ที่ซุ้มม้านั่งในมหาวิทยาลัย แอน, หวาน และฝน สาวสวยดาวเด่นประจำคณะ หรือจะกล่าวว่าดาวเด่นประจำมหาลัยเลยก็ว่าได้ นั่งคุยกันอย่างออกรสใต้เงาไม้ร่มรื่นของต้นหูกวาง โดยไม่รู้ตัวว่า มีสายตาหลายสิบคู่ของนักศึกษาชาย คอยจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างเพรียวสมส่วนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันของทั้งสาม ซึ่งห่อหุ้ม
ด้วยชุดนักศึกษาแบบสมัยนิยม ฟิต รัดและสั้นเต่อ ทั้ง 3 นั่งไขว่ห้างพร้อมเพรียงกัน ทำให้กระโปรงร่นไปเห็นโคนขาขาวนวลเนียน นักศึกษาหนุ่ม ๆ หลายคนจ้องตาไม่กระพริบ
“นี่หวาน ใกล้จะสอบแล้วนะ ตกลงจะให้รุ่นพี่ที่ชื่อสมเจตต์ของเธอมาติวให้เราวันไหน”
ฝน สาวสวยที่ดูเปรี้ยวจี๊ดเอ่ยถามเพื่อนสนิท
“อืม เค้าบอกว่า วันเสาร์นี้แหละ ติวที่คอนโดของพี่เจตต์นั่นแหละ เริ่มประมาณบ่ายสองนะ ฝนไปได้มั้ยล่ะ …แล้วแอนด้วย ไปได้มั้ย”
“ได้สิ ขืนไม่ไปก็ทำข้อสอบไม่ได้สิจ๊ะ” ฝนตอบเสียงใส ก่อนจะหันไปถามแอน “แล้วแอนล่ะ”
“ไปได้สิ เอ้อ...แล้ว...ให้พี่ต้นไปด้วยได้เปล่า คือ ช่วงนี้อ่านหนังสือไม่ค่อยมีเวลาให้เค้าเลยน่ะ เดี๋ยวเค้าจะน้อยใจ พาลมางอนเสียก่อน”
หวานและฝน ทำตาหยอกเอินแอนพร้อมกัน พูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้เล่น ๆ
“แหม ได้สิ ใครจะห้ามหล่อนกับแฟนไว้ล่ะ”
หวาน ที่ดูจะเป็นสาวมั่นที่สุดในกลุ่มถามแอน
“นี่ แล้วเธอกับพี่ต้นอะไรนั่นน่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว” หวานถามพร้อมกับทำตาแพรวพราว ราวจะล้วงลึกข้อมูลในตัวแอน
“แอนกับพี่ต้นก็เป็นแฟนกันไง...หมายความว่าอะไร หรือหวาน”
“หวานหมายความว่า แอนกับพี่ต้นน่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว มีซัมติงกันหรือยัง”
เจอคำถามตรงเป็นไม้บรรทัดแบบนี้ แอนถึงกับหน้าแดงระเรื่อ ด้วยความที่เป็นสาวรักนวลสงวนตัว ไม่เคยตกลงไปอยู่ในบ่วงโลกีย์แม้แต่ครั้งเดียว ไม่เหมือนกับ หวาน และ ฝน ที่เป็นสาวเปรี้ยว หัวสมัยใหม่ มีแฟนแล้วหลายคน และไม่มีใครทราบได้นอกจากตัวเธอทั้งสองเองว่า จะเคยผ่านอะไรอะไร มาแล้วบ้าง
“บ้าเหรอ….คุยเรื่องนี้ ไม่คุยด้วยแล้ว..แอนไปดีกว่า”
พูดจบก็ลุกขึ้น รอบรวมหนังสือบนโต๊ะ แล้วเดินออกไป
“บ๊ายบาย แล้วเจอกัน ...เออ เสาร์นี้ บ่ายสองที่คอนโดพี่เจตต์นะ อยู่แถวสุขุมวิท นั่นแหละ หาง่าย”
“จ๊ะ บ๊ายบาย” แอนโบกมือลาเพื่อนสาวทั้งสอง ก่อนเดินออกไปขึ้นรถสปอร์ตของ ต้น แฟนหนุ่มที่จอดรออยู่หน้ามหาลัย
คล้อยบ่ายวันเสาร์ รถสปอร์ตคันงาม ภายในมีหนุ่มหล่อ และสาวสวยสง่า ดูคู่กันราวกิ่งทองใบหยก นั่งเคียงข้างกัน แล่นเข้ามาจอดในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ใจกลางเมือง
ต้น มองสำรวจไปรอบ ๆ เหมือนคาดคะเนความหรูหรา ตามนิสัยประชันความรวยของลูกเศรษฐีทั่วไป
“คอนโดหรูนี่นะ ท่าทางคนที่อยู่ที่นี่จะไม่เบา” ต้นพูดเปรย ๆ
“มั้งคะ เห็นหวานบอกว่า พี่เจตต์ เป็นลูกท่าน นักการเมืองอะไรสักคนหนึ่งนี่แหละ เรียนเก่ง ทำงานดี โชคดีนะเนี่ย ที่เค้าว่างมาติววิชานี้ให้แอนและเพื่อน ๆ”
สาวแอนพูดเสียงสดใสอย่างจริงใจ ไม่มีอะไรเคลือบแฝง หารู้ไม่ว่า ต้น ผู้ที่มีอีโก้ในตนเองสูงเสียดฟ้า รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาฉับพลัน เมื่อได้ยินแฟนสาวพูดชมถึงคนอื่นซึ่งหน้าแบบนี้ ถึงแม้ว่า จะไม่มีนัยยะสำคัญใดๆก็ตามที
จอดรถเสร็จ แอนและต้น เดินขึ้นไปยังห้องที่หวานบอกไว้ เคาะประตู รอไม่กี่อึดใจ หวานและฝนก็มาเปิดประตูรับ
“มาตรงเวลาดีมาก มานี่ ๆ จะแนะนำให้รู้จักพี่เจตต์ ติวเตอร์รูปหล่อของเราวันนี้”
“สวัสดีค่ะ พี่เจตต์”
เจตต์ ยกมือรับไหว้แอน สายตาคมกริบสไตล์หนุ่มเจ้าชู้ประตูดินกวาดขึ้นลงสำรวจเรือนร่างสาวแอนอย่างรวดเร็วโดยที่ทุกคนไม่ทันสังเกต ความสวยหวานของหน้าตา ผสมความเปรี้ยวของชุดที่แอนสวมใส่วันนี้ เสื้อกล้ามสีดำคว้านคอพอประมาณ อวดทรวงอกอวบอิ่ม กับกระโปรงสั้นสีขาวดูเปรี้ยวจี๊ด เรียวขาขาวเนียนทำให้เจตต์ตะลึงในความงาม แต่สำรวจได้วูบเดียว ก็ต้องซ่อนความรู้สึกไว้อย่างมิดชิด เมื่อต้องผงกศีรษะทักทายให้ต้นแฟนของแอน ก่อนที่จะพาเดินไปยังห้องรับแขกที่จะใช้ติว
เวลาในการติวผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่หนุ่มเจตต์กลับรู้สึกอึดอัดขัดข้องอย่างบอกไม่ถูก เพราะความสวยหวานขาวผ่องไปทั่วทั้งตัว ตากลมโต จมูกโด่ง ปากเรียวงามได้รูปของสาวแอน มันวนเวียนหมุนคว้างจนสมาธิกระเจิดกระเจิงอยู่บ่อย ๆ ยังไม่นับรวม ท่อนขาขาวเรียวที่โผล่พ้นออกจากกระโปรง และหน้าอกหน้าใจขนาดใหญ่ได้รูป ความสมบูรณ์แบบของเรือนร่างตรงหน้า ทำให้ใจของเจตต์เต้นแรง คอแห้งผากตลอดเวลา ดีที่เขามีเวลาได้มองสำรวจทุกสัดส่วนอย่างเต็มอิ่ม เพราะต้นแฟนแอน ไปนั่งกระดิกเท้าดูทีวีอยู่ที่โซฟาอีกฟากหนึ่งของห้อง
“พี่เจตต์....พี่เจตต์ ตกลงตรงนี้คืออะไรคะ...หวานถามตั้งหลายที ไม่เห็นตอบ วันนี้เป็นไร ทำไมดูเหม่อจัง...นี่..มัวแต่จ้องหน้าแอนอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวแฟนเค้าก็ฆ่าให้หรอก รายนั้นนั่นขี้หึงจะตาย”
หวานพูดเบาจนแทบกระซิบ เพราะกลัวต้นจะได้ยิน พร้อมอมยิ้มอย่างคนขี้เล่น
เจตต์ ตื่นจากพะวัง ปั้นหน้าเคอะเขินเหมือนเด็กถูกจับหลังทำความผิด ขณะที่สาวแอนอมยิ้ม ส่ายศรีษะ ตบเบา ๆ ไปที่หัวไหล่เพื่อน
“หวานชอบพูดจาเลอะเทอะ นี่...มาติวกันต่อเถอะ”
แอนสบตาเจตต์แวบหนึ่ง ก่อนที่จะก้มหน้าลง ดูหนังสือต่อ สายตาสวยซึ้งของแอน แม้เพียงแวบเดียวก็ทำเอาหนุ่มเจตต์ใจสั่นสะท้าน เขายอมรับว่า ความสวยของวงหน้า และการวางตัวที่บริสุทธิ์เพียบพร้อม ถูกใจเขามากล้นเหลือเกิน
ตลอดการติววันนั้น เจตต์ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองที่คุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความสวยสง่า และรูปร่างอันดึงดูดเพศตรงข้ามเหมือนแม่เหล็กชั้นดีของแอน ทำเอาเจตต์ ใจเต้นแรง ปั่นป่วนอยู่ตลอด โดยที่ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจในแฟนหนุ่มของสาวสวยที่นั่งดูทีวีอยู่แม้แต่น้อย จวบจนถึงตอนลากลับก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว…
ขณะที่นั่งอยู่ในรถสปอร์ตคันงาม ต้น หันมาถามแอน
“วันนี้เป็นไงมั่ง แอน ติวแล้วเข้าใจมั้ย”
“ก็ดีค่ะ พี่ต้น พี่เจตต์ เขาพูดเข้าใจง่ายดี แถมยังเก็งจุดที่จะออกข้อสอบด้วยนะ”
“อืม ก็ดี แต่บอกตรง ๆ พี่ไม่ชอบไอ้พี่เจตต์อะไรนั่นเลย แอนเห็นตอนมันมองแอนหรือเปล่า ไม่มีมารยาท สายตาเจ้าชู้”
แอนอมยิ้มนิดนึง ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือแฟนหนุ่มบนหัวเกียร์
“คนเจ้าชู้ มักมองคนเจ้าชู้ด้วยกันออก ..ใช่หรือเปล่าคะ”
ต้นหัวเราะออกมา หันมาสบตาแอน
“โธ่ พี่เลิกเจ้าชู้ไปนานแล้ว แอนเห็นเหรอว่าพี่เจ้าชู้”
แอนหัวเราะกิ๊ก ไม่ตอบอะไร ละมือจากมือแฟนหนุ่ม สลับขาไขว่ห้าง แล้ววางมือตนเองไว้บนตัก
ต้นเหลือบมองต้นขาแฟนสาว แม้ขณะนั้นจะมืดแล้ว แต่แสงไฟสลัวริมทาง ก็ส่องสะท้อนมากระทบต้นขาขาวนวลเนียน มองเลยขึ้นมาเห็นหน้าอกอวบอิ่มขนาดเกินตัวที่เบียดกันอยู่ในเสื้อกล้าม ชายหนุ่มเกิดอาการฝืดคอกระทันหัน ท่อนลำลุกตั้งในกางเกง ประสาทเกร็งเขม็ง ปวดตุบๆที่ขมับขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มถอนใจเบา ๆ กดคันเร่งเพื่อไปยังบ้านแฟนสาวโดยเร็วที่สุด
ย้อนกลับไปที่คอนโดของเจตต์ ชายหนุ่มนักธุรกิจวัย 26 ปี ยืนสูบบุหรี่นอกระเบียงเงียบ ๆ มโนภาพของแอนโลดแล่นเข้ามาในความคิด หน้าอกอวบตึง ท่อนขาขาวสล้าง ผิวพรรณขาวละเอียดแบบคุณหนู หมุนสลับวนเวียนในความคิดไม่หยุดหย่อน ไม่เคยมีใครทำให้เขาเห็นครั้งแรกแล้วคลั่งไคล้หลงใหลได้ปานนี้ เขารำพึงกับตัวเองเบาๆ
“ทำอย่างไรดี ถึงจะได้ใกล้ชิดกับสาวสวยอย่างนั้น”
ความคิดวูบไหวไปมา บุหรี่ยังไม่ทันหมดมวน ไอเดียในหัวก็กระจ่าง อมยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าเล่ห์
บ่ายวันจันทร์ แอนนั่งอ่านหนังสือสอบคนเดียว ในห้องสมุดมหาลัย เตรียมตัวที่จะเข้าสอบในวันจันทร์หน้านี้ อ่านไปได้สักพักก็มีคนโทรเข้ามา แอนกดรับสาย
“ฮัลโหล หวัดดีค่ะ”
“สวัสดีครับ น้องแอนหรือเปล่าครับ นี่พี่เจตต์เอง”
“อ๋อ พี่เจตต์...หวัดดีค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
เจตต์ใจเต้นแรง แม้จะผ่านผู้หญิงมามากหน้าหลายตาพอสมควร แต่ก็ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเหมือน
ครั้งนี้เลย เขาพยายามระงับอารมณ์ ปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุด
“คือ พี่เพิ่งได้เล็คเชอร์สำคัญมาน่ะ ชุดนี้พี่เก็งไว้แล้วว่า มีในข้อสอบเยอะแน่ๆ ก็เลยจะเอามาให้ ตอนนี้น้องแอนอยู่ไหนเหรอ ว่างหรือเปล่า เดี๋ยวพี่เอาไปให้ก็ได้ เอ่อ..คือพี่โทรหาหวานแล้ว แต่เค้าไม่ว่าง ก็เลยจะเอามาไว้ที่แอนแทน”
เจตต์โกหกคำโต หวานไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แต่เขาแอบดูเบอร์ของแอนในโทรศัพท์หวาน คราวที่มาติวกัน โดยเจตต์ทำเป็นขอดูโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของหวาน
“อืมม ตอนนี้ว่างพอดีเลยค่ะ แต่แอนเกรงใจน่ะค่ะ พี่เจตต์อยู่แถวไหน เดี๋ยวแอนไปเอาก็ได้”
จะบอกว่า อยู่คอนโด ก็เกรงว่า สาวสวยจะไม่กล้ามา และจะทำไก่ตื่นได้ เจตต์จึงบอกสถานที่นัดพบใกล้ ๆ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแทน
“อืม โอเคค่ะ แล้วเจอที่นั่นนะคะ”
ไม่ถึงชั่วโมง สาวสวยก็มาถึงสถานที่นัดพบ หนุ่มเจตต์เห็นแอนในชุดนักศึกษาฟิตรัด กระโปรงสั้นเอวต่ำ เดินมาทางเขา โดยมีหนุ่ม ๆมองตามหลายคน เขายืดอกอย่างภูมิใจ เรือนร่างอันสมบูรณ์แบบไปทุกส่วนสัดของสาวสวยในชุดนักศึกษา ทำเอาเขาใจเต้นตูมตาม เผลอไผลจนเกือบลืมยกมือรับไหว้
“ขอบคุณพี่เจตต์มากเลยค่ะ อย่างนี้แอนต้องสอบได้ดีแน่ๆเลย อืม... ให้แอนตอบแทนอะไรดีคะ”
สาวสวยยิ้มหวาน ถามเสียงใสอย่างจริงใจเช่นคนมีมนุษยสัมพันธ์อันดีทั่ว ๆ ไป โดยไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเลย แต่นั่นเป็นการเดินเข้าแผนเจตต์ อย่างตรงประเด็นที่สุด
“กินข้าวก็แล้วกันครับน้องแอน...พี่กำลังหิวพอดี”
สองหนุ่มสาว กินข้าวกันไปคุยกันไปจนอิ่ม เจตต์สั่งกาแฟให้ตัวเอง และสั่งน้ำส้มให้สาวสวย แอ
นยิ้มรับ ก่อนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกาแฟและน้ำส้มมาถึง หนุ่มเจตต์ยุกยิก แอบหยิบอะไรบางอย่างใส่ลงในแก้วสาวน้อย เมื่อแอนเดินกลับมาเขาจึงพูดอย่างแนบเนียน
“น้องแอนดื่มน้ำส้มสิครับ..พี่สั่งเช็คบิลไปแล้ว..”
แอนหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมาดูดทีละน้อยจนหมด เจตต์ กระหยิ่มยิ้มในใจ สองหนุ่มสาวลุกกันออกไปที่รถ โดยเจตต์อาสาว่าจะไปส่งแอน ตอนแรกแอนปฏิเสธ แต่ก็ทนการคะยั้นคะยอไม่ไหวจึงตอบตกลง
ขณะนั่งอยู่ในรถ หนุ่มเจตต์ ชำเลืองดูสาวน้อยเป็นระยะ รอผลฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์สูตรใหม่ที่เพื่อนเขาบอกว่า ออกฤทธิ์ช้าหน่อย แต่พอ “ขึ้น” แล้ว เหยื่อจะง่วงงุน สับสน ร้อนรุ่ม พร้อมทั้งเกิดอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรง คิดถึงตรงนี้ ท่อนลำของเขาก็ตุงคับเป้าขึ้นมาทันใด
เวลาผ่านไปสักพัก แอนเอนศีรษะพิงเบาะ ยกมือขึ้นกุมหน้าผาก สาวสวยพยายามฝืนความง่วงงุนที่เกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน แต่ยิ่งฝืนยิ่งรู้สึกมึนงง สับสน จนพูดเสียงเบาหวิวเหมือนกระซิบ
“แอนปวดหัวค่ะ...พี่เจตต์...อือ...ถึงไหนแล้วคะเนี่ย”
เจตต์ชะลอความเร็วรถ หันไปมองสาวสวยที่ตอนนี้นอนตาปรือ ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง จากการสูดลมหายใจเข้ายาวๆของสาวสวย ซึ่งดูเหมือนว่า กำลังฝืนความรู้สึกมึนงงของตนเองอย่างมาก ชายหนุ่มเห็นดังนั้น จึงเลี้ยวรถไปทางคอนโดของตนเองอย่างรวดเร็ว
“สงสัยน้องแอนจะไม่สบาย...ใกล้จะถึงบ้านแล้วครับ...อีกนิดเดียว”
ไม่ถึงอึดใจ รถก็มาจอดถึงคอนโดชายหนุ่ม ซึ่งวันนี้เขาจะใช้ห้องของเขารองรับร่างกายอันงดงามน่าหลงไหลของสาวสวย ได้เสพสมฟอนเฟ้นร่างกายอันงดงามตรงหน้า โดยที่เธอจะต้องมีสติ ไม่ใช่หลับใหล นอนนิ่งให้เขาทำข้างเดียวให้เสียอารมณ์
เขาพยุงร่างกายสาวสวยขึ้นลิฟท์ ซึ่งตอนนี้อ่อนปวกเปียก ตาปรือ เนื้อตัวอันนุ่มนิ่มของแอน กับกลิ่นหอมรัญจวนจากร่างกายและผมดำยาวเงางาม ทำเอาท่อนลำของเขาตุงคับแน่นอยู่ภายใน อารมณ์ปรารถนาพุ่งถึงขีดสุด
มาถึงห้องนอนของชายหนุ่ม เจตต์วางร่างกายระทวยระทดบนเตียงหนานุ่ม แอนส่ายศรีษะไปมาเหมือนพยายามขับไล่ความมึนงง ครางออกมาเสียงแผ่ว
“แอน...อยู่.ที่...ไหน...คะ”
“ในห้องนอนแอนไง...ผมพามาส่งถึงที่แล้ว”
พูดไม่ทันจบคำดี หนุ่มเจตต์ก็อดใจไม่ไหวอีกต่อไป ทรุดตัวลงเอนนอนข้าง ๆ พรมจูบไปทั่วใบหน้าสวยหวานอย่างละลานใจ ไล้ไปที่แก้มนวล หน้าผาก ปลายคาง ซึ่งล้วนแต่ไม่พ้นการเล้าโลมจากปากของเขาทั้งสิ้น เวลานี้ใจเขาเต้นแรงเหมือนจะเด้งออกมานอกอก ด้วยความตื่นเต้นที่เก็บกดไว้กำลังจะบรรลุผล
เจตต์บดปากเข้ากับริมฝีปากบางสวยได้รูปของแอนอย่างรุนแรงและดูดดื่ม สูดความหอมหวานอย่างเต็มอารมณ์ ควงลิ้นเข้าไปในช่องปากของหญิงสาวอย่างว่องไว ความนุ่มนิ่มเปียกชื้นของปากเรียวชมพูและลิ้นนุ่มนิ่มของสาวสวยทำเอาเจตต์เสียวกระสันครางอือๆ ออกมาอย่างย่ามใจ ถอนปากออกมา เปลี่ยนไประดมจูบไปทั่วใบหน้าหญิงสาว ไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวผ่อง กลิ่นสาวแรกแย้ม หอมหวนชวนให้ไฟปรารถนาคุโชนจนยากจะหยุดยั้ง
มือของชายหนุ่มไม่อยู่เปล่า ลูบไล้ไปบนลำแขนยาวราวกับรูปปั้นชั้นเอก ผิวพรรณอันละเอียดอ่อนขาวหยวก และไม่เคยต้องมือชายมาก่อน ปลุกเขากระสันจนขนลุกซ่านทั่วกาย สายตาของเขากวาดไปทั่ววงหน้า เรื่องลงมาที่หน้าอกอวบอูมที่ซ่อนตัวอยู่ในเสื้อนักศึกษารัดติ้ว บัดนี้สะท้อนขึ้นลงท้าทายสายตาของเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งเขาไม่ต้องทำได้แค่จิตนาการถึงมันอีกต่อไป เพราะอีกไม่กี่อึดใจ เขาก็จะได้เฟ้นฟอนมันอย่างแน่นอน
เจตต์เอื้อมมือ ซึ่งตอนนี้สั่นเทา ด้วยความกระสัน เกาะกุมไปบนหน้าอกของสาวน้อย แต่ขนาดของหน้าอกไม่ใช่น้อย ๆ เลย เขาขยำเบา ๆ นอกเสื้อนักศึกษาจนเสื้อยับยู่ เจตต์พึมพำออกมาอย่างพอใจต่อขนาดและความหยุ่นสู้มือของเต้านมที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมันมาก่อน
แม้อารมณ์หื่นกระหายจะพุ่งถึงขีดสุด แต่เขาก็ยังขยำเบาๆอย่างทะนุถนอม สองมือของเขาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาสีขาวบริสุทธิ์ ออกทีละเม็ด ทีละเม็ด จนหมด เมื่อสาบเสื้อถูกเผยแยกออกจากกัน ลมหายใจของเขาเกิดติดขัดทันใด ตาเบิกกว้าง มองจ้องไปที่ผิวกายขาวสะอาด หน้าอกอวบอูมใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้แต่แรก ซุกอยู่ในยกทรงผ้าลูกไม้สีขาวสะอาด ร่องอกเบียดแนบชิด ผิวกายอันอ่อนนุ่มอุ่นละมุน ส่งให้ความเสียวซ่านพุ่งขึ้นสมองจนปวดหนึบ เขาพึมพัมเหมือนละเมอ
“อูยยย ...สวยจริง ๆ ...ขาว...นุ่ม..”
เจตต์ไม่รอช้าอีกแล้ว เขาก้มลงไปใช้ลิ้นสากลากเลียที่ร่องอกของหญิงสาวอย่างระเริงใจ เลียไปบนเนินอกอวบซ้ายขวา ลากวนลงมาที่หน้าท้องขาวเนียนแบนเรียบ ไร้ไขมันส่วนเกิน ก่อนจะลากลิ้นไปที่เนินอกอีกครั้ง พร้อมกับใช้สองมือขยำเคล้นเต้าหยุ่นมือด้วยความกระสัน โดยไม่มีการทะนุถนอมอีกต่อไป เคล้นเต้านมและ ลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว เขาหัวเราะออกมาอย่างย่ามใจ
“อือออ ...นมใหญ่แน่นจริงๆ น้องแอนจ๋า...ขาวเนียน...หอม..ถูกใจพี่เจตต์จริงๆ”
เจตต์ขึ้นไปดูดดมที่ซอกคอของสาวน้อยอีกครั้ง มือยังคงบีบขยำเต้านมนั้นอย่างหื่นกระหาย จนเกิดเป็นรอยแดงเพราะความขาวดั่งหยวกของผิวพรรณ ส่วนอีกมือเอื้อมไปที่ด้านหลัง ปลดตะขอยกทรงกระชากออกไป เมื่อไร้เครื่องพันธนาการ เต้านมขาวสวยกลมกลึงได้รูปก็ดีดผึงออกมาให้ชายหนุ่มเห็นเต็มตา หัวนมสีชมพูเหมือนกุหลาบแรกแย้มทำเอาเขาหน้ามืดตามัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เจตต์ก้มหน้าอ้าปากงับหัวนมนั้นไว้พร้อมทั้งเลียดูดดุนด้วยความกระสัน อีกมือก็ฟอนเฟ้นเต้านมอย่างเมามันส์ เสียงดูดปลายถันดังจ๊วบ จ๊วบ ลิ้นละเลงไปรอบๆหัวนม ส่วนมือก็คีบนิ้วไปที่หัวนมอีกข้างจนแข็งตั้งชูชัน สลับดูดไปมาเสียงจ๊วบจ๊าบลั่นห้อง
ในความรู้สึกของสาวแอนขณะนี้ ความมึนงงเริ่มคลายไป กลับกลายเป็นความร้อนรุ่มเข้ามาแทนที่ แอนสะบัดศรีษะเพื่อไล่ความสับสนอยู่หลายครั้ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาก็พบว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อเริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แอนพยายามดิ้นขัดขืน พร้อมตะโกนร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียง แต่ทว่า ด้วยฤทธ์ยา สถานการณ์กลับกลายเป็นแค่หญิงสาวทำได้แค่ดิ้นขลุกขลักเบา ๆ ในอ้อมแขนของเจตต์ ส่วนเสียงร้องก็เป็นเพียงเสียงแหบเบาเท่านั้นเอง
“อือออ พี่เจตต์ ทำอะไรแอนนน...แอนไม่เอา...ออกไปนะ...อย่า..”
เจตต์เหลือบตาขึ้นมอง หัวเราะ หึ หึ ในลำคอ ไม่พูดว่าอะไร ยังคงก้มหน้าก้มตาดูดดื่มความสดหวานจากเต้านมสวยคู่นั้นอย่างสะใจในอารมณ์ อาการดิ้นรนของสาวน้อยเหมือนน้ำมันที่ราดลงไปในกองไฟ ปลุกอารมณ์กระสันในด้านมืดให้ลุกโชนยิ่งขึ้นไปอีก
แอนดิ้นรนอย่างไร้ความหมายได้ไม่เท่าไหร่ ก็หมดแรง นอนหอบเหนื่อย หายใจกระชั้นถี่ ดวงตาหวานซึ้งกระพริบถี่ๆ แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอาบสองแก้ม
หนุ่มเจตต์ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ตั้งหน้าฟอนเฟ้นเคล้นเต้านมต่อไป แล้วขยับมือลงมาที่ท่อนขาเรียวขาวนวลของสาวน้อย ซึ่งขณะนี้กระโปรงนักศึกษา ร่นขึ้นมาจนเห็นกางเกงชั้นในขาวบริสูทธิ์ที่ห่อหุ่มเนินอวบอูมไว้ เจตต์ลูบไล้ไปมาแล้วพุ่งเป้าไปคลึงที่เนินนูนของเธอทันที
“อุ้ย ...อือ”
แอนสะดุ้ง ร้องอุทานออกมาแผ่วเบา เมื่อส่วนที่เธอถนอมที่สุดถูกนิ้วเล้าโลมจากชายที่เธอไม่ได้รักรุกล้ำ จึงพยายามดิ้นรน แอนพยายามแกะมือของเจตต์ที่กำลังลูบคลึงออก แต่ร่างกายของเธอกลับอ่อนปวกเปียก ไม่มีแรงจะไปต่อกรกับชายหนุ่มได้เลย
“อืออ....ไม่...อย่า..ปล่อยแอนนะ...พี่เจตต์”
นิ้วมืออันจัดเจนในการเล้าโลมของเจตต์ กรีดไปตามร่องผ่านกางเกงในสีขาวแนบเนื้อ ขึ้นไปสะกิดติ่งเสียวของแอนอย่างจงใจและชำนิชำนาญ แอนสะดุ้งเฮือก กำไปที่ข้อมือของเจตต์แน่น พยายามดิ้นรนแต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรให้ดีขึ้นได้เลย ตรงข้ามกับอารมณ์เพศของแอน ที่เริ่มตื่นตัวมากขึ้นทุกขณะ เพราะความเชี่ยวชาญในการปลุกปั่นอารมณ์หญิงสาวของเจตต์ บวกกับฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์อย่างแรง ที่กำลังทำงานของมันอย่างเต็มที่
“อย่า..อย่าค่ะ...พี่เจตต์”