*เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน*
ดิฉันคือครูฝ่ายปกครอง
ดิฉันต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้า ในทุกๆวันตามปกติวันเวลาราชการ ดิฉันชื่อวิมล เป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาไทยอยู่ที่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอแห่งหนึ่งในเขตภาคเหนือตอนบน ความที่ดิฉันถือตำแหน่งเป็นครูฝ่ายปกครองด้วย ทำให้ในบางวันฉันต้องคอยตรวจตรากระเป๋าเด็กนักเรียนตรงหน้าประตูทางเข้า เพราะละแวกโรงเรียนที่สอนอยู่มียาเสพติดระบาดอยู่มาก อีกทั้งพวกเด็กๆในโรงเรียน ยังเป็นพวกวัยรุ่นกำลังโต ชอบลอง และไม่ค่อยจะเชื่อฟัง เลยต้องเข้มงวดกวดขันกันเป็นพิเศษ ดิฉันจึงกลายเป็นครูฝ่ายปกครองจอมเฮี้ยบและดุมากๆคนนึงของโรงเรียนเลยก็ว่าได้
ครอบครัวของดิฉัน มีกันอยู่ 5 คน คือ ดิฉันและ สามี กับลูกๆอีกสามคน ลูกคนเล็กเป็นผู้ชายกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันกับที่ดิฉันสอนอยู่ อีกสองเป็นผู้ชายคน ผู้หญิงคน เรียนจบแล้วกำลังทำงานอยู่ในเมืองกรุง ในทุกๆวันดิฉันจะออกจากบ้านแต่เช้าพร้อมกับลูกชายคนเล็กของดิฉัน ลูกชายคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ม.5 เป็นเด็กนักเรียนที่เรียบร้อยมาก ไม่เคยดื้อและเกเรเลย พอดิฉันมาถึงโรงเรียน ฉันและลูกก็แยกทางกันไปทำหน้าที่ของตน หน้าที่ครูของดิฉันมีมาก เลยไม่ได้ใส่ใจกับลูกชายคนเล็กเท่าไรนัก เพราะเขาเองก็เป็นคนนิสัยดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
คาบสุดท้ายของทุกวัน ดิฉันต้องเข้าสอนตามตาราง โดยสอนวิชาภาษาไทยให้กับเด็กม.3 ห้อง8 ซึ่งถือเป็นห้องที่มีเด็กเกเรเยอะมากๆ ทั้งดื้อทั้งซน ครูคนใหนก็กำราบไม่อยู่ เลยต้องส่งให้ดิฉันมาสอน แม้ดิฉันจะเป็นครูที่เฮี้ยบและดุมากๆ แต่ถ้าไม่เข้มงวดกับเด็กพวกนี้เมื่อไร เด็กมันจะได้ใจยิ่งเกเรขึ้นเท่านั้น แม้จะเหนื่อยที่จะต้องมาคอยสอนมาคอยบังคับพวกเด็กเกเรเหล่านี้ แต่ดิฉันก็ทำอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะกำราบเด็กพวกนี้ตามสัญชาตญาณความเป็นครู จนครูคนอื่นๆเห็นว่าเด็กนักเรียนห้อง8 ให้ความเคารพกับดิฉันมากที่สุดในบรรดาครูทั้งหมด เลยตัดสินใจให้ดิฉันเป็นครูประจำชั้นห้อง8 ด้วย ซึ่งดิฉันเองก็ไม่ปฏิเสธ เพราะการกำราบเด็กเกเรก็ถือเป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้ว แต่พอกลับบ้านมาทีไรก็หลับเป็นตายทุกที ด้วยความเหนื่อยล้า
ทุกเช้าในคาบแรก คือคาบโฮมรูมดิฉันต้องเข้าไปคุยกับเด็กนักเรียนในห้องทุกๆเช้า ดิฉันสังเกตพวกเด็กนักเรียนผู้ชายในห้อง ถ้าไม่แอบอ่านหนังสือโป๊ ก็คุยกันเรื่องรถซิ่ง ส่วนพวกผู้หญิง บางคนก็แอบพกเครื่องสำอางค์มาแต่งหน้าที่โรงเรียน สังเกตจากใบหน้าของเด็กนักเรียนหญิงบางคนซึ่งแต่งหน้าจัดมากเกินกว่าที่จะเป็นนักเรียน จนดิฉันต้องเรียกมาเตือนเป็นรายๆไป บางคนนอกจากแต่งหน้าแล้ว ยังแต่งกายผิดระเบียบด้วย ผู้หญิงบางคนยังเล่นหูเล่นตากับเด็กนักเรียนชายในห้องอย่างออกหน้า แม้ดิฉันจะว่าจะเตือน บางทีถึงกับลงไม้เรียวกับเด็กๆเหล่านี้แล้ว พอปล่อยไปซักพักก็กลับมาเกเรกันเหมือนเดิมอีก ถึงจะรู้สึกอ่อนใจ แต่ดิฉันก็ต้องทำอย่างสุดความสามารถความเป็นครู ทั้งนี้ก็แค่อยากให้เด็กๆพวกนี้ได้ดีแหล่ะค่ะ ไม่อยากให้หลงเดินทางผิดๆ
วันนึงดิฉันเข้าห้องเรียนไปสอนตามปกติ แต่เข้าไปก่อนเวลา ทำให้พวกเด็กๆเลยไม่ทันตั้งตัว ดิฉันเข้าห้องมาแล้ว ยังเห็นจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มๆ เล่นซนคุยกันอยู่ ดิฉันแกล้งเดินเบาๆตรงไปยังกลุ่มของพวกเด็กที่เกเรที่สุดในห้อง คือกลุ่มพวกเด็กนักเรียนชายที่อยู่หลังห้อง พอดิฉันทำเสียงเอ็ดใส่เสียงดัง พวกเด็กๆก็แตกฮือกันไปนั่งประจำที่แทบไม่ทัน ดิฉันสังเกตเห็นหนังสือเล่มนึงถูกวางลืม กองอยู่กับพื้นตรงนั้นเลยหยิบเอาขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นหนังสือโป๊ พอดิฉันพลิกไปดู ก็ปรากฏเห็นฉากร่วมเพศกันอย่างโจ๋งครึ่มสอดใส่กันแบบเห็นจะจะ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก ได้แต่ตวาดเสียงดังเพื่อหาเจ้าของหนังสือมารับผิดชอบ
“หนังสือโป๊ เล่มนี้ของใคร ออกมาหน้าชั้นเร็วๆ!”ดิฉันตวาดเสียงดัง แต่พวกเด็กๆก็ก้มหน้าเงียบกันหมด
ดิฉันคิดขึ้นมาได้ว่าพวกผู้ชายที่อ่านหนังสือพวกนี้จะต้องเครื่องเพศแข็งปั๋งกันทุกคน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร นอกจากจะจับตัวการมาลงโทษ จึงสั่งให้ผู้ชายในห้องทั้งหมดยืนขึ้น จนสังเกตได้อยู่ สี่-ห้าคนที่เป้ากางเกงตุง เลยสั่งให้ออกมายืนเรียงอยู่หน้าชั้น
“ดูซิอ่านกันจนเป้ากางเกงตุงขนาดนี้ยังไม่ยอมรับผิดอีก” ดิฉันพูดขึ้นมา เอาไม้เรียวเคาะใส่เป้ากางเกงเด็กพวกนั้นเบาๆ จนเด็กพวกนั้นสะดุ้งจนตัวงอ ทำเอาเด็กคนอื่นๆหัวเราะกันสนุก ส่วนพวกที่ยืนรอทำโทษอยู่หน้าชั้นก็ก้มหน้าหลบอายกันหมด
“หนังสือเล่มนี้ครูจะเอาไปเผาทิ้ง ส่วนพวกเธอต้องเจอไม้เรียวคนละสองที” ดิฉันพูดจบก็ สั่งให้เด็กพวกนั้นเดินเรียงเข้ามาทีละคน ดิฉันฟาดไม้เรียวลงก้นเด็กเหล่านั้นไปคนละสองที ก่อนที่ดิฉันจะเริ่มทำการสอน
แล้วออดเลิกชั้นก็ดังขึ้น พวกเด็กๆก็เริ่มทำความสะอาดกันตามเวรที่แบ่งกันไว้ ส่วนดิฉันก็เข้าห้องพักครูไปจัดเตรียมเอกสาร เพื่อกลับเอาไปทำต่อที่บ้าน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้จะเข้าไปเอาเมล็ดผักจำพวกผักสลัดแถวๆแปลงเกษตรท้ายโรงเรียนเพื่อนำไปปลูกที่บ้าน จากห้องพักครูของดิฉันไปแปลงเกษตรก็ประมาณ 200 เมตร ไม่ใกล้ไม่ไกลมาก ก็เลยเดินไป พอเดินมาสักครึ่งทางถึงตรงแถวตึกร้าง ที่เหลือแต่กำแพงด้านเดียวซึ่งเมื่อก่อนคือตึกพักครูเกษตรเก่า ตอนนี้กำลังจะถูกทุบทิ้ง ดิฉันก็ได้ยินเสียงเด็กหลายๆคนคุยกัน ก็เลยค่อยๆแอบมองลอดช่องหน้าต่างเก่าที่ไม่มีบานหน้าต่างแล้ว แอบฟังเด็กพวกนั้นคุยกัน
“ ครูวิมลแม่งตีเจ็บชิบหาย กูยังปวดก้นอยู่เลยว่ะ”เด็กคนนึงพูดขึ้นมา
“เออสัด..แม่ง เกิดมาพ่อแม่กูยังไม่เคยตีกูเลย คอยดูนะสักวันกูจะจับแม่งเย็ดให้ได้”เด็กคนที่ดูจะเป็นหัวโจกพูดขึ้นมา เขาชื่อ อั๋นลูกเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้างในตัวเมือง สิ่งที่เด็กคนนั้นพูดทำเอาดิฉันโกรธแทบเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็อยากฟังเด็กพวกนั้นคุยต่อ เลยยังไม่แสดงตัวออกไป
“เฮ้ย นั่นมันครูนะเว้ย” เด็กคนข้างๆพูดขึ้นมา ทำสีหน้าตกใจ
“ครูแล้วไงวะ อย่าบอกนะพวกมึงไม่เคยคิด ครูวิมลแม่งทั้งขาวทั้งอวบ สะโพกใหญ่ แถมนมใหญ่ชิบหายน่าเย็ดจะตาย กูว่านะหีแกคงจะใหญ่ด้วยแหล่ะว่ะ กูยังเคยแอบเอาไปจินตนาการชักว่าวเลย ข้ารู้พวกเอ็งก็คิดแบบเดียวข้า อย่าปฏิเสธเลยดีกว่า” เด็กชายอั๋นพูดจบ หัวเราะออกมาเบาๆ ดูๆเด็กนักเรียนคนอื่นก็ตั้งใจฟังไม่น้อย ดิฉันเองก็เริ่มหน้าร้อนๆเหมือนกันที่ได้ยินพวกเด็กนักเรียนพูดกันแบบนั้น
“เออว่ะ กูก็เคยเอาไปจินตนาการเหมือนกัน สเป๊กกูเลย อวบๆขาวๆ ยิ่งแกอยู่ข้างๆบ้านข้าด้วยนะ ได้แอบมองแกเป็นประจำเลยล่ะ” เด็กนักเรียนอีกคนพูดขึ้นมา พอดิฉันสังเกตดีๆก็ถึงกับตกใจ เพราะเด็กคนนั้นคือลูกชายร้านขายของชำข้างๆบ้านดิฉันเอง เขาชื่อว่า เก่ง ซึ่งปกติเป็นเด็กเรียบร้อยมากๆ อีกทั้งยังเรียนอยู่ห้องหนึ่ง ห้องเด็กเรียนดี สะอาดสะอ้านผิดกับเด็กคนอื่นๆ ดิฉันแปลกใจมากว่าทำไมต้องมาคลุกคลีอยู่กับกลุ่มเด็กเกเรพวกนี้ด้วย
“เอางี้ พวกมึงมาชักว่าวกับกู เป็นสักขีพยานกัน ว่าจะหาทางเย็ดครูวิมลแก้เผ็ดให้จงได้ดีกว่า” เด็กนักเรียนชื่ออั๋นลุกขึ้น รูดซิปชักลำควยออกมา ก่อนที่เด็กคนอื่นๆจะทำตาม
ตอนนี้ภาพที่อยู่ตรงหน้าดิฉัน คือภาพเด็กนักเรียนชายสี่คน กำลังยืนเรียงชักว่าวกันอย่างสนุกสนาน ดิฉันสังเกตดูท่อนเอ็นแต่ละคน มีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนชื่อเก่ง นอกจากจะขาวตี๋และตัวใหญ่แล้ว ท่อนเอ็นของเขายังมีขนาดเขื่องอีกด้วย ซ้ำยังขาวเผือก หัวแดงบาน ลำงอเป็นรูปดาบเลยทีเดียว ดิฉันที่แอบมองดูแล้วก็หน้าร้อน ใจสั่นๆ ยิ่งรู้ว่าเด็กๆพวกนี้คิดพิเรนทร์กับดิฉันด้วย ยิ่งทำให้ใจหวิวๆขึ้นมา ถึงแม้ดิฉันจะโกรธเด็กเหล่านั้นอยู่ก็ตาม ดิฉันรีบเดินออกมาจากตรงจุดนั้นช้าๆ และเงียบ พอได้ระยะห่างสักหน่อย จึงรีบเดินไวๆมาที่แปลงเกษตรทันที รีบทำธุระให้เสร็จแล้วรีบกลับบ้านดีกว่า เพราะกลัวลูกชายจะรอนาน
พอดิฉันเดินมาถึงก็ไม่เจอใครอยู่ที่เรือนเพาะชำเลยทั้งๆที่นัดกับครูอ๊อด(ครูสอนวิชาเกษตร) ว่าจะเข้ามาเอาเมล็ดผักสลัด ก็เลยถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องพักครูตรงหลังโรงเพาะชำเผื่อครูอ๊อดจะอยู่ที่นั่น เดินไปถึงก็ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล๊อกไว้และเปิดแง้มๆอยู่ พอดิฉันจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องพักครูเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงสองเสียงเหมือนคนกำลังคุยกัน ก็เลยหยุดยืนใช้สายตามองลอดผ่านช่องประตูเข้าไปในห้อง ภาพที่เห็นทำเอาหัวใจของดิฉันหล่นไปกองที่ตาตุ่มทันที มันยิ่งกว่าที่ดิฉันได้เห็นได้ยินเมื่อกี้เสียอีก เมื่อเห็นครูอ๊อดยืนทาบตัวช่วงล่างแนบติดอยู่ด้านหลังครูเพ็ญ(ครูสอนนาฏศิลป์) โดยที่กระโปรงชุดครูสีกากีของครูเพ็ญถูกถลกขึ้นม้วนมากองเหนือสะโพกเผยให้เห็นแก้มก้นขาวโพลน เสื้อสีกากีของเธอถูกแกะกระดุมเม็ดบนออกสอง-สามเม็ด แล้วคอเสื้อถลกออกไปด้านข้างเผยให้เห็นเนื้อไหล่ขาวที่ตัดกับสายเสื้อในสีดำชัดเจน ช่วงบริเวณหน้าอกของครูเพ็ญถูกจับคลำด้วยสองมือของครูอ๊อดจนบุ๋มตามรูปนิ้วจากทางด้านหลัง ส่วนครูอ๊อดเองก็ยืนเปลือยท่อนล่างกางเกงถูกถอดกองไว้ที่ปลายเท้า เขากำลังกระเด้ารัวบั้นเอวจนก้นตอบเข้าใส่บั้นท้ายครูเพ็ญจากทางด้านหลังอย่างเป็นจังหวะจนแก้มก้นของครูเพ็ญกระเพื่อม ได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันอย่างถนัดถนี่ดัง ปั่บ ปั่บ..
ดิฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะทั้งครูอ๊อดและครูเพ็ญต่างก็มีครอบครัว มีผัวมีเมีย ซ้ำยังมีลูกแล้วด้วยกันทั้งคู่ ไม่คาดคิดเลยว่าเขาสองคนจะกล้าทำเรื่องผิดประเวณี ผิดผัว-ผิดเมียอย่างนี้
“เร็วหน่อย..อ๊อด..เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า..อาห์”ครูเพ็ญเหลียวศีรษะหันมาพูดกับครูอ๊อดที่อยู่ด้านหลังของเธอ สายตาของดิฉัน จ้องไปที่ท่อนล่างเปลือยเปล่าของพวกเขาทั้งสอง มุมที่ดิฉันมองอยู่เป็นมุมทางด้านข้างพอดี ทำให้เห็นพวกเขาปฏิบัติกิจกามได้อย่างถนัดตา ทั้งจังหวะโยกเข้า-ออก และแท่งเอ็นที่ผลุบๆโผล่ๆตรงช่องว่างระหว่างกลางตัวอย่างเป็นจังหวะ ภาพที่เห็นทำเอาดิฉันหน้าร้อนผ่าว ใจเต้นตึกตัก จนต้องเอามือกุมหน้าอกตัวเอง ดิฉันคิดในใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับโรงเรียนแห่งนี้ ทั้งครูทั้งนักเรียนเป็นพอๆกันเลย โดยเฉพาะครูซึ่งถือว่าเป็นแม่พิมพ์ของชาติ มีความรู้มากมายแทนที่จะเป็นตัวอย่างให้เด็กๆ กลับทำเรื่องบัดสีเสียเอง แม้ดิฉันจะคิดตำหนิพวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหวิวๆขึ้นมาอีกครั้ง เพราะทั้งครูอ๊อดและครูเพ็ญต่างก็เป็นเพื่อนสนิทเรียนร่วมรุ่นเดียวกันมา ไม่เห็นมีท่าทีจะเป็นอย่างนี้ได้
“จะรีบทำไม เลิกเรียนแล้ว ไม่มีใครมาเห็นหรอก อูย” ครูอ๊อดพูดกับครูเพ็ญ มือทั้งสองข้างของครูอ๊อดถูกเลื่อนมาจับกระชับไว้ที่สะโพกทั้งสองข้างของครูเพ็ญ แล้วครูอ๊อดก็เริ่มเร่งจังหวะกระเด้ารัวบั้นเอวเร็วขึ้น
“อ๊ะส์..นัดกับวิมลไว้ไม่ใช่หรอ..อ้าส์..”ครูเพ็ญพูดถามครูอ๊อด พอเขาเอ่ยชื่อดิฉันขึ้นมา สติของดิฉันก็กลับคืน พยายามขยับตัวหลบไปหลังประตู
“มาตอนนี้เลยสิดี จะได้จับเย็ดอีกคน อูย” ครูอ๊อดพูดขึ้นมา สิ่งที่ฉันได้ยิน ทำเอาดิฉันถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก และพยายามตั้งใจฟังสิ่งที่พวกเขากำลังพูดต่อ
“ว้าย..อยุดเลยนะ นั่นมันเพื่อนฉัน..อ๊ะส์...อ๊ะส์..” ครูเพ็ญพูดเสียงแข็งออกมา ก่อนที่จะครางกระเส่าน้ำเสียงเหมือนคนใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้ว ที่รู้เพราะเรื่องพวกนี้ดิฉันก็ผ่านมาเยอะพอสมควรเหมือนกัน
“เพื่อนกันสิดี จะได้ขอเย็ดกันง่าย เหมือนเพ็ญไงจ้ะ อูย” ครูอ๊อดพูดขึ้นมา ทำให้ดิฉันกลับคิดมากขึ้นไปอีกว่าทั้งสองแอบไปมีความสัมพันธ์แบบนี้กันตั้งแต่เมื่อไร
“อย่าพูดอย่างนั้นนะ อ๊ะส์..อู้ว..แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว..อาห์..อาห์..” เสียงครูเพ็ญพูดปนน้ำเสียงครางกระเส่า ทำให้ดิฉันใจเต้นตึกตักมากขึ้นไปอีก จนรู้สึกเหมือนจะหน้ามืดทนยืนดูต่อไม่ค่อยไหว เลยค่อยๆเดินออกมาจากตรงนั้น พอได้ระยะห่างก็เดินไวๆกลับมาที่รถทันที แม้ดิฉันจะอยู่ห่างจากห้องพักครูแล้ว แต่ดิฉันกลับยังได้ยินเสียงครางดังลั่นขึ้นมาแว่วๆจากด้านหลัง ดิฉันคิดว่าตอนนี้เพื่อนครูของดิฉันทั้งสองคนคงจะสุขสมถึงจุดหมายทั้งคู่แล้ว
“แม่ ทำไมมาช้าจัง ผมรออยู่นานแล้วนะ รีบๆกลับกันเถอะ” เสียงลูกชายของดิฉันพูดขึ้นมา ขณะที่ดิฉันเดินมาถึงที่รถ
ดิฉันไม่พูดอะไร พอขึ้นรถได้ก็รีบขับกลับบ้านทันที พอถึงบ้านลูกชายของดิฉันก็รีบลงจากรถ เพราะตอนนี้ได้เวลาการ์ตูนเรื่องโปรดของเขาพอดี ส่วนดิฉันก็เดินหอบเอาเอกสารไปไว้ในห้องทำงาน โดยไม่ลืมเหน็บหนังสือโป๊ที่ยึดมาจากพวกเด็กเกเรพวกนั้นเข้ามาในห้องด้วย ดิฉันเข้าไปหลังครัวหยิบน้ำเย็นในตู้เย็นออกมาดื่ม ก่อนที่จะกลับเข้ามาทำงานเอกสารในห้องทำงานของดิฉันต่อ
ทำงานไปได้สักพัก ดิฉันก็คิดไปหลายๆเรื่องจนต้องหยุดทำงาน แล้วมานั่งเรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทั้งเรื่องเด็กนักเรียน และเรื่องของครูอ๊อดกับครูเพ็ญ เรื่องของพวกเด็กนักเรียน ดิฉันไม่อยากจะต่อว่าเด็กๆมากเท่าไรนัก เพราะพวกเขากำลังอยู่ในวัยรุ่นวัยกลัดมัน ซ้ำยังเป็นเด็กจะพูดจะทำอะไรก็ไม่ค่อยคิด ผิดกับครูอ๊อดและครูเพ็ญที่ต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้วซ้ำยังเป็นครูบาอาจารย์ ไม่น่าจะมาทำเรื่องบัดสีเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะครูอ๊อดที่พูดจาเกินเลยออกมา ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะไม่ได้คิดอะไรแค่คะนองปาก ดิฉันพยายามมองในแง่ดีเข้าไว้ก่อน เพราะอย่างที่บอกทั้งคู่ต่างเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับดิฉัน ไปเรียนไปเที่ยวด้วยกันอยู่ตลอด สำหรับครูอ๊อดและครูเพ็ญก็เห็นมีหยอกล้อกันบ้างตามประสาเพื่อน แต่ไม่คิดว่าจะเกินเลยกันมาถึงขนาดนี้
ดิฉันคิดๆอยู่ก็เหลือบมองดูหนังสือโป๊ที่วางไว้ข้างๆ ใจมันก็สั่นๆ พอหยิบหนังสือโป๊ขึ้นมาดู ดิฉันพลิกดูไปหน้าต่อหน้า เห็นภาพชายหญิงร่วมเพศเย็ดกันหลายท่า สอดใส่กันแบบเห็นจะๆ ดิฉันห่างเหินเรื่องอย่างว่ามานานมากๆ ตั้งแต่ที่ดิฉันย้ายมาเป็นครูฝ่ายปกครอง นับคร่าวๆมาก็ร่วมปีแล้ว พอมาได้เห็นของแบบนี้ จึงทำให้อารมณ์สวาท ใจวาบหวิว ไฟราคะลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง ดิฉันเองเมื่อสมัยสาวๆก็เป็นคนไวต่อเรื่องพรรค์นี้มาก กับสามี เราสองคนก็มีอะไรกันบ่อยๆ จนมีลูกด้วยกันถึงสามคน เพียงแต่พักหลังๆเท่านั้นที่หายๆไปบ้าง เพราะต่างคนต่างมีงานมากขึ้น
พอคิดไปคิดมาก็เริ่มฟุ้งซ่าน เลยเดินออกไปเอาผ้าเช็ดตัว เข้าห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำชำระความร้อนที่มี ดิฉันอาบน้ำราดตัวด้วยน้ำเย็นๆก็พอให้หายงุ่นง่านลงไปได้บ้าง พอออกมาจากห้องน้ำก็เดินเข้าห้องแต่งตัว แต่เสื้อผ้าส่วนมากก็ตากไว้อยู่หลังบ้าน โดยเฉพาะพวกชุดนอน ดิฉันเลยเดินหยิบตะกร้าผ้าไปที่ราวตากหลังบ้าน เพื่อไปเก็บเสื้อผ้า ทั้งที่ยังนุ่งผ้าถุงมัดกระโจมอกอยู่ ขณะที่กำลังเก็บเสื้อผ้าอยู่ที่หลังบ้านนั้น ดิฉันก็เหลือบไปมองเห็นเด็กชายเก่งกำลังรถน้ำต้นไม้อยู่ทางหลังบ้านพอดี บ้านทั้งสองหลังของเราติดกัน ด้านหลังบ้านถูกกั้นไว้แค่รั้วไม้ปักไว้ห่างๆเท่านั้น พอให้มองลอดเห็นกันได้อย่างชัดเจน เขามองดิฉันตาแทบถลนออกมาจากเบ้า ยิ่งดิฉันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่าย ที่เด็กชายเก่งพูดออกมาให้เพื่อนๆของเขาฟังว่า เคยแอบเอาดิฉันไปจินตนาการเวลาช่วยตัวเองนั้น ก็ยิ่งทำให้ดิฉันใจสั่น หัวใจเต้นตึกตัก ทำเอาอกสั่นหวั่นไหว ยิ่งผ้าถุงที่นุ่งกระโจมอกไว้นั้น ทั้งบางเพราะมันเก่ามากแล้ว อีกทั้งยังเปียกเลยทำให้เห็นส่วนสัดอวบๆของดิฉันได้อย่างชัดเจนถนัดตา ส่วนหน้าอกก็นูนดันผ้าถุงเป็นรูปเต้าเห็นยอดถันขึ้นเป็นเม็ดๆ ด้านล่างเนินสามเหลี่ยมก็เว้าเข้าไปเห็นเป็นทรงเนินทรงโคกแคมชัดเจน ดิฉันอายมากเมื่อถูกเด็กรุ่นลูกมองละลาบละล้วงอย่างกับจะกลืนกินอย่างนั้น จึงรีบเก็บเสื้อผ้าไวๆรีบเดินขึ้นบันใดมาบนบ้านทันที แล้วรีบเข้าไปในห้องเก็บเสื้อผ้า เพื่อเปลี่ยนชุดคลุมนอน พอดิฉันกำลังจะเปลี่ยนชุด ก็เหลือบไปมองบ้านเด็กชายเก่ง จึงเพิ่งรู้ว่าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของบ้านดิฉันดันไปตรงกับห้องนอนของเด็กชายเก่งพอดี เลยปิดหน้าต่างห้องไว้ ก่อนที่จะเปลี่ยนชุดนอน เพราะกลัวว่าจะถูกเด็กชายเก่งแอบดูอีก
พอตกกลางคืน ด้วยความกระสันต์ของดิฉันที่สะสมมาทั้งวัน จึงพยายามปลุกสามีให้ทำการบ้าน แต่สามีของฉันก็นอนหลับเป็นตาย ปลุกเท่าไรก็ไม่ตื่น เงี่ยนก็เงี่ยน ดิฉันเลยออกมาจากห้องนอน ตรงไปที่ห้องทำงาน นั่งบนเก้าอี้นวม หยิบเอาหนังสือโป๊มาเปิดแล้ว ถลกปลายชุดคลุมนอน แหกขาใช้นิ้วแยงร่องสวาทช่วยตัวเอง เสร็จสมจนนิ้วเปียกคารูสวาทบนเก้าอี้ทำงาน ก่อนที่ดิฉันจะเดินเพลียๆกลับเข้าไปนอนตามเดิม
พอรุ่งเช้า ดิฉันก็ลุกขึ้นอาบน้ำ เตรียมตัวไปสอนตามปกติ แต่วันนี้ดิฉันใช้เวลาอยู่กับหน้ากระจกห้องแต่งตัวนานขึ้น พลางพินิจดูร่างกายตัวเอง ดิฉันอายุเกือบจะ 35ปีแล้ว และมีลูกสามคน สูง170 สัดส่วนประมาณ 37-25-34 อวบๆแต่ไม่ถึงกับอ้วน แต่เนื้อตัวยังแน่นตึงเปรี๊ยะซ้ำยังเอวคอดเมื่อเทียบกับสะโพกที่ผายออกไปมากกว่าเพราะดิฉันมีลูกมาแล้วถึงสามคน ส่วนที่มักจะโดนผู้ชายน้อยใหญ่แอบมองอยู่เสมอก็คือหน้าอก เพราะมันใหญ่เกินตัวไปมาก เสื้อหลายตัวของดิฉันถึงกับต้องไปผ่าช่วงอกให้กว้างขึ้นเพื่อที่จะใส่ได้สะดวก lส่วนผมของดิฉันก็ยาวมาถึงกลางหลังและหยิกแบบเป็นธรรมชาติ แต่ดิฉันโกรกผมเป็นสีออกน้ำตาลแดงตามสมัยนิยม ตาคมเรียวทำให้ดูเหมือนเป็นคนดุ และริมฝีปากที่อวบอิ่ม พอมองดูตัวเองโดยรวมก็ถือว่าเป็นคนที่เซ็กซี่น่ามองคนนึง ไม่แปลกนักที่จะถูกเด็กนักเรียนวัยกลัดมันเหล่านั้นแอบมองลวนลาม ขนาดเพื่อนครูด้วยกันก็ยังคิดไม่ซื่อกับดิฉันเลย ยิ่งคิดย้อนถึงตัวเองในอดีต สมัยรุ่นแรกสาวนั้นดิฉันถือเป็นคนที่หน้าตาดีและหุ่นดีมากๆคนนึงในรุ่น และออกจะเป็นคนเซ็กซ์จัดนิดๆ เพราะดิฉันใจแตก ในคืนวันงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ที่กำลังจะจบอย่างดิฉัน โดยดิฉันโดนรุ่นพี่ที่จบไปแล้วเปิดบริสุทธ์เย็ดเอาจนตั้งท้องตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ดีที่มันเป็นปีสุดท้ายพอดี เลยเรียนจบพร้อมกับได้สามีและลูกคนแรกมาพร้อมๆกัน
ด้วยหน้าที่การงานในปัจจุบันทำให้ดิฉันกลายมาเป็นครูจอมดุ และตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่จนดิฉันเปลี่ยนนิสัยกลายเป็นอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวดิฉันในปัจจุบัน พอคิดไปคิดมาก็ตลก ที่เด็กรุ่นราวคราวลูกจะทำให้ดิฉันรำลึกถึงวัยสาวได้อีกครั้ง ยิ่งได้แอบเห็นเพื่อนครูเล่นชู้กันอีก ก็ยิ่งทำให้มีอารมณ์มากขึ้น นานมากแล้วที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้ เพราะดิฉันเองก็ร้างลาเรื่องอย่างว่าไปนาน คิดๆไปก็เริ่มจะฟุ้งซ่าน ดิฉันจึงสลัดความคิดทุกอย่างออกจนหมด แล้วแต่งชุดครูประชาบาลสีกากี แล้วไปนั่งกินข้าวเช้ากับลูกชายคนเล็กและสามี ก่อนที่ดิฉันจะขับรถพาลูกไปยังโรงเรียน
วันนั้นเหล่านักเรียนชายที่ถูกดิฉันทำโทษเมื่อวานต่างพานัดกันหยุดเรียนกันหมด ดิฉันคิดว่าเด็กๆคงจะอายที่ถูกดิฉันทำโทษเมื่อวาน แต่ก็สมควรแล้ว ดิฉันทำตามหน้าที่ความเป็นครู จึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ และตั้งใจสอนต่อจนจบคาบ
เวลาผ่านไป จนช่วงสายๆของวันเสาร์ ลูกชายของฉันออกไปเรียนพิเศษ ส่วนสามีของดิฉันออกไปตกปลากับเพื่อนของเขาแต่เช้า เย็นๆคงจะกลับ ดิฉันเองก็กวาดบ้านถูบ้านไปตามประสาแม่บ้าน ผ่านไปสักชั่วโมงเสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น ดิฉันจึงชะโงกหน้าไปดูที่ข้างหน้าบ้าน ปรากฏว่าเป็นเด็กชายเก่งลูกศิษย์ข้างบ้านของดิฉันนั่นเอง
“ครูช่วยตรวจแบบฝึกหัดให้ผมล่วงหน้าได้มั้ยครับ” หลังจากที่ดิฉันเดินไปเปิดประตูแล้ว เด็กชายเก่งก็พูดขึ้นมา
ดิฉันพาเด็กชายเก่งเดินเข้ามาในบ้าน แล้วนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ที่โต๊ะรับแขกภายในห้องทำงานของดิฉัน ก่อนที่จะหยิบสมุดการบ้านของเขามาดู พลางชำเลืองมองไปที่เด็กชายเก่ง ก็ได้รู้ว่าสายตาของเขาจับจ้องมองมาที่หน้าอกอึ๋มๆของดิฉันตาเป็นมัน ดิฉันใส่ชุดนอนสายเดี่ยวสีชมพูลายลูกไม้แบบซีทรูตรงช่วงหน้าอก มีผ้าผูกเป็นโบว์อยู่ใต้ราวนม อีกทั้งยังเว้าช่วงอกลงต่ำลึกจนเห็นร่องนมที่บดเบียดกันเด่นชัด ชุดชั้นในก็ไม่ได้ใส่ เพราะตอนนอนดิฉันชอบนอนแบบสบายๆปล่อยให้ได้หายใจกันโล่งๆสบายๆบ้าง ถ้าสังเกตดีๆจะมองเห็นป้านหัวนมคล้ำๆของดิฉันได้ไม่ยาก ดิฉันไม่ทันระวังตัวก้มๆเงยๆตรวจสมุดการบ้าน อกอวบก็สั่นแกว่ง กว่าจะรู้ตัวก็ถูกเด็กชายเก่งมองลอดผ่านคอเสื้อเข้ามาเห็นทะลุปรุโปร่งไปหมดแล้ว พอถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น ดิฉันเองก็รู้สึกหวิวๆเหมือนกัน แต่ก็ต้องรักษาฟอร์มครูไว้
“อะแฮ่มๆ..ทำได้ดีมาก ถูกหมดทุกข้อเลย”ดิฉันพูดขึ้นมา จนเด็กชายเก่งสะดุ้งตัวแหงนหน้ามาสบตาดิฉัน ดิฉันเองก็ยกไม้ยกมือมาบีบใหล่ตัวเอง เพราะรู้สึกเมื่อยๆที่ต้องทำความสะอาดบ้านแต่เช้า
“ผมช่วยนวดให้มั้ยครับครู” เด็กชายเก่งพูดเสนอขึ้นมา แม่ของเด็กชายเก่งเป็นหมอนวดแผนโบราณ ดิฉันจึงคิดว่าเด็กชายเก่งเองท่าจะพอมีฝีมือในการนวดอยู่บ้าง ก็เลยตอบตกลงไป
“ตามผมมาที่บ้านเลยครับครู” เด็กชายเก่งพูดแล้วเดินรีบๆไปทางด้านหลังบ้าน เพราะประตูด้านหลังของบ้านดิฉันและบ้านของเด็กชายเก่งเชื่อมติดกัน ดิฉันที่ตอบตกลงไปแล้วก็เลยเดินตามเด็กชายเก่งไป โดยไม่ได้คิดอะไรมาก
เด็กชายเก่งพาดิฉันเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวของเขา ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของบ้านดิฉัน ระหว่างที่เด็กชายเก่งให้ดิฉันรออยู่ในห้องของเขา ดิฉันถือวิสาสะสำรวจดูรอบห้อง ห้องของเขาเต็มไปด้วยหนังสือเรียน โดยถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบสะอาดเรียบร้อยดีมากๆ นอกจากจะเรียนดี หน้าตาดีแล้วยังสะอาดเรียบร้อยอีก ระหว่างที่ดิฉันกำลังคิดชื่นชมเขาอยู่นั้น เด็กชายเก่งก็เข้ามาในห้อง พร้อมผืนผ้ายาง กับขันพลาสติกใส่ขวดน้ำมันหอมหลากชนิด
“นี่เธอจะทำอะไรหน่ะ” ดิฉันถามเด็กชายเก่งด้วยความสงสัย ในขณะที่เขาปูผืนผ้ายางลงบนเตียงของเขา
“นวดน้ำมันไงครู เดี๋ยวนี้กำลังฮิตกัน นอกจากจะแก้เมื่อยแล้วยังช่วยให้ผ่อนคลายด้วยครับ...ฯ” เด็กชายเก่งสาธยายสรรพคุณของการนวดน้ำมันให้ดิฉันฟังอย่างตั้งใจ และดูมีเหตุผลมาก ดูแล้วเขาคงไม่ได้คิดเป็นอื่นใด ก็เลยลองทำตามเด็กชายเก่งดู เด็กชายเก่งพูดให้ดิฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปนุ่งผ้าขนหนูแทน จากที่ดิฉันสังเกตดูผ้าขนหนูที่มือเด็กชายเก่งแล้วก็เห็นว่าผ้าขนหนูมันผืนเล็กมากๆ เลยปฏิเสธไป เพราะกลัวว่าเขากำลังจะคิดล่วงเกินดิฉัน พอเด็กชายเก่งไปหยิบผืนใหม่มาให้ ดิฉันก็เลยยอมผลัดผ้า โดยเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำภายในห้องของเด็กชายเก่ง แล้วแขวนเสื้อคลุมนอน ไว้กับราวข้างห้อง
หลังจากเปลี่ยนผ้าเสร็จแล้วเป็นผ้าขนหนูกระโจมอก ดิฉันก็นอนคว่ำหน้าลงกับผ้ายางที่เด็กชายเก่งปูไว้บนเตียง ก่อนที่เด็กชายเก่งจะเริ่มเทน้ำมันหอมลงบนฝ่ามือของเขา แล้วเริ่มนวดขึ้นมาจากปลายข้อเท้าของดิฉัน เด็กชายเก่งนวดได้ดีมาก เขาบีบๆจับๆได้ถูกเส้นจนดิฉันเริ่มรู้สึกสบาย อีกทั้งกลิ่นของน้ำมันหอมที่เขาใช้ทำให้ดิฉันรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก จนเขาเริ่มขยับมือขึ้นมานวดสูงขึ้น สูงขึ้น จากปลายเท้ามายังต้นขา แล้วตอนนี้เขากำลังจะล้วงมือเข้ามานวดที่สะโพกข้างในผ้าขนหนูของดิฉัน
“ว้าย..ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้” ดิฉันใช้มือคว้าแขนของเขาไว้ให้หยุด เมื่อมือของเขาจับเข้ากับก้นเปลือยเปล่าของดิฉันภายใต้ผ้าขนหนู
“อย่างนั้นมันก็ไม่ครบสูตรสิครับครู แทนที่จะหายปวดเมื่อย ดีไม่ดีอาจจะปวดกว่าเดิมอีกนะครับ” เด็กชายเก่งพูดต่อว่าดิฉัน ที่ไม่ยอมทำตามเขา
“งั้นเธอขึ้นมานวดที่หลังของครูก่อนก็ได้” ดิฉันพยายามพูดเสนอเขาเพื่อตัดบทไปก่อน ซึ่งเขาก็ยอมทำตาม เด็กชายเก่งจึงใช้มือดึงเอาผ้าขนหนูที่ปิดแผ่นหลังของดิฉันลง ดิฉังจึงผยุงตัวขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เขาทำได้สะดวก แต่ไม่ทันระวังตัว ก็ถูกเด็กชายเก่งใช้แรงดึงจนปมผ้าขนหนูที่มัดไว้บริเวณหน้าอกหลุดออกจากกัน ดิฉันตกใจสะดุ้งตัว แต่ก็ไม่กล้าโวยวายเพราะกลัวเด็กชายเก่งจะรำคาญอีก พาลจะบ่นว่าโน่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ แต่พอเขาดึงผ้าขนหนูออก เขาก็ใช้มันห่มลงต่ำปกปิดร่างกายให้ดิฉันตั้งแต่สะโพกยาวลงจนถึงหน้าแข้ง ดิฉันจึงเบาใจเมื่อเห็นการกระทำของเขาแบบนี้ เพราะคิดว่าเขาคงจะไม่ได้คิดล่วงเกินดิฉันตามที่คาดไว้ ถึงแม้ตอนนี้ท่อนบนของดิฉันจะเปลือยเปล่าก็ตาม แต่ก็นอนคว่ำหน้าให้กับเขา ไม่ได้เห็นโนมเนื้ออะไรมากนัก จึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมาก
เด็กชายเก่งเอื้อมมือไปหยิบน้ำมันหอมขวดใหม่มาเป็นขวดเล็กๆ เด็กชายเก่งสวมถุงมือทั้งสองข้าง ซ้ำยังสวมผ้าปิดจมูกก่อนที่จะเปิดผาขวดออก จนดิฉันคิดสงสัย แต่ก็ไม่กล้าถามมาก ใหนๆก็ยอมตกลงให้เด็กมันช่วยนวดให้แล้ว บ่นอิดออด ถามเซ้าซี้มากไป จะกลายเป็นผู้ใหญ่น่ารำคาญไปเสียปล่าวๆ พอฝาขวดน้ำมันหอมขวดนั้นถูกเปิดออก ดิฉันก็ได้กลิ่นที่ฉุนเตะจมูกมากๆ ซ้ำยังเหม็นสาบ เด็กชายเก่งเหยาะน้ำมันหอมขวดนั้นลงบนฝ่ามือเล็กน้อยเพียงหยดสองหยด ก่อนที่เขาจะละเลงมันลงไปที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าของดิฉัน
แรกๆความรู้สึกก็ไม่ได้ต่างจากน้ำมันหอมขวดแรกเท่าใด แต่พอเด็กชายเก่งใช้มือนวดเคล้นหยดน้ำมันหอมขวดนั้นเข้ากับแผ่นหลังของดิฉันมากขึ้น อยู่ๆก็รู้สึกร้อนผ่าวๆขึ้นมาภายในร่างกาย กลิ่นเหม็นสาบในตอนแรกกลับกลายเป็นกลิ่นหอมเย้ายวนชวนให้เคลิบเคลิ้มมากๆ ไม่นานนักเหงื่อของดิฉันก็เริ่มซึมออกมาทั่วร่าง เรียกได้ว่าซึมออกมาทุกรูขุมขนเลยก็ว่าได้ เหงื่อของดิฉันแตกเป็นเม็ดๆ ใหลมาจากทางหน้าผากลงข้างแก้มผ่านซอกคอ ก่อนที่จะใหลลงไปซึมผ่านร่องอกอวบที่เบียดชิดกันเพราะนอนคว่ำหน้า
เด็กชายเก่งเริ่มนวดวนจากแผ่นหลังลงมาด้านข้าง ต่ำลง ต่ำลง จนมือของเขาสัมผัสกับเนื้อหน้าอกด้านข้างลำตัวของดิฉัน จนรู้สึกหวิวมากขึ้น ไม่นานมือทั้งสองข้างของเขาก็ล้วงสอดผ่านช่องแขนของดิฉันเข้ามาช้อนประคองสองเต้าของดิฉันไว้เต็มทั้งสองฝ่ามือของเขา ในใจของดิฉันปฏิเสธการกระทำของเขา แต่ร่างกายกลับไม่ยอมเคลื่อนไหวตามที่ต้องการ ซ้ำยังรู้สึกอ่อนระทวยปวกเปียกไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว
“ผ่อนคลายนะครับ ผมไม่ได้อยากจะล่วงเกินหรอกนะ แต่ต้องทำให้ครบทุกขั้นตอน”เด็กชายเก่งพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ดิฉันกลับพยักหน้าเออออไปตามเขา ทั้งๆที่จริงๆแล้วเขาเริ่มล่วงเกินเข้ามาทีละนิดโดยที่ดิฉันไม่รู้ตัว กลับยังคล้อยตามเขาไปอีก ดิฉันรู้ตัวดีว่าตอนนี้กำลังโดนของเข้าให้แล้ว เพราะรู้สึกถึงความแฉะชื้นจากภายในร่องกลีบสวาทเมื่อน้ำหล่อลื่นพรั่งพรูออกมา
ดิฉันพยายามระงับอารมณ์ไว้ แต่ก็ไม่ไหว เพราะมันหวิวมากๆ อารมณ์หงี่กำลังเพิ่มมากขึ้นไปอีกเมื่อสองมือของเด็กชายเก่งที่กำลังขยำบีบนวดหน้าอกทั้งสองเต้าของดิฉัน ถูกเปลี่ยนเป็นการใช้ปลายนิ้วสะกิดรัวที่หัวนมแทน จนยอดปทุมถันเด้งชันแข็งเป็นใตขึ้นมาสู้นิ้วของเขา เขาชะโลมน้ำมันจากขวดที่สองเพิ่มเข้ามานวดให้อีก ความรู้สึกเสียวและเงี่ยนเริ่มแล่นไปทั่วร่าง เหงื่อของดิฉันเริ่มซึมออกทางซอกคอจนผมเปียก ดิฉันหายใจหอบถี่ๆ ต้องชันศอกขึ้นเพราะอึดอัดมาก แต่กลับกลายเป็นเหมือนว่ายกตัวขึ้นเพื่อให้เด็กชายเก่งจับคลำสองเต้าอวบได้เต็มที่ เขาบีบคลำเล่นจนเพลินมืออยู่นาน จนเขาคงเห็นว่าดิฉันเริ่มยอมเขาแล้ว จึงดึงมือกลับไปนวดที่แผ่นหลังของดิฉันต่อ ก่อนที่เขาจะลากมือลงเรื่อยๆแล้วเขาก็สบัดผ้าขนหนูที่ปิดช่วงล่างของดิฉันออกไปกองข้างตัว จนดิฉันเปลือยเปล่า
ดิฉันตกใจมากพยายามใช้สติที่มี ฝืนพลิกตัวขึ้นมาโดยดึงเอาผ้าขนหนูมาห่มปิดของลับไว้ โดยใช้ทางยาว เพื่อให้มันพาดปิดได้ทั้งบนและล่าง
“ใกล้เสร็จแล้วครับครู อีกนิดเดียวครับ”เด็กชายเก่งพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดามากๆ เขายังคงเปิดน้ำมันหอมขวดเล็กๆนั่นแล้วเหยาะมันลงที่ปลายนิ้วที่สวมไว้ด้วยถุงมือยาง ดิฉันได้แต่นั่งหอบหายใจแฮ่กๆมองดูเขา กลิ่นของน้ำมันหอมยังคงฉุนสาบเหมือนเดิม แต่เร้าอารมณ์มากๆ ดิฉันที่กำลังหอบหายใจอยู่กลับกลายเป็นสูดกลิ่นนั้นเข้าไปเต็มที่ อารมณ์ของดิฉันก็พุ่งพล่านมากขึ้นไปอีก จนจะบังคับตัวเองไม่อยู่แล้ว
เด็กชายเก่งคลานเข่าเข้ามาใกล้ดิฉัน แต่ดิฉันเองก็พยายามพยุงตัวหนีจนหลังติดหัวเตียง เขาเริ่มสอดนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำมันหอมประหลาดลอดผ่านใต้ผ้าขนหนูตรงระหว่างขาทั้งสองข้างของดิฉัน ไปแปะไว้เหนือเนินหัวหน่าวตรงที่มีขนหมอยหยาบขึ้นอ่อนๆ ดิฉันพยายามหนีบขาเข้าหากัน แต่ก็ไม่มีแรงพอที่จะขัดขืนมากกว่านั้น เพราะฤทธิ์ของน้ำมันหอมประหลาดทำให้ดิฉันอ่อนระทวยมาก จนกลีบกุหลาบดอกตูมของดิฉันถูกเด็กชายเก่งใช้มือลากผ่านร่องกลีบ อารมณ์เงี่ยนหงี่ของดิฉันพุ่งสูงขึ้นมาก คงเพราะน้ำมันหอมนั้นใหลซึมเข้าไปผสมกับน้ำเลี้ยงกลีบของดิฉันและคงผ่านกลีบสวาทเข้าไปกระตุ้นอารมณ์กระสันต์ให้พลันทวีมากขึ้น เด็กชายเก่งพยายามจ้องมองลอดผ้าขนหนูเข้าไปดูเนินโคกสามเหลี่ยมของดิฉัน ดิฉันเองก็อายมากๆพยายามดึงผ้าขนหนูลงปิดเอาไว้ เขาแหงนหน้าขึ้นมามองดิฉัน ก่อนที่เขาจะใช้นิ้วนั้นสอดแทรกผ่านล้ำเส้นเข้ามาภายในกลีบสวาทของดิฉันสุดนิ้ว
“ว๊าย...” ”เพี๊ยะ” ดิฉันอุทาน แล้วรั้งมือขึ้นตบหน้าเด็กชายเก่งเต็มๆแต่ก็ไม่ได้แรงมากนัก เมื่อเขาใช้มือสอดผ่านความเป็นหญิงของดิฉันเข้ามา
เด็กชายเก่งไม่ได้สนใจที่ดิฉันตบหน้าเขาแต่อย่างใด พอเขาสอดนิ้วเข้ามา เขากลับเริ่มงอนิ้วกระดิก หมุนเข้าออกลากปลายนิ้วสัมผัสผ่านผนังในโพรงสวาทของดิฉัน จนเสียวกระสันต์มากเผลอครางออกมาอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ อารมณ์เสียวเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กชายเก่งสาวนิ้วแซะเข้า-ออกกลีบสวาทของดิฉัน จากที่หนีบขาเข้าหากันดิฉันกลับค่อยๆแหกขาออกจนกว้าง เด็กชายเก่งเองพยายามที่จะก้มมองลอดผ่านใต้ผ้าขนหนูเข้ามาหลายครั้ง แต่ดิฉันก็รั้งผ้าขนหนูมาปิดเอาไว้ โดยที่ไม่สนใจจะปกปิดโนมเนื้อท่อนบนอีกต่อไป ปล่อยให้สองเต้าอวบๆที่มันละเลื่อมไปด้วยน้ำมันหอมเปลือยเปล่าเด้งกระเพื่อมตามแรงหายใจหอบแฮ่กๆ เด็กชายเก่งจึงเบนความสนใจมาจ้องมองที่หน้าอกอวบๆของดิฉันแทน
“ไม่ไหวแล้วครู ร้อนเหลือเกิน ผมขอถอดเสื้อออกแล้วกันนะ”เด็กชายเก่งชักนิ้วออกมาจากร่องกลีบของดิฉันแต่ก็ไม่วายเกี่ยวขึ้นมาลากโดนติ่งเสียว จนดิฉันเผลอครางออกมาอีกครั้ง เขาถอดเสื้อผ้าและกางเกงออกจนหมดล่อนจ้อน รวมทั้งถุงมือยางกับผ้าปิดปากด้วย ก่อนที่เขาจะขยับเข้ามานั่งข้างๆตัวดิฉัน แล้วสอดนิ้วเข้าไปล้วงกลีบสวาทของดิฉันต่อ โดยที่ครั้งนี้ดิฉันไม่ได้แสดงอาการขัดขืนเลยแม้แต่น้อย กลับแหกขาออกให้เขาสอดนิ้วเข้ามาโดยง่าย เพราะดิฉันทั้งเงี่ยนและกระสันต์เสียวอย่างมาก จนคิดอยากให้เขาทำให้เสร็จๆให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
ดิฉันหันไปมองด้านข้างที่เด็กชายเก่งนั่งอยู่ สายตาจับจ้องไปที่องคชาตสีเผือกลำงอเป็นรูปดาบใหญ่โตผิดรูปของเขา ด้วยใจเต้นระส่ำไม่คาดคิดว่าเด็กๆอย่างเขาจะมีของลับที่ใหญ่โตเกินวัยขนาดนี้ เด็กชายเก่งสังเกตเห็นดิฉันที่กำลังจ้องมองท่อนเอ็นของเขาอยู่ เขาจึงคว้ามืออีกข้างที่ไม่ได้ทำอะไร มาจับข้อมือของดิฉันดึงเข้าตัวของเขาเพื่อให้มือของดิฉันข้างนั้นได้สัมผัสกับท่อนเอ็นของเขา พอได้สัมผัสด้วยมือของตัวเองดิฉันก็ต้องตกใจ และกระสันต์เสียวมากขึ้น เพราะเมื่อสัมผัสแล้วจึงรู้สึกว่าขนาดของมันใหญ่กว่าของผัวดิฉันร่วมสองเท่า ด้วยความแปลกใหม่มากๆเพราะไม่เคยจับของชายใดมาก่อนนอกจากของผัวตัวเอง ที่คิดว่าของผัวใหญ่อยู่แล้ว กลับมาเจอของเด็กรุ่นลูกใหญ่กว่าอีก ดิฉันจึงให้ความสนใจมาก เผลอใช้มือทำเป็นวงรูดท่อนเอ็นของเด็กชายเก่งขึ้น-ลง จนหนังหุ้มปลายเปิดออก เผยให้เห็นหัวถอกสีแดงสดที่ตัดกับลำขาวๆของเขา ซ้ำปลายเงี่ยงยังบานออกกว้างราวกับเห็ดป่าขนาดยักษ์
