รวมเรื่องเสียว เล่าเรื่องเสียว เล่าประสบการณ์เสียวที่มากที่สุด

เรื่องเสียว เล่าเรื่องเสียว => มินิซีรีย์ จิตนาการผู้เขียนทางบ้าน => Topic started by: เรื่องเสียว on May 31, 2017, 11:36:27 pm

Title: พิมผกา
Post by: เรื่องเสียว on May 31, 2017, 11:36:27 pm
(https://images.mpic.ws/2017/05/31/-_UeN5KmZSA979f8.jpg)
(https://images.mpic.ws/2017/05/31/N8AoM3KBqpcb66b2.jpg)

"สวัสดีค่ะคุณกวิน วันนี้ไม่ทราบว่าป่วยเป็นอะไรคะ?? เอ่อ คุณนรากรกลับไปก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวคนไข้รายนี้กวางรับไว้เองค่ะ" หญิงสาวเจ้าของชื่อนรากรเงยหน้าขึ้นนิดหนึ่งเมื่อเห็นผู้ที่เปิดประตูเข้ามาแล้ว เธอก็ยิ้มให้เขาผู้นั้นอย่างเป็นกันเอง และตอบกลับไป "จ้ะๆ แหม.....พอคนไข้ส่วนตัวมาเข้าหน่อยไล่เพื่อนไล่ฝูงเลยนะ รักษากันให้ดีๆนะจ๊ะ ระวังอย่าให้คนไข้ช้ำล่ะงั้นชั้นไปก่อนนะยะ" นรากรหยิบกระเป๋าขึ้นจากบนโต๊ะแล้วเดินออกไปจากห้องโดยที่ก่อนจากไปเธอก็ไม่ลืมที่จะยิ้มให้ชายหนุ่มที่เพิ่งจะเข้ามาพร้อมทั้งรับไหว้จากเขาด้วย กวินยิ้มแหยๆเมื่อร่างของนรากรลับตาไปแล้ว เขาจึงหันกลับมาแล้วบ่นอู้อี้ "โธ่คุณแม่ครับ เมื่อไหร่จะเลิกทักผมแบบนั้นซะทีนะ น้านรากรก็พลอยผสมโรงไปด้วยอีกคน" พิมผกาหรือกวาง หัวเราะคิกอย่างสบอารมณ์ "จ้าๆ....พ่อหนุ่มหน้าบาง แม่ขอโทษค่ะ แต่ว่าก็ว่าเถอะระวังตัวไว้นะ อย่าเจ็บไข้ได้ป่วยมาก็แล้วกัน ถึงมือแม่หรือยัยเล็กเมื่อไหร่ละก็น่าดูชมแน่" กวินเบ้หน้าแสยะล้อเลียนมารดานิดหนึ่ง "แบร่....จ้างให้ก็ไม่มาหรอก โรงบาลนี้อ้ะ ว่าแต่ว่า ผมหิวแล้วนะแม่ ไปหาไรทานกันก่อนได้มั้ยอ้ะคับ" พิมผกาหรี่ตามองลอดแว่นดูลูกชายสุดสวาทอย่างคนเจ้าเล่ห์ "เอ๊าะอ๋อ.....หิวนี่เอง....ตังตัวเองก็มีไม่ไปหากินเอาล่ะเจ้าคะ ต้องมารอเค้าทำไมล่ะฮึ..." กวินเป่าปากตาเหล่รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นมาฉับพลัน "เค้า??....โธ่...กำ....แม่คร้าบบ....เลิกล้อผมเล่นได้แล้วน่า....แล้วก็....ตังอ้ะมันก็มีอยู่หรอก....แต่มะอยากจ่าย...อย่าดื้อนะคร้าบคุณแม่คนสวย..คุณแม่ผู้น่าาาาา..ร้าาากกกก..ที่สุดของผม เลี้ยงลูกชายสุดที่รักวันนี้ซักมื้อละกันนะครับ" กวินบ่นๆนิดหน่อยแล้วจึงอ้อนกลับไปบ้าง คนพูดนั้นพูดโดยไม่ตั้งใจ แต่คนฟังหูผึ่งทันที ถามสวนกลับไปทันทีแต่ด้วยน้ำเสียงหงุมหงิมแบบเขินๆ"จริงรึเปล่าจ๊ะไอ้ที่พูดน่ะ" กวินยังตามไม่ทันเกาหัวแกรกๆแล้วถามกลับไป "อ่ะ..อะไรครับ อะไรจริงครับ..." พิมผกาก้มหน้างุด "ก็ที่ว่าแม่สวย แม่น่า.......น่ารักน่ะ จริงเหรอ??" กวินเป่าปากพรู "โถ....โถ.....นึกว่าอะไร ก็จริงสิครับ แม่น่ะไม่รู้ตัวมั่งเลยเหรอว่าแม่น่ะไม่ได้ดูแก่ไปเลยซักกะนิดเดียวใครมองผาดๆก็คิดว่าแม่น่ะอายุซัก 26-27 เท่านั้นแหละ แล้วผมก็เห็นหลายหนแล้วนะ ที่มีผู้ชายหลายๆคนมองแม่ตาเป็นมันแล้วมากะลิ้มกะเหลี่ยน่ะตั้งแต่ที่ทำโรงบาลเก่าก่อนที่แม่จะย้ายมาเนี่ย แล้วนี่ยังไม่รู้เลยว่ามีเหมือนที่เก่ามั้ย สงสัยผมต้องมารับทุกวันแล้วมั้งเนี่ย หรือยังไงครับคุณแม่??" พิมผกายิ่งหน้าแดงมากขึ้นถามอ้อมแอ้ม "ลูก....ลูกหวงแม่เหรอจ๊ะ??" บางสิ่งบางอย่างวูบเข้ามาในความคิดของกวิน ทำให้เขาตอบไปอย่างไม่ต้องคิด "อ๊ะ...แน่นอน...หวงสิครับแม่ผมทั้งสวยทั้งน่ารักออกอย่างนี้ มะหวงด้ายงาย" พิมผกาพยายามหุบยิ้มลงแสร้งปั้นหน้าอย่างเคร่งเครียด "เอาๆ จะให้แม่เลี้ยงข้าวแน่นอนว่างั้นเถอะ...อืมมม ก็ได้นะแต่มีข้อแม้นะจ๊ะ" กวินทำหน้างงๆถามอ้อมๆแอ้มๆ "อ่ะ...อะไรอ้ะคับอย่าบอกว่าจะให้ผมล้างสระว่ายน้ำเองอีกนะ.." พิมผกาย่นจมูกค้อนให้นิดหนึ่ง "บ้า...ใครเค้าจะไปใช้ลูกชายสุดที่รักให้ไปเหนื่อยยังงั้นล่ะยะ ร้อนตัวซะจริง ข้อแม้ของแม่น่ะง่ายๆ วันนี้ขอแม่ยืมตัวลูกควงซักวันนึง แล้วก็วันนี้แม่อยากดูหนังน่ะจ้ะถ้าได้ตามนี้ก็ไปเลย แต่ถ้าไม่ ก็ตัวใครตัวมัน" กวินสะดุ้งไปนิดหนึ่งกับความคิดแผลงๆของแม่ "เอ...จะ..จะดีเหรอครับแม่ แล้วไอ้ควงนี่ ควงยังไงอ้ะคับ" พิมผกาเอียงคอยิ้มจนเห็นลักยิ้มทั้งสองข้างแก้ม เพิ่มความน่ารักเข้าไปอีกสำหรับผู้ได้พบเห็น "เอาน่า เอาเป็นว่าตามใจแม่หน่อยก็แล้วกันแม่อยากทำไรลูกก็ตามใจแม่แค่นั้นแหละ ตกลงหรือไม่ตกลง" กวินยกมือเกาหัวแกรกกรากแล้วพยักหน้ารับอย่าง งงๆ "อ่ะ.อ่ะ..คับๆ เอาไงก็เอา แต่ตอนนี้ผมหิวแล้วอ้ะหิวมากๆด้วย ถ้าแม่ยังชักช้าอีก ผมอาจจะกลืนแม่เข้าไปทั้งตัวเลยก็ได้นะ...แฮ่....." กวินรับปากและเร่งอย่างขันๆ พร้อมทั้งทำท่าขู่หลอกพิมผกา เป็นการพูดเล่นอย่างไม่ตั้งใจ แต่คนฟังกลับตั้งใจฟัง พิมผกาหน้าแดงเข้มขึ้นอีกครั้งพูดงึมงำอย่างที่กวินรับฟังได้ไม่ถนัดนัก "ชิ...แล้วถ้าแม่ให้กินจริงๆล่ะ...จะกล้ากินมั้ย..." ความรู้สึกนึกคิดบางอย่างผิดปกติไปจากที่ควรจะเป็นกำลังเกิดขึ้นกับเธออย่างเงียบๆ พิมผการีบจัการเก็บข้าวของบนโต๊ะทำงานคว้ากระเป๋าขึ้นสะพายไหล่แล้วพาลูกชายเดินออกจากห้องทำงาน
เมื่ออกมานอกห้องทำงานพิมผกาชลอฝีเท้าให้กวินเดินขึ้นมาเคียงอยู่ด้านข้าง เมื่อกวินตามขึ้นมาทันในตำแหน่งอันเหมาะสมเธอก็คว้าแขนลูกชายดึงตัวเข้ามาแนบด้านข้างตัวของเธอแล้วคล้องแขนเขาไว้ในวงแขนเธอทันที กวินทำหน้าเหวอๆงงๆพยายามจะแกะแขนออกแต่กลับได้ยินเสียงกระซิบดุๆดังเข้าหูมา "จุ๊ๆ..เดินไปตามปกติอย่างนี้แหละ ก็ลูกไม่อยากให้ใครมาจีบแม่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ..." กวินเหลียวซ้ายแลขวาล่อกแล่ก แล้วกระซิบตอบ "อัน..อันนั้นก็ใช่ครับแต่ทำแบบนี้มันจะดีเหรอครับแม่เดี๋ยวใครรู้ใครเห็นเค้าจะเอาไปพูดกัน แม่จะเสียนะ" พิมผกาเอียงคอนิดหนึ่งซบลงไปที่ต้นแขนลูกชายแล้วกระซิบ "ที่นี่น่ะนอกจากยัยเล็ก(นรากร) แล้วก็ไม่มีใครที่นี้เค้ารู้หรอกว่าเราน่ะเป็นแม่ลูกกัน วินสัญญากับแม่แล้วไงว่าจะตามใจแม่วันนี้น่ะ" เมื่อถูกทวงสัญญากวินจึงนิ่งเงียบยอมรับสภาพโดยดุษณี และพยายามที่จะไม่นึกถึงก้อนเนื้อหยุ่นๆ ที่กำสีอยู่ที่ข้างแขนของเขาในขณะนี้ เมื่อลิฟต์เปิดประตูอ้าออกทั้งสองคนก็เดินเข้าไป ในลิฟต์ตอนนี้มีคนมากพอสมควร แต่ก็ยังสามารถรองรับได้อีก4-5คน เมื่อประตูลิฟต์ปิดลงทั้งสองไม่จำเป็นต้องกดชั้น เพราะมีคนกดชั้นเดียวกันไว้อยู่แล้วพิมผกายังคงคล้องแขนกวินไว้หลวมๆ เหลียวมองดูผู้คนในลิฟต์ก็ไม่พบใครที่รู้จักเลยคาดว่าน่าจะเป็นญาตผู้ป่วยซะมากกว่า แต่เมื่อลิฟต์เลื่อนลงมาได้แค่ชั้นเดียวก็หยุดลง และประตูเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้มีคนเดินเข้ามาเพิ่มอีก5คน ทำให้พื้นที่ในลิฟต์เหลือน้อยลงไปถนัดตา กวินจึงต้องถอยตัวเองเข้าไปตรงกลาง และเอาตัวบังผู้ชายคนหนึ่งไว้แล้วดึงพิมผกาให้มายืนซ้อนตัวเขาอยู่ข้างหน้าอีกที 5 คนที่เข้ามาทีหลังก็พยายามจัดหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับตัวเองโดยไม่ได้สนใจคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้แล้วซักเท่าไหร่ผลที่ได้ก็คือ พิมผกาต้องถดถอยตัวเองไปข้างหลังอีกนั่นก็คือตัวเธอต้องไปยืนเบียดอัดอยู่กับตัวของลูกชาย แผ่นหลังเธอสัมผัสชิดกับหน้าอกของกวิน และที่รู้สึกถึงสัมผัสที่ชัดเจนยิ่งกว่าก็คือก้นงามงอนที่ซ่อนอยู่ใต้เนื้อผ้ากระโปรงสัมผัสกับอะไรอีกอย่างที่แฝงความอบอุ่นและมีสภาพรูปทรงที่เธอคุ้นเคย ถึงแม้จะผ่านมานานเกือบสิบปีแล้วก็ตาม เพียงเธอหลับตาก็สามารถวาดภาพมันได้ทันที พิมผกายืนก้มหน้าหลับตานิ่งเคลิ้มฝันไปกับจินตนาการที่เธอสร้างขึ้นเองการตอบสนองของร่างกายตามธรรมชาติเริ่มเกิดขึ้น พิมผกาเบียดอัดก้นงามงอนเข้าหาสิ่งที่แผ่ไออบอุ่นนั้น ให้สัมผัสกับมันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทางด้านกวินเองนั้นกลับตรงกันข้ามกับผู้เป็นแม่ อาการที่เกิดขึ้นกับพิมผกา กวินมองว่าเป็นเพราะคนที่เพิ่มเข้ามาเบียดเสียดเยียดยัดให้ลิฟต์แน่นขึ้นนั่นเอง ความซ่านเสียวที่ห่างหายไปนานที่พิมผกาไม่ได้นึกถึงหรือสัมผัสมาเนิ่นนาน บัดนี้มันกลับคืนมาอีกครั้ง เธอรู้สึกได้เพราะหลักฐานที่เยิ้มหยาดจากร่องหลืบซึมเยิ้มผ่านเนื้อผ้าลายลูกไม้บางๆ ความอยากตามธรรมชาติทวีขึ้นเป็นลำดับ มากขึ้นตามความเปียกเยิ้ม แต่ก่อนที่พิมผกาจะเตลิดไปมากกว่านี้ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกอีกครั้ง เมื่อลิฟต์เลื่อนลงมาจนถึงชั้นล่างสุดแล้ว คนทั้งหมดทยอยเดินออกไป พิมผกาหงุดหงิดเล็กๆกับอารมณ์ที่ขาดตอนลงเธอเหลือบมองไปที่กวินด้วยสายตาที่เยิ้มหวานกว่าปกติ แล้วจึงเกาะแขนลูกชายเดินออกไปด้วยกัน
ณ.ห้างสรรพสินค้าใหญ่บริเวณชานเมือง คราคร่ำไปด้วยผู้คน ที่ส่วนใหญ่มีจุดมุ่งหมายเพียงแค่เข้ามาเดินตากแอร์ มากกว่าที่จะซื้อของ กว่าจะฝ่าการจราจรที่ติดขัดแบบไม่ต้องมีเหตุผลออกมาได้ พิมผกาและกวินก็มาถึงเอาสองทุ่มจะครึ่งเข้าไปแล้วสองแม่ลูกที่ดูเหมือนคู่รักทั่วๆไปซะมากกว่า กำลังยืนเลือกที่นั่งจากโปรแกรมจองตั๋วหนัง "ตกลงเอาที่นั่งแบบเอ็มเพอร์เร่อร์เลยนะวิน แม่อยากลองดู" กวินหันไปพยักหน้ารับ "อืมมม ก็ตามใจแม่นะครับ ดีเหมือนครับผมก็อยากลอง" พิมผกาหลือบตามองหน้าจอเพื่อดูแถวที่ว่างอีกครั้งหนึ่ง "อืมมมม เอาแถวหลังนี่แล้วกันนะวิน ....." แล้วเธอก็เงยหน้าบอกกับพนักงานผ่านช่องกระจกเข้าไปพร้อมกับชี้นิ้วบอกจุด "ขอที่ตรงนี้ 2 ที่ค่ะ" พนักงานขายตั๋วก้มหน้าก้มตากดคีย์บอร์ดและยื่นส่งตั๋วให้เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย พิมผการับตั๋วหนังมาแล้วเดินจูงมือลูกชาย เดินออกมา เมื่อได้ร้านอาหารเหมาะๆทั้งคู่ก็เข้าไปสั่งอาหารและเครื่องดื่ม กวินหันไปถามพิมผกา "หนังฉายกี่โมงฮะแม่" พิมผกาก้มลงหยิบตั๋วขึ้นมาอ่านดู "รอบ 4 ทุ่มครึ่งจ้ะ(คิดว่ามีก็แล้วกันนะ)" กวินยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกานิดหนึ่ง "อืมมม มีเวลาอีกถมเถ ว่าแต่ถ้าผมจำไม่ผิดพรุ่งนี้แม่ไม่ได้ไปทำงานใช่มั้ยครับ??" พิมผกาเงยหน้ามองดูลูกชายเอียงคอยิ้มโชว์ลักยิ้มอีกครั้ง "จ้ะ แม่ได้หยุดสองวันเลย ถึงได้กล้าเลือกดูเรื่องนี้ไง เห็นยัยเล็กบอกว่าหนังยาวตั้ง 3 ชั่วโมงกว่า" กวินหัวเราะเบาๆในลำคอ "ฮึ ฮึ...ถ้าผมหลับไปก่อนแม่อย่าลืมปลุกผมด้วยนะครับ ไม่รู้ว่าจะอยู่ดูจนจบได้มั้ย เมื่อคืนก็ปั่นรายงานทั้งคืน" พิมผกายิ้มให้ลูกชายอีกครั้งแล้วทั้งสองก็ทานอาหารกันไปหยอกล้อคุยกันไปจนกระทั่ง ทั้งคู่อิ่มหนำสำราญชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยทั้งคู่เดินเตร็ดเตร่ชมโน่นชมนี่ไปเรื่อยจนเริ่มเบื่อ แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมง กวินจึงหันไปชวนพิมผกา "แม่ครับแวะนั่งเล่นเน็ตกันก่อนดีมั้ยครับคิดซะว่าฆ่าเวลาก็แล้วกันผมมีอะไรต้องเช็คนิดหน่อยด้วยครับ" พิมผกาก็กำลังเมื่อยจึงตอบตกลง "อืมม ดีเหมือนกันจ้ะ แม่จะเข้าไปเช็คเมล์ด้วย" ทั้งคู่เดินเข้าร้านเน็ตที่อยู่ใกล้ๆไปทันที โดยขอใช้บริการสองเครื่อง ร้านนี้ยังมีคนใช้บริการกันอีกมากทั้งสองคนได้เครื่องที่ตั้งหันหลังชนกัน กวินเปิดเว็บไซ้ท์ที่เขาต้องการทันที เว็บนี้เป็นลักษณะของเว็บบอร์ด ที่เขาร่วมมือกับรุ่นพี่ที่ต่างวัยอีกสองคนร่วมกันจัดทำขึ้นมาวัตถุประสงค์เพื่อโพสท์เรื่องในจินตนาการแลกเปลี่ยนกันอ่าน เป็นเว็บที่ปกปิด เข้าเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตซึ่งปัจจุบันก็มีสมาชิกทั้งชายหญิงรวมๆกันประมาณ 70 คนได้ กวินเข้ารหัสพิเศษเฉพาะของเว็บมาสเตอร์ เพื่อทำการแก้ไขเพจซึ่งได้รับคำของร้องมาจากรุ่นพี่ที่ต่างวัยนั้น ผ่านไปประมาณ 15 นาที ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยกวินจึงได้เริ่มอ่านหัวข้อต่างๆที่สมาชิกได้มาโพสท์กันเอาไว้ วันนี้มีเรื่องใหม่เข้ามาอีก 3 เรื่องจากนักเขียนตัวยงของเว็บ และแน่นอนทั้ง 3 เรื่องเป็นแนวเรื่องครอบครัวล้วนๆ กวินอ่านผ่านตาคร่าวๆไปก่อน แล้วกวินก็เริ่มนึกถึงเหตุการในลิฟต์เมื่อตอนออกมาจากโรงพยาบาลที่แม่เขาทำงานอยู่ เนื่องจากมีอยู่เรื่องหนึ่งจากที่อ่านมีเหตุการณ์คล้ายๆกับที่เกิดขึ้นกับกวิน ความคิดหนึ่งแวบมาในสมอง กวินเปิดเว็บไช้ท์ฟรีอีเมล์ชื่อดังขึ้นมา แล้วทำการสมัครใหม่ทันที เมื่อเสร็จแล้วกวินก็เริ่มเขียนเมล์ใหม่ทันทีเหมือนกัน โดยเนื้อหาของเมล์นั้นแทบจะไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์เลยเพราะกวินคัดลอกเรื่องจากในบอร์ดที่กวินอ่านมาเมื่อสักครู่นี้ แปะลงไปในเมล์นั้น แล้วจึงกรอกชื่อเมล์แอดเดรสของผู้รับแล้วกดส่งไปทันที จากนั้นก็เปิดเว็บไซ้ท์อื่นๆดูๆไปเรื่อยๆ
พิมผกาเปิดเมล์มาเช็คเมล์ใหม่ได้สักครู่ก็ไม่มีอะไรจะทำ เธอจึงเปิดเว็บไซ้ท์ที่เกี่ยวข้องกับงานของเธอเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เธอเจออยู่เว็บหนึ่งเป็นที่น่าสนใจมากจึงนั่งอ่านอยู่พักใหญ่ๆ แล้วเธอจึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกเพื่อขอรับข่าวสารและรหัสผ่านจากเว็บนี้ เพื่อจะได้ขอรับทราบข้อมูลที่มากกว่านี้ เมื่อสมัครเสร็จแล้วเธอก็ต้องกลับไปเช็คเมล์อีกครั้งเพื่อจะได้รับรหัสผ่าน แต่ครั้งนี้เธอแปลกใจเพราะมีเมล์เข้ามาสองฉบับอันนึงมาจากเว็บไซ้ท์ที่เธอสมัครสมาชิก แต่อีกอันมาจากใครก็ไม่ทราบ พิมผกาลังเลอยู่ครู่หนึ่งเธอจึงเลือกเปิดเมล์จากคนที่ไม่รู้ว่าใครก่อน เมื่อเธอกวาดตาอ่านไปได้ซักประมาณ4-5บรรทัด พิมผกาก็ไม่สามารถที่จะละสายตาออกจากเมล์ฉบับนี้ได้อีกแล้ว....มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับดาราสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่งของวงการ ที่ต้องการจะมีอะไรกับลูกชายของตัวเอง อารมณ์ที่ค้างคาของพิมผกาถูกจุดให้คุโพลงขึ้นอีกครั้ง เพราะตัวอักษรทุกตัวที่ร้อยเรียงผ่านสายตาเธอนั้นเป็นเสมือนตัวแทนของจินตนาการความต้องการของเธอทั้งสิ้น เมื่ออ่านไปมากๆเข้ามันทำให้เธอแทบจะเสร็จตามตัวละครในเรื่องไปซะให้ได้ พิมผกาพยายามเบียดขาทั้งสองให้ชิดกันมากขึ้นขยับต้นขาเบาๆช้าๆให้เนื้อเสียดสีกันแต่มันก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาความต้องการของเธอให้ลดลงไปได้เลย เธอค่อยๆเอียงคอชะโงกหัวมองข้ามจอคอมฯที่บังระหว่างเธอกับกวิน เห็นกวินนั่งจ้องจอคอมฯของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วพิมผกาก็วกสายตากลับมานั่งอ่านส่วนที่เหลือต่อไป แต่ก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เรื่องราวกลับจบเอาดื้อๆมันทำให้ความหงุดหงิดงุ่นง่านของเธอกลับมาอีกครั้ง แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนวางหมับลงบนหัวไหล่เธอทั้งสองข้างพร้อมกัน และยังบีบขยำหัวไหล่เธอเบาๆพร้อมทั้งลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดใส่กกหูด้านหลังของเธอ พิมผกาเหลียวกลับอย่างรวดเร็ว จึงเห็นว่าเป็นกวินนั่นเอง "แม่ครับ เป็นอะไรรึเปล่าอ้ะ เหลือเวลาอีก 10 นาทีเอง เราไปกันเถอะครับแม่" พิมผกาถอนใจยาวอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นลูกชาย เธอพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกจากร้านเน็ตนั้นพร้อมกับกวิน แล้วพิมผกาก็ต้องเอะใจเมื่อถูกกวินยื้อยุดฉุดแขนเธอเพื่อให้เดินแนบชิดไปกับเขาแต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างไรมิหนำซ้ำเธอยังสอดแขนคล้องแขนลูกชายไว้พร้อมกับเบียดด้านข้างของฐานนมให้คลึงเคล้าเสียดสีอย่างแผ่วเบาเหมือนไม่ตั้งใจไปกับท่อนแขนกวินซะอีก เหลือบตาขึ้นมองหน้าลูกชายแวบหนึ่งแล้วพูดเบาๆ "เอ๊ะ นี่นึกยังไงถึงได้ดึงแม่เข้ามาเดินซะชิดแบบนี้ล่ะทีเมื่อหัวค่ำไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนี่" กวินหัวเราะเบาๆในลำคออีกครั้งแล้วก้มหน้าเอียงไปกระซิบตอบ "อ้าว...ก็แม่บอกว่ายืมตัวผมมาควงไม่ใช่เหรอครับ ยังไงๆ ผมก็รับค่าจ้างแม่มาแล้ว ก็คือแม่เลี้ยงข้าวผมกับหนังอีกเรื่อง ผมก็ต้องบริการตอบให้ซะหน่อย หรือว่าแม่ไม่เอาแล้ว??" เสียงเพียะเบาๆเมื่อพิมผกาตีต้นแขนของกวินแทนคำตอบ แล้วทั้งคู่ก็มาถึงในโรงหนังจากการนำของพนักงาน แนะนำการใช้เก้าอี้และอื่นๆ เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็จากไป มันเป็นเก้าอี้แบบปรับเอนนอนสุกหรูหราออกแบบมาเพื่อความสบายในอิริยาบทขณะรับชมภาพยนต์ เก้าอี้ถูกจัดวางเป็นคู่ๆโดยแต่ละคู่จะคั่นกลางด้วยเทอเรสเล็กๆสำหรับวางแสน็คและเครื่องดื่มเมื่อทั้งคุ๋นั่งเรียบร้อย หนังตัวอย่างก็เริ่มฉายกวินกวาดตามองไปรอบๆก็เริ่มแปลกใจ เพราะทั้งโรงตอนนี้มีเพียงเขากับแม่เพียงสองคนเท่านั้น แล้วก็ต้องหันขวับกลับไปเมื่อพิมผกาสะกิดแขน "วินๆ ช่วยดูเก้าอี้แม่ให้หน่อยสิ มันเป็นไรไม่รู้ ทำไมมันปรับเอนไม่ได้ล่ะ??" กวินลุกขึ้นไปช่วยปรับอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่เป็นผล " เอ...ไม่ได้เรื่องเลยแฮะ สงสัยจะเสีย เดี๋ยวผมไปเรียกพนักงานเขามาดูนะ" แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวออกไปพิมผกาก็ฉุดแขนเอาไว้ "มะ..ไม่เป็นไรมั้งจ๊ะวินช่างมันเถอะ" กวินเกาหัวแกรก "อ้าวช่างมันได้ไงอ้ะครับตั้ง 300" พิมผกาจูงกวินให้ไปนั่งที่เก้าอี้ของเขาแล้วเธอก็ซุกตัวนั่งเบียดลงไปด้วย "ชิ...พูดอย่างกะจ่ายตังค์เองงั้นแหละ เอาเถอะ นั่งตัวเดียวกันนี่แหละ เก้าอี้ออกจะใหญ่โต ขอแม่นั่งด้วยคนนะจ๊ะ" กวินอดขำซะไม่ได้แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร "เอาๆ...ตามใจขอรับคุณแม่ที่เคารพ เอาไงเอากัน แล้วอย่ามาบ่นว่าเมื่อยนะครับ" แล้วทั้งคู่ก็นั่งเบียดอยู่บนเก้อี้ตัวเดียวกันไป จนกระทั่งผ่านหนังตัวอย่างไปได้ประมาณ 10 นาที ก็มีชายหนุ่มหญิงสาวอีกคู่หนึ่งจูงมือกันเข้ามาแล้วเดินเลยแถวที่ทั้งสองนั่งอยู่ลงไปอีกสองแถวจนกระทั่งหนังเริ่มฉายก็ไม่มีแววว่าจะมีคนเข้ามาดูเพิ่มอีกเลย
เก้าอี้ถูกปรับเอนราบลงไปแล้ว อากาศเย็นลงเรื่อยๆเนื่องเพราะคนมีน้อย สองแม่ลูกเอนกายเบียดกันอยู่บนเก้าอี้ตัวกันเช่นนั้น พิมผกาในหัวเธอตอนนี้มีแต่เรื่องดาราสาวที่เพิ่งได้อ่านมาจากเมล์ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่ง เนื้อเรื่องและสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องเฝ้าวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึงของเธอทุกบททุกตอน จินตนาการของพิมผกาเตลิดเปิดเปิงจนสุดกู่ เมือกเหนียวลื่นชุ่มฉ่ำส่งสัญญาณออกมาเป็นระลอกกล้ามเนื้อในหลืบเร้นเต้นตอดเป็นจังหวะ ยิ่งโดยเฉพาะได้เบียดอัดอยู่กับร่างอุ่นที่ข้างกายเธอตอนนี้ "วินจ๊ะ แอร์เย็นจังเลยนะ"รำพึงเบาๆแว่วผ่านเข้าหูกวิน เขาขยับตัวนิดหนึ่ง "แล้ว....แล้วแม่หนาวมากมั้ยครับ.....แต่เอ....จะให้ผมทำไงดีล่ะ แจ็คเก็ตฟิลด์ของแม่ก็อยู่ในรถซะด้วย ผมลงไปเอามาให้ดีมั้ยครับ" พิมผกาถือโอกาสจับแขนลูกชายเธอไว้อีกครั้งแล้วดึงเข้ามาให้แนบชิดตัวเธอมากขึ้นเมื่อเห็นกวินขยับตัวทำท่าจะลุกขึ้น "มะ...ไม่เป็นไรจ้ะ ว่าแต่ลูกไม่หนาวเหรอ??" กวินยิ้มให้ในเงามืดสลัวนั้น "ก็หนาวอ้ะนะครับแต่พอทนได้แม่หนาวมากเลยเหรอครับ" พิมผกาก็หน้าแดงซ่านในเงามืดนี้เช่นกันพยักหน้าตอบไป "ก็...หนาวนะแต่ถ้าได้เบียดกับลูกแบบนี้แล้วแม่รู้สึกอุ่นขึ้นเยอะเลยหล่ะ"กวินก็สวนคำไปทันทีเหมือนกัน "แล้วถ้ามากกว่านี้อีกล่ะครับ...." เหมือนจะนึกขึ้นได้ คำพูดเขาจึงหยุดอยู่แค่นั้น แล้วจึงพูดอ่อยๆต่อมา "ผม...ผมหมายถึงว่าแม่เบียดมาอีกก็ได้ครับถ้าจะทำให้แม่สบายขึ้น" กวินจงใจเน้นเสียงตรงคำว่า สบายโดยเฉพาะและก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลยเมื่อพิมผกาก็ต่อกลับมา "ถ้าได้กอดแบบนี้ด้วยแม่ก็อยู่ได้ทั้งคืนเลยแหละจ้ะ" พร้อมกับคำพูดพิมผกายกหัวขึ้นดึงแขนข้างหนึ่งของกวินให้พาดขวางลงไปแล้วปล่อยศรีษะลงหนุนท่อนแขนนั้นไว้แล้วดึงอีกมือของลูกชายให้มาโอบกอดเธอไว้กวินฝืนๆอยู่หน่อยหนึ่งแล้วก็ปล่อยตัวตามสบาย แต่เพิ่มแรงกอดรัดใส่ร่างเย็นเฉียบแต่นุ่มแน่นนั้นมากขึ้นแล้วทั้งคู่ก็ดูหนังต่อไป ผ่านไปอีกสักครู่ฉากในหนังก็เปลี่ยนไปกลายไปเป็นฉากรักโรแมนติกแล้วต่อด้วยบทแสดงรักของดาราชายหญิงในจอ กวินเริ่มมีอารมณ์คล้อยตาหนังประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวขึ้นแขนข้างที่ถูกพิมผกาหนุนนอนอยู่นั้นงอพับเข้ามาช้อนเข้าใต้รักแร้ฝ่ามือสัมผัสอยู่ข้างฐานเต้าที่มีเสื้อและผ้ายกทรงบางๆปิดกั้นอยู่นั้น ด้านพิมผกาอารมณ์เก่าจากที่อ่านเมล์ลึกลับยังไม่ทันจะนอนก้นดีวคามรึ้กที่ได้จากในหนังก็เข้ามาช่วยปลุกเร้าเธอเข้าไปอีกจนเมื่อฝ่ามือของลูกชายสอดล้วงเข้ามาใต้รักแร้แล้วประกบวางอยู่ข้างเต้านมของเธอ ความสยิวก็เพิ่มขึ้นมาพิมผกาสะดุ้งเล็กน้อยแต่จากอาการสยิวมากกว่าอาการตกใจ ตาที่จับจ้องจอหนังหรี่ปรือลงอีกเล็กน้อยร่างกายเบียดอัดเข้าหาลูกชายอีกเอาด้านหน้าของเต้านมบดอัดทิ่มแทงด้านข้างของกวิน อีกทือหนึ่งที่โอบกอดพิมผกาไว้ก็ค่อยๆไล้เลื่อนลงจนถึงแนวสะโพกของพิมผกาแต่ก็หยุดไว้แค่นั้นเมื่อพิมผกาเด้งสะโพกเบาๆเข้าอัดสีข้างของเขาแล้วบดอัดแช่นิ่งอยู่แค่นั้น ตั้งแต่เริ่มกอดกันนั้นแขนข้างหนึ่งของพิมผกาวางทอดอยู่บนหน้าท้องของกวินตรงบริเวณหัวเข็มขัดอยู่แล้ว บัดนี้เธอสัมผัสได้ถึงไออุ่นแผ่วๆที่คลี่ขายขึ้นมาจนถึงแขนของเธอ พิมผากขยับแขนเลื่อนลงไปอย่างช้าๆแทบจะมิลลิเมตรต่อมิลลิเมตรจนกระทั่ง.... แขนของเธอปะทะกับอะไรบางอย่างที่รอรับอยู่นั้นอย่างแผ่วเบา โดยสัณฐานค่อนข้างกลม-มน ระอุผ่าวตระหง่านเงื้อมดันผ้ากางเกงขึ้นมา เธอก็หยุดนิ่งอยู่แค่ตรงนี้เช่นกัน เหมือนรอดูอาการตอบสนองของอีกฝ่าย แล้วทั้งคู่ก็นิ่งเป็นดุษณีแค่นั้น แล้วกำซาบรับความรู้สึกจากทางร่างกายและจักษุต่อไป บทบาทในหนังบนจอเพิ่มดีกรีความระอุในด้านกามารมณ์มากขึ้นและเมื่อดำเนินมาถึงจุดสำคัญคือบทสอดใส่ในหนัง โดยแทบจะพร้อมกันมือของกวินที่แตะอยู่ด้านข้างของฐานนมพิมผกาก็คว้าหมับมาที่ด้านหน้าอีกกลายเป็นการบีบจับเต้าเต่งนั้นอย่งพอดีถึงแม้จะไม่ค่อยถนัดนัก และเช่นกันแขนของพิมผกาที่วางแตะปลายหัวอุ่นผ่าวนั้นก็เลื่อนลงอย่างรวดเร็วฝ่ามือน้อยๆของเธอก็คว้าหมับลงบนลำแท่งอุ่นนั้นเต็มกำมือ กำขยำบีบปล่อยอย่างเป็นจังหวะ เสียงครางเบาๆดังลอดไรฟันของทั้งคู่ออกมาอย่างแผ่วๆ ความต้องการที่เก็บกดกักไว้มานานของพิมผกาแตกระเบิดออกไปแล้วความเร่าร้อนรุนแรงในด้านเซ็กส์ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ขยายตัวออกมา เช่นเดียวกับด้านของกวิน มือข้างที่วางแปะบนสะโพงงอนงามของพิมผกาผู้เป็นแม่เลื่อนเลื้อยลงไปบีบจับแก้มก้นที่ยังตึงเปรี๊ยะอย่างเต็มกำมือการเล่นเอาเถิดเจ้าล่อที่ดำเนินมานานของสองแม่ลูกถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
หลายครั้งหลายหนแล้วที่พิมผกาแอบฟังเสียงร่ำร้องเรียกชื่อของเธอในยามที่กวินลูกชายเธอกำลังนั่งกำควยชักว่าวไม่ว่าจะในห้องน้ำหรือห้องนอน และก็บ่อยครั้งเช่นกันที่กวินได้ยิเสียงครวญของพิมผกาที่เอ่ยชื่อเขาในเวลาที่เธอ.... แยงนิ้วซอยแยงแทงใส่รูหีของเธอแต่กวินดูเหมือนจะได้เปรียบมากกว่าเพราะเขาหาวิธีปีนป่ายแอบดูเธอได้อย่างจะจะ ในขณะที่พิมผกาได้แต่ฟังอย่างเดียว อาการเช่นนี้ของสองแม่ลูกดำเนินมาเกือบสองปีแล้ว บัดนี้องค์ประกอบทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์แล้วสำหรับสองแม่ลูก มือที่บีบก้นกอยงอนงามอวบเต่งเนื้อแน่นเลื่อนละลงหาชายกระโปรงของพิมผกาถลกดึงรั้งขึ้นอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วกรีดเขี่ยเข้าจากทางด้านหลังผ่านผ้าบางๆที่กางกั้นเป็นชั้นสุดท้าย แค่สัมผัสถูกกวินก็รับรู้ถึงความเปียกเยิ้มของเมือกลื่นที่ถูกขับออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าจนเปียกชุ่มผ้าบางๆนั้น ผลตอบสนองจากผู้เป็นแม่ก็คือเสียงซี้ดรอดไรฟันและแรงบีบกำที่กระทำต่อท่อนลำที่แข็งโชนอุ่นระอุนั้น เธอกำบีบมันอย่างแรงเพื่อคลายความเสียวที่เกิดขึ้น...
กวินชักมือกลับมาบีบกุมมือแม่ที่กำลังกำควยของเขาอยู่ การตอบสนองที่ได้รับคือแรงกำบีบที่เพิ่มขึ้นให้กับท่อนควยที่แข็งปังของเขาเหมือนเป็นการตอบรับ กวินจึงละมือออกจากมือของแม่ เลื่อนขึ้นมาปลดเข็มขัดและตะขอกางเกง ความร่วมมือสอดประสานเกิดขึ้นทันทีเหมือนกันเมื่ออีกมือหนึ่งที่ไม่ใช่มือของเขาจับซิปกางเกงรูดลงไป กวินจับขอบกางเกงในตัวเองดึงรั่งร่นลงไปปล่อยให้ท่อนควยแข็งโชนดีดตัวขึ้นมาตั้งเด่รับไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ แต่มันก็หนาวเย็นได้ไม่นานเพราะพิมผกาก็คว้ามาจับไว้เต็มกำมือด้วยอาการสั่นเทาอย่างประหลาดพร้อมเสียงครางฮึมหวานๆในลำคอ "อืมมม...ใหญ่จัง...ใหญ่มาก...ทำ...."เสียงกระซาบซิบของเธอขาดหายไปขาดตอนไปเฉยๆเหลือแต่เสียงอู้อี้ในลำคอ เพราะปากเธอถูกประกบปิดด้วยอีกปากหนึ่ง ริมฝีปากอ่อนนุ่มแห้งผากเริ่มชุ่มชื้นขึ้นด้วยหยาดน้ำลายจากชายที่เรียกว่าลูก ซึ่งตอนนี้กำลังดูดเม้มริมฝีปากเธอทั้งบน-ล่างสลับกันไปอย่างกระหาย แล้วพิมผกาก็ปล่อยลวดลายของแม่เสือสาวผู้หิวกามเมื่อเธอแยงแหย่งลิ้นสอดเข้าไปความนหาลิ้นของลูกชายอย่างเหนือชั้นในเชิงกาม ทำเอากวินลืมตาโพลงจ้องมองใบหน้าผู้เป็นแม่ซึ่งอยู่ติดชิดใกล้มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยชิดมาก่อน แล้วก็ต้องรีบถอนปากออกมาแหงนหน้าสูดปากยาวเมื่อพิมผกากำควยของเขาดึงรั้งหนังควยให้ร่นลงไปจนเกือบสุดจนหนังที่หุ้มอยู่ปลายหัวถอกรั้งร่นลงไปเปิดหัวเงี่ยงบานแดงค้างไว้เช่นนั้นเธอยังใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงวนอัดอยู่ที่ปากรูเยี่ยวบนปลายควยของลูกชายเพื่อเกลี่ยน้ำควยที่ไหลซึมออกมานั้นให้กระจายไปทั่วๆหัวควยใช้นิ้วที่เปรอะน้ำควยของลูกชายเธอเองละเลียดละเลงอย่างแผ่วเบาไปตามขอบหยักจนทั่วเป็นวง ความเสียวสะท้านจากมือคนต่างเพศที่กวินใฝ่ฝันมานาน ทำให้เขาเสียวสะท้านอย่างสุดกลั้น "อูวววว์....มะ..แม่ครับ...แม่....ผม..ผมเสียว ซี้ดดดส์....พอ..พอก่อนครับ" พิมผกาเงยหน้าไซร้าริมฝีปากเข้าใส่ซอกคอจนถึงติ่งหูลูกชายแล้วกระซิบด้วยเสียงกระเส่าพอๆกัน "ไม่ค่ะ....นี่ไม่ใช่แม่นะคะ....นี่กวางไงคะ กวางที่วินร่ำร้องเรียกหามาตลอดไงคะ ....เป็นไงคะวิน กวางจับของวินไว้แล้วไงคะอย่างที่วินเคยบอกว่าอยากให้กวางจับไงคะ...ดีมั้ยคะ" กวินหูผึ่งเข้าใจแล้วว่าตัวเองต้องเล่นบทไหน "อูยยย...คะ..คะ..ครับ..กวะ....กวาง...แล้วกวางจับอะไรวินอยู่น่ะรู้มั้ย" พิมผกาสะท้านเฮือกเหมือนจะสาแก่ใจเมื่อลูกชายพลิกบทอย่างรวดเร็วหันมาเล่นด้วยกับเธอแบบนี้ "ก็...แหม...ก็จับอยู่นี่ไงคะจะมาถามกวางทำไมอีกล่ะ" กวินยังไม่ยอมละความพยายามที่จะให้แม่พูดสิ่งที่อยากได้ยินจากปากแม่ "ถ้ากวางไม่บอกให้ชัดๆ วินไม่ให้จับแล้วนะ กวางจับอะไรของวินอยู่ครับ" ขู่เอาดื้อๆแบบนี้พิมผกาจึงเกิดอาการมันเขี้ยวเล็กๆวกหัวแม่มือกลับไปช่วยกำรอบลำควยขยับขึ้นมากำส่วนที่ต่ำกว่าปลายหัวถอกลงไปหน่อยนึง ที่แม้เธอจะพยายามบีบกำอย่างไรนิ้วเธอก็แทบจะไม่บรรจบกันได้อย่างครบรอบดีนัก แล้วกระตุกชักขึ้นลงอย่างรวดเร็ว แล้วกระเส่าเสียงกระซิบแผ่วที่ข้างหู "ก็..จับ...จับ ค ว ย ของวินอยู่ไงล่ะคะ" เฉพาะตรงคำว่าควยเสียงเธอแทบจะกลืนหายไปกับเสียงที่ดังจากลำโพงรอบตัวในโรงหนังนั้นแต่ขณะที่แผ่วคำว่าควยออกจากลำคอปฏิกริยาที่กระทอกควยนั้นกลับเร่งเร้ารุนแรง และเมื่อจบประโยคพิมผกาก็รูดหนังควยของลูกชายกลับขึ้นมาหุ้มหัวถอกบานร่านั้นไว้แล้วบีบมือใส่หัวควยหุ้มหนังนั้นอย่างแน่นกระชับ "หา...กวางว่าจับอะไรนะวินไม่ได้ยินเลยอ้ะ บอกอีกทีสิครับที่รัก" หยอดคำสุดท้ายอย่างเหนือความคาดหมายของผู้เป็นแม่ พิมผกาสะท้านเยือกกับสรรพนามนั้น ความหงี่ง่านแตกระเบิดออกอีกรอบอย่างสุดกลั้น "ควย....ควยค่ะวิน....กวางจับควยวินอยู่นี่ไงคะ...กวางชักว่าวให้วินนะคะ ให้กวางรูดควยให้วินนะคะ..นะ.." ออดอ้อนรำพันอย่างหมดยางอายเช่นนั้น กวินก็ทนฟังไม่ได้จึงต้องใช้ปากบดอัดปิดปากลิ้นพันเข้าไปช่วยอุดปากฉอเลาะออดอ้อนนั้นให้งเยบเสียงไปมือข้างเก่าวกกลับมาที่ชายกระโปรงที่ยังเลิกค้างไว้สอดแพนิ้วลงไปจากขอบกางเกงในตัวน้อยบีบขยำเนื้อก้นที่ยังเด้งเต่งตึงนั้นอย่างมันเขี้ยวแล้วจึงค่อยๆสอดนิ้วเลื้อยผ่านก้นกบผ่าลงกลางร่องก้น แต่ก็ต้องติดสะดุดนิดหนึ่งเพราะพิมผกาผวาเยือกเกร็งแก้มก้นขมิบเข้าหากันหนีบนิ้วซุกซนนั้นไว้ขณะหนึ่งประจวบกับนิ้วของกวินที่เพิ่งจะซุกมาถึงแค่ปากรูก้นเมื่อถูกหนีบจนเลื่อนต่อไปไม่ได้เขาจึงแก้เกมส์กันของแม่ด้วยการกดนิ้วเน้นๆลงบนปากรูนั้นอย่างหนำใจด้วยอาการกดๆยกปลายนิ้วเข้าใส่พิมผกาเสียวสะท้านกว่าที่เคยได้แต่แอ่นอัดเต้านมและเบียดสะโพกเข้าใส่ลูกชายครางอือๆอาๆในลำคอส่ายหน้าน้อยๆไปมาเหมือนจะบอกลูกชายว่าไม่ใช่รูนั้น และเมื่อเธอผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนที่นิ้วประหลาดนั้นจะซุกมุดเข้าไปในรูแคบฟิตสดซิงนั้นได้ กวินซึ่งรอดักจังหวะอยู่ก็ฉกนิ้ววาบลงลึกไปหาอีกรูที่เปียกเยิ้มขมิบตอดไม่แพ้กันทันที แล้วรีบจิกปลายนิ้วกดทะลุเข้ารูหีที่สาดน้ำเงี่ยนออกมาอย่างต่อเนื่องนั้นเข้าไปอย่างง่ายดาย และต่อเนื่องด้วยการซอยนิ้วเข้าออกสั้นๆแต่ถี่เร็วที่ปากรูหีของพิมผกาซึ่งตอนนี้เสียวซ่านง่านเงี่ยนถึงขีดสุดจนได้แต่กำมือบีบควยของกวินค้างไว้แค่นั้นตอบโต้ไปได้แค่เพียงการขมิบรูหีตอดใส่ปลายนิ้วที่ซอยยิกอยู่กับปากรูหีเธอ น้ำหีทะลักกระเด็นออกมาจนเปียกชุ่มผ้าบางๆของกางเกงในจนชุ่มไปหมดเหมือนโดนวิดเอาน้ำออกมา พิมผกาสะบัดหน้าออกให้ริมฝีปากหลุดพ้นจากพันธนาการของปากและลิ้นของลูกชาย สูดปากครางเสียงยาวๆอย่างสะกดกลั้นระดับความดังทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลยเพราะเสียงดนตรีจากหนังที่ฉายอยู่นั้นก็ช่วยกลบเสียงของเธอไปจนเกือบหมดอยู่แล้ว ท่อนขาทั้งคู่ที่เบียดชิดกันจากท่านอนตะแคงบัดนี้ขาข้างหนึ่งค่อยๆยกขึ้นก่ายพาดคล่อมไปทับท่อนควยของลูกชายที่ยังมีมือเธอเกาะกุมอยู่ด้วยอิริยาบทเช่นนี้เองทำให้กวินสามารถซอยนิ้วใส่รูหีตีบฟิตจากการร้างควยมานานของเธอได้สะดวกและลึกยิ่งขึ้น เหมือนเป็นการเชิญชวนกรายๆ ซึ่งเธอก็ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีทันทีเพราะเธอสัมผัสได้ถึงความลึกที่เพิ่มขึ้นจากในรูหีของเธอ "อุ...อุ..อูยยย...ซี้ดดดส์.....กวะ....กวางไม่..ไม่ไหวแล้ว...ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ววววว...อึกกก....อี๊ยยยยย..."เสียงครวญครางเสียงร้องและลักษณะอาการท่าทางอย่างที่กวินเคยแอบดูแอบฟังมาเป็นปีๆกำลังเกิดขึ้นต่อหน้าเขาแล้วอย่างใกล้ชิดและด้วยมือของเขาเอง ยังความคึกคะนองเห่อเหิมให้กับกวินอีกหลายเท่าตัว ยิ่งเร่งซอยนิ้วอย่างรวดเร็วรุนแรงจนได้ยินเสียงเจ๊าะแจ๊ะๆแผ่วๆแว่วมาจากน้ำหีที่เอ่อล้นทะลักจากร่องหีแม่ของตัวเอง พิมผกาเสียวสะท้านสุดขั้วน้ำแตกติดๆกันเป็นคำรบที่สองอย่างต่อเนื่องทันทีเธอซุกหน้าเข้าหาซอกคอของลูกชายเผยอริมฝีปากเม้มดูดเนื้อที่ซอกคอนั้นเป็นเป็นการระบายเพลิงราคะที่ปะทุอย่างต่อเนื่องนั้นเต็มแรงและเนิ่นนาน จนกวินรู้สึกทั้งเจ็บทั้งเสียวปนกันไปแล้วจึงกรแทกนิ้วส่งเข้ารูหีของแม่เขาไปแบบสุดลำถึงโคนนิ้ว แช่แหย่ไว้ในนั้นเสพรับอาการตอดขมิบอย่างถี่ยิบ จนผ่านไปไม่นานนักก็แว่วเสียงสั่นเครือแต่ฟังแล้วรู้ทันทีว่าเต็มไปด้วยอาการที่ยังไม่หายอยาก "วิน...วินขา....พากวางไปจากที่นี่เถอะนะคะ นะคะวิน.." กวินซุกหน้าลงหาปรางแก้มนวนเนียนนั้นบรรจงจูบอย่างแผ่วๆหลายต่อหลายครั้งแล้วค่อยถาม "แล้วแม่...อุ๊บ...เอ่อ...แล้วกวางอยากไปไหนล่ะคะ แล้วไป..ไปทำอะไรเหรอ??" พิมผกาปล่อยมือที่กำท่อนควยลูกชายออกแล้วตีลงไปเบาบนท่อนลำแกร่งโชนนั้นอย่างค้อนๆเมื่อได้ยินกวินหลุดปากเรียว่าแม่ออกมาแต่เมื่อกวินแก้คำพูดใหม่แล้วเธอก็ซุกหน้าเข้าหาไออุ่นจากร่างกายของลูกชายแล้วกระซิบแผ่วพอได้ยินกันสองคน "ไปบ้านวินก็ได้ค่ะ(ก็บ้านเธอเองนั่นแหละ) หรือวินจะเอากวางไปที่ไหนก็ได้ ขอให้กวางได้อยู่กับวิน แล้ววินอยากทำอะไรก็ตามใจวินสิคะ" กวินดึงแขนที่ถูกหัวของพิมผกาหนุนทับอยู่นานจนเป็นเหน็บชาออกแล้วบรรจงรูดนิ้วช้าๆออกจากรูหีที่ยังตอดขมิบมิบๆนั้น ส่งให้พิมผกาต้องสูดปากยาวอีกครั้ง แล้วกวินก็เอามือข้างนั้นวกกลับขึ้นมาใช้นิ้วเขี่ยเล่นเบาๆที่พวงแก้มของเธอ "แล้วหนังล่ะ?? ยังไม่จบเลยนะอีกตั้งนานนี่" พิมผกาหยิกเบาๆลงบนปลายควยที่ยังแข็งทื่ออย่างไม่รู้แต่ชี้นั้นแล้วถามเป็นนัยๆ "ก็แล้ววินอยากจะดูหนังหรืออยากจะดู...กวางล่ะคะ" กวินรีบรุกไล่ต่อทันที "ก็อยากดูกวางสิครับ ว่าแต่กวางจะให้วินดูอะไรของกวางมั่งล่ะ" อย่างเขินอายต่อคำถามของลูกชายเจ้าเล่ห์ลึกๆ "ก็วินอยากดูอะไรกวางก็...ก็ให้ดูทั้งนั้นแหละ บ้าจริงเชียวทำกับเค้าถึงขนาดนี้แล้วยังมาถามเค้าอีก ชิหน้าไม่อาย.."กวินยิ้มรับกับคำพูดกึ่งแง่งอนแต่น่ารักนั้น "งั้นวินขอดู..ดูนมกวาง ดูหีกวาง ได้มั้ยครับ" หยิกซ้ำลงไปที่ปลายควยอีกครั้งส่วนใจนั่นกลับวาบหวิวเสียวซ่านอีกระลอกเมื่อได้ยินคำพูดแบบตรงๆจากลูกชาย ไม่มีคำตอบเป็นสำเนียงใดๆแต่กลับพยักหน้าให้เป็นการตอบรับ กวินจึงจัดแจงเอื้อมมือลงไปถอดรูดกางเกงในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหีของพิมผกาเองออกทางปลายเท้า หะแรกพิมผกาก็ไม่รู้ว่ากวินทำเช่นนี้ทำไมจึงขัดขืนไว้นิดหนึ่ง "ไม่...ไม่นะวิน ที่อื่นเถอะที่นี่ไม่เอานะ..ไปที่บะ...."ก่อนจบประโยคนั้นกวินก็บอกแผ่วๆมา "ถอดทิ้งไปเถอะ มันเปียกหมดแล้วนะจ๊ะที่รัก" พร้อมกับหอมแก้มอีกฟอดใหญ่ พิมผกาก็ไม่ขัดขืนอีก กวินรูดดึงกางเกงในตัวน้อยนั้นจนหลุดออกไปถึงปลายขาแล้วเขาก็หย่อนมันทิ้งไว้ที่ใต้เก้าอี้ จากนั้นจึงกลับมาเก็บท่อนควยที่ยังโด่เด่เข้ากางเกงในของตัวเองแล้วจรูดซิบใส่เข็มขัด เมื่อเรียบร้อยดีแล้วจึงหันไปประครองพิมผกาให้ลุกขึ้น "เดี๋ยวผมขับรถให้เองนะ" คำพูดเรื่อยๆดังมาจากกวินพิมผกาพยักหน้ารับทราบ แล้วทั้งคู่ก็ตระกรองกอดกันเดินออกไปจากโรงหนังนั้นอย่างเงียบๆ เพื่อมุ่งหน้าไปหาความสุขกันต่อที่อื่น ซึ่งกวินคิดไว้แล้วนั่นเอง....
กวินขับรถออกจากลานจอดในห้างฯสายตาเหลือบชำเลืองไปที่พิมผกาบ่อยๆ พิมผกานั่งเบียดตัวอยู่บนเบาะด้วยท่าทีที่สะเทิ้นเขินอาย มันไม่ใช่การเสแสร้งด้วยจริตมายาใดๆเลยแวบหนึ่งเมื่อเธอเหลือบตาไปที่ลูกชายสายตาของทั้งสบกันวูบแล้วต่างคนก็ต่างหันไปคนละด้านยังไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมา จนกระทั่ง....พิมผกานั่งเอาสองมือประกบทับกันไว้ที่ชายกระโปรงด้านบนเธอเริ่มรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย แต่ยังนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้นพยายามทบทวนว่าอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้น แต่เหตุการณ์อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเธอที่ผ่านมาไม่เกิน 20 นาทีนี้ก็เข้ามาบดบังสิ่งที่เธอกำลังคิดค้นหา ความสุขที่เธอได้รับมันเด่นชัดเหลือเกิน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอและลูกชายปฏิบัติให้กันและกันโดยละทิ้งความสัมพันธ์ที่เป็นเส้นขีดขั้นระหว่างเขาและเธอ ทำให้เธอเหมือนได้รับการปลดปล่อยพัธนาการที่ผูดมัดยึดติดเธอไว้มานานปี จินตนาการความรู้สึกสุขสมซ่านเสียวที่เธอได้รับมันท่วมท้นทะลักบ่าอย่างเชี่ยวกรากเกินกว่าที่เธอจะควบคุมไว้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะสถานที่ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ตอนนี้เธอและลูกชายก็คงจะ...... คิดมาถึงตอนนี้พิมผกาก็ยากที่จะหยุดกระแสเชี่ยวกรากของจินตนาการตัวเองไว้ได้ ความคิดเตลิดเปิดเปิงถึงขั้นต่อไปที่ลูกชายจะปฏิบัติให้เธอเสพรับ ร่างกายของเธอตอนนี้เริ่มมีปฏิกริยาตอบสนองต่อความคิดนี้ทันที หัวนมเธอเริ่มชูชันแข็งเป็นไตเบียดอัดอยู่ใต้ใยผ้ายกทรงลายลูกไม้เปลือยนั้นทั้งสองข้าง เธออยากจะใช้มือช่วยบีบบี้เคล้นปลายยอดแต่ก็ทำไมได้ จำต้องปล่อยให้มันคงอาการคันยิบทีปลายหัวนมทั้งสองไว้เช่นนั้น เมือกลื่นเริ่มถูกขับหลั่งออกมาตามช่องทางและเริ่มสั่งสมอยู่ที่ปากทางออก กล้ามเนื้อเริ่มมีการตอดรัดอย่างตื่นเต้น เธอไม่ต้องการให้ลูกชายรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรแล้ว คำสั่งจากเซลล์สมองซึ่งมีความเร็วมากกว่าแสงสั่งการไปกล้ามเนื้อที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ขมิบปิดช่องทางออกของเมือกลื่นที่กำลังเอ่อล้นไม่ให้มันทะลักทะลายออกมาก่อนเวลาอันควร แต่ของเหลวก็คือของเหลวไม่ว่าใครก็ไม่สามารถควบคุมรั้งยั้งมันเอาไว้ได้ เมื่อพบจุดอ่อนที่มันสามารถหลั่งไหลออกมาได้ส่วนที่เหลือก็จะไหลตามกันมาเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับพิมผกาในตอนนี้ เธอพยายามที่จะขมิบหีปิดแคมไม่ไห้เมือกสวาทเหล่านั้นหลั่งไหลออกมาแต่ก็ทำไม่ได้ ด้วยไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศในรถที่ถูกส่งด้วยความแรงจากพัดลมที่เปิดไว้ในระดับสูงมันพาเอาไอเย็นซึมซับผ่านร่องหน้าชายกระโปรงของเธอเข้าไปลมเย็นนั้นไม่ได้ช่วยให้พิมผการู้สึกสบายขึ้นเลยแม้แต่น้อย ระลอกไอเย็นเหมือนกลับกลายเป็นวัตถุที่มีรูปร่างขึ้นมาแต่ละระลอกที่ไล้ผ่านเหมือนเป็นมือที่แผ่วพลิ้วลูบไล้ผะแผ่วตั้งแต่ปลายเข่าของเธอผ่านท่อนขาขาวเนียนนวลละไล่ไปจนถึงโคนขาอ่อน สร้างความเสียวสะท้านให้เธออย่างเหลืออดจนต้องพยายามเบียดชิดท่อนขาทั้งสองเข้าหากัน แต่เมื่อเธอเผลอไผลอ้าขาออกยามใดความเสียวสะท้านจากมือล่องหนนั้นก็จะคืบคลานรุกไล่เธอเข้าไปอีกเหมือนนิ้วของใครบางคนที่เธอต้องการและรักเขาที่สุดแล้วตอนนี้กำลังใช้ปลายนิ้วเขี่ยไล้ไปบนผิวเนื้อของเธอ เมื่อความคิดมาถึงจุดนี้ท่อนขาทั้งคู่ของเธอก็เริ่มเปลี่ยนเป็นถ่างอ้าออกน้อยๆเหมือนเชิญชวนให้มือประหลาดนั้นลุกล้ำก้ำเกินเธอได้มากยิ่งขึ้น ไอเย็นระลอกหนึ่งทำให้เธอสะท้านไปทั้งกายที่สั่นเทาน้อยๆจนถึงกับต้องเม้มริมฝีปากกัดฟันข่มความเสียวไม่ให้เล็ดลอดออกไป เพราะไอเย็นเจ้าเล่ห์ระลอกนี้ละเลียดผ่านซอกหลืบต่างๆเข้าไปจนสัมผัสถึงร่องแคมที่เยิ้มฉ่ำไปด้วยน้ำกระสันต์ของเธอเอง ฉับพลันนั้นพิมผกาก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่ามีอะไรที่ผิดปกติไป เธอเหลือบตาไปยังกวินซึ่งขณะนี้กำลังพุ่งความสนใจอยู่กับท้องถนน เธออ้ำๆอึ้งๆเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดีตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียกชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสัมพันธ์แบบไหน แต่เมื่อพิมผกานึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับในคืนนี้ซึ่งเธอก็พร้อมจะยอมรับมันอย่างเต็มใจ จึงทำให้เธอตัดสินใจได้แล้ว "วิ...วินคะ...วิ..วินเอากางเกงในของกวางไว้ไหนคะ" เสียงค่อนข้างแผ่วเบาด้วยความกระดากที่ยังคงมีอยู่บ้าง "แมะ..อุ๊บส์..กวะ..กวางจะถามถึงมันไปทำไมเหรอ วินเห็นมันเปียกหมดแล้วก็เลยทิ้งไว้ในโรงหนังนั่นแล้วหล่ะ" กวินหันมาตอบพร้อมๆกับท้ายประโยคนี้เขาหันยักคิ้วล้อเลียนใส่แม่ที่นั่งหน้าแดงเป็นตำลึงสุกอยู่ข้างๆ กำปั้นน้อยลอยมาหล่นตุ้บสองตุ้บบนไหล่ของกวินแต่เหมือนจะเป็นการทุบแบบแก้เขินซะมากกว่า "บ้า บ้า บ้า...เอาของเค้าไปทิ้งทำไม โกรธแล้วด้วยเอามาคืนเดี๋ยวนี้เลยนะ.." แถมให้อีกสองตุ้บในน้ำหนักทุบเท่ากับครั้งแรก กวินก็รับเชิงนั้นโดยทำเป็นหดไหล่เหมือนจะหลบเพราะกลัวโดนทุบมิหนำซ้ำยังทำเป็นซี้ดปากครวญครางเหมือนกับว่าไหล่ที่โดนทุบนั้นมันเจ็บซะเต็มประดา "อูยยย...ทุบผมทำไมอ้ะ....ก็เห็นว่ามันเปียกไปทั้งตัวนี่ก็เลยทิ้งไป แล้วก็อีกอย่างนะ....ที่ๆเราจะไปน่ะไม่มีกางเกงในก็ไปได้นะคะ สะดวกกว่าซะอีก อุ๊บส์..."อีกหนึ่งทีจากกำปั้นน้อยๆแต่คราวนี้ค่อนข้างจะแรงขึ้น แต่กวินก็ยังไม่วายที่จะโยกยวนซะ "เอาละๆ....ยอมแล้วครับ ถ้าอยากได้คืนเดี๋ยววินซื้อคืนให้ก็ได้แต่กวางรอได้มั้ยล่ะคะ" พิมผกาตามความคิดของลูกชายไม่ทันก็พาซื่อถามออกไปก่อนแล้ว "รอ...??...ให้กวางรออะไรคะ??" กวินซ่อนยิ้มอย่างมิดชิดมันเป็นการกลั้นหัวร่อไปด้วย ก่อนจะตอบแบบเรื่อยเฉื่อย "อ๋อ....เดี๋ยววินซื้อกางเกงในคืนให้กวางแน่ เอาให้สวยเซ็กซี่กว่าตัวเดิมอีก แล้วคืนให้สามตัวเลยด้วย แต่รอให้วินกลับไปขอตังแม่มาก่อนนะ ตอนนี้วินมะมีตังค์ โอ๊ยยยย!!..."แขนซ้ายที่ไม่มีผ้าห่อหุ้มของกวินโดนหยิกเข้าเต็มที่จนเจ้าตัวต้องร้องออกมาเพราะค่อนข้างจะเจ็บจริงในคราวนี้ "บ้าๆๆๆ...ฮี้ยยยย์...มันเขี้ยวจริงเลยอยากบีบ...ให้ตายไปเลย ชิ...ซื้อเองก็ได้ย่ะคนอะไรไม่รู้ทะเล้นซะจริง" ประโยคหลังๆของหล่อนแผ่วเบาในลำคอเหมือนจะบ่นกับตัวเองซะมากกว่า แต่แล้วก็เหมือนนึกขึ้นได้ "เอ๊ะ..แล้วนี่วินกำลังจะพาแม่...อุ๊ย!!..."อยางทีนทีทันใดเมื่อสรรพนามนี้หลุดปากออกไปเธก็ร้องเบาๆอย่างตกใจที่เผลอไผล รีบยกมือทั้งสองขึ้นปิดปากทันทีเอียงหน้าน้อยไปที่ลูกชายใช้หางตาชำเลืองมองอย่างหวาดๆเหมือนเด็กกระทำผิดแล้วถูกจับได้คาหนังคาเขา กวินรู้หน้าที่ดีจึงรีบกลบเกลื่อนแก้ไขความอึดอัดใจของคุณแม่ผู้น่ารักของเขาให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "หืออ....อะไรคะกวางถามไรวินนะ อยากรู้เหรอว่าเราจะไปไหนกัน....อิอิอิ...มะบอกหรอก บอกก็ไม่ตื่นเต้นอ้ะจิ้ครับ เดี๋ยวถึงแล้วก็รู้เองแหละ รับรองว่ากวางต้องชอบแน่ๆ ตอนใกล้ๆถึงวินมีบางอย่างให้กวางช่วยทำให้ด้วยแหละ แต่ตอนนี้...อุบไว้ก่อน นะจ๊ะคนดี" "คะ.......ค่ะ" พิมผกาพยักหน้ารับปากอย่างว่าง่ายเธอรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาดและสุขซิ้งใจลึกๆ ที่ลูกชายช่วยให้เธอไม่รู้สึกตะขิดตะขวงช่วยสร้างความรู้สึกด้านอารมณ์ของเธอราบรื่นต่อเนื่องไม่ลำบากใจมากนัก ในกรณีที่เธอไม่ต้องการความสัมพันธ์ที่แท้จริง ....ทุกอย่างถูกความเงียบค่อยๆกลืนกินเข้าไป กวินเหยียบส่งคันเร่งเพิ่มความเร็วเข้าไปอีก รถออกพ้นตัวเมืองมาไกลแล้ว พิมผกานั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่างปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปอย่างไร้ขอบเขตไม่สนใจว่าตัวเธอเป็นอะไรและอยู่ที่ไหนหรือกำลังจะไปไหนและกับใคร เธอรู้แต่เพียงว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการและมีความสุขมากที่จะรอรับมัน นานเท่าไหร่ไม่รู้พิมผการู้สึกตัวสะดุ้งลืมตาขึ้นกระพริบขนตายาวงอนปริบๆเมื่อถูกสะกิด เธอเผลอหลับไป นานเท่าใดไม่ทราบ รู้แต่ว่าตอนนี้รถจอดสนิทนิ่งแล้ว เธอเหลียวไปรอบๆอย่างมึนๆงงๆ เห็นแต่เงาของต้นไม้ที่แน่นขนัดในความมืดรอบตัว "กวาง....กวางเอาผ้าผืนนี้ผูกตาไว้นะ ไม่นานนักหรอก วินจะพากวางไปดูสถานที่ ที่สวยงามที่สุดกวางต้องชอบมันเหมือนวินแน่ๆเลย นะคะผูกตาไว้ก่อนนะ" พิมผกาขยับเผยอปากน้อยๆเหมือนจะถาม แต่ก็ถูกลูกชายชะโงกหน้าเข้าหาบดอัดริมฝีปากมาประกบปิดปากจิ้มลิ้มของเธอในฉับพลัน พิมผกายกมือขึ้นดันหน้าอกของกวินและขบฟันปิดไม่ให้ลิ้นของลูกชายสอดแทรกเข้ามาได้ตามสัญชาตญาณ เนื่องจากยัง งงๆเพราะเพิ่งตื่น แต่ไม่นานนักเธอก็เริ่มตอบสนองเมื่อความคิดของเธอเข้าที่เป็นปกติแล้ว เผยอไรฟันขึ้นส่งลิ้นออกไปกระหวัดม้วนพันดูดลิ้นของลูกชายเข้ามาในปากของเธอ ขณะที่ยังบดปากแลกลิ้นมือกวินก็ไม่นิ่งเฉยสองมือถือผ้าที่เตรียมไว้สวมคั่นลงตรงกลางระหว่างใบหน้าของแม่และเขาที่กำลังแนบชิดกันและจัดการผูกผ้าปิดตา เมื่อถอนปากออกจากกันกวินก็ผูกมัดผ้าเกือบเสร็จแล้ว พิมผกากลับมาอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง และรู้สึกตัวว่ารถกำลังเคลื่อนออกจากที่ เธอนั่งนิ่งด้วยใจระทึกและกังขา ว่ากวินจะพาเธอไปไหน เมื่อถึงที่หมายเธอจะได้พบกับอะไร และหลังจากนั้นล่ะ......
Title: Re: พิมผกา
Post by: เรื่องเสียว on May 31, 2017, 11:36:52 pm
รถจอดสนิทนิ่งอีกครั้งเสียงเครื่องยนต์ดับเงียบลงประตูด้านคนขับถูกเปิดรถยวบเอียงเมื่อคนที่นั่งด้านนั้นลุกออกจากรถไปและเสียงปิดประตูดังขึ้น พิมผกาเหลียวหน้าไปมองด้านที่เกิดเสียงนั้นด้วยสัญชาตญาณโดยลืมไปว่าเธอถูกปิดตาอยู่ และเหลียวหน้ากลับมาอีกด้านเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้นมือแข็งแรงข้างหนึ่งคว้าจับแขนเธอไว้อีกมือหนึ่งโอบรอบไหล่ของเธอรั้งดึงเหมือนเตือนให้ขยับตัวลงจากรถ พร้อมกับเสียงแผ่วนุ่มที่ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น "ค่อยๆก้าวขาลงมาช้าๆนะครับ .....เอาละ...ทีนี้ก้าวมาข้างหน้าช้าๆ...น่านหล่ะดีมาก ค่อยๆเดินไป...ช้าๆจ้ะไม่ต้องรีบ...ฯลฯ.."กวินบอกบทนำทางให้คนถูกปิดตาก้าวเท้าเดินออกไปช้า "เอาละหยุด...อาจจะไม่สะดวกนิดนึงนะครับ ขออนุญาตให้วินอุ้มกวางนะครับ" พิมผกายังมึนงงเช่นเดิมแต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วเธอก็รู้สึกวูบหวิวเมื่อสองเท้าลอยพ้นพื้น แขนของกวินช้อนเข้ารับที่ใต้ข้อพับร่างกายเธอเอนหงายไปด้านหลังแล้วถูกรองรับด้วยแขนอีกข้างหนึ่ง แขนข้างนึ่งของพิมผกาโอบอยู่บริเวณต้นคอด้านหลังของลูกชายโดยอัตโนมัติ ส่วนอีกข้างที่ถูกปล่อยห้อยอยู่นั้นเธอก็เอื้อมไปโอบเหนี่ยวรอบคอเขาไว้อีกทีเพื่อเป็นหลักประกันว่าเธอจะไม่ร่วงหล่นลงไปหากผิดพลาดไป กวินก้าวเดินไปประมาณ3-4ก้าวแล้วก็หยุด ความเงียบปกคลุมมาอีกคำรบหนึ่งประมาณชั่วอึดใจ "กวางครับ.....ปล่อยมือออกแล้วแกะผ้าผูกตาออกเถอะ วินอุ้มกวางไว้กระชับดีแล้วกวางไม่ต้องกลัวนะคะ" ท้ายประโยคแผ่วนุ่มเป็นพิเศษ พิมผกาจึงคลายมือออกจากรอบคอของลูกชายแล้ววกกลับไปแก้ปมผ้าปิดตาที่ผูกขมวดไว้อย่างง่ายๆ เมื่อผ้าผูกตาหลุดออก ที่เธอเห็นคือแสงอ่อนๆสาดปกคลุมอยู่รอบกายเธอมันไม่สว่างจ้าเหมือนแสงที่เกิดจากหลอดไฟ เพราะมันเป็นแสงจากธรรมชาติเธอเหลียวหน้ามองไปที่กวินซึ่งขณะนี้ส่งยิ้มบางให้เธออยู่แล้ว เธอเห็นหน้าของกวินได้ค่อนข้างชัดเจนทีเดียว จากนั้นจึงเหลียวมองรอบๆด้านอย่างสำรวจตรวจตราสถานที่ ขณะนี้เธออยู่ท่ามกลางวงล้อมของธรรมชาติ รอบๆด้านมีแต่เงาทะมึนของต้นไม้ที่โยกเอนช้าๆไปตามแรงลมที่พัดระเรื่อยเอื่อยๆนั้น แล้วเธอก็สังเกตุเห็นอีกว่าที่พื้นซึ่งควรจะเป็นดินหรือหญ้า มันกลับไม่ใช่เพราะตอนนี้มันกำลังสะท้อนประกายระยิบระยับจับตาอย่างประหลาด เมื่อเพ่งตาดูอีกครั้งจนสายตายปรับระดับได้แล้วเธอจึงรู้ว่าตอนนี้เขาและเธออยู่เหนือผิวน้ำ แล้วสิ่งที่สะท้อนระยิบระยับอยู่นี้มันคืออะไร พิมผกาได้คำตอบอย่างรวดเร็วเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น แสงเป็นจุดๆทั้งขนาดใหญ่และเล็กปะปนกันอย่างมากมายมหาศาลเหลือคณานับลอยกระพริบวิบวาวเต็มทั่วแผ่นฟ้าไปหมด ใช่แล้วที่เธอได้เห็นอยู่ในขณะนี้คือทะเลดวงดาวที่ลอยประชันแสงประดับอยู่บนแผ่นผืนของท้องฟ้าที่ดำมืดเป็นฉากหลังนั้น ความสวยงามตระการตาที่เธอไม่เคยพบพานมาก่อนเช่นนี้ทำให้พิมผกาตะลึงจนตาค้างไป เมื่อเหลียวไปรอบๆพิมผกาก็ได้พบกับต้นกำเนิดของแสงนวลใยนั้น เป็นจันทร์เสี้ยวที่แขวนค้างเปล่งรัศมีเรืองรองบางๆสาดส่องลงมา พิมผกาหันหน้ากลับมาที่กวินอีกครั้งโอบแขนทั้งสองข้างกระหวัดรัดโอบรอบคอเขาอีกครั้งยื่นหน้าเข้าหาจูบแผ่วๆลงบนริมฝีปากและข้างแก้มของเขาแล้วเอียงหัวซบเข้าที่ซอกคอของลูกชายแหงนหน้าน้อยๆเหลือบตาขึ้นมองท้องนภาที่ประดับดาราเกลื่อนกล่นเต็มทั่วแผ่นผืนนั้นอีกครั้ง แล้วครางออกมาเบาๆเหมือนรำพึงรำพัน "โอวว์ ช่างสวยงามเหลือเกิน ลูกจ๋าแม่ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย ไหนบอกแม่สิคะว่านี่ที่ไหน" ประโยคสุดท้ายหันไปถามกวิน ซึ่งยืนงงๆอยู่เพราะแม่กลับมาเรียกสรรพนามระบุความสัมพันธ์เดิมทำให้กวินรู้สึกว่าเกิดระยะห่างระหว่างเขาและแม่ กวินรู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างไป ความสะท้อนใจนั้นถูกเก็บเงียบไว้ในใจฝืนยิ้มน้อยๆให้ผู้เป็นแม่ แต่ยังไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้เพราะมีก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ พิมผกาเองก็สำเหนียกถึงความผิดปกติของลูกชายได้ "ปละ....ปล่อยแม่ลงก่อนได้มั้ยคะ" กวินยืนหน้าชาแทบไร้ความรู้สึก ไม่รู้ถึงการคงอยู่ของตัวเองค่อยๆปล่อยร่างของพิมผกาลงให้ยืนบนพื้นแพ พิมผกาก้าวเดินไปข้างหน้าห่างจากลูกชายไปก้าวหนึ่งพูดโดยที่ไม่เหลียวหลังกลับมา "ขอ...ให้แม่กลับเป็นแม่ของวินสักครู่ได้มั้ยคะ.......... วิน....แม่อยากนอนดูดาวที่นี่จังเลย ที่....ที่หลังรถมีหมอนอยู่ลูกไปหยิบมาให้แม่หน่อยได้มั้ยจ๊ะ" กวินรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่ง อย่างน้อยก็รู้สึกดีที่แม่ชอบสิ่งที่เขาพาดู เดินจากแพกลับมาที่รถ เปิดไฟค้นหาสิ่งของที่ต้องการแล้วจึงเดินย้อนกลับไปที่แพยื่นส่งหมอนให้แม่แล้วจัดแจงปูผ้าที่หยิบติดมือมาด้วยลงบนพื้นแพไม้ไผ่ จนเสร็จเรียบร้อยพิมผกาหันมามองดูลูกชายด้วยดวงตาที่สุกกระจ่างดั่งดาวบนนภาในเวลานี้ "วิน พอจะพาแม่ออกไปตรงกลางๆของ..อืมม..ทะเลสาบ...น่าจะเรียกว่าทะเลสาปนะ พาแม่ไปตรงกลางนั้นได้มั้ยจ๊ะ" อย่างไม่รู้เหตุผลว่าทำไมแม่จึงของเช่นนั้น แต่กวินก็พยักหน้ารับคำสั่งแต่โดยดี เขาก้มลงแก้เชือกที่ผูกแพไม้ไผ่ไว้กับหลักบนฝั่งออก แล้วหันไปหยิบไม้ไผ่ลำยาวที่วางอยู่ตรงกราบข้างแพซึ่งไว้ใช้ทำเป็นถ่อ ดันปลายไม้ไผ่เข้ากับดินริมขอบฝั่ง ออกแรงผลักแพนั้นก็ค่อยๆแหวกน้ำเคลื่อนที่ออกไปอย่างช้าๆ เมื่อแพเริ่มขยับออกพิมผกาเองก็เซเล็กน้อยเนื่องจากไม่มีหลักให้จับยึด เธอจึงต้องทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าบนผ้าที่ลูกชายปูรองพื้นไว้ให้ แพเคลื่อนที่ออกมาได้โดยแรงถ่อของกวินประมาณ3-4นาที พิมผกาก็หันไปบอกลูกชายด้วยเสียงใสๆหวานๆ "หยุดตรงนี้ได้มั้ยจ๊ะวิน แม่ว่าตรงนี้กำลังดีเลยมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดขึ้น เพราะไม่มีต้นไม้บังแล้ว" กวินยิ้มรับง่ายๆเนือยๆ ปักลำไผ่ลงในน้ำกดจนมันจมไปในเลนลึกแน่นพอสมควรแล้วจึงทรุดตัวลงหยิบเชือกที่ติดอยู่กับตัวแพมามัดไว้กับหลักถ่อที่ปักไว้ พิมผกาหยิบหมอนขึ้นมากอดไว้แล้วนั่งแหงนคอมองดูความสุกสกาวพราวพร่างของหมู่ดาวที่วิบวับระยับตานั้นอย่างเงียบๆอย่างไม่รู้ตัวแม้กระทั่งกวินเดินกลับมานั่งลงที่ข้างๆ แต่ก็รักษาระยะห่างไว้ระดับหนึ่ง กวินก็แหงนหน้าชื่นชมกับความสวยงามที่ยิ่งใหญ่ตระการตานี้ปล่อยความคิดให้ลอยออกไปอย่างไม่มีจุดหมาย เอนกายไปด้านหลังเล็กน้อยสองแขนเหยียดไปด้านหลังท้าวค้ำเป็นหลักไว้สองขาทอดเหยียดยาวไปข้างหน้า ทั้งคู่นั่งเงียบกลืนไปกับบรรยากาศรอบๆตัวหลอมเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปแล้ว เหมือนไม่มีกาลเวลาอีกต่อไปในตอนนี้ พิมผการู้สึกเมื่อยคอเป็นกำลังอยากจนจะนอนลงเธอเหลียวหน้าช้าๆมองไปที่ลูกชายที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆริมฝีปากขบเม้มเหมือนจะตัดสินใจอะไรซักอย่าง สักครู่เธอจึงค่อยๆเอนกายลง ศรีษะพาดหนุนลงไปบนต้นขาของลูกชายอย่างช้าๆแผ่วเบาแต่กวินก็สะดุ้งรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ก้มหน้าลงมองใบหน้าของแม่ที่แหงนเงยขึ้นมาดวงตาประสานกัน "อ้าวว...ทำไมแม่ไม่หนุนหมอนล่ะครับผมก็เอามาให้แล้วไง" พิมผกาหลบสายตานั้นวูบเอียงหน้าลงให้ด้านข้างแก้มทาบทับบนต้นขาแทน "กวะ....กวางไม่ได้มากับลูกชายค่ะ ตอนนี้กวางมากับชายคนที่กวางรักและปราถนาเขาที่สุด....." เสียงปลายประโยคแผ่วเบาเหมือนจะหายไปในลำคอ กวินรู้สึกพลุ่งพล่านขึ้นมาผู้หญิงที่เบื้องหน้าเขาตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งแล้ว เขาให้คำตอบตัวเองไม่ได้ว่าเขาต้องการมีอะไรกับผู้หญิงที่เป็นแม่หรือผู้หญิงที่ชื่อกวางหรือพิมผกากันแน่ พิมผกาขยับตัวอีกครั้งให้หนุนตักกวินได้ถนัดขึ้น คราวนี้หัวเธอหนุนพาดลึกเข้าไปอีกโดยทับคาบไปถึงเป้ากางเกงของกวินด้วย แล้วเสียงสั่นเครือเหมือตกประหม่าหรือแฝงด้วยอารมณ์อะไรบางอย่างก็ดังขึ้น "วินขา...วินรู้มั้ยกวางชอบบรรยากาศที่นี่ที่สุดเลย กวางเคยฝันไว้นะ วินอยากรู้มั้ยว่ากวางคิดฝันไว้ยังไง" กวินก้มหน้ามองสำรวจไปทั่วทั้งเรือนร่างที่อยู่ข้างหน้าปากก็ตอบไปเบาๆ "อยากรู้สิครับ กวางฝันไว้ว่ายังไงเหรอ" พิมผกาบดเบียดด้านข้างของใบหน้าลงกับต้นขาและเป้ากางเกงที่เธอหนุนซุกอยู่นั้นไปมาอย่างช้าๆนุ่มนวล "กวางอยากมีความสุขกับใครสักคนที่กวางรักในสถานที่และบรรยากาศแบบนี้แหละ กวางคิดฝันมานานแล้วนะ แต่ก็ไม่เคยคิดหรอกว่ามันจะมีอยู่จริงพร้อมๆกันทั้งสองอย่าง แต่....แต่วินทำให้มันเป็นจริงต่อหน้ากวางแล้ว....กวาง...." คำพูดของพิมผกาสะดุดลงแค่นั้นกวินขยับตัวเบาๆดึงมือข้างหนึ่งกลับมาลูบไล้เรือนผมที่สยายยาวนั้นอย่างทะนุถนอม "แล้วกวางมีรางวัลอะไรให้วินมั้ยล่ะคะ ที่วินทำได้อย่างที่กวางต้องการ" การบดเบียดเสียดสีทำให้กวินรู้สึกเป็นสุขอย่างยิ่งกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนเริ่มตื่นตัวขึ้นเป็นลำดับ "กวาง...กวางให้วินทุกอย่างเลยค่ะถ้าวินต้องการ....แล้ววินล่ะคะ...วินจะ...." คำพูดหยุดหายไปเฉยๆเหมือนจะถามอะไรแต่ไม่ถามให้จบและเหมือนรอคอยคำตอบ กวินโอบรั้งหัวไหล่ของพิมผกาขึ้นมาซุกหน้าเข้าหาพวงแก้มสุกปลั่งนั้นบรรจงแตะริมฝีปากเบาๆลงไปแล้วพรมจูบนั้นไปทั่วใบหน้าจนกระทั่งกลับมาจบลงที่ริมฝีปากบางอ่อนนุ่มที่เผยอน้อยๆนั้น ลิ้นอ่อนนุ่มทั้งสองพัวพันอย่างแผ่วเบากระหวัดรัดรึง โดยพิมผกาเป็นผู้ชักนำให้ลิ้นของกวินล่วงผ่านเข้าโพรงปากอันหอมหวานนั้นแล้วเปลี่ยนเป็นดูดดุนลิ้นนั้นไว้อย่างเนิ่นนานจนกวินเสียวสะท้านไปทั้งกายกับการกระทำของเธอผู้นี้ ผู้ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของเขาเอง...............
........"กวะ....กวางไม่ได้มากับลูกชายค่ะ ตอนนี้กวางมากับชายคนที่กวางรักและปราถนาเขาที่สุด....." คำพูดและสำเนียงปลายเสียงยังสะท้อนวนเวียนอยู่ในภวังค์ความคิดคำนึงของกวินอยู่ตลอดเวลา ความปราถนาในดำกฤษณาค่อยๆคุโพลงขึ้นเป็นลำดับด้วยรสจูบที่หวานละมุนจากลิ้นอ่อนนุ่มที่สอดรับอย่างสอดคล้อง พิมผกากดน้ำหนักตัวโน้มไปข้างหน้าอย่างช้าๆในขณะที่กวินก็เอนหลังลงอย่างเชื่องเชื่อเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด จนในที่สุดร่างอวบนุ่มของพิมผกาก็ทาบทับลงบนร่างของกวินโดยที่ปากยังบดเบียดดูดลิ้นซึ่งกันและกันอยู่เช่นนั้น กวินรู้สึกได้ถึงก้อนเนื้ออวบหยุ่นที่บดเบียดอยู่บนแผงหน้าอกสองมือของเขาลูบไล้ไปบนแผ่นหลังของพิมผกาอย่างแผ่วเบาละไลาลงไปจนถึงสะโพกแน่นเนื้อทั้งสองข้างไต่ไล่ไปจนถึงแก้มก้นนุ่มละมุนนอกร่มผ้า อาการลูบไล้เป็นไปอย่างนุ่มนวลไม่แสดงถึงความหื่นกระหาย อารมณ์ของคนทั้งสองค่อยๆถูกสั่งสมกลับมาใหม่ ท่อนควยของกวินตอนนี้แข็งโชนเป็นลำเบียดอัดอยู่ในกางเกง ความแข็งเกร็งนี้พิมผกาผู้ทาบทับอยู่บนมันสามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดี สะโพกผายที่ถูกมือของกวินลูบไล้อย่างแผ่วเบาได้อารมณ์ค่อยๆยักย้ายเยื้องโยกบดอัดโคกโหนกนูนสัมผัสรับกับท่อนลำอุ่นระอุนั้นอย่างเป็นธรรมชาต แรงกดจกเต้าอวบหยุ่นผ่อนคลายไปบ้างในความรู้สึกของกวินเพราะพิมผกาค่อยๆขยับตัว ยันกายขึ้นเล็กน้อย เธอถอนปากออกจากปากของกวินช้าๆน้ำลายเหนียวใสยืดตามจากปากของทั้งสองจนขาดจากกัน สองแขนของพิมผกาท้าวยันอยู่เหนือไหล่ทั้งสองข้างของกวินจังหวะบดอัดสะโพกถูกเร่งขึ้นอีกเล็กน้อยแต่ตำแหน่งที่สัมผัสกันของอวัยวะทั้งสองถูกปรับให้สอดรับกันได้ดียิ่งขึ้น ท่อนควยลำอวบยาวถูกถูไถขึ้นลงโดยร่องหีที่เริ่มเปียกชื้นของพิมผกา แม้จะมีเสื้อผ้ากางกั้นอยู่ แต่รสสัมผัสที่ทั้งสองมอบให้และได้รับ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความสุขเสียว ที่ทั้งคู่ต่างก็ต้องการจากกันและกันเลย สัมผัสจากมือของกวินที่พิมผกาได้รับตอนนี้เธอรู้สึกได้ถึงความแรงที่เพิ่มขึ้น เมื่อแก้มก้นทั้งสองข้างของเธอถูกบีบเค้นน้ำหนักแรงบีบมันเปลี่ยนไปตามความเสียวช่านที่เธอเป็นผู้บรรจงมอบให้ พิมผกายิ่งรู้สึกก็ยิ่งเสียวซ่านมากขึ้น เพียงแค่ภายนอกร่มผ้านี้ พิมผกาบอกกับตัวเองได้เลยว่าเธอกำลังจะเสร็จแล้ว สายตาปรือเยิ้มไปด้วยไฟราคะและความรักที่ล้นปรี่จ้องมองลงไปในดวงตาของกวินที่นอนรับร่างของเธออยู่นั้นทั้งคู่สบตากันเหมือนกาลเวลาหยุดนิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่าง รอบกายเหมือนหยุดความเคลื่อนไหว แม้แต่สายลมก็ไม่โชยพัด เหมือนจะอัดอั้นกลั้นไว้เพื่อรอดูหรือเป็นกำลังใจให้กับหญิงสาวชายหนุ่มคู่นี้ ท่ามกลางความเงียบสงบไร้สิ้นซึ่งเสียงสำเนียงใดๆพิมผกามองเห็นการตอบรับในดวงตาของกวินนั้น โดยไม่ต้องส่งเสียงใดๆเลยกวินพยักหน้าน้อยๆให้พิมผกา เหมือนกับรับรู้ว่าเธอต้องการหรือกำลังร้องขออันใด และกวินเองก็เห็นในดวงตาทั้งคู่ของพิมผกา เต็มเปี่ยมไปด้วยแววความตื่นเต้น อัศจรรย์ และสำนึกขอบคุณ จากนั้นจังหวะก็ถูกเร่งขึ้น พิมผกาทาบทับอยู่บนร่างของกวินในลักษณะคล่อมทับบดอัดร่องหี่ที่เยิ้มแฉะอยู่ในกระโปรงซึ่งไม่มีกางเกงใน พยายามจัดท่าให้ร่องแคมครอบทับไปตามความยาวของลำควยกวินที่แข็งเกร็งดันกางเกงอยู่แทบปริขาด เธอโยกตัวไถร่องแคมกับลำควยด้วยความเสียวสะท้าน พิมผกาเริ่มปล่อยตัวและใจให้ธรรมชาตชักนำการกระทำของเธอไปเอง ความเสียวสยิวเพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจฉุดรั้ง กวินแว่วเสียงหอบหายใจแผ่วๆจากหญิงสาวที่โยกตัวบดอัดร่องหีใส่ท่อนควยของเขา กวินเองก็ซ่านเสียวไปไม่น้อยกว่าพิมผกาเลยแต่กวินก็ทำเช่นเดียวกับพิมผกาคือปล่อยให้ธรรมชาตชักนำการกระทำของเขาออกมาเองการตอบสนองเกิดขึ้นที่สะโพกของกวินเอง โดยเริ่มยกสะโพกขึ้นรับจังหวะการบดอัดร่องแคมของพิมผกา เนื้อผ้าของกระโปรงที่พิมผกาสวมใส่อยู่ บริเวณที่สัมผัสถูกร่องหีของเธอ ตอนนี้เปียกแฉะเป็นดอกดวงและขยายวงเพิ่มขึ้น อาการโยกสะโพกให้ร่องหีรูดลำควยเร่งกระชั้นถี่ขึ้นอีกเล็กน้อย และตามมาด้วยอาการเกร็งกระตุก พิมผกาอัดบี้ร่องหีแช่คาไว้บนท่อนควยของกวินพร้อมเสียงครางแผ่วๆ และเสียงหอบหายใจอย่างสุขสม กวินรู้แล้วว่าพิมผกานั้นน้ำแตกไปแล้ว เมื่อเธอทิ้งตัวลงหอบหายใจอยู่บน-อกเขาสองมือยังคงลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปทั่วร่าง ตั้งแต่ทั้งสองแลกจูบกันจนกระทั่งพิมผกาสำเร็จความเสียวไปนี้กินเวลาไปแค่ไม่ถึง 5 นาที แต่ในความรู้สึกของทั้งสองกลับรู้สึกเหมือนกับว่ามันยาวนานนับปีนับชาติ ..... พิมผกาที่นอนซบแก้มนวลอยู่บนแผงหน้าอกของกวินขยับเล็กน้อย ประทับจูบแผ่วเบาที่ปลายคางของกวิน "วินขา.....กวางมีความสุขที่สุดเลยค่ะ....รู้มั้ย....วินขา.....เดี๋ยวกวางทำให้วินนะคะ..." จบคำนั้นกวินรู้สึกได้ถึงการรุกรานของสองมือเล็กๆที่สอดเข้ามาใต้หน้าท้องของทั้งสองที่ประกบกันอยู่ สองมือนั้นกระทำอย่างชำนาญและแผ่วเบา ไม่นานนักเข็มขัดก็ถูกแก้ออกกวินรู้สึกเหมือนกับว่ามันหลุดออกพร้อมๆกับตะขอกางเกงของเขาด้วยซ้ำ ซิปที่ถูกดันโดยท่อนควยลำเขื่องของเขาถูกรูดลงอย่างติดขัดเล็กน้อย พิมผกาโหย่งตัวขึ้นเป็นลำดับเธอค่อยๆบรรจงถอดรูดกางเกงของกวินออกทางปลายเท้า กวินต้องผงกหัวขึ้นดูการกระทำของพิมผกาเมื่อเขารู้สึกเย็นๆที่ท่อนควย เพราะพิมผการูดกางเกงเขาออกพร้อมๆกับกางเกงในที่เขาสวมใส่อยู่ จนกระทั่งสิ่งกีดขวางนั้นมันพ้นจากร่างของเขาไปแล้ว
กลุ่มเมฆคล้อยเคลื่อนออกไปแล้ว แสงจันทร์นวลผ่องสาดแสงเย็นตาลงสู่บึงน้ำใสนิ่ง พิมผกาสองตาลูกโชนจ้องมองท่อนควยที่ดีดผงาดออกมาตั้งเป็นลำทะมึนอยู่ที่หว่างขาของกวิน เธอมองมันอย่างหลงไหลงมงาย สองมือสั่นสะท้านลูบคลำอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมไปบนท่อนควยนั้นเหมือนกับว่าเธอพบเจอสิ่งของสุดรักที่หายไปจากเธออย่างยาวนาน พิมผกากำโอบมันด้วยสองมือลูบไล้ลงไปถึงพวงเนื้อที่ห้อยย้อยอยู่ข้างล่างนั้น และเหมือนกับเธอต้องการเห็นมันอย่างเต็มตาในสายตาของกวิน เมื่อพิมผกาค่อยๆเคลื่อนใบหน้าสวยหวานเข้ามาใกล้เป็นลำดับ พิมผกาบรรจงจูบอย่างแผ่วเบาลงบนปลายควยที่เต็มไปด้วยเมือกลื่นไล้ลิ้นวนเลียลงไปช้าๆรอบๆปลายหัวนั้น กวินตัวเกร็งกระตุกสะโพกยกเด้งขึ้นไปเองโดยอัตโนมัติโดยที่พิมผกาเองก็มิได้ระวังปลายควยที่เปียกเยิ้มไปด้วยเมือกลื่นปริ่มๆนั้นถากไถริมฝีปากอ่อนละมุนของเธอพาดผ่านข้างแก้มขาวนวลถากเฉี่ยวไปจนถึงหางคิ้วเพราะเธอเองก็กำลังก้มหน้าเข้าหามันอยู่พอดี พิมผากรีบใช้สองมือโอบกำโคนควยของกวินไว้ออกแรงกดลงไปมันยิ่งเป็นการดึงรั้งหนังหุ้มปลายควยลงมาทำให้ปลายหัวควยนั้นถอกออกแผ่ปลายเงี่ยงออกมา ริมฝีปากน้อยๆเผยออ้าออกจูบลงไปบนปลายถอกของกวินให้ปลายควยค่อยไหลเลื่อนผ่านริมฝีปากคู่บางนั้นเข้าไปช้าโดยเธอห่อลิ้นรออยู่ภายในโพรงปากจนเมื่อปลายควยผ่านล่วงเข้าไปในโพรงปากแล้วพิมผกาจึงใช้ลิ้นตวัดรับ แล้วแหย่ปลายลิ้นดุนดันใส่รูเยี่ยวกลางหัวถอกนั้นพร้อมทั้งขยี้ปลายลิ้นสะบัดใส่รูกลางหัวควย กวินสะท้านไปทั้งตัวสองมือผวาโอบจับไปที่หัวของพิมผกา แต่ก็เพียงแค่จับไว้เท่านั้น อาการที่เกิดขึ้นของกวินนี้พิมผการับรู้ได้โดยตลอด เธอเริ่มโยกศรีษะของตัวเองขึ้นลงช้าๆพร้อมๆกับเพิ่มแรงดูดในโพรงปากของเธอมือที่จับโคนควยของกวินก็เริ่มกระทอกไปด้วยช้าๆและเร่งเร็วขึ้นตามลำดับ ความเงี่ยนง่านของกวินปะทุขึ้นอย่างเต็มที่ ซึ่งพิมผกาเองก็เช่นกันเธอรู้สึกได้ถึงอาการตอดขมิบที่เกิดขึ้นในโพรงหีของเธอเองในตอนนี้หยาดเมือกแห่งความเงี่ยนง่านหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อแรงจับที่ศรีษะของเธอเพิ่มมากขึ้นซึ่งมันมาพร้อมๆกับอาการเกร็งจากร่างกายของกวิน พิมผการูดปากออกจากท่อนควยของกวินอย่างรวดเร็วเหมือนสะบัดหน้าหนีขึ้นมามือที่จับกำท่อนควยก็ปล่อยออก ปล่อยให้ท่อนควยลำเขื่องของกวินตั้งส่ายโดกเดกเส้นเอ็นตามลำควยเต้นกระตุกปลายถอกแดงเข้มเหมือนมันจะโกรธอะไรซักอย่าง กวินเองนั้นแทบจะผวาลุกขึ้นทั้งตัวตามจังหวะการสะบัดปากออกจากท่อนควยของพิมผกานั้น เขารู้สึกอย่างฉับพลันถึงความโหวงเหวง ไร้เขา ไร้เรา เหมือนมีตัวตนแต่ไม่มี ไร้แผ่นฟ้า สิ้นแผ่นดินให้ทรงกาย ไม่สามารถบอกบรรยายได้โดยละเอียดถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เป็นความรู้สึกที่เหมือนวิญญาณถูกกระชากออกจากคราบร่าง ท่อนควยหยาบใหญ่ยังเต้นกระตุกอยู่แต่เหมือนกับว่าการรับรู้ของกวินขาดสิ้นไปแล้วโดยสิ้นเชิง ไม่รู้แม้กระทั่งว่าขณะนี้คุณแม่พิมผกาของเขานั้นขณะนี้ได้ลุกขึ้นยืน และค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่หลงเหลืออยู่บนร่างของเธออยู่ที่เบื้องหน้าของลูกชายสุดที่รัก ที่อยู่ในลักษณะครึ่งนั่งครึ่งนอนคนนี้ พิมผกาบอกตัวเองในใจอย่างคนที่จมอยู่ในห้วงรักดั่งสาวแรกรุ่นว่า เธอพร้อมที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แล้ว ถึงแม้คนผู้นี้จะเป็นลูกชายแท้ๆของเธอเองก็ตาม ...........