ทุกสังคมในปัจจุบันไม่ว่าชนชั้นกรรมกร พ่อค้า ข้าราชการ หรือเศรษฐีมีทรัพย์ ชีวิตส่วนหนึ่งย่อมมีความต้องการซึ่งอยู่เหนืออำนาจแห่งการยับยั้ง นั่นคือ กามารมณ์ ผู้ชายก็เสาะแสวงหาผู้หญิงมากกกอด ผู้หญิงก็ปรุงแต่งเสริมสวยเพื่อให้ผู้ชายชอบโดยมุ่งหวังที่จะหาความสุขทั้งทางกายและทางใจ เมื่อชายหญิงมาในทิศทางที่ตรงกันหรือมาในจังหวะเดียวกันอย่างนี้ เรื่องที่จะเล่นเสียวกันมันก็ง่ายสมความปรารถนา ไม่ต้องเที่ยวปลุกปล้ำข่มขืนชำเราให้เกิดเรื่องเหม็นคาวฉาวโฉ่เป็นข่าวอร่อยในหน้าหนังสือพิมพ์
รุ่งจิตร มีรูปร่างงามสง่า งามอย่างที่ผู้ชายลงความเห็นกันว่า "น่าฟัด" นั่นแหละ เวลาเธอเยื้องย่างกรีดกราย สะโพกอันผึ่งผายมันยักย้ายเคลื่อนไหวเผาอารมณ์อย่างเหลือร้าย เอวคอดของเธอช่วยให้สะโพกผายเช้งวับจับหัวใจ ทรวงอกเต่งตึงอวบพุ่งชูชันชวนให้เก็บเอาไปนอนฝันว่าไซ้จมูกลงจูบสูดกลิ่นหอมละมุนเข้าไปเต็มปอดแล้วลืมระบายลมหายใจออกจนแทบจะขาดใจตาย ดวงหน้าสวยมีเสน่ห์ร้อนแรง ดวงตาหยาดเยิ้ม ขนตางอนงามขับความหยาดเยิ้มของดวงตาให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ริมฝีปากหนาท้าจูบ
รุ่งจิตรมีอายุเพียงยี่สิบสอง ใคร ๆ เรียกเธอว่าพยาบาลสาวผู้ทรงเสน่ห์ แม้ว่าเธอจะแต่งงานแล้วกับนายแพทย์ทรงชัย สามีหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ด ซึ่งรักกันมาตั้งแต่เขายังเป็นนักศึกษาแพทย์และเธอเป็นนักเรียนพยาบาล
หมอทรงชัย เป็นคนที่มีเพื่อนฝูงมาก ชลิต เป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้นที่หมอรักมากที่สุด ชลิตเป็นคนประหลาด คือหัวเราะได้ทั้งวัน ทั้ง ๆ ที่บางวันก็มายืมเงินใช้ แต่ชลิตก็พูดไปหัวเราะไปแล้วก็ขอยืมเป็นการส่งท้าย และเขาก็ได้ไปทุกครั้งอย่างสบายมาก
วันหนึ่ง หลังจากเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องและเรื่องเป็นเรื่องที่ล้วนแต่สัปดนมาเล่าให้หมอหนุ่มผู้เป็นเพื่อนฟังแล้ว ชลิตก็ขอยืมเงิน ซึ่งเขาก็ให้ไปด้วยความเต็มใจ เพราะให้ไปทุกครั้งชลิตก็เอามาใช้ให้ตามกำหนดทุกที
"แกเป็นอะไรถึงได้ร้อนเงินนักวะ ชลิต"
เขาถามหลังจากนับเงินให้ไปแล้ว ชลิตหัวเราะเสียก่อนตามแบบฉบับของเขาแล้วจึงตอบ
"ทนไม่ไหวว่ะ"
"ทนอะไรไม่ไหว สินค้าขึ้นราคา..."
ชลิตส่ายหน้า
"ไม่ใช่"
"งั้นอะไรล่ะ"
"อยากทีไร ไม่มีเงินสักที"
หมอหนุ่มขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อนรักอย่างสงสัย ไม่แน่ใจว่า คำว่าอยากหมายถึงอะไร
"แกอยากอะไรล่ะ ของที่เขาอยากกันน่ะ มันมีตั้งหลายอย่าง"
ชลิตหัวเราะเสียงดัง
"แต่ของที่คนเขาอยากกันน่ะ มันไม่เหมือนกันกับที่กันอยากโว้ย ไอ้หมอ"
"ว้า..แกนี่ยิ่งพูดยิ่งน่าเตะ ก็พูดมาซิวะว่าแกอยากอะไร"
"อยากนอนกับผู้หญิงว่ะ"
ชลิตตอบหน้าตาเฉย หมอทรงชัยถอนหายใจยาว
"โธ่เอ๊ย ไอ้ชลิต..ทำเสือกตอบให้มันยากอยู่ได้ บอกมาตรง ๆ ก็หมดเรื่องร้อยนึงหรือแปดสิบก็มีถมไป"
"มันไม่ครบเครื่องว่ะ"
"เอาอีกแล้ว..อะไรของแกอีกว่ะ ไอ้ครบเครื่องน่ะ"
"คือว่า..วิธีจะนอนของกันน่ะมันแปลกใหม่และพิสดารซึ่งล้วนแต่เป็นความสุขสุดยอด แต่คนส่วนมากเขาอาย เขาทำกันไม่ได้ บางคนพอกันบอกว่า กันเอาเงินไปทำอะไรเขาก็ว่ากันบ้า ไม่สะอิดสะเอียนหรือไงบ้าง ไม่ขยะแขยงหรือไงบ้าง"
"เอาเถอะน่า ไอ้ที่แกพูดมาทั้งหมดนี่น่ะ มันเป็นยังไงวะ"
ชลิตยื่นหน้าเข้าไปกระซิบ พอได้ยิน ทรงชัยก็ทำหน้าเบ้
"อ้ายบ้า..แก"
"กันนึกแล้ว ว่าแกจะทำหน้าเหมือนโดนผีหลอก.."
ว่าแล้วชลิตก็หัวเราะอย่างขบขัน
"โธ่...หัวเราะอยู่ได้ แกมันคนนะโว้ย ไม่ใช่หมา"
"คนนั่นแหละ สะเด็ดสะเด่านัก แกเชื่อกันเถอะวะหมอ ลองครั้งเดียว พรุ่งนี้แกต้องวิ่งไปกราบกัน"
หมอหนุ่มถอนหายใจ เขารู้สึกว่าอะไร ๆ ที่เพื่อนบอกนั้นมันแสนที่จะพิลึกพิลั่น
"แล้วก็พวกผู้หญิงหาเงินทั้งนั้น วันหนึ่ง ๆ ผ่านผู้ชายเป็นสิบ ๆ คน สกปรกตายห่า"
"แกมันโง่ เย่อแต่เมียคนเดียว ลองไปเย่อผู้หญิงอื่นมั่งซิวะ จะได้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขาก้าวหน้าไปถึงไหนกันแล้ว"
"ก้าวหน้ายังไงมันก็ผู้หญิงหาเงินนั่นแหละ"
"ที่ไม่หาเงินก็เยอะแยะ ของพรรค์นี้เขาเรียกว่ามีขาประจำโว้ย"
ทรงชัยทำคอย่น
"แกนี่ร้ายจริง ๆ...เมื่อไรจะแต่งงานเสียทีวะ มัวแต่สนุกนอกบ้าน ระวังเถอะ จะเป็นโรคกะหรี่"
"มีเพื่อนเป็นหมอ เมียเพื่อนก็เป็นพยาบาล ถ้าเป็นโรคก็รักษาฟรีอยู่แล้วนี่หว่า"
"เออ..ดี เชิญตามสบาย แล้วที่กันถามว่าเมื่อไรจะแต่งงาน แกทำไมไม่ตอบ"
"กำลังหาอยู่"
"อย่าช้านักล่ะ ระวังจะมีลูกเอาเมื่อแก่"
"ก็ดีเหมือนกัน แก่ตายก่อนลูก จะได้ไม่ต้องเลี้ยงลูกให้ลำบาก ว่าแต่แกเถอะ แต่งตั้งปีแล้วยังไม่มีลูก มัวทำอะไรอยู่"
"กันเป็นหมัน"
ชลิตดีดมือดังแปะ
"บ๊ะ..ก็สบายนะซี ไปหยอดน้ำอร่อยที่ไหนก็ไม่ต้องห่วงว่าผู้หญิงจะท้องโย้"
"ช่างเถอะ กันไม่เจ้าชู้อย่างแกนี่หว่า"
"คนไม่เจ้าชู้เขาเรียกว่าคนโง่ ของดี ๆ ไม่กินดันไปกินของที่ไม่อร่อย"
"แกรู้ได้ยังไง ว่าเมียกันไม่อร่อย"
ชลิตมองหน้าทรงชัยแล้วหัวเราะหึ ๆ
"มันจะไปอร่อยได้ยังไงวะ ในเมื่อเมียแกไม่มีประสบการณ์"
"ถุย..ของพรรค์นี้ถึงไม่มีประสบการณ์ พวกหมอพยาบาลเขาก็เรียนรู้กันมาแล้วทั้งนั้น ประสบการณ์ไม่จำเป็น"
"นั่นแหละ เขาว่าสิบรู้ไม่เท่าเคย สิบลูกเขยไม่เท่าพ่อตาละวะ"
ชลิตโต้หัวเราะไปอย่างคนที่มีดีเหนือกว่า
"เอาเถอะ ถ้าแกไม่กล้าทดลองกับผู้หญิงอย่างว่า ลองกับเมียแกก็ได้ เชื่อกันเถอะน่า"
ชลิตคะยั้นคะยอให้หมอทรงชัยลองเล่นเสียวอย่างพิสดารตามแบบฉบับที่ตนชอบ แต่ถูกปฎิเสธเด็ดขาด
"ถ้าแกไม่เชื่อกัน แล้วอย่าเสียใจทีหลังนะ อ้ายหมอ"
"ไม่"
ทรงชัยตอบเสียงสะบัด
"แต่แกน่าจะคิดดู บอกเธอหน่อยว่า มันก็เหมือนกับเธอกำลังดูดไอสครีมแท่ง"
"ไอ้ห่า..พอแล้ว ไม่ต้องเสือกมาสอน"
หมอหนุ่มขึ้นเสียง ชลิตเลยเสียงอ่อยลง
"ไม่ก็ไม่ซิวะ ทำไมต้องแหกปากร้องด้วย"
"ก็แกเสือกมาสอนนี่หว่า เมียกันนะโว้ย ไม่ใช่หมา"
"ถ้าเป็นหมา เรื่องอะไรกันจะต้องมาแนะนำแกล่ะ ตามใจแก กันไปล่ะ ก่อนจะไปขอพูดอีกหน่อย..ลองชิมสักนิดก็ยังดีนะ ถ้าไม่ถูกใจก็เลิกเสียก็สิ้นเรื่อง.."
ว่าแล้ว ชลิตก็ลุกขึ้นเดินออกจากบ้านไปด้วยท่าทางของชายหนุ่มผู้มีประสบการณ์ในเรื่องผู้หญิงอย่างเต็มที่
เมื่อชลิตไปแล้ว หมอหนุ่มก็หวนกลับมาคิดถึงคำพูดแนะนำของชลิต ที่จริงเขาเองก็เป็นนายแพทย์ เคยเรียนและเคยอ่านหนังสือหรือตำราของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายเล่ม แต่ละเล่มก็มีวิธีแนะนำเอาไว้ต่าง ๆ กันและก็ลงเอยอย่างเดียวกันทั้งนั้น ซึ่งเขาบอกกับตัวเองว่า มันเป็นวิธีของคนที่มีอารมณ์กามวิตถารมากกว่า
รุ่งจิตรเดินเข้ามาในห้องเมื่อไม่เห็นชลิต ก็ถาม
"คุณชลิตกลับไปแล้วหรือคะ"
ทรงชัยพยักหน้า
"เมื่อกี้ได้ยินคุยกันเรื่องอะไรคะ"
"เออ...มันเป็นเรื่องของผู้ชาย ผู้หญิงไม่ควรจะรู้หรอก"
คำพูดของเขายิ่งทำให้เธอเพิ่มความกระหายอยากรู้มากขึ้น
"ผู้หญิงเป็นยังไงคะหมอ..ถ้าหมอไม่บอกฉันจะทุบเดี๋ยวนี้"
รุ่งจิตรถามอย่างกระฟัดกระเฟียดพลางเงื้อกำปั้นทำท่าจะประเคนเข้าที่กลางอกของเขา ทรงชัยยกมือปิดชุลมุนวุ่นวาย
"อย่านะรุ่ง หมอบอกว่าอย่า"
เธอยกมือค้างไม่ยอมลดลงแล้วทำท่าขู่จะทุบอกพร้อมกับพูดว่า
"ถ้าหมอไม่บอกฉันจะทั้งทุบทั้งข่วนให้หน้าเป็นรอยไม่กล้าไปเข้าเวรพรุ่งนี้เชียว หมอต้องบอกฉันนะ"
เขาทำสีหน้าอึดอัด
"หมอบอกแล้วว่า มันเป็นเรื่องของผู้ชาย
"เรื่องของผู้ชายเป็นยังไงล่ะ ผู้หญิงรู้ไม่ได้หรือไง บอกมานะ"
เธอคาดคั้น หมอหนุ่มถอนหายใจยาว รู้สึกลำบากใจที่จะเล่าเรื่องที่เขาโต้แย้งกับชลิต เพราะมันเป็นเรื่องสัปดนที่ผู้หญิงอย่างรุ่งจิตรไม่ควรจะรู้ เธอเพิ่งจะแต่งงานกับเขาได้ปีเดียว ยังไม่มีลูก เรียกได้ว่าเธอยังเป็นสาวและค่อนข้างจะเป็นคนมีระเบียบ ไม่ชอบเรื่องสัปดนระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง
"เอาอย่างนี้ดีกว่า ไปกินข้าวกันเถอะ หมอหิวแล้ว"
แต่รุ่งจิตรไม่ยอมท่าเดียว
"ฉันไม่ให้หมอกินข้าวละวันนี้ ถ้าหมอไม่ยอมบอก"
"อ้าว..ทำไมงั้นล่ะ..เมียจ๋า"
"อย่ามาทำปากหวานนะ"
เธอตวาดแล้วกระเถิบร่างเข้ามาจนชิด เอามือค้ำคอเขาทำท่าบีบ
"บอกมานะ"
เขาดึงมือทั้งสองข้างของรุ่งจิตรออกจากคอแล้วยืนกรานปฎิเสธ
"บอกไม่ได้น่า ถ้าบอกได้หมอบอกคุณแล้ว เชื่อซี"
"ฉันไม่เชื่อ หมอต้องบอก ไม่งั้นหมอไม่ได้กินข้าว"
เธอกระแทกเสียงอย่างเอาจริงเอาจัง ทรงชัยครางออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจและหลังจากที่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็สารภาพออกมาเบา ๆ
"มันเป็นเรื่องสัปดน คุณรู้ไม่ได้"
"งั้นหมอก็อย่านอนกับฉันนะคืนนี้ มันก็สัปดนเหมือนกันนี่"
"ถึงสัปดน แต่มันคนละอย่างไม่เหมือนกัน"
"คนละอย่างได้ยังไง มันก็เรื่องบนเตียงนอน หมอจะลองเล่าเรื่องบนเตียงนอนยังไงถึงจะไม่สัปดนได้ล่ะ"
เขาแทบจะหมดท่าเพราะหล่อนไม่ยอมเชื่อเอาเสียเลย
"ก็แล้วหมอจะเล่าให้คุณฟังได้ยังไงเล่า..มันกระดากปาก"
"แล้วตอนที่หมอบอกกับฉันบนเตียงนอนน่ะ ไม่กระดากปากรึ"
รุ่จิตรย้อนอย่างไม่ลดละ
"ว้า.." เขาร้อง "ก็ถ้าไม่พูดยังงั้นทำไมคุณจะรู้ล่ะ มันเป็นคำพูดธรรมดานี่"
"อ้าว..งั้นเรื่องสัปดนที่หมอเล่าให้ฟังไม่ได้น่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดาน่ะซิ ถ้าหมอไม่เล่า คืนนี้ฉันจะลงกลอนไม่ให้หมอเข้าห้องเด็ดขาด"
ทรงชัยถึงกับนิ่งอึ้ง เขาไม่เคยจนปัญญาเหมือนครั้งนี้เลย บอกตัวเองว่าไม่รู้จะเล่าให้เมียรักฟังได้อย่างไรเพราะมันสัปดนจริง ๆ
เมื่อเห็นเขานิ่ง เธอก็คิดว่าเขาใช้ไม้ตายไม่ยอมพูดกับเธอ รุ่งจิตรจึงโถมเข้าทุบเขาอย่างไม่ยั้งมือ ทรงชัยปิดซ้ายปิดขวาวุ่นวายไปหมดพร้อมกับส่งเสียงร้อง แต่เธอไม่ยอมลดละ ทั้งทุบทั้งหยอกข่วนอุตลุดแล้วก็ร้องไห้ออกมาด้วยเสียงค่อนข้างดัง
"หมอบ้าๆๆๆๆ ...นายชลิตต้องมีเรื่องนัดหมายให้หมอไปหาผู้หญิงแน่ ๆ หมอจึงบอกไม่ได้ หมอกับฉันต้องเลิกกัน เมื่อไว้ใจกันไม่ได้ก็ต้องเลิกกัน"
สีหน้าท่าทางเกรี้ยวกราดจริงจังทำให้หมอหนุ่มต้องออกกำลังรวบร่างเมียสาวเข้ามาไว้ในวงแขนไม่ยอมให้เธอทุบและข่วนเขาได้อีก พร้อมกับปลอบใจด้วยคำพูด
"ไม่ใช่เรื่องที่คุณพูดหรอกน่า หมอมีคุณคนเดียวก็พอถมไปแล้ว เรื่องอะไรที่ผมจะต้องให้ชลิตไปหาให้ใหม่ คุณยังสวยเต่งตึงไปทั้งตัวยังงี้"
เขาพูดพลางเอามือลูบไล้ไปตามเนื้อหนั่นของเธอเบา ๆ
รุ่งจิตรพอเหนื่อยก็หยุดร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเขา
"ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอม ถ้าหมอไม่เล่าเรื่องที่คุยกับคุณชลิตให้ฟัง"
"มันสัปดนจนฟังไม่ได้นะ"
"เอาเถอะน่า สัปดนยังไงฉันก็ฟังได้"
หล่อนยื่นคำขาดอีกครั้งหนึ่ง
"แหม..ทำไมคุณถึงได้ดื้อยังงี้นะรุ่ง"
"หมอนั่นแหละดื้อ ถ้าหมอไม่เล่าฉันจะไปนอนค้างบ้านแม่ หรือไม่ก็ค้างที่โรงพยาบาล จะไปเดี๋ยวนี้แหละ"
พูดจบหล่อนก็ดิ้นสะบัดจะให้พ้นจากการกอดของเขา แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งรัดหล่อนไว้แน่น แน่นจนหล่อนสงบอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีก
"เอาล่ะ ตกลง หมอยอมบอก..คือว่า..ชลิตมันไปติดผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นมีผัวแล้ว.."
เขาเล่าเรื่องโกหกแบบขอไปที รุ่งจิตรกรีดเสียงขัดขึ้นมาฉับพลัน
"โกหก ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด มันไม่ใช่เรื่องสัปดนนี่"
พูดแล้วเธอก็ดิ้นอีก ทำให้เขาต้องเพิ่มกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนเก้าอี้จนกระทั่งเสื้อผ้าของหล่อนหลุดลุ่ย
"นี่..ผ้าหลุดไปถึงเอวแล้วนะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าน่าเกลียด ไม่เอาน่า..นุ่งผ้าใหม่ซะ"
"ไม่..ฉันไม่นุ่ง ใครอยากจะเข้ามาเห็นก็ช่าง"
เขาทำตาเหลือก
"ว้า..ไม่อายเขาหรือไง"
"อายทำไม"
"เขาจะว่าเราเล่นสัปดนกันในห้องรับแขกน่ะซี"
"บ้านของเรา เราเป็นผัวเมียกันทำยังไงก็เป็นเรื่องของเรา เราจะทำในครัวหรือในห้องน้ำก็ไม่เห็นจะแปลก มันเหมือนกันทั้งนั้นแหละน่า ผัวเมียจะอยู่ด้วยกันโดยไม่ทำอะไรกันได้ยังไง"
ตั้งแต่แต่งงานอยู่กินด้วยกันมาหนึ่งปีเต็ม ๆ วันนี้เป็นวันแรกที่เขาได้ยินรุ่งจิตรเจรจาอย่างไม่ยอมลดละ เหมือนจะเผยธาตุแท้ที่ฝังอยู่ในอารมณ์ของเธอออกมาจนหมดสิ้น
"เลิกพูดกันทีเถอะ"
เขาแกล้งพูดเสียงดุ ๆ แต่นัยน์ตาของเธอที่จ้องมองดูเขานั้น บอกความมานะดื้อด้านอย่างร้ายกาจ
"ทำไม ฉันจะพูดเรื่องจริง..หมออย่ามาทำเป็นคนหน้าบาง เวลาอยู่บนเตียงกะฉันชวนฉันเล่นท่านั้นท่านี้ ท่านั่งท่านอน ท่าโก้งโค้ง ฉันไม่เห็นหมอกระดากอายเลย"
"โธ่..คุณ..เลอะเทอะไปใหญ่แล้วนะ หยุดเสียทีเถอะ เอ้า..เล่าก็เล่า หมอยอมแพ้"
เขายกธงขาว
"หมออย่าโกหกนะ"
เธอกำชับ
""รับรอง คราวนี้ไม่โกหกเด็ดขาด"
"งั้นเล่าไปซิคะ"
น้ำเสียงและกิริยาของหล่อนอ่อนลงทันที เอื้อมมือหยิบกระดาษเช็ดมือบนโต๊ะมาเช็ดน้ำตาที่เกาะอยู่ที่พวงแก้ม เขาเริ่มต้นเล่าให้หล่อนฟังอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
"คือว่า...หมอถามชลิตเขาว่า เขาเอาเงินไปทำไม เดือนหนึ่งมาขอยืมตั้งหลายหน"
"แล้วเขาใช้คืนหรือเปล่าคะ"
หล่อนถามขัดขึ้นก่อนที่เขาจะเล่าต่อไป
"ใช้ทุกที แล้วเวลาใช้ เขายังพาไปเลี้ยงข้าวกลางวันด้วย"
รุ่งจิตรจ้องมองหน้าผัวแล้วถามขึ้นอีกว่า
"ข้าวต้มหรือข้าวสวย"
"อะไรของคุณนะ ข้าวต้มหรือข้าวสวยมันก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน"
เขาย้อนถามเมียรักอย่างสงสัย
"ทำไมจะไม่แปลก ข้าวสวยนะเขากินกันตามร้านหรือตามเหลา แต่ข้าวต้มเขากินกันตามซ่องหรือโรงแรม"
"ตายห่า.."
เขาพลั้งปากออกมาอย่างเผลอตัว
"หมออย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยน่า ของพรรค์นี้มีผู้ชายคนไหนไม่เคยกิน"
ทรงชัยลงทุนสาบาน
"ให้ตายดับ หมอไม่เคยกินเลยสักที..ข้าวต้มกลางวันอย่างที่คุณว่านะ..ว้า...แล้วนี่คุณไปเอาจากที่ไหนกันมาพูดน่ะ"
"ก็เพื่อนหมอที่โรงพยาบาลนะซี เขาพูดกัน"
เขาถอนใจเฮือก
"คุณนี่ถ้าจะแย่เสียแล้ว..หมอคิดว่าคุณไม่ประสา.."
"อ้าว..ทำไมต้องมาว่าฉัน เขาพูดเข้าหูอยู่ทุกวันก็ฟังเอาไว้ ไม่เห็นจะเสียหายอะไร"
เขาส่ายหน้าอย่างท้อแท้
"หมอไม่คิดเลย ไม่คิดเลยจริง ๆ คิดว่าเมียผมเรียบร้อยเหมือนผ้าที่พับไว้..ที่ไหนได้"
"เอ๊ะ...แล้วมันแปลกอะไรตรงไหน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงโง่ ๆ นี่ จะได้ไม่ประสีประสาอะไรเสียเลย"
"มันก็ไม่แปลกหรอก แต่ทำไมคุณไม่บอกหมอว่า คุณน่ะรู้อะไร ๆ ดีกว่าหมอเสียอีก"
"เรื่องอะไรฉันจะต้องบอกหมอ ของพรรค์นี้อยู่ด้วยกันไปก็รู้เอง"
"แต่ตั้งปีแล้วนะ หมอยังไม่รู้อะไรคุณเลย"
"ทีนี้ก็รู้แล้ว..เล่าเรื่องคุณชลิตต่อดีกว่า"
ความรอบรู้ของรุ่งจิตรชักจะทำให้เขากล้าที่จะเล่าอะไร ๆ ให้เธอฟังขึ้นมาอีกนิด
"หมอถามเขาว่า เขาขอยืมเงินไปทำไม ยืมทีไรเอาสามร้อยทุกที ให้เขาเกินกว่านั้นก็ไม่เอาต่ำกว่านั้นก็ไม่ได้ เขาบอกว่า เวลาเขาเกิดอารมณ์อยากจะอย่างว่าขึ้นมามักจะบังเอิญไม่มีเงินสักทีเลยต้องมายืม แล้วหมอก็ถามอีกว่าแล้วทำไมจะต้องสามร้อยทุกที เขาตอบว่า..เหมือนกับเขากินก๋วยเตี๋ยว กินน้ำสองชามก็ต้องกินแห้งอีกชาม รวมเป็นสามชามถึงจะอิ่ม เขาบอกว่าชามละร้อยขาดตัวแล้วยังบอกว่าอร่อยเป็นบ้า ไม่เชื่อให้หมอลองดู หมอได้ฟังก็สงสัยเพราะไม่รู้จริง ๆ จึงถามเขาอีก เขาก็เลยอธิบายให้ฟังว่า ชายหญิงเย่อกันธรรมดา ๆ น่ะเรียกว่ากินแบบน้ำส่วนกินแบบแห้งน่ะ ใช้ปากดูดใช้ลิ้นเลียของกันและกันอย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่าโอรอลเซ็กส์.."
เล่าจบเขาก็เหลือบมองหน้าเมียรักนิดหนึ่ง รุ่งจิตรทำหน้าเบ้เมื่อได้ฟังเขาเล่าเรื่องของเพื่อนให้ฟัง แม้ว่าผู้เล่าจะเป็นผัว เธอก็ไม่วายกระดากจนผิวแก้มแดงระเรื่อน่าจูบ
"แหม..อีตาบ้า"
เธอพึมพำออกมาเบา ๆ ไม่ยอมสบสายตาเขาซึ่งกำลังจ้องมองเขม็งอยู่
"เอ้อ...แล้วเขาพูดอะไรอีกคะ"
"หมอถามเขาว่า เลียกินเข้าไปได้ยังไงกะผู้หญิงหาเงิน วันหนึ่ง ๆ โดนผู้ชายเย่อไม่รู้ว่ากี่คนต่อกี่คน"
"แหม.คุณชลิตนี่ร้ายเหลือเกิน กินน้ำเมือกเข้าไปได้ คลื่นไส้แย่"
พูดแล้วรุ่งจิตรก็ทำท่าสะอิดสะเอียน
"เห็นไหม บอกแล้วว่าผู้หญิงไม่ควรจะรู้"
เขาพูดอย่างได้ที แต่หล่อนกับขัดขึ้นว่า
"ไม่เห็นจะแปลกนี่คะ ดีเสียอีก จะได้รู้เอาไว้ประดับสติปัญญา"
"ชลิตเขากินมานานแล้ว ดีแต่ว่าลูกเขาเมียใครมันไม่ยุ่ง นอกนั้นแล้วเผลอไม่ได้"
"อย่างนั้นพวกผู้ชายเขาเรียกว่าเป็นกำไรชีวิตค่ะ"
"หมอเห็นจะไม่เอา..."
เธอค้อนขวับ
"หมอน่ะ...ไม่เห็นจะได้เรื่อง"
เขายื่นหน้าเข้ามาจ้องมองหน้าเธอ
"อ้าว...ทำไมมาว่าหมออย่างนั้นล่ะ รุ่งจิตร"
"เขาเรียกคนอย่างหมอว่าไม่มีประสบการณ์แล้วก็ไม่หัดเรียนเสียบ้างเลย นี่ถ้าหมอไม่ได้แต่งงานกับฉันล่ะก็ ป่านนี้คงไม่ได้รู้รสผู้หญิง"
"รุ่งก็..คุณกล้าว่าหมอ"
"หรือไม่จริงคะ"
"จริง แต่หมอรักคุณ สงวนความเป็นหนุ่มสดไว้ให้คุณเป็นคนแรกนะ"
รุ่งจิตรหัวเราะคิก ๆ ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้นี้เธอเพิ่งร้องไห้
"แหม...พูดยังกะว่าหมอเป็นผู้หญิงเก็บความสาวเอาไว้ให้ชายที่รัก..อุ๊ย..น่ารัก.." เธอว่า "ถ้าฉันเป็นผู้ชายล่ะก็..."
"ทำไม..ถ้าเป็นผู้ชายคุณจะทำไม"
"ฉันก็จะเย่อแหลกเลยน่ะซี.."
เธอตอบหน้าตาเฉย
"ฉันน่ะทีแรกคิดว่าหมอเป็นนักเย่อชั้นเยี่ยม ที่ไหนได้ แบบนี้ขืนเย่อกันบนหลังม้า เจอเอาผู้หญิงชั้นเยี่ยมเข้าเกมเดียวก็ตกม้าตาย"
หมอหนุ่มทำหน้าเหรอ จะว่าแหยก็ไม่เชิง
"คุณหมายความว่าถ้าหมอสัปดนอย่างชลิต ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นนักเย่อชั้นเยี่ยมงั้นเหรอ"
"ก็งั้นซิคะ..หมอขา "
เธอเอียงร่างเข้ามาหาทำท่าจะทอดศีรษะลงบนหน้าขาของเขา ทรงชัยปล่อยให้เมียรักทอดร่างลงมาตามสบาย ในที่สุดศีรษะของหล่อนก็ทอดอยู่ที่หน้าขาของเขา
"แล้วหมอจะไปทำอย่างเขาได้ยังไง หมอไม่รู้จัก"
รุ่งจิตรช้อนสายตาขึ้นมองหน้าผัวแล้วยิ้มนิด ๆ ขณะที่พวงแก้มทั้งสองแดงก่ำ แสดงความรู้สึกอันเร่าร้อนด้วยอารมณ์เงี่ยนอย่างรุนแรง
"แล้วหมอน่ะ ลืมเมียเสียทำไมคะ..ทำไมไม่คิดถึงเมียบ้าง"
เขาก้มลงมองหน้าหล่อนแล้วเบิกตากว้าง
"รุ่ง..."
"แหม...อย่าทำสีหน้าตกใจนักเลยค่ะ เมียน่ะรออยู่ตั้งนานแล้วนะว่าเมื่อไรหมอจะเล่นสัปดนกับเมียเสียที"
"แล้ว...แล้วคุณจะให้หมอทำยังไง"
"จะทำยังไง ลองทำดูอย่างที่คุณชลิตว่ามั่งซีคะ จะได้กลายเป็นผู้ชายชั้นเยี่ยมขึ้นมาบ้าง"
เขามองหน้ารุ่งจิตรคล้ายจะเกิดความไม่แน่ใจขึ้นมาว่า ผู้หญิงที่นอนหนุนตักเขาอยู่นี้ เป็นรุ่งจิตรเมียของเขาใช่หรือเปล่า
"คุณไม่ขยะแขยงมั่งหรือรุ่ง"
"ขยะแขยงเรื่องอะไรอีกล่ะ..."
เธอพูดอย่างรำคาญหน่อย ๆ
"ก็เรื่อง...เรื่องที่คุณจะให้ผมเลียของคุณแล้วคุณก็จะดูดของผมน่ะซี"
"เรื่องอะไรฉันจะขยะแขยง"
"เมื่อกี้คุณทำท่าเหมือนจะอาเจียน"
"ก็ทำไปยังงั้นเอง ใจฉันอยากจะลองดูค่ะ มันจะได้ลิ้มรสหลาย ๆ อย่างหน่อย"
"เอาละ..ว่ามาเลย คุณจะให้หมอทำยังไง"
"ทำไงล่ะ..คุณชลิตเขาคุยกับหมอยังไงก็ทำอย่างงั้นแหละ"
เธอยกแขนขึ้นโอบคอของเขาไว้แล้วผงกร่างขึ้นจูบแก้มของเขาเบาๆ
"นะคะ..หมอต้องเห็นใจเมีย...เมียคอยมาตั้งนานแล้ว"
"หมอก็ไม่เคยเห็นคุณต้องรอเลยนี่ ถ้าคืนไหนไม่ได้เข้าเวร..."
"เมียไม่ได้หมายความว่าเย่อกันธรรมดา ๆ อย่างนั้น..คือว่า..อะไร ๆ ที่พิสดารยิ่งกว่านั้นน่ะ หมอไม่เคยทำเลย"
"เอาละ ทีนี้หมอจะทำให้"
เขาเอาใจเธอเพราะการหาเมียสวย ๆ อย่างรุ่งจิตรนั้น หาได้ไม่ง่ายนัก
"เต็มใจหรือเปล่าคะ หมอขา..."
เธอถามเสียงหวานจับใจ
"ครับ..ครับ..หมอเต็มใจที่สุดเลย ไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้เราจะนอนกันแต่หัวค่ำสักวัน"
เขารีบรับคำ
"ยังไม่ต้องกินแล้วก็ไม่ต้องไปที่ห้องนอนหรอก หมอขา...ในห้องนี้ก็ได้ เราจะได้ดูทีวีไปด้วย สนุกจะตายไป นะคะ"
"ไหวหรือ รุ่ง"
เขาเกิดความกังขาขึ้นมา
"ทำไมจะไม่ไหว..นะคะ... ไม่เห็นจะต้องเลือกอะไรกับเรื่องสถานที่ คนกินข้าวที่ไหนก็ได้ขอแต่ให้กับข้าวอร่อยเสียอย่าง ใช่ไหมคะ"
เขารับคำหล่อนอย่างกระดากนิด ๆ
"ครับ...ครับ...กับข้าวอร่อยเสียอย่าง..แล้ววันนี้น่ะ คุณแกงอะไร"
"สตูว์ลิ้นค่ะ รุ่งใส่ไอ้โน่นนิดไอ้นี่หน่อย ที่หมอไม่เคยกินน่ะ แล้วไอ้ที่รุ่งไม่เคยกินหมอจะต้องทำให้กินด้วยนะคะ"
หมอหนุ่มเกิดอาการควยลุกแข็งโด่ตุงกางเกงขึ้นมาทันที
"หมอรับรอง...รับรองว่าจะทำให้อร่อย"
เขาพูดแล้วก้มลงจูบปากหล่อนอย่างดูดดื่ม ลมหายใจอันร้อนผะผ่าวด้วยไฟเงี่ยนรดอยู่ที่แก้มของกันและกัน มืออันคล่องแคล่วว่องไวของเขาก็จัดการปลดเสื้อกระโปรงที่ติดกันแบบอยู่กับบ้านของหล่อนให้หลุดออกจากร่าง
ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบทุ่มตรง ไฟฟ้าในห้องรับแขกเปิดสว่าง ร่างของรุ่งจิตรจึงขาวโพลนอยู่ในแสงไฟ เต้านมอวบอัดพุ่งยอดเม็ดหัวนมตั้งตระหง่าน ท้องน้อยแบนแนบแล้วลาดชันไปสู่เนินหีที่ประดับด้วยขนหมอยดำสนิทเพียงบาง ๆ ประปราย ขับความขาวนวลของเนินหีให้พิลาศพิไลยิ่งขึ้น สองแคมประกบเบียดชิดกันสนิทแทบจะมองไม่เห็นรอยง่ามผ่า โคนขาอวบใหญ่แล้วค่อย ๆ เรียวลงไปถึงปลีน่อง
ทรงชัยกลืนน้ำลายลงคออย่างแสนลำบาก ดวงตาลืมโพลงยังกะไม่เคยเห็นหีเมียรักของตัวเอง รีบประคองร่างหล่อนขึ้นจากตักให้นอนหงายศีรษะพาดพนักเก้าอี้ยาวที่นั่งอยู่นั้นทันที แล้วเขาก็ลุกขึ้นถอดเสื้อกางเกงออกอย่างรวดเร็ว
พอเห็นผัวรักแก้ผ้าออกหมดแล้ว รุ่งจิตรก็ยิ้มน้อย ๆ และจ้องมองดูเขาอย่างชื่นชม ร่างอันสูงเพรียวของหมอหนุ่มยืนเด่นเป็นสง่า หน้าอกกว้างแล้วค่อยเล็กลงตรงสะเอว ตูดก้นปอดเข้าลักษณะผู้ชายเอวไวทั้งหลาย แต่ท่อนควยที่แข็งเป็นลำชี้พุ่งโด่ออกมาจากหว่างขานั่นซิ วันนี้ทำไมรุ่งจิตรจึงเห็นว่ามันยาวใหญ่กว่าที่เธอเคยเห็นของเขามาก่อน จะว่าเธอตาฝาดไปเองมันก็ไม่เชิง หัวถอกแดงก่ำ เงี่ยงก็บานเป็นกระจัง ส่วนขนหมอยรกรุงรังเหมือนเดิมคือลามขึ้นไปจนถึงสะดือ
เขาเห็นเมียรักมองควยของเขาเหมือนกับไม่เคยเห็นเช่นเดียวกับที่เขาไม่เคยเห็นของเธอว่าทั้งโคกทั้งใหญ่คับหว่างขาเหมือนวันนี้ จึงพูดขึ้นว่า
"เป็นไง แปลกใจหรือครับที่รัก หมอเองก็แปลกใจเหมือนกัน รู้สึกว่าวันนี้ของคุณทั้งโคกทั้งใหญ่ขึ้น ฝ่ามือกางแทบจะปิดไม่มิดทีเดียว"
พูดจบเขาก็นั่งลงที่ขอบเก้าอี้ยาวกางมือตะปบเข้าที่โคกหีของหล่อนทันที
"อื้อฮือ..ทั้งใหญ่ทั้งโคกจริงๆ เมียจ๋า"
เขาพูดแล้วก็โยงโย้โยงโย่ขึ้นคร่อมทับ สอดแขนโอบรอบร่างอันเปล่าเปลือยของหล่อนไว้แน่น รุ่งจิตรตัวอ่อนระทวยและเสียวสะท้านร่านใจยิ่งนักเมื่อสองเต้านมอันตึงเปรี๊ยะของหล่อนเบียดชิดกับอกกว้างของเขา ส่วนท่อนควยของเขาก็ทิ่มตำเนินหีและเลยขึ้นไปถึงสะดืออยู่ตลอดเวลาทำให้หล่อนต้องถ่างขาออกกว้าง ขาข้างหนึ่งป่ายขึ้นพาดพนักพิงอีกข้างหนึ่งห้อยยันพื้นดีดกระเด้งแอ่นหีให้ถูไถกับควยของเขาแทบไม่เป็นจังหวะ เป็นการเร่งเร้าให้เขาเงี่ยนง่านกำหนัดหนักขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
"ที่รัก..ดีไหม หมอเอาควยทิ่มหีเล่นยังงี้" เขาถาม
"ดีค่ะ มันทำให้เงี่ยนจัดขึ้นอีก อูย..ซี๊ด..พอเถอะค่ะ..เราเล่นไอ้ที่ว่าพิสดารกันดีกว่า" เธอตอบ
"เราจะเล่นกันในห้องนี้จริง ๆ หรือ"
"จริงซิคะ" เธอยืนยัน
เขาไม่รอช้า ลุกขึ้นนั่งคุกเข่าในหว่างขาของเมียรักอย่างทันอกทันใจ
"เมียจ๋า..ขอให้หมอได้ตรวจดูหีคุณเสียก่อนนะ ก่อนที่จะให้หมอเลีย"
เขาว่าแล้วก็ก้มหน้าลงไปหาโคกสวรรค์ของหล่อน
"ค่ะ...ตรวจเถอะ แล้วเมียก็จะตรวจควยให้หมอเหมือนกัน"
นายแพทย์หนุ่มหัวเราะชอบใจ เอามือทั้งสองช้อนก้นอันอวบกลมกลึงของเธอให้หีลอยแอ่นสูงขึ้นมาแล้วฝังหน้าลงไปสูดดมทันที พอจมูกสัมผัสถูกโคกหี หล่อนก็ผวาแอ่นตูดกระเด้งหีให้แนบสนิทติดหน้าของเขาจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
"อูย..ซี๊ด..เสียวเหลือเกิน หมอขา ...ไหนว่าจะตรวจ..ทำไมจูบก่อนล่ะคะ"
เธอคราง
"ทนไม่ไหว หีของคุณหอมเหลือเกิน..สมกับเป็นพยาบาลแล้วก็เป็นเมียสุดที่รักขอหมอด้วย"
พูดจบเขาก็ระดมจูบอีกหลายฟอดแล้วจึงแลบลิ้นออกมาดุน ๆ เลียตรงปากแคมทั้งสอง เท่านั้นยังไม่หนำใจ เขาเอามือแหกหีเธอแบะอ้าออกเผยให้เห็นแคมนอกแคมในแดงสด รูหีกลวงโบ๋หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำเมือก เม็ดแตดขยายตัวเต่งตั่งเด่ชูชันและขมุบขมิบเต้นระริก
ยิ่งดู เขาก็ยิ่งเงี่ยนจัด ท่อนควยผงกดีดหัวถอกอยู่ผึง ๆ น้ำเมือกแห่งความเงี่ยนขมิบออกมาปริ่มปลายแต่เขาก็กัดฟันทน ก้มลงเอาลิ้นเลยชอนไชเข้าไปในรูหีแล้วดูดดันไปทั่ว ๆ บางครั้งก็เลื่อนขึ้นไปเลียแตดแผลบ ๆ แล้วตวัดมันเข้าปากดูดจุ๊บ ๆ เหมือนดูดหัวนม
"โอย..หมอขา..ซี๊ด..."
รุ่งจิตรครวญครางพร้อมกับแอ่นหีลอยขึ้นสูง การเอาลิ้นเลียหีแล้วดูดแตดมันทำให้เธอเสียวจนน้ำเงี่ยนเล็ด ตัวบิดเร่า ๆ มือทั้งสองกดหัวเขาให้หน้าจมลงไปในหีที่แอ่นขึ้นรับ ตาหลับพริ้ม
"อูย..ซี๊ด..พอก่อนค่ะ...น้ำเงี่ยนเมียเล็ดออกมาหน่อยแล้ว เสียวอะไรอย่างนี้ ไม่เคยพบ"
เธอบอกเขาเสียงสั่นสะท้าน เขาเงยหน้าขึ้นตามที่เธอบอก จมูกและปากเปียกเปรอะไปด้วยน้ำเมือกหีและน้ำลายของตัวเอง แต่เขาไม่ได้สนใจที่จะเช็ดมันออกกลับเอามือข้างหนึ่งบีบเคล้นเต้านม อีกข้างหนึ่งก็ล้วงรูหีเข้าไปจนสุดนิ้วแล้วเขี่ยปากมดลูกของเล่น ทำให้เธอต้องลุกขึ้นคว้าเอาควยของเขามากำกระทอกเล่นบ้างเพื่อไม่ให้เสียเปรียบกัน
"อูย...ซี๊ด..เสียวดีจัง"
เขาสูดปากออกมาค่อนข้างดัง หน้าแดงก่ำ ผวากอดจูบแก้มมลของหล่อนอย่างบ้าคลั่งด้วยความเงี่ยนง่านทะยานใจ รุ่งจิตรหัวเราะคิกคักอย่างระเริงใจ
"อุ๊ย..หมอขา..นอนลงเถอะค่ะ...หันก้นมาทางรุ่ง..รุ่งจะดูดควยให้"
เขาทำตามอย่างรวดเร็ว ลุกขึ้นคุกเข่าคร่อมหน้าของเธอให้ปลายหัวถอกอยู่ที่ปากและเธอก็รีบอ้าปากอมมันเอาไว้ทันที แต่แล้วกลับคายออกมาแล้วแลบลิ้นเลียหัวถอกแผลบ ๆ หลายครั้งแล้วจึงอมเข้าไปใหม่ บางทีก็ดูดจุ๊บ ๆ เหมือนกับที่เขาดูดแตดให้เธอ ส่วนมือก็ลูบคลำลูกกระโปกพวงใหญ่ของเขาเล่นอย่างเพลิดเพลิน
"อูย..ซี๊ด...เสียว..เสียวยิ่งกว่าเอามือกระทอก..ซี๊ด.."
เขาสูดปากและส่ายก้นไปมา บางครั้งก็เผลอกระเด้าควยเข้าปากเธอหยุบ ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ในที่สุดก็ก้มลงดูดแตดเลียหีให้หล่อนไปด้วย มันทำให้ต่างคนต่างเงี่ยนง่านดาลใจอย่างถึงขนาดด้วยกันทั้งคู่ ไม่ช้าหล่อนก็รู้สึกว่าน้ำควยของเขาพุ่งปรี๊ดเข้าปากเธอสามสี่หยดและเขาเองก็รู้สึกว่ารูหีของหล่อนขมิบน้ำเมือกออกมาชุ่มโชกเช่นเดียวกัน
"ซี๊ด..หยุดดูดเถอะ..ที่รัก...หมอทนไม่ไหว ให้น้ำออกในรูหีดีกว่า" เขาบอก
"ค่ะ...เย็ดเถอะ..รุ่งก็ใจจะขาดอยู่แล้ว"
เขาจัดแจงหมุนตัวกลับไปคุกเข่าในหว่างขาของหล่อนอีกครั้งหนึ่ง ท่อนควยแข็งโด่ยังกะท่อนไม้ หัวถอกกระดกอยู่หงึก ๆ ตรงปากรูหีพอดี แต่แทนที่จะรีบแทงทะลวงให้มิดด้ามโดยเร็วเขากลับเอื้อมมือไปลูบคลำขยำขยี้เต้านมของหล่อนพร้อมกับกดตูดให้ปลายถอกทิ่ม ๆ ถู ๆ ตั้งแต่ปากรูหีจนยันเม็ดแตดขึ้น ๆ ลง ๆ ไปด้วย เหมือนจะแกล้งยั่วให้เมียรักเงี่ยนจัดยิ่งขึ้น
"ช่วยแหกหีแล้วจับควยใส่รูหน่อยซิ..ที่รัก"
รุ่งจิตรทำตามอย่างว่าง่าย มือหนึ่งใช้นิ้วถ่างแคมหีให้แบะอ้าออก อีกมือจับหัวถอกยัดเข้าตรงรูหีแล้วพยักหน้ายิ้ม ๆ ให้เขา ทำให้เขาย่ามใจหนัก กดปากลงบนปากจิ้มลิ้มของหล่อนใช้ลิ้นล้วงเข้าไปตวัดรัดลิ้นของหล่อนดึงดูดดังจ๊วบ พร้อมกับเสือกควยกระทุ้งพรวดเข้าไปทันที
"อุ๊ย...ซี๊ด..อย่าเพิ่งดันแรงซิคะ"
เธอสะดุ้งร้องอุทานเมื่อรู้สึกคับตุ่ยที่ปากรูหี แล้วพวงแก้มแดงเปล่งปลั่งทั้งสองก็ถูกเขาระดมจูบอย่างนับครั้งไม่ถ้วน
"อุ๊ย..ซี๊ด..บีบแรง ๆ ยังงี้เดี๋ยวนมก็เหลวหมดหรอก..อูย..ซี๊ด.." หล่อนฉอเลาะ
"ไม่เหลวหรอกน่ะ ยิ่งบีบยิ่งใหญ่ยิ่งตึงต่างหากล่ะ"
เขาพูดพลางกระเด้าหยุบ ๆ จนควยจมเข้าไปถึงครึ่งลำท่ามกลางเสียงสูดปากซี๊ด ๆ พร้อมกับการกระเด้งหีส่ายรับอยู่เดี๊ยะ ๆ ของหล่อนเพื่อให้ควยจมมิดด้ามโดยเร็ว แม้ว่ารูหีของหล่อนจะยังคับอยู่มากแต่ด้วยความเงี่ยนง่านอย่างถึงขนาดทำให้มีน้ำเมือกขมิบออกมาหล่อลื่นอย่างมากมาย
แล้วรุ่งจิตรก็สะดุ้งเฮือกกัดฟันกรอด ๆ เมื่อท่อนควยผัวรักพุ่งปราดเข้าไปลึกยันปากมดลูก ความเสียวซ่านดาลใจทำให้หล่อนต้องผวากอดรัดร่างของเขาไว้แน่น
ทรงชัยกดควยให้แช่นิ่งอยู่พักใหญ่จึงค่อยโหย่งตูดชักควยออกจากรูหีทีละนิด ๆ พอจวนจะหลุดปลายเงี่ยงก็ตะบันพรวดเข้าไปอีก ปลายแตดและแคมหีกับลำควยเสียดสีกันเมื่อยามกระเด้าทำให้หมอหนุ่มกับพยาบาลสาวผู้เป็นเมียเสียววูบไปทั่วทุกเส้นขน เขากระเด้าช้า ๆ แต่ทุกครั้งมันหนักหน่วงจนร่างของหล่อนกับเก้าอี้นวมสั่นสะท้านไปด้วยกัน ท้องน้อยของหล่อนเต้นกระดุบ ๆ เต้านมอันเต่งตึงไหวกระเพื่อม ๆ หนังในทีวีก็กำลังสนุก...ทั้งคู่เย็ดกันไปดูหนังไป จะหาความสุขไหนมาเทียมเท่า
"รู้สึกเป็นไงบ้าง..ที่รัก"
เขากระซิบถามหล่อนที่ริมหู
"อร่อยเหลือเกินค่ะ..หมอขา..อูย...ซี๊ด...อย่ากระแทกแรงนักซิคะ..เดี๋ยวน้ำออกเร็ว"
นายแพทย์หนุ่มหัวเราะหึ ๆ ค่อย ๆ ผ่อนแรงกระเด้าให้เบาลงอยู่อีกพักใหญ่จนทั้งหีทั้งควยร้อนระอุด้วยการเสียดสี ต่างฝ่ายต่างเสียวซ่านกระสันต์ทรวงอย่างบอกไม่ถูก หล่อนส่ายตูดยักย้ายและแอ่นหีกระเด้งรับให้เขาตะบันควยเข้ารูหีที่โชกชุ่มไปด้วยน้ำเมือก ส่วนปากก็สูดซี๊ดซ๊าดแข่งกันเสียงระงม
"โอย..หมอขา..น้ำจะออกแล้ว..อูย...ซี๊ด..เร็ว ๆ เถอะค่ะ.."
หล่อนบอกเขาเสียงสั่นเครือพร้อมกับขมิบรูหีดูดควยตุบ ๆ ทำให้เขาโหมพลังกระแทกถี่ยิบ และส่ายบั้นเอวยักย้ายให้ปลายควยงัดแงะรูหีและปากมดลูกของหล่อนอย่างรุนแรง
"อูย..ซี๊ด..หีคุณเย็ดมันควยดีจริง ๆ..ซี๊ด..น้ำคุณจวนจะออกหรือยัง"
"จะ..จวนแล้ว..อูย..ซี๊ด.."
หล่อนครางเสียงกระเส่า เขากัดฟันกรอด ๆ กระเด้าฉึก ๆ เต็มแรงอีกสามสี่ครั้งน้ำหีของหล่อนก็แตกพลั่ก ๆ ออกามากมายยิ่งกว่าการเย็ดครั้งใด ๆ ที่ผ่านมา หล่อนสูดปากแอ่นหีอยู่เร่า ๆ ร่างสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านเข้าไปถึงตับถึงไต
ทรงชัยกัดฟันกรอด ๆ กลั้นน้ำเงี่ยนเอาไว้ได้ทั้ง ๆ ที่ควยถูกรูหีดูดตุ๊บ ๆ อย่างรุนแรง เขากดควยให้แนบสนิทไว้ครู่หนึ่งจึงชักออก
"จุ๊บ.."
"อุ๊ย..ซี๊ด.." รุ่งจิตรร้องเบา ๆ เมื่อรู้สึกว่าควยหลุดออกจารูหี แต่แล้วเขาก็ตะบันพรวดเข้าไปใหม่จนเงี่ยงบานของหัวถอกครูดปลายแตดลู่ตามเข้าไปด้วย แม้ว่าน้ำเงี่ยนของหล่อนจะออกแล้วมันก็ยิ่งทำให้หล่อนเสียวซ่านทะยานใจอย่างที่สุด หล่อนบิดตูดส่ายหีร่อนเดี๊ยะ ๆ พร้อมกับขมิบรูหีบีบรัดควยเขาเอาไว้แน่น เล่นเอาทรงชัยถึงกับหน้าตาบูดเบี้ยวด้วยความเสียวหัวถอกอย่างถึงขนาด
เขากดตูดกระเด้าเบา ๆ ได้อีกไม่ถึงสามสี่ทีก็ทนไม่ไหว ต้องชักควยออกมาเกือบสุดลำยาวอีกครั้งหนึ่ง พอหล่อนแอ่นหีตามติด เขาก็กระแทกเข้าไปมิดด้ามทันที
"อูย...ซี๊ด..เสียว..อร่อยอีกแล้ว หมอขา..อูย..กระแทกหนัก ๆ อีกหน่อย"
หล่อนบอก หีก็แอ่นให้ติดหนอกควยเอาไว้ เอวก็ส่ายร่อนอย่างถึงอกถึงใจ นายแพทย์หนุ่มหลับตาปี๋ด้วยความอร่อยที่หัวถอก ในที่สุดก็ชักควยออกมายาว ๆ จนเกือบจะหลุดจากรูหีแล้วกระเด้าครั้งสุดท้ายเต็มแรงจนหนอกต่อหนอกปะทะกันดังพลั่ก แล้วน้ำควยก็พุ่งฉูด ๆ เข้าปะทะปากมดลูกผสมกลมกลืนกับน้ำเงี่ยนของหล่อนที่ไหลพรูออกมาอีกครั้งหนึ่ง มันมากมายจนเอ่อล้นรูหีออกมาเปียกแฉะสองแคมและลูกกระโปกของเขา
ทั้งคู่รู้สึกเสียวสะท้านร่านใจสุดจะพรรณาที่ได้ร่วมเย็ดกันอย่างพิสดารเป็นครั้งแรก รู้สึกว่าน้ำเงี่ยนออกมามากมายยิ่งกว่าทุกครั้งที่เคยเย็ดกันมาก่อน หล่อนนอนแผ่หราหายใจระรวย ๆ ปล่อยให้เขานอนคว่ำทับอยู่บนอก แช่ควยคารูหีเอาไว้อย่างแนบสนิทอยู่นานเกือบสิบนาที
"เป็นสุขไหมคะ หมอ"
หล่อนถามพลางยกมือขึ้นลูบแก้มเขาอยู่ไปมา
"สุขยิ่งกว่าได้ท่องแดนสวรรค์"
เขาตอบยิ้ม ๆ แล้วกดจมูกลงจูบเต้านมอันอวบอัดของหล่อนทั้งสองข้าง
"เดี๋ยวอาบน้ำทานข้าวแล้วเล่นแบบนี้อีกนะคะ"
"ครับ... ที่รัก...อร่อยหวานมันยังงี้ต้องเล่นอีกแน่ ๆ วันนี้หีคุณดูดแรงเหลือเกิน หมอต้องกลั้นเอาไว้แทบแย่"
ว่าแล้วเขาก็จูบแก้มหล่อนฟอดใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ ชักควยออกจากรูหี แล้วช้อนร่างของหล่อนขึ้นโอบอุ้มเข้าสู่ห้องน้ำ ลงอ่างอาบร่วมกันอย่างสุขสำราญบานใจ