“โอย...ทำไมมันแน่นอย่างนี้วะเนี่ย ?” จริงอยู่ครับถึงแม้ว่าพฤติกรรมชอบเบียดอย่างผมเนี่ยจะชื่นชมกับความหนาแน่นของเนื้อสาวๆมายืนเบียดเสียดรวมอยู่ในพื้นที่เล็กๆอันจำกัดบนรถเมล์อย่างนี้ แต่หากปราศจาก “เนื้อนวล”มาร่วมกิจกรรมท่ามกลางการจราจรอันวิกฤตยามเปิดเทอมวันแรกแบบนี้มันก็ไม่ไหวหรอกนะ รู้งี้ทำเป็นหลับเอาข้อศอกสีเนื้อแน่นๆของแม่สาวออฟฟิตที่กำลังหลับใหลหัวทิ่มหัวตำให้สบายใจเหมือนเมื่อครู่ดีกว่า ไม่น่าลุกขึ้น “ทำMAN” สละเก้าอี้ให้คนท้องนั่งเลย มิหนำซ้ำหากเจ้าหล่อนที่นั่งสบายแทนผมมีพัดลมเป่าเย็นฉ่ำข้างกายยังสาวสักหน่อยไม่แก่หง่อมอายุอานามราวสี่สิบกว่าๆแถมผิวดำกร้านบักโกรกเป็นไม้เสียบผี อย่างน้อยหัวไหล่กับต้นแขนคงพอ “ทุเลา”ความอยากของผมได้บ้างหรอกน่า เอาเหอะถือว่าทำบุญล้างบาปละกัน “พี่เสื้อแดงคะ ช่วยถอยให้เด็กยืนด้วยคนหน่อยสิ” เสียงกระเป๋าวัยกลางคนตะโกนขึ้นมาพร้อมใช้กระบอกตั๋วแหวกดันแขนผมให้ถอย “นั่นล่ะค่ะแบ่งๆกันไปนะคะพอดีรถขาดระยะเดี๋ยวก็ถึงแล้ว” “ขอบคุณค่ะ” เสียงใสๆจากเด็กนักเรียนผิวขาวเชื้อจีนสูงประมาณเลยราวนมผมขึ้นมาหน่อยกำลังแทรกเข้ามายืนขวางข้างหน้า จนผมต้องร่นถอยไปข้างหลังด้วยแรงดันของตัวเป้สะพายหลังใบเขื่องซึ่งดูจากรอยปักรูปดาวหนึ่งดวงรวมกับชื่อย่อโรงเรียนบนชุดคอซองกระโปรงน้ำเงินอันใหม่กริ๊บที่เธอใส่แล้ว เห็นชัดเลยว่าคงจะยืนเป็นเพื่อนร่วมทางผมไปอีกนาน อย่างน้อยๆก็คงไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแน่ๆ นี่ถ้าไม่มีเป้หลังที่มันบังก้นของเธอให้ห่างจาก“เจ้าตัวดี”ที่กำลังค่อยๆตื่นตัวขึ้นมาพองก๋าอยู่ในกางเกงสแล็คเนื้อบางอยู่ เห็นทีประสบการณ์เสียวบนรถเมล์ของผมคงได้บรรจุเรื่องราวของเธอเอาไว้เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน “เมย์ถอยไปหน่อยสิลูก..เอ่อขอโทษนะคะรบกวน.....” “ไม่เป็นไรครับ” ไหนๆก็ไหนๆในเมื่อเลวไม่ได้จังหวะขอทำดีเลยละกัน คิดได้ดังนั้นเลยหันไปขอโทษเด็กหนุ่มในชุดร.ด.ข้างหลังซึ่งก็ให้ความร่วมมือเขยิบให้ตัวผมถอยจากพนักพิงเบาะ ปล่อยให้เด็กน้อยร่นตามมาเพื่อให้แม่เธอเข้ามายืนอยู่ในแถวได้ในที่สุด จนเป้หลังใบใหญ่อันเป็นต้นตอของความขุ่นมัวในอารมณ์ของผมมันเบียดจนรู้สึกอึดอัดมากกว่าเดิม “ทำไมมันซวยอย่างนี้วะ” แถมเจ้าพัดลมตัวดีที่คอยเป่าระบายคลายร้อนดันหยุดลงดื้อๆอีก ห้านาทีก็แล้ว สิบนาทีก็แล้ว รถก็ยังติดหนึบเหมือนเดิมจนผมเริ่มทนกับความเหนอะหนะของคราบเหงื่อไคลที่กำลังเริ่มผุดขึ้นมาจากใต้ผิวหนังจนชุ่มแผ่นหลังเลยต้องรีบยกมือขึ้นมาปลดกระดุมคอเสื้อออกสองเม็ดและกระพือให้มีไอเย็นเข้ามาในร่างกายสักหน่อย แต่อย่างว่าล่ะครับจากความแน่นเบียดทะลักออกไปห้อยโหนจนประตูรถบานคู่อยู่ตรงกลางของรถครีมแดงแบบนี้มันปิดไม่ลงแบบนี้ และจากการพัดวีกระพือคอเสื้อให้ลมเข้ามันจึงไม่ได้มีเพียงแต่ร่างกายของผมเท่านั้นหรอกนะที่ขยับ หากแต่ยังลามไปถึงตัวเด็กต้องโอนเอนตามแรงดันของร่างกายให้เคลื่อนไปมาด้วย “มาพี่ถือกระเป๋าให้” “น่าน....นึกว่าหลับซะอีก” แต่ความเมตาของคนท้องกำลังหยิบรับเป้หลังจากเด็กสาวมาวางไว้บนหน้าตักอย่างนี้เธอจะรู้มั๊ยว่ามันสร้างความปรีดาให้กับผมมากขนาดไหนเพราะนอกจากช่วย “ลดระยะห่าง”ระหว่างเด็กสาวกับตัวผมแนบชิดกับเรือนร่างด้านหลังจนดุ้นเนื้อสัมผัสกับ “ความแข็ง”ของแก้มก้นอันสุดกระชับจนสามารถ “จำแนก”ถึงหนั่นเนื้อกับร่องกลางที่กำลังถูกท่อนเนื้อ “ดุน” แล้ว จากท่าทางของเธอซึ่งยืนเกาะกุมกับราวเบาะเพื่อยึดร่างกายโดยทิ้งน้ำหนักตัวโน้มไปข้างหน้า“พิง”กับพนักเบาะแบบนี้ ทำให้ในทันทีที่มือขวาของผมเอื้อมมือไปเกาะกุมราวแทรกกลางระหว่างมือทั้งสองของเด็กน้อยอย่างนี้ เนื้อแน่นๆกำลังเริ่มผลิบานตามการเจริญเติบโตอยู่หลัง FIRST BRA ตัวกระจ้อยจึงกระทบเข้ากับหลังมือของผมเต็มๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหากเจ้าหล่อนเรียนรู้โลกขึ้นมาสักหน่อยก็คงจะผงะตามสัญชาติญาณแน่ๆ แต่ในเมื่อเพิ่งข้ามพ้นวัยประถมมาเพียงไม่กี่เดือนแบบนี้รวมกับความหนาแน่นของประชากรจนกลายเป็นเรื่องปรกติ จึงไม่ยินดียินร้ายกับการเบียดอย่างจงใจของผมเลยแม้แต่น้อย กลับสร้างรอยยิ้มมุมปากสีชมพูพวงแก้มแดงระเรื่อแสดงความไร้เดียงสาโต้ตอบทันทีที่ผมยิ้มให้เสียอีก “เข้าทางโจรอีกแล้ว.....เย้ ” อดดีใจไม่ได้หรอกนะในเมื่อในเมื่อทุกอย่างกลับตาลปัตรอย่างนี้ เอาล่ะในเมื่อทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางตามหมากที่ผมวางเอาไว้ทั้ง ดุ้นเนื้อกำลังเสียดสีกับแก้มก้นถูเข้า-ถูออกสลับกับการดุนของอุ้งมือด้านในให้บดขยี้กับโนมเนื้อตามจังหวะการเคลื่อนตัวของรถที่แรกๆเป็นไปอย่างแผ่วเบาเพื่อเป็นการ “ลองเชิง” จับปฎิกริยาว่ามีการโต้ตอบเป็นอย่างไร ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีอาการยืนเบี่ยงๆสลับขาที่ยืนพิงบ้างในเวลาที่ “ของผม” ดันหนักขึ้นๆ ในบางครั้งจนกลายเป็น ส่ายเอวบดขยี้กับบั้นท้ายจนตอนที่เอาบั้นเอวถอยฉากออกมาแล้วสามารถมองเห็นผ้ากระโปรงของเด็กน้อยหลุบลู่รวมตัวเป็นกระจุกอยู่ตรงร่องก้นและคาอยู่อย่างนั้น “ภาพรวม” ของเธอก็ยังเฉยครับยืนนิ่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง สอดส่ายสายตามองโน่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งผมกำลังโหนราวบนด้วยมือซ้ายและเอาใบหน้าซุกลงกับต้นแขนอย่างนี้มองผิวเผินเหมือนคนอื่นๆที่กำลังยืนหลับนกนั่นเอง ส่วนแม่เธอนั้นไม่ต้องห่วงหรอกฮะเพราะจากท่าทางหันหลังให้จึง ไม่มีทางที่จะรับรู้กับกิจกรรมโลกีย์ซึ่งกำลังก้าวก่ายร่างกายลูกรักเลยแม้แต่น้อย “อ้าวบังทรงนี่หว่า...ไม่ใช่บราเหมือนอย่างที่คิดแฮะ” จากอุ้งมือด้านในหมุนเลื่อนเข้าด้านในและคลายนิ้วชี้+โป้งกางออกจนโดนกับหน้าอก ไม่ใช่สิก้อนเนื้อเล็กๆจากนอกร่มผ้าจนรู้ซึ้งถึงตำแหน่งของมันได้ชัดเจนจึงค่อยๆกางนิ้วที่เหลือให้สัมผัสทั้งหมด ซึ่งมีเพียงราวอลูมิเนียมกันกลางอยู่บางส่วนเท่านั้น แถมด้วย “มุม” การยืนทิ้งน้ำหนักของเด็กน้อยที่ทั้งพิงร่างกายและสองมือเกาะกุมราวเอาไว้อย่างนี้ เชื่อมั๊ยครับว่าขอเพียงให้การเคลื่อนไหวของปลายนิ้วทั้งห้าเป็นไปอย่างแผ่วเบาเคล้าคลึงลูบไล้งองุ้มเนื้อแน่นๆตามความโค้งมนของร่างกายเจ้าหล่อนจนรู้หมดสัมผัสถึง “ปลายถัน” ซึ่งถึงแม้มันจะบุ๋มลงไปไม่ได้ชูช่อเหมือนสาวเต็มตัวนั้นแต่ก็ให้อรรถรสในความหยุ่นๆ-แข็งๆเร้าใจไปอีกแบบ ผมทำอย่างที่บอกมานี้อยู่เกือบๆห้านาทีในแบบที่เธอไม่รู้เรื่องเลย ! “ไม่ไหวแล้วโว๊ย เอาไงดีวะ ” ไอ้ครั้นจะเอื้อมมือมาปลดปล่อยดุ้นเนื้อที่อาบหยาดหล่อลื่นอย่างชุ่มโชกให้ออกมาเป็นอิสระคงไม่ได้ เพราะ “มุม”นี้เพียงคนท้องที่นั่งอ่านหนังสือดาราอยู่เงยหน้าขึ้นมาคงกรี๊ดลั่นแน่ๆ “ช่างแม่ง..... เอาวะลองก็ลอง” จึงยอมตัดใจละมือขวาหันไปจับราวบนแทนและเอื้อมแขนซ้ายลงมาหมายมั่นจะปลดซิป แต่ก่อนหน้านั้นลอง “จับ”ความกระชับของบั้นท้ายดูซะหน่อยแรกๆก็แค่วางแหมะแนบกับแก้มก้นซ้ายนิ่งๆและเบี่ยงตัวหันหน้าเข้าหาคนท้องเล็กน้อยฟอร์มว่าบิดตัวเพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ามือซ้ายมันกางออกแล้วบิดหันนิ้วขึ้นด้านบนจับหมับที่ก้นพร้อมใช้นิ้วก้อยค่อยๆดุนเข้าง่ามขา “สุดครับ” แน่นจริงๆยิ่งตอนคนข้างหลังเดินเบียดขอทางลงด้วยแล้ว “ลูกตามน้ำ” ประเภทนิ้วนาง+ก้อยแยงเข้าไปลึกจนเกาะกุมเต็มใบด้วยน้ำหนักมือบีบเบาๆ “อาส์ส์ส์ ” อดใจไม่ไหวเผลอครางขึ้นมาเลย นี่ดีนะที่ไม่มีคนสนใจ “น้องขานั่งเลยค่ะพี่จะลงแระ” โธ่ถังกำลังมันส์ๆอยู่ดันฝันสลายซะได้ “อดเลยกู รู้งี้ควักออกมาถูข้างนอกเลยดีกว่า” ซึ่งในขณะที่น้องเค้ากำลังหลบทางเอนเอียงมาด้านหลังเพื่อที่จะนั่งนั้น ทำไงได้ล่ะรีบฉวยโอกาสสุดท้ายด้วยการเอื้อมมือเลื้อยไปด้านหน้าลูบไล้ผ่านด้านข้างและต้นขาด้านบนหมายมั่นจะสัมผัสกับ “จิ๋มเด็ก”สักครั้ง “อ่ะนั่งซะทีสิเมย์ยืนเบียดพี่เค้าอยู่ได้ เอ้าถือให้แม่หน่อย อย่าหลับล่ะอีกแป๊บก็ลงแล้วนะ” “อดอีกแล้วกู” และทันทีที่เมย์(ชื้อน้องเค้าตามที่แม่เจ้าหล่อนเรียก) นั่งลงร่างกายอันอวบ...ไม่สิเรียกว่าอ้วนที่ท่าทางจะหนักราวๆหกสิบกิโลกรัมเป็นอย่างต่ำแถมยังมาในชุด “อาซ้อยอดนิยม”อ้าวไม่GET หรือครับก็ชุดประเภทที่แม่ค้าตามสำเพ็งชอบใส่กันอ่ะแบบท่อนล่างถูกสวบทับด้วยกางเกงผ้ายืดสีขาวยาวสามส่วนรัดเปรี๊ยจนก้อนเนื้อส่วนเกินบริเวณโคนขากับสันสะโพก “ปลิ้น”ออกมาเป็นชั้นๆ ส่วนด้านบนก็เป็นประเภทเสื้อลายดอกตัวใหญ่ๆผ้าบางๆมองเห็นชั้นใน(ยกทรง) สีดำแบบโบราณๆ ห่อหุ้มนมขนาดเบิ้มๆ เอาไว้นั่นเอง และณ.บัดนี้ผู้หญิงในชุดที่ผมว่ากำลังยืนพิงกับเบาะของลูกสาวโดยไม่สนใจว่าบั้นท้ายเนื้อๆเน้นๆบริเวณแก้มก้นด้านขวามันกำลังเบียดสีกับ “ดุ้นเนื้อ”แข็งโป๊กของผมอย่างไม่รู้ตัว เอี๊ยดดด !เสียงห้ามล้อดังลั่นเป็นระยะทางยาวจนกลิ่นไหม้คละคลุ้งขึ้นมา วินาทีนั้นเองนึกภาพออกมั๊ยครับว่าอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นจาก “รสสัมผัส”ของร่างกายเด็กสาวค้างแข็งเติ่งอย่างนี้มันจะส่งให้ ดุ้นเนื้อบดขยี้ “ผลุบ”เข้าไปตามร่องก้นกระทบกับก้นกอยและอัดนิ่งในท่านั้นนานขนาดไหน “เฮ้ย...ซวยแล้วไง” คิดได้ดังนั้นจึงรีบถอยบั้นเอวออกมาโดยเร็ว “เอ่อ....ขอโ...” ไม่ทันจะเอ่ยหมดคำหรอกครับ “เธอ” ก็หันขวับกลับมารวดเร็ว “ไม่เป็นไรค่ะ รถแน่นๆก็อย่างนี้ล่ะ อ้อขอบคุณอีกครั้งนะคะที่เมื่อกี๊ให้น้องเค้ายืนเกาะได้อีกคน” อ้าว...ไม่ว่าแถมยิ้มให้อีกคงไม่รู้ตัวมั๊ง อืม....ถึงแม้จะอ้วนมากไปสักหน่อยแต่จากความขาวโพลนที่โผล่ออกมานอกชายเสื้อสามารถมองลอดผ่านคอเสื้อกว้างๆที่ตกย้อยใกล้ได้แบบนี้มองเห็นร่องนมทั้งสองฝั่งเบียดเสียดแออัดภายใต้การรัดของบราชัดเจน “แล้วจะลงไหนคะเนี่ยเห็นยืนมาตั้งนานแล้ว “ตรงแยกตัดลาดพร้าวครับ” “พอๆกันเลยไม่รู้อีกชั่วโมงจะถึงมั๊ยเนี่ย” “นั่นน่ะสิครับ” และก็คุยกันไปเรื่อยๆจนรู้ว่าบ้านเธออยู่ห่างจากผมไปราวๆห้าหกป้ายรถเมล์และเป็นแม่ค้าขายเสื้ออยู่ในตลาดห้วยขวาง (อิอิ...บอกแล้วว่าเสื้อผ้าแนวนี้น่าจะใช่)กำลังไปส่งน้องเมย์ที่กำลังขึ้นม.หนึ่งไปโรงเรียนครั้งแรกรวมไปถึงเรื่องราวต่างๆอีกเรื่อยเปื่อยแก้เซ้งในขณะรถติด ดีเหมือนกันจะได้ไม่เบื่อ แต่เรื่องราวมันไม่ใช่แค่นั้น คงไม่ใช่ผมคิดไปเองหรอกนะเพราะดูเหมือนทุกครั้งที่รถมันขยับหรือมีคนเบียดแทรกลงผ่านไปบั้นท้ายของเธอ “ต้อง” มาสัมผัสกับ “หน้าขา” ของผมตลอดขนาดผมเอนตัวและถอยร่นข้างหลังไปไม่น้อยเพราะกลัวว่าจะ “ห้ามใจ” ไม่อยู่นั้น การเบียด/กระแทกอันหยุ่นนุ่มของก้อนเนื้อใหญ่ๆไม่วายจะเกิดขึ้นโดยตลอดและบางครั้งมันก้นแน่นๆที่ถูก “รัด” ด้วยผ้ายืดอันบางเบามองเห็นหนั่นเนื้อแท้ๆที่ทะลักออกมากจากสันขอบของกางเกงในตัวเล็กอย่างนี้มันบี้เบียดแบบหยุดนิ่งแถมถูไป-มาจนดุ้นเนื้อของผมเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งแถมพี่ส้ม(เธอนั่นล่ะครับ) ยังไม่มีทีท่าจะเบี่ยงบั้นท้ายไม่ให้ชนกับน้องชายผมซึ่งกำลังพองก๋าขึ้นมาแต่ประการใด “เอาวะเดี๋ยวก็รู้”ไหนๆก็อีกนานกว่าจะลงและคนยังขึ้นมาเรื่อยๆจนแน่นขนัดเหมือนเก่า เลย....จาก “หลบหนี”ก็กลายเป็น “หยุดนิ่ง” และจาก“อยู่เฉย ”.........กลายเป็น “เด้งสู้ ” เข้าใส่ทุกครั้งที่ก้นเธอถอยมา ตรงตามความคาดหมายครับยิ่งผม “สู้” เท่าไหร่บั้นท้ายเธอก็ยิ่ง “ดัน” แรงขึ้นมาเท่านั้น แต่ที่ผมแปลกใจเห็นจะเป็นอากัปกริยาของเธอนี่สิ เพราะมันปรกติ “เหมือนเดิม” ทุกประการทั้งสีหน้า+ท่าทางรวมไปถึงริมฝีปากที่ยังคุยจ้อเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่อีกเรียกง่ายๆว่า “ตูดเบียดตาปากจ้อ”อ่ะฮะ แบบนี้มันต้องตั้งท่าสู้ซะหน่อยซึ่ง “ท่า”ที่ผมทำก็คือเอนตัวเข้าหาและใช้มือซ้ายจับราวบนมือขวาเอื้อมไปจับราวหน้าข้างกายเธอพร้อม “ดัน”ให้ “น้องชาย” วางแนบกับแก้มก้นขวาของเธอแล้วปล่อยให้มันถูไถบี้วิ่งเข้าหาร่องกลางอย่างหนักหน่วงพยายามเน้นน้ำหนักในการบดขยี้หนักๆและเป็นจังหวะเหมือนการ “สอดใส่” ให้มากที่สุด เจอเข้าไปแบบนี้แรกๆเธอยืนนิ่งให้เป็นฝ่าย “รับ” ฮะ สักพักจึงหันมา “รุก”บ้างโดยหันหน้ากลับไปข้างหน้าในท่าทางยืนแบบผมพร้อมถอยตัวร่นมาข้างหลังเล็กน้อยเอาสองมือจับทั้งด้านบน+ข้างแต่ครั้งนี้กลับ “แอ่น” ตัว “ยก”ให้บั้นท้ายสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งท่านี้นอกจากมันสามารถรับแรงกระแทกของดุ้นเนื้อให้รุกล้ำเข้าไปสัมผัสกับกลีบเนื้อได้ “มากกว่า” และ บางจังหวะของดุ้นเนื้อที่ดันจนสุดลำยังรู้สึกถึงการขมิบให้ก้นตอดจนเสียวจี๊ด(นึกถึงตอนน้องเชยในคราวที่แล้วขึ้นมาทันที) อ้อผมว่านะหากท่านใด “เคย”ได้รับรสความเสียวจากการถูไถบั้นท้ายของคนอ้วนๆมาก่อนคงทราบดีนะครับว่าเนื้อแน่นๆน่ะมันเสียวไปอีกแบบจนลืมไม่ลงเลยทีเดียวครับ มาถึงขั้นนี้คงไม่มีอะไรต้องยั้งกันอีกแล้วก็เลยเอื้อมมือมา “ปลด” น้องชายอันชุ่มโชกออกมาเผชิญโลกให้สมใจ ทันทีที่มัน “แตะ” กับก้นกอยที่มีเพียงผ้าบางๆอันรัดติ้วและดุนเข้า-ดุนออกเหมือนเมื่อครู่ซึ่งเธอหันมาชายตามองหน้าผม “รถติดจังนะครับ”ไม่รู้จะว่าไรแล้วนี่หว่า “ค่ะ นี่เพิ่งถึง ’เสาวรีย์เองไม่รู้ว่าเมยืจะไปทันรึปล่าว” “อืมคงต้องลุ้นครับ”และก็หันกลับไปเหมือนเดิม “ไม่ว่าอะไรนี่หว่างั้น…..” ผมจึงตั้งหน้าตั้งตา “ซอย” ซึ่งเธอก็ “เม้ม” ก้นสู้ตลอดจนสามารถสังเกตถึงอาการเกร็งของหนั่นเนื้อตรงร่องก้นที่เริ่มจะเปียกชื้นตามตำแหน่งที่ดุ้นเนื้อขยับมากขึ้นๆ จังหวะนี้อยู่ๆเธอกลับเปลี่ยนท่ายืนมาเป็นเอาก้นพิงเบาะเหมือนตอนแรกแต่เอนตัวท่อนบนมาข้างหลังจนแผ่นหลังอันชุ่มไปด้วยเหงื่อมาอิงแอบแนบชิดกับแผงหน้าอกผม แก้มซ้าย “ซบ”พิงลงบนท่อนแขนผมที่จับราวบนอยู่ นี่ถ้าไม่ปราศจากเสื้อผ้าของทั้งเธอและผมแล้วมีหวังดุ้นเนื้อของผมคงมุดเข้าไปอยู่ในร่างกายด้านหลังเธอแล้วแน่ๆ “โห..พี่เหงื่อออกขนาดนี้เลยหรอ ไหวมั๊ยครับ” ปากก็พูดไปเพื่อกลบเกลื่อนเหมือนว่าทุกอย่างปรกติหรอกครับ แต่ใครจะไปรู้ว่าในขณะนี้ด้านล่างของผมมันอัดเข้ากลางบั้นท้ายและแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น “ค่ะ ร้อนจริงๆ” ไม่พูดปล่าวครับยังเอามือมากระพือคอสื้อและค้างเติ่งเอาปากเป่าลมเข้าไปข้างในเหมือนที่เด็กๆชอบทำกันอ่ะ อูย....เห็นเต็มๆจนผมบอกได้เลยครับว่ายกทรงแบบไร้ฟองน้ำที่เป็นแบบเนื้อผ้าซีทรูบางๆปกคลุมก้อนเนื้อขนาดสัก อืม...ไม่ต่ำกว่าสามสิบหกคู่นั้นมันลอยห่างจากตาผมไปแค่ไม่ถึงคืบ ยิ่งตอนเธอเอามือมาเกานมด้านล่างตรงใต้ฐานจนกระเพื่อมอย่างแรงแล้วป้านสีเนื้อเข้มๆตรงปลายยอดมันช่างน่างับเสียนี่กระไร “อีกเดี๋ยวคงดีขึ้นครับ” “แม่ๆเดี่ยวกินข้าวก่อนนะ” อูย....วันนี้เป็นอะไรของมันวะ โดนขัดจังหวะตลอดเลย “ดูก่อนนะว่าทันรึปล่าว กี่โมงแล้วคะ” ไม่ถามปล่าวฮะยังหันเอาหน้าเข้าหาลูกสงสัยคงกลัวลูกเห็นน่ะ แม่คนก็อย่างนี้ล่ะครับ “เจ็ดโมงห้านาทีครับ อุ๊บ !” เอาล่ะสินึกว่าจะจบลงที่ไหนได้มืออวบๆของเธอพอโดนกระทบกับความฉ่ำชื้นเข้าเลยคว้าหมับเกาะกุมเข้าเต็มรัก ในเมื่อเธอเต็มที่กับผมจะปล่อยให้เล่นฝ่ายเดียวได้ไงล่ะ ก็เลยเปลี่ยนท่ายืนใหม่เอาขาซ้ายขึ้นด้านหน้าบังสายตาลูกเธอไว้และแอ่น “แก่นชาย”ให้เธอเล่นได้เต็มที่ ไม่ผิดหวังเลยครับทั้งจากลูกเล่นของปลายนิ้วที่ถูบริเวณปลายหัวผสานกับข้อมือที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วมีทั้งการบีบรัดและผ่อนคลายสลับจิกเล็บจนไม่รุ้ว่ามันเจ็บหรือเสียวเพราะมันผสมปนเปกันไปตลอด “ใกล้ถึงยังคะเนี่ย” “ไม่นานหรอกครับ” “ใกล้แล้วบอกนะจะได้เตรียมตัว ” “ครับ” อืม....สวรรค์แค่เอื้อมจริงๆครับ แต่เธอนี่สิผมว่ามืออาชีพแท้ๆเพราะมือก็ชักแต่ปากก็ชวนลูกคุยโดยตลอด “จับมั่งดีกว่า” อา...ถึงแม้ท่าทางที่เธอยืนจะเอียงหน้าเข้าหาผมเล็กน้อยจนไม่สามารถจะล้วงเข้าไปจับความโหนกนูนได้อย่างใจหมายแต่ยอมรับเลยครับว่าบั้นท้ายเธอแน่นเต็มมือจริงๆยิ่งพอลงลึกเข้าไปด้านล่างตามคราบความชุ่มชื้นของคราบน้ำหล่อลื่นที่ผมฝากฝังไว้นั้นเห็นชัดเลยอะว่าขนแขนเธอลุกชันขึ้นมาทันที แถม SPEED ของข้อมือยังเร็วขึ้นๆๆ จน... “ผมว่าใกล้แล้วล่ะครับ” “หรอคะ” “โทษนะครับ” ขอเปลี่ยนท่าอีกทีเถอะน่า คราวนี้ขาผมยังบังลูกเธอเหมือนเดิมแต่สลับมือเอาขึ้นมาแกล้งกระพือคอเสือบ้างแต่ทำอย่างช้าๆครับ ซึ่งแต่ละครั้งที่ดันออกมันก็จะไปวางแหมะตรงหน้าอกเธอและเมื่อเห็นผมใช้ไม้นี้เข้าเธอเลย “ขยับ”ตัวเข้ามาใกล้ผมมากกว่าเดิม มากพอที่มือขวาผมสามารถเอียงออกมา “จับ”นมได้เด้งๆได้ถนัดรู้เลยครับว่าเม็ดยอดมันแข็งชันดันออกมาเป็นตุ่มไต ยิ่งผมเน้นหัวนมบี้ดุนๆหนักเท่าใดเธอก็ยิ่ง “สาว” ไวมากขึ้นกระทั่ง “ถึงรัชดาแล้วครับ” พอพูดเสร็จน้ำเชื้อก็พุ่งขึ้นออกมาจากลำกล้องซึ่งเธอรวบฝ่ามือปิดตรงหัวได้ทันท่วงที และพอดุ้นเนื้ออันร้อนผ่าวมันบีบตัวอ่อนลงเป็นจังหวะสักสามสี่ครั้ง เป็นการ “คายพิษ” จนเกลี้ยงแล้วมือเธอข้างนั้นก็ล้วงเข้ามาผ่านเป้ากางเกงผมพร้อมลูบไล้เอาคราบคาวอันหยาดเยิ้มเช็ดกับต้นขาและพวงไข่ทั้งสองรวมไปถึงเนื้อกางเกงด้านในจนแน่ใจว่ามันไม่เลอะเทอะออกมาข้างนอกแล้ว ยังใจดีจับเอาน้องชายเข้าที่เข้าทางให้ซะด้วยนับว่ารู้เกมจริงๆ ยังไม่หมดเรื่องแปลกใจเพียงเท่านี้หรอกครับเพราะเธอยกเอามือข้างนั้นขึ้นมาแตะตรงริมฝีปากพร้อมใช้ลิ้นดูดปลายนิ้วดังจ๊วบ “ค่อยยังชั่วนะคะ” ส่วนผมน่ะหรอยังคงยืนบี้หัวนมเธอเล่นอยู่เหมือนเดิม “ครับ” “เมย์เตรียมตัวได้แล้วลูกอีกสองป้ายลงแล้วนะ” “เอากะเป๋าแม่มา” ซึ่งเมื่อถึงป้ายที่เธอต้องลงในขณะที่เธอกำลังคล้องกระเป๋าและเอี้ยวตัวลงนั้น “เจอกันวันหลังทักกันบ้างนะคะ อ้าวไหว้พี่เค้าสิลูก ” จังหวะนั้นผมคว้าหมับเข้าที่หน้าขาเธอหูย.....ใหญ่โคตรๆฮะแถมยังชื้นออกมาจนติดปลายนิ้วเลย “ไปนะคะ” “ครับ” พอลุกขึ้นมาเลยเอาเป้คล้องหลังแต่เนื่องจากเป็นป้ายที่คนลงเยอะ ทำให้การเอี้ยวตัวหันหน้าด้านขวาเพื่อคว้าสายคล้องมาทางฝั่งผมนั้น มือที่อยู่ตรงแนวอกผมจึงฟอร์มเอนตัวเข้าหาแต่ก็เอื้อมออกไป “คว้า”หน้าอกน้อยๆเป็นการสั่งลา “อุ๊ย” เต็มใบเลยครับ หล่อนทำหน้างงๆมองมือผมซึ่งเกาะกุมอยู่ตรงหน้าอกเธอ แล้วเลิกสายตาโตๆอันบ้องแบ๊วขึ้นมามองพร้อมก็หันมาส่งยิ้มตรงมุมปากและยกมือไหว้ก่อนเดินจากไป...
เฮ้อ.... นึกๆไปแล้วตอนที่แม่เธอกำลัง “สาว” ให้ผมอยู่นั้น จะว่าไปแล้วหากผมตาไม่ฝาดขณะความเสียวแล่นสู่สมอง ผมว่าผมเห็นหนูเมย์มองไอ้นั่นของผมอย่างไม่กระพริบแน่ๆ แต่ก็ช่างมันเถอะเอาไว้คราวหน้า รับรองหากเจออีกโจทย์นี้จะต้องได้รับการแก้ปริศนาแน่ๆ ว่าแต่ก่อนเข้าออฟฟิตเดี๋ยวแวะซื้อโคโลญมาฉีดดับกลิ่นซะหน่อยดีกว่าอ่ะ ไม่งั้นมีหวังคาวคลุ้งฟุ้งกระจายในห้องประชุมแน่ๆ .......