ฉันไม่ได้พบกับเป้งเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยม ตั้งแต่เค้าไปเป็นสถาปนิกที่สิงคโปร์หลังเรียนจบ ตอนมัธยมเราสนิทกันมาก เพราะสนใจในศิลปะเหมือนกัน ถึงแม้ว่าช่วงอยู่มหาวิทยาลัยจะห่างๆกันไป ต่างคนก็ต่างมีแฟน แต่เราก็ยังคงเป็นเพื่อนพิเศษต่อกันเสมอมา 4 ปีที่เค้าทำงานในสิงคโปร์เราติดต่อกันทาง email เท่านั้น โดยมากก็ส่ง fwd mail หากัน ไม่ได้พิมพ์คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว อยู่มาวันนึง เค้าก็เมล์มาหา บอกว่าจะกลับเมืองไทยเร็วๆนี้ คงได้เจอกัน ฉันดีใจมากที่จะได้เจอเค้าอีกครั้ง เราก็นัดกันเรียบร้อยพอถึงวันนั้น เป้งมารับฉันที่บ้านเหมือนแต่ก่อน เป้งดูเป็นผู้ใหญ่และเป็นผู้ชายที่ภูมิฐานมากขึ้น เค้าไม่ใช่วัยรุ่นอย่างที่ฉันเคยรู้จัก แต่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม เราขับรถไปดูโรงเรียนกัน มีตึกใหม่ๆขึ้นมาเยอะเลย แต่ตึกเก่าที่ยังคงเดิมก็ยังอยู่ ฉันพาเป้งไปดูความลับทีแอบเก็บไว้ในภาพวาดบนกำแพงฝีมือของตัวเองในห้องศิลปะ ตรงมุมเล็กๆ มีชื่อของฉันกับเป้งคู่กันที่ฉันแอบเขียนไว้ในภาพ “ตอนม.ปลายเราแอบชอบเธอล่ะเป้ง” ฉันบอกเป้งตามตรง เป้งหัวเราะขำๆ “เรารู้ เธอแสดงออกชัดจะตาย” แล้วเป้งก็คว้ามือฉันมาจูงพาเดินออกไป ฉันรู้สึกกระตุกวูบ ทั้งๆที่ฉันก็ใกล้ชิดกับผู้ชายมาไม่น้อย คงเพราะเราเป็นเพื่อนกันไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวกันมาก่อน ที่สำคัญเป้งเป็นรักแรกของฉันด้วยมั้ง เป้งจูงมือฉันไว้แล้วคุยนู่นนี่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราไปกินข้าวกันแล้วกลับมาต่อที่คอนโดของฉัน ดื่มไวน์ฟังเพลงสมัยที่เรายังวัยรุ่น พอมึนๆ ฉันก็เอนซบเป้ง เป้งก็โอบฉันไว้ ลูบผมฉันบ้าง หอมบ้างในบางครั้ง ทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติมาก “จริงๆ แล้วเราก็ชอบเธอมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเหมือนกัน” เป้งสารภาพ เมื่อไวน์เหลือติดอยู่ก้นขวด ฉันแทบกรี๊ด “แล้ว…แล้วทำไมเป้งไม่เคย แบบว่าจีบหรืออะไรเราเลยล่ะ” “ก็ไม่รู้ซิ ไม่กล้ามั้ง ….” เป้งหันมามองหน้าฉันนิ่งนาน แววตาเค้าเป็นประกายบางอย่างที่ฉันไม่เคยสังเกตมาก่อน “แต่ทำยังไง เราก็ไม่เคยลืมเธอ ไม่เคยลืมว่าเคยรู้สึกยังไงกับเธอ” แล้วเป้งก็ดึงตัวฉันเข้ามา ก้มลงประทับจูบฉันอย่างนุ่มนวล ในอกฉันร้อนวูบวาบทั้งตื่นเต้นและดีใจที่ความรักอันยาวนานได้รับการสนองตอบ จูบของเป้งหนักหน่วงยิ่งขึ้น ทั้งอ้อมแขนของเค้าก็รัดแน่นและเร่งเร้ามากขึ้น ฉันกอดตอบ ลมหายใจของเราแรงไม่แพ้กัน มือของเป้งลูบไล้เข้าไปใต้เสื้อของฉัน เรื่อยไปจนปลดตะขอชั้นในของชั้นหลุด ฉันสะดุ้งเล็กน้อย เป้งถอนจูบ ถอยออกมามองตาฉันเป็นเชิงเว้าวอน ฉันหลับตาแล้วโอนอ่อน เป้งหอมแก้มแล้วจูบไล่ลงมาที่ซอกคอ ประคองตัวฉันให้เอนลงกับโซฟา มือที่เคยลูบแผ่นหลังเลื่อนมาเคล้นคลึงที่ทรวงอก ฉันใจเต้นแรง เมื่อเป้งพรมจูบลงที่เนินอก โลมเลียที่ปลายยอดที่ตึงชันขึ้นตามแรงลิ้นของเค้า ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นภาพเราสมัยยังเรียนด้วยกันสลับกับความปีติปนเสียวซ่าน นี่เราก้าวข้ามความเป็นเพื่อนมาไกลแล้วนะ ฉันลืมตาขึ้นดันตัวของเป้งออก “เป้ง มันจะไม่เหมือนเดิมนะ ระหว่างเรา..” เป้งนิ่งไปครู่ เค้าก้มลงมากอดและมองหน้าฉันอีก “ไม่ว่าจะมีใคร เราก็คิดถึงเธอมาตลอด แม้แต่ช่วงที่ห่างกัน เรามาเมืองไทยครั้งนี้ ก็เพราะเธอ เราไม่อยากเสียใจในสิ่งที่เราไม่ได้ทำอีก แล้วเธอล่ะ เธอไม่คิดเหมือนเราเหรอ” “เป้งคงไม่ทำอย่างนี้กับเราเพราะเมาใช่มั้ย” เป้งหัวเราะ “จะบ้าเหรอ ไม่มีทาง รู้มั้ยเราอยากกอดเธอตั้งแต่แรกที่มารับแล้ว” เป้งไม่ให้ฉันพูดอะไรต่อได้อีก เค้าดึงเสื้อผ้าของฉันออก แล้วถอดเสื้อผ้าของเขาตาม เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นร่างกายเปลือยของเป้ง เค้ากำยำกว่าที่คิด แต่ฉันยังไม่กล้ามองส่วนกลางลำตัวเค้า เป้งระดมจูบฉันต่อ คราวนี้ให้ความรู้สึกกระหายมากขึ้น มือของเค้าที่ฉันเคยเห็นแต่มันทำงานศิลปะ กลับมาสร้างสรรค์ความรู้สึกปั่นป่วนรำจวญใจไปทุกพื้นที่นุ่มนวลของเรือนร่างฉัน มือหนึ่งทำราวกับว่าปั้นแต่งหน้าอกเต่งตึงของฉันอยู่ ในขณะที่อีกมือก็ลากนิ้ววนเวียนอยู่กับกลีบเนื้อชุ่มฉ่ำ เป้งเบียดกายเข้ามาสู่ระหว่างขาที่แยกออกอย่างเต็มใจ เพื่อนสมัยเด็กของฉันกำลังลิ้มรสและดอมดมส่วนสงวนที่ฉันไม่นึกไม่ฝันว่าเค้าจะได้พบเจอมัน ลิ้นอุ่นไล้เลียอย่างนุ่มนวล ฉับพลันก็ตวัดอย่างแข็งแรงแทรกกลีบแต่ละชั้น ฉันแอ่นสะโพกตอบโต้ ครางกระเส่า เป้งยิ่งเร่งตามแรงมือที่ฉันกดหน้าของเค้าให้แนบลง ฉันเกรงว่าจะเป็นฝ่ายรับอยู่เพียงผู้เดียว เลยหมุนตัวลงไปควานหาของคู่กายเค้า เป้งอ่านภาษากายได้ ก็เคลื่อนตัวป้อนท่อนเนื้อแข็งเข้าสู่ปากฉัน ฉันอ้าปากกว้างรับทีละน้อย ยังไม่สุดความยาวก็รู้สึกอึกอัดลำคอ ใช้มือประคับประคอง ลิ้นโลมเลียสลับดูดท่อนเนื้อของเป้งอย่างเมามัน เป้งเสียวจนตัวเกร็ง เค้าผ่อนตอบแทนด้วยการไม่ลดละการลงลิ้นกับฉันเลย เรากลับหัวกลับหางกันอยู่พักใหญ่ เป้งก็นำฉันคืนสู่สภาพเดิม เข้าประจำที่ด้วยอาวุธที่ถูกฉันทำเสียวจนพร้อมเต็มที่ เป้งค่อยใช้หัวดันเคลื่อนเข้าสู่หลืบลึกของกลีบเนื้อฉ่ำ ฉันสะดุ้งเฮือกๆ ตามจังหวะที่เค้ากดเข้า จนสุด… เป้งเข้า…..ออก…เข้า..ออก เข้าออก และหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เค้ายกขาฉันพาดบ่าเค้าข้างหนึ่ง กระแทกเข้าออกอย่างเมามัน ฉันนึกภาพเราใส่ชุดนักเรียนเดินด้วยกันตามทางเดินระหว่างตึกเรียนแวบขึ้นมา แล้วร้องซี้ดซาดด้วยความเสียว ความขรุขระของท่อนเอ็นครูดช่องทางของฉันให้ความรู้สึกซาบซ่านไปทั้งตัว ฉันรั้งมือเข้าที่สะโพกเค้าช่วยให้จังหวะ เป้งก้มลงดูดหน้าอกของฉันไปด้วยทั้งๆที่ซอยไม่ยั้ง “โอ้ว ….เรารักเธอจัง …เธอดี ดีจริงๆ” เค้าโหมแรงกระแทกกระทั้น จนเสียงครางกับเสียงเนื้อต่อเนื้อแทบแยกกันไม่ออก ฉันเสียวจนคว้าตัวเค้าเปะปะไปหมด “เป้ง เป้งจ๋า เร่งหน่อย แรงอีก เราจวนแล้ววว…” เป้งทำตามคำขอจนสุดแรง เป้งกดตัวแน่นปล่อยน้ำอุ่นทะลักพรั่งพรูออกมาจนรู้สึกได้ ฉันจิกเล็บที่หลังเค้าอย่างห้ามไม่อยู่ เป้งทิ้งตัวหอบบนตัวฉัน ยังพร่ำจูบไปทั่ว ความสุขสมท่วมท้นไปทั้งตัว เป้งคาของเค้าไว้อย่างนั้น หัวร่อต่อกระซิกกันซักพัก ก็เริ่มแข็งขึ้นมาภายในฉันอีก รอบแล้วรอบเล่า ทั้งเป้งและฉันผลัดกันปรนเปรอความสุขตลอดคืน เรียกว่าแทบจะไม่ได้ถอนอาวุธของเขาออกจากฉันเลย ให้สมกับที่เค้าต้องกลับไปสิงคโปร์อีก แต่เป้งบอกว่า อีกไม่นานบริษัทเค้าจะมาเปิดสาขาที่เมืองไทย เราคงได้อยู่ใกล้กันมากขึ้นล่ะ