close buttonclose buttonclose button
พี่สาวไกรวิทย์

พี่สาวไกรวิทย์

เรื่องเสียว · 92982

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
on: January 07, 2010, 09:28:49 AM
ไกรวิทย์เป็น ลูกชายคนเดียวของครอบครัว บ้านเขามีพี่สาว 6 คนรวมแม่อีก 1 พ่อของไกรวิทย์ตายจากไปหลังไกรวิทย์คลอดออกมาได้ไม่นาน พวกพี่สาวของไกรวิทย์ก็ไม่ได้แยกบ้านไปไหนด้วยความเป็นห่วงแม่ ทั้งที่แต่ละคนก็โตกันหมดแล้ว
พี่สาวคนโตอายุมากกว่ากว่าเขา 6 ปีซึ่งพี่สาวคนต่อ ๆ มามีอายุลดหลั่นกันคนละปี โดยเรียงตามลำดับดังนี้
สาวิตรี อายุ 24 ปี หล่อนไว้ผมยาวประบ่า หน้าอกหน้าใจอวบอั๋นเต่งตึงแบบที่หญิงสาวทุกคนต้องอิจฉา รูปร่างสูงได้สัดส่วน ขาเรียวยาว สะโพกผายงาม ก้นงอนเช้งเด้งดึ๋งเวลาเยื้องย่างดึงดูดสายตาชายเป็นที่สุด เคล็ดลับการมีรูปร่างที่งดงามของเธอคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เธอเป็นคนร่าเริงเข้าสังคมเก่ง แต่ยังไม่พบคนที่ถูกใจขนาดที่จะตัดสินใจอยู่กินกันเป็นจริงเป็นจัง
วิภาวรรณ เป็นพี่สาวคนรอง อายุ 23 ปี ไว้ผมยาวประบ่า หน้าอกเล็กกว่าสาวิตรีนิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใหญ่บึ้บบั้บ ชอบออกกำลังกายเหมือนพี่สาวคนโต เธอค่อนข้างขี้อายแต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว
พรรณวดี เป็นคนต่อไป อายุ 22 ปี หน้าอกอาจจะไม่อวบอั๋นเหมือนพี่สาวทั้งสอง แต่ก็มีขาที่เรียวสวยสมส่วนที่สุด เพราะเธอรักการเต้นรำและฝันอยากเป็นนักเต้นอาชีพในอนาคต เธอเป็นคนที่กล้าแสดงออกที่สุดในหมู่พี่สาว ไม่เคยกลัวใครหรืออะไรมาก่อน
ปรียานุช อายุ 21 ปี ไว้ผมสั้นกว่าพรรณวดีแต่หน้าอกอวบใหญ่เด่นสะดุดตา เล็กกว่าของสาวิตรีเพียงนิดเดียว เธอก็เป็นคนชอบออกกำลังกายเหมือนกัน รูปร่างจึงสมส่วน ด้านบุคลิกภาพก็อยู่กลาง ๆ คือไม่ขี้อายและไม่ถึงกับกล้าแสดงออกจนเกินไป
กุลธิดา อายุ 20 ปี ผมดำสลวยยาวลงมาถึงหลัง หน้าอกใหญ่งอนง้ำขนาดบราทั่วไปในท้องตลาดเอาไม่อยู่ เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกายแต่โชคยังดีที่มีรูปร่างเปอร์เฟคท์สมส่วน เป็นที่สุดโดยธรรมชาติชนิดที่หญิงสาวทุกคนต้องอิจฉาตาร้อน เธอเป็นสาวที่ชอบเที่ยว มักจะออกไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มอยู่เสมอ
ภาวิณีเป็นลูกสาวคนสุดท้อง เพิ่งจะมีอายุ 19 ปีเท่านั้น เธอไว้ผมยาวสยายลงมาถึงกลางหลัง ขนาดหน้าอกเมื่อเทียบกับรูปร่างแล้วต้องถือว่าไม่ใช่น้อย เพราะตัวเธอค่อนข้างเล็ก และเช่นเดียวกับพี่สาวหลาย ๆ คนของเธอ ภาวิณีชอบออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นผลให้เอวเธอคอดกิ่วราวกับนาฬิกาทราย เน้นสะโพกให้ดูเด่นสะดุดตา โดยเฉพาะส่วนก้นนั้นเรียกได้ว่าบั้นท้ายทลายโลกอย่างแท้จริง เพราะมันผายกว้างได้รูป กลมกลึงหนั่นแน่นเด้งดึ๋งดั๋งเวลาเดิน ภาวิณีเป็นคนค่อนข้างขี้อายเหมือนวิภาวรรณ
และท้ายที่สุดคือ ไกรวิทย์ซึ่งเป็นน้องชายคนเดียวของครอบครัว อายุ 18 ปี ไว้ผมสั้นเกรียนตามสมัยนิยม ร่างกายล่ำสันแข็งแรง ไม่ถึงกับล่ำบึ้กเหมือนอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนคเกอร์แต่ก็ไม่ได้อ้วนกลมจนน่าเกลียด พูดง่าย ๆคือ เขาก็เป็นหนุ่มน้อยที่เราพบเห็นกันทุกเมื่อเชื่อวันคนหนึ่งนั่นเอง ในแต่ละวันเขาจะออกวิ่งเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อรักษาโทนของกล้ามเนื้อให้ ดีอยู่เสมอ เรื่องเดียวที่ไกรวิทย์ไม่สมหวังก็คือ เขาไม่เคยมีแฟนเลยตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม......

“ไง นายวิทย์ วันนี้มีแผนอะไรรึเปล่าจ๊ะ?” เสียงของสาวิตรีแว่วมาเข้าหูไกรวิทย์ในขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น โดยวันนี้สาวิตรีสวมเสื้อยืดสีขาวรัดรูปกับกางเกงวอร์ม
“เปล่านี่ครับ แล้วพี่สาล่ะ?” ไกรวิทย์ถามกลับ
“ก็เหมือน ๆ เดิมนั่นแหละ กะว่าจะออกกำลังกายเอาเหงื่อสักพักแล้วค่อยกลับมาดูทีวี”
ไกรวิทย์หันไปมองนาฬิกาแขวนที่ผนังซึ่งบอกเวลา 9 โมงเช้า โอ้โห นี่จะไปออกกำลังกายกันแต่เช้ายังงี้เลยเนี่ยนะ “พี่สารู้มั้ยว่าพี่นี่ชักจะใกล้โรงพยาบาลบ้าเข้าไปทุกทีแล้วนะ” ไกรวิทย์กระเซ้ายิ้ม ๆ ในขณะที่พี่สาวคนโตยัดข้าวของลงในกระเป๋ากีฬาแบบสะพาย
“แน้ มาหาว่าพี่บ้า แบบนี้เขาเรียกว่ามีความตั้งใจเต็มร้อยตะหากล่ะจ๊ะ” สาวิตรียิ้มให้กับน้องชายตัวดีที่นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟา แล้วมองไปนอกบ้าน แดดกำลังจ้า ท้องฟ้าสดใส
“อ้าว ไม่เรียกว่าบ้าแล้วเรียกว่าอะไรล่ะครับพี่สา ใครเขาไปฟิตเนสกันตั้งแต่ 9 โมงเช้ากันล่ะ ขนาดผมวิ่งตอน 11 โมงกับ 4 โมงเย็นแค่ชั่วโมงเดียวยังเหนื่อยแทบขาดใจแล้ว” ไกรวิทย์พูดไปก็ส่ายหน้าไปด้วย
“นี่ พ่อน้องชายคนดี” สาวิตรีเดินไปข้างหลังไกรวิทย์ “ถ้าเธอไปฟิตเนสกับพี่ ก็คงไม่อ้วนนนนนน กลมมมม แบบนี้หรอกนะจ๊ะ” สาวิตรีก้มตัวลงไปใกล้ใบหูเขาแล้วกระเซ้าเย้าแหย่น้องชาย
“ผมเปล่าอ้วนนะ” ไกรวิทย์แกล้งทำเป็นฉุนใส่สาวิตรีในขณะที่สาวิตรียิ้มแล้วพยักหน้าหงึก ๆ ถี่เร็วก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วตรงไปที่ประตู
“พี่จะออกไปสัก 2 ชั่วโมง เธออย่าส่งเสียงเอะอะละกันเพราะแม่กับคนอื่น ๆ ยังหลับอยู่ แล้วเจอกันจ้ะ”
“รับทราบครับผม!” ไกรวิทย์รับคำ เขามองตามก้นงอนงามเย้ายวนของพี่สาวไปจนถึงประตูก่อนจะหันความสนใจกลับมาที่ทีวี
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง กุลธิดาโผล่มาเป็นคนต่อไป
“อรุณสวัสดิ์ครับ พี่ดา” ไกรวิทย์ทักเมื่อเห็นกุลธิดาเดินเข้ามาในห้อง
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ พี่สาออกไปข้างนอกแล้วเหรอ”
ไกรวิทย์พยักหน้าแทนคำตอบ
“ไม่รู้จะไปฟิตเนสกันทำไมนักหนา”
“ผมก็ไม่รู้” ไกรวิทย์ตอบ แต่ตายังจ้องอยู่ที่ทีวี
“ดูพี่เป็นตัวอย่างสิ ขนาดไม่เคยไปฟิตเนสหุ่นยังดีอยู่เลย” กุลธิดาพูดต่อ
“จริงด้วยครับ” ไกรวิทย์เห็นด้วย สายตาโลมไล้ไปทั่วเรือนร่างอันงดงามของกุลธิดาในขณะที่เธอหมุนตัวข้างหน้าเขา
“ไงจ๊ะสองคน” วิภาวรรณเดินเฉียดผ่านกุลธิดาไปนั่งบนโซฟาข้างไกรวิทย์แล้วแย่งรีโมททีวีมาถือไว้
“หวัดดีครับ/ค่ะ” ทั้งไกรวิทย์และกุลธิดาทักตอบพร้อมกัน
ถัดจากนั้นเพียงครู่เดียว พวกสาว ๆ ที่เหลือก็ตื่นนอนและบ้านก็คึกคักพลุกพล่านขึ้นทันตาเห็น วิภาวรรณ ปรียานุชและภาวิณีพอกินข้าวเช้าเสร็จก็รีบไปฟิตเนสทันที ทิ้งให้ไกรวิทย์ พรรณวดี กุลธิดาและลลิตาผู้เป็นแม่อยู่เฝ้าบ้าน วันนั้นเป็นวันเสาร์ ทั้ง 8 คนก็เลยอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เดินกันขวักไขว่ชวนให้ตาลายเป็นที่สุด
ในตอนเย็น ทุกคนก็กลับมากินข้าวที่บ้านโดยล้อมวงอยู่หน้าทีวี ไกรวิทย์ สาวิตรีและแม่นั่งอยู่บนโซฟา พรรณวดีนั่งเก้าอี้ถัดไป กุลธิดา วิภาวรรณและภาวิณีนั่งบนพื้นซึ่งเป็นที่โปรดเวลากินข้าวหรือดูทีวี
เมื่อกินกันเสร็จเรียบร้อย สาวิตรีและไกรวิทย์เป็นคนลุกขึ้นเก็บจานชามของทุกคนไปรวมไว้ในซิงค์น้ำในครัวแล้วกลับมานั่งที่เดิม
“ฝีมือแม่ยังเยี่ยมเหมือนเดิมนะคะ” ภาวิณีชมเปาะ ซึ่งลูก ๆ ทุกคนก็พากันเห็นด้วย
“ขอบใจจ้ะ แม่ก็แค่พยายามทำสุดฝีมือเท่านั้นแหละ” ลลิตาพูด ซึ่งก็เป็นความจริงอย่างที่ภาวิณีชม ผีมือทำอาหารของลลิตาเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดลูก ๆ ทั้งหมดให้มารวมกันอยู่ที่บ้านนี้
บ้านที่พวกเขาอยู่มีขนาดกำลังเหมาะ มีห้องนอนขนาดใหญ่ 3 ห้อง มีห้องใต้หลังคาที่ดัดแปลงเป็นห้องนอนหนึ่งห้อง มีครัวที่สะดวกกว้างขวาง มีห้องนั่งเล่นที่โอ่โถงและมีพื้นที่ปลูกต้นไม้รอบบ้าน ห้องนอนใหญ่แบ่งให้ภาวิณี สาวิตรีและวิภาวรรณอยู่รวมกันห้องนึง ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็นของกุลธิดา พรรณวดีและปรียานุช ห้องสุดท้ายเป็นของลลิตา ส่วนไกรวิทย์ยึดห้องใต้หลังคาคนเดียว
“อร่อยมากลยครับแม่ แต่ผมต้องขอตัวไปทำธุระส่วนตัวก่อนแล้วล่ะ” ไกรวิทย์ลุกขึ้นเดินไปที่บันได
สาวิตรีมองตามร่างของไกรวิทย์ที่เดินขึ้นบันไดไป เธอรอจนเขาขึ้นไปถึงชั้นบนแล้วค่อยเดินตามไป
พอไกรวิทย์ออกจากห้องน้ำ ก็ปะทะเข้ากับพี่สาวคนโตอย่างจัง
“อุ๊บ ขอโทษครับ ผมไม่ทันเห็นพี่” ไกรวิทย์เอ่ยคำขอโทษในขณะที่เดินเลียบผ่านสาวิตรี แต่เนื่องจากความคับแคบของหัวบันไดทำให้ไกรวิทย์ต้องเบียดตัวเข้ากับเรือน ร่างของสาวิตรีอย่างเลี่ยงไม่ได้ซึ่งสาวิตรีเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะขยับหลบ ให้ ยังผลให้หน้าอกอันมโหฬารของสาวิตรีเบียดบดกับตัวของไกรวิทย์แบบเต็ม ๆ
“ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะจ๊ะ” สาวิตรียิ้มแล้วเบียดตัวเข้าหาน้องชายมากยิ่งขึ้นไปอีก
“อะไรหรือครับที่ว่าไม่น่าเป็นไปได้น่ะ” ไกรวิทย์ถามขณะที่เบียดตัวผ่านพี่สาวร่างอวบไปจนได้ แล้วหันไปมองสาวิตรีเพื่อรอคำตอบ
“ก็ที่ว่ามองไม่เห็นพี่น่ะสิจ๊ะ” สาวิตรียิ้ม แลบลิ้นเลียริมฝีปากอวบอิ่มอย่างหิวกระหายเหมือนนางเสือที่กำลังจะขย้ำเหยื่อ
ไกรวิทย์ยิ้มแห้ง ๆ แล้วส่ายหน้าขณะเดินลงบันได พี่สาวเรานี่ทำอะไรแปลก ๆ แฮะ เขาคิดในใจ เมื่อถึงชั้นล่าง เขาก็เปิดประตูเข้าไปในครัว ที่หัวบันได สาวิตรีเอนตัวพิงประตูห้องนอนของเธอขณะคิดถึงเรื่องน้องชายคนดี เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพักหลังนี้เขาถึงได้มีความสำคัญในใจเธอ มากขนาดนี้ มันเป็นความสำคัญที่มากไปกว่าความรักฉันพี่น้อง
ไม่นานนัก สาว ๆ ก็สลายตัว กุลธิดาและปรียานุชเก็บตัวอยู่ในห้องนอน พรรณวดีกับภาวิณีก็เช่นกัน วิภาวรรณไปฟิตเนส ส่วนไกรวิทย์กำลังนอนฟังเพลงจากเครื่องเล่นซีดีอยู่ในห้องใต้หลังคาตอนที่ สาวิตรีเดินเข้าไปในห้อง
ไกรวิทย์ไม่ได้ยินเสียงพี่สาวเข้ามาในห้องเพราะกำลังสวมหูฟังและเปิดเพลง เสียงดัง สาวิตรียิ้มอย่างนึกสนุกขณะที่เดินไปด้านหลังไกรวิทย์แล้วคุกเข่าลงจนหน้าอก อวบอั๋นห่างจากศีรษะเขาเพียงนิ้วเดียว เธอมองดูน้องชายสุดที่รักโยกศีรษะไปมาตามจังหวะดนตรีที่ดังกรอกหูด้วยความ เอ็นดู สาวิตรีแตะไหล่เขาเบา ๆ ทำเอาไกรวิทย์สะดุ้งตกใจหันขวับไปข้างหลังโดยไม่รู้ว่าเต้านมอวบอิ่มของ สาวิตรีรอท่าอยู่แล้ว ใบหน้าของเขาจึงอัดเข้าไปในเต้านมอวบหยุ่นของพี่สาวเต็มรัก
“อูยยย์ย์ย์” สาวิตรีสูดปากครางออกมาเมื่อใบหน้าของไกรวิทย์ซุกเข้าไประหว่างเต้าอวบของเธอ ไกรวิทย์รีบสะบัดหน้าหนีแล้วผงะถอยหลัง
“โอ๊ย ขอโทษจริงๆครับ พี่สา ผมไม่รู้ว่าพี่อยู่ข้างหลังผม” ไกรวิทย์รีบขอโทษขอโพยพี่สาวเป็นการใหญ่
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พี่ผิดเองแหละที่มายืนอยู่ชิดเธอไปหน่อย” สาวิตรีขยับเต้านมอวบอิ่มภายใต้เสื้อให้เข้าที่เข้าทาง
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าไกรวิทย์กำลังจ้องมองเธออยู่โดยที่เขาไม่รู้ว่า สาวิตรีเห็นการกระทำของเขา ไกรวิทย์จ้องเขม็งที่หน้าอกพี่สาวจนสาวิตรีส่งเสียงเรียกออกมาเบา ๆ นั่นแหละเขารู้ตัวและอายจนหน้าแดงที่ถูกจับได้
ไกรวิทย์ค่อนข้างจะสนิทสนมกับสาวิตรีมากกว่าพี่สาวคนอื่น ๆ เพราะเขาเป็นน้องคนสุดท้อง และพ่อก็มาตายหลังเขาเกิดได้ไม่นาน ทำให้ไกรวิทย์ไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนบทบาทของลูกผู้ชายจากพ่อเลย ก็มีสาวิตรีนี่แหละที่ทำหน้าที่ดูแลเขาแทนพ่อตั้งแต่เธออายุได้ 14 ปี
ลลิตามีสาวิตรีตอนเธออายุ 18 และตอนนี้เธอก็มีลูกที่ต้องดูแลถึง 7 คนซึ่งเป็นภาระที่หนักมาก สาวิตรีจึงรับหน้าที่ดูแลน้อง ๆ แทนแม่ที่ต้องไปทำงาน
แม้ในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนเพราะสาวิตรีก็ไม่ได้มีงาน ทำ จึงอยู่ดูแลบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ วิภาวรรณเป็นช่างแต่งผม พรรณวดีเป็นสาวเสริฟ ปรียานุชช่วยงานร้านขายของ ส่วนกุลธิดากับภาวิณียังเรียนมหา’ลัยอยู่ ไกรวิทย์ไม่ได้เรียนต่อและก็ไม่ได้หางานทำด้วย ซึ่งทั้งพวกพี่สาวและแม่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เป็นไร เพราะรายได้ของพวกเธอมากพอจะเลี้ยงทั้งเขาและสาวิตรีได้อย่างสบาย โดยให้ทั้งคู่รับผิดชอบดูแลบ้านแทน ซึ่งทั้งสาวิตรีและไกรวิทย์ก็ตอบตกลง
“กำลังฟังเพลงอะไรอยู่รึพ่อหนุ่มน้อย” สาวิตรีถามน้องชายที่กำลังประหม่าและพยายามใช้มือปิดควยที่กำลังลุกเด่
“ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่สาจะให้ผมช่วยอะไรรึเปล่า?” เขาถามกลับ ในใจนึกอยากให้สาวิตรีตอบว่าเปล่าและออกไปจากห้องเขา แต่โชคไม่ดีเอาเสียเลยที่สาวิตรีไม่ได้ตอบเช่นนั้น “มีซิจ๊ะ ไปช่วยพี่ล้างจานหน่อย อย่าลืมซิว่ามันเป็นหน้าที่เรานะ” สาวิตรีเตือนความจำพร้อมกับวางมือแหมะลงบนมือไกรวิทย์ข้างที่ยังกุมเป้าอยู่
“ได้สิครับ ขอเวลาผมแป๊บเดียว” ไกรวิทย์รีบตอบ พยายามปัดมือเธอให้พ้นจากหว่างขาเขา
“ไม่ได้ แม่บอกว่าต้องล้างตอนนี้” สาวิตรีโกหก ความจริงก็คือแม่บอกให้ล้างจานให้เสร็จก่อนเข้านอน ที่สาวิตรีพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้ไกรวิทย์ลุกขึ้นยืน เธอจะได้ชื่นชมควยเขาตอนที่ยังแข็งอยู่
“ก็ได้ครับ” ไกรวิทย์ตอบพี่สาวคนสวย โชคยังเข้าข้างเขาอยู่เพราะถ่วงเวลาได้นานพอจะทำให้ควยเขาสงบลง ไกรวิทย์ลุกขึ้นปิดเครื่องเล่นซีดีแล้วหันไปหาพี่สาวซึ่งแทบซ่อนอาการผิด หวังไว้ไม่อยู่ ที่เห็นควยเขาอ่อนยวบลงไปแล้ว “ไปกันรึยังล่ะครับ” ไกรวิทย์ถามแล้วเดินผ่านพี่สาวร่างอวบซึ่งลุกขึ้นเดินตามไปติด ๆ
เมื่อลงไปถึงชั้นล่าง ทั้งคู่ก็เริ่มลงมือล้างจานทันทีโดยสาวิตรีรับหน้าที่ล้างส่วนไกรวิทย์ทำ หน้าที่เช็ดแห้ง สาวิตรีเหลือบเห็นน้องชายตัวดีแอบมองเต้านมที่อวบอิ่มของเธออยู่บ่อยครั้ง จนเธอเองเริ่มมีอารมณ์ร่วมและดันหน้าอกตัวเองให้พุ่งโชนขึ้นอีก ไกรวิทย์แกล้งทำเป็นไอและเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่งแต่สายตาเขาก็หวนกลับมาที่ เธออีกจนได้ ถึงตอนนี้สาวิตรีเงี่ยนง่านเป็นที่สุด กางเกงในรัดรูปที่เธอสวมอยู่เริ่มเปียกชื้นในขณะที่เธอกำลังยั่วน้องชายคน เล็ก จนในที่สุดสาวิตรีก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะให้เขาได้เห็นอะไรดี ๆ ที่จะไม่มีวันลืมตลอดชีวิต
เธอแกล้งทำส้อมหล่นลงไปหลังซิงค์น้ำแล้วเธอก็โน้มตัวไปเหนือซิงค์เพื่อหยิบ มันขึ้นมา แต่เนื่องจากตัวเธอไม่ได้สูงมากมายอะไรนักแถมหน้าอกเธอยังใหญ่ล้นเหลือ เต้านมเธอจึงจมลงไปในซิงค์น้ำไปเกือบถึงฐานเต้า เสื้อยืดสีขาวที่เธอสวมอยู่เมื่อเปียกน้ำก็ใสจนมองผ่านได้เหมือนไม่ได้ใส่ อะไรเลย สาวิตรีแอบหันกลับไปมองไกรวิทย์ซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับการมองก้นที่กลมกลึง ของเธอ สาวิตรีซ่อนยิ้มพร้อมกับส่ายก้นกระดุ๊กกระดิ๊กทำให้ไกรวิทย์รู้สึกตัว ในตอนนั้นควยเขาแข็งโด่ขึ้นมาแล้ว เขาจึงแกล้งทำเป็นเมื่อยแล้วรีบนั่งลงบนเก้าอี้ก้มหน้าก้มตาเช็ดจานต่อไป แต่สาวิตรีรู้ดีว่าทำไมเขาจึงนั่งลง เธอดันตัวเองขึ้นจากซิงค์น้ำแล้วยืดตัวตรง
“อุ๊ย” เธออุทานเสียงดัง ทำให้ไกรวิทย์เงยหน้าขึ้นมองเธอทันที ภาพที่ปรากฏต่อสายตาเขาคือฐานนมอันล้นหลามของพี่สาวที่มองเห็นได้ผ่านเสื้อ ยืดที่เปียกชุ่ม น้ำหยดติ๋ง ๆ จากยอดถันที่ชูชัน
“มีอะไรเหรอครับพี่สา” ไกรวิทย์กลั้นหัวเราะถาม สาวิตรียืนเท้าสะเอวข้างหน้าเขา
“หน้าอกพี่คงเปียกน้ำตอนที่ก้มไปเก็บส้อม ดูซิ” สาวิตรีพูดกระเง้ากระงอดพร้อมกับเอาสองมือช้อนเต้าอล่องฉ่องของเธอแล้วดัน มันเข้าหากันให้ไกรวิทย์ดู
“โอ๋ยโหย๋ พี่สาน่าจะไปเปลี่ยนเสื้อนะ ผมจะเช็ดจานต่อให้เสร็จเอง ไปเถอะ” ไกรวิทย์ให้ความเห็น สายตาก็กวาดโลมเลียเรือนร่างอันเต่งตึงงดงามของพี่สาวไปด้วย
สาวิตรีพยักหน้าเห็นด้วยแต่กลับไม่ขยับจากที่ เธอค่อย ๆ บีบนวดเต้าตัวเองและคอยสังเกตปฏิกิริยาของท่อนควยเขาไปด้วย สาวิตรีเห็นมันสั่นกระตุกใต้กางเกงขาสั้น ไกรวิทย์รีบไขว่ห้างปิดบังส่วนนั้นเมื่อรู้ว่าพี่สาวกำลังจ้องเขาอยู่ ใบหน้าเขาแดงซ่านไปด้วยความประหม่าอีกครั้ง
สาวิตรียิ้มอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินขึ้นบันไดไปห้องนอนของเธอ ไกรวิทย์มองตามก้นกลมกลึงของพี่สาวไปจนลับตาแล้วพยายามสงบสติอารมณ์ของตัว เองก่อนเช็ดจานต่อจนเสร็จ
พอล้างจานเสร็จ ไกรวิทย์ก็ขึ้นบันไดไปหาสาวิตรี ลึก ๆ แล้ว ในใจอยากดูว่าเธอเปลี่ยนเสื้อไปรึยัง พอถึงหน้าประตูห้องของสาวิตรีซึ่งเปิดแง้มอยู่ ไกรวิทย์ก็ชะโงกหน้าเข้าไป เห็นพี่สาวคนสวยยืนหันหน้ามาทางประตูโดยบนตัวหล่อนมีเพียงกางเกงในตัวจิ๋ว ที่เป็นรูปตัววีโดยส่วนบนเกาะอยู่กับสะโพกงอนงาม ส่วนล่างของตัววีเกาะอยู่กับโคกแคมที่นูนโหนกดันเป็นพูออกมา
ไกรวิทย์แทบเป็นลมด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้เห็นเต้านมอันมโหฬารของพี่สาวแบบ เต็ม ๆ ตา ตอนใส่บราก็ดูว่าใหญ่แล้ว แต่พอปล่อยเป็นอิสระกลับยิ่งล้นทะลักเกินจินตนาการ คะเนด้วยสายตาก็คงประมาณคัพ DD เป็นอย่างน้อย มันเต่งตึงชูช่อไม่มีคล้อยหรือร่องรอยบุบสลายเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับที่เขาเคยเห็นนางแบบในหนังสือโป๊ที่ไปผ่าตัดเสริมเต้ามา แต่ของพี่สาวเขาเป็นของแท้ที่ไม่มีการเสริมแต่งใด ๆ เต้านมของสาวิตรีสวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา หัวนมก็มีขนาดเหมาะเจาะกับขนาดของเต้า ไกรวิทย์กลับเข้าสู่โลกของความเป็นจริงอีกครั้งเมื่อได้ยินสาวิตรีพูดอะไร บางอย่างกับเขา แต่เนื่องจากเขาไม่ทันได้ฟัง ก็เลยตอบไปว่า “ครับ เสร็จเรียบร้อยแล้ว” แล้วรีบเบือนสายตาจากเต้าอวบที่เย้ายวนอารมณ์คู่นั้น
“จ้ะ แต่พี่ไม่ได้ถามว่าล้างจานเสร็จหรือยัง พี่ถามเธอว่า ชอบวิวที่เห็นมั้ย?” สาวิตรีย้ำคำถามนั้นช้า ๆ ราวกับว่าเธอไม่แคร์ที่เจ้าน้องชายตัวดีโผล่เข้ามาตอนที่เธอเปลือยอก
“อ้า เอ้อออออ อืมมมมม์” ไกรวิทย์ตะกุกตะกัก อึ้งไม่รู้จะตอบว่ายังไงที่ถูกยิงคำถามแบบนั้นหลังจากที่ตัวเองโผล่เข้ามา เห็นเต้านมขาวสล้างของพี่สาวเต็มสองลูกตา
“ว่าไงจ๊ะ?” สาวิตรีรุกหนัก และไม่มีทีท่าว่าจะปกปิดความอวบขาวของเรือนร่างเลย
“ขอโทษครับพี่สา ผมคิดว่าพี่เปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วเลยเข้ามา” ไกรวิทย์ขอโทษพร้อมกับแอบมองอีกแว่บว่าสาวิตรีได้ปกปิดความขาวอล่างฉ่างนั้น หรือยัง
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พี่ไม่ใส่ใจกับเรื่องแค่นี้หรอก เธอเป็นน้องชายแท้ ๆ ของพี่นี่นะจะไปอายทำไม เธอเองนั่นแหละไม่ต้องเขินขนาดนั้นหรอก” สาวิตรีพยายามจะปลอบน้องชายของเธอซึ่งก็ได้ผล ไกรวิทย์หันมามองเธออีกแว่บหนึ่งก่อนจะรีบหันกลับไปอีกครั้ง
สาวิตรีรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจอย่างประหลาดที่ได้เห็นน้องชายของเธอประหม่ากับ การได้เห็นเรือนร่างของเธอถึงขนาดนี้ นี่แหละสิ่งที่เธอปรารถนาเป็นที่สุด สาวิตรีเดินเข้าไปข้างหลังไกรวิทย์ โอบแขนรอบตัวเขา เต้าอวบบดบี้กับหลังของเขาและกางเกงในตัวบางแนบชิดกับแก้มก้นของไกรวิทย์ ทั้งคู่มีส่วนสูงใกล้เคียงกัน สาวิตรีจึงสามารถประทับจูบที่คอของเขาแล้วเริ่มเลื่อนมือลงไปที่หว่างขา พอไกรวิทย์รู้ว่าพี่สาวกำลังจะทำอะไร เขาก็รีบผละจากเธอแล้ววิ่งออกจากห้องของเธอ ผลุนผลันเข้าห้องของตัวเองแล้วปิดประตูล็อคห้องทันที
สาวิตรียิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงล็อคประตู เธอเอื้อมมือไปปิดประตูห้องของตัวเอง ในเวลาเดียวกันนั้น ไกรวิทย์ก็กำลังนั่งอยู่บนเตียง หัวใจเขาสั่นระรัว คำถามนับไม่ถ้วนวิ่งผ่านสมองในของเขา เขาเอนตัวลงนอนแล้วพยายามจะทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
สองวันหลังเหตุการณ์ในห้องนอนสาวิตรี ไกรวิทย์พยายามหลบหน้าเธอได้สำเร็จมาตลอด แต่ในตอนนี้คนอื่น ๆ ไปทำงานหรือไม่ก็ไปเรียนกันหมด เหลือเขาอยู่ในบ้านกับสาวิตรีเพียงสองคน
“วิทย์ พี่ว่าเราต้องมาคุยกันให้รู้เรื่องแล้วนะ ไม่งั้นมันจะไปกันใหญ่” เสียงนุ่ม ๆ ของสาวิตรีลอดผ่านประตูห้องไกรวิทย์เข้ามา เขาพยายามที่จะไม่ฟัง “นี่นายวิทย์ ไม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าเธอจะเปิดประตูแล้วมาคุยกันให้รู้เรื่อง” สาวิตรีขึ้นเสียง
ไกรวิทย์ปลดล็อคอย่างหวาด ๆ แง้มประตูออกเล็กน้อยขนาดพอมองลอดออกไปข้างนอกได้ เขาเห็นสาวิตรียืนเท้าสะเอวหันหน้าเข้าหาประตู วันนี้เธอสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ที่ซักจนซีด แสงแดดที่ลอดเข้ามาในบ้านสาดส่องบนเรือนร่างของเธอ เน้นให้เห็นถึงความส่วนเว้าส่วนโค้งบนร่าง
“เปิดประตูให้พี่หน่อยนะ น้องชายพี่” เธออ้อนเสียงหวาน เสียงนั้นทำให้เขาเปิดประตูโดยไม่รู้ตัว
สาวิตรีเข้าไปข้างในและเดินตรงไปที่เตียงของน้องชายที่อยู่ติดผนังห้อง พื้นห้องลั่นเอี๊ยดอ๊าดเมื่อเธอเดินผ่าน แสงจากหน้าต่างที่เปิดอยู่เหนือตัวเธอสาดส่องไปยังก้นงอนงามที่บิดส่ายไปมา ตามจังหวะการเดิน ไกรวิทย์รีบปิดประตู เขาไม่กล้าหันกลับไปมองพี่สาวตอนที่เธอเดินผ่านตัวเขาไปที่เตียง
“พี่สาต้องการอะไรกับผมกันแน่” เขาถามโดยไม่หันกลับไปมอง ตายังคงจ้องอยู่ที่ประตูห้อง
“ก็แค่คุยปรับความเข้าใจกันเท่านั้นแหละ พี่ว่าเราน่าต้องเปิดใจคุยกันแล้วนะจ๊ะ”
“ผมไม่เห็นว่าเรามีอะไรที่ต้องเปิดอกคุยกัน”
“โธ่เอ๊ยนายวิทย์ อย่าทำเป็นปากแข็งไปเลย”
“แล้วพี่ว่าเรามีอะไรต้องคุยกันล่ะ” ไกรวิทย์ฉุนกึกขึ้นมาเลยย้อนถาม แล้วหันไปมองพี่สาวเป็นครั้งแรก สาวิตรีนั่งห้อยเท้าอยู่ที่ขอบเตียง หัวเข่าแนบชิดกัน เอนตัวไปข้างหลังโดยใช้แขนยันพื้นเตียงไว้ แสงแดดที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเน้นส่วนเว้าส่วนนูนในตัวเธอเป็นบริเวณสว่าง และเงามืดสลับกันไป
“ก็อย่างเช่นเรื่องความรู้สึกที่เรามีให้กันไงล่ะ อีกเรื่องที่อยากถามก็คือ ทำไมพักหลังเธอคอยหลบหน้าพี่อยู่เรื่อย” สาวิตรีสวนกลับพร้อมเอนตัวไปข้างหน้าจนเต้าอวบเธอพุ่งโชนไปข้างหน้า บดบังแสงที่ส่องลงมายังส่วนอื่นในร่างกายจนหมด
“ผม..ผมไม่รู้ว่าพี่พูดเรื่องอะไร” ไกรวิทย์พูดตะกุกตะกักในขณะที่มองพี่สาวนิ่งนาน ควยเขาช่างไม่เป็นใจเอาเสียเลยเพราะมันเริ่มแข็งตัวขึ้นเมื่อเห็นเธอเอนตัว จากเตียง
“พี่ว่าจริง ๆ แล้วเธอเองก็รู้ดีว่าพี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร เธอพยายามหลบหน้าพี่มาสองวันแล้วตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ในห้องพี่ ทำไมเธอถึงต้องทำแบบนั้น” สาวิตรีถาม เธอสะบัดปอยผมออกจากใบหน้าแล้วเอนตัวไปข้างหลัง ดันหน้าอกให้พุ่งผงาดขึ้นอีกครั้ง “ผม..ผม..” ไกรวิทย์พยายามจะนึกหาคำตอบแต่ไม่ว่าพยายามยังไงก็นึกไม่ออก
“มัวแต่ ‘ผม..ผม’ อยู่นั่นแหละ มีอะไรก็พูดออกมาเลยซิ นายวิทย์” สาวิตรีพยายามจะกดดันเอาคำตอบจากน้องชายที่กำลังว้าวุ่นใจให้ได้
“ก็ผมกลัวว่าพี่จะโกรธผม”
สาวิตรีคิดในใจว่า น้องชายเรานี่โกหกไม่ค่อยเก่งเลย “คงไม่ใช่แค่นั้นละมั้งนายวิทย์ หา” สาวิตรีถามพร้อมกับแยกขากว้างออกอีกหน่อยให้พ่อน้องชายได้เห็นเป้ากางเกง ยีนส์ของเธอได้ถนัดชัดตายิ่งขึ้น
“ครับ” ไกรวิทย์กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอที่ได้เห็นพี่สาวคนโตนั่งโพสท่าวาบหวิวยิ่งขึ้นห่างไปเพียงไม่กี่ก้าว
“แล้วตอนที่พี่เข้าไปกอดเธอข้างหลังล่ะ ตอนนั้นก็เขินด้วยหรือเปล่า พี่เห็นเธอเผ่นแน่บเลยนี่” สาวิตรีไม่ยอมปล่อยไกรวิทย์ไปง่าย ๆ จนกว่าจะได้คุยกันให้แล้วใจ
“ใช่ครับ” ไกรวิทย์ก้มหน้ายอมรับเสียงแผ่ว
“ทำไมเธอต้องวิ่งหนีด้วย” สาวิตรีกำลังสนุกที่ได้โพสท่ายั่วยวนกวนสมาธิน้องชายแล้วยิงคำถามตาม ไกรวิทย์นิ่งเงียบไม่มองหน้าพี่สาว
“วิทย์จ๋า น้องชายคนดีของพี่ บอกพี่มาเถอะ มาคุยกันอย่างเปิดอกเสียที พี่เองก็มีบางอย่างที่อยากจะสารภาพกับเธอเหมือนกัน แต่พี่อยากได้ยินเธอพูดก่อน น่านะ บอกพี่มาเถอะ” สาวิตรีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจริงใจที่สุดจนสามารถชนะใจไกรวิทย์ได้
“คือตอนที่พี่กอดผมน่ะมันรู้สึกดีมาก ๆ เลย ยิ่งตอนที่พี่เอามือมาจับไอ้จู๋ของผมมันเสียวสุด ๆ แต่เราเป็นพี่น้องกันนะ เราไม่ควรทำอะไรกันแบบนั้น” ไกรวิทย์โพล่งออกมา ตาก็มองพี่สาวคนสวยที่ยิ่งถ่างขากว้างออกไปอีก แถมยังชันเข่าข้างนึงขึ้นบนเตียง
“เหตุผลมีแค่นั้นจริง ๆ เหรอ พี่ว่าเอาความจริงมาพูดกันดีกว่านะ” สาวิตรีถามแล้วโอบแขนทั้งสองข้างกอดเข่าข้างที่ยกขึ้นจนมันแนบกับเต้านมอวบ อิ่มของเธอ นัยน์ตาเธอเป็นประกายเหมือนสาวน้อย ทำให้ใจของไกรวิทย์อ่อนระทวยเหมือนขี้ผึ้งถูกไฟลน
“เอ้อ จริง ๆ แล้ว ผมไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงน่ะ” ไกรวิทย์กัดฟันสารภาพ เขาไม่อยากพูดเรื่องน่าอายแบบนี้เลยแต่พี่สาวเขานี่สิเหมือนใช้เวทมนตร์ทำ ให้เขาเปิดปากพูดออกไปจนหมด
“งั้นเธอก็ยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์อยู่เหรอเนี่ย” สาวิตรีแทบช็อคกับคำสารภาพของเขา เธอไม่อยากจะเชื่อเลย จริงอยู่ที่ไกรวิทย์ไม่เคยพาผู้หญิงมาที่บ้าน แต่เธอก็คิดว่าเขาคงไปจู๋จี๋กันที่อื่น
“ครับ” ไกรวิทย์ยืนยันคำพูดของตัวเองแบบอาย ๆ
สาวิตรียืดตัวตรง “แต่พี่คิดว่าเธอน่าจะเคยมีอะไรกับผู้หญิงมาบ้างแล้วนะ”
ไกรวิทย์สั่นหัวปฏิเสธก่อนจะเงยหน้ามองพี่สาวคนสวยที่ตอนนี้นั่งห้อยขาที่ ขอบเตียง ตัวเอนไปข้างหน้า แขนทั้งสองข้างยันตัวอยู่ระหว่างท่อนขาอ่อนที่แยกกว้าง
“แต่เธอก็เคยมีแฟนไม่ใช่เหรอ” สาวิตรีถามด้วยความสงสัย
ไกรวิทย์สั่นหัวปฏิเสธอีกครั้ง
สาวิตรีรู้สึกช็อคที่ได้รู้ว่าน้องชายเธอไม่เคยมีแฟนทั้ง ๆ ที่รูปร่างหน้าตาเขาก็ดีออก ทำไมสาว ๆ ถึงไม่สนใจเขาล่ะ? สาวิตรีต้องการหาคำตอบให้ได้ “นี่เธอกำลังบอกพี่ว่าเธอไม่เคยมีแฟนเลยใช่มั้ย” สาวิตรีถามพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้ามากขึ้นอีกจนแขนทั้งสองข้างดันสองเต้า อวบอิ่มเบียดเข้าหากัน
ไกรวิทย์จ้องมองเรือนร่างสุดเซ็กซี่ข้างหน้า “ไม่เคยมีเลยครับ”
“ทำไมล่ะ เธอเองก็หน้าตาดีออก”
“ขอบคุณครับ แต่คนอื่นเขาไม่เห็นเหมือนพี่สานี่” ไกรวิทย์ตอบ มองร่างอวบอัดของพี่สาวอย่างกระหายใคร่เย็ด ควยเขาเริ่มแข็งโด่ขึ้น
“พี่ไม่อยากเชื่อเลย พ่อน้องชายของพี่” สาวิตรีพูดยิ้มๆ เมื่อมองเห็นอะไรบางอย่างดันกางเกงขาสั้นของเขาขึ้นมา
“จริง ๆ นะครับพี่สา ผมไม่ใช่คนหล่อ จะไปโทษว่าพวกผู้หญิงก็ไม่ถูก” ไกรวิทย์ตอบ เขาเป็นคนที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ก็เลยไม่กล้าบอกรักใครเพราะในใจเชื่อว่าเขาคงไม่รักตอบ
“วิทย์จ๋า จำได้มั้ยที่พี่พูดว่ามีอะไรจะสารภาพกับเธอ ตอนนี้พี่จะบอกเธอแล้วนะ แล้วอย่าสติแตกไปเสียอีกล่ะ” สาวิตรีกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ เธอไม่เคยมีปัญหาเวลาที่ต้องพูดความในใจของตัวเองมาก่อน แต่สิ่งที่เธอกำลังจะเอ่ยออกมามันทำให้เธอว้าวุ่นใจยิ่งนัก


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #1 on: January 07, 2010, 09:29:36 AM
“ว่าไปซิครับ” ไกรวิทย์บอก อยากรู้เหมือนกันว่าพี่สาวคนโตมีอะไรจะสารภาพ
“เอ้อ พี่รักเธอ” สาวิตรียิ้มให้เขาอย่างเขินอาย
“ผมก็รักพี่ครับ แล้วไงเหรอ” ไกรวิทย์ถามต่อ สีหน้าเขาบ่งบอกว่าไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงในคำพูดของพี่สาว
“ไม่ใช่รักแบบนั้นจ้ะพ่อน้องชายของพี่ พี่รักเธอแบบคนรักตะหากล่ะ” สาวิตรีขยายความ
“พี่สา นี่พี่...พี่พูดอะไรออกมาน่ะ” ไกรวิทย์ตกตะลึงกับคำพูดของพี่สาว ยกมือขึ้นเสยผมในขณะที่พยายามทำความเข้าใจ
“พี่รู้ดีว่าพี่พูดอะไรออกไป วิทย์จ๋า พี่ต้องการเธอมานานแล้วตั้งแต่ตอนเธออายุสิบห้าโน่น” สาวิตรีลุกจากเตียงและเดินเข้าหาน้องชายที่ถอยกรูด
“พี่สา นี่พี่กำลังจะทำอะไรน่ะ” ไกรวิทย์ถามเสียงสั่นขณะที่เธอดันเขาไปติดประตูห้อง ปิดทางถอยของเขาโดยสิ้นเชิง
“ก็ทำในสิ่งที่เราทั้งสองคนต้องการไงล่ะจ๊ะ” สาวิตรียื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วประทับจูบบนริมฝีปากของเขา เธอหรุบตาลงแล้วพรมจูบไปจนทั่วริมฝีปากของน้องชาย จากนั้นก็ไล้ลิ้นเลียทั่วริมฝีปากของไกรวิทย์ก่อนที่จะยกสองมือขึ้นจับใบ หน้าเขาไว้ก่อนแล้วถอนศีรษะออกห่างใบหน้าเขา สาวิตรีเปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ มองหาปฏิกิริยาตอบสนองของไกรวิทย์ที่ยังคงช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น สาวิตรียิ้มแล้วเลื่อนมือทั้งสองข้างไปตามผมที่สั้นเกรียนของเขาก่อนที่จะ อ้อมไปที่หลังคอจนร่างเธอเบียดอัดแนบสนิทกับตัวเขา
ไกรวิทย์สัมผัสได้ถึงเต้านมอวบอิ่มของพี่สาวที่บดบี้กับตัวเขา หัวนมที่แข็งชูชันดันผ่านเนื้อผ้าเบาบางที่ทั้งคู่สวมใส่อยู่ตรงหน้าอกของ เขา ทำให้ควยเขาแข็งตัวพองก๋าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย” ไกรวิทย์เพ้อออกมา ริมฝีปากของสาวิตรีประทับกับริมฝีปากเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอเปิดริมฝีปากแล้วส่งลิ้นเข้าไปควานในปากเขาในขณะที่เขาพูด
เพียะ
สาวิตรีตบแก้มขวาเขาเบา ๆ เมื่อเขาพูดจบ ลิ้นของสาวิตรีกำลังแยงลึกเข้าไปควานในปากเขาชักชวนให้ลิ้นเขาเข้าไปดื่ม ความหอมหวานในปากเธอบ้าง สาวิตรีถอนจูบก่อน เธอพาดแขนบนบ่าของน้องชายขณะที่ตาเธอก็จ้องมองลึกเข้าไปในตาเขา
“อย่าพูดตอนจูบสิจ๊ะ” สาวิตรีสอนพร้อมกับสะบัดหัวไล่ผมที่ปรกใบหน้าออกไป ไกรวิทย์พยักหน้ารับคำ จูบนั้นจุดไฟปรารถนาให้กับเขาจนหยุดไม่ได้แล้ว
สาวิตรีรู้ว่าไกรวิทย์ต้องการอะไรเพราะเธอก็ต้องการสิ่งเดียวกัน เธอเลื่อนแขนออกจากบ่าเขาแล้วลดมือต่ำลงไปตามหน้าอกจนถึงขอบกางเกง แล้วเธอก็ดึงมันเข้าหาตัวจนหนอกควยและเนินหีบดเบียดกันแน่น เป็นครั้งแรกที่สาวิตรีได้สัมผัสกับมันแม้จะมีผ้ากั้นอยู่ก็ตาม เธอเสียววาบขึ้นไปตามกระดูกสันหลัง หีเธอเริ่มฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำเสียวจนเลอะกางเกงใน สาวิตรีผลักตัวเขาไปติดกับประตูอีกครั้งแล้วดึงตัวเขาหมุนเป็นวงจนหลังเธอ พิงกับประตูแทนเขา
“ถอดเสื้อผ้าออกซิจ๊ะ” เธอพูดเสียงหวาน ไกรวิทย์มองพี่สาวคนสวยด้วยความลังเลใจ นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเขาจึงยังกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ “ถอดเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้!” สาวิตรีพูดเสียงเข้มขึ้นอีก
ไกรวิทย์ถอดเสื้อออกก่อน ตามด้วยกางเกงขาสั้นจากนั้นเขาก็ยืดตัวขึ้นมองพี่สาว ควยเขาแข็งดันกางเกงในโป่งนูนขึ้นมา
“ถอดให้หมดซิจ๊ะ” สาวิตรีร้องออกมา ตาจับจ้องไปที่ส่วนล่างของไกรวิทย์
ไกรวิทย์กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอก่อนที่จะจับขอบกางเกงในแล้วรูดมันลงไปกองกับ พื้น จากนั้นก็ก้าวออกจากกองเสื้อผ้า หันหน้าหาพี่สาวในสภาพเปลือยล่อนจ้อน
สาวิตรีก้าวไปข้างหน้าแล้วโอบแขนรอบคอน้องชายเบียดตัวแนบชิดเขา เธอสัมผัสได้ถึงควยเขาที่ตีขึ้นมาถึงหน้าท้องของเธอ มันเต้นตุบ ๆ จนรู้สึกได้ผ่านเสื้อยืดที่เธอสวมอยู่ สาวิตรีถอยห่างออกไปแล้วหมุนตัวน้องชายผลักให้เดินไปที่เตียง พอถึงที่หมาย เธอก็หมุนตัวเขากลับมาแล้วกดตัวให้นั่งลงบนเตียง ตาเธอจ้องเขม็งไปที่ควยของเขา
มันยาวเกือบหกนิ้ว สั่นยึก ๆ เหมือนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่ช้า
สาวิตรียิ้มออกมาแล้วยื่นมือไปจับชายเสื้อยืดของตัวเอง รูดมันออกไปทางหัวแล้วเหวี่ยงลงกับพื้นห้อง หัวใจเธอเต้นถี่เร็วและหีเธอเปียกแฉะอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อได้ยืน เปลือยอกต่อหน้าน้องชายตัวเอง
ไกรวิทย์จ้องมองเต้านมที่อวบอิ่มเคร่งครัดของพี่สาวราวกับถูกสะกดจิต หัวนมเธอแข็งชูชัน สาวิตรีแกล้งสั่นลำตัวไปมาจนเต้านมเธอสะบัดไหว ไกรวิทย์ถึงกับครางออกมา สาวิตรีรีบถอดขอกางเกงยีนส์แล้วรูดมันพร้อมกับกางเกงในลงไปกองอยู่ที่พื้น ก่อนที่จะสลัดมันออกจากเรียวขา จากนั้นเธอก็ยืดตัวขึ้นให้น้องชายได้ชื่นชมร่างกายอันแข็งแรงงดงามของเธอ อย่างเต็มตา
ไกรวิทย์สำรวจเรือนร่างของพี่สาวอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม ไม่เว้นแม้แต่ขนหมอยดกดำที่ปกปิดโคกหีอันมีสัณฐานกว้างใหญ่จนฝ่ามือแทบปิด ไม่มิด
สาวิตรีทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอโน้มตัวไปข้างหน้าผลักไกรวิทย์ให้เลื่อนตัวถอยไปนั่งเหยียดขาอยู่กลาง เตียง ส่วนตัวเธอก็คลานตามไปติด ๆ จากนั้นสาวิตรีก็ยืนขึ้นคร่อมตัวน้องชายเธอแล้วค่อย ๆ ย่อตัวนั่งลงจนหีเธอเกือบสัมผัสกับหัวควยของเขา เธอสบตาไกรวิทย์ขณะที่ทิ้งตัวต่ำลงไปอีกจนควยเขาทะลวงลึกเข้าไปในรูหีของเธอ
สาวิตรีถ่างขากว้างออกไปอีกขณะที่ทิ้งตัวลงจนควยของน้องชายเข้าไปในหีเธอจน หมด ก้นเธอวางอยู่บนหน้าขาเขาและได้ยินเสียงไกรวิทย์ครางออกมาด้วยความเสียว สาวิตรียกตัวขึ้นจนควยเขาเลื่อนออกจากรูหีเธอราว 3 นิ้วแล้วกดตัวกลับลงไป ทำให้ไกรวิทย์ถึงกับร้องครางกับประสบการณ์เย็ดสาวครั้งแรกในชีวิต สาวิตรียิ้มหวานแล้วขยับสะโพกขึ้นลงต่อไปแถมยังขมิบรูหีให้บีบรัดท่อนควยของ น้องชายแน่นจนเธอรู้สึกได้ถึงรอยปูดของเส้นเลือดทุกเส้นบนควยของเขา
สาวิตรีโอบมือกอดรอบคอและหลังของน้องชายเพื่อใช้เป็นจุดยึดในการขย่มท่อนควย เขา เธอพรมจูบไปทั่วใบหน้าเขา และสอดลิ้นเข้าไปควานในปากทุกครั้งที่ไกรวิทย์ครางออกมา
แม้ว่าไกรวิทย์จะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนแต่เขาก็เรียนรู้ได้เร็ว เขาเริ่มขยับสะโพกตามจังหวะของสาวิตรีเพื่อไม่ให้ท่อนขาของเธอต้องรับภาระ หนักเกินไป เขายังเริ่มจูบเธอตอบ และส่งลิ้นไปรัดพันกับลิ้นของเธอในขณะที่ทั้งคู่ยักย้ายส่ายสะโพกเข้าหากัน เป็นจังหวะจะโคน
สาวิตรีเริ่มครวญครางออกมาบ้างเมื่อดีกรีความเสียวของเธอพุ่งสูงขึ้น เธอแหงนหน้าเริดจนผมดำสลวยสยายลงไปกลางหลังและแอ่นหน้าอกจนเต้านมอวบอิ่มของ เธอพุ่งไปข้างหน้า
ไกรวิทย์ไม่ปล่อยโอกาสดีให้หลุดลอยไป เขาอมหัวนมข้างซ้ายแล้วไล้ลิ้นวนรอบ ๆ บางครั้งก็พรมจูบไปรอบ ๆ ลานหัวนม “ซี๊ดดดดดดด” สาวิตรีครางออกมาเมื่อริมฝีปากเขาสัมผัสกับหัวนมที่ไวต่อการสัมผัสของเธอ เธอก้มหน้าลงมาแต่ยังคงแอ่นอกเสนอเต้าให้กับน้องชายที่กำลังมันส์กับจังหวะ การขย่มควยของพี่สาวคนสวยที่ยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีก ไกรวิทย์หยุดดูดเลียหัวนมพี่สาวและเงยหน้ามองสาวิตรี เธอยิ้มให้แล้วก้มหน้าลงมาจูบเขายาวนานก่อนจะสะบัดหน้าจนผมกระจายแล้วกอดเขา ไว้แน่นบดเบียดเต้านมจนบี้แบนกับอกเขา ศีรษะของทั้งคู่เสียดสีกัน สาวิตรีผ่อนจังหวะลงเล็กน้อยเพื่อจะได้เสียวกันนาน ๆ
ไกรวิทย์เริ่มเมื่อยขาเพราะสาวิตรีนั่งทับอยู่ เขาจึงค่อย ๆ ยกเธอขึ้นอย่างทะนุถนอมแล้วคุกเข่าลงกับพื้นเตียง สาวิตรีขยับตัวตามไปโดยระวังไม่ให้ท่อนควยเลื่อนหลุดจากหีของเธอไปได้ ท่าใหม่นี้ทำให้ทั้งคู่เย็ดกันได้ถนัดถนี่ขึ้น โดยไกรวิทย์คุกเข่าแล้วเอนตัวไปข้างหลัง ส่วนสาวิตรีถ่างขากว้างคร่อมสะโพกเขาทำให้สามารถโขยกตัวขึ้นลงได้ถนัดยิ่ง ขึ้น สาวิตรีเพิ่มความยาวของจังหวะการรูดโดยเธอยกตัวขึ้นจนควยเกือบหลุดออกมาแล้ว ทิ้งตัวลงจนหนอกหีกระแทกกับหนอกควยดังพั่บ ๆ
“โอยยย อูยยยย ซี๊ดดดดดดด” สาวิตรีสูดปากครางด้วยความเสียวสุดหัวใจกับจังหวะใหม่นี้ ท่อนควยของไกรวิทย์รูดออกจากหีเธอจนเกือบหลุดแล้วค่อยทะลวงกลับเข้าไปในช่อง หีที่ร้อนผ่าวของเธอรวดเดียวจนมิด ท่อนควยเขามันปลาบไปด้วยน้ำหล่อลื่นของเธอ
ไกรวิทย์ลูบไล้แผ่นหลังและไหล่ของสาวิตรีเมื่อเห็นว่าสาวิตรีกำลังเพิ่มความ รุนแรงของการขยับสะโพกมากขึ้นเรื่อย ๆ สาวิตรีประกบปากจูบเขาอย่างเร่าร้อนอีกครั้งก่อนจะเอนตัวไปข้างหลังแล้วยัน แขนกับพื้นเตียงเพื่อไม่ให้น้ำหนักตัวเธอกดลงไปบนท่อนควยเขามากเกินไป “อาวว์ อูยยยย์ เสียวจังเลย” เธอเพ้อครางในขณะที่รูดควยของน้องชายเข้าๆ ออก ๆ รูหีตัวเอง
ท่านี้ทำให้หน้าอกอันอวบอิ่มของเธอยิ่งพุ่งผงาดมากขึ้นอีก ไกรวิทย์ไม่ปล่อยโอกาสดีให้ผ่านพ้นไป เขายกมือขึ้นลูบไล้เต้านมอันเนียนนุ่มละมุนมือและหัวนมที่แข็งชูชันที่ล่อ สายตาเขาทันที สาวิตรีสูดปากครางซี๊ดกับสัมผัสที่ได้รับจากมือน้องชายที่บีบเคล้นเต้านมเธอ ความรู้สึกใหม่นี้ทำให้เธอยิ่งบดขยี้ควยเขารุนแรงมากขึ้นพร้อมสะบัดหน้าจนผม กระจาย สาวิตรีดันตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วยกแขนโอบรอบหลังของน้องชายไว้แน่น แล้วอัดเนินหีเข้ากับควยเขาด้วยความเร็วและแรงจนรู้สึกว่ามันเข้าไปลึกยิ่ง กว่าที่เคยจนเธอกรีดร้องออกมาเมื่อถึงจุดสุดยอด
“โอ๊ยยยยย ถึงแล้วววววว อูยยยยย ซี๊ดดดดดดด” สาวิตรีร้องครางเสียงหลงเมื่อน้ำหีเธอแตกทะลักไหลอาบท่อนควยของน้องชายย้อย ลงไปตามหน้าขาและผ้าปูเตียง
สัมผัสที่เกิดจากการถึงจุดสุดยอดของพี่สาวทำให้ไกรวิทย์กลับมีเรี่ยวแรงแข็ง ขันอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกใหม่ที่เขาไม่เคยพบมาก่อน มันรู้สึกดีจนยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดใด ๆ ได้
เมื่ออารมณ์ที่พุ่งสูงเมื่อถึงจุดสุดยอดลดลงบ้างแล้ว สาวิตรีก็เริ่มขยับสะโพกบดบี้ขยี้ควยน้องชายอีกครั้งโดยมุ่งมั่นที่จะให้ไกร วิทย์ถึงมีความสุขสุดยอดด้วย เธอเบียดร่างเข้าหาเขา ขยี้เต้านมกับหน้าอกเขา และจูบเขา ซึ่งคราวนี้ไม่ใช้จูบที่เร่าร้อนด้วยไฟราคะแต่เป็นจูบที่แผ่วนุ่มเร้าอารมณ์ ตลอดเวลานั้นสาวิตรีโขยกตัวให้ท่อนควยเขาเข้า ๆ ออก ๆ รูหีเธอตลอดเวลา เธอโอบแขนรอบคอไกรวิทย์ขณะที่จูบเขาและดึงตัวเขาไปข้างหลังจนนอนราบไปบน เตียงด้วยกัน เธอชันขาขวาขึ้นและแยกขาซ้ายออกจนไกรวิทย์ทาบทับอยู่บนตัวเธอเพื่อให้เขา เป็นผู้ควบคุมจังหวะการกระเด้าเองบ้าง
“อูยยย์ วิทย์จ๋า ซี๊ดดดดด ทำตามใจเธอต้องการได้เลยจ้ะ อูยยยย์” สาวิตรีละล่ำละลักออกมาพร้อมเสียงครวญครางในขณะที่ไกรวิทย์เริ่มกระเด้าควย ใส่เธออย่างเมามัน “อูยยย์ พี่สา ขอบคุณมากครับ ซี๊ดดด อร่อยควยเหลือเกิน” ไกรวิทย์สูดปากครางกระเส่าแล้วทุ่มเทแรงให้กับการกระเด้าเย็ดอย่างเป็น จังหวะจะโคน อัดกระแทกท่อนควยมันปลาบของเขาเข้าไปในตัวพี่สาว สาวิตรียิ้มอย่างพอใจที่สามารถทำให้น้องชายเธอมีความสุขได้ถึงขนาดนี้
สาวิตรียกขาขวาขึ้นรัดก้นไกรวิทย์ดันให้ควยเขาแทงเข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้นอีก ไกรวิทย์ครางเมื่อกำลังจะถึงจุดสุดยอด เขาโหย่งตัวขึ้นแล้วอัดส่งท่อนควยเข้าไปในรูหีที่เปียกแฉะร้อนผ่าวของพี่สาว จนลึกสุดความยาว สาวิตรีรู้สึกได้ว่าน้ำเขากำลังจะแตก เธอรีบยื่นมือซ้ายไปบีบแก้มก้นของไกรวิทย์แล้วดึงตัวเขาเข้าหาเธอให้ควยเขา จมเข้าไปในตัวเธอให้ลึกที่สุด พอดีกับที่พวงกระโปกเขาหดรัดตัวแล้วน้ำควยอุ่นระอุก็ฉีดพุ่งเข้าไปในตัวเธอ
ไกรวิทย์ครางกระเส่าเมื่อน้ำควยชุดสุดท้ายฉีดพุ่งเข้าไปในโพรงหีของพี่สาว สาวิตรียิ้มอย่างสุขสมตลอดเวลาที่น้ำควยแต่ละชุดฉีดพุ่งชนผนังช่องหีของเธอ
“เสียวอร่อยดีจังเลย” สาวิตรีเอ่ยปากชมเมื่อเธอคลายแขนปล่อยให้น้องชายพลิกตัวลงไปหอบหายใจอยู่ข้าง ๆ
“ครับ เสียวสุด ๆ ไปเลย” ไกรวิทย์เห็นด้วยอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
“พี่หวังว่าเธอคงไม่เสียใจนะที่ครั้งแรกของเธอเสียความบริสุทธิ์ให้พี่สาว ของเธอเอง” สาวิตรีรู้สึกมือของพ่อน้องชายลูบคลำสัมผัสหัวนมข้างขวาของเธออย่างแผ่วเบา และบีบบี้มันเล่น
“ไม่หรอกครับพี่สา มันยอดเยี่ยมที่สุดเลย” ไกรวิทย์พรมจูบที่ไหล่ขาวผ่องของสาวิตรีแล้วซุกไซ้อยู่แถวใบหูเธอจนสาวิตรี หัวเราะคิกและบิดตัวด้วยความจั๊กกระจี้
“อยากขึ้นมาเมื่อไหร่ก็มาหาพี่ได้ตลอดเวลาเลยนะจ๊ะ” สาวิตรีลุกขึ้นนั่งแล้วลงจากเตียง ให้โอกาสไกรวิทย์พักเอาแรง เธอยิ้มขณะที่เดินออกไปจากห้อง “เดี๋ยวคนอื่น ๆ เขาจะกลับมาแล้วนะจ๊ะ อย่าลืมทำความสะอาดเตียงตัวเองด้วยล่ะ พ่อตัวดี”
ไกรวิทย์พยักหน้ารับคำแล้วมองตามก้นกลมกลึงของเธอที่ส่ายไปมาขณะที่เดินออก จากห้องไปในสภาพเปลือยเปล่า จากนั้นเขาก็เอนตัวลงนอน อิ่มเอมกับความสุขครั้งแรกในชีวิตหนุ่ม
ไกรวิทย์ลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองยังนอนเปลือยล่อนจ้อนอยู่บนเตียง เรื่องระหว่างเขาและสาวิตรีเมื่อบ่ายวานวาบเข้ามาในสมอง เขายิ้มออกมาเมื่อหวนคิดถึงเหตุการณ์อันซ่านเสียวนั้นท่อนควยก็พองตัวขึ้น อย่างรวดเร็ว เขาหันไปมองที่นาฬิกาข้างเตียงก็พบว่าเป็นเวลาเที่ยงตรง ป่านนี้คนอื่น ๆ คงออกจากบ้านไปหมดแล้วยกเว้นสาวิตรี
“พี่สา ผมเองครับ” เขาเดินเข้าไปในครัว เห็นสาวิตรียืนอยู่ตรงซิงค์น้ำก็เลยตรงเข้าไปกอดเอวเธอไว้แน่น
“ปล่อยนะ นายวิทย์!” สาวิตรีผลักเขาออก น้ำเสียงเธอออกโกรธและกลัวปนเปกัน
“เป็นอะไรไปล่ะครับ ก็เมื่อวานนี้....” ไกรวิทย์ยังถามไม่ทันจบก็ถูกตัดบทด้วยจูบของพี่สาวคนโต
“แค่นี้ก่อนนะ ที่เหลือขอต๊ะไว้ก่อน” สาวิตรีพยักเพยิดหน้าไปทางห้องนั่งเล่น
ไกรวิทย์มองตามแล้วก็เห็นปรียานุชนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เขาหันกลับมามองสาวิตรีแล้วถามด้วยสายตาว่ามันเกิดอะไรขึ้น “วันนี้ทำไมพี่นุชอยู่บ้านล่ะครับ ปรกติน่าจะอยู่ที่ทำงานนี่นา”
“วันนี้ที่ร้านเขาปิดช่วงเช้าน่ะ นุชเขาก็คงจะอยู่บ้านจนถึงบ่ายสามโมง เธอคงจะต้องอดใจรอหน่อยนะจ๊ะ” สาวิตรีสอดมือลงไปตรงเป้าน้องชายแล้วบีบขยำท่อนเอ็นเขาผ่านกางเกงยีนส์
ไกรวิทย์พยักหน้า โล่งอกที่พี่สาวคนสวยไม่ได้โกรธเรื่องเมื่อวาน และเมื่อฟังจากน้ำเสียงแล้วยังมีเค้าว่าจะได้เล่นเสียวกับเธออยู่ ไกรวิทย์เดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ปรียานุชโดยเธอขยับตัวเว้นที่ให้ “วันนี้พี่นุชไม่ไปทำงานเหรอครับ?” เขาถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“ว่างถึงบ่าย 3 น่ะจ้ะ กะว่าจะนอนดูทีวีไปเรื่อย ๆ กว่าจะถึงเวลา” น้ำเสียงเธอนิ่ม ๆ หวาน ๆ ตามสไตล์ปกติของเธอ
ได้ยินแบบนั้น ไกรวิทย์ก็อดผิดหวังไม่ได้ วันนี้เขาคงไม่มีโอกาสอยู่เพียงลำพังกับสาวิตรีเพราะพรรณวดีเลิกงานในช่วง 3 โมงครึ่งถึง 4 โมงครึ่ง ถ้าเขากับสาวิตรีเย็ดกัน เธอก็อาจกลับมาเจอได้ “อ๋อ” ไกรวิทย์ใช้ความคิด “แล้วพี่นุชไม่ไปฟิตเนสเหรอครับ” เขาชี้นำ หวังว่าปรียานุชจะเห็นดีด้วย
“ไม่ล่ะจ้ะ ไม่อยากออกแรงเยอะ ๆ วันที่ทำงานกะบ่าย เพราะหมดแรงทุกทีตอนกลับบ้าน” ปรียานุชทำลายความหวังของพ่อน้องชายที่จะได้มีรอบสองกับสาวิตรี
สาวิตรีเดินเข้ามาตอนปรียานุชพูดจบพอดี “เฮ้อ เสร็จซะที” เธอเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับน้องชายและน้องสาวของเธอ
ไกรวิทย์หันไปมองและได้รับรอยยิ้มหวานซึ้งจากพี่สาวคนโตกลับมา เขายิ้มตอบ สาวิตรีหันไปมองปรียานุชที่กำลังดูทีวีโดยไม่สนใจเธอและไกรวิทย์ เธอส่งจูบให้พ่อน้องชายซึ่งก็ยิ้มกว้างแล้วส่งจูบกลับมา โดยพยายามไม่ให้มีเสียงจุ๊บปาก
สาวิตรีรู้สึกกางเกงในเธอเริ่มเปียกแฉะจากการที่เธอกับน้องชายเล่นหูเล่นตา กัน ยิ่งมีน้องสาวที่ไม่รู้เรื่องมานั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยแล้วมันยิ่งเร้าอารมณ์มากขึ้นไปอีก
สองชั่วโมงผ่านไป ทั้งคู่ยังคงหยอกเย้าเร้าอารมณ์กันโดยไม่รู้เบื่อ ยิ่งนานสาวิตรีก็ยิ่งกล้ามากขึ้น เธอเริ่มลูบคลำบีบเคล้นส่วนต่าง ๆ บนเรือนร่างตัวเองในขณะที่ไกรวิทย์จ้องมอง เขาได้แต่หวังว่าสาวิตรีคงจะได้ใช้ความระมัดระวังไม่ให้ปรียานุชเห็นการ กระทำที่ค่อนข้างโจ๋งครึ่มของเธอ
พอบ่ายสองโมงครึ่ง ปรียานุชก็ลุกขึ้นบอกว่าเธอต้องไปทำงานแล้ว ทำเอาไกรวิทย์ดีใจเนื้อแทบเต้นที่กำลังจะได้มีโอกาสลิ้มลองของจริงเสียที หลังจากที่ได้แต่โลมเลียด้วยสายตามานาน เขากระวีกระวาดส่งปรียานุชออกไปนอกประตูก่อนจะรีบเดินกลับมานั่งข้างสาวิตรี ที่ย้ายมานั่งบนโซฟาตอนที่ปรียานุชเดินออกไป “เมื่อเช้าเธอทำอะไรจ๊ะ หือ” สาวิตรีถามน้องชายขณะที่เขาเดินมานั่งข้างเธอบนโซฟา
“ผมลืมตัวครับ พอเห็นพี่ผมก็เงี่ยนขึ้นมาเลย” ไกรวิทย์ขยับเข้าใกล้เธอ
“จริงหรือจ๊ะ บังเอิญจัง พี่เองพอเห็นเธอก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาเหมือนกัน” มือของพ่อน้องชายมาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงเต้านมอวบอิ่มของเธอ ริมฝีปากเขาจูบไซ้ซอกคอเธอ
“โอวว์” ไกรวิทย์ครางเมื่อพี่สาวคนสวยวางมือแหมะลงตรงหว่างขาเขา สาวิตรีบีบควยที่แข็งจนปวดเบา ๆ ไกรวิทย์จูบไซ้ซอกคอเธอหนักขึ้นและเริ่มลูบคลำขยำขยี้ปทุมถันที่ไม่มีชุด ชั้นในห่อหุ้มของเธอผ่านเสื้อยืดสีฟ้าตัวบางที่เธอสวมอยู่
“อูยยย ดีจังเลยวิทย์จ๋า” สาวิตรีสูดปากครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านที่แล่นไปทั่วตัวเมื่อไกรวิทย์บีบบี้หัวนมเธอใต้เนื้อผ้าบาง ๆ
สาวิตรีเลื่อนมือไปที่หลังศีรษะของน้องชายแล้วรั้งลงมาข้างหน้าเธอ ไกรวิทย์ยังซุกไซ้ซอกคอหล่อนโดยไม่หยุดชะงักจนสาวิตรียกศีรษะเขาขึ้นมา ริมฝีปากเขาบดกับริมฝีปากเธอแล้วทั้งคู่ก็แลกจูบกันอย่างดูดดื่ม “ไปต่อกันที่ห้องพี่ดีไหมจ๊ะ” สาวิตรีถอนริมฝีปากแล้วมองสบตาน้องชายแน่วนิ่ง
ไกรวิทย์พยักหน้า
ทั้งสาวิตรีและไกรวิทย์วิ่งขึ้นบันไดพร้อมกับถอดเสื้อไปด้วย เสื้อถูกเหวี่ยงทิ้งบนขั้นบันไดโดยไม่แยแส พอเปิดประตูเข้าไป ทั้งสองก็แลกจูบอย่างร้อนเร่า บดเบียดร่างเข้าหากัน ปลายลิ้นฉกเข้าไปควานหาความหอมหวานในปากของกันและกัน สาวิตรีเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกก่อนเช่นเดิม เธอยึดไหล่อันแข็งแรงของน้องชายเอาไว้แล้วดึงตัวเขาเข้าไปในห้องจากนั้นก็ ปิดประตู ไกรวิทย์เดินไปสำรวจเตียงที่อยู่ด้านในทีละเตียง
“นั่นเตียงพี่” สาวิตรีชี้ไปที่เตียงทางขวาซึ่งเป็นเตียงเดี่ยวปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาว มีหมอนฟูนุ่มอยู่สองสามใบ
ไกรวิทย์มองเตียงที่เหลืออีกสองเตียง
“นั่นเตียงภาวิณี” สาวิตรีชี้ไปที่เตียงถัดจากเธอที่อยู่ห่างไปสามฟุต เป็นเตียงเดี่ยวเหมือนกันแต่ผ้าปูที่นอนเป็นสีแดง “ส่วนเตียงนั้นของวิภาวรรณ” สาวิตรีพาไกรวิทย์เดินไปที่เตียงคู่ที่อยู่มุมห้อง “ยัยวรรณได้นอนเตียงคู่เพราะเป็นคนนอนดิ้นอย่างร้ายกาจ” สาวิตรีอธิบาย เธอจูบที่หลังคอน้องชายพร้อมกับส่ายหน้าอกให้เต้านมและหัวนมถูไถกับแผ่นหลัง เขา
ไกรวิทย์เพ่งมองเตียงของพี่สาวคนรอง กำลังตัดสินใจว่าจะใช้เตียงไหนเย็ดพี่สาวคนโตดี สาวิตรีเป็นฝ่ายตัดสินใจแทนโดยดันเขาไปที่เตียงของวิภาวรรณด้วยความรุ่มร้อน อยากจะเย็ดกันให้หายอยากก่อนที่พรรณวดีจะเลิกงานกลับบ้าน
พอถึงเตียง ไกรวิทย์ก็หมุนตัวในวงแขนพี่สาวในเวลาเดียวกับที่เธอบดอัดเต้าอวบกับตัวเขา ไกรวิทย์เลื่อนแขนไปหลังเอวเธอแล้วก้มหน้าลงไปดูดอมหัวนมข้างซ้ายไว้จากนั้น ก็ช้อนตัวพี่สาวขึ้น สาวิตรีแหงนหน้าเริดเมื่อลิ้นของไกรวิทย์ตวัดเลียหัวนม เธอวางมือบนหลังหัวเขาในขณะที่เขาดูดนมเธอเหมือนเด็กทารกที่ดูดนมแม่ด้วย ความหิวกระหาย เธอแอ่นตัวดันหน้าอกขึ้นในจังหวะที่เขากำลังจะเปลี่ยนไปดูดเลียหัวนมอีกข้าง หนึ่งพอดี ทำให้ใบหน้าเขาจมหายไปในร่องอกอันอวบอิ่มของเธอ ไกรวิทย์วางร่างพี่สาวลงบนพื้นแล้วหันไปจู่โจมยอดถันอีกข้างโดยไม่รั้งรอ เขาทั้งดูดทั้งเลียอย่างเมามัน สาวิตรีผงกหัวขึ้นมาแล้วกระซิบที่ข้างหูเขา
“อูยย ซี๊ดดดดด วิทย์จ๋า ยังงั้นแหละจ้ะ ดูดนมพี่แรง ๆ สิจ๊ะคนดี พี่เสียวอร่อยเหลือเกิน อาววว์ว์ว์” เธอครางกระเส่าเสียงแผ่วโหยก่อนที่จะแหย่ปลายลิ้นที่อุ่นชื้นกวาดไปทั่ว เนื้ออ่อนในรูหูเขา
ไกรวิทย์ดึงมือออกจากเอวพี่สาวแล้วลงมือปลดขอกางเกงยีนส์เธอออกจนมันหลุดลง ไปกองที่พื้น สาวิตรีก้าวออกจากกางเกงที่กองอยู่แล้วเขี่ยมันกระเด็นห่างไป ในตอนนี้เธอเหลือแต่กางเกงในสีชมพูตัวน้อยปกปิดร่างสาว เธอเริ่มจูบน้องชายอีกครั้ง ลิ้นอุ่นนุ่มเลียไล้ริมฝีปากเขาก่อนที่จะแทรกเข้าไปตวัดรัดพันกับลิ้นเขาใน ปาก ไกรวิทย์รับรู้ได้ถึงเต้านมแท้ ๆ ของพี่สาวที่บดเบียดกับหน้าอกของเขาในขณะที่เธอโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อให้ใบ หน้าทั้งคู่แนบชิดกันยิ่งขึ้น มือเธอไต่ขึ้นไปตามแผ่นหลังจนถึงสะบักไหล่ในขณะที่มือเขากำลังง่วนอยู่กับ การปลดขอกางเกงยีนส์ของตัวเอง
เมื่อเหลือเพียงกางเกงในที่กั้นระหว่างเขาและเธอ สาวิตรีก็กดตัวไกรวิทย์ให้นั่งลงที่ขอบเตียงแล้วเธอก็คุกเข่าอยู่ตรงหว่างขา เขา เธอยื่นมือไปยึดเอวน้องชายไว้ ปากเธอแนบชิดกับหน้าท้องเขา แล้วก็เริ่มพรมจูบ ไล้ลิ้นไปรอบ ๆ สะดือและระดมจูบไปทั่วหน้าท้องเหนือขอบกางเกงใน ทำให้ไกรวิทย์แทบสำลักความสุขจนเป็นบ้า
สาวิตรีลุกขึ้นยืนอีกครั้งในขณะที่ไกรวิทย์ยังคงนั่งอยู่บนเตียง เขาจับขอบยางยืดของกางเกงในพี่สาวยอดเซ็กส์แล้วรูดบิกินี่สีชมพูตัวน้อยลงไป ตามเรียวขาอันแข็งแรงแล้วปล่อยให้มันหล่นลงไปกองที่พื้น ในตอนนี้ไกรวิทย์ได้เห็นเนินหีพี่สาวอย่างเต็มตา กระจุกขนหมอยที่เขาได้เห็นเมื่อวานได้มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาอีกครั้ง เขาแทรกมือขวาเข้าไประหว่างเรียวขาพี่สาวแล้วเลื่อนมือขึ้นไปบีบขยำเนื้อ นุ่มของก้นจนล้นออกมาตามซอกนิ้ว
“โอววว อาววว” สาวิตรีร้องครางออกมาเมื่อเธอรู้สึกว่ามืออีกข้างของเขาลอดตามเข้าไประหว่าง เรียวขาแล้วบีบคลำเคล้นคลึงแก้มก้นอีกข้างของเธอ สาวิตรียันมือทั้งสองข้างบนไหล่เขาแล้วเขย่งตัวขึ้นบนปลายเท้าจนเนินหีเธอ ตรงกับปากของน้องชาย ไกรวิทย์หลับตาลง ปล่อยให้สัญชาติญาณพาไป เขายื่นหน้าแนบปากกับเนินโหนกของพี่สาว ใช้แขนแยกขาอ่อนเธอออกจนแคมหีปลิ้น ลิ้นเขาจะได้สำรวจซอกหลืบเธอได้ถนัดขึ้น สาวิตรีช่วยถ่างขากว้างยิ่งขึ้นอีกเมื่อลิ้นของน้องชายเข้าใกล้แคมหีเธอ กลิ่นหอมหวานของน้ำเมือกโชยมาแตะจมูกเขาในขณะที่ลิ้นของไกรวิทย์สัมผัสกับหี ที่ฉ่ำเยิ้มของพี่สาวเป็นครั้งแรก
สาวิตรียึดหลังหัวไกรวิทย์ไว้ในขณะที่เธอโน้มลำตัวท่อนบนไปข้างหน้าจนปทุม ถันคู่งามวางอยู่บนหัวเขาโดยหีเธอยังคงอยู่ที่เดิมให้น้องชายคนดีจูบและ สำรวจถ้ำโพรงที่น่าหลงใหลนั้นต่อไป
“อาววว์ โอววว์ อูยยย์” เธอร้องครวญครางขณะที่มือเขาลูบคลำบีบเคล้นก้นอันกลมกลึงพร้อมกับแยงลิ้น เข้าไปสำรวจในโพรงหีเธอ สาวิตรีแหงนหน้าเริดเมื่อเขาสัมผัสกับจุดเสียวพร้อมกับร้องลั่นขอให้เขาช่วย เร่งมือยิ่งขึ้น เธอเสียวจนแข้งขาหมดเรี่ยวแรงร่ำ ๆ จะหงายหลังล้มไปเสียให้ได้ สาวิตรีดึงตัวไกรวิทย์ลงมาคุกเข่าอยู่ข้างเตียงซึ่งเขาก็ไม่ยอมปล่อยก้นงอน งามของเธอให้เป็นอิสระในช่วงที่เปลี่ยนท่า หน้าเขายังคงฝังอยู่กับเนินสวาทส่วนแขนยังคงแทรกอยู่ระหว่างขาเรียวยาวของ เธอ สาวิตรีครางดังและถี่ขึ้นเมื่อเขาเริ่มบีบขยำเคล้นคลึงแก้มก้นนุ่มเต่งตึงจน เธอต้องแอ่นตัวดันโคกหีบดขยี้เข้ากับใบหน้าเขาซึ่งก็ยังผลให้ลิ้นเขาทะลวง เข้าไปในรูหีเธอลึกเพิ่มขึ้นอีก “โอววว์ อูยยย์ย์ อาววว์ว์ว์ ซี๊ดส์ส์ส์” สาวิตรีร้องระงมลั่นห้องเมื่อหล่อนใกล้ถึงสวรรค์ เธอจับหัวน้องชายไว้แน่นแล้วขยับให้ไปตรงบริเวณที่เธออยากให้ลิ้นเขาสัมผัส
ลิ้นของไกรวิทย์ไปสัมผัสตรงจุดพอดีทำให้เธอถึงจุดสุดยอดน้ำแตกทะลักตัวสั่น ระริก มือเธอยังคงจับหัวน้องชายไว้แน่น น้ำหีเปียกเลอะทั่วใบหน้าเขาและไหลย้อยลงไปตามขาอ่อนเธอและท่อนแขนเขา
หลังความเสียวผ่านพ้นไป สาวิตรีดึงตัวน้องชายขึ้นยืนแล้วดันเขาไปนั่งบนขอบเตียง จากนั้นเธอก็ก้าวขึ้นไปยืนคร่อมตักเขาอย่างรวดเร็วโดยเธอต้องเขย่งตัวบนปลาย เท้าเพราะขาไม่ยาวพอที่จะวางฝ่าเท้าให้ราบไปกับพื้นได้
ไกรวิทย์เป็นฝ่ายนั่งมองขณะที่สาวิตรีทิ้งตัวลงบนควยเขาซึ่งมันก็ลื่นไหล เข้าไปในตัวเธอได้โดยง่าย “อาวว์ อาวว์ โอวว์…” เธอครางออกมาขณะที่เริ่มบดขยี้หนอกหีเข้ากับลำควยเขา ไกรวิทย์จับเอวเธอไว้แล้วใช้ข้อลำที่แข็งแรงช่วยยกตัวเธอเสียบขึ้นลงบนท่อน ควยเขา โดยเขายกตัวเธอขึ้นจนถึงเงี่ยงหัวหยักแล้วกดตัวเธอลงมาอย่างแรงจนควยจมหาย เข้าไปในรูหีที่ตีบคับจนมิดลำ เสียงครวญครางและเสียงหอบหายใจดังระงมไปทั้งห้องในขณะที่ทั้งคู่ขยับกระเด้า กันอย่างพร้อมเพรียง ไกรวิทย์อมหัวนมของพี่สาวพร้อม ๆ กับบีบขยำแก้มก้นเธอไปด้วยขณะเดียวกันนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าลำควยของเขา กำลังถูกโพรงหีของพี่สาวขมิบตอดรัดอย่างแรง ทั้งคู่กำลังใกล้จะถึงสวรรค์ ทั้งเขาและเธอร้องลั่นในเวลาเดียวกับที่พรรณวดีเปิดประตูบ้านเข้ามา
สาวิตรีถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง ส่วนไกรวิทย์ก็กำลังฉีดน้ำควยเข้าไปในโพรงหีพี่สาวคนสวยตอนที่พรรณวดีมาถึง บันได ทั้งสองคนอ่อนระโหยโรยแรงจนไม่ได้ยินเสียงพรรณวดีเดินขึ้นบันไดมา เธอมองเห็นเสื้อยืดถูกทิ้งอยู่บนขั้นบันไดก็เลยหยุดดูอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดต่อไปช้า ๆ เมื่อไปถึงบันไดขั้นบนสุดเธอก็เงี่ยหูฟัง มีเสียงดังลอดมาจากห้องนอนของสาวิตรี ภาวิณีและวิภาวรรณ เธอจึงค่อย ๆ ย่องไปตามทางเดินจนถึงประตูห้องแล้วหมุนลูกบิดประตูเปิดผลั่วเข้าไปข้างใน
“ไงจ๊ะพรรณ” เสียงสาวิตรีทักทายน้องสาว เธอนั่งอยู่ที่ขอบเตียงของตัวเองหันหน้าเข้าหาประตูห้อง
“หวัดดีค่ะ” พรรณวดีมองไปรอบ ๆ ห้อง เห็นไกรวิทย์ยืนอยู่ตรงหน้าต่างกำลังมองลงไปที่ถนน
“วันนี้กลับเร็วกว่าทุกวันนะครับพี่พรรณ” ไกรวิทย์ถอยห่างจากหน้าต่าง
“จ้ะ วันนี้ที่ร้านขายไม่ค่อยดีเลยได้กลับก่อน” พรรณวดีเดินเข้ามาในห้องแล้วมองสำรวจไปรอบ ๆ
“มีอะไรหรือจ๊ะ?” สาวิตรีถามน้องสาวเมื่อเห็นเธอเดินสำรวจไปรอบห้อง
“เปล่าค่ะ” พรรณวดีสั่นหัวปฏิเสธ เธอกล้าสาบานว่าเธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่ชั้นสองนี่แหละแต่ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน
“พี่ทำงานค้างอยู่ ไปก่อนนะ” สาวิตรีเดินผ่านน้องสาวแล้วก้าวลงบันไดไป
“ผมด้วยครับ” ไกรวิทย์ตามพี่สาวคนโตไปติด ๆ
พรรณวดีคิดว่ามันมีอะไรแปลก ๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่ามันคืออะไร เธอเดินสำรวจอีกรอบนึงและแล้วกลิ่นอะไรบางอย่างก็ลอยมาแตะจมูก เอ กลิ่นนี้มันคุ้น ๆ นะ พรรณวดีคิดในใจ เธอสูดลมหายใจลึก ๆ อีกครั้ง ชัดเลย กลิ่นนี่มันเป็นกลิ่นเฉพาะที่ได้จากการเย็ดกันเท่านั้น พรรณวดีนั่งลงบนเตียงแล้วใช้ความคิด
ที่ชั้นล่าง สาวิตรีกับไกรวิทย์ปรึกษากันในครัว “เกือบไปแล้วซิ” ไกรวิทย์ใช้หลังมือปาดเหงื่อบนหน้าผาก
“ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกนายวิทย์ พรรณเขาจับผิดเราไม่ได้หรอก” สาวิตรีพูดอย่างมั่นใจ พยายามจะปลอบน้องชายที่กำลังกังวล
“แต่ก็เกือบไปนะพี่สา ถ้าเราใส่เสื้อผ้าช้าไปกว่านี้อีกนิดเดียว พี่พรรณคงเข้ามาเจอตอนเรากำลังเย็ดกันพอดี” ไกรวิทย์เถียงพี่สาว
“แต่สุดท้ายพรรณเขาก็จับเราไม่ได้ ถ้าเธอกลัวนักล่ะก็ เราเลิกยุ่งกันก็ได้นะจะได้ไม่ต้องเกิดปัญหา เอาแบบนั้นมั้ยล่ะ นายวิทย์” สาวิตรีถาม ในใจอยากได้ยินไกรวิทย์ตอบปฏิเสธแต่ก็เผื่อใจไว้ถ้าเขาตอบตกลง
“ไม่ครับ” ไกรวิทย์สั่นหน้าปฏิเสธ “ผมไม่อยากเลิก”


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #2 on: January 07, 2010, 09:30:01 AM
“พี่เองก็ เหมือนกันจ้ะ งั้นต่อไปเราก็ระมัดระวังกันให้มากกว่านี้ละกันเนอะ” สาวิตรีหัวใจพองโตด้วยความดีใจที่น้องชายไม่อยากเลิกยุ่งกับเธอ
หลังจากนั้นอีกไม่นาน พรรณวดีก็เดินลงบันไดมา “ไงจ๊ะสองคน วันนี้ทำอะไรกัน” เธอเอ่ยปากถาม
“ก็นิดหน่อยน่ะจ้ะ” สาวิตรีตอบอย่างอารมณ์ดีขณะอุ่นพิซซ่าในไมโครเวฟ
“ง้านเหรอ” พรรณวดีลากเสียงยาวแล้วส่งยิ้มแบบมีเลศนัยให้ไกรวิทย์ซึ่งสีหน้าเต็มไปด้วยรอยพิรุธ
“อาหารเย็นเสร็จแล้วจ้า” สาวิตรียกถาดพิซซ่าออกจากไมโครเวฟมาวางบนโต๊ะ “ลงมือกันได้เลย” ไกรวิทย์กับพรรณวดีหยิบไปคนละชิ้น ส่วนสาวิตรีเดินไปสวมชุดฟิตเนสตรงประตู
“อ้าว พี่สาไม่เอาสักชิ้นเหรอ” พรรณวดีถามพี่สาวคนโต
“ไม่ล่ะจ้ะ พี่กินไปบ้างแล้ว ต้องไปฟิตเนสเอามันออกไปเสียหน่อย” พูดจบก็สวมชุดเสร็จพอดี หิ้วกระเป๋าสะพายพร้อมออกเดินทาง
“แน่ใจเหรอครับว่าจะไม่เอาสักชิ้นน่ะ” ไกรวิทย์ถามเสียงสั่นเมื่อรู้ว่าต้องอยู่กับพรรณวดีสองคน และต้องปกปิดความลับระหว่างเขากับสาวิตรีโดยไม่มีสาวิตรีคอยช่วยเหลือ
“ไม่ล่ะจ้ะ ไม่ต้องเป็นห่วง” สาวิตรีบุ้ยปากส่งซิกฯ ให้ไกรวิทย์รู้ว่าที่เธอพูดไปนั้นมีความหมายว่า ‘ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เธอทำได้อยู่แล้ว’
“ปล่อยพี่สาเขาไปเหอะนายวิทย์ ให้เขาเอาไขมันส่วนเกินออกไปบ้างก็ดีเหมือนกัน” พรรณวดีพูดแบบหยิกแกมหยอกพี่สาวคนโต
ไม่นานนัก สาวิตรีก็ออกไปนอกบ้านทิ้งให้พรรณวดีอยู่กับไกรวิทย์เพียงลำพังที่โต๊ะอาหาร ไกรวิทย์ออกอาการกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด “ไงจ๊ะ วันนี้สนุกไหม?” พรรณวดีถาม
“ก็ดีครับ” ไกรวิทย์พยักหน้า
“แล้ววันนี้เธอทำอะไรบ้างล่ะ”
“ก็ไม่มีอะไรมากครับ”
“เธอเข้าไปทำอะไรในห้องพี่สา?”
“เอ่อ...คือว่า..พี่สาเขาจะให้ผมดูอะไรตรงถนนน่ะครับ”
“บนถนนเหรอ อ้อ อะไรล่ะ?”
“อะไรน่ะอะไรเหรอครับ?”
“ก็อะไรที่มันอยู่บนถนนที่พี่สาเขาอยากให้เธอดูน่ะ”
“เอ่อ ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมคิดว่า เอ้อ พี่สาเขาบอกว่ามีคนชกกันแต่พอผมไปดูเขาก็เลิกชกกันไปแล้ว”
“คนชกกัน?”
ไกรวิทย์พยักหน้า
“พี่ไม่ยักเห็นใครอยู่บนถนนตอนกลับมาถึงบ้าน”
“ผม เอ้อ ไม่รู้ อ้า ไม่รู้สิครับ”
“เลิกโกหกได้แล้วนายวิทย์ เธอน่ะโกหกไม่เก่งเอาซะเลยนะ” พรรณวดีพูดตรง ๆ จ้องเขม็งไปที่น้องชายที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนเก้าอี้
“หมายความว่าไงครับ ผมไม่ได้โกหกนะพี่พรรณ จริง ๆ นะครับเชื่อผมเถอะ” ไกรวิทย์ระล่ำระลักตอบ
“เธอกำลังโกหกพี่ ไม่ต้องมาปฏิเสธเลย” พรรณวดีบอกกับน้องชายที่เห็นชัด ๆ ว่ากำลังโกหกเพื่อเอาตัวรอดไปแบบน้ำขุ่น ๆไกรวิทย์ทนแรงกดดันต่อไปไม่ไหว เขาวิ่งขึ้นบันไดไปที่ห้องตัวเองแล้วปิดประตูดังโครม จากนั้นก็กระโจนขึ้นไปบนเตียงซุกหัวลงกับหมอน พรรณวดีเปิดประตูเดินเข้าไปในห้อง เธออดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเขานอนคว่ำหน้าซุกกับหมอน เธอเดินช้า ๆ เข้าไปหาเขา วางมือลงบนหลังขาอ่อนแล้วออกแรงบีบ หัวของไกรวิทย์สะบัดออกจากหมอนแล้วหันไปมองพี่สาวที่กำลังยิ้มให้เขาอย่าง อ่อนหวาน
“ไม่ต้องกลัวหรอกนายวิทย์ พี่รู้ว่าเธอไปทำอะไรมาและอยากบอกให้เธอรู้ว่าพี่ไม่คิดว่ามันเสียหายอะไร” พรรณวดีบีบนวดขาอ่อนเขาต่อ
“โอ๊ยพี่พรรณ ผมขอโทษครับ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ก็พี่บอกเธอแล้วไงว่าพี่ไม่สนเรื่องระหว่างเธอกับยัยนุช”
“ว่าไงนะ ผมกับพี่นุชเหรอ ไม่ใช่หรอกครับ” ไกรวิทย์ส่ายหน้า “ผมกะพี่สาตะหากล่ะ”
“เธอกับพี่สางั้นเหรอ! ตายจริง พี่คิดว่าเธอแอบไปมีอะไรกับยัยนุชแล้วถูกพี่สาจับได้ซะอีก” พรรณวดีตกใจมากกับคำสารภาพของน้องชาย
“แล้วทำไมพี่พรรณถึงคิดว่าเป็นผมกับพี่นุชล่ะ?”
“ก็ยัยนุชชมเธอให้พี่ฟังออกบ่อย ว่าเธอน่ารักบ้างล่ะ โตเป็นหนุ่มแล้วหล่อบ้างล่ะ สารพัดจะชื่นชมเธอ พี่ก็เลยเดาเอาว่าเป็นยัยนุชตอนที่ได้กลิ่นในห้องพี่สา คิดว่ายัยนุชกลับมากินข้าวเย็นที่บ้านแล้วเธอสองคนก็…แต่กลับเป็นเธอกับพี่ สา...” พรรณวดียังทำใจไม่ได้
“ขอโทษครับพี่พรรณ ผมไม่น่าทำให้พี่เสียใจเลยครับ” ไกรวิทย์ขอโทษพี่สาวอีกครั้ง
“ไม่ต้องขอโทษพี่หรอก วิทย์” พรรณวดีลุกขึ้นจากเตียง ไกรวิทย์รีบลุกขึ้นแล้วขยับไปชิดหลังพี่สาวเพื่อจะได้อธิบายเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้น “พี่พรรณครับ ผมเสียใจที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นแต่..อือม์ม์ม์...” คำพูดของไกรวิทย์ขาดหายไปเมื่อริมฝีปากของพรรณวดีปิดปากเขาเสียสนิท ลิ้นอุ่นนุ่มของเธอตวัดรัดพันกับลิ้นของเขาแล้วควานไปรอบ ๆ โพรงปาก
“นี่พี่ทำอะไรผมน่ะ?” ไกรวิทย์โพล่งออกมาเมื่อพรรณวดีถอนริมฝีปากออกแล้วสบตาเขายิ้ม ๆ
“ถ้าเธอไม่รู้ว่านี่คือการจูบ เธอกับพี่สาคงไปไม่ถึงไหนกันละมั้ง” เธอโอบแขนรอบคอน้องชายเบียดบดตัวเองเข้ากับตัวเขา
“แล้วพี่จะทำอะไรผม” ไกรวิทย์ถามเสียงสั่น
“ก็ทำในสิ่งที่พี่อยากทำมานานแล้วไงล่ะ แล้วเธอล่ะ” พรรณวดีถามน้องชายก่อนที่จะจูบไซ้ซอกคอแล้วเสียดสีหน้าอกกับตัวเขา
“อูยย์ พี่พรรณ ผมเองก็อยากทำแบบนี้มานานแล้วเหมือนกันแต่ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะเป็นจริงขึ้น มาได้” ไกรวิทย์สารภาพในขณะที่พี่สาวเริ่มบดบี้หัวนมกับแผงอกเขา ปอยผมดำขลับของเธอเขี่ยไปมาที่คอเขา
“พี่ว่าเธอก็ไม่เคยคิดว่าจะได้เอาพี่สาเหมือนกันแหละ แต่สุดท้ายก็ได้เย็ดพี่เขาจนได้นะพ่อตัวดี” พรรณวดีเลียซอกคอเขาเบา ๆ ทำให้พ่อน้องชายตัวดีถึงกับครางออกมา
ไกรวิทย์แลกจูบกับพี่สาวคนสวยอย่างเร่าร้อน ต่างฝ่ายต่างส่งลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงปากของกันและกัน พรรณวดียื่นมือลงไปจับชายเสื้อยืดของตัวเองแล้วรูดมันออกไปทางศีรษะจนต้อง ถอนจูบแป๊บหนึ่งก่อนจะกลับมาประกบปากกันอีกครั้ง ไกรวิทย์ทำตามพี่สาวโดยถอดเสื้อยืดออกด้วยวิธีเดียวกัน ทั้งคู่ถอดกางเกงยีนส์ต่อไปจนเหลือแต่ชุดชั้นใน พรรณวดีสวมกางเกงในผ้าฝ้ายสีชมพูกับยกทรงสีเดียวกัน ไกรวิทย์สวมกางเกงนักมวยที่กำลังโป่งนูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พรรณวดีเป็นคนลงมือก่อน เธอดันน้องชายให้เอนลงไปบนเตียงแต่ตัวเองไม่ได้ตามขึ้นไปทันที เธอกลับเดินวนไปที่หัวเตียงแล้วก้มลงจูบน้องชายอย่างนุ่มนวลในท่ากลับหัว แล้วค่อย ๆ เลื่อนตัวไปข้างหน้าลากลิ้นเรื่อยไปตามแผงอกและหน้าท้องน้องชายจนในที่สุดใบ หน้าเธอก็ไปหยุดอยู่ตรงกางเกงในที่โป่งนูนขึ้นมา พรรณวดีเริ่มลงลิ้นและพรมจูบท่อนเอ็นของน้องชายผ่านเนื้อผ้าบางเบาที่กั้น อยู่
เนินสวาทของเธอที่มีกางเกงในตัวน้อยปิดอยู่ก็ลอยอยู่ตรงหน้าไกรวิทย์พอดี ซึ่งเขาก็ไม่รอช้าที่จะสูดดมความหอมหวนของหีพี่สาวผ่านเนื้อผ้าฝ้ายที่เปียก ชุ่ม กลิ่นนั้นทำให้ควยเขากระตุกยึก ๆ ในขณะที่พี่สาวกำลังบรรเลงเพลงชิวหา ไกรวิทย์สอดมือเข้าไปใต้กางเกงในตัวน้อย บีบขยำแก้มก้นที่เด้งตึงแต่นิ่มมือ เขาประทับจูบลงบนกางเกงในตรงบริเวณที่เป็นรอยชื้น
พรรณวดีร้องครางในขณะที่เธอจูบท่อนควยเขาผ่านกางเกงนักมวยและถูไถหัวนมที่ อยู่ใต้ยกทรงกับหน้าท้องเขา ไม่นานนักเธอก็เริ่มเบื่อท่านี้และลุกขึ้นดึงมือไกรวิทย์ให้ตามเธอไป เธอลากไกรวิทย์ลงจากเตียงแล้วจัดให้เขาอยู่ข้างหลังเธอก่อนที่ตัวเธอจะนอน คว่ำหน้าลงบนเตียงแล้วห้อยเท้าไว้นอกเตียง
ไกรวิทย์ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเปล่า ๆ เขาโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วแอ่นควยที่ยังคงถูกขังอยู่ในกางเกงทิ่มตำถูไถตรง บริเวณที่เขาคิดว่าเป็นรูตูดเธอผ่านกางเกงในผ้าฝ้ายของพี่สาว พรรณวดีครางออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงท่อนควยที่ดันผ่านเนื้อกางเกงในของทั้ง คู่มาจิ้ม ๆ กด ๆ ตรงรูก้นที่ไวต่อการสัมผัสของเธอจนเธอต้องแอ่นหลัง ไกรวิทย์เริ่มจูบไซ้บริเวณไหล่และคอในขณะที่เธอบิดตัวเร่า ๆ ใต้ร่างเขา
“อาวว์ว์ ยังงั้นแหละจ้ะ....” พรรณวดีสูดปากครางกระเส่าเมื่อรับรู้สรสสัมผัสของมือน้องชายที่เลื่อนขึ้นมา ตามสีข้างมาที่ตะขอยกทรงเธอ เขาปลดขอออกอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ยกทรงตัวน้อยหล่นลงจากหน้าอกเธอไปกองอยู่ที่พื้นเตียงใต้ตัวทั้งคู่ พรรณวดีคว้ายกทรงแล้วเหวี่ยงมันออกไปในขณะที่ไกรวิทย์เริ่มนาบตัวลงมาอีก ครั้งแล้วพรมจูบไปตามไหล่ที่เปล่าเปลือยและซอกคอของเธอ
พรรณวดีเอี้ยวตัวหันไปมองข้างหลังเมื่อหล่อนรู้สึกว่าท่อนควยน้องชายถอย ห่างออกไปจากตัวเธอ เธอมองขณะที่เขาจูบไซ้ไล่เรื่อยลงไปตามแผ่นหลังขาวเนียนจนถึงก้นที่มีกางเกง ในผ้าฝ้ายปกปิดอยู่ ไกรวิทย์ไม่ลืมฝังหน้าลงบนแก้มก้นอันงอนงามแต่ละข้างก่อนที่จะไล่ต่ำลงไปตาม ขาเรียวยาวแข็งแรงของเธอ เมื่อเขาลงไปถึงปลายเท้า พรรณวดีก็พลิกตัวนอนหงาย แยกขากว้างออกแล้วยันปลายเท้ากับพื้นเตียงเพื่อให้ไกรวิทย์เข้าถึงขาอ่อนเธอ ได้สะดวก โดยไม่ต้องกระตุ้นเตือน ไกรวิทย์เริ่มจูบไซ้ด้านในของขาอ่อนข้างขวาแล้วเลื่อนขึ้นไปช้า ๆ จนถึงจุดกลางตัวที่มีกางเกงในผ้าฝ้ายปกปิดอยู่ หลังเธอแอ่นเกร็งเมื่อปากน้องชายสัมผัสกับเนื้อผ้าเปียกชุ่มที่คลุมอยู่ เหนือเม็ดละมุด ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะเข้ากับบริเวณที่ไวต่อความเสียวของเธออย่างจัง
“อาวว์ว์ โอวว์ว์ว์ จ้ะจ้ะ ดีจังเลยยยย” พรรณวดีเพ้อครวญ น้ำเมือกเสียวเธอไหลออกมาเร็วขึ้น
ไกรวิทย์ถอยตัวห่างจากพี่สาวคนสวยเพื่อให้เธอได้รูดกางเกงในตัวสวยลงไปตาม เรียวขาที่แข็งแรงก่อนที่จะเตะมันปลิวไปกองรวมกับยกทรงของเธอที่อีกด้าน หนึ่งของห้อง ในขณะนี้เธอนอนเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์ใด ๆ ปกปิดกาย หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหอบหายใจ ขาเรียวยาวแข็งแรงของเธอแนบชิดกันสนิท เธอเอียงตัวไปทางซ้ายเล็กน้อย มีเพียงไรขนกระจุกเล็ก ๆ ประดับอยู่เหนือโคกหีเธอ
ไกรวิทย์โน้มตัวลงไปหาแล้วเริ่มลงมือจูบไซ้ตามหลังไหล่เธอ มือซ้ายเขายันพื้นไว้ส่วนมือขวาก็ง่วนอยู่บนหน้าอกเธอบีบเต้างามแต่ละข้าง และบีบบี้หัวนมไปด้วย พรรณวดียกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าเขาขณะที่ทั้งคู่แลกจูบกันอย่างดุเดือด ไกรวิทย์เลื่อนมือลงไปที่หว่างขาเธอ แต่เธอหนีบขาไว้แน่น
“ไม่เอามือ ตาบ้า” พรรณวดีหัวเราะคิกเมื่อเธอดันตัวน้องชายให้กลับไปอยู่ในท่านั่งบนเตียงแล้ว ตวัดรัดขาเกี่ยวรอบตัวเขา เธอดึงกางเกงในเขาลงไปจนถึงเข่าจากนั้นไกรวิทย์ก็รับช่วงต่อโดยถีบขาขึ้น ๆ ลง ๆ จนมันหลุดออกไปจากปลายเท้าในขณะเดียวกับที่พี่สาวเขากดโคกหีที่แบะกว้างเข้า หาลำควยจนมันจมลึกเข้าไปอย่างง่ายดาย
“อาวว์ว์ ซี๊ดดดดดด” พรรณวดีครางโหยเมื่อหล่อนรับรู้รสสัมผัสของลำควยที่กำลังบุกทะลวงเข้าไปใน ตัวเธอ เมื่อมันเข้าไปจนลึกจนสุดแล้วเธอก็โยกสะโพกถอยหลังแล้วเด้งกระแทกกลับไปข้าง หน้า
“อาวว์ว์ พี่พรรณครับ โอยย ดีจังเลยครับ” ไกรวิทย์เริ่มส่งเสียงออกมาบ้างเมื่อมันส์อร่อยกับสัมผัสที่ช่องหีของพรรณ วดีบีบรัดท่อนเอ็นของเขาไว้แน่นในขณะที่เธอซอยกระเด้าหีด้วยความเร็วที่พอ เหมาะ
ท่านั่งของพรรณวดีทำให้เต้านมคู่งามของเธออยู่เหนือระดับคางน้องชายเล็กน้อย เธอก้มลงไปมองเปลือกตาที่พริ้มปิดสนิทและใบหน้าที่บิดเบี้ยวแล้วเธอก็ปิ๊งไอ เดียขึ้นมา เธอใช้ขาดันตัวขึ้นมาจนเต้าอวบตรงกับใบหน้าไกรวิทย์แล้วเริ่มเสนอหน้าอกกับ ริมฝีปากเขา ปากเธอก็พรมจูบที่กลางศีรษะเขา
ไกรวิทย์รู้สึกเหมือนได้ล่องลอยขึ้นสวรรค์ เต้านมอวบอิ่มและยอดถันของพี่สาวเด้งดึ๋งอยู่ข้างหน้า ผมเธอหล่นมาปรกลงมาบนใบหน้าเขาทำให้รู้สึกจั๊กกระจี้ ช่องหีเธอบีบรัดควยเขาแน่นอย่างเหลือเชื่อแถมยังบดขยี้สะโพกกับตัวเขาแบบไม่ ปราณีปราศรัย
พรรณวดีถอยห่างจากใบหน้าเขาแล้วเอนตัวไปข้างหลังโดยใช้แขนยึดตัวเขาไว้ เธอยิ้มให้กับน้องชายที่เงยหน้ามองหน้าเธอในขณะที่เธอเด้งสะโพกเข้าใส่ท่อน ควยเขาอย่างไม่หยุดยั้ง เธอผวาตัวไปข้างหน้าแล้วแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ลิ้นตวัดรัดพันตูกัน พรรณวดีหวีดร้องเข้าไปในโพรงปากน้องชายเมื่อเธอถึงจุดสุดยอดที่รุนแรงและไม่ คาดคิดมาก่อน เธอถอนริมผีปากออกในขณะที่น้ำรักเธอไหลรินอาบลำควยน้องชาย เธอล้มตัวไปข้างหน้า ฟุบตัวลงทางซ้ายของน้องชาย แขนเธอพาดอยู่บนไหล่ขวาเขา เธอหอบหายใจฮั่ก ๆ หมดแรงที่จะเด้งต่อ เธอจูบใบหูไกรวิทย์แล้วกระซิบ “ถึงคราวเธอต้องออกแรงบ้างแล้วนะ”
ไกรวิทย์เข้าใจดีว่าเธอหมายถึงอะไร เขาวางมือบนแผ่นหลังเธอและเธอก็ช่วยดึงตัวเองขึ้นไปบนไหล่เขา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน เขาอุ้มเธอเหมือนเด็กทารกโดยให้เธอเอนตัวไปข้างหลัง ท่อนควยเขายังคาอยู่ในหีเธอตลอดเวลาที่เปลี่ยนท่า เมื่อเข้าที่เข้าทางดีแล้ว พรรณวดีก็ตวัดรัดขาเกี่ยวรอบเอวเขาแล้วรอให้เขากระเด้าเย็ดเธอ ซึ่งเธอก็รอไม่นานนัก
ไกรวิทย์เด้งสะโพกไปข้างหน้าเต็มแรงอัดกระแทกลำควยเข้าไปในตัวพี่สาวคนสวยที เดียวมิดโคน ทำให้เธอถึงกับครางอ๋อยด้วยความลึกของการกระเด้า ไกรวิทย์คงจังหวะความยาวของการสาวกระเด้าไว้ โดยเขาดึงท่อนควยออกมาจนถึงหัวหยักแล้วก็กระเด้าไปข้างหน้าทีเดียวจนมิดกั่น พรรณวดีร้องลั่นห้องเมื่อไกรวิทย์จูบไซ้เต้านมคู่งามและใช้มือมือที่ชื้น เหงื่อลูบผมเธอ เขายื่นหน้าเข้าไปแลกจูบกับเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแอ่นหลังแล้วอัดกระแทก ท่อนควยเข้าไปในหีพี่สาวจนลึกที่สุดเท่าที่เขาจะได้ “โอ๊ย พี่พรรณครับ น้ำผมกำลังจะแตกแล้วครับ” เขาตะโกนลั่นเมื่อรู้สึกลูกกระโปกหดตัวและน้ำอสุจิพุ่งกระฉูดออกจากควยเขา อย่างมากมายเคลือบผนังโพรงหลืบของพี่สาว
ทั้งคู่หมดแรง นอนกอดก่ายในอ้อมแขนกันและกันอยู่บนเตียงของไกรวิทย์ พรรณวดีปัดปอยผมจากใบหน้าเธอและยิ้มให้กับน้องชายตัวดีที่ยิ้มตอบก่อนจะปิด เปลือกตาลงแล้ววางศีรษะบนไหล่เธอ “วิทย์จ๋า พี่รักเธอ” พรรณวดีกระซิบ จูบเบา ๆ ที่ศีรษะแล้วค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง ปล่อยให้เขานอนซุกหมอนแทน เธอเดินกลับไปอาบน้ำชำระร่างกายที่ห้องตัวเองและรู้ว่าชีวิตของเธอได้ เปลี่ยนไปแล้ว แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
ไกรวิทย์สะดุ้งตื่นตอนสาวิตรีนั่งลงข้างเขาบนเตียง เขาหลับสนิทในสภาพเปลือยเปล่ามา 4 ชั่วโมงตั้งแต่ได้ร่วมรักกับพรรณวดีพี่สาวคนสวย
“พ่อน้องชายตัวดี เธอทำอะไรหลังพี่ออกไปข้างนอก หือ” สาวิตรีถามอย่างเอ็นดู พร้อมกับนวดไหล่เขาเบา ๆ
ไกรวิทย์ส่งยิ้มให้ เขายังคงอ่อนเพลียจากการร่วมรักอย่างดุเดือดเมื่อหลายชั่วโมงก่อน “ไม่มีอะไรนี่ครับ” เขาตอบพี่สาวคนโตสุดเซ็กซี่ยิ้ม ๆ
“อ้อ งั้นที่ยัยพรรณมาเม้ากับพี่ว่าเธอสองคนได้เอากันมันส์หยดน่ะคงเป็นเรื่องโกหกน่ะสิ” เธอดุนตัวเขาอย่างขี้เล่น
“โอ๊ย พี่พรรณบอกพี่สาเหรอครับเนี่ย” ไกรวิทย์พรวดพราดลุกขึ้นนั่ง
สาวิตรีพยักหน้าตอบคำถามของน้องชาย
“ขอโทษจริง ๆ ครับพี่สา ผมไม่อยากให้เรื่องระหว่างเรามีปัญหาเลยจริง ๆ” ไกรวิทย์พูดกระสับกระส่าย
“ไม่เป็นไรจ้ะวิทย์ พี่ไม่ได้ว่าอะไร ตอนยัยพรรณบอกเรื่องนี้กับพี่ ดูเธอมีความสุขมาก พี่ก็เช่นกัน” สาวิตรีลูบแขนน้องชายด้วยความรักใคร่
ไกรวิทย์ค่อยยิ้มออกมาอย่างโล่งอกที่พี่สาวคนโตไม่ได้โกรธที่เขานอกใจไปมี ความสัมพันธ์กับพี่สาวคนอื่น เฮ้อ ชีวิตเรานี่มันช่างวุ่นวายสับสนเสียเหลือเกิน เขารำพึงรำพันในใจเมื่อคิดถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน
“เอาล่ะ พี่ว่าตอนนี้เธอน่าจะหลับต่ออีกสักหน่อย พี่จะบอกคนอื่น ๆ ว่าเธอไม่ค่อยสบายอยากนอน จะได้ไม่มีใครมารบกวน ดูเธอเหนื่อยเอามาก ๆ นะ” สาวิตรีจูบหน้าผากไกรวิทย์แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้ เขาผล็อยหลับไปตั้งแต่ตอนที่สาวิตรีจับผ้าห่ม เธอยิ้มแล้วเดินออกไปจากห้อง หันมาส่งจูบให้เขาก่อนจะปิดประตู
ไกรวิทย์ตื่นขึ้นมาตอน 9 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้เขาต้องหรี่ตามองหาเสื้อผ้า จนในที่สุดก็เจอเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์สีซีด หลังจากใส่เสื้อผ้าแล้วก็เดินลงมาชั้นล่าง
“อรุณสวัสดิ์จ้ะวิทย์ เช้านี้เป็นไงบ้าง” ภาวิณีพี่สาวคนสุดท้องนี่เอง
“ก็.. ก็ดีอยู่ครับ” ไกรวิทย์นั่งลงที่โต๊ะ “คนอื่น ๆ ไปไหนกันหมดล่ะครับ”
“อ๋อ แม่ พี่วิ พี่พรรณ พี่นุชไปทำงาน พี่ดาไปมหา’ลัย ส่วนพี่สาบอกว่ามีธุระที่ไหนก็ไม่รู้ เห็นบอกว่าจะกลับมาตอนค่ำ ๆ” ภาวิณีบอกน้องชายขณะที่เธอหยิบชามและกล่องคอร์นเฟลกส่งให้น้องชาย
“ขอบคุณครับพี่ภา” เขาเริ่มเตรียมอาหารเช้าของตัวเอง ภาวิณียกนมสดมาให้ เธอวางมันลงบนโต๊ะข้าง ๆ ไกรวิทย์ “ขอบคุณครับ” เขาคว้าขวดนมแล้วเทลงไปในชามแบบไม่ยั้ง
ภาวิณียิ้มตอบ “ไม่เป็นไรจ้ะ น้องชายคนดีของพี่ สำหรับเธอ แค่นี้เรื่องเล็ก” เธอนวดหลังให้เขา ตาเธอเป็นประกาย เปลือกตาสั่นระริก แต่น่าเสียดายที่ไกรวิทย์มองไม่เห็น
“ทำไมวันนี้พี่ภาอยู่บ้านล่ะครับ” ไกรวิทย์ถามพี่สาว สวาปามอาหารเช้าไปด้วย
“วันนี้พี่ไม่มีเล็กเช่อร์ ทางมหา’ลัยเขามีปัญหาในการสอนวิชานี้ก็เลยงด ทำไมเหรอ”
“เปล่าครับ แค่สงสัยเฉย ๆ ไม่มีอะไรหรอก” เหตุผลจริง ๆ ก็คือ เขาหวังจะได้มีโอกาสงาม ๆ กับสาวิตรีหรือพรรณวดี แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะภาวิณีอยู่บ้านคนอื่น ๆ ออกไปข้างนอกกันหมด
“อือม์ แล้ววันนี้เธอมีแผนทำอะไรหรือเปล่า” ภาวิณีถาม มือก็ปัดปอยผมเล่น
“เอ่อ อืม ก็คงเหมือนเคยแหละครับ นั่งย่อยอาหารสักพัก แล้วทำงานบ้าน แล้วก็นั่งพักเหนื่อย” ไกรวิทย์สาธยายชีวิตประจำวันให้พี่สาวฟัง
“ไม่เอาน่าวิทย์ ข้างนอกอากาศดีออก ไปทำอะไรนอกบ้านกันดีกว่าน่า” เธอชี้ไปนอกหน้าต่าง แสงแดดจ้า ท้องฟ้าไร้เมฆ
“ไม่ล่ะครับ” ไกรวิทย์พูดหงอย ๆ
“ไม่รู้ล่ะพี่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ในบ้านอบอ้าวจะตายไป พี่ว่าจะออกไปอาบแดดซะหน่อย เธอจะอาบแดดกับพี่ด้วยก็ได้นะ” ภาวิณีเอื้อมข้ามไหล่ไกรวิทย์ไปหยิบชามที่ว่างเปล่าแล้วเอาไปวางที่ซิงค์น้ำ
นี่พี่ภากำลังให้ท่าเรารึเปล่าเนี่ย ไกรวิทย์คิดในใจขณะมองตามพี่สาวที่เดินไปที่บันได เธอเหลียวหลังมามองแล้วยิ้มอย่างน่ารักเมื่อเห็นไกรวิทย์มองตาม
ไกรวิทย์ใจหายวาบมือเท้าเย็นวูบเมื่อเห็นภาวิณีเดินกลับลงมาในชุดบิกินี่ เนื้อผ้าสีส้มของบิกินี่มันแนบเนื้อจนเหมือนกับไม่ได้ใส่อะไรเลย ภาวิณียิ้มขณะเดินผ่านพ่อน้องชายที่จ้องมองเรือนร่างเธอตาไม่กะพริบ หน้าอกเธอถึงจะไม่ใหญ่เท่ากับสาวิตรีแต่ก็ยังถือว่าอวบอิ่มน่าดูน่าภูมิใจ
ไกรวิทย์ไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะไม่เคยสังเกตเห็นว่าภาวิณีเป็นสาวน้อย ที่หวานหยาดเยิ้มเช่นนี้มาก่อน เขามองตามสะโพกที่บิดไหวไปมาขณะที่เธอเดินออกไปที่สวน แสงแดดที่สาดส่องยิ่งช่วยเน้นส่วนโค้งส่วนเว้าในร่างกายเธอให้เด่นสะดุดตา ยิ่งขึ้น ไกรวิทย์หลับตาลงแล้วสะบัดหัวแรง ๆ พยายามจะสลัดภาพพี่สาวออกไปจากสมอง แต่เพราะเธอเป็นสาวน้อยที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจชาย มันจึงยากกว่าที่คิด แถมควยเขาก็ดันคิดแบบเดียวกันซะอีก เพราะในตอนที่ภาวิณีตะโกนเรียกเขาจนสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ท่อนเอ็นของเขากำลังพยายามจะดันตัวเองออกมาจากกางเกงให้ได้
“นี่วิทย์ เธอจะมาหรือไม่มากันแน่” เสียงภาวิณีดังมาจากสวน
“เอ้อ เอาไว้ก่อนดีกว่าครับพี่ภา ตอนนี้ผมยังไม่มีอารมณ์” ไกรวิทย์ตะโกนตอบ พยายามคิดถึงเรื่องที่ไม่เจริญหูเจริญตาเพื่อลดอาการตุงที่หว่างขา
“หือ พี่บอกให้เธอมาช่วยทาครีมกันแดดให้ นี่แสดงว่าไม่ได้ฟังที่พี่พูดเลยใช่ไหม” ภาวิณีตะโกน ไกรวิทย์เพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาไม่ได้ใส่ใจฟังจริงๆ นั่นแหละ
“ได้ครับพี่ภา ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ขอเวลาแป๊บเดียว” เขาตะโกนตอบ พยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ ยาว ๆ เพื่อให้ท่อนควยอ่อนตัวลง ใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าเขาจะสามารถสลัดภาพพี่สาวสุดเซ็กซี่ออกไปจากสมองได้นาน พอที่จะทำให้ควยเขากลับสู่สภาพปกติ เมื่อเดินออกไปที่สวนก็ได้ยินเสียงพี่สาวตะโกนเรียก เขายกมือขึ้นป้องตากันแดด “มาแล้วครับ จะให้ผมทำอะไรเหรอ”
“ก็มาช่วยทาครีมกันแดดให้พี่ไงล่ะ” เธอพูดเนิบ ๆ ฉุนเฉียวที่พ่อน้องชายตัวดีไม่ได้ใส่ใจฟังที่เธอพูด
“อ๋อ เหรอครับ แล้วครีมอยู่ไหนล่ะ” ไกรวิทย์พยายามเลี่ยงไม่มองพี่สาวที่นอนหงายอยู่บนผ้าที่ปูบนพื้นหญ้า
“นั่นไง” ภาวิณีชี้ขวดเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านซ้ายของเธอห่างไปประมาณสองสามฟุต “ช่วยทาบาง ๆ ที่หลังพี่นะ”
ไกรวิทย์เดินตรงเข้าไปหยิบครีมกันแดดขึ้นมา หลังจากอ่านวิธีใช้ เขาก็เดินไปคุกเข่าลงข้างๆ ตัวพี่สาว ภาวิณีลุกขึ้นนั่งโน้มตัวไปข้างหน้า หันหลังให้ไกรวิทย์ทาได้ถนัด ๆ ตอนที่เธอลุกขึ้นนั่ง ปทุมถันคู่งามทิ้งตัวลงมาสั่นกระเพื่อม มันช่างงามตระการตาเสียนี่กระไร เต้านมเต่งตึงคัพ DD คลุมด้วยเนื้อผ้าสีส้มเบาบางของบิกินี่ ยอดถันดันตัวใต้เนื้อผ้าดึงดูดความสนใจ สายตาไกรวิทย์ถูกเต้าอวบที่กำลังไหวกระเพื่อมของพี่สาวดึงดูดไว้เสียแล้ว เขานั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ โดยไม่สามารถละสายตาไปจากเรือนกายอันน่าพิศวงนั้นได้


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #3 on: January 07, 2010, 09:30:23 AM
ภาวิณีเอี้ยว ตัวกลับไปก็เห็นน้องชายตัวดีกำลังมองสำรวจเรือนร่างของเธอ เธอยิ้มด้วยใบหน้าที่แดงซ่านอย่างเขินอายที่ถูกจ้องมองปานจะกลืนกิน โดยปกติแล้วภาวิณีเป็นคนขี้อาย เธอไม่ชอบให้ใครมาจ้องมองหรือเข้ามาทำก้อร่อก้อติกกับเธอ ก็เลยไม่คุ้นเคยกับการถูกจ้องตรง ๆ แบบนี้
ไกรวิทย์หน้าแดงด้วยความอายที่ถูกจับได้ว่าจ้องมองเรือนร่างของพี่สาว “ทาได้หรือยังครับ” ไกรวิทย์ถามพร้อมกับเทครีมลงในมือ
“จ้ะ” ภาวิณียิ้มแบบไม่ค่อยแน่ใจในตัวเอง
ไกรวิทย์ถูมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันเพื่อให้เนื้อครีมกระจายทั่วฝ่ามือแล้ว วางมือลงบนหลังของพี่สาวผู้น่ารัก เขาเริ่มนวดครีมลงบนไหล่ ภาวิณีก้มหัวและแยกผมที่ปรกคอออกเพื่อให้ไกรวิทย์สามารถทาครีมบนหลังคอเธอ ได้ถนัด เขานวดไล่จากไหล่ที่ขาวเนียนขึ้นไปยังลำคอก่อนจะลากมือลงไปตามร่องกลางหลัง
“โอววว” เธอครางออกมาเมื่อรู้สึกว่ามือน้องชายกำลังนวดหลังเธอเน้น ๆ ภาวิณีเอื้อมไปข้างหลัง ดึงมือเขามาวางบนหน้าท้องที่เนียนเรียบของเธอ “ช่วยทาตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ”
ไกรวิทย์พยักหน้าแล้วเริ่มลงมือนวดหน้าท้องพี่สาว ภาวิณีครางออกมาอีกครั้ง
อารมณ์ของไกรวิทย์เริ่มคุโชนขึ้นมาอีกเมื่อได้ยินพี่สาวครวญคราง มือเขาเริ่มเคลื่อนตัวเข้าใกล้เต้านมของเธอด้วยความลืมตัว แต่เขาก็หยุดมือเมื่อสัมผัสกับปทุมถันของภาวิณี
ภาวิณีแหงนหน้าร้องครางออกมาด้วยความสุขเมื่อมือน้องชายสัมผัสเต้าอวบของเธอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกมือชายสัมผัสลูบไล้ ในวันคล้ายวันเกิดครบ 18 ปี เธอเคยยอมให้เพื่อนชายลูบคลำหน้าอกเธอนอกบราตอนที่อยู่ในรถหลังงานเลี้ยงวัน เกิด เขาเกิดอารมณ์อยากจะร่วมรักกับเธอ แต่เนื่องจากเธอเป็นคนขี้อายและไม่เคยมีประสบการณ์ทำนองนี้มาก่อนพอเขาถอด บราออกแล้วเริ่มบรรเลงเพลงจูบ เธอก็ตกใจกลัวจนผลักเขาออก ในตอนนั้นดูเขาไม่ค่อยพอใจนัก แต่ภาวิณีก็ขอเจรจาต่อรองโดยเธอจะดูดควยให้เขาแต่จะไม่ให้ทำมากไปกว่านั้น เขาตอบตกลงและเธอก็พยายามดูดควยให้ดีที่สุดแม้ว่าใจจริงจะไม่อยากทำก็ตาม เขากดหัวเธอไว้แน่นในขณะที่น้ำควยแตกทะลักไหลลงคอเธอจนเธอสำลักและต้องกลืน มันลงไป ถัดจากนั้นอีกสองสามวัน เขาก็บอกเลิกกับเธอโดยบอกเหตุผลว่าเขาพบคนใหม่ที่ยอมทำตามใจเขาทุกอย่าง ในตอนนั้นภาวิณีเสียใจมากแต่ก็ทำใจได้ในที่สุด ณ.เวลานี้ น้องชายแท้ ๆ ของเธอกำลังสัมผัสเต้านมเธอ แม้ว่าเจตนาจะไม่เหมือนกัน แต่มันก็เป็นสัมผัสที่เธอชอบอยู่ดี
ไกรวิทย์ลูบมือที่เปรอะครีมกันแดดไปทั่วปทุมถันคู่งาม ทิ้งรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ไว้บนเนื้อผ้าเบาบางที่ปกปิดกายเธอ เขารู้สึกได้ถึงยอดถันที่เริ่มแข็งตัวสู้มือเขาในขณะที่พี่สาวคนงามสูดปาก ครางกระเส่า พอรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ เขาก็รีบชักมือกลับทันที เขาอยากจะลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปเดี๋ยวนั้นเลย แต่สภาพควยเขาในตอนนี้มันไม่เอื้ออำนวยให้ทำเช่นนั้นได้ เพราะถ้าเขาลุกขึ้นยืน ภาวิณีก็คงเห็นควยเขาตุงกางเกงและคงรู้ว่าเขาก็กำลังรู้สึกแบบเดียวกับเธอ
ภาวิณีหันไปมองน้องชาย เขาหลบหน้าเธอด้วยความรู้สึกผิดส่วนเธอเองก็ยิ้มอย่างเคอะเขินแล้วขบริม ฝีปากล่างของตัวเอง ไกรวิทย์หันกลับไปมองจ้องตาเธอตรง ๆ เตรียมจะขออภัยในสิ่งที่ทำลงไปก็พอดีกับที่ภาวิณีโน้มตัวไปข้างหน้าวางมือบน ไหล่แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากเขา
ดวงตาของไกรวิทย์เบิกกว้างเมื่อเขาถูกพี่สาวจุมพิตอย่างนุ่มนวลโดยมีเพียง ริมฝีปากสัมผัสกันเท่านั้น ไม่มีการใช้ลิ้น เขารู้ว่าพี่สาวคนนี้ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นักและไม่ค่อย (หรือไม่เคย) มีประสบการณ์ด้านนี้กับใครมาก่อน ดังนั้นเขาจึงประหลาดใจที่เธอกล้าทำแบบนี้แต่ก็ไม่กล้าจะรุกเร้าเธอให้มาก เกินไป ตัวเขาเองก็ยังตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ไกรวิทย์วิ่งตัวงอไปที่ห้องนั่งเล่น ไม่อยากให้เธอเห็นรอยตุงที่กางเกงเขา เขาค่อยหายตกใจไปบ้างแล้วแต่ก็ยังกลัวใจตัวเองจนไม่กล้าอยู่ข้างนอกสองต่อ สองกับภาวิณี แต่ครู่เดียวเธอก็ตามเขาเข้ามาในบ้าน
ไกรวิทย์มองไปทางประตูก็เห็นเรือนร่างอันอวบอัดเซ็กซี่ของภาวิณีเดินตรงเข้า มาหา สะโพกเธอบิดส่ายไปมา ส่วนหน้าอกก็สั่นกระเพื่อมเล็กน้อยขณะเดิน “วิทย์ พี่ขอโทษ” ภาวิณีเอ่ยปากขณะที่นั่งลงข้างน้องชายบนโซฟา
“ผมตะหากที่ต้องขอโทษพี่” ไกรวิทย์เบือนหน้าหนี
เธอยิ้มอย่างเขินอาย “วิทย์ พี่ชอบเธอมาก รู้ไหม” คำถามนี้ทำให้ไกรวิทย์ต้องหันขวับกลับมา
นี่เธอบอกว่าชอบเขาหรือนี่ ภาวิณีสาวน้อยผู้ขี้อายสารภาพว่าเธอชอบน้องชายตัวเองหรือนี่ “ผม...ผมก็ชอบพี่ครับ” เขาตอบเสียงแผ่วเบาเมื่อเห็นภาวิณียื่นใบหน้าเข้ามาใกล้
เขารู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดอันมหาศาลลากเขาเข้าไปหาพี่สาว ริมฝีปากทั้งคู่สัมผัสกันอีกครั้งและเช่นเดียวกับครั้งก่อน ไม่มีการใช้ลิ้น ไกรวิทย์เองอยากจะใช้ลิ้นแต่เกรงว่าภาวิณีจะไม่ชอบ เขาต้องการให้ภาวิณีมีความสุขโดยทำแต่สิ่งที่เธอปรารถนาและไม่เร่งรัดเธอมาก เกินไป
ภาวิณีก็กำลังคิดแบบเดียวกัน เธอเองก็กลัวในสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่แต่ก็อยากเอาชนะมันให้ได้เพื่อทำให้ น้องชายมีความสุข เธอค่อย ๆ เผยอริมฝีปากออก ยื่นลิ้นไปเลียริมฝีปากไกรวิทย์จนเปียกไปด้วยน้ำลาย
ไกรวิทย์ตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็ตอบสนองต่อการกระทำของเธอ ลิ้นของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างแผ่วเบาในตอนแรกแต่สักพักก็ตวัดรัดพันกัน นัวเนียและยื่นเข้าไปสำรวจทุกซอกทุกมุมในโพรงปากของกันและกัน
ภาวิณีขยับเข้าไปใกล้ตัวน้องชายยิ่งขึ้นไปอีก เธอยกขาทั้งสองข้างพาดขาเขาแล้วเลื่อนตัวไปข้างหน้าจนตัวเธอนั่งอยู่บนตัก เขา เธอยิ้มให้ไกรวิทย์และยึดไหล่เขาไว้ในขณะที่เขายื่นแขนไปที่หลังเธอหาปมสาย รัดบิกินี่
เขาหามันเจอโดยไม่ยากนักและด้วยการใช้นิ้วอย่างรวดเร็วก็สามารถแกะปมออกได้ ภาวิณีมองเห็นผ้าสีส้มของบิกินี่ส่วนบนพลิ้วหล่นลงไปจากหน้าอกเธอ โชว์ปทุมถันที่กระเพื่อมขึ้นลงตามการหายใจแก่น้องชายที่ตื่นตะลึกกับภาพที่ เห็น ภาวิณีอดยิ้มอีกครั้งไม่ได้เมื่อเห็นน้องชายเธอจ้องมองปทุมถันอันอวบอิ่มของ เธอ เมื่อคิดว่าให้เขาดูจนพอแล้ว เธอก็สวมกอดคอเขาแล้วเริ่มบรรเลงเพลงจูบอย่างเร่าร้อน
ไกรวิทย์ยังสวมเสื้อผ้าอยู่ในขณะที่พี่สาวที่ครึ่งเปลือยเริ่มบดเบียดเสียด สีเต้านมที่ไม่มีสิ่งใดปกปิดกับหน้าอกเขา เนื้อผ้าของเสื้อยืดเสียดสีหัวนมที่ไวต่อการสัมผัสของเธอจนเธอเจ็บ เธอเอนกายถอยออกมาแล้วจับชายเสื้อยืดของเขาดึงขึ้นข้างบน ไกรวิทย์ยกแขนช่วยอำนวยความสะดวกให้ภาวิณีดึงมันออกไปทางหัวเขา เธอหันกลับไปมองน้องชายที่เปลือยร่างท่อนบนอย่างพอใจที่ตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็ เปลือยหน้าอกเหมือนกัน ความอายของเธอยิ่งนานยิ่งลดน้อยลงเมื่อความปรารถนาในตัวน้องชายเพิ่มมากขึ้น
ไกรวิทย์รู้สึกมือพี่สาวยื่นลงไปถอดตะขอกางเกงยีนส์ก่อนที่จะจูบเขาอีกครั้ง หนึ่ง ทั้งคู่แลกจูบกันมาพักใหญ่จนไกรวิทย์รุ่มร้อนกระหายใคร่จะเย็ดพี่สาวยิ่ง ขึ้น เธอช่างยั่วยวนอารมณ์เสียจนน้ำเขาแทบจะแตกเสียให้ได้ตรงนั้น ภาวิณีก็รู้สึกเช่นเดียวกันและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเมื่อน้องชายดันตัว เธอให้เอนลงบนโซฟาโดยภาวิณีนอนหงายและน้องชายแทรกตัวอยู่ระหว่างขาเธอ ระหว่างพวกเขามีเพียงบิกินี่ชิ้นล่างและกางเกงชกมวยกั้นขวางอยู่เท่านั้น
ไกรวิทย์ยิ่งเงี่ยนหนักขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาและภาวิณีแลกจูบกันอย่างเร่าร้อน เขายื่นมือไปบีบบี้หัวนมเธอก่อนที่จะเลื่อนมือลงไปตามขาอ่อนแล้วอ้อมไปหลัง เอวจนพร้อมที่จะถอดบิกินี่ชิ้นล่างเธอและปลดปล่อยท่อนควยเขาให้เป็นอิสระ
ภาวิณีเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาอีกครั้ง มันเหมือนกับในเหตุการณ์วันเกิดครบ 18 ปีของเธอกับแฟน ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นย้อนกลับมาอีกครั้งจนความกลัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ “อื้อออ…วิทย์ อย่า...ไม่...วิทย์...ไม่เอา!” เธอตะโกนพร้อมกับผลักไหล่ไกรวิทย์
“อุ๊บ พี่ภาครับ ผมขอโทษ” เขารีบขอโทษขอโพยเธอแล้วดันตัวเองออกให้เธอลุกขึ้นนั่ง
“พี่..พี่ขอโทษ...ขอโทษจริง ๆ จ้ะ” เธอพูดสะอึกสะอื้น
“ไม่เป็นไรครับพี่ภา ไม่เป็นไรจริง ๆ” ไกรวิทย์พยายามปลอบพี่สาว
“พี่...พี่ก็ต้องการเธอนะ แต่ตอนนี้พี่ยังทำใจไม่ได้” เธอกลั้นน้ำตาพูดเมื่อมองไปทางน้องชายที่พยายามปกปิดความผิดหวังด้วยรอยยิ้ม “ว้าว…มันเป็นแบบนี้เพราะพี่เหรอ” ภาวิณีจ้องเขม็งแล้วยื่นมือไปจับควยเขาที่ซ่อนอยู่ในกางเกงชกมวย
เธออาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการเย็ดแต่เธอรู้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เธอสามารถทำให้ เขาได้ เช่นเดียวกับที่ทำให้แฟนเธอ “ให้พี่จัดการมันเองนะจ๊ะ” เธอจุมพิตหน้าอกน้องชาย แล้วค่อย ๆ เคลื่อนลงมายังหน้าท้องก่อนที่จะบรรจงจูบผ้าที่คลุมท่อนควยเขาอยู่
ไกรวิทย์มองพี่สาวเขาปัดปอยผมที่ขวางอยู่ออก รูดกางเกงชกมวยลงไปจนท่อนควยเขาเด้งผึงขึ้นมาตรงหน้าเธอ
ภาวิณีเลียริมฝีปากด้วยความกระหายเมื่อเห็นท่อนลำของน้องชายกระตุกยึก ๆ อยู่เบื้องหน้า เธอเงยหน้ามองน้องชายที่หลับตาพริ้มรอความเสียวที่จะมาถึง เธอยิ้มออกมาแล้วทำตามที่เขาต้องการ โดยอ้าปากอมหัวเงี่ยงหยักและเลียหยดน้ำเสียวที่ถะถั่งออกมาจากการเล้าโลมกัน ก่อนหน้านั้น
ไกรวิทย์ครางออกมาเมื่อรู้สึกปากของพี่สาวคนสวยค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงไปตามท่อนเอ็นของเขา ลิ้นเธอเลียเส้นสองสลึงเขาในขณะที่ริมฝีปากเธอเพิ่มแรงบีบรัดลำควยเขามาก ขึ้น ควยเขากระตุกยึกเมื่อพี่สาวเขาคายมันออกจนเหลือแต่ส่วนหัวอยู่ในปากเธอ ภาวิณีพยายามจะยิ้มทั้ง ๆ ที่ควยทั้งดุ้นยังคาอยู่ในปากแล้วเธอกดหัวลงไปอีกครั้ง พักเดียวจังหวะของเธอก็สม่ำเสมอ สะบัดคอรูดปากขึ้นลงตลอดลำควยตั้งแต่ส่วนหัวหยักจนถึงหนอกควยของน้องชาย
ทั้งภาวิณีและไกรวิทย์รู้ว่าเขาคงทนได้อีกไม่นานนักเพราะอารมณ์เขาคุโชนมา ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว เขาเริ่มรู้สึกว่าลูกกระโปกตัวเองกำลังหดรัดตัวซึ่งเป็นความรู้สึกที่ผู้ชาย ทุกคนคุ้นเคยดี ซึ่งก็หมายถึงน้ำควยเขาอาจจะแตกเมื่อไหร่ก็ได้ ภาวิณีรู้สึกว่าลำควยน้องชายเธอกระตุกวาบแล้วน้ำควยชุดแรกก็ฉีดพุ่งออกจาก ส่วนหัว เธอหวนนึกถึงตอนที่เพื่อนชายเธอกดหัวเธอไว้แน่นแล้วบังคับให้เธอกลืนน้ำควย เขาลงไป เธอยังไม่ลืมความรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อมันฉีดกระทบคอหอยเธอ มันทำให้เธอกลัวขึ้นมาจับใจแต่ด้วยความรักที่มีต่อน้องชาย เธอก็เอาชนะความรู้สึกนั้นได้ เธอหลับตาปี๋เมื่อเธอรู้สึกน้ำควยเขาพุ่งกระทบกับเพดานปากเธอและตามมาอีก หลายชุดต่อหลายชุดจนเกือบเต็มปากเธอและเธอจำเป็นต้องกลืนมันลงไป เธอรู้สึกประหลาดใจที่เธอกลับชอบรสชาติน้ำควยของน้องชายขณะที่มันไหลลงคอเธอ เธอเลียท่อนควยเขาจนสะอาดก่อนจะถอนปากออก
ตอนที่เธอใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้เขา เธอคุกเข่าข้างหน้าน้องชาย เมื่อเขาเสร็จแล้วเธอจึงลุกขึ้นมานั่งเบียดข้าง ๆ แล้วเอียงตัวนอนคว่ำพาดตัก วางคางบนหลังมือตัวเอง เธอรู้สึกได้ถึงท่อนควยเปียก ๆ ถูกท้องเธอกดอยู่
“แล้วพี่ภาล่ะครับ” ไกรวิทย์ถามพี่สาว ในใจรู้สึกผิดที่มีความสุขคนเดียว
“พี่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ” ภาวิณีพูดยิ้ม ๆ มีความสุขที่น้องชายพอใจ แต่ในความเป็นจริง เธอก็อยากระบายความอยากที่อัดอั้นอยู่เหมือนกัน
“พี่ภาอยากให้ผมทำอะไรให้ บอกผมสิครับ” ไกรวิทย์ถาม นวดคลึงก้นงอนงามของเธอไปด้วย
“ไม่ดีหรอกจ้ะ มันน่าอายออก หยุดได้แล้ว” ภาวิณีหัวเราะคิก
“น่า เชื่อมือผมเหอะ” ไกรวิทย์ไล้มือตามแผ่นหลังเธอขึ้นไปยังไหล่
ภาวิณียิ้มแล้วพลิกตัวนอนหงายบนตักเขา เธอเลื่อนตัวลงไปจนอยู่ในท่าที่สบาย ไกรวิทย์อ้าขาตัวเองกว้างออกอีกหน่อยเพื่อให้มีช่องให้ไหล่และหลังเธอลงไป ได้ หัวเธอวางบนขาอ่อนข้างซ้ายของเขาในขณะที่หลังเธอวางบนขาอ่อนข้างขวา เธอดันเต้านมคู่งามเบียดเข้าหากัน
ไกรวิทย์ยิ้มให้กับพี่สาวขณะที่เธอขยับเปลี่ยนท่า ตอนที่เธอนอนอยู่บนตักเขาเธอดูเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา นี่ถ้าเขาไม่ได้ประสบมาด้วยตัวเอง เขาคงจะไม่เชื่อว่าเจ้าหญิงน้อย ๆ คนนี้เพิ่งทำออรัลเซ็กส์ให้กับเขาไปหยก ๆ เขาเลื่อนมือซ้ายไปวางแหมะลงบนหว่างขาเธอและเริ่มลงมือนวดคลึงปากแคมผ่าน เนื้อผ้าบาง ๆ ที่กั้นขวางอยู่ ภาวิณีหลับตาปี๋เมื่อเธอรู้สึกว่ามือที่ร้อนผ่าวของเขากดเน้นกับเนินโหนกของ เธอ เขาค่อย ๆ เลื่อนมือขึ้นมาที่ขอบบิกินี่แล้วสอดปลายนิ้วเข้าไปใต้ขอบยางยืดจนสัมผัสกับ กลุ่มไรขนบาง ๆ ที่ปกคลุมอยู่เหนือเนินสวาทของภาวิณี
“อือม์ม์ม์ ... ต่ำลงไปอีกหน่อยซิจ๊ะ” ภาวิณีครวญครางเมื่อรู้สึกว่านิ้วของน้องชายไต่เข้าไปหาแคมสวรรค์ที่เปียกแฉะของเธอ
นิ้วเขาเคลื่อนต่ำลงไปอีก
“อีกนิดจ้ะ” ภาวิณีย้ำอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่านิ้วเขาใกล้จุดหมายเข้าไปอีก
มันเคลื่อนต่ำลงไปอีก
“ต่ำลงไปอีกหน่อยสิจ๊ะ” ทันใดนั้น ภาวิณีก็รู้สึกว่าปลายนิ้วของไกรวิทย์สัมผัสกับส่วนบนของปากรูหีตอนที่เธอขอร้องเขาเป็นครั้งที่สาม
ไกรวิทย์กรีดนิ้วไปมาตามรอยแยกของแคมหี โดยพยายามไม่ให้ปลายนิ้วแทรกเข้าไปในรูหีจนกว่าเธอจะอนุญาต
“อาวว์...ควานนิ้วหน่อยสิจ๊ะ” ภาวิณีหอบหายใจครางเมื่อรู้สึกว่าน้องชายดึงมือกลับขึ้นไป ไกรวิทย์ทำตามที่เธอบอกโดยเริ่มกวาดนิ้วเป็นวงเล็ก ๆ บนปากแคมแล้วค่อย ๆ เพิ่มแรงกดลงไป
ภาวิณีเริ่มครางดังขึ้นเมื่อไกรวิทย์เพิ่มความเร็วในการกดนิ้ว เขาสังเกตใบหน้าของพี่สาว เธอกำลังบดบี้หัวนมตัวเองไปด้วยในขณะที่ครวญครางดังขึ้นเรื่อย ๆ จากความเสียวที่กำลังก่อตัวเพิ่มมากขึ้นภายในตัวเธอ มันเป็นความรู้สึกแบบเดียวกันกับตอนที่เธอช่วยตัวเองเป็นครั้งแรกและครั้ง สุดท้ายเมื่อสองสามปีก่อน ในตอนนั้นเธอกลัวมากและในตอนนี้ก็เช่นกัน
“โอ๊ยยยย อ๊าว์ว์ว์ หยุดได้แล้ว” ภาวิณีตะโกนอย่างหวาดกลัวในขณะที่สะบัดตัวลุกขึ้นนั่ง ไกรวิทย์รีบดึงมือกลับและภาวิณีก็ขยับถอยห่างจากเขาไปนั่งอยู่ที่ปลายโซฟา ด้านตรงข้าม “พี่ขอโทษ ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก” ภาวิณีบอกน้องชายหลังจากพอจะสงบสติอารมณ์ลงได้
“ไม่ต้องกลัวครับพี่ภา ความรู้สึกแบบนั้นมันเป็นเรื่องปกติ” ไกรวิทย์พยายามปลอบเธอ ภาวิณียิ้มเซียว ๆ
ไกรวิทย์อ้าแขนออกและภาวิณีขยับเข้ามาในอ้อมกอดแล้วจูบเขาอย่างชื่นฉ่ำ เธอซุกตัวหลับตาอยู่ในอ้อมแขนเขาเหมือนเด็กทารก เขาจูบหน้าผากและกอดเธอแน่นขึ้นในขณะที่เธอเคลิ้มหลับไป
ไกรวิทย์ยิ้มออกมาเมื่อหวนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาช่วงสองสามวันที่ ผ่านมา ถึงเขาจะไม่ได้เย็ดภาวิณีแต่เขาและเธอก็มีความทรงจำดี ๆ ด้วยกันที่ไม่มีอะไรจะมาทดแทนได้
ภาวิณีตื่นขึ้นมาตอนที่ไกรวิทย์อุ้มเธอเข้าห้องนอน “พี่หลับไปนานเท่าไหร่แล้ว” เธอถูกไกรวิทย์อุ้มขึ้นไปยังห้องนอนของเธอเหมือนเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวในวัน แต่งงาน
“ชั่วโมงนึงครับ อีกเดี๋ยวคนอื่น ๆ จะกลับมาแล้วผมเลยอยากให้พี่ภาได้นอนพักบ้าง” ทั้งคู่ขึ้นไปถึงหัวบันไดในตอนที่เขาพูดจบ
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะจ๊ะ น้องชายคนดีของพี่” เธอเอ่ยขณะที่ถูกวางลงบนเตียงและได้รับจุมพิตอย่างทะนุถนอมที่หน้าผาก
“ไม่เป็นไรครับพี่ภา พี่นอนพักเถอะ ผมรักพี่ครับ” เขาเดินออกจากห้องและปิดประตู อีกครั้งที่ไกรวิทย์นึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่พลิกผันในชีวิตและมันช่าง สุขสดชื่นเสียนี่กระไร
“ไงจ๊ะ น้องชายพี่ วันนี้เป็นไงบ้าง” วิภาวรรณนั่นเอง เธอเพิ่งกลับจากที่ทำงาน
อึ๋ยย์ เกือบไปแล้วไหมล่ะ ไกรวิทย์พึมพำกับตัวเอง
“เธอว่าอะไรนะ พี่ได้ยินไม่ถนัด” วิภาวรรณถาม เธอได้ยินไกรวิทย์พูดอะไรออกมาแต่จับความไม่ได้
“ผมพูดว่า ก็ดีครับ แล้วพี่วิล่ะเป็นไง” ไกรวิทย์โกหก พักหลังมานี่เขาแก้ตัวได้เก่งขึ้น แต่ก็ไม่ใช่การโกหกที่เสียหาย เป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร
“ก็งั้น ๆ ตัดผมตั้งแต่เช้าจรดเย็นมันน่าเบื่อจะตายไป” วิภาวรรณบ่นพลางเดินไปหยิบแซนด์วิชจากตู้เย็น
“น่าเบื่อเหรอครับ ไม่จริงมั้ง ผมเห็นพี่วิชอบงานนี้ออก” ไกรวิทย์เริ่มกังวลเพราะเขาไม่เคยได้ยินวิภาวรรณพูดบ่นเรื่องงานมาก่อนแล้ว มาตอนนี้ได้ยินเธอพูดว่าไม่ค่อยสนุกกับงาน ถ้าเธอลาออก นั่นก็หมายความว่าเธอจะเป็นก้างขวางคออีกอันหนึ่งที่ทำให้เขากับสาวิตรีไม่ ได้อยู่เพียงลำพังในช่วง 10 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น
“ฮื่อ จริง ๆ แล้วพี่เบื่องานนี้มานานแล้วล่ะแต่ไม่เคยบอกแม่กับพวกเธอ ไม่อยากให้มากังวลเรื่องพี่ต้องหางานใหม่ทำ” วิภาวรรณสารภาพกับน้องชายที่ตกตะลึง
“ลาออกหรือครับ อย่ายอมแพ้ง่ายๆ สิครับ พี่วิเคยไม่เคยยอมแพ้นะครับ” ไกรวิทย์พยายามจะชักแม่น้ำทั้งห้าให้วิภาวรรณเห็นว่าเธอไม่ควรจะลาออก เหตุผลลึก ๆ ก็คือเพื่อไม่ให้เธอมาเป็นก้างขวางคอเรื่องระหว่างเขากับสาวิตรี
“พี่รู้จ้ะ วิทย์ แต่พี่ก็ทำงานนี้มา 5 ปีแล้วนะ” วิภาวรรณพูดไปด้วยกัดแซนด์วิชไปด้วย “อยากจะลองทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง” เศษผักกาดหอมหล่นลงไปบนเสื้อเชิ้ตบริเวณร่องอกเธอ
ไกรวิทย์เห็นเจ้าใบผักกาดสีเขียวชิ้นน้อยหล่นแปะลงไปบนหน้าอกเธอ สายตาเขาถูกร่องอกที่อวบอิ่มนั้นดึงดูดไว้ทันที มันช่างเย้ายวนเสียจริง ๆ วิภาวรรณมีหน้าอกที่สวยงามที่เธอไม่เคยแสดงออก เธอเป็นคนที่ขี้อายที่สุดในบรรดาพี่สาวของเขาแต่ก็ยังเคยมีแฟนมาแล้วสองสาม คน เธอไม่ค่อยพอใจรูปร่างของตัวเองนักทั้ง ๆ ที่มันก็งดงามสมสัดส่วนดี เต้านมเธออวบใหญ่และร่างกายแข็งแรงจากการออกกำลังสม่ำเสมอแต่เนื่องจากเธอ ไม่เคยมองตัวเองว่าสวยก็เลยสวมแต่เสื้อผ้าที่ปิดบังเรือนกายแบบมิดชิดที่สุด
ยกเว้นในวันนี้เพราะอากาศร้อนสุด ๆ เธอจึงสวมเสื้อที่เปิดอกมากหน่อย เป็นเสื้อกล้ามสีแดงรัดรูป ชายเสื้อสั้นเต่อแค่เหนือสะดือโชว์เอวที่คอดกิ่ว คอเสื้อเว้าลึกลงมาจนเห็นร่องอกอันงดงาม ส่วนกางเกงเป็นกางเกงยีนส์สีฟ้าคับติ้วรัดส่วนขาและเน้นก้นอันเต่งตึง โดยรวมแล้ว วันนี้เธอแต่งตัวได้ทรมานใจชายทุกผู้ทุกนามจริง ๆ
“วิทย์....วิทย์....”
เขาได้ยินเสียงพี่สาวเรียกชื่อ เธอพูดคุยอะไรไปเรื่อยในระหว่างที่เขาจ้องมองเธอ “อะไรหรือครับ” เขารีบหันเหความสนใจจากปทุมถันอวบเต่งคู่นั้นกลับไปยังใบหน้าเธอ
“เธอดูอะไรอยู่จ๊ะ”
“ก็พี่วิทำแซนด์วิชหก” เขาชี้ไปที่เจ้าเศษผักสีเขียวที่อยู่บนร่องอกเธอ
“ตายแล้ว” วิภาวรรณอุทานออกมาแล้วพยายามจะยื่นมือไปหยิบมันออกมาแต่กลับทำให้มันจมลึกลงไปในร่องอกที่เบียดชิดของเธอยิ่งขึ้น
ไกรวิทย์ยืนมองขณะที่พี่สาวเขาล้วงมือลงไปในอกเสื้อตัวเอง นึกอยากให้นั่นเป็นมือของเขาที่ได้ล้วงลงไปใจจะขาด เขาก็มีสาวิตรีและพรรณวดีอยู่แล้ว อีกทั้งยังเกือบได้ภาวิณีอีก ก็น่าจะพอแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังอดหวังอีกไม่ได้
“แย่จัง พี่เอามันไม่ออก เธอช่วยถอดเสื้อแล้วเอามันออกให้พี่ได้มั้ยจ๊ะวิทย์” วิภาวรรณถามขณะที่ยังง่วนอยู่กับการหยิบเจ้าเศษผักชีกอชิ้นนั้นออก
“เอ้อ...มันจะไม่เหมาะละมั้งครับพี่วิ พี่ถอดเสื้อเองจะดีกว่า” เขาตอบ ในใจแอบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกที่ดลบันดาลให้พี่สาวสุด เซ็กซี่คนนี้กำลังจะถอดเสื้อต่อหน้าเขา
วิภาวรรณยิ้มเป็นทีเห็นด้วยแล้วจับชายเสื้อกล้ามตัวเล็กของเธอดึงขึ้นจนหลุด ไปทางศีรษะแล้วพาดไว้บนบ่า ณ.เวลานี้ บราเธอเป็นสิ่งเดียวที่ปิดบังเต้าอวบจากสายตาโลมเลียของน้องชาย
วิภาวรรณไม่ได้สนใจสังเกตน้องชายตัวดีที่กำลังจ้องมองเธอล้วงมือเข้าไปในบรา แล้วดึงเจ้าเศษผักกาดออกมา “เฮ้อ โล่งอก พี่คงขยะแขยงแย่เลยถ้าไม่เอามันออกมา” วิภาวรรณยิ้มโล่งอกในขณะที่หันไปมองน้องชายซึ่งกำลังจ้องหน้าอกเธอเขม็ง ส่วนมือก็ปิดหว่างขาอยู่ “เป็นอะไรไปหรือจ๊ะ”
ไกรวิทย์กะพริบตาปริบ ๆ ถูกจับได้อีกแล้วโว้ย เขาคิดขณะกวาดสายตากลับไปยังใบหน้าพี่สาวอีกครั้ง “เปล่าครับ เอ้อ ผมเห็นจะต้องขึ้นไปข้างบนแล้วล่ะครับ ทำงานค้างอยู่” ไกรวิทย์ก้าวฉับ ๆ ผ่านพี่สาวขึ้นบันไดไป
“พี่ก็ว่างั้นแหละ” วิภาวรรณพูดกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่มองไกรวิทย์เดินผ่านเธอไป
ไกรวิทย์ตรงไปที่ห้องตัวเองแล้วรีบปิดประตู คำถามทำนองที่ว่า ‘ทำไมเราถึงปล่อยให้พี่วิเห็นเราจ้องแบบนั้น แล้วนี่พี่เขาจะคิดกับเรายังไง’ วิ่งพล่านในหัวเขาเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู “อ่า...เชิญครับ” เขารีบกวาดตาสำรวจรอบห้องว่ามีอะไรที่ควรเอาหลบไปก่อนที่พี่สาวจะเข้ามา


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #4 on: January 07, 2010, 09:30:45 AM
“ไงจ๊ะวิทย์ เป็นอะไรรึเปล่า เมื่อกี้เห็นจ้ำอ้าวเลยนี่” วิภาวรรณตั้งข้อสังเกตเมื่อเธอเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง
“เปล่าครับ ก็สบายดีนี่ครับ” ไกรวิทย์ส่งยิ้มให้เธอแต่ไกลก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่อพี่สาวยิ้มตอบ
“งั้นก็แล้วไป พี่คิดว่ามีอะไรเกิด ‘ขึ้น’ ตอนที่พี่ถอดเสื้อออกเมื่อกี้” วิภาวรรณตอบแบบสองแง่สองง่ามทำเอาไกรวิทย์นั่งไม่ติดเก้าอี้
“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย” เขาตอบ ‘แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ อีกแล้วเรา’ เขาคิดในใจเมื่อจำได้ว่าควยเขาลุก ‘ขึ้น’ ในตอนนั้น
“จ้า งั้นก็ดี แต่ถ้ามีอะไรเกิด ‘ขึ้น’ ละก็อย่าลืมบอกพี่นะเผื่อจะช่วยได้บ้าง” วิภาวรรณบอกน้องชาย
ชั่วเสี้ยววินาทีนั้น ไกรวิทย์คิดในใจ ‘พี่วิหมายความอย่างที่เรา...ไม่ เป็นไปไม่ได้หรอก’
“ครับพี่วิ ขอบคุณมากครับ” เขาตอบไล่หลังขณะที่เธอเดินออกจากห้อง เมื่อเธอออกไปแล้ว ไกรวิทย์นอนลงบนเตียงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป นี่วิภาวรรณใช้คำว่า ‘ขึ้น’ ในความหมายเหมือนกับควยเขาลุก ‘ขึ้น’ หรือเปล่านะ ‘ไม่น่าเป็นไปได้หรอกน่า เธอเป็นพี่สาวเรานะ’ เขาคิด ‘แต่พี่สา, พี่พรรณกับพี่ภาก็เป็นพี่สาวเราเหมือนกันแล้วเห็นมั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น’ เขาครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นานเพียงคนเดียวในห้อง
ที่ชั้นล่าง วิภาวรรณนั่งอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นตอนที่สาวิตรีเข้ามาในบ้าน “หวัดดีจ้ะวิ มานั่งทำอะไรอยู่คนเดียวล่ะนี่” เธอถามน้องสาวพร้อมกับโยนถุงที่หิ้วมาไว้บนโต๊ะในครัวแล้วเดินกลับมาที่ห้อง นั่งเล่น
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่นั่งพักให้หายร้อนเท่านั้นเอง” วิภาวรรณตอบยิ้ม ๆ ขณะที่สาวิตรีนั่งลงบนโซฟาข้างเธอ
“ไม่ต้องปิดพี่ บอกมาซะดี ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าเธอมันฟ้อง” สาวิตรีเค้นถาม จริงอย่างที่เธอพูด สาวิตรีสามารถอ่านสีหน้าคนอื่น ๆ ออกเหมือนอ่านหนังสือและเธอก็รู้ว่ามีอะไรอยู่ในใจวิภาวรรณเมื่อดูจากสีหน้า
“ก็เรื่องนายวิทย์นั่นแหละ” วิภาวรรณถอนหายใจและหันไปมองพี่สาว
“นายวิทย์เหรอ” เสียงสาวิตรีเต็มไปด้วยความกังวล “เกิดอะไรขึ้นเหรอ” เธอถาม
“ก็แค่...วิไม่รู้” วิภาวรรณกระอักกระอ่วนใจที่จะบอกความจริงกับพี่สาว เธอจะบอกพี่สาวได้อย่างไรว่าเธอรักน้องชายตัวเอง
“น่า พูดออกมาเถอะ มีอะไรกัน” สาวิตรีกระตุ้น
“ก็...เอ่อ..วิบอกพี่สาไม่ได้หรอกค่ะ” วิภาวรรณซับน้ำตาที่เริ่มไหลรินออกมาเมื่อเธอพยายามจะไม่บอกความจริงกับสาวิตรี
“แล้วกัน นี่ยัยวิ มีอะไรที่บอกพี่ไม่ได้ แล้วนายวิทย์เขาไปแกล้งอะไรเธอ ถ้าทำจริงเดี๋ยวพี่จะจัดการให้เอง” สาวิตรียิ้มพลางโอบกอดน้องสาวด้วยความรักเอ็นดู
“นายวิทย์เขาไม่ได้แกล้งวิหรอกค่ะ เพียงแต่เขา..เขาทำตัวดีเกินไป นั่นแหละค่ะปัญหา วิ...วิ...” วิภาวรรณเกือบหลุดปากออกไป
“นี่เธอกำลังจะพูดอะไรเหรอวิ” สาวิตรีถามเมื่อน้องสาวสะอึกสะอื้นซบกับไหล่เธอ
“วิรักเขาค่ะพี่สา” ในที่สุดวิภาวรรณก็พูดสิ่งที่เธอต้องการพูดมานานแล้วออกไปจนได้
“พี่ก็เหมือนกันจ้ะวิ แล้วไงเหรอ” สาวิตรีไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของวิภาวรรณ
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ วิรักเขาจริง ๆ” วิภาวรรณพยายามกลั้นน้ำตา
“พี่ก็เหมือนกัน...ฮ้า เธอหมายความว่ารักแบบแฟนเหรอ” สาวิตรีเพิ่งเข้าใจความหมายคำพูดของวิภาวรรณ
วิภาวรรณพยักหน้าบนไหล่ของพี่สาว “อย่าโกรธวินะคะพี่สา วิหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ แล้วนี่วิควรจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะคะ” วิภาวรรณสะอึกสะอื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสาวิตรีบีบไหล่เธอ
“โอ๋ ไม่ต้องห่วงน่าวิ ไม่เป็นไรหรอก พี่เข้าใจความรู้สึกเธอดี” สาวิตรีปลอบขณะที่บีบแรงขึ้น
“พี่สาจะไปเข้าใจความรู้สึกวิได้ยังไง” วิภาวรรณถามขณะที่ยกหัวออกจากไหล่พี่สาวแล้วจ้องตาเธอ
“พี่ก็รู้สึกกับนายวิทย์แบบเดียวกันกับเธอนั่นแหละจ้ะ” สาวิตรีสารภาพกับน้องสาวที่อยู่ในอาการตกตะลึง “แต่พี่กับเขาล้ำหน้าไปอีกขั้นแล้ว พอจะเข้าใจที่พี่พูดมั้ย”
“พี่สาหมายความว่า พี่กับนายวิทย์...ตายแล้ว” วิภาวรรณตกตะลึงกับสิ่งที่เธอได้รับรู้ เป็นใครก็คงตกใจเหมือนกัน
“สองครั้งแล้วจ้ะ” สาวิตรีเผยอยิ้ม
“ตั้งสองครั้ง!” วิภาวรรณตะโกนลั่น “ตายแล้ว แล้วมีใครรู้เรื่องนี้อีกมั้ย”
“ก็มียัยพรรณและก็คงมียัยภาด้วยอีกคน” สาวิตรีตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ยัยพรรณกับยัยภา แล้วสองคนนั่นคิดยังไงกับเรื่องนี้ล่ะคะ” วิภาวรรณอยากรู้ ตอนนี้เธอลืมเรื่องตัวเองไปเสียสนิท
“ยัยพรรณเสร็จนายวิทย์ไปเรียบร้อยแล้ว พี่คิดว่ายัยภาก็คงจะเหมือนกัน” สาวิตรีสารภาพกับน้องสาวที่อยู่ในอาการตกตะลึง “เห็นไหมล่ะ ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่ ‘รัก’ เขาน่ะ”
“ตายแล้ว วิไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้ว” วิภาวรรณไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ดี เธอไม่รู้จริง ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เราสามคนไม่มีปัญหาอะไรและพี่ก็แน่ใจว่าวิทย์เขาก็คงไม่ว่าอะไร” สาวิตรีกุมมือน้องสาว
“พี่สาคะ วิไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ดี มันปุบปับจริง ๆ” วิภาวรรณสารภาพ พี่สาวคนโตบีบมือเธอไว้แน่นเพื่อให้กำลังใจ
“ที่เธอรู้สึกกับนายวิทย์น่ะไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร พี่เองก็รู้สึกแบบเดียวกัน นานแล้วด้วย เอาล่ะ พี่ว่าเธอไปนอนพักสักหน่อยดีมั้ย อีกเดี๋ยว แม่กับยัยนุชและยัยดาก็กลับมาแล้ว คงไม่อยากให้พวกนั้นเห็นหน้าตาเหมือนคนเพิ่งร้องไห้มาหรอกนะ” สาวิตรีถามน้องสาวซึ่งก็พยักหน้ารับคำ สาวิตรียิ้มขณะมองวิภาวรรณขึ้นบันไดไปซับน้ำตาไปด้วย เธอคงจะต้องบอกเรื่องนี้กับไกรวิทย์แล้วล่ะ
วิภาวรรณเปิดประตูเข้าไปในห้องและเห็นภาวิณีหลับสนิทอยู่บนเตียง เธอยิ้มด้วยความเอ็นดูแล้วเดินไปนอนลงที่เตียงของตัวเอง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วหันไปมองน้องสาวที่กำลังหลับสนิท เมื่อคิดถึงเรื่องระหว่างภาวิณีกับไกรวิทย์ เธอก็ถามตัวเองว่ามันจะผิดมากไหมนะที่จะรักน้องชายตัวเอง
สาวิตรีอยู่ที่ชั้นล่างตอนที่แม่กับกุลธิดาเปิดประตูเดินเข้ามา ทั้งคู่ขึ้นรถประจำทางคันเดียวกันตอนขากลับ เมื่อทั้งสองคนวางกระเป๋าแล้ว เธอก็ทักทายแล้วรีบเดินขึ้นบันไดไปยังห้องน้องชาย “วิทย์ ตื่นรึยังจ๊ะ” สาวิตรีถามขณะเดินเข้าไปในห้อง
เธอเห็นเขานอนแผ่หราอยู่บนเตียง กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก “ไงจ๊ะพ่อทูนหัว พี่มีเรื่องสำคัญจะบอกเธอ” เธอจูบเขาแล้วนอนเบียดกับเขาบนเตียง
“เรื่องอะไรหรือครับ” ไกรวิทย์ถามพร้อมกับโอบแขนรอบเอวพี่สาว สาวิตรีสามารถเบี่ยงเบนความสนใจเขาได้ทุกที
“เอ้อ...มันเกี่ยวกับวิภาวรรณน่ะจ้ะ” สาวิตรีเริ่มพูดแต่ก็ถูกไกรวิทย์โพล่งทะลุกลางปล้องขึ้นมา
“พี่วิเหรอครับ? เรื่องอะไรเหรอ?” ไกรวิทย์ถาม ใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วงขณะที่เขาลุกขึ้นนั่งและปล่อยมือจากเธอ
“ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกจ้า ก่อนหน้านี้เธอสองคนมีเรื่องอะไรกันเหรอ” สาวิตรีถาม รู้ว่าไกรวิทย์คงจะยอมเล่าเรื่องที่วิภาวรรณไม่ยอมบอกเธอก่อนหน้านี้ให้เธอ ฟัง
“ก็ พี่วิกินแซนด์วิชแล้วทำผักหล่นใส่หน้าอก ทำเอาผมร้อนฉ่าไปหมดเพราะพี่วิเธอเล่นถอดเสื้อล้วงเอามันออก แล้วก็จับได้ว่าผมจ้องหน้าอก พี่วิเขาคงโกรธผมละมั้งครับ” ไกรวิทย์บอกพี่สาวหมดเปลือก ในระหว่างนั้นสาวิตรีกอดเขาแน่นบิดเบียดเต้านมโอฬารของเธอเข้ากับหลังเขาแถม ยังจูบไซ้หลังคออีก
“ยัววิเขาไม่ได้โกรธเธอหรอก พี่รับรองได้” สาวิตรีกระซิบตรงหูเขาก่อนที่จะจูบมันเบา ๆ
“ไม่โกรธเหรอครับ พี่สารู้ได้ไง”
“ก็พี่คุยกับยัยวิน่ะสิแล้วเขาก็บอกอะไรพี่มาหลายอย่าง อือม์” สาวิตรีกระซิบ มือไม้เธอยุ่มย่ามไปทั่วร่างน้องชาย ไล่ลงไปยังหว่างขาเขา
“เช่นเรื่องอะไรหรือครับ” ไกรวิทย์ถามแบบไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ เขาค่อยคลายความกังวลลงไปได้หน่อยเมื่อพี่สาวปลุกเร้าอารมณ์เขา
“ยัยวิเขาก็ชอบเธอ เหมือนยัยพรรณ ยัยภาและพี่” สาวิตรีตอบพร้อมกับบีบขยำท่อนเอ็นเขาผ่านกางเกงยีนส์
“ว่าไงนะครับ”
“เขา..ชอบ..เธอ เหมือนกับพี่” สาวิตรีพูดซ้ำ มือยังคงบีบนวดเจ้าท่อนควยใต้กางเกงยีนส์
“อะฮ้า งั้นแสดงว่าพี่วิหมายความอย่างที่ผมคิดน่ะสิ” ไกรวิทย์พึมพำ ควยเขาเต้นกระดุ๊บ ๆ อยากจะออกมาดูโลกภายนอก
“อะไรเหรอจ๊ะ” สาวิตรีถามพร้อมกับหมุนตัวจนเธอนั่งอยู่หน้าน้องชาย
“เปล่าครับ” เขาตอบขณะที่โน้มตัวไปจูบพี่สาว
สาวิตรีแลกจูบและเริ่มบดบี้ปทุมถันกับหน้าอกน้องชายพร้อม ๆ กับแทรกลิ้นเข้าไปในปากเขา ไกรวิทย์ส่งเสียงครางเมื่อรู้สึกมือเธอยื่นลงไปปลดซิปและกระดุมของกางเกง ยีนส์ที่เขาสวมอยู่ เขาโอบแขนรัดร่างเธอเข้าหาเขาอย่างแนบแน่น สาวิตรีเอนตัวถอยแล้วยิ้มออกมาเมื่อเห็นอะไรบางอย่างดันกางเกงชกมวยจน โป่งออกมา
เพียงครู่เดียวทั้งคู่ก็นอนเปลือยเปล่าบนเตียงของไกรวิทย์ เสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้อง ไกรวิทย์นอนหงายโดยมีพี่สาวคร่อมตัวอยู่ในท่าคลานสี่ขา เต้านมอวบเต่งของเธอแกว่งไกวอยู่เหนือท่อนควยเขา เมื่อจ้องตาเขา เธอก็มองเห็นความกระสันต์ร่านสวาทที่คงปรากฏในดวงตาเธอเหมือนกัน และการดับความเงี่ยนอยากนี้มีอยู่เพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่ได้ผลชะงัด
ไกรวิทย์มองขณะสาวิตรีคลานขึ้นมาตามตัวเขาโดยกดตัวต่ำให้เต้าอวบของเธอครูด ไปกับลำตัวเขาตลอดทาง หัวนมแข็งชูชันเขี่ยลากไปตามผิวอ่อน ๆ ของเขาทำให้ความเสียวแล่นซ่านไปทั่วร่าง สาวิตรีรู้สึกว่าน้ำเสียวของเธอเริ่มไหลรินลงไปตามขาอ่อน นี่แค่เริ่มเล้าโลมกันเธอก็เปียกแฉะขนาดนี้แล้ว
ไกรวิทย์นอนมองราวกับถูกสะกดจิตขณะที่เทพธิดาแห่งความร่านคลานขึ้นไปตามตัว เขา บางครั้งเธอก็หยุดแล้วพรมจูบบนร่างเขาก่อนจะคลานต่อไปสูงขึ้น ๆ จนเธอสามารถยื่นมือซ้ายลงไปจับท่อนควยที่แข็งเกร็งของเขา สาวิตรีกำมันแน่นขณะที่เธอยกสะโพกขึ้นจ่อหัวเงี่ยงหยักกับปากรูสวาทที่ฉ่ำ เยิ้มสุด ๆ ของเธอ
ไกรวิทย์ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อพี่สาวคนสวยหย่อนตัวลงมาบนตัวเขาและทั้งสอง ร่างเบียดรวมเป็นร่างเดียวกัน “โอววว์” สาวิตรีครางเมื่อโพรงหีคับแน่นแต่ชุ่มฉ่ำของเธอถูกท่อนควยบุกทะลวงเข้าไปจน รู้สึกตึงแน่นไปหมด
“อาวว์ มิดแล้ว” ไกรวิทย์ร้องลั่นเมื่อรู้สึกหนอกหีพี่สาวเบียดชิดกับหนอกควยเขา ท่อนควยเขาอัดเข้าไปลึกเท่าที่จะลึกได้แล้วและทั้งคู่ก็รู้ว่าต่อไปจะมีอะไร ตามมา
สาวิตรียิ้มขณะยกตัวสูงขึ้น ท่อนควยเขาถูกร่องหลืบของพี่สาวบีบรัดไว้แน่นขณะที่เธอรูดตัวขึ้นจนเหลือแต่ หัวควยในรูหี สาวิตรีคงอยู่ในท่านี้ครู่หนึ่ง การที่เธอออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยให้เธอสามารถยกตัวเองด้วยขาที่งออยู่ได้ สูงพอให้เหลือแต่หัวควยของน้องชายอยู่ในตัวเธอ เธอยิ้มแล้วทิ้งตัวลงมา สติของไกรวิทย์แตกกระเจิงเมื่อเขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบรอบลำควยเปียก ลื่นของเขาอีกครั้ง ความฉ่ำแฉะมันมากอย่างอย่างเหลือเชื่อขณะที่ท่อนควยเขาถูกดึงออกจากโพรงหลืบ ที่อบอุ่นของพี่สาว
ทั้งสาวิตรีและไกรวิทย์เริ่มครวญครางเมื่อสาวิตรีเพิ่มความเร็วของจังหวะการ โขยกกระเด้า น้องชายเธอเกาะกุมและบีบขยำเต้านมคู่งามที่เด้งขึ้นลงตามจังหวะการกระเด้า ขึ้นลงบนท่อนควยของเขา
“อาวว์ว์ ดีจังเลยครับพี่สา ยังงั้นแหละ” ไกรวิทย์ร้องออกมาเมื่อรู้สึกว่าเธอขมิบโพรงหีแรงขึ้น บีบรัดท่อนควยเขาให้แนบสนิทกับโพรงหียิ่งขึ้นไปอีก สาวิตรีตะโกนลั่นห้องเมื่อเม็ดแตดเธอกระแทกชนกับกระดูกเชิงกรานน้องชายทุก ครั้งที่เธอกระแทกตัวลงบนตัวเขา
ในขณะที่สาวิตรีและไกรวิทย์กำลังกรีดเสียงครางกระเส่าอยู่ในห้อง วิภาวรรณก็กำลังมองดูภาวิณีที่เริ่มขยับตัวบนเตียง ใบหน้าของภาวิณีเต็มไปด้วยความสุขสมหวัง ทำให้วิภาวรรณหวนนึกถึงเรื่องที่สาวิตรีบอกเธอเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง ภาวิณีกับไกรวิทย์
ภาวิณีไม่รู้ว่ามีคนอื่นอยู่ในห้อง เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอก็ยื่นมือลงไปที่โคกหีแล้ววางมืออยู่พักหนึ่งจึงค่อย ลูบคลำต่อ “อูยย์ ดีจังเลยจ้ะวิทย์” เธอครวญครางเสียงดังเมื่อชักมือกลับมาที่หน้าอกแล้วบีบหัวนมแต่ละข้างเบา ๆ
“วิทย์เขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ”
ภาวิณีพรวดพราดลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมอง เห็นวิภาวรรณนอนคว่ำบนเตียงกำลังมองเธอยิ้ม ๆ “อุ๊ยพี่วิ หนูไม่รู้ว่าพี่....หนูเพียงแค่....เอ้อ..หนู…” ภาวิณีพูดตะกุกตะกัก พยายามอธิบายสิ่งที่เธอเพิ่งทำลงไป
“ไม่เป็นไรจ้ะ พี่รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว แล้วนายวิทย์เขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ” วิภาวรรณถามซ้ำ
ภาวิณีคิดว่าโกหกไปก็คงไม่สำเร็จจึงตัดสินใจว่าจะพูดความจริง “วิทย์เขาดีกับหนูมากค่ะ ตามใจหนูทุกอย่าง ไม่ฝืนทำอะไรที่หนูไม่ต้องการเลย มันช่างวิเศษจริง ๆ” ภาวิณีทำตาเคลิ้มฝัน
วิภาวรรณยิ้มอย่างสบายใจ เธอตัดสินใจแล้วว่าเธอต้องเย็ดกับไกรวิทย์ให้ได้เดี๋ยวนี้เลย เธอจึงเดินไปที่ห้องไกรวิทย์แล้วหมุนลูกบิดเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้คิดอะไร แล้วก็ได้ยินเสียง :
“โอวว์ว์ อูยย์ย์ วิทย์ อย่างนั้นแหละจ้ะ” ขณะที่สาวิตรีน้ำแตกทะลักคาท่อนควยน้องชายที่ฝังลึกเข้าไปในกายเธอ
วิภาวรรณยืนตัวแข็งอ้าปากค้างขณะที่สองพี่น้องเย็ดกันอย่างไม่หยุดยั้งบน เตียงด้านในห้อง เธอเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูอย่างแรงเพื่อดึงความสนใจของน้องชายเธอกับ พี่สาวคนโตซึ่งก็ได้ผล
สาวิตรีเอี้ยวตัวมองไปข้างหลังแล้วยิ้มออกมาเมื่อเห็นวิภาวรรณยืนมองอยู่ ไกรวิทย์ยันตัวลุกขึ้นนั่งและมองลอดใต้วงแขนสาวิตรีเพื่อดูว่าใครกันที่มา ยืนสังเกตการณ์ในห้องเขา “โอ๊ย พี่วิ ผม....” ไกรวิทย์พยายามจะผลักสาวิตรีออกจากตัวเขาแต่ไม่สำเร็จ เธอยังคงอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับ
“เขาทำกันแบบนี้จ้ะวิ” สาวิตรีพูดเสียงเรียบขณะที่เธอบดขยี้โคกหีกับตัวน้องชายทำให้เขาต้องล้มตัวลงนอนด้วยความเสียวซ่าน
“อนุญาตให้คนนอกร่วมสนุกด้วยมั้ย หรือว่าเป็นแบบเฉพาะสมาชิกคะพี่สา” วิภาวรรณถามสาวิตรีที่ยิ้มให้และพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
วิภาวรรณถอดเสื้อผ้าลงไปกองรวมกับของน้องชายและพี่สาวเธอ เธอเดินเข้าไปหาพี่สาว สะโพกสะบัดพลิ้วอย่างยั่วยวน เธอเห็นรูตูดของสาวิตรีขมิบตัวทุกครั้งที่สาวิตรียกตัวขึ้น และเธอก็มองเห็นลำควยของน้องชายแทงเข้าแทงออกร่างของสาวิตรีขณะที่ทั้งคู่ ร้องครวญครางด้วยความมันส์อร่อย
เมื่อเธอเข้ามาใกล้ ก็ได้กลิ่นเฉพาะตัวที่เกิดขึ้นจากการที่คนสองคนเย็ดกัน มันเป็นกลิ่นที่เย้ายวนชวนให้เมามายและสามารถกระตุ้นแรงกำหนัดที่ซ่อนอยู่ใน ตัวเราทุกคนให้ระเบิดออกมาได้ สาวิตรีหันหน้าไปทางน้องสาวแล้วยกมือขึ้นจากหน้าอกของไกรวิทย์ไปประคองใบ หน้าของวิภาวรรณแล้วดึงเข้ามาหาเธอ วิภาวรรณเคลื่อนตามการนำของพี่สาวและยื่นหน้าเข้าไปหาเธอ สาวิตรีแลกจูบกับวิภาวรรณและใช้ลิ้นดุนริมฝีปากที่เรียบลื่นของเธอ วิภาวรรณพอจะเข้าใจที่สาวิตรีต้องการจึงเผยอปากให้ลิ้นพี่สาวแทรกเข้ามาข้าง ใน
วิภาวรรณพริ้มตาลงเมื่อรู้สึกมือของสาวิตรีวางอยู่บนหน้าอกเธอ ถึงมันจะไม่ใหญ่เท่ากับของสาวิตรี แต่ก็ล้นมือทีเดียว สาวิตรีรู้ดีว่าทำอย่างไรจึงจะจุดไฟในอารมณ์ให้กับวิภาวรรณได้ เธอบี้บดหัวนมทั้งสองข้างด้วยหัวแม่มือกับนิ้วที่เหลือขณะเดียวกันปากและ ลิ้นของเธอก็เลียกวาดไปทั่วโพรงปากของวิภาวรรณ
ในขณะเดียวกันไกรวิทย์ก็ไม่ได้ถูกทอดทิ้ง สาวิตรียังคงร่อนหีที่ฉ่ำแฉะรูดขึ้นลงบนท่อนควยที่แข็งแกร่งของเขา แต่สมาธิของเธอมุ่งไปที่วิภาวรรณมากกว่าไกรวิทย์ แต่เขาก็ไม่ว่าอะไร เขากำลังมันส์ที่ได้เห็นพี่สาวทั้งสองคนแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ลิ้นของทั้งสองคนบดเบียดกันไปมาขณะที่เส้นผมของทั้งคู่ปะปนกันจนแยกไม่ออก ดูเร้าอารมณ์เงี่ยนจนแทบไม่น่าเชื่อ
สาวิตรีปล่อยมือจากเต้านมของน้องสาวและถอนปากออก เธอก้มลงมองน้องชายแล้วก็หันกลับมาที่วิภาวรรณแล้วก็ยิ้มออกมา “พี่รู้ว่าเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูอย่างเดียวหรอก” เธอยกตัวเองออกจากท่อนควยของไกรวิทย์แล้วไปยืนข้าง ๆ น้องสาว “คืนนี้พี่ยกให้เธอ”
วิภาวรรณจ้องมองท่อนควยของน้องชายที่มันปลาบไปด้วยน้ำเงี่ยนของสาวิตรีและ กำลังสั่นไหวตามจังหวะการเต้นของหัวใจเขา ขณะที่เธอจ้องมองมันอยู่ ก็รู้สึกว่าพี่สาวเอามือมาผลักที่หลังเธอเบา ๆ ให้เดินตรงไปที่เตียง เธอยิ้มขณะคลานขึ้นไปร่วมเตียงกับน้องชายที่ชุ่มเหงื่อไปทั้งตัว ตาเธอยังคงจ้องอยู่ที่ลำควยขณะที่เธอขึ้นคร่อมเขาและสาวิตรีจับมันให้ชี้ ขึ้นเพื่อวิภาวรรณจะได้สามารถกดตัวลงไปได้ตรง ๆ
วิภาวรรณกัดริมฝีปากล่างขณะเริ่มกดตัวลงต่ำจนลำควยสัมผัสกับปากรูหี มันถ่างรูเธอกว้างออกจนเธอต้องร้องครวญครางออกมาเมื่อถูกเจ้าสิ่งแปลกปลอม นี้ทะลวงเข้ามาข้างใน สาวิตรีให้กำลังใจน้องสาวขณะที่เธอจ้องมองท่อนควยแทงเข้าไปในหีวิภาวรรณเป็น ครั้งแรก วิภาวรรณกัดฟันกรอดเมื่อเธอรู้สึกแน่นตึงเหมือนกับที่เคยรู้สึกมาก่อนเพียง ครั้งเดียวตอนที่เพื่อนชายได้ความบริสุทธิ์ของเธอไปเมื่อหลายปีก่อน เธอกดตัวต่อไปจนกระทั่งรู้สึกหนอกหีเธอกับหนอกควยน้องชายบดเบียดกันแน่น เธอทำได้แล้ว เธอกลืนลำควยน้องชายเข้าไปในหีเธอทั้งดุ้น ต่อไปนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้สนุกกับมันให้เต็มที่
สาวิตรีจูบแก้มและบีบนวดไหล่น้องสาวเบา ๆ ขณะที่เธอเห็นวิภาวรรณเริ่มยกตัวเองขึ้นเหมือนที่เธอทำก่อนหน้านี้ แม้ว่าวิภาวรรณจะเคยมีประสบการณ์ทำนองนี้มาเพียงสองสามครั้งแต่สัญชาติญาณ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติก็สั่งสอนเธอจนในไม่ช้าเธอก็บิดตัวเร่ากระแทกกระทั้นบน ตัวน้องชายราวกับถูกเจ้าเข้าสิง
สาวิตรียืนตัวแข็ง มองดูวิภาวรรณที่เต้านมเต้นกระเพื่อมรุนแรง ผมกระจายปรกหน้า และถูกกระเด้าสวนจนตัวแหงนไปข้างหลัง มันช่างเร้าอารมณ์ที่ได้ยินเสียงน้องสาวกับน้องชายครางกระเส่าด้วยความเสียว เสียจนสาวิตรีทนต่อไปไม่ไหว เธอจะต้องขอเข้าไปร่วมสนุกด้วยอีกคน เธอจับใบหน้าของน้องสาวไว้แล้วบิดหัวเธอให้หันมาหาแล้วชำแรกลิ้นเข้าไปในปาก เธอ วิภาวรรณสนองตอบด้วยการจูบอย่างเร่าร้อนในขณะที่โขยกกระเด้าน้องชายไปด้วย พักเดียวสาวิตรีก็นั่งบนอกน้องชายโดยหันหน้าเข้าหาน้องสาวเธอ เต้านมอันขาวเต่งตึงของสองสาวพี่น้องบดเบียดเสียดสีกันไปมา หัวนมเสียดสีกันเองจนน้ำเสียวแตกทะลัก
ทั้งสองสาวกอดกันไว้แน่นแล้วกรีดร้องออกมาพร้อมกันโดยไม่แคร์ว่าคนอื่น ๆในบ้านจะได้ยิน ณ.เวลานี้มีแต่เพียงกันและกันเท่านั้นที่สำคัญที่สุดในโลก
วิภาวรรณคลายแขนก่อนแล้วเอนตัวไปข้างหลังวางมือไว้ระหว่างขาของน้องชาย เมื่อแขนเธอไปอยู่ข้างหลังแบบนี้ก็ทำให้หน้าอกเธอแอ่นเข้าหาสาวิตรีซึ่งรับ คำเชื้อเชิญอย่างเต็มใจและก้มหัวลงหาเต้านมข้างซ้ายของวิภาวรรณ ดูดหัวนมเข้าไปในปากและขบกัดเบา ๆ ไม่แรงจนถึงกับทำให้รู้สึกเจ็บแต่ทำให้ความซ่านเสียวบังเกิดขึ้นแก่น้องสาว วิภาวรรณร้องลั่นห้องพร้อมกับยื่นมือขวาไปกดหัวพี่สาวไว้ไม่ให้ถอนปากออกไป จากเต้าเธอ
ไกรวิทย์ลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนของสาวิตรีในขณะที่เธอเลียและจูบหัวนมของ วิภาวรรณ วิภาวรรณก็ยังคงบดขยี้ตัวลงบนน้องชายและพยายามเด้งขึ้นลงบนลำควยเขา ควยเขาใหญ่เสียจนเธอขยับตัวลำบาก แต่ด้วยความช่วยเหลือของพี่สาวที่กำลังถูไถโคกหีกับหน้าอกของน้องชายจนเป็น รอยเปียก วิภาวรรณก็ใกล้จะเสร็จอีกครั้ง
ไกรวิทย์เองก็ใกล้ถึงจุดจบเหมือนกัน เขาพยายามจะยืดเวลาแห่งความสุขออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้แต่มันก็ยาก ขึ้นทุกทีเมื่อพี่สาวทั้งสองมานั่งบนตัวเขา
“อ๊าวว์ว์ ผมกำลังจะถึงแล้วววววววว” เขาตะโกนลั่นเมื่อสาวิตรีกดตัวลงบนหน้าเขา กลิ่นหีเธอช่างหอมหวนจนเขารู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่บนสวรรค์
ตัววิภาวรรณเริ่มสั่นระริกเมื่อเธอเองก็ใกล้น้ำแตกเต็มทน เธอรู้สึกท่อนควยของไกรวิทย์พองตัวขึ้นในร่องหลืบของเธอ ควยเขาอัดเข้าไปลึกจนสุดขณะที่น้ำควยเขาแตกกระจายในตัวเธอ “อาวว์ ดีจังเลย อร่อยสุด ๆ มันส์จริง ๆ” วิภาวรรณกรีดร้องออกมาเมื่อเธอรู้สึกถึงน้ำควยอุ่นระอุพุ่งกระทบผนังโพรงหี เธอ


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #5 on: January 07, 2010, 09:31:09 AM
สาวิตรียิ้ม เมื่อเธอเห็นน้องสาวล่องลอยลงมาจากสวรรค์ชั้นเจ็ดและผละออกจากท่อนควยที่ กำลังอ่อนตัวลง มันเปียกโชกเสียจนสาวิตรีอดใจไม่ไหวต้องโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วอมดูดเลียน้ำ เงี่ยนของไกรวิทย์ วิภาวรรณและของเธอ รสชาติมันแปลกดี มีทั้งหวานและเค็มปะแล่ม ๆ ปนเปกันไป เมื่อเธอดูดเลียจนหมดจดแล้ว สาวิตรีก็ลุกขึ้นแล้วสองศรีพี่สาวก็ยืนมองน้องชายที่นอนแผ่อย่างหมดแรง
สาวิตรีหันไปมองวิภาวรรณที่ยิ้มอย่างสดชื่นขณะที่เธอเอนตัวลงนอนข้างไกร วิทย์อีกครั้ง “เธอสองคนอยู่ที่นี่ก่อน พี่จะกันไม่ให้ใครมากวนเธอ ตอนนี้นอนพักไปก่อนนะ” เธอค้นกองเสื้อผ้าบนพื้นจนเจอชุดของเธอ เมื่อสวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็หันไปมองวิภาวรรณและไกรวิทย์ก่อนจะ เดินออกจากห้อง แล้วหันมาส่งจูบให้กับสองพี่น้องที่หลับสนิท เรื่องชักจะสนุกน่าสนใจขึ้นทุกทีแล้ว เธอคิดขณะเดินไปที่ห้องนอนของเธอที่ซึ่งภาวิณีรออยู่
ไกรวิทย์ลืมตาตื่นขึ้น เวลาได้ผ่านไปหลายชั่วโมงนับตั้งแต่เขากับสาวิตรีและวิภาวรรณสนุกด้วยกัน ในขณะนี้ไม่มีวี่แววของพี่สาวทั้งสองในห้องเลย
เขาจำได้ว่าวิภาวรรณหลับพร้อมกับเขาแต่ในตอนนี้เหลือเขานอนห่มผ้าอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว วิภาวรรณคงจะห่มให้เขาก่อนเธอออกไป
สาวิตรีอยู่ในห้องกับภาวิณีในขณะที่วิภาวรรณกับน้องชายหลับอยู่ในห้องเดียวกัน
“จริงเหรอคะ” ภาวิณีถามพี่สาวคนโตแล้วรอคำตอบอย่างใจจรดใจจ่อ
“จริงซิจ๊ะ ก็พี่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยนี่ ได้เห็นสองคนนั้นเขามีความสุขด้วยกัน มันเป็นภาพที่น่าดูจริง ๆ” สาวิตรีตอบยิ้ม ๆ
“หนูอยากอยู่ที่นั่นด้วยจังเลย คงจะน่าดูทีเดียวนะคะ” ภาวิณีทอดถอนใจเมื่อหวนนึกถึงช่วงเวลาที่เธอได้อยู่ร่วมกับไกรวิทย์ ช่างเป็นอะไรที่วิเศษสุดจริง ๆ
“ครั้งหน้าหนูอยากจะร่วมสนุกด้วยไหมล่ะ” สาวิตรีถามในขณะที่เธอขดตัวบนเตียงเบือนสายตาไปจากน้องสาวคนเล็กเมื่อประตู เปิดออกและวิภาวรรณเดินเข้ามา
“หลับสนิทดีมั้ยคะ” ภาวิณีถามพร้อมรอยยิ้มรู้ทันขณะที่วิภาวรรณเดินอย่างไม่ค่อยสะดวกนักไปที่เตียงของเธอ
วิภาวรรณพยักหน้ารับ
“พี่คิดว่าเธอสองคนหมดแรงไปแล้วซะอีก แปลกนะที่ยังขยับตัวได้อยู่” สาวิตรีสัพยอกน้องสาวขณะที่เธอนั่งลงบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหงายพร้อมรอย ยิ้มอย่างสุขสม
“เหนื่อยแต่ก็คุ้มเกินคุ้มล่ะค่ะ” เธอตอบอย่างเคลิ้มฝัน สีหน้าเธอเปี่ยมด้วยความสุขสมหวัง
“จ้า พี่เข้าใจดี” สาวิตรีพูดพร้อมกับบีบคลึงเต้านมตัวเองไปด้วย “ยัยภาก็เหมือนกัน”
ภาวิณียิ้มสดใสเมื่อถูกพาดพิงถึง

ไกรวิทย์ลุกจากเตียงแล้วมองนาฬิกาที่อยู่ข้าง ๆ
ตัวเลข 9:30 กำลังกะพริบวาบ ๆ เขานอนไปนานทีเดียว อีกเดี๋ยวคนอื่น ๆ ในบ้านคงจะแวะมาที่เตียง เขาจะต้องแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดีหน่อยเดี๋ยวมีคนสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติเกิด ขึ้น
ขณะที่กำลังคิดเพลิน ๆ อยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แม่เขาเข้ามาก่อน ตามด้วยปรียานุช พรรณวดี กุลธิดา วิภาวรรณ ภาวิณีและสุดท้ายคือสาวิตรี ทุกคนกล่าวราตรีสวัสดิ์และจูบแก้มเขาเบา ๆ ตามประเพณีของที่บ้านที่มีมาช้านาน วิภาวรรณ ภาวิณีและพรรณวดีให้มากกว่าจูบราตรีสวัสดิ์ โดยแต่ละคนจูบแล้วใช้ลิ้นนุ่ม ๆ ชื้น ๆ แยงเข้าไปในปากเขาด้วย
สาวิตรีถ่วงเวลาอยู่ในห้องจนคนอื่น ๆ บอกราตรีสวัสดิ์แล้วออกไป ทิ้งให้เธอกับไกรวิทย์อยู่กันเพียงลำพัง
“สองสามวันมานี้ยุ่งมากเลยล่ะสิจ๊ะ” สาวิตรีถามยิ้ม ๆ ขณะที่กอดน้องชายแนบแน่น
“ครับ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต” ไกรวิทย์อธิบายขณะที่รู้สึกว่าหัวนมพี่สาวเริ่มชูชันขึ้นมาใต้ชุดนอนบาง ๆ
“แล้วเราจะแบ่งสรรปันส่วนกันยังไงดีจ๊ะ ทำตารางเวรดีมั้ย” สาวิตรีพูดกึ่งล้อเล่น
“ก็ไม่เลวนะ แต่ผมคิดว่าแค่พี่สาคนเดียวก็พอแล้วล่ะ ผมไม่คิดว่าพี่ ๆ คนอื่น ๆ จะอยากนอนกับผมอีก” ไกรวิทย์ตอบขณะที่พี่สาวคลายการสวมกอดแล้วเดินไปปิดประตูห้อง
“อ้าว ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะจ๊ะ”
“ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากนะครับ มันก็ดีมาก ๆ เลยแต่ผมสงสัยพวกพี่ ๆ เขาจะคิดว่าเขาทำผิดไปรึเปล่า เพราะยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน” ไกรวิทย์อธิบาย
“เชื่อพี่เถอะ พวกนั้นเขาไม่คิดแบบนั้นหรอกจ้ะ” สาวิตรียิ้มขณะที่เดินกลับมาหาน้องชายแล้วจูบเขาฟอดใหญ่
“แล้วพวกพี่ ๆ เขาคิดยังไงกับเรื่องนี้ละครับ” ไกรวิทย์ถามพี่สาวสุดเซ็กซี่
“ราตรีสวัสดิ์จ้ะ วิทย์” สาวิตรีจูบเขาอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยวก่อนครับพี่สา ยังไม่ได้บอกผมเลยว่าพวกนั้นเขาคิดยังไง” ไกรวิทย์ถามซ้ำแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ได้แต่มองตามพี่สาวเดินยักย้ายส่ายสะโพกออกจากห้องก่อนจะหันกลับมาส่งจูบให้ เขา
“เอ แล้วพวกนั้นเขาคิดยังไงกับเรื่องนี้กันนะ” ไกรวิทย์ถามตัวเองขณะที่เอนตัวลงนอนบนเตียง คลุมผ้าห่มก่อนจะล่องลอยสู่ห้วงนิทรารมย์

วันรุ่งขึ้น ไกรวิทย์ตื่นเสียสายโด่ง เมื่อหันไปมองนาฬิกาก็พบว่า 11.30 น.เข้าไปแล้ว เขารีบกระโจนลงจากเตียงแล้วรื้นค้นหาเสื้อผ้าในลิ้นชัก จนในที่สุดก็ได้กางเกงยีนส์สีซีดและเสื้อยืดสีดำ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ครัวแล้วมองหาคนอื่น ๆ แต่ก็เห็นแต่เพียงกระดาษโน้ตแผ่นเดียว

วิทย์ พี่ไปช็อปปิ้งแล้วจะกลับมาบ่าย ๆ
แล้วพี่จะให้รางวัลพิเศษนะจ๊ะ แม่ นุช วิ พรรณไปทำงาน ส่วนดากับภาไปมหา’ลัย เหลือเธอเฝ้าบ้านคนเดียวจนกว่าพี่จะกลับ
รักมาก ๆ จ้ะ
พี่สา

นั่นคือข้อความในกระดาษโน้ต
ดีตายเลยล่ะ อยู่บ้านคนเดียวเนี่ย ไกรวิทย์คิดขณะที่มองหาเครื่องดื่มในตู้เย็นก่อนจะออกไปวิ่ง เมื่อเจอแล้ว เขาก็ปลดล็อคประตูแล้วออกไป หันมาล็อคไว้เหมือนเดิมแล้วเอากุญแจไปด้วย จากนั้นก็เริ่มออกวิ่งช่วงเช้า (ซึ่งก็สายกว่าปกติเยอะ)
เมื่อไกรวิทย์กลับมาที่บ้านก็พบว่าประตูไม่ได้ล็อค ถึงเขาจะวิ่งนานกว่าปกติแต่ตอนนี้ก็ยังแค่เที่ยงสิบห้า นอกจากเขาแล้วไม่น่าจะมีใครอยู่บ้าน
เขาเปิดประตูเข้าไปในบ้านหยิบเครื่องดื่มแล้วเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นดูว่ามีใครอยู่ แต่ก็พบความว่างเปล่า
เขาได้ยินเสียงใครอยู่ชั้นบน ก็เลยรีบเดินไปที่บันไดแล้วตะโกนขึ้นไป
“ผมเองครับพี่นุช ไม่ใช่โจรที่ไหน” เป็นเสียงของปรียานุชจริง ๆ ที่ตอบเขา
“พี่กลับมาทำอะไรที่บ้านเหรอครับ” เขาถามขณะที่เธอเดินลงมาจากบันไดเข้าไปในครัวโดยยังสวมชุดทำงานอยู่ (เป็นเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินรัดรูปมีชื่อและยี่ห้อร้านที่เธอทำติดอยู่และ กางเกงยีนส์สีดำ)
“พักกินข้าวเย็นนะซิ ทำไม มีปัญหาเหรอน้องชาย” เธอสวนกลับแต่น้ำเสียงไม่ได้ดุร้ายอะไร “พี่คิดว่าเธออยากมีเพื่อนซะอีก”
“เอ่อ ก็ขอบคุณครับพี่นุช อยู่คนเดียวบางทีมันก็เหงาเหมือนกัน” ไกรวิทย์ตอบขณะที่ดื่มเครื่องดื่มไปด้วยแล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อบนหัว
“พี่ว่าพี่เข้าใจเธอนะ บางทีที่ร้านก็เงียบจนพี่เบื่อสุด ๆ เหมือนกัน” ปรียานุชเออออกับน้องชายขณะที่เธอกินแซนด์วิชที่เพิ่งทำเสร็จ
“ปกติพี่สาจะอยู่กับผมแต่วันนี้เขาออกไปช็อปปิ้งหรืออะไรซักอย่างนี่แหละ คงอีกนานกว่าจะกลับ” ไกรวิทย์พูดขณะดื่มเครื่องดื่มอีกและเริ่มวอร์มหลังออกกำลังกาย
“ถ้างั้นเรา...เอ่อ เธอก็ต้องอยู่คนเดียวอีกนานเลยซิ” ปรียานุชถามขณะที่จ้องมองน้องชายถอดเสื้อยืดที่ชุ่มเหงื่อออกแล้วหยิบเสื้อ ยืดอีกตัวที่เขาเตรียมไว้ใส่หลังวิ่งเสมอ
“ครับ” เขาตอบพร้อมกับสวมเสื้อยืดสีขาวตัวใหม่
“การวิ่งช่วยเธอได้มากจริง ๆ นะ วิทย์ หุ่นเธอกำลังดีเลยแหละ” ปรียานุชให้ความเห็นขณะมองน้องชายแต่งตัว
“ขอบคุณครับ” ไกรวิทย์ยิ้มแป้น เขาค่อนข้างภูมิใจกับหุ่นของตัวเอง แม้ว่ามันจะไม่ถึงกับล่ำบึ้กชนิดมีกล้ามเป็นมัด ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับมีไขมันส่วนเกินมากเกินไป
“เธอน่าจะไปฟิตเนสกับพี่ซักครั้งนะ พี่จะได้สอนท่ากายบริหารให้” ปรียานุชชวน พร้อมกับกัดแซนด์วิชอีกคำ
“ม่ายเอาล่ะครับ แค่นี้ก็ดีถมแล้ว ขอบคุณครับ” ไกรวิทย์ตอบขณะกุมมือตัวเองยกขึ้นสูงและส่ายหน้าปฏิเสธ
ไม่ใช่แค่เพราะวิ่งหรอกแต่เพราะได้ทำกิจกรรมพิเศษกับพี่สาและพี่สาวคนอื่น ๆ ตะหากที่ช่วยเอาไขมันส่วนเกินออกไปน่ะ ไกรวิทย์คิดในใจขณะมองพี่สาวกินแซนด์วิช
“โธ่เอ๊ยพ่อหนุ่มตาขาว พี่ยังหลงคิดว่าเธอน่าจะมีน้ำอดน้ำทนกว่านี่ซะอีก” ปรียานุชหยอกขณะที่เธอกินแซนด์วิชเสร็จและดื่มน้ำ
“ผมอึดพออยู่แล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง” ไกรวิทย์ตอบ เคาะหลังพี่สาวเบา ๆ
“จ้าเชื่อแล้วจ้ะ ดูตัวเธอสิ ไหนล่ะไม่เห็นมีกล้ามเลย แย่จังนะ” ปรียานุชพูดแล้วจิ้มท้องเขาเล่น หัวเราะกิ๊กกั๊ก
“ว้า พี่นุชนี่ เลิกแหย่ผมซะที ได้แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว อีกอย่างผมแข็งแรงกว่าที่พี่เห็นนะ” เขาแกล้งตีมือปรียานุช
“แบบนี้ต้องพิสูจน์กันหน่อยละมั้งไอ้น้อง” ปรียานุชท้าทายและกระดิกนิ้วชี้เรียก สีหน้าเธอท้าให้เขากดตัวเธอลง ถ้าทำได้
“ก็ยังด้าย แต่ผมเตือนพี่แล้วนะ” ไกรวิทย์ตอบขณะเตรียมพุ่งเข้าใส่พี่สาว เธอยิ้มแล้วแลบลิ้นใส่เขา
“เริ่มล่ะนะ” ไกรวิทย์ร้องบอกก่อนจะจับเอวพี่สาวแล้วยกตัวเธอขึ้นวางบนไหล่ น้ำหนักของปรียานุชไม่มากนัก ราว ๆ 45 กิโลกรัมรวมเหงื่อและอาหารกลางวัน ไกรวิทย์สามารถยกตัวเธอขึ้นได้อย่างไม่มีปัญหา ปรียานุชขยับตัวยุกยิกเมื่อรู้สึกมือของน้องชายยึดลำตัวท่อนล่างของเธอให้ อยู่กับที่ในขณะที่เขาพาเธอเดินไปรอบ ๆ ห้องครัวแล้วเข้าไปในห้องนั่งเล่น
“โอเค โอเค พี่เชื่อแล้วจ้ะ ขอโทษที่สบประมาทเธอนะจ๊ะ” ปรียานุชหัวเราะไม่หยุดเมื่อโดนมือของน้องชายลูบตัวตอนที่เธอพยายามจะบิดตัว จากการยึดของเขา
“เห็นมั้ย ผมบอกพี่แล้ว” ไกรวิทย์ตอบขณะที่ยึดพี่สาวไว้แน่นแล้วแกล้งหมุนตัวเธอไปรอบ ๆ
“จ้ะ พี่ก็เชื่อเธอแล้วไง พอๆ หยุดหมุนได้แล้ว พี่เริ่มมึนหัวแล้วจ้ะ” ปรียานุชตอบ ยังคงหัวเราะไม่หยุด
ไกรวิทย์ปล่อยตัวเธอลงจากไหล่ไปนอนบนโซฟาแต่ปรียานุชกลับเหนี่ยวคอเขาแล้ว ดึงตัวเขาลงไปทาบทับบนตัวเธอ ไกรวิทย์รีบยันแขนดันตัวออกห่างพี่สาว แต่เต้าอวบที่มีขนาดย่อมกว่าของสาวิตรีเพียงเล็กน้อยยังคงแตะอยู่กับหน้าอก เขา มือเธอยังคงรั้งคอเขาไว้แน่น ตาจ้องสบกับตาเขา ไกรวิทย์จ้องกลับ ไม่มีเสียงพูดใด ๆ ออกจากปากขณะที่เขาลดหัวลงแล้วประกบริมฝีปากกับเธอ ปรียานุชกอดคอเขาแน่นขึ้นและจูบตอบ
มีบางสิ่งบางอย่างอุบัติขึ้นโดยที่ทั้งคู่ไม่สามารถอธิบายได้ ถ้ามองด้วยตาเปล่าก็คือทั้งสองแลกจูบกันแต่มันเป็นอะไรที่มีความหมายมากยิ่ง ไปกว่านั้น เขาทั้งสองรู้สึกว่าทำแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ราวกับว่าในช่วงเวลานั้นไม่มีอะไรที่มีความหมายสำหรับทั้งคู่มากไปกว่าสิ่ง นี้ การจุมพิตยุติลงและไกรวิทย์ถอยตัวออกจากปรียานุช เขามองลึกเข้าไปในดวงตาเธอพร้อมส่งยิ้มให้ ปรียานุชยิ้มตอบและดึงตัวเขากลับเข้าไปหา คราวนี้เธอเป็นฝ่ายรุกบ้างโดยใช้ลิ้นแทรกผ่านริมฝีปากเขาเข้าไปด้วยความ รุนแรงในอารมณ์ ไกรวิทย์แลกลิ้นโต้ตอบและลิ้นของทั้งคู่ก็สัมผัสกันเป็นครั้งแรก เป็นสัมผัสที่วาบหวามที่สุด
จูบนี้ยาวนานเหมือนชั่วนิรันดรเพราะไม่มีฝ่ายไหนอยากเป็นคนยุติก่อน ในที่สุดไกรวิทย์ก็เป็นฝ่ายยุติการจูบก่อน โดยลุกจากตัวพี่สาวแล้วยืนอยู่ข้างโซฟามองลงไปที่เธอ
“มีอะไรเหรอจ๊ะ” ปรียานุชถามไกรวิทย์ที่ยืนอยู่หน้าเธอ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แต่พี่นุชแน่ใจเหรอครับว่าพี่อยากทำแบบนี้” เขาถามแบบไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
“ตาเซ่อ พี่อยากทำแบบนี้ตั้งแต่ตอนเธออายุ 15 แล้ว” ปรียานุชตอบพร้อมยิ้มหวานให้น้องชาย
เอ ตอนเราอายุสิบห้านี่มันเป็นยังไงเหรอ ทำไมทั้งพี่นุชกับพี่สาถึงได้อยากมีอะไรกับเราขนาดนั้น สงสัยจริง เขาคิดในใจขณะที่ได้ยินถ้อยคำเหล่านั้นพรั่งพรูจากปากของปรียานุช
“วิทย์ เป็นอะไรไปรึเปล่า” ปรียานุชถาม
“เปล่าครับพี่นุช” เขายิ้มให้ เพิ่งรู้ว่าตัวเองอึ้งไปพักใหญ่ “ผมแค่อยากรู้เท่านั้นแหละครับ พี่นุชมานี่สิครับ”
“ก็ดีแล้วจ้ะ” ปรียานุชตอบพร้อมกับยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาน้องชาย เธอจูบเขาอีกครั้งก่อนหมุนตัวเขาแล้วดันให้ถอยหลังเข้าหาโซฟา
ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้หย่อนก้นนั่ง ปรียานุชก็จับเสื้อยืดเขาแล้วดึงมันขึ้นไปตามหน้าอกจนหลุดออกไปทางหัว เธอแลบลิ้นเลียริมฝีปากเมื่อได้เห็นหน้าอกและหน้าท้องเขา
ไกรวิทย์ยิ้มให้ขณะที่เธอปลดขอยีนส์เขาออกแล้วรูดมันลงไปตามขาพร้อมกับ กางเกงชกมวย ท่อนควยที่แข็งขันดีดตัวขึ้นมาจนเกือบชนหน้าปรียานุชที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้าง หน้าน้องชาย
“อุ๊ยตาย” เธออุทานเสียงแผ่วโหยเมื่อได้เห็นลำควยเขาเด้งไปมาต่อหน้าต่อตา
ไกรวิทย์มองขณะพี่สาวจ้องควยเขาแล้วอดยิ้มไม่ได้ เธอตื่นเต้นเหมือนกับไม่เคยเห็นมาก่อนทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าเธอเคยเห็นควยผู้ชายมาแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ใช่สาวเปรี้ยวที่ชอบเที่ยวเตร่ แต่ปรียานุชก็ไม่ใช่คนเก็บตัว เธอเคยมีเพื่อนชายมาหลายต่อหลายคน ไกรวิทย์ทำเธอตื่นจากภวังค์เมื่อเขาสลัดรองเท้าทิ้งไปเพื่อจะได้รูดกางเกง ออกไปได้ ปรียานุชสะบัดหัวแล้วช่วยน้องชายถอดกางเกงยีนส์และกางเกงชกมวยก่อนจะดันตัว เขาให้นั่งบนโซฟา เขาเงยหน้ามองพี่สาว ลำควยเขาเต้นกระดุ๊บ ๆ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ปรียานุชมองตามการเคลื่อนไหวของร่างกายเขาทุกลมหายใจเข้าออก เขาช่างน่ารักเสียจริง ๆ ยิ่งเปลือยด้วยแล้ว ก็ยิ่งดูเปราะบางชวนให้เธอคอยปกป้อง และนั่นคือสิ่งที่เธอกำลังคิดจะทำ
ขณะที่ปรียานุชกำลังจะเริ่มถอดเสื้อผ้า เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างโซฟาก็ดังขึ้นจนทั้งคู่สะดุ้งตกใจ
ทั้งคู่มองไปที่โทรศัพท์แล้วหันกลับมามองตากัน แล้วหันกลับไปที่โทรศัพท์อีกครั้ง
“รับซิจ๊ะ” ปรียานุชพูดเสียงละห้อย ไกรวิทย์พยักหน้าแล้วเอี้ยวตัวไปยกหูโทรศัพท์
“สวัสดีครับ” ไกรวิทย์พูดขณะยกหูโทรศัพท์
“หวัดดีจ้าที่รัก นี่พี่เอง กำลังคิดถึงเธออยู่พอดีก็เลยโทรมาพร้อมรางวัลที่สัญญาไว้”
“พี่สาครับ” ไกรวิทย์บุ้ยปากบอกปรียานุช เธอยิ้มแล้วมองสำรวจร่างกายน้องชายต่อ
“หวัดดีครับพี่สา นี่พี่อยู่ที่ไหนเหรอครับ” ไกรวิทย์ถาม
“ก็อยู่ในที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่านคนเดียวกับโทรศัพท์มือถือแล้วก็กำลังคิดถึงเธออยู่นะสิจ๊ะ” สาวิตรีพูดเนิบ ๆ
“ผมก็คิดถึงพี่ครับ” ไกรวิทย์ตอบพร้อมกับมองไปที่ปรียานุชซึ่งกำลังถอดเสื้อยืดออกทำให้เห็นจะจะ ว่าเธอไม่ได้ใส่บราเพราะเต้าคู่งามหลุดลงมาเด้งดึ๋งดั๋งต่อหน้าต่อตาเขา ยอดถันชูชันและดูน่าลิ้มลองเป็นที่สุด
ดวงตาไกรวิทย์แทบถลนออกจากเบ้าขณะที่จ้องมองเรือนร่างอันงดงามของพี่สาว เมื่อเธอวางมือลงบนสะโพกแล้วเริ่มถอดขอกางเกงยีนส์รูดมันลงไปกองกับพื้น เหลือแต่เพียงกางเกงในลายลูกไม้สีขาวแนบเนื้อตัวเดียวเท่านั้น
“บังเอิญจังเลยครับ ผมก็กำลัง...คิดถึงพี่อยู่พอดี” ไกรวิทย์พูดกับสาวิตรีแต่ตาของเขากลับจ้องมองเรือนกายของปรียานุชผู้เป็นพี่ สาวราวกับจะกลืนกินในขณะที่เธอเริ่มบิดสะโพกส่ายพลิ้วเบื้องหน้าเขาเพื่อ เพิ่มดีกรีความเงี่ยน
แล้วเธอก็ทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงเมื่อเธอกล่าวว่า
“พี่รู้เรื่องระหว่างเธอกับพี่สา”
ไกรวิทย์ตกใจมากที่เธอรู้
“พี่นุชรู้ได้ไงน่ะ” เขาโพล่งออกมา
“รู้ก็แล้วกันล่ะน่า คุยกับพี่สาต่อไปสิ มันน่าตื่นเต้นดีออก” เธอกระซิบกับน้องชายที่ยิ้มออกมา เขาฟังสาวิตรีพูดในขณะที่ตาก็มองปรียานุชถอดกางเกงในไปด้วย
“อันที่จริงผมกำลังคิดถึงปากของพี่สาครับ” ไกรวิทย์พูดกรอกหูโทรศัพท์ เขายิ้มให้ปรียานุชที่กำลังบิดสะโพกอย่างยั่วยวนอยู่ตรงหน้า
“เธอก็มีสิ่งที่พี่อยากเอาเข้าปากเหมือนกัน” สาวิตรีพูดยิ้ม ๆ แล้วหันไปมองรอบ ๆ ว่ามีคนอยู่หรือไม่
“ในปากพี่มันอุ่นสบายจังเลยครับ” ไกรวิทย์ยิ้มออกมาหลังพูดจบ ปรียานุชยังคงยืนส่ายสะโพกอยู่ข้างหน้าเขา มือไม้เธอลูบไล้ไปทั่วเรือนกาย สัมผัสไปทุกที่ที่สร้างความเสียวซ่านให้แล่นไปทั่วร่างเธอได้
“พี่กำลังนั่งคุกเข่าลูบไล้มือไปตามขาอ่อนเธอ” สาวิตรีส่งเสียงที่เร้าอารมณ์ผ่านสายโทรศัพท์ไปยังน้องชายที่กำลังจ้องมอง ปรียานุชไล้มือไปมาบนโคกสวาทและวนนิ้วรอบเม็ดเสียวของตัวเอง
“แล้วมือพี่ทำอะไรต่อครับ” ไกรวิทย์ถามสาวิตรีทางโทรศัพท์ขณะที่ตาก็มองมือของปรียานุชเล่นกับตัวเอง
“ตอนนี้พี่กำลังจับควยเธอไว้ในอุ้งมือ” สาวิตรีพูดหร้อมกับเลื่อนมือลงไปตามหน้าท้องจนถึงขอบกางเกงยีนส์แล้วต่อลงไป จนถึงขอบกางเกงใน แล้วหันมองรอบข้างเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นขณะที่เธอกระซิบเข้าไปใน โทรศัพท์มือถือ
ไกรวิทย์รู้สึกเงี่ยนจนแทบจะน้ำแตกให้ได้ตรงนั้นขณะที่มองปรียานุชพี่สาวเขา ยืนเปลือยกายลูบคลำสัมผัสตัวเองและสาวิตรีพี่สาวอีกคนเล่นโฟนเซ็กส์กับเขา
“พี่คลานขึ้นไปบนตัวเธอแล้วจับควยเธอยัดใส่ตัวพี่” สาวิตรีพูดพร้อมกับแยงนิ้วเข้าไปในร่องหลืบและวนนิ้วไปรอบ ๆ ปลุกเร้าตัวเองขณะที่คุยกับน้องชายไปด้วย
“โอวว์ ดีจังเลยครับ” ไกรวิทย์ครางขณะมองปรียานุชนวยนาดเข้ามาหา เธอช่วยตัวเองจนเบื่อแล้วและกำลังต้องการน้องชาย
เธอค่อย ๆ ปีนขึ้นไปบนตัวเขาจนกระทั่งท่อนเอ็นเขาจ่อตรงกับปากรูเธอแล้วก็ค่อย ๆ หย่อนตัวลงบนลำควย
“อูยย์ ซี๊ดดดด อือม์ม์” ไกรวิทย์ครวญครางเมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นของโพรงหีพี่สาวโอบรอบลำควยเขา น้ำเสียวของเธอช่วยให้เขาชำแรกควยเข้าไปได้ง่ายขึ้น
“อ๊าวว์ อู๊ยยย์” สาวิตรีครางกระเส่าเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของน้องชายโดยเธอเข้าใจว่าเขา ครางเพราะเธอแต่ที่จริงเขาครางออกมาเพราะหีปรียานุชกำลังกลืนลำควยเขาเข้าไป ตะหาก
เมื่อควยเขาเข้าไปลึกสุดแล้ว ปรียานุชก็หยุดนิ่งแล้วแหงนหน้าไปข้างหลังแอ่นเต้านมคู่งามใส่หน้าเขา
“โอวว์ อืมม์ ควยเธออยู่ในหีพี่รู้สึกดีจัง” สาวิตรีเพ้อครวญพลางใช้นิ้วตกเบ็ดในที่สาธารณะไปด้วย ในขณะเดียวกันน้องชายเธอที่อยู่ทางปลายสายก็กำลังจูบไซ้เต้าอวบของปรียานุช ฟอนเฟ้นอย่างเมามันแล้วเลียหัวนมสลับไปมา
“เอาซิจ๊ะ บอกพี่มาสิว่าเธอต้องการอะไร” สาวิตรีพูดในเวลาเดียวกับที่น้องชายเธอจ้องเต้าอวบตรงหน้ากระเพื่อมขึ้นลง ขณะที่ปรียานุชเริ่มเลื่อนตัวรูดขึ้นลงกับท่อนควยเขาโดยปล่อยให้มันออกมาจน เกือบหมดแล้วกดตัวให้มันกลับเข้าไป
“บอกมาซิจ๊ะ ไม่ต้องอายหรอก” สาวิตรีเตือนในขณะที่ได้ยินไกรวิทย์ครางผ่านสายโทรศัพท์
ตอนนี้ปรียานุชยึดไหล่เขาไว้แล้วซอยสะโพกสั้น ๆ กระเด้าลำควยทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เพราะรูหีที่คับตีบของเธอ บีบรัดลำควยอวบอ้วนของเขาไว้แน่น
“ก็ พี่สากำลังทำอยู่นี่ไงล่ะ” ไกรวิทย์ตอบ ตาจ้องตาปรียานุชแต่ปากพูดกับสาวิตรี ปรียานุชยิ้มหวาน เธอกำลังมีความสุขอย่างที่สุดที่ได้เย่อน้องชายในเวลาเดียวกับที่เขาเล่น โฟนเซ็กส์กับพี่สาวของทั้งคู่
“โอวว์ พี่เงี่ยนเหลือเกินจ้ะวิทย์” สาวิตรีครวญครางพร้อมแยงนิ้วลึกเข้าไปอีก ในเวลาเดียวกันที่บ้าน ปรียานุชโน้มตัวจูบน้องชาย เขาเผลอมือปล่อยหูโทรศัพท์ขณะที่จูบไซ้เต้าคู่งาม ดูดดุนหัวนมแต่ละข้าง ทำให้ปรียานุชครางออกมาดังกว่าปกติ
“อูยย์ เธอกำลังทำให้พี่เสียวแทบขาดใจตาย” สาวิตรีสูดปากครางกระเส่าในขณะที่เธอเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้วหนึ่ง
“อูยย์ โอวว์ อูยย์ อาวว์ว์” ปรียานุชครวญครางขณะที่เร่งจังหวะซอยกระเด้าเข้าใส่ท่อนควยของน้องชายอย่างบ้าคลั่ง
“มีใครอยู่ที่นั่นกับเธอเหรอ” สาวิตรีถามเมื่อได้ยินเสียงครางอีกเสียงเต็มรูหู
“เอ่อ ครับ” ไกรวิทย์รับสารภาพ เขาจ้องตาปรียานุชขณะที่เธอเริ่มลดความเร็วในการเด้งกระเด้าลงเล็กน้อย
“เธอน่าจะบอกพี่ว่ามีคนอื่นอยู่กับเธอ” สาวิตรีกระชากเสียงพร้อมกับดึงมือออกมาจากกางเกงใน
ปรียานุชเริ่มเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้งในขณะที่เธอฟังเสียงสาวิตรีทางโทรศัพท์
“ใครอยู่กับเธอน่ะ” เธอถาม ไกรวิทย์มองปรียานุชที่ยิ้มแล้วพยักหน้าอนุญาต


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #6 on: January 07, 2010, 09:31:58 AM
“พี่นุชครับ”
“ยัยนุชเหรอ กะแล้วว่าเธอสองคนต้องมีอะไรกันจนได้” สาวิตรีพูดแล้วหันมองรอบตัวว่ามีใครมาหรือเปล่า “เดี๋ยวพี่จะกลับแล้ว”
“ครับ ผมดีใจที่พี่ไม่โกรธที่ผมอยู่ที่นี่กับพี่นุช ไม่ใช่...” ไกรวิทย์พูดไม่ทันจบ ปรียานุชก็แย่งหูโทรศัพท์ไป
“หวัดดีค่ะพี่สา ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูจะดูแลนายวิทย์ให้เองค่ะ บ๋ายบาย” เธอพูดแล้วก็เอาหูโทรศัพท์ไปวางบนแคร่
เมื่อวางโทรศัพท์แล้ว เธอก็จับหน้าน้องชายให้หันกลับมาดูดเลียเต้าอวบของเธออีกครั้ง เธอชอบให้คู่สวาททำแบบนี้ที่สุดเพราะเต้านมเธอไวต่อการสัมผัสมาก การที่ถูกดูดเลียทำให้เธอมีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์
ไกรวิทย์จูบไซ้เต้านมพี่สาวอย่างเต็มฝีมือในขณะที่พี่สาวเขาก็สาวลำควยเข้า ออกรูหีเธอเร็วขึ้นอีก ทำให้ทั้งคู่ครวญครางออกมาด้วยความมันส์ในอารมณ์
จังหวะที่เร็วขึ้นนี้ทำให้ลำควยของไกรวิทย์ไวต่อความรู้สึกมากขึ้นและเขารู้ ว่าคงจะทนได้อีกไม่นานขณะที่พี่สาวจับใบหน้าเขาแล้วเริ่มจูบแผ่วเบาแล้วก็ ค่อย ๆ เร่าร้อนรุนแรงขึ้นเมื่อเธอรู้สึกว่าท่อนควยที่อยู่ในตัวเธอกำลังพองตัวใหญ่ ขึ้นพร้อมที่จะคายน้ำรักออกมา
“อาวว์ว์ ผมกำลังจะถึงแล้วครับพี่นุช” ไกรวิทย์ร้องลั่นเมื่อรู้สึกน้ำอสุจิเคลื่อนไปตามลำควยจนถึงหัวเงี่ยงหยัก
ปรียานุชหยุดการกระเด้าเพื่อให้แน่ใจว่าลำควยของน้องชายฝังลึกอยู่ในตัวเธอ ขณะที่น้ำรักข้นเหนียวของเขาฉีดพุ่งออกมา มันร้อนจนเหลือเชื่อขณะที่น้ำควยของน้องชายพุ่งกระฉูดเข้าไปในโพรงหีเธอ
“อาวว์ วิทย์จ๋าเก่งจังเลยจ้ะ” ปรียานุชพูดหอบ ๆ เมื่อรู้สึกว่าท่อนเอ็นน้องชายกำลังหดตัวลงภายในร่องหลืบที่เปียกแฉะของเธอ
เธอค่อย ๆ โหย่งตัวลุกขึ้นขณะที่ลำควยน้องชายลื่นหลุดออกมา น้ำควยน้ำหีของทั้งคู่ไหลรินลงไปตามขาอ่อนเธอ เธอขยับตัวมายืนอยู่หน้าน้องชายที่ยิ้มด้วยความพอใจอย่างคล่องแคล่ว
“ดีจนไม่น่าเชื่อเลยครับ” ไกรวิทย์พูด ตามองพี่สาวหุบขา หยดน้ำเสียวเม็ดน้อยเริ่มไหลลงไปตามด้านในขาอ่อนเธอ
“พี่ก็เหมือนกันจ้ะวิทย์ พี่จะต้องไปอาบน้ำแล้ว เธอเองก็น่าจะรีบแต่งตัวนะ” ปรียานุชบอกขณะที่เธอเดินขึ้นบันไดไปอาบน้ำ
ไกรวิทย์พยักหน้าแล้วมองท่อนเอ็นของตัวเองที่มันปลาบไปด้วยน้ำแห่งความเงี่ยนของทั้งคู่
“มันดีเกินไปจนไม่น่าเชื่อ” ไกรวิทย์พูดซ้ำขณะที่มองหาเสื้อผ้าตัวเอง
เพิ่งจะเริ่มวันใหม่ได้ไม่ทันไร เขาก็ได้เย็ดพี่สาวคนที่สี่เสียแล้ว แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคตนะ ความคิดเรื่องเสียว ๆ มันวิ่งวุ่นในจิดใจเขา



Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #7 on: January 07, 2010, 09:34:48 AM
ไกรวิทย์นั่งเล่นอยู่บนโซฟาคนเดียวพักใหญ่ในขณะที่ปรียานุชกำลังอาบน้ำชำระร่างกาย
เขาได้ยินเสียงฮัมเพลงแว่วมาถึงที่นี่ แสดงว่าเธอคงจะเปิดประตูห้องน้ำไว้เพราะเห็นว่าพวกเขาอยู่บ้านกันเพียงลำพัง
เมื่อหันไปมองนาฬิกาบนผนัง ไกรวิทย์ก็พบว่าเป็นเวลาบ่ายโมงยี่สิบห้านาที หมายความว่าปรียานุชไปทำงานสายแล้ว
“พี่นุช ผมว่าพี่รีบหน่อยเถอะ พี่ไปทำงานสายแล้วนะครับ” เขาตะโกนขึ้นไปบอกพี่สาวที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยเปล่า
“ซวยล่ะสิ กี่โมงแล้วน่ะ” เธอถามขณะที่เช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูสีชมพู
“บ่ายโมงยี่สิบห้าแล้วครับ” ไกรวิทย์ตะโกนตอบพี่สาวที่ตอนนี้อยู่ในห้องกำลังสวมชุดทำงานกลับเข้าไปใหม่
“บ้าชิบ ที่จริงเราต้องเข้าทำงานตอนบ่ายสิบห้า แล้วนี่กว่าจะไปถึงที่ร้านก็อีกตั้งสิบนาทีแน่ะ” เธอพึมพำกับตัวเองขณะสวมเสื้อยืด
เธอวิ่งกระหืดกระหอบลงบันไดแล้วหยุดเมื่อถึงชั้นล่างและเห็นน้องชายรออยู่ เธอยิ้มหวานให้กับเขา
“พี่นุชรีบไปเถอะครับ” เขามองเธอก้าวลงบันไดทีละสองขั้น
“พี่รู้จ้ะ แต่พี่ว่าต่อให้ถูกไล่ออกแลกกับการได้มีความสุขกับน้องชายสุดที่รักคนนี้มัน ก็คุ้มนะ” เธอตอบขณะเดินเข้ามาหาเขา แสงจากหน้าต่างส่องกระทบตัวเธอจนเห็นเหมือนรัศมีแสงของเทพธิดา
“อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิครับ” ไกรวิทย์พูดอาย ๆ หน้าแดงเมื่อถูกพี่สาวคนสวยจุ๊บแก้มก่อนจะหันเดินออกจากประตูไปทำงาน
ไกรวิทย์กำลังจะกลับไปผ่อนคลายที่ห้องนั่งเล่นก็พอดีได้ยินเสียงเปิดประตูหน้า เขาหันขวับไปดูนาฬิกาปรากฏว่าเป็นเวลาบ่ายสองโมงพอดี
“สวัสดีจ้ะ ใครอยู่บ้านบ้างเอ่ย” พรรณวดีนั่นเอง
“คร้าบ อยู่นี่ครับ” ไกรวิทย์ตะโกนตอบจากห้องนั่งเล่น
พรรณวดียิ้มสดชื่นเมื่อได้ยินเสียงน้องชายแล้วก็รีบตรงไปหา
“ไงจ๊ะพ่อหนุ่มนักรัก วันนี้เป็นไงบ้าง แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดล่ะ” เธอถามน้องชายโดยเรียกเขาว่า “พ่อหนุ่มนักรัก” เป็นครั้งแรก
“ไปข้างนอกกันหมดเหลือแต่ผมคนเดียวครับ” ไกรวิทย์ตอบพี่สาวโดยไม่ได้สังเกตว่าเธอเรียกเขาว่าอะไร
“อยู่คนเดียวเหรอ อะฮ้า” พรรณวดีเดินเขาไปหาน้องชายแล้วนั่งลงบนตักเขาอย่างสบายอารมณ์โดยบดขยี้ก้นเธอกับควยเขาที่กำลังพองตัวขึ้นมา
“ครับแล้วพี่พรรณกลับมาทำอะไรเหรอ เอ้อแล้วที่ถามนี่ไม่ได้จะต่อว่าอะไรพี่นะครับ” ไกรวิทย์ถามพี่สาวขณะที่รู้สึกว่าท่อนเอ็นเขากำลังพยายามดันกางเกงตัวเองและ ก้นกลมกลึงของเธอ
“พี่ก็เพิ่งได้กินข้าวเที่ยงไปน่ะก็เลยคิดว่าจะกลับมาหาพ่อหนุ่มนักรักคน โปรดของพี่สักหน่อย” เธอตอบขณะที่รู้สึกว่าลำควยเขายังพยายามดันตัวขึ้นมาอยู่
“พ่อหนุ่มนักรักเหรอ ผมเป็นแบบนั้นตั้งกะเมื่อไหร่ครับเนี่ย” ไกรวิทย์ถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยกับชื่อเล่นที่พี่สาวคนสวยมอบให้
“ก็ตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อนน่ะสิ ชอบมั้ยล่ะ” พรรณวดีถามขณะที่เธอบดขยี้ก้นเธอกับควยเขาแรงขึ้น
“ก็...ไม่รู้สิครับ ไม่เคยมีใครเรียกผมแบบนั้นมาก่อนเลย” ไกรวิทย์ตอบ จ้องตาพี่สาวคนงาม
“คงงั้นแหละจ้ะ แต่ต่อจากนี้ไปพี่จะเรียกเธอแบบนี้แหละ...พ่อหนุ่มนักรักของพี่” พรรณวดีจบคำพูดด้วยการประทับจูบอย่างนิ่มนวลบนริมฝีปากของน้องชาย
ไกรวิทย์ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้นอกจากยอมรับชื่อเล่นใหม่นี้ ที่จริงก็น่าขอบใจพี่พรรณที่อุตส่าห์สรรหาคำมาชมเรา เขาคิดในใจขณะที่จูบตอบอย่างร้อนแรงขึ้น
พรรณวดีต้องการอย่างอื่นที่มากกว่าริมฝีปากของน้องชาย แค่จูบเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เธอพอใจได้
แต่ไกรวิทย์กลับอยากจูบพรรณวดีถ่วงเวลาต่ออีกสักพักเพราะเขายังไม่ฟื้นตัว จากกามกิจกับปรียานุชเมื่อสี่สิบห้านาทีก่อน แต่ใครเล่าจะสามารถปฏิเสธสาวสวยร้อนสวาทอย่างพรรณวดีได้
เขาได้แต่มองเธอยกตัวขึ้นเล็กน้อย สอดมือไปบีบควยเขานอกกางเกงยีนส์ก่อนจะเลื่อนไปปลดกระดุมและรูดซิปลงจนเหลือ แต่กางเกงชกมวยที่กั้นขวางระหว่างมือเธอกับควยเขา
เธอมองสบตาเขาแล้วยิ้มหวานก่อนจะสอดมือเข้าไปในกางเกงในแล้วกำลำควยเขาไว้ แน่น จากนั้นก็เริ่มบีบนวดมันเบา ๆ ความร้อนจากท่อนลำนั้นให้ความอบอุ่นกับมือนุ่ม ๆ ของเธอได้เป็นอย่างดีขณะที่เธอรูดหนังหุ้มปลายเข้า ๆ ออก ๆ และเลียริมฝีปากอย่างหิวกระหายไปด้วย
ขณะที่เธอกำลังจะคุกเข่าเบื้องหน้าเขาและจับเจ้าอวัยวะที่แข็งปั๋งนั้นเข้า ปากจิ้มลิ้มของเธอนั้น ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงประตูหน้าเปิดออกอีกครั้งหนึ่ง
พรรณวดีรีบช่วยน้องชายดึงกางเกงในที่ถูกรูดลงไปอยู่ที่เข่าด้วยความรีบอยากจะยัดควยเขาเข้ารูไหนก็ได้ในตัวเธอให้กลับเข้าที่
“หวัดดีจ้ะ ใครอยู่บ้านบ้างเนี่ย” ลลิตาแม่ของพวกเขานั่นเอง วันนี้เธอกลับบ้านเร็วกว่าปกติ
“อยู่นี่ค่ะแม่” พรรณวดีร้องตอบขณะที่ลุกขึ้นจากตักน้องชายแล้วเดินเข้าครัวไปกอดทักทายแม่
“อ้าวแล้วนี่มาทำอะไรที่บ้านล่ะจ๊ะ ตอนนี้น่าจะทำงานอยู่ไม่ใช่เหรอ” ลลิตาถามขณะที่ลูกสาวกอดเธอ
“งานช่วงเช้ามันเยอะมากน่ะค่ะหนูเลยเพิ่งได้ออกมากินข้าวเที่ยง แล้วแม่ล่ะคะ” พรรณวดีถามกลับ
“อ๋อ วันนี้ได้เลิกงานก่อนเวลาน่ะ เครื่องมือมันมีปัญหาก็เลยได้กลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน” เธออธิบายให้ลูกสาวฟังขณะที่ไกรวิทย์เดินเข้ามากอดแม่
“ไปอยู่ไหนมาจ๊ะถึงมาทักแม่ช้าอย่างนี้” เธอถาม
“ผมทำงานค้างอยู่น่ะครับ แต่ผมก็ไม่ได้ลืมแม่นะ” ไกรวิทย์ตอบ ซึ่งความจริงคือเขาพยายามทำให้ควยอ่อนตัวลง จะได้ไม่มาทักทายแม่ในสภาพควยแข็งชี้โด่
“จ้ะ แม่รู้อยู่แล้วว่าลูกเป็นเด็กดี” เธอสัพยอกขณะที่เดินไปที่ตู้เย็น “อยากให้แม่ทำอะไรให้กินอะไรมั้ย เด็ก ๆ”
“ไม่ล่ะครับแม่ ผมไม่หิว” ไกรวิทย์ตอบ
“หนูขอแซนด์วิชซักชิ้นค่ะ” พรรณวดีตะโกนมาจากห้องนั่งเล่น
ลลิตาเอาแฮมออกมาแล้วบอกให้ไกรวิทย์ช่วยหยิบขนมปังมาให้ ซึ่งเขาก็ไม่ปฏิเสธ ในระหว่างที่เดินไปหยิบขนมปังอยู่นั้น เขาเหลือบมองเข้าไปในห้องนั่งเล่นเห็นพรรณวดีนั่งมองเขาตาละห้อย
ไกรวิทย์เห็นสีหน้าของพี่สาวแล้วก็ยิ้มอย่างขบขันก่อนจะส่งจูบให้เธอ ซึ่งพรรณวดีก็ทำทีเป็นคว้ามันไว้ก่อนจะยกมือขึ้นดูดเลียและจูบมันราวกับว่า มันเป็นลำควยของน้องชายซึ่งเธอคงทำไปแล้วถ้าแม่ไม่อยู่ตรงนั้น
ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะไม่สมหวังดังที่ตั้งใจไว้
พรรณวดีนอนคิดถึงไกรวิทย์ตลอดคืน เธอปรารถนาจะลุกจากเตียงไปที่ห้องเขาแล้วร่วมรักกับพ่อน้องชายสุดที่รักของเธอแบบโต้รุ่ง
แต่น่าเสียดายว่าคงทำแบบนั้นไม่ได้เพราะคนอื่นๆ อยู่กันเต็มบ้านซึ่งคงจะได้ยินเสียงเขาและเธอเย็ดกันเป็นแน่แท้
มันเป็นคืนที่ยาวนานสำหรับไกรวิทย์เช่นกัน เขาคิดถึงปรียานุชและสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างเขากับพรรณวดีในวันนี้ถ้าแม่ เขาไม่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
เช้าวันรุ่งขึ้นเขาตื่นแต่ไก่โห่เพราะแสงแดดที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา เมื่อหันมองนาฬิกาก็พบว่าเพิ่งเจ็ดโมงสี่สิบห้าเท่านั้น เช้ากว่าที่เขาและคนในบ้านเคยตื่นเป็นประจำ (ปกติสาวิตรีจะตื่นตอนแปดโมงครึ่ง ส่วนคนอื่น ๆ จะตื่นราวแปดโมงเช้าเพราะส่วนใหญ่ทำงานตอนเก้าโมงหรือต้องไปมหา’ลัย)
ไกรวิทย์ลุกจากเตียงและแต่งตัว เช็คดูในกระเป๋ามีเงินสดอยู่สองพันบาท มองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องแล้วเขาก็คิดว่าคงถึงเวลาแล้วที่ต้องซื้อข้าวของเครื่องใช้จึงคว้าเสื้อ แจ็คเก็ตแล้วออกจากบ้านไปช็อปปิ้ง
ก่อนไปเขาเขียนโน้ตทิ้งไว้บอกว่าจะไปที่ไหน จากนั้นก็เดินออกจากบ้านไปที่ป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
พรรณวดีลงมาข้างล่างและก็เห็นกระดาษโน้ตมีข้อความว่า

ผมออกไปข้างนอก อีกสองสามชั่วโมงจะกลับ ผมล็อคประตูไว้ ถ้าออกไปตอนพี่สายังไม่ตื่นอย่าลืมล็อคประตูด้วย
วิทย์

พรรณวดีอ่านข้อความแล้วยิ้มออกมา เธอคิดแผนออกแล้ว วันนี้เธอจะต้องเย็ดไกรวิทย์ให้ได้แม้ว่าจะต้องข้ามศพแม่และพี่สาวน้องสาว ทุกคนก็ตามที
“ไงจ๊ะพรรณ นั่นอะไรน่ะ” วิภาวรรณถามเมื่อเห็นพรรณวดียืนถือกระดาษโน้ตข้อความในมือ
“หวัดดีค่ะพี่วิ โน้ตของนายวิทย์น่ะ บอกว่าออกไปข้างนอก” เธอยิ้มออกมา วิภาวรรณไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอเพราะอีกเดี๋ยววิภาวรรณ ลลิตาและปรียานุชก็จะต้องไปทำงานแล้วและเธอก็รู้มาว่าทั้งภาวิณีและกุลธิดา ก็ต้องไปเรียนที่มหา’ลัยทั้งวัน ตัวปัญหาคือสาวิตรี เธอต้องหาทางให้สาวิตรีออกไปจากบ้านให้ได้
“หวัดดีค่ะพี่สา” พรรณวดีทักพี่สาวคนโตขณะที่เธอเดินลงมาชั้นล่างตรงเวลาแปดโมงครึ่งตามปกติ
“หวัดดีจ้ะพรรณ” สาวิตรีอ้าปากหาวขณะเดินเข้ามาในครัวและตรงไปยังตู้เย็นมองหาเครื่องดื่ม
“วันนี้พี่สามีแผนทำอะไรมั่งคะ” พรรณวดีถาม เธอต้องการรู้ว่าสาวิตรีจะอยู่บ้านรึเปล่า
“ก็ไม่มีอะไรมาก ไปฟิตเนส ต่อจากนั้นก็ไม่มีแผนอะไร” นั่นไม่ใช่คำตอบที่พรรณวดีอยากได้ยิน
“ว้า” พรรณวดีพูดเสียงละห้อย
“แล้วนี่ไม่ไปทำงานหรือจ๊ะ” สาวิตรีถามพร้อมกับดื่มน้ำส้มที่อยู่ในตู้เย็น
“ไม่ค่อยสบายค่ะเลยโทรไปขอลาป่วยแล้ว” พรรณวดีรีบพูด พยายามทำเสียงให้เหมือนคนป่วย
“อ้าวเหรอ แต่ไม่ต้องห่วงมีพี่อยู่ด้วยเธอไม่เป็นอะไรแน่” สาวิตรีพูดยิ้ม ๆ พรรณวดีหลบตามองลงต่ำ รู้สึกผิดหวังหน่อย ๆ “เช้านี้ไม่เห็นนายวิทย์เลย ไปไหนรึเปล่า”
“หนูเจอโน้ตแผ่นนี้ตอนตื่นนอน เขาคงจะออกไปช็อปปิ้งน่ะค่ะ ทำไมเหรอคะ” พรรณวดีถามพี่สาวคนโต
“เปล่า แค่สงสัยเท่านั้นแหละ ว่าแต่เราเถอะเป็นไงบ้าง” สาวิตรีถามกลับ พยายามเปลี่ยนเรื่องจากเรื่องน้องชาย
“หนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แต่เอ พี่สาช่วยทำอะไรให้หนูหน่อยได้มั้ยคะ” พรรณวดีถามไปงั้นแหละ ในใจรู้อยู่แล้วว่าสาวิตรีเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อน้อง ๆ ของเธอ
“ได้สิจ๊ะ จะให้พี่ทำอะไรล่ะ”เธอถาม สอดส่ายสายตาหากระเป๋าใส่อุปกรณ์ฟิตเนส
“พี่สาไปฟิตเนสนานไหมคะ” พรรณวดีถาม หวังจะได้คำตอบว่านานมาก ๆ
“ก็ราว ๆ สองชั่วโมงน่ะจ้ะ” สาวิตรีบอกน้องสาว
“เอ่อ ตอนพี่สาจะกลับ ช่วยซื้อ...” พรรณวดีชะงัก พยายามนึกถึงอะไรที่ต้องใช้เวลาหาซื้อนาน ๆ
“อะไรล่ะจ๊ะ อยากให้พี่ซื้ออะไรให้เหรอ” สาวิตรีถาม ตั้งอกตั้งใจรอฟังคำตอบ
“เอ้อ ก็ช็อคโกแล็ตน่ะค่ะ หนูจะเอาไปฝากบี” พรรณวดีโพล่งบอกพี่สาวเท่าที่นึกได้ตอนนั้นเพราะเวลามันกระชั้นชิดเหลือเกิน
“บี ใครกันเหรอ” สาวิตรีถามด้วยความสงสัย
“เพื่อนที่ทำงานน่ะค่ะ พักหลังมานี่เธอไม่ค่อยสบายแล้วยังเพิ่งเลิกกับแฟนด้วย หนูอยากช่วยปลอบใจเขาน่ะค่ะ” พรรณวดีกุเรื่องสด ๆ เดี๋ยวนั้นเลย
“สงสัยเราจะไม่สบายเพราะไปติดมาจากเพื่อนคนนี้ละสิท่า” สาวิตรีสัพยอกขณะที่คว้าชุดฟิตเนสยัดใส่กระเป๋า
“เป็นไปได้ค่ะ พี่สาช่วยซื้อมาให้หนูได้มั้ยคะ” พรรณวดีถามพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน
“ได้สิจ๊ะ ตอนพี่ออกกำลังกายเสร็จจะซื้อมาให้ ยังไงก็ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีหรอก” สาวิตรีพูดอย่างอารมณ์ดี
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะพี่สา หนูอยากได้ช็อคโกแล็ตชนิดพิเศษที่ขายในตัวเมืองน่ะคะ บีเธอชอบแบบนั้นมากกว่า” พรรณวดีรีบพูด
“ในตัวเมืองเหรอ แค่เวลาไปกลับก็ชั่วโมงนึงเข้าไปแล้ว นี่ยังไม่รวมเวลาที่ต้องไปหาซื้ออีกนะ” สาวิตรีมองน้องสาวที่จ้องกลับด้วยสายตาเว้าวอน
“นะคะพี่สา ซื้อให้หนูหน่อยนะคะพี่สาวคนดี๊คนดี” พรรณวดีอ้อนสุดฝีมือ รู้อยู่ว่าสาวิตรีต้องยอมตามใจเธออยู่แล้ว
“ก็ได้จ้ะ เพื่อเธอนะเนี่ยพี่ถึงยอม” สาวิตรีส่ายหน้า ทำตาประหลับประเหลือก
“ไชโย ขอบคุณค่ะพี่สาคนดีที่หนึ่งเลย นี่ค่ะเงิน” พรรณวดียื่นเงินให้พี่สาว 500 บาท
“โอ้โฮ สงสัยจะเป็นเพื่อนรักสุด ๆ เลยนะ” สาวิตรีทำตาโตเมื่อเห็นจำนวนเงิน “แล้วไอ้ช็อคโกแล็ตที่ว่านี่มันเป็นยังไงล่ะ”
พรรณวดีอธิบายอย่างละเอียดว่าซื้อที่ไหนและเป็นประเภทไหนแล้วมองตามสาวิตรีที่ออกจากบ้านไปออกกำลังกายช่วงเช้า
เรียบร้อย กว่าจะกลับก็คงบ่ายโมงโน่น ที่เหลือก็แค่รอให้นายวิทย์กลับมา พรรณวดีคิดในใจขณะนั่งรอการกลับมาของน้องชายที่โต๊ะอาหาร
ไกรวิทย์มาถึงบ้านตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง เขาออกไปตั้งแต่แปดโมงเช้าและไปมาเกือบทุกร้านแต่ไม่ค่อยได้ซื้ออะไรเป็น ชิ้นเป็นอัน ได้แค่ซีดีและดีวีดีสองสามแผ่นเท่านั้น
เขาเปิดประตูแล้วก็แปลกใจที่มันไม่ได้ล็อค แสดงว่ามีใครยังอยู่ในบ้าน
เมื่อเข้าไปในบ้าน เขาก็พบกับภาพพรรณวดีนั่งอยู่ที่โต๊ะ เธอเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อเชิร์ตตัวใหญ่และกางเกงขาสั้นลายลูกไม้แนบเนื้อหลัง จากคนอื่น ๆ ออกไปแล้ว
ไกรวิทย์จ้องมองพี่สาวในขณะที่เธอส่งยิ้มหวานให้เขาจากอีกฟากของห้อง
ขณะที่มองเธอ เขาปล่อยถุงใส่ของที่ซื้อมาลงไปกองกับพื้น ด้วยเหตุใดไม่ทราบ เขารู้ว่าเขาและพรรณวดีอยู่กันเพียงสองต่อสองในบ้าน
พรรณวดีฉีกยิ้มกว้างออกไปอีกเมื่อเขาเดินเข้ามาหาแล้วยกมือจับใบหน้าเธอจาก นั้นก็โน้มตัวลงจูบเธออย่างทะนุถนอม ลิ้นเขาเลียริมฝีปากเธอจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย
พรรณวดีสนองตอบอย่างเต็มใจ เพียงครู่เดียวเธอก็ยืนบดเบียดเรือนร่างอวบอัดกับตัวน้องชาย แขนเธอยกขึ้นโอบรอบคอเขาขณะที่รั้งตัวเขาเข้ามาแนบชิดกับเธอยิ่งขึ้น
ไกรวิทย์ก็เช่นกัน เขารั้งเอวพี่สาวไว้แล้วดึงตัวเธอถอยไปกับเขาจนชนกับซิงค์น้ำ ลิ้นทั้งคู่ต่างสำรวจโพรงปากของกันและกันอย่างชุ่มฉ่ำ
เมื่อชนกับซิงค์น้ำ ทั้งคู่ก็ถอยกลับจนไปถึงโต๊ะ คราวนี้ขาของพรรณวดีชนกับขอบโต๊ะบ้าง
เนื่องจากขาของเธอยาวมาก เธอจึงสามารถนั่งลงบนโต๊ะได้อย่างสบายซึ่งเธอก็ทำเช่นนั้น
เธอนั่งทำตัวสบาย ๆ ให้น้องชายสอดมือเข้าไปถอดเสื้อเชิร์ตออกอย่างง่ายดาย เธอไม่ได้สวมบรา หน้าอกเธอยังคงเต่งตึงงดงามเหมือนกับครั้งแรกที่พวกเขาได้เย็ดกัน
พรรณวดีเอนหลังใช้แขนยันพื้นโต๊ะไว้ดันหน้าอกหน้าใจอวบอั๋นให้พุ่งไปข้าง หน้า ไกรวิทย์ไม่รอช้าก้มหน้าลงอมหัวนมข้างซ้ายแล้วจูบยอดถันที่ชูชันก่อนจะ เปลี่ยนไปยังเต้าอีกข้างหนึ่ง
ไกรวิทย์พิศวงหลงใหลเต้านมพี่สาวที่ชูชันสู้มือเป็นอย่างยิ่งในขณะที่เขาไล้ ลิ้นเลียเต้าแต่ละข้าง พรรณวดีร้องครวญครางด้วยความเสียวที่เกิดจากการเล้าโลมด้วยปากของน้องชาย
พรรณวดีปล่อยให้น้องชายฟอนเฟ้นเต้านมคู่งามของเธอต่ออีกสองสามนาทีก่อนจะ ผลักตัวเขาออกแล้วเอนตัวไปข้างหน้าจับเสื้อยืดเขาแล้วดึงมันออกไปทางศีรษะ ไกรวิทย์ยกแขนขึ้นช่วยอำนวยความสะดวก
เมื่อถอดเสื้อยืดชั้นนอกออกแล้ว เธอก็ทำแบบเดียวกันกับเสื้อกล้ามแล้วโยนเสื้อทั้งสองตัวลงไปบนพื้น เธอจ้องมองน้องชายที่ตอนนี้เปลือยท่อนบนเหมือนกับเธอ
พรรณวดีจูบลงไปที่หน้าอกเขาระเรื่อยลงไปจนถึงกางเกงยีนส์ เธอเลื่อนตัวลงจากโต๊ะมาคุกเข่าอยู่หน้าเขา เธอพรมจูบที่หน้าท้องอันแบนราบในขณะที่ถอดเข็มขัดแล้วรูดมันออกจากกางเกง ยีนส์
แล้วทั้งคู่ก็เลื่อนตัวลงไปนอนกับพื้นห้อง พรรณวดีดึงน้องชายขึ้นมาทาบทับตัวเธอ เธอยื่นมือลงไปรูดกางเกงขาสั้นของตัวเองลงไปแล้วใช้ขาสลัดมันออกไปจากตัว
ไกรวิทย์ยันตัวขึ้นชื่นชมเต้านมคู่งามที่ขาวสล้างและยอดถันที่ชูช่อในระหว่างที่เธอถอดกางเกงของตัวเอง
พรรณวดีมองร่างกายน้องชายที่ขยับตามการหายใจเข้าออกแล้วยิ้มหวานก่อนจะยื่น มือไปจับกางเกงยีนส์ของเขาอีกครั้งแล้วดึงมันลงมาพร้อมกางเกงชกมวยจนลำควย เขาเป็นอิสระดีดตัวผึงออกมา
เธอกุมมันไว้ในมือนุ่ม ๆ รูดหนังหุ้มปลายลงไปแล้วจ่อมันเข้าที่ปากรูหีที่อ้ารออยู่แล้ว ไกรวิทย์ร้องครางออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนผะผ่าวของช่องหลืบพี่สาว ตั้งแต่ก่อนจะทะลวงควยเข้าไปเสียอีก
พรรณวดีจ่อหัวเงี่ยงหยักกับปากทางสวรรค์ของเธอแล้วเอนตัวลงนอน ปล่อยให้น้องชายปฏิบัติการนำมังกรเข้าถ้ำด้วยตัวเอง
ไกรวิทย์ก็เต็มใจที่จะสนองตอบ เขาทิ้งน้ำหนักตัวไปข้างหน้า ลำควยเขาแหวกผ่านแคมหีเข้าไปในถ้ำโพรงที่ฉ่ำเยิ้มของพรรณวดีอย่างง่ายดาย พรรณวดีถึงกับครางออกมาด้วยความเสียวซาบซ่าน
เธอโอบขารัดเอวไกรวิทย์ไว้ขณะที่เขาแทรกตัวลึกเข้าไปอีก ความร้อนที่มาจากภายในโพรงหลืบของเธอมันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ มันร้อนผ่าวยิ่งกว่าในครั้งแรกที่ทั้งคู่เย็ดกันเสียอีก
เมื่อเข้าไปลึกสุดเท่าที่จะลึกได้แล้ว ไกรวิทย์ก็ชักควยออกมาเพื่อจะได้กระแทกมันเข้ามาใหม่
พรรณวดีครวญครางอย่างเสียวกระสันด้วยโพรงหีที่คับตีบของเธอโอบรัดลำควยน้อง ชายไว้แน่นทำให้การกระเด้าแต่ละครั้งควยเขาเสียดสีกับผนังถ้ำของเธอเต็ม ๆ
ไกรวิทย์เองก็ครางกระเส่าเหมือนกันในขณะที่พี่สาวใช้มือทั้งสองข้างจับแก้ม ก้นเขาแล้วกระชากสะโพกเขาเข้า ๆ ออก ๆ พร้อมกันนั้นเธอยังจูบไซ้ต้นคอไล่ไปจนถึงใบหูแล้วส่งเสียงครางเข้าไปในรูหู ขณะที่เขาโหมกระเด้าอย่างมันส์ในอารมณ์
การกระเด้าเย็ดหยุดลงเมื่อทั้งคู่แลกจูบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีการใช้ลิ้น มีแต่เพียงริมฝีปากประกบกันขณะที่ตามองสบกันแน่วนิ่ง
“ไปทำต่อกันให้เสร็จที่ชั้นบนเถอะ” พรรณวดีเป็นคนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วโหยในขณะที่น้องชายพยักหน้าเห็นด้วยแล้ว ลุกขึ้นจากพื้นช่วยดึงตัวพี่สาวยืนขึ้น ในตอนนั้นกางเกงยีนส์ของเขายังกรอมอยู่ที่ขาอ่อนแต่เมื่อทั้งสองไปถึงห้อง นอนเขามันก็หลุดไปที่ไหนแล้วก็ไม่รู้


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #8 on: January 07, 2010, 09:35:16 AM
เมื่อเข้าไป ในห้อง ทั้งคู่ก็ตรงรี่ไปที่เตียง ไกรวิทย์ทรุดนั่งลงที่ขอบเตียงในขณะที่พรรณวดีปีนขึ้นไปนั่งคร่อมตัวเขา ทรงตัวไว้ด้วยท่อนขาที่แข็งแรงและท่อนควยของน้องชายที่ฝังลึกลงไปในรูหีที่ เต็มไปด้วยความเงี่ยนอยากของเธออีกครั้งหนึ่ง
พรรณวดีเริ่มบดขยี้สะโพกไปมา ปล่อยลำควยน้องชายออกจากรูหีจนเกือบหมดลำก่อนจะกดมันกลับเข้าไปจนมิด
“อ๊าววว์ ดีจังเลย” พรรณวดีสูดปากครางกระเส่าไล้มือไปตามเส้นผมของน้องชายในขณะที่บดกระแทกตัวเองเข้ากับร่างของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
ไกรวิทย์ก็ครางลั่นออกมาเหมือนกัน ขณะที่พี่สาวโขยกตัวเขาก็ช้อนมือเข้าไปใต้ก้นเธอช่วยขยับอีกแรงหนึ่งเป็นการ ช่วยผ่อนแรงเธอ เธอยิ้มหวานขอบคุณในความมีน้ำใจของน้องชายในขณะที่ครวญครางด้วยความเสียวสุข ไปด้วย
พรรณวดีเริ่มเมื่อยขาจากการที่ต้องอยู่ในท่าที่ไม่เป็นธรรมชาติแบบนี้ เธอไม่ใช่พวกที่บ้ายิมเหมือนพี่ ๆ น้อง ๆ บางคนก็เลยไม่ชินกับการอยู่ในท่าสควอทนาน ๆ เพราะท่านี้ไม่อยู่ในเมนูการฝึกเต้นของเธอ
ไกรวิทย์รู้ว่าพี่สาวคงจะเริ่มเมื่อยก็เลยเปลี่ยนให้เธอเป็นฝ่ายนอนหงายเพื่อเขาจะได้เป็นคนคุมจังหวะการกระเด้าในระหว่างที่เธอพักขา
พรรณวดียิ้มขอบคุณแล้วให้น้องชายเป็นฝ่ายคุมจังหวะ เขาเริ่มด้วยจังหวะที่ค่อนข้างเร็วโดยอัดควยเข้าไปในตัวเธอจนลึกแล้วดึงมัน ออกอย่างเร็วแล้วกระซวกกลับเข้าไปอีก
จังหวะความเร็วที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้พรรณวดีถึงกับกรีดร้องออกมาเพราะไม่คุ้น เคยแต่นั่นก็เป็นการร้องออกมาด้วยความสุขเกษมสันต์ที่เธอได้รับ
พรรณวดีทนนอนรับจังหวะใหม่นี้เฉย ๆ ไม่ไหวแล้ว เธอจึงลุกขึ้นกลับไปอยู่ในท่านั่งเหมือนตอนแรกแล้วเริ่มอัดกระแทกบดตัวเอง เข้ากับน้องชายอีกครั้ง
“โอววว์ว์ อร่อยควยสุด ๆ เลยครับพี่พรรณ ยังงั้นแหละครับ” ไกรวิทย์ร้องครางออกมาเมื่อเขาดันตัวเธอให้เอนถอยไปเพื่อจะได้เข้าถึงเต้านม คู่งามได้สะดวกโดยเขาดูดดุนหัวนมแต่ละข้างก่อนจะเคล้นคลึงเต้าอวบด้วยมือ ทั้งคู่
ไกรวิทย์รู้ว่าพรรณวดีชอบให้เลียหีเพราะเขาบังเอิญได้ยินเธอบอกกับสาวิตรี เมื่อตอนกลางคืนและนี่เป็นโอกาสอันดีที่จะแสดงให้เธอเห็นว่าเขามีความสามารถ ขนาดไหน
เขาดันตัวเธอให้ถอยห่างออกไปอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาถอนควยออกมาทั้งลำทำให้เธอสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เพียงครู่เดียวเธอก็เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรเมื่อเขาคลานลงไปจากเตียงแล้ว แทรกหัวเข้าระหว่างขาอ่อนเธอ
ไกรวิทย์จูบไซ้ด้านในของขาอ่อนข้างซ้ายไล่เรื่อยขึ้นไปจนถึงโคกหีเธอแล้วเขา ก็เริ่มเลียกินน้ำเสียวที่ไหลเยิ้มออกจากเนินโคกจนพรรณวดีร้องครางดังกว่า ทุกครั้งที่ผ่านมา ก่อนน้องชายตัวดีจะแยงลิ้นเข้าไปสำรวจภายในตัวเธอ
ความรู้สึกที่ได้รับแตกต่างจากตอนที่มีลำควยทิ่มทะลวงเข้าไปในในตัวอย่าง สิ้นเชิง ลิ้นนั้นนุ่มนวล เปียกชื้นและอ่อนนุ่มขณะที่มันไล้เลียแคมนอกก่อนจะเลื่อนไปหาเม็ดเสียวของ เธอ
“โอยยยย อูววว์ อาวว์ว์” พรรณวดีครางลั่นห้องเมื่อเธอถึงสวรรค์ในฉับพลันทันที
ไกรวิทย์ยังคงบรรเลงลิ้นต่อในขณะที่เขารู้สึกพี่สาวคนสวยที่อยู่บนเตียงตัว สั่นระริก มือเธอกดหัวเขาลงไปแนบชิดกับหว่างขาเธอจนเขาแทบหายใจไม่ออก
ไกรวิทย์รู้ว่าตัวเองคงจะขาดใจตายแน่ถ้าไม่ได้สูดอากาศเข้าปอด เขาจึงดึงตัวขึ้นไปทาบทับตัวเธออีกครั้ง พรมจูบบนส่วนต่าง ๆ บนร่างเธอไปตลอดทาง เมื่อเลื่อนตัวขึ้นไปจนใบหน้าของทั้งคู่ตรงกัน เขาก็ประกบปากจูบเธอ
พรรณวดีอยากจะทำอะไรให้ไกรวิทย์เป็นพิเศษเพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาใช้ลิ้น กับเธอ เธอจึงหยุดเขาไว้แล้วดันตัวเขาออกก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำจนก้นงอนงามของเธอยก ขึ้นจากพื้นเตียงเล็กน้อย
ไกรวิทย์รู้ว่าเธอต้องการให้เขาทำอะไร เขายิ้มออกมาเมื่อขยับเข้าไปด้านหลังตัวเธออย่างเก้ ๆ กัง ๆ โน้มตัวข้ามก้นอันกลมกลึง ทาบทับหน้าอกลงบนแผ่นหลัง ส่วนลำควยจ่ออยู่กับรูตูดเธอ
“เอาเลยจ้ะวิทย์ ลงมือได้เลย” พรรณวดีกระซิบบอกขณะเธอยื่นมือไปข้างหลังแล้วแบะแก้มก้นตัวเองให้น้องชาย ซึ่งสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วจ่อหัวบักเข้ากับรูตูดเล็ก ๆ ของพี่สาว
พรรณวดีกัดกรามกรอดเมื่อรู้สึกท่อนควยของน้องชายแทรกเข้าประตูหลังของเธอ อย่างยากลำบาก เธอเคยโดนแบบนี้มาก่อนแต่ตอนนั้นเพื่อนชายเธอสวมถุงยางที่มีสารหล่อลื่นอยู่ บ้าง เที่ยวนี้มีแต่น้ำเงี่ยนของทั้งคู่เท่านั้นซึ่งก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บเล็ก น้อยขณะมันชำแรกเข้าไป
“อาวว์ โอ๊ย” พรรณวดีร้องลั่นเมื่อเธอรู้สึกลำควยน้องชายเคลื่อนลึกเข้าไปอีก มันแน่นตึงจนแทบทนไม่ไหวแต่พรรณวดีรู้ดีว่าเมื่อมันเข้าไปจนหมดเธอก็จะ รู้สึกดีขึ้นเอง
ไกรวิทย์ก็รู้สึกถึงแรงบีบรัดลำควยโดยกล้ามเนื้อหูรูดที่กระชับของพี่สาว แต่เขาก็กลั้นใจกระเด้าส่งสุดแรงจนเข้าไปได้มิดลำ
พรรณวดีรู้สึกแน่นไปหมดและรู้สึกเหมือนอยากถ่ายหนักแต่เธอก็จำได้ว่าครั้ง แรกที่เธอถูกอัดรูตูดก็เป็นแบบนี้และมันรู้สึกดีขนาดไหนหลังจากที่ปรับตัว คุ้นเคยกับมันแล้ว
ไกรวิทย์โล่งใจเมื่อหนอกควยเขาแนบชิดกับก้นกลมกลึงของพี่สาวแสดงว่าเขาเข้าไปได้สุดแล้ว เขาหยุดนิ่งอยู่สองสามนาที
พรรณวดีเริ่มคุ้นเคยกับลำควยน้องชายที่อยู่ในรูตูดเธอแล้วจึงบอกให้เขาเริ่มซอยกระเด้าด้วยจังหวะที่คงที่
ไกรวิทย์ทำตามที่เธอบอกแล้วก็รู้สึกเสียวสุขเป็นอย่างมาก เขาเคยคิดว่าการได้เอาควยเข้าไปในหีของพี่สาวเป็นความสุขอันสูงสุดแต่การได้ เย็ดรูตูดเธอมันเสียวยิ่งไปกว่านั้นมาก
เขาเริ่มเร่งจังหวะขึ้นเมื่อได้ยินเสียงพี่สาวครวญครางออกมาทุกครั้งที่เขาโหมกระเด้า
รูตูดของพรรณวดีคับแน่นและร้อนผ่าวจนเขารู้ว่าตัวเองคงกลั้นน้ำควยต่อไปได้ อีกไม่นาน เขาตั้งใจจะใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด เขาโน้มตัวลงไปจูบไซ้แผ่นหลังของพรรณวดีขณะเดียวกับที่เธอยื่นมือไปข้างหลัง แล้วขยี้หัวเขา เขาเองก็เกร็งกล้ามเนื้อก้นเพื่อจะได้อัดลำควยเข้าไปในรูตูดพี่สาวได้แรง ขึ้น
“โอวว์ ซี๊ดดด ยังงั้นแหละจ้ะ อร่อยจังเลย” เธอครางกระเส่าเมื่อรู้สึกท่อนควยเขาบุกทะลวงรูตูดเธออย่างรุนแรง
การโหมกระเด้าอย่างลืมตายแบบนี้ทำให้น้ำไกรวิทย์ใกล้จะแตกยิ่งขึ้น ความคับแน่นและความร้อนผะผ่าวในรูตูดพี่สาวทำให้ลูกกะโปกเขาหดรัดตัวจนเขา รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเสร็จ
เขาคำรามเสียงดังในลำคอแล้วเริ่มฉีดน้ำควยอุ่นระอุเข้าไปในตูดของพี่สาวคน สวย จนเธอต้องร้องลั่นออกมาเพราะความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นใหม่นี้เข้าไปลวกเนื้อ อ่อน ๆ ในโพรงตูดเธอ
ไกรวิทย์ดึงลำควยที่อ่อนตัวลงออกมาหลังการเย็ดที่ดุเด็ดเผ็ดร้อนระหว่างเขา กับพรรณวดีที่ตอนนี้คว่ำหน้าลงครวญครางกับหมอน เธอบีบแก้มก้นตัวเองให้ชิดกันแล้วพลิกตัวนอนหงายมองขึ้นไปที่น้องชายที่ กำลังหอบหายใจเหมือนเธอ
พรรณวดียิ้มออกมาเมื่อรู้สึกน้ำควยน้องชายไหลรินจากตูดเธอลงไปยังผ้าปูที่นอนเขา
“เธอคงต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนแล้วล่ะวิทย์ พิ่คิดว่ามันคงเปื้อนเละเทะไปหมดแล้ว” เธอยิ้มพร้อมกับยื่นมือลงไปกดปิดรูตูดกันไม่ให้น้ำควยที่เหลือไหลทะลักออกมา ขณะที่เธอลงจากเตียงอย่างระมัดระวังแล้วเดินขาถ่าง ๆ ไปเข้าห้องน้ำ
ไกรวิทย์หันไปมองเตียงตัวเองแล้วก็เห็นความเปื้อนเปรอะที่เหลืออยู่ แต่มันก็เป็นร่องรอยความสกปรกที่เขาเต็มใจเก็บกวาด

ไกรวิทย์นอนทอดหุ่ยบนเตียงอยู่นานกว่าจะตัดใจเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ส่วนพรรณวดีอยู่ในห้องน้ำกำลังทำความสะอาดร่างกายโดยเฉพาะเหงื่อที่เกาะพราว อยู่ตามตัว เธอชอบความรู้สึกตอนที่น้ำไหลซู่มากระทบกับหัวนมที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ มันทำให้เธอคิดถึงแต่เรื่องวาบหวิว ผิวกายทุกส่วนที่ถูกน้ำสาดกระทบดูจะส่งกระแสความสุขออกมาเมื่อเธอลดอุณหภูมิ ของน้ำลงเพื่อกำจัดความร้อนที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อ
ไกรวิทย์ลุกจากเตียงและลากผ้าปูที่นอนออกไปเรียบร้อยแล้วตอนที่พรรณวดีโผล่ มาตรงประตู ร่างของเธอยังคงมีน้ำหยดติ๋ง ๆ เส้นผมเธอแบนติดหนังศีรษะซึ่งพอเปียกน้ำแล้วก็ดูสีเข้มกว่าปกติ ทำให้ดูเธอเหมือนเป็นคนใหม่ เธอมองไกรวิทย์พับผ้าปูที่นอนจนเป็นก้อนกลมพร้อมที่จะยัดใส่เครื่องซักผ้า กลิ่นที่เกิดจากกามกรีฑาของพวกเขายังลอยฟุ้งอยู่ในห้อง
พรรณวดีเดินเข้าไปหาน้องชาย ทิ้งรอยเปียกไว้บนพรมที่เขี่ยฝ่าเท้าที่เปลือยเปล่าของเธอ ไกรวิทย์มองพี่สาวเดินเข้ามาหา ชื่นชมเรือนร่างของเธอที่มีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำบาง ๆ ปิดบังไว้ ผ้าไหมสีชมพูนุ่มนั้นดูเชิญชวนเหลือเกิน
“มัน...” คำพูดของพรรณวดีสะดุดลงเมื่อถูกนิ้วของน้องชายที่วางบนริมฝีปากเธอสกัดกั้นไว้
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกครับ” ไกรวิทย์ยิ้มขณะที่ดึงนิ้วออกมาแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของพี่สาวทำให้เธอ รู้สึกเสียวแปลบไปทั่วตัวเมื่อริมฝีปากที่อุ่นนุ่มของไกรวิทย์สัมผัสกับริม ฝีปากของเธอ การจูบของทั้งคู่ต้องยุติลงอย่างปัจจุบันทันด่วนเมื่อได้ยินเสียงประตูหน้า ปิดดังปัง
“พี่ต้องไปแล้วล่ะ” พรรณวดีพูดแล้ววิ่งไปที่ประตูก่อนจะหยุดแล้วหันไปยิ้มให้น้องชาย จากนั้นก็วิ่งตึกตักไปที่ห้องนอนเพื่อแต่งตัว ไกรวิทย์คว้าก้อนผ้าปูที่นอนแล้วเดินลงไปข้างล่างดูว่าใครกลับมาบ้าน
วันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์เพราะฉะนั้นทุกคนก็เลยอยู่บ้านกันครบ
ไกรวิทย์และพรรณวดีไม่ได้เจอกันเลยเกือบตลอดช่วงเช้า ไม่ใช่เพราะทั้งคู่ละอายใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนหรอก แต่เป็นเพราะเส้นทางของทั้งคู่ไม่มาบรรจบกันเองเนื่องจากในบ้านมีคนอยู่พลุก พล่านต่างหาก
“เมื่อวานผ้าปูที่นอนเธอเปื้อนอะไรมาเหรอ” สาวิตรีถามไกรวิทย์ในห้องครัวขณะที่เธอหยิบข้าวสาลีอบกรอบออกมาจากตู้
“ผ้าปูที่นอนเหรอครับ พี่สา” ไกรวิทย์ถามขณะที่เคี้ยวอาหารเช้าคำสุดท้าย
“เมื่อวานตอนพี่กลับมา เห็นเธอเอาผ้าปูที่นอนลงมา พี่อยากรู้ว่ามันเปื้อนอะไร ก็แค่นั้นแหละ” สาวิตรีขยายความขณะที่เธอนั่งลงรับประทานอาหารเช้าที่โต๊ะ
“อ๋อ นั่นน่ะเหรอ พี่พรรณอ้วกใส่น่ะครับ ผมก็เลยต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ พี่สาก็รู้นี่ครับว่าเมื่อวันก่อนพี่พรรณแกไม่สบาย” ไกรวิทย์พูดขณะถือชามไปที่ซิงค์น้ำ ในใจหวังว่าคงไม่มีการพูดเรื่องนี้ต่อ
“พี่ไม่คิดว่ายัยพรรณเขาป่วยหนักขนาดนั้นเลยนะ แล้วเขาไปทำอะไรในห้องเธอล่ะ” สาวิตรีถามก่อนจะตักอาหารเช้าเข้าปาก
“พี่พรรณเขา...” ไกรวิทย์นึกหาคำตอบดี ๆ ไม่ออก
“ไม่เป็นไรหรอกนายวิทย์ เธอไม่ต้องบอกพี่ก็ได้ ทีเราเองก็ไม่ได้บอกทุกเรื่องให้คนอื่น ๆ รู้เหมือนกัน” สาวิตรีพูดยิ้ม ๆ ทั้งที่ในปากยังมีอาหารอยู่
“เรื่องอะไรเหรอคะ” กุลธิดาเอ่ยถามขณะที่เดินเข้ามาในห้องครัวที่สว่างจ้า
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แค่คุยเล่นกับพ่อน้องชายคนเล็กของเราเท่านั้นแหละ” สาวิตรีตอบ กลบเกลื่อนพิรุธได้อย่างยอดเยี่ยม
“หนูว่าคุยกับนายวิทย์คงจะสนุกดีหรอกนะคะ” กุลธิดายิ้มถากถางไกรวิทย์
“ตลกนักนี่ พี่ดา” ไกรวิทย์ยิ้มตอบ
“ไม่เอาน่า อย่ารวนกันเองซิ” สาวิตรีดุน้องชายและน้องสาวขณะที่เธอวางชามในซิงค์น้ำ
“แล้ววันนี้มีแผนทำอะไรกันป่าว” กุลธิดาถามทั้งพี่สาวและน้องชาย
“ไม่มี” เป็นคำตอบของทั้งไกรวิทย์และสาวิตรี
“เห็นยัยภา แม่ พี่นุช และพี่พรรณคุยกันว่าจะเข้าเมือง จะไปกับเขาด้วยไหมล่ะ” กุลธิดาถาม
“ผมกระเป๋าแห้ง พี่สาล่ะครับ” ไกรวิทย์ถาม ส่งยิ้มแบบมีความหมายเป็นนัยว่านี่เป็นโอกาสทองที่พวกเขาจะได้อยู่กันเพียงลำพัง
“พี่ก็เหมือนกัน ไม่เหลือเลย” สาวิตรีตอบ ส่งรอยยิ้มนั้นกลับคืนให้น้องชาย
“ว้า น่าเสียดายเนอะ” กุลธิดาเบะปาก “ทางนี้ก็เหมือนกันเลย สงสัยจะเหลือเราอยู่โยงกันแค่สามคน”
หัวใจไกรวิทย์หล่นวูบ เขาวาดหวังไว้ว่าจะได้ใช้เวลาช่วงเช้ากับสาวิตรีบนเตียงเพียงลำพัง แต่เมื่อกุลธิดาอยู่บ้าน มันคงยากที่จะเป็นความจริงขึ้นมา
“อ้าวเหรอ อยู่กันสามคนก็ดีเหมือนกันนะ” สาวิตรีพูดพร้อมรอยยิ้มแบบมีเลศนัย
“ครับ..เอ่อ.ผมเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อวานใช้เงินไปไม่หมด วันนี้ผมอาจจะไปด้วย” ไกรวิทย์หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วเปิดให้พี่สาวทั้งสองเห็นธนบัตรที่เหลือ อยู่ข้างใน
“พวกนั้นคงชอบใจเนอะที่ได้นายวิทย์ไปช่วยหิ้วข้าวหิ้วของให้” กุลธิดามองน้องชายแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นผมต้องรีบแล้วล่ะจะได้ตามไปทัน” ไกรวิทย์ยิ้มแล้วคว้าเสื้อแจ็คเก็ตเดินตรงไปที่ประตู
“เอาล่ะ เหลือเราเพียงสองคนแล้วนะ น้องพี่” กุลธิดายิ้มขณะมองผ่านหน้าต่างเห็นน้องชายวิ่งตามแม่และพี่สาวที่เพิ่งออกไป
“ค่ะ เหลือแค่เราสองคนเท่านั้น”
กุลธิดาและสาวิตรีนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น คนอื่น ๆ ออกไปราวยี่สิบห้านาทีได้แล้ว พี่น้องสองสาวตกลงกันว่าวันนี้จะอยู่กันสบาย ๆ สาวิตรีนั่งรับแสงจากหน้าต่าง แสงที่สาดส่องกระทบตัวเธอดูเป็นประกายสีทองเรืองรอง กุลธิดาอดชื่นชมกับภาพผิวกายที่เรียบลื่นของพี่สาวสะท้อนแสงสว่างสดใสไม่ได้ สาวิตรีต้องป้องมือไว้เหนือตาเพื่อดูทีวี
“อยากให้ปิดม่านมั้ยคะ”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ พี่ไม่ค่อยสนใจรายการนี้เท่าไหร่” สาวิตรีตอบแล้วมองไปทางน้องสาวที่นั่งหลบแสงอยู่อีกซีกหนึ่งของโซฟา
“โอเคค่ะ ถ้าอยากให้หนูปิดม่านเมื่อไหรก็บอกนะคะ จริง ๆ หนูก็ไม่ค่อยสนใจรายการนี้เหมือนกัน” กุลธิดาเห็นด้วยและมองหารีโมทเพื่อเปลี่ยนช่อง
“เราไปทำอย่างอื่นกันดีกว่ามั้ย พี่ว่าทีวีไม่ค่อยมีอะไรน่าดูเลย” สาวิตรีพูด ลุกขึ้นยืน
กุลธิดาเห็นด้วยและปิดทีวี “พี่สาอยากทำอะไรล่ะคะ” เธอถาม
“พี่เองก็ไม่รู้ แล้วแต่หนูดีกว่ามั้ย”
“เอ้อ เราไป...” กุลธิดาคิดไม่ออก ปกติเธอไม่ใช่คนที่คอยคิดตัดสินใจ ยิ่งตอนนี้ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ถนัดเรื่องคิดจริง ๆ
“ไปทำอะไรหรือจ๊ะ”
“หนูคิดว่าเราเอ้อ ไปอาบแดดกันหน่อยดีมั้ยคะ อากาศข้างนอกกำลังเหมาะเลย” นี่คือข้อเสนอของกุลธิดา ซึ่งพี่สาวของเธอไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่
“พี่ไม่ค่อยชอบอาบแดดน่ะ พี่คิดว่าจะจัดข้าวจัดของซักหน่อย สนใจจะช่วยมั้ย” สาวิตรีซาวเสียง
“ได้ค่ะ” กุลธิดาดูกระตือรือร้นที่จะช่วยงานที่ปกติแล้วเป็นงานที่น่าเบื่ออย่างทำความสะอาดตู้เสื้อผ้า
“โอเค งั้นไปกันเถอะ” สาวิตรีเดินนำไปที่บันไดแล้วขึ้นไปที่ห้องนอนของเธอ
“ว้าวพี่สา นี่พี่มีเสื้อผ้ากี่ชุดเนี่ยคะ” กุลธิดาถามขณะรับเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์จากตู้เสื้อผ้าของสาวิตรีมาอีกชุดหนึ่ง
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน จะมีอะไรอยู่ในนี้ก็คงไม่แปลกแล้วล่ะ” สาวิตรีสารภาพขณะที่เธอเจอชุดเพิ่มขึ้นอีก กองนี้อยู่ติดผนังด้านหลังตู้ที่แทบจะไม่มีที่ว่างเหลือ
“หนูไม่รู้เลยนะคะเนี่ยว่าพี่สามีชุดเยอะยังงี้” กุลธิดาชื่นชมเสื้อผ้าที่ถูกกองไว้เป็นชุดที่เข้ากันบนเตียงทั้ง 3 ในห้อง
“พี่เองก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะจนเหลือเชื่อขนาดนี้” สาวิตรีมองกองเสื้อผ้าที่แตกต่างกัน แรกสุดก็เสื้อยืดสีต่าง ๆ แดง น้ำเงิน ชมพู ขาว เขียว ทั้งที่มีลวดลายและที่เป็นสีพื้น หลายตัวที่อยู่ในกองนี้มันเล็กจนเธอใส่ไม่ได้แล้วแต่ก็ไม่ได้แยกออกไป ต่อไปเธอหันไปดูกองกางเกงยีนส์ ทั้งสีซีด ทั้งใหม่ ทั้งเก่า สีดำและน้ำเงิน รวมกันอยู่ที่นั่น
สายตาทั้งสองคู่เลื่อนไปมองเตียงถัดไปซึ่งมีชุดเก่า ๆ ของสาวิตรีกองอยู่ มันกระจัดกระจายอยู่บนเตียง ชุดสีเขียว แดงและน้ำเงินซ้อนทับกัน ซึ่งชุดเหล่านั้นเล็กเกินไปสำหรับสาวิตรีแล้ว
ส่วนเตียงที่สามเต็มไปด้วยรองเท้าหลากหลายชนิด มีทั้งส้นสูง ผ้าใบและบู๊ทหลากสี
“โอ๋ย พี่ไม่คิดว่าพี่มีของเยอะขนาดนี้” สาวิตรีส่ายหน้า เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าข้าวของทั้งหมดนี้ยัดรวมกันอยู่ในตู้เสื้อผ้าของ เธอมานานเสียจนฝุ่นจับ
“เอ ไอ้นี่มันอะไรหนอ” เสียงกุลธิดาดังมาจากด้านหลังสาวิตรีที่กำลังแปลกใจว่าของเยอะขนาดนี้ยัด เข้าไปรวมอยู่ในที่แคบ ๆ อย่างตู้เสื้อผ้าได้อย่างไร พอหันกลับไปก็เห็นกุลธิดาดึงกล่องรองเท้าที่ดูคุ้น ๆ แต่จำไม่ได้ว่าข้างในใส่อะไรไว้
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” สาวิตรีเอียงคอพยายามนึกว่ามันใส่อะไรไว้
“ตายแล้ว” กุลธิดาร้องลั่นเมื่อเปิดกล่องแล้วหยิบควยยางสีดำยาวเฟื้อยออกมา นิ้วเธอแทบจะกำแท่งยางอวบอ้วนนั้นไม่รอบ ดวงตาสาวิตรีเบิกกว้าง เธอนึกออกแล้วเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่อง
“พี่สาไปเอามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” กุลธิดาถาม กวัดแกว่งเจ้าควยยางที่อยู่ในมือ
“พี่ลืมมันไปแล้วนะเนี่ย พี่ได้มาจากเพื่อนตอนอายุยี่สิบเอ็ด ว้ายไม่น่าเชื่อว่ายังเก็บมันไว้อีก” สาวิตรีคว้ามันจากมือน้องสาวแล้วมองสำรวจ ลูบคลำไปทั่วเจ้าแท่งขนาดเก้านิ้ว สัมผัสได้ถึงตุ่มเล็ก ๆ ที่เขี่ยฝ่ามือเหมือนกับที่มันเคยเขี่ยเร้าผนังโพรงหีเธอเมื่อหลายปีก่อน
“แล้วมีเรื่องที่มาของเจ้านี่รึเปล่าคะ” กุลธิดาถามด้วยความสนใจขณะที่เธอมองสาวิตรีลูบไล้แท่งยางแข็งอย่างแผ่วเบา ราวกับกำลังอยู่ในโลกใบน้อย ๆ ของตัวเอง
“อะไรเหรอ ขอโทษที พี่มัวแต่คิดอะไรเพลิน ๆ อยู่” สาวิตรีหวนกลับสู่สภาพความเป็นจริงเมื่อได้ยินเสียงน้องสาว
“หนูถามว่ามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเจ้านี่หรือเปล่า”
“อ๋อ มีสิจ๊ะ ตอนพี่อายุยี่สิบเอ็ดปีอย่างที่บอกแล้ว พี่มีปัญหากับแฟน จำได้ใช่มั้ย” กุลธิดาพยักหน้า เธอรู้เรื่องที่สาวิตรีกำลังพูดถึง
“แล้ว”
“เอ่อ เธอกับพี่เราสนิทสนมกันมาตลอดใช่มั้ย” จู่ ๆ สาวิตรีก็เปลี่ยนเรื่อง
“ค่ะ พี่เป็นคนเดียวในบ้านที่หนูสนิทที่สุด พี่สาก็รู้อยู่นี่คะ” กุลธิดาตอบ สงสัยว่าทำไมสาวิตรีถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“พี่กำลังจะเล่าความจริงทั้งหมดให้เธอฟัง พี่เชื่อว่าคงไว้ใจเธอได้ใช่มั้ย” สาวิตรีถาม รอคำตอบก่อนจะพูดต่อ
“ชัวร์อยู่แล้วค่ะ” กุลธิดาให้ความมั่นใจกับพี่สาว
“โอเค เอ้อ ปัญหาระหว่างพี่กับสุรเชาวน์ก็คือควยเขาไม่ยาวเท่ากับของคนที่พี่ต้องการน่ะ”
กุลธิดาไม่แน่ใจว่าสาวิตรีหมายถึงอะไร
“ที่จริงแล้วคนที่พี่ต้องการก็คือนายวิทย์น่ะจ้ะ”
“วิทย์ วิทย์ไหนคะ” กุลธิดาถาม จำไม่ได้ว่ามีคนชื่อวิทย์ที่พวกเธอรู้จักอยู่ด้วย
“ก็นายวิทย์ของเราไงล่ะ” สาวิตรีพูดตรง ๆ
“วิทย์ วิทย์ พี่สาหมายถึงนายวิทย์น้องชายเราเนี่ยนะ” กุลธิดาตกตะลึงที่ได้ยินคำสารภาพของสาวิตรีแต่ก็ยังปล่อยให้เธอพูดต่อ
“จ้ะ นายวิทย์ของเรานั่นแหละ ตอนนั้นพี่ไม่รู้ว่ามันหมายความว่าไง เขาอายุแค่สิบห้าและเราไม่ได้มีอะไรกันจนเมื่อสองสามวันก่อน แต่พี่ต้องการเขาตลอดมา”
“เดี๋ยวก่อน นี่หมายความว่าพี่สากับนายวิทย์มีอะไรกันเมื่อสองสามวันก่อนใช่มั้ย”
สาวิตรีพยักหน้า น้องสาวเธอตกตะลึงอีกครั้ง แต่กุลธิดาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอปล่อยให้สาวิตรีพูดต่อ
“เอ้อ พี่กับสุรเชาวน์ทะเลาะกันเรื่องนายวิทย์นี่แหละแล้วเราก็ไม่ได้มีอะไรกันอีก เลย ทำให้พี่หงุดหงิดเป็นที่สุด ยัยเก๋เลยให้ไอ้นี่พี่มา” สาวิตรีชูเจ้าควยยางให้น้องสาวดูขณะเล่า
“แล้วพี่ก็ไม่ได้ใช้มันอีกเลยละสิ หลังจากที่พี่คบกับอารักษ์และตอนนี้ก็เป็นนายวิทย์” เสียงกุลธิดาไม่ได้บ่งบอกถึงความตกอกตกใจ เธอพูดเหมือนตัวเองก็มีความลับอัดอั้นตันใจที่อยากระบายออก
“จ้ะ ดูสิตอนนี้เธอคงคิดว่าพี่คงเลวสุด ๆ แล้วใช่มั้ย” สาวิตรีรอน้องสาวว่าเมื่อไหร่จะเริ่มร้องตะโกนด่าว่าเธอแต่เปล่ากุลธิดาไม่ ได้ทำอะไรแบบนั้น เธอกลับยิ้มแล้วมองสบตาพี่สาว
“พี่สาคะ”
“จ๊ะ อะไรเหรอ”


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #9 on: January 07, 2010, 09:38:57 AM
“หนูเข้าใจความรู้สึกที่พี่มีให้กับนายวิทย์ดีค่ะ” กุลธิดาพูดเนิบ ๆ นิ่ม ๆ กับพี่สาว
“เรารู้ได้ยังไงว่าพี่รู้สึกยังไงกับนายวิทย์”
“ก็เพราะหนูรู้สึกแบบเดียวกับพี่นะสิคะ” กุลธิดาสารภาพ สาวิตรีถึงกับเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
“นี่หมายความว่าเธอก็รู้สึกกับนายวิทย์แบบเดียวกับพี่เหรอ” เธอถาม สาวิตรีส่ายหน้า
“งั้นกับใครล่ะ”
“ก็พี่สานั่นแหละ” กุลธิดาพูดนิ่ม ๆ ก้มหน้าลงราวกับอายที่พูดออกมา
“พี่เหรอ” สาวิตรีตกตะลึงพรึงเพริดกับสิ่งที่กุลธิดาพูดออกมา เป็นใครจะไม่ตกใจบ้างล่ะ
“ค่ะ หนูอยากจะลูบคลำสัมผัสเนื้อนุ่ม ๆ ของพี่สามานานจนตัวเองก็จำไม่ได้แล้วว่าตั้งแต่เมื่อไหร่” กุลธิดาพูดอย่างจริงจัง เธอหมายความตามที่พูดจริง ๆ สาวิตรีรู้
“ไม่จริงมั้งจ๊ะ” สาวิตรีพูดแล้วเดินไปหาน้องสาว
“จริง ๆ ค่ะ หนูควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ทุกวันที่เห็นพี่ หนูยิ่งต้องการพี่มากขึ้นเรื่อย ๆ หนูเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน” กุลธิดาเริ่มสะอึกสะอื้น
“โอ๋ ไม่เอาน่า อย่าร้องไห้” สาวิตรีกอดน้องสาวให้หน้าเธอซุกกับหน้าอกแล้ววางศีรษะบนตัวกุลธิดาจากนั้นก็ โยกตัวเบา ๆ เหมือนแม่ปลอบลูกที่กำลังร้องไห้ กุลธิดากอดเอวสาวิตรีไว้แน่นเหมือนเด็กที่หลงทางที่ได้กลับมาพบแม่อีกครั้ง
“ไม่เอาน่า ไม่เห็นเป็นไรซักหน่อย พี่ก็สังเกตว่าเธอชอบมองพี่แต่ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย เราก็น่าจะบอกพี่มาตั้งนานแล้วนะ เด็กโง่” สาวิตรีพูดเบา ๆ ปลอบน้องสาวไปด้วย
“หนู...หนู..น่าจะ...แต่” สาวิตรียกนิ้วขึ้นแตะปากน้องสาวห้ามไม่ให้พูด ทิ้งรอยฝุ่นสีเทาบนริมฝีปากเธอ
“ไม่ต้องพูดจ้ะ ไม่เป็นไรหรอก มานี่สิจ๊ะ” สาวิตรีพูดแล้วยิ้มออกมาด้วยความขบขันเมื่อเห็นรอยฝุ่นสีเทาบนใบหน้าน้องสาว กุลธิดาขยับเข้าไปใกล้พี่สาวแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเธอ ตอนนี้เธอพอจะหักห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลรินลงมาตามแก้มที่แดงระเรื่อได้แล้ว
“พี่เองก็รักเธอเหมือนกันจ้ะ ดา” สาวิตรียิ้ม กุลธิดาก็มองออกว่าสาวิตรีพูดความจริงเพราะทั้งสองเป็นพี่สาวน้องสาวที่สนิท กันที่สุดในบรรดาลูกสาวของบ้านนี้ อันที่จริงสาวิตรีก็ใกล้ชิดสนิทสนมกับทุกคนในบ้านแต่ระหว่างเธอสองคนมีความ รู้สึกที่ไม่ธรรมดางอกเงยขึ้นมา กุลธิดาแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ อารมณ์ความรู้สึกที่ปั่นป่วนมีชัยเหนือเธอจนเธอต้องโอบแขนรอบไหล่พี่สาวรั้ง ร่างทั้งสองให้แนบชิดกันขณะที่เธอกอดสาวิตรีแน่น
“พี่ว่าเราคงต้องอาบน้ำกันแล้วล่ะ” สาวิตรีพูดขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงน้ำตาของน้องสาวไหลพรากลงบนไหล่เธอ
“พี่รักนายวิทย์มาก อยากใช้ชีวิตร่วมกับเขาตลอดไป” สาวิตรีพูดแผ่วเบาขณะนั่งอยู่ในน้ำอุ่น หลังพิงขอบอ่างอีนาเมลที่เย็นเฉียบ น้ำอุ่น ๆ ไหลวนกระทบผิวกายเรียบลื่นใต้เต้าอวบอิ่มของเธอ กุลธิดานั่งอยู่ระหว่างขาพี่สาว น้ำในอ่างก็กระเพื่อมชนกับผิวกายนิ่ม ๆ ของเธอเหมือนกัน ส่งคลื่นความสุขไปทั่วร่างขณะเดียวกับที่เธอรู้สึกว่าสาวิตรีกำลังใช้ฟองน้ำ ถูหลังให้เธอ
ทั้งสองสาวดิ่งตรงจากห้องนอนไปที่อ่างอาบน้ำ แล้วค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายทีละชิ้น ๆ และก็ลูบคลำสัมผัสทุกส่วนของร่างกายกันและกันก่อนจะลงไปในอ่าง โดยสาวิตรีลงไปก่อนแล้วกุลธิดาตามลงมา
“เขายังดูดีเหมือนกับตอนที่ยังเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม” กุลธิดาพูดขณะกำลังเพลิดเพลินกับน้ำที่ไหลลงมาตามแผ่นหลังเธอจากก้อนฟองน้ำ ที่ถูกกดเบา ๆ กับหลัง
“เปล่า พี่ว่าเขาดูดีกว่าตอนนั้นเสียอีก” สาวิตรีแย้ง โอบขารัดรอบตัวกุลธิดาไปด้วย ความรู้สึกที่เกิดจากการที่ผิวเธอสัมผัสกับผิวกุลธิดาใต้น้ำก่อให้เกิดความ เสียวแปล๊บแล่นไปทั่วร่างจนกระทั่งถึงศูนย์รับความสุขในสมองเธอ
สาวิตรีปล่อยฟองน้ำหล่นลงไปในอ่างจนมีเสียงดังต๋อมเบา ๆ และก่อให้เกิดคลื่นน้ำที่กระทบกับเต้าอวบของทั้งสองสาวจนทั้งคู่สยิวกายด้วย ความเสียว กุลธิดายิ้มอย่างสุขสมเมื่อรู้สึกคลื่นน้ำมากระทบหน้าอก เธอยื่นมือไปข้างหลังดึงมือสาวิตรีมาจับสะเอวเธอ นิ้วสองสาวสานกันแน่น เธอเอนตัวซบพี่สาวจนรู้สึกได้ถึงเต้านมอันอวบอิ่มบดเบียดกับแผ่นหลังเธอ ยอดถันที่ชูชันดันเข้ามาจนทำให้ทั้งคู่เสียวสยิว
สาวิตรียื่นมืออีกข้างมากุมมือกุลธิดาไว้ทำให้เธออยู่ในท่าที่สบายยิ่งขึ้น เธอทิ้งตัวลงบนตักสาวิตรี เนื้อแก้มก้นนุ่ม ๆ กดทับขนหมอยกลุ่มเล็ก ๆ เหนือเม็ดแตดที่สาวิตรีไม่ได้โกนทิ้ง ไรขนเขี่ยผิวก้นที่ไวต่อการสัมผัสของกุลธิดาจนเธอรู้สึกจั๊กจี๋ สาวิตรีมองและดื่มด่ำกับความรู้สึกขณะกุลธิดาเลื่อนตัวลงไปตามเรียวขาพี่สาว จนหัวเธอวางอยู่บนเต้านมสาวิตรี เส้นผมนิ่ม ๆ ที่เปียกน้ำของกุลธิดาเขี่ยสัมผัสหัวนมพี่สาวและที่ขาก็ได้ความรู้สึกดีขณะ ที่ขาของกุลธิดาเลื่อนเสียดสีกับขาเธอใต้น้ำ
“หนูใฝ่ฝันที่จะได้จูบพี่มานานแล้ว” กุลธิดาพูดขณะที่มองขึ้นไปในตาของสาวิตรี มือนุ่ม ๆ ของพี่สาวลูบไล้ไปทั่วเต้านมเธอ น้ำอุ่น ๆ ช่วยเพิ่มดีกรีความเสียวซ่านยิ่งขึ้นอีกเมื่อมือพี่สาวเคลื่อนผ่านหัวนมเธอ
สาวิตรีชักมือซ้ายออกจากเต้าของน้องสาวและยกมันขึ้นสัมผัสแก้มขวาเธอเบา ๆ แล้วเลื่อนขึ้นไปยังผมที่เปียกชุ่ม ตลอดเวลานั้นเธอยังจ้องตาน้องสาวอยู่ซึ่งก็มีประกายตายวนยั่วตอบกลับมา กุลธิดาทำแบบเดียวกันกับใบหน้าของสาวิตรี เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นบนใบหน้าพี่สาวขณะวนไล้มือไปบนผิวหน้าที่อ่อนนุ่ม ของสาวิตรี
“หนูฝันถึงริมฝีปากพี่บนริมฝีปากหนู” กุลธิดาพูดขณะที่เธอหลับตาลง ปรารถนาจะดื่มด่ำกับสัมผัสริมฝีปากพี่สาวบนริมฝีปากเธอโดยตัดเอาประสาทรับ รู้อื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป และแล้วกุลธิดาก็ได้รับสิ่งที่เธอใฝ่ฝันหา มันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นแปล๊บผ่านริมฝีปากเธอในขณะที่ริมฝีปากสาวิตรี ประกบลงเบา ๆ จุมพิตนี้ยาวนานกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขยับเขยื้อน สาวิตรีเป็นฝ่ายปล่อยมือที่วางอยู่บนใบหน้ากุลธิดาลงมายังเต้านมเธอ กุลธิดาที่ตายังหลับพริ้มยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมมือพี่สาวไว้แล้วนำมันไป ยังที่ที่เธอปรารถนาจะให้สัมผัส ฝ่ามือนุ่ม ๆ ส่งกระแสความสุขไปทั่วร่างเธอขณะเดียวกันริมฝีปากเธอก็บดขยี้กับริมฝีปากของ พี่สาว
กุลธิดาเป็นฝ่ายยุติการจูบโดยเลื่อนตัวไปข้าง ๆ สาวิตรีแล้วเริ่มจูบแผ่วเบาอีกครั้งแต่ครั้งนี้เธอเปิดริมฝีปากด้วย แต่ยังไม่มีการใช้ลิ้นแต่อย่างใด ณ.ห้วงเวลานี้มิใช่เป็นเวลาสำหรับการร่วมรักที่เร่าร้อนหากแต่เป็นจังหวะ เวลาแห่งความดื่มด่ำซึ้งใจที่หญิงสาวสองคนที่มีความรักให้กันจะมีร่วมกัน สาวิตรีไล้มือไปตามเรือนร่างของกุลธิดาลงไปจนถึงขาอ่อนก่อนจะวกขึ้นมายัง หว่างขาที่ยังอยู่ใต้ผิวน้ำ แต่กระนั้นสาวิตรีก็ไม่ได้สัมผัสกับเนินสวาทของน้องสาวแม้แต่น้อย เธอเลื่อนมือกลับขึ้นมาตามหน้าท้องที่เนียนแน่นและเต้านมที่อวบอั๋น คีบหัวนมข้างซ้ายไว้ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง บีบเบา ๆ แล้วดึงก่อนจะปล่อย กุลธิดาระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อรู้สึกหัวนมเธอถูกนิ้วที่คล่องแคล่ว ของสาวิตรีดึงขึ้น
กุลธิดายังคงพรมจูบอย่างแผ่วเบาต่อไปขณะที่ปล่อยมือหล่นจมลงไปใต้ผิวน้ำ คลื่นที่เกิดขึ้นโถมเข้าใส่เม็ดเสียวเธอยิ่งเพิ่มความร้อนในตัณหามากขึ้นอีก กุลธิดาสลับตำแหน่งขณะที่รู้สึกนิ้วของสาวิตรีสัมผัสกับแคมนอกเธอเป็นครั้ง แรก เธอลุกขึ้นหันตัว น้ำหยดลงจากสะโพกและขาเธอกระทบผิวน้ำเสียงเหมือนฝนกระทบกระจกหน้าต่าง พอหมุนตัวเสร็จ เธอก็ทรุดนั่งลงระหว่างขาสาวิตรีอีกครั้งแล้วกางขาตัวเองให้พี่สาวอยู่ ระหว่างขาโดยไม่ให้เนินสวาทกระทบกัน ตาสองสาวมองสบกัน สาวิตรียื่นมือจับแขนน้องสาวไว้ กุลธิดาเอนหลังจนมีเพียงหน้าอกและใบหน้าที่โผล่พ้นน้ำ เส้นผมเธอลอยฟ่องอยู่บนผิวน้ำทำให้เธอดูเซ็กซี่มาก สาวิตรีเลื่อนมือไปวางบนเต้าอวบของกุลธิดาแล้วไล่ลงไปลูบคลำสัมผัสทุกส่วน ที่ยื่นมือไปถึง จนกุลธิดายิ้มออกมาด้วยความสุขจากสัมผัสและพยายามแอ่นตัวใต้น้ำ
สาวิตรีโน้มหน้าลงไปจูบหน้าท้องน้องสาว ผมยาวสลวยของเธอเลื่อนไปตามผิวที่บอบบางขณะที่เธอไล้ริมฝีปากลงมายังท้อง น้อยแล้วก็ไปยังด้านในของขาอ่อน สาวิตรีจูบเน้นเนื้อนิ่ม ๆ ตรงนั้นขณะกุลธิดาลุกขึ้นนั่งมองพี่สาวจูบไซ้ขาเธอ ทั้งคู่อยู่ในน้ำมาพักใหญ่แล้วจนเริ่มรู้สึกหนาวและรู้ว่าถึงเวลาลุกจากอ่าง อาบน้ำแล้ว สาวิตรีและกุลธิดาช่วยกันเช็ดตัวด้วยผ้าเช็ดตัวนุ่ม ๆ ก่อนจะเดินไปยังห้องนอนของกุลธิดาในสภาพเปลือยเปล่า
ทั้งคู่นอนกอดก่ายกันบนเตียง สาวิตรีอยู่ข้างหลังน้องสาว เต้าอวบอัดของเธอบดเบียดกับแผ่นหลังน้องสาวอีกครั้ง กุลธิดายื่นมือซ้ายไปข้างหลังขยี้หัวพี่สาวขณะที่เธอถูกจูบไซ้ที่ต้นคอ มือสาวิตรีกดเน้นกับโคกสวาทของกุลธิดา ฝ่ามือวางทาบบนขนหมอยนุ่มนิ่ม ปลายนิ้วงองุ้มแตะกับปากแคมหีน้องสาว มันเป็นสัมผัสที่แผ่วเบาเสียจนแทบไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่แต่คลื่นความสุขที่ เกิดขึ้นมันแผ่ซ่านไปทั่วตัวเธออย่างสุดจะบรรยาย กุลธิดากดคอลงปล่อยให้พี่สาวจูบไซ้ต้นคอและปัดผมเธอออกเพื่อจะได้เข้าถึงทุก ซอกทุกมุม ในไม่ช้ารสสัมผัสจากปลายนิ้วก็จางหายไปเมื่อสาวิตรีกดนิ้วลึกเข้าไปในตัว น้องสาว กุลธิดาเริ่มเสียดสีตัวเองกับพี่สาวเมื่อรู้สึกนิ้วของเธอเริ่มชักเข้าชัก ออกรูหีเธอ กุลธิดาครางออกมาเมื่อรู้สึกปลายนิ้วเขี่ยขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ตรงปากช่องสวาท น้ำเสียวเธอชะโลมนิ้วทำให้สาวิตรีแยงเข้าไปได้ลึกขึ้น ร่างของทั้งสองสาวสั่นสะท้านเมื่อกุลธิดาเอียงหัวจนสามารถแลกจูบกับสาวิตรี ในขณะที่พี่สาวเธอใช้นิ้วกับเธออย่างเร็วและแรง ริมฝีปากทั้งคู่แตะกันเบา ๆ แล้วเริ่มแลกจูบกันขณะที่กุลธิดาครวญครางออกมาเมื่อกระแสความเสียวแล่นขึ้น สมอง
เมื่ออยู่ในท่านี้นานเข้า กุลธิดาก็เริ่มเมื่อยคอ เธอจึงหมุนตัวบนเตียง เอามือสาวิตรีออกจากโคกหีขณะที่เลื่อนตัวเองทาบทับบนเรือนร่างพี่สาว สาวิตรีนอนหงายแบะขา กุลธิดานอนทับสะโพกสาวิตรีแล้วเริ่มจูบโดยใช้ลิ้นเป็นครั้งแรกโดยแทรกเข้าไป ควานในปากสาวิตรี สาวิตรีรู้สึกอึดอัดที่น้ำหนักตัวน้องสาวกดลงบนสะโพกก็เลยเลื่อนตัวกุลธิดา ลงไปนอนข้าง ๆ แล้วหมุนตัวไปหา ทั้งคู่เริ่มแลกจูบกันอีกครั้ง ร่างสองสาวเบียดชิดกันแน่นจนความร้อนที่เกิดขึ้นทำให้มีเม็ดเหงื่อผุดพรายบน ผิวหนัง
กุลธิดายกมือกุมใบหน้าพี่สาวไว้แล้วจูบเธอ ลิ้นที่สัมผัสโลมเล้ากันทำให้สองสาวตัวสั่นระริกด้วยความเสียวซ่าน กุลธิดาผลักสาวิตรีออกไปแล้วคลานขึ้นไปทับพี่สาวใช้มือบีบเต้านมข้างขวา ก้มหน้าลงจูบวนรอบยอดถันก่อนจะประทับปากลงไป สาวิตรียกขาซ้ายขึ้นมารัดรอบเอวน้องสาว ขนหมอยเขี่ยสัมผัสกับเนื้ออ่อน ๆ ของขาทำให้เธอพริ้มตาลงด้วยความสุข ขณะที่เธอจูบและดูดดุนหัวนมในปาก สาวิตรีสูดปากครางเร่าแล้วบอกน้องสาวว่ามันรู้สึกดีขนาดไหนแต่กุลธิดาก็ไม่ ได้ยินที่พี่สาวพูด
สาวิตรีทนรับคลื่นความเสียวที่ไหลทะลักมาจากหัวนมเธอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอดึงตัวกุลธิดาออกไปแล้วยื่นหน้าเข้าไปหาแล้วประทับจูบอย่างแผ่วเบาบนริม ฝีปากน้องสาว กุลธิดาคลานถอยหลัง เต้านมและหัวนมเขี่ยสัมผัสส่วนต่าง ๆ ที่ไวต่อการสัมผัสบนร่างสาวิตรี ในที่สุดกุลธิดาก็ไปถึงเป้าหมาย เธอบดขยี้ริมฝีปากกับเนินสวาทของสาวิตรีจนเธอร้องลั่นออกมาอย่างสุขสมเมื่อ ริมฝีปากเปียก ๆ ของกุลธิดาพบกับแคมหีที่ชุ่มฉ่ำของสาวิตรี สาวิตรีร้องครางลั่นห้องเมื่อรู้สึกว่าผมของกุลธิดาเรี่ยระสัมผัสขาอ่อนเธอ และริมฝีปากจิ้มลิ้มแตะสัมผัสเนินสวาทเธออย่างนิ่มนวล ก่อนกุลธิดาเปิดริมฝีปากแล้วแลบลิ้นเปียก ๆ สำรวจข้างในโคกหี สาวิตรีมีความสุขเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ขณะที่รู้สึกว่าจุดสุดยอดกำลังใกล้เข้า มา
กุลธิดายังคงเลียด้านในของโคกหีที่อบอุ่นเปียกแฉะและคับตีบของพี่สาวต่อขณะ ที่สาวิตรีบีบเต้านมตัวเองเข้าหากัน กุลธิดาเลียขึ้นไปตามร่องจนลิ้นไปสัมผัสกับเม็ดแตดจนสาวิตรีกรีดร้องออกมา และแอ่นตัวขึ้นมาเมื่อจุดไคลแม็กซ์มาถึง กุลธิดาไม่ได้หยุดการเลียขณะที่สาวิตรีบิดตัวเร่า ๆ ข้างใต้ตัวเธอ เธอกลับดูดกินน้ำเสียวที่สาวิตรีขับออกมาจนหมด สาวิตรีกรีดร้องจนไม่มีเสียงออกมาด้วยจุดสุดยอดครั้งนี้รุนแรงเหลือที่จะ กล่าว เธอทำได้แต่เพียงใช้มือขยี้หัวน้องสาวซึ่งยิ่งทำให้เส้นผมกุลธิดาเขี่ยปลุก ความเสียวแก่เนินสวาทเธอยิ่งขึ้น
ในที่สุดกุลธิดาก็รู้ว่ากามกรีฑาได้ยุติลงแล้ว เธอได้มาในสิ่งที่เธอปรารถนาและเติมความต้องการของตัวเองจนเต็มอิ่ม เธอวางหัวลงบนหน้าท้องพี่สาว สาวิตรีชันขาซ้ายขึ้นเพื่อให้เกิดแอ่งสำหรับวางหัวน้องสาวขณะที่เธอลูบคลำ ศีรษะน้องสาวไปด้วย
“หนูได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากพี่ค่ะ” กุลธิดาเอ่ยขณะกอดเอวพี่สาว ศีรษะเธอยังวางอยู่บนหน้าท้องพี่สาว มือซ้ายของสาวิตรีวางอยู่บนศีรษะเธอ ส่วนมือขวาวางอยู่บนหน้าอกตัวเอง
“นี่ถ้านายวิทย์ได้มาเห็นเราตอนนี้เขาคงถูกใจมาก” สาวิตรียิ้ม
“หนูก็ว่างั้น แต่หนูคิดว่าจะไม่สามารถทำแบบนี้ได้พร้อม ๆ กันทั้งสามคน” กุลธิดาพูดขณะที่ขยับหัวนิดหน่อยให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้น
“หนูพูดถูกจ้ะ พี่ว่าแบบนี้ก็ยอดแล้วล่ะ” สาวิตรีเห็นด้วยเมื่อก้มลงมองศีรษะน้องสาวที่วางอยู่บนตัวเธอ
“อือมม์” กุลธิดาส่งเสียงเบา ๆ ขณะที่เธอเริ่มเคลิ้มหลับไปบนหน้าท้องพี่สาว
สาวิตรียิ้มเมื่อคิดถึงน้องชายและค่อยๆ พริ้มตาลงเหมือนกัน แล้วค่อยๆ ล่องลอยสู่ห้วงนิทรารมณ์
วันอาทิตย์เป็นวันที่เงียบสงบสำหรับไกรวิทย์จริงๆ หลังจากที่เขาได้มีความสุขกับพรรณวดีในตอนเช้าวันศุกร์แล้ว เขาก็ไม่ได้เย็ดพี่สาวคนใดอีกเลยตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์
วันนี้เป็นวันจันทร์แล้ว ทั้งภาวิณีและกุลธิดาก็ไปมหาวิทยาลัย กว่าจะกลับก็คงมืด ลลิตาแม่เขาและพี่สาวคนอื่น ๆ ยกเว้นสาวิตรีก็ออกไปทำงานกันหมด ทิ้งให้ทั้งคู่อยู่บ้านกันเพียงลำพัง
“ไงจ๊ะวิทย์” สาวิตรีทักน้องชายอย่างอารมณ์ดีขณะที่เขาเดินเข้าไปในครัว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอดูร่าเริงเป็นพิเศษในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
“ดูพี่สามีความสุขจังนะครับ มีอะไรรึเปล่า” ไกรวิทย์กอดพี่สาวขณะที่เธอจูบทักทายเขา
“ไม่มีอะไรที่เธอต้องเป็นห่วงหรอกจ้ะ” เธอยิ้มขณะที่กางเกงยีนส์ของน้องชายถูไถกับท่อนขาส่วนที่อยู่นอกกางเกงของเธอ
“ทำไมวันนี่พี่สาใส่กางเกงขาสั้นล่ะครับ”
“เอ๊ะ เช้านี้คำถามเยอะจังนะเราน่ะ” สาวิตรียิ้มอีกครั้ง เธอชอบหยอกล้อคนอื่นแม้แต่น้องชายคนโปรดก็ไม่มีข้อยกเว้น
“คงงั้นมั้งครับ แล้ว....” ไกรวิทย์ยังไม่หายสงสัย
“ก็วันนี้มันร้อนนี่นะ พี่เลยว่ากางเกงขาสั้นก็เหมาะดี มีปัญหาเหรอจ๊ะ”
“เปล่าครับ ผมจะไปว่าอะไร ดีซะอีกผมจะได้นั่งดูขาสวย ๆ กับก้นงอน ๆ ของพี่ได้ตลอดทั้งวัน” ไกรวิทย์รั้งร่างพี่สาวเข้ามาแนบชิดกับเอวมากขึ้นขณะที่เขาพูด ท่อนควยเขาก็ดันกางเกงยีนส์จนโป่งออกมาจนเธอรู้สึกได้ที่หว่างขา
“มันยังเช้าเกินไปที่จะทำเรื่องนั้นนะจ้ะ ไปทำให้มันสงบลงก่อนแล้วค่อยมาหาพี่” สาวิตรีผลักร่างน้องชายออกไปแต่ก็ยังจูบเขาหนึ่งที
“อะไรกัน พี่สาเบื่อผมแล้วเหรอครับ ที่เราได้..เอ้อ..กันก็นานแล้วนะ” ไกรวิทย์เลิกคิ้วแล้วยิ้ม แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างมากระทบฟันที่ขาวแวววาวของเขา
“ก็ดีนะที่ได้รู้ว่าเธอไม่อายที่จะพูดเรื่องที่เรามีอะไรกัน เปล่า พี่ไม่ได้เบื่อเธออย่างที่เธอพูดหรอก เพียงแต่ตอนนี้พี่ไม่มีอารมณ์เท่านั้นเอง แล้วค่อยมาหาพี่ทีหลังนะ” สาวิตรีออกจากห้องพร้อมกับรอยยิ้ม และจูบไกรวิทย์อีกครั้งก่อนไป
“ครับ ครับ ผมเข้าใจดีที่พี่ไม่มีอารมณ์น่ะ” ไกรวิทย์ตะโกนไล่หลังพี่สาว
‘เขาช่างเป็นคนดีเสียนี่กระไร แล้วฉันจะขัดขืนเขาไปได้นานแค่ไหนกันนะ เขาเป็นคนใจดี ไม่บังคับฝืนใจให้ใครทำอะไรที่ไม่อยากทำ’ สาวิตรีคิดในใจขณะที่เธอเดินเข้าไปในสวน ‘ทำไมเขาต้องเป็นน้องชายฉันด้วยนะ ไม่งั้นฉันคงแต่งกับเขาไปนานแล้ว’
ไกรวิทย์หยิบชามออกมาจากตู้ เทข้าวอบกรอบและนมลงไปแล้วยกมันไปทานในห้องนั่งเล่น
สาวิตรีเดินออกจากสวน ผมสีดำขลับของเธอสะท้อนแสงอาทิตย์แวววาว แสงอาทิตย์บางส่วนส่องผ่านเรือนผมเธอด้วย ไกรวิทย์แทบสำลักอาหารเช้าเมื่อเห็นพี่สาวคนสวยเดินเข้ามาในห้อง
“วันนี้ไม่ไปฟิตเนสเหรอครับ” ไกรวิทย์ถามออกมาจนได้หลังอาการไอลดลงบ้างแล้ว
“ไม่ไปจ้ะ วันนี้คิดว่าจะหยุดสักวัน ไม่มีอารมณ์” สาวิตรีพูดขณะที่นั่งลงข้างน้องชาย “อยากจะอยู่กับเธอที่นี่เว้นเสียแต่ว่าเธอจะออกวิ่งเท่านั้น”
ไกรวิทย์ส่ายหน้าปฏิเสธเพราะปากเขายังเต็มไปด้วยอาหารเช้าจนพูดไม่ได้ อันที่จริงเขาวางแผนว่าจะออกไปวิ่งแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วเพราะสาวิตรีอยาก จะอยู่ที่นี่กับเขา
“งั้นก็แปลว่าเราอยู่กันสองต่อสองซินะ ดีจังเลย ใช่ไหมจ๊ะ” สาวิตรียกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างทำให้ไกรวิทย์ได้เห็นท่อนขาอวบขาวของเธออย่าง เต็มตาเพราะขากางเกงที่เธอสวมมันร่นขึ้นไปตามเรียวขาที่งดงาม เธอหันตัวเข้าหาเขา เต้าอวบมหึมาของเธอแทบจะสัมผัสแขนเขา เธอใช้นิ้วม้วนเส้นผมด้านหน้าเขาเหมือนคนรักในสมัยก่อนทำกัน ตาเธอจ้องหน้าเขาเขม็ง มองตามการเคลื่อนไหวของขากรรไกรเขาขณะที่เคี้ยวอาหารเช้าแล้วกลืนมันลงไป
“ครับ ดีจังเลย” ไกรวิทย์ตอบเสียงแหบแห้งขณะกลืนอาหาร และยิ้มให้พี่สาวขณะที่เธอเล่นกับเส้นผมเขาอย่างรักใคร่
“ถ้าเราได้อยู่กันสองคนแบบนี้ตลอดไปคงจะดีไม่น้อยนะ” สาวิตรีทอดถอนใจเมื่อคิดว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรถ้าเขาและเธอไม่ได้เป็นพี่น้องกัน
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็เยี่ยมเลยล่ะครับ เราสองคนจะได้นอนอยู่ด้วยกันตลอดคืนโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะมาเจอ เราจะได้อยู่กันสองคน พี่กับผม” ไกรวิทย์จินตนาการถึงภาพอันสวยงามของอนาคตที่วาดหวังไว้
“แต่น่าเสียดายที่ชีวิตไม่สมหวังเสมอไปนะ” สาวิตรีพูดแล้วขยับตัวเข้าใกล้น้องชาย ลมหายใจอุ่น ๆ ของเธอกระทบกับลำคอเขาขณะที่เธอเบียดตัวแนบชิดกับสีข้างเขา
“ครับ น่าเสียดายจริง ๆ” ไกรวิทย์พึมพำเบา ๆ ขณะที่เขาวางหัวลงบนศีรษะของพี่สาว ทั้งสองคนจ้องมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย
สาวิตรีตื่นขึ้นมาคนเดียวบนโซฟา เธอไม่รู้ตัวว่าผล็อยหลับไปทั้ง ๆ ที่นั่งซบกับน้องชาย พอหันไปมองนาฬิกา ก็รู้ว่าหลับไปนานพอดูเหมือนกันเพราะตอนนี้บ่ายสองแล้ว สาวิตรีขยี้ตาแล้วให้สายตาปรับตัวเข้ากับแสงอาทิตย์อันเจิดจ้า แล้วเธอก็ลุกขึ้นไปหาตัวน้องชาย
ไกรวิทย์อยู่ในห้องของเขาเอง เขาออกมาโดยไม่ให้สาวิตรีตื่น ตอนที่เขาแยกตัวออกมา เธอดูผ่อนคลายมาก เปลือกตาเธอพริ้มปิดเบา ๆ แม้ว่าเธอจะหลับสนิทก็ตาม เธอดูไร้เดียงสาเหลือเกินในขณะที่นอนวางหัวบนหน้าอกไกรวิทย์ ฟังเสียงหัวใจเขาเต้นอย่างสม่ำเสมอและดูเหมือนจะหายใจตามจังหวะไปด้วย ไกรวิทย์ต้องการเวลาเป็นส่วนตัวเพื่อใช้ความคิด นั่นคือเหตุผลที่เขาทิ้งให้เธอนอนอยู่คนเดียวบนโซฟาโดยตัวเองกลับมาที่ห้อง พอได้ฟังพี่สาวพูดถึงว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรถ้าเขาและเธอได้อยู่กันเพียง ลำพังสองคน มันทำให้เขาคิดถึงอะไรบางอย่าง เขาใช้เวลาสองสามชั่วโมงที่ผ่านมาคิดเรื่องนี้
สาวิตรีเจอไกรวิทย์นั่งบนเตียงกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างสวนทางกับแสงอาทิตย์สดใสที่สาดส่องเข้ามาบนตัวเขา
“เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ” เธอถามพร้อมกับเดินไปนั่งข้าง ๆ น้องชายที่กำลังหมกมุ่นครุ่นคิด
“ผมเหรอครับ ไม่เป็นอะไรนี่ครับ” ไกรวิทย์ไม่ได้สังเกตเห็นสาวิตรีเดินเข้ามาในห้อง มารู้ว่าเธออยู่ในห้องกับเขาก็ตอนที่เตียงสั่นไหวเมื่อเธอนั่งลง
“ดูเหมือนเธอกำลังอยู่ในโลกส่วนตัวนะ” สาวิตรีตั้งข้อสังเกตขณะที่วางมือลงบนมือน้องชายแล้วกำมันไว้
“ก็แค่ใช้ความคิดเท่านั้นแหละครับ” ไกรวิทย์ยังคงจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาเขาหยีลงเมื่อมองสวนลำแสงที่สาดส่องเข้ามาที่ใบหน้า
“ใช้ความคิดเหรอ เรื่องอะไรล่ะจ๊ะ” สาวิตรีถามขณะที่บีบมือน้องชายแน่นกว่าเดิมก่อนจะยกมันขึ้นมาวางบนขาอ่อนเธอที่ไขว่ห้างอยู่
“ไม่ใช่เรื่องที่พี่ต้องกังวลหรอกครับ หลับสบายดีมั้ย” ไกรวิทย์เปลี่ยนเรื่องกลับมาที่สาวิตรี
“จ้ะแต่เธอน่าจะปลุกพี่นะ” สาวิตรีพูดยิ้ม ๆ ในขณะที่เมฆก้อนหนึ่งลอยมาบดบังดวงอาทิตย์ทำให้ในห้องมืดสลัวลงไปเล็กน้อย อยู่สองสามวินาที
“ครับ แต่ผมเห็นพี่นอนแล้วดูไร้เดียงสาเหมือนเด็กที่ไม่มีเรื่องที่ต้องกังวลเลย ผมก็เลยทำใจปลุกพี่ขึ้นมารับรู้ปัญหาที่เราต้องเผชิญในชีวิตจริงไม่ได้น่ะ ครับ” สาวิตรีรู้สึกตกใจกับความจริงจังในคำพูดของไกรวิทย์ ตลอดเวลาที่เธอได้อยู่กับไกรวิทย์ ซึ่งก็คือตลอดชีวิตของเขานั่นแหละ เขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ไกรวิทย์จ้องมองพี่สาวด้วยรอยยิ้มน้อย ๆขณะที่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นก้อนเมฆออกมา
“วิทย์ เธอเป็นคนดีเหลือเกิน” สาวิตรีพูดอะไรไม่ถูกเมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้นจากปากน้องชาย ไกรวิทย์หันมามองพี่สาวแล้วก็หันไปมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่พูดไม่จา เหมือนกับเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่รู้จะใช้คำพูดอะไรดี
สาวิตรีนั่งเป็นเพื่อนน้องชาย กุมมือเขาวางบนขาเธอ เธอรู้สึกมือเขาสั่นเล็กน้อยด้วยความเครียด เธอบีบมือเขาแน่นขึ้นอีกครั้งแล้วยกขึ้นมาจูบหลังมืออย่างแผ่วเบาจนแทบไม่ รู้สึกว่าเป็นการจูบ
“วิทย์จ๊ะ เธอก็รู้ว่าเธอปรึกษาพี่ได้ทุกเรื่องใช่ไหมจ๊ะ” สาวิตรีให้ความมั่นใจกับน้องชายขณะที่เธอบีบนวดมือเขาไปด้วย ไกรวิทย์พยักหน้าเฉย ๆ เขารู้ดีว่าเขาคุยกับสาวิตรีได้แต่เขาไม่รู้จะอธิบายเรื่องที่เขากำลังคิด อยู่ให้พี่สาวเข้าใจได้อย่างไร สาวิตรีเองก็ไม่ได้กดดันเขา เธอนั่งเป็นเพื่อนเขาบนเตียง จ้องมองโลกหมุนผ่านไปนอกหน้าต่าง
สาวิตรีและไกรวิทย์นั่งอยู่บนเตียงอยู่นานโดยไม่มีใครคนใดคนหนึ่งขยับตัว ก่อน ทั้งคู่นั่งอยู่ในท่าเดิมตลอดโดยสาวิตรีกุมมือน้องชายไว้ขณะที่เขามองออกไป นอกหน้าต่าง
“พี่ต้องไปแล้วล่ะ เธอไม่เป็นไรแน่นะ” สาวิตรีถามขณะที่ปล่อยมือน้องชาย
“ครับ” ไกรวิทย์ไม่หันไปมองพี่สาวขณะที่ตอบคำถามเธอ สาวิตรีเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้น้องชายจมอยู่ในห้วงความครุ่นคิด เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนและเริ่มกังวลว่ามันมีอะไรผิดปกติ เธอรู้ว่าคงต้องรอให้เวลาเป็นคำตอบ
สาวิตรีอยู่ในสวนเมื่อไกรวิทย์ออกมาจากห้อง ดูเขาสับสนใจขณะที่เดินเข้ามาหาเธอ ช่วยจับผ้าห่มขณะที่เธอหนีบมันกับราวตากผ้าเพื่อตากแดดให้แห้ง
“เป็นอะไรรึเปล่าวิทย์ ดูเธอไม่ค่อยสบายเลย” สาวิตรีตั้งข้อสังเกตขณะที่เธอใช้ที่หนีบผ้าอันสุดท้าย
“พี่สาครับ มีอะไรบางอย่างที่ผมอยากบอกกับพี่แต่ผมไม่รู้ว่าจะบอกพี่ได้ยังไง” ไกรวิทย์พูดขึ้นมา สายตาเขาจ้องมองไปยังที่ไกลแสนไกลขณะที่เงาของผ้าห่มคลี่คลุมทั้งคู่ไว้
“ก็บอกออกมาเลยสิจ๊ะวิทย์” สาวิตรีพูดพร้อมจับมือน้องชายไว้ หวังว่าเพื่อนบ้านคงไม่ได้ดูพวกเขาอยู่
“ผมอยากจะบอกพี่ว่า...”


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #10 on: January 07, 2010, 09:39:26 AM
“ต่อสิจ๊ะ” สาวิตรีพยายามกระตุ้นน้องชาย ช่วยให้เขานึกหาคำพูดที่ต้องการ
“ผมรักพี่ครับ พี่สา” ไกรวิทย์จ้องมองเข้าไปในดวงตาของพี่สาวขณะที่สายลมโชยพัดเข้าใส่ผ้าห่มจนเงา เคลื่อนไปจากพวกเขา แสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังที่ที่พวกเขายืนอยู่ราวกับเป็นสัญญาณจากสรวงสวรรค์
“วิทย์...นี่หรือที่เธอพยายามจะพูดน่ะ” สาวิตรียิ้มขณะที่แสงอาทิตย์ที่สาดส่องกระทบหน้าเขาทำให้เกิดเงาเล็ก ๆ บนใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกว่าเขารักใคร เธอรู้ว่าเขาต้องใช้พลังใจอย่างมากที่จะเอ่ยมันออกมา
“ครับ นี่แหละที่ผมคิดหนัก ผมไม่เคยบอกกับใครแต่ผมหมายความอย่างที่พูดจริง ๆ นะครับ ผมรักพี่สาจริง ๆ” ไกรวิทย์พูดเขิน ๆ พร้อมกับก้มศีรษะลง รอคอยคำตอบจากพี่สาว กังวลว่าเธอจะไม่ตอบสนองความรู้สึกของเขา
“พี่ก็รักเธอมากจ้ะ พ่อน้องชายสุดที่รักของพี่” สาวิตรีตอบ ศีรษะของไกรวิทย์ผงกขึ้นในทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้จากพี่สาว
“จริงเหรอครับ” เขาถาม ไม่เชื่อว่าพี่สาวจะเอ่ยคำพูดเช่นนั้นกับเขา
“จริงสิจ๊ะ มานี่เลยพ่อคนซื่อบื้อ” สาวิตรีพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้าขณะที่เธอกอดน้องชายแน่น เขาเองก็พยายามกลั้นน้ำตาเหมือนกัน ถ้ามีเพื่อนบ้านเห็นทั้งคู่เปลี่ยนจากกอดเป็นแลกจูบกันล่ะก็คงจะเป็นเรื่อง เป็นราวแน่ ๆ แต่สำหรับทั้งคู่ในตอนนี้แล้วมันไม่สลักสำคัญอะไรเลย สิ่งที่มีความหมายที่สุดก็คือ ทั้งสองคนมีความรู้สึกตรงกัน เขาและเธอรักกัน
ผ้าห่มยังคงสะบัดไหวอยู่รอบตัวทั้งสองขณะที่ทั้งคู่ยืนจูบกันในสวนที่สว่าง ไสวด้วยแสงอาทิตย์ กลิ่นหญ้าล่องลอยมาแตะจมูกพวกเขา โชคดีว่าทั้งสองคนไม่เป็นโรคภูมิแพ้ ไม่งั้นคงจะทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ไม่น่าภิรมย์นัก
สาวิตรีถอนจูบ โดยยังคงกอดน้องชายไว้แน่น เธอยังคงตื้นตันกับความรู้สึก และไม่เคยคิดว่าคำพูดเพียงแค่สามคำจะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ถึงขนาดนี้
“เข้าไปข้างในกันเถอะจ้ะวิทย์” เธอพูดด้วยเสียงแหบโหยเบา ๆ ขณะที่เธอจ่อปากกับใบหูน้องชาย ไกรวิทย์พยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อเข้าไปในบ้าน พวกเขาก็ตรงเข้าไปในห้องครัวโดยสาวิตรีจูงมือน้องชาย เธอปล่อยมือและหันมาเผชิญหน้ากับเขาเมื่อทั้งคู่มาถึงโต๊ะ เธอยิ้มพร้อมกับยื่นมือจับชายเสื้อยืดแล้วดึงมันออกไปทางหัวและทิ้งมันลงไป ที่พื้น เธอสวมบราเซียร์สีขาวลายลูกไม้ที่รับภาระหนักในการรั้งเต้านมอวบอัดเธอไว้ใน ขณะที่มันต้องการเป็นอิสระจากพันธนาการและเข้าไปอยู่ในอุ้งมือน้องชายเธอ
ไกรวิทย์ยืนมองขณะที่เธอปลดกางเกงขาสั้นออกจากเอวคอดกิ่วของเธอ เนื้อผ้าฝ้ายเสียดสีเร้าอารมณ์ขณะที่มันรูดลงไปตามเรียวขาเธอ จากนั้นสาวิตรีขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอมีแต่บราและกางเกงในลายเดียวกันปกปิดอยู่เท่านั้น
ไกรวิทย์ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาก้าวเข้าไประหว่างขาของพี่สาว เธอแยกขาออกให้ขาแต่ละข้างห้อยอยู่ข้างตัวเขา เธอเงยหน้ามองหน้าเขา ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด ๆ อีก ไกรวิทย์ยกมือขึ้นไปช้อนใต้บราที่ปกปิดเต้านมแล้วยกขึ้นเบา ๆ สาวิตรีถอนหายใจออกมาเมื่อเธอรู้สึกมืออุ่น ๆ เขาบนเนื้อผ้าเบาบางที่ปกปิดหนั่นเนื้อที่ไวต่อการสัมผัสของเธอ
ไกรวิทย์มองขณะที่สาวิตรีจับชายเสื้อยืดเขาเหมือนกับที่ทำกับเสื้อยืดของเธอ แล้วดึงมันขึ้นจนเขาต้องถอนมือออกจากเต้านมเธอเพื่อให้ถอดมันออกไปจากตัวได้ ตัวสาวิตรีเองกลับรู้สึกใจหายเล็ก ๆ เมื่อมือเขาละออกจากเต้านมเธอ แต่เพียงแป๊บเดียวมือเขาก็กลับมาใหม่ขณะที่เขายึดตัวเธอไว้ เขาก็เอาปากประกบกับเธอแลกจูบกันขณะที่เขาเริ่มเคล้นคลึงด้านข้างของเต้าอวบ เธอ
กางเกงในของสาวิตรีมีรอยเปียกอย่างเห็นได้ชัดขณะที่น้องชายบีบเคล้นเต้าอวบ ของเธออย่างไม่หยุดยั้ง เธอรู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องดำเนินขั้นต่อไปแล้ว นี่ไม่ใช่จุดจบแต่เป็นการเริ่มต้นตะหาก สาวิตรีคว้าเข็มขัดของน้องชาย พยายามจะถอดมันออกแต่มือเธอจับไม่ถนัด พอเห็นเธอพยายาม ไกรวิทย์ก็ให้ความร่วมมือ เขาก้าวถอยไปแล้วปลดหัวเข็มขัดออกแล้วทิ้งมันลงไปบนพื้นก่อนจะก้าวเข้าไปหา พี่สาวอีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้เธอได้ยกขาขึ้นมาโดยวางเท้าไว้บนโต๊ะ เธอจูบไกรวิทย์อีกครั้ง
ไกรวิทย์ดันตัวเข้าหาเธอเบา ๆ ขณะที่เดินเข้ามาใกล้ แต่สาวิตรีดันตัวเขาออก เธอหันตัวกลับไปคุกเข่าบนโต๊ะ กางเกงในเธอร่นขึ้นไปจนไกรวิทย์เห็นแก้มก้นกลมกลึงของเธอได้ถนัดตา สาวิตรีหันกลับไปมองแล้วยิ้มขณะที่รู้สึกริมฝีปากเขาจูบเนื้อนิ่ม ๆ ของแก้มก้นแต่ละข้าง เธอพริ้มตาลงขณะที่รู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของน้องชายบนแก้มก้นอันงดงามของเธอแต่ละข้าง ริมฝีปากนุ่ม ๆ ของเขาทิ้งรอยเปียกไว้ทุกที่ที่มันสัมผัส
สาวิตรีลดบั้นท้ายเธอจนมันวางลงบนขาที่พับอยู่ข้างใต้ เธอบีบเต้านมตัวเองที่ยังอยู่ในบรา รู้สึกถึงหัวนมที่แข็งชันดันเนื้อผ้าออกมา เธอครวญครางเมื่อรู้สึกเสียวที่ปลายอกที่สัมผัสเสียดสีกับเนื้อผ้าลูกไม้ แต่ละครั้งที่สัมผัสก็ทำให้มันแข็งยิ่งขึ้นอีก
พอเธอเอนหลังไปก็ถูกน้องชายโอบแขนรอบเต้านมเธอขณะที่เขาควานหาตะขอบรา สาวิตรีรู้สึกมือของน้องชายปัดป่ายอยู่บนเต้านมเธอเพื่อหาตะขอบรา เธอยื่นมือกลับไปประคองหัวเขาไว้ขณะที่เธอบดเบียดแผ่นหลังเข้ากับอกของเขา รู้สึกถึงริมฝีปากชุ่มชื้นของเขาบนลำคอเธอ เธออยากให้เขาหาขอบราเจอเร็ว ๆ จะได้ปลดปล่อยเต้านมเธอให้เป็นอิสระเสียที
แล้วเธอก็ไม่ผิดหวังเมื่อน้องชายปลดตะขอบราได้สำเร็จ เธอยื่นแขนกลับมาเพื่อให้เขารูดมันออกไปจากหลังเธอได้ สายบาง ๆ ที่ยึดกับไหล่เธอติดช่วงศอกเล็กน้อยแต่ก็ไม่เป็นปัญหาและในที่สุดมันก็ถูก โยนลงไปกองกับพื้น กางเกงในเธอเป็นตัวต่อมา สาวิตรีนั่งยอง ๆ ให้ไกรวิทย์สอดมือเข้าไปในยางยืดรอบเอวแล้วรูดมันลงมาถึงเข่า จากนั้นเธอก็รับช่วงต่อและดึงมันพ้นตัวไปจนได้ แล้วเธอก็คุกเข่าอีกครั้งและรู้สึกได้ถึงหน้าอกน้องชายแนบชิดกับแผ่นหลังเธอ มือเขาบีบขยำเต้านมที่ไร้สิ่งปกปิดของเธอเบา ๆ อย่างทะนุถนอมจนความเสียวแล่นไปทั่วร่างเธอ
สาวิตรีหันไปยิ้มให้น้องชายขณะที่เธอมองเห็นดวงตาเขาจ้องมองที่ตาเธอแน่ว นิ่ง ไม่ชำเลืองไปมองเนินสวาทหรือเต้านมเธอเลย เธอเอนตัวไปข้างหน้าแล้วห้อยขาลงไปอีกครั้งโดยให้ขาแต่ละข้างอยู่ข้างตัว น้องชายแล้วเริ่มจูบเขาอีกครั้ง
เมื่อใบหน้าของทั้งคู่แนบชิดกัน เธอก็เลื่อนมือลงไปปลดขอกางเกงยีนส์เขาและปล่อยให้มันรูดลงไปจากสะโพกเขา ไกรวิทย์ก้าวออกจากกางเกงยีนส์ที่ลงไปกองอยู่กับพื้น ขณะนี้เขาสวมแต่กางเกงชกมวยเท่านั้นในขณะที่แลกจูบกับพี่สาว จนถึงบัดนี้ทั้งคู่ไม่ได้ทำอะไรแบบเร่งรีบ นี่ไม่ใช่การสมสู่กันด้วยความใคร่ แต่เป็นอะไรที่พิเศษไปกว่านั้น มันเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่จะได้แสดงความรักที่มีต่อกันต่างหาก
สาวิตรีละจูบจากน้องชายแล้วมองดูรอยตุงของกางเกงชกมวย เธอยิ้มขณะปลดกระดุมรอยแยกที่เอาไว้สำหรับฉี่แล้วยื่นมือเข้าไปข้างในจับลำ ควยที่แข็งแกร่งของน้องชายไว้ เธอค่อย ๆ รูดหนังหุ้มปลายลงไปแล้วดึงควยเขาออกมาจากช่องด้านหน้ากางเกงชกมวยเขา เธอยิ้มเมื่อได้เห็นส่วนหัวสีม่วงคล้ำแล้วเอนตัวลงนอนบนโต๊ะพร้อมดึงตัวไกร วิทย์เข้ามาใกล้ เธอจ่อมันเข้ากับปากช่องสวรรค์ระหว่างแคมที่อบอุ่นและเปียกแฉะของเธอ
ไกรวิทย์จ้องตาพี่สาวขณะที่เขาค่อย ๆ ดันลำควยเข้าไปในตัวรูหีที่รออยู่แล้ว ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปากคนทั้งสอง ทั้งคู่จ้องตากันแน่วนิ่งขณะที่ควยเขาเสียบเข้าไปในตัวเธอจนทั้งคู่หลอมรวม เป็นคนเดียวกัน
สาวิตรียิ้มเมื่อรู้สึกตัวเธอถูกเติมเต็มด้วยควยน้องชาย เขาดันเข้าไปลึกจนถึงที่สุดแล้วทั้งคู่ก็อยู่ในท่านั้น จ้องตากันต่ออีกพักหนึ่งก่อนที่สาวิตรีจะยกมือขึ้นประคองใบหน้าน้องชายแล้ว ดึงมันเข้ามาหาใบหน้าเธอ แล้วทั้งคู่ก็แลกจูบกัน ไกรวิทย์ค่อย ๆ ถอยสะโพกออก ความรู้สึกที่โพรงหีแสนคับของพี่สาวบีบรัดควยเขาแบบไม่อยากให้ถอนตัวออกไปทำ ให้เขาแทบหัวใจสลายแต่ก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำ สาวิตรีครางออกมาเมื่อเธอรู้สึกเขาดันกลับเข้ามาในตัวเธอเบา ๆ เหมือนตอนที่ถอนออกไป ลำควยเขาถูกกล้ามเนื้อเธอบีบรัดไว้แน่น น้ำเสียวเธอหลั่งไหลออกมาชโลมควยเขาจนเปียกและช่วยหล่อลื่นให้ขยับได้ง่าย ขึ้น สาวิตรีอยากจะหยุดน้ำหล่อลื่นของเธอไม่ให้ไหลออกมา ควยเขาจะได้อยู่ในตัวเธอตลอดไปแต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครที่จะขัดขืนต่อต้านกับธรรมชาติได้ มีแต่จะต้องเสพรับกับความสุขที่ธรรมชาติมอบให้เท่านั้น
สาวิตรีโอบขารัดเอวน้องชายไว้ขณะที่ทั้งคู่แลกจูบพันลิ้นกันช้า ๆ ไม่รีบร้อน ทั้งคู่กำลังเสพสุขกับเรือนร่างของฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก
คราวนี้ไกรวิทย์ถอยควยออกเร็วขึ้นอีกหน่อย ความเปียกแฉะในโพรงหีพี่สาวทำให้เขาควบคุมจังหวะได้ยากขึ้น สาวิตรีครวญครางขณะที่เธอรู้สึกขนหมอยเขาสัมผัสกับของเธอ ร่างของทั้งคู่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ใช้ไปในการเคลื่อนไหวช้า ๆ นี้ สาวิตรีรู้สึกน้องชายเธอเริ่มกระเด้าแรงขึ้น แต่ก็ยังไม่ใช่ความรุนแรงแบบที่ผู้ชายใช้เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง เพียงฝ่ายเดียว ไกรวิทย์พยายามจะทำอย่างอ่อนโยน การเคลื่อนไหวของเขาช่างนุ่มนวลเอาใจเสียจนทำให้สาวิตรีร้อนเร่าในอารมณ์มาก ยิ่งกว่าจังหวะการเคลื่อนไหวที่เร็วและรุนแรงเสียอีก
สาวิตรีตอบสนองต่อการกระเด้าช้า ๆ ของน้องชาย ขณะที่ทั้งคู่แลกจูบกัน เธอก็จะเลื่อนสะโพกไปบนพื้นโต๊ะสวนเข้าหาน้องชายขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปข้าง หน้าเพื่อให้ควยเขาเข้าไปในตัวเธอได้ลึกที่สุดในทุกครั้งที่เขากระเด้า
ไกรวิทย์เอนตัวไปข้างหลังเมื่อรู้สึกพี่สาวขมิบกล้ามเนื้อภายในบีบรัดควยเขา แรงยิ่งขึ้น ยิ่งเพิ่มความร้อนเร่าและทำให้การขยับเคลื่อนกายแต่ละครั้งยิ่งมันส์อร่อย ขึ้นไปอีก สาวิตรีปล่อยขาจากการโอบรัดเอวน้องชายแล้วยกมันขึ้นมาวางบนโต๊ะอีกครั้ง ทำให้ไกรวิทย์มีพื้นที่ในการขยับมากขึ้น มือไกรวิทย์หลุดจากขอบโต๊ะขณะที่พี่สาวเขาขยับตัวอย่างรวดเร็วทำให้มือเขา เลื่อนไปข้างหน้าและบังเอิญไปคว้าเอาขาขวาของพี่สาวตรงใต้เข่า กลายเป็นการดันมันให้ยกขึ้น สาวิตรีปล่อยขาให้ผ่อนคลายจนมันถูกดันขึ้นไปชิดหน้าอกเธอ ขณะที่ไกรวิทย์โน้มตัวตามไปข้างหน้า สาวิตรีก็จูบเขา ตอนนี้ขาขวาเธอพาดอยู่บนไหล่เขา ท่าใหม่นี้ทำให้เนินหีสาวิตรีแยกออกมากยิ่งขึ้นกว่าที่เธอจะคาดคิดและเธอก็ ไม่มีปัญหาในการคงตัวอยู่ในท่านี้เพราะร่างกายเธอแข็งแรงจากการออกกำลัง กายอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว
ไกรวิทย์ยังคงแลกจูบกับสาวิตรีขณะที่เขายกขาเธอไว้บนไหล่ ส่วนขาอีกข้างของเธอวางอยู่บนโต๊ะ ไกรวิทย์เริ่มกระเด้าเย็ดพี่สาวเบา ๆ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เนื่องจากมีพื้นที่มาก เขาเลยเข้าไปได้ลึกกว่าเดิม ทำให้สาวิตรีร้องครวญครางออกมาขณะที่รู้สึกกระดูกหัวเหน่าของเขาบดบี้กับ เม็ดแตดเธอ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นรวมกับการเคลื่อนไหวช้า ๆ เป็นจังหวะของลำควยน้องชายในรูหีที่ฉ่ำแฉะของเธอทำให้สาวิตรีถึงจุดสุดยอด เธอผละจากการจูบแล้วสะบัดหน้าขณะที่ความสุขสุดยอดแล่นผ่านไปทั่วตัวเธอทำให้ หีเธอยิ่งเปียกแฉะมากขึ้นไปอีก
ไกรวิทย์ปล่อยขาเธอให้ลงไปวางบนโต๊ะขณะที่ความสุขสุดยอดของเธอเริ่มลดลงและ ทั้งคู่ก็กลับไปแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ไกรวิทย์ยกร่างพี่สาวขึ้นจากโต๊ะ สาวิตรีรู้ดีว่าเขากำลังจะทำอะไร เธอจึงโอบขารัดรอบเอวเขาอีกครั้งขณะที่ไกรวิทย์เคลื่อนตัวออกห่างโต๊ะ เขายึดตัวพี่สาวไว้ขณะที่เธอเริ่มขยับตัวกระเด้าบนลำควยเขา เต้านมอวบอิ่มของเธอบดบี้เข้ากับแผงอกเขาและเขารู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้น ของหัวใจเธอที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านทางหนั่นเนื้อที่อวบหยุ่นนั้น สาวิตรีรู้สึกเช่นเดียวกันผ่านทางหน้าอกเขาและพยายามจะขยับตัวยกขึ้นลงบนลำ ควยเขาเป็นจังหวะ เช่นเดิม ทั้งคู่ไม่ได้รีบร้อน แต่ละจังหวะการกระเด้าเต็มไปด้วยความตั้งใจและเป็นไปอย่างเนิบ ๆ ทำให้ทั้งคู่มีความสุขยิ่งกว่าที่เคยมีมา
ทั้งคู่เริ่มแลกจูบกันอีกขณะที่ไกรวิทย์ยึดตัวพี่สาวไว้ มือเขาช้อนอยู่ใต้ก้นเธอเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกตอนเธอยกตัวขึ้นบนควยเขา ความรู้สึกที่นิ้วเขาอยู่ใกล้รูก้นเธอทำให้เธอบิดกายด้วยความสยิว
ไกรวิทย์รู้สึกขาเขาเริ่มอ่อนแรงจึงค่อย ๆ ย่อตัวลงให้สาวิตรีวางเท้าลงบนพื้น พอตัวเธอวางอยู่บนท่อนขาเขา สาวิตรีก็สามารถจะควบคุมจังหวะได้ดีขึ้นโดยเธอคายควยออกจนเหลือแต่เพียงหัว หยักแล้วก็กลืนมันกลับเข้าไปด้วยการขยับสะโพกช้า ๆ ไกรวิทย์มองจ้องตาพี่สาวขณะที่เธอเอนตัวถอยไปและร้องครวญครางเมื่อรู้สึกขา เขาสัมผัสกับด้านในของขาอ่อนเธอส่วนที่ไวต่อการสัมผัสใต้เนินสวาท ไกรวิทย์ยึดเอวเธอไว้ไม่ให้เธอหล่นลงไปขณะที่เธอยกมือขึ้นมาที่เต้านมตัวเอง แล้วบีบบี้หัวนมเมื่อเธอรู้สึกว่าจุดสุดยอดมาถึงอีกครั้ง เหงื่อหยดติ๋ง ๆ จากร่างของทั้งสอง
จุดสุดยอดครั้งที่สองของพี่สาวกระตุ้นให้ไกรวิทย์เสร็จเหมือนกัน สาวิตรีหันไปมองเขาขณะที่เขารู้สึกลูกกะโปกกำลังฉีดส่งน้ำรักไปที่ฐานของ ท่อนเอ็น สาวิตรีมองออกว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นและยิ้มออกมาขณะที่เธอครวญครางและอัด กระเด้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกอดร่างชุ่มเหงื่อของน้องชายไว้แน่นขณะที่เธอ รู้สึกน้ำควยเขาฉีดพุ่งกระทบผนังโพรงหลืบของเธอ มันร้อนผ่าวเสียนี่กระไร ลำควยเขากำลังอ่อนตัวขณะที่ทั้งคู่จ้องตากัน
“พี่รักเธอจ้ะ” สาวิตรีพูดพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนขณะที่เธอรู้สึกควยน้องชายไหลหลุดจากโพรงหีที่แสนคับของเธอ
“ผมก็รักพี่ครับ พี่สา” ไกรวิทย์พูดขณะที่เขากอดพี่สาว ทั้งคู่ยืนเปลือย เหงื่อหยดติ๋ง ๆ
ไกรวิทย์มองพี่สาวขณะที่ทั้งคู่ยืนอยู่ในครัว แสงที่มาจากหน้าต่างเริ่มอ่อนลงเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวไปตามทางของมันบนท้องฟ้า
“พี่สาครับ”
“จ๊ะ?”
“เรื่องที่พี่พูดเมื่อตอนก่อนหน้านั้น ที่ว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเพียงลำพังน่ะ พี่ต้องการแบบนั้นจริง ๆ เหรอครับ”
“จ้ะ”
“ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้นครับ”
ไกรวิทย์กอดพี่สาวขณะที่ทั้งคู่ร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้มยินดี ทั้งคู่ไม่รู้ว่าอนาคตต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร จะหาบ้านของพวกเขาเองได้หรือไม่ จะหาเงินพอกับค่าใช้จ่ายหรือเปล่า แล้วครอบครัวพวกเขาจะคิดอย่างไร แต่ทั้งคู่ก็รู้แน่แก่ใจข้อเดียวคือ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า พวกเขาต้องการแค่มีกันและกันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
วันนี้เป็นวันถัดจากวันที่ไกรวิทย์และสาวิตรีร่ำไห้ตกลงกันว่าจะแยกบ้านไปอยู่กันลำพังสองคน
คืนก่อนนั้นไกรวิทย์เงียบขรึมผิดปกติจนกระทั่งแม่และภาวิณีต้องถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงว่าเขาเป็นอะไรไปรึเปล่า
“เปล่าครับ” ไกรวิทย์โกหก อันที่จริงจะว่าโกหกก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะเขาไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ เพียงแต่รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่เขากับสาวิตรีตกลงกันว่าจะย้ายออกจากบ้านโดย ทิ้งครอบครัวที่รักของเขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ลึก ๆ ในใจ เขารู้ดีว่าต้องบอกเรื่องนี้ให้แม่กับพวกพี่สาวได้รู้ก่อนจะทำเช่นนั้น
นั่นเป็นเรื่องเมื่อคืน วันนี้เป็นวันใหม่แล้ว ดวงอาทิตย์ออกมาทำงานตามปกติ คนอื่น ๆ ในบ้านก็เช่นกันเว้นแต่สาวิตรีกับน้องชาย
“ไงจ๊ะที่รักของพี่” สาวิตรีทักพร้อมสวมกอดน้องชายบนเตียง
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่สา นี่กี่โมงแล้วล่ะครับ” ไกรวิทย์ถามขณะจูบพี่สาว
“ก็..เก้าโมงเช้าแล้วจ้ะ” เธอตอบหลังจากหันไปมองนาฬิกาข้างเตียง
“อ้อ เหรอครับ แล้วเหลือเราอยู่บ้านกันสองคนใช่มั้ยครับ” เขาถามพี่สาวซึ่งเธอก็พยักหน้ารับพร้อมกับจูบเขาอย่างดูดดื่ม ลิ้นเธอสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเขา
ไกรวิทย์จูบตอบ แขนเขาโอบรัดตัวเธอพร้อมดึงร่างเธอเข้ามาบดเบียดกับตัวเขา
“เดี๋ยวก่อนจ้ะวิทย์ พี่ว่าเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าจะบอกคนอื่น ๆ ยังไง ” สาวิตรีพูดขณะยันตัวออกไปนั่งอยู่บนเตียง
“โธ่ พี่สาครับ” เขาพูดอย่างผิดหวังเล็ก ๆ เพราะเขาตั้งหน้าตั้งตารอคอยเวลาที่จะได้สุขสมกับสาวิตรีอย่างเช่นเวลานี้ แต่เขาก็รู้ดีว่า ในไม่ใช้พวกเขาก็จะมีเวลาอยู่ร่วมกันตลอดไป ยังมีเวลาแห่งความสุขรอคอยพวกเขาอยู่อีกมาก
“เธอว่าเราจะบอกเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้ยังไงดีจ๊ะ” สาวิตรีถาม
“ผมเองก็ไม่รู้ครับ แล้วพี่สาล่ะคิดว่าเราจะบอกพวกเขายังไง” ไกรวิทย์ตอบ สายตาเขาโลมเลียไปทั่วเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของพี่สาวขณะที่เธอนั่งอยู่บน เตียง
สาวิตรีนิ่งคิดอยู่พักนึงก่อนจะตอบ
“พี่คิดว่าเราน่าจะหาที่อยู่ก่อนนะ...วิภาวรรณกับน้อง ๆ ที่เหลือคงจะเข้าใจเราดี แต่พี่ไม่แน่ใจว่าแม่จะเห็นด้วยรึเปล่าน่ะสิ” สาวิตรีพูดพร้อมกับเอนตัวลงไปซบน้องชาย
“ผมว่าค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเถอะครับพี่สา แล้วทุกอย่างก็คงจะลงตัวไปเอง” ไกรวิทย์ปลอบพี่สาวก่อนจะประทับจูบลงที่หน้าผากเธอแล้วกอดเธอแนบแน่น
ไกรวิทย์ตื่นขึ้นในอีกสองชั่วโมงต่อมา เขาไม่รู้ว่าทั้งเขาและสาวิตรีกอดกันผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“พี่สาครับ ตื่นเถอะครับ” เขาพูดเบา ๆ เพราะไม่อยากให้พี่สาวผวาตื่น
“อือม์ มีอะไรเหรอจ๊ะ” เธอถามเขาเสียงสลึมสลือขณะที่ค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ ให้ดวงตาปรับตัวเข้ากับแสงสว่าง
“ผมว่าผมได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่างน่ะครับ” ไกรวิทย์ตอบพร้อมกับลุกลงจากเตียงแล้วสวมเสื้อผ้า
“ในบ้านมีแต่เราสองคนเท่านั้นจ้ะวิทย์ ไม่ต้องไปกังวลมากหรอก” สาวิตรีพูดขณะที่เธอนอนขดตัวกอดหมอนของน้องชาย ดื่มด่ำกับความอบอุ่นที่ไกรวิทย์ทิ้งไว้บนหมอน
ไกรวิทย์ไม่ค่อยแน่ใจ เขามั่นใจว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่างและอยากจะไปเช็คดู
ขณะที่เขาเดินลงบันไดไปจนถึงชั้นล่าง ไกรวิทย์ก็เห็นกุลธิดาพี่สาวของเขา
“ไงจ๊ะวิทย์” เธอทักเขาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นเขาที่บันได
“สวัสดีครับพี่ดา...” ไกรวิทย์แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเธออยู่ที่บ้าน “ทำไมวันนี้พี่ดากลับบ้านเร็วล่ะครับ”
“วันนี้ไม่มีเรียนจ้ะ เห็นว่ามีแกสรั่วหรืออะไรทำนองเนี้ยแหละ” เธอพูดยิ้ม ๆ “พี่ก็เลยกลับบ้าน”
“อ๋อ เหรอครับ” ไกรวิทย์พูดขณะที่เขาก้าวลงจากบันไดขั้นสุดท้ายไปยืนบนพื้นห้องครัวที่เย็นเฉียบ
“พี่สาอยู่ไหนเหรอจ๊ะ” กุลธิดาถามน้องชายซึ่งทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อยที่เจอคำถามนี้ “เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ”
“ป-เปล่าครับ พี่สา เอ้อ...อยู่ข้างบนน่ะครับ” ไกรวิทย์ตอบหลังจากหยุดคิดคำตอบอยู่แป๊บนึง
“ข้างบนเหรอ เอ วันนี้พี่สาตื่นสายผิดปกติเนอะ” กุลธิดาถาม
“เมื่อเช้าพี่สาเขาเพลียมากน่ะครับ รู้สึกว่าจะไม่ค่อยสบายด้วย” ไกรวิทย์พยายามปกปิดเรื่องระหว่างเขากับสาวิตรีโดยไม่รู้ว่าวันก่อนสาวิตรี กับกุลธิดาใกล้ชิดสนิทสนมกันขนาดไหน
“เหรอ งั้นพี่ต้องไปดูอาการพี่สาหน่อยแล้วล่ะ” กุลธิดาพูด
“โอ๊ย อย่านะครับ เอ้อ คือพี่สาเขาหลับอยู่น่ะครับ อย่าไปปลุกพี่เขาเลย” ไกรวิทย์โพล่งออกมา
ปฏิกิริยาของไกรวิทย์ทำให้กุลธิดาแปลกใจมาก ดูเขาจะออกอาการแปลก ๆ เรื่องสาวิตรี ทำให้เธอสงสัยว่าเขารู้เรื่องคืนที่เธอและสาวิตรีเล่นรักกันรึเปล่า
“ก็ได้ งั้นพี่ค่อยไปดูทีหลังละกัน” เธอพูด
“ดีแล้วครับ พี่สาเขาจะได้พักผ่อนเต็มที่หน่อย” ไกรวิทย์พูดพร้อมหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินขึ้นบันไดไป
“อ้าว แล้วนั่นเธอจะไปไหนล่ะ” กุลธิดาถาม


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #11 on: January 07, 2010, 09:39:58 AM
“เปลี่ยนชุดน่ะครับ เดี๋ยวผมจะกลับลงมา” ไกรวิทย์ตอบขณะที่รีบจ้ำขึ้นบันได
พอไปถึงห้อง ก็พบว่าสาวิตรีนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของเขาไปแล้ว
“พี่สาครับ พี่ดากลับมาแล้ว ตื่นเถอะครับ” เขาพูดพร้อมกับเขย่าแขนเธอเบา ๆ
“ยัยดากลับบ้านแล้วเหรอ เอ วันนี้กลับเร็วนะ” สาวิตรีพูดอย่างไม่ยินดียินร้าย แล้วเธอก็ทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงน้องชายอีกครั้ง
“โธ่ พี่สาครับ ผมหลอกพี่ดาว่าพี่ไม่สบาย แกบอกว่าสักพักจะขึ้นมาดูอาการพี่สา เพราะฉะนั้นพี่ต้องกลับไปที่ห้องตัวเองนะครับ” ไกรวิทย์ระล่ำระลัก พร้อมกับทรุดนั่งลงบนเตียงข้างพี่สาว
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะวิทย์” สาวิตรีพูด “อย่ากังวลไปเลย”
“ผมเปล่ากังวลนะแต่ผมไม่อยากให้พี่ดารู้เรื่องของเราในลักษณะนี้” ไกรวิทย์พูดพร้อมกับเอนตัวเข้าหาพี่สาวแล้วจ้องหน้าเธอ
“ยัยดาเขารู้เรื่องของเราอยู่ก่อนแล้วล่ะจ้ะวิทย์ บอกให้เธอขึ้นมาหาพี่ได้เลยถ้าเธอต้องการ” คำพูดนี้ทำให้ไกรวิทย์ตกตะลึงพรึงเพริด กุลธิดารู้เรื่องของพวกเขาได้ยังไงกันเนี่ย
“วิทย์จ๊ะ ช่วยลงไปบอกยัยดาให้พี่ก่อน ให้เวลาพี่ได้คุยกับยัยดาแป๊บนึง แล้วพี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังทีหลัง” สาวิตรีพูดก่อนจะจูบเขาที่แก้มแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง ผ้าห่มร่วงหล่นลงจากร่างของเธอ เผยให้เห็นปทุมถันอวบใหญ่คู่งามพร้อมกับยอดปทุมที่สวยงามไร้ที่ติ
ไกรวิทย์ทำตามที่พี่สาวขอโดยลงไปบอกกุลธิดาตามที่สาวิตรีสั่ง
สาวิตรียิ้มออกมาขณะที่เธอมองตามน้องชายที่เดินออกจากห้องไป เธอรู้ว่าในที่สุดแล้วเธอต้องเล่าแผนของเธอกับไกรวิทย์ให้ใครสักคนฟังและ กุลธิดาก็เป็นคนที่น่าจะยอมรับได้ในสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการและคงจะสามารถให้ คำแนะนำดี ๆ ได้ เพราะแม้ว่าเธอจะเป็นน้องสาวคนท้าย ๆ แต่เธอก็มีความคิดก้าวหน้าเกินอายุจริง
“พี่ดาครับ พี่สาบอกว่าถ้าพี่อยากขึ้นไปหาก็ไปได้ครับ” ไกรวิทย์พูดกับพี่สาวที่นั่งอยู่หน้าทีวี
“อ๋อ จ้ะ” กุลธิดาลุกขึ้นและเดินขึ้นบันไดไป
“พี่สาอยู่ที่ห้องผมครับ” ไกรวิทย์พูด กุลธิดาพยักหน้าแล้วเดินต่อ
“พี่สาคะ เป็นอะไรมากรึเปล่า” กุลธิดาถามขณะเปิดประตูห้องน้องชายแล้วโผล่หัวเข้าไป
“ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะดา เข้ามาสิแล้วปิดประตูด้วยนะ” สาวิตรีพูดขณะที่เธอนั่งอยู่บนเตียงน้องชายโดยมีผ้าห่มปกปิดส่วนล่างไว้เท่านั้น
“นายวิทย์บอกว่าพี่สาไม่ค่อยสบาย” กุลธิดาพูดขณะที่เธอเดินเข้าไปนั่งบนเตียงข้างพี่สาว
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอก นายวิทย์เขาแค่ไม่อยากให้เธอรู้เรื่องระหว่างพี่กับเขาเท่านั้นแหละจ้ะ เขาน่ารักมาก ไม่อยากให้เธอช็อคที่ได้รับรู้เรื่องนี้” สาวิตรีอธิบายพร้อมกับจูบน้องสาว
“งั้นแสดงว่าเขาไม่รู้เรื่องของเราสองคนใช่ไหมคะ” กุลธิดาถาม สาวิตรีสั่นหัวเป็นเชิงปฏิเสธ
“ดีแล้วล่ะค่ะ” กุลธิดาพูดขณะที่จูบตอบพี่สาวโดยเริ่มใช้ลิ้นมากขึ้น
“พี่กลับไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ พี่ว่าอีกหน่อยเราคงจะต้องเปิดอกคุยกันทุกเรื่องแล้วล่ะ” สาวิตรีพูดขณะดึงเสื้อยืดน้องสาวออกไปทางศีรษะและก้มลงไปหาเต้าอวบของเธอ มือกุมเต้าแต่ละข้างไว้ ส่วนปากเธอก็ระดมจูบที่หัวนมทั้งสองข้างที่บัดนี้แข็งชูชันขึ้นมาแล้ว
“ทำไมพี่สาถึงคิดอย่างนั้นล่ะคะ” กุลธิดาเอ่ยถามขณะที่เธอแหงนหน้าเริ่ดดันเต้าอวบสล้างให้พี่สาวได้ฟอนเฟ้นถนัดมือยิ่งขึ้น
“ก็พี่กับนายวิทย์ตกลงใจว่าจะย้ายออกไปอยู่ด้วยกันที่อื่นน่ะสิ” น้ำเสียงสาวิตรีเจือปนด้วยความลังเลนิดหน่อย
“ย้ายไปอยู่ด้วยกัน!” กุลธิดาถอยตัวออกจากริมฝีปากพี่สาวแล้วมองเธอด้วยอาการตกตะลึงพรึงเพริด
“จ้ะ เราตัดสินใจกันเมื่อคืน” สาวิตรีฝืนยิ้ม
“นายวิทย์เขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอคะ” กุลธิดาแหย่พี่สาว ทำให้สาวิตรีหัวเราะคิกออกมาด้วยความโล่งอก
“สุด ๆ ไปเลยล่ะจ้ะ” สาวิตรีตอบยิ้ม ๆ “แต่เธอเองก็มีอะไรดี ๆ ที่ไม่เหมือนใครนะ” เธอพูดพร้อมกับดึงตัวน้องสาวขึ้นมาทาบทับเรือนร่างอันเต่งตึงของเธอและเริ่ม จูบเธออย่างดูดดื่ม
ตอนนั้นไกรวิทย์อยู่ที่ชั้นล่าง กำลังนึกสงสัยอยู่ว่าสาวิตรีกำลังคุยอะไรกับกุลธิดา เขายังคงไม่เชื่อว่าเธอจะรู้เรื่องระหว่างเขากับสาวิตรี หรือว่าสาวิตรีบอกเธอ...
ย้อนกลับมาที่ห้องนอน สาวิตรีกำลังกอดรัดน้องสาวแน่น เรือนร่างของสองสาวแนบชิดกัน เต้าคู่งามของทั้งสองเสียดสีกันอย่างเร้าอารมณ์ขณะที่เรียวลิ้นก็ผลัดกัน เลียริมฝีปากกันและกัน
“แล้วพี่สาจะไปเมื่อไหร่คะ” กุลธิดาเอ่ยถามขณะที่แยกห่างออกจากตัวสาวิตรีเพื่อจะได้ดึงผ้าห่มขึ้นและสอด ตัวเข้าไปคร่อมตัวสาวิตรีที่อยู่ข้างใต้
“เรายัง...อื้อมม์” คำพูดของเธอถูกขัดจังหวะโดยริมฝีปากของน้องสาว กุลธิดาสอดลิ้นเข้าไปในอุ้งปากพี่สาว ซึ่งสาวิตรีก็ดูดลิ้นเธออย่างเอร็ดอร่อยเหมือนดูดไอติมยังไงยังงั้น
“พูดต่อสิคะ” กุลธิดายิ้มหวานให้พี่สาวขณะที่เลื่อนมือลงไปถอดกางเกงยีนส์ตัวเองแล้วดัน มันลงไปตามเรียวขา พร้อมกันนั้นเธอก็พรมจูบบนผิวกายที่นิ่มเรียบลื่นของพี่สาวโดยลากลิ้นเป็น เส้นตรงยาวลงมาถึงหน้าท้องในขณะที่เธอสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มซึ่งมือเธอก็ดัน กางเกงยีนส์ต่ำลงไปเรื่อย ๆ
“เรายังไม่รู้เลยล่ะ ยังไม่ได้ตัดสินใจ...” ณ.วินาทีนั้น สาวิตรีรู้สึกได้ถึงลิ้นของน้องสาวกำลังเลียกลีบสาวที่ฉ่ำเยิ้มของเธอ กุลธิดาอยู่ใต้ผ้าห่ม ทำให้สาวิตรีไม่มีทางรู้เลยว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่นั่นกลับยิ่งเร้าอารมณ์สวาทให้คุโชนยิ่งขึ้น ตอนนี้เธอเหมือนลูกไก่ที่ตกอยู่ใต้อุ้งมือของกุลธิดาไปเสียแล้ว
“...ว่าจะบอกคนอื่น ๆ เมื่อไหร่หรือแม้แต่จะบอกยังไงเลย” สาวิตรีพูดต่อจนจบขณะที่เธอแยกขากว้างออก ช่วยอำนวยความสะดวกให้น้องสาวเข้าถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
มองจากมุมมองของสาวิตรี เธอเห็นแต่ตัวกุลธิดาใต้ผ้าห่มนูนขึ้นมาเหมือนภูเขาลูกย่อม ๆ ซึ่งมีการขยับตัวเป็นครั้งคราวเพื่อเปลี่ยนไปอยู่ในตำแหน่งที่จะจู่โจมเนิน สวาทของพี่สาวได้ดียิ่งขึ้น แต่ภายใต้ผ้าห่ม น้องสาวเธอกำลังระบายลมหายใจอันร้อนระอุลงไปที่โคกหีของสาวิตรีพร้อมกับแหย่ ลิ้นเลียใต้เม็ดเสียวทำให้สาวิตรีถึงกับดิ้นพราด ๆ
“โอยย อูววว์ ดีจ้ะ” สาวิตรีกรีดร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของน้องสาวตกกระทบกลีบแคมก่อนที่ลิ้นของเธอจะแทรกเข้ามาในร่องหลืบที่ไวต่อ การสัมผัส
ยังดีที่ใช้เวลาไม่นานนักสาวิตรีก็ล่องลอยสู่สวรรค์ ไม่งั้นกุลธิดาคงเป็นลมไปก่อนเพราะใต้ผ้าห่มนั้นมันร้อนอึดอัดมาก ไหนจะความร้อนที่เกิดจากการหอบหายใจของตัวเองบวกกับความร้อนจากตัวของ สาวิตรีเข้าไปอีก
“อาวว์ อูยยย์ ถึงแล้ววววว” สาวิตรีร้องครางออกมาพร้อมกับแอ่นตัวขึ้นจากพื้นเตียง น้ำหีเธอไหลทะลักเปื้อนผ้าคลุมเตียงน้องชายและเข้าไปในปากของน้องสาว
ลิ้นของกุลธิดากวาดไปทั่วเนินหีพี่สาวโดยไม่ปล่อยให้น้ำเสียวอันหวานอร่อย หลุดรอดไปได้แม้แต่หยดเดียว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะใต้ผ้าห่มนั้นมันมืดสนิทจนมองอะไรไม่เห็น
กุลธิดาค่อย ๆ โผล่หัวออกมาจากใต้ผ้าห่มช้า ๆ ปทุมถันเธอบดเบียดเข้ากับตัวพี่สาว ในขณะที่เธอเลื่อนตัวขึ้นมาตามเรือนร่างอันอวบอัดของสาวิตรี
สาวิตรียิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงเนินหีที่ฉ่ำแฉะของน้องสาวที่ลูบไล้ขึ้นมาตามเรียวขาของเธอ ทิ้งร่องรอยความเปียกชื้นเป็นทาง
ในที่สุดกุลธิดาก็เลื่อนขึ้นมาจนหัวเธอวางอยู่บนหมอนใบเดียวกันกับสาวิตรี ร่างเธอทาบทับตัวของพี่สาว
“เธอว่าพี่กับนายวิทย์ควรทำอย่างไรต่อดีจ๊ะ” สาวิตรีถามพร้อมกับรั้งร่างเปลือยเปล่าของน้องสาวเข้ามาแนบชิดกับตัวเธอ
“พี่สารักนายวิทย์จริง ๆ รึเปล่าล่ะคะ” กุลธิดาถามขณะพรมจูบแผ่วเบาทั่วลำคอและติ่งหูสาวิตรี
“จริงสิจ๊ะ รักมากจนบรรยายไม่ถูกเลยล่ะ” สาวิตรีตอบพร้อมเลื่อนมือลงไปตามแผ่นหลังน้องสาวแล้วใช้ปลายนิ้วลูบไล้รูตูดเธอ
“ถ้างั้นหนูว่าพี่กับนายวิทย์ตัดสินใจถูกแล้วล่ะค่ะที่จะแยกไปอยู่กันลำพัง” กุลธิดาให้ความเห็น เธอรู้สึกปลายนิ้วพี่สาวกรีดขึ้นลงตามร่องก้นอย่างแผ่วเบา
“ขอบใจจ้ะดา” สาวิตรีพูดขณะรั้งใบหน้าน้องสาวเข้ามาใกล้แล้วจูบริมฝีปากเธอ
“แต่มีข้อแม้อยู่อย่างนึงนะคะ” กุลธิดาเสริมหลังจากถอนริมฝีปากออก
สาวิตรีจ้องมองกุลธิดาด้วยความฉงนใจก่อนที่เธอจะขยายความ
“ก่อนพี่กับนายวิทย์จะย้ายออกไป พี่สาคิดว่านายวิทย์เขาจะ..เอ้อ...อย่างงั้นน่ะค่ะ” กุลธิดาพูดตะกุกตะกักแล้วซุกหน้าลงกับอกสาวิตรีด้วยความอาย ปากก็ดูดดุนปลายถันพี่สาวเป็นการแก้เขิน
“อ๋อ พี่ว่าเขาคงจะโอเคนะ” สาวิตรีพูดยิ้ม ๆ ขณะที่รู้สึกปลายลิ้นน้องสาวฉกเลียหัวนมซ้ายของเธอ
“จริงนะคะ หนูแทบจะทนรอไม่ไหวแล้ว” กุลธิดาพูดอย่างตื่นเต้นขณะที่เธอยังใช้ลิ้นเล่นกับหัวนมพี่สาวไม่เลิก
“งั้นทำไมไม่ลงไปข้างล่างแล้วให้เขาทำซะตอนนี้เลยล่ะจ๊ะ” สาวิตรีแนะกุลธิดาซึ่งถึงกับทำให้เธอช็อคไปชั่วขณะ แต่แล้วเธอก็ยิ้มซุกซนให้กับพี่สาวก่อนจะลุกจากเตียงน้องชายแล้ววิ่งปราดไป ที่ประตู
ไกรวิทย์ตกตะลึงหัวใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อกุลธิดานวยนาดเข้ามาในห้อง นั่งเล่นในสภาพเปลือยเปล่า ขากรรไกรเขาอ้าค้างเมื่อเธอบิดสะโพกเดินเข้ามาหาเขาในท่าทางที่ยั่วยวนกวน สวาทเป็นที่สุด
“พี่ดาครับ พ—พี่...โป๊อยู่นะคับ” ไกรวิทย์พูดปากคอสั่น พี่สาวเขายิ้มแล้วพยักหน้ารับ
“แหม ก็ใช่น่ะสิจ๊ะนายวิทย์ ของมันเห็น ๆ กันอยู่” เธอสัพยอกขณะที่ยืนชดช้อยอยู่เบื้องหน้าน้องชายในท่าแยกขาออกเล็กน้อยแต่ไม่ ถึงกับเผยให้เห็นเนินหี
ไกรวิทย์มองต่ำลงไปที่กลุ่มขนหมอยสีดำสนิทที่ถูกตัดเล็มจนสั้นเป็นระเบียบ มันดูเซ็กซี่จริง ๆ
ไกรวิทย์เงยหน้ากลับขึ้นมามองเต้านมพี่สาว มันเต่งตึงดึงดูดสายตาเสียนี่กระไร ยอดปทุมชูช่อล่อใจให้ดูดดื่มน้ำหวานจากปลายถัน
“ล-แล้วพี่ดาลงมาทำอะไรข้างล่างทั้ง ๆ ยังโป๊อยู่ล่ะครับ” เขาถาม สายตาก็กวาดมองของดีพี่สาวด้วยความชื่นชม
“พี่ก็ลงมาทำอะไรบางอย่างที่ควรจะทำมาตั้งนานแล้วน่ะสิจ๊ะ” กุลธิดาพูดยิ้ม ๆ
ในที่สุดไกรวิทย์ก็เข้าใจแล้วว่าเธอหมายถึงอะไร อย่างน้อยเขาก็คิดว่าตัวเองเข้าใจ แล้วก็ยิ้มให้กับเธอก่อนจะเลียริมฝีปากอย่างรอคอย
“วิทย์จ๊ะ ก่อนหน้านี้พี่ทำอะไรบางอย่างที่ไม่ดีลงไป” จู่ ๆ กุลธิดาก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไกรวิทย์ไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าเธอจะพูดอย่างนี้ก็เลยไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
“พี่ดาหมายถึงอะไรเหรอครับ” ไกรวิทย์ถามด้วยความไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“พี่กับพี่สาเล่นรักกันบนเตียงเธอน่ะจ้ะ” เธอเบะปากราวกับเด็กที่สารภาพความผิดกับพ่อแม่
ไกรวิทย์ตะลึงงันเมื่อได้ยินคำสารภาพของเธอ
“ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่เราทำแบบนี้” เธอกล่าวต่อ ทำท่าคอตกแต่ตาจ้องมองน้องชายและแอบยิ้มในใจ ทำแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากและไกรวิทย์ก็เริ่มจับทางได้แล้วว่าเธอ กำลังเล่นเกมอะไรอยู่
“อ้อ งั้นพี่ดาก็เป็นเด็กไม่ดีน่ะสิ” ไกรวิทย์พูดเสียงเข้ม เล่นละครแบบนี้ทำให้เขาเงี่ยนเป็นกำลัง ควยเขาพองตัวแข็งขึ้นมาจนรู้สึกปวดหนึบ เขาสังเกตเห็นรอยชื้นน้อย ๆ ที่ด้านในขาอ่อนของกุลธิดาแสดงให้เห็นว่าเธอเองก็กำลังเงี่ยนไม่ผิดกับเขา
“จ้ะวิทย์จ๋า พี่ว่าเธอคงต้องทำโทษพี่แล้วล่ะจ้ะ” เธอพูดเสียงอ่อย
“ผมก็ว่างั้นแหละ” ไกรวิทย์พยักหน้าเห็นด้วย
ไกรวิทย์เงี่ยนอยากขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึงการตีก้น ครั้งแรกที่เขารู้ก็คือตอนที่ได้ดูภาพยนตร์ที่มีผู้หญิงถูกตีก้นซึ่งทำให้ ควยเขาแข็งปั๋งขึ้นมาทันทีทันใดและเขาต้องชักว่าวให้ตัวเองจนน้ำควยไหลทะลัก ออกมามากอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ส่วนกุลธิดาเองก็เช่นกัน คืนหนึ่งตอนเธออายุ 19 เธอเคยโดนเพื่อนชายตีก้น ซึ่งทำให้เธอชอบถูกตีก้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา มันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ ที่มีมืออันแข็งแรงทิ้งรอยสีแดงสดใสบนก้นขาว ๆ ของเธอ ความรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ บนเนื้อนุ่ม ๆ ทำให้เธอเสียวซ่านไปทั้งตัว
ไม่มีคำพูดใด ๆ ระหว่างพี่น้องทั้งสองคนอีกแล้วขณะที่กุลธิดาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาน้องชายแล้วคุกเข่าลงข้างเขาบนโซฟาก่อนที่จะทิ้งลำตัวและหน้าอก ลงทาบทับกับตักเขา จากนั้นเธอก็ดันตัวเลื่อนไปข้างหน้าถูไถผ่านหว่างขาเขาที่กำลังตุงออกมาจน กระทั่งหน้าท้องเธอสัมผัสกับควยเขาที่ดันเนื้อผ้าออกมาและก้นเธออยู่ตรง ตำแหน่งที่เหมาะสำหรับมือน้องชาย
ไกรวิทย์สูดลมหายใจลึก ๆ แล้วกลั้นไว้ หัวใจเขาเต้นถี่เร็วราวรัวกลอง เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย และแม้ว่าความมั่นใจในตัวเองของเขาจะเพิ่มขึ้นมามากจากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่ดี
กุลธิดาร้องครวญครางเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือน้องชายลูบไล้ผ่านแก้มก้นแล้วบีบมันเบา ๆ ก่อนจะเคลื่อนไปตามเส้นทางที่ตั้งใจไว้
“แล้วพี่ภาล่ะครับ ถ้ามหาลัยหยุดเรียนเหมือนพี่ดาว่าล่ะก็ พี่ภาอาจโผล่เข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้นะครับ” ไกรวิทย์พูดขณะรู้สึกก้นของกุลธิดาดีดส่ายไปมาใต้มือเขา เขาค่อนข้างกังวลเพราะไม่รู้ว่าภาวิณีจะรับได้รึเปล่าถ้าเข้ามาเจอเหตุการณ์ ในตอนนี้
“มหาลัยเขาปิดแค่อาคารที่พี่เรียนเท่านั้นแหละจ้ะ อีกสองอาคารที่เหลือไม่เป็นไร ยัยภากว่าจะกลับคงอีกนาน” กุลธิดาตอบขณะรู้สึกมือน้องชายเลื่อนไปตามขาอ่อนแล้วลอดลงไปเกาะกุมกระเปาะ หีเธอ
เขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบนฝ่ามือและเริ่มได้กลิ่นน้ำเงี่ยน กลิ่นคล้าย ๆ กับของสาวิตรีแต่ดูเหมือนจะแรงกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เร้าอารมณ์อยู่ดี
ไกรวิทย์ค่อย ๆ ดึงแขนออกจากซอกขาอ่อนพี่สาวแล้วกลับไปวางบนก้นของเธอ แต่เที่ยวนี้เขาละเลงน้ำหีของเธอบนผิวก้น ดูจากภายนอกเหมือนเขากำลังแกล้งให้เธอเงี่ยนจัดขึ้น แต่แท้ที่จริงเป็นการถ่วงเวลาเพื่อสะกดความตื่นเต้นของตัวเองก่อนที่จะเริ่ม ลงมือทำในสิ่งที่เขาคิดว่าน่าจดจำเป็นที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา
กุลธิดาพริ้มตาลงรอคอยอย่างใจจรดใจจ่อขณะที่เธอรู้สึกมือน้องชายยกขึ้นจากแก้มก้นเธอ
ไกรวิทย์มองต่ำลงไปที่ผิวกายที่อ่อนละมุนของพี่สาวแล้วยิ้มออกมา ก้นเธอขมิบเกร็ง มือเธอขยำโซฟาไว้แน่น เธอพร้อมแล้วและเขาเองก็เช่นกัน
เพียะ
ฝ่ามือไกรวิทย์ลดต่ำลงมาตีก้นพี่สาว ไม่ถึงกับแรงมากแต่ก็พอที่จะทำให้เธอร้องออกมาแล้วกระตุกหัวเชิดขึ้น
ไกรวิทย์รอจนกุลธิดาลดหัวลงไปวางกับโซฟาอีกครั้งก่อนจะยกมือขึ้นและมองเห็นรอยสีแดงที่หลงเหลืออยู่บนก้นอันขาวเนียนนั้น
กุลธิดารู้สึกแก้มก้นเธอร้อนผะผ่าว เธอถูกตีที่แก้มก้นข้างขวาแต่ในตอนนี้ความร้อนได้กระจายไปจนทั่วแก้มก้นทั้งสองซีกแล้ว
ไกรวิทย์สูดลมหายใจลึก ๆ อีกครั้งแล้วฟาดฝ่ามือลงไปอีกครั้ง
เพียะ
เที่ยวนี้กุลธิดาครางกระเส่าออกมาแทนเสียงร้องด้วยความเจ็บ มือของน้องชายฟาดลงไปที่แก้มก้นด้านซ้ายของเธอ
ไกรวิทย์ได้ยินเสียงครวญครางแล้วก็ใจชื้นขึ้นว่าเขาทำได้ไม่ผิดพลาด คราวนี้จึงไม่รีรอลังเลอีกแล้ว เขาฟาดมือลงไปอีกครั้ง
เพียะ เพียะ เพียะ
แต่ละครั้งที่โดนตีก้น กุลธิดาต้องร้องครางแหบโหยในลำคอ เธอรู้สึกก้นเธอร้อนไปหมด มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ จนน้ำหีเธอไหลเยิ้มออกมาเลอะกางเกงน้องชายเป็นดวงใหญ่
ไกรวิทย์เองก็เกิดอารมณ์ขึ้นไม่แพ้พี่สาว กุลธิดารู้สึกถึงควยเขาเต้นกระดุ๊บอยู่ตรงหน้าท้องเธอ ซึ่งก็ยิ่งทำให้ความเงี่ยนของเธอทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เพียะ
อีกครั้งที่โดนตีก้น ไกรวิทย์กำลังสนุก มือเขารู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ส่วนกุลธิดาจะรู้สึกยังไงที่ก้น เขาได้แต่จินตนาการเท่านั้น
“โอวว์ วิทย์จ๋า ดีจังเลยจ้ะ ตีก้นพี่อีก ทำโทษพี่อีกซิจ๊ะ” กุลธิดาร้องโหยหวนขณะที่เธอรู้สึกฝ่ามือน้องชายฟาดลงไปที่ก้นเธออีกครั้ง ตอนนี้เธอเจ็บระบมไปหมด โดนตีแต่ละครั้งทำให้เธอแทบร้องไห้แต่มันก็ส่งกระแสความเสียวแล่นไปที่เนิน หีเธอด้วยเหมือนกันจนทำให้โพรงหีเธอชุ่มฉ่ำยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ
ไกรวิทย์ได้ยินพี่สาวพูดเช่นนั้นเขาก็ยิ่งลงมือหนักขึ้น เขาเองก็เงี่ยนจัดอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งได้มาเห็นก้นที่แดงระเรื่อของเธอด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความเงี่ยนขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ
เพียะ
กุลธิดากรีดร้องออกมา ร่างเธอเกร็งเขม็งบนตักน้องชายเมื่อความสุขเสียวแล่นไปทั่วตัวขณะถึงจุดสุดยอด
ไกรวิทย์รู้สึกน้ำเสียวของพี่สาวไหลหยดลงบนกางเกงเขาและซึมผ่านลงไปถึงผิว หนังที่อยู่ข้างใต้ บรรยากาศในห้องคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นหี ยิ่งทำให้เขาเงี่ยนหนักขึ้น ควยเขาแข็งจนไม่รู้จะแข็งยังไงแล้วและเขาต้องปลดเปลื้องความเครียดที่สะสม นี้ในทันที
“โอววว์ วิทย์จ๋า พี่...พี่มีความสุขจังเลยจ้ะ” กุลธิดาพึมพำขณะพลิกหงายขึ้นมาเผชิญหน้าน้องชายพร้อมยิ้มหวานให้เขาเมื่อ รู้สึกความแสบร้อนที่ก้นลดลงจนเหลือเพียงความรู้สึกแปล๊บ ๆ เท่านั้น
ไกรวิทย์ยิ้มตอบแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“แต่พี่ว่าถึงตาเธอมั่งแล้วล่ะ” กุลธิดาพูดเสียงเข้มบ้าง
ไกรวิทย์มองพี่สาวอย่างตกตะลึง เขาไม่ค่อยชอบโดนตีก้นเท่าไหร่นัก กุลธิดาเห็นสีหน้าเขาแล้วยิ้มขัน ๆ
“บ้า พี่ไม่ได้หมายความว่าพี่จะตีก้นเธอ ตาบ๊องเอ๊ย” เธอหัวเราะคิก “แหม ผู้ชายก็ยังงี้แหละ พอทำเขาละก็ชอบ แต่พอตัวเองโดนมั่งก็ทำร้องโอดโอย” เธอหัวเราะอีกครั้ง
ไกรวิทย์ยิ้มให้พี่สาวอย่างโล่งอกแล้วก็เริ่มหัวเราะด้วย


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #12 on: January 07, 2010, 09:41:07 AM
“พี่หมายถึง แบบนี้ตะหากล่ะจ๊ะ” กุลธิดาลุกขึ้นนั่งบนตักน้องชายแล้วยกขาขึ้นคร่อมตัวเขา จากนั้นก็ทิ้งตัวลงให้เนินหีที่เปียกแฉะกดลงบนควยเขาที่ดันกางเกงตุงออกมา
“โอววว์” ไกรวิทย์ครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงเนินหีพี่สาวกดตัวลงมาบนเนื้อผ้าซึ่งเสียดสีกับหัวควยเขา
“ถอดมันออกดีกว่านะ” กุลธิดาเลื่อนตัวลงจากโซฟาและจัดแจงปลดกระดุมกางเกงน้องชายแล้วรูดมันลง ไกรวิทย์ช่วยอำนวยความสะดวกให้เธอแล้วก็นั่งเปลือยอยู่บนโซฟาหลังถอดเสื้อ ออกไปด้วย
กุลธิดาจ้องมองควยเขาที่เด้งดึ๋งดั๋งอยู่ตรงหว่างขา มันช่างแข็งและพร้อมใช้งานจริง ๆ เหลือแต่ให้เธอเอามันเข้าไปในตัวเธอเท่านั้น
เธอก้าวขึ้นไปบนโซฟานั่งคร่อมตัวน้องชายเหมือนเดิม เต้าอวบสล้างทิ้งตัวอยู่ตรงหน้าเขาจนเขาอดใจไม่ไหวต้องใช้มือช้อนมันขึ้นมา แล้วใช้ปากดูดหัวนมข้างซ้าย
กุลธิดาครางกระเส่าเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของน้องชายบนหัวนมขณะที่เขาอมมัน เธอวางมือบนไหล่เขาเพื่อให้ทรงตัวได้ถนัดขณะที่พยายามจะเลื่อนสะโพกไปอยู่ เหนือลำควยโดยไม่ให้เต้านมหลุดจากปากเขา
ไกรวิทย์ดื่มด่ำกับสัมผัสของหัวนมกุลธิดาบนลิ้นของเขาขณะที่ใช้ปลายลิ้น เขี่ยมันเล่นในปาก หัวนมเล็ก ๆ นั้นดูเหมือนจะขยายตัวและแข็งขึ้นในปาก
“อูยย์ วิทย์ พอเถอะ” เธอครวญครางขณะที่เขาขบหัวนมเธอเบา ๆ เธอปล่อยมือจากไหล่เขา ยกขึ้นมาดันหัวเขาแยกห่างออกจากเต้านมเธอ
“ตอนนี้ถึงตาเธอกระฉูดบ้างล่ะ” เธอดันเขาให้เอนหลังพิงพนักโซฟาแล้วเลื่อนตัวขึ้นตามไปจนหีเธออยู่เหนือควยเขาพอดี
ไกรวิทย์ก้มลงมองขณะกุลธิดาแยกขาออกแล้วกดเนินหีลงบนลำควยน้องชาย เขาร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อกลีบแคมที่เปียกเยิ้มของเธอแยกตัว ออกโอบรัดหัวควยเขาจากนั้นก็กลืนลำควยเขาลงไปทั้งลำ
“อาวว์ว์ว์” กุลธิดาครางกระเส่าเมื่อโดนควยน้องชายทะลวงโพรงหีเป็นครั้งแรก ควยเขาร้อนเหลือเกิน น้ำเงี่ยนที่ปริ่มอยู่บนหัวควยร่วมกับน้ำหีของตัวเธอเองช่วยทำให้มันไหลลื่น เข้าไปได้ไม่ยากนัก
กุลธิดาหยุดการกดตัวลงเมื่อขนหมอยเธอสัมผัสกับของเขา ควยเขาเข้าไปตัวเธอลึกสุดกั่น ความร้อนที่เกิดจากเขาและเธอช่างรุนแรงเหลือทน
ไกรวิทย์รอเวลานี้มานานแล้ว หลังจากเขาได้ตีก้นพี่สาวไปชุดใหญ่มันก็ทำให้เขาเงี่ยนสุด ๆ ซึ่งก็ทำให้เขาคงจะดึงเกมไว้ได้ไม่นานก่อนน้ำจะแตก แต่เขาจะพยายามตักตวงความสุขไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อนเวลานั้นจะ มาถึง
พอเริ่มคุ้นกับลำควยน้องชายที่ฝังมิดในโพรงหี กุลธิดาก็เริ่มขยับโขยกควบเป็นการใหญ่ เธอใช้ขาช่วยดันตัวเองขึ้นจนควยเขาเลื่อนออกมาเกือบถึงหัวหยักแล้วเธอก็ทิ้ง ตัวลงมากลืนมันกลับเข้าไปในครั้งเดียว ขณะที่เธอควบขี่เขา ปทุมถันเธอก็เด้งดึ๋งดั๋งขึ้นลงต่อหน้าต่อตาน้องชาย ดวงตาเขาจับจ้องตามการเคลื่อนไหวของยอดถันเหมือนแมวมองตามลูกบอลที่ไหลไปบน เชือก
“อาววว์ อูยยย์ อร่อยหีเหลือเกิน” กุลธิดาครางออกมาอย่างลืมตัวขณะที่โพรงหีเธอถูกควยไกรวิทย์อัดแน่นจนไม่ เหลือที่ว่าง ตัวไกรวิทย์เองก็ครวญครางไม่ขาดปากเช่นกัน โพรงหีพี่สาวช่างร้อนผ่าวและคับแน่นดูดตอดเหลือรับจริง ๆ นี่คงเป็นลักษณะเฉพาะในครอบครัวเขาละกระมังเพราะพี่สาวเขาทุกคนมีโพรงหีที่ ดูดกระชับที่สุด
กุลธิดายังคงเด้งตัวขึ้นลงบนตักไกรวิทย์พร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อช่องคลอด บีบรัดลำควยเขาแน่นขึ้นไปอีกจนเหมือนใช้มือกำ จากนั้นเธอก็หยุดเด้ง แต่กลับบดขยี้เนินหีเธอกับลำควยเขาแทน เธอกลืนลำควยเขาเข้าไปจนมิดโคนแล้วก็หมุนสะโพกเป็นวงเล็ก ๆ โยกควยเขาไปด้วย ขนหมอยเขาเขี่ยเร้าเม็ดแตดเธอยิ่งทำให้ทั้งคู่แทบคลั่งด้วยความกระสันต์ ทะยานอยาก
กุลธิดาโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วประคองศีรษะน้องชายไว้ จากนั้นเธอก็ประกบริมฝีปากจูบเขาพร้อมส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก ทั้งคู่แลกจูบกันพัลวัน
ไกรวิทย์ส่งเสียงครางเข้าไปในปากพี่สาวขณะที่กุลธิดาเริ่มขยับตัวซอยหีอีก ครั้งทั้งที่ยังจูบเขาอยู่ เธอโอบแขนรอบคอเขาไว้แน่นไม่ให้เขาถอนปากออก ซึ่งอันที่จริงเขาก็ไม่เคยคิดจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว
เหงื่อหยดติ๋ง ๆ จากร่างของทั้งคู่เมื่อกามกรีฑาใกล้ถึงจุดสิ้นสุด ไกรวิทย์รู้สึกลูกกะโปกเขาเริ่มหดตัวซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาใกล้จะถึงจุด สุดยอดแล้ว
ดูเหมือนกุลธิดาเองก็พอจะรู้อยู่ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เธอจึงเป็นฝ่ายถอนจูบก่อนแล้วแหงนหน้าเริ่ดพร้อมร้องตะโกน
“แตกใส่พี่เลยวิทย์จ๋า”
และคำพูดนั้นทำให้ไกรวิทย์หมดความยับยั้งชั่งใจ สะโพกเขาเด้งขึ้นสวนและควยเขาแทงลึกเข้าไปในตัวกุลธิดา ตัวกุลธิดาเองก็กอดเขาไว้แน่นขณะที่น้ำควยขุ่นขาวและร้อนผ่าวฉีดพุ่งเข้ามา ในหีเธอจนเต็ม ลมหายใจเธอขาดเป็นห้วง ๆ พุ่งกระทบใบหูน้องชายขณะที่เธอหอบหายใจแรงทุกครั้งที่ควยเขาฉีดพุ่งน้ำรัก เข้าไปในตัวเธอ
“โอ๊ยยย” ไกรวิทย์ครางออกมาเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อน้ำควยหยุดไหลและควยเขาเริ่มหดตัวลง ในโพรงหีพี่สาว น้ำควยเขาไหลออกจากรูหีที่อ้ากลวงโบ๋ของเธอขณะที่เธอยกตัวขึ้นจากลำควยเขา
ไกรวิทย์จ้องมองขณะที่เธอใช้มือรองใต้เนินหีเพื่อไม่ให้น้ำควยน้องชายหยดเปื้อนพื้นหรือโซฟา
“เธอเย็ดได้อร่อยที่สุดเท่าที่พี่เคยเจอมาเลย พี่เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอกับพี่สาถึงคิดจะย้ายออกจากบ้านไปอยู่ด้วยกัน พี่สาเป็นคนโชคดีนะ” กุลธิดาพูดหอบ ๆ ขณะที่น้ำควยน้องชายไหลออกมาจนเต็มฝ่ามือ
“ผมตะหากที่โชคดีที่มีพี่สาวดี ๆ ตั้งหลายคนแบบนี้” ไกรวิทย์พูดยิ้ม ๆ แล้วลุกขึ้นจากโซฟา
กุลธิดายิ้มให้แล้วกุมมือเขาไว้
“พี่ว่าเราสองคนต้องอาบน้ำแล้วล่ะ” เธอจูงไกรวิทย์ตรงไปที่บันได
ไกรวิทย์เห็นด้วยกับพี่สาว อย่างน้อยเขากับสาวิตรีก็ได้พี่สาวคนนึงมาอยู่ข้างเขาแล้ว แต่พี่สาวคนอื่น ๆ ล่ะจะรู้สึกยังไงเมื่อรู้เรื่องนี้


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #13 on: January 07, 2010, 09:42:59 AM
วันนี้เป็นวันศุกร์ สาวิตรีและไกรวิทย์อยู่ด้วยกันบนเตียง ในบ้านมีเพียงเขาและเธอสองคนเท่านั้น
เกมสวาทระหว่างกุลธิดากับไกรวิทย์ผ่านไปสามวันแล้ว สาวิตรีดีใจมากที่กุลธิดาเห็นด้วยว่าตัวเธอกับไกรวิทย์ควรใช้ชีวิตร่วมกัน และอารมณ์เธอก็ดีอย่างต่อเนื่องนับแต่วันนั้นเป็นต้นมา
คนอื่น ๆ ในครอบครัวก็พร้อมใจกันอารมณ์ดีอย่างน่าพิศวง ราวกับติดมาจากสาวิตรี
ไกรวิทย์และสาวิตรีปรึกษาหารือกันว่าควรจะบอกเรื่องระหว่างพวกเขาให้คนอื่น ๆในครอบครัวได้รู้กันเมื่อไหร่ดีและควรใช้วิธีไหน ซึ่งทั้งคู่ก็ตัดสินใจว่าเปิดเผยเรื่องนี้ตอนที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากันจะ เป็นการดีที่สุด เพราะแบบนี้วิภาวรรณ พรรณวดี ปรียานุช ภาวิณีและลลิตาแม่ของพวกเขาจะได้ไม่ระแคะระคายเรื่องนี้ก่อนเวลาอันสมควร
กุลธิดาสัญญาว่าจะปิดปากเงียบและทั้งคู่ก็ตัดสินใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับทุก คนในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะมาถึง ซึ่งก็คงเป็นวันอาทิตย์เพราะทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
“อรุณสวัสดิ์จ้ะที่รักของพี่” สาวิตรีพูดเสียงสลึมสลือเพราะเพิ่งตื่นนอน เธอขึ้นมานอนร่วมเตียงกับน้องชายหลังจากทุกคนในบ้านออกไปกันหมดแล้ว
พักหลังมานี้สาวิตรีทำแบบนี้บ่อยขึ้นเพราะการได้นอนแนบร่างอุ่น ๆของน้องชายมันดูเหมือนเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปเสียแล้ว การได้แบ่งปันไออุ่นของกันและกันใต้ผ้าห่ม มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
“หวัดดีครับพี่สา” ไกรวิทย์ยิ้มให้พี่สาวในขณะที่เธอกอดรัดร่างเขาแน่นขึ้น ปทุมถันคู่งามของเธอบดเบียดอยู่กับท่อนแขนของเขา ขาซ้ายเธอพาดอยู่บนขาอ่อนเขาต่ำกว่าควยเขาลงไปนิดเดียว
สาวิตรีจูบไหล่เขาเบา ๆ ก่อนจะซุกตัวเข้าหา
“กี่โมงแล้วครับนี่” ไกรวิทย์ขยี้ตา สาวิตรีครางเมื่อเธอมองนาฬิกาที่อยู่ข้างเตียง
“สิบโมงครึ่งจ้ะ” เธอตอบก่อนจะทิ้งศีรษะกลับลงไปบนหมอน
“ผมคงต้องลุกแล้วล่ะ” ไกรวิทย์อ้าปากหาวหวอดแล้วบิดขี้เกียจ
“โธ่วิทย์จ๋า ทำไมต้องตื่นล่ะจ๊ะ นอนอยู่ด้วยกันบนนี้มันอุ่นดีออก” สาวิตรียิ้มแล้วยึดแขนเขาไว้ พยายามยื้อให้เขาอยู่บนเตียงกับเธอ
“โอ๊ยไม่ไหวล่ะครับพี่สา ผมหิวจนแทบเป็นลมอยู่แล้ว” ไกรวิทย์ดึงตัวพี่สาวมาที่ขอบเตียง
“จ้ะจ้ะ นั่นสิเนอะจะปล่อยให้เธอหมดแรงได้ไง” เธอยิ้มซน ๆ ขณะน้องชายลงจากเตียงในสภาพเปลือยเปล่าและบิดตัวจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น
สาวิตรีทิ้งตัวกลับลงไปบนเตียงแล้วลากผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงคาง นอนซุกตัวอยู่บนที่นอนอันอุ่นนุ่มขณะที่ไกรวิทย์คว้าเสื้อผ้ามาใส่
ในครัว ขณะที่ไกรวิทย์กำลังทำแซนด์วิชอยู่ ภาวิณีก็เปิดประตูเข้ามา
“ไงจ๊ะวิทย์” เธอทักด้วยเสียงร่าเริงพร้อมกับวางกระเป๋าใส่หนังสือเรียนไว้บนพื้น
“สวัสดีครับพี่ภา ทำไมวันนี้กลับเร็วล่ะครับ?” เขาประหลาดใจที่เห็นเธอ
“จำได้มั้ยที่พี่ดาเคยกลับก่อนเพราะมีก๊าซรั่วน่ะ?”
ไกรวิทย์พยักหน้ารับ
“มันรั่วอีกแล้วแหละ แต่เที่ยวนี้พี่เรียนตึกนั้นพอดี”
“จริงเหรอครับ แหม ผมยังคิดเอาว่าพวกสาว ๆ มหา’ลัยสมัยนี้เขาชอบหนีเรียนซะอีก” ไกรวิทย์แซว
“บ้า” ภาวิณีสวนพร้อมรอยยิ้ม
“อ้าว คราวนี้เป็นเธอเหรอ” ทั้งไกรวิทย์และภาวิณีพร้อมใจกันหันไปมองตรงบันไดซึ่งสาวิตรียืนเปลือยอยู่
ดวงตาไกรวิทย์เบิกโพลงขณะที่เขายืนดูพี่สาวคนงามโน้มตัวอยู่เหนือราวบันได เต้าอวบมหึมาของเธอทิ้งตัวลงมาน่าดูเป็นที่สุด
“อุ๊ยพี่สา พี่ไม่รู้สึกว่า เอ้อ ใส่เสื้อผ้าน้อยไปเหรอคะ?” ภาวิณียิ้มให้พี่สาว
“อ้าว ทำไมไม่คิดว่าตัวเธอใส่เสื้อผ้ามากชิ้นเกินไปล่ะจ๊ะ” สาวิตรีกระเซ้าน้องสาวขณะเดินเข้ามาในครัวแล้วกอดเธอ
นี่ถ้าไกรวิทย์ไม่รู้อยู่ก่อนแล้วว่า ภาวิณีรู้เรื่องระหว่างเขากับสาวิตรีและสาวิตรีเองก็รู้เรื่องระหว่างเขากับ ภาวิณีแล้วล่ะก็ เขาคงจะเป็นกังวลกับสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก แต่ในตอนนี้เขาสามารถรับมือกับมันได้อย่างสบาย
“ว่าแต่เราเถอะ ทำไมถึงกลับมาเป็นกขค.นายวิทย์กับพี่ล่ะ” สาวิตรีหยอกน้องสาว
“ก๊าซรั่วน่ะค่ะ” ภาวิณีตอบด้วยสำเนียงจริงจัง
“จ้า ๆ แต่พี่ว่ามุขนี้เก่าไปแล้วนะ ยัยดาเขาเคยใช้มาแล้วเมื่อสองสามวันก่อน” สาวิตรีกระเซ้าน้องสาวยิ้ม ๆ
“แล้วพี่สาทำอะไรกันอยู่เหรอคะ” ภาวิณีถามด้วยความสงสัย
“เปล่านี่ เธอคิดว่าพี่ทำอะไรกันเหรอ” สาวิตรีส่ายหน้าปฏิเสธ “เรานอนกันน่ะจ้ะ”
“ค่ะ ค่ะ หนูรู้” ภาวิณียิ้มมีเลศนัย
“ไม่ใช่แบบนั้นครับพี่ภา เรานอนหลับจริง ๆ” ไกรวิทย์สอดเข้ามาหลังกินแซนด์วิชหมดอัน
ภาวิณีไม่เชื่อหรอกแต่ก็ไม่รู้จะซักไซ้ไล่เลียงไปทำอะไร เธอก็เลยเดินไปเปลี่ยนชุดให้มันสบายกว่านี้
“วันนี้พี่สา มีแผนจะทำอะไรคะ” ภาวิณีถามพี่สาวเมื่อเห็นสาวิตรีเดินเข้ามาในห้องแล้วเลือกเสื้อผ้ามาสวม
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกจ้ะ เดี๋ยวพี่ว่าจะไปฟิตเนส” เธอตอบพร้อมกับสวมกางเกงในผ้าฝ้ายสีเขียวอ่อนและบราสีเดียวกัน
“อ๋อ แล้วนายวิทย์ล่ะคะ”
“พี่ว่าเขาคงไม่มีแผนจะทำอะไรมั้ง ทำไมเหรอจ๊ะ” สาวิตรีถามกลับขณะคว้ากระเป๋าคู่กาย
“เปล่าค่ะ แค่ถามดูเฉย ๆ” ภาวิณีตอบขณะสาวิตรีก้าวไปที่ประตู
“เหรอจ๊ะ งั้นอีกสองสามชั่วโมงเจอกันนะ” พูดจบ สาวิตรีก็เดินลงบันไดไป
“ค่ะ” ภาวิณีตอบเบา ๆ สายตามองตามพี่สาวไป
ที่จริงแล้ว ภาวิณีคิดถึงแต่เรื่องของน้องชายตั้งแต่ที่เธอดูดควยให้เขาจนเกือบจะได้เย็ด กันอยู่แล้ว เสียแต่ว่าเธอผวาไปเสียก่อนเท่านั้น แปลกเหลือเกินที่เธอไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อนเลย เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอพร้อมที่จะมอบร่างกายอันบริสุทธิ์ของเธอให้กับไกร วิทย์แล้ว
“โชคดีนะครับพี่สา” ภาวิณีได้ยินเสียงไกรวิทย์ร้องทักพี่สาวคนโตขณะที่เธอเดินลงบันได ประตูบ้านปิดดังปังแล้วเธอกับเขาก็อยู่กันเพียงลำพัง
“อ้าว ว่าไงครับพี่ภา เอ๊ะ ดูพี่ท่าทางไม่ค่อยสบายเลยนี่” ไกรวิทย์ทักเมื่อเห็นพี่สาวคนสวย
“พี่สบายดีจ้ะ คือว่า พี่อยากจะไปดูหนังน่ะ เธอจะไปด้วยกันมั้ย” ภาวิณีถามน้องชาย
“ได้สิครับ ว่าแต่เราจะไปดูเรื่องอะไรครับ” ไกรวิทย์ถามพี่สาวด้วยความรอบคอบ เพราะรสนิยมเรื่องหนังของทั้งคู่ไม่ค่อยจะเหมือนกันเท่าไหร่นัก
“ค่อยเลือกเอาตอนที่ไปถึงโรงหนังก็แล้วกัน” ภาวิณียิ้มขัน ๆ ซึ่งไกรวิทย์ก็เห็นด้วยแล้วเดินไปเปลี่ยนชุด
“ว้าว เท่จังเลยนะน้องพี่” ภาวิณีชมน้องชายเมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้งในชุดกางเกงยีนส์ตัวเก่งและเสื้อ เชิ้ตสีน้ำเงิน ซึ่งเขาก็ดูดีจริง ๆในชุดนี้
“ขอบคุณครับ พี่ภาเองก็สวยเฉี่ยวเหมือนกันครับ” ไกรวิทย์ชมพี่สาวกลับ
ภาวิณีได้ยินคำชมน้องชายก็หน้าแดงซ่านด้วยความเขินอาย
“พี่เขียนโน้ตทิ้งไว้แล้วล่ะ เผื่อคนอื่นกลับมาแล้วไม่เจอเราสองคนจะได้ไม่เป็นห่วง” ภาวิณีวางกระดาษโน้ตไว้บนโต๊ะ
“พร้อมแล้วนะครับ?” ไกรวิทย์ถามพี่สาว
“จ้ะ” เธอตอบหลังจากเช็คว่าเอาเงินมาแล้ว หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกจากบ้านไป
“เราจะดูเรื่องไหนกันล่ะครับ” ไกรวิทย์ถามพี่สาวคนสวยอีกครั้งเมื่อทั้งคู่ไปถึงโรงหนัง
“เธอดูแล้วชอบเรื่องไหนล่ะจ๊ะ” ภาวิณีถามขณะทั้งคู่กวาดสายตาสำรวจบอร์ดแสดงตัวอย่างหนังที่กำลังฉาย
“อือม์ มีเรื่อง ลอร์ดออฟเดอะริงก์ตอนกษัตริย์คืนบัลลังก์ มาสเตอร์แอนด์คอมมานเดอร์ กับสคูลออฟร็อค” ไกรวิทย์พึมพำขณะกวาดมอง
“ไม่ใช่แนวถนัดของพี่เลยซักเรื่องเดียว” ภาวิณีพูดขณะเธอเองก็มองสอดส่ายหาตัวอย่างที่เธอชอบ
“ขอโทษครับพี่ภา ผมลืมไป ผมว่าคงต้องมีซักเรื่องที่เราชอบทั้งคู่แหละน่า” ไกรวิทย์ยังคงค้นหาต่อไป
“เรื่องนี้เป็นไง” ภาวิณีชี้ไปที่ตัวอย่างหนังที่อยู่เกือบบนสุดของบอร์ด
“มนต์รักลูกทุ่งเอฟเอ็มเหรอครับ?” ไกรวิทย์ไม่ค่อยเห็นด้วยกับพี่สาว “พี่ภาครับ เรื่องนี้น่ะมันฉายในเคเบิลทีวีบ่อยออกครับ ผมว่าเขาเอามาใส่ไว้ให้บอร์ดมันเต็มมากกว่า”
“น่านะวิทย์ พี่อยากดูเรื่องนี้มานานแล้ว นะ นะ” ภาวิณีออดอ้อนอย่างน่าสงสารจนไกรวิทย์ใจอ่อน
“เอา ก็ได้ครับ ถ้าพี่อยากดูเรื่องนี้ผมจะดูเป็นเพื่อนก็ได้” ไกรวิทย์ตอบตกลง ทำให้ภาวิณีดีใจจนโผเข้ากอดน้องชาย
“ขอบใจจ้ะวิทย์” เธอพึมพำขณะเดินไปยังที่ขายตั๋ว
“เริ่มฉายกี่โมงครับ” ไกรวิทย์ถามขณะภาวิณีกลับมาพร้อมตั๋วในมือ
“เข้าไปตอนนี้เลยก็ได้ เพราะอีก 20 นาทีก็จะเริ่มแล้ว” ภาวิณีบอกน้องชายขณะทั้งคู่พากันเดินเข้าไปภายในโรงหนัง
ไกรวิทย์ปล่อยให้ภาวิณีเลือกที่นั่ง ซึ่งเธอเลือกแถวหลังที่ไม่ค่อยมีคน มองไปเห็นนั่งอยู่กันไม่กี่คน ส่วนมากเป็นสาว ๆ ที่มาพร้อมกับเพื่อนชาย
20 นาทีต่อมา ไฟก็ดับลงและหนังก็เริ่มฉาย
ช่วงแรกของหนัง ไกรวิทย์รู้สึกเบื่อ ๆ เพราะมันไม่ใช่หนังประเภทที่เขาชอบ มันเป็นหนังประเภทหวานแหววสำหรับสาว ๆ มากกว่า แต่พอเห็นภาวิณีอินกับหนังเรื่องนี้มากขนาดนั้น ไกรวิทย์ก็อดใจไม่บ่น พยายามข่มใจดูต่อไป
ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน แต่พอมารู้สึกตัวอีกทีร่างอุ่นนุ่มนิ่มของภาวิณีก็เบียดชิดอยู่กับตัวเขาและ แขนของเขาก็โอบรอบไหล่ของเธอ
“ขอโทษครับพี่ภา” เขากระซิบพร้อมกับดึงแขนกลับ
“ไม่เป็นไรจ้ะวิทย์” เธอกระซิบตอบแล้วดันตัวออกห่างเขา
“ผมขอไปห้องน้ำหน่อยนะครับ” ไกรวิทย์ลุกขึ้นจากที่นั่ง
“จ้ะ อย่าไปนานนะ” ภาวิณีมองตามน้องชายที่เดินลงไปตามทางเดิน
ไกรวิทย์ใช้เวลาทำธุระในห้องน้ำไม่นานหรอก จริง ๆ แล้วเขาแค่ไม่อยากดูหนังเรื่องนี้ต่อเท่านั้นเอง
“สบายตัวแล้วใช่มั้ยจ๊ะ” ภาวิณีถามน้องชาย ไกรวิทย์ยิ้มให้แล้วพยักหน้า
ภาวิณีดูหนังไปก็เปรียบเทียบไกรวิทย์กับพระเอกในเรื่อง ดูไปก็เหมือนกันหลายอย่าง มันทำให้เธอรู้สึกสบาย ๆ เมื่ออยู่ใกล้เขา แต่เธอก็รู้ดีว่าไกรวิทย์ไม่ค่อยชอบหนังเรื่องนี้เท่าไหร่นัก
“วิทย์จ๊ะ เธอชอบหนังเรื่องนี้มั้ย” เธอแกล้งถามทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“ครับ ก็พอดูได้” เขาโกหก “แล้วพี่ภาล่ะ”
“จ้ะ พี่ก็ชอบหนังเรื่องนี้นะ” ภาวิณีกระซิบเสียงแหบโหย “มานี่ซิ เดี๋ยวพี่จะให้เธอดูอะไรที่เธอน่าจะชอบมากกว่าหนัง”
ไกรวิทย์ตกตะลึงเมื่อเห็นภาวิณีลงมือรูดซิปกางเกงยีนส์ของเธอ จริงหรือนี่ เราไม่ได้ฝันไปนะ เขาถามตัวเอง แล้วก็ตอบเองว่า เออ จริง ไม่ได้ฝัน
ภาวิณีรูดซิปลงมาจนสุดแล้วยิ้มหวานให้น้องชาย ว่ากันตามจริง เธอก็ยังรู้สึกขัด ๆ เขิน ๆ ที่ทำแบบนี้แต่เพื่อไกรวิทย์แล้วเธอทำได้ นี่ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ไกรวิทย์ล่ะก็ เธอคงไม่กล้าทำแบบนี้เป็นแน่
ไกรวิทย์จ้องมองจนตาค้าง นี่หรือภาวิณี หญิงสาวผู้ขี้อายที่เมื่อก่อนแค่เขาแตะเธอก็กลัวแล้ว แต่นี่เธอกำลังปลดซิปกางเกงตัวเองและดึงมือเขาเข้าไปวางบนกางเกงในของเธอ
ภาวิณีสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเธอรู้สึกนิ้วมือของน้องชายสัมผัสกับกางเกงในผ้าฝ้ายที่เธอสวมอยู่
จากเหตุการณ์ในครั้งก่อน ทำให้ไกรวิทย์ไม่แน่ใจว่าภาวิณีจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับการรุกล้ำของเขา เขาจึงแค่วางมือไว้บนกางเกงในของเธอเฉย ๆ แต่พอเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มบดคลึงเนินโหนกพี่สาวเหมือนกับที่เคยทำในครั้ง ก่อน
ภาวิณีครวญครางเสียงแผ่วเบาเหมือนเป็นสัญญาณกระตุ้นเตือนให้น้องชายไล้นิ้วต่ำลงไปจนกระทั่งถึงเนินหีที่ซ่อนอยู่ภายใต้เนื้อผ้าบางเบา
ครั้งนี้ภาวิณีไม่ตื่นตระหนกอีกแล้ว เธอรู้ว่าเธอสามารถหยุดเขาได้ตลอดเวลาแต่เธอไม่ต้องการทำเช่นนั้น มันรู้สึกดีมาก ๆ แม้ว่าภายในลึก ๆ เธอจะยังรู้สึกหวั่นใจอยู่บ้างก็ตาม
ความสนใจของไกรวิทย์เปลี่ยนจากหนังมาเป็นซอกหว่างขาพี่สาวคนงามแทนเสียแล้ว สายตาเขาก็จ้องมองไปข้างหน้าแต่มือเขาน่ะซิซุกซุนอยู่ใต้กางเกงยีนส์ของเธอ จนเขาสามารถสัมผัสได้ถึงรอยแยกของขาอ่อนและตรงนั้นเองที่เขารู้สึกถึงความ เปียกชื้นบนกางเกงในของเธอ


Offline เรื่องเสียว

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • แฟนพันธ์แท้
  • *******
    • Posts: 8553
    • เสียว: 361
  • เรื่องเสียวอัพเดจทุกวัน
    • View Profile
    • เล่าเรื่องเสียว
Reply #14 on: January 07, 2010, 09:43:47 AM
ภาวิณีแยกขา ออกเล็กน้อยเมื่อรู้สึกปลายนิ้วมือน้องชายไล่ต่ำลงไปจนถึงก้นเธอ ส่วนฝ่ามือเขาวางอยู่เหนือโคกหีเธอโดยมีเพียงผ้าฝ้ายที่เปียกชื้นขวางกั้น อยู่เท่านั้น
สายตาเธอไม่เคยละไปจากหนังที่ฉายอยู่ตรงหน้าแต่ภาวิณีก็ครางกระเส่าในใจ นึกอยากให้ไกรวิทย์เย็ดเธอตรงนั้นเดี๋ยวนั้นเลย
ต่างกับพี่สาวของเขา สายตาของไกรวิทย์ไม่เคยหวนกลับไปที่จอภาพยนตร์อีกเลย จิตใจเขาจดจ่ออยู่กับขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่เหนือเรียวขาของพี่สาว เขาจิ้ม ๆ กด ๆ และลูบไล้ตามจุดกระสันต์ต่าง ๆ เพื่อให้เธอเงี่ยนง่านยิ่งกว่าที่เป็นอยู่
พอหนังจบ ไกรวิทย์ก็ถอนนิ้วออกจากกางเกงยีนส์ของภาวิณีแล้วยกขึ้นดม เขาได้กลิ่นสาบสาวอันเป็นกลิ่นเฉพาะของเนินหีและมันทำให้เขาเงี่ยนเป็นที่ สุด
ภาวิณีกำลังรูดซิปกางเกงขึ้นขณะที่หนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินผ่านไป ดวงตาของเธอเบิกกว้างและหัวใจเต้นถี่เร็วและแรง
เมื่อคิดว่าคู่ที่เดินผ่านพวกเขาไปนั้นอาจจะได้เห็นกิจกรรมระหว่างเธอและไกร วิทย์ถ้าพวกเขาเดินมาเร็วกว่านี้อีกเพียงเสี้ยววินาที มันกลับทำให้ภาวิณีรู้สึกเสียวซ่านทะยานอยากเป็นกำลัง สำหรับเธอแล้วมันเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย แล้วทำไมหนอมันจึงมาเกิดขึ้นเอาแบบปุบปับอย่างนี้
แต่เธอก็ไม่มีเวลาที่จะคิดไตร่ตรองหาสาเหตุ เพราะไกรวิทย์ลุกจากที่นั่งและยื่นมือมาช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้น เธอจับมือเขาไว้แล้วส่งยิ้มหวานให้
“ตอนนี้พี่อยากจังเลยจ้ะ” เธอกระซิบกับน้องชายด้วยเสียงแผ่วโหย รู้สึกเหมือนมีคนอื่นมาควบคุมร่างกายเธออยู่ แต่จริง ๆ แล้วก็เป็นตัวเธอเองนั่นแหละที่บงการให้ทำเช่นนั้น
“ผมก็เหมือนกันครับ” เขากระซิบตอบขณะทั้งคู่เดินเกี่ยวก้อยกันออกจากโรงหนัง
“พี่ว่าเราไปหาที่ที่เป็นส่วนตัวเฉพาะเราสองคนดีกว่านะ” ภาวิณีเสนอ และแทบจะฉุดลากน้องชายไปเมื่อเธอวิ่งไปเรียกแท็กซี่จนไกรวิทย์ต้องวิ่งตามไป ด้วย
“ไปไหนครับ” คนขับแท็กซี่ถามเมื่อภาวิณีและไกรวิทย์ขึ้นไปนั่งอยู่ที่เบาะหลังแล้ว
“โรงแรมที่ใกล้ที่สุดอยู่ไหนคะ” ภาวิณีถามพร้อมกับส่งยิ้มให้ไกรวิทย์ซึ่งกลับออกอาการตื่น ๆ ที่เห็นพี่สาวคนสวยพูดตรงไปตรงมาแบบนี้
“ก็คงเป็นโรงแรมสุขสมน่ะครับ ใช้เวลาราว 15 นาที” คนขับตอบหลังจากใช้เวลาคิดอยู่ครู่นึง
“ดีค่ะ ไปที่นั่นเลย” ภาวิณีบอกคนขับแล้วหันไปจูบแก้มน้องชาย เธอหัวเราะคิกคักดูสนุกกับสิ่งที่ทำไปและกำลังจะทำในอีกไม่นานนี้
คนขับจอดเทียบฟุตบาทหน้าโรงแรม ส่งไกรวิทย์และภาวิณีลงไป ไกรวิทย์เป็นคนจ่ายค่าแท็กซี่และพอเขาตามภาวิณีไปก็พบว่าเธอกำลังจองห้องอยู่
“ห้อง 25 ค่ะ” รีเซฟชั่นที่โต๊ะพูดตอนที่ไกรวิทย์มาถึง
“ไปกันเถอะค่ะที่รักขา” ภาวิณียิ้มหวานขณะจูงมือไกรวิทย์ไปที่บันไดซึ่งจะนำพวกเขาไปยังห้องที่จองไว้
“พี่ภาบอกชื่อจริงเราไปรึเปล่า” ไกรวิทย์ถามพี่สาวขณะกำลังง่วนกับการใช้กุญแจเปิดประตูห้อง
“พี่บอกเขาว่าเราเป็นสามีภรรยากันจ้ะ เธอชื่อสมศักดิ์ ส่วนพี่ชื่อสมศรี” เธอหัวเราะขณะเปิดประตู
“ทำไมเลือกชื่อนั้นล่ะครับ” ไกรวิทย์ถามพร้อมกับปิดประตู
“ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นชื่อแรกที่เข้ามาในหัวละมั้ง” ภาวิณีตอบขณะเดินเข้าหาน้องชาย โอบกอดเขาและจูบเขาอย่างดูดดื่ม
ไกรวิทย์ยึดร่างเธอไว้แล้วดึงตัวเธอให้เขามาแนบชิดกับตัวเขา จากนั้นก็จูบตอบ ลิ้นสองพี่น้องตวัดรัดพันกันนัวเนีย
แล้วจู่ ๆ ภาวิณีก็ผละออกจากน้องชาย ความรู้สึกไม่มั่นใจแบบเดิม ๆ หวนกลับคืนมาอีกแล้ว ไกรวิทย์เข้าใจดีว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไรและรู้ดีว่าเขาไม่ควรจะดึงดันฝืน ใจเธอ
“ขอโทษจ้ะวิทย์” เธอพูดพร้อมน้ำตาเอ่อคลอเบ้า
“ไม่เป็นไรครับพี่ภา ผมเข้าใจดี” ไกรวิทย์ตอบพี่สาว ซึ่งตอนนี้นั่งลงบนเตียงคู่ขนาดใหญ่
“ไม่ได้จ้ะวิทย์ พี่จะยอมแพ้ไม่ได้ พี่จะยอมให้มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่พี่เข้าใกล้ใครสักคนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” ภาวิณีร่ำไห้
ไกรวิทย์เดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงบนเตียง รั้งร่างพี่สาวมากอด จูบเธอเบา ๆ บนหน้าผากแล้วพูดปลอบให้เธอคลายความกังวล ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผล
ภาวิณีรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของไกรวิทย์ เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่เธอรู้สึกแบบนี้ในอ้อมกอดของผู้ชาย เธอรู้ว่าวันนี้แหละที่เธอจะข้ามพ้นความกลัวในใจและจะได้มอบความบริสุทธิ์ ของเธอให้กับชายคนที่เธอรัก ซึ่งก็คือไกรวิทย์นั่นเอง
“วิทย์จ๋า พี่พร้อมแล้วจ้ะ” เธอพูดเบา ๆ ด้วยสำเนียงเรียบนิ่งจนไกรวิทย์ไม่ทันได้สังเกตว่าเธอพูดอะไรออกมาจนกระทั่ง เธอยืดตัวตรงจ้องตาเขาแล้วพูดซ้ำอีกครั้ง
“พี่แน่ใจนะครับ?” ไกรวิทย์ถามพี่สาว
เธอพยักหน้าและฝืนยิ้ม
ไกรวิทย์โน้มตัวเข้าหาแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากอย่างทะนุถนอม
เธอจูบตอบเขา ทั้งคู่แลกจูบกันด้วยความอ่อนโยนเป็นที่สุด ไม่มีการใช้ลิ้นแม้แต่น้อย เป็นสัมผัสจากริมฝีปากอันแผ่วเบาที่สุดเท่านั้น
ภาวิณีเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เธอยืนขึ้นแล้วค่อย ๆ ถอดเสื้อยืดออก เธอกัดริมฝีปากล่างแน่นขณะปล่อยให้เสื้อหล่นลงไปกองอยู่ที่พื้นและปล่อยให้ ไกรวิทย์ชื่นชมทรวงอกอันอวบอิ่มของเธอที่ถูกหุ้มห่อด้วยบราเซียร์สีดำเท่า นั้น
แน่ละ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไกรวิทย์ได้เห็นเรือนร่างของเธอ แต่สำหรับภาวิณีแล้วเธอรู้สึกเหมือนมันเป็นเช่นนั้น
ไกรวิทย์มองเต้าอวบพี่สาวเคลื่อนไหวภายใต้บราขณะที่เธอยืนอยู่เบื้องหน้าเขา เธอช่างงดงามและหวานหยาดเยิ้มเสียนี่กระไร เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกที่ได้มีโอกาสเป็นชายคนแรก ของเธอ
“ว้าว พี่ภาสวยที่สุดเลยครับ” ไกรวิทย์เอ่ยชม
เธอยิ้มอาย ๆ แล้วพูดเบา ๆ “ขอบใจจ้ะ”
แล้วไกรวิทย์ก็ลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเข้าหาเธอแต่เธอกลับก้าวถอยห่างออกไป
“รออยู่ตรงนั้นแหละจ้ะ” เธอดันให้เขาอยู่ห่างจากเธอหนึ่งช่วงแขน เขายิ้มแล้วพยักหน้า
ภาวิณีปลดขอกางเกงยีนส์และปล่อยให้มันหล่นลงไปกองที่พื้นก่อนจะก้าวออกมาและ ไปยืนอยู่หน้าน้องชายโดยมีเพียงบราเซียร์สีดำและกางเกงในปกปิดเรือนกายเท่า นั้น
ไกรวิทย์กวาดมองเรือนร่างของพี่สาวแล้วก็อดชื่นชมในใจไม่ได้ ตอนนี้เธอดูดียิ่งกว่าตอนที่พวกเขาได้มีโอกาสใกล้ชิดกันครั้งแรกเสียอีก ซึ่งเขาก็บอกเธอไปเช่นนั้น
“แหมวิทย์จ๋า เธอนี่ช่างปากหวานจริง ๆ นะ” เธอหน้าแดงเรื่อด้วยความเขินอาย “พี่อยากเห็นเธอตอนถอดเสื้อผ้าเหมือนกันจ้ะ” เธอบอกน้องชาย สายตาเธอกวาดไปทั่วตัวเขา
ไกรวิทย์ยิ้มออกมาแล้วเริ่มลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตจนมันเปิดออก ภาวิณีก้าวไปข้างหน้าก่อนที่เขาจะดึงมันออกไปจากตัวแล้วยื่นมือไปคว้าไว้ตรง ไหล่
ไกรวิทย์ปล่อยให้เธอดึงมันออกจากตัวเขา ศีรษะเธอโน้มเข้าหาหน้าอกเขาพร้อมกันนั้นเธอก็พรมจูบไปที่แผงหน้าอกและหัวนม ในขณะที่เธอดึงเสื้อเชิ้ตออกแล้วปล่อยมันทิ้งลงกับพื้น เธอไล่จูบขึ้นไปตามลำคอจนถึงริมฝีปาก แล้วจูบเขานิ่งนานก่อนที่จะเลื่อนมือลงไปที่กางเกงยีนส์ของเขาและปลดกระดุม รูดซิปลง และปล่อยให้มันหล่นลงไปกองอยู่กับพื้น
ไกรวิทย์ก้าวออกจากกองเสื้อผ้าแล้วเตะมันไปไว้ข้างผนังห้อง
ภาวิณีมองต่ำลงไประหว่างเรือนร่างของเธอกับเขาและเห็นความแข็งแกร่งของไกร วิทย์ดันกางเกงในจนตุงออกมา เธอยิ้มแล้วเงยหน้ากลับขึ้นไปมองหน้าเขา
เขาหน้าแดงด้วยความอายเหมือนเช่นเคย เธอเองก็หน้าแดงด้วยเหมือนกันแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าทั้งเขา และเธอช่างเหมือนกันอะไรจะขนาดนี้
“มาเถอะจ้ะวิทย์ พี่ว่ามันได้เวลาแล้วล่ะ” ภาวิณีจูงน้องชายเดินตรงไปที่เตียง เธอนั่งลงแล้วเลื่อนตัวไปจนถึงกลางเตียงอันหนานุ่ม
ไกรวิทย์ยืนอยู่ข้างเตียงและจ้องมองขณะเธอเอื้อมมือไปข้างหลังแล้วปลดตะขอบ ราจากนั้นก็ดึงมันออก ปทุมถันคู่งามของเธอก็พลันปรากฏแก่สายตา มันช่างงดงามไร้ที่ติจริง ๆ
สายตาของไกรวิทย์กวาดตามการเคลื่อนไหวของมือเธอขณะที่เธอเหวี่ยงบราทิ้งไป อย่างไม่ไยดีจากนั้นก็เอนตัวลงนอนกับเตียงโดยศีรษะเธอแทบไม่ถึงหมอนด้วยซ้ำ
เขาแทบไม่เชื่อว่าตัวเขาเองจะเป็นชายที่ได้ความบริสุทธิ์ของเธอ ที่เขาได้เย็ดพี่สาวคนอื่น ๆ นั้นมันก็น่าตกใจอยู่ แต่พวกเธอเหล่านั้นรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่ภาวิณีนี่ซิ เธอเป็นมือใหมเต็มขั้น ถือเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องเป็นฝ่ายคุมเกมทั้งหมด
ชั่วแวบหนึ่งที่เขาสงสัยตัวเองว่าจะทำได้หรือไม่ ถ้าทำอะไรผิดพลาดไปล่ะก็มันจะกลายเป็นความทรงจำอันเลวร้ายสำหรับครั้งแรกของ พี่สาวที่เธอจะจดจำตลอดไปทีเดียว
ภาวิณีเองก็คิดคล้าย ๆ กับไกรวิทย์ กลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดี และกลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาดลงไป
แต่ที่แน่ ๆ ภาวิณีรู้อยู่อย่างว่า นี่เป็นสิ่งที่เธอต้องการและเธอต้องการมันเดี๋ยวนี้
“มานี่ซิจ๊ะวิทย์ พี่พร้อมจะมอบพรหมจรรย์ของพี่ให้เธอแล้ว” เธอสูดลมหายใจลึก ๆ จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็จะได้รู้กันคราวนี้แหละ
ไกรวิทย์พยักหน้ารับและค่อย ๆ คลานขึ้นมาบนเตียง เขาคลานเข้าไปหาเธอจนใบหน้าของทั้งคู่แทบจะแนบชิดกัน เขารู้สึกหัวใจตัวเองเต้นถี่เร็วไม่เป็นจังหวะ รู้เลยว่าตัวเองตื่นเต้นมาก อาจจะมากกว่าตอนที่เสียหนุ่มครั้งแรกด้วยซ้ำ
ภาวิณียกมือขึ้นประคองใบหน้าเขาขณะที่เธอจูบเขาอย่างดื่มด่ำ ตัวไกรวิทย์แทรกอยู่ระหว่างเรียวขาของเธอและเธอรู้สึกถึงลำควยเขาเต้นตุบ ๆ กดอยู่กับกางเกงในของเธอ เธอยิ้มขณะจูบไกรวิทย์และกอดรัดเขาไว้แน่น
ไกรวิทย์เป็นฝ่ายถอนปากออกแล้วจูบไล่ลงมาตามร่างกายของพี่สาว โดยไม่พลาดหัวนมทั้งสองข้างและสะดือก่อนที่จะมาถึงกางเกงในของเธอ ตอนนี้ตัวเขาแทบจะตกเตียงอยู่แล้ว เท้าเขาห้อยอยู่กับขอบเตียงพอดี
ภาวิณีมองลงไปทางปลายเท้าในขณะเดียวกับที่ไกรวิทย์เงยหน้ามองขึ้นมา สายตาทั้งคู่สบกัน ภาวิณีส่งยิ้มให้น้องชายแล้วพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
พอไกรวิทย์ได้รับคำอนุญาต เขาก็สอดนิ้วเข้าไปใต้ขอบยางยืดของกางเกงในแล้วค่อย ๆ รูดมันลงมาตามเรียวขาของพี่สาว
ภาวิณีเองก็ตื่นกลัวมากแต่เธอก็พยายามบังคับตัวเองให้ดึงท่อนขาขึ้นช่วยให้ไกรวิทย์ดึงกางเกงในเธอออกได้สะดวกขึ้น
ไกรวิทย์หันกลับมามองที่เนินนูนหว่างขาเธอและต้องประทับใจหลงใหลกับความงาม ของเนินหีพี่สาว กลีบแคมเป็นสีชมพูสด มีน้ำเสียวซึมออกมาเล็กน้อย ส่วนด้านบนประดับด้วยปอยขนอ่อนกลุ่มเล็ก ๆ อย่างเหมาะเจาะ
ภาวิณีมองไม่เห็นแต่รู้สึกได้เมื่อน้องชายสุดที่รักจูบกลีบแคมเธออย่างนุ่มนวล
“อาวว์ว์...” เธอสูดปากครางเมื่อรู้รสสัมผัสริมฝีปากเขาบนเนินโคกเธอเป็นครั้งแรก
ไกรวิทย์พรมจูบบนโคกสวาทเธอต่ออีกสองสามนาที รู้สึกอร่อยลิ้นเป็นที่สุด เขาดูดกลืนน้ำหวานจากตาน้ำในตัวเธอขณะที่มันไหลออกมาไม่ขาดระยะ
ภาวิณียื่นมือลงไปวางบนหัวเขาขณะที่เธอร้องครวญครางจากความเสียวซ่านที่ไกรวิทย์มอบให้
ไกรวิทย์ก็เสียวมากไม่แพ้กัน แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสุขเท่านั้น
เมื่อรู้สึกว่าควยเขาปวดจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เขาก็ถอนริมฝีปากออกจากโคกหีภาวิณีและลุกขึ้นนั่งระหว่างท่อนขาของเธอ เขารูดกางเกงในลง ปล่อยให้ลำควยเป็นอิสระ ภาวิณียกศีรษะมองต่ำลงไปที่ปลายเท้าก็เห็นมันสั่นงึก ๆ อยู่ตรงหน้า ดูใหญ่กว่าที่ตอนที่เธอเคยดูดมันเสียอีก
ไกรวิทย์ถอดกางเกงในออกแล้วเอนกายเข้าหาภาวิณี ลำควยเขาเกือบแตะปากแคมเธอ
“พี่ภาแน่ใจนะครับ” เขาถามยืนยันอีกครั้ง
ภาวิณียันตัวขึ้นแล้วยิ้มตอบ
“จ้ะวิทย์ พี่ต้องการให้เธอเป็นชายคนแรกของพี่” เธอพูดพร้อมกับจูบเขาก่อนจะเอนตัวกลับลงไปนอนราบกับเตียงและยกก้นลอยสูงขึ้น เล็กน้อยเพื่อช่วยให้เขาเล็งเป้าได้ถนัดขึ้น
ไกรวิทย์มองต่ำลงไปแล้วใช้มือซ้ายจับลำควยมาจ่อให้ตรงกับปากรูหีอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของพี่สาว
ภาวิณีร้องครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสของลำควยที่เริ่มแหวกผ่านแคมเธอเข้ามา
“อาว์ว์ว์” เธอครวญครางเมื่อรู้สึกมันเคลื่อนตัวลึกเข้าไปอีก โพรงหีเธอช่างฟิตกระชับเสียจนไกรวิทย์กลัวว่าควยเขาจะทำให้ช่องหลืบนั้นเกิด แผลจากการเสียดสี แล้วเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกั้นขวางควยเขาไว้ ดวงตาของภาวิณีเบิกกว้างเมื่อเธอเองก็รู้สึกปลายควยเขากระทบกับเยื่อ พรหมจารีของเธอ
ไกรวิทย์ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเจาะไข่แดงสาวมาก่อนเลย เขาจึงไม่แน่ใจว่ามันจะเกิดอะไรตามมา เขารู้แต่เพียงว่าเขาต้องแหวกผ่านเยื่อนี้ไปให้ได้เท่านั้น รู้ทฤษฏีน่ะมันง่ายแต่ทำจริงนี่ซิ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย
ภาวิณีเงยหน้ามองน้องชายขณะที่ทั้งคู่นอนกอดกันเฉย ๆ โดยลำควยของไกรวิทย์แทรกเข้าไปในตัวเธอได้ราวนิ้วครึ่ง เธอกัดริมฝีปากล่างแล้วรอให้ไกรวิทย์ทำต่อ เธอเองก็ตื่นเต้นกังวลอยู่เหมือนกัน เธอเคยได้ฟังสาวิตรีและพี่สาวคนอื่น ๆ เล่าประสบการณ์ในการเสียสาวครั้งแรกซึ่งเธอฟังแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยน่า รื่นรมย์สักเท่าใดนัก มันทำให้เธอยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นอีก
ในตอนนี้ภาวิณีพอจะคุ้นเคยกับการถูกควยเย็ดบ้างแล้ว แต่มันก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เธอรู้
“เอาเลยจ้ะวิทย์ พี่พร้อมแล้ว” ภาวิณีพูดพร้อมซุกตัวกับแผงอกเขา
ไกรวิทย์สูดลมหายใจลึก ๆ แล้วถอยสะโพกออกเล็กน้อยให้ควยเขาห่างออกจากเยื่อพรหมจารีของเธอจนได้ระยะที่เหมาะกับการบุกทะลวง
ภาวิณีหลับตาปี๋และโอบรอบคอน้องชายไว้แน่น
ไกรวิทย์รู้สึกหัวใจตัวเองเต้นถี่เร็วกว่าทุกครั้งและสูดลมหายใจลึก ๆ อีกครั้งก่อนจะเด้งสะโพกไปข้างหน้าตะบันควยทะลวงเข้าไปในร่องหลืบของพี่ สาวอย่างรวดเร็วและรุนแรง
“โอ๊ยยยยย” ภาวิณีหวีดร้องลั่นห้องจนไกรวิทย์กลัวว่าจะได้ยินกันทั้งโรงแรมขณะที่ลำควยของน้องชายทะลวงผ่านเยื่อที่ปิดสนิทเข้าไป
ภาวิณีกอดน้องชายแน่นจนเล็บเธอจิกเข้าไปในตัวเขา แต่ไกรวิทย์ก็รู้สึกว่ามันคุ้มเกินคุ้ม
ภาวิณีสะอึกสะอื้นเบา ๆ เมื่อรู้สึกว่ามีเลือดออกในถ้ำโพรงของเธอ มากกว่าหญิงสาวส่วนใหญ่ตอนที่เสียความบริสุทธิ์เสียอีก แต่ไม่นานนักเธอก็รู้สึกความเจ็บบรรเทาลง
ไกรวิทย์กอดเธอไว้แน่น เขาทำได้แล้ว ส่วนที่ยากที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้วแต่เขายังไม่อยากลงมือทำอะไรที่อาจก่อให้ เกิดความเจ็บปวดกับพี่สาวเขาในตอนนี้
ภาวิณีค่อยคลายการกอดรัดแผ่นหลังของไกรวิทย์ เขารู้สึกว่ามีเลือดไหลย้อยลงไปตามผิวหนัง ภาวิณียิ้มให้กับเขาแล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกเขาว่า เขาเป็นคนที่ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัว
ไกรวิทย์ยิ้มตอบแล้วค่อย ๆ สาวท่อนควยออกมา มันเปื้อนคราบเลือดของเธอและเธอเองก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่นั่นมันก็ไม่สำคัญแล้ว เธอครางกระเส่าเมื่อเขากระเด้าส่งลำควยกลับเข้ามาในตัวเธอจนมิดด้าม ลูกกระโปกเขาตีง่ามก้นเธอ
แม้ว่ามันจะดูน่ากลัวไปบ้าง แต่เลือดพรหมจารีที่ไหลออกมานั้นกลับช่วยหล่อลื่นให้ลำควยของน้องชายเธอเคลื่อนเข้าออกรูหีเธอได้ง่ายขึ้น
“โอววว์ ดีจังเลย” ภาวิณีครวญครางเมื่อรู้สึกว่าความเจ็บปวดได้เปลี่ยนไปเป็นความสุขเสียวแทน มันเป็นความเสียวที่ถูกน้องชายแท้ ๆ เย็ด
ไกรวิทย์เองก็ร้องครางออกมาเหมือนกันเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบตอดของโพรงหีอัน คับตีบของเธอทุกจังหวะที่เขากระเด้าเย็ด อันที่จริงหีของพี่สาวเขาทุกคนก็ดูดกระชับแต่ของภาวิณีนี่สิได้ความรู้สึก ของโพรงหีใหม่เอี่ยมถอดด้ามที่ไม่เคยโดนควยทะลวงผ่านมาก่อน มันจึงให้ความมันส์ที่เลอเลิศยิ่งนัก
“อูย เย็ดพี่แรง ๆ เลยจ้ะ เสียวอร่อยเหลือเกิน” ภาวิณีเพ้อครวญเมื่อรู้สึกน้องชายผ่อนจังหวะลง
ไกรวิทย์ไม่อยากทำให้ภาวิณีผิดหวังเขาจึงซอยควยเย็ดกระเด้าพี่สาวอย่างดุดัน ร่างที่ชุ่มเหงื่อเคลื่อนกระทบกันเป็นเหมือนเสียงดนตรีของกามาที่ไพเราะที่ สุดที่ทั้งคู่เคยได้ยินมา
ในห้องนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นอันพิเศษเฉพาะที่เกิดจากหญิงและชายกำลังประกอบ กามกรีฑากัน มันเข้มข้นจนไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดจากการเย็ดกันของคนเพียงสองคนเท่านั้น
ไกรวิทย์รู้สึกว่าลูกกระโปกของเขาเริ่มหดตัวทุกครั้งที่เขาเคลื่อนสะโพก ความแน่นกระชับและความร้อนในร่องหลืบของภาวิณีทำให้เขาใกล้จะถึงจุดทำนบทลาย เร็วกว่าที่เคยเป็น
ไกรวิทย์เคยสงสัยว่าทำไมเพื่อน ๆ เขาที่โรงเรียนถึงอยากจะเป็นคนแรกที่ได้เปิดบริสุทธิ์สาว ในตอนนั้นเขาไม่คิดว่ามันจะสลักสำคัญอะไรนักแต่ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไม
ภาวิณีกรีดร้องโหยหวนเมื่อรู้สึกน้องชายกระแทกลำควยเข้ามาลึกสุดกั่น แต่คราวนี้เขาไม่ดึงมันออก เธอยึดแขนเขาไว้แน่นขณะที่รู้สึกว่าเขาฉีดพ่นไอรักอันอบอุ่นเข้ามาในโพรงหี ที่เพิ่งถูกเปิดซิงของเธอ
ไกรวิทย์กัดฟันกรอดขณะที่รู้สึกตัวภาวิณีสั่นระริก ขณะที่เขาฉีดน้ำรักเข้าไปในตัวเธอ ทั้งสองก็หายใจหอบถี่ด้วยความเหนื่อยอ่อน
เขาค่อย ๆ ถอนลำควยที่กำลังหดตัวลงออกมาจากตัวพี่สาว มันมีคราบเลือดเป็นรอยเช่นเดียวกับที่ปากแคมของภาวิณี แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ใส่ใจกับมัน ทั้งคู่นอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงของโรงแรม
“วิทย์จ๋า พี่ดีใจที่เธอเป็นคนที่พี่มอบกายให้” ภาวิณีกล่าวขณะซุกตัวเข้าหาน้องชาย
“ผมก็เหมือนกันครับ” เขากระซิบขณะภาวิณีเคลิ้มหลับไป “ผมก็เหมือนกันครับ”
พี่สาวไกรวิทย์ 11