ที่ใดมีสาวงาม...ที่นั่นคือแดนสวรรค์ นั่นคือความจริงที่ใคร ๆ ก็คัดค้านไม่ได้ ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่มีความเห็นสอดคล้องต้องกันทั้งนั้น
สาวงามคนที่ว่านี้ งามจริง ๆ งามทั้งใบหน้าและส่วนสัดในเรือนร่าง ใครได้พบเห็นแล้วจะต้องเก็บเอามาคิดมาฝันถึงเธอไปอีกนาน
ชุมศรีคือสาวงามผู้มีเสน่ห์ชอบให้ใฝ่ฝัน เธอมีอายุได้ 27 ปีเศษ แต่ถ้าใครไม่ทราบความจริงแล้ว จะคิดว่าเธอมีอายุเพียง 20 กว่าปีเท่านั้นเอง
เป็นที่น่าเสียดายที่เธอเป็นหม้าย สามีตายตั้งแต่วัยนี้ ทิ้งให้เธอผจญกับความว้าเหว่กับลูกชายวัย 5 ขวบเศษ มันเป็นของแน่ที่เธอจะต้องคร่ำครวญถึงชีวิตรักอันหวานชื่นของเธอซึ่งได้สลายตัวไปอย่างปัจจุบันทันด่วน วัยของเธอเป็นวัยที่กำลังต้องการความรักความทะนุถนอมอย่างแท้จริง เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ท่านลองคิดดูสิว่า ชุมศรีจะปวดร้าวและว้าเหว่เพียงไร เธอโศกสลดรันทดกับการตายของสามีได้ถึงปีกว่า เจ้าความเศร้าก็บินไปจากเธอทีละน้อย ๆ จนบัดนี้ เธอร่าเริงแจ่มใสมีชีวิตชีวาเหมือนผีเสื้อแสนสวยที่บินโฉบไปมาเพื่อหาความหวานชื่นจากเกสรดอกไม้
เธอเริ่มทำตนเป็นนักสังคมสงเคราะห์ เริ่มออกงานสังคมต่าง ๆ ยิ่งเธอเป็นคนสวยมีเสน่ห์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเยื้องกรายไปที่ใด ก็งามเด่นสะดุดตาอยู่เสมอ ถ้าใครไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน จะมิทราบเป็นอันขาดว่าเธอเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว
ด้วยความหงอยเหงาตั้งแต่แรก เธอจึงชวนน้องสาวร่วมบิดามารดามาอยู่เป็นเพื่อนถึงสองคน โดยการส่งเสียให้เรียนเสริมสวย คือคนพี่ชื่อชวนชื่นเรียนตัดเสื้อ คนหนึ่งชื่อชวนชมเรียนตัดผม
อันอุปนิสัยของสองพี่น้องนี้ ก็แตกต่างกันยิ่งนัก ชวนชื่นคนพี่นั้นมีนิสัยเยือกเย็นสุขุมละเอียดอ่อน เหมาะแก่วิชาที่เรียนอยู่แล้ว ส่วนชวนชมคนน้องนั้นมีนิสัยสนุก เจ้าอารมณ์ เปรี้ยวปรูดปราด เหมาะแก่สมัยนิยมปัจจุบัน แต่พี่น้องก็มีความรักใคร่กันเป็นอย่างดี
ชุมศรีจัดให้น้องทั้งสองขึ้นไปพักบนชั้นบนใกล้ ๆ กับห้องของเธอและลูกชาย ไม่ปะปนกับคนใช้ซึ่งอยู่เรือนแถวข้างล่าง อาศัยที่สามีที่ตายเป็นคนมีสมบัติมรดกมหาศาลจากบรรพบุรุษ สมบัติอันนั้นจึงตกทอดมาถึงเธอและบุตร อาศัยที่เธอเป็นคนฉลาด รู้จักสะสมและหารายได้จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาใช้จ่ายประจำเดือน ค่าเช่าบ้านและค่าเช่าที่ และรายได้อื่น ๆ เมื่อรวมกันเข้าแล้ว เธอก็มีพอที่จะใช้จ่ายได้อย่างสบาย เธอจึงไม่มีทุกข์มีร้อน ดิ้นรนหากินเหมือนแม่หม้ายเป็นส่วนมาก
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ทุกคนอยู่บ้านกันอย่างพร้อมเพรียง นาฬิกาตีบอกเวลา 10 นาฬิกาพอดี เด็กรับใช้คลานเข้ามาบอกว่ามีแขกต้องการพบคุณชุมศรีพร้อมกับยื่นนามบัตรให้
ไพศาล กาญจนเดช เป็นชื่อสกุลของเขา ชุมศรีรับมาอ่านอย่างงง ๆ ด้วยเธอไม่รู้จักชื่อนี้มาก่อนเลย สั่งให้เด็กรับใช้เชิญเขาเข้าไปยังห้องรับแขก แล้วเธอก็ตรงไปยังกระจกเงาเพื่อสำรวจความงามของใบหน้าและเครื่องแต่งกายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นว่าพร้อมแล้ว เธอจึงตรงไปยังห้องรับแขกทันที
ชายผู้นั้นลุกขึ้นต้อนรับเธออย่างอ่อนน้อม พร้อมกับยกมือคารวะเธอก่อนทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าวัยของเขาจะไม่น้อยนัก
"เอ้อ สวัสดีครับคุณชุมศรี"
"ค่ะ สวัสดีคุณไพศาล เชิญนั่งสิคะ ตามสบายเถอะค่ะ ถือเป็นกันเอง"
เธอหยุดเว้นระยะเมื่อเด็กรับใช้นำเครื่องดื่มเข้ามาให้
"เชิญดื่มสิคะ วันนี้อากาศค่อนข้างอบอ้าวซะด้วย"
"คุณมีธุระอะไรที่จะให้ดิฉันรับใช้คุณหรือคะ คุณไพศาล"
"ครับ ผมมีธุระที่ต้องการจะปรึกษาและขอคำแนะนำจากคุณ"
"เชิญเลยค่ะ ดิฉันยินดีจะช่วยเหลือและขอบคุณที่ให้เกียรติดิฉันค่ะ"
"คือยังงี้ครับ ผมขอแนะนำตัวของผมก่อนว่าผมเป็นชาวปักษ์ใต้ เป็นเจ้าของเหมืองแร่ที่มีรายได้พอประมาณ ขณะนี้ภรรยาของผมต้องการจะหย่าร้างกับผม แต่ผมรักเธอมากและคิดว่าจะอยู่โดยปราศจากเธอไม่ได้ ผมจึงมาขอความกรุณาคุณ ด้วยมีผู้แนะนำว่า คุณเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง โปรดให้คำแนะนำผมด้วยจะเป็นพระคุณที่สุด"
ชุมศรีนั่งฟังปัญหาชีวิตของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ เมื่อเขาเล่าจบ เธอก็พูดชมเขาอย่างอ่อนหวาน
"ขอประทานโทษนะคะ ถ้าหากว่าดิฉันจะถามซอกแซกไปหน่อย แต่ก็จำเป็น เพราะบางทีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราไม่คิดว่าจะเป็นสิ่งก่อความแตกร้าว แต่มันก็เป็น"
"ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีตอบคำถามของคุณทุกประโยค เชิญถามได้เลยครับ"
"ภรรยาของคุณอายุเท่าไรไม่ทราบคะ แก่หรืออ่อนกว่าคุณกี่ปี"
เขาทำท่านิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า
"จงจิต ภรรยาของผมอายุ 35 ปีครับ อ่อนกว่าผม 4 ปี ผม 39"
"อ้อ วัยก็สมกันดีนี่คะ มีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยรึเปล่าคะ"
"ไม่เคยทะเลาะกันเลยครับ เป็นความจริง"
"เอ น่าแปลก"
"มาระยะประมาณเดือนเศษ ๆ นี่แหละครับ ดูเธอเฉย ๆ ขรึม ๆ ไม่ค่อยช่างพูดและยิ้มหัวเราะเหมือนก่อน ๆ"
"ขอโทษคะ มีบุตรกี่คนคะ"
"คนเดียวครับ ผู้ชายอายุได้ 18 ปีพอดี"
เธอทำท่าอย่างใช้ความคิด เขานิ่งด้วยอาการอันสงบราวกับจำเลยกำลังรอฟังคำพิพากษาจากศาล
"จะรังเกียจมั้ยคะ ถ้าดิฉันจะขอเป็นแขกไปพักที่บ้านสัก 2-3 วัน เพื่อจะดูเหตุการณ์อะไรบางอย่าง"
"โอ ด้วยความยินดียิ่งเชียวครับ จะไปกับผมเลยรึไงครับ จะได้สะดวก"
"ไม่ดีหรอกค่ะ คุณกลับไปก่อน และอีกสองวัน ดิฉันจะตามไป ขอตำบลที่อยู่ให้ดิฉันด้วย"
เขาจัดการตามที่เธอบอกด้วยใบหน้าแช่มชื่นขึ้น และบอกแก่เธอว่า เขาจะมารับเธอที่สถานีรถไฟ แล้วเธอก็นัดหมายกับเขาให้บอกแก่ภรรยาว่า เธอเป็นญาติผู้น้อง ต้องการจะไปพักผ่อนตากอากาศสักหนึ่งอาทิตย์
แล้วไพศาลก็ลาเธอกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
อีกสองวันต่อมา ชุมศรีก็ได้ไปปรากฏตัวที่ปัตตานีอันเป็นที่อยู่ของไพศาล เขามารับเธอตรงตามที่นัดไว้ และได้แนะนำแก่ภริยาของเขาว่าเธอเป็นญาติผู้น้องตามที่ตกลงกันไว้ ชุมศรีเรียกเขาว่าพี่อย่างสนิทสนม ทำให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น
จงจิตเป็นคนสวยคมซึ้ง แววตาของเธอแสดงว่ามีอารมณ์ร้อนแรงอยู่มิใช่น้อย แต่ขณะนี้เธอดูเศร้าซึมไปเล็กน้อย เพราะเธอพยายามปกปิดอารมณ์ของเธอไว้มิแสดงออกมาโดยมารยาทของเจ้าของบ้าน
ชุมศรีกระซิบสั่งไพศาลว่า ขอให้เธอมีเวลาอยู่กับจงจิตให้มากที่สุดเพื่อเธอจะได้ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ภริยาของเขาต้องการจะหย่าร้าง
ดังนั้นไพศาลจึงออกไปทำงานในเหมืองเสียทั้งวัน จะกลับมาก็เฉพาะเวลารับประทานอาหารเท่านั้น และกลางคืนจงจิตก็จัดให้ชุมศรีได้นอนร่วมกับตนตามที่เธอต้องการ
ในห้องนอนอันรโหฐาน บนเตียงอันกว้างใหญ่ซึ่งรองรับฟูกอันอ่อนนุ่ม สองหญิงต่างก็ซ่อนร่างอยู่ในชุดนอนอันพราวพริ้ง นอนคุยกันอย่างถูกคอกัน ชุมศรีชวนสนทนาตามจุดที่ตนต้องการ เป็นการดีอยู่อย่างหนึ่งที่จงจิตเป็นคนเปิดเผย เธอถามอะไรก็เล่าให้ฟังตามตรงไม่ปิดบังอำพรางแม้แต่น้อย
ในที่สุด เธอก็จับจุดได้ว่า เป็นเพราะไพศาลรักงานมากเกินไปจนลืมเอาใจใส่ภรรยาของตน แม้กระทั่งเวลานอน ความเหน็ดเหนื่อยทำให้เขาหลับอย่างสนิท ซึ่งตรงข้ามกับเมียซึ่งแสนจะว้าเหว่นอนลืมตาโพลงเพื่อจะรอรับความรักความอบอุ่นจากเขาเหมือนเมื่อแต่งงานใหม่ ๆ แต่เขาก็มิได้รู้สึกถึงความต้องการของเมียเลยสักนิด บางคราวเป็นเวลาถึงเดือนเศษที่เขามิได้ยุ่งเกี่ยวหลับนอนฉันท์ผัวเมียทั้งหลาย ทั้ง ๆ ที่ก็นอนอยู่ด้วยกันทุกคืน อกเธอแทบจะระเบิดตายเสียให้ได้ แต่ความเป็นผู้หญิง ให้เร่าร้อนร่านระริกเพียงไร ก็สุดที่จะบอกให้ใครรู้ได้ แม้ว่าคนนั้นจะเป็นผัวของตนก็ตาม
"อือม์ ดู ๆ พี่ศาลไม่น่าจะเป็นถึงขนาดนี้เลยนะคะ เห็นออกเป็นสุภาพบุรุษ ดี๊ ดี พี่จิตก็ยังสาวและสวยด้วย ทำไมถึงไม่มีอารมณ์เอาซะเลยน้อ"
เธอเปรยขึ้นอย่างสงสัย พร้อมทั้งลูบไล้ช่วงแขนของเธอไปมาอย่างแผ่ว ๆ
"ค่ะ มอง ๆ ดูคุณศาลก็เป็นคนน่ารักอยู่มาก แต่น่าแปลก ทำไมไม่มีอารมณ์เอาซะเลย พี่ก็เจ็บใจตัวพี่เหลือเกินนะน้องชุม ทำไมถึงเกิดอารมณ์เมื่อเข้าใกล้เขาทุกที"
"มันเป็นของธรรมดาค่ะ พี่จิต ผัวกันเมียกันมันก็ต้องยังงั้นแหละ"
"รึคุณศาลจะนอกใจพี่ก็ไม่รู้"
"เคยไปค้างที่อื่นเสมอรึคะ"
"ไม่เคยเลยค่ะ"
"งั้นก็ไม่ใช่ แหม เนื้อพี่จิตเย้นเย็น นิ่มมือจังเลย ยังงี้ถ้าชุมเป็นพี่ศาลล่ะก้อ ฮึ รับรองได้ ทุกคืนเลย"
"อุ๊ย พูดเข้าซี่ อูย น้องชุมจ๋า ซี๊ด"
"เป็นอะไรคะ พี่จิต"
"อูย เล่นลูบ...คลำ..ยังงี้ พี่เสียว อูย ปล่อยเถอะ นอนกันดีกว่า"
"นอนไม่หลับหรอกค่ะ ชุมรู้ มาเถอะ ชุมจะช่วยทำให้พี่จิตมีความสุขในคืนนี้เอง"
"ตายแล้ว น้องชุม พูดอะไรยังงั้นคะ แล้วน้องชุมก็เป็นผู้หญิง"
"ทำไมคะพี่จิต ผู้หญิงก็ทำให้ผู้หญิงมีความสุขได้ ถอดเสื้อออกดีกว่า ชุมอยากเห็นเนื้อแท้ ๆ ของพี่จิตจังเลย"
"ว้าย อย่าค่ะ ซี๊ด น้องชุม อี๊ย์ อย่า อูย ดูซิ มาเล่นนมพี่ยังงี้ ซี๊ด ซี๊ด พี่เสียว"
"นมพี่จิตยังกะสาว ๆ แน่ะ ยังเต่งตึงฟิตเปรี๊ยะอยู่เลย หัวนมก็น่ารัก ขอชุมเล่นให้สนุกหน่อยเถอะ"
เธอพูดพลางเคล้าคลึงสองเต้าเต่งของจงจิตเล่นอย่างเพลิดเพลิน เธอดิ้นเบา ๆ ผวากายส่ายอกยะเยือกด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาเดือนกว่าแล้ว
"อูย น้องชุมขา อย่าถึงกะดูดเลยค่ะ เท่านี้พี่ก็เสียว...ซี๊ด...ใจจะขาดอยู่แล้ว"
ไม่มีเสียงตอบ แต่มีเสียงดูดจ๊วบ ๆ ๆ มือของชุมศรีก็เลื่อนปราด ๆ ผ่านช่องท้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว คว้าหมับเข้าที่โคกมหาเสน่ห์อันใหญ่โตแต่เนื้อน้อย ซึ่งอุดมไปด้วยเส้นหมอยอันดกดำ
"ว้ายน้อยชุม ซี๊ด น้องชุมขา ทำอะไรยังงั้น พี่..อูย..ซี๊ด...พี่"
"เป็นไงคะ ชุมบี้แตดให้พี่ยังงี้ เสียวดีมั้ย"
"อูยย ถามได้ อุ๊ย อี๊ย์ ตายแล้ว ดูซี่ แยงนิ้วเข้าไปในรูหีพี่ทำไม"
"ให้พี่เสียวนะซี ขอให้ชุมได้สำรวจช่องสวรรค์ของพี่หน่อยเถอะ แหม อุ่นดีจังพี่ นิ่ม น้ำเงี่ยนออกมาแฉะเชียว"
"อูย ซี๊ด น้องชุม ทำพี่ยังงี้แล้วจะช่วยอะไรพี่ได้คะ โธ่ ทำให้พี่อารมณ์กระเจิง ซี๊ด เปล่า ๆ"
เธอคร่ำครวญ ด้วยคิดว่าต่างเป็นผู้หญิงด้วยกัน ชุมศรีคงจะให้ความสุขแก่เธอไม่ได้แน่
"แน่ะ ดูถูกชุม เดี๋ยวเถอะ ชุมจะเย็ดให้พี่ร้องอู้เชียว"
"อูย ชุมน่ะเหรอ ซี๊ด จะเย็ดพี่ อูย จะเอาอะไรมาเย็ดคะ ไหน ลองถอดเสื้อให้พี่ดูซิ แหม เอาเปรียบพี่จัง"
ชุมศรีถอดเสื้อนอนของเธอออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นส่วนสัดในตัวเธออย่างชัดเจน
"โอ น้องชุม ของเธอก็งามไม่หยอก งามกว่าของพี่ซะอีก ถึงแม้หน้าอกจะเล็กกว่าพี่แต่ก็งอนเชิดเต่งตึงดีจัง อุ๊ย แน่ะ ดูซิ โคกหีก็ทั้งใหญ่ทั้งโคก ขนหมอยบ๊างบางน่ารักเหลือเกิน"
เธอมองทรวดทรงของชุมศรีอย่างตื่นเต้น อา...โคกสวาทของเธอช่างใหญ่ขนาดฝ่ามือกางยังปิดไม่มิด แล้วยังโคกนูนขึ้นมายังกะหลังเต่า เข้าตำราหีเจ้าเสน่ห์แท้ ๆ เชียว เมื่อเธอพิจารณาดูจนทั่วพร้อมทั้งลูบไล้เล่นบ้างเป็นการแก้ตัว ก็ไปพบเอาไฝแดงเม็ดใหญ่อยู่ที่โคนแตดของเธอพอดีก็อุทานเสียงดังลั่น
"อุ๊ยตาย น้องชุม น้องชุมมีไฝเม็ดเบ้อเร่อเชียว อูย ยังงี้เมื่อสามีน้องชุมมีชีวิตอยู่มิหลงน้องชุมแย่รึคะ"
"อูย ซี๊ด ก็...ก็..หลงน้องชุมน่ะซิคะ อูย พี่จิต ชุมเสียว ซี๊ด"
คราวนี้ถึงทีจงจิตแก้ตัวกับเธอเอาบ้าง เธอก็ถึงแก่เสียวสยิว ครางอู้ไม่ขาดระยะ
"โอ ดีจัง ถ้างั้นน้องชุมก็ต้องถูกเย็ดทุกคืนน่ะซิคะไ
"ค่ะ ทุกคืน อูย บางคืนก็ 2-3 หนยังมีเลยค่ะ พี่จิตขา ไชนิ้วเข้าไปในรู ยังงั้น ชุมเสียวนะคะ อูย อูย"
"ร้องไปเถอะ ถึงตาพี่มั่งแล้งนี่นา อุ๊ย แคมหีน้องชุมแด๊งแดง เป็นสีกุหลาบเชียว อือ มาเจอเอาหีเจ้าเสน่ห์เข้าแล้ว"
ต่างคนต่างก็ผลัดกันลูบคลำล้วงควักรูหีของกันและกัน ในที่สุดชุมศรีก็บอกแก่จงจิตเสียงกระเส่าว่า
"อูย พอเถอะค่ะพี่จิต เดี๋ยวน้ำแตกซะก่อนหมดสนุก"
"อ้าว ดีซีคะน้ำแตกจะได้สบาย จะกักเอาไว้ทำไมล่ะ"
"โธ่ ชุมยังไม่ได้เย็ดพี่จิตสักที"
"ดู๊ ดู พูดเข้า น้องชุมจะเย็ดพี่ได้ยังไงคะ"
"ได้ซีคะ พี่จิตรอชุมเดี๋ยวซิ"
เธอบอกจงจิตพร้อมกับก้าวฉับ ๆ ไปยังกระเป๋าเดินทางทันที และหยิบเอาเจ้าลึงค์จำลองขนาดเขื่องขึ้นมาท่อนหนึ่งแล้วชูให้จงจิตดู
"นี่ไงคะ พี่จิต เห็นมั้ย เหมือนยังกะของจริง"
"ต๊าย ตาย น้องชุมใช้อ้ายนี่เหรอคะ"
เธอตกใจ ตาเบิกโพลงด้วยความตื่นเต้นด้วยความไม่เคยเห็นและไม่เคยคิดที่จะใช้มาก่อน
"โธ่ ถามได้ ผัวชุมตาย ก็ได้อ้ายนี่แหละ บรรเทาได้เรื่อยมา"
"วิธีใช้ลึงค์เทียมอันนี้ ใช้ได้สองวิธีคือ ใช้ด้วยการกดสวิทช์ให้เครื่องมันเดิน ลึงค์ก็จะค่อย ๆ สั่นจากค่อยเป็นแรง ๆ เข้าทุกที และกระแสไฟฟ้าทำให้ท่อนลึงค์นั้นมีไออุ่นเหมือนของจริง ถ้าต้องการรุนแรงเพียงไรเขาก็มีที่เร่งให้เพียงพอแก่ความต้องการ วิธีนี้ใช้เมื่อเวลาอยู่คนเดียวและเกิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
อีกวิธีหนึ่ง ก็คือวิธีที่ชุมศรีกำลังจะใช้กับจงจิตอยู่ขณะนี้ โดยเธอสวมมันไว้แค่เอว ท่อนลึงค์นั้นก็มาอยู่ตรงหน้าเธอพอดี มองมันโด่ออกมาเหมือนของจริง จงจิตถึงแก่กลืนน้ำลายลงคอเอื๊อก เพิ่มแรงสยิวขึ้นอีก
"โอ เหมือนของจริง ๆ จัง น้องชุม ไหนขอพี่จับหน่อยซิ"
แล้วเธอก็เอื้อมมือมาจับอย่างขลาด ๆ และอุทานว่า
"อุ๊ยตาย นิ่ม ๆ หยุ่น ๆ ด้วย น้องชุมขา"
"นั่นซีคะ พี่จิต นอนหงาย ขวางแง่เตียงเข้าเถอะ ชุมจะเย็ดให้"
เธอรีบทำตามอย่างรวดเร็วด้วยความเงี่ยนขนาดหนัก พอเธอแอ่นโคกสวาทที่แง่เตียง โคกหีของเธอก็แอ่นสูงขึ้นกว่าเดิม ขาทั้งสองถ่างอ้าออก ทำให้เห็นรอยผ่าลึกได้ถนัด ชุมศรีใช้ลึงค์เทียมเขี่ยเม็ดแตดของเธอจนเอนไปมา จนเธอครางระริกและเร่งเร้าให้เย็ดเธอโดยเร็ว พอขาดคำ นักสังคมสงเคราะห์คนเก่งก็จ่อลึงค์ปราดเข้าที่รอยผ่านั้นทันที
"อูย ซี๊ด น้องชุมขา"
"เป็นไง พี่จิต เสียวมากนักรึ"
"อูย ค่ะ เสียว ซี๊ด อูย กดเข้าไปซีคะ น้องชุม อูย กดแรง ๆ ลึก ๆ เถอะ ซี๊ด"
เธอเร่งเร้าให้ชุมศรีกดเจ้าลึงค์ปลอมเข้าไปให้เต็มที่ และเธอเองก็เห็นเต้านมของชุมศรีไหวยะเยือกด้วยแรกกระแทกกระทั้นก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือทั้งสองบีบบี้เม็ดหัวนมน้อย ๆ นั้นเล่นไปมาอย่างนึกสนุก ทำให้เธอเสียวสยิวขึ้นมา
"อูย พี่จิต ซี๊ด ชุมเสียว อย่าเพิ่งทำให้ชุมตอนนี้เลย ให้ของพี่เสร็จก่อนดีกว่า ชุมจะทำให้พี่จิตเอง"
แล้วเธอก็กดควยเสียบเข้าไปจนลึกถึงปากมดลูก พร้อมกับโน้มตัวลงดูดและเล่นหัวนมของเธออย่างสนุก เอวก็กระเด้าควยเข้าไปอย่างแรงและถี่ตามความต้องการของจงจิต
"อูย น้องชุม ซี๊ด เก่งอะไรยังงี้ อูย พี่เสียว ซี๊ด เต็มที่แล้ว น้ำจะแตก อูย แรง ๆ เถอะ น้องชุมจ๋า อูย ซี๊ด ว้าย น้ำหี...แตก น้องชุม น้องชุม กดควยไว้ก่อน อูย ๆ"
จงจิตฉีดน้ำเงี่ยนออกมามากมาย พอชุมศรีดึงท่อนควยออกมาน้ำเงี่ยนก็ไหลเอ่อ ย้อยตามออกมาไหลเต็มไปหมด
"อูย สบายจังค่ะ โล้งโล่ง ดูแจ่มใสขึ้นตั้งแยะ แปลกนะคะ อารมณ์พิศวาสนี่"
"มันเป็นธรรมดาของธรรมชาติแท้ ๆ เมื่อเราฝืนธรรมชาติไม่ไหวก็ต้องหาวิธีช่วย อุ๊ย นั่น พี่จิตจะทำให้ชุมเหรอคะ อย่าดีกว่า ชุมจะสอนวิธีใช้คนเดียวให้ เผื่อเวลาที่พี่จิตจะต้องการใช้จะได้ใช้เป็น ชุมจะทิ้งอันนี้ไว้ให้พี่จิต แล้วชุมจะไปหาเอาใหม่ในกรุงเทพฯ"
เธอพูดพลาง จัดการชำระล้างเจ้าลึงค์ท่อนนั้นให้สะอาดเช็ดแห้งดีแล้ว ก็เอาน้ำมันมาชโลมเล็กน้อย เธออธิบายว่า มันจะได้ลื่น แล้วเธอก็นั่งถ่างขาออกจนกว่าจ่อท่อนลึงค์เข้าไปในรูสวาทของตัวเองอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับกดสวิทช์ให้เครื่องทำงาน
"เอาล่ะค่ะ ซี๊ด ชักได้เรื่องแล้ว พี่จิต ดูดนมให้ชุมทีสิคะ อูย เห็นมั้ย มันกระดืบเข้าไปเอง ซี๊ด ลึกเข้าไปทุกที ๆ อุ๊ย ชนมดลูกแล้ว พี่จิต ซี๊ด ๆ"
แล้วเธอก็เร่งเครื่องให้เดินแรงขึ้นอีกหน่อย พร้อมกันนั้นเธอก็เด้งเอว แอ่นหี ส่ายเดี๊ยะ สูดปากครางอ๋อยอย่างสุดเสียง จงจิตมองอย่างตะลึง ไม่คิดเลยว่าจะมีเครื่องมือที่ทันสมัยถึงขนาดนี้ มันกระเด้าได้ยังกระคนจริง ๆ ชุมศรีก็ทั้งส่าย ทั้งเด้งรับอย่างเอร็ดอร่อย เพียงครู่เดียวเท่านั้น เธอก็ร้องบอกว่า น้ำของเธอแตกออกมาแล้ว พร้อมกับดับเครื่องเสียงดังกริ๊ก
"อูย สบายจัง เป็นไงคะ พี่จิต อยากลองดูมั่งมั้ย"
เธอพยักหน้ารับคำอย่างขวยเขิน เจ้าท่อนลึงค์ท่อนนั้นจึงถูกนำมาชำระล้างอีกครั้งหนึ่ง ชุมศรีสอนให้เธอกระทำการด้วยตนเองได้โดยไม่ยากนัก
จงจิตสนุกสนานเพลิดเพลินกับเครื่องเล่นอันนั้น จนน้ำทะลักออกมาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งสองหญิงจึงพากันหลับอย่างสบาย
รุ่งเช้า ไพศาลเองยังประหลาดใจในความสดชื่นของภริยา เธอสดชื่นแจ่มใสอย่างประหลาด ด้วยความอยากรู้วิธีการของนักสังคมสงเคราะห์สาว เขาจึงทำทีเป็นชวนเธอออกไปดูงานเหมืองด้วยกัน โดยสั่งภริยาให้เตรียมอาหารกลางวันไว้ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เธอติดตามออกไปด้วย
ณ.ที่พักของเขาในบริเวณเหมืองเป็นบังกะโลเล็ก ๆ เตี้ย ๆ มีห้องเดียว และมีนอกชานยื่นออกมาค่อนข้างกว้าง โดยปกติเขามักจะออกมานั่งทำงานที่ระเบียง ส่วนในห้องนั้นเขาใช้เป็นที่พักผ่อนเสียโดยมาก ฉะนั้นภายในห้องจึงมีทั้งโต๊ะเก้าอี้ และเตียงนอนรวมเสร็จอยู่
เขานำเธอเข้าไปในห้องพัก เริ่มเรื่องทันทีด้วยความอยากรู้
"เป็นไงครับ ได้เรื่องมั้ย แต่...ถ้าตาผมไม่ฝาด ผมคิดว่าเช้าวันนี้เธอแจ่มใสผิดปกติ"
"จริงค่ะ เพราะเมื่อคืนเรามีความสุขด้วยกันมากที่สุด"
"เอ๊ะ ความสุข ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดเลย คุณชุมศรี โปรดอธิบายให้แจ่มแจ้งหน่อยเถอะครับ"
"คุณไพศาลคะ คุณทราบบ้างมั้ยว่า ทุกวันนี้ภริยาของคุณหงอยเหงาลงทุกวันเพราะอะไร"
"โธ่ ก็เพราะผมไม่ทราบน่ะซิครับ ผมจึงต้องดั้นด้นไปหาคุณ ให้ช่วยมาสืบเสาะให้ คุณก็เห็นอยู่แล้วว่า วันหนึ่ง ๆ ผมมีเวลาว่างที่ไหน"
"ก็เพราะคุณไม่มีเวลาว่างยังงี้ซิคะ พี่จิตเธอถึงคิดจะเลิกกะคุณ"
"อ้าว ก็ทุกสิ่งทุกอย่างเธอก็มีออกพร้อม ไม่ขาดอะไรสักนิดเดียว เธอยังต้องการอะไรอีก"
"คุณลองคิดดูซิคะว่า ลูกผู้หญิงเมื่อแต่งงานมาแล้วน่ะ เธอต้องการอะไร ไม่ใช่ความรัก ความอบอุ่นจากผัวหรอกเหรอคะ"
เขานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง และเงยหน้าขึ้นพูดเสียงอ่อย ๆ ว่า
"เห็นจะจริง คุณชุมศรี ผมลืมนึกถึงข้อนี้เสียสนิททีเดียว ผมมัวยุ่งงาน เหนื่อยเหลือเกิน พอหัวถึงหมอนก็หลับทุกที แต่...เอ๊ะ...เมื่อกี้นี้...คุณว่า...เมื่อคืนนี้..."
เข้าจ้องมองเขม็งอย่างสงสัย พยายามนึกทบทวนคำพูดของเธอใหม่อีกครั้ง
"ค่ะ ถูกแล้ว ดิฉันได้ทำให้ภริยาคุณมีความสุขมากกว่าคุณซะอีก เช้านี้เธอจึงสดชื่นอย่างผิดตา"
"ผมสงสัยซะแล้ว คุณชุมศรี คุณพูดอะไรกำกวมเหลือเกิน"
"คุณสงสัยอะไรรึคะ"
"คุณทำให้เมียผมมีความสุขได้ยังไง ในเมื่อคุณก็เป็นผู้หญิง"
เธอหัวเราะคิกออกมาอย่างขำขันในความโง่ของผู้ชาย มีแต่เอางาน
"อ้าว คุณก็ไปถามเมียคุณเองสิคะ ดิฉันหมดหน้าที่แล้ว"
"ไม่ล่ะครับ ผมจะต้องรู้จากคุณให้ได้ คุณชุมศรี โปรดอธิบายความจริงแก่ผมเดี๋ยวนี้"
"หึงรึคะ คุณไพศาล แต่ก็สายเกินไปซะแล้ว เธอมีความสุขเพราะดิฉันเป็นนักสังคมสงเคราะห์นี่คะ จึงต้องทำได้ทุกอย่าง"
"ถ้างั้น คุณก็ควรสงเคราะห์ผมให้มีความสุขด้วยซี"
เขาเริ่มดำเนินไม้ตายทันที เมื่อแรกเธอคิดว่าเขาเป็นคนโง่ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมและไหวพริบ แต่ที่ไหนได้ เขาโจมตีเธอโดยไม่รู้ตัวสักนิด
"อุ๊ย ไม่ได้หรอกค่ะ คุณไพศาล แน่ะ อุ๊ย จะทำไมดิฉันคะ อย่า...ปล่อยดิฉันเถอะค่ะ ดิฉันทำหน้าที่ของดิฉันเสร็จแล้วก็จะกลับ ปละ..ปล่อย..."
"ใครบอก คุณยังทำหน้าที่ของคุณไม่เสร็จสักหน่อย คุณสงเคราะห์ให้เมียผมมีความสุขได้ คุณก็ต้องสงเคราะห์ผมมั่ง ไม่งั้น ผมไม่ยอมปล่อยให้คุณกลับหรอก"
"ตายแล้ว คุณไพศาล ทำไมงั้นล่ะคะ ดูซี อุ๊ย อย่าค่ะ เดี๋ยวใครเห็น น่าเกลียด"
"ไม่หรอก นั่งตรงนี้ลับตาคนดีแล้ว คุณชุมศรี"
"ขา"
"คุณเป็นคนสวย น่ารักอย่างประหลาด"
"รึคะ อูย อย่าจับตรงนั้น อี้ย์ อี้ย์"
"ทำไมล่ะครับ คุณจะหวงไว้ให้ใครอีก สามีคุณตายนานแล้ว คุณคงว้าเหว่ไม่น้อยกว่าจงจิตนักหรอก ผมจะสงเคราะห์คุณเอง"
"อูย ไม่ อย่าค่ะ คุณไพศาล ซี๊ด อูย อย่าบี้ ซี๊ด ตายแล้ว คุณไพศาลขา"
ร่างที่ดิ้นรนขัดขืนเริ่มอ่อนแรงลงไปทุกที ๆ ด้วยถูกโจมตีถูกจุดอ่อนที่ทรวงสล้างเข้าอย่างจัง มือไม้อ่อน ดันไม่ไหว หลับตาพริ้มปล่อยให้เขาคลึงเคล้นอย่างสบาย
"โอ คุณชุมศรี นมคุณสวย ถอดเสื้อออกดีกว่า ที่รัก ผมจะให้ความสุขแทนผัวคุณเอง"
แล้วเขาก็ปลดเม็ดดุมเสื้อแขนยาวเธอออกอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งบราเซียร์ตัวจิ๋วก็หลุดตามมาในเวลาไล่เลี่ยกันด้วย
เมื่อรู้สึกว่ากายท่อนบนเปลือยเปล่าเช่นนั้น เธอก็ยิ่งบังเกิดอาการสยิวหนักขึ้นอีก ยกมือขึ้นมากุมไว้ แต่ก็ถูกเขาผลักออก พร้อมกับทาบตัวลงมาจูบเธอจนทั่วใบหน้างามที่แหงนเงยรอรับการสงเคราะห์จากเขาอย่างเต็มใจ
ด้วยเหตุที่เธอผ่านชายมาช้านาน ถึงแม้ว่าจะมีเจ้าลึงค์เพียงอันนั้นคอยบรรเทาความเงี่ยนได้บ้าง แต่ไหนจะสู้การคลุกเคล้าจากของจริงได้ ฉะนั้นเพียงแต่เธอถูกเขาจูบแก้มและปากเข้าเท่านั้น เธอก็เสียวซ่านจนแทบจะขาดใจซะให้ได้
ยิ่งเขาก้มต่ำลงมาทุกทีจนคลุกเคล้นกับอกอิ่มของเธอ เธอก็ผวากายเยือก ๆ สองแขนโอบรอบคอเขาไว้ บางครั้งก็ลูบคลำศีรษะของเขาเล่น บางครั้งก็จิกขยี้ผมของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขารู้สึกพอใจที่สามารถทำให้เธอเกิดอารมณ์กำหนัดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
เขาทั้งคลึงทั้งเคล้นและขยี้เต้านมและหัวนมจนแทบแหลกลาญ เธอทั้งเสียวและสยิวจนทำให้เธอครางระริก สูดปากไม่ขาดระยะ
มือซนของเขาเลื่อนมาตะปบโคกสวาทและกระซิบว่า
"น้องชุมจ๋า หีใหญ่จัง"
"ซี๊ด ของคุณล่ะคะ ขอชุมจับมั่งซี อุ๊ย จะแก้กางเกงชุมเหรอ ซี๊ด"
เขารูดกางเกงขายาวออกจากขาเธอได้ไม่ยากนัก และติดตามด้วยซับในตัวน้อยเช่นกัน พอเขาแก้ของเธอเสร็จ เขาก็แก้ของเขาบ้างอย่างรวดเร็ว แอ่นควยให้เธอพลางบอกว่า
"เอ้า น้องชุม ผมแก้ของผมแล้ว ลืมตาขึ้นซี มองและจับซะ จะได้ไม่เสียเปรียบผม"
"อื้อ อุ๊ย ตายแล้ว ใหญ่จังค่ะคุณศาลขา"
เขายิ้มกริ่ม พอใจในทีท่าตะลึงลานของเธอเป็นที่สุด
"ใหญ่กว่าผัวของน้องชุมมั้ย"
"อุ๊ย ใหญ่กว่ามากทีเดียวค่ะ ดูซิกำมิดเมื่อไหร่ น่ากลัวจะเข้ารูของชุมไม่ได้"
"อย่ากลัวไปเลย ของน้องชุมน่ะ ใหญ่ไม่เบาเชียวนะ โคกวิเศษซะด้วย หีรูปนี้เย็ดมันนัก"
เขารำพันพลางใช้นิ้วแหย่ไช และบี้เม็ดแตดเธออย่างรุนแรง เธอสยิวกายจนต้องแอ่นหีขึ้นรับนิ้วมือของเขาอย่างสุดกลั้น
"อูย เย็ด ซี๊ด เย็ดเถอะค่ะ ชุมทนไม่ไหวแล้ว" เธอร้องลั่นขึ้นอย่างสุดกลั้น และยังแถมท้ายอีกว่า
"เย็ดด้วยควยซีคะ คุณศาลขา กระแทกให้หนัก ๆ เลย ชุมชอบ"
ไพศาลคิดในใจว่า เออ ผู้หญิงสวยนี่ เวลาเงี่ยนขึ้นมาละก้อ หมดอายเลยทีเดียว
พลางเขาก็ประคองก้นเธอให้เลื่อนมาลอยเด่นอยู่ริมเตียง ให้ขาข้างหนึ่งห้อยตกลงมาอยู่นอกเตียง ท่านี้ทำให้หีชุมศรียิ่งลอยเด่น แบะแอ่นเป็นแต่รับควยอย่างงามตา เขารีบจับหัวควยอันยาวใหญ่ของเขาพาดไว้บนโคก จ่อให้ตรง แกล้งเขี่ยเม็ดแตดล่อเล่นให้ทำทีจะเข้าแหล่มิเข้าแหล ทิ้งระยะให้เธอเงี่ยนหนักเข้าจนเธอต้องชะโงกหน้าขึ้นมอง และเร่งเร้าเขาอย่างลืมตัว
"เย็ดซิคะ คุณศาลขา โธ่ ทิ่มเข้าไปเถอะค่ะ เร็ว ๆ ซิคะ ชุมเงี่ยน ซี๊ด อูย เงี่ยนเต็มทนแล้ว"
เขาจับขาของเธอทั้งสองข้างให้ตั้งขึ้นกับขอบเตียง หีของเธอก็เป็นรูกลวงโบ๋ให้เขาทิ่มเข้าได้สะดวก เขาขยับสะเอวเบา ๆ แหย่ควยให้เลื่อนเข้าหีของเธอทีละน้อย ๆ ดูเขาช่างใจเย็นอย่างประหลาด แต่มันก็ทำให้เธอสูดปากส่ายก้นแอ่นหีรับอยู่ทุกระยะ พอควยกระดืบเข้าไปมิดจมรู เธอก็กรีดเสียงร้องเอาเบา ๆ เขาเริ่มกระแทกควยเข้า ๆ ออก ๆ อย่างขนานใหญ่ เริ่มจากจังหวะช้าเนิบนาบ และเร่งเร็วขึ้นทุกที แยงซ้ายจนสองแคมปลิ้นทะเล้นหุบเข้าหุบออกตามแรงกระแทกอย่างหนักของเขา
"อูย ดีจังค่ะ ซี๊ด คุณศาลขา อูย ซ้ายหน่อยค่ะ ซี๊ด ขวานิด อูย ควานหัวควยลึก ๆ อร่อยเหลือเกินคุณขา ซี๊ด ควยคุณศาลเย็ดอร่อย"
เธอพร่ำรำพันพลางแอ่นหีเด้งรับอยู่ฉับ ๆ คุณไพศาลเองก็พอใจในรสสวาทจากรูหีของเธอไม่น้อย เพราะเขาเองก็สูดปากตัวสั่นระริก และยังได้ยินเสียงเธอร้องครวญครางบอกความเอร็ดอร่อยด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งกระแทกงัดซ้ายงัดขวา ถี่แรงและเร็วอย่างหนัก
ชุมศรีก็แอ่นโคกหีขึ้นรับอย่างไม่หวาดกลัว จนเตียงสั่นสะเทือนแทบจะหกเสียให้ได้
ต่างรุกต่างรับกันอยู่พักใหญ่ น้ำจึงทะลักซ่าออกมาอย่างเนืองนองจนผ้าปูที่นอนเป็นรอยด่าง ๆ ดวง ๆ เต็มไปหมด
"โอย น้องชุม หีคุณวิเศษจริง ๆ"
"ค่ะ ควยคุณศาลก็วิเศษ"
"งั้นเวลาผมไปกรุงเทพฯ ผมจะไปเย็ดน้องชุมที่บ้านนะ"
"ตามใจสิคะ"
เขาอยากจะเย็ดเธอต่ออีกสักทีหนึ่ง แต่จนใจด้วยนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงตรง เขาจึงต้องพาเธอกลับไปทานอาหารกลางวันตามที่ได้สัญญากับภริยาไว้
ในเวลาอาหารเย็นวันนั้น ได้มีไพจิตรบุตรชายของเขาไพศาลและจงจิตเข้ามาร่วมด้วยเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ โดยปกติแล้ว เขาอยู่ร.ร.ประจำ จะกลับมาบ้านได้ในวันศุกร์ เสาร์ พอบ่ายวันอาทิตย์ก็ต้องกลับ
ฉะนั้น เขาจึงได้รับการแนะนำให้รู้จักกับน้าชุมศรีอย่างเต็มใจยิ่ง
คืนนี้ชุมศรีขอตัวนอนต่างหาก ด้วยจะเปิดโอกาสให้ผัวเมียเขาทำความเข้าใจกันนั่นเอง ซึ่งก็เป็นความประสงค์ของไพศาลอยู่แล้วด้วย
ประหลาดแท้ หลังจากที่เขาได้เย็ดชุมศรีแล้วเพียงครั้งเดียว แต่กลับทำให้อารมณ์คะนองของเขากลับเข้ามาสู่จิตใจได้อีก บัดนี้เขามีความรู้สึกต้องการที่จะให้ความรักความอบอุ่นแก่ภริยาตามคำแนะนำของชุมศรี ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบใจชุมศรีมากที่ได้เปิดโอกาสให้เขาและภริยาทำความเข้าใจกันได้
พอนาฬิกาตี 9 ครั้งบอกเวลา 3 ทุ่ม ไพศาลก็ชวนภริยาขอตัวเข้าห้องนอน อ้างว่ามีธุระจะปรึกษา ปล่อยให้ลูกชายและชุมศรีนั่งดูโทรทัศน์กันต่อไป
จงจิตนั้นมิได้คิดอะไรมาก เพราะเธอคิดว่าสามีจะปรึกษาธุระจริง ๆ จึงเดินตามเขามาห่าง ๆ พอเข้าห้องเสร็จ เขาก็ลงกลอนประตูอย่างแน่นหนา
"อุ๊ย ไม่ต้องปิดหรอกค่ะ เดี๋ยวจิตจะไปดูโทรทัศน์ต่อ คุณศาลมีธุระอะไรก็ว่าไปซีคะ"
"โธ่ จิตจ๋า ผัวคิดถึงจิตจะตายอยู่แล้ว"
"แหม เป็นอะไรไปคะ อยู่ด้วยกันทุกวันยังจะต้องคิดถึงจิตทำไม"
"โธ่ ผมไมได้...อื้อ...จิต ตั้งนานแล้วนี่นา"
เท่านี้เอง จงจิตก็เข้าใจความหมายของสามีได้ดี เธอสะท้านทรวงขึ้นมาทันที โอ วันนี้ไพศาลนึกอย่างไร จึงคิดจะ...อื้อ...
เธอยังคิดต่อไปไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าร่างของเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาซะแล้ว
"อุ๊ย อย่าค่ะ เรากำลังมีแขกนะคะ ดูซี จิตคิดว่าคุณศาลมีธุระ หลงตามขึ้นมา อูย ไว้ดึก ๆ ซีคะ ไฟสว่าง จิตอาย"
"อย่าอายผัวเลย คนดี ผัวขอโทษที่มัวแต่ยุ่งงานไปพักใหญ่"
"ก็ไม่เป็นไรนี่คะ จิตทนได้"
เธอตอบเสียงกระเส่าอย่างน้อยใจ
"ทนได้ที่ไหน จิตจะขอหย่ากะผมไม่ใช่เหรอ ผมไม่ยอมหรอก ตานี้ผมจะเย็ดจิตทุกคืนเลยนะคนดี"
"อุ๊ย บ้า คุณศาลนี่แหละ ว้าย แน่ะดูซี มาแก้ผ้าจิตทำไม"
"แก้ออกเถอะ เกะกะ ของจิตยังกะสาว ๆ แน่ะ บอกมาก่อน เมื่อคืน น้องชุมทำยังไงกะจิต"
เธอเล่าให้ฟังอย่างเอียงอาย พร้อมกับหยิบเอาท่อนลึงค์ที่ชุมศรีมองไว้ให้ดูด้วย
"สำคัญนัก ยายชุมศรีคนนี้ แต่เราก็เข้าใจกันแล้วนะจิต เก็บเอาไว้เถอะ ไว้เมื่อพี่ลงไปธุระกรุงเทพฯ จิตจะได้ใช้มันแทนพี่"
พูดจบเขาก็หัวเราะอย่างพอใจ เคล้าคลึงเมียรักด้วยความรักที่ท่วมล้นได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
จงจิตสยิวอย่างหนักเมื่อริมฝีปากอันจิ้มลิ้มถูกผัวรักบรรจงจูบอย่างดูดดื่ม
"จิตทนความอยากไม่ไหวค่ะ คุณศาลขา เมื่อเข้าใกล้คุณ จิตอยากให้เย็ดทุกที จิตจะขอหย่าก็เพื่อจิตจะได้ไม่ต้องอยู่ใกล้คุณ อารมณ์จะได้ไม่ฟุ้งซ่านไงคะ"
"ชื่นใจของผัว ทีนี้ ผัวจะเย็ดจิตทุกคืน คืนละหลาย ๆ ครั้งเชียวล่ะ"
"อุ๊ย มากไปค่ะ ครั้งเดียวก็พอ"
"ก็ผัวไม่พอนี่นา"
วัวเคยขา ม้าเคยขี่ พอทำความเข้าใจกันได้ ไพศาลก็ขึ้นไปประกบตัว กระเด้าหีเมียอยู่ยิก ๆ อย่างเอร็ดอร่อย
ไพจิตรมีธุระจะพูดกับบิดามารดา คิดว่าท่านทั้งสองคงยังพูดธุระกันอยู่ ก็มายืนเตร่อยู่หน้าห้อง คิดว่าพอท่านพูดธุระเสร็จ เขาก็จะเข้าไปพูดธุระของเขาบ้าง
แต่...เอ...ธุระอะไรหนอ ช่างพูดกันนานจริง และฟัง ๆ ดูจะมีเสียงหัวเราะ เสียงสูดปาก และเสียงครางซะอีกด้วย
เขาสงสัยเป็นกำลัง จึงปีนขึ้นไปดูบนช่องลม อาศัยร่างของเขาสูงจึงเห็นการกระทำภายในห้องได้ถนัด เลือดหนุ่มฉีดพล่านขึ้นมาทันที ท่อนลึงค์เริ่มดิ้นกระดุบ ๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว ทั้ง ๆ ที่เขายังไม่เคยแก่การนี้มาก่อน แต่ธรรมชาติก็กระตุ้นให้เขาเกิดมีอารมณ์ประหลาดขึ้นจนได้
ช่างเป็นการบังเอิญนัก ชุมศรีเกิดง่วงนอนจึงเดินผ่านมาเพื่อจะไปยังห้องของตน พบไพจิตรกำลังกระเย้อกระแหย่งอยู่ ก็รู้ทันทีว่าเขากำลังดูอะไร เธอจึงสะกิดที่ขาเขาเบา ๆ และบอกว่า
"อย่าปีนเลย ไพจิตร ไปที่ห้องน้าดีกว่า เห็นถนัดดี"
เขาออกนึกละอายที่มีคนมาเห็นการกระทำของเขา แต่ความอยากดูก็มีมาก เขาจึงตามหลังเธอมาตามที่เธอเรียก
"แอบดูคุณพ่อกับคุณแม่ทำไมฮึ ไพจิตร"
"ผมได้ยินคุณแม่ครางแล้วก็สูดปากนี่ฮะ"
"แล้วเห็นเขาทำอะไรกันล่ะ ฮึ"
"อา อื้อ คุณพ่อ กำลังทำอะไรคุณแม่ ก็ไม่รู้ฮะ"
"ทำให้น้าดูหน่อยได้มั้ยล่ะ ตาจิตร"
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พยักหน้า และบอกว่า
"น้าชุมศรีต้องเป็นคุณแม่นะฮะ ผมจะเป็นคุณพ่อ"
"ตกลงจ้ะ ทำให้เหมือนเชียวนะ แล้วน้าจะให้รางวัลเธอ"
"น้าชุมก็...ต้องแก้ผ้าซีฮะ"
"อ้อ เขาแก้ผ้ากันด้วยเหรอจ๊ะ"
เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้ เขารับคำ และแก้ผ้าของเขาออกอย่างรวดเร็ว ปล่อยท่อนลึงค์ของเขาออกมาผงาดก๋าอย่างองอาจ ชุมศรีเบิกตาโพลงอย่างตกใจ อุทานเบา ๆ ว่า
"ต๊าย ตาย ตาจิตร ทำไมควยเธอใหญ่ยังงี้ฮึ ดูรึ อายุยังนิดเดียวเท่านั้น ควยใหญ่เบ้อเร่อทีเดียว"
"ไม่รู้ซีฮะ น้าชุม มันใหญ่ของมันเอง ผมก็รำคาญเหมือนกัน"
"อย่ารำคาญเลยจ้ะ ผู้ชายน่ะ เขาภูมิใจกันนัก ถ้าควยของเขาใหญ่ละก้อ เพราะผู้หญิงชอบ"
"งั้นน้าชุมก็ชอบควยผมซีฮะ"
"จ้ะ น้าก็ว่างั้นแหละ แต่น้าถามจริง ๆ เธอเคยทำอย่างคุณพ่อกับคนอื่นมาบ้างรึยัง"
"ยังเลยฮะ เพิ่งจะลองทำกะน้าชุมนี่แหละ"
"งั้นน้าชุมจะสอนให้เอามั้ย เวลาเธอมีเมีย เมียจะได้รักเธอมาก ๆ"
"เอาซีฮะน้าชุม สอนให้ผมที ผมงง ๆ ยังไม่รู้จะทำไงกะน้าชุมเลย"
ชุมศรีนึกขำในความไม่เดียงสาของเขา
เธอสอนเด็กหนุ่มให้รู้จักกอด จูบ ลูบ คลำมาถึงทรวงสล้าง เขาทำตามอย่างว่าง่าย รู้สึกว่าเขาจะตั้งใจเป็นอย่างดี ขณะนี้เขาถูกสอนให้เคล้าคลึงเต้านมของเธอ เขารู้สึกพอใจนัก เพราะทรวงเต่งของเธอนิ่มนวลละมุนละไมชวนให้คลึงเคล้าและบีบบี้
เขาเป็นเด็กฉลาด ไม่ต้องสอนกันมา เพียงแนะนิดเดียวเท่านั้นเขาก็สามารถทำให้ชุมศรีเสียวซ่านขึ้นมาได้
พอเขาคลึงเคล้าและดูดหัวนมเธอได้สักครู่ เขาก็ถูกสอนให้เอามือมาลูบอยู่ที่โคกสวาท แต่มือสะดุดเอาเม็ดอะไรเข้าก็ไม่รู้ เขาก็เลยขยี้เบา ๆ อยู่ที่ตรงนั้น
"อุ๊ย ตาจิตร ซี๊ด ขยี้แตดน้า อูย ซี๊ด ๆ"
"เป็นไงรึฮะ น้าชุม"
"มันเสียวจ้ะ ซี๊ด มันเสียวเหลือเกิน"
"น้าชุมชอบมั้ยฮะ"
"อูย...ช...ชอบจ้ะ แต่บี้นานนักน้าทนไม่ไหว เธอลองคลำดูซิ รูหีของน้าอยู่ที่ไหน อูย"
เขาคลำจนพบ ชุมศรีก็สอนต่อไป
"เอานิ้วแหย่ลงไปซีจ๊ะ ตาจิตร ค่อย ๆ แหย่ช้า ๆ ซี๊ด แหม เสียวดีจัง อูย แหย่ให้สุดรูเลยนะ"
"แหม น้าชุม ในรูมีน้ำเต็มเชียว ลื่นมือดีจัง ผมชักนิ้วเข้า ๆ ออก ๆ ได้มั้ยฮะ"
"ได้ซีจ๊ะ ตาจิตร อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ซี๊ด อูย หันควยเธอมาทางนี้บ้างซี่ ให้น้าจับมั่ง โอ ควยยังเพิ่งขยายหัวถอกนิดเดียว"
"อูย น้าชุม ผมเสียวมั่งแล้วฮะ ซี๊ด ๆ"
เขาร้องออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อถูกน้าชุมศรีกระทอกควยเบา ๆ
"เสียวมาเหรอ งั้นเอาใส่รูหีน้าเถอะ เดี๋ยวน้ำแตกข้างนอกเสียดายตาย"
เธอปล่อยมือหลุดจากควยของเขาแล้วฉุดแขนให้เขาแทรกตัวเข้ามาในหว่างขาของเธอ และให้จ่อควยที่ปลายเพิ่งถอกนั้นให้ตรงรูหีของเธอ
"อูย ตาจิตร กดเอวลงไป ซี๊ด กดเรื่อย ๆ อูย ควยเธอใหญ่คับรูน้าดีจัง"
"ไม่เจ็บเหรอฮะ น้าชุม อูย ผมก็เสียว"
"ไม่เจ็บหรอกจ้ะ สบายรูดีซะอีก เกือบมิดรูหีน้ารึยัง เธอลองก้มดูซิ"
เขาก้มดู ก็เห็นแคมหีของน้าชุมอมลำควยของเขาไว้บวมตุ่ย มองดูแล้วยิ่งรัญจวนใจ เขาจึงกดลงไปอย่างแรง
"โอย เกือบแล้วน้าชุม ซี๊ด อูย โอย โอ๊ะ ชนอะไรดังกึก ซี๊ด"
"อู้ย ชนมดลูกน้าแล้วตาจิตรจ๋า กดไว้ก่อน ซี๊ด เสียวดีจัง อูย ๆ"
เธอให้เขาแช่ควยกดนิ่งไว้พักใหญ่จึงบอกให้เขาชักควยเข้า ๆ ออก ๆ ตามถนัด ด้วยเธอรู้อยู่ว่า อารมณ์หนุ่ม ๆ จะช้า ๆ ก็ชั่วประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น พอหน้ามืดเข้าสักหน่อยละก้อ จะต้องเป็นกระทิงเปลี่ยวแน่ ๆ
จริงดังเธอคาดไม่ผิด เขากระเด้าช้า ๆ 2-3 ครั้งเท่านั้น เขาก็ซอยถี่ ๆ อย่างแรงและหลั่งน้ำออกมาโชกโชน โดยที่ของชุมศรีกำลังเอร็ดอร่อยทีเดียว
"ตายแล้วตาจิตร ทำไมน้ำออกเร็วนัก ของน้ายังเลย"
พอเขาชักควยออก เธอก็รีบลุกขึ้นนั่งเช็ดให้แห้งและเริ่มบีบนวดให้จนแข็งตัวดี เธอจึงเอาลิ้นเลียหัวควยเขาเบา ๆ
"อูย น้าชุม ซี๊ด อย่า ผมเสียว"
แต่เธอหาฟังเสียงเขาไม่ เธอเลียไปเลียมาจนลำควยพองก๋าดีแล้ว เธอก็อ้าปากงับเอาหัวควยเขาเข้าไปดูดอย่างสนุก ทำให้เขาดิ้นพราด ๆ สูดปากด้วยความเสียวอย่างที่สุด
"อูย พอเถอะน้าชุม ผมเสียว ซี๊ด ใจจะขาด"
"งั้นเธอนอนเฉย ๆ เถอะ น้าจะเย็ดเธอเอง"
"โอ๊ะ ผู้หญิงเย็ดผู้ชายได้เหรอ น้าชุม"
เขาอุทานอย่างตกใจ พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกของชุมศรี
"ได้ รึไม่ได้ เธอก็ดูเอาซีจ๊ะ"
แล้วชุมศรีก็ถ่างขาหย่อนตูดลงไป กะให้ตรงกับท่อนควยที่ลุกโด่อยู่ ไพจิตรมองอย่างไม่วางตา รูหีของเธอถ่างอ้าออกกลวงโบ๋ มีสีแดงจัด น้ำเงี่ยนเยิ้มเป็นมันย่อง มองไม่เบื่อตา
เธอกดหีลงไป 2-3 ครั้งแต่ไม่เข้า พลาดทุกที เธอจึงให้เขาจับควยไว้ แล้วเธอก็ใช้มือทั้งสองแหกแคมหีให้ถ่างอ้าออกไปอีก แล้วจึงค่อย ๆ กดลงไปทีละน้อย
"อูย เข้าแล้วฮะ ซี๊ด น้าชุม อูย หีน้าชุมคาบควยผมแล้ว โอย เสียวดีจัง"
"จ้ะ ซี๊ด หีน้าอมควยเธอ ซี๊ด ตาจิตร อูย น้าชุมก็เสียว"
เธอพูดพลางกดเอวลงไปต่ำทุกที รูหีเธอก็ต่ำตามลงไป ลำควยของเด็กหนุ่มพุ่งปราดขึ้นมาตามแรงกดลงไปของชุมศรี
"โอ น้าชุมเก่งจัง ซี๊ด เกือบมิดแล้วฮะ กดแรง ๆ ก็ได้"
เขาบอกเธออย่างตื่นเต้น เมื่อผงกหัวดูรูหีซึ่งกำลังอมควยตุ่ยอย่างแนบแน่น เธอจึงกระแทกเอวลงไปสุดแรง ปลายควยจึงเสยเข้ากับปากมดลูกดังกึก
"โอ้ย น้าชุม"
"ว้าย ตาจิตร ซี๊ด ถูกมดลูกน้าแล้ว อูย"
เธอครวญคราง พร้อมกับขยับเขยื้อนรูหีให้ส่ายแซะไปมา ทำให้พ่อหนุ่มน้อยครวญครางอย่างเอร็ดอร่อย พักใหญ่เธอจึงลงมือกระเด้ารูหีเบา ๆ
"โอย น้าชุม ซี๊ด น้าชุมของผม ซี๊ด เย็ดเก่งเหลือเกิน ผมรักน้าชุม อูย น้าชุมต้องเย็ดผมบ่อย ๆ นะฮะ"
"จ้ะ น้าจะเย็ดได้อีกสองวัน เธอก็จะต้อง...อูย...ไปอยู่ร.ร. น้าก็จะกลับบ้าน"
"โอย ไม่ ผมไม่ยอมหรอก ผมจะตามน้าชุมไปอยู่กรุงเทพฯ นะฮะ น้าชุม บอกคุณพ่อให้ผมที"
เขาอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร ตกลงชุมศรีก็รับปากว่าจะพูดให้ แต่เขาจะต้องไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ ซึ่งเขาก็ตกลงรับคำ
ในคืนนั้น ชุมศรีสอนเกมแปลก ๆ ให้แก่เด็กหนุ่มรวมห้าเกม เล่นเอาเขาสะบักสะบอมโผเผกลับห้องเอาเช้ามืดทีเดียว