ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่พ่อแม่ส่งเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพมหานคร ครอบครัวของผมมีฐานะปานกลาง ไม่ร่ำรวยพอที่จะชื้อคอนโดมิเนียมให้ผมพักอาศัยได้ ผมจึงจำเป็นจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในหอพักที่อยู่ใกล้วิทยาลัยที่ผมเรียน ผมเรียนอยู่ในระดับ ปวส. ในวิทยาลัยของรัฐซึ่งเป็นแบบสหศึกษา การเรียนรวมกันแบบชายและหญิงทำให้นักศึกษาคบกันในฐานะคู่รักกันเป็นส่วนใหญ่
ผมเป็นนักกีฬาของวิทยาลัย จึงทำให้มีสาว ๆ หลายคนอยากจะมีความสัมพันธ์กับผม ซึ่งก็แน่นอนว่า ก่อนที่ผมจะมาเป็นแฟนกับน้องจอย ผมผ่านผู้หญิงมาแล้วหลายคน ทุกคนที่เคยเป็นแฟนผมล้วนยินยอมให้ผมเย็ดด้วยความเต็มใจ และผมก็ได้บริหารควยของผมบ่อยมากจนกระทั่งมาคบกับน้องจอย
ผมกับน้องจอยคบกันเป็นแฟนอย่างเปิดเผยและยาวนานกว่าผู้หญิงทุกคน และน้องจอยก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่คบกับผมนานขนาดนี้ โดยที่ผมยังไม่มีโอกาสเย็ดเธอเลย โดยปกติแล้วผู้หญิงที่คบกับผม จะโดนผมจัดการทะลวงรูสวาทภายในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งเดือน
น้องจอยเป็นเด็กสาวที่ทั้งสวยทั้งน่ารัก ทันทีที่เธอยอมรับผมเป็นแฟน ผมก็รู้สึกว่าโลกนี้เป็นของผม และผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่า ไม่เกินสามเดือนผมจะต้องเอาควยของผมกระเด้ารูหีของน้องจอยให้ได้
น้องจอยเป็นคนที่หวงเนื้อหวงตัวมาก กว่าเธอจะยอมให้ผมจับมือก็ต้องใช้เวลานานกว่าเดือน และผมกอดเธอได้ก็หลังจากเป็นแฟนกันได้นานหลายเดือน อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้กระมังที่ทำให้ผมรักเธอมากขึ้น และความต้องการที่จะเย็ดเธอก็ทวีขึ้นเป็นเงาตามตัว
และแล้ววันหนึ่งโอกาสที่ผมจะได้เผด็จสวาทน้องจอยก็มาถึง เมื่อน้องจอยเอ่ยปากขอใช้คอมพิวเตอร์ที่ห้องพักของผม เพื่อทำรายงานส่งอาจารย์
“พี่ต๋อง จอยขอใช้คอมพี่พิมพ์รายงานหน่อยสิ คอมของจอยเสีย จอยต้องส่งรายงานพรุ่งนี้แล้ว เดี๋ยวทำไม่ทัน”
“ได้สิ ตอนเลิกเรียน จอยไปใช้คอมที่ห้องพี่ได้เลย” ผมตอบโดยพยายามสะกดความลิงโลดใจเอาไว้
“งั้นจอยไปเรียนก่อนนะ ตอนเย็นค่อยเจอกัน” น้อยจอยกล่าวก่อนเดินขึ้นตึกเรียนไป
“ก๊อก...ก๊อก...” เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังวิทยาลัยเลิกไม่นาน เป็นสัญญาณว่าน้องจอยมาถึงแล้ว ผมเปิดประตูให้น้องจอยเข้ามา แล้วปิดประตูห้องพร้อมกดล็อคปุ่มลูกบิดเบา ๆ
“พี่เปิดคอมรอไว้แล้ว จอยต้องพิมพ์รายงานเยอะมั๊ย ถ้าพิมพ์ไม่ไหว ให้พี่ช่วยได้นะ” ผมเสนอ
“ไม่เยอะเท่าไหร่ น่าจะสักประมาณชั่วโมงก็เสร็จ”
“ถ้างั้น พี่อ่านหนังสือรอจอยก็แล้วกัน พอจอยพิมพ์งานเสร็จ เราค่อยออกไปหาอะไรกินกัน” ผมตอบเสียงราบเรียบเพื่อไม่ให้น้องจอยระแวง
น้องจอยลงมือพิมพ์งาน ส่วนผมก็เปิดหนังสืออ่าน แต่ความตื่นเต้นกับแผนการสกปรกทำให้ผมอ่านไม่รู้เรื่องเลย ในสมองผมเฝ้าแต่ครุ่นคิดว่าจะใช้ไม้ไหนในการเผด็จศึกสาวน้อยคนนี้ดี การที่น้องจอยผิดแผกจากหญิงอื่นที่เคยเป็นแฟน ผม ทำให้ผมคิดจะค่อย ๆ ปลุกเร้าความต้องการของเธอ และให้เธอเต็มใจที่จะให้ผมเย็ด มากกว่าที่ผมจะบังคับขืนใจเธอ
“เฮ้อ ! เสร็จซะที พรุ่งนี้จอยเอาไปพริ้นท์แล้วส่งอาจารย์ได้เลย” เสียงของน้องจอยปลุกผมขึ้นมาจากการครุ่นคิด
ในที่สุดเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง ผมผุดลุกขึ้นไปยืนข้าง ๆ น้อยจอย ในขณะเดียวกับที่น้องจอยก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เช่นกัน ผมคว้าร่างน้องจอยเข้ามากอด อาจจะเป็นเพราะเราเคยกอดกันมาหลายครั้ง รวมทั้งน้องจอยเองก็ไม่ได้ระแวงว่าผมจะคิดไม่ซื่อ เธอจึงสวมกอดผมอย่างเคย ผมยื่นจมูกไปสูดดมความหอมของแก้มสองข้างชั่วครู่ ก่อนเลื่อนลงไปไซ้ซอกคอน้องจอย
“พี่ต๋องรังแกจอยอีกแล้ว พอเถอะค่ะ” เธอร้องห้ามแต่กลับกอดผมแน่นขึ้น พร้อมกับตุ่มขนตรงซอกคอที่ลุกซู่ขึ้น ทำ ให้ผมรู้ว่าเธอเริ่มรู้สึกหวั่นไหวไปกับอารมณ์เสียวที่พุ่งขึ้น
“อย่าห้ามความรักที่พี่มีต่อจอยเลย ขอให้พี่มีโอกาสได้สัมผัสกับคนที่พี่รักสุดหัวใจเถอะ พี่สัญญาจะไม่ทำอะไรเกินเลยไปกว่าที่น้องจอยจะให้พี่ได้” ผมกระซิบข้างหูเธอ
“ถ้างั้นพี่ต๋องต้องให้สัญญาก่อนว่า ถ้าจอยบอกให้พี่ต๋องหยุด พี่ต๋องต้องหยุด ไม่งั้นจอยโกรธพี่ต๋องจริง ๆ ด้วย” น้องจอยขอคำสัญญาจากผม ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ต้องให้สัญญาไว้ก่อน ส่วนอะไรจะเกิดขึ้น ก็ไปแก้ไขเอาข้างหน้า
“พี่ให้สัญญา ถ้าน้องจอยบอกให้พี่หยุดเมื่อไหร่ พี่จะหยุดทันที”
พูดจบผมก็ไม่ปล่อยให้น้องจอยต่อล้อต่อเถียงอีกต่อไป ผมใช้สองมือประคองใบหน้าเธอไว้ แล้วจรดริมฝีปากเข้าสัมผัสริมฝีปากเธอ ความที่น้องจอยไม่ได้คาดคิดว่าจะโดนผมจู่โจมเช่นนี้ ริมฝีปากผมกับเธอจึงสัมผัสกันแนบแน่น
“อือ...อื้อ.....” เสียงของเธออู้อี้ในลำคอ พร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น ผมพยายามใช้ปลายลิ้นกระแซะริมฝีปากเธอ จนในที่สุดเธอก็ยอมปล่อยให้ลิ้นของผมเข้าไปในโพรงปากเธอ ผมใช้ปลายลิ้นสัมผัสกับปลายลิ้นเธอไปมา เพียงครู่เดียวน้องจอยก็ตอบโต้รสจูบของผม พร้อมกับสองมือที่รัดร่างผมแน่นขึ้น แสดงให้เห็นว่าความต้องการทางเพศของเธอเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว มาถึงตอนนี้ควยผมก็เริ่มแข็งตัวขึ้น จนผมต้องพยายามโก่งสะโพกไม่ให้มันไปสัมผัสกับร่างของน้องจอย ด้วยกลัวว่าเธอจะตื่นตระหนกจนเสียการ
ขณะที่น้องจอยกำลังหวั่นไหวและติดใจรสจูบของผม ผมก็ฉวยโอกาสดึงชายเสื้อของน้องจอยออกจากขอบกระโปรง แล้วสอดสองมือเข้าไปสัมผัสแผ่นหลังของเธอแบบเนื้อต่อเนื้อ ผิวกายของเธอช่างนุ่มเนียนมือผมเหลือเกิน มันทำให้ควยผมยิ่งแข็งตัวมากขึ้น
เมื่อเห็นว่าน้องจอยยังคงดื่มด่ำกับรสจูบที่แปลกใหม่สำหรับเธอ ผมจึงใช้สองมือปลดตะขอยกทรงของเธอออก พร้อมอุ้มร่างน้องจอยไปวางบนเตียง แล้วสอดสองมือเข้าไปเกาะกุมสองเต้าเต่งที่ไร้ส่งห่อหุ้ม หัวนมที่แข็งเป็นไตแสดงให้รู้ว่า อารมณ์ทางเพศของเธอเริ่มกรุ่นขึ้นแล้ว
“อย่าค่ะ...พี่ต้อง....พอแล้วค่ะ....” น้องจอยร้องห้ามพร้อมพยายามผลักร่างผมออก แต่ผมไม่มีวันยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้อย่างแน่นอน ผมย้ายสองมือออกมาปลดกระดุมเสื้อโดยมีมือของน้องจอยคอยขัดขวางไม่ให้ผมทำงานได้สะดวก แต่ในที่สุดสองเต้าขาวผ่องเต่งตึงก็เผยออกสู่สายตาผม นมของน้องจอยตั้งเป็นเต้าด้วยความคัดแน่นของวัยสาว ประดับยอดด้วยทับทิมสีแดงเข้มขนาดปลายก้อย ผมใช้สองมือคลึงเคล้นสองเต้าเบา ๆ สลับกับใช้ปลายนิ้วหยอกล้อหัวนมที่แข็งเป็นไต
“อย่าค่ะ...อย่า...พอแล้ว...พี่ต๋อง...อี๋ย์...อย่าทำจอย.......” น้องจอยร้องห้ามแต่กลับแอ่นหน้าอกสู้กับมือผม แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ขัดแย้งกันระหว่างร่างกายและจิตใจของเธอ นมของน้องจอยสวยงามยิ่งกว่าหญิงใดที่ผมเคยสัมผัส และดูเหมือนจะไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน สังเกตได้จากความตึงแน่นแต่หยุ่นมือยามถูกนวดคลึง
“...พี่ต๋อง...พอแล้ว....อุ๊ย....” น้องจอยเปลี่ยนจากเสียงร้องห้ามมาเป็นเสียงอุทานแทน เมื่อผมใช้ริมฝีปากดูดตรงหัวนม พร้อมใช้มือซ้ายเคล้นคลึงเต้าที่ว่าง แล้วสลับเต้าไปมา มาถึงตอนนี้น้องจอยก็แอ่นเต้านมให้ผมโลมเลียด้วยความเต็มใจ พร้อมใช้ทั้งสองมือกดหัวผมแน่น
ผมสอดมือขวาลอดชายกระโปรงน้องจอยเข้าไปหาเป้าหมายสำคัญ โดยยังคงปลุกเร้าสองเต้าอวบอย่างต่อเนื่อง น้องจอยส่งเสียงครางในลำคอบ่งบอกถึงความซาบซ่านจากการถูกปลุกเร้าจนไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านการรุกรานของมือผมที่เลื่อนไปตามต้นขาจนไปเกาะกุมโหนกเนินซอกโคนขา เนินโหนกซอกโคนขาที่ผมสัมผัสได้บอกให้ผมรู้ว่า เนินหีน้องจอยมันทั้งโหนกนูนและใหญ่โตกว่าคู่ขาทุกคนที่ผมเคยสัมผัส ผมค่อย ๆ ลูบไล้กางเกงในที่ปกปิดโหนกหีน้องจอยขึ้นลงจนรู้สึกถึงความชื้นที่ร่องหีน้องจอยหลั่งออกมา
“อุ๊ย...อย่าค่ะ...พี่ต๋อง....” น้องจอยอุทานออกมาเมื่อผมพยายามกดปลายนิ้วเข้าไปหว่างกลีบแคมจนพบเม็ดเสียวของน้องจอย และแม้จะยังมีกางเกงในขวางกั้นอยู่ ผมก็รู้สึกได้ถึงเม็ดเสียวที่แข็งตัวเป็นไต ผมใช้ปลายนิ้วคลึงขยี้เม็ดเสียวเบา ๆ เพื่อปลุกเร้าความเสียว โดยยังคงใช้ปากและมืออีกข้างโลมเล้าสองเต้าเต่งอย่างต่อเนื่อง
ผมละใบหน้าจากทรวงอกของน้องจอย และกลับมาจูบน้องจอย พร้อมๆ กับสอดมือลอดผ่านขอบกางเกงในเข้าสัมผัสกับเนินหีเต็ม ๆ ปุยหมอยน้องจอยนุ่มจนไม่รู้สึกระคายมือแม้แต่น้อย ผมสอดปลายนิ้วกลางเข้าไปหว่างกลีบแคม จนพบกับเม็ดเสียว แล้วเริ่มคลึงเบา ๆ
“อุ๊ย ! ....หยุดนะ...พี่ต๋อง” น้องจอยอุทานตามมาด้วยเสียงตวาด แล้วสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้น น้องจอยผุดลุกขึ้นผลักร่างผมออก พร้อมดึงมือผมออกจากซอกโคนขา เธอผุดลุกขึ้นยืนแล้วสวมเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยอยู่กลับเข้าที่เดิม เธอยืนจ้องหน้าผมเขม็ง
“พี่ต๋องสัญญากับจอยแล้วว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลย...จอยโกรธพี่ต๋องแล้ว” น้องจอยพูดพร้อมน้ำตาพรู
“ก็...ก็...น้องจอยไม่ได้บอกให้พี่หยุด...ก็นึกว่า...” ผมพยายามแก้ตัว
“พี่ต๋องคิดว่าจอยเป็นผู้หญิงใจง่ายเหมือนทุกคนที่คบกับพี่ต๋องเหรอ” เธอสวนผมกลับโดยไม่รอให้ผมพูดจบ
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินน้องจอย แต่มันห้ามใจไม่ได้ ยกโทษให้พี่นะ” ผมอ้อนวอน แล้วพยายามจะรั้งร่างของน้องจอยเข้ามากอด แต่ใช้มือยันเอาไว้ น้องจอยเก็บงานบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ แล้วผลุนผลันออกจากห้องไป
สวรรค์ที่รอผมอยู่ข้างหน้าสลายหายวับไปกับตา กลเม็ดที่ผมเคยใช้กับผู้หญิงทุกคนไร้ผลกับน้องจอย อย่างไรก็ตาม ความผิดหวังครั้งนี้กลับทำให้น้องจอยมีค่ามากขึ้นในสายตาของผม แต่ผมก็ไม่ละความพยายามอย่างแน่นอน เพียงแต่ผมต้องวางแผนให้ดี และจะต้องไม่พลาดเป็นครั้งที่สอง
กว่าผมจะตามง้อน้องจอยให้หายโกรธก็ต้องใช้เวลาทั้งสัปดาห์ โดยน้องจอยคาดคั้นให้ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก ซึ่งผมก็ต้องให้สัญญากับเธอ แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือ ผมไม่มีโอกาสอยู่ลำพังกับเธอในที่ลับตาคนอีกเลย น้องจอยยังคงไปพิมพ์งานหรือเช่าหนังสือจากใต้ถุนหอพักขึ้นมาอ่านที่ห้องผม โดยมีผมอยู่ในห้องด้วย แต่เธอบังคับให้ผมเปิดประตูอ้าเอาไว้ จนใคร ๆ ก็มองเข้ามาในห้องผมได้ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน มันทำให้ผมหมดโอกาสที่จะเจาะไข่แดงเธอด้วยวิธีเดิม ๆ แล้ว