก็หัวเราะคิกคักออกมาโดยที่ยังคงกอดร่างเปลือยเปล่าของวิภาวรรณอยู่
“หัวเราะทำไมคะ?? หืมม..” หล่อนผงกหัวเหลือบช้อนตาขึ้นมองเขาอย่างหยาดเยิ้ม ใบหน้าหล่อนตอนนี้มองเห็นพวงแก้มเป็นสีชมพูระเรื่อน่าฟัดจูบ ริมฝีปากเปี่ยมไปด้วยยิ้มหวานละมัย มือก็ไล้นิ้วเรียวลูบไปตามสันกรามและคางของเขาที่มีไรหนวดเคราจางๆ อย่างหลงใหล
“ไม่นึกว่าเราจะกล้าทำแบบนี้ได้นะสิ ที่รัก เล่นนอกสถานที่แบบนี้ เกิดใครมาเห็นจะว่าไงเนี่ย”
“คิคิคิ ลืมไปแล้วเหรอคะว่าภาเป็นเจ้าถิ่น แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านหรอกคะ ภาถึงกล้าพาพลมาที่นี่ อยากพาที่รักเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง แล้วดีมั้ยล่ะคะ คิคิคิ”
“ร้ายจริงนะเมียผมเนี่ย เห็นหน้าหวานๆ ใครจะคิดละเนี่ย ว่าภาจะกล้าทำแบบนี้ได้ หื๊อ......” เขาจับบีบปลายคางมนของหล่อนแล้วขยี้เบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“เพื่อให้ที่รักมีความสุข ภาทำได้อยู่แล้ว อีกอย่างที่บ้านเราก็เริ่มจะมีคนมาอยู่ด้วยแล้ว ภากลัวเค้าเห็น หลายวันแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ พลก็ทำแต่งาน ภาก็เอาแต่ป่วย ตอนนี้ภาดีขึ้นมากแล้ว เลยอยากจะให้ของขวัญตอบแทนเพลงกล่อมสุดแสนโรแมนติกที่เป็นยาวิเศษให้กับภา”
“อืมม...แล้วตกลงว่า ภาเป็นแค่โลหิตจางแน่นะ ไม่ได้มีอย่างอื่นนะ ผมอาจจะขี้ระแวงไป ผมมองตาเจ้าธรแล้วมันก็พูดอ้ำๆ อึ้งๆ เหมือนมีอะไรปิดบังผม แต่มันยังไม่อยากบอก” ได้ยินคำถามวิภาวรรณก็ทำสีหน้าวูบไปนิด รีบหลบตาเขาหาคำพูดกลบเกลื่อน
“ภากับแพรก็อยู่ในห้องตรวจ แล้วภาจะปิดทำไมละคะ พลสบายใจเถอะนะคะ ภาไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ อย่าห่วงกังวลไปเลย เชื่อภาเถอะ รับรองได้ นะคะที่รักขา...” มือหล่อนลูบไล้ไปตามหน้าอกเขาแล้วก็เลื่อนไปจับคางเขา ยื่นหน้าขึ้นไปจูบกับเขาอย่างเอาใจ
“จ๊ะ แค่นี้ผมก็สบายใจล่ะ ไปเถอะ นี่ก็จะมืดแล้ว ที่บ้านคงรอกันนานแล้วล่ะ ไม่ได้โทรไปบอกพวกเขาไว้ก่อนด้วย”
“ค่ะ ที่รัก” แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันจัดแจงทำความสะอาด เอากระดาษทิชชู่มาเช็ดตามร่างกายวิภาวรรณและที่เป้ากางเกงวีรพล วิภาวรรณก็จัดแจงสวมเสื้อผ้าจัดระเบียบจนดูว่าเรียบร้อยหมดแล้วก็ลุกไปนั่ง เบาะหน้าคู่กับวีรพล และก็ฉีดน้ำหอมเพิ่มกลิ่นให้หอมอบอวลไปทั้งคัน แล้ววีรพลก็ออกรถพาคนรักกลับไปยังวิมานรักของตน..............

เวลาผ่านไปเกือบเดือน ธนธรณ์ก็ยิ่งวุ่นวายไปหมดทั้งงานที่โรงพยาบาลแถมต้องวิ่งรอกเรื่องเตรียมงาน แต่งงานของเขากับแพรวา เทียวพาแพรวาไปดูชุดเจ้าสาว ติดต่อโรงแรมเกี่ยวกับเรื่องการจัดโดยอันที่จริงเขาจัดงานที่บ้านของพ่อเขา แต่ได้ขออาศัยของที่ใช้จัดงานไปจัดที่บ้านก็เลยพอถึงเวลาเลิกงานเขาต้องรีบ วิ่งรถออกไปตามที่ต่างๆ ทั้งแจกการ์ดวุ่นวายไปหมด เพราะพ่อของธนธรณ์ก็เป็นนักธุรกิจมีเพื่อนฝูงและคนรู้จักสนิทสนมมากมาย ถึงแม้แพรวาก็คอยช่วยเหลือแบ่งเบาภาระแล้วก็ตาม อีกทั้งวิภาวรรณก็คอยช่วยอีกแรง โดยหล่อนอาสาให้คนที่ร้านขายของปิดร้านไปช่วยงานที่บ้านถึง 3 วันตัววิภาวรรณเองก็จะคอยช่วยเหลืองานทางด้านฝ่ายเจ้าสาวไปด้วย อีกทั้งวีรพลก็ให้คนงานที่เพิ่งเข้ามาทำงานร่วมเดือนไปช่วยอีกแรง ตัววีรพลเองจะขอช่วยงานต้อนรับแขกเหรื่อและเรื่องเตรียมสถานที่และดูแลจัด เตรียมพิธีการร่วมกับพ่อของธนธรณ์ก่อนวันงาน 2-3 วัน ช่วงที่ผ่านมาเขากับวีรพลได้เจอหน้ากันบ่อยขึ้นเพราะวีรพลไม่ได้กลับ กรุงเทพฯ เพราะยังเป็นห่วงวิภาวรรณอยู่ ธนธรณ์เองก็อยากจะบอกเพื่อนใจแทบขาดเกี่ยวกับผลการตรวจโรคของแฟนเพื่อน แต่เขารับปากกับวิภาวรรณแล้วจึงต้องปิดปากเงียบ
อีกสัปดาห์ข้างหน้าก็จะถึงวันมงคลของธนธรณ์และแพรวาแล้ว ทั้งคู่ก็ต่างรออย่างใจจดจ่อขนาดวีรพลเองก็รู้สึกดีใจและตื่นเต้นไม่น้อยไป กว่ากันทั้งๆ ที่ไม่ใช่งานของตน ตอนนี้ทั้งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เตรียมงานเรียบร้อยหมดแล้ว วีรพลก็ปรึกษากับพ่อของธนธรณ์และเห็นพ้องกันว่าต้องให้ทั้งคู่พักผ่อนเก็บ แรงไว้วันงานเพราะกลัวเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวจะเป็นซอมบี้ในวันงานไปซะก่อน
“ธร ตอนนี้อะไรๆ ก็เรียบร้อยหมดแล้ว แกก็เพลาๆ งาน เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวสุดหล่อได้แล้ว งานอื่นไม่ต้องห่วง ชั้นขอช่วยเต็มที่ เออนี่ วันนี้ไปที่บ้านชั้นมั้ยล่ะ แกไม่ได้แวะไปนานแล้ว เราไปสังสรรค์กันหน่อย ชวนน้องแพรไปด้วยนะ”
“อื้อ ขอบใจเพื่อนที่เป็นเรี่ยวเป็นแรงให้ชั้น งานแกชั้นก็ขออาสาเต็มที่เหมือนกัน อืมม...โอเค วันนี้ตอนเที่ยงเราไปที่ร้านชุดเจ้าสาวพร้อมกัน ไปรับน้องแพรแล้วก็เลยไปบ้านแก ตอนนี้ชั้นเคลียร์เรื่องตารางงานหมดแล้ว ไม่ค่อยได้ทำแล้วล่ะ”


เมื่อไปถึงบ้านราวๆ เกือบบ่ายโมงวีรพลก็ชวนเพื่อนรักและแพรวาไปที่ระเบียงกว้างที่โปรดของเขา สองคู่หมั้นได้เห็นถึงกับตาค้างอ้าปากหวอต่อสิ่งที่ได้เห็นเบื้องหน้า
“โอ้โห!!! พี่พลคะ ทำได้ไงคะเนี่ย ดูสิดอกไม้เป็นพวงออกดอกเต็มซุ้มเลย ยังกับพี่พลเอาพวงดอกไม้มาห้อยเต็มซุ้มอย่างนั้นแหละ ดอกอะไรคะนี่ หูยยย.....สวยจริงๆ คะพี่พล แพรว่าเรามาถ่ายรูปชุดงานแต่งงานที่นี่คงสวยไม่เบานะคะพี่หมอ พี่พลให้คนไปปลูกที่เรือนหอของเราด้วยสิคะ แพรอยากมีซุ้มนั่งเล่นแบบนี้บ้าง ดูสิพี่หมอ รอบๆ รั้วก็มีสีชมพูเต็มไปหมดเลย”
“อ๋อ..อันนั้นเค้าเรียกพวงโกเมน นี่แพรรู้รึปล่าว มันออกดอกได้เต็มๆ แบบนี้อย่างมากแค่ปีละสองครั้งเองนะ ที่รอบรั้วนั่นก็พวงชมพู ถ้าแพรอยากได้เดี๋ยวเสร็จงานสวนกล้วยไม้ พี่จะให้คนงานไปปลูกให้ แต่ต้องปลูกพวกพวงแสด พวงหยกหรือว่าพวงทองผสมไปด้วยนะ มันจะได้ผลัดกันออกดอกเป็นรุ่นๆ ไป ทำให้ดูเหมือนดอกไม้พวกนี้มันเปลี่ยนสีได้ ยังมีอีกพวกตระกูลพวง มีพวงคราม พวงแก้ว พวงนาค นี่พี่ก็แทบจำไม่หมดล่ะยังมีอีกหลายชื่ออยู่ ซุ้มนี้ต่อไปน่าจะเป็นคราวของพวงทอง จะออกสีเหลืองๆ เล็กๆ แต่มันคงไม่มากละลานตาแบบนี้เหมือนพวงโกเมน”
“ตายแล้ว นี่พี่ภาได้เห็นไม่ปลื้มหลงใหลไปเลยเหรอคะเนี่ย มีที่โรแมนติกๆ ไว้นั่งเล่นคุยกันแบบนี้ แพรไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมพี่ภาถึงรักพี่พลนักหนา พี่พลช่างโรแมนติกอย่างนี้นี่เอง ก่อนจะมาเจอพี่พลมีหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่มาเที่ยวไล้เทียวขื่อที่บ้านพี่ภาก็พากันกินแห้วหมด แต่พี่พลมาทีหลังทำคะแนนแซงทางโค้งแบบไม่เห็นฝุ่นเลย สงสัยพี่พลกับพี่ภานี่ท่าจะเป็นคู่สร้างคู่สม พระพรหมลิขิตให้มาเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆ”
“อืมม...ช่าย พี่ก็ว่าอย่างนั้นนะแพร พลกับพี่ภานะเหมาะสมกันยังกะอะไรดี แพรสังเกตดูดีๆ สิ พลกับพี่ภาหน้าตาออกคล้ายๆ กันมาก คนโบราณเขาว่าคนที่เป็นเนื้อคู่กัน หน้าตาและอุปนิสัยจะคล้ายๆ กัน สงสัยจะเป็นพรหมลิขิตจริงๆ แต่คู่นี้คงจะเป็น พรหมลิขิตผิดคิว ท่านส่งมาคนละห้วงเวลากันกลายเป็นรักข้ามรุ่นไปแล้ว”
“จริงสิ พี่พลกับพี่ภามองดูดีๆ คล้ายกันมากเลย อู้ยยยย.... แพรอิจฉา”
“พอๆ ทั้งคู่เลย ไม่ต้องมาปากหวาน เราเองก็คู่สร้างคู่สมเหมือนกันละน่า ไม่ต้องมายกยอชั้นหรอก” โดนลูกยอจากสองคู่หมั้นที่พร่ำพรรณนาถึงความเป็นเนื้อคู่ของเขา จึงยกมือห้ามแก้เก้อเขิน
“คิคิคิคิคิ ดูสิพี่หมอ พี่พลเขินหน้าแดงเลย เหมือนพี่ภาเปี้ยบเลย พี่ภาน่ะ แพรเย้าเรื่องพี่พลไม่ได้เลยนะ อายหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกเลยแหละ”
“อะแฮ่ม!! นินทาพี่ก็ให้เสียงเบาๆ หน่อยจ๊ะแพร คุณหมอ ทานข้าวกันมาหรือยัง พี่ทำสะหริ่มใส่เนื้อขนุนมาให้ทาน และก็มีแตงโมกับมะละกอด้วย มาสิมาทานกัน” แพรวากับธนธรณ์หันไปมองก็เห็นวิภาวรรณเดินเข้ามา มีปิ่นถือถาดผลไม้ถาดใหญ่และของหวานตามมาด้วย ประกายก็ถือถาดน้ำเย็นและน้ำแข็งป่นมาวางไว้บนโต๊ะช่วยอีกคน เสร็จหมดแล้วแม่บ้านทั้งสองก็ปลีกตัวออกไป
“ว่าแล้ว....แพรเห็นมั้ย คราวก่อนเราชวนกันไปกินข้าวนอกบ้านพลมันก็ไม่ไป ก็เพราะพี่ภาเป็นยอดแม่ศรีเรือนแบบเนี๊ยะ”
“แหม....ก็ช่วงนี้งานพี่ก็ไม่ค่อยได้ทำ อยู่บ้านว่างๆ ก็เลยหาเรื่องทำไปอย่างนั้นแหละจ้ะ”
“ไม่ต้องมาแก้เก้อหรอกคะพี่ภา แพรมาบ้านพี่ภาทีไรพุงกางกลับบ้านทุกที แต่นี่ก็นานแล้วแพรไม่ได้มาเลย ขอแพรลิ้มชิมรสฝีมือพี่ภาให้หมดถ้วยเลยนะคะ”
แล้วทุกคนก็พากันไปนั่งที่โต๊ะ แพรวานั่งคู่กับธนธรณ์ด้านตรงข้ามกับวิภาวรรณที่นั่งคู่กับวีรพล สองคู่หมั้นต่างก็ป้อนของหวานให้กันอย่างสวีทหวานแหวว วิภาวรรณมองเห็นอดแซวไม่ได้
“สงสัยคราวหน้าพี่ต้องต้มบอระเพ็ดมาเลี้ยงแล้วล่ะ จะได้หวานกันน้อยลงหน่อย แหม....น้องแพร คุณหมอเขาแทบจะกลืนไม่ทันแล้วนะจ๊ะ คิคิคิคิ” วีรพลก็ผสมโรงหัวเราะลั่น ธนธรณ์ก็อึกอักๆ ปั้นหน้าไม่ถูก แพรวาไม่รู้จะโต้ตอบยังไง ได้แต่ยิ้มเขินๆ ส่งตาค้อนขวับๆ ให้วิภาวรรณ.................


จนถึง 4 โมงเย็น ธนธรณ์กับแพรวาก็ขอตัวกลับไปที่บ้านธนธรณ์ ตั้งแต่หมั้นหมายกันมา แพรวาจะไปค้างที่บ้านธนธรณ์ทุกวันหยุดเพราะพ่อแม่ฝ่ายชายรู้สึกจะรักใคร่ โปรดปรานว่าที่สะใภ้เอามากๆ เมื่อถึงวันหยุดต้องขออนุญาตพราวตากับเอกภพให้ลูกสาวไปที่บ้านอยู่เป็นประจำ พอไปถึงต่างก็ไปเปลี่ยนชุดอยู่บ้านสบายๆ ออกมา ธนธรณ์ชวนคู่หมั้นเดินไปดูเรือนหอที่เสร็จแล้วจากความดูแลการก่อสร้างของพ่อ เขา มันเหมือนเนรมิตขึ้นมาเลย เพราะสร้างไม่ถึงสามเดือนก็ได้เรือนหอหลังไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็หรูหราตามแบบฉบับเศรษฐีภูธร ตอนนี้เรือนหอตกแต่งครบเรียบร้อยพร้อมอยู่อาศัย สองหนุ่มสาวคู่รักจูงมือกันเดินสำรวจไปทุกห้องจนขึ้นไปถึงห้องนอน
“ไงจ๊ะแพร สวยถูกใจมั้ย”
“คะ ถึงจะหลังไม่ใหญ่แต่ก็ตกแต่งได้สวย แค่นี้แพรก็พูดไม่ออกแล้ว คุณพ่อท่านเมตตาเราสองคนมากเลย แค่ไม่กี่เดือนก็เสร็จทันงานแต่ง แถมตกแต่งได้พร้อมเกือบหมดทุกอย่างเลย”
“นี่สินะ ห้องของเรา ที่ที่เราจะสร้างเจ้าตัวน้อยไว้ให้คุณปู่ย่าได้อุ้มหยอกหลานเล่น” ธนธรณ์โอบกอดคนรักมองสำรวจไปรอบๆ อย่างภาคภูมิใจ แล้วหันมาสบตาแพรวาส่งตายิ้มเป็นประกาย แพรวาถึงกับเขินอายแก้มร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เพราะรู้อยู่แล้วว่าหากธนธรณ์มองตาหล่อนแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แพรวาเองก็เฝ้ารออย่างนี้มาหลายวันตั้งแต่เตรียมงาน หล่อนกับเขาก็แทบจะไม่มีเวลาได้อยู่กันสองต่อสักเท่าไหร่ เมื่อคู่หมั้นหนุ่มเสือเพลย์บอยที่ถอดเขี้ยวเล็บจ้องมองหล่อนด้วยสายตาที่ เชิญชวนแบบนี้มีหรือแพรวาอดกลั้นความรู้สึกของตัวเองได้ ธนธรณ์โอบไหล่สองข้างเปลือยเปล่า เพราะแพรวาสวมเสื้อกล้ามคว้านคอกว้างผ้ายืดรัดรูปจนมันอวดเต้าสะบึมของหล่อน แทบจะปลิ้นออกมานอกขอบเสื้อ มองเห็นเม็ดติ่งเล็กของหน้าอกทั้งสองข้างโผล่เป็นตุ่มออกมา ส่วนกางเกงก็ขาสั้นขาบานหลวมๆ อวดเรียวขาเนียนงาม แม้แพรวาจะมีผิวไม่ขาวนักแต่ก็ไม่คล้ำดำ ผิวหล่อนออกสีน้ำผึ้งเนียนไปทั้งตัว ธนธรณ์ใช้สองมือลูบต้นแขนขึ้นถึงไหล่และซอกคอ ลูบขึ้นมาหยุดที่ใบหน้าอวบอิ่ม แก้มปลั่งแล้วเขาก็โน้มหน้าเข้าประทับจูบแฟนสาว แพรวาก็โอบสองแขนรัดรอบตัวหมอหนุ่มเชิดหน้ารับจูบ เบียดอกอวบแน่นเข้ากับอกกว้างแข็งแรงของเขา สองคู่รักต่างแลกจูบกันอย่างดูดดื่มเนิ่นนานก่อนจะถอนใบหน้าออกจากกันมองตา กันอย่างหวานซึ้ง
“แพรจ๋า เรามาซ้อมใหญ่ก่อนถึงวันงานดีกว่านะ พี่น่ะอดคิดถึงแพรไม่ไหวแล้ว สองอาทิตย์ผ่านมาเราต่างก็เตรียมจัดงานจนแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย วันนี้ขอเราอยู่กันสองต่อสองให้สมกับที่พี่คิดถึงนะ” ธนธรณ์เอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา โน้มหน้าลงไปหาแพรวาเอาหน้าผากชนกัน ปลายจมูกเป็นสันคมจรดกับปลายจมูกรั้นงามรับกับริมฝีปากอวบอิ่มเผยอเล็กน้อย น่าจูบยิ่งนัก ต่างคลึงปลายจมูกล้อกัน
“คะพี่หมอ แพรก็คิดถึงพี่หมอ อยากให้พี่หมอโอบกอดแพรอย่างนี้นานๆ ไม่ว่าพี่หมอจะพาลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ แพรก็ขอมีพี่หมออยู่เคียงข้างแค่นี้ก็พอคะ”
“ชื่นใจจัง พี่ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่เลือกแพรมาเป็นคู่ชีวิต พี่สัญญาว่าจะมีแพรเป็นคนสุดท้ายและคนเดียวในชีวิต”
แพรวาสุดแสนจะปลาบปลื้มกับคำหวานของแฟนหนุ่ม โน้มคอเขาลงมาประทับจูบอย่างสุดรักใคร่ ธนธรณ์โอบหลังเธอเข้ามาแนบชิดจนอกอวบแทบจะกลืนหายไปกับแผ่นอกเขา ไม่มีคำพูดใดๆ จากทั้งคู่อีกแล้วต่างแลกจูบกันอย่างกับกระหายกันมานาน ได้ยินแต่เสียงหายใจแข่งกันฟืดฟาด ธนธรณ์เริ่มสอดสองมือผ่านชายเสื้อที่อยู่เหนือเอวคอดกลมกลึงรับกับส่วนโค้ง ของสะโพกผาย ค่อยๆ ลูบขึ้นควานหาเต้าอวบของแพรวา แล้วตะบบบีบคลึงเบาๆ แพรวาก็รั้งคอเขาเข้าบดจูบอย่างหนักหน่วงได้ยินแต่เสียงครางในลำคอเบาๆ ของทั้งคู่ แพรวาค่อยจูบละเรื่อยจากของเขามาที่ปลายคาง ซอกคอ ลิ้นก็ตวัดเลียไล้สลับกับใช้ริมฝีปากดูดจูบเล้าโลมไปตามซอกคอ ไล่มาเรื่อยถึงไหปลาร้า แล้วค่อยๆ ย่อลง สองมือก็ลูบไปตามลำตัวของแฟนหนุ่ม พรมจูบลูบไล้ไปแผ่นอก นอกเสื้อลำลอง ธนธรณ์ก็รวบชายเสื้อยืดตัวจ้อยรัดรูปของแพรวาไว้ พอหล่อนย่อตัวแทบจะนั่งคุกเข่า เสื้อตัวนั้นก็ถูกดึงขึ้นจนพ้นศีรษะ บัดนี้แพรวานั่งคุกเข่าต่อหน้าเป้ากางเกงของธนธรณ์ท่อนบนเปลือยล่อนจ้อน อกอวบสล้างก็ลอยเด่น เพราะหล่อนไม่ได้สวมชุดชั้นในเลยสักชิ้น แพรวาซุกหน้าอยู่ที่หน้าขาของธนธรณ์บดคลึงไปหน้าอวบอิ่มของหล่อนไปตามหน้าขา มือก็ป่ายปะลูบคลำอาวุธคู่กายของเขาภายนอกกางเกง แล้วค่อยรูดกางเกงสามส่วนของคู่หมั้นลงอย่างง่ายดายเพราะเป็นแบบสายยืดรัด ไว้ไม่ได้แน่หนาอะไร แล้วแก่นกายของธนธรณ์ก็เผยตัวให้แพรวาได้เห็นอยู่ตรงหน้า เขาเองก็ไม่ได้สวมกางเกงในเหมือนอย่างกับว่าเตรียมตัวเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แพรวาเอื้อมมือความท่อนรักของเขาที่ยังครึ่งหลับครึ่งตื่นมากำไว้หลวมๆ แล้วค่อยๆ รูดเล่น ช้อนตาขึ้นมองคู่รักที่ยืนจ้องมองลงมาด้วยสายตาฉ่ำหวานเย้ายวน แล้วก็อ้าปากแลบลิ้นเลียตรงคอหยักของท่อนเอ็น ธนธรณ์จ้องมองแพรวาตาเขม็งสองมือลูบที่ศีรษะหวานใจเบาๆ แพรวาจ้องมองหน้าเขาไปด้วย ชิวหาก็ตวัดปาดไปตามท่อนข้าวหลามที่มันเริ่มจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบ มันเริ่มขยายตัวพองก๋า หัวปลายเงี่ยงเริ่มดีดตรง แพรวาก้มหน้าลงมามุ่งจ้องที่เจ้ามังกรตาเดียวของเขาอ้าปาดเม้มกลืนเข้าไปที ละน้อยขยอกปากเข้าออกจากที่แค่ปลายหยักก็เริ่มกลืนเข้าไปครึ่งลำ แล้วก็เพิ่มไปจนสุดโคน ธนธรณ์ได้แต่แอ่นกายแหงนหน้าซี้ดปาก
“อูยย.....แพรจ๋า แพรเก่งมากเลย ปากดูดดีเหลือเกิน อูยยย.. พี่เริ่มเสียวหัวควยแล้ว แพรจ๋า อา.......”
“อืม.....มันเริ่มพองคับปากแพรแล้ว แพรดูดให้เสียวมั้ยคะ ขอแพรดูดเลียให้พี่หมอนานๆ นะคะ แพรชอบดูดเลียแล้วล่ะ มันปากดี อืมมม....”
“อย่าให้นานเลย แพรจ๋า....เดี๋ยวพี่จะทนไม่ไหว”
แพรวาใช้มือรูดหนังหุ้มไป ปากก็ทำงานอมกลืนท่อนควยของคู่หมั้นเม้มริมฝีปากรูดออกช้าๆ ภายในปากหล่อนก็ตวัดลิ้นละเลง แล้วก็กลืนเข้าไปใหม่สุดลำจนมันคงจะถึงคอหอยหล่อน แล้วแช่ค้างไว้นิดหนึ่ง ธนธรณ์เสียวสุดทนจนแอ่นกายสองมือกดศีรษะแพรวาเข้าแนบกับหน้าขาอย่างแนบแน่น แล้วค่อยปล่อยเมื่อแพรวาดันศีรษะออก ได้ยินเสียงหล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ท่อนควยเขาก็ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำลายของแพรวา หล่อนเองก็สูดหายใจเข้าอย่างแรง ห่อปากสูดๆ ดูช่างเร่าร้อนมากๆ หล่อนไม่ได้เม้มอมแล้วแต่มือยังคงกระถอกท่อนเอ็นเขาพร้อมบีบคลึงหนักขึ้น
“แพรจ๋า.....พอก่อน พี่จะทนไม่ไหวแล้ว มาขอพี่ทำให้แพรบ้างเถอะจ๊ะ” แล้วธนธรณ์ก็ประคองแฟนรักให้ลุกขึ้นพาไปที่เตียงนอนที่อยู่ใกล้ๆ ผลักหล่อนให้นั่งที่ขอบเตียงแล้วเขาก็เขาไปคุกเข่าต่อหน้าหล่อนปลดหัวกระดุม กางเกงหล่อนออกแล้วรูดถอดออกมาทางปลายเท้าโดยที่แพรวาก็ให้ความร่วมมืออย่าง เข้าขารู้ใจแล้วก็สลัดทิ้งไปข้างๆ ธนธรณ์แล้วเขาก็ขยับเข้าประชิด จับสองขาเรียวแบะออกโน้มใบหน้าไปตรงหว่างขาแพรวาพรมจูบไปตามหน้าขาอย่างหื่น กระหาย ขาแพรวากระตุกยุบแต่ก็ถูกธนธรณ์จับแบะไว้ เขายั่วราคะแฟนสาวด้วยการเล้าเลียไปตามซอกหน้าโดยยังไม่มุ่งไปที่โคกเนินมี ใยไหมดำประจาย
“อูยยย ที่รัก... แพรเสียวหว่างขาไปหมด เลียตรงนั้นเถอะ อย่าและเล็มอยู่รอบๆ เลย แพรเสียว อา.....พี่หมอขา เลียเถอะจ้ะ”
“เลียอะไรเหรอ หืมม...บอกพี่สิ แล้วพี่จะเลียให้”
“ก็....เสีย หะ...หีแพรสิจ๊ะ อยู่มัวแต่เลาะขอบอยู่เลย แพรอยากแล้ว”
“อืมม หีแพรสวยจัง เส้นหมอยไม่ค่อยดกแถมไม่รุงรังด้วย ดูสิเยิ้มเชียว”
“พี่ก็รีบเลียสิจ๊ะ แพร.. หยะ อยากแล้ว อูย...อย่าลูบอย่างนั้นสิคะ อ๊อยย” สะโพกและเอวแพรวาร่อนส่ายเย้ายวนธนธรณ์อย่างเงี่ยนง่าน ธนธรณ์ยิ้มอย่างภูมิใจที่แกล้งยั่วหล่อนให้เริ่มร่านได้ แล้วก็ใช้สองนิ้วแหวกแบะกลีบงามของแพรวาออก ก้มหน้าซุกเข้าไปแลบลิ้นฉกเข้าไปตรงร่องรูหีแพรวาจนปากเขาประเต็มหน้าขา
“อะ อายยยยย....อย่างนั้นแหละคะ ที่รัก อูยยย...ลิ้นพี่หมอมันเข้าไปลึกเต็มรูแพรเลย อุ้ยยยย.....มีควานลิ้นด้วย อูยยยย พี่หมอขา... แพรเสียวไปหมดแล้ว พี่หมอเลียให้แพรเสียวนานๆ นะคะ แพรชอบ”
“จ๊ะ พี่จะดูดเลียให้ฉ่ำใจไปเลย อืมม....น้ำเงี่ยนแพรเริ่มไหลออกแล้ว ขอพี่ดูดกินหน่อยนะ อืม......”
“อา......พี่หมอขา.....ช่างทำเก่งอะไรอย่างนี้ อะ... อ๊าย......อย่าเพิ่งแหย่นิ้วไปด้วยสิคะ แค่นี้แพรก็จะแย่แล้ว อึ้ยยยย.....” แพรวาสุดเสียวซ่านไปกับการลิ้มเลียของเขา แอ่นส่ายเอวอยู่เร่าๆ สองมือก็บีบคลึงเต้าอวบอิ่มของตนเองอย่างสุดที่จนทนความสยิวได้ แล้วก็เอนกายนอนราบบนเตียงนอน แหงนหน้าซี้ดปาก ธนธรณ์ก็ดันขาหล่อนให้โย้ไปข้างหน้านิดหนึ่งแล้วก็แบะสองขาให้กว้างออกไปอีก ความนี้รูหีแพรวาแบะอ้า แดงเรื่อยั่วตาหมอหนุ่ม เขาก็รีบซบหน้าลงไปดูดดุนเหมือนกับจูบปาก มีการขบฝีปากดูดเม้มแคมหีแพรวาด้วย ทำเอาแพรวาครางหงิงๆ เขาปล่อยขาหล่อนแล้วเอานิ้วแหย่เข้าไปสาวเข้าออกสลับกับงอนิ้วตวัดดึงออก ปากอ้าตวัดเลียติ่งแตดไปด้วย
“อ๊ายยยย.....พี่หมอขา.....แพรเสียวไปหมดแล้ว แพรไม่ไหวแล้ว พี่จ๋า....อูยยย....ยังบี้อีก อูยยย...พี่จ๋า....แพร อ่ะ....อ๊ายยย...พี่หมอ แพรไม่ไหวแล้ว อึ้ย....ซี้ดดดดส์ แพรออกแล้ว ออย....พอก่อนพี่หมอขา....แพรเสียวไปหมดแล้ว” แพรวาตัวบิดเกร็งสองขาหนีบหัวของธนธรณ์แน่น ทั้งแอ่นขึ้นเร่าๆ จนก้นไม่ติดที่นอนสองมือคว้าหัวเขาขยุ้มที่ผมของเขาหยิกเกร็ง หล่อนกลั้นหายใจกายเกร็งค้างครู่ใหญ่ จึงทิ้งก้นลงที่นอน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็ทอดกายนอนรวยริน ขาสองข้างทิ้งห้อยที่ขอบเตียง ธนธรณ์ก็ขยับขึ้นมานอนเคียงข้างหล่อน มือข้างหนึ่งก็คลึงเคล้าที่เต้าอวบกลม บดบี้ติ่งหัวนม ปากจูบที่ไหล่และต้นแขนของแพรวาไปเบาๆ
“อูยยย... พี่จ๋า แพรสยิวซ่านไปหมดเลย พี่หมอเลียเก่งจนแพรเสร็จไปแล้ว อูยยย...”
“นี่แค่เริ่มต้นเองนะจ๊ะ แพรจ๋า ยังไม่ถึงตอนสำคัญ พี่จะทำให้แพรเสียวซ่านมากกว่านี้”
“คะ พี่หมอ ขอแพรพักสักแป้บ พี่หมอจะทำอะไรแพร แพรยอมทุกอย่าง” แพรวาหันตัวมานอนตะแคงประจันหน้าเขาส่งยิ้มตาปรือ มือก็ลูบไล้เขาไปตามตัว แล้วก็ไปจับตรงท่อนควยของเขารูดเล่นไปมา ใบหน้าหล่อนก็โดนเขารวบเข้ามาประกบจูบ ได้สักพัก ธนธรณ์ก็ขยับลุกขึ้น
“แพรจ๋า...หมอบโก้งโค้งให้พี่หน่อย พี่จะขอเล่นท่าแทงจากข้างหลัง”
แพรวาก็หยัดกายหมอบชันเข่า ก้นหล่อนก็ลอยสูง ทางด้านหน้าก็ฟุบอยู่กับที่นอนเอี้ยวหน้าหันมาทางด้านหลัง
“เอาสิคะ แพรโก่งให้แล้ว อึ้ยยย.....เลียอีกแล้ว อูยยย...พี่จ๋า แพรยังเสียวไม่หายเลย ยังจะมาเลียอีก จะทำอะไรก็ทำเถอะคะ แพรอยากแล้ว”
“จะให้พี่ทำอะไรละ บอกพี่ให้ถูก ไม่ง้านจะเลียอย่างนี้ อูวววว. แคมหีแพรมันเป็นกลีบอูมน่าเลียจริงๆ ขอเลียให้สมอยากเถอะ แพรจ๋า...”
“อูยย...แพรอยากให้พี่ยัดท่อนเข้าไป แพรอยากแล้วพี่จ๋า....” ครางออดอ้อนหมอหนุ่ม ก้นก็ส่ายระริกจนธนธรณ์เลียไม่ได้ถนัดจนเขาต้องใช้สองมือโอบสะโพกกลมผายตรึง ไว้แล้วซุกหน้าลงไปปาดลิ้นเลียเสียขึ้นอย่างเต็มรัก แล้วใช้นิ้วโป้งของสองมือช่วยแบะอ้ากลีบ ตวัดแทรกปลายลิ้นฉกเข้าไปจนแพรวาก้นกระตุกระริก สองมือจิกผ้าปูเตียงที่ยังใหม่อยู่จนยับยู่ยี่
“พี่หมอขา....อูยยย แพรเสียวไปหมด อย่าเลียอีกเลยคะ เอาท่อนพี่ยัดเข้ารูแพรเถอะ แพรไม่ไหวแล้ว”
“ต้องบอกให้ชัดๆ สิจ๊ะ จำไม่ได้เหรอว่าต้องพูดว่ายังไง หืม..” ธนธรณ์ก็ยังยั่วยวนหล่อนด้วยการซุกหน้าเข้าเลียต่ออีกเสียงดังแผล่บๆ
“อูยย......แพรเงี่ยน อยากให้พี่เอาควยมาเย็ดหีแพร มาเย็ดแพรเถอะคะ พี่จ๋า แพรเงี่ยนไปหมดแล้ว” ธนธรณ์ยิ้มอย่างถูกใจที่แฟนสาวพรั่งพูดถ้อยคำที่เขาต้องการได้ยิน แล้วเขาก็ขยับตัวขึ้นยืนเขาค่อยจ่อปลายหยักบานเสียบลงไปแค่ปลายแล้วก็งัด ขึ้นเสย แพรวาเงี่ยนง่านสุดซบหน้ากับที่นอน ได้แต่กัดฟันซี้ดปาก สองมือยังขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น ธนธรณ์ยังใจเย็น เอาแค่ปลายเงี่ยงกดลงไปแล้วงัดเสยเล่นจนปลายมันปลาบด้วยน้ำเมือกเสียวจากแคม หีแพรวา
“พี่จ๋า อย่าเขี่ยเล่นอยู่เลย อูยย....แพรเงี่ยนจนแตดสั่นไปหมดแล้ว รีบเย็ดแพรเถอะ อูยย...” คราวนี้หล่อนไม่ได้ออดอ้อนเขาเปล่าๆ พอได้จังหวะที่เขาเอาปลายเงี่ยงจ่อกดลงไปนิดหนึ่ง แพรวาก็ขยับก้นสวนเข้าหาท่อนควยเขาทันทีพรืดเดียวมิดลำ แล้วบดส่ายสะโพกไปมา
“ทีนี้พี่จะเย็ดแพรล่ะจ๊ะ อูววว...แพรเงี่ยนมากเลยเหรอ ดูสิตอดรัดควยพี่ตุบเลย ทั้งแน่นฟิตควยพี่ไปหมดเลย แพรจ๋า”
“ก็พี่เล่นเขี่ยแคมจนแพรง่านไปหมด อูยย....ค่อยๆ กระเด้าก่อนนะคะ มันตึงไปหมด ควยพี่หมอแข็งคับหีแพรไปหมด เย็ดกี่ทีก็เสียวทุกที จนแพรหลงควยพี่หมอแล้ว อูยย....กระเด้าเรื่อยๆ ก่อนนะคะ ท่านี้มันเข้าลึกสุดลำเลย”
ธนธรณ์สาวท่อนเอ็นยาวเข้าไปจนสุดโคนแล้วก็ถอนออกมาเกือบหลุดแล้วก็สวนเข้าไป ใหม่อย่างช้าแต่หนักหน่วง แพรวาก็กายสั่นโยกไปตามจังหวะ จนหล่อนต้องใช้สองมือที่ขยุ้มผ้าปูนอนยันกายให้โหย่งขึ้นมาอยู่ในท่าคลาน แล้วก็ใช้สองแขนยันที่นอนและยันกายโยกสวนการทิ่มแทงของแฟนหนุ่ม เอี้ยวใบหน้าไปมองคนรักด้วยตาฉ่ำเยิ้ม
“แรงๆ ได้แล้วพี่จ๋า แพรพร้อมแล้ว เย็ดแพรแรงๆ ได้เลย อูยย....ปลายควยมันทิ่มจนเสียวถึงท้องน้อยเลย พี่จ๋า.....”
“ได้เลยจ๊ะ เมียจ๋า.....หีเมียมันดูดจนพี่เสียวไปหมด แทบจะกลั้นไม่อยู่แล้ว อูยย......ก้นแพรก็กลมสวยยั่วยวนดีเหลือเกิน อา...........”
ธนธรณ์ก็เร่งจังหวะเร็วและแรงขึ้น แพรวาก็แอ่นก้นรับ หน้าท้องแอ่นงอลงเพื่อให้การกระแทกของแฟนหนุ่มกระแทกเข้าได้ถนัดแล้วหล่อนก็ แบบขาถ่างกว้างออกอีก หมอหนุ่มรวบสองมือเข้าที่บั้นเอวคู่หมั้นกระชับแน่นแล้วส่งแรงกระแทกกระทั้น จนแพรวาหัวสั่นหัวคลอนครางระงม
“อูยยยย ผัวขา....เย็ดได้ถึงใจเมียจริงๆ แรงๆ อย่างง้าน หีเมียหิวควยผัวมาหลายวันแล้ว เย็ดเมียให้หายอยากไปเลยที่ ผัวขา....อูยยย....ซี้ดดดส์” แพรวาเริ่มง่านเงี่ยนเต็มที่ ถ้อยคำที่เคยใช้กับเขาทุกครั้งที่เสพสมก็เริ่มเร้าอารมณ์แฟนหนุ่มมากขึ้น เขาเองก็เงี่ยนง่านไม่ต้องกันจับเอวหล่อนแน่นดึงเข้ามารับการกระแทกของเขา อย่างหนักหน่วง เร็วแรงจนแพรวาสั่นสะท้านไปทั้งกายแล้วเขาก็กระแทกแรงอัดเข้าสุดลึกแล้วกด ค้างแช่ไว้ แพรวาก็ผวาเฮือกจนต้องกลั้นหายใจครู่ใหญ่ แล้วธนธรณ์ก็ถอนลำแท่งแข็งโด่มันปลาบออกมา
“อูยย...ผัวขา กำลังเสียวเลย ถอดออกทำไมคะ” ธนธรณ์ไม่ตอบ จับขาหล่อนข้างหนึ่งยกขึ้นถ่างอ้า แล้วโอบลอยไว้ แขนอีกข้างยังโอบเอวหล่อนไว้ ทำให้แพรวาอยู่ในท่าคลานที่ตะแคงตัวขึ้นข้างหนึ่ง แล้วเขาก็จับจ่อปลายควยเสียบเข้าแคมหีแพรวาใหม่ คราวนี้แคมหีแพรวาเบียดบี้ลำควยเขามากกว่าเดิม แพรวาก็เอื้อมมือข้างเดียวกันกับขาที่เขายกขึ้นไปโอบคอเขาไว้อีกข้างก็ยัน กายไว้แล้วมองหน้าแฟนหนุ่มที่เริ่มกระเด้าท่อนควยเข้าออกแรงขึ้น แพรวาครางซู้ดปากตาก็จ้องมองคู่รักอย่างท้าทาย หน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมไหวไปตามจังหวะกระแทก
“ผัวขา....เมียเสียวหีไปหมดแล้ว เย็ดเมียให้เสร็จเลยนะคะ ผัวขา...แพรไม่ไหวแล้ว อูยย...” ธนธรณ์ก็สาวบั้นเอวเสยท่อนควยยาวเข้าออกรูหีแพรอย่างร้อนแรง จนแพรวาสะท้านไปหมด หน้าบิดเบี้ยว ผมเผ้ากระเซิงไปหมด
“ผัวขา เมียไม่ไหวแล้ว แรงๆ คะ อ่ะ....อา.....ทำไมมันเสียวไปหมดอย่างนี้ เมียจะออกแล้วผัวขา..... อ่ะ....ออ.....ออกแล้ว....ผัวขาาาา ออกแล้วววววววว”
แพรวาทิ้งตัวลงอีกครั้งแต่ร่างหล่อนยังคงสั่นคลอนเพราะธนธรณ์ยังไม่ หยุดกระแทก เขายิ่งกระแทกแรงกว่าเดิมอีก แล้วเขาก็กดกระแทกแรงอัดสุดลำแช่ค้างไว้อีก แล้วค่อยๆ ผ่อนแรงหายใจ ปล่อยขาข้างที่เขายกโอบไว้ปล่อยแพรวานอนตะแคงอ่อนระทวย
“ผัวขา.....ทำไมอึดจังวันนี้ เมียเสร็จไปสองครั้งแล้ว อูยยย.ดูสิควยยังแข็งน้ำก็ยังไม่ออก แพรแทบจะหมดแรงแล้วนะคะ ผัวขา...”
“พี่ขอเย็ดอีกท่านะจ๊ะเมียจ๋า หีเมียเย็ดมันส์ พี่อยากเย็ดนานๆ อูยย..มันยังฟิตแน่นเหมือนเดิมเลย”
“เอาสิคะ แพรยอมพี่หมอหมดทุกอย่างแล้วที่รัก พี่หมออยากเย็ดแพรเมื่อไหร่ เมียจะถ่างหีให้เย็ดตลอด แพรรักผัวคนนี้ ยอมให้ผัวหมดแล้ว ผัวจ๋า....” แพรวานอนตะแคงขาคู้ไปข้างหน้ามีธนธรณ์นอนเหยียดกายประกบข้างหลัง เขาจับขาข้างบนยกขึ้นให้อ้า ช่วงขางอพาดขาของเขา เอามือสวดผ่านหว่างขาแพรวาไปจับท่อนควยเขาจ่อตรงรูหีแล้วสอดเสียบเข้าไป
“อูยยย.....เย็ดจากข้างหลังอีกแล้ว รู้สึกผัวจะชอบข้างหลังจัง”
“มันเย็ดมันส์ดีออกเมียจ๋า แล้วแพรเสียวมั้ย”
“เสียวสิคะ แพรน้ำออกไปสองรอบแล้ว อูยยย...ช่างเข้าใจเย็ดเมียเหลือเกิน อย่างนี้แหละเมียถึงได้หลงรักผัวหนักหนา อูยยย..กระเด้าได้หนักหน่วงถึงใจเมียไปหมด ผัวขา...” พอท่อนควยเสียบได้ลึกเข้าที่เขาก็ปล่อยมือไปกอดคลึงหน้าอกตูมใหญ่อย่างมันส์ มือ บีบเคล้าอยู่หมุบหมับ ส่งแรงส่วนท่อนล่างสวบเข้าอยู่ยวบๆ แพรวาก็เอี้ยวคอหันหน้ามาหาเขา อ้าปากแลบตวัดลิ้นเลียริมฝีปากเขา ธนธรณ์ก็โน้มหน้าไปชิดคลอดเคลียที่แก้มหล่อนจูบปากบ้างหอมแก้มบ้าง เขาช่างเรี่ยวแรงเยอะ ทั้งออกแรงกระเด้าในท่าตะแคงเสียบจากข้างหลัง บีบคลึงนม จูบปาก แพรวาที่เสียวสยิวไปไม่รู้กี่ครั้งก็ได้แต่อ้าปากคราง แลบลิ้นเลียเลียธนธรณ์ถูกบ้างไม่ถูกบ้างเพราะกายสั่นสะท้านจากการกระเด้าของ เขา
“พี่จะไม่ไหวแล้วแพร ขอเย็ดเมียแรงๆ นะจ๊ะเมียจ๋า มันจะทนไม่ไหวแล้ว”
“คะ ผัวขา เย็ดเมียแบบไหนได้ทั้งนั้น เมียยอมผัวหมดแล้ว อูย....เสียวอีกแล้ว ออยยยย....ผัวขา ....เมียจะออกอีกแล้ว” สงสัยธนธรณ์จะเริ่มเมื่อยและไม่ถนัดโอบรวบร่างอวบอัดของแพรวาแล้วพลิกหล่อน ขึ้นให้นอนหงายทั้งๆ ที่ควยยังคารูหีอยู่ ตอนนี้แพรวานอนหงายทับเขาอยู่ข้างบน เหมือนแพรวาจะรู้ใจ พอพลิกหงายอยู่ด้านบน หล่อนก็หยัดร่างขึ้นนั่งคร่อมโน้มตัวไปข้างหน้า แอ่นก้นไปทางธนธรณ์เอาแขนค้ำตัวเองไว้แล้วยกก้นขึ้นแล้วกดกระแทกโขยกขย่ม ขึ้นลง ธนธรณ์มองเห็นรูหีแฟนสาวอ้าอมท่อนควยเขาโยกขึ้นลงจากทางด้านหลังหล่อนอย่าง เต็มตา ก็ส่งแรงเสียบเสยขึ้นรับการกระแทกของแพรวา
“อา....ผัวขา เมียจะกระแทกเย็ดผัวให้แตกท่านี้เลยนะจ๊ะ เมียเสียวอีกแล้ว น้ำจะแตกแล้ว อูยยย..เสยขึ้นจนหีเมียซ่านสยิวไปหมดแล้ว อุย......”
“จ๊ะที่รัก ผัวก็ทนไม่ไหวแล้ว เราออกพร้อมกันนะ เมียจ๋า โอ้ยย.....พี่จะทนไม่ไหวแล้ว เร็วๆ จ๊ะเมียจ๋า”
แพรวาก็ออกแรงขย่มสุดแรง ฝ่ายธนธรณ์ตะบันเสยขึ้นอย่างเข้าขาเข้าจังหวะจะโคน
“อะ อ๊ายยยยย ผัวขา เมียไม่ไหวแล้ว ออกแล้วผัวขา....”
“พี่ก็ออก ละ..... ออก.....แล้ววววววววว อ้ากกกก”
เขากระเด้งสวนขึ้นเร็วแรงปานลูกสูบจนน้ำกามพุ่งกระฉูดเข้าโพรงหีแพรวาเต็ม รัก แต่ยังคงกระเด้าต่อจนเกิดเสียงดังเฉาะแฉะๆ แล้วเขาจึงค่อยๆ ผ่อนจังหวะลงจนสงบนิ่ง แพรวาก็เอนหงายทิ้งตัวไปนอนทับเขา ธนธรณ์โอบร่างอวบอัดกอดแนบสนิท รู้สึกถึงการตอดรัดของโพรงสวาทแฟนสาวยุบๆ อยู่ ทั้งสองกอดก่ายแน่นิ่งสักพักแพรวาจึงพลิกกายไปนอนข้างเขาลมหายใจยัง หอบกระเส่า
“วันนี้ทนทานจังเลยที่รักขา นี่แค่ซ้อมใหญ่ ถ้าวันนั้นจริงๆ แพรตายแน่เลย จะเอาแรงจากไหนรับมือพี่หมอคะเนี่ย”
“พี่ไม่ใจร้ายทำแพรขนาดนั้นหรอก ต่อไปพี่จะทะนุถนอมแม่หวานใจพี่ไม่ให้บุบสลายง่ายหรอกจ๊ะ แต่วันนี้พี่อดทนรอมานาน เลยอยากทำให้สมกับที่คิดถึงแพรมาหลายวัน แพรเอาใจพี่ตามใจพี่ออกอย่างนี้ พี่จะกล้าหักโหมกับเมียได้ลงคอเหรอ”
“พี่หมอขา เพื่อให้พี่หมอมีความสุข แพรยอมพี่ทุกอย่าง แพรจะทำหน้าที่ภรรยาที่ดีให้สามีสุดที่รักได้ทุกอย่างคะ แพรรักพี่หมอที่สุดเลย รู้มั้ย” แพรวาออดอ้อนฉอเลาะเขาอย่างอ่อนหวาน ธนธรณ์หัวใจพองคับอก โอบกอดร่างหวานใจแนบกระชับ จนหายเหนื่อย จึงพากันลุกเข้าห้องน้ำล้างเนื้อตัวแล้วสวมเสื้อผ้ากลับเข้าดังเดิม จัดที่นอนให้เรียบร้อยเช่นเดิม แล้วทั้งคู่ประคองกอดกันเดินลงจากเรือนหอไปยังบ้านของพ่อ ธนธรณ์....................