......เรื่องนี้มันถือว่าเป็นความผิดครั้งนึง ในชีวิตของผมทีเดียว คุณที่อ่านจะคิดยังงัยก็แล้วแต่ นี่มันตัวผมนี่นะเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมชื่อนัทนะครับ แล้วลูกสาวของอาผม ชื่อ ปู อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมนี่แหล่ะแต่แก่เดือนกว่านะ เป็นเด็กสาวที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก น่าตาน่ารักมาก ผิวขาว เราเล่นด้วยกันมา จนโต ก็ยังเรียนอยู่ที่เดียวกัน ช่วงที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมจำได้ เรากำลังเรียนอยู่ มัธยมปีที่ 5 ซึ่งเรียนกันคนละห้อง ไม่ต้องบอกว่าโรงเรียนอะไรหรอกนะ ซึ่ง ปกติผมจะเป็นคนที่แฟนเยอะ ปูก็มีแฟนอยู่เหมือนกัน เรามักจะช่วยกันเสมอ เช่นให้อีกฝ่ายนึงปลอมเป็นแฟนเพื่อหลอกคนอื่น อะไรประมาณเนี้ย ที่โรงเรียน ส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่าเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า วันนั้น ปู โทรมาหาผม “นัท ช่วยปูหน่อยซิ มีพี่ ม.6 เค้ามาตามตื้อ ปู 2 -3 วันแล้ว ปู รำคาญจังเลย ปูบอกเค้าว่ามีแฟน แล้ว แต่ไม่ยอมเชื่อ ช่วยปลอมเป็นแฟนปูหน่อย” ผมบอก “อ้าวแล้วแฟนปูล่ะ” ปูบอกว่า “ไม่ได้เจอหลายวันแล้วล่ะ ไม่เห็นโทรหาปูเลย นะนะ ช่วยปูหน่อย” ผมก็เห็นใจอยู่เหมือนกัน “เออ ๆได้แต่มีข้อแม้ ต้องเลี้ยงหนัง กะเลี้ยงเหล้าด้วยนะ” ตกลงวันนั้นปูนัดให้ผมไปเจอที่เมเจอร์ปิ่นเกล้า ร้านเชสเตอร์กริล พอไปถึง ปูก็เดินมาหาผม จูงมือเข้าไปในร้าน มีผู้ชายนั่งอยู่ คนหนึ่ง “นี่งัยแฟนปู” ชายคนนั้นมองหน้าผมแล้วพูดว่า “ขอโทษนะครับ ผมนึกว่าปูเค้าไม่มีแฟน ก็เลยไม่เชื่อ” ผมนึกในใจ ,ไรวะแม่ง ถ้ากูเป็นแฟน จริงๆ คงถีบมึงร่วงแน่ๆ จากนั้น ผู้ชายคนนั้นก็กลับ ปูหันมาขอบใจผม “ไม่เป็นไรหรอก มาเลยๆ จะดูหนัง” วันนั้นรู้สึกว่าจะดูเรื่อง “อเมริกันพาย” นะ ซึ่งตอนนั้น ปูเดินเอามือมาควงจับแขนผมเดิน ผมบอกว่าจับทำไม ปูบอกว่า ไอ้ผู้ชายคนนั้นน่ะยังไม่กลับ เลย ให้สมจริงหน่อย เออ นึกในใจ พร้อมกับ โอบไปที่เอวของปู จากความรู้สึกที่สัมผัส ซึ่งปกติผมจะไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่วันนี้ เสื้อบาง ๆของปู กลิ่นสาวที่โชยมาแตะจมูก พร้อมกับเนื้อสาวที่นิ่มมือมากแม้จะเป็นตรงเอวก็ตาม มันทำให้มีความรู้สึกเหมือนเดินกับแฟนเลย ผมรีบสลัดความคิดนั้นทันที “น้ำหอม ๆ เหมือนกันนะ” ปูพูดขึ้นมา ผมหันไปมองหน้า “แน่ เดี๋ยวเหอะ ๆ” พร้อมหยอกล้อกันธรรมดา “ถ้าเราไม่ใช่พี่น้องกัน คงดีสินะ ต้องเป็นแฟนกันจริงๆ แน่เลย นัทว่ามั้ย” ผมหันไปมองหน้าปู พร้อมพยักหน้า “ฮื่อ งั้นมั้ง”
ในโรงหนัง ใครที่ดูเรื่องนี้ คงรู้ว่ามันส่อไปทางเพศมาก พอถึงฉาก แบบนั้น ผมมองหน้าปู เห็นนั่งเงียบๆ เลยกระซิบถามว่า “ปู เคยทำแบบนั้นมั่งรึยัง” ปูหันมา หยิกที่แขนผม “บ้าเหรอ ไม่เอาหรอก กลัวน่ะ” ผมสงสัยทันที “อ้าว แฟนปูสงสัยไม่มีน้ำยามั้ง” ผมหัวเราะไปยิ้มไป ปูหันมาค้อนขวับเลย
หลังจากดูหนังเสร็จ ก็เวลาเกือบ 3 ทุ่มแล้ว ผมรีบทวงสัญญาทันที “ไหนอ่ะ บอกว่าจะเลี้ยงเหล้าด้วย” ปูหันมามอง “ไม่ไปวันหลังเหรอ ไป 2 คนไม่สนุกหรอก” “แหม ไปหาเอาข้างหน้างัย” ผมพูดไปเพราะอยากกินเหล้าน่ะแหล่ะ “ตามใจแล้วกัน จะคุ้มมั้ยเนี่ย” ปูเริ่มบ่น วันนั้นเราไปที่ ผับย่านสุทธิสาร แห่งหนึ่ง เราเปิดเหล้า Red กัน ส่วนผมก็จ้องมองหาเหยื่อไปตามเรื่องตามราว ส่วนปูนั้นไม่ต้องห่วง นั่งกินอย่างเดียว หนุ่มๆ ได้แต่มองไม่กล้าเข้ามาจีบ คงนึกว่าเราเป็นแฟนกันมั้ง นั่งไปจนดึก ผมเองก็ตึง ๆแล้ว เหล้าก็หมดไปเลยครึ่งขวดแล้ว หันไปมอง ปูดูท่าทางจะเมามั้งเนี่ย ผมถาม “เข้าบ้านยังงัย เข้าได้ใช่มั้ย” ปูนั่งมองหน้าผม “ไม่รู้ดิ “ “อ้าว แล้วทำไมไม่บอกล่ะ จะได้รีบกลับ แล้วที่นี้ทำงัยเนี่ย” ไอ้ผมน่ะเข้าบ้านเมื่อไหร่ก็ได้อยู่แล้ว แต่ปูนี่สิ คุยกันยังไม่ทันไร ปูฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะ เมานี่นา ทำงัยดีวะเนี่ย ให้ไปนอนที่บ้านผมก็ไม่ได้ ผมประคองปูออกมาจากผับ เรียกแท็กซี่ แท็กซี่ถามว่า ไปไหนครับพี่ “ไปบางพลัด” ผมบอก ในใจยังนึกไม่ออกเลยว่า ไปไหนดี
ในรถ ปูนอนหลับซบที่ตักผม ตลอดเวลา มือก็โอบที่เอวผม กลิ่นสาวอย่างที่บอก ทำให้ผมคิดมากอีกแล้ว ผมมองไปที่เนินอกของปูซึ่งเบียดกับขาผม แล้วมือของผมก็โอบอยู่ที่บริเวณเอวของปู ทำให้มังกรของผมเริ่มชูชันอย่างไม่ตั้งใจ แรงเหล้า ความเมา ทำให้ผมไม่มีทางเลือก บอกกับแท็กซี่ไปว่า “ไปโรงแรม โรสอินน์” แท็กซี่ ขับเลี้ยวเข้าไปในโรงแรม จ่ายตังค์ ลงจากรถ ประคองปูเข้าไปในห้อง แล้วเดินออกมาจ่ายตังค์เด็กที่หน้าห้อง “ค้างคืนหรือชั่วคราวครับพี่” เด็กมันร้องถาม “ค้างแล้วกัน” ควักแบงค์ 500 ให้มันไป 1 ใบ แล้วเดินกับเข้าห้อง ปูยังนอนหลับเงียบอยู่ เฮ้อ “นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงดีแน่ๆ” นั่งนึกในใจ ซักพัก เด็กมันเคาะประตู “คร้าบ….เงินทอนคร้าบ….” ผมเปิดประตู รับเงินทอน 180 บาท พร้อมผ้าห่ม 1 ผืน ให้ทิป เด็กไป 20 บาท พร้อมปิดประตู ล็อคอย่างดี เดินเข้ามา ปูรู้สึกตัว ลุกขึ้นมา “ โอ้ย …มึนหัวจัง…ที่ไหนเนี่ย” “โรงแรมดิ่ เมาไม่รู้เรื่องเล้ย เราน่ะ”ผมตอบ ซักพัก ปูลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างเร็ว เข้าไปอ้วก คงเมามากเลย หลับคาอ่างอาบน้ำเลย เสื้อก็เปื้อน “โอ้ย….ไม่น่าเลย แล้วจะทำยังงัยที่นี้” ผมคิดในใจ สะกิดปู ไม่รู้สึก “เอ้า เลอะแล้ว ลุกๆ ไม่ลุกจะถอดเสื้อนะ เปื้อนหมดแล้ว” เงียบ ผมเขย่าตัวปู เอ้า หมดสติอีก ผมไม่สนแล้ว จัดการถอดเสื้อออก เพื่อจะล้าง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ผมตอนนี้ คือ เด็กสาว อายุ 16 ปี ขาวมาก ทำให้ใจผมเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แม้จะเคยมีอะไรกับผู้หญิงมาแล้วก็ตาม ผมเริ่มเอาผ้าเช็ดตัว ชุบน้ำลูบไปบริเวณ คอ เนินอก มืองี้สั่นไปหมด จากนั้นผมเริ่ม ถอดเสื้อในปูออก สีขาว ลายน่ารัก เอื้อมมือไปข้างหลัง อ้าว …ตะขออยู่ข้างหน้านี่เองแกะออกมา สิ่งที่เห็น หัวนมสีชมพูอ่อนๆ แข็งเป็นไต จากความเย็นของแอร์ และน้ำหน้าอกที่ขาวมาก ไอ้หนูผมเริ่มแข็งขึ้นมาอีกแล้ว ความรู้สึกต่างๆ นาๆ ผมเอาผ้า ค่อย ๆ เช็ด ลูบลงไปอย่างช้าๆ มันเป็นเวลาที่ทรมานและนานมาก จนเกลี้ยงผม เอาผ้าเช็ดตัวคลุมที่ไหล่ แล้วอุ้ม ปู มานอนที่เตียง นั่งมองอยู่ข้าง ๆ สาวหน้าตาน่ารัก คิ้วสวบ จมูกโด่ง ริมฝีปากที่บางเฉียบสีชมพู เรือนร่างที่บอบบาง เนินอกที่ได้รูป สะโพกที่ผาย ทำให้ผมเดินเข้าไปอย่างไร้สติ จูบไปที่ริมฝีบางปาก พร้อมทั้งดึงผ้าเช็ดตัวที่คลุมหน้าอกอยู่ออก ใช้ฝ่ามือเกาะกุมไปที่หน้าอกสวยคู่นั้น คลึงเคล้น อย่างเบามือ พร้อมทั้งสอดลิ้นเข้าไปในปาก ฝ่ามือเริ่มคลึงเคล้นหนักขึ้น ผมใช้จมูกดอมดม ไปตามใบหน้า ซอกหู กลิ่นสาวแตะเข้าที่จมูกหอมมาก ไอ้หนูชูชันอยู่ตลอดเวลา ผมเลื่อนปากมาที่เนินอก ลากลิ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปลายยอดปทุมถัน เม็ดบัวน้อยๆ เริ่มตอบรับความรู้สึกทันที ผมเอาลิ้นดุนดัน พร้อมทั้งดูดความหอมหวานจากปลายอกนั้นอย่างลืมตัว ปูเริ่มขยับตัว ส่ายหน้าไปมาช้า ๆ พร้อมทั้งสูดปาก ซี้ดส์ อ้า มือผมคลึงเคล้าหน้าอกอย่างไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เลื่อนปากลงมาที่สะดือ น่ารัก ตามเส้นลำตัวของหญิงสาว ใช้ลิ้นหมุนวนไปมา ปูร้องดังขึ้น ผมทนไม่ไหว ใช้สองมือ ปลดตะขอกางเกงของปู ปูเอามือมาจับที่มือผม พร้อมทั้งบอกว่า “พอเหอะนะ อย่าเลย แค่นี้นะ ปูกลัว” ผมกระซิบที่หู “ไม่เป็นอะไรหรอก นะปูสวยมากเลย” พร้อมทั้งประกบริมฝีปากลงไป จูปอีกครั้ง พร้อมทั้งมือก็คลึงเคล้นไปที่เนินอก และ เลื่อนไปปลดกางเกงอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีการขัดขืนเหมือนครั้งแรก ปูยกก้นขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้สะดวกขึ้น คงเหลือ กางเกงในสี้ฟ้าอ่อน ตัวน้อยอีกตัว ผมเลื่อนลงไปจูบที่เนินนั้นอย่างไม่รังเกียจ กลิ่นสาวแท้ๆ หอมมาก กลิ่นสาวที่บริสุทธิ์ อย่างที่ใครไฝ่ฝัน อยู่ตรงหน้า ผมไม่รอช้าดึงกางเกงขั้นในตัวนั้นออกทันที ขนอ่อน ๆ น้อยๆ ตามประสาเด็กสาวอยู่ข้างหน้า ท้าทายสายตายิ่งนัก ผมใช้ฝ่ามือลูบไปเบาๆ ปูแอ่นสะโพกขึ้นลอยตามมือทีเดียว ไม่รอช้า ผมจับขาแยกออก พร้อมทั้ง ใช้ปลายลิ้นตวัดเข้าที่เนินน้อยอันนั้นอย่างตั้งใจ ปูส่งเสียงครางออกมาทันที “อูยส์ นัททำอะไรน่ะ โอ้ย ปูเสียว ๆ มากเลย อ้า อา…” ผมไม่ยอมหยุด ลิ้นลิ้นละเรียด เข้าที่เม็ดมณีน้อย อย่างชำนาญ ลากมาตามแคมใสๆ สีแดงสด แคมที่ปิดสนิทใช้มือค่อยๆ แหวกออกจากกัน ห่อลิ้นเล็กน้อยแล้วดุนเข้าไป “โอ้ย…เสียว หยุดเหอะ ทนไม่ไหวแล้ว โอ้ว…โอ” ผมละละเนินตรงนั้นอย่างเสียดาย ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างรีบร้อน กอดไปที่เรือนร่างเปล่าเปลือยนั้นอย่างทะนุถนอม พร้อมทั้ง จับขาปูแยกออก ช้าๆ ปูหลับตาลง ผมค่อยๆ สอดแท่งเนื้อ เข้าไปอย่างช้าๆ ที่ปากถ้ำน้อยๆ นั่น “อูยส์..โอ้ย เจ็บ ๆ หยุด ๆ ก่อน นัท” ปูร้องพร้อมทั้งผลักผม ๆ รีบกอดไว้ ระดมจูบไปที่ใบหน้า และประกบปาก ค่อยๆ ดันเข้าไปอีก ความรู้สึก มันเหมือนกับ ดังกึก ๆ ที่ตรงนั้น ค่อยๆ โยก ช้า ๆ ทรมานมากจริงๆ ปูน้ำตาไหลออกมา กัดฟันเต็มที่ ผมสงสารมากเลย “เจ็บ นะ เจ็บมากเลย นัท “ ปูพูดออกมาทั้งน้ำตา ผมจูบไปที่ดวงตานั้น พร้อมทั้งค่อยๆ ดัน จนสุดจึงค่อยๆ ถอนออกมาก แล้วดันเข้าไปใหม่ ก้มลงไปดู มีเลือดเล็กน้อยที่ ส่วนปลาย ผมถาม” หายเจ็บรึยัง” ปูพยักหน้า ผมเริ่มเบาใจ เริ่มความเร็ว โยกไป ปูเริ่มครางออกมาทั้งน้ำตา “โอ้ว นัท อ้า ๆ “ ผมซอยเอวไปเรื่อยๆ “พั่บ ๆ ๆ อ้า อ้า โอ้ว เสียวมากเลย” ปูกอดผมแน่น เราจูบปากกันอย่างเมามัน พร้อมทั้ง ขยับเอวไปด้วย เสียงน้ำหล่อลื่นกระทบกับท่อนเนื้อ แจ๊ะ ๆ พั่บๆๆ จนเวลาผ่านไป ปูเริ่มเกร็งตัว กอดรัดผมแน่น แล้วกรีดร้องออกมา “โอ้ย ไม่ไหวแล้ว โอ้ว ๆ ฮ้า อ้า “ คลายมือลงไป ผมก็จวนเจียนแล้ว ฮ้า อ้า ผมดึงท่อนเนื้อออก มา พร้อมทั้งหลั่งน้ำออกมา บนหน้าท้องของปู เต็มไปหมด “โอ้ว อ้า ๆ เสียวมากเลย” ผมร้องออกมา พร้อมทั้งฟุบลงไปข้างๆ ตัวปู มือกอดไว้ ซักพักผมเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ข้างๆ มาเช็ดนำออกจากตัว ปูน้ำตาไหลออกมาพร้อมทั้งร้องไห้ “เราไม่น่าทำอย่างนี้เลย” ผมปลอบปู “ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีใครรู้ อย่าร้องไห้เลยนะ” แล้วเราก็ม่อยหลับไป จนเกือบเที่ยง โทรศัพท์ในห้องดังขึ้น ผมรับ เสียงหวานๆ พูขึ้นมาว่า “หมดเวลาแล้วค่ะ จะต่อชั่วโมงรึเปล่าค๊ะ” “ไม่ครับ เรียกแท็กซี่ให้ผมด้วย” “ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ผมกับปูแต่งตัวกัน เด็กมาเคาะประตูห้อง เราออกมาจากโรงแรมนั่น แล้วกลับบ้าน จากนั้นเราก็สนิทกันมากขึ้นอีก
นี่แหล่ะครับประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมอีกเรื่องนึง
