เรียบเรี่ยง โดย ท่าน ช.ชัชวาลย์ ตอนที่ 1
“เออๆ เด๋วจะรีบไปเด๋วนี้แหละ” วีระพลวางสายโทรศัพท์อย่างรีบร้อน เพราะธนธรณ์ เพื่อนที่เป็นหมอด้วยกันไม่ว่าง มีคนไข้ด่วน ให้เขาไปทำหน้าที่แทน เขารีบเดินกระวีกระวาดแทบจะเป็นวิ่ง จนถึงชั้นสองของอาคาร ถึงตรงเลี้ยวมุมตึก จะไปยังห้องทำงาน
“อุ้บ!!” “ว้ายยยยยยย”
วีระพล ชนเข้ากับหญิงคนหนึ่ง ทำให้ซวนล้มด้วยกันทั้งคู่ วีระพลบิดตัวโอบรัดร่างนั้นไว้แล้วพลิกให้ร่างเขาลงกระทบพื้นก่อน จะด้วยสัญชาตญาณสุภาพบุรุษอย่างไรไม่อาจบอกได้ พอล้มเอนกระทบพื้น ร่างที่เค้ากอดรัดก็ล้มเอนตาม จมูกเค้าปะทะกับแก้มอวบอิ่ม กลิ่นน้ำหอมจางๆ โชยมาให้ได้กลิ่นอย่างน่าประทับใจ ชั่วขณะนั้นต่างคนต่างก็รีบลุกขึ้น
“ขอโทษครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ผมรีบ ไม่ทันได้ดู ขอโทษจริงๆ คับ”
“ไม่เป็นไรคะ ดิชั้นเองก็รีบเหมือนกัน”
พอได้มองหน้าชัดๆ วีระพล เลยทราบว่าเจ้าของร่างเป็นหญิงอายุกลางคน น่าจะประมาณ 30 สวย หวาน หยาดเยิ้ม ยิ่งขณะนี้หน้าแดงเป็นตำลึงสุก คงเพราะอายเหตุการณ์เมื่อสักครู่
“เด๋วผมช่วยเก็บของให้นะครับ” อาสาพลางเก็บเอกสาร โดยที่เจ้าของยังไม่ทันได้กล่าวอะไร
“เอ่ออ....คุณรีบไม่ใช่เหรอ ดิชั้นเก็บเองคะ เอ่อ คุณเป็นหมอเหรอคะ”
“ครับ เผอิญมีคนไข้ด่วน เลยรีบไปหน่อย นี่ครับเอกสารของคุณ ไปก่อนนะครับ”
วีระพลรีบเดินไป แต่ในขณะนั้น เขาได้รู้สึกถึงกลิ่นน้ำหอมยังติดจมูกอยู่เลย หันกลับมามองอีกที เจ้าของร่างก็เดินไปไกลพอสมควร เห็นแต่ช่วงท้าย เดินทะมัดทะแมง แต่ก็ยังสวยอยู่ คนมองแอบยิ้มนิดๆ พอวีระพลตั้งสติก็สะบัดศีรษะ “เฮ้อ นี่กูท่าจะบ้า ดันปิ๊งคนแก่ หึ หึ หึ” แล้วก็รีบเดินเข้าห้องทำงาน
วันนั้นคนไข้ที่ว่างานด่วน เป็นสาวพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง อยู่สาขาในตัวเมือง ที่จริงอาการก็ไม่ถึงขั้นรุนแรงมากนัก เพียงแค่วูบ เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ และทำให้ท้องเสียไปด้วย จะว่าไปคนไข้รายนี้ก็สวยไม่หยอก เพียงแต่ตอนนี้หน้าตาซีดเซียวไปหน่อย พอเขาทำการให้ทานยาให้น้ำเกลือ และให้คนป่วยพักผ่อนแล้ว จึงบอกพยาบาลสาวคนใกล้ชิดว่า
“เดือน เดี๋ยวอีกสักชั่วโมงค่อยมาดูอาการอีกทีนะ ถ้าคนป่วยไม่มีอาการอะไรอีก ก็บอกญาติมารับกลับบ้านตอนเย็นวันนี้ได้เลย เด๋วพี่ไปดูคนไข้รายอื่นก่อน”
“คะ พี่พล เดือนจะจัดการให้คะ”
หลังจากตรวจคนไข้ และทำการรักษาอยู่ 2-3 ราย ซึ่งก็กินเวลาถึงบ่ายสามโมง เสร็จแล้ว วีรพลก็เดินกลับไปยังห้องพักของตน ซึ่งหมอทุกคนจะมีห้องพักที่โรงพยาบาลจัดไว้ ในห้องของเขาเป็นห้องรวมกับหมอเพื่อนอีกคนหนึ่ง ก็คือ ธนธรณ์ นั่นเอง แต่พอจะเปิดประตูเข้าไป หูเขาก็ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมา
“อูยยยยยยยย พี่ธร เดือนเสียวจะแย่อยู่แล้ววว จะทำอะไรก็รีบทำเถอะคะ อูยยยยส์ เดี๋ยวพี่พลมาเห็นเข้า อายเค้าตาย”
“จ๊ะๆๆ พี่จะรีบทำ แต่แหม กะลังเลียอร่อยๆ อยู่เลย เร่งพี่จัง พี่จะกระแทกแล้วนะ อ๊าส์”
“อ๊า อูยยย แน่นเหลือเกิน อย่าเพิ่งเร่งกระแทกนะคะ ให้เดือนตั้งตัวก่อน อูยยยย โอยยยย ทั้งคับ ทั้งเสียว” นั่นมันเสียงธนธรณ์กับพยาบาลคนสนิทของเขาเองหรือนี่!!! วีรพลได้ยินแล้วก็ทั้งโกรธเพื่อน ที่อ้างว่าไม่ว่าง ต้องให้เขารีบไปรักษาคนไข้ แต่ตัวมันกลับมาเสพสุขกลับพยาบาล สบายตัวซะอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากฟังต่อ จึงไม่เปิดเข้าไป เพียงแต่แง้มประตูมองลอดเข้าไป ห้องพักห้องนี้ จะเป็นห้องพักที่สำหรับเก็บเอกสารต่างๆ ของหมอแต่ละคนที่เป็นเจ้าของเท่านั้น เพราะฉะนั้น จึงไม่ค่อยมีใครจะเข้ามาวุ่นวายเท่าไหร่นัก วีรพลจึงแง้มประตูดูกิริยาอาการของทั้งคู่อยู่ข้างนอก ถึงแม้จะเห็นภาพไม่ชัด แต่ว่าเสียงนี่สิ ชัดเจนจนอดกระสันต์ด้วยไม่ได้
“เป็นไงบ้างจ๊ะ คนดี มันหีมั้ย”
“มันสิจ๊ะ สุดๆ เลย อา.... พี่ธรเย็ดได้ถึงใจเดือนมากๆ เลย อุยยยย ดูสิ ส่ายควยด้วย อึ้ยยยยส์ พี่ธรจะออกหรือยังคะ อูยยยยย ดะ ดะ เดือนใกล้แล้วนะ อูยยย กระแทกแรงๆ ได้เลยจ๊ะ พี่จ๋า อ๊าส์”
“ใกล้แล้วจ๊ะ อูยยยยย หีตอดดีเป็นบ้า นี่แนะๆ ถ้าไม่คิดว่ามีเวลาน้อย พี่จะขอเย็ดเดือนนานๆ เลยล่ะ อูยยย”
“เอาไว้ว่างๆ เราค่อยเย็ดกันใหม่ก็ได้คะ พี่ธรอยากเมื่อไหร่ เดือนจะแบหีให้พี่เย็ดตลอดเลย อูยยยย เย็ดเก่งอย่างงี้ เดือนให้เย็ดทั้งวันยังไหว อ้ายยยยยยยยยย แรงๆ คะ อูยยยย จะ อะ อะ ออกกกกกกกกกกก แล้วววว”
“โอ้ววววววววว พี่ก็ออกจะออกแล้ว เดือนอ้าปากนะ พี่จะป้อนน้ำเงี่ยนให้เต็มปากเลย มาเลย พี่จะออกแล้ววว อ้ากกกกกกกก อูยยยย ซี้ดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงทั้งสองเงียบไปสักพัก วีรพลรีบถอยฉากกลับออกไประยะหนึ่งแล้วจึงทำเป็นเดินเข้ามา ในห้องพัก
“อ้าว ธร เดือน อยู่นี่เอง งานเรียบร้อยแล้วเหรอ แล้วคนไข้ที่พี่ฝาก ว่ายังไงมั่งล่ะ”
“เอ่อ คนไข้บอกว่าเดี๋ยวหัวหน้าเค้าจะมารับเย็นนี้คะ แล้วเค้ายังบอกขอบคุณเราด้วย เค้าอยากจะเลี้ยงขอบคุณพี่พลด้วยนะ ถ้าพี่พลจะรับเลี้ยงขอบคุณ ก็ 5 โมงเย็น เค้าจะมารับคะพี่”
“อืมมม ขอบใจจ๊ะ ถ้าพี่ว่างก็จะรับละกัน แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ แล้วมีงานไรทำอีก รีบไปทำซะไป๊ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเลิกงาน เด๋วงานค้างนะ”
เมื่อได้ยินคำสั่งคล้ายๆ แกมไล่ เดือนก็ขอตัวออกจากห้องไป วีรพลจึงหันหน้าไปทางธนธรณ์ ซึ่งตอนนี้ หน้าเหมือนหมดแรง นั่งถอนหายใจอยู่ ถึงแม้จะพยายามปรับสีหน้าแล้วก็ตาม วีรพล จึงเดินไปนั่งใกล้ๆ เพื่อน แล้วตบไหล่
“ร้ายนะแก โบ้ยงานให้ชั้นทำ แกกลับพาเดือนมาจ้ำจี้กันในห้องพัก”
“เฮ่ย พล นี่แกรู้เหรอ”
“วะ ครางกันลั่นขนาดนั้น ดีนะ ไม่มีใครเดินมาได้ยิน ที่จริงชั้นจะโกรธแกมากด้วยซ้ำ แต่คิดอีกที ไม่รู้จะโกรธทำไม ว่าแต่แกเถอะ ถ้าอยากมาก ทำไมไม่หาที่มันเหมาะกว่านี้วะ ชั้นเป็นเพื่อนแก ชั้นยังอายเลยว่ะ”
“ก้อ จะหาเวลาไหนมั่ง ที่จะได้เจอกัน บางทีเดือนเค้าก็ออกเวรไม่ตรงกันกับชั้นสักที แต่ว่า ที่เสี่ยงๆ แบบนี้ ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“เวนกำ ดูมันพูด ไม่อายเล้ยยย แล้วน้องเดือนนี่ แกจิงจังเหรอวะ ถึงได้ทำขนาดนี้ เกิดท้องขึ้นมา จะเดือดร้อนนะเว้ยยย”
“ไม่หรอกพล เราคุยกันแล้ว ขอแค่แก้ความเงี่ยนวะ น้ำแตกก็แยกทาง เดือนเค้าไม่หัวโบราณน่า”
“เฮ้อ เมืองไทยเป็นแบบนี้ด้วยวุ้ยย เอ้า ช่างเถอะ ทีหลังชั้นขอร้องล่ะ หาที่อื่นเถอะ นะ ชั้นกระดากว่ะ”
“โอเคๆ แล้ววันนี้งานเสร็จหมดแล้วเหรอ ถึงได้เข้าห้องเร็วกว่าเดิม ปกติแกนี่ เกือบ 5 โมงโน่น”
“อืมมม ส่วนมากก็คนไข้ อาการดีขึ้นเยอะ รอแค่ดูอาการไปสักระยะเท่านั้น ชั้นเลยได้พักเร็ว ถึงมาได้รู้เห็นความสัปปะดนของแกไง”
“เอาน่าๆ แล้วที่คนไข้เค้านัดเลี้ยงขอบคุณเอ็งจะไปมั้ย ถ้าเป็นชั้นนะ ไม่ปฏิเสธ ชั้นเห็นหน้าเธอละ สวยถูกใจเป็นบ้า ได้สักครั้งนะมึ้งงงงงงงงงง หูยยยย อึ้ยยย ไม่อยากเซด” ธนธรณ์ ทำหน้าทำตาจินตนาการไปไกลถึงไหนไม่รู้ วีรพล หมั่นใส้เพื่อนที่ลามกได้ทุกเวลา เลยซัดผั๊วะ เข้าให้ที่กลางกบาล
“น่านไง ไม่เท่าไหร่มันจะหาที่ปักธงอีกล่ะ เอาเป็นว่าชั้นรับคำเชิญ และแกต้องไปกับชั้น เพราะว่าที่จริงแล้วเค้าคงอยากขอบคุณแก เพราะเป็นเจ้าของเคสนี้ หึหึ รู้น่า ว่าแกอยากไป”
“โอ้ววว แต๊งกิ้ว สหาย แม๋ รู้ใจกันงี้ รักกันตายเลย แต่แกอย่าแย่งชั้นนาโว้ยยย”
“อ่าวววว อุตส่าห์นำทางให้ จะหาว่าตูจะชุบมือเปิบซะเองเหรอ ไอ้เวนเอ้ยยยยย ไม่คุยด้วยล่ะ เตรียมตัวละกัน ชั้นจะไปทำธุระสักหน่อย ถ้าเค้ามารับ ชั้นจะโทร. เรียกละกัน ไปล่ะ”
เมื่อตรวจคนไข้เสร็จ วีรพล ก็เตรียมเก็บเอกสารจัดเข้าแฟ้ม แล้วจึงส่งให้เดือนเอาไปเก็บที่ห้องพัก และบอกว่าจะไปหาคนไข้ ที่จะเลี้ยงขอบคุณ พอเข้าไปถึงห้องคนไข้รายนั้น ก็พบว่า มีญาติคนไข้คนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่นแล้ว พอเห็นหน้าชัดๆ วีรพลก็จำได้ นี่คือคนที่เขาเดินชนเมื่อตอนสายนี่นา ยิ่งพอพิศดูหน้าอย่างชัดเจนแล้ว ทำให้วีรพลนิ่งไปชั่วขณะ เธอผู้นี้รูปร่างเพรียวสูง ผิวขาว ซึ่งผิดกับคนในท้องถิ่นนี้ แต่ดูท่าทางขรึม เป็นผู้ใหญ่ นัยน์ตาคม แต่แอบซ่อนความหวานไว้ภายใน ชุดที่เธอสวมบ่งบอกให้รู้ว่า เป็นชุดพนักงานของธนาคาร แต่ไม่ว่าชุดอะไร ในขณะนี้ก็ตาม วีรพลแทบลืมหายใจ ลืมไปว่ายังมีอีกคนอยู่ในห้องนี้ด้วย
“คุณหมอธนธรณ์ ใช่มั้ยคะ”เสียงถามนั่นทำให้วีรพลสะดุ้งนิดๆ ทำให้คนถามเหมือนจะรู้กิริยาอาการของเขา ยิ้มๆ ขำๆ นิดหน่อย
“เอ่อ ไม่ใช่ครับ ผมวีรพล ตอนคุณไม่สบาย ธนธรณ์เพื่อนผมวานให้ผมมารับงานแทนครับ”
“ดิชั้นแพรวาคะ ส่วนนี่พี่วิภาวรรณ พี่เค้าเป็นผู้จัดการของแพรเองคะ”
“เอ่อ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ และขอขอบคุณที่ให้เกียรติเลี้ยงขอบคุณผม ที่จริงแล้วไม่เห็นต้องลำบาก คนไข้รายอื่นเค้ารักษาหายแล้ว จ่ายค่ารักษา ค่ายา ก็กลับบ้านแล้ว ผมก็เพิ่งได้รับเกียรติก็คราวนี้ล่ะ”
“ก็แหม แพรอยากเลี้ยงนิคะ พี่วิภา ก็สนับสนุน ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ของหมอ แพรว่าเรามีน้ำใจให้กันบ้างจะเสียหายอะไร จริงมั้ยคะ คุณหมอ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณอีกครั้งครับ เอ่อ ว่าแต่ คุณ... ผมขอเรียกว่าพี่ด้วยนะครับ พี่วิภาวรรณ อาการเป็นอย่างไรบ้างครับ เมื่อเช้านี้ผมรีบไปหน่อย” ได้ยินคำถามนั้น วิภาวรรณก็เหมือนกับปั้นหน้าไม่ค่อยถูก เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ ยังไม่เคยเห็นชายหนุ่มคนไหนจ้องเธอเหมือนอยากจะให้ละลายลงตรงนั้นมาก่อน และอีกอย่าง ผู้ชายที่มองอยู่นี้ ถ้านับอายุ ก็น่าจะรุ่นลูกของเธอด้วยมั้ง แต่ทำมองเธอเหมือนกับมองสาวรุ่นอย่างงั้นแหละ
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอกคะ คุณน่าจะถามแพรวานะคะ ไม่ใช่ดิชั้น” คำตอบนี้ทำเอาวีรพลสะอึก ได้ยินแต่เสียงขำ ล้อๆ ของแพรวา
“เอ๋ คุณหมอกับพี่ภา เคยเจอกันแล้วเหรอคะ มิน่า คุณหมอถึงมองพี่ภา เหมือนกับเคยรู้จัก”
“ก็เพิ่งเจอเมื่อเช้าโดยบังเอิญจ๊ะ ไม่ได้สนิทสนมอะไรเลย พร้อมจะไปรึยังคะ คุณหมอ? เด๋วจะค่ำเสียก่อน”
“เอ่อ ครับ ผมขออนุญาตชวนเพื่อนไปด้วยนะครับ ที่จริงแล้วเคสนี้ต้องเป็นของเค้าที่รับผิดชอบ พอดีผมรับทำแทน ผมจะได้มีเพื่อนไปด้วย ผมไปคนเดียวก็วางตัวไม่ถูก ยังไม่คุ้นกับที่นี่ด้วยเท่าไหร่ เพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นานครับ”
แล้วทั้ง วีรพล ธนธรณ์ วิภาวรรณ และแพรวา ก็ได้เลือกร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อได้ทำความรู้จักทักทาย ก็พากันพูดคุยถามแลกเปลี่ยนเรื่องราว ประวัติของแต่ละคนเพื่อสร้างความคุ้นเคยยิ่งขึ้น สองสหายต่างรู้ใจกันพอสมควร จึงไม่ต้องแย่งหรือเกี่ยงอะไรกันมากมาย ธนธรณ์นั้นชวนแพรวา พูดคุยออกรสออกชาติสลับกับคุยกับวิภาวรรณ เพื่อไม่ให้เสียมารยาท วีรพลโดยปกติก็เป็นคนไม่ค่อยจะพูดสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับเพศตรงข้ามด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึง พอๆ กับวิภาวรรณ เนื่องจากเธออยู่ในตำแหน่งหน้าที่การงานสูง จึงอยู่ในลักษณะพูดวางตัวเรียบๆ คุยบ้าง แต่ไม่ค่อยเล่นลิ้นสนุกสนานเท่าไหร่ ในวงสนทนาจึงกลายเป็นแพรวากับธนธรณ์ที่พากันคุยถูกคอซะทุกเรื่อง ไม่ถูกได้อย่างไร ธนธรณ์ชอบแพรวาตั้งอยู่โรงพยาบาลแล้ว แล้วก็มีความคิดบางอย่างอยู่ในหัว ตอนนี้กำลังไต่(หา)เต้าอยู่...