close buttonclose buttonclose button
Show Posts - หนูอยากลองของ

Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - หนูอยากลองของ

Pages: 1 ... 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 ... 57
511
แต่เขาไม่ยอมให้ดิฉันหลบเลี่ยง มือข้างหนึ่งของเขาโอบกอดไปที่ด้านหลังของดิฉันเหมือนจะกันไว้ไม่ให้ดิ้นหนี ในขณะที่ริมฝีปากเขาก็ระดมจูบโลมไล้ไปทั่วใบหน้า สักพัก เขาก็ผลักดิฉันให้นอนหงายลงกับเตียง โดยขาทั้งสองข้างของดิฉันยังห้อยอยู่ที่ขอบเตียง เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น สายตาจ้องอยู่ที่หว่างขา หน้าของดิฉันร้อนวูบขณะที่เขารูดกางเกงในออกไปทางปลายเท้า ดิฉันรีบเอามือปิดเนินนูนไว้ทันที “อายหรือ หนูรุ้ง”เขาถาม ขณะที่พยายามแกะมือของดิฉันออก แต่ดิฉันไม่ยอม วิงวอนขอร้องเขาเสียงสั่น “ลุกขึ้นมาเถอะค่ะท่าน อย่าทำอย่างนี้เลย รุ้งขอร้อง รุ้งอาย” “ขอผมดูนิดเดียว น่า นะ คนสวยของผม” “อย่าเลยค่ะ ได้โปรด... สงสารรุ้งเถอะ รุ้งยอมท่านแล้ว แต่อย่าทำให้รุ้งต้องอับอายมากไปกว่านี้เลย ลุกขึ้นมาเถอะค่ะ” เขายอมลุกขึ้นมาตามที่ดิฉันขอร้องอย่างว่าง่าย ซึ่งก็ทำให้ดิฉันแปลกใจและรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย ดิฉันรีบลุกขึ้นนั่งจัดแจงดึงกระโปรงปิดหน้าขาที่เปล่าเปลือยไว้ เขามองการกระทำของดิฉันอย่างขบขัน “เอาละ ผมเห็นใจหนู นี่คงเป็นครั้งแรกซินะที่หนูต้องทำอย่างนี้กับคนแปลกหน้า” ดิฉันพยักหน้า รู้สึกอายไม่กล้าสบตากับเขา “ไม่ต้องห่วง ผมเข้าใจความรู้สึกหนู และจะไม่พยายามทำอะไรที่ให้หนูต้องอับอาย แต่หนูก็ต้องปรนนิบัติผมให้ดีเป็นการแลกเปลี่ยน ตกลงมั๊ย”
ดิฉันพยักหน้า “เอาละ ถ้างั้นช่วยถอดเสื้อผ้าให้ผมหน่อย” ดิฉันยกมือเตรียมจะปลดกระดุมให้เขา แต่เขาร้องห้ามไว้ “อย่าเพิ่ง คุกเข่าลงแล้วถอดรองเท้าให้ผมก่อน” ดิฉันชะงัก “ทำไมล่ะ รังเกียจที่จะทำเหรอ” “ไม่ ..ไม่หรอกค่ะ รุ้งจะทำให้” ดิฉันพยายามกล้ำกลืนความเจ็บช้ำเอาไว้ แล้วคุกเข่าลงถอดรองเท้าให้เขา แล้ววางมันไว้ที่ข้างเตียง แต่ขณะที่ดิฉันกำลังจะรูดถุงเท้าเขาออก เขาก็พูดขัดขึ้นมาอีก
“อย่าถอดแบบนั้น” “แล้วจะให้รุ้งทำยังไงล่ะคะ” “ใช้ปากซิ ผมอยากให้หนูใช้ปากถอดมันออกมา ผมชอบแบบนั้น” ดิฉันหน้าชาอุทานออกมาอย่างตกใจ “รุ้งทำไม่ได้” ดิฉันร้องไห้ “ทำไมต้องให้รุ้งทำแบบนี้” ดิฉันอุทธรณ์ด้วยเสียงสั่นเครือ แต่คราวนี้เขาเริ่มแสดงอาการหงุดหงิด “อย่างนี้ก็ไม่ได้ อย่างนั้นก็ไม่ได้ คราวนี้ผมไม่ยอมแล้ว ถ้าหนูไม่ทำอย่างที่ผมขอ ผมก็จะกลับไปทำแบบเดิมอย่างที่ผมอยากทำ ว่าไง
จะเอาอย่างนั้นมั๊ย” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความเอาจริงเอาจัง ซึ่งทำให้ดิฉันไม่กล้าขัดขืน เขายกเท้าขึ้นมาจนจ่ออยู่ตรงปากของดิฉัน กลิ่นอันรุนแรงของมันลอยเข้าจมูกจนดิฉันรู้สึกคลื่นเหียน “เอาเลย” เขาเร่ง ขณะที่ดิฉันก้มหน้าลงไปขบอยู่ที่ขอบถุงเท้า พยายามจะดึงมันออกให้เร็วที่สุด แต่เขาร้องห้าม “อย่ารีบ ทำ ช้าๆ อย่างนั้น ดีมาก..อิมมม หนูทำได้เยี่ยมเหลือเกิน” ดิฉันเงยหน้ามองเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า แต่แววตาของเขากลับแสดงความตื่นเต้นและสะใจ ที่เห็นดิฉันใช้ปากค่อยๆถอดถุงเท้าเค้าออกอย่างช้าๆ ในที่สุดมันก็หลุดออกไปข้างหนึ่ง อย่างไม่รอช้าเขายื่นอีกข้างขึ้นมาจ่อตรงหน้าของดิฉัน และในขณะที่ดิฉันกำลังใช้ปากรูดถุงเท้าข้างที่เหลืออยู่นั้นเอง เขาก็ใช้เท้าเปล่าเปลือยอีกข้างถูไถไปมาที่หน้าอกของดิฉัน ตาของเขาเป็นประกายเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ดิฉันไม่กล้าขัดขืน ปล่อยให้เขาสนุกกับการใช้เท้าคลึงเคล้าไปมาที่หน้าอกของดิฉันจนหนำใจ เขาก็ลุกขึ้นจับดิฉันให้ลุกตามขึ้นมา “ถอดเสื้อผ้าออก แล้วไปนอนบนเตียง” เขาสั่ง พลางปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเอง เสร็จแล้วก็โถมตัวลงมา ดิฉันรีบดันตัวเขาไว้ “ท่านคะ” ดิฉันร้อง “คราวนี้อะไรอีกล่ะ หนูรุ้งนี่เรื่องมากจริง” “ปิดไฟก่อนได้มั๊ยคะ” “บ้าน่ะซิ” เขาสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย “เงียบได้แล้ว แล้วอย่าพูดอะไรให้เสียอารมณ์อีก” เขาดุ แล้วก้มหน้าลงมาที่ทรวงอก ดิฉันหลับตาพริ้มขณะที่เขาใช้ลิ้นลากไล้วนไปมาที่หัวนมข้างซ้าย มืออีกข้างก็ลูบคลำคลึงเคล้นทรวงอกข้างขวาอย่างนุ่มนวล เขาลากลิ้นตวัดไปมาแล้วก้มลงเม้มงับหัวนมของดิฉันดูดดื่มอย่างกระหาย สลับไปมา จากข้างซ้ายไปข้างขวา มือของเขาที่คลึงเคล้นทรวงอกเริ่มขยำขยี้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปากก็ครางพึมพำเสียงกระเส่าตลอดเวลา ในขณะที่ดิฉันเองกลับเงียบกริบ จากนั้นมือของเขาก็เลื่อนลงไปที่ด้านล่าง ลูบไล้ไปมาบนหย่อมไหมที่ปกคลุมอยู่ทิ่เนินนูน นิ้วอันแข็งแรงแหย่เข้าไปในร่างของดิฉัน พร้อมกับเขี่ยไปมาตรงตำแหน่งที่ไวต่อความรู้สึกที่สุด เหมือนพยายามจะปลุกเร้าอารมณ์เต็มที่ เขาขยับนิ้วเขี่ยไปมาช้าๆจากนั้นก็เร่างสปีดขยับถี่แรงขึ้น แต่อาจจะเป็นเพราะ ดิฉันรู้สึกเพลีย หรือไม่ก็รู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม หรือไม่อีกทีก็เป็นความรู้สึกละอายใจที่มีต่อตั้ม ทำให้ดิฉันไม่เกิดอารมณ์ร่วมแม้แต่น้อย ในที่สุดเขาก็หยุดการกระทำนั้น ดิฉันปรือตามองขึ้นไป ก็เห็นเขาขยับตัว จ่อท่อนลำของเขาอยู่ที่เนินนูนของดิฉัน เพียงแค่เห็นก็ทำเอาดิฉันใจเต้นโครมคราม เส้นเลือดทอดระเกะระกะอยู่ทั่วลำทำให้มันมีสีม่วงก่ำ อวดตัวอย่างหยิ่งผยอง และชี้ตรงแหนวมาที่ดิฉัน แม้จะยังไม่แข็งขันเต็มที่แต่ก็ดูดุดันน่ากลัว เขายิ้มให้เมื่อเห็นดิฉันลืมตามอง “ผมเอาเข้าแล้วนะ” ดิฉันไม่ตอบแต่หลับตา ไม่อยากเห็น ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากรับรู้เรื่องน่าอดสูใจที่เกิดขึ้น ถึงแม้นี่จะเป็นสิ่งที่ดิฉันกระทำเพื่อตั้ม แต่มโนธรรมที่มีอยู่ก็ทำให้ดิฉันรู้สึกเหมือนนอกใจเขาอยู่ดี แม้จะไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่ดิฉันไม่ได้ขัดขืนการกระทำใดๆของเขาเลย เพราะไม่อยู่ในสถานะที่จะทำอย่างนั้นได้ ขนาดของมันดูไปก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าตั้มมากนัก แต่ไม่ทราบเพราะอะไร เพียงแค่ส่วนหัวของมันล่วงล้ำเข้ามาเท่านั้น ช่องทางของดิฉันก็แทบจะปริแตกเสียแล้ว เขาเพิ่มแรงกระแทกกระทั้นผ่านความฝืดคับเข้ามาอย่างช้าๆ ในที่สุดมันก็สอดแทรกเข้ามาจนหมดลำ ดิฉันแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะการที่ดิฉันไม่ได้เกิดอารมณ์ร่วม มันส่งผลย้อนกลับมาทำร้ายดิฉันอย่างสาหัส ร่องหลืบของดิฉันแห้งผาก ซึ่งมันทำให้รู้สึกแสบร้อนที่เนื้อนวลเมื่อเขาเริ่มขยับขโยกอย่างช้าๆ ดิฉันดิ้นทุรนทุรายขณะที่มือของดิฉันขยุ้มผ้าปูที่นอนไว้แน่น พยายามแยกปลายเท้าทั้งสองข้างให้ถ่างออกจากันไปให้มากที่สุด เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ซึ่งนั่นเป็นการทำให้เขาย่ามใจ กระแทกกระทั้นรุนแรงมากขึ้น ดิฉันหัวสั่นหัวคลอน
หน้าตาคงจะบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บ ซึ่งทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าดิฉันมีอารมณ์ จึงพูดอย่างร่าเริง “อูยยยย ... เป็นยังไงหนูรุ้ง เสียวมากเลยใช่มั้ย” เปล่าเลย! มันมีแต่ความเจ็บปวดที่ทวีมากขึ้นเรื่อยๆ เขาทำอยู่สักพักก็ล้มตัวลงนอนหงาย แล้วพลิกดิฉันกลับให้นั่งอยู่บนตัวเขา “ทำให้ผมมั่งสิหนู” เขาสั่งซึ่งดิฉันก็ยอมทำตามโดยไม่ขัดขืน แต่อาจจะเป็นเพราะดิฉันยังรู้สึก เพลียจากการที่เพิ่งต่อสู้กับความโหดร้ายในคุก ทำให้ดิฉันหมดเรี่ยวแรงอย่างรวดเร็ว “ท่านคะ รุ้งเหนื่อย รุ้งทำไม่ไหวแล้วค่ะ” ดิฉันบอกเขาอย่างละอายใจ เขาไม่ว่าอะไร จับดิฉันพลิกกลับลงมา แล้วกระแทกกระทั้นดิฉันอีกครั้ง ปากก็ร้องครวญคราง
“อูยยยย .... เยี่ยม เยี่ยมชะมัด ของหนูรุ้ง นี่ที่สุดแห่งความฟิตเลย” มือของเขาขยำหน้าอกทั้งสองข้างของดิฉันอย่างรุนแรง ราวกับจะขยี้ให้แหลกเละคามือ ดิฉันเจ็บระบมไปหมด ในที่สุดช่วงเวลาแห่งวามทรมานอันแสนยาวนานก็จบสิ้น ดิฉันรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่พุ่งเข้ามาในร่างอย่างรุนแรง มันเจิ่งนองไปทั่วร่องหลืบของดิฉัน และมากมายจนกระทั่งเอ่อล้นลงไปตามลำขาของดิฉัน เขาฟุบลงบนร่างของดิฉันอย่างคนที่หมดสิ้นเรี่ยวแรง.... ...... ท่านวิชัยกลับไปแล้ว แม้จะผ่านเหตุการณ์เดียวกันมา แต่ความรู้สึกของเราทั้งคู่แตกต่างกันลิบลับ เขาจากไปด้วยความรู้สึก ชุ่มชื้น... ฮึกเหิม... และกระปรี้กระเปร่า เยี่ยงแม่ทัพผู้พิชิตศึกจนราบคาบ แต่ความรู้สึกของดิฉันนั้น หมองหม่น... รวดร้าว... อ่อนระโหย... และพ่ายแพ้ … ดิฉันก็เข้าห้องน้ำ โดยใช้เวลานานมากที่สุดในชีวิตในการชำระล้างร่างกาย แต่มันก็เป็นเพียงการล้างสิ่งสกปรกออกทางกายเท่านั้น ความหมองมัวที่เกิดขึ้นในใจนั้นยากจะชำระให้กลับมาเหมือนเดิมได้ ดิฉันรู้สึกเศร้า เสียใจในตัวเอง และเสียใจแทนตั้ม.. ดิฉันหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดร่างกายจนแห้ง แล้วจึงพันตัวไว้ เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นพัศดีนั่งอยู่ที่โซฟา “มานั่งตรงนี้ก่อน” เขาชี้ไปที่เตียง โดยไม่ยอมให้ดิฉันได้เปลี่ยนเสื้อ ดิฉันทำตามที่เขาสั่งอย่างเชื่องเชื่อ “คุณยังทำได้ไม่ดีนัก” เขาตำหนิ แต่ดิฉันก้มหน้านิ่งเงียบ “แต่ผมจะยกโทษให้คุณ เพราะเห็นว่านี่เป็นครั้งแรกของคุณ คราวต่อไปคุณจะต้องทำให้ดีกว่านี้ คุณจะต้องสนองตอบ ไม่ใช่นอนทื่อเป็นท่อนไม้ ” น้ำตาดิฉันไหลพรากด้วยความเศร้าเสียใจ แต่ไม่ตอบโต้อะไรเขาทั้งสิ้น ดิฉันเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าที่จะทำสงครามอีกครั้ง เพราะไม่ว่ามันจะเริ่มต้นยังไง สุดท้ายมันก็ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของดิฉันอยู่ดี ความอ่อนแอของดิฉันคงจะทำให้เขาเห็นใจอยู่บ้าง เขาจึงลุกขึ้นยืนเดินมานั่งที่ข้างกายดิฉัน แล้วช่วยเช็ดน้ำตาให้ พลางถอนหายใจกล่าว “อย่าร้องไห้เลยรุ้ง ...ผมจะไม่รบกวนคุณแล้ว คุณมีเวลาพักสองวัน มีลูกค้าผมอีกคนคอยอยู่ เขาเป็นเพื่อนกับเจ้านายผม เป็นพ่อค้า แต่ผมรู้ว่าคุณคงไม่พร้อมที่จะรับฟังอะไรในตอนนี้ ดังนั้นผมจะไม่พูดอะไรมากอีก นอนซะแล้วผมจะมาคุยกับคุณพรุ่งนี้” เขาลูบคลำผมของดิฉันอย่างปลอบโยนอีกครั้ง ก่อนที่จะลุกเดินออกไป ........ วันที่สิบ พัศดีเดินเข้ามาที่ห้อง ในขณะที่ดิฉันกำลังหวีผมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ดิฉันหันมามองก็เห็นว่ามือเขาถือถุงใบใหญ่เข้ามาด้วย เขาเดินมาที่ข้างกายของดิฉัน ส่งถุงมาให้ ดิฉันรับเอาไว้ขณะที่เขาหยิบหวีออกจากมือ แล้วช่วยหวีผมให้อย่างนุ่มนวล “ลูกค้าคนนี้ต้องการให้คุณใส่ชุดนี้ ผมเห็นแล้ว มันสวยมากทีเดียว เปิดออกดูซิรุ้ง” ดิฉันถอนหายใจ หยิบชุดนั้นออกมาจากถุง มันเป็นชุดสีเงินวาววับที่ถูกพับไว้ เมื่อดิฉันคลี่มันออกมาก็ตกตะลึง ผุดลุกขึ้นมาหันไปหาเขา “ท่านคะ ดิฉันไม่ทำได้ไหม” ดิฉันวิงวอน รู้สึกได้เลยว่าเสียงของตัวเองนั้นสั่นระริก และแหบแห้ง “ทำไมล่ะ” เขาถามอย่างแปลกใจ คิ้วของเขาขมวดเหมือนจะรู้สึกหงุดหงิด ใจดิฉันล่องลอยย้อนหลังไปสองปีก่อนหน้านี้ ... ........ ตอนนั้นดิฉันเพิ่งเข้าวงการไม่นาน มีงานถ่ายแบบลงนิตยสารนิดหน่อย งานส่วนใหญ่ของดิฉันจะเป็นพริตตี้แนะนำสินค้าตามงานต่างๆ วันนั้นดิฉันได้รับการติดต่อจากเสี่ยเฮง ซึ่งเขากำลังทำโปรดัคท์เกี่ยวกับสินค้าไอทีอย่างหนึ่ง งานจะเริ่มเปิดช่วงเย็น แต่ดิฉันไปที่บริษัทของเขาแต่เช้า เพื่อซักซ้อมเตรียมตัวครั้งสุดท้ายก่อนออกงาน เสี่ยเฮงให้คนเรียกดิฉันเข้าไปพบเพื่อขอคุยรายละเอียด เราอยู่ด้วยกันในห้องเพียงสองคน เขาก็หยิบชุดพริตตี้ออกมาบอกว่าต้องการให้ดิฉันใส่ชุดนี้พรีเซนต์สินค้า
ดิฉันหยิบชุดขึ้นมาแล้วก็ต้องตกใจสุดขีด มันเป็นชุดสีเงินวาววับ ดูล้ำสมัยเข้ากับสินค้าที่ดูไฮเทค แต่มันไม่ใช่ชุดที่เราตกลงกันไว้! ชุดนั้นมันโป๊มากๆ คอเสื้อนั้นยาวปิดจนถึงลำคอก็จริง แต่ตรงช่วงอกนั้นถูกคว้านเป็นช่องใหญ่และลึกมาก ซึ่งถ้าใส่จริงๆแล้วมันจะเผยให้เห็นช่วงร่องอก และบริเวณทรวงอกได้ถึงครึ่งค่อนเต้า ดิฉันคิดว่าถ้าขยับตัวในบางมุมมันอาจมองไปได้ลึกถึงหัวนมเลยด้วยซ้ำ บริเวณช่วงเอวก็คว้านไปด้านหลังและลึกต่ำลงไปจนเกือบเห็นแก้มก้น ส่วนชายกระโปรงก็สั่นเต่อ ดิฉันยังเป็นเด็กอยู่มากในตอนนั้น แล้วอารมณ์ส่วนตัวของดิฉันก็ค่อนข้างรุนแรงอยู่แล้วด้วย ดิฉันโกรธจนตัวสั่นเพราะรู้สึกเหมือนถูกหลอก และถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง เสี่ยเฮงคงจะมองว่าดิฉันเป็นเด็กที่เข้าวงการใหม่ๆ จึงคิดว่าจะเกลี้ยกล่อมได้อย่างง่ายๆ แต่เขาคิดผิด ดิฉันขว้างชุดใส่หน้าเขา แล้วออกมาทันที โดยไม่สนใจว่าจะมีใครมาทำแทนหรือไม่ ดิฉันมารู้ทีหลังว่านั่นเป็นการสร้างความเสียหายให้เขาอย่างรุนแรง จริงอยู่ว่างานนั้นมีพริตตี้ยู่หลายคน แต่ว่าแต่ละคนนั้นถูกแบ่งให้รับผิดชอบสินค้าแต่ละอย่างที่แตกต่างกันไป ดิฉันซึ่งเป็นเด็กที่สุดในกลุ่มนั้น แต่ได้รับแบ่งงานในส่วนของสินค้าที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ แถมยังเป็นสินค้าที่เป็นไฮไลท์ของงานอีกด้วย ชุดที่พรีเซนท์จึงค่อนข้างหวือหวาและดึงดูดกว่าของพรีเซ็นเตอร์คนอื่น ดิฉันเคยได้เห็นชุดนั้นก่อนแล้วก็จริง แต่เป็นจากรูปสเก็ทในกระดาษ ซึ่งมันผิดจากของจริงที่เห็นอย่างสิ้นเชิง เมื่อดิฉันถอนตัวออกจากงานอย่างกระทันหัน ทำให้เสี่ยเฮงต้องให้พี่พริตตี้อีกคนมาช่วยรับงานส่วนของดิฉันไปทำแทน ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดทำให้เธอไม่มีเวลาเตรียมตัว ทำให้ต้องพรีเซนท์ในลักษณะที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการอ่านโบรชัวร์ให้คนที่มาชมงานฟัง ซึ่งนั่นเป็นการทำให้เสี่ยเฮงเสียหน้าอย่างรุนแรง และเขาอาฆาตดิฉันมาก คอยใส่ร้ายดิฉันกับเพื่อนๆของเขาไม่ให้จ้างดิฉันไปรับงาน เรียกได้ว่ากะจะเอาดิฉันออกจากวงการเลยด้วยซ้ำ แต่โชคดีที่เพื่อนๆที่เป็นพริตตี้ด้วยกันเห็นใจและคอยช่วยเหลือ แนะนำงานมาให้ตลอดเวลา ชื่อเสียงของดิฉันโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้เขา ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้เลิกตามราวีดิฉัน และดิฉันก็ไม่เคยสนใจที่จะตามข่าวของเขาอีกเลย
........ ดิฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้พัสดีฟัง แต่สีหน้าของเขาเรียบเฉย จนดูไม่ออกว่าเขาคิดอะไร เมื่อดิฉันเล่าจบ เขาก็เพียงแต่ถอนหายใจ “ผมเข้าใจคุณนะรุ้ง แต่ผมก็อยากจะให้คุณเข้าใจว่า ผมก็มีอำนาจที่จำกัดเหมือนกัน” เขาชะงักเมื่อเห็นดิฉันหน้าสลด แต่ก็พูดต่อ “เจ้านายผมรับปากเสี่ยเฮงว่า เขาจะต้องได้คุณเป็นคนที่สอง แล้วท่านก็สั่งผมมา ผมปฏิเสธท่านไม่ได้ รุ้งต้องเข้าใจผมด้วยนะ” “ทำใจนะรุ้ง”เขาพูดต่อ พยายามจะปลอบโยนดิฉัน “มันก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น อย่างมากก็คงไม่เกินสองสามชั่วโมง ผมกำชับกับเขาแล้วว่าห้ามมีการทำร้ายร่างกายกัน ไม่ต้องกลัวนะรุ้ง ผมจะเฝ้าดูอยู่ถ้าเขาทำรุนแรงผมจะเข้ามาช่วยทันที” “.ท่านคะ” ดิฉันพยายามจะวิงวอน แต่เขาตัดบท “ไม่ต้องพูดแล้วรุ้ง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามนั้น ผมช่วยไม่ได้จริงๆ แต่งตัวซะ อีกไม่นานเขาจะมาแล้ว”

512
ดิฉันกลับเข้ามาอยู่ในห้องนอนที่ได้เห็นในวันแรก พร้อมกับได้อาบน้ำสระผม เป็นครั้งแรกที่ดิฉันสะอาดและหอมกรุ่นไปทั้งตัวนับตั้งแต่วันที่เข้ามาอยู่ในคุก หลังจากเช็ดตัวจนสะอาดสะอ้านแล้วดิฉันก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า มันมีขนาดใหญ่ และมีเสื้อผ้าแขวนไว้มากมายจนลานตา ที่น่าแปลกก็คือนอกจากจะมีเสื้อ กระโปรง กางเกงตามปกติแล้ว มันยังมีชุดยูนิฟอร์มหลากหลายรูปแบบอยู่ด้วย ทั้งชุดราตรี ชุดนักเรียน ชุดนักศึกษา ชุดพนักงานออฟิช ชุดตำรวจ ชุดพยาบาล และอื่นๆอีกมากมาย แม้กระทั่งชุดเจ้าสาวก็มีอยู่ในนี้ด้วย ดิฉันถอนใจเพราะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่พยายามจะไม่คิดมาก ดิฉันเลือกเพียงชุดเสื้อกระโปรงสั้นๆสีน้ำตาลอ่อนมีลายจุดเต็มตัวดูน่ารัก กระโปรงค่อนข้างสั้นเบาบาง มันใส่สบายและเหมาะที่สุดสำหรับอากาศที่ร้อนในเวลานี้ หลังจากสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย ดิฉันก็มานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ลงมือหวีผมแล้วก็รวบมันไว้ โดยใช้หนังยางรัดอย่างง่ายๆ หน้าของดิฉันในกระจกดูอิดโรยเล็กน้อย แต่ดิฉันไม่สนใจที่จะแต่งให้มันดูดีขึ้น แม้จะมีเครื่องสำอางวางอยู่เต็มโต๊ะเล็กๆนั้น ห้องนอนห้องนี้มีหน้าต่างอยู่เพียงบานเดียว มันแตกต่างจากหน้าต่างห้องขังอื่นๆเพราะมันไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสเล็กๆ แต่มันเป็นบานเต็มที่มีขนาดเดียวกันกับที่อยู่ตามบ้านทั่วไป หน้าต่างห้องนี้จัดอยู่ในตำแหน่งที่ดีมากทีเดียว
ด้านล่างนั้นสามารถมองเห็นสวนดอกไม้ ถัดออกไปเป็นถนนและต่อด้วยแปลงผักขนาดใหญ่ซึ่งมีนักโทษจำนวนหนึ่งกำลังทำงานกันอยู่ ไกลออกไปลิบๆเป็นพื้นที่รกๆ แล้วก็เป็นรั้วรวดหนามที่กั้นระหว่างคุกหญิงกับคุกชาย หลังรั้วลวดหนามเป็นไม้พุ่ม ที่ขึ้นอย่างหนาแน่นจนดิฉันไม่สามารถมองเห็นส่วนของนักโทษชายได้ถนัดนัก นอกจากจะเห็นบางส่วนของอาคารและโรงเอนโผล่พ้นยอดไม้ออกมาสองสามหลัง สายลมเอื่อยๆพัดผ่านเข้ามาทำให้ดิฉันรู้สึกสบายตัว ใจดิฉันล่องลอยไปหลังรั้วลวดหนามนั้น ...ตั้มคงจะอยู่ที่ใดที่หนึ่งตรงนั้น มันปวดร้าวเมื่อคิดถึงความจริงที่ว่าเราอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม แต่เส้นหยักๆคดเคี้ยวของรั้วดูไม่ผิดแผกไปจากเส้นขอบฟ้าที่กั้นเราไว้ให้อยู่ห่างกันคนละฟากโลก ...เราไม่มีโอกาสที่จะพบกันได้อีกแล้ว ดิฉันถอนใจด้วยความเศร้าหมอง... เสียงเปิดประตูลูกกรงดังขึ้น ดิฉันหันไปมองก็เห็นพัศดีเดินเข้ามานั่งอยู่บนเตียง “ไงครับ คุณรุ้งรู้สีกสดชื่นขึ้นมาแล้วซินะ” ดิฉันพยักหน้า แล้วหันกลับไปมองนอกหน้าต่างตามเดิม ได้ยินเสียงเขาพูดต่อ “ผมดีใจที่เห็นหน้าตาคุณดูผ่องใสกว่าเดิมมาก คุณเกือบจะสวยเหมือนเดิมแล้วนะ รู้มั๊ย! มานั่งตรงนี้ซิ” ดิฉันหันกลับไปก็เห็นเขาตบมือลงบนที่นอนข้างๆตัวของเขา สีหน้าของเขายิ้มแย้ม ดิฉันเดินกลับไปนั่งตามที่เขาสั่ง อย่างไม่เต็มใจ “ผมโทรศัพท์ไปบอกหัวหน้า ท่านดีใจมากที่คุณยอมตกลงกับผม คุณรุ้งต้องเตรียมต้อนรับท่าน” “เมื่อไหร่คะ” ดิฉันถามใจเต้นระทึก “คืนนี้” เขาตอบ ดิฉันใจหายวาบ สั่นระริกไปทั้งตัว “ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วไปซักหน่อย ผมพยายามจะขอเลื่อนเวลาให้แล้ว แต่ท่านใจร้อน จริงๆท่านอยากจะมาหาคุณตั้งแต่วันแรกแล้วด้วยซ้ำไป แต่ผมไม่อยากให้มีการข่มขืนในที่นี้จึงขอเลื่อนท่านมาครั้งหนึ่งแล้ว..” เขาพูดพลางลูบไล้เรือนผมของดิฉันเหมือนจะปลอบประโลม “ผมรู้ว่าคุณยังเพลีย แต่ท่านเป็นเจ้านายของผม ผมปฏิเสธท่านไม่ได้จริงๆ” น้ำเสียงของเขาเหมือนจะมีความเห็นใจอยู่นิดๆ แต่มันไม่มีความหมายสำหรับดิฉัน ดิฉันได้แต่นั่งซึมเซาอยู่อย่างนั้น หากในใจพยายามจะยอมรับความจริงซึ่งต้องเกิดขึ้น มันจะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วไม่วันใดก็วันหนึ่ง ดิฉันไม่มีทางเลือก “คุณรุ้ง ผมไม่อยากให้คุณคิดว่าผมใจร้ายและเอาเปรียบคุณจนเกินไปนะ อันที่จริง ผมถือว่าเราเป็นเพื่อนร่วมงานกันด้วยซ้ำ ผมให้ความสะดวกสบายกับคุณ ส่วนคุณก็ทำงานให้ผม” เขาหยุดเหมือนจะสังเกตท่าทีของดิฉัน แต่ดิฉันก็ยังคงนั่งฟังอย่างเงียบๆ เขาจึงพูดต่อ “รุ้งสบายใจได้นะ ผมจะไม่ให้คุณต้องนอนกับผู้ชายเยอะนักหรอก ผมจะเลือกเฉพาะผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งระดับสูงหรือไม่ก็อาจจะมีพ่อค้าใหญ่ๆบางคนเท่านั้น อาทิตย์นึงคุณอาจจะต้องต้อนรับท่านเหล่านั้นเพียงวันสองวันเท่านั้น ผมจะแบ่งเงินส่วนนึงให้คุณด้วยทุกครั้งที่คุณนอนกับลูกค้าของผม คุณจะได้มีเงินเก็บเมื่อพ้นโทษออกไป ดีมั๊ยล่ะ” ไม่เลย! ดิฉันไม่ดีใจซักนิด ความอดสูใจที่เกิดขึ้นมันได้ทำลายความอยากได้ใคร่ดีของดิฉันให้หมดสิ้นไปตั้งนานแล้วสิ่งเดียวที่ทำให้ดิฉันต้องยอมทำอย่างนี้ก็เพราะตั้มและเพื่อตั้มเพียงคนเดียวเท่านั้น “ผมมีอะไรจะให้คุณนะ ถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับในฐานะผู้ร่วมงานกันในครั้งแรกก็แล้วกัน รับไว้ซิครับ” ดิฉันหันไปมอง เห็นเขาหยิบสร้อยข้อมือออกจากกระเป๋า แล้ววางลงที่มือของดิฉัน ดิฉันก้มลงมองดูมันเพียงผ่านๆ ถึงกระนั้นก็พอจะรู้ว่ามันคงมีราคาไม่น้อย แต่เนื่องจากดิฉันไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะชื่นชมมัน ดิฉันจึงเพียงแต่เปิดตะกร้าใส่ของเล็กๆที่หัวเตียงแล้วโยนมันลงไป จากนั้นจากนั้นก็ปิดฝากลับ ไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่านั่นเป็นการสร้างความโมโหให้เขาอย่างแสนสาหัส เขาจับแขนของดิฉันทั้งสองข้างไว้แน่นแล้วเขย่าอย่างรุนแรง “อย่าทำอย่างนี้กับลูกค้าผมเด็ดขาด..” เขาตะคอกด้วยความโกรธกริ้ว “ผมไม่สนใจว่าคุณจะคิดห่าอะไรอยู่ในใจ แต่ถ้ามีคนให้ของคุณ คุณจะต้องทำท่าว่าดีใจแบบสุดๆ จะเต็มใจหรือดัดจริตก็ต้องทำ และจำใส่สมองโง่ๆของคุณด้วยว่าอย่าทำให้ลูกค้าของผมอารมณ์เสียเด็ดขาด” มือของเขากำแขนของดิฉันแน่น จนดิฉันเจ็บ
น้ำตาเริ่มคลออยู่ที่เบ้าแต่เขาไม่สนใจ ยังคงตวาดเสียงดัง “คืนนี้คุณจะต้องต้อนรับหัวหน้าผมให้ดี ผมจะบอกอะไรให้ ผมให้คนติดกล้องไว้ทุกมุมทั้งในห้องนี้และห้องน้ำ ผมจะเห็นคุณอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณมีท่าทีที่จะทำอะไรไม่ดีหรือทำให้ลูกค้าของผมอารมณ์เสีย ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ และผมจะทำให้คุณต้องเสียใจมากไปกว่าที่ทำกับผมอีกเป็นร้อยเท่า ผมเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น จำเอาไว้ให้ดี” เขาผลักดิฉันลงกับเตียงอย่างรุนแรงแล้วลุกขึ้น “จำไม่ได้หรือ เป็นคุณเองที่คุกเข่าขอร้องที่จะมาทำแบบนี้ ไม่ใช่ผมไปขอร้องคุณ เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา” เขาเดินออกไปอย่างอารมณ์เสีย ไม่สนใจกับดิฉันที่ฟุบหน้าลงกับเตียงร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป ..... วันนั้นพัศดีไม่ได้กลับเข้ามาอีกเลย จนกระทั่งใกล้ค่ำเขาจึงเดินเข้ามาพร้อมกับชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในวัยใกล้ๆจะห้าสิบหรือไม่ก็มากกว่านั้นเล็กน้อย ดิฉันลุกขึ้นยืนเมื่อทั้งคู่เดินเข้ามา “นี่คุณวิชัย หัวหน้าผม” เขาแนะนำก่อนจะหันไปพูดกับชายคนนั้น “ท่านครับนี่คุณรุ้ง” “สวัสดีค่ะ” ดิฉันพนมมือไหว้ท่านอย่างนอบน้อม ก่อนจะก้มหน้าหลบตา เพราะเขามองมายังดิฉันตาแทบไม่กระพริบ “ผมคิดว่าท่านคงจะอยากอยู่ตามลำพังกับคุณรุ้ง ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขาพูดกับท่านรองแล้วจึงหันมาพูดกับดิฉัน “คุณรุ้งต้อนรับท่านให้ดีนะ” ดิฉันเห็นแววตาของเขาแข็งกร้าวเหมือนกับจะขู่เพราะกลัวว่าดิฉันจะทำอะไรไม่ดี ซึ่งอาจจะทำให้เขาต้องเดือดร้อน ท่านวิชัยตบไหล่ของเขา “ขอบคุณมากนะคุณพิชิต ขอบคุณมากจริงๆ ผมถือว่าคุณมีบุญคุณกับผมเลยนะที่ทำสิ่งนี้ให้” “อย่าพูดอย่างนั้นซิครับ ท่านช่วยเหลือผมมามาก ผมตอบแทนแค่นี้จะเป็นไรไป” ท่านวิชัยหัวเราะอย่างพึงพอใจ พอพัศดีเดินออกไป ท่านวิชัยก็โอบไหล่ของดิฉันให้นั่งลงที่เตียง ดิฉันยังก้มหน้านิ่งด้วยความอับอาย แต่เขาก็เชยคางของดิฉันขึ้น “หนูสวยมากเลยนะหนูรุ้ง สวยกว่าที่ผมเห็นในหนังสือหลายร้อยเท่า” คำพูดของเขาสุภาพแต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย ดิฉันทั้งกลัวทั้งรังเกียจแต่ไม่กล้าขัดขืน เขาเริ่มซุกหน้าลงมาที่ซอกคอของดิฉัน ปากก็พึมพำ “ผมไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้ทำอย่างนี้กับหนูรุ้ง คนสวยของผม...อืมมมมม...หอมเหลือเกิน” เขาพึมพำเสียงกระเส่าขณะซุกไซร้เรื่อยลงมาถึงพวงแก้ม ดิฉันผงะออกตามสัญชาตญาณ

513
คืนนั้นพี่แก้วมาพร้อมกับข่าวร้ายอีกตามเคย “นายตั้มเป็นไข้รุนแรงมาก จนคนที่นั่นต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลข้างนอก แต่รุ้งไม่ต้องห่วงนะตอนนี้เค้ากลับมาแล้ว กำลังนอนพักฟื้นอยู่ในห้องพยาบาล”
ดิฉันนั่งฟังเงียบๆ ไม่มีการโวยวายเหมือนทุกครั้ง หากในใจตอนนี้มันทั้งท้อแท้และสิ้นหวัง ...... เช้าวันถัดมา พอประตูห้องเปิดออก พี่แก้วก็เดินเข้ามาดิฉันอยากซบลงร้องไห้กับอ้อมแขนของเธอ แต่ในท่ามกลางความสิ้นหวังทั้งปวง ดิฉันได้แต่ข่มกลั้นตัวเองไม่ให้แสดงท่าทีอ่อนแอออกมา “เป็นไงบ้าง รุ้ง” เธอถาม ดิฉันขดตัวแน่นบนเตียง ยกมือกุมหัว “รุ้งต้องลุกขึ้นมานะ รุ้งจะได้พบกับคณะแพทย์วันนี้”
เธอดึงตัวดิฉันขึ้นมาอย่างอ่อนโยน แต่ก็มั่นคง พี่แก้วพาดิฉันไปยังก๊อกฝักบัว สบู่เหลวถูกฉีดเข้ามาที่ตัวและผม ดิฉันเงยหน้าปล่อยให้น้ำพ่นลงบนใบหน้า ดิฉันรีบล้างฟองสบู่อย่างรวดเร็ว พอฝักบัวปิดดิฉันก็คว้าผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ได้รับ ถูไปทั่วตัว และนวดผมอย่างกระฉับกระเฉง น้ำให้ชีวิตชีวากับดิฉันอย่างประหลาด ดิฉันถูกพากลับไปที่ห้องทั้งๆยังเปลือยอยู่ จากนั้นหลังอาหารเช้าดิฉันก็ถูกพาเข้าไปในห้องโถง
ดิฉันได้รับแจกเสื้อคลุมตัวใหญ่และรองเท้าผ้าคู่หนึ่ง สุรีพร พยาบาลคู่กัดคนเดิมเดินมาบอกกับดิฉัน “เอาละฟังนะ คุณจะต้องไปพบคณะแพทย์วันนี้ อย่าก่อเรื่องเดือดร้อนอีกล่ะ” เธอพาดิฉันออกไปตามทางเดินที่ไม่คุ้น ดิฉันพยายามใช้นิ้วหวีผมแทนหวี แต่มันยุ่งกระเซิงจนแกะไม่ออก การตรวจร่างกาย ถูกทำอย่างขอไปทีในที่โล่งๆ ดิฉันถูกเปลื้องผ้าจนเปลือยเปล่าอีกครั้งและนอนอยู่บนเตียง หมอถ่างขาดิฉันออกและแหย่เครื่องมือเข้าไปตรวจ หน้าอกถูกบีบและเจาะท้องเอาเลือดไปตรวจ จากนั้นก็ถูกเรียกตัวไปพบคณะแพทย์ ดิฉันเดิน ส่ายอาดๆเข้าไป มีคนนั่งอยู่สี่คน คนหัวโต๊ะที่เป็นประธานหมุนปากกาเล่นขณะที่ดิฉันจ้องตาเขา “นั่งลง” เขาสั่ง “ฉันยืนดีกว่า” “คุณควรทำตามคำสั่งผม นั่งลง” ดิฉันนั่งลงตามที่เขาสั่ง “ผมหมอ พิทยา นั่น หมอวรัญ หมอพรเทพ และสุดท้ายหมอธีระ เอาละคุณแนะนำตัวเองได้”
“ดิฉัน คำแก้ว ชอบดี” “พอกันที” หมอวรัญขัดจังหวะ “เรารู้นะว่าคุณเป็นใคร” “แล้วจะมาถามหาหอกอะไรวะ” ดิฉันตะคอกกลับ “ฉันไม่เห็นสนว่าพวกแกจะเป็นใคร และพวกแกก็รู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นใคร ยังจะเสือกทำโง่ๆให้แนะนำตัวหาอะไรล่ะ” “คุณคือ ปรารถนา อิสรศักดิ์” “แล้วไง” “ทำไมคุณไม่ยอมบอกชื่อตัวเองล่ะ” “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแกด้วยวะ” การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะดิฉันคอยก่อกวนตลอด ความเครียดที่ดิฉันได้รับมาตั้งแต่วันแรก ทั้งจากผู้คุม และพัสดี ตลอดจนข่าวร้ายของตั้ม ทำให้ดิฉันถึงจุดระเบิดในตอนนั้น ดิฉันตอบคำถามด้วยคำสบถหยาบคายตลอด ในที่สุดก็ลงเอยด้วยการที่ดิฉันอาละวาดตามเคย การสัมภาษณ์เลยต้องเลิกล้มกลางคัน เรื่องนี้สร้างความหัวเสียให้พัศดีมากที่สุด ดิฉันถูกผู้คุมจับใส่กุญแจมือในทันที ผู้คุมหญิงลากดิฉันไปยืนต่อหน้าพัสดีในห้องของเขา หน้าคมเข้มของเขาบึ้งตึงบอกให้เห็นถึงความโกรธจัด แต่มันไม่ได้สร้างความสะทกสท้านให้แก่ดิฉันแม้แต่น้อย “เอาละ พอกันที ผมไม่มีเวลาเล่นกับคุณแล้ว” “เหรอคะ แต่ดิฉันมีเวลาเหลือเฟือ จำไม่ได้เหรอ”
“ใช่ แต่คุณมันโง่บัดซบ ผมหลงนึกว่าคุณฉลาด” “ขอโทษที่ทำให้ท่านผิดหวัง” ดิฉันพูดเยาะเย้ยกลับ เขาถอนหายใจยาวราวกับว่าพยายามจะข่มกลั้นความโกรธทั้งปวงไว้ “ผมมีข่าวของแฟนคุณมาบอก”
ดิฉันชะงัก ใจหายวาบ นี่คือสิ่งที่ดิฉันกลัวมากที่สุด ข่าวของตั้ม ทุกครั้งที่ได้ยินมันจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ “เขาถูกรุมอัดถั่วดำ ผมเสียใจที่จะต้องบอกคุณว่า อาการของเขาน่าเป็นห่วงมาก” ดิฉันตกตะลึงพรึงเพริด เข่าอ่อนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ความเก่งกล้าหยิ่งผยองหายออกไปจากตัวจนหมดสิ้น “ผมช่วยเขาได้ถ้าคุณต้องการ คุณไปคิดให้ดี เวลาของคุณมีมากกมายก็จริง แต่เวลาของเขาเหลือน้อเต็มที อนาคตของเขาอยู่ในกำมือของคุณ ไปได้แล้ว ผมเบื่อเต็มทน” เขาไล่ดิฉันออกมา ...... ดิฉันฟุบตัวลงกับเตียงอย่างหมดแรง ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ในที่สุดดิฉันก็เข้าใจความจริงทั้งหมด เรื่องที่ตั้มถูกทำร้ายมันไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่มันเกิดจากการที่ดิฉันไม่ยอมทำตามใจของพัสดี แทนที่เขาจะลงทัณฑ์กับดิฉัน เขากลับไปลงที่ตั้มแทน ดิฉันกลายเป็นต้นเหตุของความเดือดร้อนทั้งหมดที่ตั้มได้รับ คืนนั้นพี่แก้วมาหาดิฉันพร้อมกับข่าวร้ายเหมือนเคย “ข่าวร้ายสุดๆเลยนะ รุ้งต้องทำใจ” ดิฉันนั่งนิ่งอย่างคนใจลอย เสียงพี่แก้วเหมือนลอยมาจากที่ห่างไกล “นายตั้มโดนรุมข่มขืน อาการหนักมาก” ดิฉันยังคงเซื่องซึม ในขณะที่พี่แก้วกลับรู้สึกแปลกใจที่ดิฉันไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเหมือนเช่นทุกครั้ง “อย่าคิดมากนะรุ้งนอนซะ ยังไงรุ้งก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ปล่อยไปตามบุญกรรมละกัน พี่ไปก่อนนะ” เธอพูดแล้วเดินจากไป ดิฉันพึมพำ ทวนคำของพี่แก้ว “ยังไงรุ้งก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว” ไม่หรอก..ดิฉันช่วยได้ ดิฉันตัดสินใจแล้ว ...... เช้าวันต่อมาดิฉันขอเข้าพบพัสดี เขานั่งไขว่ห้างอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟา ในขณะที่ดิฉันเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา พัสดีลดหนังสือพิมพ์ลงแล้วกล่าวทักทาย “ไง คุณรุ้ง คิดได้แล้วใช่มั๊ย” “รุ้งจะยอมทำตามคำสั่งท่านทุกอย่าง แต่มีเงื่อนไข” “ยังไง” “ท่านต้องทำให้รุ้งเห็นก่อนว่าท่านช่วยตั้มจริงๆ” “ไม่มีปัญหา” “ รุ้งมีเรื่องขอร้องท่าน อีกเรื่อง” “ว่ามา” “หลังจากท่านช่วยตั้มแล้ว รุ้งอยากพบกับตั้มอีกครั้ง รุ้งอยากได้ยินจากปากตั้มว่าเขาสบายดีจริงๆ” “ถ้าผมไม่อนุญาตล่ะ ผมรับปากว่าช่วยก็ต้องช่วย คุณต้องเชื่อ คุณไม่มีสิทธิต่อรองมากไปกว่านั้น ถ้าไม่พอใจก็กลับไปยังห้องเดิมของคุณ” เขาพูดอย่างไม่ไยดี อย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า แต่ดิฉันทรุดฮวบ คุกเข่าหมอบลงแทบเท้าของเขา แล้วร้องไห้อย่างคนที่สิ้นแล้วซึ่งศักดิ์ศรีทั้งปวง “…รุ้งยอมแล้ว ....รุ้งยอมทุกอย่าง ....อภัยให้กับความโง่ของรุ้งด้วยเถอะ ....ให้โอกาสรุ้งได้พบตั้มซักครั้ง เมตตารุ้งเถอะ..สงสารรุ้งเถอะ..” ดิฉันร้องไห้อ้อนวอนเขาอย่างคนที่สิ้นท่า อ่อนแอ และผิดหวังในตัวเอง ...... พัศดีจัดให้ดิฉันได้พบตั้มตามคำขอในที่สุด ทันทีที่เห็นหน้าตั้มดิฉันโผเข้ากอดเขาในทันที เขากอดกระชับดิฉันไว้ด้วยอ้อมแขนที่แข็งแกร่งและอบอุ่น มือลูบไปตามแผ่นหลังและไหล่ของดิฉัน ดิฉันกอดเขาอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน อยากที่จะให้เวลาหยุดอยู่แค่นั้น แต่แล้วตั้มก็ผลักดิฉันออกเบาๆ ใช้นิ้วปัดเรือนผมที่ปกหน้าออก แล้วเช็ดน้ำตาให้ สัมผัสที่ได้รับบอกให้รู้ว่านิ้วของเขาหยาบกระด้างขึ้น “อย่าร้องนะรุ้ง นิ่งซะนะ อย่าอ่อนแอ รุ้งต้องเข้มแข็ง” เขาปลอบโยนอย่างนุ่มนวล เหมือนที่เคยเป็น “ตั้ม รุ้งคิดถึงตั้มเหลือเกิน” “ตอนนี้ตั้มสบายดีแล้วละ พัสดีแยกตั้มมาอยู่ห้องเดี่ยว ไม่ต้องพบกับใครมาก และไม่ต้องทำงานหนัก รุ้งไม่ต้องเป็นห่วงตั้มอีกต่อไปแล้ว แต่รุ้งน่ะผอมไปเยอะเลยนะ แล้วดูอิดโรยมาก” “ตั้มคะ ทำไมเราถึงโชคร้ายขนาดนี้ เราไม่น่าคิดสั้นเลย
ชีวิตเรากำลังจะมีความสุขกันแท้ๆ” “อย่าไปคิดถึงอดีตที่เราแก้ไขไม่ได้เลยรุ้ง ผมติดคุกตลอดชีวิต อนาคตของผมจบสิ้นแล้ว แต่ของรุ้งยังมี” เขาฝืนยิ้มอย่างเศร้าๆ ในขณะทีดิฉันฟังเงียบๆ น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย เขาพูดต่อ “สิบห้าปีมันอาจจะฟังนานมาก แต่ก็ไม่นานเกินรอ รุ้งอายุ 22 พออายุ 37 รุ้งก็จะเป็นอิสระ รุ้งต้องลืมตั้มซะแล้วหาคนดีๆ ยังพอมีเวลาสำหรับรุ้งที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่” “ไม่! รุ้งจะไม่แต่งงาน รุ้งรักตั้มคนเดียว” “เหลวไหล! อย่าให้ตั้มไปทำลายอนาคตของรุ้งอีก เท่านี้ตั้มก็เจ็บปวดพอแล้ว ลืมตั้มซะ ไม่มีโอกาสที่เราจะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว” เขาก้มลงจูบดิฉันราวกับจะเป็นสัญญาณของการลาจากชั่วนิรันดร์ ดิฉันหลับตาอยากให้ทุกอย่างที่ได้รับรู้เป็นเพียงแค่ฝันร้ายตื่นหนึ่ง ดิฉันอยากจะหลับตาไว้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะไม่ต้องลืมตาขึ้นมาเห็นความจริงอันเจ็บปวด ...แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป หากความร้าวรานของการพลัดพรากจากคนรักยังคงดำรงอยู่ และอาจจะอยู่ในความทรงจำอย่างนี้ไปตราบชั่วชีวิตของดิฉัน...

514
คืนนั้นดิฉันตื่นขึ้นมากลางดึกรู้สึกหิวแสบท้องไปหมด ดิฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่มาที่นี่ “คุณรุ้ง คุณรุ้งคะ” เสียงกระซิบดังมาจากลูกกรงหน้าห้อง “ใครน่ะ ต้องการอะไร” ดิฉันถามเบาๆ พยายามเพ่งมองทะลุช่องลูกกรงออกไป แต่ข้างนอกมืดจนมองอะไรไม่เห็น ดิฉันเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ อย่างระมัดระวัง ดิฉันไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่ อาจมีใครเล่นสกปรกกับดิฉัน “พี่แก้วเอง พี่แก้วเป็นผู้คุมที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณรุ้งไง” หน้าของเธอโผล่มาให้เห็นทางช่องลูกกรง “มีธุระอะไร” ดิฉันถามอย่างระแวง เธอหยิบยื่นของชิ้นหนึ่งให้ มันมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย และห่อไว้ด้วยกระดาษ
“พี่เอาขนมปังมาให้ คุณรุ้งคงจะหิว ...” “ต้องการอะไรจากรุ้งรึเปล่า” ดิฉันไม่ยอมรับห่อที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้น เนื่องจากยังระแวง “อย่าถามพี่อย่างนั้นซิคุณรุ้ง พี่ชอบคุณรุ้ง และสงสารคุณรุ้ง กินซะเถอะนะอย่าระแวงพี่เลย” ดิฉันแทบไม่เชื่อหูตัวเอง คิดไม่ถึงว่าดิฉันจะได้พบน้ำใจในที่ๆดิฉันสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด ดิฉันรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา สะอื้นออกมาอย่างไม่รู้ตัว “อย่าร้องไห้ซิคุณรุ้ง นิ่งนะคนดี แล้วทานขนมปังซะ” เธอปลอบโยนดิฉันด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ซึ่งยิ่งทำให้ดิฉันน้ำตาไหลพรากลงมาอีก “พี่แก้วเรียกรุ้งว่ารุ้งเถอะ อย่าเรียกคุณเลย” ดิฉันร้องไห้ รับห่อขนมปังมาจากมือหยาบกระด้างนั้น พลางแก้ห่อออก กลิ่นของมันชวนกินที่สุดในเวลานั้น ดิฉันอ้าปากกัดมันทันที มันเป็นขนมปังที่อร่อยที่สุดเท่าที่ดิฉันเคยกินมา “รุ้งอย่าคิดมากนะ รุ้งน่ะยังโชคดีกว่านักโทษคนอื่นเยอะเลย นักโทษทั่วไปน่ะ เขานอนรวมกันในห้องรวมเบียดเสียดกันขนาดทีเรียกว่าแทบจะไม่มีที่พลิกตัวด้วยซ้ำ ห้องของรุ้งเนี่ยสบายที่สุดเลยนะ รู้มั๊ย” “ทำไมเขาถึงให้รุ้งนอนห้องนี้ ล่ะพี่แก้ว” ดิฉันยังงุนงง บอกตามตรงว่าสิ่งที่ดิฉันเจอมาทั้งวันนั้นเรียกว่าโชคดีไม่ได้เลย “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พัสดีบอกกับผู้คุมทั่วไปว่า รุ้งมีอาการป่วยทางจิต ต้องแยกออกมาขังเพื่อรอตรวจสอบจากคณะแพทย์ก่อน ถ้าไม่มีปัญหาจึงจะปล่อยตัวให้ไปอยู่รวมกับนักโทษอื่น ..รุ้ง เอ้อ พี่ถามตามตรง รุ้งเคยเป็น...”เธออึกๆอักๆ ดิฉันอยากจะหัวเราะให้ลั่น พัสดีมันเอาเหตุนี้มาอ้างเพื่อจะแยกดิฉันออกมา มันคงหวังจะที่จะจัดการอะไรได้ตามใจชอบ ไอ้สารเลวเอ๊ย! ดิฉันด่าเขาในใจ แต่อีกใจก็คิดว่าดีเหมือนกัน ที่ไม่ต้องไปเบียดสียดแย่งที่กับนักโทษคนอื่น แต่มันก็ต้องแลกกับการถูกลอบทำร้าย การอยู่ตามลำพังในที่แบบนี้มันง่ายต่อการควบคุมและจัดการ หากพัศดีต้องการทำอะไรรุนแรง ดิฉันสลัดเรื่องนี้ออกจากหัว เพราะมีสิ่งอื่นที่ดิฉันสนใจมากกว่า “พี่แก้ว พี่แก้วช่วยอะไรรุ้งซักอย่างได้มั๊ย” “เรื่องอะไรจ๊ะรุ้ง” “รุ้งมีเพื่อนถูกขังอยู่ในส่วนของนักโทษชาย เขาชื่อ วิชิต สุริยตระกูล
รุ้งอยากรู้ข่าวคราวของเขา” “ไม่มีปัญหารุ้ง แฟนพี่ทำงานอยู่ที่นั่น เดี๋ยวพี่จะสอบถามให้ แล้วรุ้งอย่าบอกใครนะว่าพี่เอาขนมปังมาให้ มันผิดกฏที่นี่ นอนซะ พี่ไปแล้ว” เธอทำท่าจะไปแต่แล้วชะงักหันมาพูดต่อ “แล้วรุ้งอย่าไปยั่วโมโหอีแตนมันนะ” “ใครคะแตน” ดิฉันถามอย่างงงๆ “ก็ผู้คุมคนที่ตุ๊ยท้องรุ้งน่ะ มันมีอิทธิพลอยู่ในนี้ ผู้คุมคนอื่นๆยังต้องยอมมันเลย” “ไม่ต้องห่วงค่ะพี่แก้ว รุ้งจะพยายามไม่ไปขัดใจมัน” ดิฉันบอก เธอจึงยอมเดินจากไป ดิฉันกลับมาล้มตัวลงนอนกับเตียง รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ ไม่เพียงแต่เพิ่งจะได้เพื่อนใหม่ในที่นี้เท่านั้น แต่ยังจะได้รู้ข่าวคราวของตั้มอีกด้วย ดิฉันใจเต้นแรงก่อนจะนอนหลับไปในที่สุด ....... ตอนเช้า ดิฉันลุกขึ้นจากเตียง ก้าวกระโผลกระเผลกไปถึงหน้าต่าง อากาศภายนอกดูเงียบเหงา แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีสายลมเอื่อยๆพัดมา ซึ่งมีผลทำให้ กิ่งไม้เหียวแห้งที่มีใบหรอมแหรมแก่วงไปมาอย่างเซื่องซึม ก่อนที่จะตัดสินใจสลัดใบแห้งให้ปลิวคว๊างออกจากต้นลงไปสองสามใบ มันปลิวพลิ้วร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ดิฉันหมุนตัวกลับไปที่ประตู แล้วตะโกนออกมาด้วยความโกรธอย่างรุนแรง แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเพราะแทนที่เสียงของดิฉันจะเป็นเสียงกรีดร้องอย่างที่ตั้งใจ มันกลับดังอย่างแหบแห้งอยู่ในลำคอ “เฮ้ ไอ้พวกข้างนอกนั่น แกจะให้อาหารสัตว์กี่โมงวะ” ดิฉันตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่รู้สึกอ่อนแรงด้วยความหิว ขนมปังของพี่แก้วไม่เพียงพอที่จะทำให้ดิฉันทรงกายได้อย่างมั่นคง ดิฉันรู้สึกหน้ามืดและเซกลับไปนอนบนเตียง ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขยับตัวแม้แต่น้อย เสียงกุญแจไขประตูดังขึ้น ผู้คุมหญิงแปลกหน้าคนหนึ่งสั่งให้ดิฉันเดินออกไปข้างนอก ที่แขนของเธอมีผ้าคาดซึ่งบอกให้รู้ว่าเธอเป็นคนดูแลโซนนี้ พยาบาลคนเดิมที่ชื่อสุรีพร ยืนรออยู่ข้างนอก เธอมองหน้าดิฉัน
ดิฉันก็ทำหน้ายั่วโมโหเธอ “ฟังทางนี้นะคุณรุ้ง” เธอพูด “ที่นี่คือตึกคนไข้เดี่ยว คุณจะถูกขังอยู่ที่นี่จนถึงเวลาตรวจร่างกายกับคณะแพทย์ หลังจากนั้นถ้าไม่มีปัญหา คุณจะถูกส่งกลับไปยังห้องขังรวมกับนักโทษปกติ ถึงตอนนั้นคุณจะอาละวาดยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเรา แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นคุณต้องทำตัวให้อยู่ในกฎระเบียบของที่นี่ อย่ามีปัญหา ถ้าคุณแส่หาเรื่อง คุณก็ต้องรับผลจาการกระทำของคุณเอง” เธอหยุดพูด เมื่อเห็นดิฉันนิ่งเงียบจึงพูดต่อ “คุณจะถูกพาไปส้วมวันละสี่ครั้ง หลังกินข้าวและก่อนดับไฟ คุณต้องทำธุระส่วนตัวตามเวลาเท่านั้น ฉันไม่อยากให้คุณมาทำเลอะเทอะในห้องขัง ที่นี่เรามีคนน้อยและไม่อยากเช็ดของเสียให้ใคร” “นี่คือ คุณเพ็ญ ผู้ดูแลของโซนนี้ คุณตามเธอไปห้องส้วมได้” เพ็ญพาดิฉันไปเข้าห้องส้วม แล้วพากลับมายังห้อง ในที่สุดเธอก็นำอาหารมาให้ มันเป็นข้าวแกงรสชาติห่วยๆที่เหม็นสตึ แล้วก็แก้วน้ำพลาสติกที่ใส่น้ำไว้ครึ่งเดียว ถึงรสชาติข้าวแกงมันจะห่วยสิ้นดี แต่ดิฉันก็กินมันจนหมด ปริมาณอันน้อยนิดของมันไม่ได้ช่วยบรรเทาความหิวเลย แถมกลับกระตุ้นให้อยากกินมากยิ่งขึ้น
“กลับมาก่อน” ฉันกรีดร้อง “กลับมา จะกินอีก” สุรีพรทะลึ่งพรวดมาที่กรงขัง “ฟังนะ” เธอพูด “แกไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆทั้งสิ้น แกต้องกินเหมือนและเท่ากันกับคนอื่น กลับไปที่เตียงแล้วอย่าแหกปากอีก”
ดิฉันจ้องหน้าเธอ ดิฉันรู้ว่าเธอโกรธและแค้นที่ดิฉันเขียนข้อความด่าเธอในหนังสือแฟชั่นเล่มนั้น ดิฉันขว้างแก้วพลาสติกลงพื้น มันกลิ้งหลุนๆไปข้างนอก แล้วดิฉันก็เดินกลับไปที่เตียงอย่างสง่า
“แกออกมานี่ แล้วเก็บของๆแกกลับไป” เธอแหกปาก ซึ่งดิฉันต้องยอมรับว่าเวลาที่เธอกรีดร้องนี่ เสียงดังยิ่งกว่าดิฉันหลายเท่า “เก็บมันไปเดี่ยวนี้” ฉันยิ้มอย่างเย้ยหยัน ทำเสียงล้อเลียน “โอ คุณพยาบาลขา ดิฉันป่วยหนักคุณไม่เห็นเหรอคะ” เธอจ้ำพรวดๆเข้ามา แล้วเหวี่ยงดิฉันออกไปที่พื่น แล้วชี้มือไปที่แก้วน้ำ “เก็บขึ้นมาเดี๋ยวนี้” เธอชี้มือไป “เก็บขึ้นมา” เธอตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หน้าแดง น้ำเสียงสั่นเทาด้วยความโกรธ “ถ้าทำแค่นี้แล้วพี่สาวมีความสุขได้ละก็ จะเป็นไรไปเล่า ฉันจะกล้าขัดใจพี่สาวรึ” ดิฉันก้มลงคลานสี่ตีนไปที่ห้องโถง เก็บแก้วน้ำ แล้วคลานกลับมาหาเธอ แลบลิ้นเลียมุมปาก เธอกระชากผมดิฉันแล้วเหวี่ยงจนหมอบ ดิฉันตะโกนด่า “อีสารเลว มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ” “กูเป็นนายมึงไง อีรุ้ง จำใส่หัวมึงไว้ เพื่อผลดีแก่ตัวมึงเอง” เธอคำรามออกมาจากปากสวยๆนั้น ในที่สุดดิฉันยั่วให้เธอสติแตกจนได้ เธอหันไปสั่งเพ็ญ “จับอีนี่เข้าไปไว้ในห้องตามเดิม แล้ววันนี้ไม่ต้องให้อาหารมันอีก” เธอสั่งแล้วเดินเชิดหน้าจากไป ....... คืนนั้นดิฉันนอนขดตัวด้วยความหิว จนกระทั่งตอนค่ำ เสียงเรียกของพี่แก้วก็ดังขึ้น “รุ้ง พี่มาแล้ว” ดิฉันทะลึ่งพรวดไปหาเธออย่างดีใจ เธอส่งห่อขนมปังให้ ดิฉันรีบหยิบขึ้นมากินอย่างตะกราม “รุ้ง ที่รุ้งทำวันนี้ไม่ดีเลย” เธอตำหนิ “พี่แก้ว รุ้งทนไม่ไหว เธอรังแกรุ้งก่อน รุ้งจะบ้าตายอยู่แล้ว” “รุ้งจะต้องอดทน อย่าทำอย่างนี้อีก รุ้งไม่มีวันชนะ เมื่อไหร่จะเข้าใจซะที” เธอถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ดิฉันไม่สนซักนิด ดิฉันถามคำถามสำคัญที่สุด คำถามที่เฝ้ารอคำตอบมาทั้งวัน
“พี่แก้ว เรื่องของตั้มว่าไงคะ ได้เรื่องรึยัง” “ได้แล้วหละ รุ้งสงบใจไว้ก่อนนะ ฟังดีๆ แล้วเตรียมใจไว้ด้วย” น้ำเสียงของเธอเป็นกังวล จนดิฉันใจเต้นระทึก “เขาถูกเพื่อนนักโทษรุมทำร้าย ตอนนื้ป่วยหนักนอนอยู่ในห้องพยาบาล กระดูกซี่โครงเขาหักไปสา..รุ้ง!” ดิฉันตกใจจนช็อคได้ยินเสียงเรียกสุดท้ายก่อนที่จะหมดสติไป ....... ดิฉันตื่นขึ้นมาตอนดึก เมื่อคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาทำให้ดิฉันอ่อนล้า ดิฉันอ่อนแรงลงไปทุกที ข่าวร้ายของตั้มเหมือนกับหมัดฮุคที่ฟาดเปรี้ยงลงที่ช่องท้องของดิฉัน มันทำให้ดิฉันอ่อนแอจนแทบหมดกำลังใจจะสู้ต่อ แต่ดิฉันก็รวบรวมกำลังใจไว้ ดิฉันจะไม่ยอมจำนนคำขู่เข็ญใดๆ ดิฉันจะยอมแพ้ไม่ได้ นึกถึงความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวของตัวเอง ดิฉันจะสู้จนกว่าจะหมดลมหายใจ คิดหรือว่าแค่นี้จะปราบดิฉันลงได้! คิดหรือว่าแค่นี้จะทำให้ดิฉันยอมแพ้! ไม่มีวันเสียละ! ข่าวร้ายของตั้มทำให้ดิฉันไม่อาจข่มตาหลับได้ลง ดิฉันเดินไปเดินมาเหมือนคนบ้า แล้วก็ฉีกเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเสียสติ ผ้านั้นบางและยุ่ยจนดิฉันฉีกมันได้อย่างง่ายๆ ดิฉันฉีกมันเป็นชิ้นๆแล้วโปรยลงบนพื้น “แกจะไม่มีวันชนะ ไม่มีวัน” ....... ตอนเช้าที่ดิฉันตื่นขึ้นมา จึงรู้สึกว่าตัวเองเปลือยเปล่าล่อนจ้อนไปทั้งร่าง สติที่กลับคืนมาทำให้ดิฉันรู้สึกอับอาย ดิฉันเอาผ้าปูที่นอนห่อตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องโถงเพื่อรออาหาร พอผู้คุมเข็นรถมาดิฉันจึงรับเอาข้าวมากิน มันยังคงเป็นข้าวแกงที่รักษารสชาติสตึและเหม็นหืนไว้ได้เหมือนเดิม ดิฉันขอเสื้อกับผู้ดูแลแต่เธอก็เพียงแค่มองฉันอย่างซึมเซาไม่ได้สนใจอะไร ดิฉันกลับมาที่ห้องพักคอยจนถึงเวลาเข้าส้วมจึงเอาผ้าปูที่นอนมาห่อตัวอีกครั้ง แต่พอเข้าไปในส้วมผู้คุมคนหนึ่งก็ดึงผ้าปูออกไป ดิฉันขอเสื้อใส่อย่างสุภาพ แต่เธอกลับหัวเราะคิก และมองร่างดิฉันอย่างอยากรู้อยากเห็น
ในที่สุดเมื่อดิฉันทำธุระเสร็จ ผู้คุมก็มาปลดสายรัด ดึงดิฉันลุกขึ้นจากโถ ดิฉันวิงวอนขอเสื้อ แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดดิฉันก็หมดความอดทนอีกครั้ง เริ่มตะโกนด่า “นังสารเลว ถ้าไม่ให้เสื้อก็เอาผ้าปูที่นอนมาซิวะ มันเป็นของกูนะโว๊ย เอาคืนมา” ผู้คุมหญิงร่างใหญ่คนหนึ่งเอามือกระชากร่างเปลือยของดิฉันออกจากห้องน้ำ จังหวะนั้นเองดิฉันก็เห็นพัศดีเดินเข้ามา ดิฉันใจหายวาบรีบทรุดตัวนั่งยองๆ พยายามเอามือปิดบังร่างเปล่าเปล่อยเอาไว้อย่างยากเย็น พัศดีเดินมาหยุดที่หน้าดิฉัน “เปลี่ยนใจรึยังคุณรุ้ง จะฝืนทนทรมานไปทำไม คุณมีโอกาสเลือกความสะดวกสบายที่นักโทษคนอื่นไม่มีโอกาสเลือก”เขาพูดยิ้มๆ สายตากวาดมองไปมาตามร่างเปล่าเปลือยของดิฉันเหมือนจะยั่วให้เจ็บใจ “ท่านคงสนุกที่ได้ทำอย่างนี้ใช่มั๊ย” ดิฉันกัดฟันกรอดๆด้วยความแค้นใจ “ใช่ ผมสนุก คุณดื้อกว่าที่ผมคิด แต่รู้มั๊ยว่าคุณยิ่งดื้อผมยิ่งชอบ
ที่นี่มันน่าเบื่อมานานแล้วจนกระทั่งคุณเข้ามานี่แหละ” “ท่านไม่มีวันชนะ” ดิฉันคำราม “แล้วเราจะได้รู้กัน” เขาผิวปากอย่างมีความสุขแล้วหันกายเดินจากไป 

515
ผู้คุมทั้งสองคนพาดิฉันออกมา เราเดินไปตามทางแคบๆ หยุดอยู่ที่หน้าประตูที่สองที่มีคำว่า “ห้องตรวจโรค” ติดอยู่ ผู้คุมหญิงกดออด และประตูก็เปิดออก ดิฉันถูกพาเข้าไปในห้อง ผู้คุมหญิงปล่อยให้ดิฉันงยืนอยู่เฉยๆโดยไม่ได้สั่งอะไร พยาบาลคนหนึ่งกำลังยืนตรวจแฟ้มของดิฉัน เธออ่านสองสามบรรทัดแล้วจ้องมองดิฉันอย่างแปลกๆ แล้วก็อ่านต่อไป ในที่สุดเธอก็พูดว่า “พาเธอไปส้วม พัสดีสั่งให้พาเธอเข้าไปอยู่ห้องในสุด ด้านซ้าย” เธอหยิบเสื้อคลุมสีฟ้าตัวสั้นๆ ออกมาจากลิ้นชักโลหะแล้วส่งให้ผู้คุมหญิง “ใส่กุญแจมือเธอเธอไว้อย่างนั้น จนกว่าจะพาเธอกลับไปเข้าห้องขัง” พยาบาลมองหน้าดิฉันอีกครั้งอย่างแปลกใจ “หน้าของเธอเป็นอะไร” “ตอนที่เราเอาตัวมา เธอก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว” “เธออาจจะหกล้มก็ได้ ได้ยินว่าเธออาละวาดอย่างคลุ้มคลั่งในศาล” “อุบัติเหตุเหมือนเดิม” พยาบาลสาวส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “พาเธอไปส้วมและทิ้งไว้บนโถ เอาสายรัดมัดเธอไว้ด้วย เดี๋ยวอาละวาดอีก” พวกเขาพาดิฉันเข้าไปในห้องเล็กๆ มันยาวราวๆ 3 เมตร และกว้างไม่เกิน 2 เมตร พอประตูถูกผลักออก กลิ่นเหม์นน่าขยะแขยงก็โชยออกมา ดิฉันเริ่มไอรู้สึกคลื่นไส้ทันที “เธอคิดว่ามันเหม็นรึ” ผู้คุมหญิงหัวเราะ “ทนเอาหน่อยนะที่รัก...ไม่เห็นมีอะไรซักหน่อย” อ่างล้างมือสกปรก มีโถส้วมอยู่สองอันซึ่งสกปรกไม่แพ้กัน โถส้วมแต่ละอันมีห่วงเหล็กที่สนิมจับเขรอะติดอยู่ ผู้คุมดึงเอาสายผ้าใบสกปรกออกมา ผู้คมคนหนึ่งจับดิฉันให้ยินอยู่หน้าโถส้วม เอื้อมมือเข้าไปใต้กระโปรงดึงกางเกงในออกมา มันเป็นคราบเขรอะและชื้น ดิฉันรู้สึกอายขณะที่มันถูกดึงลงมาอยู่ตรงเข่า “เอาละ” เธอสั่ง “ก้าวออกมา” แล้วเธอก็ถลกกระโปรงขึ้นมา ดึงให้มากระจุกอยู่รอบอก ในขณะที่ดิฉันนั่งลงไป ผู้คุมหญิงคนหนึ่งเกี่ยวสายผ้าใบคล้องกับห่วงข้างหนึ่งบนพื้น ดึงมันให้ขึ้นมารัดบนตักดิฉันและสับเข้ากับห่วงอีกอันบนพื้น ร่างของดิฉันถูกมัดติดกับโถเปล่า เนื้อตัวดิฉันเริ่มสัมผัสกับน้ำ แล้วพวกเขาก็ออกไป กางเกงในของดิฉันม้วนขดกองอยู่บนพื้น ดิฉันพยายามเอื้อมเท้าเข้าไปหา แล้วใช้นิ้วหนีบรอบๆเจ้าสิ่งที่เต็มไปด้วยคราบนี้ แล้วเขี่ยขาที่สกปรกไม่แพ้กันมาทางข้างหลัง จัดการเตะมันออกไปให้พ้นหูพ้นตา ดิฉันรอจนกระทั่งกล้ามเนื้อทุกแห่งในร่างกายเริ่มกระตุกก็เริ่มกรีดร้องเสียงหลง และร้องอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ในที่สุดผู้คนสองคนก็ตรงเข้ามาในห้องน้ำ หนึ่งในผู้คุมเงื้อมมือทำท่าจะฟาดลงมาที่หน้าของดิฉัน แต่อีกคนร้องห้าม
“อย่าตบเธอนะ พัสดีสั่งห้ามไว้” “แกน่าจะหุบปากไว้นะนังคนสวย ในนี้ไม่มีใครได้ยินแกหรอก นอกจากพวกเรา ซึ่งก็ไม่มีใครอยากฟังเสียงแกเลย” “อีนังสารเลว” ดิฉันแยกเขี้ยวคำราม และด่ามันกลับเป็นชุดๆ จนในที่สุดมันก็ชกท้องดิฉันจนจุก พยาบาลเห็นเข้าก็ร้องอย่างตกใจ “อย่าไปยุ่งกับเธอ” พยาบาลสั่ง “พอทีเหอะ “ ผู้คุมคนนั้นหันมามองดิฉันอย่างอาฆาต “ท้องเสียรึเปล่า” พยาบาลถามฉันเหมือนจะห่วงใย แต่ริมฝีปากเธอยิ้มอย่างเหยียดหยาม ดิฉันอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้า “ใช่” ผู้คุมคนหนึ่งก้มลงมาปลดสายรัดออก ดิฉันเตรียมตัวจะลุกขึ้น แต่ผู้คุมคนที่ชกท้องดิฉันผลักไหล่อย่างแรงให้กลับลงไปบนโถอีก เธอเอนพิงลงมาที่ดิฉันจนสะโพกของดิฉันแช่อยู่ในน้ำสกปรกข้างใต้ “นั่งเฉยๆ ซิวะนังตัวดี ถ่างขาออก” เธอถือกระดาษชำระอยู่ในมือและเช็ดอย่างแรงจนดิฉันต้องอ้อนวอนให้หยุด เธอยืนขึ้นใช้มือข้างที่เหลือหนีบรอบคางและบีบขากรรไกรบังคับให้ดิฉันต้องอ้าปากออก สีหน้าของเธอถมึงทึงหน้ากลัวมาก พอเห็นเธอยกกระดาษชำระที่เปียกโชกมาทางปากดิฉัน ดิฉันพยายยามกรีดร้อง แต่นิ้วมือของเธอเลื่อนลงมาบีบคอหอยด้วยท่าทีที่ตั้งใจจะสร้างความเจ็บปวดให้ดิฉัน เป็นครั้งแรกที่ดิฉันรู้สึกกลัวที่สุดในชีวิต แต่ดิฉันพูดไม่ได้ มีแต่เสียงครวญครางอ้อแอ้หลุดออกมาจากปาก ดิฉันมองไปขอความช่วยเหลือจากพยาบาล แต่เธอเมินหน้าไปทางผนังทำเป็นวุ่นอยู่กับตู้ยาทั้งๆที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดิฉันอ่านท่าทางของเธอออก พยาบาลไม่อยากเข้ามายุ่งเรื่องของผู้คุม แต่ดิฉันจับได้ว่ามีแววความเห็นใจปรากฏอยู่บนใบหน้าเธอ “อ้าปากกว้างๆนังคนสวย” ผู้คุมบอก “แกน่าจะรู้ว่านักโทษที่นี่ต้องกินขี้ตัวเองทั้งนั้น แกดีมาจากไหนวะจะมาทำเป็นวิเศษกว่าคนอื่น” ดิฉันรู้ว่าเธอกำลังลำพองอยู่กับการใช้อำนาจของตัวเอง ตาของเธอเป็นประกายอย่างสะใจ ในขณะที่นิ้วมือเค้นอยู่รอบคอหอยของดิฉัน ดิฉันรู้สึกถึงลมหายใจอันร้อนผ่าวของเธอ แล้วกระดาษชำระที่เกรอะกรัง ก็ถูกยัดเข้ามาในปากดิฉัน ดิฉันไม่แน่ใจว่าเธอทำอย่างนี้กับนักโทษทุกคนจริงๆ หรือเป็นการจงใจของพัศดีที่ต้องการสร้างความกดดันให้ดิฉันสยบอยู่กับอำนาจของเขา แต่ดิฉันตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ยอมแพ้ ดิฉันจะต้องสู้จนกว่าลมหายใจของดิฉันจะหมดไป ไม่มีวันที่ผู้คุมหญิงคนนี้จะชนะ ดิฉันตอบโต้การกระทำอันป่าเถื่อนนั้นด้วยการปล่อยตัวนั่งตามสบายบนโถ จ้องตรงเข้าไปในดวงตาของเธออย่างท้าทาย และเริ่มเคี้ยว ดิฉันทำลายความสนุกของเธอ ทำให้เธอโกรธจัด เธอกำหมัดแน่นทำท่าจะชกท้องดิฉันอีก “อย่าไปยุ่งกับเธอน่ะ” พยาบาลร้องอย่างคนที่ทนดูไม่ไหว “ปลดสายรัดออกแล้วพาเธอออกไปซะ ชั้นเหนื่อยเต็มทีแล้ว” ด้วยการที่ถูกรัดกุญแจมือไขว้หลังไว้ทำให้ลำบากต่อการทรงตัวและเอี้ยวตัว ดิฉันลุกขึ้นจากโถส้วมแบบเซๆ ผู้คุมพาดิฉันเดินผ่านทางเดินมืดไปจนถึงห้องในสุด แล้วพาเข้าไปในห้องขังด้านซ้าย ในห้องมีเฟอร์นิเจอร์อยู่เพียงชิ้นเดียว นั่นคือที่นอนทำด้วยเหล็กยื่นมาจากผนัง มีที่นอนฟูกบางๆวางอยู่ ไม่มีหมอนและผ้าห่ม หน้าต่างลูกกรงมีสนิมกรัง ทั้งห้องเหม็นสาบไปหมด ผู้คุมคนหนึ่งถอดกุญแจมือออก แขนดิฉันร่วงห้อยลงไปอย่างหมดแรง ผู้คุมคนที่ชกท้องดิฉันยืนพิงประตูและถลึงตาใส่ ผู้คุมหญิงคนที่ถอดกุญแจมือบอกให้ถอดเสื้อผ้าออก แต่ดิฉันไม่มีแรงยกแขนหรือแม้แต่จะขยับนิ้ว เธอจึงเข้ามาช่วย ถอดเสื้อผ้าดิฉันออก แล้วเขาชุดนักโทษที่เป็นเสื้อกระโปรงติดกันสวมเข้าที่หัว ผู้คุมคนที่ชกท้องดิฉันเดินมาเอาเสื้อผ้าดิฉันออกไป ดิฉันจึงนั่งลงตรงที่นอนและส่วยหัวไปมา พยายามไล่ความเมื่อยที่ต้นคอ พอรู้สึกสบายขึ้น จึงเหยียดตัวลงบนที่นอนและครางออกมาอย่างโล่งอก ผู้คุมคนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดิฉันเดินตามออกไป สักพักพยาบาลคนที่ตรวจดิฉันก็เดินเข้ามา เธอพูดกับดิฉันอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
“คุณคือ คุณรุ้ง ปรารถนา ใช่มั๊ยคะ ดิฉันเห็นภาพคุณในหนังสือบ่อยๆเลย ทำไมนะ ดิฉันคิดว่าคุณจะต้องอยู่ในโลกอันสวยหรู ดิฉันนึกไม่ออกเลยว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นึกไม่ออกจริงๆ” ดิฉันยกหลังมือขึ้นป้องตาและอ้าปากหาว เธอกระเถิบมายืนใกล้ๆ และกระซิบ “คุณรุ้งช่วยเซ็นชื่อเป็นที่ระลึกให้หน่อยได้มั๊ย” ดิฉันลืมตาขึ้นมา แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “เซ็นตรงนี้เลยค่ะ” เธอยื่นหนังสือที่มีรูปดิฉันขึ้นปกอยู่
และส่งปากกาให้ดิฉัน ดิฉันลุกขึ้นนั่ง โปรยยิ้ม และพูดเสียงอ่อนหวาน “เอาซิ คุณช่วยดิฉันเยอะเลยนี่ คุณชื่ออะไรนะ” “สุรีพร รักการดีค่ะ” ดิฉันเขียนอย่างหวัดๆแล้วส่งให้เธอ เธอรีบคว้าไปอ่าน แต่พออ่านเสร็จก็หน้าบึ้งตึงเดินกระแทกส้นเท้าออกจากห้อง ดิฉันหัวเราะอย่างสะใจกับฝีมือของตัวเอง ดิฉันนั่งลงบนที่นอนและหัวเราะคิก เพราะเขียนลงไปว่า “แด่ สุรีพรที่รัก อีสารเลวจัญไรละเลยหน้าที่ ... ด้วยรัก จาก รุ้ง - ปรารถนา อิสรศักดิ์” ดิฉันล้มตัวลงนอนหัวเราะเหมือนคนบ้า คิดวนไปวนมากับเรื่องนี้อย่างคนที่สะใจอย่างที่สุด ท้องฟ้าเริ่มมืดค่ำลง วันแรกกำลังจะผ่านพ้นไป ดิฉันฟุบหน้าลงกับเตียงแล้วร้องไห้ไม่หยุด เพียงวันแรกเท่านั้นดิฉันก็แทบบ้า แล้วดิฉันจะทนอยู่ที่นี่ต่อไปได้ยังไงตั้ง 15 ปี ดิฉันไม่รู้ว่าอำนาจของพัศดีมีมากแค่ไหน แต่คงไม่น้อยเลยล่ะถึงสามารถแยกดิฉันออกมาจากนักโทษคนอื่นๆได้
ดิฉันเริ่มคิดสงสัยว่า ถ้าเขามีอำนาจขนาดนี้ทำไมไม่บังคับดิฉันให้ทำตามใจซะเลย ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืน หรือทำอะไรก็ตาม หรือเขาจะกลัวอะไรบางอย่าง หรือเขาจะกลัวว่าถ้าดิฉันถูกบังคับอาจจะปูดเรื่องออกไปและทำให้ตำแหน่งของเขาสั่นคลอน เขาคงต้องการให้ดิฉันสยบยอมอย่างเชื่องเชื่ออย่างแท้จริงซินะ ใจของดิฉันล่องลอยไปถึงตั้มอีก ฟ้าค่ำอย่างนี้ เขาจะเดือดร้อนซักแค่ไหน ขนาดผู้คุมที่เป็นผู้หญิงยังทำได้ถึงขนาดนี้แล้ว ผู้คุมผู้ชายจะป่าเถื่อนซักแค่ไหน น้ำตาไหลพรากเพราะทั้งคิดถึงและเป็นห่วงเขา “ตั้มจ๊ะ รุ้งคิดถึงตั้มเหลือเกิน”

516
ครู่ใหญ่ต่อมา ก็มีผู้คุมชายและหญิงสองคนเข้ามาหาดิฉัน ซึ่งกำลังนอนหลับสนิท พอพวกเขาแก้มัดออกจากเก้าอี้ดิฉันก็ทรงตัวไม่อยู่ ขาพับเพราะทานน้ำหนักตัวเองไม่ไหว ลงไปกองอยู่บนพื้น พลางสะอื้นอย่างควบคุมสติไม่อยู่ ในขณะที่ขาปวดเหมือนโดนเข็มคอยทิ่มอยู่ กล้ามเนื้อน่องขาก็กระตุกถี่ พวกเขาลากฉันขึ้นมาบนเก้าอี้ ผู้คุมหญิงคุกเข่าลงตรงหน้าและนวดจนกล้ามเนื้อขารู้สึกคลายตัวจนยืนได้อีกครั้ง
พวกเขาพาฉันไปที่ห้องๆหนึ่ง มันเป็นห้องที่แปลกมากทีเดียว มีซี่กรงอยู่ตรงหน้าห้องนั้นซึ่งบอกให้รู้ว่ามันเป็นห้องขัง แต่ข้างในนกลับถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เหมือนห้องนอนตามบ้านทั่วไป มีเตียงนอนขนาดใหญ่ที่นอนได้สองคนปูไว้ด้วยผ้าคลุมเตียงลายการ์ตูนน่ารัก มีตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเดรื่องแป้ง เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้แม้จะไม่ถึงกับเป็นของหรูหราราคาแพง แต่มันก็ถูกออกแบบไว้อย่างน่ารักและดูดี
ยิ่งมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ทำให้ห้องนี้ดูเหมือนสวรรค์ไม่มีผิด ผู้ชายวัยกลางคนยืนอยู่ในห้องนั้น หน้าของเขาคมเข้ม ใต้จมูกมีร่องรอยของการโกนหนวดที่ไม่เกลี้ยงนักทำให้เห็นรอยเขียวครึ้มไปถึงตามคาง ซึ่งทำให้บุคลิกสง่าของเขามีร่องรอยของความเถื่อนเจือปนด้วย เขายืนนิ่งๆ ในขณะที่มองดู ผู้คุมหญิงพาดิฉันไปที่ห้องน้ำ เธอช่วยดิฉันล้างหน้าซับน้ำและฉีดยาพ่นจมูก ผู้คุมหญิงมีท่าทางที่ไม่เป็นกันเองแต่ก็ทำงานคล่อง ดิฉันรู้สึกสดชื่นที่ได้ชำระสิ่งสกปรกออกจากหน้า แม้จะยังรู้สึกถึงความอับและเหนอะหนะในกระโปรง ผู้คุมหญิงพาดิฉันเดินออกมาแล้ว กดร่างดิฉันเบาๆเป็นสัญญาณให้ดิฉันนั่งลงบนเตียง แล้วเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ ชายคนนั้น “ผมชื่อพิชิต เป็นพัศดีของที่นี่” ชายคนนั้นแนะนำตัว เสียงของเขาเหมือนดังแว่วมาแต่ไกล แม้การล้างหน้าจะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างแต่ดิฉันก็เหนื่อยและเพลียเหลือเกิน “ผมชื่นชมคุณมานานแล้วครับ คุณรุ้ง คุณสวยแล้วก็สง่า ผมเก็บหนังสือที่มีภาพคุณไว้ทุกเล่มเลย “ เขาพูดพลางหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาโชว์ มันเป็นแฟชั่นชุดว่ายน้ำที่ดิฉันถ่ายไว้เมื่อตอนช่วงฤดูร้อน ชุดว่ายน้ำสีดำรัดเอวที่คอดกิ่ว ขณะที่สะโพกของดิฉันผายตึงเหมือนกับจะกล้าท้าให้นักวิจารณ์ทุกคนหาข้อติ หุ่นของดิฉันฟิตเปรี๊ยะในตอนนั้น แฟชั่นชุดว่ายน้ำที่ลงในหนังสือเล่มนี้เป็นชุดที่ดิฉันโปรดปรานมากที่สุด “คุณกำลังเป็นนางแบบดาวรุ่งที่มีอนาคตที่สดใส ผมไม่อยากเชื่อจริงๆว่าในทีสุดคุณจะต้องลงเอยด้วยการมานั่งคุยกับผมที่นี่ น่าเสียดาย และน่าสงสารจริงๆครับ คุณรุ้ง” ปากเขาบอกคำว่าสงสาร แต่ดิฉันไม่เห็นความสงสารในแววตาและน้ำเสียงซักนิด “คุณดูอิดโรยมากเลยนะ ผมคงต้องยอมรับว่าสภาพในนี้มันไม่ดีนัก โดยเฉพาะกับสาวสวยๆอย่างคุณรุ้ง” “ท่านต้องการอะไรคะ” เป็นครั้งแรกที่ดิฉันพูดเสียงหวานนับจากออกจากศาล มือก็ลูบไล้ไปมาบนเตียง มันอ่อนนุ่มจนดิฉันอยากจะนอนลงไปซะเดี๋ยวนั้น “คุณนี่ไม่ยอมเสียเวลาซักนิดเลยนะทั้งๆที่เรามีเวลาเหลือเฟือ” พัสดีหัวเราะเบาๆ “คุณรุ้งคิดว่าห้องนี้เป็นยังไง ...ไม่เลวเลยใช่มั๊ย” “ค่ะ” ดิฉันพยักหน้า หากในใจคิดว่ามันแทบจะเป็นสวรรค์เลยทีเดียวหละ “ผมจะให้คุณได้อยู่ในห้องนี้จนถึงวันเดินออกจากห้องขังเลยก็ได้ ผมมีอำนาจเต็มที่นี่” “....แต่ท่านคงไม่ยอมให้ดิฉันมาอยู่ฟรีๆใช่มั๊ยคะ” ดิฉันถาม พัศดีหัวเราะลั่น “คุณเป็นคนฉลาด ผมชอบคุณก็ตรงที่คุณฉลาดกว่าผู้หญิงสวยๆทั่วไปนี่แหละ มันมีข้อแลกเปลี่ยนจริงๆด้วย” ดิฉันนิ่งเงียบรอให้เขาพูดต่อ “ผมรู้จักผู้ใหญ่หลายคน คุณรุ้งรู้มั๊ย ว่าพอท่านเหล่านั้นรู้ว่าคุณจะเข้ามาอยู่ที่นี่ สายโทรศัพท์ของผมแทบจะไหม้ในวันนั้นเลย” เขาคุยอย่างตื่นเต้น ดิฉันเริ่มเข้าใจอะไรลางๆ ความฉุนเฉียวเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ “ท่านเหล่านั้นสนใจคุณมาก ถ้าคุณยอมเชื่อฟังผม ไม่เพียงแต่คุณจะได้นอนบนเตียงนุ่มๆเท่านั้น แต่อาหารการกิน ข้าวของเคริ่องใช้จะมีให้คุณอยู่อย่างสบายไม่แพ้ข้างนอกเล..”
เขาพูดไม่ทันขาดคำ ดิฉันก็ฟิวส์ขาดพุ่งกระโจนเข้าใส่เขาเหมือนคนบ้า “ไอ้คนอัปปรีย์ .. มึงเห็นกูเป็นกะหรี่รึไงวะ” ดิฉันกำหมัดแน่นพุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว แต่มันยังไม่เร็วพอ เพราะผู้คุมชายที่ยืนอยู่ข้างๆ คว้าดิฉันไว้ทัน เขากอดดิฉันไว้ไปแน่นเหมือนปลอกเหล็ก ดิฉันดิ้นรนปากก็ด่าทอไม่หยุด สักพักดิฉันก็ตกใจ เมื่อรู้สึกตัวว่าผู้คุมชายคนนั้นกอดฉันไว้แน่นในลักษณะที่ทาบแขนไว้บนทรวงอก ในขณะที่ความแข็งขันของเขาดุนดันอยู่ที่บั้นท้ายของดิฉัน ดิฉันรีบทำตัวให้สงบนิ่งพลางบอก “ปล่อยนะ ชั้นอยู่นิ่งๆแล้ว” มันหัวเราะฮิฮะแบบชอบใจ ส่ายก้นบดเบียดของมันเข้ากับที่บั้นท้ายของดิฉัน แต่ไม่ยอมปล่อย ดิฉันเห็นรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของ ทั้งพัศดีและผู้คุมหญิงด้วย “ปล่อยเธอซะ” ในที่สุดพัศดีก็สั่ง ซึ่งมันก็ยอมปล่อยแต่โดยดี “คุณรุ้งยังไม่ตกลงก็ไม่เป็นไร คุณมีเวลาคิดเหลือเฟือ อีกสองสามวันผมจะเรียกคุณมาถามใหม่” เขาพูดกับดิฉันอย่างยิ้มๆ ราวกับเชื่อมั่นว่าสามารถกล่อมดิฉันให้เชื่องได้ “ผู้คุมพาเธอไปได้แล้ว บอกเพื่อนโง่ๆของคุณด้วยว่า อย่าทำให้หน้าเธอเป็นรอยช้ำอีก มันมีค่ามากสำหรับเรา” ทั้งคู่รับคำอย่างนอบน้อม แล้วพาดิฉันเดินออกมา

517
ในชีวิตของคนเรามีใครบ้างที่ไม่เคยทำผิดพลาด บางคนทำผิดเล็กน้อยๆและถูกจับได้ทำให้เขาได้สำนึกกลับตัวก่อนที่จะทำผิดครั้งใหญ่ แต่บางคนไม่โชคดีขนาดนั้น เพราะการเริ่มต้นทำผิดเล็กๆน้อยๆแล้วไม่ถูกจับทำให้ย่ามใจ ทำหนักขึ้นไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเมื่อถูกจับได้ก็กลายเป็นความผิดครั้งใหญ่ ถูกคนประณามและสูญเสียอนาคต ดิฉันอยากจะหวังให้โลกนี้จะมีแต่คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลย
เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาเสียใจกับการกระทำของเราในภายหลัง… ดิฉันชื่อ ปรารถนา ชื่อเล่นว่ารุ้ง อาชีพของดิฉันคือนางแบบ ชื่อของดิฉันค่อนข้างโด่งดังพอตัวเลยล่ะในยุคนั้น เพราะรับงานทั้งเดินแบบ
ถ่ายแบบลงหนังสือแฟชั่น เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า และมีงานโฆษณาออกทีวีอีกสองชิ้น ในยุครุ่งเรืองนั้นดิฉันรับงานแทบไม่ไหว แฟนของดิฉัน ก็เป็นนายแบบเช่นกัน เขามีชื่อว่า ตั้มเราพบกันในงานเดินแบบแห่งหนึ่ง และปิ๊งกันในวันแรกที่ได้พบทีเดียว เขาจีบดิฉันติดในเวลาไม่นานเพราะดิฉันมีใจให้กับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตั้มมีเสน่ห์อย่างรุนแรง เขาไม่เพียงแค่หล่อเท่านั้น แต่ยังสุภาพ นุ่มนวลและเอาใจเก่ง เราไปซื้อคอนโดอยู่ด้วยกันทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน ดิฉันมีรายได้มากกกว่าตั้มอยู่พอสมควร เพราะมีงานเข้ามามากกว่า แต่ของตั้มเองๆจริงๆแล้วก็ไม่น้อย เพราะงานในสายของเราทำเงินได้มากเลยทีเดียว แต่เงินที่หามาได้ง่ายมันก็ถูกใช้ไปอย่างง่ายๆเช่นกัน เราสองคน ผ่อนทั้งคอนโด ผ่อนรถ แล้วยังมีรสนิยมหรู ซื้อของแพงๆเป็นว่าเล่น เสื้อผ้าเครื่องประดับทุกชิ้นของดิฉันก็ต้องเต็มที่ไม่ให้น้อยหน้าเพื่อนนางแบบด้วยกัน ซึ่งอีตอนที่มีรายได้ดีมันก็ไม่มีปัญหา แต่พอเศรษฐกิจตกเท่านั้นความทุกข์ก็เริ่มเข้ามาเยี่ยมเรา ช่วงเศรษฐกิจตกทำให้บริษัทต่างๆพากันตัดงบโฆษณา งานของเราน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด เงินที่เคยได้มาเยอะๆเริ่มขาดมือ รายได้เราตกฮวบฮาบแต่รายจ่ายเรายังคงเดิม พวกเราจมไม่ลง ยังคงใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยไม่ผิดกับสมัยที่งานเยอะ ผลที่สุดก็ทำให้เราเริ่มเป็นหนี้เป็นสิน ทั้งจากบัตรเครดิตที่มีกันคนละหลายๆใบรูดกันไม่ยั้ง ไปจนถึงเงินกู้นอกระบบที่ตั้มไปยืมมาปลดหนี้บัตรเครดิตโดยยอมเสียดอกราคาแพง เมื่อไม่มีเงินพอที่จะใช้หนี้ทำต้องผัดผ่อนไปเรื่อยๆ จนเจ้าหนี้หลายๆรายเริ่มตามทวงไม่หยุดหย่อน วันละหลายๆครั้ง หนักๆเข้าพวกเจ้าหนี้ก็เริ่มมีการขู่และด่าด้วยคำที่หยาบคาย มีอยู่รายหนึ่งถึงกับบอกให้ดิฉันไปขายตัวใช้หนี้เลยทีเดียวซึ่งพอตั้มรู้เขาก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที
ในที่สุดตั้มก็ตัดสินใจทำบางอย่างที่ทำให้เราทั้งคู่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ตั้มเริ่มค้ายาเสพติดโดยติดต่อรับยามาจากฮ่องกง ลูกค้าเริ่มต้นของพวกเราเป็นเพื่อนนายแบบและนางแบบด้วยกัน ต่อมาก็เริ่มกระจายไปสู่ดาราและพวกเพื่อนๆของพวกเขา การค้ายาทำรายได้มหาศาลมากกว่าที่ดิฉันเคยได้ตอนเป็นนางแบบเสียอีก การหาเงินมาได้อย่างจำนวนมากคล่องมือ ทำให้เราเริ่มได้ใจ จากที่ขายกันในหมู่เพื่อนฝูงก็เริ่มขายให้กับคนแปลกหน้า ในที่สุดก็มีลูกค้าใหม่ๆเต็มไปหมด เงินไหลมาเทมามากขึ้นโดยที่เราไม่เฉลียวใจเลยซักนิดว่าหายนะกำลังมาเยือนเราในไม่ช้าในที่สุด วันที่เกิดเรื่องก็มาถึง สายของตำรวจปลอมตัวมาซื้อยากับเรา เขามาแบบแนบเนียนโดยที่เราไม่เอะใจเลยซักนิด เขาซื้อครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยขายมา เงินตอบแทนมันมากจนทำให้เรายอมเสี่ยงทั้งๆที่ปกติเราจะไม่ขายให้กับคนแปลกหน้าด้วยล็อทใหญ่ขนาดนี้ ผลที่สุดเราถูกจับพร้อมของกลางในรถ โดยที่ดิฉันเป็นคนมอบยาให้กับเขาด้วยมือของดิฉันเอง เราสองคนหน้าซีด คอตกเมื่อเขาแสดงตัวออกจับกุม... นั่นเป็นวันแรกที่อิสรภาพโบยบินไปจากเรา ...และมันไม่เคยกลับมาอีกเลย! ตำรวจเปิดแถลงข่าว พร้อมทั้งมีนักข่าวให้ความสนใจพากันเฮเข้ามามากเป็นประวัติการณ์ แม้ว่างานของดิฉันจะลดน้อยลง แต่ชื่อเสียงของดิฉันยังโด่งดังมากพอที่จะเรียกร้องความสนใจจากนักข่าวที่หวังเล่นข่าวนี้กันอย่างเต็มที่ แสงแฟลชจากกล่องถ่ายรูปวูบวาบไปหมดจนดิฉันแสบตา จนถึงตอนนี้ดิฉันยังแปลกใจว่าทำไมคนที่ทำอะไรผิดพลาดเพียงครั้งเดียวต้องโดนทำร้ายจิตใจกันมากมายถึงขนาดนี้ เราทำผิดก็จับเราไปลงโทษตามกฎหมายซิ ทำไมต้องจับพวกเรามาประจานอย่างอัปยศเช่นนี้ด้วย ถึงจะเป็นผู้ต้องหาแต่อย่างน้อยเราควรจะมีสิทธิอยู่บ้าง
อย่างน้อยก็ในฐานะของความเป็นมนุษย์คนหนึ่งไม่ใช่หรือ พวกนักข่าวยิงคำถามเข้าใส่อยู่ตลอดเวลาซึ่งดิฉันไม่ได้ตอบซักคำ คงมีแต่ตั้มเท่านั้นที่ยังใจเย็นและตอบคำถามอย่างสุภาพเหมือนที่เขาเคยเป็น
ดิฉันจำได้ว่ามีเพียงคำถามเดียวเท่านั้นที่ดิฉันตอบ เป็นคำถามที่ทำให้ดิฉันเลือดขึ้นหน้าและมันยังดังก้องอยู่ในหูจนถึงทุกวันนี้ “พี่รุ้ง คิดว่าจะไปเดินแบบในคุกมั๊ยคะ” ดิฉันเงยหน้าขึ้นมองคนพูด เธออยู่ในชุดนักศึกษาอายุคงจะอ่อนกว่าดิฉันประมาณสองสามปี คงจะเป็นนักข่าวฝึกหัด หน้าตาของเธอจัดว่าสวยเลยทีเดียว แต่คำถามของเธอส่อให้เห็นถึงการเสียดสีและเย้ยหยัน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสะใจ “อยากรู้ก็ตามไปอยู่ซิ” ดิฉันตอบเสียงกระชาก พวกนักข่าวเฮกันลั่น ในขณะที่นังเด็กนั่นยิ้มอย่างพอใจที่ยั่วโมโหดิฉันสำเร็จ ตั้มหันมามองดิฉันอย่างเศร้าๆ ในขณะที่ดิฉันใจหายวูบ ดิฉันไม่เคยเห็นแววตาที่สิ้นหวังอย่างนี้จากตั้มมาก่อน แม้กระทั่งในช่วงที่เราเป็นหนี้มากมายแววตาของตั้มก็ไม่เศร้าขนาดนี้ มันเป็นคงจะเป็นแววตาของผู้ชายคนหนึ่งที่ยอมจำนนต่อสถานการณ์ที่ไม่สามารถปกป้องคนรั
กไว้ได้ “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คุณรุ้งจะทำอย่างนี้มั๊ยครับ” คำถามสุดท้ายมาจากนักข่าวที่ดูมีอายุมากที่สุดในที่นั้น เขาเป็นคนเดียวที่ดิฉันสังเกตเห็นความเห็นใจ และสงสารเจือปนอยู่ในน้ำเสียง มันทำให้ดิฉันรู้สึกว่ามีน้ำตาเอ่อคลอจนแทบจะล้นออกจากเบ้า ดิฉันไม่ได้ตอบคำถามนั้น หากแต่นึกในใจอย่างไม่ลังเลว่า’ทำแน่นอน’ ดิฉันยอมรับว่าดิฉันรักตั้มมาก เวลาที่อยู่กับเขาสติปัญญาของดิฉันจะโบยนออกไป เหลือแต่ร่างกายกับหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักในขณะที่สมองกลวงว่างเปล่าจนพร้อมที่จะทำให้เขาได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องการเหตุผล แต่หากเอาคำถามมาถามดิฉันในเวลานี้ ดิฉันจะตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่าดิฉันจะไม่ทำแน่นอน และจะห้ามไม่ให้ตั้มทำด้วย จนถึงตอนนี้ดิฉันยังเชื่อว่า ถ้าดิฉันห้ามไม่ให้เขาทำเขาต้องเชื่อฟังดิฉันแน่นอน เพราะความรักที่ตั้มมีให้ต่อดิฉันไม่น้อยไปกว่าที่ดิฉันมีให้กับเขา
ดิฉันช่างอ่อนแอและไร้เดียงสาในเวลานั้น ความรักทำให้ดิฉันงี่เง่าและปล่อยให้มันย้อนกลับทำร้ายพวกเรา อนาคตสวยหรูที่ราทั้งคู่ฝันไว้ต้องดับสูญไปพร้อมกับความผิดพลาดเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ....... เราสองคนถูกส่งตัวขึ้นศาล หลักฐานที่ชัดเจนทำให้พวกเรายอมสารภาพอย่างสิ้นเชิง ตั้มพยายามแสดงความเป็นลูกผู้ชายโดยยอมรับผิดทั้งหมด และพยายามอธิบายว่าดิฉันเพียงแต่ถูกเขาหลอกใช้เท่านั้น แต่หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่าดิฉันมีส่วนรู้เห็นด้วยอย่างชัดเจน ตั้มถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ส่วนดิฉันโดนเข้าไปสิบห้าปี หลังฟังคำตัดสินดิฉันสติแตก กรีดร้องและอาละวาด เจ้าหน้าที่สองคนเข้ามาจับดิฉันไว้ ดิฉันต่อสู้เหมือนหมาจนตรอกแต่ก็ถูกร่างกำยำสยบไว้อย่างง่ายดายและถูกปล้ำลงไปกองอยู่กับพื้น พวกเขาคร่อมตัวดิฉันไว้ แล้วดิฉันก็ถูกพวกเขาจับเอามือไขว้หลังแล้วคล้องกุญแจ
ดิฉันกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและตกใจ กุญแจรัดกินเอาเนื้อที่ข้อมือ ดิฉันจึงล้มลงบนพื้นเหมือนลูกไก่ที่หมดฤทธิ์ ดิฉันเห็นตั้มมองดิฉันอย่างตกใจ เขาถูกเจ้าหน้าที่อีกสองคนจับตัวไว้ในขณะที่พยายามดิ้นรนเพื้อเข้ามาหาดิฉัน มันทำให้อารมณ์ดิฉันเดือดพล่านขึ้นมาอีก ดิฉันกรีดร้องด่าคำหยาบคายทุกคำที่ดิฉันรู้จัก และเริ่มเตะสะบัดเจ้าหน้าที่สองคนที่พยายามยึดตัวดิฉัน พวกเขาจึงจับขาเขี่ยรองเท้าทิ้ง เอาสายหนังหนักๆรัดรอบเข่า มัดจนเหมือนกับหมูที่กำลังจะเอาไปโรงฆ่าสัตว์ แล้วเอาเทปกาวปิดปากไว้ ทำให้ดิฉันเงียบไป เหงื่อหยดลงมาที่นัยน์ตาและแผดเผาเหมือนน้ำร้อนลวก ดิฉันถูกหิ้วออกไปจากศาลโดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนไปที่รถตู้ขนนักโทษที่จอดอยู่เบื้องหน้า ระหว่างทางเต็มไปด้วยนักข่าวและคนทั่วไปที่ยืนดูเหมือนเห็นตัวประหลาด บางคนหัวเราะเยาะออกมาดังๆ ข้างในรถตู้ว่างเปล่า พวกเขาวางดิฉันให้นอนหมดแรงอยู่ที่พื้น โดยมีผู้คุมคนหนึ่งขึ้นตามมา เขาปิดประตูล็อคกุญแจ ซึ่งทำให้ข้างในมืดไปทันที จากนั้นดิฉันก็ได้ยินเสียงครางกระหึ่มของเครื่องยนต์ ขณะที่รถตู้เริ่มเคลื่อนที่ กระแทกให้ดิฉันโคลงเคลงอย่างรุนแรง ตั้งแต่เกิดมาดิฉันยังไม่เคยอยู่ในสภาพที่น่าทุเรศอย่างนี้เลย ดิฉันเหลือบตาไปมองผู้คุม ก็เห็นเขาจ้องมองมาที่ร่างของดิฉัน แสงสลัวที่รอดผ่านซี่กรงเข้ามายังทำให้สังเกตได้เห็นว่ามุมปากของเขามีรอยยิ้ม ซึ่งเดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจ แต่ดิฉันในตอนนั้นหมดสภาพ สมองแทบจะว่างเปล่าไปหมด ภาพสุดท้ายที่เหลืออยู่ในความคิดคือภาพของตั้มที่สะบัดดิ้นรนพยายามจะเข้ามาหาดิฉัน ซึ่งยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำมาจนถึงทุกวันนี้ ....... นรกเข้ามาเยือนดิฉันเร็วกว่าที่คิด การจราจรในเมืองหลวงติดขัดเหมือนเช่นทุกวัน หากแต่วันนี้เป็นวันที่ดิฉันทรมานมากที่สุด เป็นครั้งแรกที่ดิฉันอยู่ในรถที่ไม่มีแอร์ อากาศมันร้อนจนดิฉันรู้สึกเหงื่อออกโทรมไปทั้งตัว ข้อสำคัญดิฉันเริ่มรู้สึกปวดท้อง ในขณะที่รถก็ดูจะแล่นไปอย่างเชื่องช้าแถมบางทียังหยุดนิ่งเป็นเวลานานๆ ดิฉันเริ่มทนไม่ไหว
เริ่มสะบัดดิ้นรนพยายามทำสัญญานให้ผู้คุมเอากระดาษกาวที่ปิดปากดิฉันออก ในที่สุดเขาก็เข้าใจ เขาถามว่า ถ้าปลดออกดิฉันจะไม่โวยวายแบบตอนที่อยู่ในศาลใช่ไหม ดิฉันรีบพยักหน้า เขาจึงยอมดึงกระดาษกาวออกจากปาก ทันทีที่ปากเป็นอิสระดิฉันรีบบอกว่าดิฉันปวดท้องเบา ช่วยหยุดรถให้ดิฉันเข้าห้องน้ำได้มั๊ย เขาบอกว่าไม่มีกฎที่จะปล่อยนักโทษให้เข้าห้องน้ำระหว่างทาง ดิฉันพยายามอ้อนวอนเขา แต่เขาก็ยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว จนเขารำคาญจึงบอกว่า ถ้าดิฉันทนไม่ไหวก็ปล่อยออกมาได้เลยไม่ต้องอาย ยังไงก็ไม่มีคนข้างนอกเห็นอยู่แล้วเพราะอยู่กันสองคน และยังไงเมื่อไปถึงดิฉันก็ต้องเปลี่ยนเป็นชุดนักโทษอยู่ดี ดิฉันจึงเงียบพยายามอดกลั้นไว้อย่างสุดความสามารถ รถถูกปิดทึบทำให้อากาศมันร้อนขึ้นเรื่อยๆ และรถก็ดูจะเคลื่อนที่ช้าลงไปทุกที ในที่สุดดิฉันก็ทนไม่ไหว ดิฉันหลับตาร้องไห้ย่างอดสูใจในขณะที่น้ำไหลลงมาตามซอกขา มันไหลรินเปรอะรดไปตามกระโปรง และนองเต็มพิ้นไปหมด บรรยากาศในรถตู้ตอนนั้นไม่ผิดอะไรไปกับนรกเคลื่อนที่ รอบๆตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อและกลิ่นเหม็นของปัสสาวะ ดิฉันฉี่ราดกางเกง ร่างกายสกปรกมอมแมม รู้สึกถึงอาเจียนที่กำลังล้นขึ้นมาและน้ำขมๆที่อยู่ในปาก ช่วยตัวเองไม่ได้ กลัวจนลนลาน ว้าเหว่ ในที่สุดก็คิดถึงตั้ม ดิฉันต้องการความห่วงใยและปลอบโยนจากเขา น้ำตาไหลพรากออกมา สงสารตัวเองอย่างที่สุด ...... เมื่อถึงคุก พวกเขาก็พาดิฉันลงจากรถเข้าไปยังห้องควบคุมตัว ถึงแม้ดิฉันจะดิ้นรนเตะถีบแค่ไหน แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังจัดการถอดกุญแจมือออก แล้วจับดิฉันมัดเข้ากับเก้าอี้ไม่ไม่มีพนักที่ยึดติดอยู่กับพื้นได้ พวกเขาใช้เชือกรัดแน่นอยู่ที่หน้าอกและบนตัก เข่าของดิฉันถูกมัดตัดอยู่กับขาเก้าอี้ น้าลายของดิฉันเหนียวและขมไปหมด ดิฉันพยายามเอี้ยวตัวไปข้างหลังและก้มลงเช็ดปาก แต่ไม่สำเร็จ จึงได้แต่ถ่มมันลงไปบนพื้น หลังจากเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ดิฉันมองไปรอบๆห้อง ก็เห็นมีผู้ชายหัวล้านอีกคนหนึ่งถูกมัดติดกับเก้าอี้ในสภาพเดียวกับดิฉัน กลิ่นตัวของดิฉันเหม็นจนน่าทุเรศ อาการคลื่นเหียนทำให้เหงื่อเย็นไปหมด เศษอาหารล้นออกมาจากกระเพาะ ทั้งขมทั้งเหม็น ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาจึงปล่อยดิฉันทิ้งไว้เป็นเวลานานแทนที่จะทำอะไรให้เสร็จสิ้น ความเครียดและความกดดันที่ได้รับอย่างที่ไม่เคยเจอทำให้ดิฉันสติแตกอีกครั้ง “ไอ้สัตว์” ดิฉันร้องตะโกนด่า ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าด่าใคร “ไอ้สัตว์วิกลจริต ถ้ากูออกไปได้ กูฆ่ามึงแน่”
ประตูเปิดผลัวะออก เจ้าหน้าที่คนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้อง แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเปียกๆดีดใส่ดิฉันอย่างโกรธจัด ดิฉันรู้สึกว่าหัวถูกดีดจนแอ่นไปข้างหลัง ในขณะที่มันฟาดเข้าถูกใบหน้าดิฉันอย่างจังริมผ้าเช็ดหน้าจี้ใส่หน้าดิฉันเหมือนถูกเตารีดร้อนๆนาบ เลือดสดๆพรั่งพรูออกจากจมูก ปวดยังกับหัวจะแตกเป็นเสี่ยงๆ “ไอ้สัตว์” ดิฉันด่าใส่ ถ่มเลือดออกจากปาก เขาหมุนผ้าเช็ดหน้าทำท่าขู่อีกครั้ง “เพิ่งเข้ามาก็ซ่านะมึง ถ้ามึงแหกปากอีก กูจะดีดไอ้หัวระยำของมึง” ดิฉันเงียบเมื่อเห็นท่าทางของเขาเอาจริง สักพักเมื่อเขาเห็นดิฉันยอมสยบ จึงเดินออกไปจากห้อง กุญแจประตูถูกลั่นอย่างหนักๆเข้าที่เดิม มันขังเราสองคนไว้ในความเงียบสงัด ผู้ชายหัวล้านคนนั้นกระซิบถามดิฉันว่า “คุณบาดเจ็บหรือเปล่า” ดิฉันสั่นหัว “วันนี้แย่จัง ไม่ดีเลยที่ทำร้ายผู้หญิงสวยๆอย่างนี้ ผมไม่เคยทำร้ายผู้หญิงสวยๆอย่างนี้เลย ผมชอบผู้หญิงสวยๆ”
แม้จะหัวเล้านแต่เขาเป็นคนที่หน้าตาดีถึงจะอยู่ในสภาพอิดโรยจากการถูกมัดก็ตาม สภาพของเขาทำให้ดิฉันนึกขึ้นได้ว่าหน้าตาของดิฉันจะดูเป็นยังไง ผมของดิฉันเปียกและอับไปด้วยเหงื่อ ห้อยลงมาเหมือนเชือกที่ปวกเปียก เลือดและเศษอาหารแห้งกรังอยู่ตามหน้าและสื้อผ้า จมูกของดิฉันบวมเป่งและเต็มไปด้วยเลือด ดิฉันรู้สึกว่ามันไหลหยดลงไปในลำคอ ขณะนั้นเพิ่งจะรู้สึกว่ากำลังนั่งแช่อยู่กับฉี่ของตัวเอง ตอนที่ดิฉันถูกจับมัดกับเก้าอี้ กระโปรงของดิฉันถลกขึ้นมา เข่าถูกมัดติดกับสองขาหน้าของเก้าอี้ ดิฉันจึงนั่งโป๊และโชว์ขาอ่อนอยู่ พอรู้ว่าเขาพยายามจะจ้องเข้าไปในกระโปรงของดิฉัน ดิฉันจึงหนีบเข่าเข้าชิดกัน “ไอ้อัปรีย์ลามก” ดิฉันตะโกนด่าเขา แต่เขาก็ยังชำเลืองอยู่ แต่ขยับตัวอย่างอึดอัดบนเก้าอี้ มีทีท่าว่ากระหายเกิดอารมณ์ทางเพศ ดิฉันถูกขังให้จมอยู่ในความกลัว ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาจึงทำกับดิฉันอย่างนี้ ดิฉันเหนื่อยเหลือเกิน คิดถึงตั้มเหลือเกิน ดิฉันพยายามรวบรวมกำลังใจบอกตัวเอง “เธอจะต้องแกร่งนะรุ้ง ไม่ว่าเธอจะต้องเจอกับอะไร ต้องเอาชนะมัน ต้องผ่านมันไปให้ได้” ดิฉันเชิดหัวขึ้น นั่งตัวตรงและแข็งเกร็งอยู่ในเก้าอี้ จิตใจมั่นคงสงบขึ้น ชายคนนั้นหลับไปแล้ว ดิฉันสูดหายใจลึกๆ ด้วยความเจ็บปวด และอีกไม่นานก็หลับตามเขาไป

518
เราพึ่งเข้ามาในเวปนี้ ได้ไม่นานเท่าไหร่ชอบมาเลยค่ะ หาเวปอย่างนี้มานานแล้ว ถูกใจจริงๆเลย วันนี้เรามีมีเรื่องอยากจะเล่าเหมือนกันคะ เป็นเรื่องจริงค่ะ รับรองได้ ถ้าใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะค่ะ เราชื่อนกค่ะ อายุ17 เรียนอยู่ม.5 ค่ะเรียนที่โรงเรียนของรัฐแห่งหนึ่งค่ะสูง168ค่ะน้ำหนักไม่บอกนะค่ะเอาเป็นว่าม่อ้วนแล้วกัน สัดส่วนเราก็ 33-26-34ค่ะ ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไปน่ะคะ หน้าตาก็จัดว่าดี พาออกประกวดได้ไม่อายใครค่ะ ผิวขาวสวยเนียนค่ะ ตามประชาวัยรุ่นนะค่ะ นกมีเพื่อนซี้อยู่คนนึงชื่อเอ๋ ค่ะเป็นผู้หญิงคะ หน้าตาดีมากเลยคะมีผู้ชายมาจีบหลายคนเหมื่อนกัน สัดส่วนของเอ๋ก็ 34-27-34ค่ะ สูง173 น้ำหนักไม่บอกอีกเช่นกัน เราทั้ง2คนนิสัยหมือนกันค่ะ คือ รักการมีเซ็กค่ะและ"ชอบโชว"ค่ะคือชอบโชวมากๆเลยค่ะจะไปโชวใครที่ไหนก็ต้องไปกัน2คนค่ะ จะได้ไม่เหงาค่ะ นกว่าปลอดภัยดีด้วยค่ะ เรามาเข้าเรืองกันดีกว่าค่ะ คือว่าวันนั้นไปร.ร.ตามปกติค่ะ แต่วันนั้นมีเรียนไม่มากเท่าไรและมีอารมณ์คะ ตอนเช้าจึงโทรไปหาเอ๋ที่บ้านคะ โทรไปบอกว่าวันนี้เราโนบรากับไม่ใส่กกน.ไปร.ร.กันคะทางเอ๋ก็บอกตกลงค่ะ เลยไปร.ร.ใส่แค่เสื้อน. รสีขาว(ไม่บางนะค่ะถ้าไม่สังเกตุดีๆมองไม่เห็นอะไรหรอกคะ)กับกระโปงยาวสีน้ำเงินออกดำค่ะ พอออกจากบ้านแค่นั้นหล่ะค่ะหวิวดีจริงๆเลยคะถ้าคนอื่นรู้ว่านกไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างในห่ะก็แย่เลยคะ พอถึงร.ร.ก็พบก็เอ๋ที่หน้าร.ร. เพราะว่าเอ๋มาคอยอยู่ก่อนแล้วคะ เอ๋ว่าไม่กล้าเข้าไปคนเดียวเลยคอยนกอยู่ก่อนค่ะ พอเข้าไปในร.ร.หนุ่มๆนี่มองกันตาเป็นมันเลยค่ะ สงสัยไม่เห็นรอยยกทรงกับรอยซับในค่ะ (คือว่าเสื้อน.ร.มันเป็นสีขาวคะ เวลาปกติจะเห็นรอยยกทรงกับรอยซับรางๆคะ) ทั้งนกและเอ๋งี้อายจังเลยค่ะ แต่เสียวดีคะ น้ำนี้ซึมออกมาเลยค่ะ หันไปทางเอ๋ค่ะเอ๋ก็หน้าแดงเลยค่ะ โนบรากันทั้งคู่นี่นา สงสัยน้ำเสียวซึมออกมาเหมือนกัน พอตอนเข้าแถวตอนเช้านี่สิคะอยางแค่เลยค่ะ แดดคะมันส่องทะลุเสื้อสีขาวคะ เห็นนมกันเต็มๆเลยค่ะ ทั้งเต้าทั้งหัวเลยค่ะ เห็นกันทุกคนที่มองมาเลยค่ะ จ้องกันตาเป็นมันจริงๆพวกหนุ่มๆเนี้ย น้ำเสียวมันก็ไหลแบบเขือนแตกเลยคะ ไหลมาตามงามเป็นทางเลยคะ ดีนะทีไม่หยดลงพื้นนะเนี่ยเดียวคนอื่นก็รู้ว่ากกน.ก็ไม่มีอิอิ ผ่านเหตุการณืตอนเช้ามาได้จิ๋มก็เปียกหมดแล้วเหนียวด้วย ก็เลยชวยเอ๋เข้าห้องน้ำทำความสะอาดกัน ก่อนอื่นขอบอกว่านกกับเอ๋นี้เคยเลสเบี้ยนกันมาก่อนค่ะหลายครั้งแล้วด้วย ก็โชวด้วยกันมานานแล้วมีอารมณ์เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนหล่ะคะ ต่อกันดีกว่าค่ะ นกกับเอ๋ก็เข้าห้องน้ำหญิงกันค่ะเข้าห้องเดีวกันด้วยค่ะ พอล็อกประตูห้องน้ำแล้วเราทั้งคู่ก็ถอดกระโปงออกเลยค่ะ อยากจริงๆ จิ๋มนกไม่มีขนเลยสักเส้นค่ะถ้ามีก็โกนออกหมดเลยคะ เพราะใส่ชุดว่านน้ำแล้วกลัวมันแล๊บออกมาคะ ส่วนจิ่มของเอ๋ก็มีเพียงขนไรๆอ่อนๆเท่านั้นเองค่ะ นกเห็นคราบน้ำเสียวของเอ๋คะ มันเป็นทางยาวไปถึงถุงเท้าเลยคะ นกเลยเลียทำความสะอาดให้เอ๋คะ เริ่มเลียจากข้อเท้าขึ้นมาเลยขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงจิ๋มเลยค่ะ เอ๋ก็เอามือมาเขี่ยติ่งเสียวของนกค่ะ เรา2คนทำอย่างนี้อยู่นานจนนกขึ้นสวรรค์ไปเที่ยวนึงจึงช่วยกันทำควาสะอาดคะ แล้วใส่กระโปรงกับแล้วพากันขึ้นเรียนค่ะ ตอนขึ้นเรียนก็มีพวกผู้ชายหลายคนมาแซวกันว่ากล้าจังนะไม่ใส่บรามาร.ร.เนี่ย นกก็ตีเจ็บๆเลยค่ะ พออาจาร์ย เข้าสอนนกกับเอ๋ก็นั่งข้างๆกันที่หลังห้องค่ะ เรียนไปได้ซักพักเอ๋ก็หยิบขอบปลอมออกมาค่ะ เป็นลูกกลมๆเล็กๆคะ แบบไม่มีสายด้วยค่ะ เอ๋ก็ล้วงเข้ามาในกระโปรงนกแล้วก็ยัดของปลอมเข้ามาเลยค่ะ กกน.ก็ไม่มียิ่งน้ำยิ่งมากๆอยู่ด้วย เอ๋ดันเข้ามาทีเดียวหายไปทั้งอันเลยคะ เรางี้เสียวจริงๆ อยากจะร้องออกมาดังๆเลย แต่ทำไม่ได้เพราะกำลังเรียนอยู่คะ เราเลยยหยิกเอ๋ที่ต้นขาค่ะ คราวนี้เอ๋หยิบของที่น่าจะเป็นรีโหมดออกมาคะแล้ว เปิดสวิทค่ะ ไอ้ลูกกลมๆที่ตอนนี้อยู่ในจิ่มนกน่ะ มันสั่นค่ะ เสียวอีกแล้วคะ เลียวจนเกร็งไปหมด นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้เลย ร้องออกมาก็ไม่ได้ ได้แต่นั่งกัดฟันคะ น้ำนี่ไหลออกมาเยอะเลยค่ะ เอ๋ก็หัวเราะนิดๆค่ะ แล้วกระซิบบอกว่าจะทำตัวดีๆมั้ยแม่คนดี นกก็บอกว่าได้ เสียงนี้สั่นไปหมดแล้วกล้วคนอื่นรู้จริงๆ แล้วเอ๋ก็ปิดสวิทคะ นกหอบเลยคะเกือบถึงสวรรค์เหมือนกัน ถ้าถึงคงต้องร้องออกมาแน้ๆเลยค่ะ พอหมดคาบเรียนก็ ไปนั่งที่ม้าหินค่ะ ว่างแล้วล่ะค่ะวันนี้มีเรียบตอนเช้าอย่างเดียว แต่ที่แน่ๆวันนี้ต้องโดนเอ๋แกล้งอีกแน่ๆเลย เพราะรีโหมดยังอยู่ที่เอ๋เลยค่ะแล้วของปลอมนั่นยังคาในจิ๋มเลยค่ะ ตอนเดินมาก็เสียวอีกค่ะหนักๆยังไงก็ไม่รู้ ต้องเดินหนีบๆคะ กลัวว่าของปลอมนั้นจะตกลงมา เรื่องเสียวนั้นสุดๆค่ะอยากที่จะบรรยาย น้ำเสียวก็ไหลออกมาเรื่อยๆค่ะ พอเดินมาถึงโต๊ะ ก็แย่แล้ว ยัยเอ๋ก็ยังเอารีโหมดออกมาเปิดเล่นอีกค่ะ เสียวจนขึ้นสวรรค์อีกทีเลยค่ะ น้ำออกมาจนเปื้อนกระโปรงด้านหลังหมดแล้วค่ะ พอดีเพื่อนๆผู้หญิงมาค่ะ 3คนค่ะ มานั่งด้วย เอ๋เลยต้องรีบปิดสวิทคะ กันคนอื่นรู้คะ พอนั่งแล้วเพื่อนๆก็ถามถึงเรืองที่ นกกับเอ๋ไม่ได้ใส่บรามาร.รค่ะ เค้าถามว่าจริงเหรอ ก็ต้องตอบว่าจริงค่ะ เห็นกันอยู่บอกว่าไม่ก็ไม่ได้ค่ะ พอดีนกคิดว่าจะแก้แค้นค่ะจึงกระซิบเพื่อนที่มานั่งด้วยค่ะ บอกว่ายัยเอ๋ไม่ได้ใส่กกน.มา ไม่เชื่อก็ไปเปิดกระโปรงดูสิ สาวๆทั้ง3คนจึงร่วมมือกันเลิกกระโปรงเอ๋ขึ้นมาคะ ดีที่ๆนั่งมีต้นไม้ใหญ่บังอยู่แล้วอีกด้านเป็นกำแพงโรงเรียนค่ะ เลยค่อนข้างที่จะลับตาคน พอเลิกขึ้นมาก็เห็นกันหมดว่าเอ๋ไม่ได้ใส่กกน.มาจิงๆ ตอนนั้นเอ๋อายมากเลยค่ะ เลยแก้แค้นนกด้วยการ หยิบรีโหมดขึ้นมา แล้วเปิดสวิทค่ะ แย่แล้วค่ะ ของปลอมนั่นสั่นอีกแล้ว ได้เสียวอีกทีแล้ว แล้วเอ๋ก็เก็บลงกระเป๋านักเรียนลงค่ะสงสัยจะเปิดทั้งวันแน่ๆ ถึงคราวนี้ นกกลั้นไม่ไหวแล้วค่ะเลยเผลอคราวออกมาค่ะ ถึงจะไม้ดังมาแต่ก็ได้ยินค่ะ เอ๋ก็บอกเพื่อนอีก3คนว่าออกจะดูอะไรดีๆมั้ย ทั้ง3บอกว่าเรื่องอะไรเหรอ? แต่เอ๋ก็ไม่บอกอะไร แล้วก็จูงมือนกที่เสียวจนน้ำออกมาจนกระโปรงเปื้อนไปยัง ห้องว่างๆห้องหนึ่งบนตึกเรียนคะ เอ๋จัดการล๊อกประตูคะ ตอนนี้ในห้องมี นก เอ๋ กับเพื่อนผู้หญิงอีก3คนคะ เอ๋บอกให้ทั้ง3คน นั่งค่ะนั่งดูเฉยๆ แล้วก็หยิบรีโหมดเจ้าปัญหาขึนมาส่งให้เพื่อนคนหนึ่งคะ เพื่อนคนนั้นก็เปิดๆปิดๆ ปรับนู่นปรับนี่เป็นการใหญ่เลยค่ะ นกนั้น ก็นั่งอยู่บนโต๊ะคะ นั่งเสียวจนเผลอครงออกมาอีกแล้วค่ะดังกว่าคราวกอนอีก เพื่อนทั้ง3คนคงรูว่าเป็นอะไรยิ่งเปิดอีกค่ะเหมือนจะแกล้งกัน แล้วจู่ๆ เอ๋ก้เดินมาปลดตะขอกระโปรงนกออก ค่ะ กระโปรงของนกจึงร่วงไปกองบนพื้นเลยค่ะ แล้วก็ถอดเสื้อนกออกด้วยค่ะ คราวนี้เหลือตัวเปล่าแล้ว เอ๋ก็เข้ามาเล้าโลมค่ะ นกงี้อายจนหน้าชาหมดแล้วโดนจัยแก้ผ้าที่ร.ร.ยั่งนี้แถมยังมีของปลอมสั่นอยู่ในจิ๋มอีก เสียวจนน้ำแตกออกมาเลยค่ะแฉะหมดแล้วต้อนนี้ แถมเอ๋ก็ชวนเพื่อนอีก3มาร่วมวงด้วนค่ะ มั่วหมดแล้วค่ะตอนนี้ คนนีงเลียนม คนนึงประกบปากกับนกอยู่ส่วนอีกคนกำลังง่วนกับจิ่มนกอยู่ ก็ต้องตกใจค่ะเพราะไปพบของปลอมมันอยู่ในจิ๋มค่ะ กำลังส่นอยู่ลงค่ะ ดีที่เพื่อนคนนั้นเอาออกมาคะ โล่งขึนเยอะเลย มันอยู่ตั้งแต่เช้าแล้ว แล้วเอ๋ก็มาเลียจิ๋มให้ค่ะมือก็เกี่ยวเข้ามาค่ะ ถึงสวรรค์อีก2เที่ยวเลยค่ะ แล้วเสร็จกิจแทบหมดแรงเลยค่ะ นอนแผ่อยู่อย่างนั้น จนเพื่อนต้องเข้ามาแต่งตัวให้ค่ะ แต่ก็โนบรากับกกน. เหมือนเดิมค่ะ เพราะไม่รู้จะใส่อะไร เพื่อนทุกคนก็ขี้โกงค่ะทำนกอย่างเดียวเลย แจ่ละคนดูเหมือนว่าจะไม่โดนอะไรทั้งนั้นเลยค่ะ พอเอ๋หิ้วปีกเดินมาถึงที่นั่งที่เดิม นกก็เผลอหลับไปค่ะ ตื่นอีกที่ตอนเลิกเรียนแล้วแต่ก็ยังที เอ๋เพื่อนรักตัวแสบนั่งเฝ้าอยู่ เอ๋ถามว่าค่อยยังชั่วหรือยัง นกอบว่า ค่อนยังชั่วแล้ว กับบ้านกันเถอะ พอลุกขึ้นเดินเท่านั้นแหละค่ะ เข่าอ่อนเดิมไม่ไหวเลย แต่ก็มีเพื่อนเอ๋ คอบพยุงในตลอด เดินไปเอ๋ก็แกลังจับนมไปค่ะ นกไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ แต่หยิบของปลอบที่เป็นลูกกลมๆอันนั้น ที่อยู่ในจิ๋มนกตั้งครึ่งวัน แล้วล้วงเข้าไปในกระโปรงยัยเอ๋โดนการลูดซิบที่กระโปรงเอ๋ลงแต่ไม่ได้ปลดตะขอออกนะค่ะเอ๋รู้ทันเลยหลบได้ค่ะ นกบอกเอ๋ว่า ถ้าไม่ยอมนกจะโกรธเอ๋ปตลอดเลยนะ เอ๋จึงยอมแต่โดยดีเราจึงยัดของปลอบเข้าไปในจิ๋มเอ๋จนสำเร็จ แล้วนกก็ทำการเปิดสวิทค่ะ เอ๋ก็ร้องครางเลยค่ะ ดีนะที่ร.ร.เลิกแล้วไม่ค่อยจะมีคนค่ะ เราสองคนจึงเรียกแท็กซี่กลับบ้านค่ะ แถมอยู่ในรถยังมาทำอะไรบนรถในให้ลุงคนขับเค้าดูอีก เราเลยอยู่ในท่า69กันค่ะ ทำกันบนรถนั้นเลยคะ ลุงคนขับก็แอบดูทางกระจกส่งหลังค่ะ กระโปรงก็ถอดออกไปแล้ว เอ๋ก็ยังเปิดกระจกอีก กะจะโชวกันเต็มที่เลย บังเอิญนกอยู่บนค่ะ คนจากข้างนอกมองเห็นชัดมากเลยค่ะแถมยังมียัยเอ๋คอยแหกอีกตางหากเสียวจริงๆเลยค่ะ ยิ่งตอนติดไฟแดงนี่มีทั้งเด็กเช็ดกระจก เด็กขายพวงมาลัยมาดูกันอีก ดูอย่างเดียวไม่พอ ยังเอามือมาแยงอีกตางหาก กว่าจะถึงบ้านน้ำเสียวนี้ หยดเปื้อนเปาะลุงเค้าหมดเลยคะ พอก่อนนะค่ะ สำหรับตอนแรกนี่ เดี๋ยวตอนหน้าจะเล่าตอนไปเที่ยวต่างจังหวัดกันค่ะ ไปโชวฝรั่งที่ภูเก็ตค่ะ แล้วยังมีลองของแปลกค่ะลองเล่นกับหมาค่ะ ไว้ตอน หน้านะคะ นี่เล่าไปช่วยตัวเองไปเลยนะคะเนี่ย

519
ช่วงนั้น อ้อนม.2ได้คะ ก้ออยากรู้โน่น รู้นี่ ไปเรื่อย โดยปกติ ที่บ้านอ้อน คุณพ่อ กับคุณแม่จะไม่ค่อยอยู่เพราะต้องไปต่างประเทศบ่อยๆ แต่วันนี้ เราอยู่กันพร้อมหน้า ซึ่งก้อนานแล้วที่ไม่มีเวลาอบอุ่นๆแบบนี้ ก้อรู้สึกดีคะ ที่มีโอกาสเข้าครัวช่วยคุณแม่ทำอาหาร ได้พูด ได้คุย ได้เล่นกัน หลังจากเราทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ก้อนั่งดูโทรทัศน์ คุยกันจนดึกต่างคนต่างแยกย้ายกันไปนอน ห้องอ้อนจะอยู่ใกล้สุดเผื่อมีเรื่องอะไรจะได้วิ่งไปหาได้ทันที ส่วนพี่อั้มอยู่ไกลออกไป เพราะพี่เค้าเริ่มโตก้อเริ่มอยากมีความเป็นส่วนตัวบ้าง อ้อนก้ออยากจะไปนอนคุยกับคุณแม่ที่ห้องอีกสักหน่อยเพราะ คิดถึงจะแย่ไม่ได้เจอตั้งนาน จะนอนคุยทั้งคืนให้หายอยากเลยคะ อิอิ เดินไปถึงประตูจะบิดลุกบิดก้อได้ยินเสียง ซึ่งมารู้ทีหลังว่าคือเสียงครางอันเกิดจากความเสียวที่คุณพ่อหยิบยื่นให้คุณแม่ อ้อนเปิดประตูแง้มดูสถานะการณ์ภายใน ซึ่งคุณพ่อประเคนดุ้นเนื้อท่อนโต ซึ่งเหมือนพายุ ระลอกแล้ว ระลอกเล่าที่ถาโถมใส่หีของแม่ เป็นความหมายแทนความคิดถึง และ ห่วงใย น้ำเชื้อฉีดพุ่งเข้ารูหี แม่กระตุก2-3ทีด้วยความเสียวกระสันก่อนนอนกอด จูบกันต่อ อ้อนเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บวกกับไม่เข้าใจอยากได้คำอธิบาย พอดีอั้มเดินขึ้นมาคะ อ้อนเลยลากเข้าห้องอ้อนแล้วถาม กันตามประสา2คนพี่น้อง อั้มก้อพยายามอธิบายว่านั้นเป็นการมีเซ็กส์ซึ่งคนที่รักกันเค้าจะทำกันนะ เด๊ยวอ้อนโตก้อรู้เองแหละนะ ซึ่งก้อเป็นความจริงที่สามารถทราบได้ในเวลาต่อมาไม่นานคะ อิอิ "แล้วรู้วิธีช่วยตัวเองไหม" อั้มถาม อ้อนส่ายหน้า "ไม่รู้คะ" มานี่เด๊ยวพี่สอนให้ ถอดกางเกงออกสิ บ้า แม่ไม่ให้ถอดกางเกงต่อหน้าผู้ชาย เถอะน๊า อั้มเป็นพี่นะ ไม่เชื่อพี่หรอ แม่บอกเวลาแม่ไม่อยู่ให้เชื่อพี่งัย อ้อนลังเลพักนึงก้อยอม อือ เค้าเชื่อแล้ว อ้อนก้อถอดกางเกง ยืนโป๊ต่อหน้าอั้ม อาจเป็นเพราะอ้อนกับอั้มก้อเห็นของกันและกันบ่อยนะ บางทีเปิดประตูไปเห็นอั้มนั่งช่วยตัวเองกับกองกระดาษทิชชุค่ะ เหอๆ อั้มก้อเห็นอ้อนอาบน้ำไม่ล๊อคประตูบ่อยๆ แต่
อั้มแก้ตัวว่าเป็นการคลายเครียด ตอนนี้อั้มก้อกำลังจะทำหน้าที่พี่ชายแสนดีที่สอนให้น้องสาวรู้วิธีครายเครียดละ ... กางขาสิ แล้วอั้มก้อเอามือไล้ไปตามท้องน้อย ลูบหี จับปลิ้นออกมาดู ดีมากอ้อน ยังไม่ทำมันฉีกขาด รู้ไหม เยื่อบางๆเนี่ยต้องรักษาดีๆอย่าทำให้มันขาดนะ ไม่งั้นมันจะมีเลือดออก มันจะเจ็บ รู้ไหม อ้อนรับคำ "ค่ะ" แล้วก้อถูไปตามร่องเสียวที่ปิดสนิท อั้มก้อเป็นผู้ชายคนแรกที่จับแล้วลุกล้ำเข้าไป เอามือบีบแตดเล่น พอแล้ว เค้าเสียว อั้ม เฉยๆเหอๆน่า เด๊ยวจะร้องให้อั้มทำให้บ่อยๆ น้ำเงี่ยนไหลออกมา อั้มก้อเริ่มลงลิ้นไปตามกลีบเนื้อนูนๆ นมที่เพิ่งขึ้นมาเป็นกระเปาะ ก้อถูกดูด ถูกคลึงเสื้อที่ใส่ก้อหลุดออกอ้อนนอนบิดตัวไปมา เสียวจังเลย ครั้งแรกนะ จะเสียวกว่าทุกครั้งเลย อาจเป็นเพราะเราไม่เคย จนอ้อนเสร็จ หีตอดนิ้วอั้ม2-3ครั้ง อั้มก้อลุกขึ้นนั่ง อ้อนก้อถามว่า แล้วพี่อั้มไม่เอาของพี่ใส่ในหีหนูหรอ เค้าเป็นพี่จะทำอย่างนั้นได้ไง เอาไว้ให้คนที่อ้อนรักทำให้นะ อ้อนนั่งมอง ก้อพี่อั้มงัยคะ อั้มหัวเราะอย่างไม่มีคำอธิบาย คราวนี้อ้อนช่วยพี่บ้างสิ เอามือนะรูด ดุ้นเนื้อในกางเกงอั้มที พูดจบก้อจับมืออ้อนล้วงลงไปจับดุ้นเนื้ออุ่นๆที่นอนขดตัวอยู่ อ้อนรูดมันอย่างเบามือที่สุด ราวกับเล่นกับสัตว์เลี้ยงเชื่องๆสักตัว แต่อั้มไม่ให้ดึงออกมา ไม่รู้กลัวอะไรเนอะ พออั้มคราง อ้อนก้ออยากจะเห็นชัดๆว่ามันเป็นไง ดึงออกมาหัวของมันบานแฉ่งสีแดง น้ำขาวข้นไหลย้อยเปรอะที่หัว อ้อนจะใช้ปากอมให้ อั้มกระชากตัวออก ทำอะไร ไม่ต้องรูดอย่างเดียวพอ ของพี่สกปรกนะ ยังไม่ได้ล้างเลย แล้วของหนูละจ๊ะ พี่ยังทำให้ได้เลย ไม่สกปรกหรอ เห็นอั้มไม่พูดอะไร อ้อนจับมันมาเลียไป2ที อั้มก้อบอกว่า เสียวนะ อ้อนสำลักอะคะ ไม่เคยแล้วมันก้อ เค็มๆ กลิ่นสาบๆบอกไม่ถูก อั้มก้อลูบหัวอ้อน อ้อนก้อเลยใช้วิธีรูดตามเดิมจนอั้มแตกคามือเลย อิอิ แล้วเอาทิชชุมาเช็ดมืออ้อนแล้วก้อเช็ดควยให้อั้ม แล้วอั้มก้อจุ๊บที่หน้าผากทีนึง แล้วก้อนั่งข้างๆจนอ้อนนอนหลับ แล้ว เดินกลับห้องตัวเองไป... ที่พอจำได้ก้อประมาณนี้คะ สำหรับความเสียวครั้งแรก กับคนสอนให้เสียว หลังจากนั้นไม่นาน อ้อนก้อได้น้องชาย ชื่อ อิ๊กอีกคน พอรู้ว่าทำแบบคุณพ่อ คุณแม่แล้วได้น้องน่ารักๆ ก้อรบเร้าให้อั้มทำให้อ้อนเป็นแบบนั้นบ้างคะ แต่อั้มไม่ยอมท่าเดียว ไม่รู้ทำไม คิดเอาเองนะคะ อิอิ แล้วเอาไว้จะมาเล่าใหม่นะ บ๊าย บายจ้า

520
สวิงกิ้ง / ถูกรุม
« on: November 20, 2009, 09:02:55 pm »
พล กับแจงพึ่งแต่งงานกันเมื่อคืนนี้ วันนี้ เจ้าบ่าวหมาดๆ ขับรถพาเจ้าสาวแสนสวยน่ารักไปฮันนีมูนที่ จังหวัดเล็กๆแห่งหนึ่ง ไกล้ทะเลติดกับประเทศเพื่อนบ้าน พล อยากให้ แจง ประทับใจกับการมอบความบริสุทธิให้เค้าซึ่งเป็นครั้งแรกในการถูกเย็ดของเธอ ตอนไกล้ค่ำ แจงในชุดเสื้อยืดสายเดี่ยวน่ารัก กระโปรงสั้นเลยหัวเข่า โนบรา แต่สวมชั้นในลายลูกไม้ลูกไม้น่ารัก เจ้าบ่าวของเธอ เอาผ้ามาผูกตาแจงเอาไว้ซึ่งเธอก็ไม่ขัดขืนตามสัญญา พลประคองเจ้าสาวที่กำลังจะเสียสาวให้เค้าในวันนี้ มาที่รถเปิดประตูประคองให้เธอนั่ง แล้วปิดประตู รถ เดินอ้อมไปด้านคนขับ ทันใดนั้นก็มีคนโผล่พรวดมาประชิดตัวพร้อมเอามีดจ่อคอ พวกมันลงมือรวดเร็วมาก แจง ไม่รู้ตัวว่าคนที่กำลังขับรถพาเธอไปไม่ใช่เจ้าบ่าว มารู้อีกทีตอนมาถึงจุดหมาย พวกมันยังไม่ยอมเอาผ้าผูกตาเธอออก ที่โกดังไกล้ท่าเรือแห่งนั้น พล และแจงเจ้าสาว ถูกพาเข้ามา แล้วพลก็รู้ว่าเป็นพวกค้ายาเสพติด ที่ เค้าเป็นสายข่าวให้เจ้าหน้าที่ จนได้เงินรางวัลก้อนโต มาแต่งงานกับแฟนสาว "นี่คือโทษที่มึงจะได้รับ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า " ใอ้เคราดกมันตะคอกใส่หน้าพลที่โดนจับมัดกับเก้าอี้โดยพวกมันจัดการถอดกางเกงเค้าออกไปพร้อมกางเกงใน เห็นอวัยวะความเป็นชายชัดเจน แจง ตอนนี้ถูกแก้ผ้าผูกตาออกแล้ว เธอถึงกับตะลึงเมื่อพบว่า มีชายฉกรรจ์ แก้ผ้ารายล้อมเธอ จนโกดังดูคับแคบ เธอเห็นท่อนควยลุกโด่ยาวเหยียด หัวถอกบานร่า ของแต่ละคนชัดเจน ใบหน้าแต่ละคนล้วนบอกยี่ห้อ แจงโดนจับแก้ผ้าออกจนเปลือยล่อนจ้อนอวดโคกหีอวบอูม และอกอวบสองเต้าแก่สายตาทุกคนในห้อง "ถ้ามึงตามใจพวกกูดีๆ พวกกูจะไว้ชีวิต" แจงไม่มีทางเลือก ครู่ต่อมา พลเจ้าบ่าวหมาดๆ ที่ถูกมัดกับเก้าอี้ไกล้ๆ ก็เห็น แจง เจ้าสาวน่ารักของเค้าที่อยู่ในสภาพเปลือยกาย ถูกพวกมันจับมานั่งเก้าอี้ ไกล้ๆเพื่อให้ เค้าเห็นชัดๆ ขาสองข้างของเธอถูกพาดบนเก้าอี้อวดโคกหีแก่สายตาทุกคน ตอนนี้คนที่ยืนข้างๆ เอามือคลึงอกอวบสลับกับจับโคกหีเธอแล้ว พอแจงจะอ้าปากร้องคนที่ยืนข้างๆก็จับหัวเธอเข้าหาตัวมันเอาควยป้อนยัดปาก "อู้วว"พลตะลึงตัวชาเมื่อเห็นเจ้าสาวของเค้า โดนควยคนอื่นยัดให้อมเต็มปากต่อหน้าต่อตาแบบนั้น แล้วเค้าก็เห็นแฟนสาวดูดควยให้มันจนแก้มบุ๋มตามสั่งด้วย มือสองข้างของเธอโดนจับให้ไปกำควยข้างละอัน พลเห็นแจงดูดควยพวกมันที่ทยอยเข้ามาให้ดูดอม จะจะ พออันที่ห้า ผละจากปากเธอ คนที่หกก็เข้ามาพร้อมกะเพื่อนมัน แล้วให้แจงจับควยข้างละอันเอาเข้าปากพร้อมกันซึ่งเธอก็พยามอมแต่ก็ได้แค่หัว พล ถึงกับตะลึงพร้อมกับควยแข็งเมื่อเห็น เจ้าสาว พยายามอมหัวถอกบานร่าเข้าปากพร้อมกันสองหัวแบบนั้นตรงหน้า พวกมันผลัดกันเข้ามาให้แจงพยายามอมหัวควยเข้าปากทีละสองอันแบบนั้น สามคู่ พอให้อมควยได้สิบกว่าดุ้น ใอ้เคราดกก็เข้าไปกลางหว่างขาของแจงเอาควยจ่อที่ร่องหีบริสุทธิ แล้วกดจนพลเห็นแคมยุบตามแรงดัน "โอ๊ยเจ็บ อย่าพึ่งดันนะ อุยย" ใอ้คนนึงเอามือมาบี้แตดช่วย พร้อมกับเพื่อนมันข้างๆคลึงอกอวบ พล เห็นหัวถอกบานร่าของใอ้หมอนั่นถูกกดจนผลุบเข้าไปมิดเงี่ยง แล้วมันก็ดึงออกมานิดนึงแล้วกดเน้นๆ แจงได้แต่ครวญครางตลอดการโดนควยเย็ดหีเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ ในที่สุด พลก็เห็นควยใหญ่ยาวของใอ้หมอนั่นถูกกดเข้าไปในรูหีฉ่ำเมือกของแจงจนมิดดุ้น เห็นแต่หนอกรกหมอยของมันบดเบียดกับเนินหีนูนๆของเธอ "อูยยซซดด์ หีแฟนมึงโคตรฟิต ดันแทบไม่เข้า อูยยซซซดด์ ตอนนี้ควยกู โดนรูหีแฟนมึงดูดตอดใหญ่เลยว่ะเสียวโคตร" พลทั้งได้ยินทั้งเห็นแบบจะจะ ทำให้รู้สึกยากบรรยาย ใอ้นั่นมันซอยแค่ไม่ถึงสิบทีก็ดึงออกมา ให้คนที่รอเข้าไปเอาควยอัดเข้ารูหีแจงมิดดุ้นพลเห็นพวกมันเรียงคิวเข้ามาเอาควยอัดรูหีแฟนสาวจนมิดแล้วซอยคนละอย่างมากแค่สิบกว่าทีโดยยังไม่มีใครน้ำแตก พักเดียว พลก็เห็นแจงก็โดนควยใหญ่ยาวยัดหีมิดดุ้นแล้วซอยไปแล้วสิบกว่าอันจนทุกอันเป็นมันแผลบน้ำเมือกที่หีแจงออกมาพอสมควร เธอเองก็คงเงี่ยนบ้างที่โดนควยหลายอันแบบนั้น ใอ้คนที่พึ่งเสียบควยเข้ารูหีแจงมิดด้ามเป็นคนที่สิบกว่า มันดึงตัวแจงมากอด โดยพวกมันช่วยจับขาจับแขนเธอด้วย แจงเลยอยู่ในท่าตัวลอย โดนชายฉกรรจ์สองคนจับขาเธอคนละข้าง โดยให้เธอโอบคอไว้ข้างละคนโดยมีคนเย็ดหีไปด้วย ตอนเธอโดนคนเข้าไปเอา
ควยยัดหีด้านหน้าพลมองไม่ค่อยเห็นนักแต่ พอ พวกมันเข้าจากด้านหลัง คราวนี้ พลเห็นควยพวกมันเข้ารูหีแจงแบบจะจะชัดเจน แจงเองได้แต่ครางโอยๆ ตลอดการโดนควยพวกมันแต่ละคนเย็ดแบบถนัดถนี่บางทีก็เอาควยเย็ดสลับกันหน้าหลังจนเธอร้องเสียงหลงด้วยความเสียวที่โดนเย็ดแบบสลับควยชนิดรับไปเต็มๆ ครู่ต่อมา พวกมันก็จับเธอคลาน แล้วเอาควยเย็ดหีจากด้านหลังอย่างต่อเนื่อง โดยใอ้คนนึงลงไปนอน แบบขวางตัว ให้แจงก้มลงดูดควย โดย มีคนเข้ามาด้านบนแอ่นควยให้เธอดูด สลับกับคนที่นอนไปด้วย บางทีเธอก็อมหัวควยเข้าปากดูดสองอันพร้อมกัน หีก็โดนเย็ดกระหน่ำนมสองเต้าถูกคลึงเคล้นไม่รู้ว่าเป็นมือใครต่อมือใคร ตอนพลเห็น แจงโดนเอาควยสองอันจ่อปากฉีดน้ำควยขาวขุ่น ให้เธออมไว้เต็มปากก่อนกลืนจนเกลี้ยง พลถึงกับน้ำแตก โดยไม่มีการจับควยชักแต่อย่างใด พวกมันหัวเราะ กันใหญ่เมื่อเห็นพลน้ำแตกแบบนั้น มันเลย เอาตัวแจงมายืน เอาหีไปไกล้หน้า พล แล้วสอดควยเย็ดหีจากด้านหลัง ให้เค้าเลียแตดเลียหีแฟนสาว มันบอกให้เค้าเลียหีแฟน เพื่อเป็นรางวัลที่ยอมทำตัวดีๆตามที่มันสั่ง แจงเองถึงกับครางลั่นห้องเมื่อโดนเลียแตด ขณะมีควยซอยเย็ดหีแบบนั้น พวกมันเย็ดเธอทุกท่าทุกแบบจนหนำควยมดลูกแจงก็โดนน้ำควยพวกมันราดจนชุมโชก ทั้งเอาให้เธอกินจนเต็มท้อง ถึงเลิกราไปเองโดยช่วงหลังพวกมันให้แจงจับควยพลชักว่าวไปด้วยพร้อมกันขณะที่เธอโดนควยเย็ดหีและกำลังดูดควยพวกมัน คืนนั้นพลโดนพวกมันให้แจงจับควยชักว่าวให้อย่างเดียวจนน้ำแตกอีกสองครั้ง แต่พวกมันเองก็ไม่มีใครได้จูบปากแจง มันให้แต่พลเป็นคนประกบปากจูบเธอคนเดียว "พวกกูให้มึงจูบคนเดียวเพราะไม่อยากรู้รสควยในปากแฟนมึงว่ะ"พวกมันคนนึงบอกตอนให้เค้าดูดปากจูบกะแจงตอนเธอกำลังโดนควยเย็ดหีต่อ หลังคนนึงน้ำแตกคาปากให้เธอกินหมาดๆ ผ่านเหตุการณ์วันนั้นทำให้แจงและ แฟนสาว เป็นคนชอบเรื่องโดนรุม เพราะลำพังควย ของพลอันเดียว แจงยอมรับว่าไม่มันส์เท่าหลายๆอันแบบที่โดนครั้งแรก

521
 สวัสดีคะ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบเรื่องแบบนี้ สมัยที่ยังเรียนอยู่ เรื่องพูดจาทะลึ่งลามก เนี่ยดิฉันก็ไม่แพ้ใคร พูดจากันแต่ละครั้ง ก็พูดคำไทยเดิมแท้ ๆ แต่ก็เก่งแต่ปากเท่านั้นเองคะ จริง ๆ ก็ไม่กล้าเท่าไร แต่ยอมรับคะว่าอยากลอง ในเรื่องราวที่เคยพูดคุยกับเพื่อนนั้น มันมีเรื่องของการมีผัวเป็นฝรั่ง เพื่อนมักจะพูดกันว่า " เฮ้ย พวกแก ใครมีผัวฝรั่งนะ แก เอ้ย ไม่อยากจะบอก " " พูดอย่างกับแกเคยเจอนั้นแหละ "
" บ้า ใครจะเคย แต่ว่าเขาว่าพวกฝรั่งเนี่ยควยใหญ่ เป็นกระบอกข้าวหลามเลยใช่เปล่า " " พูดน่าเกลียด ควยใครจะใหญ่เป็นกระบอกข้าวหลาม โดนเย็ดทีหีไม่แหกหมดเลยหรือวะ " นั้นแหละเป็นคำพูดที่เราเคยพูดกัน แต่ใครจะไปคิดว่า เรื่องแบบนี้มันจะมาเกิดกับดิฉันจนได้ ดรื่องมันเกิดขึ้น เพราะว่าดิฉันดันไปรู้จัก ฝรั่งคนหนึ่ง เขาเป็นชาวอิตาลีค่ะชื่อ มิเชล นะค่ะ ปัจจุบันเป็นสามีดิฉันเองคะ เรื่องที่รู้จักกันจีบกันนั้นคงไม่ขอเล่านะ แต่ที่จะเล่านั้นมันเป็นตอนที่แต่งงานกันคืนแรกคะ เพื่อน ๆ มันก็แซวว่า " สงสัยวันนี้โดนมิเชลมันเย็ดจะหีแหกแน่เลย ยังไง ก็ เอามาบอกด้วยนะ ว่าควยใหญ่แค่ไหน " นั้นแหละคะ เป็นคำเพื่อนของดิฉัน ซึ่งดิฉันเองตอนนั้นก็ยอมรับคะ ว่ากลัวมาเลย เพราะว่าเป็นแฟนกันมาเกือบปี อย่างมากก็แค่จับมือ โอบกอด จูบปากหอมแก้มบ้าง แต่ไม่เคยถึงขึ้นเย็ดกัน เลยไม่รู้ว่าควยของมิเชลจะขนาดไหน พอเสร็จงานเราก็บินไปฮันนีมูนที่ภูเก็ตทันที พอเข้าถึงห้องพักเสร็จ มิเชลก็บอกให้ดิฉันอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จมิเชลก็อาบต่อ หลังอาบน้ำเสร็จ ดิฉันก็มานอนรอที่เตียงคะ แก้ผ้าหมดแล้วนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม พอมิเชลออกมาก็นุ่งผ้าขนหนูอยู่ผืนเดียว มิเชลเห็นฉันนอนหลับอยู่บนเตียง ก็ตรงเขามาสวนกอดฉันที่ด้านหลัง เขาล้วงมือมาจับนมของดิฉัน ดิฉันเองก็ไม่ใช้หุ่นดีอะไรมาก ก็มาตราฐานไทย ๆ แหละคะ สูง 154 หนัก 52 สัดส่วน 33 - 24 - 35 ส่วนมิเชลนั้นค่อนข้างสูงใหญ่ สูง185ค่ะ มิเชลจูบพรมไปทั่วแผ่นหลังของดิฉัน ทำเอาดิฉันเสียวซ่านไปหมด เขาคงเห็นว่าผ้าห่มมันเกะกะ ก็เลยดึงมันออก ดิฉันพลิกตัวขึ้นมาแลกจูบปากกับเขาอย่างเมามัน เราจูบปากกันนานพอดู แล้วมิเชลก็ค่อย ๆ เลื่อนตัวลงไปที่หน้าอกของดิฉัน เขาดูดเลียที่หัวนม แบบรุนแรงมาก เขาอ้าปากดูดนมของดิฉัน เหมือนว่าจะให้มันหลุดหายเข้าไปในปากทั้งเต้ายังไงยั้งงั้น ไม่นึกว่ามันจะเสียวแบบนี้ ตอนนี้ดิฉันลืมเรื่องขนาดของเขาไปแล้ว เพราะว่าเขาทำดิฉันเสียวเหลือเกิน พอหลุดจากนมก็ไล่เรื่อยลงมาถึงหน้าท้องและสะดือ แล้วก็ไปถึงเนินหีของดิฉัน มิเชลดูดเลียหีของดิฉันจนดิฉันเสียวตัวสั่น มือเท้าเย็นไปหมด ไม่คิดว่าจะเสียวขนาดนี้ ดิฉันไม่รู้หรอกว่าเขาดูดเลียยังไง รู้แต่ว่าเสียวมากเลย แล้วก็รู้สึกว่า มิเชล เอานิ้วแยงเข้ามาในหีของดิฉันด้วย ตอนนั้นมันแน่นมันตึงเหมือนกัน เขาไม่แยงเปล่า ยังคว้านนิ้วด้วย มันเสียวมาก จนดิฉันเสร็จไปจนได้ ตอนนี้เริ่นคิดถึงควยของเขาแล้วคะ ขนาดนิ้วยังเสียวขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นโดนควยเขาเย็ดจริง ๆ จะเป็นยังไง ก็ยังไม่เห็นควยเขาเต็มๆ คะ แต่รู้สึกว่าควยเขามาถูไถกับหน้าขาของดิฉัน มันอุ่น ๆ ดี พอดูดเลียหีของดิฉันจนหนำใจแล้ว มิเชลก็เลื่อนตัวขึ้นมาจูบปากดิฉันอีก ตอนนี้ดิฉันรู้สึกถึงความอุ่นของควยของเขา ที่มาทาทาบอยู่ที่หน้าขาของดิฉัน มิเชลกอดดิฉัน แล้วจับพลิกให้ดิฉันอยู่ด้านบน ดิฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันตอนนี้ว่ามันใหญ่ขนาดไหน ก็ค่อย ๆ เลื่อนตัวลงไปเรื่อย ๆ จนถึงหน้าท้องของเขาค่ะ ระหว่างที่เลื่อนลงไปดิฉันก็ทับมันซะเต็มตัวจนรู้สึกว่ามัน เสียวคะ จนเจอเข้าจัง ๆ เลย เห็นแล้วแทบเป็นลมเลยคะ แบบว่ามันใหญ่มากเลย มือกำไม่รอบ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ถึงกับกระบอกข้าวหลามอย่างที่คุยเล่นกับเพื่อน แล้วก็ไม่เคยเห็นของใครมาก่อน แต่ก็รู้สึกได้ว่ามันใหญ่คะ กะความยาว น่าจะประมาณ 8 นิ้ว ขาวเป็นลำส่วนหัวมันบานสีชมพูน่าเกลียดมากเลย มิเชลบอกให้ดิฉันช่วยดูดให้เขา ดิฉันว่าไม่เคย เขาก็ว่าลองดูซิ ก็เลยลองดู มันอมเต็มปากของดิฉันเลย ดิฉันก็อม ๆ ดูด ๆ ไปอย่างนั้นเพราะว่าไม่เคย เพราะตอนนี่คิดอย่างหวั่นๆแต่เพียงว่าถ้าโดนควยแท่งนี้เข้า หีไม่แหกก็คงหุบขาไม่ลงแน่เลย มิเชลคงจะทนไม่ไหวกับการดูดของดิฉันเท่าไรมั้ง ( แบบว่าดูดไม่ค่อยเป็นคะ ) เขาผลักให้ดิฉันลงไปอยู่ข้างล่างแทน แล้วเขาก็จับขาของดิฉันยกขึ้น แล้วดันที่ขาพับของดิฉันออกด้านข้าง ดิฉันตกใจเหมือนกัน คิดว่าจะโดนแล้วหรือเนี่ย มิเชลเอาหัวควยจ่อที่ปากรูหีของดิฉัน จนรู้สึกได้ถึงความอุ่น ดิฉันพยายามชันตัวขึ้นมาดู แต่ไม่ค่อยถนัด ดิฉันบอกให้มิเชลค่อย ๆ เพราะไม่เคยเขาก็รับคำ มิเชลค่อย ๆ กดลงมา ดิฉันจับแขนเขาแน่น โอ้ยมันคับแน่นมากเลยค่ะ สองแคมหีตึงเปรี๊ยะ เหมือนจะฉีกออกจากกัน แต่ก็ไม่ร้องออกมาคะ ได้แต่หลับตาปี๋ กัดฟันแน่น คิดแต่เพียงว่าเดี๋ยวก็จะมีแต่ความเสียว แบบเพื่อนเขาว่ามา แต่ก็คิดเหมือนกันนะว่าถ้ารูหีมันฉีกขึ้นมา ไปให้หมอเขาเย็บคงน่าอายมากเลย ดิฉันรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวที่ค่อย ๆ แทรกตัวเข้ามาในรูทีละน้อยทีละน้อย มันคับมันแน่นจนดิฉันแทบหายใจไม่ออก แบบว่ามันเจ็บมาก จนดิฉันเองรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เลยบอกให้มิเชลหยุดก่อน มิเชลก็หยุดคะ ถามว่าเจ็บมากไหม ดิฉันก็พยักหน้า เขาก็ปลอบว่าไม่ต้องกลัวเจ็บนิดเดียว ดิฉันก็พยักหน้าอีก แต่ในใจคิดว่ามันเจ็บมากเลยคะ มิเชลหยุดกดลงมา ก็เปลี่ยนเป็นก้มลงมาจูบปากของดิฉัน มือก็เลื่อนมาจับบีบคลึงนมของดิฉัน จนดิฉันรู้สึกเริ่มเสียวขึ้นมาอีกครั้ง พอดิฉันเริ่มจะครางใจลำคอต่อ มิเชลก็กดควยลงมาอีก ดิฉันก็ร้อง"โอ้ยย..หยุดก่อน มันแน่น มันเจ็บค่ะ"ออกมา มิเชลก็หยุดกด พอดิฉันเงียบเสียงลงมิเชลค่อย ๆ กดลงมาเรื่อย ๆ จนควยจมหายลงเข้าในรูหีของดิฉันมิดลำ ดิฉันรู้สึกว่ามันแน่นมากเลย แทบขยับตัวไม่ได้ มิเชลพอกดลงมาสุดท่อนควยแล้ว ก็กดแช่อยู่อย่างนั้น แล้วก็ส่ายเอวบดลงมา ดิฉันก็ต้องส่ายตาม เพราะว่ามันติดตามควยของเขาไปด้วย มิเชลส่ายบดอย่างนั้นสักครู่ ก็ถามว่ายังเจ็บอยู่ไหม ดิฉันก็บอกว่าไม่ค่อยเจ็บแล้ว มิเชลก็เลยค่อย ๆ ถอนควยออก มันแน่นมาจนดิฉันแทบไม่ต้องแอ่นเอวขึ้น เพราะว่ามันติดอยู่อย่างนั้น แต่มันก็เลื่อนหลุดออกมาเล็กน้อย แล้วมิเชลก็กดลงมาใหม่ ดิฉันถึงกับร้องอูยขึ้นมา มิเชลถอดถอนออกมา อีกแล้วก็กดลงไปใหม่ ดิฉันก็ยังคงเจ็บอยู่เหมือนกัน แต่มันน้อยกว่าตอนแรกที่เริ่มกดลงมา มิเชลถอนออกมาทีละน้อย แล้วกดลงไปใหม่ จากสั้น ๆ ก็เป็นยาวขึ้น จากช้า ๆ เป็นเร็วขึ้นเร็วขึ้น ความเจ็บที่ดิฉันมีในตอนแรก ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านไปแล้วคะ มิเชลเริ่มซอยเร็วขึ้นเร็วขึ้น จากค่อย ๆ กดก็เป็นกระแทกลงมา อาว์ มันเสียวเหลือเกินคะ รู้สึกว่ามันแน่น มัน .. มันส์คะ แบบว่าไม่รู้จะบรรยายยังไง มันเสียว เสียวเหลือเกิน มิเชลกระแทกลงมาค่อยเร็วค่อยแรงขึ้น ดิฉันก็ส่ายเอวรับอย่างมันส์เลยคะ ไม่คิดว่ามันจะเสียวจะมันขนาดนี้ มิเชลกระแทกลงมาทั้งตัว มันทั้งหนักทั้งแน่น ต่างฝ่ายต่างก็ร้องครางออกมาไม่แพ้กัน จนในที่สุดทั้งดิฉันและมิเชลก็ถึงจุดสุดยอด มิเชลฉีดน้ำของเข้าเข้ามา ดิฉันรู้สึกได้ถึงความร้อนของน้ำของเขา ดิฉันกอดเขาแน่น เรากอดกันนิ่งอย่างนั้นอยู่พักใหญ่ มิเชลก็ลุกขึ้น ดิฉันบอกให้เขาถอนควยเขาออก มิเชลก็ถอนออก อาว์ มันรู้สึกโล่งขึ้นมาถนัดตา มันว่าง ๆ ยังไงพิกล ดิฉันชันตัวขึ้นมาดูผลของมัน รูหีของดิฉัน อ้าแดงแจ๋ มันเปียกแฉะไปหมด น้ำไหลนองออกมา มีสีเลือดปนออกมา ดิฉันก็ตกใจคะ มิเชลบออกว่า มันธรรมดานะ ครั้งแรกก็อย่างนี้ ดิฉันว่าดิฉันกลัวว่ามันจะฉีก ดิฉันเอามือคลำ ๆ ดู มันแสบ ๆ นิด ๆ คะ มิเชลก็ก้มลงไปดูให้ เขาบอกว่าไม่ฉีกเลย อย่างนี้ก็เอาได้อีกหลายที แล้วมิเชลก็เอากับดิฉันอีก คืนนั้นมิเชลเอาดิฉันไปกว่า ห้า รอบเห็นจะได้ จนมิเชลหมดแรงไปเลย รูของดิฉันเองก็แทบหุบไม่ลงเลย หีมันบวมเป่ง ขึ้นมาเลยคะ เดินแทบไม่ไหว เพราะว่ามันหุบขาไม่ค่อยลง จะฉี่จะอาบน้ำก็แสบไปหมด พอวันที่สองและสามเราเลยไม่ได้เอากัน เพราะว่าดิฉันหีบวมแสบ กว่าจะเอากันใหม่ได้ก็วันที่สี่แล้วคะ แต่หลังจากนั้นความเจ็บมันไม่มีแล้วคะ มีแต่ความมันส์ความเสียวค่ะ พอกลับถึงกรุงเทพฯดิฉันก็ไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนฟังก็อิจฉาคะ บางคนก็แซว ๆ ว่าสงสัยต้องมาขอยืมลองดูซะแล้ว ดิฉันก็บอกว่า ของใครก็ของใครซิยะ อย่างลองก็ไปหาเอาเอง ตอนนี้เพื่อนดิฉันในก๊วน แต่งงานกันไปหมดแล้ว แต่ไม่มีใครโดนควยฝรั่งแบบดิฉันสักคนเลย

522
ผมเป็นคนต่างจังหวัด แต่ได้มีโอกาศมาเรียนที่กรุงเทพ เรื่องราวก็มีอยู่ว่าในช่วงปี2542ผมได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาเธอน่ารักมากเราเริ่มคบกันช่วงกลางๆปีเธอเป็นคนมีนิสัยราเริง แต่ในตอนนั้นผมพักอยู่กับเพื่อนตอนเช้าไม่ได้ทำอะไรเพราะมีเรียนรอบค่ำแต่แล้ววันหนึ่งผมกับเธอได้มีเวลาว่างมาหาผมได้ เธออยู่กับน้าและน้าเธอไม่อยากใธอคบกับผมสักเท่าไหร่แต่วันนั้นก็มาถึง วันที่น้าเธอไม่อยู่บ้าน ผมเลยนัดเธอออกมาหาที่ห้องและบอกเพื่อนว่าผมไม่สะบายไม่ไปเรียนสักวันพอถึงเวลานัดเธอก็มายืนเคาะประตูห้องผมรีบลุกไปเปิดประตูให้เธอเข้ามาเย็นวันนั้นผมใส่แค่กางเกงขาสั้นกับเสื้อโดยที่ไม่ได้ใส่กางเกงใน เธอนั่งอยู่ที่ปลายเตียงผมเรียกมานั่งใกล้ๆผมพอเธอเขยิบมาผมก็คว้าแขนเธอแล้วดึงลงมาผมพยายามอยู่พักใหญ่กว่าเธอจะหยุดดิ้นพอเธอหยุดดิ้นผมก็จัดการดูดปากเธอ ดูดปากได้สักครู่มือก็ล่วงล้ำเข้าไปในเสื้อบีบนมจนเธอร้องบอกผมให้บีบเบาๆเธอเจ็บผมละมือจากหน้าอกเธอเพื่อถอดเสื่อเธอออกแค่นั้นแหละผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วผมซบหน้าลงไปทั้งเลียทั้งดูดจนเธอเริ่มมีอารมณ์ด้วยผมก็เลยเริ่มถอดกางเกงทั้งของเธอและผมออกผมเอาควยจ่อที่หีเธอแล้วกดให้มันเข้าไปแต่เข้ายากมากจนเธอร้องบอกให้ผมหยุดแต่มันหยุดไม่อยู่แล้วผมก็เลยดันเข้าไปโดยไม่ฟังเสียงเธอพอเข้าไปได้แค่นั้น ผมก็เริ่มซอยเข้าออกช้าๆจากเสียงร้องกลายเป็นเสียงคลางเอาต้อนไหนไม่รู้ทั้งเสียงคลางบวกกับการตอดรัดของหีเธอทำให้ผมเสร็จทั้งๆที่ไม่อยากเสร็จ พอมาในปี2543ผมพาเพื่อนมาอยู่ที่ห้อง โดยพักรวมกัน(ผมย้ายมาอยู่คนเดียวหลังจากคบกับเธอได้3เดือน)ผมเริ่มคิดพิเรณโดยที่ให้เธอพาเพื่อนมานอนค้างที่ห้องแล้วเราจะเอากันให้เพื่อนเธอดูแต่เธอกลับบอกให้ผมเย็ดเพื่อนเธอแล้วเธอก็จะนอนดูตอนแรกก็กลัวเหมือนกัน แต่คืนนั้นเธอพาเพื่อนมาจริงๆแถมยังกระซิบบอกผมอีกว่าคนนี้แหละเซ็กจัด ผมก็เลยตัดสินใจเป็นไงเป็นกันแลว้ลงไปซื้อเบียร์มา5ขวดผมชวนพวกเธอกินแฟนผมบอกให้ผมกินกับนิ่ม (แฟนผมชื่อสาส่วนเพื่อนเธอชื่อนิ่ม) แล้วเธอก็เข้านอนผมนั้งดื่มกันจน๔ง3ทุ่มก็เข้านอน คืนนั้นก็เลยนอนเร็วกว่าทุกที่พอนอนไปได้ประมาณ10นาที่ ผมก็เริ่มเอามือคลำๆไปจนถูกตัวนิ่ม แล้วผมทำเป็นกอดเธอแล้วจับหน้าอกเธอแต่เธอไม่ตื่นผมก็เลยถลกเสื้อเธอขึ้น นมเธอใหญ่มากผมใช้ปากดูดอยู่ส่วนมือก็ล้วงไปในกางเกงแต่นิ่มไม่ได้ใส่กางเกงใน ผมใช้นิ้วถูที่แตดของนิ้มตอนนี้นิ่มเริ่มรู้สึกตัวแต่คงไม่กล้าแสดงออก ผมก็เลยถอดกางเกงเธอออกแต่ที่เห็นข้างล่างกลับตรงกันข่ามกับข้างบน คือหีนิ่มเล็กกว่าที่คิดไว้ ผมก้มลงตรงหว่างขาแล้วเลียหีอย่างที่เคยทำให้แฟนผมคราวนี้นิ่มเก็บอาการไม่อยู่เธอเอามือมากดหัวผมไว้แน่นกับหีเธอและได้ยินเสียงครางอยู่ในลำคอพอเห็นว่าเธอได้ที่แล้วก็จัดการเอาควยใส่เข้าไปในรูหีของนิ่มแล้วซอยแบบไม่ยั้งจนนิ่มร้องจนเธอลืมไปว่ามีเพื่อนนอนอยู่ข้างเธอแทนที่เธอจะกลัวกลับบอกผมว่าขอทำเองผมก็เลยให้เธอขึ้นทำ พอขึ้นได้เหมือนว่าเธอไม่เคยโนมานาน เธอโยกยังกับควบม้าก็ไม่ปานแล้วเธอก็ถามผมทั้งๆที่เธอโยกอยู่ว่า นิ่มเย็ดมันมั้ย ใครจะไปตอบได้ก็มันมันเสียจนไม่รู้จะว่ายังไง พอเธอถามจบเธอก็กอดผมจนแน่น ที่นี้ก็เป็นทีผมบ้างผมก็เลยจัดการถ่างขาเธอออกแล้วก็ลงมือเย็ดแบบไม่สนคนที่นอนดูอยู่ข้างๆจนไม่นานผมก็บอกเธอว่า นิ่มพี่จะเสร็จแล้ว พอเธอได้ยินแค่นั้นเธอก็ผลักผมออกแล้วเธอก็เอาปากอมให้ผมแล้วดูดให้จนผมเสร็จในปากเธอ แล้วนิ่มก็กลืนลงคอจนไม่เหลือให้ผมล้าง โอกาศหน้าถ้ามีเวลาจะเอาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้ฟังอีก ทุกเรื่องที่เล่ามาเป็นเรื่องจริงทั้งหมดไม่ได้แต่งขึ้นมาเองแม้แต่น้อย

523
สวิงกิ้ง / สวิงอีกแล้ว
« on: November 20, 2009, 08:51:33 pm »
เรื่องมีอยู่ว่า ผมมีคู่ขาอยู่คนหนึ่ง ก็มีอะไรกันมานาน เธอเป็นผู้หญิงที่ขาว สูงโปร่ง หน้าตา น่ารัก ที่สำคัญ คือเซ็กส์สุดฯ ปกติ เราจะหาความสุขกันประจำตามโรงแรมม่านรูด จนกระทั่ง ผมเริ่ม มีโอกาสได้ดูหนังเอ็กซ์ แบบที่ผู้ชายหลายฯคน รุมเอาผู้หญิงคนเดียว ดูบ่อยฯเข้าผมก็เลยเริ่มอยาก จะลองแบบนั้น ก็ได้ลองคุยกับเธอดู แต่เธอก็ไม่ยอมซักที ผมใช้เวลากล่อมเธอนานพอควร โดย เฉพาะ เวลาที่เอากันอยู่ เช่น ถามขณะที่กำลังเอาว่า ถ้าตอนนี้มีใครมาช่วยเย็ด นกจะยอมไม๊ เธอก็ ไม่ยอม จนกระทั่งมีครั้งหนึ่ง เราไปความสุขกันตามปกติ ขณะที่ผมกำลังเอาเธออยู่ ในท่าหมา ผม ถามว่า นก ถ้าตอนนี้ มีควยอีกอันจ่อปากอยู่ นกจะอมไม๊ เธอไม่ตอบ ผมเลย กระเด้าเธอถี่ฯแรงฯ แล้ว เอานิ้วไปจ่อที่ปากเธอพร้อมทั้งเย็ดเธอแรงฯ แล้วถามซ้ำ เธอไม่ตอบ แต่เธอเอาปากอมนิ้วผม ผมเลย บอกเธอให้จินตนาการว่า กำลังโดนเย็ด พร้อมทั้งอมควยคนอื่นอยู่ ดูเธอจะเสียวมากกว่าเดิม ผมเลย ถามว่า ลองคิดแบบนี้แล้วเสียวขึ้นไม๊ เธอบอกว่าเสียว เสียวสุดฯ ผมเลยถามต่อว่า แล้วอยากให้มีคน อื่นเอาควยมาเย็ดปากจริงฯไม๊ เธอยังไม่ตอบ แต่ดูดนิ้วผมแรงขึ้น ผมถามต่อว่า อยากโดนเย็ดพร้อม ทั้งโดนควยคนอื่นกระเด้าปากแรงฯไม๊ เธอพยักหน้าพร้อมทั้ง แอ่นหีรับควยแรงกว่าเดิม ผมเลยบอกว่า ถ้าตอนนี้ พี่เรียกบ่อยมาแล้วให้เอาควยจ่อปากนก นกจะอมไม๊ เธอเงียบ ผมเลยบอกว่า งั้นพี่เรียกเข้า มาเลยนะ เธอยังคงเงียบอยู่ ผมคิดว่าตอนนั้นเธอคงกลัวฯกล้าฯ อยากลองด้วย แล้วก็คงกลัวด้วย ผมรีบโทรศัพท์ เรียกให้บ่อยเข้ามา บอกว่าจะเอาน้ำและน้ำแข็ง แล้วผมก็เย็ดเธอรวมทั้ง พูดปลุกอา รมณ์เธอไปเรื่อยฯ ซักพักมีเสียงเคาะประตูผมชักควยออกจากรูหีเธอ เห็นรูหี กลวง เจิ่งไปด้วยน้ำ แล้ว เดินไปเปิดประตู เรียกให้บ่อยเข้ามาข้างใน พอมันเข้ามา เห็นนกเปลือยอยู่ถึงกับตาโต ผมถามว่า อยากเย็ดเธอไม๊ มันรีบพยักหน้าแล้วบอกว่าครับ ผมเลยบอกมันให้แก้ผ้า ส่วนน้องนก เรียกชื่อผมแล้ว บอกว่าไม่เอานะ ผมเลยบอกว่า ลองดูน่า แค่อมก็ได้ เดี๋ยวพี่เย็ดต่อ แล้วนกอมให้มันนะ เธอส่ายหน้า แต่ผมไม่สน เดินไปหาเธอพร้อมทั้งบอกบ่อยว่า แก้ผ้าชักว่าวไปก่อน ผมคว้าเธอมาจูบแล้วเอานิ้วแยง หีเธอ เธอบอกไม่เอา อายเค้า ผมก็ไม่สนแล้วทำจนเธอมีอารมณ์ แล้วจับเธอแหกขา เย็ดต่อ เธอขัด ขืนแต่พอควยเข้ารูหีแล้ว ถึงกับหยุด แล้วร้องซิ้ดดด ผมถามว่า เย็ดเลยนะ ใครจะดูช่างมัน เธอพยัก หน้า ผมเลยเย็ดปลุกอารมณ์เธอเรื่อยฯ พร้อมทั้งจับหน้าเธอให้ดู บ่อยที่กำลังเปลือยชักว่าว แล้วบอก เป็นไง ได้อารมณ์ไม๊ เธอบอก อืมม ผมเรียกบ๋อยเข้ามาแล้วบอกว่า จับนมเธอ เอาควยจ่อปากเธอสิ นกไม่ยอมอม ผมเลยกระแทกจนเธอร้องอ้าปาก บ๋อยมันก็รู้งาน เอาควยยัดปากเธอทันที คราวนี้ล่ะ ผมยิ่งมันกว่าเก่า เห็นผู้หญิงของผมโดนเย็ดแถมต้องอมควยคนอื่นอีก เลยงัดควยทั้งซ้ายทั้งขวา แล้วสังเกตเธอ ตอนนี้นกทั้งอมทั้งเลียอย่างที่ทำให้ผมเลย นกอมควยมันจนหมดอัน ผมว่ามันน่าจะเข้า ถึงคอหอยนะ แต่ก็ธรรมดาปกติเธออมเก่งอยู่แล้ว แล้วเธอชอบอมหมดอันแล้วให้ผมกระแทกปากแรง แรงอยู่แล้ว ผมถามต่อ มันส์ไม๊ เธอพยักหน้า ผมเลยบอกว่า งั้นวันนี้ ก็ลองเย็ดกับควยอันนี้ ไปเลย แล้วกัน เธอส่ายหน้าแต่ผมไม่สน เอาควยออกจากรูแล้วจับเธอนอนหงาย จับขาเธอแหกแล้วบอกบ๋อย ว่า เอาควยจ่อหีเย็ดเลย เย็ดแรงฯด้วยแปลกแต่จริงตะกี้เพิ่งส่ายหน้าไม่เอาแต่พอจับแหกหีกลับเฉย
บ๋อยเลยเอาควยจ่อแล้วเย็ดพรวดเข้ามา เธอร้อง อูยย เสียวจัง ผมถามว่าชอบไม๊ คราวนี้พยักหน้า ผมเลยบอกว่า อยากโดนเย็ดหีเย็ดปากไม๊ เธอบอกเอา ผมเลยเอาควยจ่อปากเธอแล้วเย็ดปากแบบ แรงฯสุดคอหอยเธอขณะที่บอกบ๋อยว่า เย็ดหีนกแรงฯไม่ต้องกลัวพัง แล้วอย่าเพิ่งออกเร็วนะ เดี๋ยวมี อะไรดีฯให้ลอง ลองนึกภาพ ผู้หญิงตัวเล็กฯ ขาวฯ โดนผู้ชาย 2 คน เย็ดทั้งหีทั้งปากแบบแรงฯ หมด ควย สะใจครับ ซักพักผมบอกว่า ให้นกขย่มเอง ให้บ๋อยลงไปนอน แล้วผมออกมายืนดู เห็นหีเธอน้ำ เยิ้มไปหมดมากกว่าทุกครั้งอีก ผมเอาน้ำหีเธอ ละเลงรอบรูตูด แล้วแหย่นิ้วเข้ารูตูดเธอ แล้วก้มไปกระ ซิบว่า นกเคยแต่โดนพี่เย็ดตูดเย็ดหีทีละรู คราวนี้ลอง 2 รูพร้อมกันเลยนะ แล้วผมก็ เอาควยยัดตูดเธอ ดูตอนนี้ เธอไม่สนอะไรแล้วยอมทุกอย่าง ผมเลยเย็ดแบบแรงฯ พร้อมทั้งจับก้นเธอให้กระแทกกับอีก ควยแรงฯด้วย นกร้องไม่เป็นภาษาเลย คราง ว่า เสียวจัง เสียวมากเลย โอยย เสียวทั้งหีและตูดเลย พี่ ผมบอกว่าอยากพูดอะไรอยากร้องดังฯ ก็เอาเลย ตอนนี้ในห้องเสียงระงมเลย เธอบอกว่า เสร็จแล้ว เสร็จอีก ผมถามต่อ อยากโดนเย็ดหีเย็ดตูดทั้งคืนไม๊ เธอบอกเสียงสั่นฯ ว่าเอา ถามอะไรตอนนี้เธอ ยอมหมดแล้ว ผมถามต่อแล้วอยากโดน 2 ควยรูเดียวไม๊ เธอบอกเอา อยากเย็ดนกยังไงเย็ดเลย นก ยอมทุกอย่างแล้ว โอยย เสียว เย็ดเลยพี่ ผมเอาควยออกจากรูตูดแล้วเสียบหีเธออีกอัน เข้ายากตรับ แต่เสียวมาก ผมก็ไม่สนแล้ว หีเธอจะแหกยังไง ไม่รู้ล่ะ เย็ดไว้ก่อน เห็นเธอหน้าแดงก่ำ อ้าปากตลอด แถมทั้งกอดทั้งจูบกับบ๋อยเหมือนรักกันมานาน เธอหลุดโลกแล้วครับ วันนั้นจับเธอเย็ดท่าไหน เย็ดยัง ไง เธอยอมหมด มันส์มาก ตั้งแต่นั้นมาดูเธอติดใจนะ แต่ผมยังไม่เคยลองอีกเหมือนกัน ไว้ว่างฯ ว่าจะ ลองใหม่ อ้อ ขอพาสเวิร์ดด้วยครับ

524
หลังจากที่เคยนัดเจอแต่หนุ่มเดี่ยวๆ จากอินเตอร์เนต ทั้งจากทางICQ , MSN หรือ Pirch รวมถึง จากการโพสท์ไว้ตามบอร์ดประกาศความต้องกามต่างๆ อีกมากมาย ทั้งอยากลองจริง และนึกสนุก ตั้งแต่เริ่มแรก เป็นเวลาก็สองปีกว่า หนุ่มเดี่ยว ทั้งแก่ และเด็กน้อย ก็เจอมาแบบนับไม่ถ้วนมีบางคนที่ยังติดอกติดใจ และยังติดต่อคบหากันอยู่ โดยไม่ยุ่งเกี่ยวหรือ รับทราบเรื่องส่วนตัวของกันและกัน อย่างเด็ดขาด จนมาช่วงหนึ่ง ได้เจอพี่คนหนึ่ง ทาง ICQ และได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์กันเป็นเวลาหลายเดือน จนเริ่มคุ้นเคย คุยได้ถึงแก่นมากขึ้น บางทีก็เซ็กส์โฟนกันไปพลางๆ ก็เลยนัดเจอกัน เราเข้าไปหาเค้าที่กรุงเทพ นัดเจอกันที่หน้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ตีห้ากว่าๆ ก็เข้าโรงแรมเลย เราเฉยๆ กับการนัดเจอหนุ่ม และมีอะไรกัน ก็ตื่นเต้นซักเดี๋ยวเดี๋ยวเดียวทุกอย่างก็ราบรื่นและเข้าที่ พี่เค้าชื่อพี่รัฐ พี่รัฐเค้าชมว่า เราขาว และอวบดี นมใหญ่ หน้าเด็กหมวย ควยพี่เค้า ใหญ่ ประมาณ 6 x 6 เย็ดกันตั้งกะเข้าถึงโรงแรม แบบข้าวปลาไม่ต้องกิน พี่เค้าเสร็จช้ามาก และอีกอย่างของพี่เค้ามันใหญ่ แต่มันแข็งแบบไม่แข็งจริงๆ มันแข็งแบบนิ่มๆ มันเลยไม่ถึงใจเรา เราว่าเราเป็นคนเสร็จยาก ก็ยังเสร็จไปแค่สองที จากตั้งแต่เช้ายันเย็น จนถึงเย็น ก็ออกไปหาอะไรทาน พี่เค้าบอกว่า ถ้าชวนเพื่อนเค้ามาอีกคนมา จะได้มั๊ย ไอ้เราก็อยากลองอยู่แล้ว ก็ตกลง พอถึงที่โรงแรม ซักพัก เพื่อนพี่เค้าก็มา เราเขินนะ เพราะไม่เคยเจอแบบนี้ ได้แต่ยิ้มและหลบอยู่ในอ้อมอกของพี่รัฐ พี่เค้าตัวขาวสูงใหญ่ อายุประมาณ 42 แต่ยังแข็งแรงและดูดีมาก สะอาดชื่อ พี่วิทย์ ตอนที่พี่วิทย์มาถึง เรากับพี่รัฐก็กำลังเริ่มยกใหม่ ในรอบค่ำ ต่างคนต่างเปลือยเปล่า กอดก่ายเล้าโลมกันอยู่ พี่วิทย์เลยขอตัวอาบน้ำ ระหว่างนั้น ทั้งพี่รัฐทั้งเราก็ทนไม่ไหวแล้วล่ะ พี่เค้าก็เลยจับควยใส่รูแล้วเด้งกระแทก ในท่า พี่เค้าคร่อมเราอยู่ข้างบน พี่เค้าทำแรงมากกว่าช่วงบ่าย อาจจะเป็นเพราะว่า พี่เค้าก็ตื่นเต้น ที่พี่วิทย์มาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ยังไม่ทันเสร็จสมอารมณ์หมาย พี่วิทย์เค้าก็อาบน้ำเสร็จ พอออกมาถึง พี่เค้าก็ขึ้นมาที่เตียง เรายังไม่ทันตั้งตัว( เพราะโดนพี่รัฐ กระเด้าเย็ดอยู่ ) พี่วิทย์ก็จ่อควยขนาดพอๆ กับของพี่รัฐ ใส่ปากเรา แต่มันแข็ง แข็งกว่ากันมาก.....ถูกใจเป็นที่สุด หีก็โดนพี่รัฐเด้าอยู่เนิบๆ ปากก็ดูดควยพี่วิทย์ พี่วิทย์ซู้ดปากซู้ดคอ เสียวมาก ครางเสียงกระเส่า บอกว่า ดูดเก่งจริงๆ ซักพักเท่านั้น น้ำของพี่วิทย์ก็พุ่งกระฉูดใส่ปากเราอย่างแรง เราดูดกินจนเกลี้ยง เราขนาดโดนพี่รัฐเอาควยเย็ดอยู่ ยังเงี่ยนขึ้นมาอีกมาก เพราะความที่เห็นควยพี่วิทย์แข็งปั๋ง พอพี่วิทย์น้ำแตก ก็นอนแผ่หรา ส่วนเรา ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ควยพี่รัฐรู้สึกจะไม่ค่อยสะใจ (นึกในใจเดี๋ยวก่อน จะขึ้นขย่มเอง ให้หนำใจ) จึงหันมาดูดควยพี่วิทย์ที่เพิ่งสงบนิ่ง พอดูดซักพัก ไม่น่าเชื่อ ว่าคนอายุ ขนาดนี้ จะฟื้นได้เร็วมาก ควยพิ่วิทย์แข็งปั๋งขึ้นมาอีกแล้ว เราไม่รอช้า ผละจากพี่รัฐ ขึ้นขย่มเองเลย เราขย่มกระแทกแรงมากๆ เสียวเป็นที่สุด ควยแข็งๆ ลำยาวๆใหญ่ๆ มันเสียดสีกับแคมแตด ไม่ได้เจอของถูกใจแบบนี้มานานมาก อีกทางก็มีพี่รัฐมาช่วยดูดนม ด้านพี่วิทย์เด้งควยสวน บางทีเราก็บดบี้เม็ดแตดเรากับหนอกควยพี่วิทย์ เราขย่มแบบสุดชีวิต เวลาผ่านไปซักครู่ เราก็บอกเราไม่ไหวแล้ว เราจะเสร็จแล้ว เสียวหี เสียวแตด พี่วิทย์ก็บอกว่า พี่ก็จะแตกเหมือนกัน พอเราขย่มแรงเฮือกสุดท้าย พี่วิทย์ก็เด้งสวน อัดควยเข้าหาเราแรงมาก เราแตกพร้อมกัน มีความสุขมากกก................ทางด้านพี่รัฐก็นอนยิ้ม คลึงนมเราเล่น ...บอกว่าใจจริงอยากเอาเข้าประตูหลัง แต่สงสารเรา กลัวเจ็บก็เลยไม่ทำ คืนนั้น พี่วิทย์ขอตัวกลับก่อน ก่อนกลับหอมแก้มเรา 1 ฟอดใหญ่ แล้วบอกว่า ขอบคุณมาก ที่ทำให้เค้ามีความสุขอย่างถึงใจเป็นที่สุด แบบไม่ได้เจอมานานมาก ส่วนเรากับพี่รัฐ ก็เอากันต่อ หลับๆ ตื่นๆ จนถึงเช้าอีกวัน ซึ่งเรามีธุระเดินทางต่อไปชลบุรี ซึ่งที่นั่นก็มีคู่ขาคนหนึ่ง รอเราอยู่ที่นั่น โดยที่เค้าไม่รู้เลยว่า หนึ่งวัน กับหนึ่งคืนเต็มๆ เราโดนเย็ด จนหีบาน แต่เราก็ไม่ยั่น รับศึกหนักที่ชลบุรี1 บ่าย กับหนึ่งคืน กลับถึงเชียงใหม่ หายอยากไปหลายวันเชียวค่ะ .. นี่เป็นเรื่องจริง ทั้งหมด เพียงแต่เราเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามก็เท่านั้นเอง นี่เป็นเพียงประสบการณ์จริงครั้งแรกของเราแบบมากกว่า 1 ต่อ 1 แต่ก่อนเคยแต่เดี่ยวๆก็คิดว่ามันส์แล้ว แต่พอมาเจอแบบนี้ เรายิ่งชอบ แต่หลังจากครั้งนี้ เรามีเรื่องสวิงสวายกับหนุ่มๆ อีกหลายครั้ง ทั้งเดี่ยว ทั้งคู่ และก็แบบสาม สี่ รุมหนึ่ง โดยครั้งที่สองอยากลองแบบแปลกใหม่ เลย บอกไปว่า อยากเจอแบบ สามสี่คนรุมหนึ่ง ปรากฏว่า พอคุยกันช่วงบ่ายเสร็จ อ้อ ...... ชุดนี้มาจากการคุยกันทาง Pirch ก็นัดเจอกันเย็นวันนั้นเลย โดยก่อนการนัดเจอ ก็คุยกันทางโทรศัพท์ฟังสุ้มเสียง และการพูดการจา ก็ถือว่าใช้ได้ ก็เลยตกกลง ว่าเจอกัน แบบ สาวหนึ่ง หนุ่มสี่ หลังจากที่นัดแนะกันเรียบร้อย ก็เลยนัดเจอกันที่หนึ่ง ที่เชียงใหม่นี่แหล่ะ ( ใครบางคนอาจจะอ่านอยู่ก็เป็นได้นะคะ อิอิอิ ) หลังจากนั้น เห็นหน้าเห็นตา ดูตัวกันแล้ว ก็ตกลงค่ะ หนุ่ม สี่คน อายุ เท่าเรา 1 คน 30นิดหน่อย ที่เหลือ เด็กๆ ทั้งนั้น ( พลางคิดในใจว่า ว้า.... วันนี้สงสัยต้องออกแรงเยอะอีกแล้วเรา ) หนึ่งหนุ่มที่อายุเท่าเรา หล่อมาก อีกสาม กำลังดีเลยค่ะ ก็เลยพาไปที่บ้านเราเอง ปรกติ เราจะอยู่คนเดียว พอถึง ไม่พูดพล่ามทำเพลง ก็มีควยของหนุ่มๆ ทั้งสี่ หราไปทั่วค่ะ ขนาดก็คละเคล้ากันไป อันที่จริง ไม่เน้นของใหญ่นะคะ แต่ขอให้แข็งเร็ว แข็งไม่ต้องนานมาก เอาแค่พอเหมาะพอควรแก่เวลา แต่แข็งได้ทุกครั้งที่ต้องการ ก็พอค่ะ แต่วันนี้ไม่มีปัญหา เพราะมีตั้ง สี่ควย มายื่นรอ เสียบ รอดูด เราก็ได้แต่ครางกับคราง โดยเฉพาะถ้าเราโดนดูดที่หัวนม เราจะเสียวมาก เสียวแบบว่าแทบจะเสร็จได้เลยน่ะค่ะ แต่ก็ไม่เสร็จหรอกนะคะ เราเสร็จยาก เลยเสียวแบบเร่าร้อนได้ตลอดเวลา เราโดนกระแทกแล้ว กระแทกอีก ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่โดนประตูหลัง แต่ก่อนที่จะโดนก็ต่อรองกับน้องๆ ก่อนว่า ขอที่เล็กที่สุดนะคะ ก็เลยไม่เจ็บ และเสียวมากๆ แทน โดนทั้งหน้า ทั้งหลัง คุณเอ๋ย ใครไม่เคยไปลองซะ!!! เจ็บก็แต่ตอนแรก (ตอนคุณโดนเย็ดหีครั้งแรก เจ็บกว่านี้เยอะค่ะ เรา คอนเฟิร์ม ขอบอก..) เราก็สนองความต้องการของหนุ่มๆ แบบสุดๆ เหมือนกัน ไม่เสร็จทุกคน ไม่หยุดค่ะ ร่อน เด้ง ส่าย คราง จะเอาท่าไหน เราได้ทุกรูปแบบค่ะ เอาจนเสร็จคารู รวมทั้งเสร็จคาปากเราเป็นรายๆ ไปค่ะ หลังจากคราวนี้ เราก็ยังมีนัดกับหนุ่มหล่อคนที่ที่อายุเท่าเราจากกลุ่มนี้ แต่ไม่ได้นัดเป็นกลุ่มแบบเดิม แต่เราพาเค้าไปเอาของดีค่ะ แล้วจะมาเล่าให้อ่านอีกนะคะ ปล. ใครที่เคยคิดว่า เรื่องราวที่เล่า หรือการนัดเจอ คงเป็นเรื่องจริงได้ยาก เราขอยืนยันหนึ่งคนค่ะ ว่าไม่ยากอย่างที่คุณคิด ถ้าคุณเข้าใจและให้เกียรติ สุภาพ และจริงใจ รวมถึงไม่เอาเปรียบแบบเห็นแก่ตัว คุณสามารถจะมีนัดได้ไม่ยากเลยค่ะ จากครั้งที่นัดกับสี่หนุ่ม ก็มีวันหนึ่งที่เรา เข้าไปในเว็บบอร์ดๆหนึ่ง ก็เห็นข้อความบอกว่า อยากสวิงที่เชียงใหม่ วันนี้ สนใจโทรมา.... เราโทรทันที แต่เราไม่ได้อยากไปร่วมนะ เราแค่อยากดู เค้าซึ่งเป็นพี่ผู้ชายก็บอกว่า เค้ามีคู่ขาอยู่ที่เชียงใหม่ แต่เค้าเองปรกติอยู่กรุงเทพ พอดีวันนี้เค้ามาธุระที่เชียงใหม่พอดี เราก็บอกชื่อเราไปว่า x-girl เค้าบอกเค้าก็อยากเจอเรามาก เพราะอ่านที่เราตอบในเว็ปมาตลอด อยากเจอตัวจริง เราก็ไม่ปฏิเสธ แต่ขอนั่งดู โดยเราจะพาเพื่อนๆ เราไปด้วย เพื่อไปร่วมกับคู่ขาของเค้า เค้าตกลง เค้าบอกขอซักสามสี่คนนะ เราไม่มีปัญหา เราก็โทรหาหนุ่มๆ ที่เราเคยนัดเจอ ทั้งเดี่ยวและกลุ่ม ก็บอกเค้าไปตรงๆ ว่าจะโอเคมั๊ย ปรากฏว่ารวบรวมพลพรรคได้ สามหนุ่ม ก็พากันไป โดยเราเอารถไปรับหนุ่มๆ ตามจุดต่างๆ ที่นัดแนะกันไว้ ตรงดิ่งไปโรงแรม ชั้นหนึ่ง โดยพี่เค้าเปิดห้องที่ชั้นสูงสุดของโรงแรม เราค่อนข้างมั่นใจ เพราะพี่เค้าบอกเบอร์ห้องให้เรียบร้อยก่อนที่จะตกลงกันอย่างแน่นอน พอเข้าไปถึง ก็แนะนำตัวกัน และก็นั่งดื่มได้ซักพัก เราก็เลยเริ่มก่อน โดยโอบกอด ผู้หญิงของพี่เค้า ค่อยๆ โอบไปลูกไล้เต้านมด้านหน้า หนุ่มๆ เห็นแบบนั้นก็ยิ้ม แล้วบอกว่า เอาก่อนเลย หลังจากนั้นหนุ่มก็ทยอยอาบน้ำ พอออกมา ก็เริ่มคลุกกับผู้หญิงของพี่เค้า เราตะแรกว่าจะมานั่งดู แต่ปรากฏว่า ทนไม่ไหว เลยโดนขย่มไปด้วย (ต้องเปลี่ยน condom ตลอด ห้ามใช้ร่วมกันอ่ะค่ะ ) เราโดนไปซะสองหนุ่ม ส่วนผู้หญิงของพี่เค้า ก็โดนเพื่อนเราที่พาไปด้วย มะรุมมะตุ้ม เราเพิ่งเคยเห็นหนังสดก็คราวนี้ (แต่เราว่าเราลีลาดี เร่าร้อนกว่าเยอะเลยแฮะ อิอิอิ) หลังจาก เสร็จสมอารมณ์หมายกันทุกคน เราก็ไปส่งเพื่อนๆ กลับ แต่ถามว่าประทับใจมั๊ย เราไม่ประทับใจหรอก เพราะ พี่ผู้ชายเค้าค่อนข้างจะกังวล แต่เค้าก็ตกลงก่อนหน้านั้นแล้ว ทางเราไม่มีปัญหา เพราะเพื่อนเราแต่ละคน ก็มีความสุข เราก็พอใจแล้ว และอีกอย่างก็เป็นความยินยอมพร้อมใจของทั้งผู้ชายผู้หญิง ตั้งกะทีแรก ด้วยค่ะ ..... เรายังมีประสบกามอีกเยอะ เดี๋ยวถ้ามีเวลา ก็จะมาเล่าให้ฟังใหม่อีกนะคะ

525

สวัสดีค่ะ เจนจะขอเล่าประสพการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเจนให้ทุกคนฟังนะค่ะ เจนอายุ 33 ปี ค่ะ แต่งงานมีครอบครัว สำหรับเจนเองจัดว่าความสวยไม่เป็นรองใคร เพราะเจนเคยผ่านเวทีประกวดเวทีใหญ่ของประเทศมาแล้ว และเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายมาแล้ว สำหรับสามีเจนทำธุรกิจส่วนตัวรวมกับเจนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่ามีช่วงหนึ่งสามีและเจนกำลังหาเงินทุนเพื่อประกอบธุรกิจ และเงินไม่พอหมุน ประกอบกับธนาคารไม่ปล่อยเงินกู้ให้ สามีเจนจึงต้องตัดสินใจกู้เงินนอกระบบกับเสี่ยรายหนึ่งชื่อฮ้อ เป็นเงิน 5 ล้านบาท หลังจากกู้เงินมาแล้วธุรกิจก็ไม่ดีเท่าที่ควร เงินที่จะต้องส่งเสี่ยฮ้อก็ไม่ได้ส่งตามกำหนด จนกระทั่งเสี่ยฮ้อส่งคนมาอุ้มสามีและเจนไปตกลงเจรจากัน ว่าจะทำอย่างไรกับเงินที่กู้ไป สามีเจนก็ขอผัดผ่อนต่อไป แต่เสี่ยฮ้อไม่ยอมและหันหน้ามามองเจนตาไม่ละตลอด ซึ่งตอนนั้นเจนใจคอไม่ดีเลย และในที่สุดเจนต้องตกใจมากเมื่อเสี่ยฮ้อบอกว่า ถ้าจะขอผัดผ่อนก็ต้องมีข้อแรกเปลี่ยน โดยขอเจนมาขัดดอกเป็นครั้งคราว และถ้าถูกใจก็จะลดเงินต้นให้ด้วย แต่ถ้าไม่ตกลงเสี่ยฮ้อก็ไม่รับรองว่าอะไรจะเกิดขึ้น และก็หันหน้าไปมองลูกน้องซึ่งแต่ละคนหน้าตาหน้ากลัว และเสี่ยฮ้อก็ให้เวลาเราตัดสินใจ สามีเจนก็ปรึกษากับเจนว่าจะทำอย่างไร และในที่สุดเจนก็ตัดสินใจตกลงตามที่เสี่ยฮ้อต้องการ เพื่อเป็นการรักษาชีวิตและหน้าตาในสังคมที่เราประกอบธุรกิจอยู่ เพราะและสามีคิดว่าคงไม่มีใครรู้เบื้องหลังนี้แน่นนอน นอกจากเสี่ยฮ้อกับเรา ซึ่งเสี่ยบอกว่าดีมากที่เจนตอบตกลง และบอกว่า ถ้าถูกใจเสี่ยเงินกู้ก็อาจจะหมดเร็วก็ได้ เจนจึงถามว่าเจนจะเชื่อได้อย่างไรว่าเสี่ยจะไม่เบี้ยว เสี่ยบอกว่าหลังจากที่เจนมาขัดดอกแต่ละครั้งเสี่ยจะเซ็นต์เชคให้ทุกครั้งเมื่อเสร็จภาระกิจ ซึ่งวิธีนี้เสี่ยทำมาหลายครั้งแล้วขอให้เชื่อใจ ว่าแล้วเสี่ยก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ขอเริ่มต้นที่วันนี้เลยเป็นภาระกิจครั้งแรก และเสี่ยบอกสามีเจนว่าวันนี้ไม่ต้องรอเจน พรุ่งนี้เสี่ยจะให้คนไปส่งเจนที่บ้าน ซึ่งสามีเจนได้เข้ามาปลอบเจนและมองเจนด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเจนก็บอกสามีว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเราไม่มีทางเลือก หลังจากนั้นสามีเจนก็กลับไป และเสี่ยก็พาเจนมาที่พักอีกแห่งหนึ่งของเสี่ยซึ่งเป็นบ้านที่ใหญ่โตและมิดชิดมาก และพาเจนมาที่ห้อง ซึ่งห้องนี้เจนเห็นแล้วต้องตกใจ เพราะห้องนี้เหมือนเซ็ก SHOP เลยมีเครื่องมือสารพัด ทั้งโต๊ะ เก้าอีแปลกสารพัดเลย เสี่ยบอกเจนว่าไม่ต้องกลัว เจนจะได้สัมผัสกับอุปกรณ์พวกนี้ และเจนจะมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ก็คงจริงอย่างที่เสี่ยว่าเพราะเจนไม่เคยเจอมาก่อนเลย และหลังจากนั้นเสี่ยก็ให้เจนดูรูปภาพที่เสี่ยถ่ายไว้กับลูกหนี้ของเสี่ยที่มาใช้บริการในห้องนี้ ซึ่งแต่ละคนก็โดนเสี่ยกระทำในลักษณะต่าง ๆ กัน แต่มีอยู่รูปหนึ่งเจนจำได้และรู้จักคนในภาพนั้น คือคุณอ้อย ภรรยานายทหารคนหนึ่งซึ่งมีหน้ามีตาในสังคมพอสมควร ซึ่งคุณอ้อยจัดว่าสวยคนหนึ่ง เจนไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเป็นทาสสวาทของเสี่ยฮ้อด้วย โดยในภาพคุณอ้อย โดนจับใส่กุญแจมือ ไขว้หลังและนั่งบนเก้าอี้ ส่วนขาก็ถูกจับมัดไว้กับขาเก้าอี้ ส่วนปากกำลังอมท่อนหำของเสี่ยฮ้ออยู่ ซึ่งหำของเสี่ยฮ้อใหญ่มาก ใหญ่กว่าของสามีเจนอีก หำของเสี่ยเข้าไปอยู่เต็มปากของคุณอ้อย ส่วนมือเสี่ยก็จิกอยู่บนผมของคุณอ้อย และกดแน่นให้หำคาอยู่ในปาก ซึ่งเจนไม่ทราบว่าเสี่ยถายภาพพวกนี้ไว้ได้อย่างไร และอีกภาพเป็นภาพที่คุณอ้อยโดนเสี่ยเล่นประตูหลังอยู่ โดยคุณอ้อยถูกจับให้นอนคว่ำบนม้านั่ง สี่ขา โดยมือสองข้างถูกจับมัดติดกับขาม้านั่งด้านละขา ส่วนขากูถูกมัดติดกับขาอีกสองด้าน ส่วนหำเสี่ยก็คาอยู่ที่ตูดคุณอ้อย ท่านี้ดูคุณอ้อยจะทรมานมาก เพราะมือทั้งสองข้างเธอกำแน่นเลย ขณะดูรูปเพลินอยู่เสี่ยก็เดินเข้า และถามว่าชอบท่านี้หรือไง เจนบอกว่าไม่เอาเจนไม่เคยโดนเล่นตูด ซึ่งคำตอบของเจนมันเหมือนกับเป็นการกระตุ้นให้อารมณ์ตันหาของเสี่ยรุกโชติช่วงเลย และถามว่าไม่เคยจริงหรือ ถ้างั้นวันนี้เสี่ยขอเปิดบริสุทธิ์ ตูดเธอเลยวันนี้ เจนตอบทันที่ว่าไม่นะ เสี่ยสวนขึ้นมาทันที่เลยว่าอย่าผิดสัญญานะ ถ้าเธอทำให้เสี่ยถูกใจค่าเปิดบริสุทธิ์ตูดเธอ เสี่ยให้ล้านหนึ่งก็ยอม แต่ก่อนอื่นเธอต้องดูดหำให้เสี่ยก่อน ว่าแล้วเสี่ยก็เดินมาจับเจนใส่กุญแจมือไข้วหลัง และให้เจนนั่งบนเก้าอี้ โดยที่เจนยังไม่ทันถอดเสื้อและกระโปรงออกเลย จากนั้นเสี่ยก็เอาหำออกมาแล้วก็เห็นเสี่ยเอาสเปรย์ มาฉีดทีหำ สักพักหำก็ใหญ่และดูแข็งแรงมาก จากนั้นเสี่ยก็นำมายัดใส่ปากเจนอย่างหื่นกระหายมาก และซอยตะโพกถี่ยิบ จนเจนหายใจแทบไม่ทัน เจนเคยใช้ปากกับสามีแต่ไม่เคยโดนแบบนี้มาก่อน เจนคิดในใจนี้แค่เริ่มต้นก็ขนาดนี้แล้ว ต่อไปจะรับไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เพื่อหมดหนี้ก็ต้องยอม จนหนำใจเสี่ยจึงหยุด จากนั้นก็พาเจนมาที่เก้าอี้อีกตัว เสี่ยบอกว่านี้เรียกว่าเก่าอี้นายพราน จับเจนแก้ผ้า และเอาขากับมือเจนผูกมัดติดกับที่เท้าแขนเก้าอี้ จากนั้นเสี่ยก็ใช้ลิ้นกับหอยเจนอย่างเมามันจนเจนเสร็จคาลิ้นของเสี่ย จากนั้นเสี่ยก็ไปหยิบหำเทียมสีดำอันใหญ่มาก ใหญ่กว่าหำเสี่ยอีก มิหนำซ้ำยังมีตุ้ม ๆ เต็มไปหมด และก็เสียบมาที่หอยเจน เจนเจ็บจนน้ำตาลวงเลย บอกเสี่ยว่าพอแล้วอย่าทำอีกเลย ยิ่งบอกเหมือนยิ่งยุ และเสี่ยก็ไปหยิบเจล มาทาที่หำเทียม ซึ่งมันทำให้เจนลดความเจ็บลงได้บ้าง สักพักเจนชักเริ่มเสียวเมื่อความเจ็บเริ่มหมดไป ตอนนี้เสี่ยเริ่มซอยหำถี่ขึ้น เจนทั้งคบและเสียวจริงโดยเฉพาะไอ้ตุ้มๆ ที่สีในหอยเจนนี้ทำให้เจนเสร็จคาหำเทียมอีกหนึ่งครั้ง จากนั้นเสี่ยก็เริ่มใช้หำของเสี่ยกับหอยของเจน ยอมรับว่าหำเสี่ยแข็งแรงมาก กระแทกแต่ละครั้ง เจนสะท้านไปทั้งตัวเลย จากนั้นเสี่ยก็แก้มัดเจนออก และให้เจนไปนอนคว่ำแบบเดียวกับทีคุณอ้อยโดนเอาตูด แต่ตอนนี้คงเป็นเจนที่จะต้องโดนเอาตูด เมื่อเสี่ยจัดการมัดเจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ใช้ลิ้นกับรูตูดเจน โดนแบบนี้เจนเสียวมาก และครางออกมาโดนไม่รู้ตัวเลย เสี่ยชมว่าตูดเจนงอนสวยที่สุดเลย และยังไม่เคยโดนเล่นตูดด้วยทำให้เสี่ยมีอารมณ์มาก ตูดคุณอ้อยยังสู้ไม่ได้เลยและตูดคุณอ้อยก็เคยโดนสามาเล่นตูดมาก่อนแล้วด้วย ไม่เหมือนเจนที่ไม่เคยโดนมาก่อน ว่าแล้วเสี่ยก็เอาเจลมาทาที่ตูดเจน แล้วก็เอาหำอันใหญ่มาจอกดลงที่ตูดเจน ซึ่งมันเข้ายากมาก เจนเจ็บร้องจนเสียงหลงเลย เสีย่ก็บอกว่าอดทนหน่อย และตอนนี้รูตูดเจนเริ่มขยายออกรูสึกเหมือนมันจะฉีกเมื่อหัวหำเริ่มแทรกพาดเข้ามา มันทั้งเจ็บทั้งแสบ อ้ยคิดถึงภาพที่คุณอ้อยโดนที่เธอกำมือแน่นมันเป็นอย่างนี้นี่เองขนาดเธอเคยโดนสามีเล่นตูดมาบ้างแล้วยังแสดงอาการขนาดนั้น แต่นี้เจนยังไม่เคยโดนเลย มันเจฐแสบที่สุดเลยจะดิ้นหนก็หนีไม่ได้ ต้องล่อตูดให้เสี่ยกดลงไป จนกระทั้งท่อนหัวหำผ่านเข้าไป เจนจุกแน่นไปหมดเลย ส่วนเสี่ยก็พูดออกมาว่าวิเศษมาวิเศษที่สุดเลย เละให้เจนร้องครางดังๆ ทำให้เสี่ยมีอารมร์มาก ไม่ต้องบอกให้เจนร้องดังๆ ก็ได้เพราะจริง ๆแล้ว เจนก็แหกปากร้องลั่นอยู่แล้ว มันทั้งเจ็บ ทั้งแน่น ทั้งเสียวปนกันไปหมดเลย สักพักเสี่ยเริ่มซอยเร็วขึ้น จนเจนคิดว่าวันนี้รูตูดเจนคงพังหมดแล้วแน่เลยวันนี้ ซึ่งครั้งแรกที่โดนก็รับสึกหนักขนาดนี้ จนกระทั่งเสี่ยเล่นเสร็จคาในตูดเจนเลยค่ะ เสร็จ เสี่ยก็เดิน ไปหยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่ายภาพเจนไว้ โดยเสี่ยไปหยิบหำเทียมอันที่เคยเสียบเจนก่อนหน้านั้นมาทิ่มที่ตูดเจนไว้ โดนเสียบลงไปเจนสะท้านเลยทั้งใหญ่และมีตุ้มด้วย วันนั้นเจนโดนเอาหลายรูปแบบแทบทั้งคืนเลย จนแทบไม่มีแรงที่จะเดินเลย ไหนรูตูดก็แสบระบบไปหมด ก่อนจะขึ้นรถกลับบ้านเสี่ยยังให้เจนยืนโกงโค้งที่หน้ากระโปรงรถอีกรอบจนเจนขาสั่น และเสี่ยก็ถอนหำมาเสร็จในปากเจนอีกรอบก่อนที่จะส่งเจนกลับบ้าน มาถึงบ้านสามีต้องเข้าปีกเจนมาที่ห้องนอนและปฐมพยาบาลอยู่หลายวันกว่าเจนจะเดินได้เป็นปกติ แต่วันนั้นเสี่ยเขียนเชคเป็นค่าล้างหนี้ให้ ล้านสองแสนบาท ตอนนี้หนี้เจนใกล้หมดแล้ว วันหลังจะมาเล่าให้ฟังใหม่ว่าเจนโดนอะไรที่มากกว่านี้อีก แต่สำหรับตูดเจนตอนนี้ชักเริ่มชิ้นแล้ว และสามีเจนก็ซ่อมกับตูดเจนบ่อยขึ้นเพื่อให้เจนสามารถรับศึกหนักที่จะเกิดขึ้นอีกได้ วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนเจนค่ะ ขอเล่าเรื่องของเจนต่อนะค่ะ หลังจากเจนไปขัดดอกเสี่ยฮ้อมาครั้งหนึ่งแล้ว อย่างที่บอกนะค่ะ เจนเจ็บแสบรูตูดมากเพราะโดนเสี่ยเล่นตูดขนาดหนักประกอบกับเจนไม่เคยโดนตูดมาก่อน บอกตรงๆ ว่าเวลาเดินต้องขมิบตูดไว้เพราะแสบมากเวลาถ่ายแสบอย่าบอกใครเลย เป็นอยู่ประมาณ 3-4 วัน แต่หลังจากนั้นสามีก็ทำการซ่อมให้ประจำเพื่อเอาไว้รับศึกครั้งต่อไปได้ หลังจากครั้งแรกผ่านไป 2 เดือน เสี่ยก็นัดมาอีกว่าให้เตรีมตัวไว้เสี่ยเริ่มคิดถึงเจนอีกแล้ว แต่ก่อนหน้าที่เจนจะไปพบเสี่ย เจนได้ไปทำเสริมสวยมาเจนได้พบกับคุณอ้อย คนที่เคยส่งดอกเบี้ยแบบเจน แต่มาวันนี้คุณอ้อยเดินมาในท่าทางกระโพกกระเพกมา เจนจึงถามในฐานะคนรู้จักกันว่าคุณพี่เป็นอะไรมา คูณอ้อยตอบว่าพี่ลื้นล้มก้นกระแทกพื้นมา เจ็บระบบก้นไปหมดเลย แต้เจนสังเกตุที่ข้อแขนของพี่อ้อยยังมีลอยฟกช้ำอยู่ เจนคิดในใจว่าไม่ได้หกล้มแน่คงโดนอะไรทีมตูดแน่นเพราะอาการแบบนี้เจนเคยเป็นมาแล้ว แต่เจนสงสัยว่าทำไมขนาดคุณอ้อย ยังชอกช้ำขนาดนี้แสดงว่าโดนหนักแน่ เจนต้องรู้ให้ไดว่าโดนอะไรมา และแล้วสิ่งที่เจนสงสัยก็เป็นจริง วันที่เจนไปส่งดอกเบี้ยเสี่ยเจนได้นำ VDO ที่คุณอ้อยมาส่งดอกให้ดู เจนเห็นแล้วตกใจจริง ๆ คนที่คุณอ้อยโดนวันนั้นไม่ใช่เสี่ย แต่เป็นใครไม่ทราบตัวใหญ่มาก โดยเฉพาะท่อนหำ ขนาดของเสี่ยว่าใหญ่แล้วยังสู้ไม่ได้เลย และที่หำก็มีเม็ดอะไรไม่รู้เต็มไปหมด และก็เหมือนเดิมคุณอ้อยโดนจับมัดโกงโค้ง และโดนเล่นประตูหลังอยู่ เจนเห็นคุณอ้อยทั้งร้องทั้งค้างและสีหน้าแสดงอาการเจ็บแสบมาก เจนคิดว่าคงแทบฉีกแน่นนอนรูตูดคุณอ้อย วันนัน้คุณอ้อยโดนทั้งข้างหน้าข้างหลัง และไม่ใช่คนเดียวมีทั้งหมดสามคน ที่เล่นคุณอ้อย และขนาดใหญ่ๆ ทั้งนั้น เจนถึงรู้ว่าทำไมคุณอ้อยถึงเดินเสียศูนย์ขนาดนั้น จากนั้นเสี่ยก็มาบอกกับเจนว่าวันนี้เสี่ยมีรางวัลพิเศษให้เจนแต่วันนี้เจนต้องแสดงให้เต็มที่ และเสี่ยขอถ่าย VDO ไว้แบบคุณอ้อยด้วย เจนถามว่าและต้องทำเหมือนคุณอ้อยด้วยหรือเปล่า เสี่ยตอบว่าคล้าย ๆกัน เจนใจคอไม่ดีเลยเพราะเห็นสภาพคุณอ้อยแล้วยังแย่เลยแล้วเจนจะเป็นอย่างไร เสี่ยบอกว่าที่คุณอ้อยเป็นอย่างที่เจนเห็นเป็นเพราะคุณอ้อยไม่มาตามนัดที่เสี่ยนัด เสี่ยจึงทำโทษโดยหลังจากเสร็จจากภาพที่เห็นใน VDO แล้ว คุณอ้อยโดนอีกชุดใหญ่ และโดนจับมัดให้***เทียมที่ติดกับเครื่องจักรทิ่มเข้าทิ่มออกเป็นเวลาเกือบ ครึ่งชั่วโมง โดยเสี่ยบอกว่าจะใช้เครื่องนี้กับพวกที่เบี้ยวนัดเท่านั้น สำหรับเจนวันนี้ เสี่ยขอเริ่มเลย เหมือนเช่นเคยเจนต้องโดนจับมัด และนอนคว่ำหน้า และเสี่ยก็เล่นตูดเจนก่อนเป็นการประเดิม ซึ่งขนาดของเสี่ยเจนเริ่มรับได้ประกอบกับสามีซ้อมมาดี แต่หลังจากนั้นก็มีชายที่ทำกับคุณอ้อยเข้ามา 3 คนช่วยกันรุมเจน และคนแรกก็ไม่ฟังเสียงเริ่มลุยเจนเลย ที่รู***เจนโดนเข้าไปทั้งคับทั้งแนนทั้งเจ็บแสบปนกันไปหมดเลย โดยเฉพาะไอ้เม็ด ๆ รอบๆหำนี้มันเสียดสีรูเจนเจ็บเสียวมา และอีกคนก็เข้ามาสมทบ จะเล่นตูดเจนอีก เจนไม่ยอมให้ทำพร้อมกันทั้งสองรู แค่รูเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว มันก็เลยยอม แต่มันเปลี่ยนมาเล่นตูดเจนแทน มันไม่ใช้เจลทา มันใช้น้ำลายมาถู ๆที่รูตูดเจนและเริ่มจอหำมาที่รูตูดเจนและค่อย ๆ กดลงมาดูท่าทางมันชำนาญมาก ตอนนั้นเจนบอกตรงว่าทรมานมาก ขนาดโดนเสี่ยเล่นมาที่ 1 แล้ว แต่อันนี้มันใหญ่กว่า เจนร้องลั่นเลย ความรู้สึกของเจนเหมือนขี้จะแตกเวลานั้น แต่มันก็กดลงจนมิดหำ มันเจ็บแสบจริงโดยเฉพาะไอ้เม็ดที่ฝั่งรอบบๆ หำนี้ และมันก็เริ่มซอยช้าบ้างเร็วบ้างสลับกันไป คนแรกผ่านไป รูตูดเจนรู้สึกว่าเหมือนขมิบไม่ลงเลย และไม่ทันได้พักเหนื่อยเจนก็โดนต่อทันที่เลย แต่คนนี้มันซาดิสมากมันซอยรูตูดเจนไม่ปราณีเลย เจนทรมานมาก และน้ำตาล่วงเลย แต่มันก็ไมย่อมหยุดมันซอยอยู่เกือบครึ่งช.ม.มันจึงเสร็จ ตอนนี้เจนไม่มีแรงที่จะขมิบก้นเลย ไอ้สุดท้ายเจนคิดว่ามันคงเอาตูดเจนอีก แต่ไม่ใช่ มันให้เจนใช้ปากกับของมัน โดยที่มันซอยในปากเจนตลอดเวลา บ้างครั้งก็ลึกลงไปถึงลำคอเลย ของมันทั้งใหญ่ทั้งยาวมาก เกือบช.ม.มันจึงเสร็จในปากเจน แต่สภาพตอนนี้เจนไม่ต่างไปจากคุณอ้อยสักเท่าไร เพราะเจนเจ็บแสบก้นมาก เดินแทบไม่เป็นเลย รุ้งขึ้นเช้าก่อนกลับไอ้คนหำใหญ่ที่สุดจะเป็นคนไปส่งเจน เจนแต่งตัวใส่เสื้อใส่กระโปรงเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันขอค่าส่งแขกอีก 1 ครั้ง โดนให้เจนโกงโค้งที่โซฟา และ******เจนจนเจนเสร็จ และมันขอเล่นตูดต่อเจนมันชักออกมาเสร็จข้างนอก หลังจากนั้นมันก็ให้เจนเดินมารอที่รถ แต่ก่อนขึ้นรถ มันขอให้เจนโนบรา โดยมันให้เจนถอดกางเกงในออก และเสื้อชั้นในออก และมันขอเอาไว้ ปล่อยให้เจนนั่งรถมาโดยไม่มีขั้นในมาจนถึงบ้าน มาถึงบ้านเจนจับไข้ไป 2 วัน เนื้องจากระบบหอย และตูดมาก เจนไม่กล้าที่จะถ่ายเลยเพราะมันแสบมาก เช่นเคยสามีก็ต้องมาพยาบาลเจนจนเจนค่อยยังชั่ว หลังจากวันนั้นสามีเจนสงสารเจนมากจึงหาเงินมาล้างหนี้เสี่ยจนหมดแล้ว สำหรับคุณอ้อยเจนเห็นคุณอ้อย ไม้หกล้มก็ลื้นล้มอยู่เป็นประจำ ไม่รู้ว่าหนี้คงยังเหลืออยู่เยอะ สำหรับเจนเป็นไทแล้ว ลาก่อนค่ะ


Pages: 1 ... 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 ... 57