เช้าวันนี้ก็คงเหมือนเช้าอีก หลายๆ วันที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อหน่าย กับอาชีพการงาน ที่แสน จะเคร่งเครียดของผม ตำแหน่งผู้บริหาร เป็นงานที่ให้รายได้ดี แต่ก็ได้พราก เอาความมีชีวิต ชีวา ของผมไปด้วย ผม ขับรถเข้าไปบริษัท พร้อมกับวางแผนการทำงาน ในวันนี้ไปด้วย ในจังหวะที่ผมหันไปเปลี่ยนซีดี เพลง จึงไม่ได้ทันเห็น ร่างของสาวน้อยคนนึงที่พรวดพราดเข้ามา กลางทาง ดีแต่ว่าผมเหยียบเบรก ทัน รถ จึงแค่เกือบชน เจ้าหล่อน
หล่อน ไม่พูดแค่ทำหน้าตกใจสุดขีด ที่จู่ ๆก็เกือบเอาชีวิตไปถวายยมบาล แล้วหล่อนก็ ชู นิ้วกลางให้ผม เป็นสัญลักษณ์ การด่าที่เป็นสากล แล้วก็วิ่งจากไป
อ่ะโห โดนด่าแต่เช้าเลยกู วันทีแค่ยิ่งเซ็งอยู่แล้วก็ยิ่งเซ็งหนัก ยัง ยังไม่พอ พอเดินเข้าไปในตึก เจอแม่สาว คนเดิมเข้า เธอเดิน รี่เข้าหาผม ด้วยท่าทางเอาเรื่อ ง
“ นี่คุณ ขับรถก็แพง มีตามองชาวบ้านเค้ามั้งไม๊” ปากอวบอิ่ม ขยับด่าแบบ หาเรื่องทันที
“อ้าว คุณน่ะแหล่ะ เดินยังไง ให้มาขวางรถผม แล้วยังมาด่าผมอีก” ตอนแรกก็เซ็งอยูหรอก ที่โดนด่า แต่พอเพ่งพิศ ดูดี ๆ เธอเป็นคน สวยมาก ทีเดียว ผิวขาว ละเอียด ตายาวรี จมูกโด่งสวย และปาก ที่อวบอิ่ม รูปร่างสูงโปร่งแต่ อวบอัดไปด้วยเนื้อสาว ดูเป็นคนสวยเปรี้ยว ขนาด โกรธ ก็ยังดูสวย เลยอยากจะต่อปากต่อคำ กับเธอเล่น
“ โห นี่คุณ ผิดแล้วยังไม่ยอมรับอีกน่ะ ถ้าชั้นไม่ติดธุระน่ะ จะด่าให้ขาวเลย คอยดู” ผมถึงแก่ ยืนสะดุ้ง
ผมน่ะก็แค่ ผิวคล้ำแดด จากการเล่นกีฬาแค่นั้นแหล่ะ ไม่ได้ดำซ่ะหน่อย พอ อ้าปาก จะด่าตอบมั้ง เจ้าหล่อนก็เดิน จากไปซ่ะแล้ว ทิ้งให้ผม ยืนมอง รูปร่างอวบอัด ของหล่อนตามหลัง
“เอาว่ะ ถือว่าโดน ด่าล้างซวย เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น”
“คุณ เทพ ค่ะเลขาใหม่ ของคุณมาถึงแล้วน่ะค่ะ วันนี้ศรีก็ขอลาเลยน่ะค่ะ”
“อ้าว คุณศรี ไม่อยู่ฝึกงานเลขาใหม่ให้ผมก่อนหรอ พอจะลาไปมีสามี ก็ ไป ไม่อยู่ช่วยผมก่อนเลยน่ะ”
“แหม ผู้จัดการค่ะ ของแบบนี้รอกันไม่ได้ เด๋ว ศรีเรียกเลขาให้น่ะค่ะ แล้วก็ทำความรู้จักกันเองน่ะค่ะ ศรีขอบคุณ สำหรับทุกอย่างน่ะค่ะ”
“ ครับ โชคดีน่ะครับคุณศรี แล้วมีอ่ะไรก็ติดต่อผมได้เสมอน่ะครับ” ผมตอบพร้อมลุกขึ้นยืนรับไหว้เธอ คุณศรี ช่วยผมไว้เยอะ ตอนผมเข้ามารับตำแหน่งนี้ใหม่ๆ โดนเขม่นมาก จากผู้บริหารรุ่นเก่า แถม สาวๆที่จ้องจะจับผมก็เยอะ ก็ได้เลขามหาประลัยอย่างเธอ นี่แหล่ะช่วยไว้ ทั้งช่วยงาน ทั้งกันสาวๆ ผมนับถือเธอเหมือนเป็นพี่สาวคนนึงที่เดียว
หลังจากส่งเธอแล้วผมก็นั่งก้มหน้าก้มตา เช็คเอกสาร บนโต๊ะไปเรื่อยจนได้ยินเสียงประตูเปิด ก็เงยหน้าขึ้นดู
“โอ้ย ตาย แล้ว ตายแน่ๆ ช้าน ตรีช่วยชั้นหน่อยซิ ” สาวน้อยคนนึงนั่งฟูมฟายอยู่กับเพื่อนสาวในร้านอาหาร
“นี่เป็นอ่ะไร ยัยปรางค์ ทำงานวันแรกก็ มานั่งโวยวาย เสียจริตอยู่เนี่ยะ” ตรี งงงวย กับอาการเพื่อนสาวตัวเองมาก ปกติปรางค์ เป็นผู้หญิงมั่นใจในตัวเองสูงปริ้ด ด้วยรูปร่างหน้าตา และความสามารถ ต่างๆ ที่เก่งไม่แพ้ใคร ทำให้เธอไม่กลัวใคร จนถึง ขั้นย้ายงานมาแล้วหลายที่ เพราะไปงัดข้อ ม่ายช่ายงัดข้ออย่างงั้น คือไปขัดใจ หัวหน้างาน ไม่พอใจก็ลาออกซ่ะงั้น บ้านยัยปรางค์ก็ฐานะดี อยู่แล้ว ที่ทำงาน ก็เพราะอยากทำ มากกว่า
“แก ชั้นไปทำงานวันแรก ก็ดันไปด่าเจ้านายเข้าให้แล้วอ่ะ ซิ ทำไงดีว่ะ” คิ้วเรียวบางขมวดเข้าหากัน อย่างเคร่งเครียด ทุกที ก็ทำได้นาน น่ะกว่าเจ้านาย จะลายออกให้เธอด่า แต่นี่เธอด่าซ่ะตั้งแต่ ครังแรกที่เจอหน้า โอ้ย ตายๆๆ ชีวิตการทำงานจะมีควาสุขไม๊เนี่ยะ
“ อ้าวไหนบอกอยากทำงานนี้ไง แล้วเห็นว่า เจ้านายแก อ่ะทั้งหล่อทั้งดังน่ะ ลงหนังสือตั้งหลายเล่ม”
“เออ คงมีแต่ชั้นล่ะมั้งที่ไม่รู้จักเค้าอ่ะ” หญิงสาว นั่งหน้าตูม ก็ไม่รู้จิงๆนี่หน่า ว่าไอ้บ้าคนที่ เกือบจะชนเรา มันจะกลายมาเป็นเจ้านายเรา
เชอะ ไอ้หล่ออ่ะมันก็หล่อแหล่ะน่ะ อายุ30 ผิวคล้ำ หน้าคมเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ บุคลิก ดี หล่อเนี้ยบ ดวงตาดุเข้ม แต่ก็แฝงแววขี้เล่น ถ้าไม่นับว่าด่ากันไปแล้วก็เป็นผู้ชาย แบบที่เธอชอบ นั้นแหล่ะ
“เอาน่า แก เครียดไปก็ไม่ได้ ประโยชน์ ไปเที่ยวก่ะชั้นดีก่า เป็นคลับปิดน่ะ รับรอง สนุกได้เต็มที่ งานนะ ถ้าไม่อยากทำก็ ไปลาออกซ่ะ ไม่ต้องทำก็ได้ ”
“เออ ก็ดี เที่ยวไหนล่ะจ๊ะ”
“เอาน่าเด๋วก็รู้” เพื่อนสาว อุบไว้ อมยิ้มแบบ มีเลสนัย
หน้าคลับปิดของเพื่อนสาวเธอ และแล้วเธอก็รู้
“โห ยัยตรี คลับปิดแก” ปรางค์แก้ว ถึงจะเป็นหญิงสาวสมัยใหม่ เปรี้ยวปรี้ด แต่ก็ไม่เคยเที่ยว อ่ะไรอย่างงี้มาก่อน
มันเป็น คลับ เปลื้องผ้า พนักงาน ทั้งชาย หญิง สวมแต่บิกินี่ ตัวจิ๋วๆ ปิดนม ปิดจิ๋มแทบไม่มิด บนเค้าเตอร์ มี เหล่าแดนเซอร์ ทั้งชายหญิง เต้นกันอยู่ด้วยลีลายั่วยวน โยกย้าย ส่ายสะโพกเคล้าคลึงกัน อย่างเร่าร้อน ยิ่งดึก ลีลาบนเวทีก็ยิ่ง ดุเดือด นักเต้น เริ่มเปลื้องผ้ากัน โชว์ลีลา เล้าโลมกันอย่างโจ๋งครึ๋ม นักเต้นชาย ลูบไล้ไปตามเรือนกาย ของนักเต้นสาว บีบเคล้น หน้าอก ดูดเลีย อีกหลายคู่ ก็เริ่มเล้าโลมโชว์กันอย่างกระตุ้นราคะผู้ดู บางคู่ ผู้ชาย ลงไปดูดเลียจิ๋ม นักเต้นสาว ต่างคนต่างก็ร่ายลีลา กระตุ้น อารมณ์เงี่ยน ของผู้ ดู เพราะ คู่ไหน ที่ลีลาดี ก็ได้ทิปเยอะ เลยโชว์กันสุดเหวี่ยง
สาวปรางค์ของเรา ก็ดูไปหน้าแดงซ่านไป แค่เที่ยวยังไม่ค่อยได้เที่ยวเล้ย แล้ว มาครั้งนี้ ก็มาเจออ่ะไรที่มัน กระตุ้นเลือดสาวขนาดนี้ อาย ก็ อาย อยากดู ก็ อยากดู ยิ่งดู ความรู้สึกแปลกๆก็ยิ่งเกิดขึ้นแก่ร่างกายหล่อน ยิ่งดื่มเครื่องแอลกฮอล์ เข้าไป เลือดในกายก็ยิ่ง สูบฉีด
“เอาล่ะครับ ถึงช่วงเวลาพิเศษ ของเราแล้ว ผู้โชคดี ที่นั่งอยู่ บนที่นั่งที่ 118 จะได้ เป็นผู้ขึ้นมาร่วนสนุก บนเวทีกับเรา”
และแล้ว สปอต์ไลท์ ก็ฉายมาที่ ปรางค์แก้ว เอ้าล่ะซิ เอาว่ะ ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ลองดูก็ได้
บนเวที ปรางค์แก้ว ขึ้นไปยืน เก้ๆกังๆ แต่ความสวย ของเธอ ตรึงสายตาของคนในคลับได้ทั้งหมด เหล่าแดนเซอร์ ชาย หนุ่มทั้งหลายก็เข้ามารุมล้อมร่างกายเธอ พลางเต้นยั่วยวนเธอ
คือถ้าเป็นผู้ชาย ขึ้นไป หรือเป็นผู้หญิงที่ กล้าๆ หน่อยขึ้นไป คงมีความสุข เพราะ คนที่ได้ขึ้น บนเวที จะสามารถ จับ ลูบ คลำ ล้วง ควัก คลึง เคล้า เหล่าแดนเซอร์เหล่านั้นได้ อย่างมันส์ มือ เป็นเวลา 1 เพลง แต่พอดีเป็น ปรางค์แก้ว ที่ยังอ่อนเชิงต่อเรื่องนี้อยู่ เธอจึงได้แต่ยืน ตัว นิ่งๆเกร็งๆ จนจบเพลง แต่ ร่างกาย กลิ่นสาบเหงื่อ ของบุรุษ เพศ และ แก่นกาย ที่แกร่งกำยำ เหล่านั้น ก็กระตุ้น ความรู้สึกเธอ ให้หวามไหวมากมาย
“ โหย ยัย ปรางค์ ยืนทำไมเฉยๆย่ะ เป็นชั้นน่ะ จะคลึงจะล้วงให้มันส์มือเลย ใหญ่ๆทั้งนั้นน่ะแก”
“เอ๊อ เอาเถอะย่ะ แค่พวกนั้นจับมือชั้นไปล้วงของมัน ชั้นก็จะแย่แล้วแก อึ๋ย วันนี้ต้องล้างมือซักสิบรอบ” ปากก็พูดไปแต่ใจ กระตุก ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่เคยจับของใครอันใหญ่ๆมาก่อน แฟนเธอที่เลิกร้างกันไป และเป็นผู้ชายคนเดียวที่ได้ตัวเธอ ก็ไม่ได้มีแก่นกาย และรูปร่างที่เร้าใจ เช่น หนุ่มๆบนเวที
“ เออ แล้วแกเอาไง ลาออกป่ะจะงานน่ะเด๋วชั้นจะช่วยฝากงานใหม่ให้ ” เพื่อนสาวถามด้วยความเป็นห่วง
“อืมห์ คงต้องหางานใหม่ แล้วแฮะ ทำไปท่าทางจะไม่รุ่ง” ปรางค์แก้ว พูดพลางถอนหายใจ
“เอาเถอะน่า โชคดีน่ะจ๊ะ เพื่อนสาว”
เมื่อ เธอกลับถึงบ้านด้วยอาการมึนเมาเล็กน้อย นัยย์ตาหรี่ปรือ เลือดในกายฉีดพล่านจากฤทธ์สุรา เดินโซเซเข้าบ้าน ที่พ่อแม่ ซื้อไว้ให้เธออยู่เมื่อครั้งมาเรียนที่กรุงเทพ
“โอ้ย มึนจัง รีบอาบน้ำนอนดีกว่าพรุ่งนี้จะได้ไปลาออกจากงานแต่เช้า ไม่ไหวแฮะ” สาวสวยคิด ในขณะเดินเข้าห้องน้ำ
พลางปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากเรือนกาย อวบอิ่ม ทีล่ะชิ้น เสื้อสูท สีครีมถูกถอดออก ตามด้วยเสื้อเชิ้ต และ กระโปรง ตอนนี้เธออยู่ในชุดชั้นในราคาแพง โชวสัดส่วนสมบูรณ์แห่งหญิงสาว อกอวบ เอวคอด สะโพก ผาย ก้นโค้งงอน ในขณะที่เธอรอน้ำอุ่นในอ่าง ให้เต็ม สมอง คิดกระหวัดไปถึงตอนกลางคืนที่เอถูกนำมือไปจับแก่นกายแห่งชายหนุ่มที่แข็งชันอย่างเต็มที่ ทำให้เธอเกิดความหวามไหวอย่างรุนแรง เสื้อชั้นในถูกปลดออก ตามด้วยกางเกงชั้นใน ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลน อยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัว ก่อนจะหย่อนร่างลงในอ่างอาบน้ำ เริ่มต้นลูบไล้ทำความสะอาดร่างกาย อย่างเชื้องช้า ทุกสัมผัสที่โดนผิวกายก่อให้เกิดความกระสันต์ขึ้นมาอย่างเร่าร้อน หน้าอก อวบ ถูกบีบคลึงบดบี้ ปลายถันอย่างไม่รู้ตัว
เธอจินตนาการถึง เหล่าผู้ชายพวกนั้นที่เข้ามารุมล้อม สัมผัสเรือนร่างเธออย่างหื่นกระหาย ดูดดึงหัวนม เธอ บีบคลึงอย่างนุ่มนวลแต่เร่าร้อน ทุกสัดส่วนเรือนกายถูกจับจูบลูบคลำ ด้วยมือชายหนุ่ม เนินหน้าท้อง น่าคลุกเคล้าถูกชายหนุ่มไล้เลีย ลากลิ้นเรื่อยลงไปจนถึง โหนกหีของเธอ เมื่อเธอคิดถึงตอนนี้ มือเรียวสวย ก็เลื่อนลงไปบดขยี้กลีบสาวอย่างลืมตัว สาวสวย หลับตาพริ้ม คิดว่ากลีบหีกำลังถูกไล้เลียด้วยลิ้นหยาบหนา ไปทุกซอกทุกมุม ชายหนุ่มในจินตนาการเธอลากลิ้นเลียตลอดความยาวกลีบหี ดูดเม้มดึง เม็ดเสียวเธออย่างนุ่มนวล นิ้วยาวใหญ่ของเค้า แหย่แยงเข้าไปใน รูหีอันคับแน่น ดึงเข้าออก ช้าๆ สร้างความรัญจวนใจ
ก่อนจะ เพิ่มความหนักหน่วงรุนแรงปลายลิ้นก็ยังคงดูดดุนเม็ดเสียวเธออย่างต่อเนื่องเมื่อ เค้าลุกขึ้นทาบทับตัวเธอ แล้วดันท่อนควย อวบหนาเข้ามาในร่องเสียว ของเธอ ก็เป็นช่วงเวลาที่เธอถึงจุดสุดยอด จากปลายนิ้วของเธอ พอดี ปรางค์แก้ว หอบหายใจยาวอย่างแสนสุข ปลายถันชูชัน ร่องหีกระตุกตอดรัดนิ้วเธอ
“โอ้ย อู้ว คุณเทพค่ะ เสียวจังค่ะ” เธอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะ ชายหนุ่มที่อยู่ในความคำนึงเธอกลับเป็น ผู้จัดการ ตัวดำของเธอ นั่นเอง
“อ่ะห่ะ นี่ชั้นคิดถึงตานั่นหรอเนี่ยะ ไม่น่ะ ไม่จริ้ง” ปรางค์รีบปัดความคิดแปลกๆออกไป รีบอาบน้ำ อย่างเร็ว ก่อนจะ ลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าห้องนอน นอนหลับอย่างสุขสม ตลอดคืน
เช้านี้ ช่างเป็นเช้าที่สดใส ต่างจากเช้าที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ผมคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ไอ้ที่เค้าบอกว่าโลกมันกลมน่ะ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง ฮึฮึ ปรางค์แก้ว เลขาใหม่ของผม กับแม่สาวปากร้าย นั้นน่ะเป็นคนเดียวกัน หน้าตอนคุณเธอเห็นว่าเจ้านายคนใหม่ของเธอเป็นใครน่ะ เหวอ น่าดู ตาโต ปากค้าง หน้าซีดเผือด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงซ่าน เมื่อเห็นว่าผมน่ะ อมยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า เอาล่ะ วันนี้ จะแกล้งให้งานหนักๆ ให้สาแก่ใจเลย เอาให้ร้องไม่ออก เลย เมื่อวานผมเลยเตรียมเอกสาร มาตั้งใหญ่ ก่ะว่าให้วันนี้ พิมพ์ให้มือหักกันไป
เช้านี้ ช่างเป็นเช้าที่สดใส ต่างจากเช้าที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ผมคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ไอ้ที่เค้าบอกว่าโลกมันกลมน่ะ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง ฮึฮึ ปรางค์แก้ว เลขาใหม่ของผม กับแม่สาวปากร้าย นั้นน่ะเป็นคนเดียวกัน หน้าตอนคุณเธอเห็นว่าเจ้านายคนใหม่ของเธอเป็นใครน่ะ เหวอ น่าดู ตาโต ปากค้าง หน้าซีดเผือด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงซ่าน เมื่อเห็นว่าผมน่ะ อมยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า เอาล่ะ วันนี้ จะแกล้งให้งานหนักๆ ให้สาแก่ใจเลย เอาให้ร้องไม่ออก เลย เมื่อวานผมเลยเตรียมเอกสาร มาตั้งใหญ่ ก่ะว่าให้วันนี้ พิมพ์ให้มือหักกันไป
“คุณเทพาดิเทพค่ะ” อ่ะฮ้า มาแล้วเส็รจแน่ๆ แม่สาวน้อย ผมคิดในใจ
“ว่าไง คุณ..........” อ้าว ไม่ใช่แฮะ ใครล่ะนี่ “ ทำไมครับ มีอ่ะไร” ผมถามงงๆ
“ดิชั้นมาจากฝ่ายบุคคล น่ะค่ะ คุณปรางค์แก้วเลขา ของคุณ มาแจ้งลาออก ไม่ทราบว่า เธอไปแจ้ง กับคุณรึเปล่าค่ะ”
“ยังไม่มีการแจ้ง เลยน่ะครับ แล้วคุณอนุมัติไปรึเปล่า” ผมถามด้วยสียงเคร่งเครียด อ่ะไรว่ะมาวันเดียว แล้วก็จะหายไป
“ไม่ค่ะ ดิชั้นแจ้งเธอไปว่า ต้องได้รับการอนุมัติ จาก หัวหน้างานก่อน จึงจะ ออกได้ แล้วยิ่งเพิ่งมาทำงานอย่างงี้ยิ่งไม่ได้ใหญ่ ต้องรอให้มีคนมาแทนก่อน”
“ครับ เด๋ว ผมจะแจ้งเธอเอง”
คิ้วคมเข้ม ขมวดเข้าหากกันอย่างไม่พอใจ เรื่องอะไร จะปล่อยให้ไปง่ายๆ ยังไม่ทันได้แกล้งที่มาด่าเราเลย ไม่มีทาง
“ไม่ ไม่มีทาง ยังไง ดิชั้นก็จะลาออก” หน้าสวย บูดบึ้งด้วยความขุ่นเคืองใจ วันนี้เธออยู่ในชุดสูทสีดำ กระโปรงสั้นเหนือเข่า เปิดเปลือยช่วงขาเรียวงาม ผมรวบหางม้า เน้นหน้าผากโหนกนูน ชนิดที่ทำให้มองคิดไปถึงไหนถึงไหน (ถึงอันนั้นไงล่ะ)
“เอ๊ะ คุณปรางค์แก้ว ผมบอกคุณแล้วน่ะว่าคุณยังลาออกไม่ได้ อะไรกัน เพิ่งจะมาทำงานแค่วันเดียว ก็จะลาออก ไม่มีความรับผิดชอบเอาซ่ะเลย” ผมดุเธอกลับไปบ้าง หลังจาก แจ้งดีๆก็แล้ว ขู่ก็แล้ว เธอก็จะลาออกอย่างเดียว โอ้ย อะไรนักหนา ว่ะ แม้ผมจะอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวแต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ผู้หญิงอ่ะไร สวยเหลือเกิน เธอไม่ได้สวยเรียบร้อย แต่สวยแบบ มาดมั่นปราดเปรียว แบบ ที่ผมชอบ อย่างงี้ยิ่งไม่ยอมให้ไปไหนเด็ดขาด จะปราบให้เชื่องเลยคอยดู
“เอ้า ก็ในเมื่อดิชั้นไม่มีความรับผิดชอบก็ไล่ดิชั้นออกซิค่ะ” เอ๊อ เอาเข้าไป
“ไม่ได้ นี่คุณ สัญญา ที่คุณเซ็นไว้น่ะ มันต่อปีน่ะครับ แล้วคุณรู้ไม๊ นี้บริษัทใหญ่น่ะคุณ ไม่ใช่ร้านขายของชำ ที่นึกจะเข้าจะ ออกก็ได้ ถ้าคุณ ออกตอนนี้ ประวัติของคุณ จะถูกส่งไปที่บริษัทลูกในเครือ และบริษัทอื่นๆอีก คุณคิดว่าจะมีที่ไหน รับคุณเข้าทำงาน”
“ก็ช่างซิค่ะ ดิชั้นไม่สนใจ ให้ทำงานกับคุณ น่ะ ดิชั้นกลับไปเลี้ยงแมวที่บ้านดีกว่า น่ารักกว่ากันเยอะ ดิชั้นขอลาค่ะ” โอ้ย อีตานี่พูดไม่รู้ เรื่อง ไม่อยู่แล้ว ไอ้.......... ปรางค์แก้วพูดจบก็หันหลังเดินจะออกจากห้องทันที
แต่ก็ช้าไปกว่า ผู้จัดการหนุ่ม ที่เดิน คว้าแขนหล่อนไว้ ร่างเธอจึงเซเข้าประทะ แผงอก ใหญ่ของเค้า
“คุณปรางค์แก้ว คุณมีปัญหาอ่ะไรกับผมนักหนา” หน้าหล่อเข้มของเค้าอยู่ ห่างจากปลายจมูกเธอไม่ถึงนิ้ว กลิ่นน้ำหอมของเธอ ลอยอวลเข้าจมูกชายหนุ่ม ดวงตาสวย มองเค้าอย่างถือดี หน้าเชิดท้าทาย แต่ทรวงอกอวบอิ่ม สะท้อนขึ้นลงด้วยความตกใจ
“ มีสองข้อ นี่ข้อแรกน่ะ คุณขับรถเกือบ ชนชั้น แถมไม่ขอโทษ ข้อสอง คุณ น่ะ ดำ” คือความจริง คิดอ่ะไรไม่ออก ไม่รู้จะ เอาอ่ะไรมาอ้าง เลยอ้างมั่วไป รู้ทั้งรู้ว่าฟังไม่ขึ้น ก็ร่างสูงใหญ่ มือแกร่ง หน้าคมเข้ม ริมฝีปากหยักโค้งสวย กลิ่นโคโลจญ์ แบบผู้ชายที่เข้าจมูกหล่อน มันทำให้ ปรางค์แก้วคิดอ่ะไรไม่ออก
“ยิ่ง ฟังไม่ขึ้นเลย เหตุผลอะไรของคุณ” ชายหนุ่มเริ่มโมโห ขึ้นมาบ้าง อยู่มาตั้ง 30 ปี ผู้หญิงล้วนแต่ สยบให้กับความหล่อแบบ คมเข้ม ของเค้า มีแม่สาวน้อยคนสวย นี่แหล่ะ ที่มองข้ามความหล่อ เห็นแต่ความดำ ในเมื่อเป็นอย่างงี้ ก็ได้
“คุณไม่มีทางลาออกได้ ถ้าคุณลาออก คนทั้งบริษัท นี้และ บริษัทลูก ได้เห็นภาพนี้ของคุณแน่ๆ”
“ภาพอ่ะไร” สาวสวย ทำหน้างง ชีวิตนี้ไม่เคยทำเรื่อง น่าอาย จะมีก็แต่ เมื่อคืน หรือว่า
ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่ เอาโทรศัพท์ มือถือ ของเค้าออกมากดเลือก โหมดภาพถ่าย มันเป็นภาพเธอในคลับเมื่อคืน ทุกอิริยาบถ โดยเฉพาะ ตอนที่มือของเธอ ถูกจับไปล้วงแก่นกาย ชายหนุ่ม ในคลับ
“เฮ้ย คุณ”สาวสวยร้องออกมาอย่างแตกตื่น
ผมได้รับเชิญไปกับเพื่อนเหมือนกัน แต่อยู่ในห้องวีไอพี เธอจึงไม่เห็นผม แต่ผมน่ะเห็นเธอตลอด ตั้งแต่เดินหน้าตาตื่นเข้ามาในคลับ ไอ้หมายเลข นั้นก็ฝีมือผมเอง แต่ผมก็อยากแกล้งเธอสนุกๆเท่านั้น ไม่ได้คิดจะ เอามาแบ็ลกเมล์เธอหรอก แต่ในเมื่อ พูดดีๆไม่ฟัง ก็ต้องอย่างงี้แหล่ะ ดูๆไปก็สงสารเธอน่ะ หน้า ซีดเผือด ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ผม น่ะ ผู้ชายจะเที่ยวอย่างนี้ก็ไม่น่าเกลียด แต่คุณน่ะผู้หญิง เที่ยวในที่อย่างงี้จะให้คนเค้าคิดอ่ะไร คิดดูดีๆ จะทำงานดีๆ หรือจะ ออกไปพร้อมกับภาพพวกนี้ถูกแพร่กระจาย ไปทั่ว” โอ้ยไม่คิดเลย ผมจะต้องดึงรั้งผู้หญิงด้วยวิธีนี้ ขณะกำลังคิดไม่ตกอยู่นั้น ปรางค์แก้วก็เหมือนได้สติ พุ่งเข้าหาผม พร้อมกับพยายามยื้อแย่ง โทรศัพท์ จากมือผม แต่แรงเธอ รึจะสู้แรงผมได้
“ไอ้บ้า ไอ้ผู้จัดการบ้า”
“เฮ้ยคุณ นี่ หยุดน่ะ”
ผมรวบร่างเธอไว้แนบอก ด้วยมือข้างเดียว อีกข้างก็เอาโทรศัพท์ ยกขึ้นสูงให้พ้นมือเธอ เธอก็ยัง คงจะยื้อแย่ง จนทำให้เราทั้งคู่ เสียหลัก ล้มลงบนโซฟา โดย ตัวเธอ อยู่ใต้ร่างผม หน้าอก อวบแน่น เนื้อตัวนุ่มนิ่ม หอมกรุ่น ปาก อิ่ม ยวนใจ ทำให้ความอดทนของผม ขาดสะบั้นลง ผมก้มลง ประกบปากจูบเธออย่างหนักหน่วง ดวงตาเธอเบิกโพลงด้วยความตกใจ มือเรียว เล็ก พยายามผลักไสผมอย่างเต็มกำลัง แต่ผม ก็จับรวบมือเธอ ไว้ บดขยี้ ปากสวยนั้นอย่างเมามันส์ จน ผมพอใจนั้นแหล่ะ ถึงถอนปากออก มองหน้าเธอ ที่ จ้องมองผมด้วยความตกใจ แก่นกายของผม แข็งชัน อยากจะ สอดแทรกเข้าไปในเรือนกายเธอ แต่ต้องหยุด ความปรารถนา ไว้แค่นั้นเมื่อ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ผมยังคงรวบมือเธอไว้ พร้อมกับตะโกน ออกไป “ใครครับ”
“จากฝ่ายบุคคลค่ะ” ฮึ มาได้จังหวะ ดีจิงๆ ขัดจังหวะดีจิงๆ
“ ผมหวังว่าคุณคงมี คำตอบแล้วน่ะปรางค์แก้ว” ผมขู่เธอ เธอพยักหน้าอย่าง งงๆ ก่อนจะ ลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ฝ่ายบุคคล
“คุณปรางค์แก้ว สรุป คุณจะลาออกไม๊ค่ะ ถ้าออกก็ได้น่ะค่ะ ทางเรามีเลขาสำรองไว้พอดี”
“ไม่ครับ เธอไม่ลาออก แล้วครับ ใช่ไม๊คุณปรางค์แก้ว” ผม ตอบแทนเธอด้วย เสียงที่มีอำนาจเหนือกว่า
“ค่ะ ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ”ปรางค์แก้วตอบเสียงรอดไรฟัน ดวงตาวาวโรจ์นจ้องไปที่ อีตาผู้จัดการที่ยืนยิ้มกริ่ม ถ้าอยู่กันสองคนน่ะ แม่จะหา อ่ะไรฟาดกบาลให้แยก
“ค่ะ งั้นดิชั้นลาน่ะค่ะ” พอสาวฝ่ายบุคคลเดินออกไป เธอหันมาเล่นงานเค้าทันที
“คุณ อย่าคิดว่า ชั้นจะยอมคุณ น่ะ ไอ้ดำ” ด่าเสร็จ แล้วก็เดินออกไปอีก
“เฮ้อ สงสัยต้องไปอาบน้ำแร่ แช่น้ำนมล่ะมั้งเรา” ชายหนุ่มคิดอยู่ในใจ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างร่าเริงใจ ท่าทางเค้าจะมีเรื่อง สนุกๆ เพิ่มขึ้นอีกเยอะ
“โว้ยยยยยยยยยยยย ไอ้เจ้านายบ้า เอางานมาให้พิมพ์ ที่เดียว 300 หน้า จะเอาในวันนี้ ทศกัณต์ 10 องค์ รวมกับ คอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง ก็ยังไม่เสร็จเลย ไอ้ดำ บ้าแกล้งกันชัดๆ” สาวปรางค์ บ่นหงุดหงิดกับตัวเอง ตอนนี้เป็นเวลา สองทุ่มแล้ว เธอยังง่วนอยู่กับเอกสารที่เจ้านาย เธอโยนมาให้ทำ
ส่วนเทพาดิเทพน่ะก็อยู่ในห้อง แอบมองเลขา สาวสวย ทำงาน หัวฟู หน้างอ ด้วยความรู้สึก สะใจ ที่ได้แกล้งคน ตัวเองก็ดูหนัง ฟังเพลงอ่ะไรไปเรื่อยเปื่อย หันไปอีกที อ้าว เลขาเค้าเก็บของ เตรียมตัวกลับบ้าน เฮ้ยๆๆๆ ไม่ได้ ชายหนุ่มกดอินตอร์คอม เรียกเลขาเข้ามาในห้องทันที