close buttonclose buttonclose button
กระบี่แค้นเจ้าสำนักง่อไบ๊

กระบี่แค้นเจ้าสำนักง่อไบ๊

เรื่องเสียว · 37222

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
หลังจากโดนอาฮุยสร้างความเจ็บช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ จี้เฮี้ยบก็เก็บตัวในสำนักง่อไบ๊ ฝึกวิทยายุทธ์จนบรรลุขั้นสูงสุด นางจึงลงจากเขาง่อไบ๊เพื่อตามล่าแก้แค้นอาฮุยให้ได้...น่ากลัวยิ่งนัก
          วันปีใหม่ อากาศร้อนยิ่งนัก หนทางในเมืองซ่งเอี๊ยงสะท้อนแสงแดดเจิดจ้าจนแสบตา ผู้คนล้วนหลบคลื่นร้อนอยู่ในบ้าน จี้เฮี้ยบ โฉมสะคราญอันดับหนึ่งของบู๊ลิ้มเดินตัดเข้าเมืองมาด้วยท่วงท่าสง่างามอัน เป็นเอกลักษณ์ของนาง ครั้งนี้นางสวมอาภรณ์สีดำล้วน...นับแต่เหตุการณ์นั้น นางก็สวมใส่อาภรณ์สีดำล้วนตลอดมา อากาศแม้ร้อน ในตานางกลับร้อนกว่า ร้อนจนผู้คนมิกล้าสบตา เป็นความร้อนจากไฟแค้น
นางสวมใส่เสื้อผ้าฝ้ายเบาบาง ชุดตัดเย็บประณีต ขนาดใหญ่ หลวมกับตัวนางเล็กน้อย ลมร้อนพัดกรูผ้าแนบกับลำตัวนาง ดูแล้วก่อให้เกิดความเย้ายวนใจรูปแบบหนึ่ง แต่แฝงบุคลิกที่สูงส่งจนผู้อื่นมิอาจเกิดความคิดสกปรกได้ แม้จะถูกอาฮุยย่ำยีแล้ว แต่นางยังนับเป็นสุดยอดเจ้าสำนักอันดับหนึ่งของบู๊ลิ้มเช่นเดิม
          เบื้องหลังจี้เฮี้ยบ ตามมาด้วย เฮ็กกุ้ย(ปีศาจดำ) ชาวแอฟริกันซึ่งโชคร้ายเรือแตกมาขึ้นฝั่งที่เมืองจีน อาศัยรูปร่างใหญ่โต หน้าตาดุร้ายราวปีศาจ ยึดอาชีพโจรปล้นฆ่าจนถูกจี้เฮี้ยบจับกุมตัวไว้ได้อย่างง่ายดาย จี้เฮี้ยบความจริงไม่เคยมีความปราณีให้มิจฉาชีพ ขณะกำลังจะสังหารมัน พลันพบเห็นว่าเฮ็กกุ้ยมีอาวุธประจำกายใหญ่หลวงจนน่าตกใจนัก จี้เฮี้ยบจึงไว้ชีวิตแก่มัน...ท่านหากคิดว่านางจะ “ใช้งาน” เฮ็กกุ้ยก็นับว่าท่านดูแคลนความสูงส่งของนางเกินไปแล้ว แม้นับว่าคิด ก็ยัง “มิกล้า” ขนาดของเฮ็กกุ้ยนับว่าใหญ่โตเกินความคุ้นเคยของชาวจีน ท่านหากเป็นสตรีถูกบุรุษย่ำยี ยังมีวิธีแก้แค้นใดดีเลิศกว่าเห็นบุรุษผู้นั้นถูกเฮ็กกุ้ยย่ำยี...มิมี จื้อเฮี้ยบเดินฝ่าลมหนาวมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง นางเปิดประตูเข้าไป พบว่าห้องโถงอันใหญ่โตกลับว่างเปล่า มีเพียงอ่างน้ำตั้งอยู่กลางห้อง กลางอ่างนั้นมีอาฮุยนอนเปลือยเปล่าแช่น้ำอยู่
          “ ท่านเจ้าสำนัก...คิดถึงเหลือเกินแล้ว “
          “ อาฮุย...นับว่าสวรรค์ยังเมตตา มิให้เจ้าตายไปก่อน วันนี้ข้าต้องล้างแค้นให้ได้ “
          “ ปีใหม่แล้ว ท่านไยพูดเรื่องอัปมงคล ไยมิมาร่วมรักกันอีก ”
          “ บังอาจ “
          จื้อเฮี้ยบกระโดดลอยตัว ชักกระบี่ออกจากฝัก ยังมิทันจู่โจมถึง อาฮุยก็ซัดอาวุธลับเข้าใส่ จื้อเฮี้ยบฟาดใส่อาวุธลับ อาวุธลับแตกตัวเป็นกลุ่มควันอีก จื้อเฮี้ยบควงกระบี่รอบหนึ่งสลายกลุ่มควันอย่างง่ายดาย ปลายกระบี่ตวัดวาบๆ จี้จุดอาฮุยจนขยับไม่ได้อีก ฝีมือนางนับว่าสูงส่งขึ้นจนอาฮุยคาดไม่ถึงจริงๆ จี้เฮี้ยบยิ้มสะใจ หันมาทางเฮ็กกุ้ย
          “ ถอดเสื้อผ้าเจ้าออก”
          เฮ็กกุ้ยถอดเสื้อผ้ามันออกเปลือยเปล่า เห็นร่างกำยำและอาวุธมหึมา อาฮุยเบือนหน้าหนีด้วยความแสลงใจ
          “ ถอดเสื้อผ้ามันออก”
          เฮ็กกุ้ยเดินมาหาอาฮุย ถอดเสื้อผ้าอาฮุยออกจนเปลือยเปล่า ดวงตานางฉายแววเร้าใจประการหนึ่ง สิ่งที่นางรอมาเนิ่นนานกำลังจะเป็นจริง นางออกตำสั่งอีกครั้ง
          “ ขืนใจมัน ”
          เฮ็กกุ้ยอ้อมมาด้านหลังอาฮุย ร่างอันใหญ่กำยำบดบังบริเวณบั้นท้ายของอาฮุย จื้อเฮี้ยบโงกคอเพื่อดูให้ชัดเจน ทันใดนั้น อาฮุยก็พุ่งมาหาดุจสายฟ้าฟาด จื้อเฮี้ยบจะชักกระบี่ยังชักมิได้เพราะเฮ็กกุ้ยก็หมุนกลับกอดรัดตัวนาง เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงกระทันหัน อาฮุยลงมือจี้จุดนางทันทีจนนางมิสามารถขยับตัวได้อีก
          “ ท่านกลับไปฝึกวิทยายุทธ์อีกสิบปี สุดท้ายยังต้องเสียทีแก่ข้า เฮ็กกุ้ยกับข้าร่วมมือกันแต่แรก ชักนำท่านมาที่นี่ พอเฮ็กกุ้ยถอดเสื้อผ้าข้า มันก็ถือโอกาสคลายจุดให้ข้าด้วย”
          เฮ็กกุ้ยหัวเราะลามก
          “ ข้าจะถอดเสื้อผ้าท่านบ้าง ... แต่มิอาจคลายจุดแล้ว ต้องขออภัย”
          “ เฮ็กกุ้ย ข้าไว้ชีวิตเจ้านะ...”
          พูดยังไม่ครบประโยค เฮ็กกุ้ยก็กางอุ้งมือใหญ่เท่าใบลานตะปบลงทรวงอกจื้อเฮี้ยบ บีบเคล้นเนื้อนุ่มเต็มแรง จี้เฮี้ยบขบกรามกรอด มิยอมร้องแสดงความเจ็บปวดออกมา ปล่อยให้เฮ็กกุ้ยขยำขยี้อกนางอย่างเมามัน แล้วขยุ้มผ้ากระชากขาดแคว่กเป็นทางยาว ร่างอ้อนแอ้นของจื้อเฮี้ยบกระเด็นตามแรงมือตกลงในอ่างน้ำตูม ที่แท้ในอ่างกลับแช่ด้วยก้อนน้ำแข็ง น้ำในอ่างเย็นเยียบ เย็นจนผู้คนขนลุก
อาฮุยจิกผมนางกระชากขึ้นมา เสื้อผ้าเปียกแนบร่างนาง ขับให้เห็นส่วนโค้งส่วนเว้า เสื้อนางขาดวิ่น มิอาจปกปิดเนื้อขาวดุจหิมะของนาง สองเต้าล้นหลามกระเพื่อมไปมาตามแรงหอบหายใจ ความเย็นของน้ำทำให้ขนทั่วกายนางลุกชันเป็นตุ่มเล็กๆทั่วร่าง โดยเฉพาะตรงจะงอยถันหดตัวลงเป็นเม็ดบัวเม็ดกะจิ๊ดริด อาฮุยตะปบสองมือลงบีบหน้าอกนาง
          “ คิดแก้แค้นข้า ต้องเจอแบบนี้ ... ฝ่ามือกระชากบัว ”
          อาฮุยแผ่พลังใส่ฝ่ามือจนร้อนแดงบีบซาลาเปาของจื้อเฮี้ยบ นิ้วทั้งสิบของมันฝังลึกลงจนแทบจะจมหายไปในเนื้อนุ่ม จะงอยถันของนางเล็ดลอดปลิ้นออกมาระหว่างช่องนิ้ว แดงกล่ำจนเข้ม เฮ็กกุ้ยเดินมาหาจื้อเฮี้ยบ หยุดอยู่ตรงหน้า ความใหญ่ของมันชูชันขึ้น ขยายใหญ่กว่าที่เห็นตามปกติเสียอีก อาฮุยกระทุ้งเข่าใส่ข้อพับจนจื้อเฮี้ยบต้องคุกเข่าลง อาวุธของเฮ็กกุ้ยอยู่ตรงหน้านางพอดี
          “อมเข้าไปซะ”
          “ไม่...เจ้าเดรัจฉาน อกตัญญู...”
          เฮ็กกุ้ยบีบปากนางจนอ้าออก แล้วยัดอาวุธของมันเข้าไปทันที จื้อเฮี้ยบได้แต่อ้าปากจนขากรรไกรแทบหลุด อาวุธของเฮ็กกุ้ยคับปากคับคอจนนางน้ำตาไหล อาฮุยจับสะโพกนางยกขึ้น ฉีกกระชากกางเกงสีดำออก เห็นแก้มก้นสีขาว อวบอิ่ม อาฮุยสะบัดฝ่ามือฟาดลงไปดังแปะ แก้มก้นกระเพื่อมไหว แดงขึ้นทันที จื้อเฮี้ยบส่งเสียงร้องอู้อี้ อาฮุยหัวเราะร่าจับสองขานางแหกออก จ่อปลายอาวุธของมันเข้าที่หน้าคูหาของนาง
จื้อเฮี้ยบพยายามหันกลับมามอง แต่เฮ็กกุ้ยจับหน้านางไว้แน่น โยกเข้าโยกออกให้รูดหัวอาวุธของมัน  อาฮุยเสียบกระบองของมันเข้าไปทันที จื้อเฮี้ยบเจ็บปวดจนสำลักออกมา แต่ยังกัดฟันมิส่งเสียงร้อง แม้ตาย นางก็มิยอมทำให้พวกมันสำราญใจอีก นางพยายามรวบรวมกำลัง เดินลมปราณ คลายจุดให้ตัวเองอยู่ อาฮุยทิ่มกระบองเข้าไปอย่างยากเย็น ข้างในของนางฝืดคับมาก แต่ยิ่งคับมันกลับยิ่งสมใจ อาฮุยแทงเข้าไปจนมิดก็กระชากกระบองออกอย่างแรง ร่างจี้เฮี้ยบสั่นสะท้านไปทั้งร่าง อาฮุยเสียบมิดเข้าไปอีก แล้วกระแทกเข้ากระแทกออก ขณะเดียวกัน เฮ็กกุ้ยก็จับศีรษะนางไว้แน่น กระเด้าอาวุธของมันทะลวงปากจี้เฮี้ยบอย่างรุนแรงเช่นกัน ร่างขาวโพลนของจี้เฮียบสั่นไหวไปมาราวกับตุ๊กตาผ้าเก่าๆตัวหนึ่ง อาฮุยกับเฮ็กกุ้ยสบตากัน ยิ้มให้กันอย่างสะใจ
          “เป็นอย่างไรบ้างเฮ็กกุ้ย อุ้งปากนังเจ้าสำนักนี่ใช้การได้หรือไม่”
          “มิทราบนางฝึกวิชามารใดมา ข้าเสียวจนสุดบรรยายแล้ว...คูหานางเล่าเป็นอย่างไร”
          “ยังคงคับแน่น สร้างความหรรษาให้ข้ายิ่งนัก...นี่คงเป็นวิชาง่อไบ๊พิสวาสกระมัง ฮาๆ”
          อาฮุยค้อมตัวลงจับสองเต้าหลามที่คล้อยลงกระฉอกไปตามกระแทก สองนิ้วจับเม็ดจงอยถันเข้มบีบบิดไปมา ร่างจี้เฮี้ยบสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด อาฮุยยิ่งมัน สาวสะโพกโถมซอยถี่ยิบ ทะลุทะลวงความสาวของนางจนมันถึงจุดสุดยอด แตกทะลักฉีดลำธารเหนียวข้นออกไป อาฮุยส่งเสียงครางอย่างสุขสม ถอนแก่นกายออกมา เฮ็กกุ้ยจับปากนางให้อมของมันไว้แล้วเดินก้าวลงมาในอ่างน้ำเย็นเยียบด้วย มันย่อตัวลงจนเอวลงไปแช่ในน้ำ มันจับจี้เฮี้ยบกดลงไปในน้ำด้วย จี้เฮียบจำต้องกลั้นหายใจใต้น้ำ อาฮุยเห็นแล้วปรบมือให้ เอ่ยชมเฮ็กกุ้ย
          “ กระบวนท่านี้พิสดารนัก ตัวท่านแช่ในสายน้ำเย็นเยียบ แต่อาวุธของท่านกลับอยู่ในปากที่อบอุ่นของนาง เดี๋ยวข้าพเจ้าต้องลองบ้างแล้ว”
          “ ท่านต้องทำตอนใกล้ถึงเท่านั้น เพราะนางมิอาจกลั้นหายใจนานเกินไป “
          เฮ็กกุ้ยพูดจบก็กระเด้าเอวเข้าปากจื้อเฮี้ยบอย่างรุนแรงอีกครั้ง แล้วก็ถึงจุดสุดยอด น้ำกามกระฉูดเข้าปากจี้เฮี้ยบจนนางแทบสำลัก ได้แต่กลืนกินเข้าไปจนหมด เฮ็กกุ้ยดึงร่างจี้เฮี้ยบขึ้นมาจากผิวน้ำ เอาอาวุธของมันถูไถใบหน้างามสะคราญของจี้เฮี้ยบ ดุ้นเนื้อดำขลับของมันรูดผ่านพวกแก้มอิ่มเอิบเจือเลือดฝาดของจี้เฮี้ยบ ผ่านขนตางามงอน ผ่านจมูกแน่งน้อย ผ่านริมฝีปากที่อวบอิ่ม เพียงครู่ อาวุธของมันก็กลับแข็งผงาดอีกครั้ง มันจับร่างจี้เฮียบนอนพาดขอบอ่าง จ่ออาวุธขนาดมหึมาของมันเบื้องหน้าความสาวของจี้เฮี้ยบซึ่งเทียบขนาดกันแล้ว นับว่าแตกต่างกันราวมดกับช้าง แม้แต่อาฮุยยังอดรอดูด้วยความตื่นเต้นหวาดเสียวมิได้ เฮ็กกุ้ยกำลังจะทิ่มแทงอาวุธของมันเข้าไป ทันใดนั้น จี้เฮี้ยบก็รวบรวมลมปราณคลายจุดให้ตัวเองได้ อาฮุยสังเกตเห็น
          “ผิดท่าแล้ว รีบถอย”
          อาฮุยกระโดดลอยตัวออกไปนอกหน้าต่างทันที เฮ็กกุ้ยรีบลอยตามไป จี้เฮี้ยบกลับมิกล้าออกไปทั้งร่างเปลือยเปล่าอย่างพวกมัน ต้องเสียเวลาหยิบผ้ามาคาดเอวลวกๆ แล้วหยิบกระบี่กระโดดตามออกไป ภายนอกโรงเตี๊ยมแสงแดดเจิดจ้า อากาศร้อนราวโลกันต์ จี้เฮี้ยบเห็นเพียงเฮ็กกุ้ยวิ่งตะบึงหนีไป แต่มิเห็นร่องรอยอาฮุยแล้ว จี้เฮี้ยบกระโดดปราดไปขวางหน้าเฮ็กกุ้ย สะบัดกระบี่
          “ เจ้า...ตาย”
          ทันใดนั้น อาอุยก็โผล่พรวดขึ้นมาจากพื้นทรายด้านหลังจี้เฮี้ยบ เตะใส่หลังนางฉาดหนึ่งจนกระบี่หลุดจากมือ จี้เฮี้ยบแม้โดนเตะ แต่ยังแผ่ลมปราณคุ้มครองทัน กระโดดหลบบิดกายกลางอากาศอย่างสวยงาม ชายผ้าที่คาดเอวไว้กำลังตลบขึ้นอวดความสาว จี้เฮี้ยบยังมือไว ยกมือมาปิดไว้ได้ทันท่วงที มิคาดอาฮุยโผล่ขึ้นมาจากด้านหลังอีก มันยกฝ่ามือกระแทกใส่กระหม่อมนาง
          “ฝ่ามือปลุกสวาท”
          จี้เฮี้ยบหงายตัวแอ่นร่างยกฝ่ามือปะทะทันท่วงที ทั้งสองฝ่ายหักล้างพลังลมปราณกันสุดชีวิต แม้นับเพลงกระบี่ จี้เฮี้ยบจะเป็นอันดับหนึ่ง แต่หากนับพลังลมปราณ นับว่าทั้งสองคู่คี่ก้ำกึ่ง ระหว่างนั้นเอง เฮ็กจื้อก็เดินตรงเข้ามาทางด้านหน้าของนาง สายตามันจับจ้องที่หว่างขาขาวโพลนของนาง ชายผ้าคาดเอวห้อยลงมาปิดหว่างขาพอดี แต่ลมร้อนพัดผ้าจนแห้งกระพือเห็นความสาวของนางชะเวิบชะวาบ เฮ็กกุ้ยเข้ามาลูบไล้โคนขาอ่อนของนางไปมา จี้เฮี้ยบร้อนใจยิ่ง แต่ทำอะไรมันไม่ได้ หากนางเสียสมาธิ พลังลมปราณของอาฮุยย่อมทะลุทะลวงเข้ามา นางได้แต่แอ่นร่างยกสะโพกลอยเด่นให้เฮ็กกุ้ยชื่นชม เฮ็กกุ้ยปลดผ้าของนางออกอย่างง่ายดาย ท่ามกลางแดดที่เจิดจ้า ร่างขาวสกาวของนางสะท้อนแสงแดดเจิดจ้ากว่า อากาศร้อนจนทั่วร่างนางมีเม็ดเหงื่อผุดซึมเป็นเม็ดเล็กๆทั่วร่างสะท้อนแสง ราวอัญมณีประดับพร่างพราย เฮ็กกุ้ยก้มลงฉกลิ้นเลียไล้ชิมเหงื่อบนหน้าท้องนางแล้วค่อยๆไล่ลงจนถึงพุ่ม แพรไหมสีดำ มันสอดลิ้นเข้าไปในซอกหลืบ ไล้เล็มเม็ดกระสันของนางไปมา จี้เฮี้ยบเสียววาบๆ สมาธิแทบกระสานซ่านเซ็น ดีที่พลังฝึกปรือนางมิใช่ชั่ว จึงยังคงรักษาลมปราณไว้ได้ เฮ็กกุ้ยกดหัวอาวุธมหึมาของมันจรดเบื้องหน้ารูสวาทจิ้มลิ้มของจี้เฮีย บแล้วกระเด้าพรวดเข้าไป จี้เฮี้ยบสะดุ้งเฮือก แม้ว่ามันเข้าไปได้แค่ครี่งของส่วนหัวเท่านั้น เฮ็กกุ้ยไม่มีความปรานี กดกระแทกจนหัวบานมุดหายเข้าไปทั้งหัว จี้เฮี้ยบมิอาจอดทนได้อีก ส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น เฮ็กกุ้ยกระแทกดุ้นของมันเข้าไปอีกครึ่งลำ จนกลีบเนื้อของนางเปล่งปลิ้นอย่างคับแน่น หากเป็นหญิงสาวสามัญ คงฉีกเห็นเลือดแล้ว แต่ดีที่จี้เฮี้ยบฝึกวิชาภูษาเหล็กคลุมกาย กล้ามเนื้อผิวหนังล้วนฉีกขาดเป็นแผลได้ยาก ดังนั้นนอกจากไม่ฉีกแล้ว ยังทำให้เฮ็กกุ้ยรู้สึกผิวภายในคูหาของนางลื่นและตอดรับเป็นพิเศษจนเฮ็กกุ้ย แทบถึงจุดสุดยอด มันต้องข่มกลั้นตัวเองเต็มที่จึงกระดกแทงพรวดเข้าไปอีกจนมิดด้าม จนปากมดลูกดัง กึก จี้เฮี้ยบกรีดร้อง ร่างสะบัดไปมาอย่างเจ็บปวด เฮ็กกุ้ยยิ่งเร้าอารมณ์ สองมือล็อคโคนขาจี้เฮี้ยบลอยสูงขึ้น ขยับสะโพกเข้าไปอีก แล้วโถมกระเด้าใสร่างนางอย่างเมามัน สองเต้ากระเพื่อมไปมา หยดเหงื่อกระเด็นกระจายไปทั่วทิศ เสียงร้องของจี้เฮี้ยบดังครวญครางตลอดเวลา เฮ็กกุ้ยเสียวจนอดร่ำร้องมิได้
           “ ท่านเจ้าสำนัก ของท่านนับว่าฟิตแน่นหยุ่นเหนียว มิเคยเจอจริงๆ”
          “ หยุดปากเดี๋ยวนี้ เจ้าชาติชั่ว”
          เฮ็กกุ้ยกลับบิดเอวแทงซ้ายแทงขวา หัวอาวุธถูไถไปทุกมุม ในที่สุดลมปราณจี้เฮี้ยบก็แตกซ่าน พลังฝ่ามือปลุกสวาทของอาฮุยก็ไหลเข้ากรุยชีพจรตลอดร่างของนาง ปลุกกระตุ้นอารมณ์กำหนัดจนจี้เฮี้ยบมิอาจควบคุมตัวเองได้อีก จี้เฮี้ยบเปลี่ยนเป็นตวัดร่างขึ้นโอบคอเฮ็กกุ้ย ส่งเสียงครวญคราง มองมันด้วยตาหรี่ปรือ
          “วิงวอนท่าน ทำแรงๆได้หรือไม่”
          เฮ้กกุ้ยยิ้ม กระดกสะโพกกระเด้าแรงขึ้นอีก จี้เฮี้ยบโยกสะโพกตอบราวนางม้าป่า นางขมิบอวัยวะของนางตอดรับถี่ยิบ เฮ็กกุ้ยสะดุ้งรีบเกร็งท้องน้อยข่มกลั้นตัวเองสุดความสามารถ มิอาจขยับเขยื้อนตัวได้อีก แต่จี้เฮี้ยบกลับมิยอมหยุดโยกสะโพกไหวๆไปมา จนเฮ็กกุ้ยมิอาจทานทนได้แต่ปล่อยเลยตามเลย โยกสะโพกเสียบอย่างรุนแรงสุดชีวิตจนถึงจุดสุดยอด ปล่อยน้ำพุ่งกระฉูด เฮ็กกุ้ยจะถอนแก่นกายออกมา แต่จี้เฮี้ยบกลับมิยอม ขมิบกลีบหนีบไว้ รอจนมันแข็งตัวขึ้นใหม่ ระหว่างนั้นนางยังกวักมือเรียกอาฮุย
          “ตัวน่าชัง ข้างหลังข้ายังรอท่านอยู่”
          อาฮุยยิ้มกริ่ม มิรอช้า เข้ามาแหวกแก้มก้นขาวสะอาดของนาง เสียบเข้าไปทันที จื้อเฮี้ยบครางลั่น ขมิบตูดบีบรัดไม่กี่ครั้ง อาฮุยก็เสียท่า ปล่อยน้ำเชื้อออกไป มันจะถอนแก่นกายออก จี้เฮี้ยบกลับมิยอม
          “ ใช้มิได้ มา ข้าพเจ้าส่งเสริมพวกท่านเอง”
          จี้เฮี้ยบจี้จุดใส่อาฮุยและเฮ็กกุ้ย อาวุธของมันทั้งสองก็แข็งขึ้นอีก คราวนี้สองจอมโฉดตกใจยิ่งนัก คิดถอนแก่นกายออกมาก็มิทันแล้ว ถูกจี้เฮี้ยบขมิบตอดจนถึงจุดสุดยอด ปลดปล่อยน้ำเชื้อออกไปอีก พระอาทิตย์ลับโลกไปแล้ว ความร้อนก็ผ่อนคลายลง จี้เฮี้ยบยังคงรีดน้ำเชื้อจากทั้งสองจนทั้งสองขาดใจตายไปคาคูหาของนาง ในที่สุดก็นับว่านางฆ่าทั้งสองได้แล้ว.. นางใช่ล้างแค้นได้จริงหรือไม่ หรือแท้จริงนางถูกย้ำแค้น...อาฮุยแม้ตายไป แต่แท้จริงมันแพ้หรือชนะ ... มิว่าท่านตอบเช่นใด แต่เรื่องราวยังมิอาจเรียกว่าจบลง พลังปลุกสวาทเข้าแทรกลมปราณของนางอย่างถาวร จี้เฮี้ยบออกตระเวนล่าข่มขืนบรรดาจอมโจรถึงตายจนเป็นที่เลื่องลือ ยี่สิบปีแรก ถึงกับมีมิจฉาชีพบางคนเสนอหน้าให้นางฆ่าด้วยซ้ำ รสสวาทของนางนับว่าคุ้มค่าแก่ความตาย ยี่สิบปีต่อมา นางเริ่มแก่ตัวลง มิจฉาชีพไม่เสนอหน้าอีกแล้ว แต่คนที่ตายยังสามารถปลอบใจตัวเองได้ว่าก่อนตายยังได้ “ฟาด” ชนชั้นเจ้าสำนักที่สูงส่ง...แต่หลังจากนั้น มิจฉาชีพกลับกลัวนางราวหนูกลัวแมว ... หากก่อนตาย ยังต้องถูกนางชราแก่แร้งทึ้งทั้งเหี่ยวย่นทั้งอัปลักษณ์ข่มขืน ท่านจะรู้สึกเช่นใด รับรองเป็นรสชาดที่ไม่ประเสริฐแน่ เป็นการตายที่สุดแสนอัปยศ ดังนั้น ช่วงนั้นนับเป็นช่วงที่เหล่าร้ายทั้งบู๊ลิ้มพร้อมใจกันกลับตัวเป็นคนดี ไม่มีคนเลวแม้สักครึ่งคน บู๊ลิ้มเข้าสู่สันติสุขอย่างที่ไม่เคยมีมา เพราะนางเพียงผู้เดียวจริงๆ

                                      


Offline thep59

  • แฟนพันธ์แท้
  • *
    • Posts: 1217
    • เสียว: 11
    • View Profile
ขอบคุณครับ



Offline Taochinun

  • Jr. Member
  • **
    • Posts: 39
    • เสียว: 0
    • View Profile