กลางดึกคืนหนึ่ง ท้องฟ้าดูเงียบสงบเหมือนเช่นทุกคืน แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่ามีอะไรเกิดขี้นท่ามกลางความสงบเงียบนั้น ...
[เปรี้ยง!] สูงขึ้นไปบนท้องฟ้าปรากฏร่างเด็กหญิงอายุประมาณ 12-15 ปี 3 คน กำลังเผชิญหน้ากับปีศาจตนหนึ่ง เสียงเวทมนตร์ของทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด "เมื่อไหร่พวกซีเนียร์จะมาซักทีนะพี่...แค่เรา 3 คน จัดการมันไม่ไหวหรอก...ว๊าย!" เด็กสาวคนหนึ่งกล่าวพลางหลบลำแสงที่เจ้าปีศาจปล่อยใส่ได้อย่างฉิวเฉียด "ไม่ไหวก็ต้องไหว ขืนปล่อยมันหนีลงโลกมนุษย์ล่ะเรื่องใหญ่แน่" พอพูดจบเด็กสาวคนโตก็สะบัดข้อมือ ร่ายมนตร์แล้วสาดใส่ปีศาจสวนไปทันที คาถาของเธอพุ่งเฉียดไหล่ขวาของเจ้าปีศาจ มันออกอาการเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด พอเจ้าปีศาจถอยหลังไปตั้งหลักก็เจอกับเด็กสาวอีกคนที่รออยู่พอดี "คิดจะหนีเหรอ" เธอเตรียมร่ายคาถาใส่เจ้าปีศาจร้ายทันที "โอม...ผืนดิน...ผืนฟ้า..." ยังไม่ทันได้ร่ายมนตร์เสร็จเจ้าปีศาจก็พุ่งตัวกระแทกเธอกระเด็นออกไปด้านข้างแล้วลอยหนีไป "ปัดโถ่!...ยัยเบล บอกแล้วไงว่าต้องท่องให้เร็วกว่านี้" เด็กสาวอีกสองคนรีบตามไปทันที "ก็...คาถามันยากนี่นา คำศัพท์อะไรก็ไม่รู้ จำยากชะมัดเลย" เด็กสาวที่ถูกกระแทกพอตั้งหลักได้ก็รีบไล่ตามจนทันอีก 2 คน "ทีหลังไม่ต้องตามมาแล้วนะ...วุ่นวายจริงๆ" เด็กสาวคนโตกล่าวอย่างอารมณ์เสีย "เอาน่า...พี่บิว อย่าเพิ่งโมโห โบว่าเราหาทางจัดการเจ้าปีศาจกันก่อนเหอะ" เด็กสาวคนกลางเห็นท่าไม่ค่อยดีรีบเปลี่ยนเรื่องคุย "งั้น...พี่ขอข้อมูลของเจ้าปีศาจตัวนี้หน่อยสิ โบ"
นางฟ้า 3 องค์กำลังต้านทานปีศาจร้ายไม่ให้หนีจากนรกเพื่อเข้าไปทำอันตรายมนุษย์โลก... เห็นได้ชัดว่ากำลังของพวกเธอไม่สามารถจัดการมันได้ "เจ้าปีศาจตัวนี้นะคะ...เกิดจากตัณหาของมนุษย์ที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ..." โบ นางฟ้าคนรองรีบอ่านข้อมูลที่จดมา "เออ...อันนั้นน่ะพี่รู้แล้ว...แล้วตัณหาที่ว่าน่ะ...อะไรล่ะ" บิว นางฟ้าคนโตรีบตัดบทอธิบายยืดยาวของน้องสาว "เอ่อ...คือ " "คืออะไรเล่า...เร็วๆสิ อ้ำอึ้งอยู่ได้" "คือ...ความอยากสมสู่กับเด็กค่ะ" สิ้นเสียงตอบจากน้องสาว บิวรีบหยุดไล่ตามหันมามองโบจนแทบจะชนกันเอง "จะบ้าเหรอ...จะให้พวกเราสู้กับเจ้าปีศาจพรรค์นี้น่ะนะ..." "ก็แล้วจะปล่อยให้มันลงไปโลกมนุษย์เหรอพี่บิว" "พี่ๆอย่ามัวคุยกันอยู่เลย...เจ้าปีศาจมันหายไปแล้ว" เบล น้องสาวคนเล็กเตือนสติทั้งคู่ ทั้ง 3 หันไปรอบๆก็พบว่าตนเองเหาะเข้ามาในกลุ่มเมฆหนาทืบจนแทบจะมองร่างของกันและกันไม่เห็น เสียงเหาะของเจ้าปีศาจก็เงียบหายไปด้วย มันคงจะซ่อนตัวอยู่แถวนี้แน่นอน ที่จริงแล้วเจ้าปีศาจร้ายแกล้งทำเป็นบาดเจ็บแล้วหนีเข้ามาในบริเวณนี้เพื่อล่อนางฟ้าทั้ง 3 ให้เข้ามาติดกับ ความกล้าเปลี่ยนมาเป็นความกลัวจนสามพี่น้องไม่กล้าขยับ ได้แต่มองไปรอบๆเพื่อหาเจ้าปีศาจร้ายให้พบให้เร็วที่สุด
ท่ามกลางความเงียบสงัด ลำแสงจากเจ้าปีศาจพ่งออกมาจากกลุ่มเมฆตรงไปโดนกลางหลังนางฟ้าบิว "โอ้ย!" นางฟ้าตัวน้อยเสียหลักจนเกือบร่วงแต่ยังคงควบคุมสติทรงตัวอยู่ได้ "อยู่ตรงนั้นเหรอเจ้าปีศาจร้าย" นางฟ้าโบจับทิศทางที่ลำแสงพุ่งออกมาได้ ท่องคาถาซัดสวนกลับไปทันที แต่ทว่ามันได้หลบไปทางอื่นแล้ว เงาลางๆของมันผ่านช่องว่างของกลุ่มเมฆ พุ่งตรงไปทางนางฟ้าเบล "เบล...ระวัง!" นางฟ้าโบเตือนน้อง ยังไม่ทันที่นางฟ้าเบลจะตั้งตัวได้ทัน เจ้าปีศาจร้ายร่ายคาถาโดนกลางหน้าผากนางฟ้าเบลอย่างจัง เธอหมดสติร่วงลงไปบนพื้นโลกทันที "เบล!" เสียงพี่ๆตะโกนเรียกนางฟ้าเบลค่อยๆจางลงไปในความรู้สึกของเธอ...
ที่โลกมนุษย์ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบ 3 ทุ่มแล้ว ที่ดาดฟ้าของตึกแถวแห่งหนึ่ง เบิร์ด...เด็กหนุ่มวัย 15 กำลังซ้อมวิดพื้นอยู่ เบิร์ดเป็นนักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่งแถวบ้านของบ้านเขา หน้าตาไม่ถึงกับหล่อ ไม่ถึงกับขี้เหร่ ผลการเรียนก็ไม่โดดเด่น จัดว่าเป็นเพียงเด็กธรรมดาๆคนหนึ่ง ระหว่างที่เขากำลังวิดพื้นอยู่นั้นเอง นางฟ้าเบลก็หล่นลมมาทับลงกลางหลังเขาพอดี [พลั่ก!] "โอ๊ย!" เบิร์ดร้องลั่น แม้น้ำหนักตัวของนางฟ้าเบลจะไม่มาก แต่ตกลงมาจากท้องฟ้าที่สูงขึ้นไปกว่าพันเมตรทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับจุก "อะไรกันเนี่..." เบิร์ดตั้งตัวได้พยายามพลิกตัวขึ้นมามองสิ่งที่หล่นทับตนอยู่ พอได้เห็นนางฟ้าเบลเด็กหนุ่มถึงกับตะลึงจนลืมที่จะพูดต่อ รีบลุกขึ้นโดยประคองนางฟ้าเบลเอาไว้ "น้องๆ...เป็นอะไรรึเปล่า" นางฟ้าตัวน้อยยังคงหลับสนิทเพราะพิษคาถา "ตายห่า...เด็กที่ไหนวะเนี่ยะ แล้วมาตกใส่หลังเราได้ไง" เบิร์ดแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ว่างเปล่าก็เห็นแต่ดวงดาวเหมือนเช่นทุกคืน เด็กหนุ่มรวบรวมสติมองร่างของเด็กสาวที่เขาประคองอยู่ ผิวของเธอขาว ผมเธอยาวเกือบถึงกลางหลังสีดำสนิทตัดกับชุดสีขาวของเธอ แก้มป่องนิดๆคางมนหน้าตาโดยรวมน่ารักมากทีเดียว อายุคงราวๆ 12 ขวบ เธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาวทั้งชุด เสื้อที่ดูคล้ายชุดชั้นในเด็กสีขาวแต่มีส่วนต่อของแขนที่ทำจากผ้าโปร่งๆมองทะลุไปถึงแขนได้ กระโปรงสีขาวมีระบายลูกไม้เป็นแนวตามขวาง 3 แนว แนวละ 2 ชั้น ที่สำคัญคือมันสั้นจนขณะที่เบิร์ดประคองเธออยู่ เขาก็สามารถมองเห็นส่วนปลายของกางเกงในได้อย่างไม่ยากเย็น ถุงเท้าสีขาวยาวคลุมขึ้นไปถึงใต้หัวเข่า มีแถบผ้าสีขาวคาดที่ขาซ้ายอีก 1 ชิ้น รองเท้าสานสีขาวมีขนนกประดับโดยรอบ แต่มีเพียงรองเท้าข้างซ้ายข้างเดียวที่ยังอยู่ เธอแขวนกระเป๋าสะพานทำจากขนสัตว์สีขาวด้วยอีก 1 ใบ เบิร์ดเป็นลูกคนเดียวของบ้าน เขาไม่เคยได้ใกล้ชิดกับเด็กผู้หญิงในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เมื่อเจอเข้ากับตัวเองอย่างนี้มือที่ประคองนางฟ้าเบลไว้ถึงกับสั่นจนแทบทำอะไรไม่ถูก "ตายรึยังหว่า" เบิร์ดเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา หากเธอตายแล้วมีใครมาพบเข้าแบบนี้ เขาคงโดนข้อหาฆ่าคนตายแน่นอน "นี่...น้อง อย่าเพิ่งตายนะ" เด็กหนุ่มเขย่าร่างที่หมดสติเบาๆ นางฟ้าเบลก็ยังไม่ตื่น "นี่...ตื่นๆ จะเช้าแล้วนะ ตื่นได้แล้ว" เบิร์ดเริ่มสรรหาวิธีปลุกแปลกๆมาใช้ เธอยังคงไม่ได้สติอยู่ดี เด็กหนุ่มจ้องหน้านางฟ้าเบลที่อยู่ในอ้อมกอดเขา ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก "ไม่ตื่นเหรอ..." เบิร์ดเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีใคร "ไม่ตื่นโดนหอมนะ" เบิร์ดใจแทบระเบิดเมื่อพูดคำนี้ออกมา คราวนี้เขาภาวนาว่าคราวอย่าให้เธอตื่นเลย นางฟ้าเบลยังคงหลับไม่ได้สติอยู่ "โดนหอมแก้มเลยนะ" เบิร์ดยังให้โอกาสเธอตื่นอีกครั้งเผื่อว่าเธอแกล้งหลับอยู่ "จะหอมแล้วนะ" ร่างกายเธอยังคงนิ่งสนิท ใจเบิร์ดเต้นถี่ขึ้นแรงขึ้น เด็กสาวหน้าตาดีอย่างนี้หากได้หอมซักทีคงเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่าน "อยากโดนหอมใช่มั๊ย...ได้!" เบิร์ดพูดทั้งๆที่รู้ว่าเธอยังไม่ฟื้นชัวร์ เบิร์ดก้มหน้าลงริมฝีปากค่อยกดประทับลงบนแก้มป่องๆของนางฟ้าเบลอย่างช้าๆ กลิ่นแก้มหอมๆของนางฟ้าเบลทำเอาเบิร์ดแทบจะลอยขึ้นสวรรค์ สัมผัสของแก้มนิ่มๆที่ถ่ายทอดมายังริมฝีปากของเขาเกือบทำให้เบิร์ดลืมความเป็นตัวตน เสียงลมหายใจของนางฟ้าเบลช่วยให้เบิร์ดโล่งใจขึ้นว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ หลังจากก้มๆเงยๆกับพวงแก้มของนางฟ้าเบลจนหนำใจแล้ว เบิร์ดก็เริ่มได้ใจมากขึ้น เขาเริ่มมองไปที่เรือนร่างของนางฟ้าเบล ในละแวกนี้ก็มีเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนางฟ้าเบลที่เบิร์ดแอบชอบอยู่เหมือนกัน แต่เบิร์ดก็ไม่เคยได้แอ้มเธอเลยซักที เมื่อโอกาสเป็นใจเช่นนี้ความอยากรู้อยากเห็นตามประสาวัยรุ่นของเบิร์ดก็เดือดพล่านขึ้นมาทันที "นี่น้อง...จะไม่ตื่นจริงๆเหรอ" เบิร์ดเริ่มคิดแผนการณ์อุบาทว์ "ไม่ตื่นเดี๋ยวโดนจับแก้ผ้านะ" ไม่พูดเปล่าๆ มือของเบิร์ดไปรออยู่ชายกระโปรงนางฟ้าเบลแล้ว.....
ท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืน นางฟ้า 3 องค์ต่อสู้กับปีศาจร้ายที่หมายจะเข้าไปป่วนโลกมนุษย์ นางฟ้าเบลพลาดท่าเสียทีโดนทำร้ายจนตกลงมายังโลกมนุษย์ "พี่โบ...พี่บิว" นางฟ้าเบลได้แต่เพ้อถึงพี่ๆของเธอ "ไม่นะพี่โบ...พี่บิว ระวัง!" ในฝันของเธอพี่ๆทั้ง 2 ถูกทำร้ายจนสาหัส "อย่า!" นางฟ้าเบลตกใจตื่นคว้าร่างของคนที่พยุงเธออยู่เข้าไปกอดไว้อย่างแนบแน่น แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่ากลับเป็นเบิร์ด เสียงร้อง"อย่า"ของเธอทำเขาแทบช็อคเพราะเบิร์ดเพิ่งจะถลกกระโปรงของนางฟ้าเบลขึ้นไปอยู่เหนือเอวจนเห็นกางเกงในของเธอทั้งตัวพอดี นางฟ้าเบลร้องไห้สะอึกสะอื้นตื่นกลัวอย่างหนัก เบิร์ดถึงกับหน้าถอดสี "หรือว่าเราจะเล่นแรงไปหน่อยหว่า" เด็กหนุ่มได้แต่พึมพำในใจ "ตายแน่ตู...ทำไงดีวะทีเนี่ยะ" เบิร์ดรวบรวมสติค่อยๆเอามือลูบหัวเธอเหมือนปลอบเด็ก "เอ่อ...ไม่ต้องร้องไห้นะน้อง" เสียงปลอบของเบิร์ดทำเอานางฟ้าเบลหยุดร้องเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว เธอรีบเงยหน้าขึ้นมองคนที่เธอกอดอยู่ทันที แทนที่จะเป็นพี่ๆของเธอแต่กลับเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำยำที่นั่งอ้าปากค้างไม่ยอมพูดยอมจาแทน "พี่ไม่ใช่พี่ของเบลนี่นา" พอได้ยินเสียงเธอพูดเป็นครั้งแรกก็เหมือนเป็นเสียงเรียกสติเบิร์ดให้กลับมาอีกครั้งเหมือนกัน "อ๋อ...เอ่อ..." เบิร์ดยังปากสั่นพูดติดๆขัดๆอยู่ "ที่นี่ที่ไหนเนี่ยะ..." นางฟ้าเบลเป็นฝ่ายยิงคำถามเอง เธอลุกขึ้นเดินไปรอบดาดฟ้า "เอ่อ...ที่ ที่บ้านพี่เอง..." เบิร์ดตอบคำถามนางฟ้าเบลหลังจากปล่อยให้เธอเดินสำรวจไป 2 รอบกว่าๆแล้ว "ที่โลกมนุษย์เหรอคะ" เบิร์ดยังงงๆกับคำถามใหม่ของเธอ เขายังไม่รู้ว่าเธอคือนางฟ้า "งั้นพี่ก็เป็นมนุษย์น่ะสิ...แล้วพี่มองเห็นเบลได้ไงอ่ะ" ยิ่งฟังก็ยิ่งงง "พูดอะไรเนี่ยะน้อง...แล้วน้องล่ะเป็นใครมาจากไหน ทำไมมาหล่นลงบนหลังคาบ้านพี่อย่างงี้" เบิร์ดเองก็มีเรื่องสงสัยไม่แพ้กัน รีบถามสวนกลับไปทันทีที่มีโอกาส "เดี๋ยวนะคะ" นางฟ้าเบลยกมือขึ้นเบรคคำพูดของเบิร์ดเหมือนจราจรหยุดรถ พลางสำรวจสภาพตัวเอง กระโปรงเธอเลื่อนลงไปอยู่ตำแหน่งเดิมแล้ว แต่มีบางอย่างหายไป "พี่...แล้วรองเท้าอีกข้างล่ะ" นางฟ้าเบลโวยวายใหญ่โต "ก็...ตอนแรกที่พี่เห็นน้องมันก็มีแค่ข้างเดียวนี่แหละ" นางฟ้าเบลเริ่มหน้าเสีย "ไม่จริงอ่ะ!" เธอเดินหันซ้ายแลขวาหารองเท้าอีกข้างที่หายไปแต่ก็ไม่พบ เธอเริ่มสะอึกสะอื้นอีกครั้ง "ไม่เป็นไรน่า...เดี๋ยวพี่ซื้อใหม่ให้ก็ได้" นางฟ้าเบลส่ายหัวแทนคำตอบเธอนั่งชันเข่ามือกอดเข่าเอาหน้าซุกร้องห่มร้องไห้ โดยไม่สนใจเลยว่าเบิร์ดกำลังจ้องโหนกเสียวที่ดันกางเกงในตัวจิ๋วของเธอโป่งออกมาให้เขาเห็นเต็มๆตา เบิร์ดกลืนน้ำลายเอื๊อกกับภาพที่ได้เห็น "นี่...หยุดร้องได้แล้ว เอาแต่ร้องแบบนี้ไม่รู้เรื่องกันพอดี" เบิร์ดปลอบไปมองเนินเสียวไป ทันใดนั้นแม่ของเบิร์ดก็เปิดประตูดาดฟ้าขึ้นมาโดยที่เบิร์ดไม่ทันได้ตั้งตัว เบิร์ดหันไปเห็นก็ตกใจจนหน้าซีด "เอ่อ...แม่ครับ คือ เรื่องนี้...ผมอธิบายได้นะ" เบิร์ดพูดไปทั้งๆที่ยังนึกคำอธิบายสถานการณ์ตรงหน้าไม่ออก พอดีกับที่นางฟ้าเบลหยุดร้องไห้ "แม่ของพี่เค้ามองไม่เห็นหนูหรอก...ตอนนี้เค้าเห็นพี่คนเดียวแหละ" นางฟ้าเบลเช็คคราบน้ำตาตัวเองพร้อมกับอธิบายให้เบิร์ดฟัง "อธิบายอะไร เจ้าเบิร์ด...แม่ได้ยินเสียงแกพูดคนเดียวอยู่ตั้งนานสองนาน...เมื่อไหร่จะไปอาบน้ำอาบท่าไปเข้านอนซักที" แม่ของเบิร์ดเทศน์เป็นชุดยิ่งทำให้เบิร์ดยิ่งงงมากยิ่งขึ้น "เอ่อ..ครับๆ เดี๋ยวไปแล้วแม่...อีกแป็บนึงนะ" เบิร์ดตอบ หลังจากที่แม่ของเบิร์ดลงจากดาดฟ้าไปแล้ว เขาก็หันกลับมาทางนางฟ้าเบลอีกครั้ง เธอยังนั่งชันเข่าท่าเดิมอยู่ ทำเอาเบิร์ดเกือบลืมคำถามที่จะถามเธอ "เอ่อ...น้องเบลใช่มั๊ย..." เบิร์ดจำชื่อที่เธอเรียกแทนตัวเองได้ "...ตกลงเธอเป็นใครกันแน่ เป็นผีเหรอ แม่พี่ถึงไม่เห็น" ถึงเบิร์ดจะคิดว่านางฟ้าเบลเป็นผีแต่ความน่ารักไร้เดียงสาของเธอไม่ทำให้เขารู้สึกกลัวเลยซักนิด นางฟ้าเบลได้ยินคำถามก็แอบอมยิ้มเล็กๆ "ไม่ใช่หรอกค่ะ...เบลเป็นนางฟ้าตะหาก" นางฟ้าเบลตอบเสร็จก็จ้องหน้าเบิร์ดกลับ สีหน้าเธอดีขึ้นเหมือนทำใจได้แล้วเรื่องรองเท้าที่หายไป ทั้งคู่นั่งคุยกันต่อ ต่างคนต่างแนะนำเรื่องของตนพอให้อีกฝ่ายเข้าใจ
"สรุปว่า...ถ้าไม่มีรองเท้าทั้ง 2 ข้าง เบลก็จะกลับสวรรค์ไม่ได้งั้นเหรอ" เบิร์ดสรุปเรื่องราวที่นางฟ้าเบลเล่า นางฟ้าเบลพยักหน้าจากนั้นก็ทำหน้าจ๋อยๆ เบิร์ดเห็นท่าไม่ดีก็รีบปลอบ "ไม่เป็นไร...เดี๋ยวพี่จะช่วยหาด้วยอีกแรงนึง ไม่ต้องห่วงนะเบล รับรองได้กลับแน่" นางฟ้าเบลจึงค่อยคลายความกังวล "จริงๆนะคะพี่เบิร์ด" "อืม" เบิร์ดขานรับพร้อมกับมองใบหน้ายิ้มแย้มของนางฟ้าเบลเป็นครั้งแรก มันงดงามดูมีเสน่ห์ยิ่งกว่าเด็กคนไหนที่เขาเคยเจอ "เอ่อ...แต่ตอนนี้พี่ว่าดึกแล้ว คงต้องนอนพักก่อนล่ะ...พรุ่งนี้เช้าค่อยหากัน ดีมั๊ย" เบิร์ดเสนอทางเลือกซึ่งนางฟ้าเบลก็เห็นด้วย ทั้งคู่เดินลงจากดาดฟ้าโดยมีเบิร์ดเป็นคนนำ
บ้านของเบิร์ดเป็นตึกแถว 4 ชั้น เบิร์ดอยู่กับแม่ 2 คน ส่วนพ่อนั้นไปทำงานต่างจังหวัด นานๆถึงจะกลับมาทีนึง ชั้นหนึ่งเป็นร้านขายของชำและขนม ชั้นสองเป็นห้องนอนของพ่อกับแม่ของเบิร์ด ชั้น 3 เป็นห้องของเบิร์ด ส่วนชั้นสี่เป็นห้องเก็บของและห้องว่างสำหรับแขกหรือญาติที่นานๆทีจะแวะมา เบิร์ดพานางฟ้าเบลเข้าไปในห้องของเขา "เอ่อ...เป็นนางฟ้านี่...ต้องอาบน้ำด้วยรึเปล่า?" เบิร์ดถามด้วยท่าทางเขินๆ นางฟ้าเบลยิ้มตอบ "อาบสิคะ" เบิร์ดนิ่งเงียบไปแว่บหนึ่งเพราะเผลอจินตนาการไปถึงภาพนางฟ้าเบลอาบน้ำ "แหะๆๆ...นั่นสิเนอะ งั้น...เบลไปอาบก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่อาบทีหลังก็ได้" นางฟ้าเบลทำหน้างง "แล้วทำไมไม่อาบพร้อมกันล่ะคะ" เบิร์ดเกือบทำขันน้ำที่ถืออยู่ตกทันทีที่ได้ยินนางฟ้าตัวน้อยพูด "เอ่อ...เอ่อ อ๋อ...อาบพร้อมกัน" หน้าเบิร์ดแดงกล่ำเพราะจินตนาการไปไกลมากแล้ว "...หรือว่ามนุษย์โลกเค้าต้องอาบทีละคน..." "อ๋อ...เปล่าๆ อาบหลายๆคนพร้อมกันก็ได้ สะดวกดี แหะๆๆ" เบิร์ดรีบตอบรับวิธีอาบน้ำของนางฟ้าเบลทันที พอเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเบิร์ด นางฟ้าเบลก็ยิ้มตอบ "ถ้าไม่สะดวก...อาบทีละคนก็ได้ค่ะ....." "...ไม่เป็นไร อาบพร้อมกันตามที่เบลถนัดดีกว่า" เบิร์ดทำเป็นอ้างเหตุผลของนางฟ้าเบล "งั้น...ไปอาบน้ำกันเลยเหอะ ดึกแล้ว" โอกาสดีๆอย่างนี้เป็นใครก็คงต้องรีบคว้าไว้ เบิร์ดจูงมือนางฟ้าเบลไปยังห้องน้ำอย่างเร่งรีบราวกับกลัวห้องน้ำจะหนี "อุ๊ย! เดี๋ยวสิพี่เบิร์ด ไม่เห็นต้องรีบขนาดนี้เลย" สิ้นเสียงพูดของนางฟ้าเบล ประตูห้องน้ำก็ปิดลง...