close buttonclose buttonclose button
นักเรียนเกเร

นักเรียนเกเร

หนูอยากลองของ · 25448

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline หนูอยากลองของ

  • เจ้าพ่อเรื่องเสียว
  • Super Master Hero
  • *******
    • Posts: 944
    • เสียว: 70
    • View Profile
on: November 19, 2009, 09:07:11 pm
ดิฉันเพิ่งมีอายุครบ 29 ปี ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีครอบครัวที่อบอุ่นพอสมควรตามสภาพของคนที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด ดิฉันแต่งงานอยู่กินกับสามีมาได้ 3 ปีแล้ว มีลูก 1 คน อายุ ขวบกว่าๆ แกเป็นเด็กที่น่ารักมาก สามีของดิฉันก็เป็นคนดีมากเช่นกัน เขามีอาชีพเป็นข้าราชการครูเช่นเดียวกับดิฉัน เราได้รู้จักกันตอนที่ดิฉันเพิ่งได้รับการบรรจุครูใหม่ๆ ที่โรงเรียนระดับมัธยมแห่งหนึ่งในตัวอำเภอ ตอนนั้นเขาสอนวิชาพละศึกษา ส่วนดิฉันได้รับบรรจุตำแหน่งครูวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมต้น สอนทั้งในระดับ ม.1 – ม.3 ที่นี่ครูค่อนข้างขาดแคลนครูคนหนึ่งต้องสอนหลายคาบมาก สอนทั้งวันทั้งแต่เช้ายันเย็น บางวันมีสอนถึง 7 คาบก็มี ดิฉันโตอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่คุณแม่เป็นคนพื้นเพจังหวัดปราจีนบุรี ก็เลยคิดอยากจะมาทำงานที่ใกล้บ้านคุณแม่ด้วยเวลาท่านเหงาหรือเจ็บป่วย จึงเลือกมาทำงานเป็นอยู่อยู่ที่อำเภอนี้ แม้ว่าจะอยู่คนละอำเภอก็ตามดิฉันพักอยู่ในบ้านพักครูของโรงเรียน ซึ่งอยู่หลังในสุดเนื่องจากเป็นครูใหม่ ปกติจะมีเพื่อนครูพักอยู่ด้วยกัน 3 คน ส่วนสามีดิฉันเขาพักอยู่นอกตัวอำเภอเพราะเขามีที่มีทางอยู่แถวนั้นด้วย
ดิฉันเป็นคนหน้าตาดีพอสมควร ผิวขาว สูงประมาณ 160 ซ.ม. ไว้ผมยาวรวบแบบสบายๆ ชอบแต่งกายแบบสบายทะมัดทะแมง ตอนที่ดินฉันมาอยู่ใหม่ๆ เพื่อนครูด้วยกันยังถามเลยว่า หน้าตาอย่างครู นิดนี่ไม่น่ามาเป็นครูบ้านนอกอย่างนี้เลยนะ ดิฉันก็ตอบว่า ดิฉันชอบต่างจังหวัดอยู่แล้วอากาศดี สุขภาพจิตน่าจะดีด้วย เพื่อนครูเขาก็เตือนอยู่บ้างเหมือนกันว่า เด็กนักเรียนที่นี่น่ะ ไม่เหมือนกับเด็กนักเรียนที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยสนใจเรียน ชอบหนีเที่ยว เดี๋ยวนี้ยิ่งมียาเสพติดมาระบาดต้องยิ่งระวังให้ดี เราจับมันไม่ค่อยได้หรอกเด็กพวกนี้มันหลบเก่ง แต่ก็จะมีแสบๆอยู่ไม่กี่กลุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กโต แล้วก็ชอบลองของครูใหม่ใหม่ด้วย ดิฉันก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วเหมือนกัน ว่าต้องเจอกับเหตุการณ์ทำนองนี้ ตอนที่คุยกับเพื่อนๆแต่ก็คิดต่อไม่น่ามีปัญหา ปรับตัวให้เข้ากันสักพักก็จะอยู่ตัวได้เอง แต่ก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเองจะรุนแรงถึงขั้นนี้ ดิฉันไม่เคยบอกแม้แต่เพื่อนครูที่อยู่บ้านพักเดียวกัน หรือแม้กระทั่งสามีของดิฉันก็แค่เล่าว่าชอบโดนนักเรียนแกล้งแซวเฉยๆ ช่วงประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นดิฉันเพิ่งได้รับการบรรจุเข้าทำงานเป็นครูที่นี่ หลังจากจบใหม่ๆได้ไม่นาน ตอนนั้นรู้ว่าตัวเองโชคดีมากที่ เรียนจบเร็ว แล้วก็ได้ทำงานเร็ว ช่วงแรกๆ ของการสอนก็ไม่ไม่อะไรมากเพราะดิฉันต้องปรับตัวกับการเรียนการสอนพอสมควรแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนหรือไปไหนเลย เดือนแรกของการทำงานดิฉันต้องคลุกตัวอยู่กับห้องเรียน เลิกเรียนก็อยู่ในห้องเตรียมการเรียนการสอนของวันถัดไป บางวันก็ถึงขนาดนอนหลับคาโต๊ะหนังสือเลยก็มีช่วงเดือนแรกของการสอนที่นี่ดิฉันจะอยู่ที่โรงเรียนตลอดไม่ได้กลับบ้าน เพราะกลัวจะเตรียมการเรียนการสอนไม่ทัน ส่วนเพื่อนครูคนอื่นที่เขาพักบ้านเดียวกับดิฉันพอวันศุกร์เย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้านกัน ส่วนมากก็จะเหลือดิฉันอยู่เพียงคนเดียว วันนั้นเป็นวันศุกร์ ย่างเข้าเดือนที่ 2 ของการเป็นครูที่นี่แล้วล่ะ ดิฉันก็ทำงานเป็นปกติเหมือนทุกวัน แต่ก็ดูจะเหนื่อยเป็นพิเศษอาจจะเป็นเพราะว่าเหนื่อยสะสมมาจากการที่ไม่ค่อยได้พักผ่อน พอกลับถึงบ้านก็เลยอาบน้ำอาบท่าให้สบายเนื้อสบายตัว แล้วก็เปลี่ยนชุดอยู่บ้านสบายๆ ใส่กระโปรงลำลองผ้าฝ้ายยาวประมาณเข่าได้ เสื้อก็เป็นเสื้อยืดโปโลธรรมดา ปรากฏว่าพอแต่งตัวเสร็จกะว่าจะเข้าไปในตลาดตัวเมืองซื้อของตุนไว้เสียหน่อย กลับพลันนึกขึ้นได้ว่าลืมเอกสารการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ของชั้น ม. 2 ไว้ที่ห้องพักครู และก็จำได้ว่าดิฉันเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาจากห้องพักครูแล้วก็ล๊อกประตูเรียบร้อยแล้ว หากจะเปิดเอาเข้าไปก็ต้องไปเรียกให้ภารโรงมาเปิดให้ เวลาตอนนั้นก็ประมาณสัก เกือบๆ 6 โมงเย็นแล้วเห็นจะได้ ท้องฟ้าก็เริ่มโพล้เพล้แล้ว ตอนนั้นก็รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกันจึงเดินไปเรียกเพื่อนครูข้างบ้านให้ไปเป็นเพื่อน แต่ปรากฏว่าเขาไม่อยู่ นึกขึ้นได้ว่าเขาไปธุระในเมืองตั้งแต่บ่ายแล้ว ก็เลยตัดสินใจเดินไปที่ตึกเอง คิดว่าไม่น่ามีอะไรเพราะผู้คนก็กลับบ้านกันหมดแล้ว ห้องพักครูของดิฉันอยู่ชั้น 3 ชั้นบนสุดของตึกแต่ต้องเดินอ้อมไปเอากุญแจที่บ้านภารโรงซึ่งอยู่ถัดไปเกือบหลังในสุดของถนนในโรงเรียนซึ่งรกครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พอดิฉันเดินเลี้ยวพ้นมุมตึกผ่านกอดอกเข็มสีแดงสดก็ต้องสะดุงตกใจ เมื่อเห็นเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 3-4 คน คาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนชั้น ม. 6 นั่งซุ่มอยู่หลังกอต้นเข็ม เสียงหอบ แฮกๆ…แฮกๆ เหมือนไปทำอะไรมาจนเหนื่อย แล้วก็ถอดเสื้อเหงื่อเต็มตัว เห็นแต่ใส่กางเกงฟุตบอลอยู่ เข้าใจว่าคงเป็นนักกีฬาของโรงเรียน เด็ก 2 คนในกลุ่มนี้มีตัวใหญ่มากตอนเขายืนขึ้นตัวของดิฉันยังได้แค่บ่าของเขาเองอยู่ 2 คน อีก 2 คน ตัวใหญ่กว่าดิฉันเล็กน้อย กล้ามเนื้อที่เพิ่งผ่านการออกแรงมาเด่นนูนเป็นมัดๆ พวกเขาทำให้ดิฉันตกใจมาก และเขาก็คงตกใจเหมือนกันที่บังเอิญพบดิฉันที่นี่“ พวกเธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้” ดิฉันรีบถามด้วยอาการที่ยังคงตกใจอยู่“เออ..ครับเออ..มาหลบ อู้ซ้อมวิ่งนะครับ” เสียงเจ้าคนตัวใหญ่สุดในกลุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเหนื่อยหอบอยู่“คืออย่างนี้ครับครู ผมมาเข้าเก็บตัวเตรียมแข่งฟุตบอลโรงเรียนของจังหวัดน่ะครับ พอดีจริงๆเขาเริ่มเก็บตัวกันวันพรุ่งนี้ แต่พวกผมบ้านอยู่ไกลเลยขี้เกียจกลับ ก็เลยขออาจารย์สมมาตร แกค้างก่อน 1 วัน” อีกคนหนึ่งพูดขึ้น
“แล้วครูจะไปไหนหรือครับ” คนตัวใหญ่สุดถามขึ้นอีก“จะไปขอกุญแจภารโรง เปิดห้องพักครูหน่อย พอดีลืมเอกสารการสอนไว้” ดิฉันตอบไปแล้วก็เดินจากไปยังบ้านพักภารโรงเมื่อดิฉันไปถึงบ้านพักภารโรง ก็ต้องตกใจอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นบ้านปิดอยู่ แต่ที่หน้าบ้านมีรองเท้าถอดวางอยู่หลายคู่ ดิฉันจึงค่อยๆเดินขึ้นไปบนระเบียงหน้าบ้านเพราะกลัวจะเสียมารยาท พอมองไปที่เก้าอี้หน้าระเบียงเห็นหนังสือ 2-3 เล่มวางอยู่ หน้าปกหนังสือขึ้นหัวว่า ลับเฉพาะเปิดบริสุทธ์แดนอาทิตย์อุทัย ตอนนั้นดิฉันนึกอย่างไรก็ไม่ทราบแทนที่จะรีบทำเรื่องให้เสร็จเรียบร้อย กลับเดินเข้าไปหยิบหนังสือนั้นมาเปิดพลิกดูด้านใน ดิฉันถึงกลับตะลึงเลย เพราะข้างในมีแต่รูปโป๊ ที่มีแต่การเสพสังวาสกันหลายท่าหลายทาง บางทีก็คู่เดียวบางทีก็หลายคู่ แถมบางคู่เห็นฝ่ายผู้ชายเอาท่อนเนื้อของตัวเองเข้าไปยัดตรงรูก้นของผู้หญิง มีภาพน้ำกามของผู้ชายพวยพุ่งออกมาจากลำกล้องขนาดมหึมาพุ่งใส่หน้าฝ่ายหญิง ตอนนั้นดิฉันฉันเกิดความรู้สึกเจ็บเสียวแปล๊บในท้องน้อยขึ้นมาทันที ดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร หรือว่านี่ที่ตำราหนังสือเขาเรียกกันว่าความต้องการทางเพศ ดิฉันรีบสลัดความคิดเหล่านี้ออกไปในบัดดล แล้วก็รีบวางหนังสือเล่มดังกล่าวลงไว้ที่เดิม แล้วก็กะว่าจะเดินไปเคาะประตูเรียก แค่ยกมือขึ้นจะเคาะประตูพลันก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงร้องครวญครางเบาๆ ทำให้มือดิฉันต้องหยุดชะงักลงกลางคัน แล้วต้องตั้งใจฟังเสียงนั้นอีกทีว่าหูฝาดไปหรือเปล่า“ฮือ…ฮื่อ…อูย…พี่เชิดฉันจะไม่ไหวแล้ว ซอยอีกนิดพี่ ควยพี่กระทุ้งลึกดีจริงๆ”ดิฉันตั้งใจฟังจับสำเนียงนี้ได้ชัดเจนเลย มือไม้ตกวูบ ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นึกขึ้นใจเกิดอะไรขึ้นนี่เขาทำอะไร ทำไมฉันถึงได้รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา รู้สึกตึงบริเวณหน้าขาของดิฉันดิฉันตกใจมาก ถอยหลังออกมาโดยอัตโนมัติ ขณะนั้นเองข้อศอกของดิฉันก็ไปถูกกระถางต้นไม้ที่ตั้งตรงหัวเสาบันใดระเบียง หล่นลงมาแตก เพล๊ง… หัวใจของดิฉันตกวูบจนแทบหยุดเต้น
“ใครวะ…บังอาจมารบกวนความสุขของกู” เสียงของนายเชิดภารโรงตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด พร้อมกับได้ยินเสียงโครมๆ เหมือนลุกลี้ลุกลนทำอะไรสักอย่าง“ เดียวเถอะมึง…กูจะล่อให้น่วมเลย” เสียงนายเชิงยังโหวกเหวกอยู่ข้างในแต่เสียงแค่นี้ก็สามารถตรึงเท้าทั้งสองข้างของดิฉันให้อยู่กับที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย เพราะฉันไม่เคยเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต
แอ๊….ด เสียงประตูเปิดออกมาพร้อมกับร่างอยู่สูงใหญ่ของนายเชิดยืนตระหง่านอยู่ พอเขาเห็นดิฉันก็แสดงสีหน้าตกใจ หดตัวงอเล็กๆอยู่ นุ่งผ้าคะม้าผืนเดียว เหมือนมีอะไรตุงๆอยู่ในผ้าขาวม้า กลับเป็นดิฉันเองที่ออกอาการรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก หน้าแดงตึง หูอื้อไปหมด ทำอะไรไม่ถูกเลย“เอ้า…อาจารย์แพรพรรณ นั่นเองมาทำอะไรที่นี่ครับ…” นายเชิดพูดออกสำเนียงดุๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความละอาย
“คือ…คือ…เออ…คือ…ฉะ..ฉะ..ฉันจะมาขอยืมกุญแจ..หะ..ห้องพักครูไปเปิดหยิบเอาเอกสารเตรียมการสอนหน่อยจ๊ะ” ดิฉันตอบนายเชิดไปด้วยอาการประม่าไปหมด“ไม่เป็นไรครับอาจารย์ อาจารย์ไปรอข้างบนได้เลย เดี๋ยวผมไปเปิดให้ครับ” นายเชิดบอกด้วยความเกรงใจ“เอ่อ..ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ…ฉันไปเปิดเองได้ เอาของแป๊ปเดียวล่ะเดี๋ยวมาคืนให้ นายเชิดติดธุระอยู่ไม่ใช่หรือ” พูดจบดิฉันก็นึกขึ้นได้ว่า คิดผิดที่พูดคำนั้นออกไป พอเงยหน้าสบตากับน้าเชิดเห็นเขายิ้มๆ รู้เย็นวาบขึ้นมาทั้งตัวเลย“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้” น้าเชิดหันหลังเปิดประตูเข้าไปข้างห้อง แล้วก็เปิดอ้าไว้อย่างนั้นสายตาของดิฉันไม่สามารถหลบเลี่ยงทัน มองเข้าไปเห็นเด็กสาวรุ่นคนหนึ่งนอนซุกตัวเหมือนหลับอยู่ใต้ผ้าห่ม หันหลังให้ปากประตู ตรงพื้นมีเสื้อผ้าของทั้งเด็กคนนั้นแล้วก็ของน้าเชิงเหวี่ยงเกลื่อกราดอยู่ เหมือนพึ่งผ่านการต่อสู้กันมาอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ดิฉันอายจนต้องก้มหน้าไว้ตลอดเวลา จนกระทั่งน้าเชิดเดินอาดๆ ส่งกุญแจให้ พร้อมกับเสียงหัวเราะ ฮึ…ฮึ…อยู่ในลำคอ“เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์แพรพรรณ ถ้าอาจารย์มาไม่เจอผมก็แขวนไว้บนตะปูข้างประตูนี้ก็ได้” พูดจบนายน้าเชิดก็เดินลงบันไดลิ่วไปทางหลังบ้าน แต่ไม่ยอดปิดประตูลงเหมือนจงใจให้ดิฉันเห็นได้เต็มที่ส่วนดิฉันมึนงงกับเหตุการณ์นี้ไปหมด พอคว้ากุญแจได้ก็รีบเดินลิ่วไปยังตึกอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้สังเกตว่าเด็กนักเรียน 3-4 คนดังกล่าวยังยืนอยู่ตรงกอต้นเข็มหรือไม่ดิฉันต้องผ่านด่านลูกกรงบานเลื่อนชั้นที่ 1 ขึ้นไปแล้วเดินขึ้นไปชั้น 3 ห้องพักครูอยู่สุดระเบียงตึกพอดี กว่าจะขึ้นมาถึงห้องพักครูบรรยากาศโดยรอบตัวก็มืดสลัวแล้ว ดิฉันรีบเปิดประตูเข้าไปเปิดไฟแล้วก็หยิบเอกสารที่ต้องการได้เรียบร้อยแล้วก็รีบปิดไฟปิดประตูค่อยๆเดินมายังบันไดทางลง รู้สึกผ่อนคลายไปมากโขแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อดถึงภาพของน้าเชิดกับเด็กสาวคนนั้นไม่ได้ ยังดีหน่อยที่ว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนชายล้วนเลยไม่น่าจะใช่เด็กในโรงเรียน ดิฉันเหลือบไปดูบรรยายกาศไกลๆออกไปเห็นแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าช่างสวยเหลือเกิน ดิฉันปล่อยความคิดล่องล่อยเรื่อยเปื่อยมาจนกระทั่งเดินมาบันไดชั้นที่ 2 ซึ่งอยู่ในช่วงลับตาคนพอดี ทันใดนั้นเองก็มีมือสาบๆยื่นมาจับก้นของดิฉันหลัง และอีกมือเหมือนจะจับมาที่ขอบกระโปรงและกระตุกขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้ ดิฉันตกใจมาก หันควับไปดู เห็นผู้ชายสองคน อยู่ที่ด้านหลังใส่หมวกไอ้โม่งทั้งคู่ กลิ่นสาบเหงื่อฉุนแตะจมูกจนเวียนหัว จากนั้นเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นรวดเร็วมากจนดิฉันไม่ทันได้ตั้งตัวเลย “คุณครูจะรีบไปไหนครับ…ทำไมถึงได้มาคนเดียวล่ะครับ…กลิ่นตัวของครูที่เพิ่งอาบเสร็จใหม่ๆ หอมจังครับ…หอมจนพวกผมทนกันไม่ไหวเลยครับ” เสียงแหบๆ พ่นออกมาจากปากของไอ้โม่งที่ตัวใหญ่ ทำให้ดิฉันรู้ได้ในทันทีว่า เป็นเด็กนักเรียนที่เจอตรงกอต้นเข็มนั่นเอง แต่ตอนนี้มีแค่สองคน“นี่เธอ…” ไม่ทันที่จะได้พูดอะไร สองคนนั่นก็โถมเข้าตัวเข้ามาหาดิฉัน คนตัวโตอ้อมมาด้านหลังเอามือขวาที่มีผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดหน้าก็ไม่ทราบ มาปิดปากของดิฉันไว้ไม่ให้ส่งเสียงได้ อีกมือหนึ่งก็อ้อมมารัดเอวของฉันไว้แน่น แต่ดิฉันก็ยังคงดิ้นสู้ต่อไปจนสุดฤทธิ์ “ได้ผล” ดิฉันนึกในใจ พยามดิ้นต่อไปเพราะคิดว่าต้องรอดแน่นอน แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ไอ้เด็กอีกคนหนึ่งซึ่งรู้สึกว่าน่าจะเป็นหัวหน้า ที่คอยยืนคุมเชิงแต่แรก ส่งเสียงเรียกเด็กนักเรียนที่แอบรมคุมเชิงอยู่ชั้นล่างขึ้นมาสมทบ“เฮ้ย ไอ้แก้ว ไอ้บัติ มึงสองคนจับแขนครูคนสวยคนละข้างยึดกับกำแพงไว้” ไอ้คนตัวโตหัวหน้าออกคำสั่งอย่างเฉียบขาด ขณะที่ไอ้คนตัวใหญ่สุดยังคงรัดแน่นอยู่ด้านหลังดิฉันทำอะไรไม่ถูกเลยขณะนั้น ร้องไม่ออก มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาดิฉันดิ้นไปสักพักก็เริ่มอ่อนแรง ไอ้ตัวใหญ่ได้โอกาสก็เลยหมุนตัวออกมาแล้วใช้ผ้าจับยัดใส่ปากดิฉันแทน อีกสองคนยกแขนดิฉันขึ้นไปขึงพรืดกับผนังไอ้คนตัวโตเปลี่ยนมาจับขาของดิฉันแทนแล้วตรึงชิดไว้กับพื้น แรงข้อมือของมันยังกับคีมเหล็ก กดข้อเท้าของดิฉันไว้ จนไม่สามารถมีแรงยกขึ้นได้ ดิฉันพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็มีแค่เพียงเสียงครืดๆ ในลำคอเท่านั้นไอ้หัวหน้ามันก็ตรงมาที่ตัวดิฉัน แล้วก็พูดกับอีกสามคนนั่นว่า“ให้กูเบิกร่อง คนครูคนสวยนี้ก่อนนะ แล้วพวกมึงค่อยตาม” ว่าแล้วมันก็นั่งยองๆ ลงให้พอดีหน้าของมันอยู่ตรงเอวพอดี ใช้มือของมันทั้งสองข้างรูดขึ้นไปตามเรียวขาวถลกกระโปรงขึ้นมาเหนือเอว เห็นเรียวขาขาวผ่องเป็นยองใยของคุณครูแพรพรรณคนสวย ใบหน้าของมันลอยอยู่ตรงบริเวณหน้าท้องน้อยพอดี ดวงตามันเหลือกจับจ้องอยู่แต่ตรงเนินโคกที่โหนกนูน เห็นขนรำไรเป็นกระเปาะน้อยที่เป็นของหวงที่สุดของดิฉันซึ่งเพิ่งก้าวผ่านเข้ามาเป็นสาวเต็มตัวได้ไม่นานนี้เอง มันเหลือกตาจองมองด้วยสายตาที่หื่นกระหาย ผ่านกางเกงในสีชมพูขลิบขอบด้วยลูกไม้สีส้มเลาะตามง่ามขาทั้งสองข้าง เพียงแค่ปกปิดได้เนินเนื้ออิ่มอูมได้เท่านั้น ไม่สามารถปิดกั้นเส้นขนบางที่โผล่แพลมออกมาด้านข้าง“ โอ้…โฮ…เฮ้ย…กูว่าแล้ว…อาจารย์คนสวยนี้นอกจาก หน้าตาสวย หุ่นดีแล้ว โคกหียังสวยด้วยว่ะ”มันพูดพลางก็เอามือดึงไอ้โม่งออกไป เผยให้เห็นใบหน้าคมคายแต่ดูเหี้ยมเกียมของมันอย่างไม่กลัวความผิด พร้อมกับเอามือของมันลูบไล้เล่นแถวบริเวณโคกสามเหลี่ยม ดิฉันรู้สึกเสียวขึ้นมาถึงท้องน้อยอีกครั้งเหมือนกับตอนที่แอบดูหนังสือโป๊ที่บ้านน้าเชิดภารโรง“เป็นยังไงบ้างครับ กับการไปแอบดูน้าเชิดมันเย็ดนังส้มโอ ในบ้าน ผมว่าอาจารย์คงอยากโดนบ้างล่ะสิ” มันเงยหน้าขึ้นมาพูดกับดิฉัน ดิฉันถึงกับหน้าแดงซ่านอีกครั้งเมื่อถูกคนอื่นจับความรู้สึกได้“อาจารย์คนสวยครับ วันนี้ผมชวนอาจารย์มาเรียนวิชาเพศศึกษาด้วยกัน คุยกันเรื่อง หี เรื่องควย กับทฤษฏีการเย็ดภาคปฏิบัติกันนะครับผมรับรอง อาจารย์คนสวยจะต้องติดใจเรียกใช้บริการพวกผมอีกเป็นแน่” พูดจบมันก็พยายามสอดมือเข้าไปบริเวณโคกหีของดิฉัน ตอนนี้ทุกคนพร้อมกันดึงไอ้โม่งออกกันหมดย่างรู้ใจกัน ไอ้คนที่จับข้อเท้าไว้ก็เปลี่ยนมาสอดแขนอันกำยำของมันเข้ามาใต้ข้อพับเข่าแล้วยืนตัวขึ้น ทำให้ขาของดิฉันยกลอยแบะออกจากกัน อีกข้างหนึ่งก็อยู่ในท่าเขย่งปลายเท้าข้างเดียวทำให้ไม่มีพื้นที่พอสำหรับการทรงยืนตัว ในขณะที่อีกสองคนที่จับแขนของดิฉันขึงพืดอยู่ก็เปลี่ยนเป็นจับดึงแขนเหยียดพาดอ้อมคอของมัน อีกมือหนึ่งก็สอดมารัดเอวเอาไว้ ด้วยท่าหิ้วปีกแบบนี้ทำให้ดิฉันไม่อยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองหรือขัดขืนใดๆได้เลย ไอ้นักเรียนคนหัวหน้ามันยืนขึ้น รวบผมยาวสลวยของดิฉันที่ปล่อยไว้หลังจากอาบน้ำเสร็จเสยขึ้นไปข้างหลังพร้อมกับเงยหน้าของดิฉันขึ้นด้วย ตอนนี้หน้าของมันกับดิฉันอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ “ผมของอาจารย์สวยจัง หอมด้วยเพิ่งสระผมมาละสิ ใช้ยาสระผมยี่ห้ออะไรครับ วันหลังผมจะได้ใช้บ้าง” มันพูดเสร็จก็ก้มลงเอาปากสากๆของมันมาระดมจูบที่ซอกคอ ไซร้ขึ้นมาที่ซอกหูของดิฉัน รู้สึกกลัวก็กลัวเสียวก็เสียว แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้พยายามดิ้นขัดขึ้นจนถึงที่สุด“ตอนนี้อาจารย์ยังไม่ต้องรีบดิ้นหลอกครับ เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะดิ้นไม่หยุดเอง” เสียงไอ้สองตัวที่หิ้วปีกดิฉันอยู่กระซิบอยู่ข้างหู แล้วก็หัวเราะ หึ…หึ…แถมยังช่วยกัดระดมขบกัดเบาๆแถวข้างหู จนดิฉันร้องเสียงหลงด้วยความเสียวอยู่ในลำคอขณะที่ไอ้แก้วแก้วกับไอ้บัติมันสาละวนอยู่กับการไซร้ซอกคอกัดติ่งหูอยู่นั้นมือของไอ้หัวหน้าก็มาขย้ำที่บริเวณหน้าอกของดิฉัน มันทั้งบีบทั้งคลึงขึ้นลง ซ้ายขวา เนื้อผ้าที่มันเสียดสีกับหัวนม มันเสียวจนดิฉันต้องบิดตัวเร่าๆ ตามจังหวะบีบของมัน มันใช้ฝ่ามือถูหัวนมนอกเสื้ออยู่ได้สักพักยกทรงที่ทำหน้าที่ปิดหัวนมเอาไว้ก็ไหลลื่นลงมากองอยู่ที่ฐานนม ทำให้หัวนมที่เพิ่งถูกถูไปมาเมื่อสักครู่ มันแข็งเป็นไตดันขั้นเป็นรูปหัวนมอย่างชัดเจน“ไอ้แก้ว ไอ้บัติ มึงดูสิหัวนมของอาจารย์ งี้แม่งตั้งเด่แทงเสื้อออกมาเลย” ไอ้หัวหน้ามันพูด แล้วก็ใช้ปากของมันก้มลงขบกัดหัวนมเบาบ้างแรงบ้าง สลับกับการดูด จนน้ำลายของมันเลอะเสื้อตรงหัวนมนั้น พอมัดกัดทีฉันก็ตรงแอ่นหน้าอกขึ้นไปรับมันทีเพราะความเสียวซ่านมันเริ่มเข้ามาครอบงำฉันแทนความอายไปเก็บหมดสิ้นแล้ว“ดูท่าทางอาจารย์ จะเริ่มเงี่ยนแล้วใช่ไหมครับ” ไอ้หัวหน้ามันเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าอก แล้วก็จองด้วยสายตายียวน จนดิฉันต้องหลบตาด้วยความเขินอาย เพราะไม่เชื่อว่าร่างกายที่อุตส่าห์ทนุถนอมมาถึง 24 ปี จะต้องมาถูกลูกศิษย์ในโรงเรียนของตัวเองมาเปิดบริสุทธิ์ในลักษณะเช่นนี้และหวังว่าเหตุการร์นี้จะยุติลงโดยเร็ว“เอาอย่างนี้ดีกว่า มองหน้าดูแววตาอย่างเดียวไม่มัน ฟังเสียงของครูบ้างดีกว่า แต่ผมบอกอย่างนะครับ อย่าแหกปากไป เพราะไม่งั้นอาจารย์คนสวยเจ็บตัวน่วมแน่” ว่าแล้วมันก็เอามือดึงผ้าออกจากปากของดิฉัน พอมันดึงออกดิฉันก็หอบแฮก…แฮก…เหมือนได้หายใจอย่างเติมปอดอีกครั้ง“ขอร้องเถอะนะ อย่าทำอย่างนี้กับครูเลยนะ ขอร้องเถอะ ครูจะไม่เอาเรื่องของเธอไปบอกใครหรอก ปล่อยครูไปเถอะนะ” ดิฉันร้องอ้วนวอนด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากออกมาอีกครั้ง“เชื่อผมเถอะครับอาจารย์ เดี๋ยวอาจารย์ก็จะเปลี่ยนคำขอร้องไปเองน่ะ ไม่เชื่อก็ดูนี่สิ” ว่าแล้วมันก็เอามือของมันตะปบไปที่โคกนูนของดิฉัน แล้วก็เอานิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในของดิฉันดึงให้ไปอยู่ข้างหนึ่ง เท่านั้นแหล่ะโคกกะเปาะสงวนของดิฉันก็ต้อง เผยออกมาแก่สายตาของไอ้หัวหน้ามันคนนั้น ดิฉันยังถูกจับอยู่ในท่ายกขาข้างหนึ่งไว้กัยอีกข้างยังเขย่งอยู่กับพื้น เมื่อมันอยู่ในท่านี้ทำให้ แคมของดิฉันต้องแตกผลิออกโดยปริยาย มันรู้สึกเย็นว๊าบเข้าไปถึงท้องน้อยเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันดิฉันก็รู้สึกว่าบริเวณตรงนั้นของดิฉันมันมีน้ำเมือกลื่นๆ ไหลเยิ้มอยู่แล้ว“เห็นไหมครู อย่างนี้แล้วยังจะให้ผมหยุดมืออีกหรือ ดูท่าทางหีของอาจารย์นี่จะไม่เคยโดนควยใครเย็ดมาก่อนเลยใช่ไหมครับ” มันพูดพลางเอานิ้วของมันเขี่ยขึ้นเขี่ยลง แล้วก็ชักเข้าชักออก“เธออย่ามาพูดคำไม่สุภาพกับครูบาอาจารย์อย่างนี้นะ” ดิฉันพูดออกไปอย่างโกรธเคืองตามประสาครูที่ได้ยินลูกศิษย์พูดวาจาไม่สุภาพต่อหน้าไอ้หัวหน้ามันไม่พูดตอบ กลับเร่งแยงนิ้วของมันเข้าออก ๆ จนมิดโคนนิ้วจากนิ้วกลางนิ้วเดียวก็เพิ่มเป็น 2 นิ้ว 3 นิ้วตามลำดับ ดิฉันโดนเข้าแบบนี้มันเสียวเข้าไปถึงข้างใน จนต้องคราง อูย…อูย…ซี๊ด..อยู…อย่างไม่รู้ตัว ยิ่งมันเร่งซอยถี่เร็วขึ้น ก็ร้องเสียงดังขึ้น…อูย…อูย…ซี๊ด…อย่าแยง….ย่าแยง….ครูจะทนไม่ไหวแล้ว เมื่อมันได้ยินมันก็ยิ่งเร่งจนได้ยินเสียง สวบ…สวบ…บล็อก…สวบ เสียดสีระหว่างนิ้วกับ แคลมของดิฉันที่เมื่อถูกถอนออกก็จะปลิ้นตามออกมา จนต้องโยกตัวไปตามจังหวะของการแยง โอย…ไม่ไหวแล้ว…อย่าแยง…ไม่ไหวแล้ว….ดิฉันรู้สึกว่าเหมือนเดินมาสุดทางแล้วเกร็งตัวสั่นระริก แล้วก็ปล่อยน้ำเมือกแฉะๆ ออกมาเลอะเทอะนิ้วของมัน จนกระทั่งมันหยุดมือ แล้วก็ชูนิ้ว 3 นิ้วของมันออกมาให้ดิฉันดู แล้วมันก็บอกว่า“นี่ไงครับอาจารย์ น้ำเงี่ยนของอาจารย์ไหลออกมาแฉะมือผมไปหมดเลย อย่างนี้จะให้ผมเรียกว่าอะไรล่ะครับ แถวบ้านผมเขาเรียกอาการอย่างนี้ว่าน้ำแตก แล้วที่บ้านอาจารย์เขาเรียกว่าอะไร” มันพูดเสร็จก็เอาน้ำเมือกที่มือของมันมาถูที่ข้างแกล้ม ดิฉันอายมาจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีแต่ก็ไม้รู้จะทำอย่างไร“ครั้งแรกก็เอาเบาๆอย่างก่อนครับ โดนของเล็กๆก่อน เพราะเพิ่งเปิดซิงเดี๋ยวช้ำหมด ค่อยเป็นค่อยไป จะได้ไม่เสียของเปล่าๆ” มันพูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย“เฮ้ยทีนี้ ให้เจอของจริงแล้วเว้ย พวกมึงล่อข้างบนไป ส่วนกูจะล่อหีสวยๆนี่ก่อนเอง” พอไอ้หัวหน้ามันพูดจบ ไอ้สองตัวที่อยู่ในอาการหื่นเต็มที่ ก็จัดแจงช่วยกันปล้ำถอดเสื้อของครูครูคนสวยออกจนหมด“โอโฮเฮ้ย… นมคนครูสวยฉิบหายเลย หัวนมงี้สีชมพูแจ๋เลย น่าดูดฉิบหาย”“อย่านะไอ้พวกเด็กสารเลว อย่างทำอย่างนี้กับฉันอีกนะ ….อย่า…” ไม่ทันขาดก็คำร้องขอ ไอ้สองตัวเข้าล๊อกแขนท่าหิ้วปีกของดิฉันอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มันทั้งขยำ ทั้งเลียทั้งดูดจนฉันต้องร้องเสียงหลง ตัวอ่อนปวกเปียกไปหมด“เฮ้ยไอ้ นัน มึงไปเอาของมา” ไอ้หัวหน้ามันสั่ง ไอ้นั้นชะงักอย่างเสียอารมย์ แต่ก็หันหลังรีบวิ่งลงบันไดไปจากนั้นมันก็หันกลับมาถอดกางเกงของมันออก อวัยวะของมันเด้งผึงออกมาตั้งเด่แกว่งไปมา ดิฉันมองเห็นยังตกใจ ขนาดของมันใหญ่เกือบเท่าราวบันใดเหล็ก แถมยาวอีกต่างหาก ดิฉันเห็นยังอดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้เลย รู้สึกตอนนั้นกลัวมากๆ “นี่ไง ครับครู ที่เขาเรียกว่าควย” มันจับท่อนเนื้อของมันแล้วก็รูดเข้ารูดออกจนเห็นหัวเงี่ยงบานผลุบเข้าผลุบออก“นี่เขาเรียกว่า ถอกกระดอ ครับ” มันย้ำแล้วก็มองสบตากับดิฉัน ดิฉันพยายามไม่มองมันแต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมองเพราะอีกไม่ช้าฉันจะต้องถูกมันทำร้ายจนได้



Offline OO22oo

  • Newbie
  • *
    • Posts: 1
    • เสียว: 0
    • View Profile
Reply #1 on: September 18, 2010, 05:54:45 pm
 (1212; (1212; (1212; (1212; (1212; (1212;